รีวิวโครงการ

พาชมตึกเสร็จ Maestro 01 สาทร-เย็นอากาศ คอนโดสไตล์ยุโรปคลาสสิค ติดถนนเย็นอากาศ จาก Major Development [รีวิวฉบับที่ 1624]

11 กรกฎาคม 2018

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิวฉบับที่ 791 … Maestro 01 สาทร-เย็นอากาศ เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise ตึกล่าสุดจาก Major Development ที่ตั้งแบรนด์ Maestro มาเพื่อทำตลาด Affordable Luxury หรือความหรูหราแบบจับต้องได้โดยเฉพาะ จัดเป็นคอนโดที่เน้นการดีไซน์ออกแบบให้หรูหรา มีการนำกลิ่นอายของความเป็นคลาสสิกเข้ามาผสมผสานกับรูปแบบของตึก ในขณะที่ยังไม่ได้ปรับให้ราคาสูงเกินไป เริ่มต้นที่ราวๆ 134,000 บาทต่อตารางเมตร ไปจบแถวๆ 165,000 บาทต่อตารางเมตร กับตึกที่เน้นกลุ่มผู้อยู่อาศัยแบบครอบครัวและมีที่จอดรถเกิน 90% ของจำนวนยูนิตครับ

Fact @ 19 March 2015

  • Maestro 01 Sathorn – Yenakat (มาเอสโตร สาทร-เย็นอากาศ)
  • บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เอสเตท จำกัด
  • HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : สาทร
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 88 ยูนิต
  • อาคารจอดรถชั้นใต้ดิน 2 ชั้น
  • ที่จอดรถ 63 + 17 รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 90%
  • ที่ดินประมาณ 0-3-98.3 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : มีนาคม 2559
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : สิงหาคม 2560
  • 1 Bedroom 33.5 – 50.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4.5 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 68 – 70.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 9 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms Duplex 100 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 16.4 ล้านบาท
  • 3 Bedrooms Duplex 135 – 165 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 22.7 ล้านบาท
  • ราคา 4.5 – 27.1 ล้านบาทหรือประมาณ 134,000 – 165,000 บาทต่อตารางเมตร
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
  • http://www.mde.co.th/th/register_project/29
  • โทร 02-254-4777 (อาคารเมเจอร์ทาวเวอร์ ทองหล่อ 10)

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.717916, 100.547903

ตำแหน่งของคอนโด Maestro 01 สาทร-เย็นอากาศอยู่ติดถนนซอยเย็นอากาศ ตรงข้ามกับซอยประสาทสุข เป็นที่ดินขนาด 1 ไร่เศษ อยู่ในบริเวณตัวเมืองอันเป็นชุมชนเก่าด้านหลังซอยสาทร 1 และถนนพระราม 4 … ถนนบริเวณนี้จะถูกใช้เป็นทางลัดเพื่อไปออกนางลิ้นจี่ สาทร สวนพลู เกอเธ่ พระรามที่ 4 พระรามที่ 3 ถนนจันทน์ ทางด่วนหรือแม้กระทั่งถนนนราธิวาสฯ ทำให้เป็นถนนที่มีทางหนีทีไล่เยอะ เข้าออกได้หลายทาง มีทั้งทางที่รถติดมากและทางที่รถไม่ติดเลย ซึ่งถ้าใครอยากจะอยู่ในพื้นที่แถวนี้ก็ต้องเชี่ยวชาญเรื่องทางลัดทางเล็กทางน้อย ใช้ให้ครบและรู้ให้ทั่วว่าเส้นไหนจะติดเมื่อไรครับ

จะเห้นว่าตำแหน่งของที่ดิน Maestro 01 สาทร-เย็นอากาศนั้นแทบจะอยู่ใจกลางรังผึ้งบริเวณนี้เลย หากวิ่งเข้ามาจากถนนใหญ่นางลิ้นจี่ก็จะอยู่ห่างจากสามแยกบริเวณ​ Tops Market ราว 1 กม. ถ้าจะวิ่งไปจนสุดซอยก็ห่างจากทางออกถนนพระราม 4 ประมาณ 800 เมตร โดยมี MRT สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ MRT คลองเตย ห่างจากตำแหน่งที่ตั้งของโครงการประมาณ​ 1 กิโลเมตร ซึ่งจริงๆก็พอเดินเท้าได้ แต่ด้วยสภาพในซอยผมว่าไม่ค่อยน่าเดินเท่าไร เพราะฟุตบาทไม่ค่อยจะมีและรถก็วิ่งกันเยอะเกินไปด้วยครับ

ผมพามาดูทางเข้าจากถนนใหญ่นางลิ้นจี่

ซึ่งจะต้องผ่านแยกถนนจันทน์เก่าไปก่อนที่จะถึงสามแยกเย็นอากาศ

บริเวณนี้มีคอนโดมิเนียมตึกสูงอยู่ 1 แห่ง คือ Parco นางลิ้นจี่ ตึกสีส้มๆที่พึ่งจะสร้างเสร็จได้ไม่นานนี้

หากวิ่งทะลุนางลิ้นจี่ไปเรื่อยๆก็สามารถออกสาทรที่บริเวณซอยสวนพลูได้ หรือจะเลี้ยวซ้ายไปออกถนนนราธิวาสราชนครินทร์ซอย 15, 17 ก็ได้

จากบริเวณ Tops Market เลี้ยวขวาเข้าซอยเย็นอากาศ วิ่งตรงมาเรื่อยๆประมาณ 1 กิโลเมตรเราก็จะพบกับแปลงที่ดินของตึก Maestro 01 เย็นอากาศ

ฝั่งตรงข้ามของแปลงที่ดินเป็น Townhouse รุ่นเก่าหน่อย

ด้านข้างของตึกก็เห็นกำลังก่อสร้างบ้านประมาณ 3 ชั้นอยู่ ทำให้วิวทิศใต้บริเวณชั้น 2-3 อาจจะโดนบล็อคอยู่บ้าง

แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะบล็อคมิดสนิททีเดียวเพราะข้างแปลงที่ดินก็มีตรอกเล็กๆคั่นอยู่

ฝั่งตรงข้ามของที่ดินจะมีซอยประสาทสุข

ซอยนี้ใช้เป็นทางลัดสามารถลัดเลาะไปออกถนนเชื้อเพลิงด้านหลังได้ แต่ทางก็จะแคบๆหน่อยนะครับ

ฝั่งทิศเหนือของแปลงที่ดินก็จะติดกับตึกแถว 4 ชั้น ซึ่งก็จะมีบล็อควิวกันบ้างตามธรรมดาของคอนโดที่อยู่ในเมือง

การก่อสร้างคงจะเริ่มช่วงปลายปีหลังจากที่ได้รับอนุญาต EIA และตึกเตี้ยแบบนี้ถ้าไม่มีเหตุขัดข้องก็คงใช้เวลาไม่นานไม่เกิน 2 ปีก็สร้างเสร็จครับ

โครงการ

ตัวตึกของ Maestro 01 สาทร-เย็นอากาศ นั้นมีความเป็นคลาสสิกอยู่สูง ใช้สีโทนขาวสลับกับน้ำเงิน Navy และวัสดุประเภท Copper ส่งผลถึงการดีไซน์แบบคลาสสิก

หน้าตาตึกนี่ก็ใช่เลย ไม่ใช่พวกตึกแบบ Modern แน่นอน

ส่วนกลางส่วนใหญ่จะอยู่ที่ชั้น Rooftop โดยมีสวนของสวน ลานโยคะ ลาน BBQ ฟิตเนส และ Sky Lounge

ส่วนสระว่ายน้ำจะตั้งอยู่ที่บริเวณชั้น 2 ของอาคาร ตัวสระเป็นสระน้ำเกลือ กว้าง 4.5 เมตร ยาว 12.5 เมตร ลึก 1.2 เมตร ถือว่าไม่กว้างมากแต่ก็พอว่ายน้ำได้

ห้องฟิตเนสตั้งอยู่ที่ชั้นดาดฟ้า อาจจะร้อนสักหน่อยเวลากลางวัน ต้องรอแดดร่มลมตกนิดนึงนะครับ

Lounge เช่นเดียวกันตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้า ให้พื้นที่บางส่วนเป็น Games Room ประกอบเข้ามาด้วย ตรงนี้ตากแอร์ชิลๆ ชมวิวรอบๆจากบริเวณชั้น 8 ได้ครับ

สิ่งอำนวยความสะดวกโครงการ

ชั้น 1

  • The Grande Lobby (ล็อบบี้)
  • Private Mail Box
  • Secure Bike Rack (แร็คจอดจักรยาน)
  • Guard House
  • Launderette

ชั้น 2

  • Marvelous Recreation Pool
  • Revitalized Stream-Sauna
  • Private Changing Room

Rooftop

  • Revived Clubroom (คลับรูมอเนกประสงค์)
  • Exquisite Fitness Lounge
  • Peaceful Yoga Lawn
  • Amusing playground
  • Enjoyable BBQ Area
  • Tranquil Pavilion

Others

  • Shuttle Service
  •  24/7 Wireless internet
  •  24/7 Security service

ตัวตึกของ Maestro แทบจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมเลย ปลูกเต็มพื้นที่ 1 ไร่เศษ มีจำนวนยูนิตน้อย เพียง 88 ห้อง โดยห้อง 2 Bedrooms นั้นมีจำนวนมากกว่า 1 Bedroom เสียอีก ทำให้ที่นี่สามารถจอดรถได้ถึง 67 + 13 คัน หรือ 80 คันจาก 88 ห้อง คิดเป็น 91% จัดเป็นคอนโดในระดับ 135,000 – 165,000 บาทที่มีที่จอดรถมากเป็นพิเศษ เมื่อเทียบกับมาตรฐานของคอนโดเปิดใหม่ปี 2015 ครับ

แพคเกจของคอนโด Maestro 01 สาทร-เย็นอากาศ นี้ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 4.5 – 9.7 ล้านบาท ก็คือห้อง 1 และ 2 Bedrooms แบบธรรมดา โดยจะมีเพียงไม่กี่ห้องที่ราคาโดดออกมาแพงๆ คือห้องแบบ 2 Bedrooms Duplex และ 3 Bedrooms Duplex ที่จะโดดขึ้นไปถึงราคาสูงสุดที่ 27 ล้านบาท ทำให้กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่นั้นเป็นกลุ่มที่ต้องพอมีสตางค์บ้าง หากจะหยิบจับห้องในราคา 5-10 ล้านบาท ก็ต้องมีกำลังผ่อนอย่างน้อย 35,000 – 70,000 บาทต่อเดือนนะครับ

ตัวตึกตั้งขนานกับถนนซอยเย็นอากาศเลย เข้าออกได้ทางด้านหน้าซึ่งเป็นทางวนขึ้นลงโรงจอดรถ ฝั่งที่หันหน้าเข้าหาถนนคือทิศตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งอาคารโดยรอบๆของตึกนี้ล้วนแล้วแต่เป็นตึกแถวหรือทาวน์เฮาส์ที่สูงอยู่ในระดับ 3-4 ชั้น ดังนั้นถ้าใครซื้อชั้น 5 หรือ 6 ก็จะสามารถมองข้ามหลังคาของอาคารรอบๆได้ค่อนข้างเซฟละครับ

ชั้นบนอย่างที่กล่าวไปเบื้องต้นก็จะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง อันประกอบด้วยสวน ฟิตเนสและ Lounge

พื้นที่ส่วนกลางไม่ได้สร้างเต็ม Rooftop นะครับ มีพื้นที่บางส่วนกั้นไว้เป็น Service Area เหมือนกัน

ส่วนที่โหดหน่อยของตึกนี้ก็คือช่องตรงกลางที่วางสระว่ายน้ำขนาด 4.5 x 12.5 เมตร ทำให้ห้องบางส่วนที่เป็น Pool View หันหน้าเข้าหากันโดยมีระยะห่างระหว่างห้องราวๆ 5-6 เมตรเท่านั้น

 

จริงๆทางโครงการก็ออกแบบหลบ ช่วยไว้ได้บ้างนะครับ เพราะยอมเจาะพื้นที่ข้างๆห้อง Type B1-1 ออกไปให้เป็นช่องแสง ทำให้ห้อง A3 ไม่ต้องไปจ๊ะเอ๋กับใครตรงๆ และห้อง B1-1 ก็สามารถมองทะลุช่องผ่านสระว่ายน้ำออกไปทางแนวยาว เหลือแค่คู่ของ B4 และ A1 ที่จะมีระเบียงตรงกันเพียงคู่เดียวครับ จำนวนยูนิตสูงสุดต่อชั้นของ Maestro 01 เย็นอากาศอยู่ที่ 13 ยูนิตต่อชั้น เริ่มตั้งแต่ชั้น 1 เป็นต้นไป(มี 5 ยูนิต) ส่วนชั้น 2 จะมีพื้นที่บางส่วนที่เป็นส่วนกลาง และเป็น Void ของ Lobby จึงทำให้โล่งกว่าชั้น 3-4-5-6 ส่วนชั้น 7-8 นั้นจะมียูนิตที่เป็น Duplex อยู่ด้วย ทำให้จำนวนห้องน้อยกว่าชั้นทั่วๆไปนะครับ

ยูนิตขนาดมาตรฐานของ Maestro 01 สาทร-เย็นอากาศ คือ Type A2-2 ขนาด 34 ตารางเมตร ซึ่งเป็นห้อง 1 Bedroom ที่มีห้องน้ำอยู่ในห้องนอน แยกเป็นสัดเป็นส่วนทุกฟังก์ชั่น รวมถึงระเบียงสองชั้นบริเวณข้างห้องนั่งเล่น จัดเป็นยูนิตที่โอเค เพราะออกแบบมาด้วยพื้นที่ที่ไม่เล็กจนเกินไป ต่างจากคอนโดประเภท Mass ที่ตัดพื้นที่จนเหลือ 20 กว่าตารางเมตรครับ

ยูนิตถัดมาเป็นแบบ 1 Bedroom ขนาด 50.5 ตารางเมตร โดยส่วนตัวแล้วผมว่ายูนิตนี้อยู่สบายกว่าห้อง 2 Bedrooms 68 ตารางเมตรเสียอีก เพราะจะได้ยูนิตที่มีพื้นที่ใหญ่ กว้างขวางทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอน ตลอดจนมีอ่างอาบน้ำในห้องนอนด้วย ถ้าใครพอมีงบประมาณสัก 6-7 ล้าน และต้องการห้องใหญ่สำหรับอยู่ไม่เกิน 2 คน ห้องนี้ค่อนข้างตอบโจทย์ได้ดีเลยครับ

สุดท้ายเป็นห้อง 2 Bedrooms ขนาด 68 ตารางเมตร ที่เราจะพาไปชมในรีวิวกันนะครับ


Product Walkthrough

ก่อนอื่นเลยจะบอกว่าสำนักงานขายของ Maestro 01 ไม่ได้ตั้งอยู่ที่บริเวณไซต์โครงการนะครับ แต่จะอยู่ติดถนนซอยเย็นอากาศ ห่างจาก Tops Market ที่บริเวณสามแยกนางลิ้นจี่มาราวๆ 50 เมตร ดังนั้นถ้าใครผ่านไปที่ไซต์แล้วไม่เจอสำนักงานขาย ก็ให้ขับตรงมาเรื่อยๆทางนางลิ้นจี่ ก็จะถึงสำนักงานขายนะครับ

ห้องตัวอย่างที่สำนักงานขายมีให้ดู 1 แบบ ก็คือห้องแบบ 2 Bedrooms ขนาด 68 ตารางเมตร ในระดับราคา 9-10 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุที่ทำห้องตัวอย่างแบบนี้ก็เพราะทางโครงการต้องการกลุ่มลูกค้าประเภทครอบครัวจริงๆ แตกต่างจากคอนโดอื่นๆทั่วไปที่มักจะทำเฉพาะห้องตัวอย่างแบบ 1 Bedroom เท่าน้ัน

เริ่มกันจากประตูก่อนเลย มีการออกแบบวงกบซับในซับนอกเอาไว้ให้เรียบร้อย ตัวประตูทำสีโทน Navy Blue ต่างจากประตูคอนโดทั่วๆไปครับ

สีของตัวประตูจริงๆแล้วผมว่าอมเขียวหน่อยๆนะครับ ส่วนลูกบิดมือจับทั้งหมดเป็นสีโทน Copper ให้ความรู้สึกคลาสสิกดีจริงๆ

เปิดประตูเข้าไปภาพที่เห็นก็คือภาพนี้ เป็นห้องของโครงการแบรนด์ Maestro ห้องแรกที่มีห้องตัวอย่างจริงจัง ดูหรูหราสมเป็นแบรนด์ที่เจาะกลุ่มลูกค้า Affordable Luxury … ก็แน่นอนละครับห้องพร้อมเฟอร์ในราคา 9-10 ล้านบาท บวกกับค่าตกแต่งเพิ่มเข้าไปอีก มันต้องดูหรูอยู่แล้ว

ส่วนด้านหน้าของห้องเป็นส่วนครัวรูปตัว U นะครับ ถัดเข้าไปจึงจะเป็นห้องนั่งเล่นและโต๊ะทานข้าว รวมกันเป็นพื้นที่เดียวกัน

ด้านหลังประตูก็จะเป็นพื้นที่ของห้องน้ำ ที่ใช้ร่วมกันระหว่างด้านนอกและห้องนอนเล็ก

ครัวรูปตัว U ของที่นี่ก็ใช้ท๊อปครัวที่มีสีออกไปทางเหลืองน้ำตาล สีแตกต่างจากท๊อปครัวทั่วไปที่เราเห็นกัน ซึ่งส่วนมากจะทำสีดำ สีขาว หรือสีเทา

พื้นที่ครัวมีให้โอเค สามารถเตรียมอาหารได้สะดวก มีการฝังซิงก์ลงไปแบบนี้ด้วย เวลาทานข้าวเสร็จก็สามารถยกจานชามมาวางได้จากฝั่งตรงข้ามเลย

เตานั้นวางอยู่ฝั่งที่ติดผนัง โดยจะมีเครื่องดูดควันติดตั้งไว้ด้านบน ตรงนี้อาจจะมีข้อเสียสักหน่อยตรงที่เตาค่อนข้างจะชิดตู้เย็นมากเกินไป เวลาทำอาหารด้วยหัวเตาฝั่งขวาอาจจะไม่ค่อยสะดวกเท่าฝั่งซ้ายนะครับ

หน้าบานเปิดมาไม่ชนกัน มีฟังก์ชั่นครบถ้วน พร้อมถังขยะซ่อนด้านใน

ภาพรวมของครัวผมจัดว่าค่อนข้างโอเค มีส่วนเตรียมอาหารครบถ้วน พื้นที่ผิวใหญ่ใช้ได้ วางเตาอบ เครื่องชงกาแฟ เครื่องปิ้งขนมปัง หม้อหุงข้าว ก็ยังพอมีพื้นที่เหลือ

ถัดไปเป็นฟังก์ชั่นของโต๊ะทานข้าวและชุดโซฟาวางคู่กันแบบนี้ ส่วนตัวผมคิดว่ามันอึดอัดไปหน่อยนะครับ เหมือนพยายามจะใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วให้ได้ผลมากที่สุด ด้วยขนาดของโซฟาและเก้าอี้จึงทำให้มันเกยกันอยู่บ้าง ผมลองเข้าไปนั่งแล้วนั่งได้ก็จริงแต่ก็จะเบียดๆนิดนึง

เรื่องโต๊ะกินข้าวฟังก์ชั่นนั้นไม่ติดอะไรนะครับ จัดออกมาได้โอเค นั่ง 4 คนสบายๆถ้าไม่มีแจกันดอกไม้และเชิงเทียนสองอันนั้นก็คงจะวางกับข้าวได้ดีกว่านี้ อาจจะลำบากตอนเลื่อนเก้าอี้เข้าออกบ้าง ก็เป็นเรื่องเล็กน้อยครับ

จริงๆพื้นที่ก็เหลือค่อนข้างมากอยู่นะครับ ถ้าลดขนาดเก้าอี้ลงหน่อยตรงนี้ก็จะนั่งสบายเลย

จุดที่ทางโครงการทำมาให้อีกจุดหนึ่งก็คือโซฟานั่งชิดผนัง ที่สามารถเปิดมาเก็บของได้ด้วย

เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นที่เห็นนี้ทางโครงการให้ทั้งหมดนะครับ ตั้งแต่ชั้นวางทีวี โต๊ะกลาง โซฟา ตั่ง ม้านั่งริมระเบียง เก้าอี้ทานข้าว โต๊ะทานข้าว ตลอดจนการตกแต่งผนังหลังทีวี ทำขอบคิ้วด้านบนฝ้าเพดานที่สูง 2.5 เมตร … ยกเว้นแต่ผ้าม่านเท่านั้นละครับที่ไม่มีให้

ผนังตกแต่งด้านหลังทีวี ตรงนี้ก็ทำให้ด้วยละ

เนื่องจากห้องนี้มีระเบียงสองชั้น เราก็ลองลากประตูระเบียงปิดเข้าหากัน ก็จะได้ห้องแบบนี้ แยกระเบียงออกไปเป็นสัดเป็นส่วนกับพื้นที่ภายใน

ก่อนจะออกจากห้องนี้เรามาดูระยะดูทีวีกันบ้าง ตรงนี้ผมนั่งจากม้านั่งชิดผนังฝั่งโต๊ะทานข้าว จะเห็นว่าระยะทีวีโอเคแต่เตี้ยไปหน่อย ถ้ายกทีวีขึ้นมาแขวนไว้ก็จะมองได้ชัดกว่านี้

ส่วนนี่เป็นระยะดูทีวีของโซฟาด้านหน้า เช่นกันครับผมมองว่าทีวีเตี้ยเกินไป ถ้าแขวนไว้จะดูได้โอเคกว่านี้

ถัดไปไปที่ระเบียงกันบ้าง … ถ้าเราอยากจะรวมพื้นที่ระเบียงเข้าหากันก็สามารถทำได้ โดยผลักประตูบานจูงเลื่อนไปติดฝาผนัง ก็จะได้พื้นที่ส่วนที่เป็น Semi-Outdoor มาเพิ่มอีกส่วนหนึ่ง เปรียบเสมือนระเบียงเป็นส่วนหนึ่งของห้องนั่งเล่นได้เลยครับ

เนื่องจากพื้นของห้องกับพื้นของระเบียงถูกออกแบบมาให้เหมือนกันเด๊ะๆ พื้นในส่วนห้องนั่งเล่นจึงเป็นพื้นกระเบื้องลายไม้ แตกต่างจากห้องนอนที่เป็นลามิเนตครับ

โดยพื้นที่ระเบียงส่วนนี้มีหน้าต่างเป็นของตัวเองอีกชั้น สามารถเปิดออกได้ให้รับลมด้านนอกแบบ Outdoor จริงๆ

ทางโครงการมีลูกเล่นโดยการใส่ราวกันตกแนวคลาสสิกสี Copper อยู่ด้านนอก ช่วยให้ตัวตึกดูหรูหรามากขึ้น

ที่เห็นริมระเบียงนี้เป็นประตูทางเข้าช่อง Service ของระบบแอร์แบบ VRV ที่จะรวมคอมเพรสเซอร์ทั้งหมดมาไว้ที่จุดเดียว ทันสมัยและดีกว่าแอร์แบบที่เราๆใช้กันอยู่ในปัจจุบันนะครับ

ถ่ายภาพรวมของห้องโถงกลางให้ดูอีกทีหนึ่ง ก่อนที่จะแยกไปดูห้องน้ำและห้องนอนในแต่ละฝั่งกันครับ

ห้องน้ำด้านนอกเป็นห้องน้ำที่ใช้แชร์ร่วมกันระหว่างห้องนอนเล็กและห้องโถงกลาง โดยจะมีฟังก์ชั่นมาตรฐาน 3 ส่วน คืออ่างล้างมือ โถสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำ

อ่างล้างมือขนาดโอเค มีตู้ด้านล่าง เตรียมท่อไว้ให้แต่ไม่ได้ติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนไว้ให้นะ

สุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard โดยผนังและพื้นของห้องน้ำก็จะปูกระเบื้องลายหินแผ่นใหญ่ดูสวยงาม

ส่วนอาบน้ำก็จะได้เป็นชุดฝักบัวก๊อกผสม ติดตั้งกระจกนิรภัยเป็นฉากกั้นอาบน้ำ

ห้องนอนเล็กของที่นี่ไม่เล็กสมชื่อนะครับ เป็นห้องนอนที่จัดว่าใหญ่พอควรเลยทีเดียว สามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้อย่างสบาย แถมมีโต๊ะคอมและ Sofa Bed ให้อีกตัวด้วย

หัวเตียงเอาโต๊ะข้างออกไปตัวหนึ่ง จัดพื้นที่เป็นโต๊ะหนังสือที่มีประโยชน์มากกว่าแทน

ฝั่งตู้เสื้อผ้ามีลิ้นชักให้ 3 ชุด และตู้อีกประมาณหนึ่ง

ข้ามมาดูที่ Master Bedroom กันบ้าง นอกจากพื้นที่ที่ใหญ่กว่าห้องนอนเล็กแล้วยังได้ความลึกของห้องที่มากกว่าด้วย

ห้องใกญ่พอที่จะวาง เตียง โต๊ะข้างเตียงอีกสองตัวและ Sofa Bed ไว้ร่วมกันได้

โต๊ะข้างเตียงมาพร้อมโคมไฟอ่านหนังสือ

Sofa Bed สำหรับนอนได้อีกคน …

ฝั่งด้านตรงข้ามของห้องนอนก็จะเป็นโซนแต่งตัว โต๊ะเครื่องแป้งและห้องน้ำ

โซนแต่งตัวมีตู้เสื้อผ้าขนาด 6 หน้าบาน และโต๊ะเครื่องแป้งเรียบร้อย

ตู้บานเข้ามุมเวลาเปิดอาจจะชนกับตู้บ้านข้างๆหน่อย ดังนั้นก็อย่าพยายามวางของที่ต้องเปิดมาใช้พร้อมๆกันละ

ตัวห้องน้ำ Master Bedroom นั้นไม่ได้แตกต่างจากห้องด้านนอกเท่าไร ไม่มีอ่างอาบน้ำเหมือนกับห้อง 1 Bedroom ขนาด 50 ตารางเมตรนะครับ

ชุดฝักบัวก็เป็นชุดเดียวกัน

จบกับการรีวิวห้องตัวอย่างของ Maestro 01 เย็นอากาศไว้เท่านี้นะครับ 🙂

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 19 March 2015

  • 1 Bedroom 33.5 ตารางเมตร ราคา 4.5 ล้านบาท หรือ 134,328 บาท/ตารางเมตร
  • 1 Bedroom 50.5 ตารางเมตร ราคา 6.88 ล้านบาท หรือ 136,350 บาท/ตารางเมตร
  • 2 Bedrooms 68 ตารางเมตร ราคา 9.09 ล้านบาท หรือ 133,750 บาท/ตารางเมตร
  • 2 Bedrooms 69 ตารางเมตร ราคา 9.75 ล้านบาท หรือ 141,350 บาท/ตาางเมตร

  • Fully Furnished
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • Air-Condition แบบ VRV มีบางยูนิต(ส่วนใหญ่จะอยู่กับห้อง 2 bedrooms)
  • จอง 50,000 บาท สำหรับ 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน Duplex และ จอง 100,000 บาท สำหรับ 3 ห้องนอน Duplex
  • ทำสัญญา 5% ของราคาห้อง
  • ค่ากองทุน 650 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 65 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

โครงการ Maestro 01 สาทร-เย็นอากาศ จัดเป็นโครงการคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง อยู่ในตำแหน่งของทำเลซอยที่ไม่ใช่ถนนใหญ่ หากใครเชี่ยวชาญเป็นคนพื้นที่ก็จะรับทราบดีกว่าพื้นที่บริเวณนี้มีทางลัดเลาะได้เยอะมาก แม้ว่าในช่วงเวลาเร่งด่วนที่รถติดมากๆก็ยังพอมีทางหนีทีไล่ไปออกถนนต่างๆได้เกือบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นพระรามที่ 4, พระรามที่ 3, สาทร, ถนนจันทน์, ถนนนราธิวาสฯ, ถนนเชื้อเพลิง ตลอดจนจุดขึ้นลงทางด่วน ทำให้เป็นทำเลที่เหมาะกับคนที่มีรถยนต์ส่วนตัวมากกว่าคนที่ไม่ได้ใช้รถยนต์นะครับ

การใช้รถยนต์ส่วนบุคคลจัดว่าสะดวก เพราะทางโครงการมีที่จอดรถให้ถึง 91% หรือ 80 คัน (รวมซ้อนคัน) จาก 88 ยูนิต ถ้าเรามองตัวเลขตรงนี้แบบผิวๆก็คงจะเห็นว่ามีที่จอดรถมากจริงๆ แต่ถ้าเราเทียบเป็นจำนวนห้องนอนแล้วมันอาจจะไม่ใช่อย่างนั้นก็ได้ เพราะโครงการมาเอสโทร เย็นอากาศนี้จัดพื้นที่ส่วนใหญ่มาเป็นยูนิตแบบ 2 Bedrooms เรียกว่าเป็นห้องใหญ่ เน้นกลุ่มลูกค้าครอบครัว ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าแต่ละห้องจะเอารถมาเพียงคันเดียวหรือเปล่านะครับ

การเดินทางแบบไม่ใช้รถยนต์นั้น ทางโครงการจัดให้มี Shuttle Service รองรับ พาลูกบ้านไปดรอปตามจุดต่างๆโดยจุดสำคัญๆคงจะหนีไม่พ้น MRT สถานีคลองเตยที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร และ Tops Market ที่บริเวณสามแยกนางลิ้นจี่ที่ห่างออกไปราว 800 เมตร ซึ่งถ้าใครจะเดินเท้าไปก็พอเดินได้ แต่ด้วยความที่ถนนซอยนั้นแคบและฟุตบาทก็ไม่ค่อยจะมี แถมยังใช้เป็นเส้นทางลัดหลักอีก มีทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์มากมาย ผมก็ไม่ค่อยแนะนำที่จะให้เดินเท่าไรนะครับ

วัสดุที่ Maestro 01 จัดมานี้ค่อนข้างครบเครื่องในทุกจุด การตกแต่งห้องทำมาให้ลูกค้าแทบจะครบหมดแล้ว เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและ Built-in ก็มีให้ครบ เหลือเพียงแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าเท่านั้นที่ทางลูกบ้านจะต้องหามาเพิ่มเอง ตรงนี้ไม่ค่อยเป็นปัญหาเท่าไรนะครับ

การออกแบบตัวตึกผมถือว่าทำออกมาได้น่าประทับใจ มีความเป็นคลาสสิกโชยออกมาทั้งๆที่พื้นที่จำกัดเพียง 1 ไร่และเป็นตึก Low Rise ซึ่งออกแบบให้สวยได้ค่อนข้างยากหน่อยด้วย การนำโทนสี Navy หม่นๆเข้ามาใช้กับสีและวัสดุประเภท Copper ตลอดจนการเล่นคิ้วและบัวทำให้ชูความหรูหราโดดเด่นขึ้นมาจากตึกทั่วๆไป … แน่นอนก็ต้องเป็นคนที่ชอบดีไซน์แบบนี้ด้วยนะครับ

Layout ของตึกโดยรวมไม่ค่อยมีประเด็นอะไร ยกเว้นห้อง B4 และ A1 ที่มีส่วนของระเบียงชิดกันเกินไปหน่อย ซึ่งผมก็มองว่าระเบียง 2 ชั้นที่ทำให้ในทุกห้องนั้นพอจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัวตรงนี้ได้เหมือนกัน … ส่วน Layout ของห้องก็ไม่มีอะไรมากครับ อย่างที่บอกไปในห้องตัวอย่างบริเวณพื้นที่โถงกลางในส่วนทานข้าวกับนั่งเล่นนั้นเหมือนจะชิดกันไปหน่อย แต่ก็ชดเชยได้ด้วยความกว้างขวางของห้องนอนทั้งห้องเล็กและห้องใหญ่ ที่หลายๆคนให้ความสำคัญมากกว่าพื้นที่ห้องโถงกลางของบ้าน

สุดท้ายเป็นเรื่องสาธารณูปโภคที่อาจจะไม่ยิ่งใหญ่เหมือนกับตึก High Rise แต่ด้วยฟังก์ชั่นที่มีก็ถือว่าครบ ทั้งสระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ห้อง Sky Lounge และสตีมซาวน่าครับ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 140,000 บาทต่อตารางเมตร, 19 มีนาคม 2558

  • ทำเล 7.5/10 – ทำเลในเมือง ไม่ติดถนนใหญ่ อยู่ในซอยแต่ลัดเลาะออกง่าย มีทางหนีทีไล่เยอะ
  • เดินทางด้วยรถ 8/10 – เดินทางสะดวก ที่จอดรถ 90%+
  • ไม่ใช้รถ 7.25/10 – ห่างจาก MRT ประมาณ​ 1 กิโลเมตร มีรถ Shuttle รับ-ส่ง
  • วัสดุ 8.5/10 – Fully Furnished พร้อมตกแต่งมาให้หลายๆส่วนของห้อง
  • แบบ 8/10 – เน้นการอยู่อาศัยแบบครอบครัว ห้องใหญ่แต่ไม่ใหญ่จนเกินไป พอดีๆ
  • สาธารณูปโภค 7/10 – ได้ครบ แต่ขนาดก็ได้ตามพื้นที่ 1 ไร่ของโปรเจคนี้ครับ

  • HIGH CLASS
  • 7.7 / 10.00

BOTTOM LINE

Maestro 01 สาทร-เย็นอากาศ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหาบ้านในเมือง ใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ชอบทำเลโซนสาทรเป็นหลัก ไม่ต้องการคอนโดใกล้ MRT มากนัก เน้นตึกที่มีที่จอดรถเยอะหน่อยและมีกำลังจ่ายในระดับ 5-10 ล้านบาทขึ้นไป

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ