รีวิวโครงการ

รีวิวตึกเสร็จ Atmoz Tropicana Bangna คอนโด Low Rise ได้บรรยากาศรีสอร์ท ใกล้ Central บางนา ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท* [รีวิวฉบับที่ 2547]

23 พฤษภาคม 2023

อ่านรีวิวล่าสุด

วันนี้มีข้อมูลคอนโดเปิดใหม่ในแบรนด์ “ATMOZ” (แอทโมซ) มาฝากกับคอนโด ATMOZ บางนา ซึ่งแบรนด์นี้เค้าขึ้นชื่อในเรื่องบรรยากาศในโครงการที่ร่มรื่นผ่อนคลาย เป็นคอนโดสไตล์รีสอร์ท ในราคาจับต้องง่ายเริ่มต้นที่ 1.59 ล้านบาท ส่วนตัวเรามองว่าจุดเด่นของโครงการมี 3 ประเด็น ดังนี้

  • ทำเล : ติดถนนใหญ่บางนา-ตราด กม.4 จึงมีความสะดวกในการเดินทางมากกว่าคอนโดส่วนใหญ่ในทำเลนี้ที่มักจะขยับเข้าไปอยู่ในซอยกันนะคะ และยังอยู่ในช่วงที่เลี้ยวเข้าถนนศรีนครินทร์ได้ทัน จึงเดินทางได้สะดวกทั้งทางถนนบางนา-ตราด และถนนศรีนครินทร์เลยค่ะ แถมยังใกล้เซ็นทรัลบางนา ตรงข้าม Index Living Mall ใกล้แหล่งออฟฟิศของโซนบางนา
  • พื้นที่ส่วนกลาง : จัดมาให้เยอะที่สุดในย่านบางนา ทั้ง Outdoor Facility ที่มีสระว่ายน้ำ 2 สระและสวนเชื่อมยาวต่อกันตั้งแต่อาคารแรกถึงอาคารด้านในสุด ส่วน Indoor Facility ก็กระจายไว้ทุกอาคารเลยค่ะ
  • Fully Furnished : ให้เฟอร์นิเจอร์มาครบ ทั้ง Built-in และ ลอยตัว เรียกได้ว่าพร้อมอยู่ ไปจนถึงติดตั้งเครื่องกรองน้ำมาให้ด้วยนะคะ

ข้อมูลโครงการ

Atmoz Bangna (แอทโมซ บางนา) ณ วันที่ 10 สิงหาคม 2564

 ชื่อโครงการ  Atmoz Bangna (แอทโมซ บางนา)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS  MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ถนนบางนา-ตราด กม. 4 เขตบางนา
 ที่ดิน  ประมาณ 10 ไร่
 ประเภทคอนโด  Low Rise 8 ชั้น 5 อาคาร
 จำนวนยูนิต  ห้องพักอาศัย 1,101 ยูนิต ร้านค้า 2 ยูนิต
อาคาร A : 206 ยูนิต
อาคาร B : 215 ยูนิต
อาคาร C : 229 ยูนิต
อาคาร D : 226 ยูนิต
อาคาร E : 225 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด  อาคาร A – 32 ยูนิต, อาคาร C และ E -34 ยูนิต
 ที่จอดรถ  ประมาณ 337 คัน คิดเป็น 33% รวมจอดซ้อนประมาณ 36%
ที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ประมาณ 34 คัน
 เริ่มก่อสร้าง  n/a
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  n/a
 ประเภทห้องพัก
  • 1 Bedroom  ขนาดประมาณ 23.08 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Exclusive ขนาดประมาณ 26.27 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Extra ขนาดประมาณ 28.55 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาดประมาณ 33.02 ตร.ม.

 ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
 ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ ประมาณ 80,000 บาท/ตร.ม.
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด) n/a – n/a
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) อยู่ระหว่างการประเมิน
 เว็บไซต์โครงการ https://bit.ly/3rIhfs1
 Call Center 02-168-0000

*หมายเหตุ ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นจากโครงการอย่างไม่เป็นทางการ หากมีการปรับเปลี่ยนจะอัพเดทข้อมูลในภายหลังนะคะ

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.664139, 100.650292
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

ทำเลบางนา บนถนนบางนา-ตราดดียังไง?

สำหรับโซนบางนาเป็นอีกพื้นที่รองรับการขยายตัวของเมือง ที่เริ่มมีความเจริญต่างๆ ทั้งแหล่งงาน ห้างสรรพสินค้า Mega project ต่างๆ และที่อยู่อาศัยก็ขยายตัวมายังชานเมืองมากขึ้น โดยถนนหลักที่เป็นพระเอกในทำเลบางนานี้ก็คือ “ถนนบางนา-ตราด” เป็นถนนใหญ่เส้นหนึ่งที่เชื่อมกรุงเทพฯ กับสมุทรปราการไว้ด้วยกัน และหากใครต้องการทำความเร็ว ก็เลือกใช้ทางด่วนบูรพาวิถีที่พาดอยู่เหนือถนนบางนา-ตราด ใช้เป็น Fast Track เชื่อมออกไปฉะเชิงเทรา ชลบุรีได้ เป็นต้น ซึ่งโซนนี้มีความน่าสนใจ ได้แก่

  1. ความสะดวกในการเดินทาง
    พื้นที่โซนกรุงเทพฯฝั่งตะวันออก เป็นอีกโซนที่มีการพัฒนาเรื่องระบบขนส่งเยอะทีเดียวนะคะ ทั้งความหลากหลายของรถไฟฟ้าสายต่างๆ อีกทั้งการพัฒนาทางด้านการสร้างถนนหนทางเพื่อเชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพฯและจังหวัดอื่นๆทางภาคตะวันออกของไทย
  2. การเจริญเติบโตของแหล่งงาน
    ทำเลบางนาเป็นอีกหนึ่งโซนที่กำลังมาแรงของอาคารสำนักงาน เนื่องจากเป็นประตูภาคตะวันออก ที่มีนิคมอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก เช่น นิคมบางปู นิคมบางพลี นิคมเวลโกรว์ นิคมอมตะนคร เป็นต้น การทำอาคารสำนักงานบริเวณนี้ ทำให้เดินทางได้สะดวกมากขึ้น
  3. การรวมตัวของ Mega Project
    อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ โซนบางนาเป็นอีกโซนที่มี Mega Project เกิดขึ้นเยอะ เนื่องจากที่ห้าง Mega Bangna ทำแล้วประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม อีกทั้งยังเป็นทำเลใกล้สนามบินสุวรรณภูมิที่มีชาวต่างชาติในย่านเป็นจำนวนมาก ทำให้มีหลายๆโปรเจกต์ผุดขึ้นในอย่างนี้หลายตัว

โครงการ ATMOZ บางนา นับเป็นคอนโดติดถนนใหญ่บางนา-ตราด กม. 4 จึงมีความสะดวกในการเดินทางมากกว่าคอนโดส่วนใหญ่ในทำเลนี้ที่มักจะขยับเข้าไปอยู่ในซอยกันนะคะ และเมื่อดูจากตำแหน่งของโครงการ จะเห็นว่าที่นี่ยังสามารถเดินทางได้สะดวกทั้งทางถนนบางนา-ตราด และถนนศรีนครินทร์ เพราะอยู่ในช่วงที่เลี้ยวเข้าถนนศรีนครินทร์ได้ทัน และยังอยู่ใกล้ทางเข้าถนนบางนา-ตราด หรือจะใช้เลนคู่ขนานบางนา-ตราด ก็สะดวกทั้งหมดค่ะ

สำหรับใครที่ถนัดการเดินทางโดยทางด่วน ก็สามารถใช้ทางด่วนเฉลิมมหานครเข้าเมืองได้ แต่ช่วงเวลาเร่งด่วนรถจะเยอะนิดนึง หรือหากจะเดินทางไปภาคตะวันออก ก็ใช้ทางด่วนบูรพาวิถี(กรุงเทพ-ชลบุรี) ได้เช่นกัน และยังมีทางด่วนกาญจนาภิเษก(วงแหวนฝั่งตะวันออก) เพื่อเดินทางไปยังพื้นที่ชานเมืองทั้งรามอินทราและพระราม 2 ทำเลของโครงการนี้จึงถือเป็นอีกทำเลที่รายล้อมด้วยตัวช่วยในการเดินทาง ให้เลือกใช้งานได้หลากหลาย

สำหรับการเดินทางโดยไม่ใช้รถ หากเดินมาหน้าตลาดนัดเศรษฐี ที่ห่างจากประตูโครงการมาประมาณ 100 m. ก็จะมีให้เลือกครบครันทั้งพี่วินมอเตอร์ไซค์ และรถเมล์ หรือจะเรียกแท็กซี่ก็ง่ายเพราะเป็นโครงการติดถนนใหญ่อยู่แล้ว มีข้อควรระวังอย่างเดียวคือระยะจากตึกพักอาศัยมาถึงหน้าประตูโครงการจะมีระยะประมาณ 250 เมตร ยังอยู่ในระยะเดินไหวนะคะหากไม่รอ Shuttle Service ก็ต้องออกแรงเดินสักหน่อยค่ะ

เมื่อเราต้องใช้ถนนบางนา-ตราดเป็นหลัก สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากเลยคือ จุดกลับรถ โดยตำแหน่งของโครงการนั้นอยู่ระหว่างจุดกลับรถทั้ง 2 จุด เดินทางง่าย และอยู่ใน Loop ที่กลับรถเดียวกับแหล่งความอุดมสมบูรณ์จุดหนึ่งบนถนนเส้นนี้ เช่น Central บางนา, Big C, รพ. ไทยนครินทร์, SB Design, Index Living Mall, อาคาร Interlink Tower, โรงพยาบาล WIH

ความอุดมสมบูรณ์ในปัจจุบันหลักๆของทำเลนี้ก็จะมีอยู่ทั้งเส้นบางนา-ตราด และถนนศรีนครินทร์ สำหรับถนนบางนา-ตราดจะมีคอมมูนิตี้กระจายตัวอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ครบเกือบทุกแบรนด์ทั้ง IKEA, SB Furniture, Chic Republic, Index เป็นต้น ถือเป็นอีกโซนสำหรับคนรักการแต่งห้องพักอาศัย นอกจากนี้เราสังเกตว่าปั๊มน้ำมันบริเวณนี้ ภายในมีร้าน Fast Food เเบบ Drive Thru ซะเป็นส่วนใหญ่ ที่สะดวกในการใช้งานไม่ต้องเดินลงรถ ส่วนห้างสรรพสินค้าใหญ่นั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 2 จุด

  1. เซ็นทรัลบางนา
    ห้างเก่าเเก่อยู่คู่กับคนเเถวนี้มานาน ตรงนั้นจะมีทางเชื่อมต่อไปยังถนนศรีนครินทร์ได้อีกด้วย ทำให้บริเวณนั้นจะมีร้านรวงแบบ Stand Alone เเละ Community Mall อยู่ภายในซอย
  2. Mega Bangna
    ห้างเเบรนด์ใหญ่ครบจบในที่เดียว (แต่อาจจะเดินไม่ครบภายในวันเดียวนะคะ) ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ขยายพื้นที่การใช้งานให้มากขึ้น โดยตั้งอยู่บริเวณสี่แยกจุดตัดระหว่างบางนา-ตราด เเละทางด่วนกาญจนาฯ ซึ่งตรงข้ามกันก็จะมี Tesco Lotus อยู่ด้วยส่วนถนนศรีนครินทร์ก็มีห้างใหญ่อย่างซีคอนแสควร์ ตลาดนัดรถไฟทางด้านหลัง Paradise Park (ตลาดเสรี) หรือจะข้ามไปยังฝั่งลาซาลเเบริ่งก็มีทั้ง Makro , Big-C , Foodland , The JAS Urban เลือกเดินทางได้ตามความสะดวกเลยค่ะ นี่ไม่นับร้านอาหารภายในซอยบางนา ลาซาล แบริ่ง ที่เรียกได้ว่ามีชื่อเสียงอยู่หลายๆร้าน

สำหรับที่ตั้งโครงการมีความน่าสนใจอีก 1 จุด นั้นก็คือเป็นซอยที่มีรร.นานาชาติขนาดใหญ่ถึง 6 แห่ง ได้แก่ ICS International School, RAS American School, Bangkok Patana School, Berkeley International School, St.Andrews International School, Concordian International School ทำให้มีบุคลากรและนักเรียนอาศัยอยู่ในย่านนี้เป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ยังเป็นทำเลที่ใกล้อาคารสำนักงานใหญ่ในย่านนี้ เช่น Interlink Tower, อาคารเซ็นทรัล ซิตี้ บางนา, Ample Tower, BHIRAJ Tower รวมถึงในอนาคตก็จะมีสำนักงานใหม่ๆ มาเปิดเพิ่มด้วย เช่น อาคาร AIA East Gateway เป็นต้น

แผนพัฒนาระบบขนส่งในอนาคต

ปัจจุบันสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้กับโครงการเรามากที่สุดจะเป็น รถไฟฟ้าสายสีเขียว BTS สถานีบางนา ซึ่งนับว่าเป็นสายหลักของคนกรุงในปัจจุบันเลยก็ว่าได้ สามารถใช้เดินทางไปยังในเมืองได้สะดวกรวดเร็ว เดินทางไปใจกลางเมืองก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ หรือเหลือบ่ากว่าเเรงอีกต่อไป

อีกเส้นทางที่กำลังจะเปิดใช้งานปี 65 นี้แล้ว นั้นก็คือ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง Monorail ลาดพร้าว-สำโรง เส้นนี้จะเน้นการพาคนรอบนอกเข้าเมืองได้ง่าย แนวตามถนนศรีนครินทร์ และลาดพร้าวเป็นหลัก โดยเป็นสายที่เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายหลักทั้ง BTS MRT และ Airport Rail Link สถานีใกล้โครงการที่สุดคือสถานีศรีเอี่ยม ~ 1.8 km. ที่คาดว่าแล้วเสร็จปี 2565 ค่ะ

อีกเส้นหนึ่งเป็นรถไฟฟ้า Light Rail บางนา-สุวรรณภูมิ บนถนนบางนา-ตราด เชื่อมระหว่างบางนากับสนามบินสุวรรณภูมิ คือจากเดิมการเดินทางไปสนามบินนั้น ถ้าเราไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัวก็จะต้องเรียกรถเเท็กซี่ หรือใช้ Airport Rail Link เท่านั้น ซึ่งรถไฟฟ้าตรงนี้จะเอื้อประโยชน์ให้คนแถบบางนาตรงเข้าสนามบินได้เลย และเป็นการพาคนต่างชาติมาเที่ยวโซนนี้มากขึ้น

Mega Project บนถนนบางนา-ตราด

มาดูแผนการในอนาคตอื่นๆกันบ้างค่ะ บนทำเลนี้นับเป็นรอยต่อของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC – Eastern Economic Corridor) ที่มีการสร้างระบบสาธารณูโภคต่างๆเพื่อส่งเสริม รองรับการลงทุน และการพัฒนากิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยเริ่มต้นจาก 3 จังหวัดเเรกคือ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ซึ่งทำให้พื้นที่ตรงนี้ที่เป็นรอยต่อระหว่างกรุงเทพไปสู่ภาคตะวันออกมีศักยภาพในเชิงเศรษฐกิจค่อนข้างสูง ทำให้ในแง่การลงทุนก็เริ่มมีการลงทุนยังพื้นที่เเถวนี้มากยิ่งขึ้น

อย่างโครงการที่น่าสนใจก็เช่น การสร้างสุวรรณภูมิเฟสใหม่ เพื่อรองรับและขยาย Capacity ในการใช้งานมากขึ้น ทั้งในเชิงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมอื่นๆ หรือจะเป็นโครงการของ The Mall อย่าง Bangkok Mall ที่เคยมีข่าวว่าตั้งใจจะทำศูนย์การค้าขนาดใหญ่บริเวณต้นถนนบางนา-ตราด และอีกโครงการที่น่าสนใจของเครือ Central คือ Central Village เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ที่จะมี Outlet อยู่ภายในโครงการ ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิด้วย เอาใจนักเดินทางขาช้อปกันเต็มที่ ไปดูรายละเอียดกันค่ะ

  • Bitec Bangna เฟส 2 >> ขยายพื้นที่การจัดงาน รวมทั้งหมด 70,000 ตร.ม. ทำให้สามารถรองรับการจัดงานและกิจกรรมได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 6,000 ลบ.
  • Bangkok Mall >> โครงการมิกซ์ยูสในเครือของเดอะมอลล์กรุ๊ป ภายในมีศูนย์การแสดงสินค้า, ที่อยู่อาศัย, ออฟฟิศ, Hall แสดงคอนเสิร์ตแบบครบวงจร บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 20,000 ลบ.
  • Central Plaza บางนา >> ปรับโฉมใหม่ให้ดูหรูหรามากยิ่งขึ้น โดยมีการคัดสรรแบรนด์แฟชั่นระดับ Hi-end มาไว้ในจุดเดียว เรียกได้ว่าเป็นการปรับโฉมเพื่อรองรับกลุ่มคนหลากหลายมากขึ้น ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 4,500 ลบ.
  • Mega City >> เป็นเฟสใหม่ที่เปลี่ยน “เมกาบางนา” จากศูนย์การค้า ให้เป็นศูนย์รวมที่อยู่อาศัย, สำนักงาน, โรงเรียน และโรงแรม บนพื้นที่ 400 ไร่
  • The Forestias >> โครงการ Mixed Use จาก MQDC บริษัทในเครือกลุ่มซีพี ภายใต้คอนเซ็ปที่ต้องการผสมผสานเมืองเข้ากับผืนป่าบนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 398 ไร่ ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 125,000 ลบ.
  • Central Village >> คอมมูนิตี้มอลล์ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ที่มีทั้งแบรนด์ชั้นนำระดับโลก และแบรนด์ไทย ทั้งหมด 235 ร้านค้า มุ่งเน้นให้เป็นแหล่งช้อปปิ้งของภูมิภาคเอเชียตะวันออก
  • Suvarnabhumi Airport เฟส 2 >> เพิ่มเติมพื้นที่อาคารผู้โดยสารเฟส 2 เพื่อรองรับการขยายตัวของผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 6,000 ลบ.

เส้นทางการเดินทาง

การเดินทางมาโครงการในวันนี้เริ่มจากเซ็นทรัลบางนา ตรงมาเรื่อยๆ โดยใช้ทางคู่ขนานและมากลับรถ ลงจากสะพานกลับรถให้ชิดซ้าย เราจะเห็นโครงการอยู่ฝั่งซ้ายมือ มีระยะจากเซ็นทรัลประมาณ 3.3 km. ค่ะ

Image 1/8
เริ่มเดินทางบนถนนบางนา-ตราด เมื่อเห็นเซ็นทรัลบางนาเราจะชิดซ้ายออกทางคู่ขนาน เหมาะกับวันที่ไม่ได้ตั้งใจจะแวะห้างนะคะ

เริ่มเดินทางบนถนนบางนา-ตราด เมื่อเห็นเซ็นทรัลบางนาเราจะชิดซ้ายออกทางคู่ขนาน เหมาะกับวันที่ไม่ได้ตั้งใจจะแวะห้างนะคะ

สำนักงานขายโครงการ ATMOZ บางนา เปิดให้ชมห้องตัวอย่างกันแล้วนะคะ หน้าตาดูเก๋ไก๋ ทันสมัย

จากตำแหน่งของโครงการเราจะมองไปเห็นทางเข้าถนนหลักบางนา-ตราด ตามที่เราเกริ่นไว้ว่าโครงการนี้อยู่ใกล้ทางเข้า จึงใช้งานได้สะดวกค่ะ

ติดกับโครงการฝั่งหนึ่งคือโรงพยาบาล WIH

และเมื่อเดินถัดมาอีกนิดหนึ่ง ก็ถึงตลาดนัดเศรษฐี เป็นแหล่งพึ่งพิงที่ใกล้โครงการที่สุด ซึ่งภายในก็เต็มไปด้วยร้านขายอาหาร ขายขนม ที่หลากหลายในราคาย่อมเยา

บริเวณหน้าตลาดนั่นเองจะมีพี่วินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการอยู่ค่ะ

หรือหากใครเดินทางโดยรถเมล์ก็อยู่บริเวณหน้าตลาดเช่นกัน

มีสายรถเมล์ที่ผ่านหน้าโครงการให้เลือกใช้หลายสายทีเดียว

ถัดมาคืออาคารสำนักงาน Interlink Tower ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานที่อยู่ใกล้โครงการมากๆ เลย 150 m. เท่านั้นเองค่ะ หากทำงานที่ตึกนี้ก็คงเดินมาทำงานได้เลย

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

เนื่องจากแปลงที่ดินคอนโด ATMOZ บางนา อยู่บนแปลงที่ดินทรงยาว ที่เข้าจากถนนบางนา-ตราดไปประมาณ 250 m. จึงค่อยเริ่มก่อสร้างตัวอาคาร ทำให้ถึงแม้ว่าโครงการจะอยู่ติดถนนใหญ่ แต่ก็ยังได้บรรยากาศที่สงบ เพราะเมื่อเข้ามาในซอยแล้วที่ดินรอบอาคารพักอาศัยจริงๆ จะกลายเป็นชุมชนพักอาศัย ไม่ใช่อาคารสูงที่อยู่ติดถนนใหญ่นะคะ

  • ทิศเหนือ : ติดกับที่ดินเปล่ารอการพัฒนาในอนาคต ซึ่งแปลงที่ดินตอดถนนใหญ่แบบนี้ มีศักยภาพพอให้สามารถขึ้นเป็นอาคารสูงได้นะคะ
  • ทิศตะวันออก : ชุมชนพักอาศัย, ออฟฟิศสูง 4-5 ชั้น
  • ทิศใต้ : คลองบางนา ตรงข้ามคลองเป็นชุมชนพักอาศัย
  • ทิศตะวันตก : ชุมชนพักอาศัย

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ (รวมระยะกลับรถ) เช่น

รถไฟฟ้า

  • สายสีเหลือง สถานีศรีเอี่ยม (คาดว่าแล้วเสร็จปี 2565) ~ 1.8 km.

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Chic Republic Bangna Store ~ 3.6 km.
  • Index Living Mall Bangna ~ 3.8 km.
  • Central Bangna ~ 4 km.
  • Seacon Square ศรีนครินทร์ ~ 4.9 km.
  • Paradise Park ~ 5 km.
  • Bangkok Mall (คาดว่าแล้วเสร็จปี 2566) ~ 5 km.
  • Mega Bangna ~ 7.5 km.

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาล WIH ~ 50 m.
  • โรงพยาบาลศิครินทร์ ~ 2.1 km.
  • โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ~ 4.5 km.
  • โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ~ 9.3 km.

โรงเรียนนานาชาติ

  • ICS International School ~ 4 km.
  • Bangkok Patana School ~ 4.8 km.
  • RAS American School ~ 4.9 km.
  • Berkeley International School ~ 5.5 km.
  • St.Andrews International School ~ 6.6 km.
  • Concordian International School ~ 9.4 km.

สำนักงาน

  • Interlink Tower ~ 150 m.
  • AIA East Gateway (Office Building) ~ 3.4 km.
  • MD Tower ~ 4.3 km.
  • WHA Tower ~ 8.4 km.

รายละเอียดโครงการ

โครงการ ATMOZ บางนา เป็นคอนโดเปิดใหม่ล่าสุดในแบรนด์ “ATMOZ” (แอทโมซ) ที่มี Concept ของแบรนด์เป็นคอนโดสไตล์รีสอร์ท คือนอกจากจะเป็นที่พักอาศัยแล้ว ก็ยังตั้งใจสร้างบรรยากาศให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกผ่อนคลาย เหมือนได้ไปเที่ยวพักผ่อนด้วย ดังนั้น แน่นอนว่าจุดเด่นของคอนโดแบรนด์นี้ก็คือพื้นที่ส่วนกลางแบบจัดเต็ม ซึ่งเค้าก็ให้สระว่ายน้ำมาถึง 2 สระ สวนส่วนกลางขนาดใหญ่ และกระจาย Indoor Facility ไว้ในทุกอาคารทำให้โครงการนี้มี Facilities ส่วนกลางที่ให้มาแบบเยอะมาก

หากพิจารณาถึงเรื่องราคาและรูปแบบห้องพักแล้ว เรามองว่าคอนโดนี้ทำออกมาเจาะตลาดกลุ่มวัยรุ่นที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน (First Jobber) และกลุ่มที่กำลังต้องการซื้อคอนโดมิเนียมเป็นทรัพย์สินอย่างแรก (First Condo Buyer) เราจึงได้เห็นราคาที่จับต้องง่ายเริ่มต้น 1 ล้านปลายๆ ถึงประมาณ 3 ล้าน เราไปดูรายละเอียดของโครงการกันค่ะ

ATMOZ บางนา เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น ทั้งหมด 5 อาคาร ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 10 ไร่ ซึ่งแปลงที่ดินจะต้องขับเข้ามาจากถนนบางนา-ตราด ประมาณ 250 m. จึงจะเจอกับอาคารพักอาศัย (อยู่ในระยะเดินไม่เกิน 500 m.) ถ้าเดินเข้าออกโดยไม่รอ Shuttle Bus ก็พอไหวอยู่นะ แต่ได้เหงื่อนิดหน่อย โดยเค้าจัดวางอาคารโอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้ สิ่งที่รู้สึกชอบและเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลย คือ โครงการจัด Outdoor Facility เชื่อมถึงกันทั้งหมด กลายเป็นพื้นที่สวนขนาดใหญ่ ส่วน Indoor Facility ของแต่ละอาคารก็จะอยู่ในตำแหน่งที่เชื่อมจากสวนได้ทั้งหมด จึงเดินเชื่อมต่อใช้งานได้ง่าย ซึ่งแต่ละอาคารก็จะมี Facility ที่แตกต่างกันออกไป

เริ่มจากอาคาร A จัดเป็นอาคารแรกของโครงการ จึงมี Lobby ที่มีขนาดใหญ่กว่าอาคารอื่นๆ ให้ได้บรรยากาศที่โอ่อ่า และเชื่อมต่อกับสวนที่จัดให้มีน้ำพุ มีความร่มรื่นเพื่อปรับอารมณ์สู่พื้นที่พักผ่อน ถัดมาที่อาคาร B จะเน้น Facility ส่วนกลางไปกับเรื่องสุขภาพ มี Fitness, สระว่ายน้ำ (Sunlight Pool) , Health Station เป็นต้น

ขยับเข้ามาด้านในจะเป็นอาคาร C ซึ่งตึกนี้จะเน้นส่วนกลางไปในเรื่องของการทำงาน มีบรรยากาศที่สงบขึ้น เช่น มี Co-Working Lounge, ห้องประชุมต่างๆ และ ยังอยู่ติดกับสระว่ายน้ำอีกสระหนึ่ง (Moonlight Pool) ด้วย อาคารที่อยู่ด้านในสุดของโครงการคือ อาคาร D เนื่องจากตำแหน่งอาคารไกลกว่าชาวบ้านเลย โครงการจึงชดเชยให้ด้วยส่วนกลางที่ชั้น 2 และชั้นบนๆของตึกด้วย จึงได้วิวมุมกว้าง ตึกนี้จะเน้นส่วนกลางที่เกี่ยวกับการพักผ่อนเพราะมีความสงบมากที่สุด มีห้องดูหนัง, spa, Sauna เป็นต้น ส่วนอาคาร E ก็จะอยู่ติดสระว่ายน้ำ (Moonlight Pool) เช่นเดียวกับอาคาร C โดยที่นี่จะเน้นส่วนกลางที่เหมาะกับการพักผ่อน สังสรรค์ เช่นมีห้อง Fine Dining Kitchen ในมุมที่ติดกับสระว่ายน้ำค่ะ

ในแต่ละอาคารจะจัดชั้น 1 เป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมดจึงไม่รบกวนการใช้งานกันส่วนพักอาศัย โดยโครงการให้ที่จอดรถมาประมาณ 36% รวมจอดซ้อนคัน ถือว่าให้มาไม่มาก แต่ก็ยังดีที่มีบริการ Shuttle Service คอยรับส่งที่สถานีรถไฟฟ้าบางนา (สายสีเขียว) และสถานีรถไฟฟ้าศรีเอียม (สายสีเหลืองในอนาคต) ค่ะ

ถัดขึ้นมาชั้น 2 จึงเริ่มเป็นห้องพักอาศัยและ Facility ส่วนกลาง และขึ้นมาที่ชั้น 3-8 จึงเป็นชั้นพักอาศัยทั้งชั้น ยกเว้นอาคาร D ที่มีส่วนกลางชั้นบนๆ ด้วยค่ะ


มาดูรายละเอียดทีละอาคารกันค่ะ ซึ่งช่วงนี้โครงการยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แค่เปิดให้ชมห้องตัวอย่างเท่านั้น เราจึงมีแปลนอาคารมาฝากเฉพาะอาคาร A และ E ค่ะ

อาคาร A

เมื่อเข้ามาถึงโซนพักอาศัยในโครงการ จะเจอกับอาคาร A เป็นตึกแรก ซึ่งเค้าตั้งใจออกแบบให้พื้นที่ส่วนกลางของโครงการได้ความเป็นส่วนตัวมากที่สุด จึงเรียงตึกเป็นแนวยาวตามถนนเข้าไปด้านใน โอบล้อมส่วนกลางที่เป็น Highlight ของโครงการเอาไว้ ไม่เอาออกมาโชว์ให้เห็นจากบริเวณทางเข้าในทันทีค่ะ

เมื่อเข้ามาในพักอาศัยเราจึงจะได้บรรยากาศของส่วนกลางขนาดใหญ่ของที่นี่ เริ่มจากอาคาร A จัดเป็นพื้นที่ต้อนรับส่วนแรกของโครงการ จึงมี Lobby ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษกว่าอาคารอื่น ใช้ชื่อว่า Wind Lobby Lounge ที่มีความสูงแบบ Double Volume โดยตำแหน่งเจ้า Lobby นี้จะเปิดเชื่อมเข้ากับ Purifying Garden พื้นที่สวนที่ช่วยปรับอารมณ์จากความวุ่นวายในชีวิตประจำวันให้ผ่อนคลายขึ้น

ภายใน Purifying Garden จะจัดให้มีน้ำพุ มีความร่มรื่นเพื่อปรับอารมณ์สู่พื้นที่พักผ่อน

อาคาร A ชั้น 2 จะมีทั้งพื้นที่ที่เป็นส่วนกลางและโซนพักอาศัย เพราะชั้น 1 จะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด ทุกอาคารเลยนะคะ Facility ของอาคารนี้ก็ได้แก่ Wind Lobby Lounge, Natural Hallway, Grab N’ Go Station สำหรับโซนพักอาศัยมีห้องพัก 22 ห้อง โดยเค้าทำประตูกั้นแยกจากโซนพักอาศัยโดยต้องใช้ Key Card ในการเข้าถึงอีกชั้นหนึ่ง การจัดวางทางเดินเป็นแบบ Double Corridor คือมีห้อง 2 ฝั่งทางเดิน ประตูห้องส่วนใหญ่จะเยื้องกันและอยู่ในตำแหน่งที่ดี 

โดยห้องพักส่วนใหญ่คือแบบ 1 Bedroom Exclusive (สีฟ้า) ขนาดประมาณ 26 ตร.ม. ซึ่งมีให้เลือกทั้งห้องทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและห้องทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งมีข้อดีข้อเสียต่างกันตรงที่ห้องทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะได้วิวสวนส่วนกลางสวยๆ แต่ก็อาจเสียความเป็นส่วนตัวจากลูกบ้านคนอื่นๆ ที่มาเดินเล่นในสวนเช่นกัน ส่วนห้องทางทิศตะวันตกเฉียงใต้จะหันออกด้านนอกโครงการ แต่มีถนนและรั้วโครงการกั้นอยู่ ช่วยให้ไม่ติดกับที่ดินข้างเคียงโดยตรง แต่ดูจากทิศแล้วอาจจะร้อนในช่วยบ่ายสักหน่อยค่ะ

มาต่อกันที่ชั้น 3 ผังโดยรวมคล้ายๆกับชั้น 2 เลย ต่างกันแค่จำนวนห้องพักอาศัยในชั้นนี้ที่เพิ่มขึ้นเป็น 24 ห้อง โถงลิฟต์มีตำแหน่งเดียวค่อนไปทางด้านหน้าของอาคาร ซึ่งในโถงจะมีลิฟต์ 2 ตัวนะคะ มีอัตราส่วนลิฟต์ของอาคาร A อยู่ที่ 103 : 1 ถือว่าเป็นอัตราส่วนที่พอแชร์กันใช้งานได้ปกติ และเป็นเรื่องปกติของอาคาร Low Rise ที่มักจะใช้ลิฟต์โดยสารเป็น Service Lift ด้วยเลยนะคะ 

มาต่อกันที่ชั้น 4-8 ของอาคาร A ตั้งแต่ชั้น 4 ขึ้นไป จำนวนห้องพักอาศัยในชั้นนี้ที่เพิ่มขึ้นเป็น 32 ห้อง โดยมีห้องทางทิศเหนือและใต้ให้เลือกมากขึ้นแล้วนะคะ

โดยตำแหน่งห้องที่เราชื่นชอบจะเริ่มต้นที่ชั้นนี้ค่ะ นั่นคือตำแหน่งห้อง A430-A432 เพราะเป็นห้องวิวสระ+สวนมุมกว้าง เป็นตำแหน่งห้องที่จัดว่ามี Value พิเศษ และด้วยความสูงของห้องที่ขยับขึ้นมาจนถึงชั้น 4 ก็จะช่วยลดเสียงและสายตาของเพื่อนบ้านเวลาที่มาใช้งานไปได้ค่ะ


อาคาร B

สำหรับอาคาร B วางตัวในแนวยาวขนาบกับสระว่ายน้ำตลอดแนว ทำให้เวลาเราเข้าไปใช้ Facility ส่วนกลางในอาคารนี้ จะได้วิวสระว่ายน้ำจากทุกห้องเลย โดยอาคารนี้จัดส่วนกลางมาเกี่ยวกับการออกกำลังกาย เหมาะกับคนรักสุขภาพจะได้มา Fitness, ว่ายน้ำ มาใช้ Private Class Room ได้สะดวก

ภาพจำลองหน้าตาของเจ้า Sunlight Pool เป็นสระทรงยาวประมาณ 30 m. ที่ทำให้อาคารนี้มีห้องวิวสระด้วยค่ะ

นอกจากนี้บริเวณสวนส่วนกลางหน้าอาคาร B ยังมีพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนที่มีชื่อเรียกเก๋ๆ ว่า Wind Pavilion ค่ะ

Wind Pavilion เป็นมุมนั่งเล่นที่มีหลังคาคลุมบังแดดบังฝนได้บ้าง เป็นหลังคาที่มีดีไซน์พิเศษ ทรงสูง ดูโปร่งดี


อาคาร C-D-E

ถัดเข้ามาด้านในเราขอเล่ารวมเป็นกลุ่มอาคาร C-D-E เลยนะคะ สำหรับอาคาร C วางตัวในแนวยาวขนาบกับสระว่ายน้ำ (Moonlight Pool) ตลอดแนว ซึ่งส่วนกลางของอาคารนี้จะจัดออกมาให้มีฟังก์ชันรองรับการทำงาน การคุยงาน เช่น Co-Working Lounge, Gathering Room, Socialize Room, Working Pod ทำให้เวลาเราเข้าไปนั่งทำงานที่อาคารนี้จะได้วิวสระว่ายน้ำ รวมถึงห้องพักที่อาคารนี้ก็จะมีห้องที่ได้วิวสระด้วยค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศของสระว่ายน้ำ Moonlight Pool ยาว 34 m. เป็นสระว่ายน้ำที่ 2 ของโครงการวางตำแหน่งไว้เอาใจกลุ่มอาคาร C-D-E ที่อยู่ด้านใน เพื่อให้มาใช้งานได้สะดวก ความเก๋ของ Moonlight Pool คือมีผนังกระจกบางส่วน เพื่อเปิดมุมมองให้กว้างขึ้นและเห็นบรรยากาศภายในสระได้

เนื่องจากตำแหน่งอาคาร D อยู่ไกลกว่าชาวบ้านเลย โครงการจึงชดเชยให้ด้วยส่วนกลางที่ชั้น 2 และชั้นบนๆของตึกด้วย โดยเน้นส่วนกลางที่เกี่ยวกับการพักผ่อนเพราะมีความสงบมากที่สุด ส่วนกลางที่อาคารนี้ได้แก่ Spa Room, Live Studio, Cinematic Room, Sauna Room, Grooming Salon ( Salon & Nail ) เป็นห้องที่เตรียมสถานที่ไว้ให้สำหรับจ้างช่างส่วนตัวมาทำเล็บ ทำผมที่คอนโดได้เลยนะคะ และตึกนี้มี Health Studio อีกจุดหนึ่งของโครงการค่ะ

อาคารสุดท้ายคือ อาคาร E ที่วางตัวล้อม Court อยู่กับอาคาร D ทำให้วิวที่หันเข้าภายในโครงการอาจไม่ใช่วิวสวน+สระว่ายน้ำเหมือนอาคารอื่นๆ แต่ก็เป็นการการันตีวิวว่าในอนาคตจะไม่มีอาคารมาสร้างติดในระยะประชิดนะคะ สำหรับส่วนกลางของอาคารนี้จะเน้นให้เหมาะกับการพักผ่อน พบปะ สังสรรค์ ซึ่งเค้าวางตำแหน่งไว้ติดกับสระว่ายน้ำ Moonlight Pool ให้เป็นจุดขายของอาคารด้วยค่ะ

อาคาร E ชั้น 2 เป็นชั้นที่มีทั้งพื้นที่ที่เป็นส่วนกลางและโซนพักอาศัย โดย Facility ของอาคารนี้ก็ได้แก่เช่น Fine Dinning Kitchen, Massage Chamber, Play Room, Privacy Mezzanine สำหรับโซนพักอาศัยมีห้องพัก 28 ห้อง ซึ่งเค้าทำประตูกั้นแยกจากโซนพักอาศัยโดยต้องใช้ Key Card ในการเข้าถึงอีกชั้นหนึ่ง

โดยห้องพักส่วนใหญ่คือแบบ 1 Bedroom Exclusive (สีฟ้า) ขนาดประมาณ 26 ตร.ม. และแบบ 1 Bedroom (สีส้ม) ขนาดประมาณ 23 ตร.ม. มีให้เลือกทั้งห้องทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ, ห้องทิศใต้และห้องทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเมื่อตำแหน่งอาคารอยู่ด้านในก็ทำให้ที่ดินรอบๆ ไม่ได้พัฒนาเป็นอาคารสูงนะคะ

โดยห้องทั้ง 3 ทิศจะมีข้อดีข้อเสียที่แตดต่างกัน คือห้องทางทิศตะวันตกเฉียงใต้จะหันเข้าหา Court กลางในโครงการ ซึ่งแม้ไม่ได้มีห้องวิวสวน+สระว่ายน้ำ เหมือนอาคารอื่นๆ แต่เรามองว่าก็จะได้ความสงบในการพักอาศัยที่มากขึ้น ส่วนห้องทางทิศใต้จะอยู่ติดคลองทำให้ไม่ได้มีบ้านพักอาศัยที่มาสร้างติดกันในระยะประชิด และเป็นทิศที่ได้ลมดี ปิดท้ายที่ห้องทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ปัจจุบันยังเป็นชุมชนพักอาศัยที่ไม่ได้มีประเด็นเรื่องวิวที่น่าเป็นห่วงนะคะ

มาต่อกันที่ ชั้น 3 ผังโดยรวมคล้ายๆกับชั้น 2 เลย ต่างกันแค่จำนวนห้องพักอาศัยในชั้นนี้ที่เพิ่มขึ้นเป็น 29 ห้อง โถงลิฟต์มีตำแหน่งเดียวค่อนไปทางด้านหน้าของอาคาร ซึ่งในโถงจะมีลิฟต์ 2 ตัวนะคะ มีอัตราส่วนลิฟต์ของอาคาร A อยู่ที่ 113 : 1

ขึ้นมาที่ชั้น 4 จะมีจำนวนห้องพักอาศัยในชั้นนี้ที่เพิ่มขึ้นเป็น 32 ห้อง และมีห้องให้เลือกครบทั้ง 3 ทิศเหมือนเดิมค่ะ

ตั้งแต่ชั้น 5 ขึ้นมาจนถึงชั้น 8 แปลนของอาคารจะเหมือนกันทุกชั้นแล้วนะคะ โดยมีห้องพักทั้งหมดจำนวน 34 ห้อง

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

Building A

  • Wind Lobby Lounge
  • Natural Hallway
  • Laundry
  • Grab N’ Go Station
  • Smart Locker
  • Vending Machine

Building B

  • Fit Gym
  • Private Class Room
  • Health Station
  • Smart Locker
  • Vending Machine

Building C

  • Aqua Lobby
  • Co-Working Lounge
  • Gathering Room
  • Socialize Room
  • Working Pod
  • Smart Locker
  • Vending Machine

Building D

  • Spa Room
  • Live Studio
  • Cinematic Room
  • Sauna Room
  • Grooming Salon ( Salon & Nail )
  • Health Studio
  • Vending Machine
  • Smart Locker

Building E

  • Earth Lobby
  • Privacy Mezzanine
  • Fine Dinning Kitchen
  • Massage Chamber
  • Play Room
  • Laundry
  • Vending Machine
  • Smart Locker

On Ground

  • Welcome Seating
  • Purifying Garden
  • Green Forest Park
  • Moonlight Camp
  • Sunlight Pool ขนาด 5×30 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • Sunlight Terrace
  • Sunlight Kids Pool 3.30 x 10 m ลึก 0.60 เมตร
  • Earth Amphitheater
  • Wind Pavilion
  • Outdoor Bar B Q
  • Green Lawn
  • Nook Seating
  • Moonlight Pool ขนาด 5×34 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • Moonlight Terrace
  • Jacuzzi Seat
  • Floating Deck
  • Light Pavilion

Service

  • Shuttle service
  • EV Charger
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 110 :  1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 103 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 108 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก C 115 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก D 113 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก E 113 : 1
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card

แบบห้อง

มีห้องแบบไหนให้เลือกบ้าง?

รูปแบบห้องที่ ATMOZ บางนา ทำออกมาเจาะกลุ่มวัยทำงาน นักเรียน นักศึกษา จึงมีขนาดที่กะทัดรัดหน่อย 23.08-33.02 ตร.ม. เป็นห้องรูปแบบ 1 Bedroom ทั้งหมดและมีหลายแบบให้เลือก เหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คนเป็นหลัก ซึ่งนั่นทำให้ราคาเริ่มต้นของโครงการนั้นหยิบจับง่าย เริ่มต้นที่ 1.59 ล้านบาทมีให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ดังนี้

  • 1 Bedroom  ขนาดประมาณ 23.08 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Exclusive ขนาดประมาณ 26.27 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Extra ขนาดประมาณ 28.55 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาดประมาณ 33.02 ตร.ม.

โครงการขายแบบ Fully Furnished พร้อม Digital Door Lock, เครื่องกรองน้ำ Pentair และเครื่องปรับอากาศที่กรอง PM 2.5 ได้ด้วย มีวัสดุที่ได้ ดังนี้

  • พื้นกระเบื้องยาง
  • ประตู Digital Door Lock ของ HomeHuk
  • เฟอร์นิเจอร์ทั้งห้อง เช่น เคาน์เตอร์ครัว ชั้นวางทีวี ตู้เสื้อผ้า เตียงนอน โต๊ะ+เก้าอี้ทานอาหาร

โซนครัว

  • Top เคาน์เตอร์ครัวหินสังเคราะห์ ลายหินอ่อน
  • Hob&hood จาก Mex
  • Sink

ห้องน้ำ

  • สุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ Cotto
  • ก๊อกและอ่างล้างหน้าของ Cotto
  • ฝักบัวของ American Standard

โครงการมีห้องตัวอย่างให้ดูทั้ง 4 แบบ จะเป็นอย่างไร ไปชมกันเลยค่ะ

เริ่มกันที่แบบที่มีจำนวนเยอะสุดในโครงการ คือ 1 Bedroom Exclusive ขนาดประมาณ 26.27 ตร.ม. ข้อดีของห้องนี้คือทุกฟังก์ชันจะมีประตูกั้นออกเป็นสัดส่วนทั้งห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องครัวจึงได้เป็นครัวปิด ทำอาหารที่มีกลิ่นฉุนก็สามารถเปิดประตูระเบียงระบายกลิ่นและควันได้ ส่วนห้องน้ำก็เข้าได้ 2 ทางคือจากห้องนั่งเล่นและห้องนอน ทำให้เวลาเพื่อนๆ มาหาที่ห้องแล้วอยากเข้าห้องน้ำก็ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอน จึงเป็นแปลนที่เรามองว่าลงตัวดีนะคะ

จากขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 26 ตร.ม. นั้นถือว่าไม่เล็กจนเกินไปที่จะอยู่กัน 1-2 คน ได้ แต่จากประสบการณ์การอยู่คอนโดของเราเอง เราเชียร์ว่าเหมาะกับ 1 คนลงตัวกว่านะ ยิ่งในยุค WFH ที่ทุกคนต้องการโต๊ะทำงาน ต้องการความเป็นส่วนตัว หากใครอยู่ 2 คนแล้วกำลังเลือกแบบห้องอยู่หล่ะก็ ลองพิจารณา Type 1 Bedroom Plus ของโครงการนี้ก็มีให้เลือกค่ะ

เฟอร์นิเจอร์ที่ให้ก็จะได้ครบตามในรูปเลยค่ะ ซื้อเพิ่มแค่พวกเครื่องนอน และเครื่องใช้ไฟฟ้าก็เข้าอยู่ได้แล้ว ส่วนตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์จะวางไว้ตามแปลนในรูปล่าง

เริ่มจากทางเข้าห้องเป็นประตูบานไม้สำเร็จรูป ติดระบบ Digital Doorlock ของ HomeHuk ไว้ ซึ่งรุ่นที่เลือกมาใช้นี้สามารถเปิดประตูได้ทั้งหมด 5 วิธี ได้แก่ Bluetooth, Fingerprint, RFID Card, Password และกุญแจ Master Key

เข้ามาภายในห้องจะเจอกับห้องนั่งเล่นเป็นส่วนแรก ถัดเข้าไปด้านในจึงเป็นห้องนอนและห้องครัวที่อยู่ติดกับระเบียง ทำให้ภายในห้องนั่งเล่นจะต้องพึ่งพิงแสงธรรมชาติที่ผ่านประตูกระจกของห้องครัวเข้ามา หากชอบห้องสว่างๆ ก็เปิดไฟช่วยนะคะ

พื้นที่นั่งเล่นมีระยะดูทีวีที่ 2.2 เมตร ระยะพอๆ กับที่บ้านเราเลย แนะนำว่าติดทีวีขนาดประมาณ 43 นิ้วกำลังดีนะคะ เฟอร์นิเจอร์ส่วนแรกที่ให้มาคือ โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง และชั้นวางทีวีแต่จะเป็นเฟอร์ฯลอยตัวไม่ใช่ Built-in เหมือนห้องตัวอย่าง ฝ้าเพดานที่นี่สูง 2.4 เมตรตามมาตรฐานค่ะ

ด้านข้างโซฟาจะมีโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้สำหรับ 2 ที่นั่งมาให้

เป็นตำแหน่งที่เราสามารถนั่งทานอาหารและดูทีวีไปพร้อมๆ กันได้

ส่วนที่เป็นจุดเด่นของห้อง Type นี้เลยก็คือ ห้องน้ำสามารถเข้าได้ 2 ทาง คือจากทางห้องนั่งเล่นและห้องนอน เวลาดึกๆ อยากเข้าห้องน้ำก็สะดวก ไม่ต้องเดินอ้อม หรือเวลาที่เพื่อนมาหาก็เข้าห้องน้ำได้สะดวก ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนเช่นกัน

มาดูภายในห้องน้ำกันบ้างจะได้มาครบตามแบบในห้องตัวอย่าง ยกเว้นพวกของตกแต่งนะคะ สำหรับพื้นและผนังของห้องปูด้วยกระเบื้องทั้งหมด จึงดูแลรักษาง่าย

อ่างล้างหน้าของ Cotto มีพื้นที่วางของด้านข้างก๊อกน้ำได้เล็กน้อย และมีชั้นเก็บของใต้อ่าง

โถสุขภัณฑ์เป็นโถแบบ 2 ชิ้นมาพร้อมอุปกรณ์ในห้องน้ำอื่นๆ ได้แก่ สายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษชำระ

ส่วนที่เค้าออกแบบมาได้ดีคือ มีที่วางของเพิ่มเติมมาให้ ซึ่งสามารถวางแจกันทรงสูงได้เลย

Shower Box เป็นฉากกั้นบานเลื่อนแบบ 3 ตอน ข้อดีของบานเลื่อน 3 ตอนคือ ทำให้เราสามารถเปิดประตูได้กว้าง มีความสูง 2 m. สามารถใช้งานได้สะดวกตามความสูงมาตรฐานคนไทยค่ะ

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดกว้างยาวประมาณ 0.9 x 1 m. กั้นพื้นที่ด้วยขอบ Shower Box เพื่อไม่ใช้น้ำจากพื้นที่ส่วนเปียกไหลออกมาในพื้นที่ส่วนแห้ง

ภายในติดตั้งฝักบัวของ American Standard หน้าตาของฝักบัวอาบน้ำมีขนาดจับได้ถนัดมือ และติดตั้งก๊อกน้ำด้านล่างมาให้ด้วย ซึ่งไม่ค่อยได้เห็นคอนโดทั่วไปติดมาให้นะคะ

ขยับเข้ามาในห้องนอน โครงการจะ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้พร้อมใช้งาน หน้าบานเป็นกระจกเหมือนในห้องตัวอย่าง

ขอบประตูมีดีเทลที่สามารถใช้เป็นมือจับได้ ดีไซน์ดูเรียบๆ สวยดี แต่ภายในตู้จะไม่ได้ติดตั้งโคมไฟมาให้นะคะ

ติดกับตู้เสื้อผ้าจะได้เฟอร์นิเจอร์อีก 2 ชิ้น คือโต๊ะเครื่องแป้งและฐานเตียงนอนค่ะ

ซึ่งโครงการจะวางเตียงขนาด 5 ฟุตไว้ชิดหน้าต่าง จึงสามารถนอนดูทีวีและชมวิวภายนอกไปพร้อมๆ กันได้

ซึ่งเจ้าเตียงที่ให้ก็จะมีช่องเก็บของเล็กๆ น้อยๆ ใต้เตียงด้วยค่ะ

ส่วนที่เราชอบในห้องนอนที่นี่เห็นจะเป็นหน้าต่างบานใหญ่ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่แบบ Full Frame แต่ก็ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งดีทีเดียวและยังมีบานเปิดระบายอากาศได้ด้วย

หน้าต่างเป็นรูปแบบบานกระทุ้ง เปิดออกไปได้กว้าง ซึ่งหากเป็นคนที่ชอบเปิดหน้าต่างระบายอากาศบ่อยๆ เราแนะนำว่าติดมุ้งลวดแบบจีบเพิ่มอีกนิด ช่วยกันยุงและแมลงได้และเวลาพับเก็บก็ไม่บังวิวด้วยค่ะ

ถัดมาที่ห้องครัวได้เป็นครัวปิดเป็นสัดส่วน ซึ่งโครงการใช้ประตูเป็นบานเลื่อน 3 ตอนเพื่อให้สามารถเปิดใช้งานได้กว้าง สำหรับระยะทางเดินภายในห้องกว้างประมาณ 70 cm. ไม่ได้กว้างมากแค่พอให้แม่ครัวเดินทำอาหารได้

แอบเสียดายนิดนึงที่พื้นห้องนี้ไม่ได้มาเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ แต่ให้มาเป็นกระเบื้องยางแทน ซึ่งคุณสมบัติกระเบื้องยางก็ทนน้ำได้ ปลวกไม่กิน ได้ผิวสัมผัสที่นุ่มเท้ามากกว่า แต่ความทนทานในการใช้งานระยะยาวก็ยังสู้กระเบื้องไม่ได้นะคะ

ภายในห้องครัวจะได้เคาน์เตอร์ Built-in มาให้พร้อมตู้ลอยหน้าตาแบบนี้เลยค่ะ และด้านข้างเคาน์เตอร์ก็เว้นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นมาให้

ใต้อ่างล้างจานจะมีตู้เก็บของบานเปิดปิด ไว้ใช้เก็บของเล็กๆ น้อยๆ ได้แต่ใส่ของเต็มไม่ได้นะคะเพราะต้องเว้นพื้นที่เผื่อซ่อมแซมอ่างล้างจาน รวมถึงมีลิ้นชักสำหรับใส่ช้อนส้อม + ตู้ช่องโล่งสำหรับวางไมโครเวฟ และลิ้นชักเก็บของ ซึ่งบานพับให้มาเป็นแบบ Soft Close ใช้งานได้สะดวก

ข้อดีอีกอย่างของครัวโครงการนี้คือ ติดตั้งเครื่องกรองน้ำดื่มของ Pentair มาให้แล้ว ทำให้น้องๆ ไม่ต้องไปซื้อน้ำเปล่าเป็นแพ็คๆ ไม่ต้องออกแรกยกเลย สะดวกดีค่ะ

เนื่องจาก Pantry ครัวไม่กว้างมาก โครงการจึงออกแบบชุดครัวให้มีลิ้นชัก สำหรับวางของเพิ่มเติมได้

มาดูส่วนบนของเคาน์เตอร์ครัวกันบ้าง ให้ช่องเคาน์เตอร์มา 2 ช่อง ช่องหนึ่งเป็นซิงค์ล้างจาน อีกช่องเป็นเตาไฟฟ้า ทำให้เหลือพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารเล็กน้อย ดีนะที่เจ้าลิ้นชักวางของให้ใช้งานเพิ่มเติมได้อีกหน่อย

วัสดุ Top เป็นกระเบื้องหินสังเคราะห์ที่ทำออกมาเป็นลายหินอ่อน + Backsplash ด้านหลังจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ตามแบบในห้องตัวอย่าง ทำให้เวลาปรุงอาหารแล้วกระเด็นก็สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

ซิงค์ล้างจานของ Mex มีขนาดพอจะใส่อุปกรณ์ทำครัวได้ และมีความลึกพอสมควรที่จะล้างจานได้สะดวก

ถัดมาที่ Hob & Hood ได้ของ Mex ค่ะ สำหรับเครื่องดูดควันจะเป็นระบบหมุนเวียน ซึ่งเรามองว่าห้องแปลนนี้สามารถเปิดประตูระเบียงช่วงระบายกลิ่นได้ ไม่เป็นปัญหานะคะ

ด้านบนมีตู้ลอยสำหรับเก็บจานชามและเครื่องปรุงต่างๆ ได้ พอสมควร

จุดเด่นของห้องครัวที่นี่คือ สามารถเปิดประตูระบายอากาศได้นี่แหละค่ะ เป็นแบบบานเลื่อน 3 ตอนจึงเปิดได้กว้างอีกเช่นกัน

ภายในพื้นที่ระเบียง..เจ้า Condensing Unit จะถูกแขวนอยู่ด้านบนจึงช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยบริเวณระเบียงไปได้

พื้นที่ระเบียงขนาดประมาณ 1.4 x 0.9 m. ถ้าจะติดตั้งเครื่องซักผ้าก็ต้องไว้ที่ระเบียงนี่นะ แต่ราวตากผ้าต้องเป็นแบบยึดติดกับผนังแทนเพราะพื้นที่ค่อนข้างจำกัดนะคะ


ถัดมาที่ห้องยอดฮิตอีก Type หนึ่ง ลักษณะเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาดประมาณ 23.08 ตร.ม. ที่เหมาะกับคนที่ให้ความสำคัญกับ Living Area และ Bedroom เป็นหลัก เพราะเค้าวางตำแหน่งไว้ให้ติดกับหน้าต่าง จึงได้วิวและแสงธรรมชาติจากภายนอกอย่างเต็มที่ ทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง

แต่ก็ต้องแลกมากับพื้นที่ครัวและห้องน้ำที่ต้องไปอยู่ด้านในอาคารแทน ประสิทธิภาพใช้งานครัวและห้องน้ำจึงลดลง เพราะต้องพึ่งพาระบบระบายอากาศของตัวอาคารล้วนๆ เหมาะกับคนที่ไม่ได้เน้นทำครัวเยอะ ใช้พื้นที่นั่งเล่นและเตียงนอนเป็นหลัก อย่างไรก็ตามแบบห้องจะเหมาะหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่นะคะ

เฟอร์นิเจอร์ที่ให้ก็จะได้ครบตามในรูปเลยค่ะ ส่วนตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์จะวางไว้ตามแปลนในรูปล่าง

เข้ามาในห้องจะเจอกับครัวเป็นโซนแรก ถัดเข้าไปด้านในจึงเป็น Living Area ซึ่งเค้าออกแบบให้มีประตูกั้นปิดระหว่างห้องไว้ด้วย ทำให้กลิ่นควันในห้องครัวไม่เข้าไปรบกวนพื้นที่อยู่อาศัยด้านใน

เคาน์เตอร์ครัวจะมีขนาดกะทัดรัดหน่อย แต่ก็ยังได้ฟังก์ชันมาครบเช่นเดียวกับห้องแบบแรก ทั้งลิ้นชักเก็บช้อนส้อม ลิ้นชักเก็บของ Hob&Hood และซิงค์ล้างจาน รวมถึงเครื่องกรองน้ำด้วยนะคะ

ส่วนที่เราประทับใจก็ยังคงเป็นลิ้นชักวางของ ที่ออกแบบมาได้เข้าใจคนอยู่คอนโดจริงๆ

ห้องครัวของที่นี่สามารถปิดประตูกั้นให้เป็นครัวปิดได้ ช่วยลดกลิ่นควันจากการทำอาหาร เป็นแบบบานพับ 3 ตอน ทำให้เปิดได้กว้าง ยังแอบเสียดายนิดนึงที่พื้นโซนครัวให้มาเป็นกระเบื้องยางไม่ได้ปูกระเบื้องแกรนิตโต้มาให้นะคะ

สำหรับห้องน้ำจะอยู่ติดกับโซนครัวเลยค่ะ ภายในห้องน้ำจัดฟังก์ชันต่างๆ ไว้ครบและมีการแยกพื้นที่ส่วนเปียกกับส่วนแห้งออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน ใช้สุขภัณฑ์ของ Cotto เช่นเดียวกัน

สิ่งที่เราชอบคือ Shower Box ที่กั้นผนังกระจกเป็นตัว L เป็นเทคนิคที่ช่วยให้พื้นที่กระทัดรัดในห้องน้ำดูกว้างขึ้น

ถัดมาด้านในเป็นพื้นที่รวม Living Area + Bedroom เข้าไว้ด้วย แตกต่างจากแปลนห้องอื่นที่มักจะกั้นแต่ละฟังก์ชันเป็นห้องเล็กๆ บรรยากาศที่เปิดกว้างเชื่อมถึงกันจึงเป็นจุดเด่นของห้องนี้

Living Area จะได้เฟอร์นิเจอร์ครบทั้งโซฟา + โต๊ะกลาง + ชั้นวางทีวี เลยนะคะ แต่เป็นเฟอร์ฯ ลอยตัวทั้งหมด (ตามรูปที่แปะไว้ใต้แปลน)

เราชอบพื้นที่วางโซฟาของห้องนี้ ที่มีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะกลางหน้าโซฟาได้ด้วย เผื่อไว้สำหรับวางแก้วน้ำ ขนมต่างๆ

สำหรับระยะดูทีวีของห้องนี้อยู่ที่ระยะ 3.2 m. แนะนำเป็นทีวีขนาดไม่เกิน 50 นิ้วนะคะ

ห้องนี้จะให้ความสำคัญกับพื้นที่ใช้สอยโซนเตียงนอนเป็นหลัก จึงวางไว้ในตำแหน่งด้านในสุดติดกับหน้าต่าง เป็นโซนที่ได้วิวและแสงธรรมชาติผ่านเข้ามาค่ะ

สำหรับเฟอร์ฯ ในโซนนี้ จะได้ฐานเตียงมาให้ (ตามรูปที่แปะไว้ใต้แปลน) ซื้อแค่ฟูกที่นอนและชุดเครื่องนอนมาเพิ่มก็อยู่ได้แล้วค่ะ

มุมจากบนเตียงนอนก็จะสามารถชมวิวด้านนอกได้และมองเห็นบริเวณระเบียงด้วย แบบนี้น่าปลูกต้นไม้ตรงระเบียงจัง

ตู้เสื้อผ้าที่โครงการ Built-in ไว้ให้ เป็นตู้กระจกบานเปิดปิด + ตู้เก็บของที่ปิดผิวกระจกเต็มบาน ก่อนออกจากห้องก็สามารถใช้ส่อง เช็คความเรียบร้อยได้แบบเต็มตัวเลยนะคะ

นอกจากนี้ด้านข้างเตียงยังเหลือพื้นที่อเนกประสงค์อีกนิดหน่อย ขนาดประมาณ  1 x 1.6 m. ซึ่งสามารถใช้วางโต๊ะทำงานก็ได้ หรือทำเป็นโซฟาตัวยาว ไว้นั่งชมวิวริมหน้าต่างก็ได้ ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์เจ้าของห้องเลยค่ะ

ระเบียงของโครงการนี้ตั้งใจเตรียมพื้นที่ไว้ให้แค่พอสำหรับวางเครื่องซักผ้า, ราวตากผ้าเล็กๆ และการติดตั้ง Condensing Unit เท่านั้นค่ะ

หน้าตาปลั๊กและสวิตซ์ไฟจาก Siemens ส่วนแปลนห้องอีก 2 Type เราเก็บบรรยากาศมาฝากเป็น Gallery นะคะ

แปลนห้อง Type 1 Bedroom Extra ขนาดประมาณ 28.55 ตร.ม.

Image 1/8
บรรยากาศห้อง Type 1 Bedroom Extra ขนาดประมาณ 28.55 ตร.ม.

บรรยากาศห้อง Type 1 Bedroom Extra ขนาดประมาณ 28.55 ตร.ม.

แปลนห้อง Type 1 Bedroom Plus ขนาดประมาณ 33.02 ตร.ม.

Image 1/11
บรรยากาศห้อง Type 1 Bedroom Plus ขนาดประมาณ 33.02 ตร.ม.

บรรยากาศห้อง Type 1 Bedroom Plus ขนาดประมาณ 33.02 ตร.ม.

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคา

Atmoz Bangna (แอทโมซ บางนา) ราคา ณ วันที่ 10 สิงหาคม 2564

  • 1 Bedroom / ขนาดประมาณ 22.25-24.41 ตร.ม. / ราคา 1.72-2.23 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Exclusive / ขนาดประมาณ 25.19-27.96 ตร.ม. /ราคา 1.87-2.44 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Extra / ขนาดประมาณ 27.93-31.72 ตร.ม. / ราคา 2.29-2.73 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus / ขนาดประมาณ 30.94-34.29 ตร.ม. / ราคา 2.76-3.30 ล้านtบาท

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished พร้อมเฟอร์ฯ ลอยตัว
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท็อปหินอ่อนสังเคราะห์
  • Hob & Hood / ของยี่ห้อ MEX แบบหมุนเวียน
  • สุขภัณฑ์ COTTO
  • เครื่องกรองน้ำ Pentair
  • แอร์รุ่นกรอง PM 2.5
  • Digital Door Lock – HomeHuk
  • มีรถ Shuttle Bus ไปกลับ BTS บางนา, MRT ศรีเอี่ยม
  • จอง 5,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม. เก็บล่วงหน้า 1 ปี
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :
คอนโด ATMOZ บางนา อยู่บนทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ครบครันตั้งแต่ราคาย่อมเยา ไปจนถึงร้านอาหารในห้างก็มีทั้งเซ็นทรัลบางนาและ Mega บางนา ที่สำคัญย่านนี้กำลังมี Mega Project อีกหลายโครงการที่กำลังจะเปิดตัวในย่านนี้ นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้สนามบินหลักของไทยอย่าง สนามบินสุวรรณภูมิ รวมถึงด้วยความที่เป็นประตูสู่ภาคตะวันออกทำให้มีสำนักงานขนาดใหญ่หลายตัว ที่กำลังจะเปิดในเร็วๆนี้ ต้องบอกว่าเป็นอีกทำเลที่น่าจับตามองทีเดียว

การเดินทางโดยใช้รถ :
จากตำแหน่งของโครงการอยู่ติดถนนใหญ่บางนา-ตราด กม.4 จึงกลายเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของที่นี่เลย เพราะทำให้เกิดความสะดวกในการเดินทางมากกว่าคอนโดส่วนใหญ่ในทำเลนี้ที่มักจะขยับเข้าไปอยู่ในซอยกันนะคะ และยังอยู่ในช่วงที่เลี้ยวเข้าถนนศรีนครินทร์ได้ทัน จึงเดินทางได้สะดวกทั้งทางถนนบางนา-ตราด และถนนศรีนครินทร์เลยค่ะ นอกจากนี้ยังรายล้อมด้วยทางด่วน ทั้งทางด่วนบูรพาวิถี(กรุงเทพ-ชลบุรี), ทางด่วนเฉลิมมหานคร(ทางด่วนในเมือง) และทางด่วนกาญจนาภิเษก(วงแหวนฝั่งตะวันออก) ทำให้เดินทางสะดวกมากขึ้น แต่ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคันให้มาประมาณ 36% ถือว่าไม่เยอะมากนักค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
ค่อนข้างสะดวกสบาย เพราะหากเดินมาหน้าตลาดนัดเศรษฐี ที่ห่างจากประตูโครงการมาประมาณ 100 m. ก็จะมีให้เลือกครบครันทั้งพี่วินมอเตอร์ไซค์ และรถเมล์ หรือจะเรียกแท็กซี่ก็ง่ายเพราะเป็นโครงการติดถนนใหญ่อยู่แล้ว มีข้อควรระวังอย่างเดียวคือระยะจากตึกพักอาศัยมาถึงหน้าประตูโครงการจะมีระยะประมาณ 250 เมตร อยู่ในระยะเดินไหว ซึ่งหากไม่รอ Shuttle Service ก็ต้องออกแรงเดินสักหน่อยค่ะ

วัสดุ :
ขายแบบ Fully Furnished ให้มาทั้งเฟอร์นิเจอร์แบบ Built-in และลอยตัว เรียกได้ว่าซื้อแค่ฟูกที่นอน ชุดเครื่องนอนและเครื่องใช้ไฟฟ้าก็เข้าอยู่ได้ ส่วนวัสดุส่วนใหญ่ได้ตามมาตรฐานราคา มีบางส่วนที่ดีกว่ามาตรฐานเช่น การติดตั้งเครื่องกรองน้ำของ Pentair มาให้ แต่เราแอบเสียดายนิดนึงที่พื้นห้องครัวส่วนใหญ่ให้เป็นกระเบื้องยาง เพราะถึงแม้ว่าจะทนน้ำได้ดีกว่าลามิเนตแต่ก็ยังสู้พื้นกระเบื้องที่นิยมใช้กันไม่ได้นะคะ

การออกแบบ :
รูปแบบห้องที่ ATMOZ บางนา ทำออกมาเจาะกลุ่มวัยทำงาน นักเรียน นักศึกษา จึงมีขนาดที่กะทัดรัดหน่อย 23.08-33.02 ตร.ม. เป็นห้องรูปแบบ 1 Bedroom ทั้งหมด จัดฟังก์ชันไว้เป็นสัดส่วน ทุกแบบจะได้ครัวปิดทั้งหมด และมีหลายแบบให้เลือก เหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คนเป็นหลัก ซึ่งนั่นทำให้ราคาเริ่มต้นของโครงการนั้นหยิบจับง่าย เริ่มต้นที่ 1.59 ล้านบาท

สำหรับการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางนั้นทำออกมาได้ดี คือ จัดให้ส่วนกลางเชื่อมต่อกันทั้งหมด โดยเฉพาะ Outdoor Facility ที่เชื่อมกันเป็นพื้นที่พักผ่อนขนาดใหญ่ ให้อารมณ์รีสอร์ทตามลักษณะของแบรนด์ ATMOZ นั่นแหละ ส่วน Indoor Facility จะกระจายไว้ทุกอาคารเลยค่ะ แต่ละอาคารก็จัดฟังก์ชันไว้ต่างๆ กัน รวมกว่า 40 อย่าง

สาธารณูปโภค :
โครงการนี้มีจุดเด่นกว่าโครงการเพื่อนบ้านตรงที่ให้ Facilitiy มาเยอะที่สุดในโซนบางนานี้แล้วค่ะ เรียกได้ว่าเต็มพื้นที่ชั้น 2 ของทั้งโครงการเลย ให้สระว่ายน้ำถึง 2 สระ, สวนสามารถเดินเชื่อมต่อกันได้ตั้งแต่อาคาร A ไปจนถึงอาคาร E เลยค่ะ สำหรับ Facilities ภายในอาคารให้มาเยอะและมีความหลากหลาย เช่น Fitness, Health Station, Fine Dinning Kitchen, Co-Working Lounge, Spa Room, Live Studio, Cinematic Room, Sauna Room, Grooming Salon ( Salon & Nail ) เป็นต้น สำหรับที่จอดรถให้มาไม่เยอะนัก รวมซ้อนคันประมาณ 36% และอัตราส่วนลิฟต์อยู่ในช่วงประมาณ 110 : 1 พอแชร์กันใช้ได้ตามปกติ หรือถ้าอยู่ชั้นล่างๆ แล้วรีบยังพอเดินลงบันไดได้ค่ะ


Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 80,000 บาท/ตร.ม., 10 สิงหาคม 2564

  • ทำเล 8.5/10 – อุดมสมบูรณ์มาก หาของกินของใช้ง่าย
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – ติดถนนบางนา-ตราด กม. 4 เดินทางสะดวกทั้งคนที่ใช้เส้นบางนา-ตราดและศรีนครินทร์ ที่จอดรถรวมซ้อนคัน 36%
  • ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ติดถนนใหญ่มีให้เรียกใช้ทั้งวินมอเตอร์ไซค์, รถเมล์ และ Taxi แต่ต้องเดินจากอาคารมาถึงซุ้มประตูโครงการประมาณ 250 m.
  • วัสดุ 7.75/10 – Fully Furnished แต่งครบพร้อมอยู่ วัสดุกลางๆ มีบางอย่างที่ดีเกินมาตรฐาน
  • แบบ 7.5/10 – มีแบบห้องให้เลือกเยอะ ฟังก์ชันห้องแบ่งเป็นสัดส่วน
  • สาธารณูปโภค 8.5/10 – ให้มาเยอะที่สุดในย่านบางนา ทั้ง Indoor และ Outdoor Facility

  • MAIN CLASS
  • 8.06 / 10.00

ATMOZ บางนา เหมาะกับใคร

โครงการ ATOMZ บางนา เหมาะกับคนที่ทำงาน เรียนหรือต้องการพักอาศัยในย่านบางนา ชอบคอนโดที่มีส่วนกลางให้ใช้เยอะๆ ถึงแม้จะมีจำนวนยูนิตเยอะหน่อยไม่เป็นไร และอยากอยู่คอนโดติดถนนใหญ่ที่เดินทางง่ายทั้งรถส่วนตัวและรถสาธารณะ  ต้องการขนาดห้องสำหรับอยู่ได้ 1-2 คน ให้เฟอร์นิเจอร์มาครบ พร้อมอยู่ ในราคาหยิบจับง่าย มีงบประมาณระดับ 1.59 – 3.3 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 11,000 – 23,000 บาท/เดือน


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc