รีวิวฉบับที่ 1438 …วันนี้จะพาออกนอกเมืองไปชมโครงการตากอากาศกับ The Pazer พัทยา คอนโดติดทะเล สูง 8 ชั้น ในซอยนาจอมเทียน 18 จาก TWZ โครงการมีจำนวนยูนิตไม่มาก ทำให้บรรยากาศค่อนข้างสงบ มีส่วนกลางหลักๆ อย่างสระว่ายน้ำและฟิตเนส ที่อยู่ชั้นบนมองเห็นทะเลได้ ตัวห้องออกแบบลงตัว ให้วัสดุคุณภาพดี มีให้เลือกตั้งแต่แบบ Studio ไปจนถึงแบบ 2 Bedroom ในราคาตั้งแต่ 2.49 – 11.2 ล้านบาท

Fact @ 13 September 2017

  • The Pazer (เดอะ เพเซอร์)
  • บมจ. ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : สัตหีบ
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 119 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 19 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 36 คันคิดเป็น 30% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 39%
  • ที่ดินประมาณ 0-3-99 ไร่
  • โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่
  • Studio 29.94 – 30.46 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.44 ล้านบาท
  • 1-Bedroom 44.42 – 48.56 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.8 ล้านบาท
  • 2-Bedroom 58.5 – 87.78 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.3 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ n/a บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด 79,900 – 135,000 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 085-222-0888, 080-065-4111

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

 

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 12.841584, 100.905627

แผนที่จากทางโครงการ The Pazer ตั้งอยู่ในซอยนาจอมเทียน 18 เข้าซอยจากถนนสุขุมวิทไปประมาณ 600 ม. ค่ะ

โครงการ The Pazer เป็นโครงการคอนโดมิเนียมติดหาดจอมเทียน ซึ่งจัดเป็นโครงการที่มีจุดเด่นคือใกล้ชายหาดมาก เพราะจากโครงการแค่เดินผ่านสะพานข้ามคลองมาก็ถึงชายหาด สามารถลงไปเล่นน้ำได้เลย ความรู้สึกจะแตกต่างกับโครงการที่ได้เพียงวิวทะเลพอสมควรค่ะ ที่ตั้งโครงการอยู่ในโซนหาดจอมเทียน ซึ่งเป็นโซนที่อยู่ถัดจากตัวเมืองพัทยาพอสมควร ดังนั้นบรรยากาศของทำเลนี้จะยังคงเงียบสงบ มีชุมชนดั้งเดิมอาศัยอยู่ และเรายังสามารถเห็นไร่สวน ที่ดินเปล่าค่อนข้างมากทีเดียว ดังนั้นทำเลนี้จึงยังเหมาะกับคนที่มองหาความสงบ ได้บรรยากาศที่ผ่อนคลาย ไม่พลุกพล่านเหมือนในตัวเมือง รวมไปถึงการเดินทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก ขับรถประมาณ 2 ชม. ก็ถึงตัวโครงการแล้วค่ะ แต่ทำเลนี้จะไม่เหมาะกับคนที่ต้องการความอุดมสมบูรณ์ ความเจริญและสีสันของเมืองท่องเที่ยวนะคะ

ด้วยสไตล์โครงการที่ต้องการเน้นทำเลความสงบ มีความเป็นส่วนตัว เพื่อให้สถานที่นี้เป็นเสมือนบ้านหลังที่ 2 ที่มาพักผ่อนชิลๆ ได้ในวันหยุดนั้น ก็ย่อมแลกมากับความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการยังมีไม่มากนัก ไม่มีของกินของใช้ในระยะที่ลงมาเดินซื้อได้เหมือนคอนโดในตัวเมืองพัทยา จำเป็นต้องพึ่งพารถยนต์ส่วนตัว 100% ส่วนใหญ่ร้านอาหารจะอยู่บริเวณริมถนนสุขุมวิทมากที่สุด ไม่ก็ร้านอาหารในย่านชุมชนที่อยู่อาศัยหนาแน่นหน่อย ซึ่งจะมีร้านริมชายหาดอย่าง The Beach Restaurant ร้านกินปูซีฟู๊ด ที่อยู่ไม่ไกลมากขับรถมาได้ แต่ถ้าอยากจะไปแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ก็สามารถขับรถไปไม่ไกลจากตัวโครงการ ได้แก่  มิโมซ่าพัทยา ตลาดน้ำสี่ภาค สวนนงนุช สวนน้ำ CartoonNetwork สนามกอล์ฟฟีนิกซ์และไร่องุ่นซิลเวอร์เลค ได้ค่ะ

เส้นทางในวันนี้จะเริ่มเดินทางมาจากถนนมอเตอร์เวย์ (หมายเลข 7) มุ่งหน้าพัทยา เมื่อวิ่งมาสุดเส้นทางมอเตอร์เวย์ ให้มาเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าถนนสุขุมวิท วิ่งตรงมุ่งหน้าไปทางระยอง-สัตหีบ ผ่านตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา มาประมาณ 3.2 กม. จากนั้นให้กลับรถบริเวณหน้าโรงแรม Ambassador City Jomtien แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยนาจอมเทียน 18 ตรงไปจนเกือบสุดซอยจะมีซอยย่อยให้เลี้ยวขวา โครงการจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ

จากถนนมอเตอร์เวย์ (หมายเลข 7) มุ่งหน้าพัทยา เส้นทางจะวิ่งมาสุดทางเชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิท เพื่อแยกเข้าสู่ตัวเมืองพัทยา เมื่อถึงทางแยกให้เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่ถนนสุขุมวิท มุ่งหน้าระยอง-สัตหีบ

วิ่งตรงไปตามถนนสุขุมวิท มุ่งหน้าระยอง-สัตหีบ จากจุดนี้จะห่างจากโครงการประมาณ 9 กม.

วิ่งตรงมาเรื่อยๆ อีกสักพักจะผ่านตลาดน้ำ 4 ภาค จากจุดนี้ก็ไม่ไกลก็ถึงโครงการแล้วค่ะ

วิ่งตรงมาอีกหน่อยก็กลับรถ จุดสังเกตุที่กลับรถนี้คือ โรงแรม Ambassador City Jomtien ทางฝั่งขวา

พอกลับรถมาแล้วจะเห็นป้ายโรงแรม Ambassador City Jomtien แบบนี้

พอมีโรงแรมใหญ่อยู่ใกล้ๆ แบบนี้ทำให้อาคารพาณิชย์ในแถวนี้ดูคึกคัก มีทั้งร้านรับแลกเงิน ร้านขายยา ถัดไปก็จะมีร้านค้า ร้านขายอาหาร ให้เห็นกันด้วย

ขับมาอีกนิดเดียวให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยนาจอมเทียน 18

ตรงเข้าไปในซอยอย่างเดียวเลย บรรยากาศจะดูเงียบๆ หน่อย เพราะส่วนใหญ่ยังเป็นที่ดินเปล่า ส่วนพวกคอนโด โรงแรมจะอยู่ด้านในซอยลึกเข้าอีก

ตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 550 ม. จะเจอป้ายโครงการ The Pazer พัทยา ก็ให้เลี้ยวขวาไป จากมุมนี้จะเห็นคอนโด Beach Villa Viphavadi สูง 15 ชั้น ซึ่งโครงการ The Pazer ก็จะติดกับคอนโดนี้แหละค่ะ

เลี้ยวมาปุ๊บก็จะถึงโครงการแล้วค่ะ โดยเป็นอาคารที่ 2 ถัดจากคอนโด Beach Villa Viphavadi ค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

ที่ตั้งของโครงการ The Pazer ตั้งอยู่ในซอยนาจอมเทียน 18 ซึ่งบริเวณนี้เป็นอีกทำเลฮอตฮิตที่เห็นโครงการคอนโดต่างๆ ทยอยมาเปิดตัวอยู่เรื่อย ๆ โดยมีแต่ละด้านของที่ดินติดกับ

  • ทิศเหนือ – ติดกับ คอนโด Best Western Premier Bayphere Pattaya สูง 8 ชั้น
  • ทิศตะวันออก – ติดกับ คอนโด The Senate Residence 2 สูง 8 ชั้น
  • ทิศใต้ – ติดกับ คอนโด Beach Villa Viphavadi สูง 15 ชั้น
  • ทิศตะวันตก –  ติดกับคลองและป่าโกงกาง ซึ่งมีสะพานข้ามไปหาดจอมเทียนได้ค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • ชายหาดจอมเทียน 40 ม.
  • มิโมซ่าพัทยา 1.7 กม.
  • ตลาดน้ำ 4 ภาค 6.9 กม.
  • สวนน้ำการ์ตูนเน็ตเวิร์ก 8.4 กม.
  • สวนนงนุช 12.3 กม.
  • เซ็นทรัลเฟสติวัลพัทยา 12.5 กม.
  • ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค 13.1 กม.
  • เมืองพัทยา 13.1 กม.


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ The Pazer เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น ที่มีจำนวนยูนิตพักอาศัยไม่มากนักเพียง 119 ยูนิต บนเนื้อที่ดินเกือบ 1 ไร่ จัดเป็นโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise ที่อยู่ติดชายหาด โดยจากอาคารพักอาศัยจะมีสะพานเดินข้ามคลองไปยังชายหาด มีระยะห่างประมาณ 40 . เท่านั้น จึงเป็นโครงการที่ได้บรรยากาศของโครงการคอนโดมิเนียมตากอากาศชัดเจนทีเดียว เพราะจากบนห้องพักอาศัยชั้นบนๆ หรือจากพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 8 ก็จะได้วิวหาดจอมเทียนเต็มๆ รวมไปถึงออกมาจากโครงการข้ามสะพานก็วิ่งลงไปเล่นทะเลได้เลยเหมือนกัน

มาดูที่ผังโครงการกันก่อนนะคะ พื้นที่ของอาคารชั้น 1 ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ที่จอดรถ ซึ่งมีที่จอดรถจำนวน 36 คัน รวมจอดซ้อนคันอีก 10 เป็น 46 คัน คิดเป็นประมาณ 39% คิดว่าน่าจะพอใช้ เพราะโครงการเป็นคอนโดตากอากาศ ลูกบ้านจึงมักไม่ได้มาอยู่พร้อมๆ กัน เหมือนคอนโดในเมืองหลวง แต่รถก็อาจจะเยอะหน่อยในช่วงวันหยุดที่แต่ละครอบครัวมาพักผ่อนกันค่ะ ส่วนพื้นที่ด้านในของโครงการจะจัดพื้นที่ส่วนกลางไว้ให้เป็นพื้นที่นั่งเล่น จากพื้นที่ตรงนี้ถ้ามองผ่านคลอง+ป่าโกงกาง ไปก็จะเห็นทะเลแล้วนะคะ ส่วนความพิเศษของโครงการคือตัว Lift Lobby ที่แบ่งลิฟต์ออกมาเป็น 2 โซน โดย Lift Lobby 1 จะมีลิฟต์ 2 ตัว เป็นลิฟต์สำหรับขึ้นชั้นพักอาศัย ส่วน Lift Lobby 2 เป็นลิฟต์ที่จะวิ่งระหว่างชั้น 1 กับชั้น 8 เท่านั้น ไม่ได้ผ่านชั้นพักอาศัย เป็นข้อดีของห้องบนชั้น 8 ที่สามารถขึ้นถึงชั้นพักอาศัยของตัวเองได้เลย ไม่ต้องแวะจอดชั้นอื่นๆ ค่ะ ซึ่ง Lift Lobby ทั้ง 2 โซนรักษาความปลอดภัยด้วย Key Card ในการผ่านเข้าออกนะคะ

บรรยากาศด้านหน้าโครงการให้บรรยากาศของความร่มรื่นด้วยแนวต้นไม้สีเขียว น่าพักผ่อน ซึ่งทางโครงการแจ้งว่าบริเวณด้านหน้ายังไม่เรียบร้อยดี เพราะเหลือติดตั้งป้อมรปภ. และประตูบานเลื่อนเพิ่มอีกนะคะ

หากเป็นคนใช้รถก็ขับเข้าไปตรงๆ หาช่องจอดใต้อาคารได้เลย และเนื่องจากโครงการมีขนาดไม่ใหญ่นักทำให้เวลาจอดรถเสร็จ ก็สามารถเดินเข้า Lift Lobby ได้สะดวกเลยค่ะ

ถัดมาเป็นบริเวณที่จอดรถ ซึ่งจะจำกัดความสูงรถที่ 2.1 ม. ถ้าสูงระดับรถตู้ก็เข้าได้สบายๆ

ด้านหลังช่องจอดรถจะเป็นแนวรั้วรอบโครงการ ซึ่งโครงการจะปลูกต้นไม้ใหญ่ลงดินไว้ ทำให้เกิดบรรยากาศที่ใกล้ชิดธรรมชาติแม้จะมีพื้นที่ที่ดินที่จำกัด

จากที่จอดรถก็จะอยู่ในบริเวณเดียวกับสำนักงานขาย ซึ่งในอนาคตจะกลายเป็นสำนักงานนิติฯ ถัดไปเป็น Lift Lobby 1 เป็นลิฟต์หลักที่จะจอดในทุกชั้นพักอาศัย ส่วน Lift Lobby 2 ตัวลิฟต์จะจอดเฉพาะชั้น 1 และชั้น 8 ค่ะ

บรรยากาศภายในสำนักงานขาย ก็จะมีพนักงานขายคอยดูแล ใครสนใจสอบถามรายละเอียดก็สามารถเข้ามาติดต่อได้เลย

จากที่จอดรถเดินเข้ามาด้านในสุดจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนแบบ Semi Outdoor บริเวณนี้เหมาะจะตั้งชุดโซฟานั่งเล่น ไว้นั่งเล่นในช่วงกลางวันก็ดีเพราะอยู่ใต้อาคารก็ไม่ต้องกลัวแดดร้อนเลย บรรยากาศในส่วนนี้จะถูกตกแต่งด้วยน้ำพุตรงกลาง ทำให้ได้ยินเสียงน้ำอยู่ตลอด ช่วยสร้างบรรยากาศให้น่าใช้งานยิ่งขึ้น

ปลายสุดอาคารมีเก้าอี้โยกตั้งไว้ 2 ตัว หันหน้าออกไปทางหาดจอมเทียน ดูน่ารัก น่าใช้งานดีนะคะ

จากด้านหลังโครงการมองกลับเข้ามาจะมีพื้นที่สนามหญ้าที่ออกแบบมาให้มีที่นั่งยาวๆ ในระดับเดียวกับพื้นหญ้า ทำให้เวลานั่งรู้สึกได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น

ในบริเวณนี้ก็จะมีห้องน้ำส่วนกลางทั้งชายหญิง ไว้ให้บริการด้วยค่ะ

ท้ายแปลงที่ดินโครงการจะติดกับคลอง+ป่าโกงกาง ซึ่งเป็นป่าอนุรักษ์ให้อยู่ตามธรรมชาติ หากต้องการไปชายหาดจะต้องเดินผ่านสะพานข้ามคลองไปอีกทีค่ะ

บริเวณประตูทางออกด้านหลังของโครงการ ในตอนนี้ยังเป็นซุ้มประตูโล่งๆ ซึ่งทางโครงการแจ้งว่าในอนาคตจะทำประตูที่ต้องใช้ Key Card แสกนเข้าออก เพื่อความปลอดภัยที่มากยิ่งขึ้น ส่วนด้านข้างเป็นที่อาบน้ำล้างตัว เผื่อใครที่เล่นทะเลเสร็จแล้วต้องการจะขึ้นห้องพักก้สามารถมาใช้ตรงนี้ได้เลยค่ะ

จากประตูด้านหลังมองผ่านสะพานไปก็จะเห็นชายหาดแล้วนะคะ

ลักษณะหาดด้านหลังโรงแรมก็ดูมีความสงบดีนะคะ เหมาะจะมาเดินเล่นริมหาด แต่ถามว่าน่าเล่นน้ำไหม? รู้สึกว่ายังไม่ค่อยน่าเล่นเท่าที่ควรนะคะ

บางส่วนของหาดก็จะมีบริการขายอาหาร มีเก้าอี้ให้นั่ง เท่าที่เดินถ่ายมาก็จะเจอนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่

หากมองจากสะพานฝั่งชายหาดกลับมาที่โรงแรม ก็จะเห็นว่าตัวอาคารเน้นใช้กระจกค่อนข้างเยอะ เพื่อเปิดวิวให้กับห้องพักอาศัย สังเกตุดูว่าต้นไม้แถวนี้เป็นต้นโกงกาง มีความสูงของต้นอยู่ที่ประมาณชั้น 5 ทำให้ใครที่อยากได้ห้องวิวทะเลแบบโล่งๆ เต็มๆ ก็ควรเลือกห้องชั้น 6 ขึ้นไปนะคะ

ต่อไปจะพาขึ้นไปดูชั้นบนของโครงการ ประตู  Lift Lobby 1 ต้องใช้ Key Card แสกนเข้าอาคารนะคะ จึงมีการรักษาความปลอดภัยตั้งแต่ตรงนี้เลย

ด้านในเป็นส่วนของลิฟต์ มีมาให้ใช้ 2 ตัว ทำให้อัตราส่วนของลิฟท์อยู่ที่ 60 : 1 ถือว่าเป็นอัตราส่วนที่ดีเลย เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตของโครงการเพียง 119 ยูนิต

หน้าตาของลิฟท์ของโครงการ เป็นลิฟท์แสตนเลสของ Schindler

ภายในลิฟต์ตกแต่งเรียบง่าย เป็นลิฟต์ที่ไม่ได้ล็อกชั้นนะคะ แค่สแกนบัตรจากโถงลิฟต์แล้วก็กดเลือกชั้นได้เลย

บรรยากาศภายในโถงลิฟต์ดูโล่งดี และมีช่องแสงด้านข้างด้วย

ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 โดยชั้นนี้จะเป็นชั้นพักอาศัยทั้งชั้น มีห้องพักจำนวน 19 ยูนิต ทางเดินในอาคารเป็นแบบ Double Corridor ยาวไปตลอดแนว จาก Lift Lobby จะต้องใช้ Key Card แสกนผ่านประตูเพื่อเข้ามายังโซนห้องพักอาศัยอีกทีหนึ่งนะคะ

สำหรับคอนโด Low Rise ผู้อยู่อาศัยคงไม่ได้เน้นเรื่องวิวสักเท่าไหร่ ซึ่งห้องของโครงการหลักๆ จะมีห้องทางทิศเหนือและทิศใต้ ก็เป็นทิศยอดนิยมอยู่แล้ว เพราะทางทิศเหนือได้แดดเช้า ไม่ร้อนบ่าย ส่วนห้องทิศใต้แม้จะได้แดดช่วงบ่ายบ้างแต่จะไม่ได้โดนเต็มๆ แบบทิศตะวันตก แถมยังได้ลมดีอีกด้วย แต่จะมีห้องแบบ 2 Bedroom ที่เป็นห้องมุม มีช่องเปิด 2 ฝั่งจึงมีฝั่งที่หันออกทางทิศตะวันตกที่จะโดนแดดบ่ายนะคะ ทางโครงการก็ได้ติดฟิล์มกันร้อนเพิ่มเป็นมาตรฐานให้กับห้องมุมที่หันออกทางทิศตะวันตกทุกห้อง

สำหรับวิวจะถูกบล๊อกด้วยอาคารโดยรอบทั้ง 3 ด้าน ในชั้นนี้จะมีห้องทางทิศใต้บางช่วงที่จะไม่โดนบล๊อกวิว คือห้องแบบ Studio ในช่วงที่หันออกทางลานจอดรถของคอนโด Beach Villa Viphavadi และห้อง 2 Bedroom ที่หันระเบียงออกทางทิศตะวันตก แต่ก็แลกมากับแดดที่แรงหน่อยในช่วงบ่ายนะคะ

บรรยากาศบนชั้น 2 ในส่วนของโถงลิฟท์มีการตกแต่งด้วยไม้ ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่น ส่วนของห้องพักอาศัยจะต้องใช้ Key Card เพื่อผ่านประตูเข้าไปอีกทีหนึ่งค่ะ

โถงทางเดินบนชั้นพักอาศัย ก็จะดูขาวๆ สะอาดตา น่าพักอาศัยดี เป็นทางเดินยาวๆ ที่แจกเข้าห้องพักทั้งซ้าย ขวา ซึ่งจะได้แสงธรรมชาติจากช่องแสงทั้ง 2 ฝั่งบริเวณปลายทางเดิน แต่ก็คงต้องพึ่งแสงจากดวงไฟด้วยนะคะ

ถัดมาเป็นผังชั้น 5-7 จะเป็นห้องพักอาศัยล้วนๆ เหมือนชั้น 2 แต่ชั้นนี้จะมีจำนวนยูนิตลดลงอยู่ที่ 18 ยูนิต เพราะมีห้องแบบ 2 Bedroom เพิ่มเข้ามาทำให้จำนวนยูนิตของห้อง 1 Bedroom ลดลงนะคะ

ซึ่งวิวห้องชั้นนี้จะเริ่มเปิดโล่งมากขึ้น โดนห้องทางทิศตะวันตกจะไม่มีอาคารบล๊อกวิวเช่นเดียวกับชั้น 2 แต่ที่หากห้องพักพ้นชั้น 5 ขึ้นไปจะพ้นยอดของป่าโกงกางทำให้มองเห็นวิวทะเลได้ชัดขึ้นอีกค่ะ ส่วนห้องทางทิศเหนือจะยังถูกบล๊อกด้วยคอนโด BW Premier Bayphere Pattaya ที่กำลังก่อสร้างอยู่ มีความสูง 8 ชั้นเท่ากันเลย สำหรับห้องทางทิศใต้จะมียูนิตที่พ้นการบล๊อกวิวมากขึ้น คือมีห้องในช่วงด้านหน้าอาคารที่หันออกทางลานจอดรถของคอนโด Beach Villa Viphavadi และห้องด้านท้ายอาคารที่หันออกทางชายหาดที่ได้วิวดีขึ้นกว่าชั้นล่างๆ ค่ะ

ชั้น 8 เป็นชั้นที่ทางโครงการจัด Facilities หลักๆ ไว้ทั้ง สระว่ายน้ำ, ห้อง Fitness และ ห้องน้ำ+ห้อง Sauna เพื่อให้ลูกบ้านทุกห้องได้มีพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถชมวิวทะเลสวยๆ ได้ สำหรับโซนพักอาศัยในชั้นนี้จะแยกออกจากพื้นที่ส่วนกลางอย่างชัดเจนด้วยประตูที่ต้องใช้ Key Card ในการแสกนผ่านเข้า-ออก เป็นการรักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของการอยู่อาศัยบนชั้นนี้ แถมห้องพักบนชั้นนี้ยังมีข้อดีที่อยู่ใกล้ Facilities ส่วนกลางที่สุดด้วย

สำหรับเรื่องวิวของชั้นนี้ก็จะคล้ายกับที่ชั้น 5-7 เลยนะคะ ต่างกันแค่ห้องที่อยู่สูงขึ้นมาอีก 1 ชั้นก็จะได้วิวในมุมที่กว้างขึ้น แต่ภาพรวมโดยรอบก็ยังมีอาคารบล๊อกวิวโดยรอบ 3 ด้านอยู่เหมือนเดิมค่ะ

บรรยากาศของโถงลิฟต์บนชั้น 8 ยังคงคอนเซปต์ของการตกแต่งด้วยไม้ ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่น

ออกมาจากลิฟต์แล้วจะมีทางเดินเพื่อไปยังพื้นที่ส่วนกลาง แยกออกจากส่วนของห้องพักอาศัยที่จะต้องใช้ Key Card เพื่อผ่านประตูเข้าไปอีกทีหนึ่งค่ะ

เดินตามทางไปพื้นที่ส่วนกลางเรื่อยๆ ก็จะเดินผ่านลิฟต์อีกตัวหนึ่งของโครงการที่ขึ้นมาจาก Lift Lobby 2 สำหรับใครที่อยากขึ้นมาพื้นที่ส่วนกลางได้เร็วๆ โดยไม่ต้องแวะชั้นอื่น ก็สามารถเลือกใช้ลิฟต์ตัวนี้ได้

เลี้ยวขวามาอีกทีก็เป็นทางเดินแบบ Semi Outdoor ทำให้ได้รับลมทะเลจากภายนอกเข้ามาเลยนะคะ ตามแนวทางเดินนี้จะแบ่งเป็น Facilities ส่วนกลาง ได้แก่ ห้องน้ำแยกชายหญิง และห้อง Fitness ค่ะ

เราจะพาเข้าไปดูห้องน้ำหญิงนะคะ ภายในมีห้องอาบน้ำและห้องสุขาแยกไว้ให้เรียบร้อย พื้นที่ภายในห้องน้ำดูกว้างดีและเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตของห้องพักอาศัย ก็คิดว่าน่าจะแชร์กันใช้งานได้สบายๆ เลยค่ะ

ภายในห้องสุขามีความกว้างใช้งานได้สะดวก และมีห้องอาบน้ำเอาไว้สำหรับล้างตัวเวลาว่ายน้ำเสร็จ ผนังและพื้นปูด้วยกระเบื้องทั้งหมด ดูเรียบร้อย น่าใช้งาน

นอกจากนี้ก็ยังมีห้อง Sauna ให้ด้วย

ภายในห้อง Sauna สามารถรองรับได้ประมาณ 4-5 คน แต่ก็ถือว่าให้มาดีเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตอีกเช่นกันค่ะ

ต่อไปเป็นห้อง Fitness เปิดเข้ามาภายในก่อนจะเจอกับเครื่องออกกำลังกาย จะเห็นว่าผนังทางขวาติดกระจกเต็มบานสูงจากพื้นถึงฝ้าเลย ทำให้ห้องดูกว้าง และเวลาออกกำลังกายก็สามารถส่องดูท่าทาง เพื่อให้เล่นได้ถูกท่าค่ะ

ภายในห้องก็จัดเครื่องออกกำลังกายต่างๆ มาให้เลือกใช้งานกันหลายเครื่อง นับเครื่องออกกำลังกายทั้งหมดอยู่ที่ 7 เครื่อง ซึ่งถือว่าให้มาเยอะพอสมควรเลยค่ะ น่าจะเพียงพอกับการใช้งานของลูกบ้าน

โดยจัดวางเครื่องเล่นให้หันหน้าออกไปภายนอกอาคาร เพื่อให้เห็นวิวทะเลค่ะ

ออกมาจากห้อง Fitness ก็เดินตามทางเดินมาอีกหน่อย จะเป็นทางเดินไปยังสระว่ายน้ำค่ะ

สุดปลายทางเดินมีจุดอาบน้ำก่อน-หลัง ลงสระไว้ให้

ส่วนตัวสระจะต้องขึ้นบันไดไปอีกนิดหนึ่งค่ะ

บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำก็จะเป็นสระระบบเกลือแบบ Infinity Edge Pool ขนาด 9 x 14 ม. ลึก 1.2 ม. เท่ากันทั้งสระ จึงไม่มีโซนของ Kid’s Pool ด้านข้างของสระมีพื้นที่ให้นั่งเล่น ซึ่งทางโครงการแจ้งว่าจะมีชุดเก้าอี้นั่งเล่นมาเพิ่ม ให้นั่งชิวๆ ริมสระกันได้นะคะ

จากขอบสระว่ายน้ำนี้สามารถเห็นวิวทะเลได้เลยนะคะ ถ้ามาใช้บริการสระน้ำก็จะสามารถว่ายน้ำไปด้วยแล้วก็ชมวิวทะเล หรือพระอาทิตย์ตกดินไปพร้อมๆกันได้เพราะทะเลพัทยาเป็นทะเลฝั่งตะวันตกค่ะ

ตำแหน่งของสระนี้ถือว่าดีทีเดียว เพราะเปิดวิวทะเลแบบ 180 องศาเลยค่ะ

 

นอกจากนี้ก็จะมีบันได้ขึ้นไปยังพื้นที่ Rooftop ที่อยู่ด้านบน ซึ่งตอนนี้ถูกจัดไว้เป็นสนามหญ้าโล่งๆ นะคะ

ภาพนี้ถ่ายจากบน Rooftop ลงไปให้เห็นถ่ายภาพรวมของบริเวณสระว่ายน้ำค่ะ

พื้นที่ของสนามหญ้าที่ชั้นบนสุด ซึ่งตอนนี้ปล่อยไว้โล่งๆ ให้สามารถขึ้นมาเดินเล่นได้ ถึงแม้ว่าปัจจุบันยังไม่ได้ทำเป็นฟังก์ชันอะไรที่น่าสนใจนัก แต่พื้นที่บนนี้ก็มีประโยชน์ให้กับห้องพักบนชั้น 8 เพราะจะช่วยเป็นหลังคารับแดดให้ก่อน ทำให้ห้องพักบนชั้น 8 ไม่ได้โดนความร้อนจากหลังคาตรงๆ ค่ะ

ต่อไปมาดูวิวโดยรอบโครงการกันนะคะ วิวทิศตะวันตก : เป็นทิศที่หันไปทางทะเล ได้เห็นทั้งชายหาดจอมเทียนและทะเลกแบบกว้างๆ สวยงามดีค่ะ สำหรับใครที่ชอบวิวธรรมชาติและบรรยากาศที่เงียบสงบ

วิวเหนือ : หันหน้าไปทางเมืองพัทยา ซึ่งในอนาคตจะมีคอนโด BW Premier Bayphere Pattaya สูง 8 ชั้นมาขึ้น ก็คงต้องโดนบล๊อกวิวกันไปตามระเบียบ

วิวทิศตะวันออก : หันไปทางถนนสุขุมวิท ฝั่งนี้จะมีคอนโดมาขึ้นใหม่อีกเช่นกันคือ The Senate Residence 2 สูง 8 ชั้น แต่ทางทิศนี้จะไม่ได้บล๊อกวิวห้องพักในโครงการเพราะไม่มีห้องที่รับวิวทางฝั่งนี้ค่ะ

วิวทิศใต้ : ที่บอกว่าบางส่วนของห้องพักทางทิศนี้จะไม่โดนบล๊อกวิว ก็คือห้องที่หันออกทางที่จอดรถของคอนโด Beach Villa Viphavadi ทำให้ไม่โดนบล๊อกวิวในระยะประชิดนะคะ

วิวทิศใต้ : อีกช่วงนึงที่ได้วิวดีคือช่วงท้ายตึ จะได้วิวทะเลและชายหาด แต่ต้องให้พ้นจากระยะของคอนโด Beach Villa Viphavadi ออกมานะคะ ก็จะได้วิวประมาณนี้ค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 9 x 14 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • Sauna Room
  • Fitness
  • Multi-Purpose Space บนชั้น Rooftop
  • Free Wifi at Lobby Area
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 40: 1
  • ที่จอดรถประมาณ 36 คันคิดเป็น 30% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 39%

 


Product Walkthrough

ห้องพักอาศัยของโครงการ มีให้เลือกทั้งแบบ Studio ขนาด 29.94 – 30.46 ตร.ม., 1 Bedroom ขนาด 44.42 – 48.56 ตร.ม. และ 2 Bedroom ขนาด 58.5 – 87.78 ตร.ม. รูปแบบการขายของที่นี่จะเป็นแบบ Fully Furnished คือให้ทุกอย่างตั้งแต่ Furniture ทั้งแบบลอยตัวและแบบ Built-in ซึ่งจะได้ของ SB และ niiq พร้อมสุขภัณฑ์ห้องน้ำทั้งหมด ยกเว้นพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ตู้เย็น ไม่โครเวฟ เครื่องซักผ้า ส่วนเกรดวัสดุต่างๆ ภายในห้องนั้นให้มาคุณภาพดีทีเดียวเหมาะสมกับราคาที่จ่าย

ห้องตัวอย่างห้องแรกที่จะพาไปดูแบบแรก คือห้อง 1 Bedroom ขนาด 44.79 ตร.. ลักษณะการจัดผังจะแบ่งเป็น 2 โซนชัดเจน คือโซน Common Area ที่ประกอบไปด้วยพื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่น เลยไปถึงระเบียงนั่งเล่นด้านนอกที่เน้นขนาดใหญ่กว่าคอนโดอยู่อาศัยทั่วไป เนื่องจากเป็นคอนโดตากอากาศการทำระเบียงใหญ่นั้นก็เพื่อที่จะสามารถไปนั่งเล่นชมวิวเสพบรรยากาศชิลๆ ได้ดี มาที่อีกฝั่งจะเป็นห้องนอน ซึ่งจัดมาพื้นที่มาให้กว้างพอสมควร สามารถวางเตียงขนาดใหญ่แล้วยังเหลือพื้นที่เดินขึ้นเตียงได้โดยรอบ ในส่วนของห้องน้ำนั้นถูกออกแบบมาในลักษณะ Sexy Bath จะอยู่ด้านในห้องนอนเลยทำให้ใช้งานได้สะดวก

จากประตูทางเข้าห้องที่นี่ก็ใช้ประตูขนาด Oversize หรือขนาดใหญ่กว่ามาตรฐาน โดยเป็นบานสูงเกือบเท่าฝ้าเพดานห้องเลย มีความหนาและแข็งแรงดี มาพร้อม Digital Doorlock ของ Samsung ค่ะ

ระดับของพื้นห้องจะยกขึ้นมาสูงกว่าพื้นโถงทางเดินอีกหน่อย ในกรณีที่หากห้องข้างเคียงเกิดท่อแตกหรือน้ำรั่วแล้วน้ำไหลออกมาตามทางเดิน การยกระดับพื้นแบบนี้จะช่วยป้องกันน้ำเข้าห้องได้ ซึ่งกันได้ดีกว่าแบบที่เป็นธรณีประตูด้วย เพราะคอนโดส่วนใหญ่จะทำธรณีประตูไม่สูงนักและหากวัสดุเป็นไม้ก็อาจบวมน้ำได้ แถมการยกระดับพื้นยังเหมาะกับคอนโดตากอากาสที่ไม่ได้มีคนดูแลอยู่เป็นปประจำด้วยนะคะ

เข้ามาภายในจะเจอส่วนพื้นที่ Common Area ก่อนนะคะ ภายในห้องให้ฝ้าเพดานมาสูง 2.55 ม. ภายในดูโปร่งโล่งด้วยประตูกระจกบานใหญ่ที่สูงเกือบเท่าฝ้าเพดาน ส่วนพื้นห้องหลักๆ จะปูด้วยไม้ลามิเนตหนา 12 มม. แต่ถ้าเป็นพื้นส่วนครัวจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ซึ่งมีข้อดีที่หากทำครัวแล้วมีคราบกระเด็นมาที่พื้นก็สามารถทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ

มองกลับมาที่หน้าประตูห้อง ด้านหลังประตูจะมี Door Stop ติดไว้ให้ เพื่อกันไม่ให้ประตูห้องกระแทกกับตู้รองเท้า อีกฝั่งหนึ่งของประตูเป็นส่วนของ Pantry ครัว กับพื้นที่วางโต๊ะรับประทานอาหาร ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดก็จะให้มาแบบนี้เลยนะคะ

Pantry ครัวที่ได้เป็นเคาน์เตอร์ครัว Built-in ของ SB วัสดุเป็นโครงไม้ลามิเนต ส่วน Top เป็นหินสังเคราะห์ ซึ่งก็จะได้มาแบบตัว L เข้ามุมแบบนี้

ภายในตู้แบ่งเป็นช่องเก็บของเล็กๆ น้อยๆ มีตู้ลิ้นชักสำหรับใส่ช้อนส้อม จานชาม และมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟ

ส่วนตู้ถัดมา เป็นตู้บานเปิดปิดใต้อ่างล้างจาน ไว้ใช้เก็บของเล็กๆ น้อยๆ ได้ แต่ใส่ของเต็มไม่ได้นะคะเพราะต้องเว้นพื้นที่เผื่อซ่อมแซมอ่างล้างจานไว้ด้วยค่ะ

มือจับตู้ลิ้นชักถูกออกแบบให้มีช่องสำหรับสอดมือไปดึงบานประตูเปิดได้ ซึ่งแบบนี้มีข้อดีที่ไม่ต้องกลัวมือจับตู้หลุดอีกต่อไปค่ะ

มาดูส่วนบนของเคาน์เตอร์ครัวกันบ้าง ให้พื้นที่เคาน์เตอร์มาเยอะดี คือ มีครบทั้งพื้นที่เตรียมอาหาร ปรุงอาหาร และซิงค์ล้างจาน โดยรวมมีพื้นที่พอให้วางเครื่องปรุง ส่วนผสม สำหรับปรุงอาหารได้

ซิงค์ล้างจาน 1 หลุมที่ให้มาเป็น Set มาพร้อมกับเคาน์เตอร์ครัวของ SB มีขนาดและความลึกพอสมควรที่จะล้างแล้วน้ำไม่กระเด็นออกมา

เตาไฟฟ้าได้แบบ 2 หัวของ Mex มาพร้อมกับเครื่องดูดอากาศของยี่ห้อเดียวกัน เป็นระบบดูดอากาศแบบหมุนเวียน จึงมีประสิทธิภาพในการดูดควันไม่เท่ากับระบบที่เดินท่อออกด้านนอก จึงไม่เหมาะกับการทำอาหารที่มีกลิ่นหรือควันฉุนจัดๆ นะคะ

ตู้ลอยสำหรับเก็บของด้านบนเป็นตู้บานเปิด 3 ตู้ ภายในแบ่งเป็นช่องเก็บของย่อยๆ

อีกฝั่งหนึ่งของประตูทางโครงการได้ Built-in ตู้บานเลื่อนมาให้

แบ่งพื้นที่ภายในตู้..ฝั่งหนึ่งเป็นตู้เก็บรองเท้า ซึ่งวางได้หลายคู่ทีเดียว ด้านบนของตู้จะติดตั้ง Breaker ไฟของห้องพักไว้ ส่วนอีกฝั่งหนึ่งของตู้เป็นตำแหน่งสำหรับวางเครื่องซักผ้า ซึ่งทางโครงการได้เดินท่อและปลั๊กไฟมารอไว้เรียบร้อยแล้ว โดยพื้นที่วางเครื่องซักผ้ามีขนาด 0.8 x 0.6 ม. เวลาจะเลือกซื้อก็คำนึงถึงขนาดที่วางด้วยนะคะ

มือจับตู้เสื้อผ้า สามารถจับได้ถนัดมือดี แถมโครงการมีการติดเส้นกำมะหยี่ไว้กันฝุ่นให้ด้วย

ถัดมาเป็นโต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่ง จากมุมที่ตั้งโต๊ะทานอาหารก็จะอยู่ในบริเวณเดียวกับโซนนั่งเล่น จึงสามารถนั่งทานอาหารไป ดูทีวีไป คุยกับสมาชิกในบ้านที่อาจจะนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาไปด้วยได้ พื้นที่บริเวณนี้จึงเป็นพื้นที่หลักสำหรับการพักผ่อน

ถัดมาในส่วนของพื้นที่นั่งเล่นมีการจัดวางชุดโซฟาขนาด 4 ที่นั่ง ระยะดูทีวีของห้องนั่งเล่นมีระยะประมาณ 3 เมตร สามารถเลือกทีวีที่มีขนาดเหมาะสมได้ถึง 60 นิ้ว

หน้าตาของโซฟาของ niiq ที่ให้มาพร้อมห้องมีทั้งโซฟาขนาด 3 ที่นั่งพร้อมที่วางขา

โดยตัวโซฟามีการออกแบบให้สามารถปรับระดับพนักพิงได้ค่ะ

ส่วนชั้นวางทีวีที่ให้มาจะมีให้เฉพาะชั้นวางสีขาว ส่วนตู้สีฟ้าด้านล่างจะไม่ได้ให้มานะคะ

ถัดเข้ามาด้านในห้องจะมีโต๊ะ Built-in เล็กๆ ไว้ให้สำหรับวางของ หรือทำเป็นโต๊ะเขียนหนังสือก็ได้ เพราะมีพื้นที่ให้ใช้งานได้พอสมควรและมีตู้ลิ้นชักด้านล่างให้เก็บของด้วย

อีกส่วนที่คิดว่าทางโครงการออกแบบมาได้เหมาะกับการเป็นคอนโดพักตากอากาศคือ ขนาดของประตูทางออกไประเบียง ที่ให้มาเป็นประตูกระจกบานใหญ่ทำให้เห็นวิวภายนอกและได้แสงธรรมชาติจากด้านนอกเข้ามาเยอะ ห้องจึงดูโปร่งโล่งและอบอุ่น สำหรับใครที่กังวลเรื่องความร้อนจากแสงแดดภายนอก จะบอกว่าตัวประตูจะไม่ได้รับแดดโดยตรง เพราะมีชายคาในส่วนของพื้นที่ระเบียงช่วยบังแดดไว้ก่อนแล้ว จึงช่วยลดความร้อนจากแสงแดดที่จะผ่านเข้ามาในห้องได้รับหนึ่งค่ะ

ตัวล็อกจะเป็นตัวล็อกแบบฝังกับประตูแบบทั่วไป ส่วนวงกบประตูให้มาแบบหนาพิเศษ ทำให้ประตูมีความแข็งแรงดีค่ะ

รางประตูจะถูกยกมาไว้บนขอบปูนอีกทีหนึ่ง เพื่อกันไม่ให้น้ำฝน หรือน้ำบริเวณระเบียงไหลเข้ามาในพื้นที่พักอาศัยได้

พื้นที่ระเบียงของห้องนี้มีความน่าใช้งาน ด้วยขนาด 1 x 2.2 ม. ราวกันตกเลือกใช้เป็นราวเหล็กทาสีเทา

ส่วนที่ดีของระเบียงนี้คือ มีการจัดวางตำแหน่งของ Condensing Unit ไว้อยู่หลังผนัง ทำให้เวลามองจากห้องพักออกมา เราจะไม่มองไม่เห็น Condensing Unit เลยนะคะ และจัดวางแบบปล่อยลมร้อนออกนอกอาคาร ทำให้ความร้อนไม่สะสมอยู่ที่ระเบียง จึงสามารถใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มที่

กลับเข้ามาในห้องพักอาศัยจะพาไปดูพื้นที่ใช้สอยอีกฝั่งหนึ่งของห้อง ซึ่งจะแบ่งเป็นพื้นที่ของนอน ซึ่งห้องน้ำก็จะอยู่ในห้องนอนด้วยค่ะ

พื้นห้องนอนจะเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นด้วยวัสดุเดียวกัน โดยพื้นระหว่างทั้ง 2 ห้องถูกจบด้วยตัวจบไม้เรียบร้อยดีนะคะ

ด้านในห้องนอนมีขนาดกว้างพอสมควรและถูกจัดวางFurniture ต่างๆ ไว้ได้ครบ ได้แก่ เตียง 6 ฟุต ซึ่งพอวางเตียงตรงกลาง แล้วก็ยังเหลือพื้นที่ให้สามารถเดินขึ้นเตียงได้โดยรอบ

หน้าต่างของห้องนอนติดตั้งมาให้แบบ Bay Window จึงเป็นเห็นวิวภายนอกได้กว้างเป็นพิเศษ แม้ว่าไม่ได้เป็นแบบบานเดียวเต็มผนัง แต่ก็เป็นแบบมีช่องเปิดให้สามารถเปิดระบายอากาศภายในห้องได้

โดยจะเป็นบานกระทุ้งแบบนี้ก็จะเปิดได้กว้างแค่ประมาณนึง พอให้ลมผ่านเข้าออกเพื่อระบายอากาศได้

วัสดุของตัววงกบและลูกบิดเปิดปิดที่ให้มามีความหนาเป็นพิเศษ และดูแข็งแรงดี

ส่วนตัวม่านตอนนี้มีโปรโมชั่นจากทางโครงการอยู่ ถ้าซื้อช่วงมีโปรฯ ก็จะได้ม่าน 2 ชั้นแบบนี้เลยค่ะ

ต่อไปมาดูห้องน้ำที่ออกมาในลักษณะ Sexy Bath โดยจะจัดพื้นที่อาบน้ำไว้ติดกับกระจก เป็นการเปิดมุมมองให้เวลาอาบน้ำจะได้ไม่อึดอัดและได้วิวภายนอก แต่ถ้าใครชอบความเป็นส่วนตัวในห้องน้ำก็ติดม่านเพิ่มเอานะคะ ^^ ติดกันเป็นตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการ Built-in ไว้ให้เรียบร้อยอีกเช่นกัน

ตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อน 2 บาน ได้หน้าบานกระจก ส่วนภายในแบ่งเป็นลิ้นชักเก็บของ ซึ่งห้องจริงที่ส่งมอบก็จะให้ตามนี้เลย

ต่อไปมาชมส่วนที่คิดว่าออกแบบมาได้ดีคือส่วนของน้ำ โดยประตูเข้า-ออก จะเป็นบานเปิดปิด 2 ฝั่ง ด้านบนมีการเจาะช่องระบายอากาศไว้เป็นระแนงไม้ ดูเข้ากับการเป็นคอนโดตากอากาศดีนะคะ

ระดับของพื้นห้องน้ำจะลดลงมาจากพื้นของห้องนอนอีกทีหนึ่ง เพื่อกันน้ำจากภายในห้องน้ำไหลออกไปเปียกพื้นไม้ลามิเนตนะคะ

ภายในห้องน้ำจะถูกแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจนด้วยฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยและขอบธรณี ผนังและพื้นโดยรอบเป็นกระเบื้องทั้งหมด แต่พื้นภายในห้องน้ำจะเป็นกระเบื้องเซรามิก เพื่อช่วยกันลื่นภายใน้ห้องน้ำค่ะ

อ่างล้างหน้าของ Kohler มีความกว้างและความลึกของตัวอ่างพอสมควรจึงใช้งานได้สะดวก ส่วนด้านล่างอ่างทางโครงการติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนของ Stiebel มาให้ด้วย

โถสุขภัณฑ์เป็นโถแบบชิ้นเดียวยี่ห้อ Kohler อีกเช่นกัน มาเป็น Set มากับที่แขวนกระดาษชำระของ American Standardและสายฉีดชำระของ Grohe โดยรอบโถสุขภัณฑ์มีการเว้นพื้นที่ไว้พอสมควรเพื่อให้สะดวกในการหยิบทิชชู่และสายฉีดชำระ

ส่วนของห้องอาบน้ำที่ทางโครงการแยกไว้เป็นสัดส่วนด้วยฉากกั้นกระจกนิรภัย ซึ่งเป็นแบบบานเปิดมีมือจับฉากกั้นแนวนอนที่สามารถใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้

โครงการมีการเก็บรายละเอียดตามขอบประตูได้เรียบร้อยดี เช่น มีการติดขอบยางที่ประตูกั้นอาบน้ำเพื่อช่วยกันน้ำไม่ให้กระเด็นออกมาได้

ภายในพื้นที่อาบน้ำจะติดตั้งฝักบัวและอุปกรณ์อาบน้ำไว้เรียบร้อย ได้ของ Grohe อีกเช่นกัน มีให้ทั้งฝักบัวอาบน้ำและ Rain Shower เลย ด้านข้างติดที่วางสบู่มาให้ มีขนาดใหญ่ดีวางของได้เยอะ แต่อาจจะเกะกะหน่อยเวลาอาบน้ำนะคะ

หน้าตาของฝักบัว Grohe มีขนาดจับได้ถนัดมือดี มาพร้อมก๊อกเปิดปิดแบบแยกน้ำร้อนน้ำเย็นไว้ให้เรียบร้อย

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ กว้าง 0.9 x 1 เมตร เป็นระยะที่สามารถใช้งานได้จริง ไม่กว้างและแคบจนเกินไป

ด้านข้างมีพื้นที่ให้นั่งอาบน้ำได้ด้วย

ที่นั่งอาบน้ำก็จะตรงกับหน้าต่างแบบ Sexy Bath พอดี ใครไม่ชอบเปิดโล่งแบบนี้ก็ติดม่านหรือฟิล์มเพิ่มอีกหน่อยนะคะ^^

มาดูอีกห้องกันต่อนะคะ เป็นห้องแบบ 2 Bedroom ขนาด 59.77 ตร.. ห้องนี้จะเป็นห้องมุมของอาคาร ดังนั้นจุดเด่นเลยคือได้วิวจาก 2 มุม รวมไปถึงรูปแบบห้องที่เป็นแบบหน้ากว้างเลยสามารถจัดฟังก์ชันเป็นโซนได้ชัดเจน จากในแปลนจะเห็นว่าโซนภายในห้องจัดได้ดีทีเดียวค่ะ จากทางเข้ามีการแบ่งโซน Common Area อยู่ฝั่งซ้ายซึ่งเป็นด้านที่เปิดหาวิวหาดจอมเทียน ส่วนอีกโซนเป็นโซน Private ชัดเจน โดยจัดให้เป็นพื้นที่ของห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็ก

 

เปิดเข้ามาในห้องพื้นที่ภายในจะแบ่งพื้นที่ต่างๆ ออกเป็นสัดส่วน โดยเราจะมาดูฝั่งขวาที่เป็น Common Area กันก่อนนะคะ

เข้ามาในห้องแล้วหันกลับมาที่ประตูทางเข้า ในส่วนของประตูนั้นก็มี Digital Door Lock จาก Samsung ซึ่งให้เป็นมาตรฐานในทุกห้อง ถัดจากประตูไปเป็นส่วน Pantry ครัวแบบเปิดโล่งนะคะ

โซนนี้จะเป็นพื้นที่ของเคาน์เตอร์ครัวที่จัดออกมาให้ต่อเนื่องกับโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งเลย ก็ถือว่าใช้งานได้สะดวกดี

มาดูชุดครัวกันก่อน ชุดครัวของห้องนี้จะได้มาเป็นแบบครัวขนาน คือได้เคาน์เตอร์ 2 ฝั่ง มีส่วนของเคาน์เตอร์แบบ Island เก๋ๆ ที่หันหน้าเข้าหาโซนนั่งเล่นดูทีวีด้วย ทำให้สามารถยืนล้างจานไปดูทีวีหรือคุยกับสมาชิกคนอื่นที่นั่งเล่นอยู่ตรงโซฟาได้สะดวก ส่วนหน้าตาและตัววัสดุอุปกรณ์ที่ให้ก็จะเป็นของ SB เหมือนกับห้องแรกเลย แตกต่างแค่ขนาดของเคาน์เตอร์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ส่วนตู้เก็บของต่างๆ ก็มีช่องเก็บของให้มากขึ้นค่ะ

ส่วนโต๊ะทานอาหารพร้อมเก้าอี้จะได้ของ niiq ซึ่งจากตำแหน่งโต๊ะทานอาหารก็จะติดกับหน้าต่างพอดี ทำให้สามารถนั่งทานอาหารพร้อมชมวิวไปด้วยกันได้

ต่อไปมาดูรายละเอียดฝั่งห้องนั่งเล่นกันต่อนะคะ พื้นที่นั่งเล่นจะดูโปร่งอีกเช่นกัน เพราะได้แสงธรรมชาติเข้ามาจากหน้าต่างบานใหญ่ด้านข้าง สำหรับห้องนี้ก็จะได้ชุดโซฟาเหมือนแบบในห้องตัวอย่างอีกเช่นกัน

แต่ระยะดูทีวีจะไม่ได้กว้างเท่าห้องแบบแรกนะ โดยมีระยะประมาณ 2.4 ม. จึงมีขนาดทีวีที่เหมาะสมคือ 52 นิ้วนะคะ

ในบริเวณพื้นที่นั่งเล่นก็จะมีประตูกระจกบานเลื่อนเพื่อเปิดออกไประเบียง ซึ่งห้องนี้จะหันออกทางทิศตะวันตกทางโครงการจึงติดฟิล์มกันร้อนของ Lamina ให้เป็นพิเศษด้วย ส่วนตัวขอบธรณีประตูจะยกขึ้นให้สูงขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำจากระเบียงไหลเข้ามาในห้อง เวลาเดินผ่านก็ระวังสะดุดนิดนึง

ระเบียงของห้องนี้จะเป็นรูปสามเหลี่ยม จึงเปิดมุมมองที่กว้างทั้ง 2 ด้าน มีขนาดประมาณ 1.75 x 1.4 ม.

ลักษณะของระเบียงจะเป็นรูปสามเหลี่ยม เปิดมุมมองออกไปทางทะเล

ส่วนอีกฝั่งหนึ่งของประตูทางโครงการจะ Built-in ตู้ใส่รองเท้าไว้ให้ ติดกันกับตู้รองเท้าเป็นทางเข้าห้องน้ำ ซึ่งเป็นห้องน้ำส่วนกลางที่ทุกคนในบ้านต้องแชร์ร่วมกันค่ะ

มาดูบรรยากาศภายในห้องน้ำส่วนกลางของแบบ 2 ห้องนอน มีขนาดไม่เล็กจนเกินไปและจัดแบ่งพื้นที่ภายในเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้ชัดเจน

สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำที่ได้รับจะเหมือนกับห้องแบบแรกคือจะได้ของ Kohler และ Grohe เป็นหลักนะคะ

พื้นที่ใช้สอยของห้องน้ำส่วนกลางจะไม่ได้ใหญ่ไหร่นัก แต่มีฟังก์ชันครบให้ใช้งานได้จริง

กลับเข้ามาภายในห้องจะพาไปชมห้องนอนต่างๆ ตามโถงทางเดินนะคะ เริ่มจากฝั่งขวาเป็นห้องนอนห้องแรก ส่วนห้องนอนใหญ่จะอยู่สุดทางเดินค่ะ

ภายในห้องนอนห้องแรกจะได้เตียงขนาด 5 ฟุต พร้อมช่องแสงในห้องที่ได้กระจกบานใหญ่สูงจากพื้นถึงฝ้า รับแสงธรรมชาติเข้ามาภายในได้อย่างเพียงพอและทำให้สามารถนอนชมวิวจากบนเตียงได้เลย

พื้นที่ปลายเตียง Built-in ชั้นวางทีวีไว้ให้ ซึ่งเจ้าของห้องก็แค่ไปเลือกซื้อทีวีเพิ่มอีกอย่างเดียวค่ะ

พื้นที่ใช้สอยอีกฝั่งหนึ่งที่ติดกับประตูห้อง ทางโครงการได้ Built-in ตู้เสื้อผ้าไว้ให้เรียบร้อย เป็นตู้ 2 บาน ภายในแบ่งเป็นลิ้นชักเก็บของเหมือนอย่างตู้ในห้องแบบแรกค่ะ

มาดูที่ห้องนอน 2 กันต่อ ห้องนี้เป็นห้องนอนใหญ่ได้พื้นที่ใช้สอยที่กว้างทีเดียว ภายในจัดฟังก์ชันมาได้ครบทั้งห้องน้ำในตัวและระเบียงค่ะ

ภายในจะได้เป็นเตียงนอนขนาด 6 ฟุตที่เป็นดีไซน์ของ niiq ดูจากตำแหน่งของห้องน้ำจะอยู่ด้านในอาคาร ทำให้ต้องอาศัยระบบระบายอากาศของอาคารล้วนๆ แต่ก็ทำให้ห้องนอนได้อยู่ฝั่งที่เห็นวิวภายนอกทั้งหมดค่ะ

ติดกับเตียงนอนจะมีหน้าต่างบานใหญ่สูงตั้งแต่พื้นจนเกือบถึงฝ้า ทำให้สามารถนอนชมวิวจากบนเตียงได้ ถือเป็นการออกแบบที่ตอบโจทย์คอนโดตากอากาศจริงๆ

ระหว่างห้องนอนกับระเบียงจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ซึ่งตัวขอบธรณีประตูจะยกขึ้นให้สูงขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำจากระเบียงไหลเข้ามาในห้อง เวลาเดินผ่านก็ระวังสะดุดนิดนึง

พื้นที่ระเบียงของห้องนี้มีความน่าใช้งาน ด้วยขนาดพื้นที่ 1 x 4.2 ม.

ส่วนที่ดีคือมีการวางตำแหน่งของ Condensing Unit ไว้เรียบร้อยอยู่ด้านหลังกำแพง ทำให้เวลามองออกมาจากห้องจะไม่เห็น Condensing Unit ค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นตำแหน่งของห้องน้ำและตู้เสื้อผ้า ซึ่งการออกแบบทำออกมาได้ดีเหมือนกับห้องน้ำในห้องแบบแรก

พื้นที่ด้านในมีขนาดพอๆ กัน มีการแบ่งพื้นที่โซนเปียก โซนแห้ง และมีวัสดุอุปกรณ์ให้ครบถ้วนเหมือนกัน

พื้นที่อาบน้ำจะได้ฉากกั้นกระจกแบบประตูเปิดปิดอีกเหมือนกัน ภายในติดตั้งฝักบัวอาบน้ำ ที่วางสบู่ ไว้ให้แล้วเรียบร้อย

โดยมีพื้นที่อาบน้ำขนาด 1.35 x 0.87 ม. มาพร้อมที่นั่งอาบน้ำอีกเช่นกัน

สำหรับห้องน้ำได้เป็นแบบ Sexy Bath อีกเช่นกัน

ปลั๊กและสวิตซ์ไฟฟ้าที่ได้ มีหน้าตาแบบนี้ ของ Panasonic ค่ะ

 

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 27 September 2017

  • Studio ชั้น 4 ห้อง 4A12 เนื้อที่ 29.94 ตร.ม. ราคา 2.59 ล้านบาท หรือ 86,506.35 บาท/ตร.ม.
  • Studio ชั้น 5 ห้อง 5A12 เนื้อที่ 29.94 ตร.ม. ราคา 2.69 ล้านบาท หรือ 89,846.36 บาท/ตร.ม.
  • Studio ชั้น 6 ห้อง 6A12 เนื้อที่ 29.94 ตร.ม. ราคา 2.79 ล้านบาท หรือ 93,186.37 บาท/ตร.ม.
  • Studio ชั้น 7 ห้อง 7A12 เนื้อที่ 29.94 ตร.ม. ราคา 2.89 ล้านบาท หรือ 96,526.39 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ชั้น 3 ห้อง 3B08 เนื้อที่ 45.54 ตร.ม. ราคา 3.638 ล้านบาท หรือ 79,900 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ชั้น 4 ห้อง 4B08 เนื้อที่ 45.54 ตร.ม. ราคา 3.87 ล้านบาท หรือ 85,000 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ชั้น 6 ห้อง 6B01 เนื้อที่ 44.42 ตร.ม. ราคา 3.997 ล้านบาท หรือ 90,000 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedroom ชั้น 5 ห้อง 5G08 เนื้อที่ 67.76 ตร.ม. ราคา 5.759 ล้านบาท หรือ 85,000 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedroom ชั้น 8 ห้อง 8G10 เนื้อที่ 67.76 ตร.ม. ราคา 6.098 ล้านบาท หรือ 90,000 บาท/ตร.ม.
  • 2 Bedroom ชั้น 6 ห้อง 6F06 เนื้อที่ 83.02 ตร.ม. ราคา 11.207 ล้านบาท หรือ 135,000 บาท/ตร.ม.

  • Fully Furnished
  • ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • จอง 50,000 บาท
  • ทำสัญญา 50,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

โครงการ The Pazer เป็นโครงการคอนโดมิเนียมตากอากาศ ติดหาดจอมเทียน จ.ชลบุรี ที่เหมาะกับผู้ที่มองหาคอนโดตากอากาศใกล้กรุงเทพ เดินทางใช้เวลาไม่นาน ต้องการความสงบ บรรยากาศผ่อนคลาย ไม่พลุกพล่าน เป็นปัจจัยหลัก แลกมากับความอุดมสมบูรณ์โดยรอบด้อยกว่าตัวเมืองพัทยา ในแง่ของการออกแบบโครงการเน้นความสงบเป็นจุดเด่น มีจำนวนยูนิตไม่มาก จึงไม่ต้องแชร์พื้นที่ส่วนกลางกับเพื่อนบ้านมากนัก ถึงจะเป็นโครงการเล็กแต่ก็จัดพื้นที่ส่วนกลางไว้ที่ชั้นบนสุดของอาคารในมุมที่มองเห็นทะเลได้แบบชัดๆ ทำให้ลูกบ้านในทุกชั้น มีพื้นที่ส่วนกลางให้ขึ้นมาชมวิว ตากอากาศได้จริงๆ ค่ะ

ทำเล – The Pazer จัดเป็นคอนโดติดทะเลบนหาดจอมเทียน แม้ว่าจะต้องเดินข้ามสะพานไปสักหน่อยแต่ก็ถือว่าติดหาด ต่างจากคอนโดส่วนใหญ่ในตัวเมืองพัทยาที่จะตั้งอยู่บนถนนพัทยาสาย 2 สาย 3 จึงจัดเป็นคอนโดวิวทะเล แต่ก็แลกมากับความอุดมสมบูรณ์โดยรอบนั้นคงจะสู้โครงการในตัวเมืองไม่ได้ เวลาที่จะมาพักคงต้องแวะซื้ออาหาร ของใช้เข้ามาเลยเพราะไม่สามารถลงจากโครงการแล้วเดินเท้าหาของกินได้เลย ส่วนใหญ่จะเน้นขับรถออกไปหาร้านอาหารกิน แต่ทำเลนี้ก็สามารถขับรถไปสถานีที่ท่องเที่ยวที่ไม่ได้อยู่ในเมือง เช่น Momosa, Cartoon Network, หรือ สวนนงนุช ได้สะดวกเช่นกัน เพราะไม่ต้องไปฝ่ารถติดในตัวเมืองค่ะ

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – การเดินทางสะดวก แม้จะไกลจากตัวเมืองพัทยาพอสมควร แต่หากไม่ได้เดินทางเข้าเมืองในช่วงเวลาเร่งด่วนรถก็ไม่ได้ติดหนักมากเหมือนอยู่กรุงเทพอยู่แล้ว ส่วนการเดินทางจากกรุงเทพมาโครงการจัดว่าสะดวกเช่นกันนะคะ นับเวลาคร่าวๆ เดินทางจากกรุงเทพมาโครงการก็ราวๆ 2 ชม. สามารถเดินทางมาพักเสาร์-อาทิตย์ได้ง่ายๆ ส่วนที่จอดรถที่นี่ให้มา 39% ถือว่าไม่มากแต่น่าจะเพียงพอกับการใช้งาน เพราะเป็นคอนโดตากอากาศที่ทุกห้องไม่ได้อยู่ประจำค่ะ

การออกแบบ – ส่วนการออกแบบหน้าตาอาคารออกมาเรียบๆไม่หวือหวา จะมาเน้นการใช้งานฟังก์ชั่นในห้องพักอาศัยมากกว่า การจัดวางฟังก์ชั่นในห้องค่อนข้างดี เพราะภายในห้องที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ฟังก์ชั่นทุกอย่างก็ได้ครบ และใช้งานได้จริง ส่วนที่ต้องชมเชยเลยคือพวกรายละเอียดงานออกแบบ เช่น พื้นห้องที่ยกระดับสูงขึ้นกว่าพื้นโถงทางเดิน, ตัวบานวงกบประตู หน้าต่าง ที่ให้มาหนาเป็นพิเศษ, การออกแบบห้องน้ำที่เข้ากับบรรยากาศของคอนโดตากอากาศ ก็จะได้ประตูแบบบานเปิด 2 บาน มีช่องระบายอากาศเป็นระแนงด้านบน และพื้นที่อาบน้ำแบบ Sexy Bath รวมถึงหน้าต่างแบบ Bay Window ด้วยค่ะ ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางจัดวางตำแหน่งไว้ในจุดที่ดีที่สุดของโครงการคือบนชั้น 8 ฝั่งที่เห็นทะเลชัดที่สุด 

วัสดุ – ถือเป็นอีกจุดเด่นนึงของโครงการเลยก็ว่าได้ รูปแบบการขายแบบ Fully Furnished ที่ให้เกรดเฟอร์นิเจอร์มาค่อนข้างดีทีเดียว โดยจะได้พวกเฟอร์ฯ Built-in ของ SB และเฟอร์ลอยตัวส่วนใหญ่จาก niiq ค่ะ และนอกจากเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและ Built-in ทั้งหมดแล้วตอนนี้ก็มีโปรฯให้ผ้าม่านด้วยนะ เรียกง่ายๆ ว่าเก็บมาแต่เสื้อผ้าเลยก็อยู่ได้แล้วค่ะ ส่วนยี่ห้อสุขภัณฑ์จาก Kohler และ Gorhe เป็นส่วนใหญ่ ถือว่าให้มาดีทีเดียวเมื่อเทียบกับโครงการโดยรอบในระดับราคานี้นะคะ

สาธาณูปโภค – เนื่องจากเป็นโครงการเล็ก จึงไม่ได้มี Facilities ส่วนกลางเยอะเท่าโครงการใหญ่ๆ จึงเหมาะกับคนที่เน้นการพักอาศัยในห้องเป็นหลัก ที่คิดว่าส่วนกลางแค่มีฟังก์ชันหลักๆ อย่างสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ก็เพียงพอแลกกับจำนวนยูนิตที่น้อย จึงไม่ต้องแชร์พื้นที่ส่วนกลางกับเพื่อนบ้านจำนวนมาก โดย Facilities จะอยู่ที่ชั้น 8 มีห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 7 เครื่อง และสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool ที่อยู่ในตำแหน่งที่ดีเห็นวิวทะเลได้ 180 องศา ลิฟท์โดยสารให้มา 2 ตัว ทำให้อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 60 : 1 ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่สบายๆ ไม่หนาแน่น พร้อมกล้องวงจรปิด 36 ตัวรอบโครงการ ซึ่งพอมีลูกบ้านไม่มากก็ต้องแลกมากับค่าส่วนกลาง 50 บาทต่อตารางเมตร ดังนั้นการตัดสินใจก็ต้องอยู่ที่การชั่งนำหนักความคุ้มค่าว่าสิ่งที่เราได้รับนั้นเพียงพอและพอใจเราหรือไม่ค่ะ

 

Judgement

สำหรับโครงการ The Pazer พัทยา เราจะไม่มีการให้คะแนนนะคะ เนื่องจากโครงการประเภทตากอากาศ มีปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้อที่แตกต่างจากคอนโดเพื่อการอยู่อาศัยทั่วไปที่ต้องมีเรื่องของความคุ้มค่าทางการเงินและความคุ้มค่าทางอารมณ์ผนวกกันค่ะ เป็นการซื้อเพื่อพักผ่อนหย่อนใจมากกว่า ทำให้บรรทัดฐานการให้คะแนนแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคลทั้งผู้อ่านและผู้รีวิวค่ะ

BOTTOM LINE

The Pazer พัทยา เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดตากอากาศแถวพัทยาแบบพร้อมเข้าอยู่ ต้องการทำเลที่ติดทะเลและห่างจากความวุ่นวายในตัวเมือง ชอบโครงการที่สงบ ยูนิตน้อย ไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่ส่วนกลางใหญ่ๆ แค่มีฟังก์ชันหลักๆ อย่างสระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนที่อยู่ชั้นบนมองเห็นทะเลได้ ชอบสไตล์การตกแต่งห้องและวัสดุคุณภาพที่โครงการเลือกใช้ มีงบประมาณระดับ 2.49 – 11.2 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 17,000 – 78,000 บาท/เดือน