สร้างเสร็จพร้อมโอนเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ กับโครงการ Nue Core Khu khot Station คอนโดตรงสถานีรถไฟฟ้าคูคต จาก Noble development อยู่ติดกับโครงการรุ่นพี่อย่าง Nue Cross Khu Khot Station แต่ใกล้รถไฟฟ้ามากกว่า! นอกจากนั้นยังดีไซน์ห้องออกมาได้น่าสนใจ ในราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท โครงการนี้จะมีจุดเด่นอะไรบ้างเราไชมกันค่ะ

  • ทำเล : โครงการตั้งอยู่ติดถนนลำลูกกา ห่างจากสถานีคูคตประมาณ 100 เมตรเท่านั้นเอง ทำเลนี้มีทั้งรถ Taxi รถประจำทางให้บริการตลอดทั้งวัน อีกทั้งด้านหน้าติด Crossing Mall ที่จะทำให้คึกคักมากขึ้นด้วยค่ะ
  • การออกแบบ : ที่นี่ออกแบบห้องได้น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นห้อง Pool Access เชื่อมต่อสระว่ายน้ำได้เลย, Garden Access เชื่อมต่อสวนส่วนกลางพร้อมวิวพื้นที่สีเขียว, ห้อง Duplex ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ซึ่งหาได้ยากในทำเลนี้นะคะ พร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบ (Fully Furnished)
  • พื้นที่ส่วนกลาง : ส่วนกลางหลากหลายกลางโครงการ แบ่งเป็น 3 โซน The Core Lagoon สระว่ายน้ำ 2 สระ / โซน The Core Forest สวนที่มีความร่มรื่น เงียบสงบ / โซน The Core Terrain สวนที่มีลานกิจกรรม และตรงกลางThe Core Pavilion เป็นอาคาร Fitness และ Co-Working Space รองรับการใช้งานได้ครบครัน

ข้อมูลโครงการ

Nue Core Khu Khot Station (นิว คอร์ คูคต สเตชัน)  ณ วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567

 ชื่อโครงการ   Nue Core Khu Khot Station (นิว คอร์ คูคต สเตชัน)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS   ECONOMY CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่   ถนนลำลูกกา อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
 ที่ดิน   11-1-27.2 ไร่
 ประเภทคอนโด   High Rise 8 ชั้น 6 อาคาร
 จำนวนยูนิต   1,206 ยูนิต
 ที่จอดรถ   ประมาณ 24% เป็นที่จอดแบบปกติ (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
 เริ่มก่อสร้าง   ปี 2565
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   สร้างเสร็จพร้อมอยู่
 ประเภทห้องพัก
  • Studio พื้นที่ใช้สอย 22.81 – 23.28 ตร.ม.
  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 26.26 – 26.81 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.44 – 34.95 ตร.ม.
  • 2 Bedroom 2 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 45.72 – 46.36 ตร.ม.
  • Duplex 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 58.04 – 58.27 ตร.ม.

 ราคาเริ่มต้น  1.59 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 69,000 บาท/ตร.ม.
 เว็บไซต์โครงการ คลิกที่นี่
 Call Center 02-251-9955

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.933151819747668, 100.64820934232856
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

Highlight

  • Nue Core Khu Khot Station ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ ถนนลำลูกกา มีความคึกคักสูง มีรถ Taxi รถประจำทางให้บริการตลอดทั้งวัน
  • จากโครงการสามารถเดินมายัง BTS สถานี คูคต ได้สบายๆ ระยะทางจากประตูโครงการประมาณ 100 เมตรเท่านั้น
  • เป็นคอนโดเฟสที่อยู่ใกล้กับ Lifestyle Mall ที่ชื่อว่า ‘Crossing Mall’ มากที่สุด กำลังจะเปิดให้บริการในช่วงต้นปี 2025 นี้ค่ะ
  • ใกล้ทางด่วนถนนกาญจนาภิเษกให้ใช้เข้า-ออกเมือง และเชื่อมต่อไปยังทางด่วนฉลองรัชและทางด่วนศรีรัชได้สะดวก

แผนที่จากทางโครงการ Nue Core Khu Khot Station (นิว คอร์ คูคต สเตชัน)

Nue Core Khu Khot Station (นิว คอร์ คูคต สเตชัน) มีทางเข้า-ออกติดกับถนนลำลูกกา ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักที่คนย่านนี้ใช้เดินทางเชื่อมต่อไปยังถนนพหลโยธิน หรือใช้ทางด่วนถนนกาญจนาภิเษกเข้าสู่รามอินทรา หรือวิ่งขึ้นไปยังอยุธยาได้สะดวก

ปัจจุบันบนถนนลำลูกกา มีรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวโดยด้านหน้าโครงการคือสถานี “คูคต” เป็นสถานีปลายทาง ทำให้จากโครงการสามารถนั่งรถไฟฟ้าต่อเดียวเพื่อเข้าเมืองได้เลยค่ะ การเดินทางที่สะดวกสบายมากขึ้นทำให้ทำเลนี้ไม่ได้มีเพียงแค่บ้านเดี่ยวเหมือนเมื่อก่อน คอนโดมิเนียมเองก็มาเปิดใหม่บนทำเลนี้กันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเจ้าแรกคือ Noble กับที่ดินผืนใหญ่ที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าแห่งนี้

โดยส่วนใหญ่คอนโดที่มาเปิดในย่านนี้จะอยู่ใกล้กับสถานีพหลโยธิน 59 และสถานีสายหยุด ซึ่งก็จะเป็นอีกระดับราคาหนึ่งไปเลยค่ะ แต่หากมองขยับออกมาหน่อยอีกไม่กี่สถานีก็จะเจอกับโครงการ Nue Core Khu Khot Station ที่ราคาจับต้องได้ง่ายมากขึ้น ในราคาเริ่มต้นล้านกว่าบาท

แต่หากลองเทียบกับคอนโดในย่านคูคตด้วยกัน จะเห็นว่าคอนโดส่วนใหญ่กระจุกตัวกันอยู่ใกล้โลตัสลำลูกกา คลอง 2 ไม่ได้อยู่ติดกับรถไฟฟ้าแบบโครงการ Nue Core Khu Khot Station ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยค่ะ

  • เรื่องความอุดมสมบูรณ์ในโซนนี้ถือว่าครบครัน ไม่ว่าจะเป็นตลาดหรือซูเปอร์มาร์เก็ตก็มีครบเพราะเป็นย่านชุมชนแนวราบที่มีหมู่บ้านดั้งเดิมเยอะอยู่แล้วค่ะ แต่จะต้องเดินทางต่อรถไปสักหน่อย ส่วนใครที่ชอบเดินหาของกินใกล้ๆ กับโครงการ ปัจจุบันมีร้านอาหารใน PTT ข้างๆ โครงการ Nue Cross Khu khot Station อยู่หลายร้าน และในปีหน้า ‘Crossing Mall’ ที่เป็น Lifestyle Mall ด้านหน้าโครงการก็จะเปิดให้บริการ ทำให้ลูกบ้านหาของกินง่ายและมีความคึกคักมากขึ้นค่ะ

ทำเลโครงการ Nue Core Khu Khot Station เรียกได้ว่าใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีคูคตมากๆ จากประตู 1 ของโครงการจะอยู่ห่างจากสะพานทางขึ้นประมาณ 200 เมตร เท่านั้น ส่วนประตู 2,3 ทำให้ทุกอาคารสามารถเชื่อมกับ Crossing Mall ได้สะดวก ลูกบ้านที่อยู่อาคารด้านในอย่าง B,C,D และ E ไม่ต้องเดินอ้อมไปประตูใหญ่ แต่สามารถเดินเข้าประตูเล็กที่เชื่อมกับ Crossing Mall ได้เลยค่ะ

ทั้งนี้หาก Crossing Mall เปิดให้บริการแล้ว ลูกบ้านอาจจะสามารถเดินออกประตู 2,3 เพื่อเดินลัด Crossing Mall มาขึ้นรถไฟฟ้าได้ในระยะทางประมาณ 100 เมตรเท่านั้น นอกจากนั้นยังทำให้บรรยากาศการเดินกลับบ้านจะมีความคึกคักและปลอดภัยมากขึ้น แถมยังสามารถแวะซื้อของกินของใช้ก่อนเข้าบ้านได้สะดวกอีกด้วย

  • สำหรับรถไฟฟ้าสถานีคูคต เป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สามารถนั่งเข้าเมืองได้ยาวๆ โดยไม่ต้องเสียเวลาไปเปลี่ยนสายให้ยุ่งยาก ใช้เวลาจากสยามสแควร์มายังโครงการประมาณ 40 – 50 นาที ส่วนบรรยากาศของการเดินทางและตัวสถานีปัจจุบันจะเป็นอย่างไร เราไปชมภาพกันใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ

Image 1/4
สถานีรถไฟฟ้าคูคต

สถานีรถไฟฟ้าคูคต

สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ เราสามารถขับตรงไปขึ้นถนนกาญจนาภิเษกเพื่อใช้เข้า-ออกเมือง หรือจะเชื่อมต่อไปยังทางด่วนฉลองรัช, ทางด่วนศรีรัชก็สะดวกค่ะ โดยมีระยะห่างจากโครงการจนถึงจุดขึ้น-ลงถนนกาญจนาภิเษกประมาณ 7 กิโลเมตร

ส่วนใครที่ต้องการกลับรถไปทางพหลโยธิน-ดอนเมือง ก็จะมีระยะกลับรถสบายๆอยู่ที่ 300 เมตรเท่านั้นเอง

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการ Nue Core Khu Khot Station ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านแนวราบ ตัวโครงการด้านหน้าจะอยู่ติดกับถนนลำลูกกา และ Crossing Mall ด้านข้างทางขวาจะติดกับคอนโดรุ่นพี่อย่าง NUE Cross Khu Khot Station ส่วนด้านซ้ายติดกับพื้นที่รอการพัฒนาในอนาคต ปัจจุบันไม่มีอาคารสูงมาบดบังทัศนียภาพจากโครงการเลยค่ะ

  • ทิศเหนือ ติดกับ ชุมชนแนวราบ
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ถนนลำลูกกาและ Crossing Mall
  • ทิศใต้ ติดกับ ติดกับคอนโด NUE Cross Khu Khot Station
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ที่ดินรอการพัฒนาในอนาคต

Image 1/4
ลงจากสถานีแล้วจะเจอกับพี่ๆ Taxi รอให้บริการอยู่ด้านล่างค่ะ

ลงจากสถานีแล้วจะเจอกับพี่ๆ Taxi รอให้บริการอยู่ด้านล่างค่ะ

บรรยากาศทางเดินจากสถานีรถไฟฟ้าคูคตไปยังโครงการ Nue Core Khu Khot Station

บรรยากาศด้านหน้าสำนักงานขายโครงการ Nue Core Khu Khot Station

ติดกับสำนักงานขายจะเจอกับทางเข้าโครงการ Nue Core และ Nue Cross Khu Khot Station รวมกันเป็น ‘คูคตมหานคร’

ทางเข้าโครงการ Nue Core และ Nue Cross Khu Khot Station

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Makro Food Service ลำลูกกา ~ 900 m.
  • Big C ลำลูกกา – คลอง 4 ~ 3.6 km.
  • ตลาดเอซีสายไหม ~ 3.7 km.
  • Lotus’s คลอง 2 ~ 5.2 km.
  • ตลาดเอซีคลอง 4 ~ 5.5 km
  • ตลาดวงศกร ~ 6.1 km.
  • ตลาดยิ่งเจริญ ~ 7.7 km.

โรงพยาบาล

  • รพ.สินแพทย์ ลำลูกกา ~ 3.1 km.
  • รพ.ภูมิพลอดุลยเดช ~ 5.3 km.
  • CGH Hospital ~ 8.1 km.

สถานศึกษา

  • รร.สารสาสน์วิเทศสายไหม ~ 5.1 km.
  • Western University ~ 7.8 km.
  • มหาวิทยาลัยเกริก ~ 10.3 km.
  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 15.7 km.

สถานที่ราชการและอื่นๆ

  • กองบัญชาการกองทัพอากาศ ~ 4.4 km.
  • ท่าอากาศยานดอนเมือง ~ 11.3 km.

รายละเอียดโครงการ

Highlight

  • Nue Core Khu Khot Station มาพร้อมส่วนกลางหลากหลายกลางโครงการ แบ่งเป็น 3 โซน  The Core Lagoon สระว่ายน้ำ 2 สระ / โซน The Core Forest สวนที่มีความร่มรื่น เงียบสงบ / โซน The Core Terrain สวนที่มีลานกิจกรรม และตรงกลางคือ The Core Pavilion เป็นอาคาร Fitness และ Co-Working Space
  • โครงการแบ่งเป็น 6 อาคาร ทำให้ความหนาแน่นแต่ละอาคารลดลง ประมาณ 200 ยูนิต/อาคาร อีกทั้งยังแยกพื้นที่ส่วนกลางกับห้องพักอาศัยออกจากกันชัดเจน ทำให้ทุกอาคารได้ความเป็นส่วนตัวเท่าๆ กัน
  • ห้องชั้น 1 มีห้อง Pool Access และ Garden Access มีทางเชื่อมระเบียงเข้ากับ Facility ได้สะดวก บรรยากาศคล้ายกับรีสอร์ต

Nue Core Khu Khot Station เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น จำนวน 6 อาคาร บนที่ดิน 11-1-27.2 ไร่ ซึ่งโครงการนี้เป็น 1 ในที่ดินขนาดใหญ่กว่า 50 ไร่ของ Noble ซึ่งโครงการ Nue Core มีที่มาจากการเป็น ‘ใจกลาง = Core’ ของที่ดินทั้งฝืน มีโครงการรุ่นพี่อย่าง Nue Cross Khu Khot Station ที่กำลังจะปิดการขายอยู่ข้างๆ ค่ะ

Nue Core Khu Khot Station มาพร้อมกับแนวคิดเท่ๆ ว่า “คูลโคตร…” ที่ไม่ใช่แค่การเล่นคำมาจากชื่อทำเลหรือสถานีคูคตเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการใช้ชีวิตที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงการเดินทางที่เข้าเมืองได้ง่าย ด้วยรถไฟฟ้าเพียงแค่ต่อเดียวนั่นเอง

โครงการนี้วางผังเข้าใจง่าย มี 6 อาคารล้อมรอบ Courtyard ไว้ตรงกลาง แต่ละอาคารจะมี Lobby, Mail box , Laundry และ Grab&Go Station เป็นของตัวเอง ส่วน Facility อื่นๆ จะอยู่บริเวณตรงกลางทั้งหมดเลย ทำให้ลูกบ้านของแต่ละอาคารสามารถเข้าใช้พื้นที่ส่วนกลางได้สะดวก และห้องพักที่หันหน้าเข้า Courtyard จะได้วิวสระว่ายน้ำและสวนสวยๆ ไปด้วยค่ะ

ทางเข้า-ออกหลัก คือ บริเวณวงเวียนด้านหน้าที่เป็นถนนภาระจำยอม  เมื่อเข้ามาในโครงการ เราสามารถขับรถไปจอดใกล้ๆ อาคารที่เราพักได้เลยค่ะ โดยมีที่จอดเฉพาะชั้น 1 นะคะ แม้จะไม่เยอะมากนักแต่ทางโครงการก็ยังมีตัวเลือกในการเดินทางด้วยรถสาธารณะหลายประเภท

ตำแหน่งของโครงการติดกับ Lifestyle Mall การออกแบบทางเข้า-ออกจึงทำเป็น 3 จุดให้ลูกบ้านทุกอาคารสามารถเดินออกไปยังสถานีรถไฟฟ้าหรือ Lifestyle Mall ได้ง่ายค่ะ

ตัวอาคารมีสีสันสดใสด้วยการออกแบบสไตล์ Pop Art จากยุค Mid-Century Modern โดยเลือกใช้สีแดงเข้มมองเห็นได้จากสถานี BTS คูคตเลยค่ะ

ประตูทางเข้าหลักของโครงการแบ่งเป็น 2 ฝั่ง เข้า-ออก กั้นด้วยไม้กั้นกระดกควบคุมด้วยระบบ RFID รถยนต์สามารถผ่านเข้า-ออกได้สะดวกเหมือน Easy Pass มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ

Image 1/5
บรรยากาศที่จอดรถรอบๆ อาคารพักอาศัย

บรรยากาศที่จอดรถรอบๆ อาคารพักอาศัย

เข้ามาแล้วจะเจอกับที่จอดรถรอบๆ อาคาร สามารถเลือกจอดใกล้กับอาคารพักอาศัยของตัวเองได้ จอดได้ประมาณ 24% ไม่รวมจอดซ้อนคัน พร้อม EV Charger มาให้ 5 จุด และที่จอดมอเตอร์ไซค์ทั้งหมด 22 คันค่ะ

เราจะพาไปชมพื้นที่ส่วนกลางตรงกลางอาคารกันก่อนนะคะ Courtyard ตรงกลางแบ่งเป็น 3 โซนที่แตกต่างกันค่ะ

  • โซน The Core Forest เน้นบรรยากาศที่ร่มรื่น เขียวชอุ่ม ให้บรรยากาศเป็นส่วนตัวเหมาะกับการพักผ่อน มีพื้นที่ให้นั่งทำงานในสวนได้ ซึ่งโซนนี้จะอยู่ระหว่างอาคาร C และ D
  • โซน The Core Lagoon เป็นพื้นที่ของกิจกรรมทางน้ำต่างๆ เช่น Lap Pool สระว่ายน้ำที่ยาวเทียบเท่าสระโอลิมปิกให้ว่ายน้ำออกกำลังกายได้จริงจัง, Leisure Pool พื้นที่พักผ่อนให้นอนแช่น้ำ เล่นน้ำ เพื่อความผ่อนคลาย, Sunken POD พื้นที่นั่งเล่นที่ลดระดับลงให้อยู่ระดับเดียวกับน้ำ และ Pool Bar เป็นต้น  ซึ่งโซนนี้จะอยู่ระหว่างอาคาร B และ E
  • โซน The Core Terrain สวนที่ออกแบบมาให้รองรับกิจกรรมที่มีความคึกคัก เช่น Cinema Outdoor และพื้นที่ออกกำลังกาย Outdoor ซึ่งโซนนี้จะอยู่ระหว่างอาคาร A และ F

โซนพิเศษตรงกลางระหว่างโซน The Core Forest และ The Core Lagoon จะมี The Core Pavilion อาคาร 2 ชั้นที่จัดฟังก์ชันชั้น 1 ไว้เป็น Co-Working Space และ ชั้น 2 คือห้อง Fitness เป็นเหมือนอาคาร Clubhouse นั่นเองค่ะ

เราพามาเข้าพื้นที่ส่วนกลางจากทางเข้าระหว่างอาคาร A และ F กันค่ะ บริเวณส่วนกลางทั้งหมดจะต้องใช้ Key Card ในการเข้าผ่านประตูนะคะ

เข้ามาแล้วจะเจอกับโซน The Core Terrain เป็นสวนที่ออกแบบมาให้รองรับกิจกรรมที่มีความคึกคัก เช่น Cinema Outdoor และพื้นที่ออกกำลังกาย Outdoor ค่ะ

ภายในสวนมีพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนอยู่ด้านข้าง

เดินเข้ามาแล้วจะเจอกับลาน Street Fit และ Terrain Court ให้เด็กๆ มาวิ่งออกกำลังกายได้

ส่วนทางเดินภายในสวนเป็น Jogging Track ไปในตัว สามารถมาเดินเล่นหรือวิ่งออกกำลังกายได้ทั้ง 3 โซนเชื่อมต่อกันค่ะ

เข้ามาแล้วจะเจอกับ Cinema Outdoor ทางโครงการจะมีโปรเจคเตอร์ฉายภาพยนตร์บริเวณนี้เพิ่มเติมค่ะ

มีพื้นที่ให้นั่งเล่นพักผ่อนอยู่ตลอดทั้งแนวสวนเลย

ใกล้ๆ กันมี Scenery Pool Bar สำหรับนั่งเล่นจิบเครื่องดื่ม พร้อมมองเห็นวิวสวนและวิวสระว่ายน้ำได้ทั้ง 2 ฝั่ง

ถัดมาเข้าสู่โซน The Core Lagoon พื้นที่กิจกรรมทางน้ำต่างๆ เช่น Lap Pool และ Leisure Pool มี Sunken POD และ Pool Bar ซึ่งโซนนี้จะอยู่ระหว่างอาคาร B และ E ค่ะ

Image 1/2
Leisure Pool

Leisure Pool

Leisure Pool เป็นสระว่ายน้ำ Free Form ที่ออกแบบให้เหมาะกับคนที่อยากเล่นน้ำเบาๆ หรือแช่น้ำพักผ่อน แต่ไม่ได้ว่ายน้ำแบบจริงจัง ให้บรรยากาศแบบรีสอร์ต

Image 1/2
Sunken POD

Sunken POD

Sunken POD เป็นพื้นที่นั่งเล่นที่ลดระดับลงให้อยู่ระดับเดียวกับสระว่ายน้ำ อยู่ติดกับ Lap Pool ระบบเกลือ ขนาด 50 × 4 เมตร ลึก 1.20 เมตร เป็นความยาวระดับเดียวกับสระว่ายน้ำ Olympic สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายจริงจังได้เลย

บริเวณ Courtyard ตรงกลางอาคารมีการเล่นระดับ ยกสระว่ายน้ำให้อยู่สูงกว่าทางเดิน มีน้ำล้นออกมาด้านข้างเพิ่มบรรยากาศทางเดินให้มีชีวิตชีวามากขึ้น

เดินออกมาแล้วจะเจอกับ The Core Pavilion เป็นเหมือนอาคาร Clubhouse สูง 2 ชั้น

The Core Pavilion ชั้น 1 เป็น Co-Working Space และ ชั้น 2 เป็นห้อง Fitness ค่ะ

Image 1/7
Co-Working Space

Co-Working Space

บรรยากาศภายใน Co-Working Space แบ่งเป็นโซนนั่งทำงานหลายโซนให้เลือกเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นโซฟานั่งพักผ่อน มุมทำงานนั่งโต๊ะแบบส่วนตัว เคาน์เตอร์บาร์ และโต๊ะประชุม มองเห็นวิวด้านนอกได้ ใครที่ต้องทำงาน Work From Home บ่อยๆ ก็แวะมาเปลี่ยนบรรยากาศการนั่งทำงานในห้องนี้ได้ค่ะ

Image 1/3
Fitness

Fitness

ชั้น 2 เป็นพื้นที่ Fitness ภายในมีเครื่องออกกำลังกายครบทั้ง Weight Training และ Cardio ประมาณ 13 เครื่อง มีระเบียงทั้ง 2 ฝั่งสามารถมองเห็นวิวสวนและสระว่ายน้ำได้

วิวสระว่ายน้ำตรงกลางโครงการเมื่อมองจากห้อง Fitness ค่ะ

วิวสวนบริเวณThe Core Forest เมื่อมองจากห้อง Fitness ค่ะ

Image 1/4
The Core Forest

The Core Forest

The Core Forest เป็นสวนที่เน้นบรรยากาศที่ร่มรื่น เขียวชอุ่ม ให้บรรยากาศเป็นส่วนตัวเหมาะกับการพักผ่อน มีพื้นที่ให้นั่งทำงานในสวนได้ ซึ่งโซนนี้จะอยู่ระหว่างอาคาร C และ D

เรากลับมาดูบรรยากาศภายในอาคารกันบ้างค่ะ แต่ละอาคารจะมี Lobby เป็นของตัวเอง มีการออกแบบแตกต่างกันไป ดังนี้

  • อาคาร A : ใช้เรขาคณิตรูปทรงครึ่งวงกลม
  • อาคาร B : ใช้เส้นแนวนอนเรียงต่อกัน
  • อาคาร C : ใช้เรขาคณิตรูปทรงสามเหลี่ยม
  • อาคาร D : ใช้เรขาคณิตรูปทรงหกเหลี่ยม
  • อาคาร E : ใช้เรขาคณิตรูปทรงสี่เหลี่ยม
  • อาคาร F : ใช้เรขาคณิตรูปทรงวงกลม

บรรยากาศภายในอาคาร A จะเป็นอย่างไรเราไปชมกันค่ะ

Lobby อาคาร A จะใช้เส้นโค้งมนของรูปครึ่งวงกลม และโทนสีสดใสสไตล์ Pop Art มาใช้ในการออกแบบเลือกเฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง มีหน้าต่างขนาดใหญ่สูง Double Volume ให้มองออกไปเห็นวิวสวนส่วนกลางได้ค่ะ

Image 1/3
Working Space

Working Space

อาคาร A มีชั้นลอยที่ทำเป็นโซน Working Space สำหรับนั่งทำงานที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยลูกบ้านทุกอาคารสามารถใช้งานได้เช่นกัน

Image 1/3
Board Game Zone

Board Game Zone

พื้นที่ชั้นล่างเป็นโซน Board Game ให้มานั่งเล่นสังสรรค์กันได้ค่ะ จะเห็นว่าทางโครงการมีการออกแบบโต๊ะที่เป็นกระดานหมากรุกมาให้ด้วย

Image 1/3
Laundry

Laundry

ถัดจากโซน Lobby จะเป็นพื้นที่ Service Zone แบ่งเป็นห้องๆ ค่ะ ห้องแรกเป็น Laundry ภายในมีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญให้บริการแยกแต่ละอาคาร สะดวกต่อการใช้งานไม่ต้องถือผ้าเดินไปซักไกลๆ ให้เมื่อยเลยค่ะ

Image 1/3
Grab and Go Station

Grab and Go Station

ถัดมาเป็นห้อง Grab & Go Station ไว้สำหรับรับพัสดุ ฆ่าเชื้อพัสดุ และรออาหาร Delivery ภายในมีตู้เต่าบินมาให้ซื้อเครื่องดื่มระหว่างรอด้วยค่ะ

Image 1/2
Mail Box

Mail Box

ถัดมาเป็นห้อง Mail Box เก็บจดหมายของลูกบ้าน ต้องใช้ Key Card เพื่อเปิดตู้จดหมาย ป้องกันการหยิบผิดห้อง

ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องน้ำส่วนกลางที่ออกแบบมาสำหรับทุกคน เป็นห้องขนาดใหญ่สามารถใช้งานรถเข็นหรือรองรับผู้สูงอายุได้สะดวก

Image 1/2
ทางเดินไปยังโถงลิฟต์

ทางเดินไปยังโถงลิฟต์

ทางเดินไปยังโถงลิฟต์บรรยากาศโปร่งสบาย มองเห็นวิวสวนด้านนอกได้กว้าง

Image 1/5
โถงลิฟต์อาคาร A

โถงลิฟต์อาคาร A

โครงการให้ลิฟต์โดยสารมาทั้งหมด 12 ตัว แบ่งเป็นอาคารละ 2 ตัว เป็นลิฟต์แบบล็อกชั้น มีอัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการประมาณ 1 : 100 ทำให้การใช้งานไม่หนาแน่นมากนักค่ะ

สำหรับลูกบ้านที่อยู่ชั้น 1 จะมีประตูกั้นระหว่างโถงลิฟต์และโถงทางเดินหน้าห้องพักอาศัยมาให้ด้วยค่ะ เพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยจะต้องใช้ Key Card ในการผ่านเข้า-ออก

ตัวอย่าง Lobby อาคาร F ที่มีการออกแบบโดยใช้รูปทรงวงกลมเป็นหลัก โดยจะมีพื้นที่ Kid’s Club อยู่ด้านล่างเปิดให้ลูกบ้านทุกอาคารสามารถใช้งานได้

แปลนชั้นพักอาศัย 

อาคาร A – F จะมีความแตกต่างกันที่วิวและความใกล้ไกลจากประตูทางเข้าออกค่ะ โดยคนที่ต้องการเดินใกล้จากประตูทางเข้า-ออก เพื่อไปยังรถไฟฟ้าควรเลือกอาคารฝั่งทิศใต้ ซึ่งก็คือ A, B ,C ส่วนคนที่ต้องการเดินใกล้ที่จอดรถ มีที่จอดรถเยอะหน่อยก็แนะนำเลือกอาคาร D, E, F ค่ะ

สำหรับทัศนียภาพอาคารแบ่งได้ ดังนี้

  • กรอบสีน้ำเงิน : เป็นตำแหน่งบริเวณตรงกลางโครงการ ที่จะสามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำได้ชัดเจนที่สุด ซึ่งมีห้องให้เลือกทุกรูปแบบ
  • กรอบสีแดง : เป็นห้องที่ได้วิวพื้นที่สีเขียวโซน The Core Forest เป็นโซนนั่งเล่นพักผ่อนที่มีความเงียบสงบมากกว่าโซนอื่นๆ
  • กรอบสีม่วง : เป็นห้องที่ได้วิวพื้นที่สีเขียวโซน The Core Terrain เป็นโซนที่ได้วิวเขียวๆ ของร่มไม้เช่นกัน แต่จะมีความเป็นร่มไม้ที่โปร่งกว่า เพราะมีส่วนที่เป็นลานออกกำลังกายและพื้นที่นั่งเล่นดูหนังกลางแจ้งค่ะ

Image 1/3
อาคาร B

อาคาร B

อาคาร B

ชั้น 1 – มีห้องพักอาศัยให้เลือกกันตั้งแต่ชั้น 1 เลยค่ะ มีการกั้นโซน Lobby ออกจากโซนห้องพักอาศัยด้วยประตูที่ต้องใช้ Key Card Access เพื่อความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย ความน่าสนใจของห้องในชั้นนี้คือ มีประตูจากห้องพักเปิดเข้าสู่ Courtyard ส่วนกลางได้อีกหนึ่งประตู (Garden Access) และเป็น Single Corridor เหมาะกับคนที่ต้องการความสะดวกในการมาใช้งาน Facility บ่อยๆ รวมถึงยังไม่ต้องเสียเวลาขึ้น-ลงลิฟต์ แถมยังได้มองเห็นวิวสวนและต้นไม้อย่างใกล้ชิดมากๆอีกด้วย แต่ทั้งนี้ก็ต้องแลกมากับความเป็นส่วนตัว ที่อาจจะมีเสียงดังจากสวนส่วนกลางรบกวนบ้างบางเวลาค่ะ

รูปแบบของห้องพักในชั้นนี้จะเน้นเป็นห้องแบบ Duplex และห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยอย่าง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus

ชั้น 2 – เป็นยูนิตพักอาศัยทั้งหมด ประกอบด้วยห้อง Studio และ 1 Bedroom เป็นหลักซึ่งเป็นห้องไซส์เริ่มต้นของโครงการ จึงเป็นโซนที่ราคาจับต้องง่าย และมีห้อง 1 Bedroom Plus ให้จับจองได้ 1 ห้อง โดยโถงลิฟต์จะมีตำแหน่งเดียวอยู่มุมซ้ายของอาคาร ทำให้ห้องพักอีกฝั่งหนึ่งจะอยู่ห่างจากลิฟต์สักหน่อย แต่ก็ได้ความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น

ชั้น 3 – 8 เป็น Typical Floor Plan ของอาคาร เน้นไปที่ห้องแบบ 1 Bedroom และ Studio และมีห้องแบบ 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom ให้เลือกชั้นละ 1 ห้องบริเวณมุมอาคารค่ะ

Image 1/3
อาคาร F

อาคาร F

อาคาร F

ชั้น 1 – แปลนของชั้นนี้จะคล้ายอาคาร B เลยค่ะ โถงทางเดินเป็น Single Corridor ได้ความเป็นส่วนตัวสูง ส่วนห้องพักมีให้เลือก 3 Type คือ 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ Duplex

ชั้น 2 – เป็นยูนิตพักอาศัยทั้งหมด ซึ่งจะประกอบด้วยห้อง Studio และ 1 Bedroom เป็นหลัก ส่วนห้อง Type อื่นๆ ก็มี 1 Bedroom Plus 3 ยูนิต และ 2 Bedroom อีก 1 ยูนิต โดยโถงลิฟต์จะมีตำแหน่งเดียวอยู่มุมขวาของอาคาร ทำให้ห้องพักอีกฝั่งหนึ่งจะอยู่ห่างจากลิฟต์สักหน่อย แต่ก็ได้ความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น

ชั้น 3-8 เป็น Typical Floor Plan ของอาคาร เน้นไปที่ห้องแบบ 1 Bedroom และ Studio  มีห้องแบบ 1 Bedroom Plus ชั้นละ 4 ยูนิต และ 2 Bedroom อีกชั้นละ 2 ยูนิตค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • พื้นที่ส่วนกลางอยู่ตรงกลางโครงการ ประกอบไปด้วย
  • โซนที่ 1 : The Core Forest
    – พื้นที่พักผ่อน
    – พื้นที่นั่งทำงานในสวน
    – The Core Pavilion
    – Welcome Lounge & Co-Working Space
    – Fitness ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 13 เครื่อง
  • โซนที่ 2 : The Core Lagoon
    – Lap Pool ระบบเกลือ ขนาด 50×4 เมตร ลึก 1.20 เมตร
    – Leisure Pool
    – Kids Pool ระบบเกลือ ลึก 0.5 เมตร
    –  Sunken POD
    – Scenery Pool Bar
  • โซน 3 : The Core Terrain
    – Outdoor Cinema
    – พื้นที่ออกกำลังกาย Outdoor
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 100 : 1
  • Service Lift – ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 24% เป็นที่จอดแบบปกติ (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  Key Card

แบบห้อง

Highlight

  •  Nue Core Khu khot Station ออกแบบห้องได้น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นห้อง Pool Access เชื่อมต่อสระว่ายน้ำได้เลย, Garden Access เชื่อมต่อสวนส่วนกลางพร้อมวิวพื้นที่สีเขียว, ห้อง Duplex ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน และห้องหน้ากว้างในตำแหน่งวิวสวยๆ ให้เลือกค่ะ
  • จัดฟังก์ชันเป็นสัดส่วน ตั้งแต่ห้อง Studio แยกส่วนครัวเป็นครัวปิดติดระเบียง ระบายอากาศได้ดี , 1 Bedroom กั้นห้องนอนด้วยผนังทึบได้ความเป็นส่วนตัว, Duplex มีห้องนอนและห้องน้ำที่ชั้น 2 ฯลฯ
  • มีรูปแบบห้องหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Studio ไปจนถึง 2 Bedroom รองรับความต้องการของคนที่อยู่คนเดียวไปจนถึงครอบครัวเริ่มต้น ในงบประมาณเริ่มต้น 1.59 – 3 ล้านบาท

Nue Core Khu Khot Station มีห้องพักอาศัยให้เลือกหลายแบบตั้งแต่ Studio ไปจนถึง Duplex เหมาะทั้งการอยู่อาศัยคนเดียว, อยู่กัน 2 คน, เป็นบ้านหลักหรือเป็นบ้านหลังที่ 2 ของครอบครัว และสำหรับนักลงทุนปล่อยเช่าให้คนที่ต้องการเดินทางด้วย BTS สายสีเขียว ซึ่งโครงการออกแบบห้องมาให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันค่ะ

มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 5 แบบ ดังนี้

  • Studio พื้นที่ใช้สอย 22.81 – 23.28 ตร.ม.
  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 26.26 – 26.81 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.44 – 34.95 ตร.ม.
  • 2 Bedroom 2 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 45.72 – 46.36 ตร.ม.
  • Duplex 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 58.04 – 58.27 ตร.ม.

โครงการขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ (Fully Furnished) ได้เฟอร์นิเจอร์ทั้ง Built-in และลอยตัว ลูกบ้านเพียงแค่ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ติดม่านและของใช้ส่วนตัวก็สามารถเข้าอยู่ได้เลย

สรุปวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ

  • Built-in ตู้รองเท้า, ตู้เก็บของ
  • Built-in ชุดครัว พร้อม Hob&Hood และ ซิงค์ล้างจาน ของ Teka
  • ชั้นวางทีวี
  • โซฟา
  • โต๊ะกลาง
  • โต๊ะทานอาหาร 1 – 4 ที่นั่ง (ขึ้นอยู่กับแบบห้อง)
  • ฐานเตียง 3.5 – 5 ฟุต (ขึ้นอยู่กับแบบห้อง)
  • Built-in ตู้เสื้อผ้า
  • วัสดุในห้องน้ำ Cotto, American Standard
  • เครื่องปรับอากาศ 2 – 3 เครื่อง (ขึ้นอยู่กับแบบห้อง)
  • Digital Door Lock
  • ผนังภายนอก Precast ผนังภายในก่ออิฐฉาบปูนสามารถเจาะทุบต่อเติมได้
  •  พื้นไม้ลามิเนต หนา 8 มม. / ห้องน้ำปูกระเบื้องขนาด 0.60 x 0.60 ม. / ระเบียงปูกระเบื้องขนาด 0.30 x 0.30 ม.
  • ผนังฉาบเรียบทาสี
  • บันไดโครงเหล็กปิดผิวลามิเนต (เฉพาะห้อง Duplex)

วันนี้เราจะพาไปชมห้องตัวอย่างทั้งหมด 2 ห้อง เป็นห้อง Studio และ Duplex รวมถึงห้องมาตรฐาน 1 Bedroom ให้ชมกันค่ะ

ห้องแรกที่เราจะพามาชมคือ Studio พื้นที่ใช้สอย 22.81 – 23.28 ตร.ม. เป็นห้องราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาทนั่นเองค่ะ ห้องนี้เหมาะกับคนที่อยู่คนเดียว ชอบความโปร่งโล่ง ในขณะเดียวกันก็แบ่งฟังก์ชันการใช้สอยชัดเจน ใช้งานง่าย เช่น การรวมห้องน้ำ ห้องครัว และระเบียงไว้ด้วยกันเป็น Service Zone นอกจากจะได้ครัวปิดที่ทำอาหารได้จริง เรายังสามารถเปิดประตูระเบียงเพื่อระบายกลิ่นควันจากการประกอบอาหาร และระบายความชื้นจากห้องน้ำได้ง่าย

ส่วนพื้นที่พักผ่อนจะแบ่งเป็นห้องนั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่เตียงนอน รับแสงธรรมชาติเข้ามาจากหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้ภายในห้องดูสว่างอย่างทั่วถึงค่ะ

ประตูห้องเป็นประตูลายไม้ดูสวยงามติดตั้งมาให้พร้อม Digital Door Lock จาก Home Shield ใช้งานได้สะดวก รองรับการสแกนลายนิ้วมือ, Key Card, Bluetooth และรหัส ไม่ต้องพกกุญแจให้หนักกระเป๋า

เข้ามาในห้องแล้วจะเจอกับพื้นที่ Common Area แบ่งได้เป็นห้องนั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหาร/ทำงาน และพื้นที่เตียงนอน เชื่อมต่อกันให้ความรู้สึกโปร่งสบาย แสงธรรมชาติจะผ่านประตูกระจกบานใหญ่ของห้องนอนเข้ามาได้ทั่วถึงทั้งห้อง

พื้นปูด้วยลามิเนตลายไม้ หนา 8 มม. ได้ความรู้สึกอบอุ่นเหมาะกับการพักผ่อนและไม่เย็นเท้า ฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร ซึ่งเป็นความสูงมาตรฐานทั่วไปของคอนโด Low Rise ค่ะ

ห้องนั่งเล่นมีขนาดประมาณ 2.45 x 2.50 เมตร ทางโครงการมีโซฟา โต๊ะกลางและชั้นวาง TV ที่ลงตัวกับพื้นที่มาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ ห้องนี้มีระยะดู TV ประมาณ 2.20 เมตร สามารถวาง TV ได้ตั้งแต่ 43 นิ้วขึ้นไปได้เลย

ด้านหน้าห้องมี Built-in ชั้นวางของและตู้รองเท้ามาให้เรียบร้อย ไม่ต้องห่วงเรื่องพื้นที่เก็บของเลยค่ะ

โซฟาที่ได้เป็นโซฟา 2 ที่นั่ง มีที่วางแขน 1 ฝั่ง พร้อมโต๊ะกลางโทนสีเทา ที่ออกแบบมาให้ขนาดพอดีกับพื้นที่ใช้สอย

ชั้นวางทีวีลายไม้เข้ากันกับตู้เก็บของด้านหน้าเลยนะคะ มีช่องเปิด 2 ฝั่ง วาง TV ขนาดใหญ่ได้สบายๆ

ด้านข้างมีพื้นที่วางโต๊ะรับประทานอาหาร 1 ที่นั่ง เป็นโต๊ะทานข้าวที่ลบเหลี่ยมมุมออก ช่วยป้องกันการบาดเจ็บที่อาจเกิดจากอุบัติเหตุ สามารถใช้นั่งทำงาน หรือปรับเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้

ด้านในเป็นพื้นที่เตียงนอน มีตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการ Built-in มาให้แล้ว พร้อมฐานเตียงขนาด 5 ฟุตค่ะ พื้นที่นอนจะอยู่ติดกับหน้าต่างพอดี ทำให้เราสามารถนอนมองเห็นวิวด้านนอกได้ด้วย

ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเปิดคู่สูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานดูสวยงามไม่เก็บฝุ่นด้านบน บานด้านหนึ่งเป็นกระจกให้แต่งตัวได้สะดวก ภายในมีลิ้นชักมาให้เก็บของชิ้นเล็กๆ พร้อมราวแขวน 2 จุดเพิ่มพื้นที่เก็บเสื้อผ้าได้มากขึ้น

Image 1/4
เตียงนอน 5 ฟุต

เตียงนอน 5 ฟุต

พื้นที่เตียงนอนมีขนาดประมาณ 2.5 x 2.57 เมตร เหมาะกับเตียง 5 ฟุต ซึ่งทางโครงการให้ฐานเตียงมาเรียบร้อยค่ะ ด้านล่างมีลิ้นชักให้เก็บของเพิ่มเติมได้

สำหรับโซน Service จะมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นมาให้เป็นสัดส่วน กลายเป็นครัวปิดใช้ทำอาหารจริงจังได้

ห้องครัวได้ความสว่างจากระเบียงมองเห็นวิวภายนอกได้ นอกจากนั้นยังเป็นข้อดีให้เปิดระบายกลิ่นและความชื้นได้ดีค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวหน้าบานเมลามีนลายไม้ ตู้ด้านล่างเป็นช่องวางเครื่องซักผ้า 1 ช่อง และตู้บานเปิดเก็บของใต้อ่างล้างจานขนาดใหญ่ 1 ช่องสามารถวางถังขยะได้

Image 1/2
ชุดครัว

ชุดครัว

Top เคาน์เตอร์ครัววัสดุเป็น Solid Surface ติดตั้งมาพร้อมอ่างล้างจาน ก๊อกน้ำ เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน จากยี่ห้อ TEKA พร้อมติดตั้ง Back Splash กระจกรองรับการทำอาหารได้ครบครัน

ด้านบนมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟมาให้ ช่วยประหยัดพื้นที่เตรียมอาหารบนเคาน์เตอร์ และมีช่องเก็บของมาให้เพิ่มเติมค่ะ

ส่วนที่ติดกับระเบียงจะมีการเว้นระยะเคาน์เตอร์ครัวไว้สำหรับวางตู้เย็น และใช้ประโยชน์พื้นที่ด้านบนเป็นโดยการเพิ่มตู้เก็บของมาให้อีก 1 จุดค่ะ

ส่วนระเบียงมีประตูบานเลื่อนกระจก 2 ตอน ให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะ และออกไปใช้งานระเบียงได้สะดวก ระเบียงมีขนาดประมาณ 0.75 x 1.30 เมตร สามารถวางกระถางต้นไม้ตกแต่งหรือราวตากผ้าได้ ส่วน Condensing Unit (CDU) จะแขวนไว้ด้านบน เพื่อให้ใช้งานระเบียงได้เต็มที่

ห้องน้ำจะอยู่ตรงข้ามกับระเบียง มีระยะความกว้างประมาณ 1.45 เมตร ใช้งานได้ไม่อึดอัด ภายในตกแต่งด้วยกระเบื้องโทนสีครีม ขนาด 60x 60 เซนติเมตร ทำความสะอาดง่าย

พื้นห้องน้ำมีขอบยกสูงเพื่อกันน้ำไหลออกเวลาล้างห้องน้ำค่ะ อุปกรณ์ห้องน้ำก๊อกน้ำ, ฝักบัว, โถสุขภัณฑ์, อ่างล้างหน้าพร้อมช่องเก็บของ กระจกเงาสี่เหลี่ยมติดผนังขนาดใหญ่ จากแบรนด์ Cotto, American Standard และ Custome-Made by Noble เองค่ะ

ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีการกั้นส่วนเปียก-แห้งมาให้แล้วด้วยบานกระจก  ภายในยืนอาบได้สบายๆ พร้อมเดินระบบรองรับการติดเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย


1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 26.26 – 26.81 ตร.ม. เป็นห้องมาตรฐาน (ห้องเปล่า) ที่เราเก็บภาพมาให้ชมกันค่ะ โดยภายในจะแบ่งฟังก์ชันที่ชัดเจนมากขึ้น เหมาะกับคนที่อยู่ 1 – 2 คน เน้นการใช้งานที่สะดวกและเป็นสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารที่ติดกับครัวปิดและระเบียง สามารถทำอาหารได้จริง ระบายกลิ่นและความชื้นได้ดี นอกจากนั้นยังได้แสงธรรมชาติเข้ามาอย่างทั่วถึง

ห้องนอนได้ความเป็นส่วนตัวสูง เพราะมีประตูบานทึบกั้นแยกเป็นสัดส่วน มี Walk-in Closet และห้องน้ำในตัวใช้งานได้สะดวก แต่ถ้ามีแขกมาหาแล้วต้องใช้ห้องน้ำ แขกก็จะต้องเดินผ่านห้องนอน ซึ่งอาจจะเสียความเป็นส่วนตัวไปสักหน่อยค่ะ

Image 1/9
1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 26.26 - 26.81 ตร.ม.

1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 26.26 - 26.81 ตร.ม.


Duplex 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 58.04 – 58.27 ตร.ม. เป็นห้องพิเศษที่เห็นได้ไม่บ่อยนัก (ส่วนใหญ่จะเห็นเป็นห้อง Loft มีชั้นลอยมากกว่า) ซึ่งข้อดีของห้อง Duplex คือ มีชั้น 2 ที่สามารถเปิดประตูออกไปยังโถงทางเดินข้างนอกได้ และมีห้องน้ำที่ชั้น 2 ให้ความรู้สึกคล้ายกับอยู่บ้านเลยค่ะ

ห้อง Type นี้เหมาะกับคนที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยเยอะ อยู่กัน 2 คนหรือเป็นครอบครัว ต้องการอยู่อาศัยเป็นบ้านหลังแรก หรือบ้านหลังที่ 2 ที่ใกล้รถไฟฟ้า ชอบห้องนอนที่แบ่งเป็นสัดส่วน และมีห้องน้ำในตัวทั้ง 2 ห้องค่ะ บรรยากาศภายในจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลย

สำหรับห้อง Duplex เมื่อเข้ามาแล้วเราจะมองเห็นพื้นที่ Common Area ตรงกลาง มีบันไดทางขึ้นชั้น 2 ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านขนาดย่อมๆ ห้องประเภทนี้พบเจอได้ไม่บ่อยนักนะคะ ส่วนใหญ่จะเจอในคอนโดระดับราคา Luxury ย่านใจกลางเมืองค่ะ

สำหรับวัสดุภายในห้องก็จะได้เหมือนกันกับห้องแรก ไม่ว่าจะเป็นพื้นลามิเนตลายไม้ หนา 8 มม. ฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร (ยกเว้นส่วนที่ Double Volume) แต่จะได้เฟอร์นิเจอร์เพิ่มขึ้นให้เข้ากับฟังก์ชันการใช้งานที่มากขึ้นด้วย

โถงทางเข้าด้านหน้าเป็นพื้นที่สำหรับใส่รองเท้าก่อนออกจากห้อง โดยทางโครงการมีชั้นวางรองเท้าและเก็บของมาให้ใต้บันไดแล้วค่ะ ส่วนฝั่งขวามือเป็นพื้นที่ครัวที่แยกออกมาเป็นสัดส่วนจากพื้นที่พักผ่อนภายในห้อง

โครงการออกแบบไว้ให้เป็นครัวเปิด พื้นปูด้วยไม้ลามิเนตเหมือนกับส่วนอื่นภายในห้อง เวลาใช้งานจึงต้องระวังเรื่องน้ำนิดนึงนะคะ เพราะไม้ลามิเนตจะไม่ถูกกับน้ำอาจทำให้พื้นบวมได้

ภายในห้องครัวจะได้ชุดครัว Built-in เหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ มีเว้นพื้นที่ไว้สำหรับวางตู้เย็นและเครื่องซักผ้า

Top เคาน์เตอร์ครัววัสดุเป็น Solid Surface ติดตั้งมาพร้อมอ่างล้างจาน ก๊อกน้ำ เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน จากยี่ห้อ TEKA พร้อมติดตั้ง Back Splash กระจกทำความสะอาดง่าย

เคาน์เตอร์ครัวหน้าบานเมลามีนลายไม้ ตู้ด้านล่างมีช่องเก็บของที่มากขึ้น หยิบใช้งานได้สะดวก พร้อมตู้บานเปิดเก็บของใต้อ่างล้างจานขนาดใหญ่ 1 ช่องสามารถวางถังขยะได้

ส่วนด้านบนเป็นตู้เก็บของ, ตู้ไฟ และชั้นวางไมโครเวฟช่วยประหยัดพื้นที่เตรียมอาหารบนเคาน์เตอร์ค่ะ

Common Area ถูกจัดวางตำแหน่งไว้ด้านในติดกับระเบียง ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ถ้าคนมองมาจากนอกห้องก็จะเห็นส่วนโถงทางเข้าก่อนค่ะ นอกจากนั้นยังได้แสงธรรมชาติที่เข้ามาจากช่องประตูขนาดใหญ่ทำให้ห้องสว่างอย่างทั่วถึง

Image 1/2
พื้นที่รับประทานอาหาร

พื้นที่รับประทานอาหาร

ห้องนี้มีความกว้างสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหาร 4 ที่นั่งได้สบายๆ เลยค่ะ สามารถนั่งทานอาหารและดูทีวีไปพร้อมกันได้อีกด้วย

ห้องน้ำจะอยู่ตรงข้ามกับพื้นที่รับประทานอาหาร ภายในตกแต่งด้วยกระเบื้องโทนสีครีม ขนาด 60x 60 เซนติเมตร ดูแล้วสบายตาและทำความสะอาดง่าย

ห้องน้ำชั้นล่างในห้อง Duplex จะเป็นแบบ Jack & Jill สามารถเข้าได้จาก 2 ทาง บริเวณห้องนอนและบริเวณ Common Area ทำให้ใช้งานได้สะดวกค่ะ

อุปกรณ์ห้องน้ำก๊อกน้ำ, ฝักบัว, โถสุขภัณฑ์, อ่างล้างหน้าพร้อมช่องเก็บของ กระจกเงาสี่เหลี่ยมติดผนังขนาดใหญ่ จากแบรนด์ Cotto, American Standard และ Custome-Made by Noble เองค่ะ

ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีการกั้นส่วนเปียก-แห้งมาให้แล้วด้วยบานกระจก ภายในยืนอาบได้สบายๆ พร้อมเดินระบบรองรับการติดเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย

ห้องนั่งเล่นมีขนาดประมาณ 2.20 x 2.45 เมตร มีระยะดูทีวีกว้างประมาณ 2.30 เมตร สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้ อีกทั้งยังอยู่ติดกับระเบียงเลยทำให้สามารถดูทีวีและชมวิวภายนอกได้สบายๆ ค่ะ

ทางโครงการมีโซฟา 2 ที่นั่งมาให้แล้ว

พร้อมโต๊ะกลางดีไซน์น่ารัก สำหรับวางของกระจุกกระจิกก็ให้มาเช่นกันค่ะ

มีชั้นวางทีวีลายไม้มีช่องเปิด 2 ฝั่ง วาง TV ขนาดใหญ่ได้สบายๆ

Image 1/3
ระเบียงห้อง Duplex ชั้นล่าง

ระเบียงห้อง Duplex ชั้นล่าง

ระเบียงอยู่ติดกับพื้นที่นั่งเล่น มีประตูบานเลื่อนกระจก 2 ตอน ให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะ และออกไปใช้งานระเบียงได้สะดวกค่ะ ระเบียงมีขนาดประมาณ 0.75 x 2.40 เมตร ถือว่าค่อนข้างยาวเลยค่ะ สามารถวางกระถางต้นไม้ตกแต่ง เก้าอี้นั่งเล่น หรือราวตากผ้าได้สบายๆ

ห้องนอนชั้นล่างกั้นด้วยประตูทึบได้ความเป็นส่วนตัวสูง ภายในมีตู้เสื้อผ้า Built-in และฐานเตียงขนาด 5 ฟุต มาให้เรียบร้อยแล้ว

ตำแหน่งของเตียงนอนจะอยู่ติดกับหน้าต่าง มีโต๊ะข้างเตียงกั้นเล็กน้อยเพื่อให้มีระยะสามารถเดินได้รอบเตียงค่ะ หน้าต่างของห้องนี้มีขนาดใหญ่และเป็นหน้าต่างเข้ามุมแบบ Bay Window ช่วยเปิดมุมมองให้เห็นวิวได้กว้างขึ้น

กรอบหน้าต่างจะเป็นอะลูมิเนียม Powder Coat สีดำ พร้อมกระจกลามิเนตแบบใสปกติค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นตำแหน่งของตู้เสื้อผ้า ซึ่งอยู่ติดกับทางเข้าห้องน้ำพอดีจึงใช้งานต่อเนื่องกันได้สะดวก

ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเปิด 3 บาน สูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานดูสวยงามไม่เก็บฝุ่นด้านบน บานด้านหนึ่งเป็นกระจกให้แต่งตัวได้สะดวก ภายในมีลิ้นชักมาให้เก็บของชิ้นเล็กๆ พร้อมราวแขวน 2 จุดเพิ่มพื้นที่เก็บเสื้อผ้าได้มากขึ้น

ถัดมาเราจะพาไปดูชั้นบนกันค่ะ ในส่วนบันไดทางโครงการจะ Built-in มาให้พร้อมราวจับตามแบบในห้องตัวอย่างเลยนะคะ ใต้บันไดมีตู้เก็บของและรองเท้า สามารถเก็บรองเท้าได้ประมาณ 10 คู่

ขึ้นมาแล้วจะเจอกับโถงทางเข้าห้องนอน บริเวณนี้จะมีประตูที่เชื่อมต่อไปยังโถงทางเดินหน้าห้องพักอาศัยชั้น 2 ได้ค่ะ ใครที่อยู่ชั้นบนก็สามารถเข้าห้องได้เลยโดยไม่ต้องผ่านชั้นล่าง ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ประตูห้องชั้นบนที่เชื่อมต่อกับโถงทางเดินส่วนกลาง มี Digital Door Lock มาให้เหมือนกับชั้นล่างค่ะ

ห้องนอนชั้นบนก็มีความสูงฝ้าเพดานที่ 2.45 เช่นเดียวกันค่ะ ซึ่งจะได้ความสูงมากกว่าห้อง Loft ในโครงการอื่นๆ

ภายในห้องนอนบรรยากาศโปร่งสบาย เนื่องจากมีช่องแสงขนาดใหญ่ ตรงกับ Double Volume และหน้าต่างข้างนอกพอดี นอนมองเห็นวิวได้สบายๆ นอกจากนั้นยังมีระเบียงส่วนตัวให้ออกไปใช้งานได้อีกด้วยค่ะ

Image 1/3
ห้องนอนชั้นบนของห้อง Duplex

ห้องนอนชั้นบนของห้อง Duplex

ห้องนอนมีขนาดประมาณ 2.50 x 3.50 เมตร ค่อนข้างกว้างเลยค่ะ โดยทางโครงการวางฐานเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ พร้อมโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง

ฝั่งด้านในมีประตูบานเลื่อนเชื่อมต่อไปยัง Walk-in Closet และห้องน้ำส่วนตัวใช้งานได้สะดวก

ระเบียงห้อง Duplex ชั้นบนมีขนาดประมาณ 1.20 x 1.30 เมตร (ไม่รวม Condensing Unit) สามารถตากผ้าได้สะดวก ด้านข้างเป็นพื้นที่ Condensing Unit ที่จัดไว้อย่างเป็นระเบียบ หันออกด้านนอกทำให้ระเบียงไม่ร้อนค่ะ

Walk-in Closet จะมีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนชั้นล่าง Built-in มาให้เป็นตู้ตัว L ค่ะ เหมาะกับคนที่ชอบแต่งตัว มีเสื้อผ้าเยอะ โดยจะมีประตูกระจกกั้นเป็นสัดส่วนทำให้ฝุ่นผ้าหรือความชื้นจากห้องน้ำไม่เข้าไปยังห้องนอน

ห้องน้ำจะมีการตกแต่งเหมือนกับห้องนอนล่างเลยค่ะ มีระยะความกว้างประมาณ 1.45 เมตร ใช้งานได้ไม่อึดอัด ภายในตกแต่งด้วยกระเบื้องโทนสีครีม ขนาด 60x 60 เซนติเมตร มีชั้นเก็บของด้านในผนังมาให้

อุปกรณ์ห้องน้ำก๊อกน้ำ, ฝักบัว, โถสุขภัณฑ์, อ่างล้างหน้าพร้อมช่องเก็บของ กระจกเงาสี่เหลี่ยมติดผนังขนาดใหญ่ จากแบรนด์ Cotto, American Standard และ Custome-Made by Noble

ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีการกั้นส่วนเปียก-แห้งมาให้แล้วด้วยบานกระจก ภายในยืนอาบได้สบายๆ พร้อมเดินระบบรองรับการติดเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

แบบแปลน

Image 1/9
Studio 22.70 - 23.25 Sq.m.

Studio 22.70 - 23.25 Sq.m.

ราคา

Nue Core Khu Khot Station ราคา ณ วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567

  • Studio พื้นที่ใช้สอย 22.81 – 23.28 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท
  • โปรโมชัน :  ส่วนลดสูงสุด 250,000 บาท* Free All พร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบ*

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.45 เมตร / ห้องครัว 2.30 เมตร / ห้องน้ำ 2.20 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท็อป Solid Surface
  • Hob & Hood / ของยี่ห้อ Teka
  • จอง และทำสัญญา 9,999 บาท
  • ค่ากองทุน 45 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 500 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :

Nue Core Khu Khot Station ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ ถนนลำลูกกาซึ่งเป็นถนนเส้นหลักที่คนย่านนี้ใช้เดินทางเชื่อมต่อไปยังถนนพหลโยธิน หรือใช้ทางด่วนถนนกาญจนาภิเษกเข้าสู่รามอินทราได้ มีซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาดให้เลือกซื้อของได้ครบ เพราะเป็นย่านชุมชนแนวราบดั้งเดิม ปัจจุบันมีร้านอาหารใน PTT ใกล้ๆ กับโครงการสามารถเดินไปได้สบายๆ และในปี 2025 ที่ใกล้จะถึงนี้จะมี Crossing Mall ที่เป็น Lifestyle Mall ด้านหน้าโครงการเปิดให้บริการ ทำให้บริเวณโครงการคึกคักเพิ่มขึ้นไปอีกค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ :

ที่ตั้งโครงการอยู่บนถนนลำลูกกาตอนต้น และอยู่ห่างจากจุดกลับรถเพียง 300 เมตร ทำให้สามารถกลับรถไปใช้ถนนพหลโยธินได้ไม่ยาก และมีถนนกาญจนาภิเษกอยู่ในระยะประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เข้า-ออกเมือง และเชื่อมต่อไปยังทางด่วนฉลองรัชและทางด่วนศรีรัชได้สะดวก

โครงการมีที่จอดรถมาให้ประมาณ 24% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) และที่จอดมอเตอร์ไซค์ 22 คัน (ประมาณ 2%) ถือว่าไม่ได้เยอะมากนัก แต่เป็นโครงการที่มีตัวเลือกการเดินทางด้วยรถสาธารณะได้สะดวกมาทดแทนค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

ด้านหน้าโครงการมีรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวสถานี “คูคต” ในระยะที่เดินได้สบายๆ ประมาณ 100 เมตร จากโครงการสามารถนั่งรถไฟฟ้าต่อเดียวเพื่อเข้าเมืองได้เลย นอกจากนั้นด้านหน้ายังมีป้ายรถเมล์และ Taxi ให้บริการ เป็นตัวเลือกในการเดินทางด้วยรถสาธารณะด้วยค่ะ

วัสดุ :

โครงการขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์มาครบพร้อมอยู่ ลูกบ้านเพียงแค่ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ติดม่านและของใช้ส่วนตัวก็สามารถเข้าอยู่ได้เลย ช่วยประหยัดงบในการแต่งห้องได้ ส่วนวัสดุอื่นๆ ให้มาตามมาตรฐาน เช่น พื้นไม้ลามิเนต หนา 8 มม., วัสดุในห้องน้ำ Cotto, American Standard, Built-in ชุดครัว พร้อม Hob&Hood และ ซิงค์ล้างจาน ของ Teka และ Digital Door Lock เหมาะสมและคุ้มค่ากับระดับราคานี้ค่ะ

การออกแบบ :

Nue Core Khu Khot Station เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น จำนวน 6 อาคาร ซึ่งการแบ่งเป็น 6 อาคาร ทำให้ความหนาแน่นแต่ละอาคารลดลง อีกทั้งยังแยกพื้นที่ส่วนกลางกับห้องพักอาศัยออกจากกันชัดเจน ทำให้ทุกอาคารได้ความเป็นส่วนตัวเท่าๆ กัน และแบ่งพื้นที่ส่วนกลางออกเป็น 3 โซน ให้ใช้งานแตกต่างกันไป และเป็นวิวที่ร่มรื่นให้กับห้องพักอาศัยค่ะ

มีการออกแบบห้องได้น่าสนใจ มีห้องให้เลือกหลายขนาดและแตกต่างกันในแต่ละตำแหน่ง เช่น ห้อง Pool Access เชื่อมต่อสระว่ายน้ำ, Garden Access เชื่อมต่อสวนส่วนกลาง, ห้อง Duplex ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน และห้องหน้ากว้างในตำแหน่งวิวดีๆ ภายในจัดฟังก์ชันเป็นสัดส่วน Studio แยกส่วนครัวเป็นครัวปิดติดระเบียง ระบายอากาศได้ดี , 1 Bedroom กั้นห้องนอนด้วยผนังทึบได้ความเป็นส่วนตัว, Duplex มีห้องนอนและห้องน้ำที่ชั้น 2 เป็นต้น

สาธารณูปโภค :

พื้นที่ส่วนกลางให้มาครบครันเหมาะกับการใช้งานค่ะ มีการแบ่งฟังก์ชันเป็น 3 โซน  The Core Lagoon สระว่ายน้ำ 2 สระ, โซน The Core Forest สวนที่มีความร่มรื่น เงียบสงบ,  โซน The Core Terrain สวนที่มีลานกิจกรรม และตรงกลางคือ The Core Pavilion เป็นอาคาร Fitness และ Co-Working Space เทียบกับค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน ถือว่าเหมาะสมค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 69,000  บาท/ตร.ม., 11 พฤศจิกายน 2567

  • ทำเล 8/10 –  ติดถนนใหญ่ลำลูกกา มี  Lifestyle Mall และร้านอาหารในระยะเดิน
  • เดินทางด้วยรถ 8.5/10 – อยู่บนถนนลำลูกกาตอนต้น ใกล้ทางด่วนถนนกาญจนาภิเษก
  • ไม่ใช้รถ 8.5/10 – ใกล้ BTS คูคตเดินได้สบายๆ มีรถ Taxi รถประจำทางให้บริการ
  • วัสดุ 7.5/10 – Fully Furnished ให้มาครบตามมาตรฐาน
  • แบบ 8.5/10 – มีห้องพักอาศัยให้เลือกหลากหลาย, มีห้อง Duplex ที่หายากในย่านนี้
  • สาธารณูปโภค 8/10 – ครบครันตามมาตรฐาน บรรยากาศดีน่าใช้งาน

  • SUPER ECONOMY CLASS
  • 7.44 / 10.00

Nue Core Khu khot Station (นิว คอร์ คูคต สเตชัน) เหมาะกับใคร

โครงการ Nue Core Khu Khot Station เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวแบบเดินได้สบายๆ ในราคาเริ่มต้นไม่เกิน 2 ล้านบาท หาของกินสะดวก ชอบโครงการขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ส่วนกลางมาให้เยอะ อยู่ได้ตั้งแต่ 1 – 4 คน เพราะมีห้องให้เลือกเยอะตั้งแต่ Studio ไปจนถึง Duplex 2 ห้องนอน ชอบโครงการที่มีเฟอร์นิเจอร์ครบ  โดยมีงบประมาณ 1.59 – 5 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 7,000 – 30,000 บาท/เดือน


Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่