The City พระราม 9 – รามคำแหง บ้านเดี่ยวติดถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก ใกล้ทางด่วนและถนนรามคำแหง จาก AP [รีวิวฉบับที่ 2503]

The City พระราม 9 – รามคำแหง ณ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566

พิกัด Google Maps : 13.774591221306274, 100.6882450417901
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

Highlight 

• ทำเลตั้งอยู่ใกล้กับถนนใหญ่หลายเส้นทาง เหมาะกับคนที่เน้นใช้ถนนเส้นรามคำแหงและทางด่วนกาญจนาภิเษก เชื่อมต่อถนนกรุงเทพกรีฑา, ถนนศรีนครินทร์ และมอเตอร์เวย์ ไปยังพระราม 9 ได้สะดวก
• อยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีสัมมากร(ในอนาคต) 1.5 กิโลเมตร สายสีเหลือง สถานีลำสาลี(ในอนาคต) 5.5 กิโลเมตร และ Airport Rail Link เดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิได้ทั้งรวดเร็ว
• มีแหล่งความอุดมสมบูรณ์บนถนนรามคำแหง ทั้ง Paseo Town, Golden Place, Hypermarket และห้างสรรพสินค้า รวมถึงใกล้กับโรงพยาบาล โรงเรียนนานาชาติชื่อดังหลายแห่ง ถือว่าครบทุกมิติด้านการอยู่อาศัยค่ะ

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ The City พระราม 9 – รามคำแหง ตั้งอยู่บนถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก ฝั่งมุ่งหน้าไปยังถนนรามคำแหงค่ะ เดินทางไปยังถนนใหญ่ใกล้เคียงได้สะดวกทั้งถนนลาดพร้าว, ศรีนครินทร์, พัฒนาการ, พระราม 9 รวมไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิได้ง่าย

ซึ่งช่วงนี้จะเป็นถนน One Way การเข้าถึงโครงการทำได้ 2 ฝั่งนะคะ

• ฝั่งถนนรามคำแหง เข้าผ่านซอยรามคำแหง 118 หรือซอยหมู่บ้านพฤกษชาติ ด้านหน้ามีร้านค้า ร้านอาหารค่อนข้างคึกคัก ภายในซอยมีสนามกีฬา และเป็นชุมชนอยู่อาศัยที่มีรถผ่านเส้นทางนี้อยู่ตลอดทั้งวันค่ะ
• ฝั่งมอเตอร์เวย์และถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก แล้วเข้าสู่โครงการได้เลย

ทำเลนี้ในช่วงเวลาเร่งด่วนจะมีปริมาณรถค่อนข้างหนาแน่น ถ้าต้องการเลี่ยงรถติดแนะนำให้ใช้ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ซึ่งเป็นถนนใหญ่ 6 – 8 เลน วิ่งเชื่อมต่อไปยังถนนศรีนครินทร์ หรือหลังราม(ถนนหัวหมาก)ได้ค่ะ

ที่ตั้งโครงการนี้เหมาะกับการใช้รถยนต์ส่วนตัว เพราะอยู่บนถนนเส้นที่ไม่ได้มีรถสาธารณะผ่านมากนัก แต่จะใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษก(บริเวณถนนรามคำแหง) ที่วิ่งขึ้นเหนือไปรังสิต-นครนายก หรือวิ่งลงใต้ไปบางนา-สมุทรปราการ นอกจากนี้ยังเชื่อมเข้ามอเตอร์เวย์(กรุงเทพ-ชลบุรี) และทางด่วนศรีรัช(วิ่งเข้าตัวเมือง)ได้สะดวกอีกด้วย

สำหรับการเดินทางด้วยรถสาธารณะ สามารถเรียก Taxi, วินมอเตอร์ไซค์ ผ่าน Application ได้แต่จะไม่ค่อยมีรถประจำทางผ่านหน้าโครงการสักเท่าไหร่นะ บนถนนรามคำแหงจะมีเยอะกว่าค่ะ นอกจากนี้ในอนาคตมีตัวเลือกการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าหลากหลายเส้นทางให้เลือกใช้ค่ะ

• รถไฟฟ้าสายสีส้ม บนถนนเส้นรามคำแหง สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีสัมมากร(ในอนาคต) 1.5 กิโลเมตร
• รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีลำสาลี(ในอนาคต) 5.5 กิโลเมตร เป็นสถานี Interchange กับสายสีส้ม
• Airport Rail Link สถานีบ้านทับช้าง/สถานีหัวหมาก 10.5 กิโลเมตร

สำหรับความอุดมสมบูรณ์จะอยู่อิงถนนเส้นรามคำแหง มี Community Mall อย่าง Paseo Town รามคำแหง ที่ด้านในมี Makro ให้ซื้อของกินของใช้เข้าบ้านด้วย หรือไปห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ The Mall บางกะปิ, Lotus’s บางกะปิ ขยับออกไปไกลหน่อยก็มี The Mall รามคำแหง และ The Nine หรือไปทางรามอินทรามี Fashion Island และ The Promenade ก็ไม่ไกลค่ะ

หรือขยับใกล้เข้ามาหน่อยจะมีร้านค้าร้านอาหารในซอยพฤษชาติ ซึ่งเป็นทางผ่านกลับบ้านอยู่แล้ว หรืออีกจุดที่อยู่ใกล้ๆ กันคือหมู่บ้านสัมมากรที่คนในละแวกน่าจะรู้จักกันดี เพราะเป็นย่านที่มีร้านอาหาร local ชื่อดังอร่อยๆ ให้เลือกซื้อของกินได้หลากหลาย

นอกจากนั้นทำเลนี้ยังเต็มไปด้วยสถานศึกษา ไม่ว่าจะเป็น รร.นวมินทราชินูทิศ, รร. เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า, รร.นานาชาติ Montessori Center, รร.นานาชาติ Brighton College และรร.นานาชาติ Heathfield School และโรงพยาบาลชั้นนำ เช่น รพ.รามคำแหง, รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์, รพ.เวชธานี และรพ.ลาดพร้าว เป็นต้น

ตัวอย่างการเดินทางจากถนนศรีนครินทร์ ขึ้นทางลาด วนเข้าถนนกรุงเทพกรีฑา หลังจากนั้นให้ลอดอุโมงค์เข้าถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ขับตามทางมาเรื่อยๆ ข้ามสะพาน 1 จุด หลังจากนั้นให้เตรียมตัวเลี้ยวซ้ายเข้าถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก ขับตรงมาอีกประมาณ 2.8 กม. เราจะเห็นโครงการอยู่ฝั่งซ้ายมือค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการส่วนใหญ่เป็นที่ดินเปล่าและบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น ไม่ได้เป็นชุมชนพักอาศัยที่หนาแน่นมากนัก แต่เนื่องจากอยู่บนถนนเส้นคู่ขนานที่เป็นทางผ่านไปยังถนนรามคำแหง ทำให้มีรถสัญจรไปมาตลอดทั้งวัน และมีรถค่อนข้างเยอะในเวลาเร่งด่วนช่วงเช้าและช่วงเย็นค่ะ

ทางเข้าติดถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษกที่มีคลองคั่นก่อนเข้าโครงการ ทำให้มีสะพานก่อนถึงซุ้มประตูที่ขยับเข้าไปด้านใน ทำให้ดูเป็นส่วนตัวมากขึ้นและช่วยให้รถไม่ติดบริเวณถนนด้านหน้าอีกด้วย

• ทิศเหนือ ติดกับ ที่ดินเปล่า
• ทิศตะวันออก ติดกับ ถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก, บ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น
• ทิศใต้ ติดกับ คลองสาธารณะ
• ทิศตะวันตก ติดกับ ที่ดินเปล่า, บ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น

บรรยากาศด้านหน้าโครงการติดถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก ที่มองเห็นทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษก บริเวณด่านจ่ายเงินพอดีค่ะ

ถนนด้านหน้านี้เป็นช่วง One Way พอดี ทำให้ช่วงนี้รถไม่ติดมากนัก

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• The Paseo รามคำแหง – 4.8 km.
• The Promenade – 7.6 km.
• Fashion Island – 7.6 km.
• The Nine – 11.4 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง – 3.5 km.
• โรงพยาบาลรามคำแหง – 6.6 km.
• โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ – 9.4 km.

โรงเรียน

• Heathfield International School – 1.9 km.
• โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า – 4.0 km.
• International Montessori Center– 4.9 km.
• Brighton College International School– 12.5 km.

สถานที่อื่นๆ

• สนามกอล์ฟนวธานี – 5 km.
• สวนสยาม  – 5.9 km.
• สนามบินสุวรรณภูมิ – 15.5 km.

Highlight

• โครงการบ้านเดี่ยวยูนิตน้อยได้ความเป็นส่วนตัว เพียง 131 ยูนิต
• พื้นที่ส่วนกลางครบครันไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำริมสวน, Fitness, Sauna, Co-Working Space, Kid’s Room, ห้องดูหนัง, พื้นที่นั่งเล่น, สนามเด็กเล่นและสวนส่วนกลางขนาด 500 ตารางเมตร
• ผังโครงการแบ่งเป็นซอยย่อย เพียงซอยละ 4 – 6 ยูนิต ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวไม่มีรถผ่านหน้าบ้านบ่อยๆ

แบรนด์บ้านเดี่ยว “The City” เป็นแบรนด์บ้านเดี่ยวรุ่นพี่ของ Centro จาก AP ที่ทำมาให้ทำเลที่เดินทางเข้าเมืองได้สะดวก อยู่ใกล้กับถนนเส้นหลัก มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ เป็นบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ที่อยู่ในช่วงราคาระดับ High Class เริ่มต้นประมาณ 10 ล้านบาทขึ้นไปค่ะ

สำหรับโครงการ The City พระราม 9 – รามคำแหง เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนที่ดิน 36 ไร่ จำนวน 131 ยูนิต ถือว่ายูนิตค่อนข้างน้อยนะคะ ทำให้ลูกบ้านไม่หนาแน่น และมีการแบ่งเป็นซอยย่อยหลายซอยทำให้แต่ละซอยมีจำนวนยูนิตเพียง 4 – 6 ยูนิต ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยถนนหลักจะกว้างประมาณ 12 เมตร รถวิ่งสวนกันได้สบายๆ และถนนรองกว้างประมาณ 9 เมตรค่ะ

การวางผังบ้านพักอาศัยจะหันหน้าไปทางทิศเหนือ – ใต้ สำหรับคนที่ชอบลมพัดเข้าหน้าบ้านเต็มที่ก็เหมาะกับการเลือกทิศใต้ ส่วนคนที่ชอบแดดเบาๆ เข้าทางหน้าบ้านให้เลือกบ้านทางทิศเหนือค่ะ

โครงการมีทางเข้า-ออก ทางเดียว ง่ายต่อการดูแลเรื่องความปลอดภัย มีพื้นที่ส่วนกลางและอาคาร Clubhouse อยู่ด้านหน้า ติดกับซุ้มประตูทางเข้า ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์นี้นะคะ ทำให้บรรยากาศด้านหน้าดูสวยงามตั้งแต่เข้ามาภายในโครงการ มี Facility ค่อนข้างหลากหลายเลยทีเดียว ภายใน Clubhouse ประกอบด้วย พื้นที่นั่งเล่น, สระว่ายน้ำ, Fitness, Co-Working Space, Kid’s Room, ห้องดูหนัง และห้องน้ำส่วนกลางทั้ง 2 ชั้น

พื้นที่สวนหย่อมมี 2 จุด บริเวณสระว่ายน้ำ และสวนด้านหน้าโครงการ ภายในมีสนามเด็กเล่นและทางเดินรอบสวน พื้นที่รวมประมาณ 500 ตารางเมตร

ซุ้มประตูทางเข้าจะไม่ได้มองเห็นชัดเจนจากถนนใหญ่นะคะ ต้องขึ้นสะพานมาสักหน่อยถึงจะเห็นได้ชัดเจนค่ะ การที่ร่นระยะประตูทางเข้าห่างจากถนนใหญ่ทำให้รถยนต์รอเข้า-ออกได้ง่าย รถไม่ติดบริเวณถนนค่ะ

ซุ้มประตูทางเข้าของโครงการมีขนาดใหญ่มีหลังคากันแดดและฝนได้จริง เนื่องจากชั้นบนเป็นส่วนของ Clubhouse สามารถขึ้นไปใช้งานได้

ทางเข้า – ออกของรถยนต์แบ่งเป็น 2 ฝั่ง กั้นด้วยประตูบานเลื่อน ใช้ระบบสแกนแผ่นป้ายทะเบียนรถ ทำให้เข้า-ออกสะดวก ไม่ต้องพก Key Card เลยค่ะ ตรงกลางเป็นป้อมของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่งจะคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยแบบ KATSAN ที่เป็นมาตรฐานของทาง AP ค่ะ

ระบบ KATSAN (คัดสรร) เป็นระบบผู้คุ้มกันส่วนตัวอัจฉริยะ ตลอด 24 ชม. จาก Claymore หนึ่งในบริษัทย่อยในเครือ AP ที่ต้องการยกระดับความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงยังช่วย Support ลูกบ้านเมื่อต้องการความช่วยเหลือ ที่จะเชื่อมต่อทุกส่วนเข้าด้วยกัน โดยมี Features หลากหลาย ดังนี้

• Pre-Register : แจ้งการเข้าพบล่วงหน้าของแขกคนสำคัญ เมื่อมีแขกมาพบก็สามารถเข้ามาภายในโครงการได้เลย
• Security Matrix : ระบบจดจำป้ายทะเบียนรถ คัดกรองรถยนต์ลูกบ้านกับรถยนต์ Visitor พร้อมเฝ้าสังเกตรถยนต์ที่อยู่เกินเวลา
• Do not Disturb : ปฏิเสธไม่ให้ใครเข้าเยี่ยมถ้าต้องการความเป็นส่วนตัว
• Car Directory : ตรวจสอบทะเบียนรถ ภายในโครงการว่าใครเป็นเจ้าของ
• Notifications : แจ้งข้อมูลข่าวสาร และประกาศต่างๆจากโครงการ
• Security Alert : แจ้งเหตุฉุกเฉินหรือต้องการความช่วยเหลือพิเศษ
• E-Stamp : ประทับตรายางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านโทรศัพท์มือถือ

เข้ามาภายในโครงการแล้วเราจะพาไปดู Clubhouse ที่เป็นส่วนเดียวกับซุ้มประตูทางเข้ากันก่อนนะคะ บริเวณนี้มีที่จอดรถสำหรับลูกบ้านที่อยู่ด้านใน สามารถขับมาจอดได้ 2 คัน

เดินขึ้นมาแล้วจะเจอกับส่วนแรกเป็นโถง Lobby หรือพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนก่อนค่ะ

ภายในห้องนี้จะเน้นการพักผ่อนสบายๆ มีผนังกระจกทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้มองเห็นวิวได้ทั้ง 2 ด้าน และทางโครงการกำลังทำส่วนของน้ำพุด้านข้างอยู่ค่ะ ถ้าเสร็จเรียบร้อยดีแล้วน่าจะบรรยากาศดีน่านั่งอ่านหนังสือ หรือนัดพูดคุยธุระกับแขกได้

สระว่ายน้ำของโครงการจะอยู่ด้านในสุดของ Clubhouse ซึ่งมีข้อดีเลยก็คือเป็นส่วนตัวมากๆ ไม่มีใครด้านนอกมองเห็นค่ะ เราสามารถมาว่ายน้ำออกกำลังกายในบรรยากาศริมสวนได้ไม่เคอะเขิน

สระว่ายน้ำเป็นสระ Lap Pool ระบบเกลือ ขนาดประมาณ 6 x 18 ม. ว่ายออกกำลังกายได้จริง พร้อมกับพื้นที่นั่งเล่น สระเด็ก และ Jacuzzi ด้านใน

ด้านข้างมีเก้าอี้มาให้นั่งเล่น พร้อมกับอุปกรณ์เซฟตี้

บริเวณด้านในเป็นมุมที่มองเห็นวิวสวนภายในโครงการ วิวดีมากๆ เหมาะกับการพักผ่อนอย่างสงบ เป็นส่วนตัวจริงๆ ค่ะ

ด้านในมีสระว่ายน้ำเด็กขนาด  5.9 x 3 ม. ลึก 60 ซม. พร้อมโซน Jacuzzi ให้คุณพ่อคุณแม่มานั่งแช่น้ำนวดตัวพร้อมดูลูกๆ เล่นน้ำกันได้เลย

ด้านข้างสระว่ายน้ำมีสวนหย่อมขนาดใหญ่ พร้อมรั้วต้นไม้บดบังสายตาจากคนภายนอก ซึ่งเป็นลักษณะพื้นที่ปิดเหมาะมานั่งเล่น Picnic หรือพาเด็กมาวิ่งเล่นได้อย่างปลอดภัย ไม่ต้องคอยระวังเด็กๆ วิ่งไปที่ถนนเลยค่ะ

ภายในห้องน้ำส่วนกลางมีพื้นที่อาบน้ำมาให้สำหรับคนที่มาออกกำลังกาย หรือมาว่ายน้ำก็จะได้อาบน้ำแต่งตัวหลังออกกำลังกายเสร็จได้เลยค่ะ

นอกจากนั้นยังมีห้อง Sauna ให้ใช้ห้องน้ำชายและหญิงแยกกัน โดยเป็นขนานที่ใช้งานได้ 2-3 คนกำลังดี ออกกำลังกายมาเหนื่อยๆ ก็เหมาะมานั่งผ่อนคลายในห้องนี้กันสักหน่อย ไม่ต้องไปฟิตเนสที่อื่นเลย

ภายในห้อง Fitness ทางโครงการก็มีเครื่องออกกำลังกายทั้ง Cardio และ Weight Training รวมทั้งหมดประมาณ 9 ชิ้น ใช้งานได้พอประมาณเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิต ห้องนี้จะให้ความรู้สึกโปร่งสบาย เหมาะกับการออกกำลังกาย เพราะมีช่องแสงขนาดใหญ่มองเห็นวิวภายนอกได้ และอีกฝั่งหนึ่งเป็นกระจกช่วยทำให้ห้องดูกว้างขึ้นด้วย

ถัดมาเป็นห้องดูหนังส่วนตัว ลูกบ้านสามารถจองมาใช้งานร่วมกันในครอบครัว หรือมาดูกับเพื่อนบ้านก็ได้นะคะ เปลี่ยนบรรยากาศจากการดู TV ที่บ้านไปเลย

ถัดมาเป็นส่วนของ Kid’s Room และ Co-Working Space อยู่ติดกัน แต่จะมีผนังกระจกกั้น ให้ผู้ปกครองสามารถมานั่งคุยงาน พักผ่อน แล้วดูเด็กๆ เล่นของเล่นได้ ในขณะที่เด็กๆ ก็จะไม่ส่งเสียงรบกวนผู้ใหญ่ด้วยค่ะ

ห้องเด็กเล่นมีบ่อบอลมาให้สีสันสดใส และดูโปร่งสบาย เพราะเป็นห้องผนังกระจกถึง 3 ฝั่งเลยทีเดียวค่ะ

ถัดมาด้านในสุดเป็นส่วนของ Co-Working Space มีโต๊ะสำหรับนั่งประชุมเป็นกลุ่มหรือนั่งทำงานคนเดียว มีมุม Bean Bag สำหรับนั่งเล่นอ่านหนังสือริมหน้าต่าง และโต๊ะพูล สำหรับสันทนาการ ในห้องนี้จะมองเห็นวิวได้ทั้ง 2 ฝั่ง บริเวณถนนด้านหน้าโครงการและสวนภายในโครงการค่ะ

มาดูพื้นที่สวนขนาดใหญ่ด้านล่างเป็นจุดที่ 2 กันค่ะ ตรงนี้จะมี Sculpture สีขาวโอบล้อมต้นไม้ขนาดใหญ่ดูสวยงาม มีที่เดินเล่น ตอนเย็นๆ เหมาะกับพาคุณตาคุณยาย หรือเด็กๆ มาเดินเล่น วิ่ง Jogging ออกกำลังกายกันได้

ด้านในมีสนามเด็กเล่น บ่อทราย ให้เด็กๆ มาวิ่งเล่นกันได้เต็มที่ ไม่ต้องกลัวบาดเจ็บเพราะตรงนี้เป็นพื้น Absorption Floor รองรับแรงกระแทกช่วยลดแรงเวลาเด็กๆ หกล้มได้ค่ะ

ถนนหลักของทางโครงการจะมีวงเวียนต้นไม้อยู่ 2 จุด เพื่อให้กลับรถได้สะดวกค่ะ

ส่วนในซอยย่อยจะมีจำนวนยูนิตเพียง 4 – 6 ยูนิตทำให้เงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ความกว้างถนนซอยอยู่ที่ 9 ม. ซึ่งรถยนต์สามารถวิ่งสวนกันได้สะดวกค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการ ประกอบไปด้วย
• สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 18 x 6 เมตร ลึก 1.20 เมตร
• แบ่งสระเด็กลึกขนาด 5.90 x 3 เมตร ลึก 60 ซม. / พร้อมโซน Jacuzzi
• ห้องออกกำลังกาย (Fitness) จำนวนเครื่องเล่น 9 เครื่อง
• Suana 2 จุด แยกชาย-หญิง
• Kid’s club
• Co-working Space
• Entertainment Space
• Theater room
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 2 จุด รวมประมาณ 474.3 ตร.ม.
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 32 จุด
• รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร
• ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
• Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
• ระบบรักษาความปลอดภัย KATSAN
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก และ รั้วเหล็กเลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน
• สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor ทุกหลัง

Highlight

• บ้านเดี่ยวพร้อม Double Volume (ยกเว้นแบบเริ่มต้น) ภายในบ้านดูโปร่งกว้างขึ้น เชื่อมต่อพื้นที่ชั้น1 และชั้น 2 ให้คนในบ้านมองเห็นกันได้
• ฟังก์ชันครบเป็นส่วนตัว มีห้องน้ำในห้องนอนทุกห้อง มี Family Area ชั้น 2 ทุกแบบ
• โครงสร้างก่ออิฐมวลเบา ง่ายต่อการทุบต่อเติมในอนาคต
• มีระบบ Home Automation อำนวยความสะดวกภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น  เปิด-ปิดไฟแสงสว่าง, เครื่องปรับอากาศ
• มีระบบรักษาความปลอดภัย กล้อง CCTV 2 จุดภายในบ้านและโรงรถ Live Stream ผ่าน Application สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor และ Digital Door Lock ทุกยูนิต

โครงการ The City พระราม 9 – รามคำแหง เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 131 ยูนิต สไตล์ Modern มีแบบบ้านให้เลือก 4 แบบด้วยกันค่ะ

• Serein : ที่ดิน 52.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 233 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องพักผ่อน / 1 ครัวไทย / 2 ที่จอดรถ
• Inscape : ที่ดิน 59.35 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 275 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน + Double Volume / 1 ครัวไทย / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
• Brivet : ที่ดิน 67.12 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 330 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน /1 ห้องแม่บ้าน / 1 ครัวไทย / 3 ที่จอดรถ
• Vespertine : ที่ดิน 105 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 380 ตร.ม. ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน + Double Volume / 1 ห้องแม่บ้าน / 1 ครัวไทย / 3 ที่จอดรถ

วันนี้เราจะพาไปชมบ้านมาตรฐานแบบ Serein (ไซส์เริ่มต้น) และ Inscape (ไซส์ M) ที่ทางโครงการใส่เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวมาให้ดูกันนะคะ เนื่องจากบ้านตัวอย่างมีแบบ Vespertine (ไซส์ใหญ่สุด) แบบเดียว ซึ่งเราได้เคยพาไปชมกันแล้วในรีวิว >> The City พระราม 9 – รามคำแหง รีวิวฉบับที่ 2118 และขายหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ ปัจจุบันนี้ใกล้จะปิดเฟสสุดท้ายของทางโครงการ จึงมาพร้อมโปรโมชันลดสูงสุด 3 ล้านบาท* กันเลยทีเดียวค่ะ

โครงสร้างและวัสดุภายในบ้าน

• โครงสร้างบ้าน : ก่ออิฐมวลเบา ที่ปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยภายในได้ง่าย
• พื้นที่จอดรถเเละพื้นที่ซักล้าง : เป็นโครงสร้าง Slab on Ground ไม่ได้ลงเสาเข็มมาให้
• พื้นชั้นที่ 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. (ยกเว้นห้องนอนใหญ่ และห้องครัว)
• พื้นที่ชั้น 2 และห้องนอนชั้นล่าง : ปูด้วยพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม.
• หน้าต่าง : กรอบบานอะลูมิเนียม พร้อมกระจกสีเขียวตัดแสง
• ห้องครัว : เคาน์เตอร์ก่อ พร้อมหน้าบาน มีอ่างล้างจานและเครื่องดูดควันติดตั้งมาให้
• บันได : โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ปูไม้ประสาน
• สุขภัณฑ์ : American Standard
• ฝ้าเพดานสูง : 2.80 ม.

บ้านมาตรฐานแบบที่ 1

แบบบ้านหลังแรกที่เราพามาชมคือ Serein ที่ดินประมาณ 60 ตร.วา (แปลงมุม) พื้นที่ใช้สอย 233 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องพักผ่อน 1 ครัวไทย 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 10.99 ล้านบาท* (ราคา ณ วันที่ 14 ก.พ. 2566) เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิก 4 – 5 คน ชอบพื้นที่บ้านแยกฟังก์ชันเป็นสัดส่วนค่ะ

ชั้น 1

• จอดรถได้ 2 คัน
• ห้องนั่งเล่นอยู่ทางด้านหน้าบ้าน แยกกับพื้นที่รับประทานอาหารชัดเจน เหมาะกับคนที่ชอบพื้นที่แยกเป็นสัดส่วน
• ช่องแสงขนาดใหญ่ เข้ามุมบริเวณห้องนั่งเล่นทำให้ภายในดูโปร่ง สบายตา มองเห็นสวนได้
• พื้นที่รับประทานอาหารอยู่ด้านหลังบ้าน มีพื้นที่กว้าง แบ่งทำเป็นครัวฝรั่งเพิ่มเติมได้
• ห้องน้ำ Powder Room สำหรับแขกที่ชั้น 1
• มีครัวไทยกั้นปิดเป็นสัดส่วน พื้นลดระดับจากภายในบ้าน เชื่อมต่อกับลานซักล้างด้านหลัง
• มีห้องนอนชั้นล่างพร้อมห้องน้ำในตัว ใช้งานสะดวก

ชั้น 2

• มีพื้นที่ Family Area เป็นส่วนนั่งเล่นที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นบริเวณชั้น 2
• Master Bedroom ขนาดใหญ่ ได้ช่องแสงกว้าง พร้อมระเบียงส่วนตัว
• Master Bedroom มีห้องน้ำในตัว และสามารถกั้นโซน Walk-in Closet ได้อย่างเป็นสัดส่วน
• ห้องนอนรอง 2 ห้องมีห้องน้ำและพื้นที่สำหรับ Walk-in Closet
• ห้องนอนรอง 2 ห้องได้ช่องแสงทั้ง 2 ฝั่ง

รั้วบ้านเป็นบานเลื่อนเหล็กระแนงสีดำ 2 ตอน สามารถติดตั้งระบบอัตโนมัติเพิ่มเติมได้นะคะ ด้านข้างมีประตูสำหรับคนเข้า 1 จุด

ฝั่งซ้ายมือจะเป็นป้ายเลขที่บ้าน พร้อมกล่องไปรษณีย์ และถังขยะที่เปิดทิ้งได้จากด้านใน เวลามีรถมาเก็บก็เก็บจากด้านนอกได้เลย

ที่จอดรถของบ้านทุกแบบในโครงการนี้จะทำเป็นลานคอนกรีตแสตมป์มาให้แบบในภาพเลยค่ะ ได้ความสวยงามคงทน โครงสร้างพื้นที่จอดรถเป็นแบบ On Ground ไม่ได้ลงเสาเข็มมาให้นะคะ แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องการทรุดตัวเพราะโครงการเว้นร่องที่จอดรถแยกจากตัวบ้าน (พร้อมลงหินตกแต่ง) ไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ

บ้านทุกหลังในโครงการนี้จะมีระบบรักษาความปลอดภัย ติดกล้อง CCTV มาให้ 2 จุดภายในบ้านและโรงรถ ซึ่งสามารถดู Live Stream ผ่าน Application ได้

สำหรับพื้นที่สวนทางโครงการได้ลงไม้พุ่มประดับ สนามหญ้าและไม้ยืนต้นไว้ให้แล้วค่ะ ของบ้านมาตรฐานหลังนี้เป็นแปลงมุมก็จะได้พื้นที่สนามหญ้าด้านข้างเพิ่มขึ้นมาด้วย เหมาะกับบ้านที่มองหาพื้นที่วิ่งให้น้องหมา น้องแมว , พื้นที่ทำแปลงสวนครัว หรือพื้นที่ศาลานั่งเล่นมากๆ เลยค่ะ

ทางเข้าหลังของบ้านอยู่บริเวณด้านหน้า มีชายคาบังแดดและฝนได้ในระดับนึงค่ะ ส่วนประตูบ้านเป็นบานเปิดคู่ไม้สักจริง พร้อมช่องแสงดูสวยงามมากขึ้น มี Digital Door Lock ติดตั้งมาให้ จาก Life Smart รองรับการใช้งาน 4 แบบคือ รหัส PIN, กุญแจ, สแกนลายนิ้วมือ และ Keycard Access เวลาเข้าบ้านก็ไม่ต้องพกกุญแจให้หนักกระเป๋าค่ะ

เข้ามาภายในบ้านจะเจอกับพื้นที่โถง Common Area ขนาดใหญ่ ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 ฟังก์ชัน ด้านหน้าบ้านเหมาะสำหรับทำเป็นห้องรับแขก และด้านหลังบ้านเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร เพราะอยู่ใกล้กับส่วนครัวค่ะ

ชั้น 1 โครงการปูพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 ซม. ฝ้าเพดานสูง 2.80 ม. ในภาพเป็นบ้านหลังมาตรฐานที่ทางโครงการลงเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวมาให้ดูนะคะ จะไม่ได้ตกแต่งเต็มแบบในบ้านตัวอย่าง แต่พอให้เรานึกภาพการใช้งานพื้นที่ได้ค่ะ 

ห้องรับแขกมีจุดเด่นคือช่องแสงเข้ามุมที่ผนัง และประตูทางออกเชื่อมต่อกับโซนสวนด้านข้างบ้านได้ ทำให้เราสามารถต่อเติมเฉลียงนั่งเล่น หรือสระว่ายน้ำด้านข้างได้เลยสำหรับแปลงมุมที่มีพื้นที่ดินเยอะ

บริเวณห้องรับแขกมีขนาดประมาณ 2.70 x 3.00 ม. วางโซฟา 3 ที่นั่ง โต๊ะกลางและชั้นวาง TV ได้สบายๆ เหมาะกับการวาง TV 43 – 50 นิ้วขึ้นไปได้สบายๆ โดยทางสัญจรหลังของบ้านจะอยู่ด้านข้าง ไม่ต้องผ่านโซนห้องรับแขกค่ะ

ทางสัญจรหลักของบ้านค่อนข้างใหญ่ ทำให้บ้านดูกว้างนะคะ ทางฝั่งขวามือเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room บันได และโซนรับประทานอาหาร ส่วนทางซ้ายมือเป็นห้องนอนชั้น 1 และห้องครัวค่ะ

แต่ถ้าใครต้องการห้องอเนกประสงค์เพิ่ม ก็สามารถออกแบบพื้นที่วางโต๊ะรับประทานอาหารตรงกลาง แล้วกั้นห้องด้านหลังบ้านเพิ่มเติมก็ได้เหมือนกันนะคะ

ห้องน้ำ Powder Room ชั้น 1 ตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน พื้นลดระดับลงเล็กน้อยทำความสะอาดได้ง่าย มีช่องระบายอากาศด้านข้าง และได้สุขภัณฑ์จาก American Standard ค่ะ

ด้านหลังบ้านเป็นพื้นที่ที่เราสามารถออกแบบการใช้งานได้ตามความชอบของเจ้าของบ้านเลยค่ะ สามารถกั้นห้องเป็นห้องทำงานส่วนตัวเพิ่มเติมก็ได้ แต่ถ้าไม่กั้นห้อง ก็จะสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 6 – 10 ที่นั่งได้สบายๆ หรือจะ Built-in ชุดครัวฝรั่งเพิ่มเติมก็ได้นะ

บริเวณพื้นที่รับประทานอาหาร มีทางออกเชื่อมไปยังสวนด้านข้างบ้านได้อีกด้วยค่ะ เผื่อใครอยากทำงานลานปิ้งย่างบาร์บีคิว ก็ออกไปใช้งานแบบ Outdoor ได้สะดวก

ส่วนห้องครัวทางโครงการมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นมาให้เป็นครัวปิด สามารถทำอาหารได้จริง โดยกลิ่นไม่ฟุ้งกระจายเข้ามาในบ้านค่ะ

พื้นครัวปูด้วยกระเบื้องลามิเนตเหมือนกับในบ้าน แต่จะลดระดับลงประมาณ 10 ซม. เผื่อต้องการทำความสะอาดเป็นส่วนๆ ก็ทำได้สะดวก หรือหากเกิดเหตุสุดวิสัยน้ำรั่วท่วมออกมาก็จะไม่เกิดความเสียหายภายในบ้าน

ภายในห้องครัวทางโครงการก่อมาให้แบบในภาพเลยค่ะ เป็นเคาน์เตอร์รูปตัว L พร้อม Backsplash กระเบื้อง ที่เช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย มีหน้าบานเก็บของทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ได้อ่างล้างจาก จาก MEX และเครื่องดูดควันแบบดูดอากาศออก ช่วยลดค่าใช้จ่ายไปได้หลายหมื่นถึงหลักแสนเลยทีเดียว

ด้านข้างมีประตูและหน้าต่างให้เราเปิดระบายอากาศได้อีกทางหนึ่ง เชื่อมต่อไปยังลานซักล้างได้ค่ะ

บานตู้เก็บของเป็นแบบ Soft Close ลดการกระแทกและเกิดเสียงดังเวลาใช้งาน มีถังขยะแบบเปิดอัตโนมัติติดตั้งมาให้ที่ด้านล่างของอ่างล้างจานค่ะ

ถัดมาข้างๆ ห้องครัวจะมีห้องเก็บของเล็กๆ ที่เป็นจุดควบคุมไฟฟ้า ไม่แนะนำให้วางของบังตู้ Main Board นะคะ เวลาเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้ตัดไฟได้ทันเวลา

ห้องนอนชั้นล่างจะปูพื้นด้วยลามิเนตลายไม้ ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมาะกับการนอนมากขึ้น ภายในห้องนี้มีขนาดค่อนข้างใหญ่ทีเดียวค่ะ พื้นที่ประมาณ 3.30 x 4.25 ม. ซึ่งวางเตียง King Size พร้อมโต๊ะข้างเตียงได้สบายๆ

นอกจากนั้นยังได้ช่องแสง 2 ฝั่ง ทำให้ภายในห้องสว่างและดูโปร่งสบายไม่อึดอัด และมีห้องน้ำในตัวใช้งานได้สะดวก เหมาะกับทำเป็นห้องนอนของคุณตาคุณยาย ที่ไม่เดินขึ้นบันไดไม่สะดวกนัก

ในบ้านที่เราพามาชม ด้านข้างเขาวางโต๊ะทำงานมาให้ดู จะเห็นว่ามีพื้นที่เหลือไม่แน่นจนเกินไปค่ะ ส่วนปลายเตียงก็สามารถวาง TV และตู้เสื้อผ้าเพิ่มเติมได้

ห้องน้ำในห้องนอนมีพื้นที่อาบน้ำ แบ่งส่วนเปียก-แห้งมาให้ พื้นลดระดับลงประมาณ 5 ซม. ล้างทำความสะอาดง่าย แต่อาจจะต้องระวังสักนิดสำหรับผู้สูงอายุ และไม่เหมาะกับการใช้รถเข็นค่ะ

ภายในได้อ่างล้างหน้าเป็นทรงสี่เหลี่ยมมีชั้นเก็บของด้านล่าง  กระจกเงาเป็นกระจกบานสี่เหลี่ยม และโถสุขภัณฑ์ จาก American Standard ส่วนพื้นที่อาบน้ำถือว่าค่อนข้างกว้าง สามารถยืนอาบได้สบาย พร้อมเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้แล้ว แต่จะไม่ได้ติดฉากกั้นมาให้นะคะ แนะนำให้ติดเพิ่มเติมค่ะ

บันไดเป็นโครงสร้างโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ปูไม้ประสานโทนสีเดียวกันกับพื้นชั้น 2 เลยค่ะ โถงบันไดจะมีช่องแสงทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้บันไดสว่าง สามารถห้อยโคมไฟ Chandelier ได้นะ

ขึ้นมาแล้วจะเจอกับโซน Family Area ก่อน ซึ่งเป็นเหมือนพื้นที่นั่งเล่นสำหรับครอบครัว จุดเด่นของพื้นที่ตรงนี้คือช่องแสงขนาดใหญ่เข้ามุมที่ทำให้เรามองออกไปเห็นต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกหน้าบ้านพอดีเลยค่ะ

Family Area มีพื้นที่ประมาณ 3.15 × 3.30 ม. วางโซฟา 3 ที่นั่ง โต๊ะกลาง และชั้นวาง TV ได้แบบห้องนั่งเล่นเลย เหมาะกับการวาง TV 50 นิ้วขึ้นไป หรือจะปรับเป็นมุมทำงานก็เหมาะนะคะ เพราะมีแสงธรรมชาติเข้าเพียงพอในเวลากลางวัน

ถัดมาเรามาดู Master Bedroom กันก่อนค่ะ ห้องนี้เป็นห้องนอนขนาดใหญ่ที่สุดอยู่ด้านหน้าบ้าน จุดเด่นคือช่องแสงขนาดใหญ่ด้านข้างเตียง ที่ทำให้เรามองเห็นวิวด้านหน้าบ้าน รับแสงเข้ามาได้เยอะ และดูโปร่งสบายไม่อึดอัด

ห้องนี้มีพื้นที่วางเตียงนอนประมาณ 3.35 x 4.40 ม. วางเตียง King Size ได้สบายๆ มีพื้นที่เดินได้รอบเตียง

ปลายเตียงสามารถวางชั้นวาง TV หรือจะติด TV กับผนังก็ได้นะคะ ด้านข้างฝั่งขวามือเป็นโซน Walk-in Closet และฝั่งซ้ายมือเป็นทางออกไปยังระเบียงค่ะ

Master Bedroom มีระเบียงส่วนตัวให้ออกไปยืนสูดอากาศด้านหน้าบ้านได้นะคะ ระเบียงมีขนาดค่อนข้างใหญ่ วางกระถางต้นไม้ หรือเก้าอี้จิบชาชิลๆ สักตัวก็โอเค

ส่วนพื้นที่ Walk-in Closet มีขนาดประมาณ 2.10 x 2.80 ม. สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าตัว L พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งได้ มีช่องแสง 1 จุด ให้ความสว่างและแสงธรรมชาติเข้ามาภายใน Walk-in Closet จะเชื่อมต่อกับห้องน้ำ ใช้งานได้สะดวกค่ะ

ห้องน้ำภายใน Master Bedroom จะค่อนข้างกว้าง ตกแต่งด้วยโทนสีครีม ดูอบอุ่น ภายในแบ่งส่วนเปียก – แห้งมาให้ พร้อมฉากกั้นกระจก พื้นห้องน้ำจะลดระดับจากพื้นห้องเล็กน้อย มีช่องแสงด้านข้าง เปิดระบายอากาศและความชื้นได้

อ่างล้างหน้าเป็นทรงสี่เหลี่ยมติดตั้งมาให้พร้อมที่เก็บของด้านล่าง สามารถวางของไว้บน Top หรือบน Low Wall ด้านหลังได้ กระจกเงาเป็นกระจกบานสี่เหลี่ยม และโถสุขภัณฑ์ จาก American Standard

พื้นที่อาบน้ำค่อนข้างกว้างสามารถยืนอาบได้สบาย ผนังเว้าเข้าด้านในสำหรับวางสบู่แชมพูต่างๆ และมีฝักบัวสายอ่อนพร้อมเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้แล้วค่ะ

ถัดมาเป็นห้องนอนรอง 1 ห้องนี้จะอยู่ทางด้านในไม่ติดกับบันได ได้ช่องแสง 2 ฝั่ง เลยค่ะ ทำให้ภายในห้องรู้สึกโปร่ง ไม่อึดอัด ภายในมีพื้นที่ประมาณ 3.25 x 3.75 ม. วางเตียง King Size ได้เลย แต่ถ้าใครอยู่คนเดียว จะใช้เป็นเตียง Queen Size ก็จะเหลือพื้นที่ด้านข้างวางโต๊ะทำงานได้อีกด้วยค่ะ

ส่วนปลายเตียงสามารถวางชั้นวาง TV ได้สบายๆ โดยมีพื้นที่เดินได้รอบเตียง

นอกจากนั้นในห้องนอนรองยังมีพื้นที่สำหรับ Walk-in Closet เชื่อมต่อกับห้องน้ำใช้งานได้สะดวกอีกด้วยค่ะ

ห้องน้ำฟังก์ชันก็จะเหมือนกับในห้องน้ำของ Master Bedroom เลย แตกต่างกันตรงที่จะไม่ได้มีฉากกั้นกระจกมาให้นะคะ

ส่วนห้องนอนรองที่ 2 อยู่ติดกับโถงบันได ห้องนี้ก็มีขนาดใกล้เคียงกับห้องแรกค่ะ มีพื้นที่ประมาณ 3.25 x 3.30 เมตร วางเตียง King Size ได้เช่นกัน แต่ถ้าใครอยากให้ห้องดูกว้างขึ้นมาหน่อยก็เลือกเป็นเตียง Queen Size กำลังดีค่ะ

ห้องนี้ก็จะได้ช่องแสงจากทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้ภายในห้องสว่าง และเปิดหน้าต่างระบายอากาศได้ดี

ห้องนี้ก็มีพื้นที่ Built-in ตู้เสื้อผ้าเช่นกันนะ จะอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำใช้งานได้สะดวกเลย

ห้องน้ำในห้องนอนนี้ก็มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างค่ะ ภายในตกแต่งสวยงามเหมือนกับในห้องนอนรอง 1 แตกต่างกันเล็กน้อยที่ลายกระเบื้องตรงพื้นที่อาบน้ำ และไม่ได้ติดฉากกั้นกระจกมาให้ แนะนำให้ติดเพิ่มเติมนะคะ

บ้านมาตรฐานแบบที่ 2

ถัดมาเป็นบ้านแบบ Inscape (แบบที่ 2) ที่ดินเริ่มต้น 59.35 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 275 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ห้องพักผ่อน + Double Volume 1 ครัวไทย  1 ห้องแม่บ้าน  3 ที่จอดรถ เหมาะกับครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น สมาชิกภายในบ้านตั้งแต่ 5 – 7 คน มีแม่บ้านประจำ และต้องการพื้นที่ส่วนตัวที่หลากหลายสำหรับทุกคน

ชั้น 1

• จอดรถได้ 3 คัน
• มีห้องสำหรับแม่บ้าน 1 ห้องพร้อมห้องน้ำในตัว
• เข้ามาภายในบ้านแล้วเจอกับโถงขนาดใหญ่ ทำเป็นพื้นที่ส่วนกลางสำหรับทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวได้
• มีพื้นที่นั่งเล่น 2 ส่วน ทำเป็นห้องรับแขก และห้องนั่งเล่น หรือกั้นเป็นห้องอเนกประสงค์ได้อย่างยืดหยุ่น
• ความสูงฝ้าเพดานแบบ Double Volume บริเวณห้องรับแขกด้านหน้าบ้าน
• มีห้องนอนชั้นล่าง พร้อมห้องน้ำในตัวใช้งานได้สะดวก
• มีห้องน้ำ Powder Room สำหรับแขก
• ครัวไทยกั้นเป็นสัดส่วน เชื่อมต่อกับลานซักล้างด้านหลังบ้าน

ชั้น 2

• มีพื้นที่ Family Area เป็นส่วนนั่งเล่นจุดที่ 3 สามารถมองลงไปเห็นห้องรับแขกได้
• Master Bedroom ขนาดใหญ่ อยู่ทางด้านหน้าบ้าน
• Master Bedroom มีห้องน้ำในตัว สามารถกั้นโซน Walk-in Closet ได้อย่างเป็นสัดส่วน และมีระเบียงเล็กๆ ภายในห้องน้ำไว้ตากผ้าได้
• ห้องนอนรอง 2 ห้องมีขนาดเท่าๆกัน พร้อมห้องน้ำและพื้นที่สำหรับ Walk-in Closet

บ้าน Type นี้จอดรถได้ทั้งหมด 3 คัน รั้วระแนงด้านหน้ามีความกว้างมากขึ้น แต่ยังคงเป็นแบบ 2 ตอนเปิด-ปิดง่ายน้ำหนักเบาค่ะ สามารถติดตั้งอุปกรณ์เปิด-ปิดรั้วอัตโนมัติเพิ่มได้

ด้านข้างรั้วของที่จอดรถเป็นประตูทางเข้าสำหรับคนเดินค่ะ ส่วนด้านข้างมีป้ายเลขที่บ้าน ตู้ไปรษณีย์ และถังขยะติดตั้งมาให้

ที่จอดรถของบ้านหลังนี้แบ่งเป็น 2 ส่วนค่ะ คือที่จอดรถคันใหญ่ 2 คันฝั่งซ้ายมือ และฝั่งขวามือด้านหน้าประตูบ้านจะเหมาะกับจอดรถเก๋งทั่วไป เพราะมีความลึกน้อยกว่าสักหน่อยค่ะ

พื้นที่จอดรถจะลงเป็นคอนกรีตแสตมป์ มาให้ ดูสวยงาม โครงสร้างเป็นแบบ On Ground แยกส่วนกับตัวบ้านชัดเจน และโรยหินตกแต่งมาให้มาบริเวณรอยต่อ พร้อมกล้อง CCTV 1 จุด

ด้านหน้าบ้านทางโครงการปลูกไม้พุ่มและไม้ยืนต้นตกแต่งมาให้เรียบร้อยแล้ว

ทางเข้าหลักของบ้านจะมี Step ขึ้นไป 2 ขั้น เพื่อแบ่งพื้นที่โซนสะอาดแยกกับพื้นที่จอดรถนะคะ โดยโถงทางเดินค่อนข้างกว้างยืนใส่รองเท้า หรือวางของได้สบายๆ

ประตูบ้านเป็นบานเปิดคู่ไม้สักจริง พร้อม Digital Door Lock ติดตั้งมาให้ จาก Life Smart รองรับการใช้งาน 4 แบบคือ รหัส PIN, กุญแจ, สแกนลายนิ้วมือ และ Keycard Access อำนวยความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น

ด้านข้างมีช่องเก็บของมาให้ 1 จุด เหมาะกับการทำชั้นวางรองเท้า หรือเก็บของใช้เกี่ยวกับการทำสวน หรือทำความสะอาดรถยนต์ เพราะหยิบใช้งานได้สะดวกทีเดียวค่ะ

เข้ามาภายในบ้านแล้วจะเจอกับโถง Common Area ขนาดใหญ่ตรงกลางบ้าน เป็นพื้นที่ที่ทุกคนมารวมกัน ก่อนจะแยกไปยังฟังก์ชันอื่นๆ บริเวณนี้ทางโครงการจัดเป็นพื้นที่รับประทานอาหารมาให้ดูค่ะ

พื้นชั้น 1 จะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 ซม. ฝ้าเพดานสูง 2.80 ม. เหมือนกับบ้าน Type แรก

พื้นที่รับประทานอาหารสามารถวางชุดโต๊ะได้ 6 – 8 ที่นั่งสบายๆ เลยค่ะ มีประตูบานเลื่อนเปิดเชื่อมต่อไปยังสวนด้านหลังบ้านได้ ใครอยากทำเป็นระเบียง Outdoor สำหรับนั่งเล่นก็ได้นะคะ

ห้องครัวไทยจะมีประตูเป็นบานเลื่อนกระจก ให้สามารถมองเห็นคนที่จะเปิดเข้า-ออกได้ และใช้งานได้สะดวก ข้อดีของครัวปิดคือเราสามารถทำอาหารได้จริงจัง ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นค่ะ  พื้นห้องครัวจะลดระดับลงประมาณ 10 ซม. เวลาเดินต้องระวังสักหน่อยนะคะ

ทางโครงการก่อเคาน์เตอร์ครัวมาให้เป็นตัว L มี Backsplash กระเบื้องเช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย มีหน้าบานเก็บของทั้งชั้นบนและชั้นล่าง พร้อมกับอ่างล้างจาก จาก MEX และเครื่องดูดควันแบบดูดอากาศออกติดตั้งมาให้เรียบร้อย 

แต่แบบบ้าน Type นี้จะไม่มีหน้าต่างระบายอากาศนะคะ มีเป็นพัดลมระบายอากาศติดตั้งมาให้เหนือประตูแทนค่ะ

พื้นที่ซักล้างด้านหลังบ้านจะเชื่อมต่อกับบริเวณห้องครัว ด้านล่างเทคอนกรีตมาให้ ไม่มีเสาเข็ม สำหรับตากผ้า หรือทำความสะอาดสิ่งต่างๆ พร้อมวางถังเก็บน้ำขนาด 2,000 ลิตร และปั๊มน้ำ 400 w. สามารถซ่อมแซมได้ดูแลรักษาได้สะดวก

โซนต่อมาที่ติดกับพื้นที่รับประทานอาหารเป็นพื้นที่นั่งเล่นโซนที่ 2 ขนาดประมาณ 3.00 × 3.65 ม. ซึ่งสามารถกั้นแยกออกมาเป็นอีกห้องหนึ่งเลยก็ได้นะคะ เหมาะกับการทำเป็นห้องดูหนัง, เล่นเกมส์ ทำกิจกรรมในครอบครัว ที่อาจจะมีเสียงดัง จึงเหมาะกับการกั้นห้องแยกเป็นสัดส่วน

จุดเด่นของบ้านหลังนี้อยู่ที่พื้นที่นั่งเล่นจุดแรก ซึ่งอยู่ทางด้านหน้าบ้านค่ะ เป็นโถง Double Volume สูงประมาณ 6 เมตร เป็นส่วนที่มีช่องแสงเข้ามุมขนาดใหญ่ ทำให้มองเห็นวิวสวนได้อีกด้วย

ตรงนี้มีพื้นที่ประมาณ 3.15 x 3.90 ม. วางโซฟา 4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางและชั้นวาง TV ได้สบายๆ เหมาะกับการทำเป็นห้องรับแขก เพราะเป็นส่วนแรกที่เข้าบ้านมาแล้วจะเจอเลยค่ะ

ถัดมาด้านในที่มีความ Private เพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย อยู่ทางขวามือของประตูทางเข้าบ้าน เป็นห้องน้ำ และห้องนอนชั้นล่างค่ะ

ห้องน้ำเป็นห้อง Powder Room แขกไปใครมาก็เข้าใช้งานได้สะดวก ภายในตกแต่งด้วยโทนสีขาว พื้นลดระดับลงเล็กน้อยทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ มีช่องระบายอากาศด้านข้าง ได้สุขภัณฑ์จาก American Standard

สำหรับบ้านหลังนี้จะมีห้องเก็บของและ Main Board อยู่ใต้บันไดนะคะ

ห้องนอนชั้นล่างของบ้าน Type นี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้น โปร่งกว้างด้วยประตูกระจกบานใหญ่ด้านหน้าบ้าน ที่กว้างเกือบเต็มผนังเลยค่ะ พื้นห้องปูด้วยลามิเนตลายไม้ ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมาะกับการทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ หรือห้องรับรองแขกได้

พื้นที่ประมาณ 3.70 x 4.10 ม. วางเตียง King Size พร้อมโต๊ะข้างเตียงได้สบายๆ ปลายเตียงมีพื้นที่วาง TV และตู้เสื้อผ้า แล้วยังเหลือพื้นที่เดินได้รอบๆ เตียงค่ะ

ห้องน้ำภายในแบ่งส่วนเปียก-แห้งมาให้ พื้นลดระดับลงประมาณ 5 ซม. ล้างทำความสะอาดง่าย แต่จะไม่เหมาะกับการใช้รถเข็นนะคะ

ภายในได้อ่างล้างหน้าเป็นทรงสี่เหลี่ยมมีชั้นเก็บของด้านล่าง กระจกเงาเป็นกระจกบานสี่เหลี่ยม และโถสุขภัณฑ์ จาก American Standard ส่วนพื้นที่อาบน้ำถือว่าค่อนข้างกว้าง สามารถยืนอาบได้สบาย พร้อมเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้แล้ว แต่จะไม่ได้ติดฉากกั้นมาให้ค่ะ

บันไดเป็นโครงสร้างโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก เดินได้แน่นเท้า ลูกนอนปูด้วยไม้ประสาน โถงบันไดจะมีช่องแสงทั้ง 2 ฝั่ง มีโคมไฟตรงกลาง สามารถห้อยโคมไฟ Chandelier ตกแต่งเพิ่มเติมได้

ชั้น 2 มีจุดเด่นบริเวณ Family Area ซึ่งจะตรงกับโถง Double Volume พอดีเลยค่ะ บริเวณนี้จะเป็นพื้นที่ที่ดูโปร่งและสว่างที่สุดของบ้าน เนื่องจากมีช่องแสงขนาดใหญ่รอบด้าน และเชื่อมต่อกับชั้น 1 ได้

มองลงไปเห็นบริเวณห้องรับแขกพอดี

Family Area เหมาะกับการทำเป็นพื้นที่กิจกรรมร่วมกันในครอบครัว มีพื้นที่ประมาณ 3.30 × 3.75 ม. ค่อนข้างกว้าง สามารถวางโซฟาตัวใหญ่ๆ ได้สบาย ใครเป็นคอซีรีส์ ภาพยนตร์ ตรงนี้มีระยะดู TV ที่สามารถตั้ง TV 60 นิ้วขึ้นไปได้เลยค่ะ

นอกจากนั้นยังมีระเบียงขนาดใหญ่ให้ออกไปใช้งานได้ มีความกว้างประมาณ 1.40 x 3.85 ม. ซึ่งสามารถวางชุดโต๊ะกาแฟ หรือกระถางต้นไม้ขนาดใหญ่ได้

ห้อง Master Bedroom เป็นห้องนอนที่อยู่ด้านหน้าบ้าน จุดเด่นของห้องนี้คือมีพื้นที่พักผ่อนประมาณ 4.00 x 4.40 เมตร (ไม่รวม Walk-in Closet) ถือว่าค่อนข้างกว้างทีเดียวค่ะ สามารถวางเตียง King Size สบายๆ

ส่วนปลายเตียงวางชั้นวาง TV แล้วมีพื้นที่เดินได้รอบเตียงค่ะ

ด้านข้างมีมุม Bay Window กว้างประมาณ 1.40 ม. เป็นช่องแสงกระจกเข้ามุม วางโต๊ะทำงาน หรือโต๊ะเครื่องแป้งได้พอดีๆ เลยค่ะ

สำหรับพื้นที่ Walk-in Closet มีพื้นที่ประมาณ 2.15 × 3.70 ม. มีช่องแสงขนาดใหญ่ทำให้ภายในดูสว่าง แต่อาจจะ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ไม่เต็มพื้นที่นะคะ แนะนำเป็น Built-in ตู้เตี้ยสำหรับเก็บของแทนค่ะ

ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน แบ่งส่วนเปียก – แห้งชัดเจน จุดเด่นของห้องน้ำห้องนี้คือมีพื้นที่ระเบียงอยู่ด้านในด้วยค่ะ ทำให้มีช่องแสงขนาดใหญ่ ภายในห้องน้ำสว่างไม่ต้องเปิดไฟในเวลากลางวัน

อ่างล้างหน้าเป็นทรงสี่เหลี่ยมติดตั้งมาให้พร้อมที่เก็บของด้านล่าง สามารถวางของไว้บน Top หรือบน Low Wall ด้านหลังได้ค่ะ

พื้นที่ระเบียงในห้องน้ำมีข้อดีคือเราสามารถซักผ้า(ซักมือ) แล้วตากผ้าได้เลย ถ้าเป็นของส่วนตัวจะได้ไม่ไปรวมกับคนอื่นๆค่ะ กระจกเงาเป็นกระจกบานสี่เหลี่ยม และได้โถสุขภัณฑ์ จาก American Standard

พื้นที่อาบน้ำค่อนข้างกว้างสามารถยืนอาบได้สบาย ผนังเว้าเข้าด้านในสำหรับวางสบู่แชมพู มีฝักบัวสายอ่อนพร้อมเดินระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้แล้วค่ะ

ห้องนอนรองของบ้าน Type นี้มี 2 ห้อง พื้นที่จะใกล้เคียงกัน มีห้องน้ำและ Walk-in Closet ในตัวทั้งคู่เลยค่ะ สำหรับห้องนี้มีพื้นที่วางเตียงขนาดประมาณ 3.00 × 3.50 ม. ซึ่งวางเตียง 5 ฟุตได้สบายๆ ด้านข้างยังเหลือพื้นที่วางโต๊ะทำงานได้อีก นอกจากนั้นในห้องยังได้ช่องแสง 2 ฝั่ง ทำให้ห้องนอนสว่างและเปิดระบายอากาศได้ดี

Walk-in Closet จะอยู่ติดกับห้องน้ำ สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้พอดีๆ ใช้งานได้สะดวก อาบน้ำออกมาแต่งตัวได้เลย ภายในห้องน้ำจะมีพื้นที่อาบน้ำอยู่ตรงมุมแต่จะต้องติดตั้งฉากกั้นเพิ่มเติมเองค่ะ

ห้องนอนรองที่ 2 อยู่ติดกับโถงบันได ห้องนี้ก็มีขนาดประมาณ 3.20 × 3.80 ม. สามารถวางเตียง King Size ได้ ภายในห้องได้ช่องแสง 2 ฝั่ง มีส่วน Walk-in Closet และห้องน้ำเหมือนกับในห้องนอนรอง 1 เลยค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

The City พระราม 9 – รามคำแหง ราคา ณ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566

• Serein ที่ดิน 52.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 233 ตร.ม.
  ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องพักผ่อน / 1 ครัวไทย / 2 ที่จอดรถ
• Inscape ที่ดิน 59.35 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 275 ตร.ม.
  ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ห้องพักผ่อน + Double Volume / 1 ครัวไทย / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
• ราคาเริ่มต้น 10.99 – 15 ล้านบาท
• โปรโมชันลดสูงสุด 3 ล้านบาท*
• จอง 100,000 บาท
• ทำสัญญา 100,000 บาท
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ N/A บาท
• ค่าส่วนกลาง 32 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

โปรโมชัน 

บ้านเดี่ยวเอพี โปรฯ แรง ‘เอาไป‼️’ รับ 4 โซนพร้อมอยู่ตามสไตล์ ที่คุณเลือกได้
☑️ โซนทำงานสาย Creative เอาไป !
☑️ โซนฟิตเนสสายออกกำลังกาย เอาไป !
☑️ โซนสายรักสัตว์เลี้ยง เอาไป !
☑️ โซนสวน ปิ้งย่าง หมูกระทะ บาร์บีคิว เอาไป !
เพียงจองและโอนตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคม 66
.
ยังไม่พอ เอาไปอีก‼️
🎁 ส่วนลดสูงสุด 3,000,000 บาท*
🎁 ฟรี! ค่าใช้จ่ายวันโอน
🎁 ฟรี! แอร์*

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

The City พระราม 9 – รามคำแหง ตั้งอยู่บนถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก ใกล้กับถนนรามคำแหง เดินทางไปยังถนนใหญ่ใกล้เคียงได้สะดวกทั้งถนนลาดพร้าว, ศรีนครินทร์, พัฒนาการ, พระราม 9 ได้ง่าย แต่ถนนด้านหน้าโครงการเป็น One Way จะต้องเข้าทางซอยรามคำแหง 118 ค่ะ ทำเลนี้เป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง บนถนนรามคำแหง ไม่ว่าจะเป็นสถานที่จับจ่ายใช้สอยอย่าง Paseo Town, Golden Place, Hypermarket และห้างสรรพสินค้า ยังใกล้กับโรงพยาบาล โรงเรียนนานาชาติชื่อดังหลายแห่ง เรียกได้ว่าเป็นทำเลที่ครบด้านสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการอยู่อาศัย

นอกจากนั้นยังมีตัวเลือกการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีสัมมากร(ในอนาคต) ระยะห่างเพียง 1.5 กิโลเมตร และสายสีเหลือง สถานีลำสาลี(ในอนาคต) 5.5 กิโลเมตร อีกทั้งยังเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิได้ทั้งรวดเร็ว

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

ความปลอดภัยในโครงการนี้ถือว่าให้มาในระดับดีค่ะ เป็นระบบ KATSAN ของทาง AP บันทึกการเข้า-ออกของบุคคลภายนอก พร้อมลูกบ้านสามารถอนุญาตผู้มาติดต่อผ่านมือถือได้ ภายในโครงการมีกล้อง CCTV และเจ้าหน้าที่ รปภ. ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

ตัวบ้านมีกล้อง กล้อง CCTV มาให้ 2 จุดภายในบ้านและโรงรถ สามารถ Live Stream ผ่าน Application ได้ ติดตั้ง Digital Door Lock มาให้ทุกยูนิต นอกจากนี้ประตูหน้าต่างมี Magnetic & Shock Sensor ด้วยค่ะ

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

The City พระราม 9 – รามคำแหง เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น บนที่ดิน 36 ไร่ จำนวน 131 ยูนิต ถือว่ายูนิตค่อนข้างน้อย มีการแบ่งเป็นซอยย่อยหลายซอยทำให้แต่ละซอยมีจำนวนยูนิตเพียง 4 – 6 ยูนิต ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูง เหมาะกับคนที่ชอบความเงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน วางผังบ้านพักอาศัยจะหันหน้าไปทางทิศเหนือ – ใต้ สำหรับคนที่ชอบลมพัดเข้าหน้าบ้านเต็มที่ก็เหมาะกับการเลือกทิศใต้ ส่วนคนที่ชอบแดดเบาๆ เข้าทางหน้าบ้านให้เลือกบ้านทางทิศเหนือค่ะ

ตัวบ้านมีให้เลือก 4 แบบ เป็นบ้านขนาดใหญ่มีจุดเด่นคือ Double Volume (ยกเว้นแบบเริ่มต้น) ภายในบ้านดูโปร่งกว้างขึ้น เชื่อมต่อพื้นที่ชั้น1 และชั้น 2 ให้คนในบ้านมองเห็นกันได้ มีห้องนอนชั้นล่างเหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่ต้องเดินขึ้นลงบันไดบ่อยๆ และแบบบ้านทุกหลังจะมีพื้นที่ Family Area รวมถึงห้องน้ำส่วนตัวในห้องนอนทุกห้อง

วัสดุ :

โครงสร้างบ้านเป็นการก่ออิฐมวลเบา ง่ายต่อการทุบต่อเติมในอนาคต ในบ้านมาตรฐานมีชุดครัวก่อมาให้เรียบร้อย ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้หลักหมื่น-แสนได้ค่ะ Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินแกรนิตสีดำ มีหน้าบานมาให้พร้อมใช้งาน พร้อมติดตั้งอ่างล้างจาน และ Hood จาก MEX หรือเทียบเท่า พื้นชั้น 1 ปูกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. ชั้น 2 ปูลามิเนตลายไม้หนา 8 มม. ให้ดูอบอุ่นมากขึ้น บันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ปูไม้ประสาน
และได้สุขภัณฑ์ จาก American Standard ถือว่าให้มาตามมาตรฐานค่ะ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

ภายในโครงการมีพื้นที่สีเขียว 2 จุด เป็นสวนที่ได้ความเป็นส่วนตัว เหมาะกับการนั่งเล่น Picnic ใกล้กับสระว่ายน้ำ 1 จุด และสวนขนาดใหญ่ที่มีสนามเด็กเล่น อีก 1 จุด บรรยากาศร่มรื่นตั้งแต่ด้านหน้าโครงการ  เสาไฟฟ้าไม่ได้ลงใต้ดินแต่เดินสายเป็นระเบียบเรียบร้อย นอกจากนี้ด้านข้างของถนนหลัก และหน้าบ้าน มีปลูกพื้นที่สีเขียวมาให้ ทั้งพุ่มไม้ และไม้ยืนต้น

สาธารณูปโภค :

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการถือว่าให้มาเยอะพอสมควรเลยค่ะ อาคาร clubhouse เชื่อมกับซุ้มประตูทางเข้าโครงการ ภายในประกอบด้วย สระว่ายน้ำแยกสระเด็ก-ผู้ใหญ่ และมีโซน Jacuzzi , Fitness, Sauna, Co-Working Space, Kid’s Room, ห้องดูหนัง, พื้นที่นั่งเล่น, สนามเด็กเล่นและสวนส่วนกลาง ซึ่งเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตแล้วถือว่าให้มาเยอะทีเดียวค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพ็กเกจ 10 – 15 ล้านบาท, 14 กุมภาพันธ์ 2566

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ติดถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก เน้นใช้งานบนถนนรามคำแหงเป็นหลัก มีความอุดมสมบูรณ์ 
• ความปลอดภัย 8.25/10 – KATSAN ภายในบ้านมี CCTV, Digital Door Lock และ Magnetic & Shock Sensor
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – บ้านไซส์ใหญ่สไตล์ Modern มี Double Volume ฟังก์ชันลงตัว
• วัสดุ 7.75/10 –  เหมาะสมกับการใช้งาน ตามมาตรฐานของโครงการ AP
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.25/10 – ที่มีพื้นสวนหย่อม 2 จุด พร้อมจัดพื้นที่สีเขียวหน้าบ้านมาให้
• สาธารณูปโภค 8.75/10 – Facility หลากหลาย ให้มาเยอะเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิต
• 8.00 / 10.00 

The City พระราม 9 – รามคำแหง เหมาะกับใคร

โครงการ The City พระราม 9 – รามคำแหง เหมาะกับคนที่มองหาบ้านทำเลรามคำแหง ใช้ถนนเส้นรามคำแหงเป็นหลัก ใกล้ทางด่วน และมีตัวเลือกการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า เป็นครอบครัวขนาดใหญ่ที่มีสมาชิกภายในบ้าน 4 คนขึ้นไป ชอบความเป็นส่วนตัว จำนวนเพื่อนบ้านไม่เยอะ ได้ความสงบ มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งานหลากหลายเหมือนกับคอนโด ชอบความโปร่ง และ Double Volume ในตัวบ้าน มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 10.99 – 15 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่  70,000 – 100,000 บาท

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc