Modiz Avantgarde คอนโด High Rise บนถนนคลองหลวง ตรงข้าม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต จาก Assetwise [รีวิวฉบับที่ 2580]

Modiz Avantgarde (โมดิซ อาวองการ์ด) ณ วันที่ 18 กรกฎาคม 2566

พิกัด Google Maps : 14.063944898903262, 100.60835706716367
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

Modiz Avantgarde (โมดิซ อาวองการ์ด) ตั้งอยู่บนถนนคลองหลวง (ถนนเชียงราก) ตรงข้ามกับม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ซึ่งโครงการจะอยู่ตรงข้ามกับประตูเชียงราก 2 ซึ่งเป็นทำเลที่เต็มไปด้วยหอพักอาศัย และคอนโดมิเนียม เนื่องจากมีความต้องการอยู่อาศัยทั้งจากนักศึกษาที่ม.ธรรมศาสตร์เอง พนักงานที่ทำงานที่สถานศึกษา เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ สวทช. รวมไปถึงพนักงานที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมนวนครที่อยู่ไม่ไกลด้วย

ซึ่งโครงการนี้ก็ไม่ได้เพียงแค่ตอบโจทย์นักศึกษา หรือคนที่ทำงานในย่านนี้เท่านั้น แต่ยังเป็นที่น่าสนใจของกลุ่มนักลงทุน ที่ต้องการซื้อปล่อยเช่าอีกด้วย เพราะหอพักบางแห่งก็มีราคาค่าเช่า เทียบเท่ากับผ่อนคอนโดมิเนียมได้เลย อีกทั้งในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีแดง (ช่วงบางซื่อ – รังสิต) มาลงที่หน้าม.ธรรมศาสตร์เลย ซึ่งคาดรถไฟฟ้าสายสีแดงนี้จะเปิดให้บริการในปี 2569 ทำให้การเดินทางสะดวกสบายยิ่งขึ้น ขยายกลุ่มเป้าหมาย คนที่อยากได้คอนโดใกล้รถไฟฟ้า ทำงานในเมือง หรือในโซนดอนเมือง

สำหรับผู้ที่มองหาคอนโดเพื่อการลงทุน ค่าเข้าหอพักใน โซนนี้จะมีราคาเฉลี่ย 6,000-10,000 บาท/เดือน ส่วนคอนโดในโซนนี้มีทั้งแบบ Low Rise และ High Rise เลย โดยคอนโด High Rise ส่วนใหญ่จะอยู่ฝั่งเดียวกับ ม. ธรรมศาสตร์ ทำให้เดินทางเข้ามหาลัยได้ง่าย ราคาเช่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 13,000-20,000 บาท/เดือน ส่วนคอนโดฝั่งตรงข้ามมหาลัยส่วนใหญ่จะเป็นคอนโด Low Rise ที่จะต้องเดินทาง ไกลกว่าสักหน่อย แต่ส่วนใหญ่จะมีรถรับ-ส่งถึงมหาลัยเลย ซึ่งราคาปล่อยเช่าจะจับต้องได้ง่ายกว่าอยู่ที่ 8,000- 13,000 บาท/เดือน

การใช้รถใช้ถนนในโซนนี้ถือว่าสะดวกเลย ที่ตั้งโครงการอยู่ไม่ไกลจากทางด่วนอุดรรัถยา ระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตรเท่านั้น และห่างจากทางยกระดับอุตราภิมุขประมาณ 12 กิโลเมตร เดินทางสะดวก รถไม่ค่อยติด แต่ก็แลกมากับค่าบริการที่ค่อนข้างสูง นอกจากนั้นใครที่ทำงานที่นิคมนวนครก็อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 11.6 กิโลเมตรเท่านั้นเองค่ะ

การเดินทางไปยังม.ธรรมศาสตร์ ทางโครงการได้จัดให้มี Shuttle Service คอยรับ-ส่งไปจนถึงฝั่งมหาลัยเลยค่ะสะดวกสบาย (รายละเอียดต่างๆโปรดสอบถามโครงการอีกครั้ง*) อีกทั้งในอนาคตมีแผนว่าจะก่อสร้างสะพานลอยให้ข้ามไปได้สะดวก โดยจะมีระยะทางจากโครงการถึงประตูทางเข้ามหาลัย ประตูเชียงราก 2 ประมาณ 400 เมตร ซึ่งเดินไปอีกหน่อยก็จะถึงท่ารถตู้ที่เพิ่งย้ายมาใหม่ ตรงบริเวณด้านหน้าคณะสถาปัตย์แล้วค่ะ นอกจากนั้นยังมีพวกรถราง NGV ที่นักศึกษาใช้เดินทางไปเรียนตามอาคารต่างๆในมหาลัยได้ฟรีด้วยนะ

การเดินทางด้วยรถยนต์ไป ม. ธรรมศาสตร์ สำหรับขาไปนั้น เราจะต้องไปกลับรถมาก่อน แล้วจึงเลี้ยวซ้ายเข้ามหาลัย ที่ประตูเชียงราก 1  ซึ่งใกล้สุด มีระยะทางประมาณ 3.4 กิโลเมตร ส่วนขากลับออกทางประตูเชียงราก 2  จะใกล้โครงการที่สุด ซึ่งต้องไปกลับรถก่อนเช่นกัน แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าโครงการ มีระยะทางประมาณ 1.8 กิโลเมตร

ทำเลในโซนนี้ เราสามารถแบ่งแยกโซนที่พักอาศัยของถนนเชียงรากออกได้อีกเป็น 4 โซน ซึ่งแต่ละโซนก็จะมีลักษณะ สภาพแวดล้อม และความเป็นอยู่ที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

1. U-Square : เป็นโซนที่อุดมสมบูรณ์และใกล้กับประตูมหาวิทยาลัยมากที่สุด มีหอพักนักศึกษาขึ้นอย่างหนาแน่น และมีร้านค้าต่างๆ หลายแห่ง เรียกได้ว่าเป็นโซนที่สะดวกสบาย ความอุดมสมบูรณ์สูง แต่ก็พลุกพล่านมากที่สุดโซนหนึ่ง ซึ่งหากใครที่ชื่นชอบความเงียบสงบและเป็นส่วนตัว ก็อาจยังไม่เหมาะกับโซนนี้นะคะ
2. SUNTA : เป็นโซนที่ตั้งโครงการ อยู่ฝั่งตรงข้ามกับมหาลัยและ U-Square ซึ่งสามารถเดินข้ามไป – มาได้ด้วยสะพานลอย อาหารการกินก็พอจะมีตรงบริเวณริมถนนและปากซอยต่างๆ แต่ส่วนใหญ่น้องๆนักศึกษาก็จะหาซื้อของกินกันตั้งแต่ฝั่ง U-Square เสร็จแล้วค่อยข้ามฝั่งเพื่อกลับไปยังที่พักได้ โซนนี้จึงถือว่ายังมีความสะดวกสบาย และเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นมาหน่อย ไม่พลุกพล่านเหมือนฝั่งมหาลัย เหมาะแก่การอยู่อาศัยมากขึ้นค่ะ
3.  J-Park : เป็นอีกโซนที่อยู่ฝั่งเดียวกับมหาวิทยาลัย แต่จะอยู่บริเวณด้านหลัง ถ้าออกมาจากม. ก็จะต้องไปกลับรถมาก่อน 2 รอบ โซนนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นโซนที่มีหอพักราคาสูงอย่าง J-Park ตั้งอยู่ ด้านหน้ามี Plaza เป็นของตัวเอง ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และยังมีหอพักอื่นๆอยู่ด้านในซอยอีกด้วย จึงเป็นอีกหนึ่งทำเลที่ถือว่าสงบมากกว่า U-Square เพราะเดิมทีโดยรอบเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยดั้งเดิมค่ะ
4. Golf View : โซนนี้ถือว่าเป็นโซนที่แยกตัวออกมาจากโซนอื่นๆ และได้ตั้งอาณาจักรขึ้นมาเป็นของตัวเองด้านใน แต่ด้วยความที่มันไกลและเดินทางลำบากมากสุดในบรรดาทุกๆโซน จึงทำให้ราคาหอพักค่อนข้างถูก เหมาะกับนักศึกษาที่ไม่เน้นเรื่องความอุดมสมบูรณ์ ไม่กลัวเรื่องเดินทางลำบาก แต่อันที่จริงแล้วทางหอก็มีรถรับ – ส่งนะคะ ดังนั้นถ้าใครที่เน้นเรื่องราคาถูกและความเป็นส่วนตัวก็จะเลือกอยู่ที่โซนนี้กันค่ะ

บรรยากาศความอุดมสมบูรณ์ของ U-Square ที่เป็นเหมือนเต็นท์และศูนย์อาหารขนาดใหญ่ของโซนนี้ ซึ่งจะมีน้องๆ นักศึกษาและพนักงานงานแถวนั้นแวะมาจับจ่ายใช้สอยกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืน อีกที่หนึ่งก็คือ TU Dome โครงการ Mixed-use ของมหาลัย ที่ด้านในจะเป็นหอพักนักศึกษา และด้านหน้าจะทำเป็นเหมือนศูนย์การค้า หรือ Community Mall ที่มีร้านค้าต่างๆค่อนข้างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น MK, Yayoi, Chester’s Grill และ Watson เป็นต้น รวมถึงบริเวณด้านหน้าก็จะมีตลาดนัดเล็กๆ ที่เปิดทุกวันให้เดินด้วยค่ะ เรียกได้ว่าเป็นโซนมหาลัยที่มีความคึกคักมากๆ เลย

สำนักงานขาย

พิกัด Google Maps : 14.065652821842338, 100.61129773334896
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

ปัจจุบันทางโครงการ Modiz Avantgarde เปิดสำนักงานขายให้ชมห้องตัวอย่างกันแล้ว โดยที่ตั้งของสำนักงานขายอยู่แถว Mingle Market หน้าม.ธรรมศาสตร์ ประตูเชียงราก 2 เลยค่ะติดถนนคลองหลวง สังเกตเห็นได้ง่าย  พร้อมมีที่จอดรถรองรับอยู่เรียบร้อย เข้าไปเยี่ยมชมกันได้ค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ Modiz Avantgarde ส่วนใหญ่ เป็นอาคารแนวราบ และที่ว่างเปล่า ถือว่าค่อนข้างโล่งทีเดียว จะมีก็แต่อาคาร KAVE AVA ที่อยู่ข้างๆ แต่ก็เป็นคอนโด 8 ชั้น ที่ระยะห่างระหว่างอาคารก็ถือว่าไม่ได้กระชั้นชิดจนเกินไป ดังนั้นห้องพักตั้งแต่ชั้น 9 ขึ้นไป ก็ได้วิวโล่งโดยรอบแล้วค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• ฟลิค ทียู – 3.4 กิโลเมตร
• แม็คโคร – 3.5 กิโลเมตร
• ธรรมศาสตร์ เอกซ์ตรีม พลาซ่า – 3.8 กิโลเมตร
• เทสโก้ โลตัส คลองหลวง 3.8 กิโลเมตร
• ตลาดไท – 4.3 กิโลเมตร
• ตลาดนัดอินเตอร์โซน (ตลาดกลางคืน ธรรมศาสตร์) – 4.7 กิโลเมตร
• มิงเกิ้ล มอลล์ – 4.9 กิโลเมตร
• ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต – 11.1 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ – 2.9 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลภัทร-ธนบุรี – 6.4 กิโลเมตร

สถานศึกษา

• อุทยานเรียนรู้ป่วย 100 ปี – 2.8 กิโลเมตร
• ศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ – 3.3 กิโลเมตร
• สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ – 3.4 กิโลเมตร
• หอสมุดป่วย อึ้งภากรณ์ – 3.6 กิโลเมตร
• ศูนย์การเรียนรู้กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ – 3.6 กิโลเมตร
• อาคารเรียนรวมสังคมศาสตร์ (SC) – 3.8 กิโลเมตร
• โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ – 4.5 กิโลเมตร

สถานที่อื่นๆ

• ศูนย์ประชุม ธรรมศาสตร์รังสิต – 2.7 กิโลเมตร
• จุดขึ้น – ลง ทางด่วนอุดรรัถยา – 3.5 กิโลเมตร
• กิติยาคาร – 3.7 กิโลเมตร
• อาคารโดมบริหาร – 3.9 กิโลเมตร
• สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และ – 4.3 กิโลเมตร
• เทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) – 4.3 กิโลเมตร
• สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) – 4.5 กิโลเมตร

Modiz Avantgarde (โมดิซ อาวองการ์ด) ถือเป็นคอนโดภายใต้แบรนด์ ‘Modiz’ จาก Assetwise โครงการที่ 2 บนทำเลนี้ หลังจากที่โครงการรุ่นพี่อย่าง Modiz Launch ได้ Sold Out เป็นที่เรียบร้อย โดยโครงการนี้จะมีให้เลือกทั้งห้องแบบปกติ และห้องฝ้าเพดานสูงเลย เน้นการดีไซน์ห้อง และส่วนกลางที่เจาะกลุ่มคนวัยทำงานมากขึ้น ดูโตขึ้น แตกต่างจาก Kave Ava และ Kave Tu โครงการก่อนหน้าจาก Assetwise  ที่ห้องและส่วนกลางถูกดีไซน์มาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นักศึกษาเป็นหลัก

Modiz Avantgarde เป็นโครงการที่ประกอบไปด้วยคอนโด High Rise 36 ชั้น และอาคารจอดรถ 9 ชั้น บนที่ดินเกือบ 4 ไร่ จำนวน 750 ยูนิต จุดเด่นคือส่วนกลางที่ให้มาเยอะ 42 รายการ กระจายตัวแบ่งเป็น  3 โซน ที่ 3 ระดับความสูง ภายใต้แนวคิด FORESIGHT THE FUTURE ดูทันสมัยแปลกตา ดังนี้

• GROUND ชั้น 1

1. Jogging Track
2. Pavilion
3. Sitting Area
4. Take a Breath
5. Avantgarde Lounge
6. The Gin Mill
7. Tete-a-Tete Seat
8. Brainstorm Workshop
9. Meeting Workshop
10. Creative Workshop
11. Teachpot
12. Wash & Dry
13. Mailbox

• MIDDLE ชั้น 7

12. Relax Co-Working
13. Cozy Amphitheater
14. Chilling Area
15. Moon Lounge
16. Surf Skate
17. Cover Dance Outdoor
18. Co-Kitchen Room
19. Levee Room
20. Co-Library
21. Co-Working Area
22. Study Capsule
23. Take a Nap Zone
24. Private Meeting Area
25. Cover Dance Outdoor
26. Moon Lounge
27. Roof Garden

• CLOUD ชั้น 35-36

28. Boxing Room Bar & Lounge
29. Yoga & Cover Dance
30. Health Station
31. Avantgarde Gym
32. Modiz Entertainment
33. The Play Room
34. Theater & Karaoke Room
35. Bar & Lounge
36. Sky Lounge
37. Relax Sauna
38. Panoramic Lap Pool
39. Jacuzzi
40. Sunbath
41. Fountain
42. The Heaven Terrace

GROUND ชั้น 1 : ทางเข้าออกโครงการอยู่ติดกับ ถนนเลียบคลองหนึ่ง โดยด้านหน้ามีป้อม รปภ. คอยดูแลความปลอดภัยอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงเลย โดยระบบในการเข้าออกใช้เป็น Key Card Access พร้อมมีระบบ CCTV คอยดูแลอยู่ด้วยครบเลย โดยตัวอาคารจะอยู่ห่างจากประตูเข้าออกประมาณหนึ่งเลย ซึ่งมีข้อดีคือ มีระยะห่างจากถนนหลักเยอะขึ้น ลดฝุ่น ลดเสียงรบกวนได้ระดับหนึ่งด้วย

เมื่อเข้ามาแล้วส่วนแรกจะเจอกับทางเข้า-ออก อาคารจอดรถ ถัดเข้ามาอีกหน่อยเป็น drop-off รับ-ส่ง ลูกบ้านได้  โดยสามารถจอดส่งแล้ววนออกได้เลย หรือจะวนรอบคอนโด แล้วไปที่อาคารจอดรถก็ได้ค่ะ โดยอาคารจอดมีทั้งหมด 9 ชั้น ภายในมีลิฟต์ รองรับอยู่ 2 ตัว สะดวกสบาย โดยที่จอดเป็นแบบปกติทั้งหมด 330 คันคิดเป็น 44% (รวมจอดซ้อนคัน) ถือว่าไม่เยอะมาก แต่ก็โอเคเพราะมี Shuttle Service รับ-ส่ง ไปยังม.ธรรมศาสตร์ให้ด้วย สะดวกดีทีเดียวค่ะ (ส่วนรายละเอียดในการรับส่ง โปรดสอบถามข้อมูลจากทางโครงการอีกครั้งค่ะ)

สำหรับส่วนกลางชั้น 1 ของลูกบ้านจะเน้นเป็นพื้นที่ต้อนรับ อย่าง Avantgarde Lounge ,The Gin Mill, Tete-a-Tete Seat และพื้นที่รองรับการทำงานอย่าง  Brainstorm Workshop, Meeting Workshop, Creative Workshop, Teachpot  นอกจากนั้นยังมีส่วน Service อย่างห้องซักผ้า และ Mail Room คอยให้บริการอยู่ครบครันเลยค่ะ

โดยตัวอาคารจะอยู่ห่างจากประตูเข้าออกประมาณหนึ่ง ซึ่งด้านข้างถนนหลักตรงนี้จะมีการออกแบบเป็นสวน พร้อมทางเดินเข้าโครงการที่ใช้วิ่งออกกำลังกายเป็น Jogging Track ได้ พร้อมมีการลงต้นไม้พุ่ม ไม้ยืนต้นไว้  เวลาเดินเข้าออกก็จะได้ร่มเงา อีกทั้งยังดูร่มรื่นสดชื่นดีด้วยนะคะ

เข้ามาแล้วจะเจอกับทางเข้า-ออก อาคารจอดรถ ถัดเข้ามาอีกหน่อยเป็น drop-off รับ-ส่ง ลูกบ้าน ซึ่งมีหลังคาคลุมอยู่ด้วยกันแดดกันฝนได้ประมาณหนึ่งเลย โดยภายนอกอาคารมีการออกแบบเป็นพื้นที่สวน Pavilion และพื้นที่นั่งเล่น เอาไว้ในนั่งเล่นพักผ่อนอยู่หลายจุดเลยด้วยค่ะ

Avantgarde Lounge จัดเอาไว้เป็นพื้นที่ต้อนรับ ดูโอ่อ่าอลังการด้วยฝ้าเพดานสูง และ การตกแต่งภายใน บวกกับ Lightning ที่ดูแปลกตา ในโทนสีสว่างขาว ฟ้า น้ำเงิน สวยงามเป็นหน้าเป็นตาทีเดียวค่ะ

The Gin Mill จัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น และพื้นที่ทำงาน อยู่ในบริเวณเดียวกัน ใครอยู่ห้องแล้วอยากเปลี่ยนบรรยากาศก็มานั่งทำงานที่นี่ได้ค่ะ

Tete-a-Tete Seat จัดเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อน หรือใช้รับแขกได้ กรณีไม่สะดวกให้ขึ้นห้อง มีชุดเก้าอี้โซฟา รองรับอยู่หลายจุดเลย

Workshop Area เป็นพื้นที่นั่งทำงานโซนด้านใน จริงจังมากขึ้น จัดเป็นชุดโต๊ะเก้าอี้พร้อมการตกแต่งภายในที่ดูเหมือนคาเฟ่ ชิลๆ ภายในมี pantry เล็กๆ รองรับอยู่ด้วย ใช้เตรียมอาหารเตรียมขนมระหว่างที่นั่งทำงานกันได้ค่ะ

Workshop Area ภายในมีมุมนั่งทำงานอยู่หลากหลายจุดเลย จะนั่งทำงานคนเดียว หรือนั่งทำงานเป็นกลุ่มร่วมกันก็ได้ค่ะ

MIDDLE ชั้น 7 : เป็นทั้งชั้นส่วนกลาง และชั้นพักอาศัยเลย โดยส่วนกลาง จะเน้นเป็นพื้นที่นั่งทำงานรูปแบบต่างๆ ทั้ง Co-Library, Co-Working Area, Study Capsule อีกทั้งมีห้องประชุม Private Meeting Area กั้นแยกจากโซนอื่นๆ ไว้ให้ใช้งานได้จริงจังเลยด้วย หรือใครติวหนังสือมาทั้งวันอยากงีบหลับเอาแรงสักหน่อย ก็มี Take a Nap Zone รองรับอยู่ด้วย ส่วนใครชอบทำอาหารก็มี Co-Kitchen Room ไว้ให้แสดงฝีมือ ชวนเพื่อนๆมาทำกิจกรรมร่วมกันได้ค่ะ

นอกจากนั้นที่ชั้น 7 นี้ยังตรงกับชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถพอดี โดยมีทางเดินเชื่อมกันได้ ซึ่งหากใครจอดรถที่อาคารจอดแล้วก็ใช้ลิฟต์กดขึ้นมายังชั้น 7 แล้วเดินเชื่อมมายังตัวคอนโดได้เลยด้วยค่ะ โดยชั้นดาดฟ้าอาคารจอดรถออกแบบไว้เป็นพื้นที่สวนที่ภายในมีฟังก์ชันต่างๆ รองรับการทำกิจกรรม Outdoor ไว้หลากหลายแบบเลย

ชั้นดาดฟ้าอาคารจอดรถออกแบบไว้เป็นพื้นที่สวนที่มีฟังก์ชันต่างๆรองรับกิจกรรมสันทนาการต่างๆ อย่าง Surf Skate , Cover Dance Outdoor , Cozy Amphitheater หรือใครจะมานั่งเล่นพักผ่อนชมวิวก็มี Relax Co-Working , Chilling Area , Moon Lounge รองรับอยู่ครบเลย

Co-Working Area เป็นห้องฝ้าเพดานสูง ที่ภายใน จัดเป็นชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งทำงานอ่านหนังสือหรือจะมานั่งพักผ่อนก็ได้ค่ะ เป็นห้องที่อยู่ติดกับหน้าต่างกระจกสูงเต็มบานได้แสงธรรมชาติค่อนข้างดี

Study Capsule & Take a Nap Zone ที่ฝั่งซ้ายมือมีแคปซูลสำหรับนั่งติวหนังสือกันได้เงียบๆ เป็นส่วนตัวมากขึ้น หรือใคร ที่อ่านหนังสือมาทั้งวันอยากงีบหลับพักสายตาก็มี Take a Nap Zone รองรับอยู่ครบเลยค่ะ

Private Meeting Area เป็นห้องประชุมกันแยกจาก โซนอื่นๆ เอาไว้ชัดเจนได้ความเป็นส่วนตัวสามารถประชุมงานกันเป็นกลุ่มหรือนัดกันมา present งานก็ได้ ภายในมีหน้าจอรองรับอยู่ครบเลย

Co-Kitchen Room & Levee Room จัดเอาไว้เป็นพื้นที่ครัว ที่มีเคาน์เตอร์ครัวขนาดใหญ่พร้อม island กลางที่วาง เก้าอี้ทานอาหารได้เยอะ ฟีล chef table ใครชอบทำอาหาร อยากชวนเพื่อนๆ มาชิมฝีมือ พื้นที่ตรงนี้เหมาะเลยนะ

CLOUD ชั้น 35-36 : โดยสองชั้นนี้จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด เต็ม Floor ออกแบบให้สามารถเทควิวมุมสูงได้กว้าง ทุกฟังก์ชัน ถือเป็นอีกหนึ่ง Highlights ของโครงการเลยค่ะ

ชั้น 35 เป็นอีกหนึ่งชั้นส่วนกลางหลักที่ประกอบไปด้วยพื้นที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส ขนาดใหญ่ที่ภายในมีห้องต่อยมวยและห้องสำหรับโยคะ และ Cover dance ได้ ส่วนห้องทางฝั่งทิศเหนือ จะเน้นเป็นพื้นที่พักผ่อน และ entertainment ต่างๆ ทั้ง ห้องคาราโอเกะ Theater & Karaoke Room , Modiz Entertainment , The Play Room ชวนเพื่อนเพื่อนมาสังสรรค์พักผ่อนกันได้ค่ะ

Avantgarde Gym เป็นห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ ที่ภายในมีการตกแต่ง Lighting ให้ดูเข้ากับคอนเซปต์ Avantgarde มากขึ้นดู Futuristic แปลกตาดีเลยค่ะ

Avantgarde Gym ภายในห้องมีเครื่องออกกำลังกายครบครันทั้ง weight training และ cardio พร้อมหน้าต่างกระจกสูงเต็มบ้านดูโปร่งโล่ง เหมาะต่อการออกกำลังกายดีเลยค่ะ

Yoga & Cover Dance เป็นห้องกั้นแยก อยู่บริเวณเดียวกันกับส่วนฟิตเนส ภายในเป็นห้องโล่งกว้างพร้อมมีกระจกเงาบานใหญ่ สามารถโยคะ หรือ cover dance แบบกลุ่มร่วมกันได้ พาเพื่อนๆ มาทำกิจกรรมได้สะดวกเลยค่ะ

Boxing Room เป็นอีกหนึ่งห้องที่กั้นแยกจากส่วนฟิตเนส สำหรับชกมวยออกกำลังกายภายในมีอุปกรณ์อยู่ครบครัน ใครที่ชอบออกกำลังกายแนวนี้ ถูกใจแน่นอนค่ะ

Sky Lounge เป็นส่วนกลางที่อยู่ในโซนทิศเหนือของอาคารเน้นเป็นส่วนพักผ่อนหลากหลายรูปแบบ โดย Sky Lounge  จัดวางชุดที่นั่งพักผ่อนเอาไว้จำนวนมากภายในห้องฝ้าเพดานสูง ที่เน้นการตกแต่งภายใน และ lighting ที่ดูแฟนตาซีล้ำยุค แปลกตาดี

Bar & Lounge อยู่ในบริเวณเดียวกันกับ Sky Lounge เป็นพื้นที่บาร์เล็กๆ พาเพื่อนมาปาร์ตี้สังสรรค์ พร้อมชมวิวมุมสูงพร้อมกันได้เลย บรรยากาศดีทีเดียว

Modiz Entertainment เป็นห้องที่จัดเอาไว้สำหรับเล่นเกมพร้อมกันได้เป็นทีม ภายในมีคอมพิวเตอร์และชุดโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งได้สบายๆ ถูกใจเหล่า gamer แน่นอนค่ะ

The Play Room เป็นห้องนั่งเล่นพักผ่อน ที่ตรงกลางจัดวางเป็นโต๊ะพูล พาเพื่อนๆมาพักผ่อน เล่นเกมด้วยกันได้ อีกทั้งยังเป็นห้องที่ได้หน้าต่างกระจกสูงเต็มบานด้วยเช่นกัน เทควิวมุมสูงได้บรรยากาศดีเลย

ชั้น 36  เน้นเป็นพื้นที่ส่วนกลาง Outdoor ที่มีลิฟต์ขึ้นมาถึงชั้นนี้ได้เลยด้วย สะดวกสบาย โดยจะมี สระว่ายน้ำ ยาวถึง 31 เมตร สามารถใช้ออกกำลังกายได้จริงจัง ภายในมี  jacuzzi ให้มาแช่พักผ่อนกันได้ อีกทั้งรอบๆ ก็มีพื้นที่นั่งเล่นชมวิว และพื้นที่สวนคอยให้ความร่มรื่น พร้อมมีห้องน้ำขนาดใหญ่แยกชาย-หญิง สามารถอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนกลับห้องได้เลย

Relax Sauna นอกจากนั้นในชั้นนี้ยังมี sauna รองรับอยู่ด้วยแยกชายหญิงอยู่ภายในห้องน้ำเป็นสัดส่วนดีเลย

ชั้นพักอาศัย

Modiz Avantgarde ออกแบบผังอาคารเป็น L-shape โถงทางเดินส่วนแบบ Double Corridor มีห้องพัก 2 ฝั่ง ซึ่งออกแบบให้มีช่องหน้าต่างอยู่หลายจุดเลย ทำให้โถงดูสว่าง และเปิดระบายอากาศได้ ดูไม่อึดอัด ลิฟต์โดยสาร 3 ตัวต่ออาคาร หรือคิดเป็น 250 :  1 ซึ่งถือว่าค่อนข้างเยอะทีเดียว ในช่วงเวลาเร่งด่วนอาจจะต้องเผื่อเวลากันสักหน่อยค่ะ

ห้องพักอาศัยส่วนใหญ่หันทางทิศเหนือซึ่งร่มทั้งวัน และใต้ที่ได้ลมค่อนข้างดี ส่วนที่หันฝั่งทิศตะวันออกจะได้แดดเช้าตอนบ่ายร่ม ก็มีอยู่บ้างเหมือนกัน ส่วนตำแหน่งห้องที่น่าสนใจก็มีหลายจุดเลย ดังนี้

• ห้องในเส้นประสีน้ำเงิน เป็นห้องมุมที่ติดเพื่อนบ้านฝั่งเดียว และมีโถงทางเดินแยกเป็นส่วนตัว คนเดินผ่านห้องน้อย ซึ่งทั้งหมดเป็นห้องไซส์ใหญ่ 1 Bedroom Plus ค่ะ
• ห้องในเส้นประสีแดง มีหลากหลาย Type เลย เป็นห้องที่ติดเพื่อนบ้านฝั่งเดียวได้ความเป็นส่วนตัวดี ยิ่งห้องที่อยู่ไกลจากโถงลิฟต์ ก็จะมีคนเดินผ่านหน้าห้องน้อย สงบมากยิ่งขึ้น แต่ก็จะแลกกับการต้องเดินไกลสักหน่อยค่ะ

ชั้นพักอาศัย ห้องปกติ Simplex

ชั้นพักอาศัย ห้องฝ้าเพดานสูง Vertical Suite

ห้องฝ้าเพดานสูง Vertical Suite จะอยู่ที่ชั้น 7 , 26 และ 34 เต็ม Floor โดยชั้น 7 จะเป็นชั้นที่ตรงกับชั้นส่วนกลางพอดี ตอบโจทย์คนที่ชอบใช้ส่วนกลาง เดินไปอาคารจอดรถได้ใกล้ๆ เลยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• GROUND (1st FL.)

1. Jogging Track
2. Pavilion
3. Sitting Area
4. Take a Breath
5. Avantgarde Lounge
6. The Gin Mill
7. Tete-a-Tete Seat
8. Brainstorm Workshop
9. Meeting Workshop
10. Creative Workshop
11. Teachpot
12. Wash & Dry
13. Mailbox

• MIDDLE (7th FL.)

12. Relax Co-Working
13. Cozy Amphitheater
14. Chilling Area
15. Moon Lounge
16. Surf Skate
17. Cover Dance Outdoor
18. Co-Kitchen Room
19. Levee Room
20. Co-Library
21. Co-Working Area
22. Study Capsule
23. Take a Nap Zone
24. Private Meeting Area
25. Cover Dance Outdoor
26. Moon Lounge
27. Roof Garden

• CLOUD (35th FL.)

28. Boxing Room Bar & Lounge
29. Yoga & Cover Dance
30. Health Station
31. Avantgarde Gym
32. Modiz Entertainment
33. The Play Room
34. Theater & Karaoke Room
35. Bar & Lounge
36. Sky Lounge

(36th FL.)

37. Relax Sauna
38. Panoramic Lap Pool
39. Jacuzzi
40. Sunbath
41. Fountain
42. The Heaven Terrace

• สวนหย่อมที่ชั้น 1, 7 และ 36
• สระว่ายน้ำระบบ เกลือ ขนาด 31×5เมตร ลึก 1.20 เมตร
• ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 250 :  1
• Service Lift 1 ตัว
• ที่จอดรถประมาณ 330 คันคิดเป็น 44% (รวมจอดซ้อนคัน)
• EV Charger 2 จุด
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card (แบบล็อกชั้น)

Modiz Avantgarde (โมดิซ อาวองการ์ด) มีแบบห้องหลากหลายขนาดเลย เน้นเป็นห้องสำหรับ 1 – 2 คน ไปจนถึงห้องสำหรับครอบครัวขยาย อยู่กันเป็นพ่อแม่ลูกได้สบาย มีทั้งห้องแบบปกติ และห้องฝ้าเพดานสูง ซึ่งถือเป็นโปรดักส์ที่ไม่ค่อยเห็นในโซนนี้นะคะ ซึ่งราคาเปิดตัวอยู่ที่ 1.79 ล้านบาท* ดังนี้

• Simplex
  – Studio ขนาด 22.30 – 23.10 ตร.ม.
  – 1 Bedroom ขนาด 24.10 – 24.90 ตร.ม
  – 1 Bedroom Exclusive ขนาด 26.40 – 27.20 ตร.ม.
  – 1 Bedroom Plus ขนาด 34.90 ตร.ม.
• Vertical Suite
  – 1 Bedroom พื้นที่โฉนด 22.3-26.9 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยรวม 32.9-39.4 ตร.ม.
  – 1 Bedroom Plus พื้นที่โฉนด 34.90 – 35.0 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยรวม 53.6-53.8 ตร.ม.

โดยห้องที่นี่ขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักในห้องมาครบ จากแบรนด์ Oly by OLIVIA LIVING พร้อมเครื่องปรับอากาศครบ สิ่งที่ต้องหาเพิ่มเติมก็จะมีพวก ชุดเครื่องนอน หมอนฟูก ผ้าม่าน เครื่องใช้ไฟฟ้า ก็สามารถหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ หรือปล่อยเช่าได้ทันทีค่ะ

วัสดุภายในห้อง

• พื้นห้อง ปู SPC
• พื้นระเบียง ปูกระเบื้องเซรามิก 30×30 ซม.
• ห้องน้ำ ผนังปูกระเบื้องแกรนิตโต / พื้นปูกระเบื้องเซรามิก 30×30 ซม.
• ผนังทั่วไปเป็น ฉาบเรียบทาสีขาว
• บันไดในห้อง Vertical Suite ไม้ยางประสานโทนสีเดียวกับพื้นห้อง และราวกันตกกระจก มือจับ Stainless
• Built-in ครัว ท็อปหินสังเคราะห์, ชุดอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า 2 หัว ที่ดูดควันแบบหมุนเวียน จาก TEKA / Backsplash กระเบื้องสีขาว
• สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำ อ่างล้างหน้า และโถสุขภัณฑ์ COTTO / ที่อาบน้ำจาก American Standard  พร้อมฉากกั้นอาบน้ำกระจก / รองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.65 เมตร ในแบบ Simplex / 4.7 เมตร ในแบบ Vertical Suite ฝ้าฉาบเรียบทาสีขาว
• ปลั๊กและสวิตช์ ยี่ห้อ Schneider
• เครื่องปรับอากาศ Wall Type ยี่ห้อ DaiKin หรือเทียบเท่า จำนวน 1-2 เครื่อง (แล้วแต่ขนาดห้อง)
• Digital Door Lock จาก Yale ใช้งานได้ 5 ระบบ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

1 Bedroom Exclusive B2

1 Bedroom Exclusive ขนาด 26.8 ตร.ม. เป็นแบบที่มี 2 ห้องต่อชั้น หันทางทิศเหนือทั้งหมด ซึ่งร่มตลอดวัน ไม่ค่อยโดนแดด อยู่สบาย ภายในห้องจัดฟังก์ชันมาได้ลงตัว เหมาะสำหรับอยู่ 1-2 คน ในราคาเริ่มต้น  2.73 ล้านบาท* ส่วนจุดที่น่าสนใจมีดังนี้

• Living Area จัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น+ทานอาหารได้ อีกทั้งเชื่อมต่อกับห้องนอน ด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ทำให้ภายในห้องดูโปร่ง กว้าง ได้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาทั่วถึงทั้งห้องได้
• ห้องนอนกั้นเป็นสัดส่วน จากห้องนั่งเล่น สามารถใช้พื้นที่พร้อมกันได้ 2 ฟังก์ชันโดยไม่รบกวนกันได้ นอกจากนั้นยังมีข้อดีตรงที่ไม่เปลืองแอร์ด้วยนะ
• ครัวแบบปิด ติดระเบียง สามารถทำอาหารได้โดยไม่มีกลิ่นไปรบกวนในส่วนพื้นที่นั่งเล่น แถมอยู่ติดระเบียงด้วย ทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่องกันดีค่ะ
• แยกส่วน Service ชัดเจน อยู่ในฝั่งเดียวกันเลย โดยมีโถงแยกจาก Living Area เป็นสัดส่วน ซึ่งบริเวณโถงมีโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ด้วย อยู่บริเวณหน้าห้องน้ำพอดี ใช้งานได้ต่อเนื่องกันเลยค่ะ
• พร้อมเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลัก ดังนี้

เฟอร์นิเจอร์ที่ได้ภายในห้อง เป็นของแบรนด์ Oly by OLIVIA LIVING ซึ่งเป็นแบรนด์ดีไซเนอร์ ที่ดูสวยงามดีเลย แต่เนื่องจากโครงการเพิ่งเปิดตัว ภายในห้องตัวอย่างจึงไม่ได้ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ได้ตามรายการนี้นะคะ แต่ขนาดจะค่อนข้างใกล้เคียงกันเลย ส่วนบรรยากาศในห้องตัวอย่างจะเป็นอย่างไรไปชมกันค่ะ

มาเริ่มกันที่ส่วนประตูหลักกันก่อนค่ะ จะติดตั้ง Digital door lock ยี่ห้อ Yale ใช้งานได้ 5 ระบบ

เมื่อเข้ามาแล้วห้องนี้เราจะเจอกับส่วน Living area ที่เชื่อมต่อกับห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อนทำให้ได้แสงสว่างค่อนข้างดีเลยค่ะ โดยห้องนี้หน้ากว้าง 3 เมตร ลึก 3.2 เมตร สามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น + พื้นที่ทานอาหารได้ สำหรับวัสดุ พื้นใช้เป็น SPC ลายไม้ ซึ่งมีความทนทานต่อความชื้น น้ำ และทนไฟได้ รับแรงกระแทกได้ดี ไม่ลื่น ไม่ยืดหดตามสภาพแวดล้อมมากเท่าไวนิล ระยะฝ้าเพดาน 2.65 เมตร ดูโปร่งโล่งดีเลย

เมื่อวางโซฟาแล้วจะเหลือพื้นที่ด้านหน้าพอที่จะวางโต๊ะกลางได้ ส่วนระยะดูทีวีตรงนี้ จะสามารถติดตั้งทีวีขนาด 52-60 นิ้วได้ค่ะ

ด้านข้างประตู ติดตั้งปลั๊กและสวิตช์ ยี่ห้อ Schneider รูปโมเดิร์น เรียบๆ แบบนี้เลยนะ

ในห้องตัวอย่างจัดวางเฟอร์นิเจอร์ไว้เป็นโซฟา และชุดโต๊ะทานอาหารได้พอดี ภายในห้องมาตรฐานจะไม่ได้เฟอร์นิเจอร์แบบนี้นะคะ แต่ขนาดจะค่อนข้างใกล้เคียงกันเลย เป็นชุดโซฟา 2 ที่นั่งสีขาว และโต๊ะทานอาหาร 2 ที่นั่ง โทนสีสว่างวางเข้ามุม

มาดูผนังฝั่งตรงข้ามกันบ้างภายในห้องมาตรฐาน จะได้เป็นชั้นวางทีวี พร้อมชั้นเก็บของด้านข้าง เก็บรองเท้า ร่มพก หรือสัมภาระต่างๆ ที่ต้องพกติดตัวก่อนออกจากบ้านได้ หยิบจับได้ง่ายเลย ส่วนแอร์ของห้องนี้ จะได้เป็นแอร์ Wall Type 2 เครื่อง ติดที่ห้องนั่งเล่น และห้องนอนค่ะ

มาดูส่วนด้านในกันบ้าง Living area จะเชื่อมต่อกับห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ซึ่งก็จะสามารถเปิดได้กว้างเชื่อมต่อพื้นที่ได้ดี ใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นแนะนำให้ติดม่านเพิ่มเติม ส่วนด้านข้างจะมีโถงแยกไปยังส่วน Service อย่างห้องน้ำและห้องครัวค่ะ

ห้องนอนได้หน้าต่างกระจกบานใหญ่ พร้อมมีหน้าต่างบานกระทุ้งเปิดระบายอากาศได้หนึ่งจุด โดยห้องนอนสามารถวางเตียง 5 ฟุตพร้อมตู้เสื้อผ้าขนาดกว้าง 1.2 เมตรชิดกันได้เลย โดยฐานเตียงที่ได้หน้าตาเป็นแบบนี้เลย พร้อมมีช่องเก็บของที่ฐานเตียงมาให้ด้วย ถือเป็นการใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าดีค่ะ

พื้นที่หน้าตู้เสื้อผ้าเหลือ 1.3 เมตร ค่อนข้างเยอะเลย ยืนลองชุดหมุนตัวได้สบาย ส่วนพื้นที่ปลายเตียงและด้านข้างหน้าต่างจะเหลือพื้นที่เดินได้พอดีๆ ค่ะ

ตู้เสื้อผ้ามีขนาดกว้าง 1.2 เมตร เป็นหน้าบานกระจกเลื่อนสลับ ภายในมีราวแขวน และชั้นเก็บกระเป๋าเดินทางด้านได้ แนะนำให้หาชั้นเก็บของ หรือลิ้นชักเพิ่มเติมสำหรับเก็บชุดชั้นในหรือถุงเท้าได้เป็นสัดส่วนมากขึ้น แต่จะไม่มีไฟซ่อนนะคะ

โดยที่ปลายเตียงจะมีงานระบบรองรับการติดตั้งทีวีไว้ด้วยสำหรับคนที่ชอบนอนดูหนังดูซีรีส์ จะติดตั้งทีวีขนาด 46-55 นิ้วได้นะ

มาดูโซน Service กันบ้าง จะเป็นโถงแยกจากห้องนั่งเล่น โดยฝั่งซ้ายเป็นห้องครัว ฝั่งขวาเป็นห้องน้ำ ส่วนโถงตรงกลางกว้าง 80 ซม. ซึ่งเราจะได้โต๊ะเล็กๆวางได้พอดี มาให้ด้วย จัดเป็นโต๊ะทำงาน หรือโต๊ะเครื่องแป้งได้ค่ะ

มาดูส่วนของห้องน้ำกันบ้าง ภายในแยกโซนเปียกโซนแห้งชัดเจน จัดฟังก์ชันเรียงลำดับตามการใช้งาน พร้อมทั้งติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกมาให้เรียบร้อย ใช้งานได้สะดวก ผนังห้องน้ำใช้เป็นกระเบื้องแกรนิตโตลายหินฝั่งหนึ่งแบบนี้เลย และเบรคด้วยสีขาวในฝั่งอื่นๆ ดูสวยงาม เพิ่มความ Luxury ได้ดียิ่งขึ้น ส่วนพื้นจะใช้เป็นกระเบื้องเซรามิกสีขาวค่ะ

อ่างล้างหน้า และโถสุขภัณฑ์ COTTO โดยอ่างล้างมือเป็นแบบสี่เหลี่ยม ด้านล่างมีชั้นเก็บของมาให้เรียบร้อย พร้อมกระจกเงาครบค่ะ

ที่อาบน้ำมีขนาด 90×95 เมตร ยืนอาบน้ำได้สบาย พร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกมาเรียบร้อย ภายในได้ที่อาบน้ำแบบ hand shower จาก American Standard ด้านข้างมีการออกแบบผนังเป็นชั้นวาง สบู่ยาสระผมมาให้เรียบร้อย

มาดูฝั่งของห้องครัวกันต่อค่ะ เป็นห้องครัวแบบปิด สามารถทำอาหารได้จริงจังไม่ต้องกลัวกลิ่นฟุ้งกระจายมายังส่วนอื่นๆ อีกทั้งอยู่ติดกับระเบียง ทำให้สามารถเปิดระบายอากาศเวลาทำอาหารได้ดีเลยค่ะนอกจากนั้นยังทำให้ครัวได้แสงสว่างเพียงพอ ส่วนระยะหน้าเคาน์เตอร์เหลือประมาณ 80 ซม. เดินได้พอดีๆนะ

ชุดครัว ได้ทั้งเคาน์เตอร์ครัวด้านล่าง และชั้นเก็บของด้านบนแบบนี้เลย สีน้ำเงิน-ดำ ดูโมเดิร์นสวยงามดี สำหรับพื้นครัวใช้เป็นพื้นไม้ SPC ด้วยเช่นกัน อาจจะต้องระวังอย่างให้โดนน้ำ หรือเปียกนานๆ เพื่อยืดอายุของการใช้งานได้ดียิ่งขึ้นค่ะ

พื้นที่บนเคาน์เตอร์กว้าง 1.3 เมตร มีพื้นที่สำหรับล้างจานทำอาหารเตรียมอาหารได้เยอะ สำหรับท็อปครัวเป็นหินเทียม พร้อมติดตั้ง Back splash กระเบื้องสีขาวมาให้  ดูแลรักษาทำความสะอาดได้ง่ายเลย ส่วนอุปกรณ์ครัวต่างๆ Teka  มีเตาไฟฟ้า 2 หัว, ชุดอ่างล้างจานสี่เหลี่ยม 1 ช่อง และที่ดูดควันเป็นแบบหมุนเวียน หากทำอาหารกลิ่นแรงๆ ก็อาจต้องเปิดประตูระเบียงช่วยหน่อยค่ะ

อ่างล้างจากที่ได้เป็นแบบสี่เหลี่ยม จาก Teka ดูแข็งแรงทนทาน พร้อมมีที่ปิดมาให้ด้วย เป็นการเพิ่มพื้นที่ในการเตรียมอาหารได้มากยิ่งขึ้นค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวด้านล่าง มีช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้า ขนาด 9.5 kg.ได้ค่ะ ส่วนพื้นที่ใต้อ่างล้างจาน เป็นช่องขนาดใหญ่ พร้อมมีถังขยะติดตั้งมามีบานเปิดเลย ใช้งานได้สะดวกดีนะคะ

ชั้นเก็บของด้านบนมีพื้นที่สำหรับวางไมโครเวฟมาด้วย ช่วยประหยัดพื้นที่บนเคาน์เตอร์ได้เยอะ  พร้อมช่องเก็บของแบบโปร่ง และแบบมีหน้าบาน วางของได้หลากหลาย

ระเบียงมีขนาด 1.4×1 เมตร ตากเสื้อผ้าได้เยอะ พร้อมก๊อกน้ำล้างพื้นมาให้ครบ สำหรับวัสดุพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิกทำความสะอาดได้ง่าย ราวกันตกเป็นแบบเหล็กโปร่งๆ ลมผ่านได้ดี สำหรับห้องมาตรฐานจะติดตั้ง Compressor แบบแขวนด้านบน ประหยัดพื้นที่ระเบียงได้เยอะ

1 Bedroom Vertical Suite

1 Bedroom Vertical Suite พื้นที่โฉนด 22.3 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยรวม 32.9 ตร.ม. จัดฟังก์ชันมาได้ลงตัว เหมาะสำหรับอยู่ 1-2 คน หรืออยู่กันเป็นคู่รัก ในราคาเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท* นอกจากนั้นอีกหนึ่งข้อดีของห้อง Loft คือเราจะเสียค่าส่วนกลาง เฉพาะพื้นที่โฉนดเท่านั้น ส่วนจุดที่น่าสนใจมีดังนี้

• ครัวแบบปิด สามารถทำอาหารได้โดยไม่มีกลิ่นไปรบกวนในส่วนพื้นที่พักผ่อนอื่นๆ
• Service area เป็นสัดส่วน ไว้โซนหน้าห้อง เป็นห้องครัว และห้องน้ำ อยู่ในตำแหน่งติดกัน อีกทั้งยังช่วยเป็น Buffer ป้องกันเสียงจากโถงทางเดิน ช่วยให้เป็นส่วนตัวมากขึ้น
• Living Area ฝ้าเพดานสูง 4.7 เมตร พร้อมหน้าต่างกระจกสูง รับแสงได้เยอะ ทั่วถึงชั้นลอย ภายในจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น และพื้นที่ทานอาหารริมหน้าต่างได้
• ชั้นลอยขนาดใหญ่ สามารถจัดวางเตียง 5 ฟุต ตู้เสื้อ โต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้ นอกจากนั้นยังดูโปร่งด้วยราวกันตกกระจก รับแสงธรรมชาติได้ทั่ว
• ได้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลัก  ดังนี้

เฟอร์นิเจอร์ที่ได้ภายในห้อง เป็นของแบรนด์ Oly by OLIVIA LIVING ซึ่งเป็นแบรนด์ดีไซเนอร์ ที่ดูสวยงามดีเลย แต่เนื่องจากโครงการเพิ่งเปิดตัว ภายในห้องตัวอย่างจึงไม่ได้ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ได้ตามรายการนี้นะคะ แต่ขนาดจะค่อนข้างใกล้เคียงกันเลย ส่วนบรรยากาศในห้องตัวอย่างจะเป็นอย่างไรไปชมกันค่ะ

เปิดมาเป็นครัว ขนาดใหญ่ทีเดียว ระยะเหลือหน้าเคาน์เตอร์กว้าง 1.1 เมตร เดินสวนกันไปมาได้สบาย ส่วนด้านซ้ายมือเป็น ห้องน้ำ จัดส่วน Service ไว้บริเวณเดียวกันเป็นสัดส่วน โซนหน้าห้อง ช่วยเป็น Buffer ป้องกันเสียงจากโถงทางเดิน ช่วยให้เป็นส่วนตัวมากขึ้น อีกทั้งเวลาไปจ่ายตลาดกลับมาก็สามารถเก็บข้าวของ ล้างไม้ล้างมือได้ก่อนเลย สะดวกดีค่ะ

ส่วนพื้นครัวใช้เป็นพื้นไม้ SPC ด้วยเช่นกัน เวลาน้ำหกหรือเปียกน้ำ แนะนำให้รีบเช็ดให้แห้งเพื่อยืดอายุการใช้งานค่ะ ส่วนระยะฝ้าเพดานห้องครัวจะอยู่ที่ 2.2 เมตรค่ะ

ครัวปิด ครัวแบบปิด กั้นแยกจากส่วนพักผ่อนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนเปิดได้กว้าง รับแสงธรรมชาติได้ดี สามารถทำอาหารได้โดยไม่มีกลิ่นไปรบกวนในส่วนพื้นที่พักผ่อนอื่นๆ ภายในห้องจะได้ชุดครัวกว้าง 1.3 เมตร พร้อม ที่สำหรับวางตู้เย็น 80 ซม. วางขนาดมาตรฐานได้สบาย

ภายในห้องได้ เคาน์เตอร์ครัว I-shape โดยจะมี Built-in ตู้เก็บของทั้งด้านบน และล่างแบบในรูปเลย  โดยเคาน์เตอร์ครัวด้านล่าง มีพื้นที่เก็บของและลิ้นชักต่างๆ โดยใต้อ่างจะมีส่วนถังขยะติดกับฝาบาน เปิดหน้าบานออกก็มีการเลื่อนตัวถังขยะออกมาด้วย ง่ายต่อการใช้งาน พร้อมที่วางไมโครเวฟมาให้ครบ ตู้เก็บของด้านบนก็มีทั้งแบบมีหน้าบาน และแบบโปร่งวางของที่ต้องหยิบจับบ่อยๆ ได้สะดวก

พื้นที่บนเคาน์เตอร์กว้าง 1.3 เมตร มีพื้นที่สำหรับล้างจานทำอาหารเตรียมอาหารได้พอดีๆ  สำหรับท็อปครัวเป็นหินเทียม พร้อมติดตั้ง Backsplash กระเบื้องสีขาวมาให้ ดูแลรักษาทำความสะอาดได้ง่าย อุปกรณ์ครัวต่างๆ Teka มีเตาไฟฟ้า 2 หัว, ชุดอ่างล้างจานสี่เหลี่ยม 1 ช่องที่ดูดควันเป็นแบบหมุนเวียน เช่นเดียวกันกับห้องก่อนหน้าเลย

มาต่อกันที่ห้องน้ำค่ะ ส่วนของห้องน้ำก็จะมีขอบธรณีประตูห้องน้ำกั้นพื้นไว้ เพื่อกันไม่ให้น้ำจากห้องน้ำไหลออกมายังพื้นที่อยู่อาศัยส่วนอื่นๆ ภายในห้องน้ำแยกส่วนเปียก ส่วนแห้งชัดเจน เมื่อเข้ามาจะเจอกับอ่างล้างมือ ขวามือเป็นโถสุขภัณฑ์ ส่วนที่อาบน้ำอยู่มุมห้องด้านใน พร้อมฉากกั้นกระจกด้วยเช่นกัน ส่วนวัสดุ และสุขภัณฑ์ต่างๆ เหมือนกับห้องก่อนหน้าค่ะ

ที่อาบน้ำมีขนาด 1×0.95 เมตร ยืนอาบน้ำได้สบาย ภายในได้ที่อาบน้ำแบบ hand shower ด้านข้างมีการออกแบบผนังเป็นชั้นวาง สบู่ยาสระผมมาให้เช่นกันค่ะ

เข้ามาดูโซนพักผ่อนด้านในกันบ้าง เป็น Living area ขนาดกว้าง 2.5 เมตร ลึก 4 เมตร  ซึ่งพื้นที่ส่วนแรกตรงนี้จะเหมาะสำหรับการจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น สำหรับห้องมาตรฐานเราจะได้ โซฟา 2 ที่นั่ง โต๊ะกลางเล็กๆ และชั้นวางทีวี เหมือนในรายการเฟอร์นิเจอร์ด้านบนแทนนะคะ

ไฮไลต์ของห้องนี้คือ ระยะฝ้าเพดานที่สูง 4.7 เมตร ดูโปร่ง สามารถติดตั้ง Chandelier ขนาดใหญ่ เพิ่มความ Luxury ได้เลย อีกทั้งชั้นลอยด้านบน ยังออกแบบไว้เป็นแบบโปร่งกั้นด้วย ราวกันตกกระจก ดูโปร่งดีเลยค่ะ

ส่วนพื้นที่นั่งเล่นตรงนี้ หน้ากว้าง 2.5 ม. จะสามารถติดตั้งทีวีขนาด 46-52 นิ้วได้ค่ะ

ด้านในข้างประตูกั้นห้องครัว ออกแบบไว้เป็นพื้นที่สำหรับจัดเป็นที่เก็บของเพิ่มเติมขนาด 90×40 ซม. โดยในห้องมาตรฐานเราจะได้ ตู้เก็บของแบบมีบานเปิดมาให้ด้วย ซึ่งจะสูงพอดีๆ ระดับเอว เราสามารถ Built-in เป็นชั้นโปร่งๆ วางของโชว์ เพิ่มเติมเหมือนในห้องตัวอย่างได้

หน้าต่างภายในห้องนี้เราจะได้เป็นหน้าต่างกระจกสูง ส่วนประตูระเบียงก็ใช้เป็นประตูกระจกด้วยเช่นกัน รับแสงได้ทั่วทั้งห้องเลย

โดยพื้นที่ริมหน้าต่างกว้างประมาณ 1.9 เมตรลึกประมาณ 1 เมตร สามารถวางโต๊ะทานอาหารริมหน้าต่างได้ นั่งทานข้าวไปชมวิวไปได้พร้อมกันเลย สำหรับห้องมาตรฐานจะได้เป็นโต๊ะทานอาหารสีขาวแบบโชว์ขามาแทนนะคะ ซึ่งก็จะช่วยให้ดูโปร่งมากขึ้นค่ะ

ระเบียงขนาด 1×1.4 เมตร พร้อมระบบสำหรับวางเครื่องซักผ้ามาให้เรียบร้อย แนะนำให้ติดตั้งราวตากผ้าแบบยึดผนัง จะสามารถตากเสื้อผ้าได้เยอะ และประหยัดพื้นที่ ส่วนวัสดุพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิกสีเทา ทำความสะอาดได้ง่าย พร้อมมีไฟผนังมาให้ 1 จุด ส่วนด้านบนแขวน Condensing units พร้อมระแนงบังสายตา ช่วยให้ตัวอาคารดูเรียบร้อยเมื่อมองจากภายนอกด้วยค่ะ

บันไดในห้องกว้าง 0.80 เมตร ชานพักเป็นสามเหลี่ยม เดินได้พอดีๆ ในห้องมาตรฐานพื้นบันไดจะปิดผิวด้วยไม้ยางประสานโทนสีเดียวกับพื้นห้อง พร้อมราวกันตกกระจก เหมือนในห้องตัวอย่าง ดูโปร่งดีค่ะ

พื้นที่ชั้นลอยหรือห้องนอนมีขนาดประมาณ 3.5×3.2 เมตร ในห้องได้ฐานเตียงขนาด 5 ฟุตมาด้วย สามารถวางกลางห้องแบบมีทางเดินได้รอบเตียง พร้อมตู้เสื้อผ้า และพื้นที่โต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งในบริเวณเดียวกันได้เลย  สำหรับระยะฝ้าเพดานบริเวณนี้สูง 2.10 เมตรนะคะ

ตู้เสื้อผ้าที่ได้เป็นแบบหน้าบานกระจกบานเลื่อนสลับ กว้าง 1.1 เมตร วัสดุและอุปกรณ์ต่างๆภายในเหมือนกันกับห้องก่อนหน้าเลย

พื้นที่ด้านข้างเตียงจะเหลือกว้างประมาณ 1.1 เมตร ในห้องมาตรฐานเราจะได้เป็นชุดโต๊ะพร้อมเก้าอี้สำหรับ จัดเป็นที่นั่งทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้ค่ะ

อย่างที่บอกไปว่าพื้นที่ชั้นลอยกั้นจากส่วนนั่งเล่น ด้วยราวกันตกกระจก ทำให้พื้นที่บริเวณนี้ได้แสงธรรมชาติค่อนข้างดี ดูโปร่ง หากใครต้องการความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น สามารถติดม่านเพิ่มเติมได้เหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ

Simplex

• Studio ขนาด 22.30 – 23.10 ตร.ม.
• 1 Bedroom ขนาด 24.10 – 24.90 ตร.ม
• 1 Bedroom Exclusive ขนาด 26.40 – 27.20 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus ขนาด 34.90

Vertical Suite

• 1 Bedroom พื้นที่โฉนด 22.3-26.9 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยรวม 32.9-39.4 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus พื้นที่โฉนด 34.9-35 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยรวม 53.6-53.8 ตร.ม.

Modiz Avantgarde ราคา ณ วันที่ 18 กรกฎาคม 2566

Simplex

• Studio ขนาด 22.30 – 23.10 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท*
• 1 Bedroom ขนาด 24.10 – 24.90 ตร.ม ราคาเริ่มต้น 2.38 ล้านบาท*
• 1 Bedroom Exclusive ขนาด 26.40 – 27.20 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.61 ล้านบาท*
• 1 Bedroom Plus ขนาด 34.90 ราคาเริ่มต้น 3.41 ล้านบาท*

Vertical Suite

• 1 Bedroom พื้นที่โฉนด 22.3-26.9 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยรวม 32.9-39.4 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.53 ล้านบาท*
• 1 Bedroom Plus พื้นที่โฉนด 34.9-35 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยรวม 53.6-53.8 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.55 ล้านบาท*

• รูปแบบการขาย Fully Furnished
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.65 ม. ในแบบ Simplex / 4.7 ม.ในแบบ Vertical Suite
• Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
• Hob & Hood / ของยี่ห้อ Teka
• มีรถ Shuttle Van ไปกลับฝั่ง ม.ธรรมศาสตร์ (รายละเอียดต่างๆสอบถามโครงการอีกครั้ง*)
• จอง + ทำสัญญาเริ่ม 30,000 บาท (ขึ้นอยู่กับแบบห้อง)
• ดาวน์ 10% ผ่อนดาวน์ 34 งวด
• ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล :  โครงการตั้งอยู่บนถนนคลองหลวง ฝั่งตรงข้ามกับม.ธรรมศาสตร์ ใกล้ประตูทางเชียงราก 2 ส่วนทำเลฝั่งตรงข้ามมหาลัยนี้ก็มีหอพักอาศัยจำนวนมาก บรรยากาศไม่พลุกพล่าน เหมาะต่อการอยู่อาศัย ส่วนเรื่องความอุดมสมบูรณ์ก็หาของกินได้ง่าย แถวประตูเชียงราก 2 มี U-Square ที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านค้าให้จับจ่ายซื้อของกินได้สะดวก

ตอบโจทย์ทั้งนักศึกษา บุคลากร และพนักงานของมหาวิทยาลัย โรงพยาบาล สวทช. หรือนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ไปจนถึงกลุ่มนักลงทุน โดยคอนโดฝั่งตรงข้ามมหาลัยส่วนใหญ่จะเป็นคอนโด Low Rise ที่จะต้องเดินทาง ไกลกว่าสักหน่อย แต่ส่วนใหญ่จะมีรถรับ-ส่งถึงมหาลัยเลย ราคาปล่อยเช่า 8,000- 13,000 บาท/เดือน ในขณะที่ Modiz Avantgarde มาในรูปแบบคอนโด High Rise ที่ได้วิวโล่งโดยรอบ พร้อมส่วนกลางเทควิวมุมสูงได้ แตกต่างจากคอนโดเพื่อนบ้านในฝั่งเดียวกัน ที่ทั้งหมดเป็น Low Rise คาดหวังในเรื่องวิวได้ยากกว่า

การเดินทางโดยใช้รถ : สำหรับนักศึกษาม.ธรรมศาสตร์ โครงการอยู่ห่างจากประตูมหาวิทยาลัยประมาณ 1.8– 3.4 กิโลเมตร ไม่ไกลจากจุดกลับรถ ภายในมีที่จอดรถ 44% รวมซ้อนคัน ไม่เยอะมากแต่ก็ถือว่าโอเค สำหรับโครการที่ใกล้ถนนใหญ่ พร้อมมีรถรับส่ง ถึงมหาลัยเลยค่ะ ส่วนการเดินทางใช้รถใช้ถนนโดยทั่วไป ถือว่าสะดวกทีเดียว ใกล้ทางด่วนอุดรรัถยาประมาณ 3.5 กม. ใช้ขึ้นเหนือไปทางอยุธยา หรือลงใต้ไปจตุจักรได้ง่าย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ทางโครงการมี shuttle service รถรับส่ง จากตัวโครงการถึงฝั่งมหาลัยธรรมศาสตร์เลย (รายละเอียด รอบ เส้นทางการเดินทาง ต่างๆโปรดสอบถามจากโครงการอีกครั้ง*) อีกทั้งในอนาคต มีแผนที่จะทำสะพานลอยตรงบริเวณด้านหน้าโครงการ เพื่อใช้ข้ามถนนไปยังฝั่งม.ได้สะดวกอีกด้วยค่ะ

วัสดุ : ขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักในห้องมาครบ จากแบรนด์ดีไซเนอร์ Oly by OLIVIA LIVING ดูสวยงาม น่าใช้งาน ส่วนวัสดุอื่นๆ ก็ถือว่าให้มาค่อนข้างดีเลย แต่จะไม่มี Bluetooth Sound System เหมือนโครงการก่อนๆ แต่จะได้เตาไฟฟ้า+ที่ดูดควัน รวมถึงวัสดุอื่นๆ ที่อัพเกรดขึ้นอย่าง พื้นใช้เป็น SPC ทนทาน ระยะฝ้าเพดาน 2.65 เมตร ดูโปร่งโล่ง /ห้องน้ำให้สุขภัณฑ์ COTTO  และ American Standard พร้อมฉากกั้นอาบน้ำกระจกครบ ผนังห้องน้ำใช้กระเบื้องแกรนิตโตลายหินสวยงาม / ชุดครัวท็อปหินสังเคราะห์ ติดตั้งอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า 2 หัว ที่ดูดควันแบบหมุนเวียน จาก TEKA พร้อม Backsplash กระเบื้องสีขาว ดูแลรักษาได้ง่าย / ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ Wall Type ยี่ห้อ DaiKin / ประตูห้องติดตั้ง Digital Door Lock จาก Yale / ปลั๊กและสวิตช์ดูเรียบๆ โมเดิร์น ยี่ห้อ Schneider

การออกแบบโครงการ : ตัวอาคารอยู่ห่างจากถนนหน้าโครงการพอสมควร แต่ก็มีการออกแบบเป็นสวนขนานไปกับถนนยาวตลอดแนว ภายในมีต้นไม้คอยให้ร่มเงาตลอดเดินได้สบาย การจัดผังแยกอาคารจอดรถ และอาคารพักอาศัยออกจากกัน โดยมีทางเดินเชื่อมได้ที่ชั้น 1 และ ชั้น 7 ส่วนกลาง โดยมีลิฟต์รองรับอยู่ทั้ง 2 อาคาร ใช้งานได้สะดวก โดยอัตราส่วนลิฟต์อาคารพักอาศัยอยู่ที่ 250 : 1 ถือว่าค่อนข้างเยอะเลย อาจจะต้องเผื่อเวลาขึ้น-ลงในช่วงเวลาเร่งด่วนค่ะ

ส่วนกลางกระจายตัวแบ่งเป็น 3 โซน ที่ 3 ระดับความสูง เข้าถึงใช้งานได้ง่าย โดยชั้น 1 จะเน้นเป็นพื้นที่พักผ่อนและต้อนรับ ใช้คุยงานหรือรับแขกได้สบาย ชั้น 7 จะเป็นส่วนกลางที่รองรับการทำงาน ติวหนังสือ สามารถนั่งทำงานเดี่ยว หรือเป็นกลุ่มก็ได้ รวมถึงมีห้อง Nap ให้งีบพักสายตา ใช้งานได้สะดวกเลย นอกจากนั้นชั้นนี้จะเชื่อมต่อกับดาดฟ้าอาคารจอดรถซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียว ที่มีฟังก์ชันให้นั่งเล่นพักผ่อน รวมถึงมีลาน Skate ให้ออกกำลังด้วย และไฮไลต์คือส่วนกลาง 2 ชั้นบนสุด เป็นห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ ห้องพักผ่อน Entertainment ต่างๆ และสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ชั้นบนสุด ว่ายออกกำลังกายพร้อม เทควิวมุมสูงไปพร้อมกันได้เลยค่ะ

การออกแบบห้องพัก : มีให้เลือกหลากหลายแบบ ตั้งแต่ห้อง Studio และ 1 Bedroom สำหรับนักศึกษา ที่ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในห้องมากมายนัก ไปจนถึงห้อง 1 Bedroom Exclusive ที่กั้นแยกฟังก์ชันได้เป็นสัดส่วนมากขึ้น มี Living area ที่จัดโซฟา+โต๊ะทานอาหารได้เป็นสัดส่วน พร้อมครัวปิด ใช้งานได้จริงจัง อยู่อาศัยแบบเป็นเมท หรือเป็นคู่รักได้สบาย ไปจนถึงห้องสำหรับครอบครัวขยาย 1 Bedroom Plus อยู่กันเป็นพ่อแม่ลูกได้ รวมถึงมีห้องฝ้าเพดานสูง ที่ไม่ค่อยเห็นในโซนนี้ให้เลือกด้วยค่ะ

สาธารณูปโภค : เป็นอีกจุดเด่นหนึ่งเลยก็ว่าได้ ด้วยส่วนกลางกว่า 42 รายการ เน้นเป็นพื้นที่รองรับการทำกิจกรรมได้หลากหลายทั้ง Indoor และ Outdoor จะทำงาน พักผ่อน สังสรรค์ หรือออกกำลังกาย ก็มีครบเลยค่ะ ไฮไลต์คือ ส่วนกลาง 2 ชั้นบนสุดเทควิวโล่งกว้าง บรรยากาศดี เป็นสระว่ายน้ำ ฟิตเนสขนาดใหญ่ และส่วน Entertainment ในสไตล์ Futuristic ดูแปลกตา น่าใช้งาน

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 110,000  บาท/ตร.ม., 18 กรกฎาคม 2566

• ทำเล 7.75/10 – อยู่บนถนนคลองหลวง หาของกินง่าย
• เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – เดินทางสะดวก ใกล้จุดกลับรถ และทางด่วน
• ไม่ใช้รถ 7.5/10 – มี Shuttle Service อนาคต มีสะพานลอยใช้เดินข้ามได้
• วัสดุ 8.5/10 – ให้เฟอร์ฯ แบรนด์ดีไซเนอร์ชิ้นหลักครบ วัสดุอื่นๆตามมาตรฐานระดับราคา
• แบบ 8.5/10 – ออกแบบส่วนกลางน่าใช้งาน จัดห้องลงตัวเหมาะกับนักศึกษา และวัยทำงาน
• สาธารณูปโภค 8.5/10 – ให้มาเยอะ กระจายอยู่หลายจุด ไฮไลต์คือส่วนกลางชั้นบนสุดได้วิวโล่งมุมสูง

• MAIN CLASS
• 7.975 / 10.00

Modiz Avantgarde เหมาะกับใคร

โครงการ Modiz Avantgarde เหมาะกับนักศึกษา และวัยทำงาน มองหาคอนโดใกล้ ม.ธรรมศาสตร์ ใกล้แหล่งอาหารการกินแบบเดินไปได้ อยากได้ห้องที่แต่งครบพร้อมเฟอร์นิเจอร์ อยู่อาศัยได้ 1-2 คน ไปจนถึงครอบครัวขยาย อยากได้ห้องวิวโล่งมุมสูง ชอบส่วนกลางที่เยอะ และหลากหลาย  มีงบประมาณที่ตั้งไว้ 1.79 – 3.9 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 12,000 – 27,000 บาท/เดือน

ทั้งยังเหมาะกับกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการปล่อยเช่า เนื่องจากหอพักทำเลนี้เป็นที่ต้องการของนักศึกษา และพนักงาน ทั้งจากมหาลัย จากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ สวทช. รวมไปถึงพนักงานในนิคมอุตสาหกรรมนวนครด้วยค่ะ