รีวิวฉบับที่ 2058 … สวัสดีครับทุกคน วันนี้ผมจะพาทุกคนมาชมคอนโด Low Rise 3 อาคารในซอยอ่อนนุช 21 กับ Aspire สุขุมวิท-อ่อนนุช เป็นคอนโดติดคลองพระโขนงในซอยอ่อนนุช 21 ถึงจะห่าง BTS หน่อย แต่ก็มี Shuttle Bus ให้บริการ ภายในจัดส่วนกลางมาให้เป็นอาคาร Club House 2 ชั้น ภายใต้แนวคิด “Colonial Pop” ห้องพักอาศัยก็มีให้เลือกหลายแบบ  ในราคาเริ่มต้นที่ 2.2 ล้านบาท เริ่มอยากรู้จักกันแล้วสินะครับ ตามผมเข้าไปดูภายในกันเลย

ข้อมูลโครงการ

12 March 2020

  • Aspire Sukhumvit-Onnut (แอสปาย สุขุมวิท-อ่อนนุช)
  • บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: ถนนอ่อนนุช เขต สวนหลวง
  • ที่ดินประมาณ 6-0-64 ไร่
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร รวม 553 ยูนิต
  • อาคาร A มี 168 ยูนิต
  • อาคาร B มี 203 ยูนิต
  • อาคาร C มี 182 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 29 ยูนิตที่อาคาร B
  • ที่จอดรถประมาณ 206 คัน คิดเป็น 36% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • เริ่มก่อสร้าง : Q1/2562
  • แล้วเสร็จ : Q4/2562
  • Studio 26.50  ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.2 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 30.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.45 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 36.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 41.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.6 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 50.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.5 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 52.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 2.2 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ 85,000 บาท/ตร.ม.
  • ว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1623

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.710003, 100.614004
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการครับ… “อ่อนนุช” เคยเป็นชุมชนที่มีความเจริญมากในช่วงหนึ่ง แต่หลังจากเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง ทำให้การพัฒนาในย่านนี้หยุดชะงักไป จนกระทั่งการมาของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่เดิมเคยมีสถานีอ่อนนุชเป็นสถานีปลายทาง จึงทำให้ทำเลนี้ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

ทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่ภายในซอยอ่อนนุช 21 ซึ่งเป็นซอยย่อยจากถนนสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) ถ้าเข้าจากทางฝั่งถนนสุขุมวิทก็จะมีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร เข้าได้จากซอยสุขุมวิท 77 และ สุขุมวิท 81 และยังมีซอยย่อยอื่นๆให้เลือกลัดเลาะไปยังพื้นที่ใกล้เคียงได้เยอะ สามารถเชื่อมต่อไปออกทางฝั่งถนนศรีนครินทร์ได้ง่าย หรือจะลัดเลาะไปออกพัฒนาการหรือฝั่งบางนาได้ ซึ่งทำเลในซอยแบบนี้อาจจะไกลถนนใหญ่หน่อยก็จริง แต่มีข้อได้เปรียบที่ได้บริบทรอบๆโครงการที่เงียบสงบ และไม่มีมลภาวะเรื่องฝุ่นและเสียงรบกวนด้วย จะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าคอนโดที่ติดถนนใหญ่

ทำให้การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวดูจะเป็นการสัญจรหลักของโครงการนี้ เพราะไม่ได้อิงแนวรถไฟฟ้า อีกทั้งยังอยู่ในซอยย่อยด้วย และอย่างที่บอกไปว่ามีซอยย่อยให้ใช้เยอะ เดินทางไปรอบได้หลายทางจึงทำให้ใช้รถยนต์ส่วนตัวได้สะดวก แต่ตัวโครงการเองผมมองว่าอาจจะให้พื้นที่จอดรถมาน้อยไปสักหน่อยสำหรับทำเลแบบนี้ โดยจะมีที่จอดรถประมาณ 206 คัน คิดเป็น 36% ไม่รวมจอดซ้อนคันครับ

ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะก็ไม่ได้แย่ซะทีเดียวนะครับ อาจจะมีระยะห่างจาก BTS อ่อนนุชประมาณ 2 กิโลเมตร แต่ทางโครงการเองก็ให้รถรับส่ง BTS อ่อนนุช ทุกๆ 1 ชั่วโมง ตั้งแต่ 6.00-19.00 น. ในซอยอ่อนนุชเองก็มีรถสองแถวสิ่งตลอดตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำๆ ส่วนรถแท็กซี่และพี่วินมอเตอร์ไซค์นี่จะมีให้เห็นกันเยอะเลยครับภายในซอย เรียกว่าถ้าเดินออกมาหน้าปากซอยอ่อนนุช 21 ก็จะมีให้ใช้บริการได้ไม่ยากเลยครับ

โครงการอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 77 จึงจะอิงความอุดมสมบูรณ์ของถนนอ่อนนุชเป็นหลัก เอาจากตัวโครงการใกล้ที่สุดเยื้องๆปากซอยอ่อนนุช 21 ก็มี 7-Eleven ให้เลย บนถนนอ่อนนุชเองก็มีของกินของใช้ขายให้เห็นอยู่ตลอด ส่วนถ้าจะเป็น Avenue ก็จะมี People Park ที่เปิดมาใหม่ในระยะประมาณ 700 เมตร ส่วนถ้าจะเอาหลักๆเลยก็อิงที่บริเวณจุดใกล้สถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุช ซึ่งถือเป็นสถานีที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงมากสถานีหนึ่งเลย มีทั้ง Hypermarket อย่าง Big C Extra, Tesco Lotus, ใกล้ๆกันก็มีตลาดอ่อนนุช หรือจะเดิน Community mall ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของถนนสุขุมวิทอย่าง The Phyll, ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-eleven จะเป็นร้านอาหารก็มีให้เลือกหลากหลาย แต่ถ้าอยากทานอาหารเป็นร้านดีๆหน่อยก็มายัง Century movie Plaza ก็จะมีร้านอาหารให้เลือกเยอะเลยครับ พร้อม Tops Supermarket ภายใน แถมเบื่อๆก็มาดูหนังหรือสายสุขภาพก็มาออกกำลังกายใน Studio ที่ Century ก็มีเหมือนกัน

เส้นทางการเดินทาง

วันนี้เราเริ่มการเดินทางกันจากถนนสุขุมวิท เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 77 หรือที่เรียกกันว่าถนนอ่อนนุช ให้เราตรงเข้าไปเรื่อยๆประมาณ 1.7 กิโลเมตร ทางฝั่งซ้ายมือจะมีซอยอ่อนนุช 21 ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยครับ จากนั้นตรงต่อไปภายในอีกประมาณ 300 เมตร จะเจอที่ตั้งโครงการอยู่ทางซ้ายมือ

Image 1/4
เริ่มการเดินทางกันในซอยสุขุมวิท 77 หรือ ถนนอ่อนนุช ตรงต่อไปเรื่อยๆเลยครับ

เริ่มการเดินทางกันในซอยสุขุมวิท 77 หรือ ถนนอ่อนนุช ตรงต่อไปเรื่อยๆเลยครับ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

มาดูแผนที่รอบๆโครงการกันครับ ว่าเมื่อตึกเสร็จแล้ว แต่ละฝั่งเราจะได้วิวอะไร พื้นที่ข้างๆติดกับอะไรอย่างไรกันบ้าง เริ่มต้นที่พื้นที่ของเรามีลักษณะเป็นพื้นที่ในซอยย่อย ทำให้พื้นที่รอบๆโครงการไม่ค่อยมีความวุ่นวายมากนัก และด้านหลังทางฝั่งทิศเหนือก็ติดกับคลองพระโขนงด้วย ทำให้ได้วิวคลองด้านหลังด้วยสำหรับบางอาคาร เราลองไปดูแต่ละฝั่ง ในแต่ละอาคารกันครับ

อาคาร A – เป็นอาคารที่อยู่ด้านหน้าทางเข้าออกพื้นที่โครงการ ทำให้จะได้เปรียบในเรื่องของการเข้าออกที่สะดวก และจะได้รับวิวฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้และทิศตะวันตกเฉียงเหนือเป็นหลัก

  • ทิศตะวันออกเฉียงใต้ – จะได้วิวพื้นที่ถนนหน้าโครงการ ฝั่งตรงข้ามมีสนามหญ้าโล่งๆ และอาคาร 8 ชั้น ซึ่งอาจจะทำให้วิวฝั่งนี้ไม่ได้โล่งนัก แต่ก็ไม่ได้ชิดนะ ที่สำคัญทางฝั่งด้านนี้จะไม่ได้รับแดดร้อนช่วงบ่ายทางฝั่งทิศตะวันตกด้วย
  • ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ – จะเป็นฝั่งที่หันเข้าภายในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ซึ่งจะได้วิวส่วน Club House ตรงกลางที่ถูกจัดไว้ค่อนข้างสวยงาม แต่ต้องแลกมากับการหันหน้าเข้ากับอาคารพักอาศัย B และ C ด้วย อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวและวิวโล่งๆไปบ้าง

อาคาร B – เป็นอีกอาคารที่อยู่ด้านทางเข้าออกโครงการ ทำให้ได้เปรียบเรื่องการเข้าออกที่สะดวกด้วยเช่นกัน แถมยังเป็นอาคารที่ใกล้กับ Club House และสวนมากที่สุด แถมยังใกล้กับจุดรับส่งของรถตู้โครงการด้วย และจะได้รับวิวฝั่งทิศตะวันออกและทิศตะวันตกเป็นหลัก ที่สำคัญอาคารนี้จะได้วิวคลองพระโขนงด้วยเช่นกัน

  • ทิศตะวันออก – เป็นฝั่งที่หันเข้าภายในโครงการ ได้วิวส่วน Club House ตรงกลาง แต่ต้องแลกมากับการหันหน้าเข้ากับอาคารพักอาศัย A และ C ด้วย อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวและวิวโล่งๆไปบ้าง
  • ทิศตะวันตก – จะเป็นฝั่งที่หันออกไปยังคลองพระโขนง และพื้นที่โล่งในปัจจุบัน แต่ในอนาคตอาจจะมีโครงการข้างเคียงขึ้นทางฝั่งนี้นะครับ

อาคาร C – เป็นอาคารที่อยู่ด้านในของพื้นที่ จะมีความแตกต่างกับ 2 อาคาร ด้านหน้าพอสมควร เพราะการอยู่ด้านในจะทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า 2 อาคารด้านหน้า ได้วิวคลองด้านหลังแบบไม่มีอาคารอะไรมาบัง แต่ต้องแลกมากับการเข้าออกที่ยากกว่า 2 อาคารด้านหน้าสักหน่อย อาคารนี้จะรับวิวฝั่งทิศเหนือและทิศใต้เป็นหลัก

  • ทิศเหนือ – เป็นวิวที่ติดกับคลองพระโขนงด้านหลัง และพื้นที่แนวราบ ทำให้เป็นวิวที่ค่อนข้างโล่ง เป็นหนึ่งในวิวที่ดีที่สุดของโครงการเลย
  • ทิศใต้จะได้วิวพื้นที่ภายในโครงการ เห็น Club House และอาคาร A, B จะมีครึ่งอาคารที่เห็น Club House ส่วนอีกครึ่งจะติดแนวอาคาร A ครับ

ลองไปชมภาพบรรยกาศแนวราบ และวิวบนอาคารแต่ละอาคารกันครับ

บริเวณด้านหน้าโครงการจะมีพื้นที่สนามหญ้าขนาดใหญ่ ส่วนด้านในเป็นซอยตัน ที่มีฝั่งตรงข้ามเป็นกลุ่มอาคาร 8 ชั้น เยื้องๆ กับอาคาร A และ C ทำให้มีผลกับวิวทางฝั่งนี้เล็กน้อย

ฝั่งตรงข้ามโครงการจะเป็นอาคารพักอาศัย 8 ชั้น เช่นกัน

จากนั้นลองไปดูส่วนทางฝั่งถนนที่เข้ามากันบ้างครับ

เดินออกมาจะมีโครงการที่กำลังจะขึ้นในอนาคตของ AP ครับ จะอยู่ทางฝั่งใกล้คลองทิศตะวันตก มีผลกับวิวของอาคาร B

ถัดออกมาอีกตามซอยที่เข้ามาก็จะมีอาคารพักอาศัย 7-8 ชั้น อยู่ด้วย แต่มีระยะค่อนข้างห่าง ไม่มีผลกับวิวของโครงการนัก

วิวจากชั้น 6 อาคาร A ฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือ – เป็นฝั่งที่หันหน้าเข้าภายในโครงการ จะเห็นตัว Club House ที่อยู่ตรงกลาง โดยจะมีอาคารพักอาศัยล้อมรอบอยู่ ฝั่งซ้ายคืออาคาร B ส่วนฝั่งขวาคืออาคาร C วิวฝั่งนี้จะได้เห็นบรรยากาศภายในที่ค่อนข้างสวยนะ มีความเคลื่อนไหว แต่จะแลกมากับการมีอาคารอื่นๆให้เห็นในแนวนี้ด้วย แถมยังอาจจะมีผลกระทบเรื่องเสียงด้วย

วิวจากชั้น 6 อาคาร A ฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ – เป็นวิวฝั่งหน้าโครงการที่จะมีสนามหญ้าหน้าตรงข้ามโครงการเป็นพื้นที่สีเขียวให้ และมีอาคารพักอาศัย 8 ชั้น อยู่ 2 ฝั่ง แต่ก็มีระยะห่างพอสมควร ฝั่งนี้จะได้บรรยากาศที่เงียบสงบกว่าอีกฝั่งของอาคาร เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความวุ่นวาย เน้นวิวโล่ง

วิวจากชั้น 6 อาคาร B ฝั่งทิศตะวันออก – เป็นฝั่งที่หันเข้าภายในโครงการ จากมุมมองจะทำให้เห็นแนวอาคารปิดทึบเกือบตลอดแนว เพราะอาคาร A กับ อาคาร C มีแนวอาคารทับซ้อนกันจากมุมมองนี้

วิวจากชั้น 6 อาคาร B ฝั่งทิศตะวันตก – ทางฝั่งนี้จะเห็นคลองพระโขนง ที่ฝั่งตรงข้ามมีพื้นที่แนวราบ ไม่มีอาคารสูงทางนี้ ในปัจจุบัน ซึ่งพื้นที่ติดโครงการของเราจะมีการล้อมรั้วไว้เพราะจะมีโครงการเกิดขึ้นในอนาคต ทำให้บางส่วนอาจจะโดนบังวิวไปบ้าง และส่วนที่เหลือก็อาจจะโดนบีบให้วิวแคบลงได้ เหมาะกับคนที่อาจจะไม่ได้สนใจเรื่องวิวนัก หรือมองในแง่ดีในอนาคตก็อาจจะได้แนวอาคารข้างเคียงมาช่วยบังแดดช่วงบ่ายให้นะ

วิวจากชั้น 6 อาคาร C ฝั่งทิศใต้ – เป็นฝั่งที่หันเข้าภายในอาคารของอาคาร C จะมีมุมคล้ายๆกันกับของอาคาร B แต่จะต่างตรงที่มองเห็นสระว่ายน้ำด้วย

วิวจากชั้น 6 อาคาร C ฝั่งทิศเหนือ – เป็นฝั่งที่ได้วิวโล่ง เห็นสวนของเราเองด้านหลัง และคลองพระโขนง แถมฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่พักอาศัยแนวราบด้วย ทำให้คงจะพูดได้เต็มปากว่าวิวฝั่งนี้โล่งที่สุด ที่สำคัญคือคุณสมบัติของทิศเหนือจะไม่ค่อยร้อนด้วยนะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • People Park ~ 700 ม.
  • วัดยาง ~ 750 ม.
  • วัดมหาบุศย์ ~ 1 กม.
  • Big C Extra ~ 1.6 กม.
  • ตลาดอ่อนนุช ~ 1.6 กม.
  • Habito Mall ~ 1.7 กม.
  • Lotus อ่อนนุช ~ 2.1 กม.
  • BTS อ่อนนุช ~ 2.1 กม.
  • Century Movie Plaza ~ 2 กม.
  • Summer Hill ~ 2.8 กม.
  • The Phyll ~ 3.4 กม.
  • Pickadaily ~ 3.5 กม.
  • รพ.กล้วยน้ำไท ~ 3.5 กม.
  • รพ.สุขุมวิท ~ 3.6 กม.
  • Wells International School~ 4 กม.
  • Anglo Singapore ~ 4 กม.
  • จุฬาการแพทย์ ~ 4.8 กม.
  • Bangkok Prep ~ 4.8 กม.
  • Ekamai International School ~ 5 กม.
  • W District ~ 6 กม.
  • Saint Andrews สุขุมวิท 71 ~ 7.4 กม.
  • Saint Andrews เอกมัย ~ 7.4 กม.

รายละเอียดโครงการ

พื้นที่โครงการมีทางเข้าออกทางเดียวทางซอยอ่อนนุช 21 ภายในมีพื้นที่ประมาณ 6 ไร่ แบ่งออกเป็น คอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร รวมทั้งหมด 553 ยูนิต โดยจะมีอาคาร Club House อยู่ตรงกลางระหว่าง 3 อาคาร การแยกอาคารออกเป็น 3 อาคารลักษณะนี้จะช่วยให้สามารถกระจายจำนวนผู้อยู่อาศัยออกเป็น 3 จุด เพิ่มความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้ความหนาแน่นในแต่ละชั้นลดลงด้วย แถมยังเข้าถึงพื้นที่ส่วนกลางตรงกลางได้ง่ายและได้เป็นมุมมองให้กับห้องพักอาศัยด้านบนด้วย นอกจากนั้นยังมีพื้นที่สวนด้านหลังที่ใกล้กับพื้นที่คลองพระโขนงด้วย ภายในจะเป็นสวนสาธารณะที่มีลู่วิ่งให้ออกกำลังกาย จุดเด่นของโครงการนี้คืออยู่ในซอยทำให้ได้บรรยากาศที่เงียบสงบ แต่ยังสามารถเชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิทเข้าตัวเมืองได้ง่าย อีกทั้งพื้นที่ยังติดคลองพระโขนง ให้บรรยากาศที่แตกต่างและเป็นธรรมชาติ

ดูพื้นที่รอบๆโครงการเสร็จแล้ว เราลองเข้าไปดูภายในโครงการกันบ้างดีกว่า แต่ก่อนจะเข้าไปขอเล่าแนวคิดโครงการให้ฟังเล็กน้อยนะครับ ตัวอาคารของที่นี่ออกแบบในสไตล์ Colonial Pop ซึ่งเป็นสไตล์ที่นำเอาอัตลักษณ์ของความเป็นยุคเก่าอย่าง Colonial มาผสมผสานกับลายเส้นและสีที่ทำให้มีความเป็นสมัยใหม่มากยิ่งขึ้น จึงทำให้ดูไม่ตกยุค

ทางเข้าออกจะแยกออกเป็น 2 ฝั่งชัดเจน มีป้อม รปภ. อยู่ตรงกลาง โดยจะเป็นรั้วกั้นไม้กระดกอัตโนมัติ ระบบ Keycard ระยะใกล้

การเดินรถภายในโครงการจะเป็นแบบเดินรถทางเดียวทั้งหมด จอดรถใต้แนวอาคาร ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง คือทางฝั่งใต้อาคาร B ที่อยู่ทางฝั่งซ้าย และฝั่งใต้อาคาร A กับ C ที่อยู่ทางฝั่งขวา ซึ่งสามารถจอดรถตรงไหนก็ได้ทั้งหมด มีที่จอดรถทั้งโครงการประมาณ 206 คัน คิดเป็น 36% ไม่รวมจอดซ้อนคัน

เมื่อเข้ามาภายใน ทางฝั่งซ้ายมือคืออาคาร B ซึ่งเป็นพื้นที่ใต้อาคารทั้งหมด

ส่วนตรงกลางจะเป็นทางที่วนออกมาของทั้งสองฝั่งอาคาร B และฝั่งอาคาร A กับ C ครับ ตรงนี้จะตรงต่อเข้าไปไม่ได้นะ เพราะเป็นทางออกอย่างเดียว

ด้านในจะมีจุดที่เป็นพื้นที่รับส่งของ Shuttle Bus โครงการ ที่หน้าอาคาร B และ A ซึ่งจะมีให้บริการรับส่ง BTS อ่อนนุช ทุกๆชั่วโมงตั้งแต่ 6.00 – 19.00 น. ครับ

ส่วนถ้าเข้ามาแล้วเลี้ยวขวาจะเป็นอีกฝั่งที่จอดใต้อาคาร A และอาคาร C ครับ

มาเริ่มกันที่อาคาร A เลยดีกว่า จะเป็นอาคารที่พิเศษกว่าเพื่อนหน่อย เพราะเป็นอาคารเดียวที่มีพื้นที่ส่วนกลางภายในอาคาร นั่นก็คือ Co-Working Space ที่ทำหน้าที่เป็น Lobby ด้วย ลองเข้าไปดูกันครับ

เป็นอาคารที่อยู่ใกล้กับทางเข้าออกโครงการ จุดเด่นคือเข้าออกโครงการง่าย มีพื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการ มีที่จอดรถเยอะเพราะเชื่อมไปที่อาคาร C ด้วย จะมีโถงลิฟต์ค่อนข้างไปฝั่งทิศใต้ของอาคาร มีลิฟต์โดยสารให้ 2 ตัว มีบันไดหนีไฟสองจุด พื้นที่ส่วนกลางของอาคารนี้จะเป็น Co-Working Space มี ห้องน้ำแยกชายหญิงให้ภายใน

เมื่อเข้ามาจะมีซ้ายมือเป็น Co-Working Space ตรงกลางเป็น Mail Box ส่วนด้านซ้ายจะเป็นทางเชื่อมมาจากพื้นที่จอดรถ และโถงลิฟต์อาคารครับ เข้าไปดูส่วนซ้ายมือกันก่อนเลย

เข้ามาจะเป็นพื้นที่ค่อนข้างกว้างนะ ตกแต่งดูทันสมัยเลยทีเดียว ภายในนี้มีพื้นที่ให้เลือกใช้งานได้หลายจุด เชื่อว่าคงจะเป็นมุมโปรดของใครหลายๆคนแน่

มีพื้นที่นั่งเล่นแบบพักผ่อนสบายๆ เหมือนอยู่บ้าน

ด้านในมีโต๊ะสำหรับนั่งคุยงานหลายๆคนได้ด้วย

หรือจะเป็นห้องแยกที่จัดเป็น Meeting Room ไว้ให้สำหรับการประชุมหรือคุยงานแบบเป็นส่วนตัว

แถมยังมีห้องน้ำแยกชายหญิงภายในตัวให้ด้วยนะครับ

ด้านข้างมีห้อง Mail Box ที่จะมีหน้าตาประมาณนี้กันทุกอาคารเลย

ส่วนโถงลิฟต์ก็จะมีหน้าตาประมาณนี้ครับ สำหรับที่ชั้น 1 นะ ถ้าขึ้นไปด้านบนจะเป็นอีกแบบ ซึ่งเดี๋ยวผมจะพาไปชมอีกที

เดินออกจากอาคาร A มาก่อน เรามาดูพื้นที่ส่วนกลางกันให้หมดก่อนแล้วค่อยขึ้นไปข้างบนอาคารกันนะ ด้านหน้าที่เราเป็นนี้เป็นอาคาร Club House ครับ เข้าไปชมกันเลย

ตัวอาคารจะมีแนวทางเดินเข้าไป ซึ่งจะถูกจัดไว้เป็นสวนริมสองข้างทาง ช่วยแยกพื้นที่ให้ดูเป็นสัดส่วนมากขึ้น

เดินเข้ามา ตัวอาคารจะยกระดับสูงขึ้นจากพื้น เพราะเป็นส่วนของสระว่ายน้ำที่ยกระดับสูงขึ้นจากระดับพื้นปกติ

เมื่อเดินขึ้นมาจะเจอกับสระว่ายน้ำรูปทรง Free Form ระบบเกลือยาว 19.91 x 4.56 เมตร ลึก 1.2 เมตร ไม่มีสระเด็ก ไม่มี Slope แต่มีสระ Jacuzzi ภายในให้นั่งเล่นกันได้ ตอนกลางคืนจะเปิดไฟในสระเป็นสีชมพู ทำให้ดูแปลกตาและมีสีสันไปอีกแบบ

ริมสระมีเตียง Sunbed ให้นั่งเล่นกันได้ด้วยครับ

ลองเข้าไปดูภายในอาคารตัว Club House กันบ้างดีกว่า

ที่ชั้น 1 ของอาคารจะมีพื้นที่ห้องน้ำแยกชายหญิงให้ด้วย เข้าไปดูกัน

ผมลองเดินเข้าห้องน้ำชายมา ด้านหน้าจะมีตู้ล้อคเกอร์ให้ใช้งานด้วย

ถัดเข้ามาเป็นอ่างล้างหน้าตกแต่งไว้ค่อนข้างสวยงามเลยทีเดียว

จากนั้นจะเป็นแนวทางเดินเข้าไปด้านใน

ประกอบไปด้วยส่วนโถปัสสาวะ ห้องน้ำ 2 ห้อง และห้องอาบน้ำด้านใน ครบครัน

ขึ้นไปที่ชั้น 2 กันครับ

จะมีส่วนของ Fitness ขนาดใหญ่ ที่ชอบคือรับวิวได้รอบทิศเลย เขาเลือกวางอุปกรณ์ได้ดีด้วยนะ

เริ่มที่ส่วนด้านในจะวางเป็นพวกเครื่องเล่นแบบ Weight Training

ด้านข้างมีพื้นที่นั่งพักให้ด้วย สำหรับใครเหนื่อยก็ไปพักชมวิวด้านนอกได้

ส่วนพื้นที่ริมหน้าต่างจะเป็นพวกเครื่องเล่นประเภท Cardio รับวิวภายนอก จะได้ไม่เบื่อเนอะ

มีทีวีให้ด้วยนะ ผมว่าเขาจัดบรรยากาศของห้องออกกำลังกายมาให้ดีเลยนะ

ด้านข้างจะมีแนวทางเดินไปยังสวนชั้นสองของอาคารครับ

เดินออกมาจะมีเหมือนพื้นที่ Terrace ที่รับวิวสวนและสระว่ายน้ำ เหมาะแก่การใช้งานช่วงเย็นๆ ที่แดดไม่ร้อนนะ

มองลงไปเห็นสระว่ายน้ำและสวนด้านหลังสวยเลยแหละ

ลงจากอาคารมาเดินข้างล่างกันบ้าง เป็นแนวทางเดินไปสวนด้านหลังครับ

ด้วยความที่อาคารพึ่งสร้างเสร็จมาสดๆร้อนๆ ต้นไม้อาจจะยังไม่เขียวขจีนักนะ แต่เชื่อเลยว่าอนาคตต้องเขียวและร่มรื่นมากๆแน่ เพราะจากปริมาณที่เขาจัดต้นไม้แล้ว ต่อให้ยังไม่โตก็ค่อนข้างร่มรื่นแล้วนะ

ด้านข้างแนวทางเดินมีพื้นที่นั่งเล่นรับก่อนด้านหน้าตรงนี้ พร้อมสวนข้างๆ

ส่วนอีกฝั่งจะเป็นพื้นที่แนวทางเดินที่จะเข้าไปเชื่อมกับ Jocking Track ด้านใน มีพื้นที่นั่งกระจายเป็นจุดๆให้

ด้านในจะมีแนว Jocking Track ยาวประมาณ 150 เมตร มีพื้นที่นั่งใต้ร่มไม้กระจายอยู่เรื่อยๆครับ

ทีนี้ขึ้นมาบนอาคารกันบ้าง นี่คือโถงลิฟต์ในแต่ละชั้นของอาคาร A ซึ่งจะพิเศษกว่าอาคารอื่นๆ เพราะมีความโล่งและกว้างมากเลย

ส่วนอาคาร B และ C จะได้โถงลิฟต์ภายในอาคารประมาณนี้ครับ ซึ่งก็ไม่ได้แย่นะ มีขนาดเท่ากับอาคารทั่วๆไป

ส่วนโถงทางเดินทั้งสามอาคารจะมีหน้าตาประมาณนี้ มีช่องแสงให้ที่มุมแนวทางเดิน

ขึ้นมาบนอาคาร A กันก่อน เมื่อขึ้นลิฟต์มาจะมีโถงลิฟต์ที่ค่อนข้างกว้าง (กว่าอาคารอื่นๆ) แต่มีตำแหน่งไม่กลางอาคาร  ทำให้มีบางห้องต้องเดินไกลหน่อย แต่จะได้เรื่องความเป็นส่วนตัวแลกมา (ไม่ต้องมีคนเดินผ่านไปมาหน้าห้องบ่อยๆ) ภายในจะมีแนวทางเดินแบบ Double Corridor มีห้องประกบทั้งซ้ายและขวาตามแนวทางเดิน มีช่องแสงให้ที่มุมทั้งสองฝั่งรวมถึงโถงลิฟต์ด้วยครับ

ส่วนห้องพักอาศัยจะเป็นอาคารที่มีทั้งหมด 24 ยูนิต/ชั้น โดยจะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom 30.5 และ 36 ตร.ม. ซะเป็นส่วนใหญ่ มีห้อง Studio 26.5 ตร.ม. และห้อง 2 Bedroom 50 ตร.ม. มาให้ห้องละชั้น จัดเป็น Rear Item เหมือนกันนะ เพราะอยู่ในฝั่งที่ได้รับวิวภายนอกโครงการ ค่อนข้างเงียบสงบ

ถัดมาที่อาคาร B เป็นอีกอาคารที่ใกล้ทางเข้าออก ใกล้ตัว Club House และใกล้สวนด้านหลัง เหมาะกับคนที่ชอบใช้งาน Club House ความพิเศษของอาคารนี้คือจะมีจุดรับส่ง Shuttle Bus อยู่ที่หน้าทางเข้าอาคารเลย ทำให้ใช้งานได้สะดวก จะเดินไปสวนด้านหลังก็ง่าย

อาคารนี้จะมีทั้งหมด 29 ยูนิต/ชั้น หนาแน่นขึ้นมาหน่อย ซึ่งจะได้โถงลิฟต์กลางอาคาร ทำให้สามารถแบ่งออกเป็นสองฝั่งซ้ายและขวา มีโถงทางเดินแบบ Double Corridor เช่นกัน ห้องพักอาศัยส่วนใหญ่ยังคงเน้นไปที่ห้อง 1 bedroom 30.5 และ 36 ตร.ม. แต่จะมีห้อง Studio 26.5 ตร.ม. แทรกมาให้เห็นบ้าง สำหรับห้องมุมจะเป็นห้อง 2 Bedroom ที่จัดมาให้ 50 ตร.ม. 2 ห้อง และ 41 ตร.ม. 1 ห้อง ห้องที่ผมว่าพิเศษหน่อยคงจะเป็นห้อง 2 Bedroom 50 ตร.ม ทางฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เพราะติดกับบันไดหนีไฟ ไม่ต้องต้องกับห้องอื่น และได้วิวคลองภายนอก แบบที่ถ้ามีโครงการในอนาคตขึ้นมา ก็จะได้รับผลกระทบไม่มากนัก เพราะทำมุมหลบแนวอาคาร ทำให้ไม่มาบีบและบังห้องมุมนี้มากนัก

ส่วนอาคารด้านหลังอย่างอาคาร C ก็มีจุดเด่นที่ได้ความสงบกว่า ไม่ต้องมีรถผ่านเข้าออกให้ได้ยินบ่อยๆ ได้ความเป็นส่วนตัวเพราะอยู่ด้านใน ได้วิวคลองด้านหลังรวมถึงสวนด้านข้างด้วย แต่ต้องแลกมากับการที่เดินเข้าออกไกลนิดนึง ครับ แถมอาคารนี้จะมีห้องพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 1 เลย 14 ยูนิต ความพิเศษคือจะมีห้องส่วนใหญ่เป็น​ Garden Access เชื่อมต่อกับสวนด้านหลังด้วย โดยจะประกอบไปด้วย ห้อง 1 bedroom 30.5 และ 36 ตร.ม. และห้อง 2 Bedroom ที่จัดมาให้ 41, 50 ตร.ม. และ ห้องที่มีเฉพาะอาคารนี้อย่าง 52 ตร.ม. อย่างละ 1 ห้อง

 

ด้านบนอาคารนี้จะมีรูปแบบค้ลายๆ อาคาร A ที่มี 24 ยูนิต/ชั้น เหมือนกัน แต่จะได้โถงลิฟต์ที่แคบกว่าหน่อย (ซึ่งก็เป็นระยะปกตินะ) โถงทางเดินแบบ Double Corridor เช่นเคย ห้องพักอาศัยประกอบไปด้วย ห้อง 1 bedroom 30.5 และ 36 ตร.ม. และห้อง 2 Bedroom ขนาด 50 และ 52 ตร.ม. อย่างละ 1 ห้อง และ ห้อง 2 Bedroom ขนาด 41 ตร.ม. 2 ห้องที่มุมอาคาร เรื่องวิวของอาคารนี้จะค่อนข้างหลากหลาย ถ้าเป็นฝั่งทิศเหนือทั้งหมดจะได้วิวคลองพระโขนงและพื้นที่แนวราบ เขาจึงเลือกวางห้อง ห้อง 2 Bedroom ขนาด 52 ตร.ม. ที่มีเพียง 8 ยูนิตทั้งโครงการไว้ทางนั้น ส่วนฝั่งทิศใต้ จะเป็นครึ่งอาคารฝั่งทิศตะวันตก (ขวา) จะได้วิว Club House และสวน ส่วนครึ่งฝั่งทิศตะวันออก (ซ้าย) จะได้วิวภายนอกโครงการฝั่งถนนหน้าโครงการ แต่จะโดนอาคาร A บีบให้มุมแคบลงด้วย

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สวนสาธารณะ
  • Jocking Track ระยะประมาณ 150 เมตร
  • Co-Working Space
  • Terrace สำหรับพักผ่อน
  • สระว่ายน้ำระบบเกลือยาว 19.91 x 4.56 เมตร ลึก 1.2 เมตร ไม่มีสระเด็ก ไม่มี Slope แต่มีสระ Jacuzzi ภายใน
  • ห้องออกกำลังกาย
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 92 :  1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 84 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 101 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก C 91 : 1
  • ที่จอดรถประมาณ 206 คัน คิดเป็น 36% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card ระยะใกล้
  • รถรับส่ง BTS อ่อนนุช ทุกๆ 1 ชั่วโมง ตั้งแต่ 6.00-19.00 น.

แบบห้อง

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะครับว่าโครงการนี้ขายแบบ Fully Fitted แต่ปัจจุบันมีโปรโมชันแถมเฟอร์นิเจอร์ครบให้นะ ภายในห้องจะได้ Digital Door Lock จาก Samsung ภายในจะได้พื้นส่วนครัวเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ พื้นภายในห้องจะได้เป็นลามิเนต ผนังและฝ้าฉาบเรียบทาสี ให้ไฟ Donwlight ทั้งหมด ส่วนครัวจะท็อปครัวเป็นลามิเนต เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันแบบต่อท่อออกภายนอกจาก TEKA ส่วนภายในห้องน้ำจะใช้โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวจาก Cristina อ่างล้างหน้าจาก Cotto มาพร้อมกระจกเงาขนาดใหญ่และผนัง Low Wall กับธรนีประตูปิดผิวหินสังเคราะห์ ส่วนอาบน้ำไม่ได้ให้ฉากกั้นอาบน้ำมา ได้เป็นฝักบัว Hand Shower จาก American Standard หน้าต่างและบานเลื่อนในห้องจะได้เป็นกรอบบานอลูมิเนียมกระจกเขียวใสตัดแสง นอกจากนั้นเขายังให้เครื่องปรับอากาศจาก Samsung มาให้ด้วยนะ (จำนวนตามขนาดห้อง)

มาเริ่มกันที่ห้องตัวอย่างห้องแรกของวันนี้กันเลย เป็นห้องที่มีจำนวนมากที่สุดในโครงการ ลักษณะห้องนี้จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือส่วนทางเข้าห้อง และภายในตัวห้อง ส่วนแรกจะประกอบไปด้วยทางเข้าห้อง ครัว และห้องน้ำ ซึ่งจะถูกกั้นแบ่งโซนไว้ให้อย่างชัดเจน เป็นครัวปิดที่ช่วยป้องกันไม่ให้กลิ่นและควันเข้าไปรบกวนภายในห้อง ส่วนพื้นที่ภายในจะเป็นพื้นที่พักผ่อน มีลักษณะเหมือนห้องสตูดิโอที่รวมทุกอย่างไว้ด้วยกัน ขนาดพื้นที่ใหญ่ ข้อดีคือเราสามารถเลือกจัดได้หลากหลาย ตามไลฟ์สไตล์ที่ชอบ ได้ช่องแสงภายในอย่างเต็มที่ แต่จะเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้างในช่วงที่มีแขกมาที่ห้อง หรือต้องทำกิจกรรมหลายอย่างร่วมกัน ที่ผมชอบคือมีพื้นที่แนวยาวริมหน้าต่างให้ ทำให้สามารถจัดเป็นมุมนั่งทำงานอ่านหนังสือ หรือจะดันเตียงชิดหน้าต่าง ก็ได้พื้นที่โล่งกว้างภายในห้อง แล้วแต่การใช้งานครับ

เมื่อเข้ามาภายในห้องจะเจอกับส่วนแรกของห้องที่เป็นพื้นที่ปิด นั่นก็คือส่วนครัวและห้องน้ำนั่นเอง ผมชอบที่เขาเลือกใช้พื้นที่เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ เพราะมีคุณสมบัติผิวมัน ทำให้ทำความสะอาดง่าย ไม่สะสมคราบสิ่งสกปรก ความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.6 เมตรครับ

ส่วนหน้าห้องบริเวณนี้จะมีพื้นที่ด้านข้างสำหรับวางตู้เย็น เลยต้องวางตู้รองเท้าฝั่งหน้าห้องน้ำ จึงอาจจะทำให้เหลือทางเดินเข้าออกแคบหน่อย ไม่อย่างนั้นต้องไปวางตู้รองเท้าภายในห้อง ซึ่งก็อาจจะทำให้สิ่งสกปรกติดตามเข้าไปได้ง่ายขึ้น

ส่วนครัวเราจะได้ชุดนี้ทั้งชุดเลย เป็นชุดที่มีโต๊ะในตัวให้ด้วยสำหรับทำเป็นที่นั่งรับประทานอาหาร หรือถ้าใครอยากทานไปดูทีวีไป จริงๆในห้องด้านในก็จัดเป็นโต๊ะรับประทานอาหารได้นะ ด้านบนมีช่องเก็บของเล็กน้อย ส่วนด้านล่างก็มีช่องเก็บของแบบที่เราเห็นกันประจำอยู่แล้ว

ช่วงกลางจะเป็นเคาน์เตอร์ปิดผิวด้วยลามิเนต คุณสมบัติไม่ได้ทนความร้อนมากนัก ต้องระวังกันหน่อยนะ ส่วนที่จะได้มาด้วยอีกคืออ่างล้างจานแบบหลุมเดี่ยว และเตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันแบบต่อท่อออกภายนอกจาก TEKA ครับ ข้อดีคือจะทำให้พื้นที่ปิดตรงนี้ระบายอากาศได้ และไม่ไปรบกวนภายในห้องด้วย

ฝ้าเพดานตรงนี้ฉาบเรียบทาสีพร้อมไฟ Downlight 2 ดวง

ด้านข้างจะมีห้องน้ำของห้อง อยู่ตรงนี้ก็เข้าถึงได้ง่ายดีครับ เปิดประตูระบายอากาศก็ไม่รบกวนพื้นที่ห้องภายในด้วย ที่สำคัญคือเป็นห้องน้ำสำเร็จรูปเหมือนกับโครงการ Aspire อื่นๆที่เราเคยเห็นกันมา ข้อดีในแง่ของการใช้งานเมื่อเทียบกับห้องน้ำทั่วไปก็คือ

  • ลดความเสี่ยงของการรั่วซึมในแต่ละจุด
  • ง่ายแก่การแก้ไขเวลาเกิดปัญหา
  • รอยต่อน้อยกว่า ทำให้ลดพื้นที่สะสมสิ่งสกปรกและแบคทีเรีย
  • ทำความสะอาดได้ง่ายกว่า
  • Slope ภายในห้องน้ำถูกควบคุมมาจากโรงงาน ปัญหาการลาดเอียงหรือการเกิดน้ำขังจึงเกิดได้น้อยกว่ามากๆ

พื้นที่ภายในค่อนข้างกว้างใช้งานสะดวกเลย นั่งโถสุขภัณฑ์แล้วมีระยะไม่อึดอัด มีหินสังเคราะห์ที่พื้นแยกส่วนแห้งส่วนเปียกให้ด้วย

อ่างล้างหน้าที่ได้จะเป็นอ่างเซรามิคของ  Cotto มีเคาน์เตอร์ด้านล่างให้เก็บของได้เล็กน้อย ส่วนโถสุขภัณฑ์จะเป็นแบบชิ้นเดียวจาก Cristina ข้อดีของสุขภัณฑ์ชิ้นเดียวคือดูสวยเรียบเนียนเป็นชิ้นเดียว และที่สำคัญคือไม่มีรอยต่อ ทำให้มีพื้นที่สะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรียน้อย ทำความสะอาดง่าย แต่ถ้าชำรุดขึ้นมาก็ต้องเปลี่ยนทั้งชิ้นนะ ส่วนด้านหลังจะมีผนัง Low Wall ก่อขึ้นมาปิดผิวด้วยหินสังเคราะห์

มาดูส่วนอาบน้ำด้านในกันต่อ จะไม่มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้นะ แต่ก็สามารถติดตั้งเองได้ไม่ยาก

พื้นที่อาบน้ำภายในขนาดก็กว้างนะครับ สามารถยืนอาบน้ำได้สบายๆ

ส่วนอาบน้ำจะได้ Hand Shower จาก American Standard หรือเทียบเท่ามาให้ ที่มุมห้องจะมีจุดวางอุปกรณ์/ของใช้สำหรับอาบน้ำไว้ให้ด้วย

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีพร้อมไฟ Downlight 2 ดวง

มาดูส่วนต่อไปภายในห้องกันต่อเลย จะกั้นด้วยแนวกระจก 3 ตอน สูงถึงฝ้าเลย ข้อดีคือรับแสงจากริมหน้าต่างได้เยอะ และทำให้ดูโปร่งโล่ง อีกทั้งการเป็นกระจก 3 ตอน ก็ทำให้สามารถเปิดได้กว้างกว่ากระจก 2 ตอนนะครับ

เข้ามาภายในจะเป็นพื้นที่ภายในห้องที่รวมห้องนอนและห้องนั่งเล่นไว้ด้วยกัน เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สามารถเลือกจัดได้หลากหลาย คล้ายๆกับห้อง Studio เลย ตัวห้องจะแบ่งออกเป็นซ้ายและขวาครับ ลองไปดูกัน

ฝั่งที่เป็นห้องนอนจะเลือกจัดแบบวางเตียงไว้ตรงกลาง และริมหน้าต่างทำเป็นโต๊ะทำงานก็ได้ หรือจะดันเตียงเข้าด้านในเพื่อได้พื้นที่ภายในตรงกลางห้องมากข้ึน ทำให้ดูโล่ง ทำ Walk-in Closet ได้ หรือจะเป็นพื้นที่ออกกำลังกายก็ได้ครับ

ส่วนอีกฝั่งจะวางเป็นชุดโซฟาก็ได้ หรือจะวางเป็นที่นั่งปลายเตียงก็จะทำให้ได้ระยะดูทีวีเยอะ สามารถติดทีวีขนาดใหญ่ที่แบบนอนดูหนังได้เลย หรือจะเอาพื้นที่ปลายเตียงไปใช้งานอย่างอื่น จัดเป็นโต๊ะกินข้าวก็สามารถครับ

พื้นที่ส่วนพักผ่อน เมื่อเตียงวางขนาด 5 ฟุต แล้วยังเหลือพื้นที่รอบๆให้เดินได้ทั่วสบายๆเลย

ที่ผมชอบคือริมหน้าต่างเขาให้ช่องแสงมาค่อนข้างกว้างนะ แล้วก็มีพื้นที่สำหรับทำเป็นมุมนั่งทำงานอ่านหนังสือได้ ได้แสงอย่างเพียงพอพร้อมรับวิวภายนอก จะเปิดรับลมระบายอากาศก็ได้

ภายในห้องนี้จะได้ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีพร้อมไฟ Downlight 8 ดวงครับ

มาดูหน้าต่างที่เชื่อมต่อไปยังระเบียงกันดีกว่า จะมีให้เปิดรับลมระบายอากาศ หรือออกไปยืนสูดอากาศภายนอกได้ด้วย

เป็นระเบียงขนาดไม่ใหญ่นัก วางเครื่องซักผ้าและใช้งานได้สะดวก เพราะเขาใช้การแขวน Condensing Unit ทำให้มีพื้นที่ใช้งานเหลือเยอะ ปิดผิวพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิคแผ่นเล็ก

ตรงนี้จะได้ไฟกิ่งมา 1 ดวง พร้อมแนวระแนงปิด Condensing Unit ที่แขวนอยู่ด้วย

มาดูห้อง 1 Bedroom ขนาด 36 ตร.ม. กันบ้าง ใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่งส่วนตัวผมชอบห้องนี้นะ เพราะเขาจัดฟังก์ชันภายในค่อนข้างลงตัว เป็นสัดส่วน ถ้าใครที่ชอบห้องที่เป็นสัดส่วนแยกจากกันชัดเจนน่าจะชอบเหมือนผม ภายในห้องนี้จะมีพื้นที่ตรงกลางที่เป็นจุดวางโต๊ะรับประทานอาหารเป็นส่วนเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ต่างๆ โดยจะมีครัวปิดด้านข้าง ข้อดีคือป้องกันกลิ่นและควันได้ดี แต่การอยู่เข้ามุมภายในห้องแบบนี้อาจจะทำให้ได้แสงจากภายนอกน้อยหน่อย ส่วนด้านข้างอีกฝั่งจะมีห้องน้ำที่เข้าออกได้ทั้งสองทางจากทั้งภายนอกตรงนี้และจากภายในห้องนอน ข้อดีคือทำให้ใช้งานสะดวก เวลามีแขกมาก็ยังรักษาความเป็นส่วนตัวของห้องนอนไว้ได้ดี ส่วนตรงกลางจะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อไปยังระเบียง เป็นช่องแสงหลักของห้องนี้ ส่วนสุดท้ายคือห้องนอนที่ได้ขนาดค่อนข้างกว้าง จัดได้หลายแบบ วางโต๊ะทำงานหรือจะเปลี่ยนเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้เลย

เปิดประตูห้องมาจะมีรายละเอียดเรื่องวัสดุเหมือนเดิมกับห้องก่อนหน้านี้เลยนะ ตรงกลางนี้จะได้พื้นที่ค่อนข้างกว้าง วางชั้นวางรองเท้า และโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 4 ที่นั่งได้เลยนะ

เป็นเหมือนส่วน Foyer ของห้อง เป็นตัวแบ่งไปยังพื้นที่ต่างๆครับ ฝั่งซ้ายมือคือห้องน้ำ ส่วนฝั่งขวาคือห้องครัว

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีพร้อมไฟ Downlight 2 ดวง ติดเครื่องปรับอากาศมาให้ตรงนี้ด้วย 1 จุดจาก Samsung

ห้องน้ำที่เห็นห้องนี้จะเหมือนห้องก่อนหน้านี้เลยทั้งหมด เพราะเป็นห้องน้ำสำเร็จรูปเหมือนกัน อ่างล้างหน้าที่ได้จะเป็นอ่างเซรามิคของ  Cotto มีเคาน์เตอร์ด้านล่างให้เก็บของได้เล็กน้อย ส่วนโถสุขภัณฑ์จะเป็นแบบชิ้นเดียวจาก Cristina ข้อดีของสุขภัณฑ์ชิ้นเดียวคือดูสวยเรียบเนียนเป็นชิ้นเดียว และที่สำคัญคือไม่มีรอยต่อ ทำให้มีพื้นที่สะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรียน้อย ทำความสะอาดง่าย แต่ถ้าชำรุดขึ้นมาก็ต้องเปลี่ยนทั้งชิ้นนะ ส่วนด้านหลังจะมีผนัง Low Wall ก่อขึ้นมาปิดผิวด้วยหินสังเคราะห์ ส่วนอาบน้ำจะได้ Hand Shower จาก American Standard หรือเทียบเท่ามาให้ ที่มุมจะมีจุดวางเครื่องอาบน้ำไว้ให้เช่นเดิม

ส่วนอีกฝั่งจะเป็นห้องครัวครับ ซึ่งแยกสัดส่วนไว้ให้ชัดเจนเลย เป็นแนวประตูกระจกเพื่อให้ดูโล่งและสามารถรับแสงจากภายนอกนี้ได้ด้วย เข้าไปดูกัน

ภายในครัวเป็นแนวยาว มีพื้นที่วางตู้เย็นไว้ให้ ใช้งานได้ง่าย ชุดครัวจะมีลักษณะคล้ายๆเดิมครับ แต่ไม่มีโต๊ะมาให้แล้วนะ เปลี่ยนเป็นช่องวางเครื่องซักผ้าแทน นอกนั้นเหมือนเดิมทุกอย่างเลยครับ

ช่วงกลางจะเป็นเคาน์เตอร์ปิดผิวด้วยลามิเนต พร้อมอ่างล้างจานแบบหลุมเดี่ยวและเตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันแบบต่อท่อออกภายนอกจาก TEKA ด้านบนเป็นชั้นวางของเหมือนเดิมทั้งแบบมีหน้าบานและวางบนชั้น ส่วนด้านล่างจะมีช่องใหญ่ใต้อ่าง ช่องใส่เครื่องซักผ้า และที่วางไมโครเวฟพร้อมช่องเก็บของเหมือนเดิม

ส่วนต่อไปคือตรงกลาง จะมีแนวกระจกแบบ 3 ตอน สูงถึงฝ้าเลย ข้อดีคือทำให้แสงเข้ามาถึงภายในได้เยอะ แต่ข้อเสียคือจะติดม่านยากหน่อย อาจจะต้องเป็นฟิล์มที่กระจกหรือใช้แบบรางแขวนฝ้าแทนครับ

ตรงกลางจะได้เป็นห้องที่จัดเป็นห้องนั่งเล่น จริงๆ แล้วแต่ลักษณะการใช้งานนะ จะจัดเป็นห้องทำงาน ห้องออกกำลังกาย หรือวางเตียง 3.5 ฟุต เป็นห้องนอนรองก็ได้นะ

ภายในนี้จะมีไฟ Downlight ให้ 2 ดวง ด้วยตำแหน่งติดหน้าต่างทำให้แสงค่อนข้างเพียงพอสำหรับกลางวันครับ แต่เนื่องจากห้องนี้ไม่ได้ติดเครื่องปรับอากาศมาให้เลยทำให้อาจจะต้องติดเองนะครับ

เป็นแนวกระจก 2 ตอนบานใหญ่กระจกเขียวใสตัดแสง ลองออกไปดูกันหน่อยครับ

ด้วยความที่แขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน และวางเครื่องซักผ้าไว้ในห้องครัวแล้ว จึงทำให้เหลือพื้นที่ใช้งานระเบียงค่อนข้างเยอะ

ปัจจุบันเราแขวน Condensing Unit 2 ตัว สำหรับห้องรับประทานอาหารและห้องนอน ซึ่งถ้าหากจะติดอีกตัวที่ห้องนั่งเล่นอาจจะต้องเดินท่อลอย และวาง Condensing Unit อีกตัวที่พื้นระเบียง ทำให้พื้นที่ใช้งานจะลดลงนะครับ

มาดูทางฝั่งห้องน้ำกันบ้าง จะมีอีกห้องด้านในคือห้องนอนนั่นเอง แยกสัดส่วนออกไปชัดเจน ประตูทึบ ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว ในกรณีที่มีแขกมาบ้านก็ยังแบ่งสัดส่วนได้ดี เหมาะกับลูกบ้านที่อยู่มากกว่า 1 คน

ภายในห้องนอนขนาดกำลังดีครับ ได้ช่องแสงภายใน มีมุมสำหรับวางโต๊ะทำงานได้ หรือจะขยายชุดตู้เสื้อผ้าก็ได้

เมื่อวางเตียง 5 ฟุตในห้องแล้วเหลือพื้นที่ให้เดินรอบๆได้สะดวกเลย

ด้านในของห้องจะมีทางเชื่อมต่อกับห้องน้ำ ช่วยให้ไม่ต้องออกไปเข้าจากด้านนอก ได้ความเป็นส่วนตัวดี แต่อย่าลืมเข้าแล้วก็ล็อคอีกฝั่งไว้ด้วยนะครับ

ส่วนช่องแสงของห้องนี้ก็จะพิเศษเล็กน้อย เพราะด้วยความที่เป็นห้องตำแหน่งมุม เลยมีกระจกเข้ามุมให้มาด้วยเล็กน้อย รับและมุมมองของวิวได้ดียิ่งขึ้น

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี ให้ไฟ Downlight 2 ดวง พร้อมเครื่องปรับอากาศจาก Samsung ครับ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

 

ราคา

12 March 2020

  • Studio อาคาร B ชั้น 8 ห้อง B8A101 เนื้อที่ 27.26 ตร.ม. ราคา 2.28 ล้านบาท
  • 1 Bedroom อาคาร A ชั้น 3 ห้อง A3B124 เนื้อที่ 30.61 ตร.ม. ราคา 2.52 ล้านบาท
  • 1 Bedroom อาคาร A ชั้น 2 ห้อง A2C119 เนื้อที่ 36.12 ตร.ม. ราคา 3.06 ล้านบาท
  • 2 Bedroom อาคาร B ชั้น 2 ห้อง B2D1M07 เนื้อที่ 41.00 ตร.ม. ราคา 3.41 ล้านบาท
  • 2 Bedroom อาคาร A ชั้น 3 ห้อง A3E112 เนื้อที่ 50.30 ตร.ม. ราคา 4.16 ล้านบาท

โปรโมชันส่งเสริมการขาย

  • Digital Door Lock จาก Samsung
  • Free แพคเกจ ณ วันโอน 5 รายการ (ยกเว้นค่าจดจำนอง)
  • ฟรีเฟอร์นิเจอร์ รับหลังวันโอนกรรมสิทธิ์ภายใน 60 วัน

 

  • รูปแบบการขาย Fully Fitted
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.60 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท็อปหินลามิเนต
  • Hob & Hood แบบต่อท่อออกภายนอก / ของยี่ห้อ TEKA
  • มีรถ Shuttle Bus ไปกลับ BTS อ่อนนุช ทุกๆชั่วโมงตั้งแต่ 6.00 – 19.00 น. ครับ
  • จอง 4,999 บาท
  • ทำสัญญาฟรี
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 57 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

บทสรุป

ทำเล : ตัวโครงการของเราตั้งอยู่ภายในซอยอ่อนนุช 21 ซึ่ง มีระยะห่างจากถนนสุขุมวิทประมาณ 2 กิโลเมตร อาจจะไกลหน่อยสำหรับใครที่มองหารถไฟฟ้า แต่เรียกว่าจะได้เปรียบในเรื่องของบริบทพื้นที่ที่จะมีความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากกว่าคอนโดริมถนนต่างๆ นอกจากนั้นสำหรับใครที่ทำงานหรือเดินทางไปทางฝั่งถนนศรีนครินทร์ด้วยก็จะได้เปรียบในจุดนี้ ส่วนความอุดมสมบูรณ์ของทำเล ถึงแม้จะห่างจะรถไฟฟ้าหน่อย แต่ก็ไม่ได้ไกลเกินจะอิงความเจริญไม่ได้ เพราะในระยะแค่ 2 กิโลเมตร ขับรถออกไปแปปเดียวก็ถึงความเจริญที่กระจุกตัวกันอยู่บนถนนอ่อนนุชต่างๆ ทั้งตลาด Hypermarket และ Community mall ต่างๆ เอาใกล้ที่สุดก็มี People Park ที่เป็น Avenue เปิดใหม่ที่ห่างออกไปเพียงประมาณ 900 เมตร และเยื้องๆ ปากซอยอ่อนนุช 21 เองก็มี 7-eleven ให้บริการด้วย ส่วนจุดเด่นที่โครงการอื่นไม่มีคือมุมมองที่ติดคลองพระโขนง เรียกว่าเป็นวิวและลูกเล่นเสริมที่ทำให้พื้นที่นี้มีสเน่ห์ที่โดดเด่นเป็นของตัวเองเลย

การเดินทางโดยใช้รถ :  เป็นทำเลที่เหมาะกับการเดินทางด้วยรถยนต์มากกว่าเพราะไม่ได้เป็นโครงการอิงแนวรถไฟฟ้า แถวยังต้องเข้าซอยย่อยอีกด้วย แต่ด้วยความที่อยู่ใกล้ๆกลางซอยอ่อนนุช ทำให้เดินทางสะดวกทั้งสุขุมวิทและศรีนครินทร์ แต่ภายในโครงการเองมีที่จอดรถประมาณ 206 คัน คิดเป็น 36% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ซึ่งอาจจะถือว่าน้อยไปหน่อยสำหรับทำเลแบบนี้นะครับ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :  เนื่องจากอยู่ในซอยย่อยจึงทำให้ต้องออกมาเรียกรถที่ถนนอ่อนนุชปากซอยอ่อนนุช 21 (ประมาณ 300 ม.) และมีระยะห่างรวมจาก BTS ประมาณเกือบ 2 กิโลเมตรได้ จึงทำให้ใช้งานได้ยากหน่อย แต่ทางโครงการก็แก้ปัญหาส่วนนี้ไว้ให้เรียบร้อย ด้วย Shuttle Bus Service ของโครงการ ที่หน้าอาคาร B และ A ซึ่งจะมีให้บริการรับส่ง BTS อ่อนนุช ทุกๆชั่วโมงตั้งแต่ 6.00 – 19.00 น. ครับ

วัสดุ : จัดว่าอาจจะน้อยกว่าโครงการรอบๆสักหน่อย (ส่วนใหญ่โครงการอื่นๆจะให้ Fully Furnished กัน) โครงการนี้ขายแบบ Fully Fitted แต่ปัจจุบันก็มีโปรโมชันแถมเฟอร์นิเจอร์ครบให้นะ ภายในห้องจะได้ Digital Door Lock จาก Samsung ภายในจะได้พื้นส่วนครัวเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ พื้นภายในห้องจะได้เป็นลามิเนต ผนังและฝ้าฉาบเรียบทาสี ให้ไฟ Donwlight ทั้งหมด ส่วนครัวจะท็อปครัวเป็นลามิเนต เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันแบบต่อท่อออกภายนอกจาก TEKA ส่วนห้องน้ำจะใช้เป็นห้องน้ำสำเร็จรูป ภายในจะได้โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวจาก Cristina อ่างล้างหน้าจาก Cotto มาพร้อมกระจกเงาขนาดใหญ่และผนัง Low Wall กับธรนีประตูปิดผิวหินสังเคราะห์ ส่วนอาบน้ำไม่ได้ให้ฉากกั้นอาบน้ำมา ได้เป็นฝักบัว Hand Shower จาก American Standard หน้าต่างและบานเลื่อนในห้องจะได้เป็นกรอบบานอลูมิเนียมกระจกเขียวใสตัดแสง นอกจากนั้นเขายังให้เครื่องปรับอากาศจาก Samsung มาให้ด้วยนะ (จำนวนตามขนาดห้อง)

การออกแบบ : ส่วนตัวผมมองว่าเป็นโครงการที่ออกแบบได้ดีนะครับ ขอเริ่มตั้งแต่ Concept โครงการ “Colonial Pop” ที่เขาถ่ายทอดออกมาตามกรอบอาคาร สีอาคาร การตกแต่งภายใน พื้นที่ส่วนกลาง รวมถึง Landscape ที่ใช้ลวดลายและสีสันที่ดูค่อนข้างทันสมัย แต่มีกลิ่นของความเป็น Colonial ผสมอยู่ ส่วนการวาง Lay Out ต่างๆของตัวอาคาร ก็จัดว่ามีรูปแบบวิวให้เลือกหลากหลาย เข้าใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้ง่ายทุกอาคาร รวมไปยังมีจุดเด่นจุดด้อยของแต่ละอาคารให้เลือกอย่างเหมาะสม

ตัวห้องพักอาศัยมีแบบห้องให้เลือกหลายแบบ แถมยังมี Garden Access ด้วย เป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างหลากหลาย มีการเลือกวางห้องใหญ่ในวิวที่สวยของโครงการ ออกแบบภายในห้องให้สอดคล้องกับบริบทภายนอก อีกอย่างคือได้ครัวปิดเกือบทุกแบบ ใครที่ชอบพื้นที่ที่เป็นสัดส่วนน่าจะถูกใจกันเลย ผังภายในห้องจัดแบ่งได้ดี มีรูปแบบที่ไม่ใช่แปลนทั่วๆไปที่เห็นกันตามท้องตลาด และก็ทำออกมาได้ค่อนข้างลงตัว

สาธารณูปโภค : จัดเป็นอาคาร Club House ตรงกลาง 3 อาคารมาให้ เป็นวิวให้กับห้องพักอาศัย และได้แนวอาคารรอบๆช่วยบังแดดให้ด้วยในบางช่วยเวลา ภายในจัดมาให้ครบตามมาตรฐาน ทั้ง ระว่ายน้ำรูปทรง Free Form ระบบเกลือยาว 19.91 x 4.56 เมตร ลึก 1.2 เมตร ไม่มีสระเด็ก ไม่มี Slope แต่มีสระ Jacuzzi ภายในให้นั่งเล่นกันได้ ตอนกลางคืนจะเปิดไฟในสระเป็นสีชมพู ทำให้ดูแปลกตาและมีสีสันไปอีกแบบ มีห้องออกกำลังกายที่รับวิวรอบด้าน ภายในจัดมาให้หลายมุมที่น่าใช้งาน พร้อมสวนสาธารณะที่มี Jogging Track ภายใน นอกจากนั้นในอาคาร A ก็มีส่วน Lobby ที่ทำหน้าที่เป็น Co-Working Space ให้ด้วย ทั้งหมดนี้ออกแบบมาในสไตล์เดียวกัน ใช้ลายเส้นต่างๆที่ดูสอดคล้องเป็นธีมเดียวกันทั้งหมด สวยงามน่าใช้งานครับ มีรถรับส่ง BTS อ่อนนุชให้บริการ และอัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการที่ 92 : 1 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 85,000 บาท/ตร.ม., 12 March 2020

  • ทำเล 7.5/10 –  ทำเลในซอย ติดคลองพระโขนง แต่ได้ความสงบไม่วุ่นวาย
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – เดินทางได้หลากหลายทั้งถนนสุขุมวิทและถนนศรีนครินทร์ ที่จอดรถน้อยไปหน่อยสำหรับทำเลที่เน้นการใช้รถส่วนตัว
  • ไม่ใช้รถ 6.75/10 – อยู่ในซอยย่อย ออกมาใช้งานยากหน่อย แต่มี Shuttle Bus รับส่ง
  • วัสดุ 7.5/10 – Fully Fitted อย่างอื่นก็ได้ตามมาตรฐาน
  • แบบ 8.25/10 – วางผังดี Concept ชัดเจน มีแบบห้องให้เลือกหลายแบบ
  • สาธารณูปโภค 8/10 – จัดมาครบตามมาตรฐาน ใช้ง่าย สวยงาม น่าใช้งาน

  • MAIN CLASS
  • 7.51 / 10.00

BOTTOM LINE

Aspire สุขุมวิท-อ่อนนุช เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดในย่านอ่อนนุช เดินทางได้ทั้งสุขุมวิทและศรีนครินทร์ เน้นใช้รถยนต์ส่วนตัว แต่มีรถรับส่งไปรถไฟฟ้าให้ใช้เป็นทางเลือก ชอบความเป็นส่วนตัว ไม่วุ่นวาย มี Facilities เน้นชมวิวได้หลายจุด และให้วัสดุภายในห้องค่อนข้างดี มีแบบห้องให้เลือกเยอะ แต่ต้องเผื่องบไว้แต่งห้องเองด้วย มีงบประมาณระดับ 2.5 – 5 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 20,000 – 35,000 บาท/เดือน


ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving