รีวิวโครงการ
Veranda Residence Pattaya คอนโด High Rise ติดหาดจอมเทียน ได้ Facility Hotel จาก Veranda Resort Pattaya [รีวิวฉบับที่ 1461]
2 พฤศจิกายน 2017
รีวิวฉบับที่ 636 … Veranda Residences Pattaya (วีรันดา เรสซิเดนซ์ พัทยา) เป็นโครงการคอนโดมิเนียมตึกสูงโครงการแรกจากกลุ่ม Veranda นะครับ เป็นการต่อยอดจากธุรกิจโรงแรมซึ่งเป็นหัวใจหลักของ Veranda Resort and Spa ทั้งที่หัวหินและเชียงใหม่ ตลอดจนการลงทุนกับโรงแรม Sofitel So ย่านใจกลางกรุงเทพมหานคร … ปัจจุบัน Veranda ก็ได้ขยายมาถึงพัทยา อันเป็นทำเลสำคัญของประเทศไทย พร้อมกับการเปิดตัวคอนโดมิเนียมตึกสูง 36 ชั้น ที่พ่วงการบริการบางส่วนของโรงแรมเข้าไปด้วย การันตีได้ว่าสภาพแวดล้อมของคอนโดตึกนี้จะมีการดูแลรักษาเป็นอย่างดีระดับโรงแรมแบรนด์ Veranda แน่นอนครับ
Fact @ 22 July 2014
- Veranda Residences Pattaya (วีรันดา เรสซิเดนซ์ พัทยา)
- Veranda Beach Pattaya Co., Ltd.
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในตำบลนาจอมเทียน
- คอนโด High Rise 36 ชั้น 1 อาคาร 316 ยูนิต และ Pool Villa 4 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 12 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 40% รวมจอดซ้อนคัน
- ที่ดินคอนโดมิเนียมขนาด 3-1-88 ไร่ (ทั้งโปรเจคประมาณ 9 ไร่)
- คาดว่าจะแล้วเสร็จปี : 2559
- 1 Bedroom 32.3 – 39.2 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.35 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 55.6 – 57.2 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 5.88 ล้านบาท
- 3 Bedrooms 81.2 – 138.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 11.06 ล้านบาท
- Penthouse 146.2 – 202 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 20 ล้านบาท
- Pool Villa 254.33 – 266.64 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 17 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.8 เมตร
- ราคาเริ่มต้นปัจจุบัน 3.4 ล้านบาทหรือประมาณ 105,000 บาทต่อตารางเมตร
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 120,000 บาท
- Official Veranda Website
- โทร 083-008-1122 (Sole Agent: CBRE)
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด : 12.860677, 100.899270
เวลาพวกเรามาดูทำเลคอนโดที่พัทยา อย่างแรกที่ต้องดูคงจะไม่ใช่ทางเข้าหรือเส้นทางการเดินทางมานะครับ … แต่เป็นชายหาด สภาพแวดล้อมบริเวณหาด ตำแหน่งที่ตั้ง ซึ่งไม่จำเป็นต้องเดินทางสะดวกขนาดนั้น ต่างจากทำเลคอนโดในเมืองละครับ
นี่เป็นบริเวณหน้าหาด นา-จอมเทียน ที่ติดกับที่ดินของโครงการ ไม่มีถนนคั่นระหว่างแปลงโรงแรมกับหาด ทำให้สามารถเดินลงหาดได้ทันที ส่วนแปลงคอนโดนั้นอยู่ด้านหลังโรงแรม สามารถเดินลงหาดได้เลยเช่นกันแต่ต้องเดินผ่านโรงแรมก่อนนะครับ
หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ Veranda Resort กันมาบ้างแล้ว ซึ่งมีเป็นกลุ่มนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีโรงแรมอยู่ที่หัวหิน เชียงใหม่ และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ So Bangkok ตรงถนนพระราม 4 โดยโครงการ Veranda Residences Pattaya นี้ขาย ทางผู้บริหารให้ CBRE มาเป็นตัวแทนขายครับ
กลับไปที่แผนที่กันบ้าง … อันนี้เป็นแผนที่ที่โครงการจัดทำมา ซึ่งจะง่ายสำหรับการดูในเรื่องการเดินทาง แต่จะไม่ค่อยถูกนักในเรื่องภูมิศาสตร์ ซึ่งผมจะใช้แผนที่จาก Google ประกอบด้วยเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นนะครับ
ภาพนี้เป็นแผนที่ใหญ่ แสดงให้เห็นว่าถ้าเรามาจากกรุงเทพมหานครโดยใช้เส้นทาง Motorway นั้นจะใช้ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตรในการเดินทางมายังโครงการวีรันดา เรสซิเดนซ์ พัทยา
โครงการ Veranda Residences นี้สามารถเดินทางได้ด้วยเส้นทางหลักๆ 2 ทาง คือถนนเลียบหาดจอมเทียนผ่านร้านอาหารปูเป็นและลุงไสว หรือตัดตรงจากถนนใหญ่สุขุมวิทเข้าซอย นา-จอมเทียน 4 (ปากซอยจะมีหมู่บ้านช้าง) ก็จะมาถึงสามแยกด้านหน้าโครงการเช่นกันนะครับ
ระยะทางเข้าซอยลึกประมาณ 800 เมตร โดยตัวโครงการมีที่ดินเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวลึกเข้าไปอีก 350 เมตร จากปากทางเข้าซึ่งเดี๋ยวเราจะพาไปดูสถานที่จริงๆกันนะครับ
ตรงนี้เป็นสามแยกที่ตัดกันระหว่างถนนเลียบหาดจอมเทียนที่มาจากลุงไสว กับซอย นา-จอมเทียน 4 ที่มาจากหมู่บ้านช้างนะครับ ซึ่งแทบจะติดกับที่ดินของโครงการเลย
ย้อนมองไปทางหาดจอมเทียนก็ต้องเลี้ยวขวาเข้ามาที่หมู่บ้าน Island View Residence
ทางเข้าตรงนี้เป็นทางชั่วคราวนะครับ ซึ่งจะต้องผ่านหมู่บ้าน Island View Residence ก่อน เพื่อเปิดทางเข้าไปยังสำนักงานขายด้านในสุดบริเวณที่ติดทะเล อนาคตจะไม่ต้องใช้เส้นทางนี้ คือจะสามารถวิ่งเข้ามาตรงๆจากถนนเส้นนี้ได้เลย แต่ปัจจุบันมีการก่อสร้างทั้งคอนโดและโรงแรมอยู่ จึงต้องใช้เส้นทางด้านข้างแทนเป็นการชั่วคราว
โดยหมู่บ้านจะมี รปภ. คอยดูแลไม้กระดกอยู่ ถ้าเราบอกว่าเป็นลูกค้า Veranda ก็จะสามารถเข้ามาได้อย่างสะดวกนะครับ
ภายในหมู่บ้านจัดว่าดูดีเลยบ้านแต่ละหลังแพงระยับทั้งนั้น
หลังนี้ยิ่งสวย ชอบๆเลยถ่ายมาแปะไว้ด้วย
เนื่องจากที่ดินหมู่บ้านกับตัวโรงแรมและคอนโดมิเนียมนั้นติดกัน ทำให้เราสามารถดูงานก่อสร้างได้จากจุดนี้
คอนโดมิเนียมจะสร้างอยู่บริเวณตึกเตี้ยๆสองตึกที่เห็นนะครับ โดยจะมีคอนโดตึกสูงอยู่ด้านหน้า ซึ่งจะเยื้องๆกัน บังมุมทะเลบางส่วน แต่จะไม่ได้บังทั้งหมด
พอถึงปลายสุดก็จะเป็นพื้นที่ริมหาด มีศาลาปลายหมู่บ้านอยู่อย่างนี้ซึ่งศาลานี้ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของโครงการวีรันดา พัทยา นะครับ … สำนักงานขายและห้องตัวอย่างคืออาคารสีขาวทางซ้ายมือ เดี๋ยวเราจะได้เข้าไปชมกัน
สุดท้ายเป็นการถ่ายภาพจากปลายสุดของที่ดิน มองเข้าไปในแนวลึกนะครับ ซึ่งจะเห็นว่าที่ดิน 8-9 ไร่ทั้งหมดนี้เป็นแนวยาว ลึกเข้าไปแบบนี้นี่เอง
เกริ่นเรื่องทำเลมาสักพักแล้ว เรามาดูเนื้อโครงการของ Veranda Residences Pattaya กันบ้างดีกว่า
มองจากโมเดลครั้งแรกแล้วจะตกใจ เพราะที่ดินของ Veranda Pattaya น้ันยาวมาก ประมาณ 350 เมตร จากหน้าหาดจนถึงทางเข้า
เทียบกับภาพจำลองที่โครงการทำขึ้นมา
โครงการ Veranda Pattaya จะแบ่งตามแนวขวางได้ทั้งหมด 7 ส่วนด้วยกัน
คอนโด Veranda Residences จะอยู่ฝั่งติดทางเข้า
- วิลล่า 4 หลัง
- สระว่ายน้ำลูกบ้าน
- คอนโด 36 ชั้น
โรงแรม Veranda Resort จะอยู่ฝั่งติดทะเล
- อาคารจอดรถ + สาธารณูปโภคโรงแรม
- โรงแรม 7 ชั้น
- โรงแรม 4-5 ชั้น + ที่นั่ง Sunken บนชั้นดาดฟ้า
- สระว่ายน้ำและสาธารณูปโภคริมทะเล
ถ้าดูตาม Master Plan ก็จะเป็นแบบนี้นะครับ แบ่งได้ 16 ส่วนย่อยๆ โดยทางเข้าของโรงแรมและคอนโดนั้นเอาจริงๆแล้วจะแยกกันนะครับ โดยโฉนดจริงๆของตัวคอนโด “ไม่ติดทะเล” แต่สามารถใช้ทางเดินหมายเลข 8 (ทางเดินภาระจำยอม) ผ่านโรงแรมไปทะเลได้ โดยมีสระว่ายน้ำ Beach Pool หมายเลข 14 กับ Pool Bar หมายเลข 15 ให้ใช้งานร่วมกันระหว่างลูกบ้านและโรงแรม
เรามาดูช่วงแรกของตึกนี้กันก่อน
คอนโดกับวิลล่าวางอยู่หัว-ท้ายของที่ดินด้านหลัง โดยตรงกลางเป็นสระว่ายน้ำที่เชื่อมกันและใช้งานร่วมกัน
- ทางเข้า
- วิลล่า 4 หลัง
- สระว่ายน้ำยาว 40 เมตร พร้อมสระเด็ก
- ฟิตเนส
- ตัวคอนโด
- จุด Drop-off ขึ้นลงอาคาร
- ทางขึ้นที่จอดรถ
เดี๋ยวเรามาดูภายในของวิลล่ากันก่อนนะครับ ให้ดูคร่าวๆ
ทุกหลังจะมีสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดเล็ก เป็นแบบ Pool Villa โดยมีห้องนั่งเล่นและครัวอยู่ด้านล่าง
ด้านบนเป็นห้องนอนพร้อมห้องน้ำแบบ Open Space
เชื่อมกับตึกอาคารพักอาศัยด้วยสระว่ายน้ำ โดยโรงแรมจะให้สวนแนวดิ่งมาด้วย ปิดผนังไม่ให้เห็นชั้นลานจอดรถ
ซึ่งปลายสระว่ายน้ำก็จะเชื่อมกับส่วนของฟิตเนสสำหรับลูกบ้าน
ตัวตึกนั้นดูเรียบๆ ให้เข้ากับบรรยากาศพักผ่อน โดยช่วงหัวตึกด้านบนนั้นมีการเล่นรูปด้านเป็นสัญลักษณ์ตัว V ซึ่งมาจากคำว่า Veranda
หากมองผ่านๆก็ค่อนข้างแน่นเหมือนกันนะครับ แต่ถ้าสังเกตดูในรายละเอียดจะพบว่าไม่ใช่ โดยช่วงกลางตึกฝั่งทิศใต้ที่ติดกับ Core Lift นั้นถูกเจาะเป็นช่องเปิดขนาดใหญ่ ให้แสงธรรมชาติและลมพัดเข้าตัวตึกได้ เป็นกึ่ง Single Corridor ไม่ปิดทึบหนาแน่นเหมือนคอนโดในเมืองทั่วๆไปครับ
Lobby ของอาคารบริเวณ Drop Off เป็น Lobby แบบ Open Air … แต่งล้อมรอบด้วยธารน้ำ ดูแล้วสงบเรียบง่าย สอดคล้องกับบรรยากาศโรงแรม
พอเราพลิกมาดูด้านหน้า ซึ่งจะเป็น Direct Sea View จะประกอบด้วยห้องใหญ่ 3 Bedrooms ทั้งสิ้น และส่วนบนสุดเป็นห้อง Penthouse Duplex จำนวนสองห้องด้วยกัน
หน้าตาของห้อง Penthouse Duplex ก็จะประมาณนี้ มีสระว่ายน้ำเล็กๆส่วนตัวด้วย
วิวของ Penthouse Unit ก็จะมองจากมุมนี้ออกไป … ทิศเหนือมองไปทางพัทยาและทิศใต้จะมองไปทางสัตหีบครับ
Part ที่สองเป็นส่วนของโรงแรมนะครับ ซึ่งจะประกอบด้วยอาคารหลักๆ 3 ตึก ก็คือตึกหน้าซึ่งเป็นอาคารสูง 4-5 ชั้น ตึกในซึ่งเป็นอาคารสูง 7 ชั้น และตึกจอดรถด้านในสุด
โดย Lobby โรงแรมหน้าตาจะออกมาแบบนี้ … Open Air เช่นกัน แต่จะเดิ้ลกว่าของ Residences อยู่พอควรเลย
มุมมองจากด้านบนจะเห็นที่นั่ง Sunken บนดาดฟ้าของตึกแรก และสระว่ายน้ำเลียบหาดอีกสองสระด้วยกัน
ถ่ายจากชายหาดเข้าไปก็จะเห็นแบบนี้ … โดยที่ดินช่วงหน้าหาดจะมีความกว้างมากกว่าช่วงที่เป็นตัวตึกอยู่ด้วย
สระที่เห็นมีสองสระ ทางซ้ายเรียกว่า Beach Pool สามารถใช้ร่วมกันระหว่างลูกบ้านและโรงแรม ทางขวาเป็น Hotel Pool สำหรับโรงแรมเท่านั้น
โดยจะมี Pool Bar มาใช้บริการได้ทั้งลูกบ้านและแขกในโรงแรมนะครับ
อธิบายเสร็จสรรพก็ให้ดูของจริงเลย ว่าหน้าหาดแท้ๆเวลามองจากตำแหน่งที่จะสร้างสระว่ายน้ำจะหน้าตาเป็นอย่างไร …
ว่าแล้วเราก็มาดู Floor Plan กันบ้างโดย Typical Floor Plan หลักๆจะมีอยู่สองแบบนะครับ คือแบบที่มีจำนวนห้อง 11 ห้องต่อชั้นกับ 12 ห้องต่อชั้น
- ห้อง C ทิศตะวันตก จะเป็นห้องที่ได้มุมที่มองเห็นทะเลตรงๆ
- ห้อง B ทิศเหนือ จะได้เป็นวิวทะเลมองไปทางพัทยา กับแนวตึกสูงบนหาดจอมเทียน
- ห้อง A ทิศใต้ จะได้เป็นวิวทะเลมองไปทางสัตหีบ ซึ่งจะถูกตึกคอนโดข้างๆบังมุมมองอยู่บ้าง
เนื่องจากมีตึกที่อยู่ข้างเคียงบังอยู่เยื้องๆกัน ทางโครงการจึงเจาะช่องบางส่วนบริเวณห้อง A1 และ Service Lift เพื่อเป็นการเปิดให้แสงธรรมชาติและลมธรรมชาติเข้ามา ช่วยเพิ่มความโปร่งให้กับ Floor Plan ของตึกนี้
Typical Floor Plan อีกแบบหนึ่งจะมีห้อง A3 โผล่ขึ้นมา แย่งพื้นที่ห้อง C1 ไปในมุมเดียวกัน ทำให้ห้อง C1 เป็นห้อง 2 Bedrooms แทนที่จะเป็น 3 Bedrooms นะครับ
พอขึ้นชั้น 34 ก็จะมีห้อง C3 โผล่มาอีก เป็นห้อง 3 Bedrooms วิวมุมสูง
ชั้น 35-36 เป็นที่ตั้งของ Duplex Penthouse หน้าตึก
และชั้น 36 เป็นที่ตั้งของ Penthouse C, D อีก 2 ห้องครับ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำสำหรับลูกบ้าน ความยาว 40 เมตร
- สระว่ายน้ำหน้าหาดทราย ใช้ร่วมกันระหว่างลูกบ้านและโรงแรม
- Lobby สำหรับลูกบ้าน
- ห้องออกกำลังกายสำหรับลูกบ้าน
- สวนหย่อมระหว่างคอนโดและวิลล่า
- ห้อง Steam room
- ลิฟท์โดยสาร 3 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 120 : 1
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 40%
- ระบบ CCTV / Access Card
ห้องตัวอย่างแรกของวีรันดา เรสซิเดนซ์ พัทยา นั้นเป็นแบบ 1 Bedroom 34.5 ตารางเมตร ออกแบบแนวมาตรฐานคือ แบ่งครึ่งห้องเป็น 2 ส่วน แยกกันระหว่างส่วนห้องนอนและส่วนห้องรับแขก โดยห้องน้ำอยู่ในห้องนอน และมีบานเลื่อนคั่นระหว่างกัน
พอเปิดประตูเข้าไป (ด้วยมือจับธรรมดาไม่ใช่ Digital Doorlock) ก็จะเป็นส่วนของครัวซึ่งเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น
บริเวณโถงด้านหน้าเป็นส่วนของครัวและโต๊ะทานข้าว ซึ่งสำหรับห้องพักตากอากาศแล้วความสำคัญของครัวและโต๊ะทานอาหารอาจจะลดน้อยลงไปเมื่อเทียบกับที่อยู่อาศัยประจำ ฟังก์ชั่นนี้จึงถูกกำหนดให้อยู่ในส่วนที่ไม่ได้เห็นวิวทะเลนะครับ
โต๊ะทานข้าววางเกือบผนังแบบนี้ โดยเว้นพื้นที่ด้านข้างเป็น Counter ความสูงใกล้เคียงกับโต๊ะอาหาร เวลานั่งแล้วจะได้ไม่อึดอัด แขนไม่ติดผนังเกินไป
ซึ่งจากจุดนี้ถ้าเปิดหน้าต่างก็ยังเห็นวิวทะเลอยู่นะ
สีของพื้นห้องนั่งเล่นและห้องครัวจะแตกต่างกัน ให้ความรู้สึกเหมือนกับแยกส่วนพื้นที่ใช้สอย โดยวัสดุจะเป็นลามิเนตและกระเบื้อง ส่วนฝ้าเพดานนั้นสูง 2.8 เมตร จัดว่าดีทีเดียว
ชุดครัวทำออกมาเรียบๆหน่อย ด้านบนใช้สีขาว สามารถวางไมโครเวฟได้ ด้านล่างใส่สีไม้อ่อนๆดูแล้วสบายตา
เวลาเปิดออกมาเต็มที่ก็เก็บของได้เยอะอยู่นะครับ
ห้องนั่งเล่นขนาดพอประมาณ วางอยู่ติดหน้าต่างได้ Sea View เต็มๆ
โซฟาที่มีพนักแขนข้างเดียวตัวนี้มีข้อดีตรงที่สามารถนอนยาวได้หากมีสมาชิกมากกว่าสองคน โดยขาจะไม่ติด (แต่ถ้าใครตัวยาวหน่อยก็ต้องลากเก้าอี้มารองปลายเท้านิดนึงนะจ๊ะ)
ห้องนอนวางอยู่ด้านหลังห้องนั่งเล่น คั่นกลางด้วยบานเลื่อนกระจกฝ้า รับวิวทะเลเช่นกัน
บานประตูที่คั่นนั้นจะเป็นสีทึบ ส่วนกระจกก็จะเป็นฝ้าๆขุ่นๆอย่างที่เห็นเพื่อให้มีความเป็นส่วนตัวภายในห้องนอน
พอเลื่อนปิดสนิทก็จะเป็นแบบนี้
กระจกฝ้าก็มีข้อดีตรงที่ปล่อยแสงบางส่วนให้ส่องทะลุผ่านไปถึงห้องนอน
ขนาดห้องสามารถวางเตียงใหญ่ 6 ฟุต พร้อมกับโต๊ะข้างเตียงสองตัวได้โดยไม่อึดอัด
จริงๆยังเหลือพื้นที่ข้างหน้าต่างให้วางของอีกมากมาย เช่นกระเป๋าเดินทาง ที่เราจะขนของมาพักตากอากาศ
สบายๆ แขวนหมวกได้ด้วย
เปิดม่านออกมารับวิวทะเล (ที่นี่ห้องตัวอย่างคงจะไม่เห็นวิวอะไรนะครับ)
อีกฝั่งหนึ่งก็จะเป็นห้องน้ำ ซึ่งกั้นด้วยบานเลื่อนสีเข้ม
พื้นห้องน้ำก็จะปรับเป็นพื้นกระเบื้อง เพื่อให้ทนน้ำ
ห้องน้ำที่นี้ทำรวมห้องแต่งตัวไว้ด้วยเลย หากเป็นบ้านปกติการทำแบบนี้จะไม่ดีต่อเสื้อผ้าเพราะจะได้รับความชื้นมากมายมีโอกาสขึ้นรา แต่ถ้าเป็นบ้านพักตากอากาศที่เรามาเป็นครั้งคราว และมีการเปิดประตูระบายอากาศดีๆ ก็ไม่เป็นไรนะ 😀
มองเป็นการใช้ราวแขวนผ้าชั่วคราวแล้วจะหยิบใช้ได้ง่ายมาก ถ้าใช้จริงจังอยู่เป็นเดือนๆต้องทำบานปิดให้มิดชิดเพื่อป้องกันความชื้นนะครับ
บริเวณส่วนปลายได้มีการรวบ 2 ฟังก์ชั่นไว้ในที่เดียวกัน ก็คือโต๊ะเครื่องแป้งและซิงก์ล้างหน้า ซึ่งอาจจะต้องเบามือหน่อยตอนเปิดน้ำ ไม่ให้กระเซ็นไปโดนโต๊ะไม้บ่อยๆนะครับ
ห้องอาบน้ำกั้นด้วยกระจก Tempered Glass จะยืนอาบหรือจะนั่งอาบก็ได้นะ
ชุดสุขภัณฑ์จาก American Standard ขนาดพอดี แต่ถ้าเป็นคนตัวใหญ่มากๆเวลานั่งแล้วจะอึดอัดหน่อย เพราะโถสุขภัณฑ์ตั้งไว้ชิดผนัง
ต่อไปเรามาดูส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งกันบ้าง … ระเบียง
ระเบียงที่วีรันดา เรสซิเดนซ์ พัทยา ใช้กรอบอลูมิเนียมสีขาวทำบานจูง 3 ตอน โดยจะเลื่อนเปิดปิดได้กว้างกว่าระเบียง 2 ตอน เพื่อให้รับวิวและลมทะเลได้อย่างเต็มที่
บานกระจกออกสีเขียวๆหน่อย ตอนปิดจะกันแดดได้บ้างเวลาร้อนจัดๆ
ตัวระเบียงกว้างสมกับชื่อ Veranda
เอาคอมเพรสเซอร์แอร์ไปแขวนไว้ด้านบน เพื่อให้ใช้งานพื้นที่ระเบียงได้เต็มที่
ราวกันตกเป็นกระจก Tempered Glass … มีความปลอดภัยสูงและยังสามารถมองทะลุให้เห็นวิวทะเลขณะนั่งบนโซฟาได้ด้วย ดีกว่าพวกลูกกรงอย่างเห็นได้ชัดครับ
ห้องตัวอย่างแบบที่ 2 เป็นห้อง 2 Bedrooms ขนาด 56.70 ตารางเมตร โดยมีห้องนอนเล็กสำหรับเด็กและห้องนอนใหญ่ โดยจะเน้นส่วนห้องนั่งเล่นเป็นหลักสำคัญ
ส่วนครัวด้านนอกจะคล้ายๆกับห้อง 1 Bedroom นะครับ แต่จะไม่มีโต๊ะทานข้าวแล้ว … เพราะย้ายไปไว้ที่ห้องนั่งเล่น กินข้าวรับวิวทะเลแทน
พื้นกระเบื้องในส่วนของครัวและห้องน้ำก็จะปรับเป็นสีเข้ม แตกต่างจากห้อง 1 Bedroom ที่ใช้กระเบื้องสีอ่อน
ห้องน้ำสำหรับ 2 Bedrooms ของวีรันดา พัทยาจะมีทางเข้าสองทาง คือจากห้องโถงกลางและห้องนอนเล็กแบบนี้ครับ
โดยห้องน้ำก็จะแบ่งเป็นสองฝั่ง ซ้ายเป็นโถสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำ ขวาเป็นกระจกและอ่างล้างหน้า
โถสุขภัณฑ์ก็จะวางแอบไว้แบบนี้ เวลาเดินก็จะไม่เกะกะ ไม่เตะ ไม่ชน
ห้องอาบน้ำเปิดเข้าไปด้านใน กั้นด้วยกระจก Tempered Glass เช่นกัน
ฝักบัวเป็นแบบ VARIOJET ปรับความแรงได้ 4 ระดับ
พอเราเดินทะลุมาจากห้องน้ำก็จะถึงห้องนอนเล็ก
ที่นี่แต่งสวย เป็นห้องเตียงสองชั้น Bunk Bed สำหรับเด็ก พร้อมกับโต๊ะทำงาน เอาไว้นั่งเล่นเกม เล่นคอม หรือขนการบ้านมาสอนลูกทำ (ซึ่งมีโอกาสสูงมากที่จะผิดแผน)
ห้องนั่งเล่นถือว่าเป็นพระเอกของห้องนี้ จัดพื้นที่ส่วนที่ดีที่สุดและกว้างที่สุดให้ สามารถนั่งรับวิวทะเล ทำกิจกรรมกันภายในครอบครัวบริเวณนี้ได้
โซฟาพร้อมกับเก้าอี้ นั่งสบายๆริมหน้าต่าง
ซึ่งประตูทางซ้ายจะเชื่อมกันระหว่างห้องนอนเล็กกับห้องนั่งเล่น ส่วนกริลด้านบนเหนือทีวีนั้นเป็นตำแหน่งติดตั้งเครื่องปรับอากาศนะครับ
โต๊ะทานข้าวสามารถวางได้เต็มที่ ไม่ต้องไปตั้งชิดผนังแล้ว เก้าอี้จึงเลือกแบบที่นั่งสบายๆได้ด้วย มาทานข้าวไปชมวิวไปได้เลย
ขณะที่ผมไปถ่ายรูปก็ประมาณบ่าย 3 กว่าๆ แดดร้อนเหลือหลายนะครับ xD
ระเบียงที่ให้มานี้มีขนาดใหญ่มาก สามารถเปิดรับลมได้เต็มที่ จากภาพจะเห็นทะเลอยู่ไม่ไกล เนื่องจากสำนักงานขายนี้ตั้งอยู่ริมทะเลนี่เอง
บานกระจกจะใช้เป็นบานใหญ่ ขนาดเต็มตา มองออกไปจะได้รับวิวได้เต็มที่
ถัดมาเป็นห้องนอนใหญ่ ซึ่งจะกั้นกับห้องนั่งเล่นด้วยบานเลื่อนและกระจกฝ้าเช่นเคย
ห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัวอีกห้องหนึ่งซึ่ง Layout จะคล้ายๆกับห้อง 1 Bedroom นะครับ
สิ่งที่แตกต่างคงจะเป็นเรื่องสีพื้นล่ะ
นอกนั้นก็คล้ายๆเดิม พอเปิดไฟแบบ Indirect Light แล้วก็จะสวยแบบนี้
สิ่งที่ห้องน้ำ Master Bathroom มีเพิ่มมาอีกจุดหนึ่งก็คือ Rain Shower ซึ่งจะมีให้ในห้อง 2 Bedrooms เท่านั้น
จบการรีวิวห้องตัวอย่างโครงการ Veranda Residences Pattaya เท่านี้ละครับ
ที่เหลือจะเป็นผังห้อง 3 Bedrooms ซึ่งจะได้ Direct Sea View ทิศเหนือวิวทะเลหาดจอมเทียน พร้อมกับอ่างอาบน้ำที่มองเห็นทะเลด้วย
3 Bedrooms อีกห้องหนึ่งที่เป็นผังทิศใต้ Layout สวยเช่นกัน แต่จะได้วิวทะเลฝั่งสัตหีบ
สุดท้ายเราเก็บ Perspective และ Layout ของห้อง Duplex Penthouse มาให้ดูนะครับ ว่าเป็นห้อง 3 Bedrooms ขนาดใหญ่ สองชั้น พร้อมสระว่ายน้ำในตัว รับทะเลเต็มๆเลย
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 13 July 2014
- 1 Bedroom 32.3 – 39.2 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.35 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 55.6 – 57.2 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 5.88 ล้านบาท
- 3 Bedrooms 81.2 – 138.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 11.06 ล้านบาท
- Penthouse 146.2 – 202 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 20 ล้านบาท
- Pool Villa 254.33 – 266.64 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 17 ล้านบาท
- Fully Furnished
- เพดานสูง 2.8 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- เครื่องใช้ไฟฟ้า
- จอง 1 Bedroom : 50,000 บาท
- จอง 2 Bedrooms : 80,000 บาท
- จอง 3 Bedrooms, Penthouse, Pool Villa : 100,000 บาท
- ทำสัญญา 5% (หักเงินจอง)
- ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 50 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
สุดท้ายเป็นเรื่องแพคเกจการลงทุน ซึ่งทางโครงการจะใช้แบรนด์โรงแรม Veranda บริหารให้ ปล่อยให้แขกมาพักห้อง 1 Bedroom และ Pool Villa โดยเจ้าของยังสามารถเข้าพักอยู่ได้ 45 วันต่อ 1 ปี แบ่งเป็น 10 Weekend และ 35 Weekday ซึ่งต้องจองล่วงหน้า 15 วันในการเข้าพักแต่ละครั้ง
- 1 Bedroom ชั้น 21F-26F เจ้าของห้องซื้ออุปกรณ์ตกแต่งเพิ่ม 2 แสนบาท
- Pool Villas เจ้าของห้องซื้ออุปกรณ์ตกแต่งเพิ่ม 6 แสนบาท
- สัญญา 5 ปี โดย 2 ปีแรกจะการันตีที่ 6% ของราคาขายต่อปี
- ปีที่ 3-5 จะเป็นส่วนแบ่งกำไรหลังหักค่าใช้จ่าย 40% ให้เจ้าของ และ 60% ให้โรงแรม ซึ่งค่าใช้จ่ายคือ ค่าคอม, อาหารเช้า และ Vat + Service Charge และเจ้าของก็ต้องจ่ายภาษี, และค่า 5% Reserved Fund ต่อปีด้วยเช่นกัน
ทำเลของ Veranda Residences Pattaya นั้นตั้งอยู่ที่ตอนปลายของเมืองพัทยาบนชายหาด นา-จอมเทียน ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ตรงที่ที่ดินของโครงการนั้นติดทะเลเลย ลูกบ้านสามารถเดินลงหาดได้โดยไม่ต้องผ่านถนนสาธารณะ ซึ่งปัจจุบันทำเลอย่างนี้ในเมืองพัทยาที่มีโครงการคอนโดตากอากาศตั้งอยู่มีเพียงสองที่คือ หาดวงศ์อมาตย์และหาดนา-จอมเทียน โดยหาดวงศ์อมาตย์เป็นทำเลที่ถูกพัฒนามาก่อนหน้านับสิบปี เกิดขึ้นแล้ว เจริญแล้ว มีโรงแรมและคอนโดต่างๆมาตั้งอยู่มากมายแล้ว และที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือชายหาดสวยๆก็ถูกจับจองไปเสียมากแล้ว การพัฒนาโครงการใหม่ติดหาดก็ค่อนข้างจำกัดและมีราคาสูงไปตามลำดับ
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาทำเลนา-จอมเทียน ที่อยู่ไกลออกไปก็เริ่มมีการพัฒนาเช่นกัน จนเกิดเป็นโปรเจค High Rise ขึ้นหลายโปรเจค เน้นจุดเด่นเรื่องความสงบเงียบ หลีกหนีจากแสงสีเสียงของเมืองพัทยา แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถเข้าถึงแสงสีเสียงเหล่านั้นได้ในระยะขับรถราว 10-20 นาที เหมาะกับกลุ่มที่อยากมาพักผ่อนที่ชายหาดเงียบหน่อย ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครแต่ก็ยังสามารถเข้าถึงความเจริญได้ทุกเวลา
โปรเจค Veranda Residences Pattaya นั้นพ่วงมาด้วย Veranda Resort Pattaya ซึ่งเป็นโรงแรมในเครือเดียวกันตั้งอยู่บนที่ดินแปลงติดกัน ซึ่งเวลาลูกบ้านจะเดินไปยังชายหาดก็ต้องผ่านทางเดินด้านข้างของโรงแรม ไปใช้ Beach Pool และ Pool Bar ซึ่งเป็นสาธารณูปโภคที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้ มีการตกแต่งสวยหรูสมกับเป็น Boutique Hotel ชื่อดังในประเทศไทย พร้อมกับสามารถเข้าถึงการบริการต่างๆของทางโรงแรม อาทิเช่น บุฟเฟ่ต์อาหารเช้า บริการทำความสะอาดห้องพัก ฯลฯ ที่สามารถจ่ายเพิ่มได้ตามความจำเป็น
ถ้าใครเป็นนักลงทุนก็สามารถใช้แพคเกจการบริหารของทางโรงแรมได้ โดยจะต้องจ่ายค่าเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติมอีก 2 – 6 แสนบาท เพื่อแลกกับการการันตีค่าเช่า 6% เป็นเวลา 2 ปี และ 40% หลังหักค่าใช้จ่ายในอีก 3 ปีให้หลัง แต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ทางโรงแรมการันตีให้เพียง 2 ปีแรกเท่านั้น ในปีหลังๆ เช่นปีที่ 3-5 หรือปีที่ 5 ขึ้นไป ผู้ลงทุนก็ควรจะศึกษาตลาดพัทยา ดูราคาห้องพัก เปรียบเทียบคู่แข่ง และประเมินโอกาสสำเร็จของโครงการ Veranda ด้วยตัวท่านเอง ก่อนตัดสินใจลงทุนนะครับ เพราะหลังจากนั้นท่านอาจจะเลือกเป็นผู้ดำเนินการปล่อยเช่าห้องพักแทนโรงแรมก็ได้
การมีโรงแรมตั้งอยู่บนแปลงที่ดินเดียวกันนั้นมีข้อดีก็จริงแต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน ตรงที่ความเป็นส่วนตัวจะหดหายไปพอสมควร ตรงที่จะมีแขกเหรื่อที่เป็นลูกค้าของทางโรงแรมเข้ามาใช้บริการด้วย แม้แต่สาธารณูปโภคของโครงการคอนโดมิเนียมเองก็ตาม ก็ต้องมีแขกที่ทางโรงแรมบริหารการลงทุนให้เข้ามาใช้ร่วมกันอยู่ดี รวมถึงแขกที่ทางเจ้าของห้องปล่อยเช่ารายวัน-รายสัปดาห์เอง ความเป็น Residences อาจจะหายไปบ้าง แต่เมื่อเทียบกับการที่โรงแรมช่วยดูแลสภาพโครงการและสิ่งแวดล้อมรอบข้างให้ก็จัดว่าคุ้มค่าอยู่นะครับ
โดยรวมโครงการ Veranda Residences ก็มีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกันไป แต่ก็อย่างเช่นเคย บ้านพักหรือคอนโดตากอากาศนั้นเจ้าของต้องชอบก่อนจึงจะสมควรควักกระเป๋าซื้อ ดูห้องตัวอย่างให้ชอบ ดูโครงการให้ชอบ ดูทะเลและสภาพแวดล้อมให้ชอบ เน้นปัจจัยเรื่องความชอบส่วนบุคคลหรือครอบครัวมากกว่าความคุ้มค่าในการอยู่อาศัย พ่อแม่พี่น้องชอบไหม ปีหน่ึงคาดว่าจะได้มาพักกี่ครั้ง ถ้าคำนวณดูทุกปัจจัยแล้วเห็นว่าไม่เสียหาย คิดว่ามีสตางค์เหลือพอจะหยิบจับเป็นเจ้าของได้โดยไม่ลำบาก ก็สามารถซื้อได้ตามกำลังทรัพย์ของท่านครับ
Judgement
โครงการตากอากาศเราจะไม่มีการให้คะแนนความคุ้มค่าเรื่องการอยู่อาศัยเทียบกับราคา เพราะเป็นโครงการที่เจ้าของห้องใช้พักผ่อน ต้องการตอบโจทย์ทางอารมณ์มากกว่า
- UPPER CLASS
- NOT JUDGED
BOTTOM LINE
Veranda Residences Pattaya เหมาะสำหรับครอบครัวที่กำลังหาคอนโดติดทะเลมีสาธารณูปโภคของโรงแรมสนับสนุน ชอบบรรยากาศแบบ Boutique Hotel บนทำเลที่ค่อนข้างสงบ ห่างไกลออกมาจากแสงสีของเมืองพัทยาครับ
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ