สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เรากลับมาทำซีรีส์ตามหาบ้านกันอีกครั้งนะคะ คราวนี้เราขยับเข้ามาทำเลที่ใกล้เมืองขึ้นมาอีกนิด นั่นคือโซนทาวน์อินทาวน์นั่นเองค่ะ โดยโครงการที่เราเจอมาทั้งหมดจะมีอยู่ 4 โครงการ ราคาอยู่ในช่วง 20 – 60 ล้านบาท พอโครงการมีไม่เยอะเนี่ย ดังนั้นบทความนี้เราจะขอเล่าทีละหัวข้อและเทียบแต่ละโครงการให้ดูกันไปเลย โดยหัวข้อที่เราจะนำมาเล่ามีดังนี้ค่ะ

  • ทำความรู้จักย่านทาวน์อินทาวน์
  • ทำเลโครงการ
  • รายละเอียดโครงการและพื้นที่ส่วนกลาง
  • แบบบ้านและพื้นที่ใช้สอย+ราคา

* เนื่องจากตัวผู้เขียนอยู่อาศัยย่านนี้มาตั้งแต่เด็ก(ชั้นประถม) ดังนั้นในบทความนี้จะมีมุมมองเรื่องทำเลจากคนท้องถิ่นแทรกมาเยอะนะคะ

ทำความรู้จักย่านทาวน์อินทาวน์

การเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวก

เราขอเล่าถึงย่านทาวน์อินทาวน์กันก่อนดีกว่าค่ะ เผื่อคนที่ไม่รู้จักหรือไม่คุ้นหูเท่าไร ทาวน์อินทาวน์เนี่ย เดิมเป็นหมู่บ้านเก่า(มาก)ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ระหว่างถนนใหญ่ 3 เส้นทางคือ ถนนรามคำแหง, ถนนลาดพร้าว และถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วนเอกมัย – รามอินทรา) และเป็นทำเลที่สามารถเดินทางเข้า-ออกได้จากถนนทั้ง 3 เส้นนี้เลยค่ะ ซึ่งถือว่าสะดวกสำหรับคนที่ต้องใช้รถเดินทางไปไหนมาไหนพอสมควร เพราะใกล้กับถนนเส้นหลักด้วย แถมยังมีทางด่วนฉลองรัชอยู่หน้าบ้าน ใช้ไปมอเตอร์เวย์, รามอินทรา , อ่อนนุช-บางนา หรือพระราม 3 ได้ค่ะ

ส่วนเรื่องความอุดมสมบูรณ์นั้น ถ้าเราดูจากแผนที่ก็จะเห็นว่าจากทำเลสามารถใช้งานได้ทั้งย่านบางกะปิ,รามคำแหง,เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา หรือว่าจะเข้าเมืองมาทางโซนทองหล่อ เอกมัย ก็ไม่ยากค่ะ ตัวเลือกที่ค่อนข้างมากนั้น เราก็จะเลือกไปตามอารมณ์เราเหมือนกันนะคะ อย่างเช่นวันธรรมดา เราก็มักจะขับรถสวนทางกับคนอื่นในช่วงกลางวันมาทางโซน Central Eastville นั่งทำงาน ออกกำลังกาย ห้างโซนนี้จะมีข้อดีเรื่องที่จอดรถฟรีค่ะ ไม่แย่งกันจอดด้วย ส่วนวันเสาร์อาทิตย์ก็สามารถขับรถพาครอบครัวเข้ามาทานอาหารโซนทองหล่อหรือสุขุมวิทได้ง่าย ใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง (ซึ่งเร็วกว่าไปยังโซนเลียบทางด่วนนะคะ) ถือว่าเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศได้ง่ายมากเลยค่ะ

ในเรื่องสุขภาพ สำหรับทำเลนี้ก็จะมีตัวเลือกของโรงพยาบาลให้เลือกค่อนข้างมากค่ะ อย่างตัวเราที่อยู่ย่านนี้มานาน ก็เลือกแวะเวียนใช้ ทั้งโรงพยาบาลรามคำแหง, โรงพยาบาลลาดพร้าว, โรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลเวชธานี และคลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา โดยเราจะเลือกโรงพยาบาลจากความเชี่ยวชาญและการบริการของโรงพยาบาลนั้นๆ ตามอาการป่วยของคนในครอบครัวค่ะ อย่างช่วงโควิทที่ผ่านมา เราก็สามารถขับรถพาคุณแม่ไปโรงพยาบาลรามคำแหงในชั่วโมงฉุกเฉิน(ตี1) ได้ในเวลาไม่เกิน 15 นาที ถือว่าเป็นทำเลที่ดีสำหรับครอบครัวที่มีผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วยนะคะ

แต่สิ่งที่เราชอบที่สุดของย่านนี้คือความสะดวกสบายภายในย่านนี้ค่ะ โดยย่านทาวน์อินทาวน์นี้เป็นโซนที่มีโรงเรียนอยู่ถึง 3 โรงเรียน (รร.บดินทร์1, รร.อุดมศึกษา, รร.พระยาประเสริฐ) มีร้านอาหารชื่อดัง(อบอร่อย,ต้องตาปูดอง) และ Community mall ในตัว และยังเป็นย่านที่มีการทำธุรกิจประเภท Post Production, Casting อยู่เยอะมาก ซึ่งธรรมชาติของคนที่ทำงานทางด้านนี้มักจะทำงานดึกค่ะ ดังนั้น ส่วนที่เป็น Community Mall เองก็จะมีหลายๆร้านที่เปิด 24 ชั่วโมง อย่างเช่น Starbucks, McDonald’s ร้านข้าวต้ม เป็นต้น และไม่ใช่แค่คนทำงานที่อยู่ดึกเท่านั้น เรายังเห็นนักเรียนที่อ่านหนังสือสอบหรือทำงานกลุ่มนัดกันมาทำงานช่วงตี 2 เหมือนกัน (เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ) ความ 24 ชั่วโมงนี้เองเลยเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของทาวน์อินทาวน์นี้ค่ะ (ขับรถไปซื้อแมคกินตอนห้าทุ่ม ไวกว่าสั่ง Delivery อีกนะคะ หรือว่าสั่ง Delivery ก็จะเก็บค่าส่งไม่แพงหรือว่าฟรีด้วยค่ะ เพราะระยะทางใกล้มาก) ส่วนตัวเราจึงมองว่าย่านนี้เป็นย่านที่สะดวกสำหรับการใช้ชีวิต ของคนทุกวัย หรือว่าคนที่อยากหาบ้านสำหรับอาศัยกับครอบครัวย่านหนึ่งค่ะ

ระบบขนส่งสาธารณะ

ทาวน์อินทาวน์ นี้จัดว่ามีตัวเลือกหลากหลายมากสำหรับคนที่ต้องเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะค่ะ มีวินมอเตอร์ไซค์ทุกหัวมุมถนน มีรถสองแถวผ่านเป็นประจำ เรียกแท็กซี่มา หรือว่าไปไหนก็ไม่ยากเลย (ไม่ค่อยโดนปฏิเสธเวลาเรียกกลับบ้านนะคะ) ที่ถนนใหญ่มีท่าเรือ มีป้ายรถเมล์ และล่าสุดก็กำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองกับสายสีส้มอยู่ค่ะ แต่ถ้าจะใช้รถไฟฟ้า BTS หรือ MRT ก็ไปใช้ที่ BTS เอกมัย 7 กม., MRT ศูนย์วัฒนธรรม 6 กม. หรือ Airport Rail Link รามคำแหง 5 กม. ได้

โดยตัวเลือกการเดินทางสาธารณะเหล่านี้เรามองว่าเป็นข้อดีเหมือนกันนะคะ เนื่องมาจากย่านนี้ล้อมรอบด้วยถนนที่ขึ้นชื่อลือชาว่ารถติดมาก วันไหนพีคๆ ขับรถไป Airport Link รามคำแหงเรายังต้องใช้เวลาเกิน 1 ชั่วโมงเลยค่ะ ดังนั้นตัวเลือกสาธารณะกับพี่วินมอเตอร์ไซค์จึงเป็นตัวเลือกโปรดของเราในช่วงเวลาเร่งด่วนเหมือนกัน

รถติด ถือว่าเป็นข้อเสียของย่านนี้เลยค่ะ แต่อันที่จริงแล้วจะมีช่วงเวลาที่เมื่อเราอยู่มาสักพักจะสามารถรู้ได้ว่าควรหลีกเลี่ยงช่วงเวลาไหน เช่น ห้างฝั่งนอกเมืองหรือบางกะปิเสาร์อาทิตย์ไม่ควรไป เวลาโรงเรียนเข้ากับโรงเรียนเลิกไม่ควรออกจากบ้าน หรือว่าช่วงนี้ถนนลาดพร้าวกับรามคำแหงทำรถไฟฟ้าอยู่ เราก็จะไม่ไปโซนบางกะปิค่ะ


4 โครงการบ้านเดี่ยวย่านทาวน์อินทาวน์

โครงการที่เราจะนำมาพูดถึงในบทความนี้จะเป็นโครงการที่เปิดขายอยู่ในปัจจุบันมีอยู่ 4 โครงการดังนี้

  • D8 Residence : ในซอยลาดพร้าว88 บ้าน 6 ชั้น ขนาด 703 ตร.ม. จำนวน 6 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 35.2 ล้านบาท
    *  เป็นโครงการที่เมื่อดูจากพื้นที่ใช้สอยกับราคาแล้ว จะคุ้มค่ามากที่สุดค่ะ แต่จะมีข้อด้อยเรื่องทำเลที่ตั้งของโครงการที่อยู่ในซอยตัน ไม่สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนลาดพร้าวหรือถนนรามคำแหงได้ทันทีเหมือนกับโครงการอื่นๆ
  • The Gentry เอกมัย-ลาดพร้าว : ในซอยลาดพร้าว94 บ้าน 3 ชั้น ขนาด 372-415 ตร.ม. จำนวน 16 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 32.9-39.9 ล้านบาท
    * เป็นโครงการที่เหมาะกับคนที่ต้องการบ้านขนาดประมาณ 400 ตร.ม. อยู่เป็นโครงการปิด ได้ความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยแบบโครงการจัดสรร
  • The City เอกมัย-ลาดพร้าว : ในซอยคุณประสะนีย์ (ซอยพระยาประเสริฐ)บ้าน 2 ชั้น ขนาด 262-375 ตร.ม. จำนวน 67 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 20.9-36.5 ล้านบาท
    * เป็นโครงการเดียวที่ให้พื้นที่ส่วนกลางมาค่ะ แต่ก็เป็นโครงการที่พื้นที่ใช้สอยน้อยสุด ดังนั้นราคาเริ่มต้นจึงต่ำสุดจากทั้ง 4 โครงการที่เลือกมาค่ะ
  • VEVA PRIVA เอกมัย-รามอินทรา : ในซอยรามคำแหง 21 บ้าน 3 ชั้น ขนาด 644-678 ตร.ม. จำนวน 7 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 62 ล้านบาท
    * ถือเป็นโครงการที่ราคาเริ่มต้นสูงสุดจากที่เลือกมา แต่ได้ตัวบ้านที่ออกแบบเป็น L-shape พื้นที่ใช้สอยเยอะ ที่ดินเกิน 100 ตร.วา


เปรียบเทียบทำเลโครงการ

เมื่อเทียบทำเลของทั้ง 4 โครงการ ส่วนตัวเรามองว่าการเข้าถึง หรือออกไปใช้งานถนนกับความอุดมสมบูรณ์ต่างๆนั้นไม่แตกต่างกันมากค่ะ ยกเว้นโครงการ D8 Residence ที่ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 88 ซึ่งเป็นซอยตันและมีข้อจำกันเรื่องการเดินทางมากกว่าโครงการอื่นค่ะ

วิธีเข้าโครงการ D8 Residence

D8 Residence เป็นโครงการที่อยู่ในซอยลาดพร้าว 88 ค่ะ โดยซอยนี้เป็นซอยตัน ต้องเข้า-ออก จากซอยลาดพร้าว 88 เท่านั้น ดังนั้นความสะดวกในการออกไปใช้งานถนนลาดพร้าว รามคำแหง หรือว่าจะมายังโซนทาวน์อินทาวน์ก็จะต้องออกไปยังถนนประดิษฐ์มนูธรรมก่อน แล้ววนเข้ามาโซนทาวน์อินทาวน์อีกครั้ง แต่ว่าการเข้าไปยังโครงการมีอยู่วิธีเดียวคือมาจากถนนลาดพร้าว(มุ่งหน้าไปหมอชิต) เลี้ยวซ้ายมาประดิษฐ์มนูธรรมและถึงจะเข้ามาซอยลาดพร้าว 88 ได้ เพราะว่าจากประดิษฐ์มนูธรรมถ้ามาจากเมืองจุดกลับรถก่อนถนนลาดพร้าวจะเลยทางเข้าซอยไปค่ะ หรือว่าถ้ามาจากฝั่งรามอินทรา ข้ามสะพานมาก็จะเลยทางเข้าโครงการเช่นกัน จึงต้องวนออกมาจากซอยลาดพร้าว 94 ก่อน เพื่อที่จะเข้าไปยังโครงการนั่นเองค่ะ

ดังนั้น สำหรับโครงการนี้เรามองว่าข้อด้อยก็จะเป็นเรื่องทำเลนี้เองที่อาจจะสู้โครงการอื่นไม่ได้ค่ะ แต่ถ้าดูเรื่องราคาและพื้นที่ใช้สอยควบคู่ไปด้วยโครงการนี้จะคุ้มค่ากว่านะคะ

The Gentry เอกมัย-ลาดพร้าว อยู่ในซอยลาดพร้าว 94 ซึ่งซอยนี้จะเป็นซอยที่รถสวนกันได้ ใช้เชื่อมต่อไปยังทาวน์อินทาวน์ได้โดยตรงค่ะ ทำให้ไปใช้งานถนนประดิษฐ์มนูธรรมได้สะดวก (ไม่ต้องวนไปออกลาดพร้าวก่อน) ตำแหน่งโครงการจะค่อนไปทางถนนลาดพร้าว ตรงกันข้ามกับปากซอยลาดพร้าว 94 จะเป็น อิมพีเรียล ลาดพร้าว ซึ่งกำลังสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองอยู่ (สถานีลาดพร้าว 83) ถ้าสร้างเสร็จโครงการนี้จะถือว่ามีข้อดีที่ใกล้กับรถไฟฟ้ามากที่สุด นอกจากนี้ใกล้ๆกับโครงการก็จะมี 7-eleven อยู่ในระยะเดินได้ ถือว่าเป็นข้อดีอีกข้อนะคะ

The City เอกมัย-ลาดพร้าว จะอยู่ในซอยคุณประสะนีย์ (ซอยพระยาประเสริฐ) ปากซอยจะเป็น Makro ค่ะ อยู่ใกล้กับโรงเรียนบดินทร์1 (ถ้ามีโควต้าบ้านใกล้อยู่ก็เข้าเรียนได้เลย) ส่วนตัวมองว่าเป็นโครงการที่มีทำเลที่สามารถ เดินเท้า ไปโรงเรียน ไปแมคโคร และไปร้านกาแฟโซนนี้ได้ และเป็นโซนที่อยู่กึ่งกลางระหว่างถนนประดิษฐ์มนูธรรม ถนนลาดพร้าว และถนนรามคำแหง แต่ก็ล้อมรอบด้วยโรงเรียน อาจจะเจอกับการจราจรติดขัดในซอยช่วงเข้าเรียนและเลิกเรียนได้ค่ะ

VEVA PRIVA เอกมัย-รามอินทรา ตัวโครงการนี้จะอยู่ห่างออกมาเล็กน้อย ช่วงท้ายซอยนวศรีหรือรามคำแหง 21 จึงเหมาะกับคนที่ใช้งานถนนรามคำแหงและถนนประดิษฐ์มนูธรรมมากกว่า แต่ถ้าจะมาขึ้นทางด่วนฉลองรัชหรือไปลาดพร้าวก็ยังต้องวนมาทางทาวน์อินทาวน์ก่อนอยู่ดีค่ะ ส่วนการเข้าถึงความอุดมสมบูรณ์ สามารถไปที่โซนทาวน์อินทาวน์ได้ง่ายด้วยการขับรถ หรือจะไปยังรามคำแหงก็จะมี Big-C หาซื้อของกินของใช้มาตุนได้ค่ะ


เปรียบเทียบรายละเอียดโครงการและพื้นที่ส่วนกลาง

D8 Residence และ VEVA PRIVA เอกมัย-รามอินทรา เป็นโครงการที่มีจำนวนยูนิตน้อย จึงเป็นโครงการไม่จัดสรร ไม่มีพื้นที่ส่วนกลางจึงไม่มีค่าส่วนกลาง ทดแทนด้วยพื้นที่ใช้สอยในบ้านขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำและลิฟต์ในตัวบ้านค่ะ

The Gentry เอกมัย-ลาดพร้าว และ The City เอกมัย-ลาดพร้าว เป็นโครงการจัดสรร มีรั้วรอบและรปภ.คอยดูแลทั้งโครงการ โดย The Gentry เอกมัย-ลาดพร้าว จะมีสวนเล็กๆเป็นพื้นที่ส่วนกลาง แต่ The City เอกมัย-ลาดพร้าว จะเป็นโครงการเดียวที่มี Clubhouse ให้มา (แต่ก็เป็นโครงการที่จำนวนยูนิตเยอะสุดนะ)

D8 Residence เป็นโครงการไม่จัดสรร โดยนิยามของโครงการไม่จัดสรรตามกฏหมายคือ โครงการที่มีจำนวนต่ำกว่า 10 ยูนิตค่ะ ทำให้การขออนุญาตก่อสร้างไม่ต้องยื่นขอในรูปแบบโครงการจัดสรร ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีรั้วรอบโครงการ พื้นที่สีเขียวเหมือนกับโครงการจัดสรรที่เราคุ้นเคยกัน ดังนั้น รูปแบบของโครงการนี้จึงเป็นโครงการที่มีทางเข้า-ออกของบ้านแต่ละหลังจากถนนลาดพร้าว 88 หน้าโครงการเลย ซึ่งโครงการไม่จัดสรรก็จะมีข้อดีเรื่องไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนกลางค่ะ

ดังนั้น โครงการนี้จึงเหมาะกับคนที่ต้องการซื้อบ้านดีไซน์แปลกตาเหมือนกับมีสถาปนิกช่วยออกแบบให้ พื้นที่ใช้สอยเยอะ ชอบความเป็นส่วนตัว (จากที่บอกไปในส่วนของทำเล โครงการนี้จะอยู่ในซอยตัน จึงทำให้ไม่มีรถวิ่งเข้า-ออกหน้าบ้านเยอะด้วยค่ะ) ไม่เน้นการใช้พื้นที่ส่วนกลางค่ะ

The Gentry เอกมัย-ลาดพร้าว ถือเป็นโครงการจัดสรรขนาดเล็ก บนที่ดิน 4 ไร่นิดๆ มีจำนวนบ้านทั้งหมดในโครงการรวม 16 หลังค่ะ ส่วนตัวมองว่าโครงการนี้จะมีข้อดีเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว โดยความปลอดภัยที่เรามองนั้นมาจากรูปแบบของโครงการจัดสรรที่เป็นโครงการปิด ทางเข้าเป็นรั้วเลื่อนอัตโนมัติ มีรปภ.คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งหน้าบ้านเราก็เลยเป็นถนนภายในโครงการที่ดูแล้วเรียบร้อย เสาไฟภายในลงดิน ได้ความสงบมากขึ้นค่ะ

แม้จะเป็นโครงการจัดสรร แต่โครงการนี้ไม่ได้จัดพื้นที่ส่วนกลางมาเยอะ มีเพียงสวนเล็กๆให้มาเท่านั้นค่ะ เหมาะกับการพาลูกๆหรือสัตว์เลี้ยงมาเดินหรือวิ่งเล่นได้ อยู่ภายในโครงการก็ได้เรื่องปลอดภัย ส่วนผู้ใหญ่ที่ต้องการใช้ส่วนกลางเพื่อออกกำลังกายก็เหมาะกับการไปใช้งานฟิตเนสภายนอกมากกว่าค่ะ

The City เอกมัย-ลาดพร้าว จากโครงการที่เราเลือกมาในบทความนี้ โครงการนี้ถือว่าเป็นโครงการที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีบ้านทั้งหมด 67 หลัง บนที่ดิน 17 ไร่ครึ่ง ถือว่าเป็นโครงการจัดสรร ที่มีทางเข้าโครงการ มีรั้วล้อมรอบโครงการเรียบร้อย ได้ระบบรักษาความปลอดภัยค่ะ

ซึ่ง The City เอกมัย-ลาดพร้าว ถือเป็นโครงการเดียวในย่านนี้ที่ให้ส่วนกลางมาเป็น Clubhouse ด้วยค่ะ ภายในส่วนกลางก็จะประกอบด้วย Fitness, Co-working Space, Theater, Sauna, สระว่ายน้ำระบบเกลือ แยกผู้ใหญ่-เด็ก พร้อมจากุชชี่, สวนสาธารณะและสนามเด็กเล่น พร้อมเครื่องเล่น โดยคิดค่าส่วนกลาง 45 บาทต่อตร.วาค่ะ

ดังนั้น โครงการนี้จึงเหมาะกับคนที่กำลังหาบ้าน อยากได้โครงการจัดสรรที่มีพื้นที่ส่วนกลางไว้ใช้งานค่ะ

VEVA PRIVA เอกมัย-รามอินทรา เป็นโครงการไม่จัดสรร ทำให้ไม่เสียค่าใช้จ่ายส่วนกลาง มีทั้งหมด 7 ยูนิต ถนนหน้าบ้านเป็นถนนสาธารณะ หรือซอยรามคำแหง 21 เป็นซอยที่เชื่อมต่อระหว่างถนนประดิษฐ์มนูธรรมและถนนรามคำแหง รถผ่านไปมาตลอด ถือว่าไม่เปลี่ยวค่ะ


แบบบ้านและพื้นที่ใช้สอย+ราคา

D8 Residence

โครงการนี้ถือว่าเป็นโครงการที่ออกแบบมาได้น่าสนใจมากโครงการหนึ่งเลยค่ะ เพราะว่า…
1) ออกแบบตัวบ้านออกมาเป็นบ้านแฝดที่สูงถึง 6 ชั้น
2) พื้นที่ใช้สอยเยอะมากที่สุด(จากโครงการที่เลือกมาลงในบทความ) อยู่ที่ 703 ตร.ม. บนที่ดินขนาด 66 ตร.วา
3) ฟังก์ชันในบ้านมี 4 ห้องนอน 8 ห้องน้ำ และสามารถจอดรถได้ถึง 6 คัน
4) ราคาเริ่มต้น 35.2 ล้านบาท ซึ่งไม่ใช่ราคาสูงสุดของย่านนี้ค่ะ
5) มีสระว่ายน้ำ และ ลิฟต์ในตัว รองรับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุค่ะ

Image 1/6
ชั้นที่ 1 เป็นฟังก์ชัน Service อย่างที่จอดรถ ครัว และห้องแม่บ้าน มีพื้นที่กินข้าวอยู่ด้วยค่ะ ที่น่าสนใจคือที่ดินไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก แต่ออกแบบให้มี Court เล็กๆเอาไว้ปลูกตันไม้ใหญ่ไว้ตรงกลาง และต้นไม้นี้เองก็จะเป็นมุมมองให้กับพื้นที่ใช้สอยอื่นๆภานในบ้านด้วย

ชั้นที่ 1 เป็นฟังก์ชัน Service อย่างที่จอดรถ ครัว และห้องแม่บ้าน มีพื้นที่กินข้าวอยู่ด้วยค่ะ ที่น่าสนใจคือที่ดินไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก แต่ออกแบบให้มี Court เล็กๆเอาไว้ปลูกตันไม้ใหญ่ไว้ตรงกลาง และต้นไม้นี้เองก็จะเป็นมุมมองให้กับพื้นที่ใช้สอยอื่นๆภานในบ้านด้วย

ผังพื้นบ้านโครงการ D8 Residence หลักๆชั้น 1-2 จะเป็นพื้นที่ Service, รองรับแขก, Living Area ส่วนชั้น 3-5 จะเป็นชั้นห้องนอน และชั้น 6 เป็นเหมือน Facility ส่วนตัว มีสระว่ายน้ำและพื้นที่พักผ่อนที่ดาดฟ้าค่ะ

Image 1/11

คลิกขวาเลื่อนดูรูปบรรยากาศในโครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ จากที่เราลองสอบถามกับทางโครงการดู บ้านของที่นี่จะเป็นบ้านแบบสั่งสร้าง คือเราสามารถปรับเปลี่ยนแบบหรือฟังก์ชันแต่ส่วนได้บ้าง ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีเหมือนกันค่ะ เผื่อครอบครัวไหนสมาชิกมาก ก็สามารถปรับบางส่วนให้กลายเป็นห้องนอนเพิ่มได้นะคะ

The Gentry เอกมัย-ลาดพร้าว

Image 1/8

ในโครงการ The Gentry เอกมัย-ลาดพร้าวจะมีแบบบ้านให้เลือกอยู่ 3 แบบ เป็นบ้าน 3 ชั้น ดีไซน์โมเดิร์น ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 58-100 ตร.วา เราลองดูผังบ้านแต่ละแบบประกอบกันดูค่ะว่าฟังก์ชันของบ้านแต่ละแบบนั้น แบบไหนเหมาะกับความต้องการของผู้อ่านกัน

Image 1/4
New Brooklyn

New Brooklyn

New Brooklyn เป็นชื่อเรียกของบ้านขนาดเริ่มต้นในโครงการค่ะ มีพื้นที่ใช้สอย 372 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 32.9 ล้านบาท

สิ่งที่เราชอบในแบบนี้คือ ส่วน Living Area ที่ให้มา 2 จุด (ที่ชั้นล่างได้เป็น Double Volume และ ชั้น 2 จัดเป็น Family area ได้) ส่วนห้องนอนที่มีอยู่ 3 ห้อง ก็จะได้ห้องที่มีขนาดใหญ่หมดเลยค่ะ วางเตียงใหญ่ได้ มี Walk-in Closet ได้ และมีห้องน้ำในตัว ดังนั้นแบบนี้จึงค่อนข้างเหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง เช่น พ่อ-แม่-ลูก อยู่อาศัยกัน 4-6 คนสบายๆค่ะ

Image 1/4
Tribecca

Tribecca

Tribecca ถือว่าเป็นบ้านขนาดกลาง มีพื้นที่ใช้สอย 415 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถค่ะ ราคาเริ่มต้นของบ้านแบบนี้อยู่ที่ 36.9 ล้านบาท

จุดเด่นของบ้านแบบนี้คือเป็นบ้าน L-shape และเป็นแบบเดียวในโครงการที่มีสระว่ายน้ำและลิฟต์ในตัว ในส่วนของฟังก์ชันใช้งานจะแบ่งชั้น 1 เป็นส่วน Living and dining area ส่วนชั้น 2-3 เป็นพื้นที่ส่วนพักอาศัย โดยชั้น 2 จะมี Master Bedroom และห้องอเนกประสงค์ที่มีห้องน้ำในตัว ห้องนี้สามารถปรับเป็นห้องนอนได้หรือจะจัดให้เป็นห้องนั่งเล่น ห้องน้ำงานก็ได้ค่ะ ส่วนชั้น 3 จะแบ่งเป็นห้องนอน 2 ห้องและมี Semi-Living room ระหว่างกลางเพิ่มขึ้นมาค่ะ ดังนั้นบ้านแบบนี้จึงเหมาะกับครอบครัวที่อยู่อาศัยกัน 3 Generations เพราะมีลิฟต์ในบ้านให้ อาจจะอยู่กันได้ 4-8 คน

Image 1/4
New Manhattan

New Manhattan

New Manhattan เป็นแบบบ้านขนาดใหญ่ที่สุดภายในโครงการ มีพื้นที่ใช้สอย 455 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 39.9 ล้านบาท

แบบนี้เป็นอีกแบบที่น่าสนใจค่ะ ถ้าเราดูจากปริมาณฟังก์ชันแล้วจะเห็นว่าจำนวนห้องน้ำจะหายไป 1 ห้องเมื่อเทียบกับ Tribacca แปลว่าห้องนอนที่จะมีห้องน้ำในตัวนั้นจะมีอยู่ 3 ห้องนั่นเองค่ะ แต่ว่าที่ชั้น 1 จะมีห้องอเนกประสงค์ที่สามารถปรับฟังก์ชันเป็นห้องสำหรับผู้สูงอายุได้อยู่ แต่ส่วนตัวเรามองว่าถ้าครอบครัวไหนมีผู้สูงอายุอยู่ด้วย แบบ Tribecca จะตอบโจทย์การใช้งานมากกว่า ส่วนแบบ New Manhattan นั้นน่าจะเหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง 4-6 คน เน้นพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านขนาดใหญ่ มีพื้นที่ส่วนพักผ่อนของแต่ละชั้น ในห้องนอนแต่ละห้องก็เหมือนได้ห้องชุดส่วนตัว เพราะว่าทุกห้องจัดวางเตียงใหญ่ได้ วางมุมโซฟาพักผ่อนส่วนตัวได้ มี Walk-in Closet และห้องน้ำภายในตัวค่ะ และอีกจุดที่ไม่พูดคงไม่ได้คือ Walk-in Closet ในห้อง Master Bedroom ที่ขนาดใหญ่มาก คุณผู้หญิงเห็นต้องร้องชอบใจแน่นอน

The City เอกมัย-ลาดพร้าว

โครงการที่มีแบบบ้านและราคาขนาดเล็กที่สุดในย่านทาวน์อินทาวน์ก็คือโครงการนี้ค่ะ The City เอกมัย-ลาดพร้าว โดยโครงการนี้จะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เราลองไปดูกันทีละแบบ ว่ามีแบบไหนถูกใจคุณผู้อ่านกันค่ะ

Image 1/3
Retreat

Retreat

Retreat เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดเริ่มต้นของโครงการค่ะ มีพื้นที่ใช้สอย 262 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 63 ตร.วา 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ และมีห้องแม่บ้านอยู่ด้วยค่ะ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 20.9 ล้านบาท

สำหรับบ้านแบบนี้ถือว่าจัดฟังก์ชันได้กระชับและคุ้มค่าอยู่นะคะ เพราะว่ามีทั้งหมด 4 ห้องนอน เราสามารถเลือกห้องนอนที่ชั้น 1 เป็นห้องนอนของผู้สูงอายุได้ และยังมีฟังก์ชัน Living Area ที่จัดมาถึง 2 จุด ทั้งชั้น 1 และ ชั้น 2 ห้องนอนที่ชั้น 2 ทุกห้องสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ได้ มีมุมวางตู้เสื้อผ้า และมีห้องน้ำในตัวค่ะ บ้านแบบนี้รองรับครอบครัวแบบ 3 Generations ได้ อยู่อาศัยได้ 4-7 คน

สิ่งที่ด้อยกว่าแบบอื่นทั้งในโครงการและนอกโครงการจะมีอยู่ 2 เรื่องคือ ที่จอดรถ ของแบบบ้านนี้จะได้ 2 คัน และ Living Area ที่แบบอื่นๆจะทำเป็น Double Volume หรือฝ้าเพดานสูง 2 ชั้นค่ะ แต่ก็แลกกับราคาที่ลงมาอยู่ที่ 20 ล้านต้นๆแทนค่ะ

Image 1/3
Spacious

Spacious

Spacious เป็นแบบบ้านขนาดกลางของโครงการ มีพื้นที่ใช้สอย 309 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 66 ตร.วา 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 26.5 ล้านบาท

แบบ Spacious เรามองว่าเป็นแบบบ้านที่พัฒนามาจาก Retreat ค่ะ แต่ว่าพื้นที่แต่ละส่วนหรือแต่ละห้องจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ที่จอดรถเพิ่มขึ้นมาเป็น 3 คัน บริเวณทางเข้าบ้านก็จะมีพื้นที่ Double Volume เล็กๆ มองจาก Family living area ที่ชั้น 2 ลงมาก็รับรู้ได้ว่าแขกคนไหนแวะเวียนมาหาที่บ้าน ส่วนภายในห้องนอนก็จะกว้างขึ้น มีทางเดินใหญ่ วางขนาดเตียงและตู้เสื้อผ้าที่ใหญ่ขึ้นได้ค่ะ บ้านแบบนี้รองรับครอบครัวแบบ 3 Generations ได้ อยู่อาศัยได้ 4-7 คน

Image 1/3
Scenery

Scenery

Scenery เป็นแบบบ้านขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการค่ะ เป็นบ้าน 2 ชั้น ที่มีพื้นที่ใช้สอย 375 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 89 ตร.วา มีทั้งหมด 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 36.5 ล้านบาท

บ้านแบบ Scenery ถือว่าเป็นบ้านที่ออกแบบมารองรับครอบครัวขนาดใหญ่ และอยู่กัน 3 Generations จริงๆค่ะ เพราะว่าที่ชั้น 1 จะทำทางลาดเผื่อต้องใช้งาน Wheel chair ห้องนอนที่ชั้น 1 มีห้องน้ำในตัว ออกแบบโดยใช้ประตูบานเลื่อน ตามหลักการของ Universal Design ส่วนห้องนอนที่ชั้น 2 จะมีอยู่ 4 ห้อง ทุกห้องมีขนาดใหญ่และมีห้องน้ำในตัวค่ะ ดังนั้นบ้านแบบนี้จึงรองรับการอยู่อาศัยได้ 6-10 คนเลย

VEVA PRIVA เอกมัย-รามอินทรา

สำหรับโครงการ VEVA PRIVA เอกมัย-รามอินทรา จะมีแบบบ้านอยู่แบบเดียวค่ะ เป็นบ้าน 3 ชั้น ผังเป็น L-shape ตอนลึก มีที่ดินและพื้นที่ใช้สอยเยอะที่สุดจากทุกโครงการที่เราเลือกมาค่ะ โดยพื้นที่ใช้สอยจะอยู่ที่ 644 – 678 ตร.ม. ที่ดินขนาด 111.6 – 128.1 ตร.วา ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 62 ล้านบาท

Image 1/3
Veva Priva เอกมัย-รามอินทรา Plan 1

Veva Priva เอกมัย-รามอินทรา Plan 1

ถ้าดูจากแปลนส่วนตัวเรามองว่าการออกแบบของโครงการนี้จะให้ความสำคัญกับขนาดของพื้นที่เป็นอย่างมากค่ะ คงจะเป็นการออกแบบให้ Luxury ที่ไม่ใช่แค่เรื่อง Design แต่รวมถึงการใช้งาน เช่น ที่จอดรถ 4 คัน แต่ว่าไม่ต้องจอดกันแบบซ้อนคัน พื้นที่แต่ละส่วนมีขนาดกว้างขวาง จัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ง่าย มีทางเดินที่กว้าง ทุกห้องนอนมีขนาดใหญ่ ได้ห้องน้ำในตัว แต่ละชั้นมีพื้นที่พักผ่อน และตัวบ้านมีสระว่ายน้ำและลิฟต์ให้มาด้วยค่ะ

Image 1/3

ตัวที่ดินลึกเข้าไปจากถนนและมีขนาดใหญ่ แต่เราถือว่าเป็นบ้านที่สร้างแผ่เต็มพื้นที่ดินนะคะ มีการจัดสวนไว้ตามมุมต่างๆ และสร้างสระว่ายน้ำไว้ด้านในให้เป็นมุมมองกับพื้นที่ต่างๆภายในบ้าน แต่ยังคงได้ความเป็นส่วนตัวค่ะ

Image 1/10

สำหรับโครงการนี้เรามองว่าเหมาะกับคนที่อยากได้บ้าน Luxury ขนาดใหญ่พื้นที่ใช้งานอยู่สบาย มีลิฟต์และสระว่ายน้ำในตัว อยู่กับครอบครัวได้ถึง 3 Generations

บรรยากาศในบ้านตัวอย่าง ภาพจาก https://www.vevapriva.com/


สรุป

สุดท้ายนี้ เรามองว่าย่านทาวน์อินทาวน์ถือเป็นอีกย่านหนึ่งที่เหมาะกับการอยู่อาศัยสำหรับครอบครัวมาก ทั้งการเดินทางที่สะดวก สามารถเดินทางไปในตัวเมืองได้ง่ายและความอุดมสมบูรณ์ที่มีตัวเลือกหลากหลาย ทั้งในย่านเอง และบริเวณรอบๆ

แต่ก็เพราะทำเลที่ใกล้เมืองด้วย ทำให้ราคาของที่อยู่อาศัยแถวนี้ จะอยู่ที่ 20-60 ล้านบาท ดังนั้น การที่จะมาอยู่อาจจะต้องมีงบประมาณที่พอดีกับช่วงราคาบ้านในหลักนี้ และก็ต้องเผื่องบประมาณสำหรับตกแต่งภายในเพิ่มเติมเข้าไปด้วย

บ้านราคา 20 – 30 ล้าน ; The City เอกมัย-ลาดพร้าว แบบ Retreat และ Spacious
บ้านราคา 30 – 40 ล้าน ; D8 Residence, The Gentry เอกมัย-ลาดพร้าว ทุกแบบบ้าน, The City เอกมัย-ลาดพร้าว แบบ Scenery
บ้านราคามากกว่า 60 ล้าน ; VEVA PRIVA เอกมัย-รามอินทรา

ถ้าดูจากแบบบ้านที่มีให้เลือก ก็จะเหมาะกับการอยู่อาศัยกันเป็นครอบครัวขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีตั้งแต่แบบ 3 ห้องนอนไปจนถึง 5 ห้องนอน

แทบทุกแบบบ้านที่สร้างมารองรับการใช้งานของผู้สูงอายุโดยเฉพาะ 

  • บ้านที่มีลิฟต์ในตัว ; D8 Residence, VEVA PRIVA เอกมัย-รามอินทรา และ The Gentry เอกมัย-ลาดพร้าว (แบบ Tribecca)
  • บ้านที่มีห้องนอนชั้นล่าง ; The Gentry เอกมัย-ลาดพร้าว (แบบ New Manhattan ปรับห้องชั้นล่างเป็นห้องนอนได้), The City เอกมัย-ลาดพร้าว ทุกแบบจะมีห้องนอนที่ชั้นล่างหมด แต่สำหรับแบบ Scenery จะมีทางลาด ประตูบานเลื่อน เหมาะกับการใช้ Wheel chair


และทั้งหมดนี้เป็นโครงการที่เราลองนำมาเปรียบเทียบให้ผู้อ่านดูกัน เผื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อบ้านที่อยู่ใกล้ตัวเมืองนะคะ และคุณผู้อ่านมีย่านไหน หรือว่าอยากให้ช่วยรวบรวมข้อมูลของโซนใด ลอง Comment บอกกันมาได้เลยค่ะ