รีวิวฉบับที่ 859 สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาไปอัพเดทโครงการ M Silom คอนโดหรู สูง 53 ชั้น ของ Major Development ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจอย่าง สีลม-นราธิวาสฯ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี และ ศาลาแดง หนึ่งในสามคอนโดตระกูล M ตัวแรกๆ ที่ออกแบบใน Concept Signature of me ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2012 ตอนนี้สร้างเสร็จพร้อมอยู่เรียบร้อยแล้ว โครงการจะเป็นอย่างไรตามมาชมพร้อมๆกันเลยค่ะ
Fact @ 16 June 2015
- M Silom (เอ็ม สีลม)
- บริษัท เมเจอร์ ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
- LUXURY – SUPER LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางรัก
- คอนโด High Rise 53 ชั้น 1 อาคาร 161 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 6 ยูนิตที่ชั้น 9 – 15
- ที่จอดรถประมาณ 130 คันคิดเป็น 80% ไม่รวมจอดซ้อนคัน รวมจอดซ้อนกันได้ 137 คัน คิดเป็น 85%
- ที่ดินประมาณ 1-1-28 ไร่
- 1 Bedroom 46 – 57 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 9.8 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 82 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 15.6 ล้านบาท
- 3 Bedrooms 165 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 43 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.80 เมตร
- ราคาเริ่มต้น 9.8 ล้านบาทหรือประมาณ 190,000 บาทต่อตารางเมตร
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร 190,000-250,000 บาทต่อตารางเมตร
- ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ 220,000 บาทต่อตารางเมตร
- http://mde.co.th/th/project_detail/
- Tel. 02-267-2000
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS ช่องนนทรีได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS ช่องนนทรี (S3)
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS ศาลาแดงได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS ศาลาแดง (S2)
Update Fact @ 15 September 2017
- บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
- 1 ห้องนอน : 46.35 – 57.2 ตร.ม.
- 2 ห้องนอน : 60.85 – 120.33 ตร.ม.
- 3 ห้องนอน : 165.85 ตร.ม.
- ราคาเริ่มต้น 9.9 ล้านบาท
- www.mde.co.th/msilom
- โทร : 02-116-1111
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
พิกัด : 13.727345, 100.527231
ที่ตั้งของโครงการ M Silom ตั้งอยู่บนถนนนราธิวาสราชนครินทร์เป็นที่ค่อนข้างกว้าง ทางด้านซ้ายของโครงการติดกับซอย นราธิวาสฯ2 ซึ่งเชื่อมกับถนนเดโชใช้ออกไปยัง ถนนสุรวงศ์ และ ถนนสีลมได้ สภาพโดยรอบโครงการส่วนใหญ่ยังเป็นบ้านพักอาศัยอยู่ จึงพลุกพล่านและวุ่นวายน้อยกว่าศูนย์กลางธุรกิจอย่างสีลมและสาทรที่อยู่ถัดออกมาไม่ไกล ใกล้รถไฟฟ้าสถานีช่องนนทรี และ ศาลาแดง
จุดเด่นของทำเลนี้คือใกล้ย่านใจกลางธุรกิจของกรุงเทพฯอย่าง สีลม และ สาทร เรียกได้ว่าถ้าใครที่ทำงานอยู่แถวนี้ออกจากโครงการก็สามารถเดินไปทำงานได้เลย รอบๆโครงการรายล้อมไปด้วย อาคารสำนักงาน ธนาคาร ศูนย์การค้า ร้านค้า โรงแรม และคอนโดระดับหรู มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง เป็นแหล่งรองรับหนุ่มสาวออฟฟิศ และ นักท่องเที่ยวจำนวนมาก สำหรับโปรเจคใหญ่ๆที่กำลังขึ้นอยู่ในตอนนี้คือ โครงการมหานคร อยู่ไม่ไกลจากโครงการ ใกล้สวนลุมพินี สวนสาธารณะขนาดใหญ่ พื้นที่ 360 ไร่ ปอดของคนย่านนี้
แต่เนื่องจากความเพียบพร้อมทุกอย่างของทำเลนี้ จึงมีความหนาแน่นของประชากรที่เข้ามาทำงาน พักอาศัยหรือมาท่องเที่ยวสูงตามไปด้วย ในช่วงเวลาเร่งด่วนรถจึงติดมากๆ โดยเฉพาะถนนสีลม และ สาทร ที่ติด 1 ใน 10 ของถนนที่รถติดที่สุดในกรุงเทพฯ หากต้องใช้เดินทางด้วยรถต้องตื่นเช้ามากๆ การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจึงสะดวกกว่าซึ่งมีให้เลือกทั้งรถไฟฟ้าบนดิน , ใต้ดิน และ BRT
การเดินทางถ้าใช้รถ จะลำบากหน่อยเพราะการจราจรติดขัดมากแต่ถ้าไม่มองตรงจุดนี้แล้ว ถนนบริเวณที่ตั้งโครงการสามารถเชื่อมต่อไปออกถนนต่างๆได้หลายสาย ติดตรงที่มีถนน one way และจุดห้ามเลี้ยวอยู่หลายจุด ซึ่งถ้าพลาดก็จะทำให้เสียเวลาไปวนกลับรถได้ การเข้าถึงโครงการสามารถเข้าได้จากถนน นราธิวาสฯ โดยถ้ามาจากถนน พญาไท ตรงมาเข้าถนนสี่พระยาวิ่งตรงเข้ามาเจอไฟแดงย่อยแรกเลี้ยวซ้ายเข้าถนนทรัพย์ จากนั้นเลี้ยวขวาออกถนนสุรวงศ์และเลี้ยวซ้ายอีกทีเข้าถนนนราธิวาสฯ เตรียมชิดขวาที่ไฟแดง นราธิวาสฯ-สีลม เพื่อที่จะกลับรถมาด้านหน้าของโครงการ
หรือถ้ามาจากทางถนนพระราม 4 สามารถใช้ถนนสุรวงศ์ ถนนสีลม และ ถนนสาทร มาเข้าถนนนราธิวาสฯได้ ซึ่งการจราจรบนถนนสุรวงศ์จะติดขัดน้อยกว่าบนถนนสีลมและสาทรอยู่หน่อย ถ้ามาจากถนนมเหสักข์จะไม่สามารถเลี้ยวเข้าถนนสุรวงศ์ได้เพราะตั้งแต่แยกนเรศเป็นต้นไปบนถนนสุรวงศ์เป็น one way และบริเวณแยกสาทร-นราธิวาสก็ไม่สามารถเลี้ยวขวาและกลับรถได้ต้องขับเลยมาก่อนค่อยกลับรถเข้าถนน นราธิวาสฯ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถถือว่าสะดวกมาก เพราะมีให้เลือกทั้ง BTS , MRT และ BRT โดยสถานีรถไฟฟ้าบนดินที่ใกล้คือสถานีช่องนนทรีโดอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 400 เมตร และถัดไปคือสถานีรถไฟฟ้า ศาลาแดง อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 900 เมตร ส่วนสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่ใกล้คือ สถานีสีลมโดยสามารถเดิน Sky walk เชื่อมจากสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดงได้สะดวก นอกจากนั้นยังมี BRT สถานีสาทร สำหรับใครที่ต้องเดินทางไปทำธุระย่านพระราม 3 และ ยังมีท่าเรือสาธรเอาไว้ให้ใช้เลี่ยงรถติดกันอีก
สำหรับทางด่วน จากที่ตั้งโครงการสามารถเข้าซอยนราธิวาสฯ2 ไปออกซอย เดโช เลี้ยวขวาไปที่ถนนสุรวงศ์ ตรงไปเรื่อยๆจะเป็นทางด่วน งามวงศ์วาน-แจ้งวัฒนะ
การเดินทางในวันนี้ขอเริ่มจากรถไฟฟ้า สถานีศาลาแดง เพื่อที่จะพาเดินผ่านย่านธุรกิจบนถนนสีลม
ลงจากสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดงทางออกที่ 1 ทางด้านซ้ายคืออาคารธนิยะ ด้านข้างเป็นซอยธนิยะแหล่งรวมร้านค้าและสถานบังเทิงสไตล์ญี่ปุ่น
เดินตรงมาเรื่อยๆถึงสีลมซอย 4 สังเกตถนนสีลมเป็นจะไม่มีสายโทรศัพท์ และ สายไฟฟ้าเนื่องจากเป็นถนนสายแรกที่ฝังสายลงใต้ดิน
ฝั่งตรงข้ามสีลมซอย 4 จะเป็น ซอยคอนแวนต์ หน้าปากซอยมีของกินเยอะอยู่เหมือนกัน ภายในซอยมีโรงพยาบาล BNH และโรงเรียน เซนต์โยเซฟคอนแวนต์ โรงเรียนหญิงล้วนชื่อดังของย่านนี้
เดินจากสีลมซอย 4 มาหน่อยฝั่งตรงข้ามจะเป็น CP TOWER
ถัดมาเป็นถนนพัฒน์พงศ์ย่านบันเทิงยามราตรี
ตอนกลางวันบรรยากาศจะเงียบๆ จะคึกคักเวลากลางคืนซอยนี้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวค่อนข้างเยอะ
ถัดจากซอยพัฒน์พงศ์เป็นโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน
ฝั่งตรงข้ามเป็น อาคารยูไนเต็ดเซ็นเตอร์
ฝั่งตรงข้ามอาคารยูไนเต็ดเซ็นเตอร์ จะเป็นซอยพิพัฒน์หน้าซอยมีป้าย Pilot สีทองเด่นเป็นสัญลักษณ์ ซอยนี้เป็นซอยลัดสามารถใช้ไปออกออกถนนสาธร และ นราธิวาสฯได้นะ
เดินมาเรื่อยๆผ่านอาคารบุญมิตร
ฝั่งตรงข้ามเป็นซอยละลายทรัพย์ มีร้านค้าต่างๆมากมายตลอดสองข้างทางของถนน ถ้าใครหลุดเข้าไปล่ะก็ละลายทรัพย์สมชื่อเลยค่ะ
เดินผ่านธนาคาร กสิกรไทย
มาถึงสีลมซอย 10
ในซอยนี้เป็นตลาดสีลม ของกินเยอะมาก ซอยนี้เดินไปออกซอยนราธิวาสซอย 1 ฝั่งตรงข้ามโครงการได้
ใกล้ถึงโครงการแล้วค่ะ สุดถนนที่เห็นทางฝั่งขวาเป็นอาคาร ITF TOWER ถนนข้างหน้านี้เป็นถนนนราธิวาสฯ แล้ว ถ้าเราเลี้ยวขวาจะไปโครงการ
แต่ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปออกถนนนราธิวาสฯ ทางฝั่งถนนสาทร สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรีและโครงการมหานครก็อยู่ฝั่งนี้
จากอาคาร ITF เมื่อสักครู่ต้องเดินข้ามถนนมา บริเวณตรงกลางถนนนราธิวาสฯจะเป็นคลองช่องนนทรี สภาพคลองน้ำไม่ค่อยสะอาดและมีกลิ่นนิดๆ คลองนี้มีกังหันสีลมตั้งอยู่ กังหันนี้เป็นสัญลักษณ์ของถนนสีลม
ผ่านคลองมา เราต้องเดินข้ามถนนและเลี้ยวไปทางขวา
เดินตรงมา ทางเท้าค่อนข้างกว้าง เดินได้สบายๆ
ใกล้ถึงโครงการแล้วค่ะ ด้านข้างโครงการเป็นอาคารพาณิชย์สูงประมาณ 4 ชั้นตลอดแนว
ถึงโครงการแล้ว โครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่เลย ด้านหน้าโครงการมีสะพานลอยอยู่ ถ้าเดินข้ามไปจะเป็นซอยนราธิวาส 1 เดี๋ยวจะพาเดินไปดูรอบๆโครงการก่อนนะ
ข้ามสะพานลอยมา หน้าซอยนราธิวาส 1 มี 7-11 อยู่ข้างหน้า
หน้าซอยมีร้านอาหารอยู่ข้างหน้า
พอเข้าไปในซอย จะเป็นศูนย์อาหารสีลมสแควร์มีของกิน ของขายเยอะมาก
บรรยากาศภายในเต็นท์ ตอนช่วงกลางวันพนักงานออฟฟิศ มาทานกันเยอะนะคะ
ข้ามกลับมาบริเวณกลางถนนจะเป็นลานกว้างๆ มีเครื่องเล่นเด็กวางอยู่ และคลองช่องนนทรี
ด้านข้างโครงการเป็นซอยนราธิวาสฯ 2 ซอยนี้ใช้ออกไปถนนเดโชเชื่อมไป ถนนสีลม และสุรวงศ์ได้
หน้าปากซอย นราธิวาสฯ 2 มีวินมอเตอร์ไซค์อยู่
ค่าบริการของพี่วิน นั่งไปมาบุญครองก็แค่ 50 บาท
เข้ามาดูในซอยนราธิวาส 2 ค่ะ ซอยนี้บรรยากาศค่อนข้างเงียบ มีทางเท้าทั้ง2ฝั่งเดินได้สบายๆ ทางด้านซ้ายเป็นรั้วโครงการเป็นผนังทึบสูงประมาณ 4 เมตร
ถัดจากโครงการ ตลอดทั้งซอยนี้ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย และตึกแถวสูงประมาณ 4 ชั้น มีต้นไม้ร่มรื่นตลอดทั้งซอย ตรงออกไปสุดถนนจะเป็นซอยเดโช
ภาพนี้ถ่ายจากข้างบนโครงการ ตึกสีๆตรงกลางภาพนี้เป็นสีลมพลาซ่า จากถนนสีลมที่เราเดินข้ามถนนเลี้ยวขวามาเมื่อสักครู่ ถ้าเราเลี้ยวซ้ายเดินไปอีกประมาณ 400 เมตรจะเป็นสถานีรถไฟฟ้า ช่องนนทรี และถัดไปเป็นถนนสาทร
มาดูสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการกัน ถึงแม้ว่าที่ตั้งโครงการจะอยู่ใจกลางเมืองในย่านธุรกิจแต่สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็น บ้านพักอาศัย และตึกแถวซะเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้ค่อนข้างเงียบสงบ ด้านหน้าโครงการติดถนนนราธิวาสฯ ในช่วงเวลาเร่งด่วนรถติดเอาการอยู่เหมือนกันแต่ไม่มากเท่าถนนสีลมและสาทร ในระยะประชิดไม่ค่อยมีอาคารสูงบังเท่าไหร่ ยกเว้นทางทิศตะวันออกฝั่งหน้าถนนนราธิวาสราชนครินทร์ จะมีอาคารชุด ITF สีลมพาเลส เป็นอาคารสำนักงานและคอนโดสูง 34 ชั้น
ด้านหน้าโครงการติดถนน นราธิวาสราชนครินทร์ ทางเดินกว้างมากๆ มีสะพานลอยอยู่ด้านหน้าโครงการเลย
ถัดจากโครงการไปทางด้านซ้ายติดซอย นราธิวาสฯ 2
ทางด้านขวาเป็นตึกแถวสูงประมาณ 4 ชั้นทั้งแนว
มาดูวิวกันค่ะ วิวของที่นี่จะเห็นเป็น City view ทั้งหมดวิวทางทิศเหนือเป็นวิวทางฝั่งพระราม 4 เห็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วัดหัวลำโพง จามจุรีสแควร์
วิวทางทิศใต้ เป็นฝั่งถนนนราธิวาสฯมุ่งหน้าสาทร ที่เห็นตึกสูงๆคือโครงการมหานคร โปรเจคใหญ่ที่กำลังก่อสร้างอยู่ ด้านหน้าเป็นสีลมพลาซ่า พอมีโครงการมหานครมาวิวฝั่งนี้จึงดูสวยที่สุด
วิวทางทิศตะวันตกเห็น โรงแรม pullman , อาคาร AIA
วิวทางทิศตะวันออก เป็นวิวฝั่งถนนสุรวงศ์ ด้านหน้าอาคารสีขาวคืออาคารชุด ITF สีลมพาเลสและติดกันทางขวามือคืออาคารสำนักงาน ITF Tower
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ – 700 เมตร
- อาคารสาทรธานี – 650 เมตร
- อาคาร ITF – 250 เมตร
- สาทร ซิตี้ ทาวเวอร์ – 400 เมตร
- ริทซ์ คาร์สตัน มหานคร – 400 เมตร
- โรงแรม Ascott สาทร – 450 เมตร
- ธนาคารกรุงเทพสำนักงานใหญ่ – 500 เมตร
- โรงเรียนเซนโยเซฟคอนแวนต์ – 1.1 กิโลเมตร
- โรงแรม Pullman G – 1 กิโลเมตร
- ซีพีทาวเวอร์ – 800 เมตร
- จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย – 1.5 กิโลเมตร
- สวนลุมพินี – 1.3 กิโลเมตร
โครงการ M Silom เป็นอาคารสูง 53 ชั้น ออกแบบโดยใช้ฟอร์มเรขาคณิตมาเล่นระดับ ใช้โทนสีเทาทั้งหมด ดูเรียบ เท่ ทันสมัย รอบอาคารหน้าต่างจะเป็นหน้าต่างบานใหญ่ยาวต่อเนื่องกันเพื่อเปิดรับวิวพาโนรามา สาเหตุที่รูปร่างอาคารดูผอมและสูงมาก เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ในทำเลที่มีอัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดินสูง(พื้นที่สีแดง FAR=10) สามารถสร้างอาคารเต็มศักยภาพของพื้นที่ และอยู่ติดถนนใหญ่ที่ค่อนข้างกว้างมากจึงทำให้ความสูงของอาคารที่สามารถสร้างได้ 2 เท่าของความกว้างของถนน (รวมระยะร่น)สูงตามไปด้วย
ถึงแม้จะสูงมากแต่ยูนิตรวมทั้งหมดของอาคารก็มีเพียงแค่ 161 ยูนิตจึงมีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง โดยชั้นล่างจะเป็น Lobby ชั้น 2-6 ของอาคารจะเป็นที่จอดรถ ตั้งแต่ชั้น 8-51 เป็นชั้นของห้องพัก ส่วนของ Facility มีอยู่หลายชั้น ชั้น 34 เป็นสระว่ายน้ำ , ฟิตเนสและสปา , ชั้น 39 เป็น สวนหย่อม , ชั้น52 เป็น Sky Lounge และ ห้อง Karaoke
ทางเข้าโครงการ มีทางเดียวคือฝั่งถนนนราธิวาสฯ รถวนทางเดียวขึ้นทางเข้าที่จอดรถที่อยู่ด้านหลังอาคาร ถนนโดยรอบโครงการกว้าง 6 เมตร หน้าโครงการบริเวณ Lobby มี Drop off สำหรับแวะจอดรถรับส่ง รถจอดด้านหน้าได้ประมาณ 12 คัน และจอดรอบโครงการได้อีก 12 คัน ชั้น 1 เป็น Lobby และสำนักงานของนิติบุคคล โครงการมีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว แบ่งเป็นลิฟต์ Low Zone 2 ตัวขึ้นได้ถึงชั้น 34 , High Zone 1 ตัวขึ้นถึงชั้น 52 และ ลิฟต์ Service 1 ตัว อัตราส่วนลิฟต์เท่ากับ 54 ห้องต่อลิฟท์ 1 ตัว ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมาก บันไดหนีไฟมีอยู่ 2 จุด
ชั้น 2-6 เป็นชั้นจอดรถ มีช่องจอดทั้งหมด 106 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน ชั้นที่จอดรถจอดเนื่องจากพื้นที่ตรงกลางต้องใช้เป็นทางวนรถจึงจอดซ้อนคันได้ยาก ถ้ารวมที่จอดชั้นล่างและคิดรวมที่จอดซ้อนคันจะมีที่จอด 137 คันคิดเป็น 85% ซึ่งถือว่าน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับคอนโดระดับ Super Luxury ที่ส่วนใหญ่ที่จอดรถจะเป็น 100%++
ชั้น 8 จะเริ่มเป็นส่วนของห้องพัก เนื่องจากตัวอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมเกือบจะจตุรัสจึงจัดห้องพักวางไว้รอบนอก ส่วนตรงกลางเป็นทางเดินและโถงลิฟต์ จำนวนห้องพักต่อชั้นของที่นี่จะค่อนข้างน้อยอย่างชั้นนี้มีแค่ 4 ยูนิตต่อชั้นถือว่ามีความเป็นส่วนตัวมากๆ และชั้นนี้พิเศษตรงที่มีพื้นที่สวนหย่อมเล็กๆให้แต่ละยูนิตของไปนั่งเล่นกินลมชมวิว
ส่วนชั้นอื่นๆ เป็นส่วนของห้องพัก การวางผังจัดห้องพักอยู่รอบนอกอาคาร ตรงกลางเป็นทางเดินและโถงลิฟต์ จำนวนยูนิตต่อชั้นเท่ากับ 6 ทุกๆ 2 ชั้นบริเวณโถงจะมีสวน Pocket Garden แทรกอยู่ชั้นไหนไม่มีก็จะเป็นช่องแสง เพื่อรับแสงธรรมชาติเข้ามาทำให้ภายในอาคารไม่อับ ห้องพักทุกห้องจะมีหน้าต่างขนาดใหญ่เปิดรับวิวได้เต็มที่แต่ห้องที่อยู่ทางทิศตะวันตกอาจจะร้อนหน่อย
ชั้น 34 เป็นชั้น Facility ทั้งชั้น ประกอบด้วยสระว่ายน้ำ Semi Outdoor ระบบเกลือขนาดกว้าง 7 เมตร ยาว 20 เมตร ลึก 1.2 เมตร ไม่มีสระเด็ก มีสระ Jacuzzi ห้องออกกำลังกายมีขนาดประมาณ 45 ตารางเมตรใส่เครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 9 เครื่อง มีห้องสปาและห้อง Locker แยกชายหญิง ในห้องน้ำชายมีห้อง Sauna ส่วนในห้องน้ำหญิงมี ห้อง Stream
ตั้งแต่ชั้น 35 จำนวนลิฟต์จะลดลงเหลือ 2 ตัว แบ่งเป็นลิฟต์โดยสาร 1 ตัว ลิฟต์ Service 1 ตัว จำนวนยูนิตต่อชั้นก็จะลดลงด้วยเหลือ 3 ยูนิตต่อชั้น รูปร่างของผังปรับเป็นตัวL อ้วนๆ ถ้ามองจากด้านนอกอาคาร 3 ชั้นนี้จะเป็นส่วนที่ดูยื่นๆ ออกมาจากอาคาร
ชั้น 39 เป็นส่วนของสวนหย่อมเล็กๆให้ออกมาสูดอากาศกัน และเป็นชั้น Transfer บันไดหนีไฟ ตั้งแต่ชั้น 39 เป็นต้นไปบันไดหนีไฟทางด้านขวาจะไม่มีแล้วเปลี่ยนเป็นบันไดหนีไฟทางด้านซ้าย 2 บันได ( เอาแปลนชั้น 37 มาเทียบให้ดูค่ะ) ในชั้น 45-51 ห้องพักจะลดลงเหลือชั้นละห้องเดียวซึ่งเราจะพาไปชมห้องตัวอย่างชั้นนี้กันด้วยค่ะ
ชั้น 52 ชั้นสูงที่สุดของโครงการ เป็นชั้นของ Sky Lounge , ห้อง Karaoke และ Sky Garden บริเวณ Sky Lounge เป็น Double Space ด้านบนมีโต๊ะพูลให้เล่น
มาดูตัวโครงการกันเลย ทางเข้าโครงการมีทางเดียว ซุ้มประตูโครงการออกแบบโดยใช้ฟอร์มสี่เหลี่ยมเล่นระดับ
ทางเข้าโครงการ ทางด้านซ้ายมีป้อมยาม มีพี่ยามมาเลื่อนเปิดประตูให้ไม่มีไม้กระดก ด้านขวามุมบนรั้วมีกล้องวงจรปิดติดอยู่
มีกล้องวงจรปิดติดอยู่หน้าประตูทางเข้าโครงการเลย
เข้ามาวนรถขึ้นไปที่จอดรถด้านหลังโครงการ ส่วนทางด้านขวา ด้านหน้า Lobby เป็นส่วนของ Drop Off
ด้านข้างอาคารจอดรถได้อีกประมาณ 3 คัน รั้วโดยรอบโครงการเป็นผนังทึบสูงประมาณ 4 เมตร บางส่วนปลูกต้นไม้เพิ่มความสวยงาม ทางด้านซ้ายติดกับอาคารพาณิชย์สูงประมาณ 4 ชั้น ถ้าจะขึ้นชั้นจอดรถต้องวนไปทางขวา
เลี้ยวขวามาด้านหลังอาคาร เป็นทางขึ้นที่จอดรถ ถนนโดยรอบโครงการกว้างประมาณ 6 เมตร ด้านหลังโครงการเป็นบ้านพักอาศัยสูงประมาณ 2 ชั้น
ทางเข้าที่จอดรถ จำกัดความสูงรถอยู่ที่ 2.10 เมตร
ขึ้นที่จอดรถ
ขึ้นมาเป็นชั้นที่เป็นชานพักจอดรถได้ประมาณ 3 คัน รถสีเหลืองๆนี่ของผู้เขียนเอง (ล้อเล่นนะคะ) 😀
ชั้นจอดรถจะจัดที่จอดรถไว้รอบนอกอาคาร ตรงกลางเป็นทางวนรถสวนกัน 2 เลน
วนขึ้นมาเรื่อยๆ ตรงกลางจะเป็นโถงลิฟต์
ทางเข้าโถงลิฟต์
ลิฟต์ มีอยู่ 4 ตัว ส่วนของลิฟต์โดยสารจะมีตัว Low Zone 2 ตัวทางขวามือ และ High Zone 1 ตัวทางซ้ายมือ เป็นระบบ Keycard แบบล็อกชั้นของใครของมัน และตัวสุดท้ายคือ Service Lift ที่อยู่ในห้องงานระบบซ้ายมือ
ข้างๆลิฟต์โดยสาร มี Service Lift อยู่ในห้อง
ภายในห้องมีตู้อัคคีภัย ขวามือเป็น Service Lift
วนรถลงมาข้างล่าง จะมาออกบริเวณ Drop Off
Drop off ด้านหน้า Lobby จอดรถได้ประมาณ 12 คัน วัสดุพื้นเป็นปูนขัดสีขาวสลับเทา
ทางเข้าอาคาร มีการตกแต่งฝ้าเพดานด้วยกล่องสี่เหลี่ยมหลายขนาดเล่นระดับ ถ้าเป็นตอนกลางคืนเปิดไฟแล้วคงสวยน่าดู
พื้นทางเข้าอาคารยกระดับขึ้นมาประมาณ 15 เซนติเมตร กรุหินแกรนิตสีดำ ทางด้านซ้ายเป็น ramp
บรรยากาศภายใน Lobby การตกแต่งโดยรวมดูเรียบ หรู แต่งด้วยโทนสี Earth Tone พื้นเป็นหินสีน้ำตาล ทางด้านขวาของ Lobby ประตูแรกเป็นทางไปห้องน้ำ สำนักงานนิติบุคคล และ ห้องจดหมาย ส่วนช่องประตูถัดไป เป็นโถงลิฟต์ Lobby ค่อนข้างจะเล็กเมื่อเทียบกับคอนโดระดับ Super Luxury แต่จำนวนยูนิตของโครงการมีไม่มาก การใช้งานจริงๆจึงถือว่าโอเค
เคาน์เตอร์เป็นหินสีเดียวกับพื้นมีลูกเล่นซ่อนไฟ ด้านหลังเป็น Back Drop กรุด้วยวัสดุคล้ายๆโมเสคสีเงินๆ ดูหรูมากๆ
เข้ามาที่ช่องประตูแรก ทางด้านขวาเป็นตู้จดหมาย สุดทางเดินเป็นห้องนิติบุคคล ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปห้องน้ำ
ตู้ใส่จดหมายสำหรับ 161 ยูนิต
ถัดมาเป็นห้องน้ำหญิงและห้องน้ำชาย
ภายในห้องน้ำมีห้องน้ำ 1 ห้อง ตกแต่งโทนสี Earth Tone เหมือนกันเคาน์เตอร์กรุด้วยหินธรรมชาติสีเดียวกัน
เข้ามาที่ช่องประตูที่ 2 เป็นโถงลิฟต์ มีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว ลิฟต์ Service อีก 1 ตัว อัตรส่วนลิฟต์ดีมาก คือเท่ากับ 40 ห้องต่อลิฟต์ 1 ตัว
Signage แสดงชั้นของโครงการ และ ปุ่มกดลิฟต์
ภายในลิฟต์ผนังโดยรอบเป็นกระจกซ่อนไฟ
หน้าตาปุ่มกดภายในลิฟต์ ลิฟต์เป็นของ OTIS แบบล็อคชั้นต้องทาบบัตรก่อน ถึงกดชั้นได้
ขึ้นมาดูชั้น Facility กันก่อน ที่ชั้น 34 เป็นชั้นของสระว่ายน้ำและฟิตเนส ประตูสุดทางเดินเป็นทางออกไปสระว่ายน้ำเข้าได้ 2 ฝั่ง ลองดูแปลนประกอบไปด้วยจะเห็นภาพมากขึ้นค่ะ ^^
ทางเข้าสระว่ายน้ำ
เข้ามาเจอกับที่ล้างตัว
ข้างๆสระมีสระ jacuzzi และที่นั่งพักผ่อน 2 ตัว
สระว่ายน้ำเป็นแบบ Semi Outdoor Lap pool ขนาด 7 x 20 เมตร ลึก 1.2 เมตร มีหลังคาคลุมฝนตกก็ยังว่ายน้ำได้ ว่ายไปชมวิวไป
ทางเข้าสระว่ายน้ำอีกทางหนึ่ง
เข้ามาฝั่งนี้ไม่มีหลังคาคลุม สามารถว่ายเชื่อมไปอีกฝั่งหนึ่งได้
เดินมาฝั่งตรงข้ามสระว่ายน้ำ เป็นฟิตเนส
บรรยากาศภายในฟิตเนสขนาดห้องประมาณ 45 ตารางเมตร ใส่เครื่องออกกำลังกายได้ 9 ชิ้น ผนังเป็นหน้าต่าง 3 ด้านมองออกไปเห็นวิวตึกมหานครด้วยนะ
อีกมุมหนึ่งค่ะ
จากฟิตเนส เลี้ยวขวามาฝั่งซ้ายเป็นห้อง Locker หญิงและสปา ส่วนทางซ้ายเป็นห้อง Locker ชาย
มาดูภายในห้องสปา
มีห้องอาบน้ำ และ อ่างอาบน้ำ
ในห้องสปามีเตียงอยู่ 2 เตียง มีหน้าต่างบานใหญ่เปิดรับวิวเต็มๆ
ห้อง Locker
ภายในห้อง Locker มีห้องอาบน้ำ 1 ห้อง , ห้องน้ำ 1 ห้อง , อ่างล้างหน้า 2 อ่าง ถ้าเป็นห้องน้ำชายจะ่มี Sauna ห้องน้ำหญิงจะมีห้อง Steam
ห้อง Sauna แบบ 2 ที่นั่ง
อ่างล้างหน้าและ Locker
ที่ชั้น 39 มีสวนหย่อมเล็กๆ หรือเรียกว่าจุดชมวิวก็ได้ค่ะ เห็นวิวเมืองรอบด้านเป็นจุดที่วิวดีจุดหนึ่งเลย
บรรยากาศอีกมุมหนึ่ง ราวกันตกและพื้นตกแต่งด้วยหินอ่อนสีขาวดูเรียบหรู ถ้าฝนตกเวลาเดินจะลื่นนิดนึง
ขึ้นมาที่ชั้น 52 เป็น Double Space Sky Lounge บรรยากาศโซนนี้มีไว้เพื่อปาร์ตี้โดยเฉพาะ
มีเคาน์เตอร์บาร์ ใช้จัดปาร์ตี้เล็กๆได้ มีทางออกไปโซน BBQ ข้างนอกได้
พื้นที่ BBQ จุดนี้วิวดีเหมือนกันนะ
อีกด้านหนึ่งมีชุดที่นั่งไว้ให้
มุมมองจากชั้นบน
ชั้นบนมี โต๊ะพูล ให้เล่นไปชมวิวไป
ชั้นล่างมีห้องคาราโอเกะ ห้องนี้ก็ใช้จัดปาร์ตี้กันเล็กๆได้
บรรยากาศอีกมุมหนึ่ง
ขึ้นมาที่ชั้นของห้องพัก Corridor บริเวณโถงลิฟต์พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโตสีขาว ผนังทาสีเทา บริเวณสุดทางเดินของบางชั้นจะมี Pocket Garden เล็กๆอยู่ มีช่องแสงทำให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาในอาคาร
อย่างชั้น 20 ฝั่งทิศใต้มองออกไปเห็น โครงการมหานครพอดิบพอดี
มีที่นั่งเล็กๆ ให้นั่งชมวิวด้วย ด้านล่างชุดเก้าอี้มี Drain ระบายน้ำ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby
- สระว่ายน้ำ Semi-Outdoor 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 7 x 20 เมตร ลึก 1.2 เมตร (มีสระ Jacuzzi )
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องขนาดประมาณ 9 x 5 ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 9 เครื่อง
- Spa
- Steam / Sauna
- Double Space Sky Lounge
- BBQ Area
- Karaoke Room
- สวนหย่อมที่ชั้น G , 39
- ลิฟท์โดยสาร 3 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 54 : 1
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถ 130 คันไม่รวมจอดซ้อนคัน 137 คัน รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 85%
- ระบบ CCTV / Access Card
พามาชมห้องจริงกัน เริ่มที่ห้อง 2 ห้องนอนขนาด 82 ตารางเมตร บนชั้น 20 ขออภัยถ้าแปลนไม่ค่อยชัดนะคะ เข้ามาทางฝั่งซ้ายจะเป็นตู้เก็บของและชั้นวางรองเท้า Built-in ยาวตลอดแนวถัดเข้าเป็นโซนรับแขกและรับประทานอาหารอยู่ติดกับระเบียง ระเบียงมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ฝั่งตรงข้ามห้องรับแขกเป็นครัวทรงตัวยู ทำอาหารได้ประมาณหนึ่งแต่ไม่เน้นต้ม ผัด แกง ทอด หนักๆ เพราะไม่ใช่ครัวปิด ถ้าจัดหนักอาจมีปัญหาเรื่องกลิ่นที่ฟุ้งกระจายในห้องได้ ด้านในเป็นห้องนอน 2 ห้อง ห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนเล็กต้องออกมาใช้ห้องน้ำข้างนอก
บานประตูเป็นบานโครงไม้กรุลามิเนตลายไม้ กว้างประมาณ 1 เมตร สูงประมาณ 2.70 เมตร มือจับเป็น Digital Door Lock ยี่ห้อ Yale
เข้ามาข้างในห้อง มีเว้นระยะเปิดประตูเล็กน้อยมีตัวหยุดประตู กันเปิดประตูมากระแทกผนัง ถัดไปเป็นตู้รองเท้า
ระหว่างพื้นทางเดินและพื้นภายในห้องเก็บรอยต่อด้วยเส้นสเตนเลส กว้างประมาณ 1 เซนติเมตร
ทางด้านซ้ายเป็นตู้เก็บของ Built-in และ ตู้รองเท้าทั้งแนวยาวประมาณ 1.50 เมตร
เปิดออกมาเก็บของและรองเท้าได้เยอะทีเดียว
เข้ามาจะเจอกับห้องรับแขกและทานข้าวก่อน เฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการให้หน้าตาแบบนี้เลย พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโตขนาด 60 x 60 เซนติเมตร ยาวต่อเนื่องตั้งแต่หน้าห้องไปจนถึงห้องครัว ความสูงฝ้าเพดาน 2.80 เมตร
หน้าตาโซฟา 2 ที่นั่ง
ชั้นวางทีวี เปิดออกมามีชั้นเอาไว้เก็บของ
ชุดโต๊ะทานข้าว 4 ที่นั่ง
เก้าอี้เป็นแบบบุผ้าดีไซน์สวย นั่งสบาย แต่ถ้าใช้ ไปนานๆฝุ่นก็อาจจะจับได้
พื้นระเบียงลดระดับจากพื้นห้องรับแขกประมาณ 10 เซนติเมตร
ระเบียงขนาด 1.20 x 2.40 เมตร พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต สีเทาผิวด้านขนาด 60 x 30 เซนติเมตร
ที่วาง condensing unit แอร์แยกออกจากส่วนระเบียง มี Grill กั้นบังตาเพื่อความเรียบร้อย สามารถเปิดออกมา maintenance ได้ พื้นส่วนนี้เป็นพื้นปูน
หน้าตามือจับประตู
ไฟที่ระเบียงเป็นไฟ ดาวน์ไลท์ มีให้ 2 จุด ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสีเทา
จากห้องรับแขกถัดมาเป็นครัว ถ้าเดินจากเลี้ยวซ้ายจากครัว จะไปห้องน้ำและห้องนอนเล็ก ทางด้านขวาที่เห็นประตูเลื่อนเป็นทางเข้าห้องนอนใหญ่ แอร์เป็นระบบ Split type ฝังบนฝ้าเพดาน
ถัดจากครัวไปจะเป็นห้องน้ำ เลี้ยวขวาไปเป็นห้องนอนเล็ก
เคาน์เตอร์ครัวและชั้นเก็บของด้านบนเป็นของยี่ห้อ Starmark เป็น Soft Close ทั้งหมด มี Shape เป็นตัวยู วัสดุเป็นโครงไม้ปาติเกิ้ล หน้าบานพ่นสี Hi Gloss Top ครัวเป็นหิน quartz rock แนวกันเปื้อนเป็นกระเบื้องสีขาว ครัวแบบนี้เหมาะกับแค่เตรียมอาหารง่ายๆ ถ้าต้มผัดแกงทอดหนักๆกลิ่นคงฟุ้งไปทั่วห้องเนื่องจากไม่ใช่ครัวปิดค่ะ
เปิดออกมาเก็บของได้แบบนี้
อ่างล้างจาน แบรนด์ Hafele เป็นแบบไม่มีขอบ วางหินทับด้านบนดูเรียบสวยดี
เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเป็นของแบรนด์ Electrolux
ด้านข้างมีช่องใส่ตู้เย็น ด้านบนตู้เย็นทำเป็นช่องเก็บของได้อีก
หน้าตาปลั๊กและสวิทซ์ที่ได้เป็นของ Panasonic หน้ากากเป็น สแตนเลส
ระหว่างทางเดินจากครัวมาห้องน้ำมีตู้ Built-in ข้างในเอาไว้วางเครื่องซักผ้าและตู้งานระบบไฟ
ถัดมาเป็นห้องน้ำ
พื้นห้องน้ำลดระดับลงมาประมาณ 5 เซนติเมตร จบรอยต่อด้วยเส้นสแตนเลส พื้นห้องน้ำเป็นแกรนิตโตสีขาวขนาด 60 x 30 เซนติเมตร ระหว่างส่วนแห้งกับพื้นที่อาบน้ำก็มี Curb ยกสูงขึ้นมา 5 เซนติเมตร
ภายในห้องน้ำ ตรงกลางเป็นอ่างล้างหน้ามีเคาน์เตอร์ด้านล่างไว้เก็บของ ด้านหลังกระจกเป็นตู้เปิดออกมาเก็บของได้ ฝั่งซ้ายเป็นพื้นที่อาบน้ำกั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย มีช่องวางสบู่ให้ ทางด้านขวาเป็นโถสุขภัณฑ์มีพัดลมดูดอากาศอยู่ด้านบน พื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโตขนาด 60 x 30 เซนติเมตร
สุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของ American standard พื้นที่อาบน้ำกว้าง 0.60 เมตร ยาว 1.20 เมตร
อ่างล้างหน้า ขนาดไม่ใหญ่มาก
หน้าตาฝักบัวและช่องเก็บของ
ถัดมาเป็นห้องนอนเล็ก วางเตียง 5 ฟุตได้
ทางด้านซ้ายมีระยะเหลือประมาณ 70 เซนติเมตร ตู้เสื้อผ้าเป็นบานเลื่อน พื้นเป็นพื้น Engineer
ปลายเตียงเหลือพื้นที่ไม่มากนัก วางชั้นวางของและโต๊ะหนังสือได้พอดี
มาดูห้องนอนใหญ่ กั้นด้วยประตูบานเลื่อนสีขาว
ถ้าปิดประตูก็จะเป็นแบบนี้
เข้ามาที่ห้องนอนใหญ่ทางด้านซ้ายเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง ถัดมาเป็นห้องน้ำ
ตู้เสื้อผ้า เป็นบานเลื่อนหน้าบานเป็น Hi-gloss สีขาว มีชั้นเก็บของได้ตามรูป
ถัดมาเป็นห้องน้ำ พื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต 60 x 30 เซนติเมตร สุขภัณฑ์เป็นของ American Standard พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 0.80 x 0.80 เมตร กั้นด้วยกระจกนิรภัย
ห้องน้ำห้องนี้ข้างเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า มีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วย
หน้าตาชุดฝักบัว ฝักบัวนี่ดึงสายออกมาได้
ซูมอ่างอาบน้ำให้ดูค่ะ
ถัดมาเป็นห้องนอน วางเตียง 5 ฟุตเช่นกัน ผนังทั้งสองด้านเป็นหน้าต่างเปิดเห็นวิวเมือง ปลายเตียงวางชั้นวางของและโต๊ะทำงานได้ พื้นในห้องนี้เป็นพื้น Engineer
ระยะรอบเตียงเหลือค่อนข้างเยอะ วางโต๊ะข้างเตียงได้ 2 ฝั่ง
ในห้องนอนติดแอร์ Wall Type ยี่ห้อ Trane
อีกห้องที่จะพาไปดูคือห้อง Penthouse 3 ห้องนอน ขนาด 165 ตารางเมตร บนชั้น 49 ซึ่งตั้งแต่ชั้น 45 – 51 จะมีเพียงชั้นละห้องเท่านั้น ขึ้นจากลิฟต์ก็เดินเข้าห้องได้เลย ด้านหน้าจะมีห้องแม่บ้านมีห้องน้ำในตัว เข้ามาในห้องจะเป็นส่วนของห้องทานข้าวและห้องรับแขกเช่นเดียวกับห้อง 2 ห้องนอน แต่พิเศษตรงที่ห้องนี้นอกจากครัวฝรั่งแล้วยังมีส่วนของครัวปิดเพิ่มมาให้ด้วย ห้องนอนมี 3 ห้องนอน แบ่งเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ห้องนอนใหญ่ 1 ห้อง มีห้องน้ำ 3 ห้อง
ประตูทางเข้าเหมือนกับ 2 ห้องนอน แต่ด้านหน้าห้องจะมีห้องของแม่บ้านอยู่
เข้ามาในห้อง ทางด้านขวาวางตู้เก็บของเล็กๆได้ หรือจะ Built เป็นชั้นวางรองเท้าเต็มๆเลยก็ได้ค่ะ
บริเวณหน้าห้องมีตู้เก็บงานระบบไฟ และ เครื่องซักผ้า เดินท่อ เตรียมก๊อกให้เรียบร้อย
หันมาดูทางซ้ายกันก่อน ทางด้านซ้ายจะเป็นส่วนครัวฝรั่งถัดไปเป็นครัวไทย ด้านที่ติดกับหน้าต่างเป็นห้องรับแขกมีหน้าต่างเปิดรับแสงตลอดทั้งแนว
ชุดรับแขก วางโซฟา 3 ที่นั่ง และอาร์มแชร์เล็กๆ อีก 2 ตัว เนื่องจากมีบานหน้าต่างตลอดแนวจึงมีแสงธรรมชาติเข้ามาในห้อง ทำให้ห้องดูโปร่ง ไม่อุดอู้ แต่ก็อาจจะร้อนได้
มองย้อนกลับไปจะเป็นห้องทานข้าว และทางไปห้องนอน
ทางออกไประเบียง ประตูเป็นประตูบานเลื่อนกรอบอะลูมิเนียมสีดำ บานใหญ่กว้างประมาณ 1 เมตรได้
ด้านหลังชุดรับแขก มีระยะให้เดินด้านหลังประมาณ 1 เมตร ถัดมาจะเป็นระเบียง ขนาดประมาณ 1.20 x 3.00 เมตร พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโตขนาด 60 x 30 เซนติเมตร ระเบียงลดระดับจากพื้นห้องประมาณ 10 เซนติเมตร ระเบียงพื้นที่ค่อนข้างใหญ่สามารถเอาชุดที่นั่งเล็กๆมาวางได้นะคะ เผื่อใครอยากจะนั่งชมวิว
มีพื้นที่วาง Condensing unit แอร์ และมี Grill กั้นบังตา เช่นเดียวกับห้อง 2 ห้องนอน
เข้ามาดูต่อกันที่ครัว Shape เป็นตัวยูเช่นเดียวกับ 2 ห้องนอน ฝั่งตรงข้ามจะเป็นครัวปิด
อ่างล้างจาน , Hob ,Hood ที่ให้เหมือนกับห้อง 2 ห้องนอนคือ ยี่ห้อ Electrolux Top ครัวก็เป็นหิน quartz rock เช่นกัน ด้านหลังเคาน์เตอร์มีช่องสำหรับใส่ไมโครเวฟหรือเตาอบ แนวผนังกันเปื้อนเป็นกระเบื้องสีขาว
ตรงข้ามพื้นที่เตรียมอาหาร จะเป็นครัวปิดหรือครัวไทย สามารถทำอาหารได้เต็มที่ แต่ดูอึดอัดหายใจลำบากนิดหน่อย
อ่างล้างจานในครัวปิดเป็นแบบเน้นการใช้งาน ไม่ได้เน้นสวยงามเหมือนครัวฝรั่ง
หน้าตาเตาไฟฟ้าในครัวปิด ยี่ห้อ Electrolux
ถัดมาจากครัวเป็นห้องอาหาร
ห้องนี้พื้นที่กว้างพอสมควร ห้องตัวอย่างจัดเป็นชุดโต๊ะกลม 6 ที่นั่งมาให้ แต่ถ้าอยากจัดเป็นโต๊ะสี่เหลี่ยมตามแปลนก็สามารถทำได้
ลืมบอกไป หน้าต่างของโครงการนี้ ยาวตลอดแนวก็จริง แต่เป็นบานกระทุ้งเปิดได้นิดเดียวตามภาพ
มาดูส่วนของห้องนอนกัน ทางไปห้องนอนต้องผ่าน Corridor ยาวๆ
ถ้าสังเกตไฟบางตัวทำไมไม่ติด เพราะว่าเป็นไฟฉุกเฉินจะเปิดเฉพาะตอนที่ไฟดับค่ะ
บรรยากาศห้องนอนห้องแรก ระยะปลายเตียงทั้งสองข้างเหลือประมาณข้างละ 70 เซนติเมตร
วางโต๊ะทำงานได้สบายๆ ปลายเตียงวางตู้เสื้อผ้า เล็กๆได้
ข้างๆห้องนอนห้องแรกเป็นห้องน้ำ ห้องน้ำเป็นห้องที่ต้องใช้แชร์กับห้องอื่นๆ พื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต 60 x 30 เซนติเมตร สุขภัณฑ์ของ American Standard เช่นกัน
ห้องนอนถัดมา ตกแต่งได้สวยหวานสไตล์วินเทจมาก ห้องนี้จะได้หน้าต่าง 2 ด้าน พื้นในห้องนอนทั้งหมดจะเป็น พื้นไม้ Engineer
ระยะปลายเตียงทั้งสองข้างเหลือเยอะอยู่
ปลายเตียงมีระยะเหลือค่อนข้างกว้างวางตู้เก็บของและชุดโต๊ะทำงานได้ ด้านข้างเป็นตู้เสื้อผ้า ด้านบนตู้มีแอร์มาให้ 1 ตัว
ห้องนี้มีห้องน้ำในตัวค่ะ หน้าตาห้องน้ำก็คล้ายๆกับห้องอื่นๆ ทางด้านขวาเป็นพื้นที่อาบน้ำ ทางด้านซ้ายเป็นโถสุขภัณฑ์
กระเบื้องผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโตขนาด 60 x 60 เซนติเมตร มีกระเบื้อง 2 ชนิดอยู่ด้วยกันสีออกเทาๆและสีพิเศษ หน้าตาฝักบัวเหมือนๆกับห้องอื่น
ห้องสุดท้ายเป็นห้องนอนใหญ่ ห้องนี้ค่อนข้างกว้างเลยค่ะ สามารถจัดโซนนั่งเล่นแยกออกมาได้ พื้นเป็นพื้นไม้ Engineer ที่ผนังทั้ง 2 ฝั่งของห้องเป็นหน้าต่างจึงมีแสงธรรมชาติเข้ามาทำให้ห้องดูโปร่ง
ระยะปลายเตียงทั้ง 3 ด้าน เหลือค่อนข้างกว้างค่ะ
จัดชุดโซฟาเอาไว้นั่งเล่นได้ 1 ชุด ด้านข้างเป็นระเบียงเอาไว้ออกไปชมวิว
ก่อนเข้าห้องน้ำจะมี Walk-in Closet น่าจะเก็บเสื้อผ้าได้เยอะอยู่เหมือนกัน
ต่อจาก Walk-in Closet จะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งและห้องน้ำ
ห้องน้ำ ห้องนี้ก็ค่อนข้างกว้างมีอ่างล้างหน้า 2 อ่าง ห้องอาบน้ำ และโถสุขภัณฑ์มีกระจกนิรภัยกั้นเป็นสัดส่วน มีอ่างอาบน้ำมาให้ พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต 60 x 60 เซนติเมตร ผนังเป็น กระเบื้องแกรนิตโต 60 x 30 เซนติเมตร
ระหว่างพื้น Engineer และกระเบื้องห้องน้ำจบงานด้วย เส้นสแตนเลส พื้นห้องน้ำลดระดับลงประมาณ 5 เซนติเมตร
อ่างอาบน้ำของห้องนี้ค่ะ อาบไปชมวิวไป
พื้นที่อาบน้ำ และห้องน้ำกั้นด้วยกระจกนิรภับเป็นสัดส่วน ระหว่าง 2 ห้องนี้กั้นด้วยธรณีสูงประมาณ 5 เซนติเมตร ผนังด้านในเป็นกระเบื้องแกรนิตโตสีพิเศษ ขนาด 30 x 60 เซนติเมตร
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 16 June 2015
- 1 Bedroom เนื้อที่ 47.86 – 51.70 ตร.ม. ราคา 9.85 ล้านบาท หรือ 190,500 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom เนื้อที่ 79.04 – 88.79 ตร.ม. ราคา 15.56 ล้านบาท หรือ 189,600 บาท/ตร.ม.
- 3 Bedroom เนื้อที่ 165.85 ตร.ม. ราคา 42.94 ล้านบาท หรือ 258,920 บาท/ตร.ม.
- Fully Furnished
- เพดานสูง 2.8 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- 1 Bedroom จอง 50,000 บาท , 2 Bedroom 100,000 บาท , 3 Bedroom 150,000 บาท
- 1 Bedroom ทำสัญญา 492,443 บาท , 2 Bedroom 778,024 บาท , 3 Bedroom 2,147,094 บาท
- ค่ากองทุน 550 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 50 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเลของโครงการ M silom ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบนถนน นราธิวาสราชนครินทร์ ติดกับซอยนราธิวาสฯ 2 ใกล้ที่กลับรถและทางด่วน ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีเพราะถนนนี้หาที่กลับรถยาก สภาพแวดล้อมรอบโครงการค่อนข้างสงบ เพื่อนบ้านส่วนมากเป็นบ้านพักอาศัยและอาคารพาณิชย์ 2-6 ชั้น ต่างจากพื้นที่ใกล้เคียงอย่างสีลมและสาทรซึ่งเป็นย่านธุรกิจ แหล่งรวมอาคารสำนักงาน คอนโดระดับหรู โรงแรม ธนาคาร โรงเรียน ศูนย์การค้า ถือว่าเป็นทำเลที่มีความเจริญและเพียบพร้อมที่สุดของกรุงเทพฯก็ว่าได้ สามารถเดินทางไป Shopping กิน เที่ยว ที่สยามได้ มีสถานีรถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดิน และถ้าพูดถึงโปรเจคใหญ่ๆอีกไม่ช้าไม่นานบริเวณใกล้ๆกับโครงการจะมี โครงการ มหานคร กำลังก่อสร้างอยู่ซึ่งถ้าเสร็จก็จะเป็นสีสันให้ย่านนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว
ย่านนี้ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์ หาของกินของใช้ได้ง่ายมาก มีทั้งตลาด ร้านค้า ร้านอาหาร ภัตตาคาร ศูนย์การค้า ที่ดังๆในย่านนี้ก็มีซอยคอนแวนต์ ซอยละลายทรัพย์ตลาดสีลม แต่บริเวณใกล้ๆโครงการถ้าจะหาของกินในระยะใกล้ๆ ก็ต้องเดินข้ามสะพานลอยไป ศูนย์อาหารสีลมสแควร์
วิวโดยรอบของโครงการนั้นส่วนใหญ่จะไม่ถูกบดบังด้วยตึกสูง ยกเว้นทางฝั่งทิศตะวันออกที่จะมีอาคารชุด ITF สีลมพาเลส เป็นอาคารสำนักงานและคอนโดสูง 34 ชั้น
การเดินทางโดยใช้รถ ถือว่าลำบากพอสมควรเพราะการจราจรค่อนข้างติดขัด โดยเฉพาะถนนสีลมและสาทร เนื่องจากเป็นถนนเส้นธุรกิจที่มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาใช้เส้นทางมากมาย ส่งผลมาถึงถนนหน้าโครงการด้วย หากไม่ได้ทำงานอยู่ในละแวกนี้แล้วต้องเผื่อเวลารถติดไว้ให้ดีเลยค่ะ แต่ถ้ามองข้ามเรื่องรถติดไป บริเวณรอบๆโครงการมีถนนเชื่อมกันหลายสายสามารถออกได้หลายเส้นทาง และมีซอยลัดที่พอจะช่วยหนีรถติดในช่วงเวลาเร่งด่วนได้บ้าง แต่ก็จะถูกบล็อกด้วยจุดห้ามกลับรถ จุดห้ามเลี้ยวและทาง One way ซึ่งเป็นจุดที่น่าปวดหัวของย่านนี้ สำหรับทางด่วนจากโครงการสามารถใช้ซอยนราธิวาสฯ 2 ไปออกซอยเดโชเชื่อมไปยัง ถนนสุรวงศ์ออกไปทางด่วนแจ้งวัฒนะได้ และบริเวณหน้าโครงการยังใกล้ที่กลับรถซึ่งถือว่าดีเพราะถนนนราธิวาสฯจะหาที่กลับค่อนข้างยาก
การเดินทางโดยไม่ใช้รถถือว่าสะดวกมากเพราะมีทั้งรถไฟฟ้า BTS , MRT และ BRT ไม่ต้องขึ้นนี่ไปต่อนู่น ให้เสียเวลา ถ้าอยากใช้บริการรถไฟฟ้าแบบไหนก็เดินไปขึ้นได้เลย โดยสถานีช่องนนทรีห่างจากโครงการประมาณ 500 เมตรและสถานีศาลาแดงห่างจากโครงการ 1.2 กิโลเมตร และ รถไฟฟ้า MRT สถานีสีลมซึ่งสามารถเดินเชื่อม Sky walk จากBTS สถานีศาลาแดงได้ นอกจากนั้นบริเวณถนนนราธิวาสฯใกล้ๆกับสถานีช่องนนทรียังมีรถ BRT สถานีสาทรให้บริการสำหรับใครที่จะต้องไปทำธุระฝั่งธนบุรีหรือพระราม 3 แต่ BRT ก็จะต้องเจอกับรถติดในบางช่วงเช่นกัน และยังมีท่าเรือสาทร ใช้นั่งไปต่อเรื่องท่าต่างๆ ได้
สำหรับวัสดุนั้น ให้มาดีพอสมควร ทั้งพื้นไม้ Engineer , Top หิน quartz rock , เฟอร์เจอร์ผิว High gloss มีระบบ Soft close , บานกระจกบานใหญ่ , กริลอลูมิเนียมกั้นช่อง Condensing unit , Bath Tub แต่ถ้าเทียบกับคอนโดในระดับ Super luxury โครงการอื่นๆจะมีบางรายการที่โครงการอื่นๆให้ดีกว่า เช่น ฝ้าเพดานโครงการนี้สูงเพียงแค่ 2.8 เมตรซึ่งควรจะสูง 3.00 เมตรไปเลย หรือพื้นห้องน้ำที่เป็นกระเบื้องแกรนิตโตบางโครงการให้เป็นหินก็มี เนื่องจากราคาต่อตารางเมตรค่อนข้างสูงถึง 200,000 บาทต่อตารางเมตร การตัดสินว่าของที่ให้เหมาะสมกับราคาแล้วหรือยังค่อนข้างยาก จึงขึ้นอยู่กับการเปรียบเทียบและความพึงพอใจของคนที่จะซื้อด้วย
สำหรับมาตรฐานการก่อสร้าง การเก็บงาน รอยต่อวัสดุต่างๆ ทำได้ดีพอสมควร วัสดุที่เลือกใช้ในพื้นที่ส่วนกลางให้ค่อนข้างดี
การออกแบบ ออกแบบได้ดทันสมัย เรียบ เท่ และดูหรู การออกแบบอาคารออกแบบโดยใช้ศักยภาพได้เต็มพื้นที่เป็นอาคารสูง 53 ชั้น สามารถใช้เป็นจุดเด่นและจุดขายของคอนโดระดับนี้ได้ การวางผังอาคารจัดให้ห้องพักทั้งหมดอยู่รอบนอก มีช่องหน้าต่างตลอดทั้งแนวเปิดรับวิวพาโนรามาได้เต็มๆซึ่งถือว่าดี จัดให้แต่ละชั้นมีจำนวนยูนิตที่น้อย มากที่สุดแค่ 6 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้นซึ่งทำให้ผู้พักอาศัยมีความส่วนตัวสูง การออกแบบวางผังห้องพักทำออกมาได้เป็นสัดส่วนดี การตกแต่งดีไซน์ก็ทำได้ดีเข้ากับ Concept ของโครงการ
สำหรับ Facility ให้มาพอสมควร แต่ถ้าเทียบกับโครงการระดับ Super Luxury โครงการอื่นๆถือว่าน้อยไปหน้อย แต่ถ้าเทียบกับจำนวนยูนิต 161 ยูนิตก็พอยอมรับได้ Facility ที่ให้มี Lobby , Double space Sky lounge , สวนหย่อม , BBQ Area , Karaoke room , ฟิตเนส , สปา , Sauna , Stream ซึ่งขาด ห้องสมุด , พื้นที่จอดรถซึ่งให้มาแค่ 85% จริงๆระดับนี้ควรได้ 100%++ และพื้นที่สวนที่เป็นสีเขียว มีต้นไม้ใบหญ้า ไม่ค่อยเห็นในโครงการนี้ สวนจะเป็นสวนที่ออกแบบแนวเรียบ เท่ เน้นให้ขึ้นไปชมวิวมากกว่า
Judgement
เนื่องจากราคาของ โครงการ M silom ค่อนข้างมีความหลากหลาย จึงให้คะแนนค่อนข้างยาก เมื่อแบ่งระดับราคาตามมาตรฐานของ Think of living แล้วพบว่า ห้อง 1-2 ห้องนอน ซึ่งเป็นห้องที่มีจำนวนเป็นส่วนใหญ่ของโครงการมีราคาเฉลี่ยประมาณ 190,000+ บาทต่อตารางเมตร ซึ่งตกอยู่ในระดับ LUXURY ซึ่งอีกนิดเดียวราคาก็จะไปอยู่ในอีกระดับแล้ว ส่วน ห้อง 3 ห้องนอนมีราคาเฉลี่ย 250,000 บาทต่อตารางเมตร ตกอยู่ในระดับ SUPER LUXURY ราคาเฉลี่ยของทั้งโครงการอยู่ที่ 220,000 บาทต่อตารางเมตร จึงขอคิดคะแนนเป็น 2 กรณี
กรณีที่ 1 ให้คะแนนในกรณี ราคาเฉลี่ย 190,000 บาทต่อตารางเมตร (LUXURY CLASS)
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยพิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคาคอนโด High rise ติดถนนใหญ่ นราธิวาสฯ-สีลม-สาธร ราคา 190,000 บาท/ตารางเมตร , 16 June 2015
- ทำเล 8.25/10 – อยู่ใจกลางเมืองใกล้ย่านธุรกิจอย่างสีลมและสาธร
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – ถึงแม้ว่าจะรถติดแต่เดินทางไปออกถนนเส้นสำคัญได้หลายสาย ใกล้ที่กลับรถ และทางด่วน
- ไม่ใช้รถ 8.75 /10 – เดินทางสะดวก ใกล้ Bts สถานี ช่องนนทรี , ศาลาแดง Mrt สีลม และ Brt
- วัสดุ 8 /10 – ให้มาค่อนข้างดี
- แบบ 8.75 /10 – ออกมาดีไซน์ดี ทันสมัย การวางผังและจัดพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างดี
- สาธารณูปโภค 8/10 – ให้มาพอสมควร ตามแบบคอนโดสมัยใหม่
- LUXURY CLASS
- 8.27 / 10.00
กรณีที่ 2 ให้คะแนนในกรณี ราคาเฉลี่ย 250,000 บาทต่อตารางเมตร (SUPER LUXURY CLASS)
ราคาของห้อง 3 Bedroom ของคอนโดนี้ถือเป็นระดับ SUPER LUXURT CLASS ซึ่งความคุ้มค่าด้านราคาไม่ใช่ปัจจัยหลักเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจซื้อ ความคุ้มค่าด้านอารมณ์คือปัจจัยหลักอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งตราบเท่าที่ทางเรายังไม่สามารถวัดค่ามาตรฐานทางอารมณ์ได้ ทาง Think of Living ขอไม่ให้คะแนนฟันธงในรีวิวเจาะลึกนะคะ เพราะมีตัวเปรียบเทียบน้อย เป็นสินค้าประเภท Unique เสียส่วนใหญ่ และเราก็เชื่อว่าลูกค้าที่พร้อมจะซื้อคอนโดระดับนี้ ไม่ตัดสินง่ายๆด้วยคะแนนแน่นอนค่ะ
BOTTOM LINE
โครงการ M Silom เป็นคอนโดใจกลางเมือง เหมาะกับผู้ที่มีงบประมาณ 10-43 ล้าน ต้องการที่อยู่อาศัยในย่าน CBD ที่ความความอุมสมบูรณ์และสาธารณูปโภคครบครัน เดินทางสะดวก ใกล้ทางด่วน ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้แหล่งช็อปปิ้งอย่างสยามสแควร์ ต้องการคอนโดที่มีความเป็นส่วนตัว และ มี Facility ที่เพียบพร้อม ชอบงานดีไซน์ ที่ทันสมัย เลือกของตามความคุ้มค่าทางอารมณ์ ชอบของที่มี Brand หน่อย
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปค่ะ
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่)