สวัสดีค่า รีวิวฉบับที่ 698 นี้เราพามาชมโครงการ Elio Del Ray สุขุมวิท 64 ซึ่งเป็นแบรนด์ Elio ตัวที่ 2 จากอนันดาค่ะ ที่ตั้งโครงการจะอยู่ติดกันกับโครงการ Elio Condo ตัวแรกเลย คือตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 64 ที่ทะลุเชื่อมกันกับสุขุมวิท 66/1 ทำให้ได้ใช้รถไฟฟ้า 2 สถานี คือ สถานีปุณณวิถีและสถานีอุดมสุขค่ะ เป็นโครงการคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 8 อาคาร บนพื้นที่กว่า 16 ไร่ พื้นที่ส่วนกลางจัดเป็นสวนน้ำ 3 โซนที่เชื่อมต่อกันขนาดประมาณ 4 ไร่พร้อมฟิตเนส, ลู่วิ่งจ้อกกิ้ง, ห้างMaxValue และ True Coffee ค่ะ ตอนนี้โครงการสร้างเสร็จอยู่ในระหว่างเก็บหน้างาน น่าจะพร้อมเข้าอยู่ได้ช่วงปลายปี 2557 นี้ค่ะ ไปชมรายละเอียดโครงการกันเลย
Fact @ 21 October 2014
- Elio Del Ray (เอลิโอ เดล เรย์)
- บริษัท อนันดา. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางนา
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 8 อาคาร 1,630 ยูนิต และร้านค้า 4 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 39 ยูนิตที่อาคาร F
- ที่จอดรถประมาณ 544 คันไม่รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็นประมาณ 30% ของทั้งโครงการ
- ที่ดินประมาณ 16-2-17.7ไร่
- สร้างเสร็จ ตุลาคม 2557 (ตอนนี้อยู่ในระหว่างเก็บหน้างาน)
- Studio 24 – 26 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท
- 1 Bedroom 30 – 34 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.56 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.59 ล้านบาทหรือประมาณ 66,250 บาทต่อตารางเมตร
- http://www.ananda.co.th/condo/elio/delray/
- สำนักงานขาย : 02-316-2222
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ
พิกัด : 13.684351,100.604811
ตัวรีวิวและทำเลพร้อมบทวิเคราะห์ของโครงการ Mr.Oe ได้เคยทำไว้แล้ว ถ้าใครยังไม่เคยอ่านตาม Link ต้านล่างได้เลยค่ะ
แผนที่จากทางโครงการค่ะ ตัวโครงการสามารถเข้าออกได้ 2 ทางคือจากซอยสุขุมวิท 64 (ซอยพงษ์เวชอนุสรณ์) และซอยสุขุมวิท 66/1 ทำให้ได้ใช้รถไฟฟ้า 2 สถานี คือ สถานีปุณณวิถี และ สถานีอุดมสุข จากโครงการสามารถเชื่อมออกไปยังซอยสุขุมวิท 62 และสามารถไปออกสรรพาวุธได้ด้วยค่ะ มีทางด่วนบางนา-อาจณรงค์อยู่ด้านหลังโครงการ อยู่ใกล้กับโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 2 และอยู่ไม่ไกลจากไบเทคบางนา, เซ็นทรัลบางนา
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
แผนที่นี้จาก พาไปดูทำเล ELIO สุขุมวิท 64 ที่ Mr.Oe เคยทำไว้นะคะ คลิกเข้าไปอ่านวิเคราะห์ทำเลกันได้เลย ส่วนวันนี้เราขอเริ่มเดินทางจาก BTS ปุณณวิถีไปโครงการนะคะ
จาก BTS สถานีปุณณวิถี
เราจะเข้าซอยสุขุมวิท 64 (ซอยพงษ์เวชอนุสรณ์) ซ้ายมือเป็นโรงเรียนนานาชาติ Anglo Singapore ขวามือเป็นอาคารพาณิชย์ค่ะ
ปากซอยสุขุมวิท 64 มีทางม้าลายให้เดินข้ามแต่ก็ต้องดูรถกันดีๆเพราะใกล้ทางเลี้ยวเข้าออกซอย ซอยนี้เป็นซอยที่สามารถไปโรงกลั่นน้ำมันบางจากได้ค่ะ ซึ่งอยู่ด้านหลังถัดไปจากตัวโครงการ ELIO
เข้าซอยมาจะเจอวินมอไซค์รอเรียกใช้บริการอยู่ ติดกับรั้วโรงเรียนนานาชาติ สภาพซอยนี้เป็นถนน 2 เลนมีทางเท้าไปจนถึงโครงการเลย
อัตราค่าบริการ จากปากซอยสุขุมวิท 64 ถึงโครงการ 10 บาทค่ะ
ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนฝั่งตรงข้ามโรงเรียนที่เห็นต้นสนอโศกเยอะๆ จะมีร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านโชห่วย ร้านยา บริเวณนี้จะมีความคึกคักพอสมควรพอจะฝากท้องได้บ้าง เพราะเป็นซอยหลักและเป็นต้นซอย
เดินเข้ามาจะเจอโรงเรียนพิพัฒนาอยู่ขวามือค่ะ
เราจะตรงไปนะ ส่วนขวามือติดกับรั้วโรงเรียน เป็นซอยสุขุวิท 64 แยก 4 ซอยนี้สามารถไปเชื่อออกซอยสุขุมวิท 62 และออกไปขึ้นทางด่วนได้ที่ซอยนี้ค่ะ ตอนนี้ความเจริญเริ่มเข้ามาในซอยสุขุมวิท 64 เรื่อยๆแล้วจะเห็นว่ามี 7-11 เข้าถึงแล้ว และคอนโด Low Rise ในซอยนี้ก็ผุดขึ้นกันหลายเจ้า
ถ่ายสภาพซอยสุขุมวิท 64 แยก 4 ให้ดูค่ะ เป็นถนน 2 เลนรถวิ่งสวนกันในซอยนี้มีคอนโด Whizdom ค่ะ ส่วนขวามือที่เห็นตึกสูงๆคือ The Room
กลับมาที่ซอยสุขุมวิท 64 ขวามือจะเห็นคอนโด Olive อยู่ติดกับรั้ว 7-11 เลย สะดวกสุดในซอยละ
เดินตรงมาซ้ายมือจะเป็นสำนักงาน Hafele Bangkok ถัดจาก Olive จะเห็น Sari จากค่ายพี่แสนค่ะ ติดกับ Olive เป็นซอยสุขุมวิท 64 แยก 6 สามารถไปออกซอยสุขุมวิท 62 ได้เหมือนกัน
สภาพซอยสุขุมวิท 64 แยก 6 ซอยนี้จะเป็นซอย One Way ค่ะ ภายในซอยนี้ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย 2-3 ชั้น
กลับมาที่ซอยสุขุมวิท 64 ซ้ายมือเป็นโครงการ The Link Vano ขวามือเป็น Mayfair Place
เลยมาจะโครงการ The Link ถัดไปคือ The Room
เลย The Room มาจะเจอทางแยกขวามือไปคลังน้ำมันบางจากค่ะ ข้ามสะพานไปจะเจอปั๊ม ป.ต.ท.ก่อน ส่วนซ้ายมือจะผ่านโครงการ Elio Condoซึ่งติดๆกันคือโครงการ Elio Del Ray ที่เรามาชมกันวันนี้ค่ะ และผ่านหน้าโครงการไปออกซอยสุขุมวิท 66 /1 ได้ ตรงกลางภาพติดกับสะพานจะเห็นวินมอไซค์อยู่ติดกับโครงการเลย
อัตราค่าบริการของพี่วินค่ะ ไปปากซอยสุขุมวิท 64 ราคา 10 บาท
ซ้ายมือถัดจากวินมอไซค์และโครงการ Elio Condo ก็จะเป็นทางเข้าโครงการ Elio Del Ray แล้วค่ะ วัดจากปากซอยสุขุมวิท 64 เข้ามาประมาณ 700 เมตร
ทางเข้าโครงการค่ะ ตอนนี้อยู่ระหว่างเก็บหน้างานเลยจะเห็นเจ้าหน้าที่โครงการเข้าออกเยอะหน่อย ทางเข้าออกโครงการเป็นไม้กระดกและ Acces Card แบบแตะค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- โรงเรียนพิพัฒนา ประมาณ 400 เมตร
- โรงเรียนนานาชาติ Anglo Singapore
- Piyarom Place ประมาณ 1.8 km
- Tesco Lotus อ่อนนุช ประมาณ 2.7 km (2 สถานีจากบีทีเอสปุณณวิถี)
- เซ็นทรัลบางนา ประมาณ 4.9 km
- Big C ประมาณ 4.9 km
- ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ประมาณ 6.1 km
- ตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์ ประมาณ 6.1 km
- พาราไดซ์ พาร์ค ศรีนครินทร์ ประมาณ 6.5 km
ที่ดินโครงการ Elio Del Ray เป็นที่ดินรูปตัว L คว่ำ ด้านทิศเหนือของโครงการติดกับโครงการ Elio Condo หรือ Elio ตัวแรกซึ่งก็เป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้นเหมือนกัน ยูนิตตึก A, H, G วิวนอกโครงการวิวจะชนตึก 8 ชั้นของ Elio Condo นั่นเอง ถัดมาทิศตะวันออกติดถนนซอย พงษ์เวชอนุสรณ์ ถัดไปก็เป็นเหมือนเพิงขายของชำและบ้านชั้นเดียวติดถนนเป็นแถว ซึ่งทำให้ยูนิตตึก A, B, C วิวนอกโครงการจะหันไปทางฝั่งถนนสุขุมวิท และมองไปได้ค่อนข้างไกลเพราะใกล้ๆยังไม่มีตึกสูงขึ้นมาบังค่ะคล้ายๆกับด้านทิศใต้ของอาคารที่วิวด้านนอกของตึก D, C ติดถนนพงษ์เวชอนุสรณ์ที่วิ่งขึ้นลงทางด่วนบางนา – อาจณรงค์ ซึ่งฝั่งตรงข้ามก็ยังไม่มีตึกสูงขึ้นมาบังวิวอาคารค่ะ จะเป็นที่ดินบุคคลอื่นที่ใช้เป็นที่จอดรถบ้าง สนามเตะตะกร้อบ้าง
ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ยูนิตฝั่งที่ติดโรงเรียนพูนสินอย่างตึก D, E, F นี่ช่วงกลางวันเวลา 7 โมงเช้าจนถึง 4 โมงเย็นจะเจอเสียงเจี๊ยวจ๊าวของเด็กๆบ้างแน่ๆค่ะ ไม่ว่าจะเป็นทั้งเสียงเข้าแถวเคารพธงชาติ เสียงโทรโข่งเรียกเด็กๆไปห้องปกครองอะไรแบบนี้หรือเสียงเด็กๆวิ่งไล่จับกัน เพราะงั้นใครทำงานฟรีแล้นซ์ไม่ค่อยออกไปไหนชอบตื่นเที่ยงหรือพวกทำงานช่วงค่ำหลับตอนกลางวันแนะนำเลี่ยงโซนนี้ค่ะ ส่วนทิศตะวันตกติดทางด่วนบางนา – อาจณรงค์ ก็อาจเจอเสียงรบกวนจากรถที่วิ่งบ้าง รวมทั้งทางด่วนที่เป็นสะพานยกระดับสูงประมาณตึก 2 – 3 ชั้น ก็บล๊อควิวชั้น 2- 3 ของตึก G, F วิวนอกโครงการไปเช่นกัน
มาดูผังโครงการกันต่อ ถนนรอบโครงการกว้าง 6 เมตร ที่จอดรถติดริมรั้วรอบโครงการและชั้นล่างตึกฝั่งติดถนนค่ะ ส่วนตึกทั้ง 8 ตึกก็วางตัวตามแนวกรอบที่ดิน ล้อมพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้ จากผังจะเห็นว่าแต่ละอาคารรูปร่างไม่เหมือนกันและโอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางคนละโซนกันดังนี้ค่ะ
- อาคาร A มียูนิตที่พักอาศัย 203 ยูนิตเริ่มที่ชั้น 2 -8 และเป็นตึกที่มียูนิตร้านค้าอยู่ 4 ยูนิต ตอนนี้มี True Coffee มาเปิดแล้วค่ะ Max Value ที่กำลังจะตามมา ส่วนอีก 2 ร้านค้ายังไม่มีข้อมูลสรุปนะว่าร้านไหน มีสำนักงานนิติบุคคลและห้องประชุม, ห้องซักรีด(ไม่รวมอุปกรณ์), ที่จอดรถใต้อาคาร วิวฝั่งในของตึก A จะมองไปเห็นสวนโซน The Island ค่ะ เป็นตึกที่สะดวกและมุมดีกว่าตึกอื่นๆ เพราะมีร้านค้าด้านล่างตึกเลย และอยู่ด้านหน้าใกล้ซุ้มโครงการ การเข้าออกก็เลยง่ายและใกล้ที่สุดด้วยค่ะ
- อาคาร B มียูนิตที่พักอาศัย 206 ยูนิต ชั้น 2 – 8 เป็นยูนิตที่พักอาศัยค่ะ แต่ชั้นล่างก็มียูนิตที่พักอาศัยอยู่ส่วนนึงค่ะนอกจากนั้นก็มีโถงต้อนรับ, ตู้จดหมายและที่จอดรถ ซึ่งปกติมีทุกตึกค่ะ ตึก B นี่ก็สะดวกเหมือนกันค่ะ ตรงที่ทางเข้าออกค่อนข้างใกล้กับ Max Value และซุ้มทางเข้าออกโครงการ วิวฝั่งด้านในตึก B จะเห็นสวนโซน The Cliff ค่ะ ส่วนวิวด้านนอกตึกฝั่งทิศเหนือหันไปเห็นสวนโซน The Island ด้วย
- อาคาร C มียูนิตที่พักอาศัย 126 ยูนิต ชั้น 2 – 8 เป็นยูนิตที่พักอาศัยค่ะ แต่ชั้นล่างก็มียูนิตที่พักอาศัยอยู่ส่วนนึงค่ะนอกจากนั้นก็มีโถงต้อนรับ, ตู้จดหมาย, ห้องซักรีด(ไม่รวมอุปกรณ์), ที่จอดรถ ซึ่งปกติมีทุกตึกค่ะ ตึก C นี่วิวฝั่งด้านในตึกจะติดลานจอดรถและเห็นสวนโซน The Cliff ค่ะ ถ้ามองในแง่ดีของตึก C ก็คือ มีจำนวนยูนิตน้อยกว่าอาคารอื่นๆแต่ลิฟต์ได้ 2 ตัวเหมือนกันความหนาแน่นเลยต่ำกว่ากันเยอะ อีกอย่างก็คือสะดวกเพราะใกล้ที่จอดรถ ใครจะแวะมาหา หรือขนของขึ้นลงก็ง่าย แต่ข้อเสียคือเพราะติดลานจอดรถ วิวเลยจะเขียวน้อยกว่าตึกอื่น รวมถึงถ้าเดินเข้าเดินออกจากซุ้มโครงการก็ค่อนข้างไกลด้วยค่ะ
- อาคาร D มียูนิตที่พักอาศัย 154 ยูนิต ชั้น 2 – 8 เป็นยูนิตที่พักอาศัยค่ะ เรื่องผังโดยรวมคล้ายๆกับอาคาร C นะ แต่จะมียูนิตมากกว่าหน่อยและหันไปทางที่จอดรถเหมือนกัน แต่ข้อเสียที่เพิ่มขึ้นมาอย่างที่กล่าวไว้แล้วในวิวด้านนอก ตึกนี้จะเจอเสียงรบกวนจากโรงเรียนพูนสินข้างๆค่ะ
- อาคาร E มียูนิตที่พักอาศัย 258 ยูนิต ผังโดยรวมคล้ายๆกับอาคาร B แต่ชั้นล่างก็มียูนิตที่พักอาศัยอยู่ส่วนนึงค่ะนอกจากนั้นก็มีโถงต้อนรับ, ตู้จดหมายและที่จอดรถ ซึ่งปกติมีทุกตึกค่ะ วิวฝั่งด้านในตึก E จะเห็นสวนโซน The Cliff ค่ะ ส่วนวิวด้านนอกตึกฝั่งทิศเหนือหันไปเห็นสวนโซน The Island ด้วย แต่โซนนี้ก็จะไกลจากซุ้มทางเข้าออกโครงการและติดกับโรงเรียนพูนสินซึ่งก็จะเจอเสียงรบกวนจากโรงเรียนเหมือนกันค่ะ
- อาคาร F มียูนิตที่พักอาศัย 289 ยูนิต ชั้นล่างก็มียูนิตที่พักอาศัยอยู่ส่วนนึงค่ะนอกจากนั้นก็มีโถงต้อนรับ, ตู้จดหมายและที่จอดรถ ซึ่งปกติมีทุกตึกค่ะ และซุ้มทางเข้าออกโครงการ วิวฝั่งด้านในตึก F จะเห็นสวนโซน The Beach ค่ะ แต่โซนนี้ก็จะไกลจากซุ้มทางเข้าออกโครงการและด้านนอกติดกับโรงเรียนพูนสินซึ่งก็จะเจอเสียงรบกวนจากโรงเรียนเหมือนกันค่ะ
- อาคาร G มียูนิตที่พักอาศัย 224 ยูนิต ชั้นล่างก็มียูนิตที่พักอาศัยอยู่ส่วนนึงค่ะนอกจากนั้นก็มีโถงต้อนรับ, ตู้จดหมายและที่จอดรถ ซึ่งปกติมีทุกตึกค่ะ และซุ้มทางเข้าออกโครงการ วิวฝั่งด้านในจะเห็นสวนโซน The Beach ค่ะ แต่โซนนี้ก็จะไกลจากซุ้มทางเข้าออกโครงการและด้านนอกฝั่งนึงติดกับทางด่วน อีกด้านนึงติดกับโครงการ Elio Condo
- อาคาร H มียูนิตที่พักอาศัย 170 ยูนิต เป็นอาคารที่คั่นระหว่างโซน The Beach และ The Island วิวเห็น 2 ฝั่งชอบฝั่งไหนก็เลือกฝั่งนั้นนะคะ แต่ถ้าเลือกฝั่งที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกจะเจอแดดตอนเช้าที่ไม่ร้อนมากเหมือนทางฝั่งตะวันตกที่ได้แดดบ่ายค่ะ ชั้น 2 มีสะพานเชื่อมข้ามสระว่ายน้ำ ชั้นล่างก็มียูนิตที่พักอาศัยอยู่ส่วนนึงค่ะนอกจากนั้นก็มีโถงต้อนรับ, ตู้จดหมาย, ห้องพักอาศัย, ห้องเก็บของ, ห้องซักรีด, ที่จอดรถ นอกจากนี้ที่เพิ่มมามี Common Room ใต้ตึกติดวิวสระว่ายน้ำที่ใช้เป็นส่วนรับแขกได้ดีมากค่ะ
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางแบ่งเป็นสวนน้ำ 3 โซนค่ะโดยตอนนี้โครงการอยู่ระหว่างเก็บหน้างานอยู่นะคะ จะเห็นเจ้าหน้าที่เข้าออกเยอะค่ะ ทั้งบรรดาวิศวกร แม่บ้าน คนสวน เจ้าหน้าที่ส่วนต่างๆ ซึ่งกำลังทำงานเก็บกวาดและตรวจเช็คหน้างานอยู่ เราก็อาจจะเก็บภาพมาไม่ได้ลงดีเทลเจาะมากเพราะบางส่วนยังไม่เสร็จเรียบร้อยดีนะคะ แต่เราเน้นเก็บให้เห็นภาพรวมพื้นที่ส่วนกลางและเจาะตึกเสร็จให้ค่ะ เดี๋ยวจะพาไปชมกันที่ละโซนให้ครบ 3 โซนนะคะ
เริ่มกันจากโซนในสุดหรือ The Beach จัดเป็นคอนเซ็ปชายหาด มีที่นั่งริมสระว่ายน้ำ ภาพนี้มองจาก Common Roomริมสระ ที่ตึก H ค่ะ
โซน The Beach จะมีสวนให้เดินเล่นรอบๆได้ตอนนี้เห็นลงต้นไม้แล้วค่ะ ถ้าต้นไม้โตเมื่อไหร่โซนนี้คงร่มรื่นดี
ภาพจำลองโซน The Beach ค่ะ มองจากตึก G ไปตึก H โดยตึก H นี่เป็นตึกที่เห็นวิวสวนน้ำทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งโซน The Beach และ The Island จริงๆแล้วเชื่อมต่อกันนะคะ เป็นสระว่ายน้ำเดียวกัน ความยาวถึง 85 เมตร จะว่ายน้ำหรือเดินลอดตึก H ไปมาระหว่าง 2 โซนนี้ได้ค่ะ สระเป็นสระน้ำล้น ระบบเกลือ ยาว 85 เมตรค่ะ ยาวแบบว่ายกันให้เหนื่อยไปเลย มีที่นั่งแขวนกลางสระมาให้ตามภาพเลย
ถัดมาเป็นโซน The Island เป็นคอนเซ็ปเกาะค่ะ ด้านบนเป็นภาพจำลองนะคะ โซนนี้ตั้งอยู่ตรงกลางค่ะใกล้ True coffee มีจุดชมวิวที่มองไปโซน The Beach กับ และ The Cliff ได้ มีที่นั่งเป็นหลุมตรงกลางสระตามคอนเซปเกาะ
ภาพจำลองจากที่นั่งกลางสระมองไปที่ True Coffee ค่ะ
ภาพถ่ายทางเดินเข้าไปที่นั่งหลุมกลางสระและ True Coffee ร้านกาแฟพร้อมอินเตอร์เนตจากโครงการค่ะ เข้าไปดูด้านในกันหน่อย
ด้านใน True Coffee ค่ะ เปิดให้บริการแล้ว ตอนนี้ลูกค้าหลักๆก็คือบรรดาเจ้าหน้าที่ในโครงการที่กำลังเก็บหน้างานและเตรียมงานกันอยู่กับกลุ่มลูกบ้าน ลูกค้า ที่แวะเวียนกันมาดูหน้างานค่ะ
ออกมาดูภาพโซน The Island กันต่อนะคะ ภาพนี้เรายืนหน้าร้านกาแฟ มองไปทางตึก H จะเห็นสระว่ายน้ำโซน The Island ที่ยาวต่อเนื่องลอดใต้ตึก H ไปโซน The Beach
มองไปฝั่งขวามือของสระโซน Island จะเห็นอาคารสีขาวที่เป็นจุดชมวิวอยู่ เราจะขึ้นไปถ่ายวิวมาให้ชมกันนะคะ
จากจุดชมวิวมองไปที่ตึก H ที่อยู่ระหว่างโซน The Island และ The Beach
จากจุดชมวิวนี้จะสามารถมองผ่านที่นั่งกลางน้ำของโซน Island เองออกไปเห็นโซน The Cliff ได้ด้วยค่ะ
ด้านบนเป็นภาพจำลองโซน The Cliff ค่ะ ก็คอนเซ็ปเป็นหน้าผาที่เป็นสระน้ำล้นลงมาสระน้ำชั้นล่าง โซนนี้เหมาะกับคนชอบออกกำลังกายค่ะ เพราะมีลานจ้อกกิ้งและห้องฟิตเนสอยู่ค่ะ
อันนี้ภาพถ่ายสระว่ายน้ำและที่นั่งริมสระโซน The Cliff มองออกมาจากในอาคาร Fitness ส่วนตึกที่เห็นในภาพคือตึก B ค่ะ
เข้าไปดูในฟิตเนสกันต่อเลย ตึกที่เห็นในภาพคือตึก B และ C ค่ะ
ภายในอาคารฟิตเนสมีเครื่องเล่นอยู่ประมาณสิบกว่าเครื่องค่ะ มีลู่วิ่ง, จักรยาน, บาร์ดัมเบล
เข้ามาด้านในสุดจะเป็นโซนเครื่องเพาะกายสร้างกล้ามเนื้อต่างๆค่ะ
ด้านหลังโซน The Cliff เป็นลานจอดรถค่ะ ตึกที่เห็นในภาพคือตึก C ค่ะ
ลานจอดรถอีกมุมค่ะ ตึกที่เห็นในภาพคือตึก D ค่ะ อย่างที่บอกไปว่าตอนนี้อยู่ในระหว่างเก็บหน้างานค่ะ รถที่จอดอยู่กะคนที่บังเอิญอยู่ในภาพจะเป็นทีมวิศวกรกับเจ้าหน้าที่โครงการฝ่ายต่างๆค่ะ
เรากลับมาที่ตึก H กันอีกครั้งนะคะ ตึกนี้เป็นตึกที่เป็นสำนักงานขายที่มีห้องตัวอย่างทั้ง 3 ห้องของโครงการอยู่ค่ะ เดี๋ยวจะพาเข้าไปดูภายในตึกกันต่อนะคะ
ตึก H มียูนิตที่พักอาศัย 170 ยูนิต ต่างจากตึกอื่นๆเพราะที่ชั้น1และ2 แบ่งเป็น 2 ส่วนค่ะขณะที่ตึกอื่นๆรวมกันเป็นอาคารเดียว โดยชั้นล่างจะมียูนิตที่พักอาศัยอยู่ส่วนนึงนอกจากนั้นจะมีโถงต้อนรับ, ตู้จดหมาย, ห้องพักอาศัย, ห้องเก็บของ, ห้องซักรีด, ที่จอดรถ นอกจากนี้ที่เพิ่มมามี Common Room ใต้ตึกติดวิวสระว่ายน้ำที่ใช้เป็นส่วนรับแขกได้อีกด้วยค่ะ ชั้น 2 จะมีสะพานเชื่อมข้ามสระว่ายน้ำโซน The Island และ The Beach ค่ะ ส่วนชั้น 3 – 8 เป็นอาคารที่พักอาศัยค่ะ
ทางเข้าทุกตึกโซนที่พักอาศัยเป็นระบบ Access Card พอเข้ามาจะเจอเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์อยู่ซ้ายมือและเก้าอี้นั่งรอฝั่งขวามือค่ะ
ตรงเข้าไปด้านในทางฝั่งขวาจะเจอโถงลิฟต์ จะมีลิฟต์อาคารละสองตัวค่ะ
มุมตรงข้ามกับทางเข้าลิฟต์เป็นโซนตู้จดหมาย แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ติดตู้จดหมายค่ะ
โถงทางเดินที่ชั้น 2 นอกจากทางเดินปูกระเบื้องเซรามิกแล้ว ถ้าเราเดินตรงไปที่ประตูเห็นทางเชื่อมระหว่าง 2 ตึกค่ะ
ออกมาจะเป็นราวกันตกทาสีดำมีประตูทางเข้าไปห้องพักอีกฝั่งนึงค่ะ เข้าออกเป็นระบบ Access Card เช่นกัน เนื่องจากตึก H มีส่วน Common Room ริมสระชั้นล่างที่คนจากอาคารอื่นๆในโครงการอาจมาใช้หลบฝนหรือนั่งเล่นได้
บันไดเวียนลงไป Common Room ติดสระชั้นล่าง มุมนี้อยู่ฝั่งวิว The Island
ถ่าย Common Room ให้ดูอีกมุม มุมนี้อยู่ฝั่งวิว The Beach
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- พื้นที่ส่วนกลางขนาด 4 ไร่
- สระว่ายน้ำ 2 สระ ระบบเกลือ ลึก 1.2 เมตร ความยาว 85 เมตรและ 30 เมตร
- สระน้ำล้น
- MaxValue
- True Coffee
- Common Room
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้องใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 13 เครื่อง
- สวนหย่อมรอบโครงการ
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัวต่อ/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 102 : 1
- อัตราส่วนลิฟท์ตึก A 102:1, B 103:1, C 63:1, D 77:1, E 129:1, F 145:1, G 112:1, H 170:1
- ระบบรักษาความปลอดภัย CCTV
- ระบบผ่านเข้า-ออกโครงการ key card access
- ที่จอดรถประมาณ 544 คันไม่รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็นประมาณ 30% ของทั้งโครงการ
ผังห้อง Studio ขนาด 24 ตารางเมตรค่ะ เป็นห้องหน้าแคบแต่ลึก เปิดเข้ามาในห้องจะเจอห้องน้ำอยู่ฝั่งซ้ายมือ ครัวอยู่ฝั่งขวามือ ถัดไปเป็นส่วนห้องนั่งจัดไว้ข้างเตียงค่ะ ประมาณว่าถ้าไม่นั่งบนโซฟานอนดูทีวีบนเตียงก็พอได้อยู่ ถัดจากเตียงเป็นหน้าประตูบานเลื่อนแบบ 2 บานเปิดออกไประเบียง ประตูบานเลื่อนนี้ทำหน้าที่เป็นช่องแสงหรือ หน้าต่าง ที่นำแสงธรรมชาติเข้าห้องไปในตัวค่ะ ระเบียงลึก 60 เซนติเมตร กว้างประมาณ 3 เมตร ตามหน้ากว้างห้อง เฟอร์นิเจอร์ให้เป็นแบบ Fully Furnished ได้เตียงโต๊ะตู้และครัวตามแปลนไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าค่ะ พร้อมแอร์ 1 ตัว ไปดูภาพจริงกันต่อเลย
ประตูทางเข้าห้องค่ะ ของจริงได้หน้าตาตามนี้เป็นบานไม้อัดผิวลามิเนตสีครีม มีตาแมว แปะเลขห้องด้านข้างประตู
มือจับประตูเป็นแบบเขาควาย มีรูเสียบกุญแจอยู่ด้านล่าง
ระยะพื้นถึงเพดาน 2.4 เมตร ผนังห้องของจริงจะได้เป็นผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาวนะคะ พื้นเป็นลามิเนตไม้สีอ่อน แอร์หนึ่งตัว ครัว และ เฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished ของที่ไม่ให้คือพวกวัสดุตกแต่ง ม่าน และเครื่องใช้ไฟฟ้า ติดแอร์มาให้ 1 เครื่องต่อห้อง ไฟเป็นแบบโคมซาลาเปา เข้ามาปุ๊บจะเจอครัวฝั่งขวามือ ห้องน้ำอยู่ฝั่งซ้ายมือค่ะ โดยห้องน้ำจะบังส่วนโซฟาดูทีวีไว้ พอได้ Privacy ไม่เหมือนห้อง Studio ที่เปิดประตูมาก็มองเห็นทั้งห้อง
ครัวเป็นของ SB ค่ะ วางตู้เย็นมาให้ดูระยะใช้งาน ของจริงตู้เย็นไม่ได้ให้มานะคะ ชุดครัวขนาดกระทัดรัดประหยัดพื้นที่ มีส่วนวางเครื่องซักผ้าด้านใต้ จากภาพจะเห็นว่าตำแหน่งที่วางไมโครเวฟค่อนข้างสูง ใครตัวเล็ๆจะหยิบของ ยกถ้วยมาม่าร้อนๆขึ้นลงก็ต้องระวังหน่อยนะคะ
Top ชุดครัวเป็นลามิเนตสีขาว ชุดครัวไม่มีลิ้นชักเก็บช้อนส้อมให้นะ อ่างล้างจานเป็นสแตนเลสแบบ 1 หลุม เปิดตู้ใต้อ่างล้างจานให้ดูระยะการใช้งานค่ะ ใช้เป็นที่วางซีอิ้วหรือถุงข้าวสารได้ แต่ต้องซีลดีๆนะคะ แพ็คอาหารให้หนาแน่นระดับนึง เพราะตู้ใต้อ่างล้างจานมีท่อน้ำทิ้งเปลือยอยู่ เผื่อไว้ในกรณีข้อต่อท่อน้ำทิ้งรั่วหรืออะไรขึ้นมาค่ะ
พื้นที่เตรียมอาหารถ้าวางเตาไฟฟ้าเพิ่มไปคงต้องหากระดานมาปิดส่วนอ่างล้างจานเพื่อเพิ่มพื้นที่เวลาเตรียมอาหารค่ะ ที่ผนังชุดครัวมีติด Back Splash กันผนังเปื้อน และชั้นบนผนังมาให้ค่ะ ใช้วางไมโครเวฟ จานชาม เครื่องปรุงเล็กๆน้อยได้
ฝั่งตรงข้ามครัวเป็นห้องน้ำค่ะ เข้าไปดูกันดีกว่า
ธรณีประตูห้องน้ำเป็นหินสังเคราะห์กั้นสูงขึ้นมาประมาณ 5 เซนติเมตรค่ะ ข้อดีคือไม่บวมขึ้นมาจนทำให้ปิดเปิดประตูห้องน้ำยากเมื่อใช้ไปโดนน้ำไปนานๆเหมือนธรณีประตูที่ปิดผิวลามิเนตค่ะ แต่ข้อเสียเดินเข้าออกไม่ระวังมีสะดุดค่ะ พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิกปั๊มลายเหมือนพื้นกระเบื้องโมเสกสีเทา ยาแนวสีเทาเข้ม
เข้ามาโถสุขภัณฑ์อยู่ฝั่งซ้ายมือค่ะ เป็นของ Cotto สังเกตด้านข้างโถมีท่อระบายน้ำส่วนแห้งอยู่ และส่วนเปียกจะอยู่โซนที่อาบน้ำค่ะ
เหนือโถสุขภัณฑ์จะมีราวแขวนผ้าเช็ดตัวอยู่ ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องจนสุดเพดาน ที่เพดานติดพัดลมดูดอากาศมาให้ ไฟในห้องน้ำเป็นไฟดาวน์ไลท์ค่ะ ราวแขวนม่านกั้นส่วนเปียกนี่ของจริงไม่มีให้นะคะ ต้องหาเองค่ะ
ส่วนเปียกก่อขอบกั้นขึ้นมา
หน้าตาฝักบัวค่ะ
ฝักบัวเป็นของ Prema ค่ะ
ผนังตรงข้ามฝักบัวเป็นผนังเจาะช่องให้วางแชมพูสบู่อาบน้ำ
อ่างล้างมือเป็นทรงสี่เหลี่ยมสีขาวของ Cotto ค่ะ มีที่วางของข้างอ่างพอสมควร กระจกเงาที่ได้เป็นกระจกเงาขอบมน
ออกมาดูส่วนห้องนั่งเล่นกันต่อ เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดที่ได้เป็นของ SB ค่ะ โซฟาชุดที่โครงการให้มาเป็นโซฟา 2 ที่นั่งสีครีมมีพนักพิงและที่วางแขน จะเห็นว่า มีระยะห่างจากเตียงอยู่ประมาณ 15 เซนติเมตรค่ะ พอทำชั้นหนังสือเพิ่มพื้นที่เก็บของได้อย่างที่เห็นในห้องตัวอย่างค่ะ ของจริงไม่มีชั้นให้นะคะ ต้องทำเองค่ะ
โต๊ะกาแฟ พับได้ มีที่เก็บของข้างล่าง
ชั้นวางทีวีเป็นโต๊ะกินข้าวไปในตัว พับเก็บได้ เก้าอี้นั่งกินข้าวก็เป็นแบบพับได้เหมือนกัน
พับโต๊ะกินข้าวให้ดูค่ะประมาณนี้
มองกลับไปที่ประตู จะเอาฉากมากั้นเพิ่มความเป็นสัดส่วนระหว่างครัวกับโซนห้องนอนห้องนั่งเล่น หรือจะเอากระจกมากั้นเป็นห้อง 1 Bed ก็พอทำได้ค่ะ ระยะดูทีวีประมาณ 2.5 เมตร
เตียงนอนวางชิดระเบียง เป็นเตียง 5 ฟุต เตียงได้ตามที่เห็นค่ะ แต่ไม่รวมฟูกหมอนผ้าปูที่นอนนะ ปลายเตียงวางตู้เสื้อผ้ามาให้ ได้ตามที่เห็นเหมือนกัน
ตู้เสื้อผ้าทำเป็นบานเปิดค่ะ แต่ซอยตัวบานเปิดให้ไม่ใหญ่มากเกินไปจนขวางทางเดินไปมา นับได้ 2 ตู้ 5 บานค่ะ คือตู้ใบริมขวาสุดพอใช้เก็บผ้าพับ กระเป๋าอะไรได้ แต่ไม่มีที่แขวนเสื้อผ้า, ตู้ใบติดระเบียงจะมีที่แขวนเสื้อผ้าค่ะ
ระเบียงวางบนขอบธรณีก่อ ประตูกระจกบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมหน้าตาธรรมดา
ระเบียงยาวตลอดตัวห้อง แต่ลึกแค่ 60 ซมค่ะ
คอมแอร์แขวนเป่าลมออกด้านนอก ไฟติดเพดานระเบียงเป็นโคมซาลาเปาค่ะ
ผังห้อง Studio ขนาด 26 ตารางเมตรค่ะ เป็นห้องหน้ากว้าง การจัดพื้นที่ใช้สอยจึงดูสบายๆและกว้างกว่าแบบแรก ทั้งที่มีพื้นที่ต่างกันเพียง 2 ตารางเมตรค่ะ เปิดเข้ามาจะเจอโซนห้องนั่งเล่นก่อน ครัวแยกออกไปเป็นสัดส่วนเปิดออกไประเบียงได้ กั้นห้องทำครัวปิดก็ไม่ยาก เฟอร์นิเจอร์ให้เป็นแบบ Fully Furnished ได้เตียงโต๊ะตู้และครัวตามแปลนไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าค่ะ พร้อมแอร์ 1 ตัว ไปดูภาพจริงกันต่อเลย
เปิดห้องมาก็จะเจอโซนนั่งเล่นและมองเห็นเตียงนอนแบบนี้ค่ะ เดี๋ยวจะพาไล่ดูกันไปทีละอย่างนะคะ
มองกลับไปที่ประตูค่ะ ระยะดูทีวีประมาณ 2 เมตร
เฟอร์นิเจอร์ SB โซฟาและโต๊ะกาแฟได้แบบเดียวกันกับห้อง Type A เลยค่ะ
ชั้นวางทีวีจะเล็กกว่าห้องแรกที่พาไปชมกันนะคะ เพราะห้องนี้จะมีโต๊ะอาหารแยกให้ ผนังเหนือชั้นวางทีวีติดชั้นลอยมาให้วางของเพิ่มค่ะ
โต๊ะอาหารที่ได้ค่ะ จัดไว้ข้างเตียง โทนสีขาวครีมเข้ากับเก้าอี้แบบพับที่ได้
เตียงนอน 5 ฟุตจัดอยู่ข้างหน้าต่าง วางตู้เสื้อผ้าปลายเตียง
เปิดตู้เสื้อผ้าให้ดูนะคะ บานใหญ่กว่าห้องแรกที่พาไปดูนะคะ เวลาเปิดตู้นี่จะเดินผ่านไปมาไม่ได้ค่ะ ข้างตู้เสื้อโต๊ะเครื่องแป้งแบบมีลิ้นชักอยู่ค่ะ
หัวเตียงนี่แต่งอินทีเรียเพิ่มเป็นที่วางของน่ารักดี แต่ของจริงไม่ได้นะคะ เป็นผนังเรียบทาสีขาวค่ะ
เข้าไปดูห้องครัวกันต่อค่ะ ตรงนี้จะติดประตูเพิ่มทำเป็นครัวปิดก็ทำได้ไม่ยากนะคะ เจาะผนังเป็นช่องมาให้อยู่แล้ว ประตูที่เห็นนั้นเป็นทางเข้าห้องน้ำค่ะ
ห้องนำ้ของห้องนี้ใช้วัสดุเหมือนกันทุกอย่างค่ะ แต่จัดวางไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง ห้องนี้อ่างล้างมือจะอยู่ตรงข้ามประตูทางเข้า โถสุขภัณฑ์อยู่ฝั่งซ้ายกับโซนอาบน้ำอยู่ฝั่งขวา
ออกจากห้องน้ำมองผ่านครัวไปที่ระเบียง ประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงเป็นแบบ 3 ตอน
วัสดุเหมือนกันกับห้องแรกค่ะ แต่ห้องนี้ระเบียงจะขนาดเล็กกว่า แต่ก็พอวางที่ตากผ้าเล็กๆได้
แอร์คอมเพรสเซอร์เป่าลมร้อนเข้าหาระเบียงเองค่ะ
ชุดครัวได้แบบเดียวกันกับห้องแรกค่ะ แต่ได้ตู้วางของเพิ่มใกล้ๆประตูห้องน้ำมา ใช้เก็บของกินได้เยอะขึ้น
ห้องสุดท้ายที่พาไปดูกันคือห้อง ขนาด 34 ตารางเมตร เป็นห้องแบบ 1 Bed ค่ะ ห้องนี้แบ่งโซน Public, Private ชัดเจนนะคะ คือโซนที่ Public หน่อยอย่างห้องครัวห้องนั่งเล่นก็จัดไว้แบบเปิดประตูมาเห็นเลย แต่โซนที่ Private หน่อยอย่างห้องนอนห้องน้ำก็จัดไว้เป็นสัดส่วนอีกห้องค่ะ
เปิดประตูเปิดออกมาจะเจอส่วนครัวและ Living Area เฟอร์นิเจอร์และวัสดุที่ได้เหมือนๆกับห้อง Type B เลยค่ะ แต่ขนาดห้องกับการจัดผังพื้นที่ใช้งานต่างกันค่ะ
ออกไปดูระเบียง ขนาดพอวางที่ตากผ้าอันเล็กๆได้ค่ะ จะจัดสวนเล็กๆกับเก้าอี้ซักตัวก็พอได้
ห้องนี้ให้แอร์ 2 ตัวค่ะ ติดคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ที่เดียวกันที่นี่ค่ะ
มองออกไปที่ประตูทางเข้า
ตรงข้าม Pantry เป็นตู้เย็นและตู้อเนกประสงค์ ใช้วางรองเท้าหรือร่มได้ แต่ตู้ดูไม่เหมาะกับวางรองเท้าเท่าไหร่ค่ะ ดูจากช่องเจาะนะ ดูเหมือนตู้เสื้อผ้ามากกว่าถ้ามีราวแขวนเพิ่ม หรือที่วางถุงกอล์ฟประมาณนี้
เข้าไปดูห้องนอนกันต่อค่ะ มีเตียง Day Bed เพิ่มมาให้ด้วย ตั้งไว้ติดริมหน้าต่างถัดจากเตียง 5 ฟุตค่ะ เตียงโชว์ให้เห็นว่าฐานเตียงมีลิ้นชักเก็บของให้ด้วย
ข้างเตียงวางโต๊ะเครื่องแป้งมาให้
ปลายเตียงวางชั้นวางทีวีแล้วแทบจะไม่เหลือที่เดินเลยค่ะ แนะนำให้ใช้ทีวีติดผนังแบบห้องตัวอย่างนะ
ระยะห่างระหว่างเตียงกับ Daybed ค่ะ ใต้ Daybed วางของเพิ่มได้ ด้านบนก็เป็นเบาะให้นั่งเล่น หรือจะเอาเบาะออกไปนั่งเล่นบนพื้นที่ห้องนั่งเล่นก็ได้ค่ะ ฐานก็ใช้เป็นที่วางของสะสมแทน
มองออกไปอีกฝั่งของห้องจะเห็นตู้เสื้อผ้าได้ตามที่เห็นนะคะ และประตูทางเข้าห้องน้ำอยู่
ห้องน้ำวัสดุและสุขภัณฑ์เหมือนกันกับห้องอื่นๆทุกอย่างค่ะ แต่เข้ามาจะเจออ่างล้างมือก่อน ถัดด้วยโถสุขภัณฑ์และโซนอาบน้ำค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 21 October 2014
- Studio 24 ตารางเมตร อาคาร B ชั้น 3 ห้อง 20 ราคา 1.86 ล้านบาท หรือ 77,500 บาทต่อตารางเมตร
- Studio 24 ตารางเมตร อาคาร H ชั้น 2 ห้อง 08 ราคา 2.07 ล้านบาท หรือ 86,250 บาทต่อตารางเมตร
- Studio 26 ตารางเมตร อาคาร C ชั้น 2 ห้อง 06 ราคา 2.11 ล้านบาท หรือ 81,153 บาทต่อตารางเมตร
- 1 Bedroom 34 ตารางเมตร อาคาร A ชั้น 1 ห้อง 15 ราคา 2.67 ล้านบาท หรือ 78,529 บาทต่อตารางเมตร
** ระยะเวลาโปรโมชั่นและรายละเอียดเพิ่มเติมสอบถามทางโครงการนะคะ
- Fully Furnished
- ฝ้าเพดานสูง 2. 4 เมตร
- Kitchen & Sink
- จอง 10,000 บาท
- ทำสัญญา 20,000 บาท
- ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 45 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
Elio Del Ray เป็นโครงการตลาด Mass ตัวที่สองของ Ananda ที่ทำออกมาจับตลาดในรูปแบบนี้ คือมีระยะห่างออกมาจากแนวรถไฟฟ้าพอสมควร ซึ่งโดยปกติ Ananda ชอบทำโครงการติดรถไฟฟ้าซะมากกว่า ทำเลโครงการอยู่ปลายซอยในสุดของซอย 64 ที่ไปทะลุออก 66/1 ได้ ทำเลนี้เลือกขึ้นรถไฟฟ้าได้ทั้ง BTS ปุณณวิถี และ อุดมสุข ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการในระยะเดินเท้า ต้องหวังพึ่งพาปั๊ม ปตท ที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งมีของให้ซื้อใช้และร้านอาหาร บริการตลอดเวลา และตอนนี้มี 7-11 เข้าถึงในซอยแล้วนะคะอยู่ตรงหน้าปากซอยสุขุมวิท 64 แยก 4 ห่างจากโครงการประมาณ 400 เมตร แต่ยังไงคือในโครงการมี MaxValue ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องอาหารการกินได้เยอะค่ะ แต่ถ้าจะเดินห้างก็ต้องขับรถหรือนั่งวินออกมาต่อรถไฟฟ้าสถานเดียว
ทำเลโครงการจัดว่าเดินทางค่อนข้างสะดวกสำหรับคนใช้รถ และทำงานย่านนี้ เพราะมีทางซอกแซกให้หลบเลี่ยงเวลารถติดและสามารถวิ่งขึ้นทางด่วนได้หลายทาง ไปไหนมาไหนค่อนข้างสะดวก แต่ติดอยู่ตรงที่โครงการมีที่จอดมาให้แค่ประมาณ 30% ในช่องจอด ด้วยปริมาณจำนวนยูนิตที่เยอะถึง 1,630 ยูนิตนี่น่าจะทำให้เกิดปัญหาต่อมาในอนาคตได้สำหรับคนที่ตัดสินใจจะใช้รถส่วนตัวนะคะ เพราะที่จอดรถไม่ Fix ห้อง และปริมาณรถที่ไม่มีที่จอดเป็นไปได้ว่าจะเยอะตามจำนวนยูนิตไปด้วย เพราะงั้นก็อาจมีทะเลาะกันแย่งที่จอดได้
การเดินทางโดยไม่ใช้รถส่วนตัว ค่อนข้างพอใช้ได้ตรงที่อยู่ไม่ไกลมากจากรถไฟฟ้าคนที่ขยันๆหน่อย ก็เดินได้อยู่พอเหงื่อซึมๆ โครงการมี Shuttle Service บริการสำหรับคนที่เข้าออกเป็นเวลาก็สบายหน่อย ปัญหาจะอยู่ตรงที่โครงการอยู่ในซอยที่ค่อนข้างลึก และ Shuttle Service ไม่ได้มี 24 ชั่วโมง ทำให้การเรียกรถ หารถ ในช่วงดึกๆและเช้ามืด จะทำได้ยากกว่าโครงการติดถนนใหญ่แน่ๆ และถ้าพี่วินไม่มี การเดินเข้าโครงการ จากสถานีปุณวิถี ระยะทาง 700 เมตร (ปากซอยสุขุมวิท 64) เป็นทางเลือกที่ดีและปลอดภัยกว่ามาจากสถานีอุดมสุขที่ระยะทาง 800 เมตรมากๆ (ปากซอยสุขุมวิท 66/1) เพราะทางฝั่ง ซอย 64 ค่อนข้างปลอดภัยและไม่มีจุดเปลี่ยว แต่จาก 66/1 จะมีจุดเปลี่ยว และชุมชนแออัด ที่อยู่ดั้งเดิม และยังไม่สามารถเคลียร์ได้หลายจุดค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ ในปัจจุบัน ถ้ายังไม่มีการเคลียร์อะไร จะพบว่ามีชุมชนชาวบ้าน ปลูกที่พักอาศัยอยู่หน้าโครงการเต็มไปหมด ซึ่งต่อไปเชื่อว่าอนันดาคงจะเคลียร์ได้ แต่ฝั่งตรงข้ามโครงการ ยังมีพื้นที่ว่างซึ่งมีชุมชนชาวบ้านบุกรุกอาศัยอยู่บ้างแล้วเป็นเพิงและบ้านชั้นเดียว และถึงแม้ว่า โครงการจะมีสิทธิ์ เคลียร์พื้นที่หน้าโครงการได้ แต่ฝั่งตรงข้าม ไม่แน่ใจว่า จะคงสภาพเดิม หรือชุมชนฝั่งโครงการย้ายไปบุกรุกฝั่งตรงข้ามแทน ซึ่งเราเองไม่สามารถประเมินได้ แนะนำว่าผู้ซื้อต้องไปดูด้วยตัวเองค่ะและลองดูว่า ทำเลแบบนี้มันเหมาะกับเราไหม
อีกประเด็นคือ ด้านหลังโครงการ จะติดกับทางด่วน แถมเป็นเส้นทางหลักที่มีรถใหญ่วิ่งอีกต่างหาก ทางด่วน ดินแดง-บางนา ช่วงจะถึงแยกบางนา นี้ ไปได้ทั้งชลบุรีและสมุทรปราการ ดังนั้น ต้องพิจารณา เรื่องมลภาวะทางเสียง ฝุ่นละออง และแสงไฟด้วย เพราะรถใหญ่เขาวิ่งตอนกลางคืน และทางด่วนช่วงนี้ เช้าก็ติด เย็นก็ติด ฝุ่นควันสะสม เยอะอยู่ค่ะ
การออกแบบโครงการ ทำมาแบบเน้นพื้นที่ขาย เป็นโครงการใหญ่ และมีเพื่อนบ้านหนาแน่นแน่นอน ชั้นนึงมีเพื่อนบ้านถึงสามสิบกว่าห้อง ใครอยู่ใกล้ลิฟท์ หรือห้องขยะ มีหวังได้ยินเสียงเดินตลอด พื้นที่ส่วนกลางใส่ใจรายละเอียดและทำออกมาใหญ่ตามจำนวนยูนิตโครงการที่เยอะ ตัวรูปแบบอาคารและการวางผังเรียบง่ายหลักๆคือวางตามแนวกรอบที่ดิน จุดเด่นของโครงการเรื่องการออกแบบอยู่ที่ตัวห้องซึ่งออกแบบมาค่อนข้างใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าดี การใช้งานพื้นที่เหมาะสมกับคนอยู่พักพิงในวันทำงานในเมือง ห้องแนวนี้เป็นจุดแข็งที่ต่อเนื่องมาจาก Mobi ที่ Ananda ทำมาจนชำนาญเรื่องห้องเล็กอยู่แล้ว น่าเสียดายตรงฟังค์ชั่นที่เป็นตราสัญลักษณ์ของ Ananda ตัวระเบียงมีหน้าต่างสองชั้น ไม่ถูกนำมาใช้ที่นี่ด้วย
วัสดุอุปกรณ์ของที่ให้มาเมื่อเทียบกับราคา 7-8 หมื่นบาทต่อตารางเมตร ก็ถือว่าคุ้มในแง่จัดมาให้ครบและเยอะดี แต่ตัว Spec ของที่ได้ ก็ตามมาตรฐานทั่วไป ไม่มีอะไรเด่นหรือด้อย ออกแนวค่อนข้างคล้ายๆแต่พัฒนามาดีกว่า Elio Condo ตัวแรก ส่วน Facilityหรือพื้นที่ส่วนกลาง ให้มาเยอะ มีหลายอย่างและจัดมาอย่างน่าสนใจ สวนน้ำทั้ง 3 โซนทำตามคอนเซ็ปได้ดีและมีมุมมองที่ต่อเนื่องถึงกัน แต่เรื่องความหนาแน่นก็ถือว่ากลางๆค่ะ เมื่อเทียบกับจำนวนคนใช้ที่มี 1600 กว่า Unit เข้าไปแล้ว ที่จอดรถค่อนข้างน้อย มีโอกาสเป็นปัญหาสำหรับคนใช้รถ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 80,000 บาทต่อตารางเมตร, 21 October 2014
- ทำเล 7.5/10 – ทำเลใช้ได้เลยเมื่อเทียบกับราคา แต่สภาพแวดล้อมยังไม่ดี
- เดินทางด้วยรถ 8.0/10 – จริงๆแล้ว เดินทางด้วยรถดีมากและสะดวกสำหรับราคานี้ แต่คนใช้รถจะลำบากตรงที่จอดที่ให้มาค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตโดยรวม
- ไม่ใช้รถ 7.5/10 – อยู่ในซอยลึกแต่พอมีวินมอเตอร์ไซค์ให้เรียกใช้บริการ และถ้าจำเป็น ก็พอจะเดินออกมารถไฟฟ้าได้ แบบเหนื่อยหน่อย
- วัสดุ 8.5/10 – Full Fur จัดเต็ม ให้มาครบ แต่ Spec ธรรมดา
- แบบ 7.5/10 – พัฒนามาจาก Elio Condo ตัวเก่า มีห้องขนาด 26 ตารางเมตรมาให้เลือกเพิ่ม และจัดผังห้องได้ค่อนข้างดี ลงตัวอยู่สบาย
- สาธารณูปโภค 7.75/10 – มีให้เยอะเป็นสวนน้ำ 3 โซน ทำตาม Concept รีสอร์ทได้ดีดูน่าใช้งาน, มี MaxValueและTrue Coffee ให้บริการช่วยให้สะดวกขึ้นเยอะ
- MAIN CLASS
- 7.83 / 10.00
BOTTOM LINE
Elio Del Ray เป็นโครงการที่เหมาะกับคนหาบ้านย่านสุขุมวิทตอนปลาย ที่เบื่อการใช้รถ มองหาโครงการที่ราคาพอหยิบจับง่าย ใช้รถไฟฟ้าพอได้ อยู่ไกลหน่อยไม่เป็นไร เข้าบ้านและไปทำงานเป็นเวลาปกติ ไม่ค่อยได้ออกไปไหน มีงบประมาณระดับ 1.59 – 2.67 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนระดับ 10,000 – 15,000 บาท