สวัสดีค่ะ.. ปัจจุบันตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ทำมาตอบโจทย์กลุ่มคนระดับ Hi-End กำลังเป็นที่ฮอตฮิตและน่าสนใจในช่วงนี้นะคะ ซึ่งวันนี้ก็เช่นกัน เรามีบทความเจาะลึกการออกแบบโครงการบ้านระดับ Super Luxury กับโครงการ D8 บ้านแฝด 6 ชั้น ในรูปแบบ Verticle House บนทำเลย่านเอกมัย-รามอินทรา

ตัวโครงการชูจุดเด่นที่น่าสนใจคือ บ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ด้วยพื้นที่ใช้สอยร่วม 703 ตร.ม. ตอบโจทย์การอยู่อาศัยแบบครอบครัวใหญ่ อยู่ได้ถึง 3 Generation ด้วยกัน ที่จอดรถที่ออกแบบให้จอดได้ถึง 6 คัน รวมไปถึงการออกแบบสระว่ายน้ำไว้ชั้นดาดฟ้า ซึ่งแม้จะเป็นโครงการระดับ Super Luxury ด้วยกันก็ยังจัดว่าหาได้ยากนะคะ สุดท้ายคือราคาต่อตร.ม.ที่ถูกกว่าบ้านระดับ Super Luxury ที่ให้พื้นที่ใช้สอยมาพอๆ กันหลายโครงการอีกด้วยนะคะ หากลองเทียบพื้นที่ใช้สอยกับราคาแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 56,000 บาท/ตร.ม. ค่ะ

โครงการได้รับการออกแบบอาคาร (Architect)โดยบริษัท Idin Architects ที่มีผลงานการออกแบบและได้รางวัลการออกแบบมามากมายทีเดียวค่ะ ยกตัวอย่างเช่น SIRI House ซึ่งรูปแบบเป็นบ้านแนวตั้งใกล้เคียงกับโครงการ โดยรางวัลล่าสุดการันตีจาก American Architecture Prize เป็นต้นค่ะ ส่วน Interior ของโครงการได้ใช้ทีม Interior จาก Sonder Living ผู้นำเข้าแบรนด์เฟอร์นิเจอร์จาก Designer ชื่อดังของโลก มาเป็นผู้ออกแบบ และพิเศษมากกว่านั้นคือ ลูกค้าโครงการสามารถให้ทางทีม Interior จาก Sonder Living ออกแบบภายในได้ตามไลฟ์สไตล์และความชอบของลูกบ้านได้ พร้อมทั้งส่วนลดเฟอร์นิเจอร์ 25% เลยทีเดียว

พิกัดโครงการ D8 : 13.783187, 100.608867

ทำเลโครงการ D8 ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 88 ลึกเข้ามาในซอยประมาณ 270 ม. หน้าปากซอยเชื่อมเข้าถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เอกมัย-รามอินทรา) รวมทั้งอยู่ใกล้แยกที่ตัดกับถนนลาดพร้าว จัดเป็นทำเลที่สามารถเดินทางได้สะดวกทั้งถนนประดิษฐ์มนูธรรมและถนนลาดพร้าว ซึ่งเป็นย่านที่มีความคึกคักอยู่ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่าง Central Festival Eastville, CDC และ Crystal Design รวมไปถึงอยู่ใกล้กับจุดขึ้น-ลงทางด่วนรามอินทรา หรือทางพิเศษฉลองรัช ตรงเข้าใจกลางเมืองอย่าง เอกมัย-ทองหล่อได้สะดวกทีเดียวค่ะ

ส่วนทำเลในซอยลาดพร้าว 88 นี้เป็นซอยถนนสาธารณะที่มีบรรยากาศค่อนข้างสงบ ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัย มีฝั่งตรงข้ามที่ติดกับโรงเรียนอนุบาลนานาชาติอย่าง Prep Montessori International Kindergarten ค่ะ โดยรวมแล้วเป็นบรรยากาศที่เหมาะกับการอยู่อาศัย

จุดเด่นของทำเลนี้นอกจากจะอยู่ใกล้ถนนเอกมัย-รามอินทรา และลาดพร้าว ตัวโครงการจัดวางอยู่ในพื้นที่ของโรงเรียนนานาชาติค่อนข้างเยอะทีเดียวค่ะ (ตามหมุดสีแดง) ในระยะทางไม่เกิน 8 กม. ยกตัวอย่างโรงเรียนที่มีชื่อเสียงอย่าง Prep ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการเลย หรือจะเป็น The Regent’s International School, KIS international School เป็นต้น ข้อดีคือผู้ปกครองไม่ต้องเสียเวลาเดินทางรับ-ส่งลูกหลานไกลเลยค่ะ

ในอนาคตจะมีส่วนของแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองตัดผ่านบนถนนหลักลาดพร้าว ซึ่งปัจจุบันในระยะใกล้สุดตอนนี้จะเป็น MRT ลาดพร้าว ระยะห่างประมาณ 6.5 กม. ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเหลือง(ลาดพร้าว-บางกะปิ-สำโรง) เป็นสายในอนาคตที่มีกำหนดการณ์แล้วเสร็จประมาณปี 2563 ค่ะ ซึ่งสถานีที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดคือสถานีฉลองรัช อยู่บริเวณปากซอยลาดพร้าว 81 เลย ซึ่งคาดว่าน่าจะห่างจากโครงการประมาณ 400-500 เมตรเศษๆเท่านั้นค่ะ จัดเป็นระยะที่เดินได้ง่าย เป็นอีกตัวเลือกในการเดินทางหากต้องการเข้าสู่ใจกลางเมืองในช่วงเวลาเร่งด่วนจริงๆ

การเดินทางในวันนี้เราเริ่มต้นกันที่ถนนลาดพร้าว วิ่งตรงมาผ่าน Imperial ลาดพร้าว จากนั้นตรงไปยังแยกลาดพร้าว 86 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเลียบด่วนรามอินทรา จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ซอยลาดพร้าว 88 ลึกไปประมาณ 270 ม. จะเห็นที่ตั้งโครงการอยู่ฝั่งซ้ายมือตรงข้ามกับ Prep Montessori International Kindergarten ค่ะ

เริ่มต้นกันบนถนนลาดพร้าวช่วงซอยลาดพร้าว 112 ซึ่งสามารถทะลุออกไปยังถนนรามคำแหงได้ ด้านข้างซอยคือโรงเรียนบางกอกศึกษา

ตรงมาอีกหน่อยเป็นห้างใหญ่ในย่านลาดพร้าวตอนกลางอย่าง Imperial World ซึ่งภายในมี Big C Supercenter ด้วยนะคะ

จากนั้นตรงมาอีกหน่อยเจอแยกที่ตัดกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เอกมัย-รามอินทรา) ให้เบี่ยงซ้าย

เมื่อเบี่ยงซ้ายแล้วให้ชิดเลนซ้ายเข้ามายังถนนประดิษฐ์มนูธรรม จะเจอหน้าปากซอยลาดพร้าว 88 ค่ะ

บรรยากาศภายในซอยลาดพร้าว 88 ค่อนข้างเงียบสงบเหมาะกับการอยู่อาศัย โดยรวมแล้วเป็นบ้านพักอาศัยเป็นส่วนใหญ่

ตรงจากหน้าปากซอยราวๆ 270 ม. จะเห็นรั้วโครงการฝั่งซ้ายมือแล้วนะคะ ตรงข้ามคือ Prep Montessori International Kindergarten

สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยสูงไม่เกิน 2 ชั้น ทำให้บรรยากาศโดยรอบโครงการเป็นย่านที่อยู่อาศัยไม่หนาแน่น ตรงข้ามเป็นโรงเรียนซึ่ง Set Back ห่างจากโครงการไปอีกหน่อยไม่อยู่ในระยะประชิดกับถนนซอบเลยทีเดียว และทิศเหนือยังเป็นที่ดินว่างอยู่ แต่จะมีเพียงพื้นที่รอบข้างทางทิศตะวันออกที่เยื้องๆ กับอพาร์ทเมนท์ 4 ชั้นและทาวน์โฮม 3 ชั้น

โครงการ D8 เป็นบ้านแฝดที่มีความสูง 6 ชั้น เป็นความสูงที่มากกว่าบ้านส่วนใหญ่ในย่านนี้ บ้านในโครงการจึงไม่มีอาคารที่บังวิวตั้งแต่ชั้น 4 ขึ้นมา สำหรับพื้นที่โดยรอบโครงการสรุปได้ดังนี้ค่ะ

  • ทิศเหนือ ติดกับ ที่ดินว่าง
  • ทิศใต้ ติดกับ พื้นที่เก็บของสูง 1 ชั้น
  • ทิศตะวันออก ติดกับ อพาร์ทเม้นท์ สูง 4 ชั้น และทาวน์โฮมสูง 3 ชั้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ซอยลาดพร้าว 88 และ Prep Montessori International Kindergarten

บริเวณที่ดินของโครงการติดกับถนนใน มีการล้อมรั้วโครงการไว้เรียบร้อยค่ะ ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ช่วงวางเสาเข็ม

บรรยากาศฝั่งตรงข้ามโครงการที่เป็นโรงเรียน Prep Montessori International Kindergarten

Prep Montessori International Kindergarten จัดวางผังค่อนข้างดีมีความเป็นส่วนตัวสูง หากสังเกตว่าเราที่เป็นคนภายนอกจะมองไม่เห็นบรรยากาศภายในโรงเรียนเท่าไหร่นัก ดังนั้นข้อดีเลยคือเรื่องความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านโครงการเช่นเดียวกันค่ะ

รูปแบบโครงการเป็นโครงการแบบไม่จัดสรรนะคะ ด้วยความที่มีจำนวนยูนิตเพียง 6 ยูนิตเท่านั้น วางเรียงกันไปตามแนวถนนสาธารณะในซอย ดังนั้นข้อดีเลยคือลูกบ้านไม่จำเป็นต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในส่วนกลาง เพราะหากมองถึงไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยระดับราคานี้ส่วนใหญ่จะไม่ใช่พื้นที่ส่วนกลางร่วมกันมากนะ เนื่องจากซีเรียสเรื่องความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก เมื่อพื้นที่ส่วนกลางไม่ได้ใช้งาน แต่ต้องจ่ายค่าส่วนกลางก็เป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองพอสมควรนะคะ ทั้งนี้โครงการไม่จัดสรรก็จะเป็นเรื่องของความปลอดภัยที่น้อยกว่าโครงการจัดสรรเช่นเดียวกัน โดยทางโครงการก็ตระหนักถึงความปลอดภัยเช่นเดียวกัน จึงมีการติดตั้ง CCTV ให้ทุกยูนิตเป็นมาตรฐานร่วม 6 จุด พร้อมกับ Digital Door Lock และ Magnetic & Shock Sensor เพื่อเพิ่มความปลอดภัยสูงสุดให้ลูกบ้านอย่างเต็มที่ และความสะดวกสบายโดยติดตั้ง Home Automation จาก Fib

โครงการ D8 บ้านแฝดที่ออกแบบมาในรูปแบบ Verticle House ด้วยความสูง 6 ชั้น ทำให้นอกจากจะได้พื้นที่ใช้สอยเหมือนบ้านแนวราบทั่วไปแล้ว ยังได้บรรยากาศความสูงเหมือนคอนโดมิเนียม Low Rise อีกด้วย เพิ่มมิติและมุมมองทั้งแนวนอนและแนวตั้ง สไตล์ของตัวบ้านตกแต่งมาในรูปแบบ Modern Luxury เน้นโทนสีเรียบหรู ด้วยสีขาว น้ำตาล และหินอ่อน พร้อมทั้งกระจกบานใหญ่ช่วยให้ตัวบ้านดูโปร่งโล่ง และภายในตัวบ้านเปิดมุมมองไปยังวิวสวนนอกบ้านได้ดี

นอกจากนี้ขนาดพื้นที่ใช้สอยบ้านที่ให้มาถึง 703 ตร.ม. บนเนื้อที่ดิน 66 ตร.วา จึงเหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ที่สามารถอยู่ร่วมกันได้ถึง 3 Generation สบายๆ มี 4 ห้องนอน 8 ห้องน้ำ (รวม Powder Room) และ 6 ที่จอดรถเลยทีเดียวค่ะ

บรรยากาศด้านหน้าบ้านมีรูปลักษณ์โดดเด่นด้วยการทำเส้นเฉียงไปมาของ Facade ทำให้ได้ความโฉบเฉี่ยว Modern มากขึ้น แต่ยังคงความหรูหราด้วยกระเบื้องขนาดใหญ่ลายหินอ่อน Carrara จาก Grandhome ซึ่งมีการติดตั้งที่ไม่ธรรมดา ด้วยกระเบื้องขนาดใหญ่ย่อมมีน้ำหนักเยอะมาก ดังนั้นหากจะฉาบแปะกับผนังทั่วไปก็ไม่ได้ การติดตั้งจึงมีความปราณีตและขั้นตอนที่มากขึ้นโดยการฝังเหล็กและตัวรับกระเบื้องติดกับผนังจากนั้นตัวกระเบื้องด้านหลังมีตัวล็อกพร้อมวางบนเหล็กได้ง่าย ข้อดีนอกจากเรื่องความสวยงาม และงานที่เนี้ยบมากขึ้นแล้ว จะเป็นเรื่องการ Maintainance ที่ง่ายอีกด้วย หากกระเบื้องเกิดร้าวหรือแตกในอนาคต ลูกบ้านสามารถถอดกระเบื้องเก่าแล้วสวมกระเบื้องใหม่ได้เลย ลดขั้นตอนการ Maintainance ได้เยอะมาก

นอกจากกระเบื้องลายหินอ่อนแล้ว ก็คือกระจกบานใหญ่กว่าครึ่งของหน้าบ้านที่ทางโครงการออกแบบมาทำให้ตัวบ้านดูหรูหราและโปร่งโล่งดีทีเดียว จุดที่พิเศษคือชั้นบนสุดที่ทำเป็นสระว่ายน้ำติดตั้งด้วยกระจกใสเปิดมุมมองการว่ายน้ำได้มากขึ้นด้วยค่ะ ส่วนความเป็นส่วนตัวของบ้านก็ยังมีอยู่ แม้จะติดกับบ้านข้างๆ แต่จะสังเกตว่ามีผนังคั่นกลางที่ยื่นออกมาเลยผนังของบ้าน ทำให้บ้านข้างๆ มองไม่เห็นกัน เพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ดีมากทีเดียว

แปลนชั้น 1 – จุดเด่นของฟังก์ชันคือบ้านที่ให้ที่จอดรถมาถึง 6 คันนะคะ ซึ่งจัดว่าตอบโจทย์ลูกบ้านระดับ Premium ที่มักจะมีรถยนต์ส่วนตัวมากกว่า 1 คันต่อคนเป็นอย่างต่ำอยู่แล้ว และยังสามารถเพิ่มพื้นที่จอดรถมากขึ้นได้ถึง 9 ช่องจอดด้วยระบบ Mechanical Parking เพิ่มเติมได้เพราะฝ้าเพดานที่จอดรถที่สูงถึง 3 ม. จึงสามารถซอยชั้นที่จอดรถเพิ่มได้ค่ะ

ถัดจากที่จอดรถก่อนเข้าสู่ภายในบ้าน มีพื้นที่ Courtyard ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นพื้นที่โปร่งโล่งสูงไปถึงชั้น 6 โดยทางโครงการจะมีการจัดสวนและมีต้นไม้ใหญ่วางให้บริเวณ Courtyard นี้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน เพิ่มความร่มรื่น และความผ่อนคลายที่มากขึ้น เข้ามาภายในบ้านชั้นนี้แบ่งออกเป็น 2 โซนใหญ่คือ พื้นที่รับแขก และพื้นที่หลังบ้าน (Back of House) สำหรับพื้นที่รับแขกจัดให้เป็นฟังก์ชัน Formal Dinning Room ที่สามารถรับรองแขกได้ถึง 10 คน พร้อมห้องน้ำแบบ Powder Room ด้านข้าง ส่วนด้านหลังบ้านมีทั้งหมด 3 ฟังก์ชัน มีพื้นที่ครัวไทยเป็นสัดส่วนเหมาะกับการประกอบอาหาร พื้นที่ซักล้าง และที่พักของแม่บ้านพร้อมห้องน้ำไว้เรียบร้อย ที่น่าสนใจคือมีการทำบันไดหนีไฟ แยกต่างหากจากตัวอาคารด้านใน กว้าง 1.20 ม. หรือใช้เป็นบันไดของแม่บ้านโดยเฉพาะ แยกการใช้งานไปยังชั้นบนของตัวบ้านไว้เป็นสัดส่วนไม่รบกวนบันไดหลักของบ้าน และลิฟต์ภายใน

และในตอนกลางคืนหากไม่ต้องการให้แม่บ้านเข้ามาภายในของบ้านก็สามารถล็อกส่วนครัวได้ แม่บ้านก็จะอยู่บริเวณหลังบ้านได้ ไม่เข้ามารบกวนภายในบ้าน สร้างความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านมากขึ้น

ภาพบรรยากาศบริเวณ Formal Dinning Room ที่สามารถวางชุดโต๊ะเก้าอี้ขนาดใหญ่ได้ถึง 10 ที่นั่ง ด้านข้างติดตั้งกระจกทรงสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานทำให้ได้แสงสว่างจากภายนอกเข้ามาภายในได้ดี ช่วยให้บ้านโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น รวมทั้งรับวิวสวนด้านข้างบ้านอย่างเต็มที่

วัสดุพื้นบริเวณชั้นล่างทางโครงการให้เป็นพื้นแกรนิตโต้ขนาด 60 x 120 ซม. สีหินอ่อน Carrara ซึ่งสอดคล้องกับการดีไซน์ของบ้านและ Facade ด้านหน้าที่ใช้กระเบื้องลายหินอ่อนเช่นกัน ฝ้าเพดานความสูงอยู่ที่ 3 ม. ได้ความโปร่งโล่งค่อนข้างดีทีเดียว และเป็นความสูงฝ้าที่สามารถดีไซน์ฝ้าเพดานได้หลากหลายลูกเล่นมากยิ่งขึ้น จะแขวนโคมระย้าขนาดกะทัดรัดเหมือนอย่างที่ทาง Sonder Living ตกแต่งให้ตามภาพ Perspective ก็ได้เช่นกันค่ะ

บริเวณ Courtyard กลางบ้านทางโครงการจัดสวนและต้นไม้ใหญ่ให้เป็นมาตรฐานในทุกยูนิต ความสำคัญของ Courtyard นี้เรียกว่าเป็นพื้นที่จุดเด่นอีกจุดของบ้านเลยค่ะ เพราะถูกล้อมรอบด้วยตัวบ้านทั้ง 3 ทาง ซึ่งแน่นอนว่าฟังก์ชันส่วนใหญ่ของบ้านได้วิวจาก Courtyard อย่างเต็มที่ เพื่อให้ในทุกๆ ห้องได้พื้นที่สีเขียว พักผ่อนสายตาได้ดี

ภาพบรรยากาศบริเวณพื้นที่รับประทานอาหารซึ่งมีทางเชื่อมต่อกับสวนภายนอกได้ เพิ่มบรรยากาศได้ดีทีเดียว

สำหรับการขึ้น-ลงชั้น 1-6 แม้จะมีบันไดให้ขึ้นได้สบายนะคะ แต่ด้วยความที่ทางโครงการคำนึงถึงการอยู่อาศัยร่วมกันทั้ง 3 ช่วงวัยอย่างแท้จริงจึงมีการออกแบบลิฟต์ขนาดที่สามารถรองรับรถเข็น Wheel Chair สำหรับผู้สูงวัยได้อีกด้วย เพื่อให้ผู้สูงวัยสามารถขึ้น-ลงได้ง่ายเช่นเดียวกับสมาชิกในบ้านคนอื่นๆ ซึ่งช่วยกระชับสัมพันธ์ภายในบ้านให้แน่นแฟ้นมากขึ้น ไม่ใช่เพียงผู้สูงวัยที่สามารถใช้งานได้เพียงชั้นล่างสุดเท่านั้น

เมื่อขึ้นมาแล้วจะจากลิฟต์หรือบันได เราจะเจอกับโถงทางเดินขนาดใหญ่ที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์บ้านที่ค่อนข้างน่าสนใจ แม้หลายคนจะรู้สึกว่าเสียพื้นที่ใช้สอยไป แต่นั่นแลกมากับ Emotional ที่เพิ่มมากขึ้นจากการได้เห็นทั้งแสงธรรมชาติและสวนภายนอก จึงทำให้พื้นที่นี้เป็นเสมือนพื้นที่ทางเดินที่ได้พักผ่อนไปในตัวก่อนจะเข้าสู่ห้องต่างๆ

สำหรับพื้นที่ฝั่งหน้าบ้านออกแบบให้เป็นพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ที่มีไฮไลท์เลยคือ ห้องฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume เพิ่มความโอ่อ่าให้กับพื้นที่นั่งเล่นมากขึ้น สามารถประดับโคมระย้าบนฝ้าเพดานได้เต็มที่ และนอกจากนี้คือมีผนังถึง 3 ทิศที่ได้กระจกอีกด้วย จึงเพิ่มความโปร่งโล่งได้ดีทีเดียวค่ะ

ส่วนด้านหลังบ้านออกแบบให้เป็น Second Dinning Area with Pantry จะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นจากพื้นที่รับประทานอาหารในชั้นล่าง ตอบโจทย์บ้านที่มักจะมีโอกาสต้อนรับแขกที่บ้านเสมอ สมาชิกในบ้านคนอื่นๆ หากต้องมาใช้พื้นที่รับประทานอาหารร่วมกันอาจจะอึดอัด ไม่เป็นส่วนตัว พื้นที่ Second Dinning Area with Pantry ก็จะตอบโจทย์เพราะอยู่ในชั้น 2 ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น มาพร้อมกับ Pantry สำหรับทำครัวฝรั่ง และด้านหลังออกแบบให้มีห้องน้ำแบบ Powder Room รองรับเรียบร้อย

ในส่วนของพื้นที่นั่งเล่นมีขนาดใหญ่และโอ่โถงมากทีเดียวค่ะ ด้วยฝ้าเพดานสูงและกระจกทั้ง 3 ทิศทาง พื้นที่ภายในจัดชุดเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ได้เต็มที่ พร้อมวางแกรนด์เปียโนใกล้วิว Courtyard สร้างบรรยากาศพักผ่อนได้ดี ในชั้น 3 จะเห็นว่ามีฟังก์ชันที่เชื่อมกับพื้นที่นั่งเล่นได้นะคะ ซึ่งสามารถจัดให้เป็น Home Theater หรือห้องอเนกประสงค์ตามไลฟ์สไตล์ได้

สำหรับวัสดุพื้นในบริเวณนี้ใช้พื้น Engineering Wood เป็นมาตรฐาน โดยพื้นไม้ที่มีความสมจริงมากกว่าลามิเนตทั่วไป เพราะใช้ไม้จริงๆ มาปิดผิวหน้าเลย

สำหรับบริเวณ Second Dinning Area with Pantry ได้บรรยากาศที่อบอุ่นมากขึ้นจากพื้นที่รับประทานอาหารด้านล่างนะคะ โดยลักษณะการจัดวางจะเป็นพื้นที่เชื่อมกันระหว่างครัวฝรั่งและพื้นที่รับประทานอาหาร ได้ความใกล้ชิดกันมากขึ้นระหว่างสมาชิกครอบครัว เช่น คุณแม่ทำกับข้าว ก็สามารถพูดคุยกับลูกๆ ที่กำลังนั่งรออยู่บนโต๊ะอาหารได้ โดยชุดครัวจาก Alno ซึ่งเป็นชุดครัวแบรนด์เยอรมันชื่อดัง พร้อม Kitchen Appliances จาก Kuppersbusch นำเข้าจากประเทศ Denmark

ชั้น 3 – สำหรับห้องในชั้นนี้แบ่งออกเป็น 2 โซนคือด้านหน้าบ้านที่ออกแบบให้เป็น Home Theater และพื้นที่อเนกประสงค์อื่นๆ ซึ่งสามารถจัดสรรพื้นที่ได้ตามไลฟ์สไตล์ของลูกบ้าน พื้นที่นี้เชื่อมกับพื้นที่นั่งเล่นชั้น 2 สามารถมองเห็นถึงกันได้ค่ะ และอีกโซนคือด้านหลังบ้านเป็นห้องนอนที่ออกแบบตามหลัก Universal Design ทั้งหมด เพื่อให้คนทุกเพศ วัยสามารถใช้งานได้จริง ทั้งนี้ออกแบบมาเพื่อให้ผู้สูงอายุที่บ้านสามารถใช้งานได้สะดวก นอกจากขนาดพื้นที่ที่ใหญ่เดินได้ง่ายแล้ว ห้องน้ำก็ใช้ประตูบานเลื่อนเปิด-ปิดได้ง่าย พื้นเสมอเรียบไม่มีลดระดับ มาพร้อมกับพื้นที่ Walk in Closet ขนาดใหญ่

บรรยากาศภายในห้อง Home Theater สามารถรองรับชุดเฟอร์นิเจอร์และโทรทัศน์ขนาดใหญ่ได้ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่ค่อนข้างมาก มีด้านนึงของผนังที่สามารถมองเห็นวิว Courtyard ได้ซึ่งนอกจากใช้เป็นห้องดูหนังแล้ว ยังสามารถใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนส่วนตัวมองวิวสวนเพลินๆ ได้อีกด้วยค่ะ

บรรยากาศภายในห้องนอน ด้วยฝ้าเพดานสูงถึง 3 ม.จึงได้ความโปร่งโล่งสูง วางเตียงขนาดใหญ่ถึง 6 ฟุตได้ทุกห้อง พร้อมกับมี Walk-in Closet ขนาดใหญ่และห้องน้ำครบครัน เสมือนกับทุกห้องนอนของบ้านเป็นห้อง Master Bedroom ทั้งหมด

ชั้น 4 – สำหรับชั้นนี้เป็นชั้นพักผ่อนทั้งชั้น โดยแบ่งเป็นห้องนอนทั้งด้านหน้าและด้านหลังบ้าน เชื่อมพื้นที่ทางเดินตรงกลางเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับห้องนอนทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งนี้ขนาดของห้องนอนทั้ง 2 ห้องออกแบบมาให้เป็นห้องนอนขนาดใหญ่ เผื่อในอนาคตหากลูกแต่งงานสามารถเข้ามาอยู่เป็นครอบครัวขนาดเล็กได้เช่นกัน

บรรยากาศภายในห้องนอนด้านหน้าบ้านมีขนาดใหญ่สามารถจัดวางเตียง 6 ฟุต หรือจะแบ่งเป็นเตียงเดี่ยว 2 เตียงได้ มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้ง พร้อม Walk-in Closet ขนาดใหญ่และห้องน้ำในตัว

ห้องนอนด้านหลังบ้านจะได้อีกบรรยากาศนึงเพราะบริเวณเตียงนอนอยู่ติดกับระเบียงที่สามารถชมวิวส่วน Courtyard ได้ ภายในจัดแบ่งฟังก์ชันให้เป็นสัดส่วนชัดเจน โดยแบ่งเป็นพื้นที่เตียงนอน Walk-in Closet และห้องน้ำในตัวห้องนอน

บรรยากาศภายในห้องน้ำแยกพื้นที่ส่วนเปียกและแห้งเป็นสัดส่วนชัดเจน ซึ่งกั้นด้วยฉากกั้นกระจกแบบ Frameless ดูสวยงาม ด้านข้างติดกับหน้าต่างขนาดใหญ่ช่วยให้ห้องน้ำสามารถระบายความชื้นได้ดี รวมไปถึงแสงสว่างจากภายนอกเข้ามาช่วยให้ภายในห้องน้ำสว่างและโปร่งโล่งยิ่งขึ้น สำหรับสุขภัณฑ์เลือกเกรดที่ดีและสวยงามเข้ากับสไตล์ของบ้านจากหลายแบรนด์ เช่น TOTO COTTO TRUSOL และ CRISTINA กระเบื้องห้องน้ำใช้ Porcelain tile ทั้งหมด

ชั้น 5 – สำหรับชั้นนี้ออกแบบให้เป็นเสมือนห้อง Penthouse ขนาดใหญ่ร่วม 106 ตร.ม. แบ่งเป็น 3 โซนใหญ่ด้วยกัน จากหน้าบ้านจัดให้เป็นห้องนอนขนาดใหญ่ ด้านหลังบ้านเป็น Walk-in Closet และ Master Bathroom ซึ่งถูกเชื่อมด้วย Personal Sky Bridge นอกจาก Personal Sky Bridge จะเชื่อมพื้นที่ให้เข้าถึงกันแล้วยังถูกออกแบบให้เป็นเสมือนพื้นที่เปลี่ยนผ่านของอารมณ์เพราะด้านข้างตกแต่งเป็นกระจกใสสามารถ Take View บรรยากาศภายนอกได้ทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งจาก Courtyard และบันไดวนเชื่อมไปยัง Facilities ด้านบน ให้คุณได้เสพบรรยากาศภายนอกและผ่อนคลายได้เมื่อเดิน

บรรยากาศภายในห้อง Master Bedroom มีขนาดใหญ่สามารถจัดสรรฟังก์ชันได้ทั้งพื้นที่เตียงนอนและพื้นที่นั่งเล่น ด้านข้างติดตั้งกระจกเข้ามุม (Bay Window) เพื่อให้เชื่อมสายตากับบันไดวน (Spiral Stair) ซึ่งเป็นบันไดส่วนตัวขึ้นไปยัง Facilities ชั้นดาดฟ้าได้ง่าย แยกกับบันไดรวมและลิฟต์

บรรยากาศภายในพื้นที่ Walk-in Closet ขนาดใหญ่สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้เป็นรูปตัว U พร้อมทั้งติดตั้ง Island วาง Accessories ต่างๆ ตรงกลางได้ สะดวกในการแต่งตัวมากยิ่งขึ้น

ปิดท้ายชั้นนี้ด้วย Master Bedroom ที่ให้ Bath Tub แบบลอยตัวจาก Cristina ความพิเศษของอ่างนี้นอกจากความสวยงามแล้ว ทางโครงการตั้งใจให้เป็นอ่างที่เหมาะกับการพักผ่อนได้มากยิ่งขึ้น เพราะมีขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถแช่ได้พร้อมกัน 2 คนเลยค่ะ นอกจากนี้อ่างล้างมือให้แบบ His & Her และพื้นที่อาบน้ำกับโถสุขภัณฑ์มีฉากกั้นกระจกแยกสัดส่วนให้ครบครัน

ชั้น 6 – ทั้งชั้นนี้ออกแบบให้เป็นชั้น Sky Facilities แบบ Semi-Outdoor จัดเป็นจุด Highlight โครงการเลยทีเดียวค่ะ เพราะที่นี่ยก Facilities อย่างสระว่ายน้ำไว้ที่ชั้นดาดฟ้า เพื่อความเป็นส่วนตัวสูงสุดและได้ว่ายน้ำพร้อมชุมวิวมุมสูงอีกด้วย ข้อดีนอกจากนี้คือลิฟต์และบันไดสามารถขึ้นมายังชั้น 6 ได้ทั้งหมด ตอบโจทย์การใช้งานจริงของทุกสมาชิกในครอบครัว คุณตา-คุณยายสามารถขึ้นมาทำกิจกรรมครอบครัวร่วมกันได้ในชั้นนี้ นอกจากสระว่ายน้ำ ด้านข้างจัดให้เป็น Pool Deck และพื้นที่จัดกิจกรรมต่างๆ เช่น ปาร์ตี้ BBQ ได้ พร้อมทั้งมีห้องน้ำให้ในชั้นนี้อีกด้วย ซึ่งในการใช้งานจริงค่อนข้างตอบโจทย์ทีเดียวค่ะ เพราะหากเราทำกิจกรรมต่างๆ หรือว่ายน้ำอยู่ไม่จำเป็นต้องเดินลงไปชั้นล่างเพื่อใช้ห้องน้ำ ช่วยให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น

บรรยากาศชั้น Sky Facilities มุมสูง จะเห็นว่าแม้ตัวบ้านข้างๆ จะติดกันแต่ก็ยังมีความเป็นส่วนตัวสูงเพราะมีการกั้นผนังขึ้นสูงบังสายตาจากเพื่อนบ้านได้ ตอบโจทย์ลูกบ้านที่ต้องการพื้นที่พักผ่อนแบบ Privacy

บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำและ Pool Deck ค่ะ สำหรับสระว่ายน้ำใช้ระบบเกลือ รูปแบบเป็น Infnity Edge Pool สร้างความน่าสนใจและสวยงามมากขึ้น ขนาดสระ 3 x 10 ม. ให้สามารถว่ายน้ำได้เต็มที่

อีกฝั่งเป็นพื้นที่ Rooftop Multi-Purpose Area หรือพื้นที่อเนกประสงค์ให้สามารถจัดกิจกรรมต่างๆ ภายในบ้านร่วมกันได้ค่ะ

ปิดท้ายด้วยรูป Model บ้านนะคะ บริเวณด้านหน้าโครงการ

Model บ้านด้านข้างที่ทำ Model เป็นแบบ Section (รูปตัด) แสดงให้เห็นถึงความโปร่งโล่งภายในบ้านที่มากขึ้นนะคะ จะสังเกตว่าตรงกลางที่เป็นส่วน Courtyard เป็นพื้นที่โล่งตรงกลาง ช่วยเพิ่ม Ventilation (ระบายอากาศ) ภายในบ้านให้ดีมากขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของการออกแบบ

ซึ่งรูปด้านของบ้านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นผนังทึบที่ติดตั้งด้วยกระเบื้องขนาดใหญ่ซึ่งนอกจากความสวยงามแล้ว คือเรื่องของความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น ช่องเปิดหรือกระจกส่วนใหญ่อยู่ฝั่งที่หันเข้าหา Courtyard เป็นหลัก นอกนั้นจะเป็นบริเวณโถงทางเดินที่ไม่ได้เป็นห้อง ซึ่งต้องการความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก แต่ต้องการให้ลูกบ้านได้เสพบรรยากาศและธรรมชาติภายนอกมากกว่าค่ะ

สำหรับใครที่ต้องการเข้ามาดูรายละเอียดโครงการ และรายละเอียดเกี่ยวกับสเป็ควัสดุในบ้านสามารถเข้ามาเยี่ยมชมได้ที่ Sale Gallery ตรง Sonder Living พระราม 9 นะคะ

ที่นี่จัดแสดงเรื่องของวัสดุในบ้านให้ดูเป็นตัวอย่าง เช่น พื้นห้องในชั้น 3-5 ซึ่งใช้เป็นพื้น Engineering Wood สีสว่าง

สเป็ค Bath Tub แบบลอยตัวขนาดใหญ่ สามารถนอนแช่ได้ถึง 2 คน จาก Cristina

Digital Door Lock จาก Hafele ซึ่งสามารถเปิด-ปิดได้ทั้งจาก Keycard, Password, กุญแจ

ส่วนสเป็คกลอนประตูใช้อลูมิเนียมทั้งหมด มีความแข็งแรงและ Modern

สเป็คของกระเบื้องตามห้องต่างๆ ส่วนใหญ่คลุม Theme เป็นลายหินอ่อนสวยงามมีความหรูหรา และ Modern มากทีเดียวค่ะ

สเป็คสำหรับสวิชต์และปลั๊กไฟจาก ART DNA ซึ่งได้ Red Dot Design

กระเบื้องลายหินอ่อนจาก Grandhome ซึ่งทางโครงการจะติดตั้งบริเวณ Facade รอบบ้าน เมื่อประกอบมาแล้วจะได้ลักษณะเช่นเดียวกับผนังที่ติดตั้ง Logo “D8” ค่ะ สามารถไปชมของจริงที่ Sale Gallery ได้

สุดท้ายพิเศษสำหรับลูกค้าโครงการ D8 สามารถใช้บริการ Interior จาก Sonder Living ให้ดีไซน์ Interior ได้ตามลูกค้าต้องการ และอีกต่อคือราคาเฟอร์นิเจอร์สุดพิเศษจาก Sonder Living ในส่วนลด 25% ค่ะ