ในช่วงนี้คงปฎิเสธไม่ได้เลยนะครับว่าTopic ยอดฮิตที่จะต้องพูดคุยกันในแต่ละวันคงไม่พ้นเรื่อง เชื้อไวรัสโคโรน่า หรือที่เราเรียกกันว่า Covid-19 ซึ่งเราเองต้องตระหนักถึงภัยอันตรายของมัน และรู้ถึงวิธีที่จะช่วยกันควบคุมการแพร่ระบาดของเจ้าโควิดนี้ด้วยนะครับ ซึ่งตอนนี้ทุกท่านคงจะทราบกันอยู่แล้วว่าเราควรจะต้องเก็บตัวอยู่ที่บ้าน ไม่ออกไปพบปะกับผู้คนจำนวนมาก และที่สำคัญที่สุดคือการดูแลและป้องกันตนเอง โดยการใส่หน้ากากอนามัยและล้างมือบ่อยๆ ลดการสัมผัสกับพื้นที่และอุปกรณ์สาธารณะ แต่บางทีเพียงแค่ตัวเราเองอาจจะไม่ปลอดภัยพอ ดังนั้นจึงเริ่มมีโครงการคอนโดมิเนียมต่างๆที่หันมาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะการอยู่ร่วมกันในคอนโดก็จะจำนวนผู้อยู่อาศัยเยอะ หากมีการติดเชื้อก็จะมีการแพร่ระบาดได้ง่ายและรวดเร็ว ดังนั้นนอกจากสิ่งที่เราทุกคนสามารถป้องกันได้เองแล้ว การดูแลความสะอาดเพื่อรักษาสุขอนามัยที่ดีของสถานที่บริเวณพื้นที่ส่วนกลางในคอนโดนั้นก็เป็นเรื่องที่จำเป็นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย

วันนี้ผมจะรวบรวมมาตรการต่างๆในคอนโดของแต่ละโครงการที่เริ่มมีการปรับตัวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ให้ชมกันครับสำหรับเป็นแนวทางในการนำไปใช้ให้กับทุกคนที่อยู่อาศัยคอนโด อพาร์ทเมนต์ หรือหอพัก ไปดูกันครับ

ขอขอบคุณรูปภาพจากลูกบ้านโครงการ U Delight รัชวิภา ครับ

อบรมให้พนักงานโดยผู้เชี่ยวชาญและให้ความรู้ลูกบ้าน

ก่อนอื่นเลยต้องเริ่มจากความรู้และความเข้าใจของทุกคนในโครงการกันก่อน เพราะต่อให้ป้องกันสถานที่และอุปกรณ์อย่างไร แต่ป้องกันตัวเองไม่ดีก็มีโอกาสเสี่ยงสูงเช่นเดิม… ปัจจุบันบางโครงการที่มีการดูแลโดยนิติบุคคลที่มีคุณภาพ จะเริ่มมีการอบรมพนักงานภายในโครงการเพื่อให้มีความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปฎิบัติงานภายในสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้ โดยผู้เข้ารับการอบรมจะสามารถนำไปถ่ายทอดความรู้สู่เจ้าหน้าที่ทุกระดับภายในโครงการทั้งนิติบุคคล พนักงาน แม่บ้าน รปภ. โดยทุกคนจะต้องใส่หน้ากากอนามัยและถุงมือตลอดเวลาที่ปฏิบัติงาน และต้องผ่านการสแกนอุณหภูมิก่อนทำงานทุกครั้ง เพื่อให้ทุกคนปฎิบัติหน้าที่อย่างเหมาะสม และพนักงานทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอนามัยป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัดด้วยเช่นกัน

ขอขอบคุณรูปภาพจากลูกบ้านโครงการ Aspire เอราวัณ และ The River Condominium ครับ

ส่วนลูกบ้านภายในโครงการเอง ก็มีการให้ความรู้จากโครงการ ที่ช่วยให้ลูกบ้านสามารถรู้จักเชื้อไวรัสนี้มากยิ่งขึ้น เชื้อไวรัสนี้คืออะไร ? ร้ายแรงแค่ไหน ? อาการเป็นอย่างไร ? และจะมีวิธีป้องกันอย่างไร ? จะช่วยให้ลูกบ้านทราบถึงการเตรียมตัวและวิธีการป้องกันให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนมากแล้วจะติดประกาศไว้บริเวณโถงลิฟต์ของชั้น 1 หรือแต่ละชั้น บางโครงการก็อาจจะอยู่ในลิฟต์ และห้องน้ำส่วนกลางด้วยครับ

แจ้งข่าวสารให้ลูกบ้านทราบ

ขอขอบคุณรูปภาพจากลูกบ้านโครงการ The River Condominium ครับ

การสื่อสารกับลูกบ้านจะช่วยในหลายๆเรื่องเลยนะ ทั้งการเข้าถึงข่าวสารและการให้ความร่วมมือกันของลูกบ้าน ซึ่งจะทำให้มาตรการต่างๆของโครงการเป็นไปได้อย่างถูกต้อง ซึ่งบางโครงการก็มีการทำกันเป็นประจำอยู่แล้ว ยิ่งในสถานการณ์ที่ไม่ปกติแบบนี้ยิ่งควรต้องสื่อสารกันให้มากขึ้น อย่างเช่นในเคสตัวอย่างที่ผมยกมาทางโครงการมีการแจ้งระเบียบการเบื้องต้นสำหรับลูกบ้านและผู้มาเยี่ยมเยือนโครงการว่าควรต้องปฎิบัติตัวอย่างไร รับข่าวสารจากทางโครงการได้ทางใด รวมถึงเบอร์ติดต่อหากมีอาการเสี่ยง นอกจากนั้นยังมีการกระจายข่าวสารให้กับลูกบ้านตลอด ว่าปัจจุบันภายในโครงการยังไม่พบผู้ติดเชื้อ หรือถ้ามีอย่างไรก็จะแจ้งให้ลูกบ้านรายอื่นๆทราบและระวังตัวกันต่อไปครับ

ขอขอบคุณรูปภาพจากลูกบ้านโครงการ The River Condominium ครับ

และในกรณีที่เมื่อทางโครงการทราบว่ามีผู้เข้าข่ายเสี่ยงติดเชื้อไวรัส Covid-19 เข้ามาที่โครงการ ก็จะระบุวันที่และเวลาให้ลูกบ้านท่านอื่นๆทราบ เพื่อความสบายใจ และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือการทำความสะอาดครั้งใหญ่ พ่นยาฆ่าเชื้อที่พื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด โดยระบุวันที่และเวลาในการจัดการให้ทราบด้วย ช่วยในการให้ความมั่นใจกับลูกบ้านได้ดีทีเดียวครับ การคัดกรองคนเข้าออกก็สำคัญนะ เพราะเป็นด่านแรกเลยของโครงการ ซึ่งถ้าสามารถคัดแยกคนที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าปกติออกมาเพื่อป้องกันได้ ก็จะทำให้คนภายในนั้นปลอดภัยและสบายใจขึ้น อย่างโครงการที่ยกเอามาให้ชมกัน เค้าเริ่มมีการตรวจวัดไข้ ตั้งแต่ประตูทางเข้าออกหลักเลย โดยจะตรวจทุกๆคน ไม่ว่าจะลูกบ้าน แขกผู้มาติดต่อ รวมถึงแม่บ้านและพนักงานต่างๆ ต้องมีอุณหภูมิไม่เกิน 36.5 องศา โดยในเคสของโครงการนี้เค้าจะเปิดการคัดกรองลักษณะนี้ตลอดระยะเวลาที่ประตูโครงการเปิดทำการ ส่วนหลังจากนั้นก็จะย้ายเครื่องวัดไข้แบบอินฟราเรด มาอยู่ที่โซนล็อบบี้ Indoor ที่มีรปภ.24 ชม.อยู่แทนครับ

การเข้าถึงโครงการ

ขอขอบคุณรูปภาพจากลูกบ้านโครงการ The Issara ลาดพร้าว ครับ

การคัดกรองคนเข้าออกก็สำคัญนะ เพราะเป็นด่านแรกเลยของโครงการ ซึ่งถ้าสามารถคัดแยกคนที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าปกติออกมาเพื่อป้องกันได้ ก็จะทำให้คนภายในนั้นปลอดภัยและสบายใจขึ้น อย่างโครงการที่ยกเอามาให้ชมกัน เค้าเริ่มมีการตรวจวัดไข้ ตั้งแต่ประตูทางเข้าออกหลักเลย โดยจะตรวจทุกๆคน ไม่ว่าจะลูกบ้าน แขกผู้มาติดต่อ รวมถึงแม่บ้านและพนักงานต่างๆ ต้องมีอุณหภูมิไม่เกิน 36.5 องศา โดยในเคสของโครงการนี้เค้าจะเปิดการคัดกลองลักษณะนี้ตลอดระยะเวลาที่ประตูโครงการเปิดทำการ ส่วนหลังจากนั้นก็จะย้ายเครื่องวัดไข้แบบอินฟราเรด มาอยู่ที่โซนล็อบบี้ Indoor ที่มีรปภ.24 ชม.อยู่แทนครับ

ขอขอบคุณรูปภาพจากลูกบ้านโครงการ The Bright วงเวียนใหญ่ ครับ

ส่วนการเดินทางสาธารณะของโครงการ ช่วงนี้ก็คงต้องมีการปรับตัวเหมือนกัน บางโครงการที่เป็น Shuttle Bus (ยานพาหนะแบบปิด) ก็คงจะมีการงดการบริการกันไปก่อนบ้าง เพราะเป็นยานพาหนะที่มีผู้ร่วมเดินทางหลายคนในพื้นที่ปิด หรือในบางโครงการที่ยังมีให้การบริการอยู่ หรือเป็นรถโดยสารประเภทที่ไม่ได้เป็นพื้นที่ปิดก็ต้องมั่นใจว่าได้รับการทำความสะอาดและป้องกันอย่างปลอดภัย ควรจะมีการเว้นที่นั่งให้ห่างกันมากยิ่งขึ้นหรือจำกัดจำนวนผู้โดยสารให้น้อยลงในแต่ละรอบ

ขอขอบคุณรูปภาพจากลูกบ้านโครงการ Ideo ลาดพร้าว 5 และ U Delight รัชวิภา ครับ

หรือบางโครงการที่ไม่ได้มีการวัดอุณหภูมิตั้งแต่ทางเข้าออก อาจจะนำมาวัดภายใน Lobby แทน โดยจะปิดทางเข้าออกตัวอาคารทางอื่นทั้งหมด เพื่อให้ทุกคนที่จะขึ้นไปด้านบนจะต้องมาผ่านจุดนี้ แล้วก็มีการตรวจอุณหภูมิกันทั้งลูกบ้าน แขก และพนักงานเช่นเดิมครับ

รวมถึงการรับพัสดุต่างๆไปจนถึงการฝากของทั้งอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเข้ามา โดยจะมีการตั้งโต๊ะรับพัสดุและรายการของฝากไว้ด้านนอก ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ทั้งนี้เพื่อป้องกันตัวนิติบุคคลเองกับการติดเชื้อไวรัส เพราะนิติบุคคลเปรียบเสมือนพ่อบ้านของแต่ละโครงการ หากพ่อบ้านติดเอง ย่อมต้องส่งผลเสียหายกับลูกบ้านอย่างแน่นอนครับ ส่วนตัวผมชอบไอเดียนี้นะ เพราะในสถานการณ์แบบนี้ จะมีคนกักตัวอยู่ในห้องและสั่งอาหารมาทานกันเยอะแน่นอน ซึ่งมาจากภายนอกและเราเองก็ไม่ทราบว่าผ่านมือใครมาบ้าง ดังนั้นต้องมีการป้องกันและควบคุมที่ค่อนข้างจริงจังหน่อยครับ ตรงจุดลักษณะแบบนี้เองก็จะต้องมีแอลกอฮอล์ล้างมือให้ด้วยเช่นกัน

ขอเพิ่มเติมนิดนึงนะครับ ผมแนะนำให้พกสเปรย์แอลกอฮอล์มากันเองด้วยสำหรับพ่นที่พัสดุหรือถุงที่เราต้องจับกันก่อนค่อยนำขึ้นไปบนห้อง เพื่อความปลอดภัยนะครับ

ทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลางอย่างจริงจัง

ขอขอบคุณรูปภาพจากลูกบ้านโครงการ Q house สาทร และ Aspire เอราวัณ ครับ

นอกจากนั้นยังมีการเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดพื้นที่ Public Area โดยเฉพาะในบางพื้นที่ของโครงการที่มีการใช้งานร่วมกันหลายคนตลอดทั้งวัน เช่น โถงลิฟต์และลิฟต์โดยสาร พื้นที่รับรอง ประตูเข้าออก โดยบางคอนโดจะบอกเวลาในการทำความสะอาดที่เพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน เพื่อที่ให้ลูกบ้านทราบว่าจะทำความสะอาดกี่โมงถึงกี่โมงบ้าง เพราะคงมีลูกบ้านไม่น้อยที่อยากออกมาใช้งานในช่วงที่หลังจากทำความสะอาดเสร็จใหม่ ๆ

ขอขอบคุณรูปภาพจากลูกบ้านโครงการ The River Condominium ครับ

บางโครงการก็ปิดพื้นที่ส่วนกลางไปเลย เพื่อหลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส เพราะเป็นพื้นที่ปิดล้อมและใช้งานร่วมกันหลายคน

ขอขอบคุณรูปภาพจากลูกบ้านโครงการ U Delight รัชวิภา ครับ

แต่ก่อนจะปิดให้บริการก็ควรทำความสะอาดใหญ่ก่อนนะครับ หรือในบางพื้นที่ที่ยังต้องใช้บริการกันอย่างเช่น Lobby ก็ควรจะต้องพ่นยาฆ่าเชื้อในพื้นที่บ่อยๆ เพราะเป็นพื้นที่ที่มีการใช้งานร่วมกันหลายคน

สระว่ายน้ำ

ขอขอบคุณรูปภาพจากลูกบ้านโครงการ The River Condominium ครับ

หลายท่านคงมีคำถามว่าเชื้อสามารถแพร่กระจายในบริเวณสระว่ายน้ำได้หรือไม่ ? คำตอบจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณะสุขคือ ในปัจจุบันยังไม่มีรายงานการติดเชื้อจากการว่ายน้ำในสระหรือแหล่งน้ำอื่น แต่ควรหลีกเลี่ยงสระน้ำที่มีผู้คนแออัดนะครับ (อ้างอิงจาก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณะสุข ) ส่วนถ้าจะเป็นงานวิจัยจาก WHO จะบอกว่า คลอรีนที่​ 15 mg.min/litre​ สามารถฆ่าไวรัสได้​ เช่น​ โปริโอ โรทา​ไวรัส โคซากี​ รวมถึงโควิด-19 ด้วยเช่นกัน​ (ซึ่งจริงแล้ว​โควิดตายตั้งแต่​ คลอรีนน้อยกว่านี้แล้วนะครับ) ​แต่สมัยนี้สระว่ายน้ำที่เป็นคลอรีนหาได้ยากแล้วเหมือนกัน ส่วนใหญ่จะเป็นสระน้ำเกลือ  ซึ่งสระระบบน้ำเกลือจะใช้เกลือโซเดียมคลอไรด์ในสระว่ายน้ำ และน้ำในสระจะถูกส่งไปยังเซลล์เกลือ (Salt chlorinator) เพื่อทำปฏิกิริยาไฟฟ้าและสร้างคลอรีนธรรมชาติ (Sodium hypochlorite – NaOCl) ที่สามารถฆ่าเชื้อโรคและ COVID-19 ได้เหมือนคลอรีนปกติครับ (อ้างอิงจาก Dr Leong Hoe Nam นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อชาวสิงคโปร์)

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสระว่ายน้ำเองเป็นสถานที่ที่มีการใช้งานร่วมกันเยอะ ส่วนตัวผมเองคิดว่าควรจะงดกันไปก่อนนะครับ อดทนให้กับช่วงนี้กันสักนิดนึงเนอะ

ขอขอบคุณรูปภาพจากลูกบ้านโครงการ The River Condominium ครับ

นอกจากนั้นแล้ว ส่วนอื่นๆที่ยังเปิดให้บริการก็ควรมีการดูและและป้องกัน เช่น การตั้งแอลกอฮอล์ตั้งไว้เป็นจุดๆสำหรับให้ใช้งาน

ขอขอบคุณรูปภาพจากลูกบ้านโครงการ Ideo ลาดพร้าว 5 ครับ

รวมถึงในพื้นที่ปิดส่วนกลางอื่นๆ ที่มีการเข้าถึงของลูกบ้าน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรมีการดูแลอยู่ตลอด เพื่อให้สบายใจและปลอดภัยจากเชื้อไวรัส

ลิฟต์

ขอขอบคุณรูปภาพจากลูกบ้านโครงการ Aspire เอราวัณ และ The Bright วงเวียนใหญ่ ครับ

ส่วนที่สำคัญที่สุดของการเข้าถึงที่พักอาศัย นั่นก็คือลิฟต์ครับ เพราะในบางโครงการที่ต้องอยู่ร่วมกันหลายยูนิต ปฎิเสธไม่ได้เลยในการใช้งาน จะงดใช้ก็ไม่ได้ ดังนั้นต้องใช้งานร่วมกันแบบปลอดภัยที่สุด เบื้องต้นก็มีการวางแอลกอฮอล์ไว้หน้าลิฟต์ และภายในตัวลิฟต์เอง เพื่อฆ่าเชื้อไวรัสให้ไม่แพร่ขยายต่อ

ขอขอบคุณรูปภาพจากลูกบ้านโครงการ U Delight รัชวิภา, Ideo สาทรท่าพระ และ ลุมพินีเพลส นราธิวาส-เจ้าพระยา ครับ

นอกจากนั้นหลายโครงการเองก็มีการจำกัดจำนวนผู้เข้าใช้งาน และวางตำแหน่งให้ทุกคนหันหน้าออกจากกันเพื่อป้องกันการแพร่กระจาย ทุกคนควรจะยืนหันหน้าเข้าผนัง และไม่ควรยืนพิงผนังด้วยนะ

ขอขอบคุณรูปภาพจากลูกบ้านโครงการ U Delight รัชวิภา, Equinox พหล-วิภา และ ลุมพินีเพลส นราธิวาส-เจ้าพระยา ครับ

หลายๆโครงการก็มีมาตรการช่วยเหลือการกดลิฟต์ที่แตกต่างออกไป ทั้งใช้ ไม้จิ้มฟัน คัตเติ้ลบัตในการกดปุ่มลิฟต์ในแต่ละชั้น เพื่อป้องกันการสัมผัสปุ่มที่อาจจะเป็นจุดให้เกิดการส่งต่อเชื้อไวรัสได้ ส่วนที่ใช้พลาสติกแผ่นปิดทั้งหมดก็เพื่อง่ายแก่การทำความสะอาดและไม่ทำลายระบบการทำงานของตัวลิฟต์ด้วย ซึ่งวิธีนี้เหมาะกับการที่มีแม่บ้านดูแลลิฟต์ตลอดเวลานะครับ

ขอขอบคุณภาพInfographic ประกอบ จากกลุ่มโรงพยาบาลของเครือ BDMS นะครับ

เจ้าเชื้อไวรัส COVID-19 มันสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานในแต่ละพื้นผิว ที่มันเกาะอยู่ได้นานไม่เท่ากัน ซึ่งจากในรูปจะเห็นว่า การไปเกาะติดกับพวกหยดน้ำ นี่จะอยู่ได้ข้ามวันเลยครับ ทุกคนควรจะทราบและเฝ้าระวังกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นนะครับ 

สุดท้ายนี้จากทุกวิธีการที่เรารวมภาพมาให้ดูวันนี้ มันจะไม่สำเร็จได้เลย ถ้าทุกคนไม่ร่วมมือกัน ต้องบอกว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นสถานการณ์ที่ไม่ใช่แค่เราดูแลตัวเองแล้ว มันคือการช่วยกันคนละไม้คนละมือ อาจต้องมีการเสียสละเวลา ความสะดวกสบาย หรือแม้กระทั่งเสียรายได้บ้าง แต่ผมเชื่อว่าถ้าเราร่วมมือกันอย่างจริงจัง มันจะสามารถช่วยให้อัตราการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสให้ลดลงได้จริง สถานการณ์ก็จะดีขึ้นตามมา ซึ่งถ้าใครเห็นว่าวิธีการไหนดี เหมาะสม ผมแนะนำว่าลองเอาไปปรับใช้กันได้ วิธีการคือ ถ้าเราเป็นลูกบ้านก็ลองเอาไปเสนอกันทางนิติบุคคล หรือ คณะกรรมการคอนโด ดูก็ได้ครับ และถ้าเพื่อนๆคนไหนมีวิธีการ “รับมือ” กับเชื่อไวรัสโควิด19 ที่น่าสนใจ และอยากจะแบ่งปัน ก็มาแชร์ความเห็นกันได้ที่คอมเมนต์ด้านล่างนี้เลยนะครับ ผมหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย และช่วยทำให้พวกเราผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ด้วยกันนะครับ