รีวิวฉบับที่ 2133 … วันนี้มากันในย่านรัชดา-ลาดพร้าวกันบ้างครับ กับโครงการ MILES รัชดา-ลาดพร้าว ที่เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น ในซอยลาดพร้าว 26 ห่างจาก MRT ลาดพร้าว 550 ม. ภายในแบบห้องให้เลือก 3 แบบ 3 ขนาด และมีจุดเด่นที่หลักๆที่วัสดุที่เรียกว่าโดดเด่นกว่าเพื่อนๆในย่านนี้ รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางก็มีให้ครบและน่าใช้งานครับ เข้าไปชมกันเลย

ข้อมูลโครงการ

29 September 2020

  • MILES Ratchada-Ladprao (ไมลส์ รัชดา-ลาดพร้าว)
  • บริษัท เอ็มเจวี2 จำกัด (บริษัทในเครือ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน))
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2020 ได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: ซอยลาดพร้าว 26 เขตจตุจักร
  • ที่ดินประมาณ 1-3-36 ไร่
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 205 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 30 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 36% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • เริ่มก่อสร้าง :  Q4 2564
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q2 2566
  • 1 Bedroom 25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.2 ล้านบาท (Promotion)
  • 1 Bedroom Plus 32-34 ราคาเริ่มต้น 2.57 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 40 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 2.2 ล้านบาท / หรือตร.ม.ละ 88,000 บาท
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ 110,000 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
  • ว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1266

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.803235, 100.572099
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่แผนที่จากทางโครงการครับ

ตัวโครงการ Miles รัชดา-ลาดพร้าว ตั้งอยู่ภายในซอยลาดพร้าว 26 ที่เชื่อมต่อกับลาดพร้าว 18, รัชดา 19 และวิภาวดีฯ 16, 20 ได้ ซึ่งอย่างที่เห็นก็จะพอทราบได้เลยว่าสามารถทะลุออกได้หลายช่องทาง เป็นตัวเลือกที่หลากหลายในการเดินทางหลีกเลี่ยงรถติด

นอกจากนั้นยังมีการเดินทางสาธารณะให้เลือกใช้ได้หลากหลาย อย่างแรกเลยคือรถไฟฟ้า MRT สถานีลาดพร้าว ซึ่งจะมีระยะประมาณ 550 เมตร แต่เส้นทางอาจจะมีบางช่วงที่เปลี่ยวอยู่เหมือนกันในเวลากลางคืน เพราะไม่ได้มีไฟให้ตลอดทาง และด้วยความที่เป็นซอยที่ทะลุได้เยอะจึงทำให้มีรถสาธารณะอย่างแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซค์ผ่านไปมาให้เห็นอยู่ตลอดครับ เรียกใช้งานได้ง่ายเลย

สภาพแวดล้อม ภายในซอยนี้ส่วนมากเป็นพื้นที่พักอาศัยให้เห็นตั้งแต่บ้านเดี่ยว, อพาร์ทเม้นท์และคอนโด Low Rise ส่วนฝั่งที่ติดถนนใหญ่ลาดพร้าวส่วนใหญ่แล้วจะเป็นตึกแถวและคอนโด High Rise กระจายเรียงกันไป ส่วนเรื่องความอุดมสมบูรณ์ช่วงต้นซอยจะค่อนข้างคึกคัก มีร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงร้านสะดวกซื้อทั้ง 7-11 และ Mini Mart พอเข้ามาสักหน่อยจะเริ่มสงบมากยิ่งขึ้น เป็นทำเลพักอาศัยซะส่วนใหญ่ แต่ก็ยังจะแตกต่างจากลาดพร้าวบางซอยที่มีแต่บ้านพักอาศัยเพียงอย่างเดียว ส่วนถ้าขยับออกไปหน่อยจะมีย่านสำคัญ 2 จุด ได้แก่

จุดแรกคือถนนรัชดาภิเษก ที่สามารถเดินออกทางรัชดา 19 หรือนั่งรถไฟฟ้า MRT ไปได้ แหล่งช้อปปิ้งก็จะมีสวนลุมไนท์บาซาร์ รัชดาภิเษก, เซ็นทรัลพระราม 9, เอสพลานาด, ตลาดรถไฟรัชดาภิเษก,The Street เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีแหล่งงานใหญ่ๆ อย่าง ตลาดหลักทรัพย์ (SET), AIA, Unilever, G Tower, เมืองไทยภัทร เป็นต้น

ส่วนอีกจุดคือไปแถวห้าแยกลาดพร้าว และถนนวิภาวดีรังสิต ยกตัวอย่างเช่น Union Mall, เซ็นทรัลลาดพร้าว, ตลาดนัดสวนจตุจักร, ตลาด อ.ต.ก, ตลาดการบินไทย รวมถึงมีแหล่งงานใหญ่ ๆ อย่าง การบินไทย, ไทยรัฐ, อาคารซันทาวเวอร์, อาคารเล้าเป้งง้วน 1 เป็นต้น นอกจากนั้นยังใกล้กับสวนจตุจักร, สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) ซึ่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ของคนย่านนี้อีกด้วย รวม ๆ ถือว่าอุดมสมบูรณ์ใช้ได้เลยนะครับ

เส้นทางการเดินทาง

เดินทางไปโครงการวันนี้ด้วยรถไฟฟ้าครับ เราสามารถเดินได้นะครับ ผมเดินแล้วก็ไม่ได้เหนื่อยอะไร แต่ทางก็แอบเปลี่ยวอยู่เหมือนกันเพราะเป็นถนนซอยไม่มี ไฟทางเท้าให้ แต่ก็มีรถผ่านตลอด เพราะเป็นซอยที่สามารถทะลุกับถนนวิภาวดีฯได้ด้วย

เริ่มด้วยการเดินออกจากสถานีลาดพร้าวด้วยประตูทางออก หมายเลข 1 จากนั้นก็เดินไปทาง 5 แยกลาดพร้าว จะเจอกับซอยลาดพร้าว 26 ทางเดินอาจจะซับซ้อนหน่อยนะครับ เดินตรงเข้ามาประมาณ 200 เมตร ให้เลี้ยวขวาครับ จากนั้นเดินตรงต่อไปอีกประมาณ 60 เมตร แล้วก็เลี้ยวซ้าย จากนั้นเดินตรงไปอีกประมาณ 90 เมตร จะเจอโครงการที่หัวมุมครับ

Image 1/6
เริ่มต้นที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินลาดพร้าว ให้ออกที่ประตูทางออกหมายเลข 1 นะครับ

เริ่มต้นที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินลาดพร้าว ให้ออกที่ประตูทางออกหมายเลข 1 นะครับ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

ตัวโครงการตั้งอยู่ภายในซอย ลาดพร้าว 26 ซึ่งสามารถเข้าได้จากลาดพร้าว 18 ได้ด้วย แถมยังไปเชื่อมออกวิภาวดีรังสิตและรัชดาภิเษกได้ด้วย ซึ่งจัดว่าเป็นข้อได้เปรียบของโครงการภายในซอยนะครับ มีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลายและสามารถลัดเลาะเลี่ยงรถติดได้ดีเลย บรรยากาศรอบโครงการจะเป็นพื้นที่พักอาศัยซะเป็นส่วนใหญ่ ทำให้มีบริบทค่อนข้างเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย แต่ด้วยความที่เป็นซอยลัดเลาะทำให้จะมีรถวิ่งไปมาค่อนข้างตลอดทั้งวัน แต่เป็นซอยขนาด 2 เลน ทำให้รถที่วิ่งก็ไม่ได้เร็วนักครับ

ทิศเหนือ – จะติดกับพื้นที่ที่เป็นอาคารความสูงประมาณ 1-2 ชั้น ปัจจุบันเป็นร้านอาหาร ซึ่งก็สามารถมาฝากท้องกันได้ง่ายๆเลย

ทิศตะวันออก – ติดกับบ้านเดี่ยว 1-2 ชั้นครับ บรรยากาศค่อนข้างร่มรื่น เงียบสงบ

ทิศใต้ – ติดกับพื้นที่ว่างเปล่าและบ้านเดี่ยว ตรงนี้จะปลูกต้นไม้ค่อนข้างหนาตา แต่ถ้ามองลงมาก็ได้สีเขียวเป็นวิวที่สบายตาดีเหมือนกันครับ ไกลออกไปหน่อยจะมีอาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้นตั้งอยู่ครับ เนื่องจากค่อนข้างห่างจึงไม่ได้บล็อควิวมากนัก แต่ก็ทำให้วิวฝั่งนี้ไม่ได้โล่งซะทีเดียว

ทิศตะวันตก – จะเป็นฝั่งเดียวที่ติดกับอาคารสูงขึ้นมาหน่อย เป็นอาคารพักอาศัยประมาณ 5 ชั้น ทำให้ทิศนี้จะถูกบล็อควิวไปบ้าง แต่ข้อดีคือได้แนวอาคารนี้ช่วยบังแดดให้ในช่วงบ่าย

Image 1/6
ด้านข้างทางทิศตะวันตกจะเป็นอาคาร 4-5 ชั้น ครับ

ด้านข้างทางทิศตะวันตกจะเป็นอาคาร 4-5 ชั้น ครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • MRT ลาดพร้าว ~ 550 เมตร
  • MRT รัชดาฯ ~ 650 เมตร
  • สวนลุมไนท์บาซาร์ รัชดาภิเษก ~ 800 เมตร
  • บุญถาวร รัชดาฯ ~ 1.2 กิโลเมตร
  • Big C Super Center ลาดพร้าว 2 ~ 1.4 กิโลเมตร
  • โรงเรียนเซนต์จอห์น ~ 1.8 กิโลเมตร
  • ยูเนี่ยน มอลล์ + MRT พหลโยธิน ~ 2.2 กิโลเมตร
  • Central Plaza ลาดพร้าว ~ 2.3 กิโลเมตร
  • Tesco Lotus ~ 2.6 กิโลเมตร
  • โรงเรียนหอวัง ~ 2.7 กิโลเมตร
  • ตลาด อ.ต.ก. + ตลาดนัดจตุจักร ~ 3.1 กิโลเมตร
  • ปตท.สำนักงานใหญ่ ~ 3.1 กิโลเมตร
  • สวนรถไฟ + สวนจตุจักร ~ 3.1 กิโลเมตร
  • SCB Park ~ 3.5 กิโลเมตร
  • Major รัชโยธิน ~ 3.7 กิโลเมตร
  • The Street รัชดาฯ ~ 4.4 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

Miles รัชดา-ลาดพร้าว เป็นอาคาร Low Rise 8 ชั้น จำนวน 205 ยูนิต ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ดินประมาณเกือบ 2 ไร่ โดยจะจอดรถที่ชั้น 1 รวมแล้วมีที่จอดรถประมาณ 36% ไม่รวมจอดซ้อนคัน และมีพื้นที่ส่วนกลางอีกเล็กน้อย ส่วนพื้นที่ส่วนกลางหลักจะอยู่ที่ชั้น 2 และมีห้องพักอาศัยรวมอยู่ด้วย ส่วนชั้น 3-8 จะมีรูปแบบเหมือนกันเป็นพื้นที่พักอาศัยทั้งหมด ประกอบไปด้วยรูปแบบห้องทั้งหมด 3 แบบ 3 ไซส์ S M L ครับ รับวิวในทุกๆฝั่งเลย โดยจะมีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 2 ตัวครับ

ตัวอาคารที่ออกแบบในสไตล์ MODERN CLASSIC โดยจะเน้นการใช้เส้นสายที่ดูโมเดิร์นทันสมัย แต่ก็มีรายละเอียดของความ Classic แทรกอยู่ให้เห็นครับ เช่น การเลือกโทนสีในส่วนต่างๆ ครับ

ทางเข้าออกโครงการจะอยู่ทางฝั่งทิศตะวันตกบนถนนลาดพร้าว 18 แยก 3 ครับ เป็นซอยตันที่จะมีพื้นที่จอดรถสำหรับ Visitors มาให้ด้วยทางฝั่งตรงข้าม ตัวโครงการเข้าออกด้วยรั้วกั้นไม้กระดกอัตโนมัติ ระบบ Access Control แบบ Easy Pass เหมือนขึ้นทางด่วนครับ ไม่ต้องลดกระจกลงมาเพื่อทาบบัตรอะไรทั้งนั้น

เมื่อเข้ามาภายในโครงการจะเจอกับส่วนของป้อม รปภ. ทางฝั่งขวามือ พร้อมพื้นที่พักผ่อนเล็กๆ อย่าง Pocket Play Space สำหรับมานั่งพักผ่อน เข้ามาด้านในจะมี Drop Off สำหรับรับส่งได้ จากนั้นวนเข้าไปพื้นที่จอดรถด้านในใต้อาคารครับ ประมาณ 36% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ทางเข้าตัวอาคารจะมี Smart Locker และ Laundry Room ให้บริการด้วยนอกจากนั้นภายในชั้นนี้จะมีพื้นที่ส่วนกลางให้คือส่วนของ Lobby ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ส่วนกลางชั้น 2 ได้ แต่ถ้าจะเข้า Lobby จะต้องผ่านส่วนของโถงลิฟต์ก่อน ซึ่งในแง่ของการใช้งานบางทีก็สะดวกดีครับขึ้นลงแล้วเข้าออกได้เลย แต่ในแง่ของความเป็นส่วนตัวจะทำให้คนนอกเข้าถึงโถงลิฟต์ได้ง่าย ซึ่งต้องเป็นหน้าที่ของทางโครงการที่จะต้องดูแลรักษาความปลอดภัยในส่วนนี้ให้เข้มงวดหน่อยนะครับ ด้านในยังมี Stepping Stone Park ซึ่งเป็นสวนด้านหน้าโครงการ เป็นวิวให้กับส่วนของ Lobby ด้วย รวมไปถึงช่วยบังสายตาจากภายนอกให้ด้วยเช่นกัน

บรรยากาศห้อง Lobby ที่สามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนกลางหลักที่ชั้น 2 ได้โดยตรง แถมยังได้สวนภายนอกมาคอยสร้างบรรยากาศให้กับพื้นที่ส่วนนี้ด้วย

พื้นที่ส่วนกลางหลักจะอยู่ที่ชั้น 2 ของโครงการครับ ข้อดีคือได้ความเป็นส่วนตัวจากรถบนถนนที่ผ่านไปมาภายนอก และได้มุมมองที่สูงขึ้นมา และช่วยเป็นวิวให้กับพื้นที่พักอาศัยด้านบน ที่สำคัญคือตั้งอยู่ทางทิศเหนือ ซึ่งเป็นทิศที่โดนแดดน้อย แถมยังจะได้แนวอาคารที่ล้อมทางทิศตะวันออก ทิศใต้ และทิศตะวันตก ไว้ช่วยบังแดดในหลายช่วงเวลา สามารถใช้งานได้ทั้งวันเลยครับ

ชั้นนี้จะเริ่มมีห้องพักอาศัยเป็นชั้นแรกทั้งหมด 25 ยูนิต ซึ่งจัดว่าเป็นชั้นที่มีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดพร้อมพื้นที่ส่วนกลางหลักของโครงการ ประกอบไปด้วยส่วนของ Traveler Lounge ที่เชื่อมต่อมากับ Lobby ชั้น 1 และส่วนของ Co-Passion Space และ Fitness Room ที่อยู่ภายในอาคารรับวิวสระว่ายน้ำ ส่วนภายนอกอาคารจะมีส่วนของ Swimming Pool และสวน Layover Garden พักผ่อนและรับวิวสระว่ายน้ำ ภายในมีห้องน้ำแยกชายหญิงไว้ให้ใช้งานด้วยนะครับ

โถงทางเดินหลักๆจะเป็น Double Corridor ครับ สำหรับลิฟต์โดยสารของชั้นนี้จะไม่ได้แยกส่วนการใช้งานสำหรับมาใช้พื้นที่ส่วนกลางออกจากห้องพักอาศัยให้นะครับ จึงทำให้ใครที่พักในชั้นนี้จะเสียความเป็นส่วนตัวในเรื่องนี้ไป แต่ก็จัดว่าเข้าใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้ง่าย ใครที่มาใช้พื้นที่ส่วนกลางจะต้องเข้าในส่วนของ Traveler Lounge นะครับ โดยจะมี 2 ห้องในตำแหน่งนั้นที่อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวไปหน่อย (คนเดินผ่านหน้าห้องเยอะ) ส่วนที่ชอบคือ ทิศตะวันตกมีบันไดหนีไฟแยกออกเป็น 2 จุด ทำให้มีห้องที่ไม่ติดกับเพื่อนบ้านทั้ง 2 ฝั่งอยู่หลายห้องเลย และกลุ่มห้องมุมทางฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอาคารและครึ่งนึงของห้องทางฝั่งทิศใต้ จะได้โถงทางเดินแบบ Single Corridor แถมบางส่วนยังเปิดช่องแสงให้ด้วย ได้ความเป็นส่วนตัวเป็นอย่างดีเลยครับ

โดยห้องพักอาศัยของชั้นนี้ก็มีทั้งหมด 3 รูปแบบครบ S M L เลยครับ ประกอบไปด้วย

  • ห้องไซส์ S เป็น 1 Bedroom ขนาด 25 ตร.ม. ทางฝั่งทิศใต้ 10 ยูนิต และทิศตะวันตก 2 ยูนิต
  • ห้องไซส์ M เป็น 1 Bedroom Plus ขนาด 32-34 ตร.ม. จะอยู่ทางฝั่งทิศตะวันออก 5 ยูนิต, ทิศตะวันตก 3 ยูนิต และทิศเหนือที่เป็นห้องติดพื้นที่ส่วนกลางอีก 3 ยูนิต
  • ห้องไซส์ L เป็น 2 Bedrooms ขนาด 40 ตร.ม. อยู่ที่มุมอาคารทางฝั่งทิศตะวันตก 2 ยูนิตครับ

หน้าตาของพื้นที่ส่วนกลางหลักของโครงการ ภายนอกจะประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำครึ่งนึง และเป็นสวนครึ่งนึงครับ โดยจะมีรูปแบบของ Landscape ที่ใช้เส้นสายร่วมกันให้ดูกลมกลืนเป็นพื้นที่เดียวกันทั้งหมด มีพื้นที่พักผ่อนตามมุมต่างๆกระจายอยู่เต็มพื้นที่

สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 14 x 5 m ลึก 1.2 m, kid pool 6 x 1.5m ลึก 0.6 m เป็นสระกลางแจ้งก็จริง แต่อย่างที่บอกไปครับว่าได้แนวอาคารล้อมทางฝั่งทิศตะวันออก ทิศใต้ และทิศตะวันตก ทำให้ไม่โดนแดดในหลายช่วงเวลา สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าฝนตกก็อาจจะใช้งานได้ยากหน่อยนะครับ

ภายในอาคารจะมีห้อง Co-Working Space ที่จัดมให้ค่อนข้างดูดีเลยครับ แถมยังรับแสงและวิวจากส่วนของสระว่ายน้ำภายนอกด้วย นอกจากนี้ยังมีห้องออกกำลังกายด้านข้างด้วยนะครับ

ที่ชั้น 3-8 จะมีลักษณะโดยรวมเหมือนกันทั้งหมด ทั้งรูปแบบห้องในแต่ละตำแหน่ง แต่อาจจะมีขนาดพื้นที่ภายในห้องที่แตกต่างกันเพียงเล็กน้อยนะครับ โดยจะมีทั้งหมด 30 ยูนิต/ชั้น ซึ่งหลักๆก็เหมือนกับของชั้น 2 เลย แต่จะมีห้อง ไซส์ M ที่เป็น 1 Bedroom Plus ขนาด 32-34 ตร.ม. ทางฝั่งทิศเหนือเพิ่มมาอีก 5 ยูนิต แทนพื้นที่ของ Facilities ที่ชั้น 2 ครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • Mail Box
  • Smart Locker
  • Laundry Room
  • Stepping Stone Park
  • Pocket Play Park
  • Swimming Pool
  • Fitness Room
  • Locker
  • Co-Passion Space
  • Traveler Lounge
  • Layover Garden
  • มีรถรับส่ง MRT
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 103 : 1
  • เข้าออกโครงการแบบ Access Control
  • ที่จอดรถประมาณ 36% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card

แบบห้อง

อย่างที่บอกไปนะครับว่าห้องที่นี่มีทั้งหมด 3 แบบ 3 ขนาด

  • ห้องไซส์ S เป็น 1 Bedroom ขนาด 25 ตร.ม.
  • ห้องไซส์ M เป็น 1 Bedroom Plus ขนาด 32-34 ตร.ม.
  • ห้องไซส์ L เป็น 2 Bedrooms ขนาด 40 ตร.ม.

ห้องนี้จะขายแบบ Fully Furnished ซึ่งจะได้เฟอร์นิเจอร์ตามห้องตัวอย่างทั้งหมดเลย โดยวัสดุพื้นฐานภายในที่ได้จะเริ่มตั้งแต่ประตูที่ได้ Digital Door Lock พื้นภายในจะเป็นไม้ลามิเนต หนา 12 มม. และกระเบื้องแกรนิตโต้ในห้องครัวและห้องน้ำ ผนังและฝ้าฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downlight ทั้งห้อง ครัวจะได้ Top หิน Quatz และ Backsplash เป็นกระเบื้อง ได้เตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันแบบต่อท่อออกภายนอก และอ่างล้างจานสเตนเลสจาก Franke ห้องน้ำจะได้โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ และอุปกรณ์ต่างๆจาก Cotto พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ นอกจากนั้นจะได้แอร์จาก Daikin หรือเทียบเท่า ขนาดและจำนวนก็ขนาดตามห้องครับ

ที่พิเศษหน่อยจะเป็นเครื่องฟอกอากาศจาก Hafele, Home Automation ที่สามารถเชื่อมต่อกับ Google Nest เพื่อเปิด-ปิด แอร์ และไฟ หรือเลือกปรับระดับแสงภายในห้อง เลื่อนเปิดปิดม่านอัตโนมัติได้ (ม่านไม่ได้ให้นะครับ) และนอกจากนั้นห้องไซส์ M และ L จะได้ Google Nest Mini มาให้ด้วย ที่เป็นลำโพงอัจฉริยะที่สำหรับสั่งการด้วยเสียงเพื่ออำนวยความสะดวกต่างๆภายในห้องครับ ถ้านึกภาพไม่ออกก็เหมือนกับ Jarvis ในหนัง Iron Man นั่นแหละครับ

มาดูห้องแบบแรกกันเลยนะครับ กับแบบห้องไซส์ S เป็น 1 Bedroom ขนาด 25 ตร.ม. ที่จะมีประมาณ 12 ยูนิต/ชั้น ครับ เป็นแบบห้องที่มีให้เห็นบ่อยเหมือนกัน จัดสัดส่วนภายในออกมาได้ค่อนข้างดี แต่ละส่วนแยกกันทั้งหมด เริ่มที่ห้องนั่งเล่นที่สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ ด้านในเป็นห้องนอนที่แบ่งกั้นส่วนด้วยประตูกระจก 3 ตอนครับ เป็นช่องแสงให้กับส่วนห้องนั่งเล่นภายใน ด้านข้างยังมีครัวปิดติดระเบียง ช่วยให้สามารถประกอบอาหารได้เต็มที่ ไม่รบกวนส่วนอื่นภายในห้อง และช่วยเป็นช่องแสงให้ส่วนของพื้นที่หน้าห้องน้ำภายในห้องด้วย ลองเข้าไปชมกันครับ

เปิดประตูเข้ามา ภายในห้องจะมีความสูงอยู่ที่ 2.5 เมตร ส่วนแรกจะเจอกับห้องนั่งเล่นลักษณะตอนลึกเข้าไป ที่รวมพื้นที่รับประทานอาหารไว้ตรงนี้ด้วยเลย สามารถดูทีวีไปด้วยทานอาหารไปด้วยได้

ระยะดูทีวีจะอยู่ที่ประมาณ 2.2 เมตร เหมาะกับการวางทีวีขนาดประมาณ 50-55 นิ้วครับ แต่ด้วยลักษณะของพื้นที่ที่ต้องเป็นทางเดินตรงกลาง ทำให้อาจจะวางโต๊ะไม่ได้นะครับ

เป็นพื้นที่กว้างและมีขนาดค่อนข้างลงตัว สามารถจัดได้หลากหลายแบบ แต่จริงๆแล้วก็ให้เฟอร์นิเจอร์มาครบเลยนะครับ แทบจะไม่ต้องทำอะไรต่อเลย ซึ่งถ้าใครชอบแบบห้องตัวอย่างอยู่แล้ว ก็จะได้ตามนี้เลย ไปดูกัน

โซฟาที่ได้จะเป็นแบบ 2 ที่นั่ง สีอ่อน ซึ่งจะช่วยให้สามารถจัดเฟอร์นิเจอร์ภายในอื่นๆได้ง่าย

ชั้นวางทีวีและชั้นรองเท้าก็ให้มาแบบนี้ด้วยเลยครับ สีและสไตล์จะได้มาในแนวเดียวกันกับโซฟาเลย

ถัดมาจะมีโต๊ะรับประทานอาหารที่ได้หน้าตาแบบนี้เลย โต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่ง ซึ่งจริงๆแล้วก็สามารถเติมที่นั่งที่หัวโต๊ะให้ด้วย ส่วนตัวชอบสีเก้าอี้ที่ให้มาตัดกับสีโซฟาและชั้นวางทีวีทำให้ดูเด่นขึ้นนะครับ

ด้านในจะมีส่วนที่เชื่อมไปยังห้องนอนครับ เป็นประตูบานเลื่อน 3 ตอน ทำให้สามารถเปิดได้กว้างกว่าแบบ 2 ตอน ซึ่งช่วยเป็นช่องแสงหลักให้กับภายในห้องด้วย ตรงนี้ด้านบนจะเหลือพื้นที่ไว้สำหรับติดม่านหรือมู่ลี่เพื่อความเป็นส่วนตัวของห้องนอนได้ด้วย ก่อนจะเข้าไปดูห้องนอน เราไปดูพื้นที่ด้านข้างกันก่อนครับ

ด้านข้างจะเป็นพื้นที่ส่วนสนับสนุนของห้องทั้งห้องน้ำและห้องครัว

ซึ่งจะมีส่วนพื้นที่ตรงกลางไว้จัดเป็นมุมทำโต๊ะวางของได้ด้วย ด้านซ้ายจะเป็นห้องน้ำ และด้านข้างจะเป็นห้องครัวครับ

ห้องน้ำของห้องนี้ค่อนข้างดูดีเลยครับ ด้วยขนาดและของที่ให้มาภายใน เริ่มตั้งแต่พื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้แผ่นใหญ่โทนสีครีม (ของจริงไม่เหลืองขนาดนี้นะครับ ด้วยไฟและ White Balance ของกล้างจึงทำให้ถ่ายออกมาดูเหลืองไปหน่อย อภัยด้วยครับ) วัสดุภายในจะเป็นของ Cotto ทั้งหมดเลย พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ เข้าไปดูกันครับ

อ่างล้างมือเซรามิคแบบฝังบนเคาน์เตอร์ที่มาพร้อมกระเงา และโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติจาก Cotto ครับ ชอบตรงที่ให้มาเป็นโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ แต่ก็ยังได้สายชำระและที่ใส่กระดาษชำระมาให้ด้วย

ภายในมีพื้นที่อาบน้ำที่ให้ฉากกั้นอาบน้ำมาให้ เป็นแบบบานเปิด ซึ่งจะมีข้อดีตรงที่ไม่ได้มีรอยต่อเยอะเหมือนแบบบานเลื่อน ไม่เก็บสะสมสิ่งสกปรกและทำความสะอาดได้ง่ายกว่า แต่ข้อเสียคือจะเปลืองพื้นที่วงสวิงครับ

พื้นที่อาบน้ำก็ได้ขอบยกขึ้นมาให้กั้นน้ำออกไปเลอะส่วนอื่น ขนาดพื้นที่ภายในประมาณ 1 ตร.ม. ยืนอาบน้ำได้สะดวก อุปกรณ์อาบน้ำเป็นแบบ Hand Shower ที่ปรับรูปแบบได้หลากหลาย พร้อมพื้นที่วางอุปกรณ์อาบน้ำด้านข้างครับ

อีกฝั่งจะเป็นห้องครัวครับที่ใช้เป็นประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน ที่ช่วยให้สามารถเปิดได้กว้างเช่นกัน

เข้ามาด้านในจะเป็นห้องครัวปิดตอนยาวติดระเบียง ข้อดีคือทำให้สามารถปิดประตูป้องกันกลิ่นและควันได้ และสามารถระบายอากาศได้ง่ายด้วย

ขนาดพื้นที่ระหว่างเคาน์เตอร์และผนังจะกว้างประมาณ 0.8 เมตร เหมาะกับการใช้งานทีละคนนะครับ ที่ชอบคือพื้นเขาจะเปลี่ยนเป็นกระเบื้องมาให้ ซึ่งจะสามารถทำความสะอาดได้ง่ายกว่าพื้นไม้ลามิเนตครับ

เคาน์เตอร์เป็น Top หินสังเคราะห์ มาพร้อมเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว มีเครื่องดูดควันแบบต่อท่อออกภายนอกให้ มีอ่างล้างจานสเตนเลส จาก Franke ทั้งหมด ผนังด้านหลังเป็นกระเบื้องซึ่งจะมีข้อดีคือผิวสัมผัสเรียบลื่นทำความสะอาดได้ง่ายครับ

ด้านบนมีตู้สำหรับเก็บของมาให้

ด้านล่างจะได้พื้นที่วางไมโครเวฟมาให้พร้อมทั้งช่องเก็บของที่ค่อนข้างหลากหลายเลย เหมาะกับการออกแบบมาใช้สำหรับพื้นที่จำกัด

ด้านในสุดก็มีประตูบานเลื่อนแบบ 3 ตอนมาให้อีกจุดครับ สำหรับเชื่อมต่อกับระเบียง

พื้นที่ระเบียงต้องวางเครื่องซักผ้าด้วย แล้วก็บนเครื่องซักผ้าก็แขวน Condensing Unit 2 ตัว ทำให้ดูค่อนข้างแน่น พื้นที่ภายนอกนี้เหลือไว้สำหรับใช้งานได้ไม่เยอะนัก สำหรับพอยืนสูดอากาศได้ทีละคนหรือออกไปใช้งานเครื่องซักผ้าได้ ตรงนี้จะให้ไฟกิ่งมาด้วยครับ

ภายในห้องนอนให้ขนาดพื้นที่มาเหมาะกับอยู่อาศัย 1-2 คน ซึ่งก็มีพื้นที่ตู้เสื้อผ้ามาให้ด้วย

ฐานเตียงที่ได้จะมีลักษณะแบบนี้เลยครับ มีช่องเก็บของมาให้ด้านล่าง 2 ช่อง

ด้านข้างมีตู้เสื้อผ้าแบบบานเปิด ภายในไม่ได้มีไฟติดตั้งมาให้นะครับ ต้องติดเอง

มีพื้นที่ด้านหน้าตู้ไว้ให้ใช้งานได้สะดวกมาให้ด้วยครับ  อีกฝั่งก็เป็นผนังเรียบที่สามารถติดเป็นกระจกไว้สำหรับแต่งตัวได้เหมือนกันในห้องจะได้เครื่องฟอกอากาศจาก Hafele มาด้วยนะครับ

ข้อดีหลักๆของห้องนี้คือจะติดกับส่วนที่เป็นหน้าต่างหลักของห้องเลย ทำให้สามารถรับวิวและแสงได้เยอะ

ถัดมาเป็นห้องที่มีจำนวนเยอะที่สุดของโครงการอย่างห้อง ห้องไซส์ M เป็น 1 Bedroom Plus ขนาด 32-34 ตร.ม. ภายในดูดีทีเดียว ยังคงเน้นการแบ่งพื้นที่ในแต่ละส่วนให้แยกออกจากกันอย่างชัดเจน ข้อดีคือจะเป็นสัดส่วนและได้ความเป็นส่วนตัว เริ่มที่ห้องนั่งเล่นที่รวมพื้นที่รับประทานอาหารไว้ด้วยเช่นเดิม แยกไปยังส่วนของห้องน้ำ ครัวปิด ห้องอเนกประสงค์ที่มีระเบียงภายใน และช่องแสงหลักของห้องอย่างห้องนอนครับ

ห้องครัวได้ขนาดใหญ่ขึ้น สามารถใช้งานได้สะดวกขึ้น แต่การอยู่ข้างในอาจจะเสียเปรียบในเรื่องของการระบายอากาศ แต่ดีที่เป็นครัวปิดและได้เครื่องดูดควันแบบต่อออกภายนอก แต่ต้องใช้เวลานานหน่อยนะ ส่วนห้องอเนกประสงค์ก็สามารถทำได้หลากหลาย ทั้งห้องนอนรอง ห้องทำงาน หรือห้องออกกำลังกาย แต่อย่าลืมตคำนึงถึงการเข้าออกเพื่อใช้งานระเบียงด้วยนะครับ สำหรับการตากผ้า หรือทำอะไรก็ควรจะต้องเดินได้สะดวก ส่วนห้องนอนก็มีขนาดสำหรับวางเตียงได้พอดี และมีพื้นที่ตู้เสื้อผ้าภายในให้ด้วย เข้าไปดูกันครับ

เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับส่วนของห้องนั่งเล่น เหมือนกันกับห้อง 1 Bedroom เมื่อสักครู่นี้เลย จะได้วัสดุและความสูงภายในเท่ากันกับห้องก่อนหน้านี้ทั้งหมดครับ

ตรงนี้มีลักษณะเหมือนเดิม ได้ระยะดูทีวีประมาณ 2.2 เมตร เหมาะกับการวางทีวีขนาดประมาณ 50-55 นิ้วครับ แต่ด้วยลักษณะของพื้นที่ที่ต้องเป็นทางเดินตรงกลาง ทำให้อาจจะไม่เหมาะกับการวางโต๊ะกลางนะครับ

ด้านในเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร แต่ด้วยลักษณะของห้องที่จะลึกกว่า ทำให้ได้ระยะเพิ่มในส่วนนี้ ใช้งานได้สะดวกกว่าเดิม

ชุดรับประทานอาหารก็จะได้ตามนี้เลยนะครับ ไม่เหมือนกันกับของห้องแรก

ส่วนของห้องน้ำจะมีลักษณะของวัสดุภายในเหมือนกันกับห้องก่อนหน้านี้ทั้งหมดเลยครับ

แต่จะต่างกันที่พื้นที่อาบน้ำจะได้กว้างขึ้นครับตามขนาดห้องน้ำที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ทำให้สามารถวางชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำได้ด้วย

ภายในห้องจะกระจายออกเป็นอีก 3 ส่วน คือห้องครัวปิด ห้องอเนกประสงค์และห้องนอนครับ

มาดูห้องครัวกันก่อน จะเป็นห้องครัวปิดได้เปรียบที่แบ่งกั้นแยกส่วนชัดเจน แต่มีตำแหน่งอยู่ภายในตัวห้อง ทำให้การจะระบายควันและกลิ่นออกไปภายนอกก็อาจจะต้องใช้เวลาสักพัก

ขนาดกว้างขึ้นหน่อยครับ แต่ก็ยังเหมาะกับการใช้งานคนเดียวอยู่ดีนะครับ

ตรงนี้จะมีวัสดุต่างๆเหมือนเดิมหมดเลย แต่จะมีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าด้วย ทำให้ได้พื้นที่ระเบียงมากขึ้น

ห้องอเนกประสงค์จริงๆสามารถทำได้หลายอย่างเลยครับ ทั้งห้องทำงาน ห้องออกกำลังกาย หรือจะเป็นห้องนอนก็ได้ เพราะมีช่องแสงภายใน แถมได้ประตูเข้าห้องแบบทึบที่แบ่งกั้นความเป็นส่วนตัวได้ชัดเจน

พื้นที่ภายในค่อนข้างกว้างนะครับ แต่ถ้าเป็นห้องนอนก็วางเตียง 3.5 ฟุตได้ และเหลือทางเดินเข้าออกระเบียงได้อยู่

ด้านในมีประตูบานเลื่อน 2 ตอนให้ออกไปยังระเบียง

เป็นระเบียงที่กว้างขึ้นหน่อยเพราะวางเครื่องซักผ้าไว้ในครัวแล้ว แต่ก็ต้องแขวน Condensing Unit ถึง 3 ตัว

ไปดูห้องนอนกันครับ เป็นส่วนที่แบ่งกั้นด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอน ทำให้สามารถเปิดได้กว้าง ด้านบนเหลือพื้นที่ไว้สำหรับแขวนม่านได้ด้วย

ภายในเป็นห้องนอนขนาดพอดีกับเตียง สำหรับวางเตียง 5 ฟุต ได้พร้อมกับโต๊ะหัวเตียงทั้งสองฝั่ง

จะมี Google Nest มาเป็นตัวเลือกให้ด้วย สำหรับต้องการสั่งการด้วยเสียง แต่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มนะ

ส่วนด้านในจะมีช่องแสงขนาดใหญ่ และมีพื้นที่ตู้เสื้อผ้าปลายเตียงให้ด้วย และมีระยะให้สามารถใช้งานได้ครับ

ก่อนจะจบส่วนนี้ ขยับมาดูกันที่ห้องขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการอย่าง ห้องไซส์ L เป็น 2 Bedrooms ขนาด 40 ตร.ม. ที่มีเพียง 2 ยูนิต/ชั้น กันอีกหน่อย ข้อดีหลักๆเลยคือเป็นห้องหน้ากว้างทำให้สามารถรับแสงได้เยอะ ซึ่งจะได้ 2 ทิศเลย เข้าถึงในทุกๆส่วนของห้อง ทั้งห้องนั่งเล่น ห้องนอน 2 ห้อง รวมไปถึงได้ช่องแสงและระบายอากาศในห้องน้ำได้ด้วย ส่วนห้องครัวที่ถึงจะอยู่ด้านในแต่ก็ได้แสงจากห้องนั่งเล่นด้วยเช่นกัน

ส่วนการใช้งานก็จัดสัดส่วนได้ดีเลยครับ โดยจะมีห้องนั่งเล่นเป็นส่วนแจกไปยังพื้นที่ต่างๆ เริ่มต้นภายในห้องด้วยครัวปิดที่เป็นทางเข้าออกของห้อง และส่วนของห้องน้ำที่ต้องเข้าจากทางห้องครัว จากนั้นจะเข้าไปยังพื้นที่กลางห้องที่เป็นห้องนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหาร ด้านในจะมีระเบียง และแจกไปยังห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ซึ่งอาจจะต้องมาใช้ห้องน้ำไกลหน่อย แต่ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวภายในห้อง

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

 

ราคา

29 September 2020

  • แบบห้อง S ห้อง 1 Bedroom ชั้น 3 ห้อง 3S2  เนื้อที่ 25 ตร.ม. ราคา 2.5 ล้านบาท หรือ 100,272 บาท/ตร.ม.
  • แบบห้อง M ห้อง 1 Bedroom Plus ชั้น 3 ห้อง 3M4 เนื้อที่ 32 ตร.ม. ราคา 3.22 ล้านบาท หรือ 100,784 บาท/ตร.ม.
  • แบบห้อง M ห้อง 1 Bedroom Plus ชั้น 3 ห้อง 3M9 เนื้อที่ 34 ตร.ม. ราคา 3.52 ล้านบาท หรือ 103,611 บาท/ตร.ม.
  • แบบห้อง L ห้อง 2 Bedroom ชั้น 3 ห้อง 3L1 เนื้อที่ 40 ตร.ม. ราคา 4.13 ล้านบาท หรือ 103,460 บาท/ตร.ม.

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.50 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท็อปหิน Quatz
  • Hob & Hood แบบต่อท่อออกภายนอก ของยี่ห้อ Franke
  • มีรถรับส่ง MRT ลาดพร้าว
  • จอง 5,000 / 10,000 / 20,000 บาท
  • ทำสัญญา 70,000 / 90,000 / 100,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 60 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

บทสรุป

Miles รัชดา-ลาดพร้าว : เมื่อลองมองภาพรวมของย่านนี้ จุดเด่นหลักๆของโครงการนี้ที่เห็นได้ชัดเจนเลยคือวัสดุที่ได้ภายในห้องครับ โดยโครงการส่วนใหญ่ในย่านนี้ก็มักจะขายแบบ Fully Furnished เช่นกัน แต่โครงการเราจะดูโดดเด่นกว่าในหลายๆส่วน เช่น โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ,Top ครัวหิน Quatz, เครื่องฟอกอากาศ และ Home Automation (เฉพาะแบบห้อง M, L) ส่วนต่อมาน่าจะเป็นเรื่องของขนาดพื้นที่โครงการ ที่เราได้มาเกือบ 2 ไร่ (ส่วนใหญ่โครงการข้างเคียงจะประมาณ 1 ไร่) ทำให้พื้นที่ภายในโครงการของเราจะดูกว้างโล่งมากกว่า ส่วนในเรื่องของพื้นที่ส่วนกลางก็จัดว่าเท่าเทียมกันกับโครงการอื่นๆครับ ไม่ได้ต่างกันมากนัก และแอบเสียดายที่ไม่มีพื้นที่ส่วนกลางชั้นดาดฟ้าให้ใช้งานครับ (โครงการข้างเคียงส่วนใหญ่จะมี) ลองไปข้อสรุปดูส่วนต่างๆกันครับ..

ทำเล : โครงการ Miles รัชดา-ลาดพร้าว ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 26 จัดว่าอยู่ในทำเลลาดพร้าวช่วงต้น ๆ ระหว่างห้าแยกลาดพร้าว กับ แยกรัชดา-ลาดพร้าว ซึ่งลาดพร้าวที่อยู่ทางฝั่งนี้จะมีข้อดีตรงที่รถจะไม่ติดเท่าลาดพร้าวทางฝั่งที่เลขเยอะ ๆ ที่มุ่งหน้าไปทางบางกะปิ เพราะมีซอยลัดสำหรับระบายการจราจร โดยซอยที่ตั้งของโครงการ เพราะเป็นซอยที่เป็นซอยลัด 3 ทางหลัก คือสามารถไปออกถนนลาดพร้าว ถนนรัชดาภิเษก และถนนวิภาวดีรังสิตได้ ความสะดวกคือสามารถเลี่ยงรถติดและไปขึ้นทางด่วนได้สบายๆ โดยไม่ต้องออกถนนใหญ่ มีรถผ่านตลอดเวลาไม่เปลี่ยว อีกทั้งยังเป็นซอยที่ไม่ไกลร้านค้า 7-11 สภาพแวดล้อมภายในซอยนี้ส่วนมากเป็นบ้านเดี่ยว อพาร์ทเม้นท์และคอนโด Low Rise ฝั่งที่ติดถนนใหญ่ลาดพร้าวจะเป็นตึกแถวและคอนโด High Rise เรียงกันไป ส่วนถ้าจะช็อปปิ้งที่ใกล้ที่สุดจะเป็น BigC Extra, HomePro อยู่ในระยะที่เดินได้ ส่วนห้างที่ขยับออกไปหน่อยก็คงจะเป็น Union Mall, Central ลาดพร้าว, Lotus, Index Living Mall, เมเจอร์ รัชโยธิน อีกทั้งยังมีตลาดเดินช้อปให้เลือกอีกคือสวนจตุจักร ตลาด อ.ต.ก.

การเดินทางโดยใช้รถ : ถือว่าสะดวกในการเลือกใช้งาน เพราะโครงการตั้งอยู่ในซอยฝั่งเลขคู่ โดยเฉพาะมีทางเลี่ยงทางลัดเชื่อมต่อทะลุกันไปได้หลายเส้นทาง ทั้งวิภาวดี ที่เลือกโผล่ซอย 22, 20, 16 ได้หมด ส่วนรัชดา ก็สามารถไปโผล่ซอยรัชดา 19 ได้ ซึ่งตัวเลือกในการเดินทางเหล่านี้ จะทำให้สามารถหลีกเลี่ยงรถติดในช่วงเวลาที่ถนนลาดพร้าวติดได้ โครงการจัดที่จอดรถมาประมาณ 36% ไม่รวมจอดซ้อนคัน จัดที่จอดรถไว้ใต้อาคารและภายนอกของชั้น 1 ทั้งหมด ช่วยเพิ่มความสะดวกได้ความปลอดภัย การใช้งานไม่ต้องจอดกลางแดดกลางฝน มีลิฟต์แบบล็อคชั้น จากชั้นที่จอดรถช่วยให้ผู้ที่อยู่อาศัยในโครงการสามารถเข้าสู่ส่วนพักอาศัยได้ง่าย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :โครงการอยู่ห่างจาก MRT ลาดพร้าว ประมาณ 550 เมตร ซึ่งก็แอบไกลไปนิดถ้าจะเดินแต่ทางโครงการก็มีรถวิ่งรับส่งให้นะครับ และด้วยความเป็นซอยที่ลัดเลาะได้หลากหลายทำให้ภายในซอยจะมีพี่วิมอเตอร์ไซด์รับจ้าง และแท็กซี่ผ่านไปมาอยู่ตลอด แต่ซอยนี้จะไม่มีทางเท้าก็ต้องระมัดระวังกันหน่อยถ้าจะเดินในซอย เวลารถวิ่งสวนไปมา

วัสดุ : จัดว่าเป็นหนึ่งในจุดเด่นของโครงการเลย เริ่มที่ขายแบบ Fully Furnished ซึ่งจะได้เฟอร์นิเจอร์ตามห้องตัวอย่างทั้งหมดเลย โดยวัสดุพื้นฐานภายในที่ได้จะเริ่มตั้งแต่ประตูที่ได้ Digital Door Lock พื้นภายในจะเป็นไม้ลามิเนต หนา 12 มม. และกระเบื้องแกรนิตโต้ในห้องครัวและห้องน้ำ ผนังและฝ้าฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downlight ทั้งห้อง ครัวจะได้ Top หิน Quatz และ Backsplash เป็นกระเบื้อง ได้เตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันแบบต่อท่อออกภายนอก และอ่างล้างจานสเตนเลสจาก Franke ห้องน้ำจะได้โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ และอุปกรณ์ต่างๆจาก Cotto พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ นอกจากนั้นจะได้แอร์จาก Daikin หรือเทียบเท่า ขนาดและจำนวนก็ขนาดตามห้องครับ

ที่พิเศษหน่อยจะเป็นเครื่องฟอกอากาศจาก Hafele, Home Automation ที่สามารถเชื่อมต่อกับ Google Nest เพื่อเปิด-ปิด แอร์ และไฟ หรือเลือกปรับระดับแสงภายในห้อง เลื่อนเปิดปิดม่านอัตโนมัติได้ (ม่านไม่ได้ให้นะครับ) และนอกจากนั้นห้องไซส์ M และ L จะได้ Google Nest Mini มาให้ด้วย ที่เป็นลำโพงอัจฉริยะที่สำหรับสั่งการด้วยเสียงเพื่ออำนวยความสะดวกต่างๆภายในห้องครับ

การออกแบบ : เป็นโครงการที่ออกแบบได้ดีเหมือนกันครับ ทั้งเรื่องของตัวอาคารที่ออกแบบมาในแนว Modern Classic ให้เห็นจากเส้นสายและสีสัน รวมถึงรายละเอียดต่างๆ การวางผังก็มีทั้งข้อดีที่ต้องชมอย่างเช่นการวางส่วนกลางหลักไว้ที่ชั้น 2 ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูง และตั้งอยู่ทางทิศเหนือที่จะได้แนวอาคารช่วยบังแแดดในทิศต่างๆ เข้าออกได้ทั้งจากชั้น 1 และ 2 ครับ แถมการวางผังห้องพักยังมี Single Corridor ในหลายๆช่วง แต่ในเรื่องของความเป็นส่วนตัวอาจจะเสียไปหน่อย เช่นทางเข้าออกอาคารที่ชั้น 1 จะเข้าถึงที่ส่วนของโถงลิฟต์เลย ก่อนที่จะเข้าไปยัง Lobby รวมถึงการเข้าถึงพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 2 ก็ไม่ได้แยกส่วนห้องพักอาศัยออกจากพื้นที่ส่วนกลางให้

ส่วนห้องพักอาศัยก็ออกแบบมาให้ 3 แบบ 3 ขนาด สำหรับรองรับหลากหลายรูปแบบครอบครัว ภายในห้องแยกสัดส่วนและแบ่งพื้นที่ภายในมาค่อนข้างดี ได้ครัวปิด และช่องแสงให้หลากหลาย ยิ่งห้อง 2 Bedroom ที่อยู่มุมอาคารนี่ได้ช่องแสงภายในห้องน้ำด้วย (หาได้ยากเหมือนกันนะในคอนโด)

สาธารณูปโภค : พื้นที่ส่วนกลางให้มาหลากหลายครบตามมาตรฐานครับ ที่ชั้น 1 เป็นส่วนของ Lobby ที่เชื่อมกันได้ 2 ชั้น และมีสวนภายนอกให้ใช้งาน ส่วนขึ้นมาด้านบนจะเป็น Main Facilities ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือพร้อมสระเด็ก และสวนที่จัดออกมาได้เข้ากับสระว่ายน้ำ ภายในจะมีห้องทำงานและห้องออกกำลังกาย รวมถึงห้องน้ำแยกชายหญิงให้ด้วย เรียกว่าให้มาครบและน่าใช้งานเหมือนกัน ในส่วนอื่นๆก็จะมีรถรับส่ง MRT ลาดพร้าวให้, Smart Locker, เข้าออกโครงการแบบ Easy Pass, Laundry Room, ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว โดยจะมีอัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 103 : 1 ก็ถือว่าแอบเยอะเหมือนกันครับ ส่วนที่จอดรถจะได้ประมาณ 36% รวมจอดซ้อนคัน ซึ่งก็แอบน้อย แต่ก็มีการเดินทางสาธารณะมาคอยช่วยอยู่ครับ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 110,000 บาท/ตร.ม., 29 September 2020

  • ทำเล 7.75/10 – ทำเลในซอย ได้ความสงบแต่ไม่มีร้านค้าใกล้ๆ
  • เดินทางด้วยรถ 8.25/10 – ทางลัดเยอะ ไปได้หลายทาง ค่อนข้างสะดวก
  • ไม่ใช้รถ 8/10 – 550 เมตร จาก MRT ลาดพร้าว มีรถรับส่งให้ มีวินและแท็กซี่ผ่านไปมาตลอด
  • วัสดุ 8.5/10 –  ให้ดีกว่าโครงการใกล้เคียงในย่านนี้ Fully Furnished สุขภัณฑ์อัตโนมัติ, Top ครัวเป็นหิน Quatz, เครื่องฟอกอากาศและ Home Automation
  • แบบ 7.75/10 มีแบบห้องให้เลือกหลายขนาด ห้องในผังบางตำแหน่งเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้าง
  • สาธารณูปโภค 8/10 – ให้มาครบตามมาตรฐาน เหมาะสมกับจำนวนยูนิต

  • UPPER CLASS
  • 8 / 10.00

BOTTOM LINE

เหมาะสำหรับคนที่ต้องการคอนโดใกล้รถไฟฟ้า MRT มียูนิตไม่เยอะมาก ไม่วุ่นวาย ชอบพื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบสไตล์ Modern มีความหลากหลายน่าใช้งาน เน้นการอยู่อาศัยด้วยคุณภาพวัสดุภายในห้องที่ดีและให้มาครบแบบไม่ต้องเผื่องบแต่งต่อเยอะ มีงบประมาณตั้งแต่ 2 – 4 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 14,000 – 28,000 บาท


ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving