รีวิวโครงการ
M Silom คอนโด High rise 53 ชั้น พร้อมอยู่ บนถนนนราธิวาส ใกล้ BTS ช่องนนทรี จาก Major Development [รีวิวฉบับที่ 859]
25 มิถุนายน 2015
รีวิวฉบับที่ 181 … โครงการระดับ Super Luxury ในย่านสีลม-นราธิวาส คอนโด M Silom ของ Major Development เป็นตึกที่เปิดตัวออกมาชุดเดียวกันกับ M Ladprao ที่เคยรีวิวไปรอบหนึ่ง และ M Phayathai โดยมีคอนเซปท์ชื่อว่า Signature of Me ทั้ง 3 โครงการ
ทาง Think of Living กำลังจะทำรีวิวใหม่โดยใช้มาตรฐานใหม่กันให้ครบทั้ง 3 โปรเจค ซึ่งโปรเจค M Silom เป็นโปรเจคแรกที่เราได้ทำรีวิวและเป็นโปรเจคที่มีราคาสูงที่สุดด้วย จากการแบ่งตลาดด้วยมาตรฐานของเวปไซต์พบว่าห้องส่วนใหญ่ของ M Silom ตกอยู่ในกลุ่มของ Super Luxury Condominium และถ้าเป็นยูนิตสูงๆตัวท๊อปชั้น 45 ขึ้นไป ราคาของยูนิตนั้นๆจะข้ามไปอีกขั้น ซึ่งก็คือ Ultimate Class ที่ตั้งราคาขายไว้เกิน 200,000 บาทต่อตารางเมตรครับ
Fact @ 17 June 2012
- M Silom (เอ็ม สีลม)
- Major Development, Plc.
- SUPER LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด 53 ชั้น 1 ตึก High Rise 161 ยูนิต
- ที่ดินประมาณ 1ไร่ 2 งาน
- 1 Bedroom – 3 Bedrooms
- พื้นที่ใช้สอย 48 – 166 ตารางเมตร
- ราคาเริ่มต้น 7.04 ล้านบาท (Q2/ปี 2012)
- ราคาต่อตารางเมตร 135,500 – 220,000 บาท
- www.signatureofme.com
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS ช่องนนทรีได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS ช่องนนทรี (S3)
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS ศาลาแดงได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS ศาลาแดง (S2)
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
M สีลมเป็นคอนโดมิเนียมที่อยู่บริเวณแยกนราธิวาส-สุรวงศ์ ที่ปากซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 2 สามารถเข้าออกได้ทางเดียวคือถนนนราธิวาส ซึ่งมีข้อดีคืออยู่ในจุดที่กลับรถใกล้ ไม่ต้องอ้อมไกล สามารถเข้าออกจากถนนสุรวงศ์ได้ง่าย ขึ้นทางด่วนได้ง่าย ไปมาสะดวก รถไม่ค่อยติด ต่างจากเส้นนราธิวาส-สาทรที่เข้าออกลำบาก
จากทางด่วนวิ่งมาลงถนนสีลม
ลงไปให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสีลม
จะเจอสี่แยกสุรศักดิ์ ตรงนี้ต้องตรงไป เพราะถ้าเลี้ยวซ้ายจะเจอถนนวันเวย์
วิ่งผ่านหน้า Top Market Place ซึ่งเป็นเซ็นทรัลสีลมเก่า
ตรงนี้เป็นสามแยกเดโช สามารถลัดไปซอยข้างๆคอนโด M Silom ได้ (นราธิวาส 2)
พอมาถึงแยกนราธิวาส-สีลม แยกนี้จะติดน้อยกว่าแยกนราธิวาส-สาทร แต่ก็ใช่ว่ารถจะไม่ติดนะครับ แค่บอกว่าน้อยกว่าเท่านั้นเอง
จริงๆต้องเลี้ยวซ้ายไปคอนโด แต่เราจะพาเลี้ยวขวาไปสำรวจเส้นทางกันก่อน ให้รู้ว่าถนนแถวนี้มันเข้าออกยากพอควร
เลี้ยวผ่านเข้ามาในถนนนราธิวาสช่วงจากสีลมไปสาทร
เส้นนี้จะผ่าน BTS สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรีย์ วัดระยะทางจากหน้าตึก M Silom มาถึงสถานีรถไฟฟ้าได้ 350 เมตร
แยกนี้เลี้ยวขวาไม่ได้ กลับรถไม่ได้ ถ้าจะไปมหานครต้องตรงไปเพื่อกลับรถ หรือเลี้ยวขวาไปกลับรถที่สาทร (ปวดตับทั้งคู่)
วันธรรมดาแยกหน้า Ascott นี่แทบจะกระดิกไม่ได้
ถนนเห็นโล่งๆแบบนี้เป็นเฉพาะวันอาทิตย์ วิ่งวันจันทร์หรือศุกร์ช่วงเย็นอาจจะต้องมี 1 ชั่วโมงต่อ 1 กม.
กลับรถหน้าสาทรซอย 10
วิ่งเข้ามาถนนนราธิวาสใหม่อีกครั้ง
ตรงผ่านหน้าโปรเจคยักษ์ ตึก 77 ชั้น มหานคร
เราจะไป M Silom กันสักที
วิ่งผ่านแยกนราธิวาส-สีลม ที่เราควรจะเลี้ยวซ้ายเมื่อครู่
ผ่านมานิดเดียวเห็นสะพานลอยก็แสดงว่าถึงคอนโดแล้ว เพราะคอนโดอยู่ตีนสะพานลอยพอดี
หน้าปากซอยนราธิวาส 2 พอดี
นี่ครับตึกสร้างถึงชั้น 18 แล้ว (June/2012)
จอดรถในซอย 2 ซึ่งเป็นทางทะลุไปยังเดโชได้ เลี่ยงรถติดสุรวงศ์ ซึ่งไม่ค่อยติดเท่าไร
จากซอยมองออกไปหน้าถนนใหญ่
ปากซอย
สะพานลอยข้ามแยก
สำนักงานขายตั้งอยู่ด้านหน้า
มีตึก ITF สามสิบกว่าชั้นตั้ง Block วิวทิศเหนืออยู่ แต่เป็นตึกเก่าที่มี Floor to Floor ค่อนข้างต่ำ ทำให้ชั้นที่ประมาณ 30 ของ M Silom ก็ “น่าจะ” มองพ้นตึก ITF ไปแล้ว
สภาพซอยนราธิวาส 2 ค่อนข้างใหญ่ ฟุตบาทใหญ่ เดินง่าย สงบ ไม่วุ่นวาย โอเคครับ
เราจะขับรถไปทางด่วนกัน
วิ่งจากซอย 2 ไปทะลุซอยเดโช
เลี้ยวขวาไป
สุดเดโชจะเลือกได้ว่าเลี้ยวซ้ายขึ้นทางด่วนหรือขวาไปพารากอน
เลี้ยวซ้ายไป เจอตึกหวั่งหลีใหญ่ๆ ตรงนี้อาจจะติดบ้างช่วงแยกสุรศักดิ์เข้าสีลม
มาถึงทางด่วนแล้ว
เรียบร้อยกับทำเลของ M Silom
เจาะลึกตัวสินค้า
ตัวตึกของ M Silom นั้นค่อนข้างหรู อยู่ในระดับ Super Luxury – Ultimate Class ทำให้ต้องออกแบบให้มันเวอร์ๆนิดนึง เช่นตัว Lobby ที่หน้าตาแบบนี้ ดูแล้วอาจจะเล็กไปหน่อย เพราะพื้นที่มีแค่ 1 ไร่เศษๆ แต่ด้วยแสงเงาและวัสดุจะทำให้ดูหรูเด้งขึ้นมาเลย
ลิฟท์ของ Lobby เช่นกันมีการเล่นแสงเงา
สระว่ายน้ำที่ชั้น 34 ซึ่งเป็นชั้นส่วนกลางหลัก
เช่นกันกับ Spa บนชั้น 34 เป็นตึกแรกที่ผมไปทำรีวิวแล้วเจอห้องสปาส่วนตัว
มีสวนหย่อมนิดหน่อยบนดาดฟ้าชั้น 39
ส่วนกลางใหญ่อีกจุดจะอยู่ชั้น 52 ทำเป็น Sky Lounge ให้นั่งเล่นมีบาร์
ห้องคาราโอเกะเอาไว้ปาร์ตี้
ห้อง Pool Lounge เป็น Duplex ขึ้นไปบนชั้น 53
มีที่นั่งข้างโต๊ะ Pool แบบ Pool Lounge
เรามาดู Masterplan กันบ้าง จะเห็นว่าขยายแล้วภาพแตกเล็กน้อย เข้าได้ทางเดียวจากถนนนราธิวาส มี Lobby เล็กๆแล้วก็เป็นลิฟท์ 4 ตัว 3 ลิฟท์ไว้โดยสาร อีก 1 ลิฟท์ไว้ขนของ
จำนวนห้องต่อชั้นจะมีไล่ตั้งแต่ 6 Units / Floor ไปจนถึง 1 Unit / Floor ทำให้อัตราความหนาแน่นของห้องที่นี่น้อยมาก 161 ห้องต่อ 51 ชั้น มีลิฟท์ 4 ตัว ตก 40 ห้องต่อลิฟท์ 1 ตัว เรียกว่าดีมาก
ข้างโถงลิฟท์เว้นพื้นที่สองฟากเอาไว้ให้แสงเข้าถึง ทำให้ Corridor ไม่อับและมีแสงสว่างเพียงพอ
ชั้น 34 เป็นชั้นที่มี Facility หลัก ได้แก่พวกสระว่ายน้ำ ฟิตเนส จากุสซี่ สตีม ซาวน่าและสปา
Lift ที่นี่จะแยกเป็น High Zone / Low Zone ชั้น 35 ขึ้นไปเหนือชั้น 34 จะมีลิฟท์โดยสารเพียง 1 ตัว ในขณะที่ชั้น G-34 จะมีลิฟท์โดยสาร 3 ตัว (ทุกชั้นมี Service Lift ทั้งหมด)
ชั้น 39 ไม่มีอะไรมาก เป็นส่วนของสวนหย่อมนิดหน่อย
ชั้น 52 ที่เป็น Karaoke, Sky Lounge, Sky Garden
ชั้น 53 โต๊ะ Pool
ฟลอร์สูงๆ จะมีเพียง 1 Unit / Floor เช่นชั้นนี้เป็นต้น ยูนิตจะได้วิวครบทั้ง 4 ทิศ แบบ 270 องศา ใช้ได้เลย
วิวทิศใต้ ถ้าในระยะประชิดอาจจะโดนตึก Sofitel ได้ (ชั้น 30 กว่า) ระยะไกลๆจะเห็นโค้งน้ำเจ้าพระยา (สังเกตทางมุมขวาบนของภาพ)
ลูกศรวงกลมในรูปสีชมพูนั้นบอกทิศผิดนะครับ
วิวทิศะวันตกมีตึก AIA 20 กว่าชั้นบังนิดหน่อย
วิวทิศตะวันออกค่อนข้างโอเค มองเห็นแนวรถไฟฟ้า และตึกมหานครที่กำลังจะสร้างใหม่ ส่วนโค้งน้ำบางกระเจ้าอาจจะต้องเป็น Floor สูงมากๆ (40+)
ทิศเหนือเป็นส่วนของ City View มองเห็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ Royal Sport Club
สิ่งอำนวยความสะดวก
- ห้องออกกำลังกาย ชั้น 34
- สระว่ายน้ำชั้น 34 มีสระ Jacuzzi
- Spa ที่ชั้น 34
- Steam / Sauna ที่ชั้น 34
- Sky Lounge ที่ชั้น 52
- Karaoke Room ที่ชั้น 52
- Pool Lounge ที่ชั้น 53
- ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว, Service Lift 1 ตัว
- Pocket Garden ตามชั้นต่างๆ
- สวนที่ชั้น G, 39, 52
- Lobby
- ที่จอดรถ 90%
- ระบบ CCTV / Access Card
Product Walkthrough
มาถึงส่วนที่เป็นห้องตัวอย่างกันบ้าง กับ 1 Bedroom ขนาดเล็กที่สุด 48 ตารางเมตร ปัจจุบัน Sold Out นะครับ เหลือแต่ 52 ตารางเมตรขึ้นไป
ห้องของที่นี่เป็นโปรโมชั่นแถมเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งถ้าไม่เอาเฟอร์นิเจอร์ลองถามพนักงานขายดูจะพบว่าลดได้ แต่ว่าจะลดได้ไม่เท่ากันแล้วแต่ขนาดและราคาห้อง
เปิดประตูเข้ามาเป็นห้องนั่งเล่นก่อน จะเห็นการตกแต่งใช้โทนสีเยอะๆหน่อย ทำให้ห้องดูโล่ง
ประตูใช้ Digital Doorlock ของ Yale
สวิทช์ไฟของ Panasonic
โต๊ะทานข้าวกับเก้าอี้มีให้ในชุดเฟอร์
พื้นจริงๆแล้วไม่ได้ปู Engineering Wood แบบที่เห็น แต่เป็นกระเบื้องเซรามิคสองสี เทากับครีม ให้เลือกได้
พื้นแบบนี้ได้แค่ในห้องนอนนะครับ
ครัวเป็นมาตรฐานได้ทุกห้อง โดยจะมีแถมเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันให้
เครื่องซักผ้านี้ไม่มีให้ แต่จะมีบานปิด High Gloss
ท๊อปเป็นหินสีเทาๆ ดูแล้วออกแนว Cool Modern มาก โดยซิงก์ใช้เป็นหลุมแบบสี่เหลี่ยม หัวก๊อกยาวๆ
ไมโครเวฟไม่มีให้
เตา Ceramic ของ Electrolux
เครื่องดูดควันก็ Electrolux
ตู้หน้าบาน High Gloss เปิดปิดแบบ Soft Close
โซฟาและโต๊ะกลางก็ได้ทั้งหมด กรอบอลูมิเนียมเป็นสีดำมีกริลเหล็กเป็นประตูเปิดปิดไว้วาง Compressor แอร์ด้านนอกระเบียง
ชั้นวางทีวีสีสดใส
มาดูห้องน้ำและห้องนอนใหญ่กันบ้าง
ห้องนอนใหญ่วางเตียงได้เต็มชุด มีพื้นที่วางโต๊ะข้างเตียงพร้อม
มีพื้นที่เหลือหน้าเตียง วางโต๊ะทำงานและทีวีได้
กระจกบานใหญ่มาก ไม่ใช่เป็นกรอบหลายๆชิ้นต่อกัน
มีช่องกึ่งๆ Walk-in Closet และตู้เสื้อผ้าหน้าบาน High Gloss แต่ของจริงไม่มีกระจกให้ มีแต่โต๊ะเครื่องแป้งให้
ห้องน้ำเป็นผนังกระจกเข้ามุม แบ่งเป็น 4 Functions
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard ปูกระเบื้องพื้นและผนังเรียบๆด้วยกระเบื้องแผ่นใหญ่
ห้องอาบน้ำ เป็น Hand Shower
หัวก๊อกแบบนี้
ซิงก์วงกลมและก๊อกน้ำโค้ง วางอยู่บน Counter หินสีเทา
เช่นกันกับอ่างน้ำ
กระจกห้องน้ำเปิดได้มีตู้วางของข้างในพร้อมปลั๊กไฟ
กรอบกระจก Tempered Glass ของ Cristina
ครัว Starmark
มาต่อกันที่ห้องตัวอย่างแบบ 91 ตารางเมตร 2 Bedrooms ที่จัดพื้นที่ได้ลงตัวมากขึ้น
เดินเข้ามาจากหน้าห้อง
ด้านซ้ายมีแผงตู้รองเท้าสองตู้
แต่งห้องด้วยสีหนักๆไปนิด ออกแนวผู้ชาย
ชั้นวางทีวี โซฟา โต๊ะกลาง และ Armchair เป็นเซ็ตห้องรับแขกที่จะได้รับ
ระเบียงกว้าง 1.30 เมตร มีราวจับและใช้กระจก Tempered Glass กันตก
แอร์ห้องนั่งเล่นระบบฝังฝ้า ฝ้าเพดานสูง 2.8 เมตร
โต๊ะรับประทานอาหารนั่งได้ 4 คนพร้อมเก้าอี้
ครัวได้เป็น Counter รูปตัว U วางท๊อปหินสีเทา ซิงก์รูปสี่เหลี่ยม
เตาเซรามิค 4 หัว ไม่มีไมโครเวฟ
ตู้เปิดปิดระบบ Soft Close เหมือนเดิม
พื้นปูกระเบื้องเซรามิคสองสีเลือกได้
พื้นที่ครัวใช้งานเป็นสัดส่วนดี
ห้องน้ำด้านนอกอาบได้
วัสดุใช้เหมือนๆกับแบบ 1 Bedroom
ซิงก์และโถสุขภัณฑ์ มีครบ แต่ไม่มีอ่างอาบน้ำ
ห้องนอนเล็กใช้ห้องน้ำข้างนอกแชร์กับห้องรับแขก
วางเตียง 3.5 ฟุต
มีพื้นที่เหลือวางโต๊ะทำงานและดูทีวีได้
กรอบกระจกไม่ใหญ่เท่าห้องเมื่อครู่
ฝ้าเพดาน 2.8 เมตร ติดแอร์ Wall Type
ตู้เสื้อผ้าได้แบบนี้
ห้องนอนใหญ่เปิดด้วยบานเลื่อน
กระจกเข้ามุมทั้งห้อง
มีจุดที่เป็น Closet แยกต่างหาก
ค่อนข้างเป็นสัดส่วน
เตียงใหญ่ ไม่ได้ฟูก ได้ชั้นวางของสองฟากที่หัวเตียง
ชั้นวางทีวีและโต๊ะทำงาน
แอร์แขวนเหมือนเดิม
ห้องอาบน้ำเป็น 4 Functions
ได้อ่างอาบน้ำกลับมาแล้ว มีที่รองคอด้วย
ข้างบนโถสุขภัณฑ์มีฟังก์ชั่นเพิ่มเป็นชั้นวางของ
ออกไปดูระเบียงกันบ้าง
ปูกระเบื้อง 30 x 60 ได้ 4 แผ่นหน่อยๆ
กริลอลูมิเนียมสีเทา วางคอมเพรสเซอร์แอร์
ให้ดู Mood & Tone อีกรอบ กับห้องรับแขกสไตล์ผู้ชายมาดเข้ม (แต่ดูทึบไปหน่อยนะครับ)
Price vs Performance
- 1 Bedroom ชั้น 10 ห้อง B4 เนื้อที่ 52 ตารางเมตร ราคา 7.04 ล้านบาท หรือ 135,420 บาทต่อตารางเมตร
- 1 Bedroom ชั้น 21 ห้อง B2 เนื้อที่ 53 ตารางเมตร ในราคา 8.42 ล้านบาท หรือ 159,000 บาทต่อตารางเมตร
- 2 Bedrooms ชั้น 23 ห้อง A1 เนื้อที่ 63 ตารางเมตร ราคา 10.07 ล้านบาท หรือ 159,900 บาทต่อตารางเมตร
- 2 Bedrooms ชั้น 31 ห้อง D3 เนื้อที่ 91 ตารางเมตร ราคา 16.61 ล้านบาท หรือ 182,600 บาทต่อตารางเมตร
- 2 Bedrooms ชั้น 37 ห้อง E1 เนื้อที่ 122 ตารางเมตร ราคา 22.31 ล้านบาท หรือ 182,900 บาทต่อตารางเมตร
- 2 Bedrooms ชั้น 8 ห้อง D3-SG เนื้อที่ 81 ตารางเมตร ราคา 15.78 ล้านบาท หรือ 194,880 บาทต่อตารางเมตร (ได้สวน 70 ตารางเมตร)
- 3 Bedrooms ชั้น 46 ห้อง H3 เนื้อที่ 166 ตารางเมตร ราคา 36.28 ล้านบาท หรือ 218,600 บาทต่อตารางเมตร
- Fully Furnished
- จอง 100,000 – 150,000 บาท
- ทำสัญญา 5%
- ค่ากองทุน 550 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 50 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
เจาะลึกรวบยอด
ทำเลของโครงการ M Silom เป็นทำเลที่ดีมาก อยู่ในช่วงถนนนราธิวาสราชนครินทร์ตัดกับสามแยกสุรวงศ์ เชื่อมต่อกับแยกนราธิวาส-สีลม เป็นจุดศูนย์กลางของเขตธุรกิจในกรุงเทพมหานคร ซึ่งราคาที่ดินแถวนี้สูงลิบลิ่ว ชุมชนใกล้เคียงในซอยนราธิวาส 2 เชื่อมไปถึงซอยเดโชเป็นชุมชนเก่าแก่ ส่วนใหญ่จะเป็นตึกแถวและบ้านโซนที่อยู่อาศัย ทำให้พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ส่วนเล็กๆที่เป็นเขตอยู่อาศัย ไม่ใช่เขตธุรกิจในย่านสีลม-สาทร
วิวต่างๆของ M Silom นั้นจะดีก็ต่อเมื่อพ้นตึกข้างเคียงไปแล้ว โดยมีตึกให้ดูว่าวิวจะพ้นหรือไม่อยู่ 3-4 ตึกที่ต้องพิจารณา คือตึก ITF, ตึกโรงแรม Sofitel, ตึก AIA และตึกมหานคร (ที่ยังไม่สร้าง) ซึ่งวิวทิศที่สวยที่สุดคือทิศเหนือ ช่วงที่ข้ามตึก ITF ไปแล้ว จะมองเห็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและ Royal Sport Club ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวใจกลางกรุงเทพฯ ส่วนแม่น้ำเจ้าพระยานั้นจะเห็นเพียงโค้งน้ำลิบๆสายตาเท่านั้น
การเดินทางด้วยรถยนต์ของโปรเจค M Silom ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับโปรเจคอื่นๆในทำเลเดียวกัน เช่น The Infinity หรือ มหานคร (Ritz Carlton Residence) เพราะถนนนราธิวาสฯนั้นกลับรถยากมาก สี่แยกนราธิวาส-สาทรนั้นถูกล็อคด้วยจุดกลับรถและการห้ามเลี้ยวขวาในหลายๆจุด ต่างกับทำเลของ M Silom ที่สามารถกลับรถได้ท้ังหน้าโครงการ และช่วงแยกสีลม ทำให้การเข้าออกทำได้ดีกว่าตึกฝั่งนราธิวาส-สาทร ส่วนเรื่องที่จอดรถที่นี่มีให้ 90% ตกมาตรฐานของคอนโดมิเนียม Super Luxury ที่ควรจะมี 100%+ ไปหน่อย
การเดินทางไปทางด่วนดินแดงทำได้โอเค เพราะสามารถลัดเลาะไปออกถนนสุรวงศ์ได้ทั้งทางหน้าโครงการและซอยนราธิวาส 2 (ผ่านแยกเดโช) ซึ่งจะเป็นถนนวันเวย์ หากจะไปขึ้นทางด่วนบางนา-ตราด อาจจะเหนื่อยหน่อย เพราะต้องวิ่งผ่านสุรศักดิ์ไปยังสาทรเพื่อขึ้นทางด่วนช่วงตีนสะพานตากสิน
การเดินทางโดยไม่ใช้รถทำได้ดี เพราะว่าสถานี BTS ช่องนนทรีย์อยู่ห่างออกไปราว 350 เมตร จะเดินไปสถานีรถไฟฟ้าก็ทำได้ไม่ยาก หากต่อไปมีห้างสรรพสินค้าอย่างมหานครเปิดทำการ ก็สามารถเดินไปมหานครได้เลยเช่นกัน
เรื่องวัสดุอุปกรณ์ ไม่ว่าเป็นคอนโดไหนให้มาอย่างไรก็ไม่คุ้มราคา 1.6 – 2 แสนบาทต่อตารางเมตรแน่นอน สำหรับ M Silom เท่าที่ดูก็เห็นว่าใช้ของดี พื้นไม้ Engineer, บานปิดเปิด High Gloss มีระบบ Soft Close, ฝ้าเพดานเตี้ยไปนิดได้แค่ 2.8 เมตร, กระจกบานใหญ่ กรอบอลูมิเนียมสีดำ, กริลอลูมิเนียมกั้นช่อง CDU, กระจก Tempered Glass ทั้งหมด ห้องน้ำมี 4 Functions ทั้ง Shower และ Bath Tub
ส่วนกลางของที่นี่ออกจะเล็กไปหน่อย เช่น Lobby ขนาดกระทัดรัด แต่เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิต 161 ห้องก็ถือว่าโอเค มีชั้น 34 และ 52 ที่เป็นส่วนกลางหลัก ประกอบด้วยฟิตเนส สระว่ายน้ำ สปา สตีม ซาวน่า บาร์ ห้องคาราโอเกะและห้อง Pool อาจจะขาดห้องสมุด อ่านหนังสือ หรือ Business Center ไปบ้าง แต่ก็ต้องเรียกว่าได้รับการ Trade Off กับฟังก์ชั่นที่หาไม่ค่อยได้เช่นห้อง Pool Lounge และ Spa
สุดท้ายเรื่องความคุ้มค่าก็ต้องบอกว่าพิจารณากันเองนะครับ เนื่องจากระดับราคา 160,000+ ที่เป็นระดับ Super Luxury Condominium นั้นเกินระดับที่เราจะวิเคราะห์กันด้วยปัจจัยความคุ้มค่าได้แล้ว ผู้อ่านลองพิจารณาจากทำเลที่ตั้งและความสะดวกเป็นหลักละครับ เพราะตึกนี้สร้างมา 18 ชั้นแล้ว การก่อสร้างน่าจะเสร็จในช่วงกลางปี 2556 ไม่น่าเป็นห่วงครับ
Judgement
- SUPER LUXURY CLASS
- NOT JUDGE
BOTTOM LINE
M Silom เป็นโปรเจคระดับพรีเมี่ยมที่มีทำเลดีมาก เดินทางด้วยรถยนต์สะดวกมากหากเทียบกับโปรเจคที่อยู่บนทำเลนราธิวาส-สาทร M Silom มีความหนาแน่นของยูนิตต่อชั้นน้อยมาก จึงมีความเป็นส่วนตัวสูง แต่ด้วยราคาขายต่อตารางเมตรที่สูงเช่นกัน จึงน่าจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีงบ 10 ล้านบาทขึ้นไป
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ