รีวิวฉบับที่ 2060 …หากใครกำลังมองหาทาวน์โฮมไว้อยู่อาศัยเอง บนทำเลที่อาจจะไกลจากใจกลางเมืองออกมาหน่อย แต่เน้นบรรยากาศเงียบสงบ เป็นส่วนตัว และสามารถเดินทางใช้ทางด่วนเข้าสู่ตัวเมืองได้เลย อย่างโซน “ถนนคู้บอน” ก็เป็นอีกโซนที่มีโครงการแนวราบขึ้นอยู่หลายโครงการค่ะ รีวิวฉบับนี้เราจะเยี่ยมชม The Passage รามอินทรา-คู้บอน ตั้งอยู่ติดถนนคู้บอน ซอย 38 โครงการนี้เค้ามีทาวน์โฮม 2 แบบค่ะ ราคาเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท นอกจากนี้ที่นี่ยังมีขายบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดด้วยนะคะ หน้าตาและบรรยากาศจะเป็นยังไงนั้น Think of living ไม่พลาด ขอนำข้อมูลและภาพโครงการมาอัพเดทกันค่ะ
ข้อมูลโครงการ
@13 February 2020
- The Passage Ramintra-Khubon (เดอะ แพสเซจ รามอินทรา – คู้บอน)
- บริษัท เฮ้าส์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน : ถนน คู้บอน เขต คลองสามวา
- เนื้อที่โครงการ 31-2-91.6 ไร่ จำนวน 285 ยูนิต
- ทาวน์โฮม Type B หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดิน 21.3 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 100 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- ทาวน์โฮม Type A หน้ากว้าง 6 เมตร ที่ดิน 22.5 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 105 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดิน 41.3 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 126 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 51.9 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 158 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- ทาวน์โฮม 280 ยูนิต / บ้านแฝด 2 ยูนิต / บ้านเดี่ยว 3 ยูนิต
- เพดานชั้น 1 สูง 2.7 เมตร, ชั้น 2 สูง 3 เมตร
- ราคาเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท (ทาวน์โฮม)
- ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 75,000 บาท
- โครงการเริ่มก่อสร้าง : เมษายน 2560
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : 2563
- เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- สำนักงานขาย : 02-171-0000
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด : 13.857396, 100.685060 / Google Map : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
เริ่มต้นด้วยเรื่องการพัฒนาในย่านคู้บอนกันค่ะ เพราะเมื่อพูดถึงถนนคู้บอน ในสมัยก่อนจะเป็นภาพของถนน 2 เลน เป็นชุมชนดั้งเดิมที่มีความเงียบสงบ สองข้างทางจะเป็นทุ่งนาและที่ดินว่างเปล่า ใครนึกภาพไม่ออกให้ลองนึกถึงบรรยากาศชานเมือง คล้ายๆกับอยู่ต่างจังหวัดค่ะ ด้วยตัวทำเลอยู่ห่างไกลจากใจกลางเมืองพอสมควรโดยอยู่ในเขตคลองสามวา ดังนั้นการเดินทางที่นี่จะใช้รถยนต์เป็นหลัก เพราะแต่ก่อนเนี่ยรถสาธารณะจะไม่เยอะเท่าเหมือนสมัยนี้ คู้บอนมีพื้นที่เชื่อมต่อกับถนนรามอินทราและอีกด้านหนึ่งจะเชื่อมกับถนนเลียบคลองสองและหทัยราษฎร์ ซึ่งสามารถวิ่งเข้าสู่โซนมีนบุรีซึ่งอยู่ทางทิศใต้ ส่วนทางทิศเหนือจะมีอาณาเขตติดกับอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
ต่อมาถนนคู้บอนได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นในโครงการปรับปรุงถนนคู้บอน ภายใต้การดำเนินงานของกรุงเทพมหานคร มีการเวนคืนที่ดินบางส่วนเพื่อขยายขอบเขตถนนให้กว้างขึ้น จนกลายเป็นช่องจราจร 6 เลน มีการปรับพื้นที่เกาะกลางพร้อมปลูกต้นไม้ริมทางให้สวยงามยิ่งขึ้นค่ะ นอกจากนี้ยังมีการเข้ามาของเมกะโปรเจ็กต์ของกลุ่มธุรกิจสยาม รีเทล ดีเวลล็อปเม้นท์ ที่ได้เปิดศูนย์การค้า Fashion Island ให้บริการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 เป็นต้นมา ก่อนจะพัฒนาศูนย์การ The Promenade เสมือนเป็นห้างน้องตามมาติดๆ โดยตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกันค่ะ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆเหล่านี้ทำให้โซนรามอินทราช่วงกลาง กม.8-10 และถนนคู้บอนค่อยเจริญเติบโตเรื่อยมา เริ่มมีร้านค้า ร้านอาหาร และชุมชนใหม่ๆเกิดขึ้น สะท้อนผ่านโครงการบ้านจัดสรรโดย Developer หลายเจ้า ได้เข้ามาซื้อที่ดินและพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมกันอย่างแพร่หลาย ดังนั้น “ถนนคู้บอนโฉมใหม่” จึงกลายเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยดึงดูดทั้งผู้ประกอบการอสังหาฯและกลุ่มดีมานด์ให้เข้ามาจับจองที่อยู่อาศัยในระดับราคาที่เอื้อมถึงได้
ปัจจุบันถนนคู้บอนได้รับการพัฒนาจนเปลี่ยนไปจากเดิมอยู่พอสมควรค่ะ มีรถสาธารณะเยอะขึ้น ส่วน 2 ข้างทางมีโครงการบ้านจัดสรรและโฮมออฟฟิศขึ้นหลายแห่ง ทั้งที่ปิดการขายไปแล้วและโครงการใหม่ที่กำลังเปิดขายอยู่ รวมถึงมีตลาด ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า เริ่มตั้งแต่ถนนคู้บอนช่วงต้นไล่มาจนถึงคู้บอนช่วงปลาย ภาพทุ่งนาและที่ดินว่างเปล่าเริ่มหายไป แต่ก็ยังคงมีหลงเหลือให้เห็นอยู่บ้าง เรียกได้ว่าที่นี่ยังคงบรรยากาศความเป็นชุมชนดั้งเดิมผสมผสานเข้ากับชุมชนใหม่และยังมีธรรมชาติอยู่รายล้อม เหมาะกับคนที่ชอบการอยู่อาศัยที่เงียบสงบ เป็นส่วนตัว ผู้คนไม่พลุกพล่านเท่าในเมืองค่ะ
ส่วนเรื่องของการเดินทาง ตอนนี้ถนนคู้บอนใหม่สามารถขยายโครงข่ายการเดินทางเชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักได้หลายสายเลยค่ะ เช่น ถนนรามอินทรา สิ่งอำนวยความสะดวกจะกระจุกตัวอยู่ในโซนนี้โดยเฉพาะรามอินทราช่วงต้น ช่วงกลาง (กม.1-7 และ กม. 8-10) และถนนนวมินทร์ นอกจากนี้คู้บอนยังสามารถเชื่อมต่อถนนเส้นรองอื่นๆได้อีกหลายสาย เช่น ถนนปัญญาอินทรา ถนนพระยาสุเรนทร์ ถนนเลียบคลองสอง ถนนหทัยราษฎร์ ส่วนทางด่วนก็จะเชื่อมกับถนนวงแหวนรอบนอกตะวันออก (กาญจนาภิเษก) และมอเตอร์เวย์ วิ่งเข้าเมืองหรือออกไปปทุมธานี อยุธยา ก็สะดวกไม่แพ้กันค่ะ ส่วนในอนาคตอันใกล้นี้จะมีการเปิดใช้บริการเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ตามแนวถนนรามอินทรา ปัจจุบันใครผ่านมาเส้นนี้ก็จะเห็นว่าเค้ากำลังก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้ากันอยู่ค่ะ ทำให้การจราจรอาจจะติดขัดบ้างโดยเฉพาะช่วง Peak Time ต้องอดใจรอกันสักระยะหนึ่งนะคะ เพราะตามกำหนดการ ประมาณปี 2564 ก็คงจะเปิดให้ใช้บริการกันได้ โดยสถานีที่ใกล้ถนนคู้บอนมากที่สุดมี 2 จุดค่ะ ได้แก่ สถานีคู้บอนและสถานีวงแหวนตะวันออก
อย่างที่บอกนะคะว่าโซนคู้บอน ปัจจุบันได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ภาพจำเดิมเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วแตกต่างออกไปมากเลยค่ะ สถานที่อำนวยความสะดวกในย่านนี้อย่างแรกที่มีผลต่อการเกิดขึ้นของโครงการบ้านจัดสรร ก็คงหนีไม่พ้นศูนย์การค้าค่ะ ในช่วง กม. 10 จะมีศูนย์การค้า Fashion Island และ The Promenade ตั้งอยู่ นอกจากนี้ก็มีห้างขนาดกลาง-เล็ก และซุปเปอร์มาเก็ต กระจายอยู่หลายแห่งบนถนนนคู้บอนและเลียบคลองสอง อาทิเช่น BigC Super Center คู้บอน, Max Value คู้บอน และ BigC Market หทัยราษฎร์ ส่วนตลาดใหญ่ๆก็มีตลาดสายเนตร กม.8 หรือที่เรียกติดปากกันว่าตลาด กม.8 อยู่บริเวณแยกถนนคู้บอนตัดกับรามอินทราเลยค่ะ ส่วนตลาดนัดก็มีเช่นกันค่ะ ใกล้ๆก็จะมีตลาดนัดสี่แยกพระพรหมคลองสอง หากไกลไปอีกหน่อยก็จะมีตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา อยู่บริเวณแยกทางเข้าถนนเลียบด่วนรามอินทรา ห่างจากตลาด กม.8 ออกไปประมาณ 3.2 กิโลเมตรค่ะ
ส่วนสถานที่อำนวยความสะดวกอื่นนๆ เช่น โรงพยาบาลก็มีอยู่หลายแห่งเลย โดยเฉพาะบนถนนนวมินทร์ เชื่อมต่อกับถนนรามอินทรา ช่วงต้นๆก็เป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลสินแพทย์ ถัดไปจะเจอโรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ และโรงพยาบาลนวมินทร์ซึ่งจะอยู่ไกลออกไปอีกเล็กน้อยค่ะ ส่วนบนเส้นรามอินทราเอง ก็มีโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานีเปิดให้บริการด้วย ส่วนวัด หลักๆเลยที่คนในชุมชนเค้ามักมาประกอบพิธีทางศาสนาคือวัดคู้บอน ด้านหลังจะเป็นที่ตั้งของโรงเรียนวัดคู้บอนค่ะ หรือไกลออกไปอีกนิดก็จะมีวัดพระยาสุเรนทร์ ซึ่งวัดนี้เป็นที่ประดิษฐานของหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ สามารถมาสักการะขอพรได้ และในบริเวณวัดก็ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยตลาดน้ำบึงพระยาหรือตลาดน้ำวัดพระยาสุเรนทร์ มาวัดทั้งทีได้ทั้งทำบุญชุ่มฉ่ำใจและยังได้แวะเที่ยวสบายๆที่ตลาดน้ำอีกด้วยค่ะ
หากพูดถึงทำเลที่ตั้งของโครงการ The Passage รามอินทรา-คู้บอน จะอยู่บริเวณซอยคู้บอน 38 ซึ่งเป็นคู้บอนช่วงปลายค่ะ ถึงแม้จะเป็นซอยเลขปลายๆหน่อย แต่ความอุดมสมบูรณ์ไม่ปลายแถวอย่างที่คิดนะคะ โซนนี้นอกจากถนนจะตัดเป็น 6 เลนกว้างๆแล้วเนี่ย ทั้ง 2 ฝั่งถนนยังมีอาคารพาณิชย์ ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารอยู่เยอะมาก เรียกได้ว่าเดินออกจากโครงการไม่ว่าจะเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา ข้ามไปฝั่งตรงข้ามหรืออยู่ฝั่งเดียวกับโครงการก็เจอร้านเต็มไปหมดค่ะ โดยอยู่ระยะเดินได้ 200-300 เมตร หากไกลจากนั้นไปอีกก็มีร้านให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ไม่ต้องกลัวจะน้อยหน้าคู้บอนช่วงต้นๆแต่อย่างใดค่ะ
สำหรับการเดินทางมายังโครงการ The Passage รามอินทรา-คู้บอนในครั้งนี้ เราได้ใช้เส้นทางขับมาบนถนนรามอินทราค่ะ โดยมาเส้นนี้แน่นอนว่าก็จะเจอกับการก่อสร้างแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพูตลอดเส้นทางเลย เวลาที่ขับรถมาประมาณ 9 โมงกว่าค่ะ ก็ยังเจอรถติดอยู่บ้างบางช่วง โดยเราจะขอเริ่มต้นตั้งแต่ช่วง กม.7 เป็นต้นไปนะคะ
จาก กม.7 ขับตรงมาเรื่อยๆประมาณ 1 กิโลเมตร จะเจอกับทางยกระดับข้ามแยกและทางแยกเลี้ยวเข้าถนนคู้บอน ให้เราเตรียมชิดซ้ายและเลี้ยวซ้ายเข้าแยกสู่ถนนคู้บอนค่ะ โดยฝั่งขวามือตรงหัวมุม สังเกตได้ว่าจะเป็นตลาดสายเนตร กม.8 คนจะเดินอยู่ริมทาง มีแผงขายของและร้านค้าต่างๆอยู่เต็มเลยค่ะ จากนั้นพอเข้าสู่ถนนคู้บอนแล้ว ฝั่งซ้ายมือจะเป็นซอยเลขคี่ เริ่มตั้งแต่ซอย 1 ไล่ไปเรื่อยๆ เราก็ขับตรง ยาวไปตามทางเลยค่ะ ระยะประมาณ 2 กิโลเมตร ผ่านหน้าวัดคู้บอนไปไม่ไกลจะถึงทางลอดใต้ทางด่วนวงแหวนรอบนอกตะวันออก แยกนี้รถจะค่อนข้างเยอะค่ะ เพราะมาจากหลายทิศทาง อาจจะต้องขับระวังๆหน่อย ให้เราเลี้ยวซ้ายก่อนไปตามทาง จากนั้นเลี้ยวขวาลอดใต้สะพานแล้วแยกไปทางป้ายบอกทางที่ชี้ไปถนนเลียบคลองสอง พอเสร็จเราจะยังวิ่งอยู่บนถนนคู้บอนนะคะแต่เริ่มเป็นช่วงปลายๆละ ให้ขับตรงไปตามทางเรื่อยๆค่ะ ระยะทางประมาณ 1.8 กิโลเมตร ให้ชิดขวาเตรียมกลับรถ เมื่อกลับรถเสร็จให้ขับไปอีกประมาณ 650 เมตร ชิดซ้ายเตรียมเลี้ยวเข้าสู่โครงการ The Passage รามอินทรา-คู้บอน ได้เลย เราจะสังเกตเห็นป้าย Billboard ขนาดใหญ่เป็นชื่อโครงการอยู่บริเวณหน้าซอยคู้บอน 38 เลยค่ะ
เริ่มต้นจากถนนรามอินทรา ช่วง กม.7 ซึ่งปัจจุบันจะมีการก่อสร้างแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพูตลอดเส้นทาง
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
สำหรับที่ตั้งของโครงการ The Passage รามอินทรา-คู้บอน จะอยู่ติดกับถนนคู้บอนเลยค่ะ ช่วงซอย 38 ซึ่งหันหน้าไปทางทิศเหนือ พื้นที่ดินของทั้งโครงการอยู่ที่ 31-2-91.6 ไร่ โดยจะมีถนนหลักของโครงการวิ่งตรงเข้าไปด้านในซึ่งเป็นส่วนของพื้นที่อยู่อาศัยและ Club house ด้านหน้าโครงการติด จะเห็นได้ว่าโดยรอบโครงการ The Passage รามอินทรา-คู้บอน ทั้งด้านซ้ายขวาและหลังเนี่ยก็จะเป็นโครงการแนวราบโครงการอื่นๆประกบอยู่ เพราะโซนนี้เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านจัดสรรหลายแห่ง ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการเก่าขายหมดแล้วหรือเหลือยูนิตไม่มากนัก ส่วนของ The Passage รามอินทรา-คู้บอนเอง เพิ่งก่อสร้างและเริ่มเปิดขายไปเมื่อ 3 ปีที่แล้วนี้เองค่ะ ก็ถือว่าเป็นโครงการใหม่พอสมควรในย่านนี้ ส่วนโซนร้านอาหารจะอยู่รายล้อมเลย ฝั่งซ้ายขวาหรือฝั่งตรงข้าม มีอาคารพาณิชย์กระจายตัวกันอยู่หลายจุด ส่วนใหญ่จะเปิดเป็นร้านอาหารและร้านค้าปลีก มีบริษัทหรือโรงงานขนาดกลาง-เล็ก อยู่บ้างประปราย นอกจากนี้ถัดไปไม่ไกลก็จะมีที่ดินเปล่าเตรียมแปลงเรียบร้อยรอการพัฒนาอยู่ ส่วนอีกด้านหากไปขยับไปทางเลียบคลองสอง จะเห็นว่ามีทุ่งนาอยู่ด้วยค่ะ พื้นที่กว้างขวางยังไม่ถูกนำไปทำอะไร เลยจะยังคงความเป็นธรรมชาติให้เห็นอยู่ด้วย ใครขับรถผ่านก็คงสัมผัสได้ถึงความสดชื่นและให้ความรู้สึกเหมือนขับรถมาเที่ยวต่างจังหวัดเบาๆ ค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- Max Value ~ 400 ม.
- Big C คู้บอน ~ 3.5 กม.
- The Promenade ~ 4.4 กม.
- Fashion Island ~ 4.6 กม.
- Big C หทัยราษฎร์ ~ 6.1 กม.
- Central Plaza รามอินทรา ~ 12.4 กม.
- ตลาดสี่แยกพระพรหมคลองสอง ~ 2 กม.
- ตลาดสายเนตร กม.8 ~ 3.9 กม.
- ตลาดน้ำพระยาสุเรนทร์ ~ 4.3 กม.
- ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา ช~ 6.8 กม.
- Safari World ~ 4.1 กม.
- สวนสยาม ~7.5 กม.
- รพ.พญาไท นวมินทร์ ~ 5.4กม.
- รพ.นพรัตน์ราชธานี ~ 6.1 กม.
- รพ.สินแพทย์ ~ 6.5 กม.
- รพ.นวมินทร์ ~ 10.1 กม.
- รพ.นวมินทร์ ~ 11.7 กม.
- รร.วัดคู้บอน ~ 1.6 กม.
- รร.กลางคลองสอง ~ 1.9 กม.
- รร.ประชาราษฎร์อุปถัมภ์วิทยา ~ 2 กม.
- รร.วัดพระยาสุเรนทร์ ~ 2.1 กม.
- วิทยาลัยเทคโนโลยีดุสิต ~ 2.3 กม.
- รร.จินดาบำรุง ~ 2.5 กม.
- รร.นวมินทราชูทิศ เบญจมราชาลัย ~ 8.9 กม.
- รร.สารสาสน์สายไหม ~ 12.4 กม.
- วัดคู้บอน ~ 1.7 กม.
- วัดพระยาสุเรนทร์ ~ 4.4 กม.
- สถานีตำรวจนครบาลคันนายาว ~ 1.9 กม.
รายละเอียดโครงการ
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
ที่ดินโครงการ The Passage รามอินทรา – คู้บอน จะยาวออกไปทางด้านหลังค่ะ ทางเข้าของโครงการจะเริ่มต้นจากปากซอยคู้บอน 38 ติดถนนใหญ่เลย ถัดเข้ามาจะเป็นป้อม รปภ. และถนนหลัก กว้าง 12 เมตรยาวไปจนสุดโครงการเลยค่ะ รวมระยะทาง 700-800 เมตรส่วนระยะทางจากป้อมรปภ. จนถึงบริเวณ Club House จะอยู่ที่ประมาณ 300 เมตร ซึ่งโครงการเค้าจัดพื้นที่ส่วนกลางให้บริเวณโซนด้านหน้าเลยค่ะ สำหรับใครที่บ้านอยู่ฝั่งด้านหลัง อาจจะต้องเดินไกลหน่อยนะคะ แต่สามารถขับรถยนต์หรือปั่นจักรยานมาจุดนี้เพื่อใช้บริการได้ค่ะ สำหรับข้อดีของการมี Club House อยู่ด้านหน้าก็คือทำให้เวลาใช้พื้นที่ส่วนกลางของลูกบ้านจะไม่ไปรบกวนพื้นที่บ้านพักอาศัยของคนอื่นที่อยู่ใกล้เคียงค่ะ เพราะมีการแบ่งโซนกันอย่างชัดเจนและเป็นสัดส่วน
หลังจาก Club House เข้าไปก็จะเริ่มเป็นพื้นที่ที่อยู่อาศัย ซึ่งวางตัวบ้านในแนวเหนือใต้ทำให้บ้านไม่ร้อน ถนนเส้นรองหน้าบ้านในแต่ละซอยกว้าง 9 เมตร (รวมทั้งสิ้น 12 ซอย) บ้านโซนฝั่งหน้าจะเป็นเฟส 1 ส่วนเฟส 2 จะอยู่ด้านหลัง โดยมีสะพานเล็กๆข้ามคลองสาธารณะ เป็นจุดเชื่อมของทั้ง 2 เฟสค่ะ บ้านในโครงการส่วนใหญ่เป็นทาวน์โฮม มีบางยูนิตเป็นบ้านแฝด และบ้านเดี่ยว รวมจำนวนทั้งสิ้น 385 ยูนิต
ส่วนแรกของโครงการเมื่อเข้ามาถึงก็คือสำนักงานขายค่ะ โดยจะตั้งอยู่ริมถนนคู้บอนเลย มีพื้นที่จอดรถให้กับผู้เยี่ยมชมโครงการ บริเวณด้านหน้า
มุมอีกด้านของสำนักงานขาย เป็นอาคารเดี่ยว เพดานสูง ส่วนด้านข้างจะเป็นถนนเข้าโครงการค่ะ
ก่อนเข้าโครงการจะเป็นซุ้มประตูขนาดใหญ่ มีป้อมรปภ. อยู่ตรงกลาง คอยดูแลความปลอดภัยรถที่เข้าออกโครงการค่ะ
มีพี่รปภ. อยู่ประจำจุด Main gate ตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ
ระบบเข้าออกของรถจะเป็นแบบ Easy Pass โดยมีรั้วไม้กั้นกระดกกั้นเวลาเข้าออกโครงการค่ะ
เมื่อเข้าสู่ถนนในโครงการ ถนนหลักกว้างถึง 9 เมตร แบ่ง 2 เลน รถสวนกันได้อย่างสบายๆ ระยะทางจากหน้า Main Gate ไปจนสุดถนน บริเวณหน้า Club House อยู่ที่ประมาณ 300 เมตรค่ะ
Club House จะตั้งอยู่มุมด้านหน้าก่อนเข้าโซนบ้านพักอาศัย ที่นี่ก็จะรวมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆไว้ครบเลยค่ะ รวมถึงสำนักงานของนิติบุคคลด้วย โดยจะเป็นอาคารยกสูง ด้านในมีสระว่ายน้ำและห้องฟิตเนส
ก่อนเข้าไปใช้บริการต้องเซ็นชื่อและระบุบ้านเลขที่ก่อนใช้งานนะคะ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ Recheck ลูกบ้านได้อย่างถูกต้องค่ะ
สระว่ายน้ำจะอยู่บริเวณด้านข้างค่ะ ที่นี่เค้าเป็นแบบระบบเกลือ ขนาด 15.8 x 9.8 เมตร
แบ่งสระเด็ก 6.4 x 3.4 เมตร พื้นที่สระโดยรวมกว้างขวางมากอยู่พอสมควรค่ะ
ถัดจากสระว่ายน้ำเข้าไปจะเป็นห้องฟิตเนส
ขนาดห้องฟิตเนสอาจะไม่ได้กว้างมากนะคะ แต่ก็มีพื้นที่พอวางเครื่องออกกำลังกายได้หลายเครื่องอยู่ค่ะ
แบ่งโซนเครื่อง Machine และ Free weight ไว้ค่ะ พร้อมติดกระจกบานใหญ่ให้พร้อม
สำหรับใครที่ชอบ Cardio ที่นี่ก็มีลู่วิ่งและเครื่องปั่นจักรยานวางไว้ให้ด้วยค่ะ โดยจะหันหน้าออกไปทางสระว่ายน้ำ มองเห็นบรรยากาศสบายๆ
ขยับมาโซนออกมาข้างสระว่ายน้ำกันบ้างค่ะ ทางโครงการวางเก้าอี้ยาวแบบนี้ไว้ให้หลายจุดเลย เอาไว้สำหรับนั่งพักผ่อนหรือวางกระเป๋าเวลามาว่ายน้ำ
ด้านข้างฟิตเนสจะเป็นห้องอาบน้ำและห้องน้ำแยกชายหญิงค่ะ
ภายในห้องน้ำก็จะแบ่งเป็นห้องสุขา 2 ห้อง และห้องอาบน้ำ 1 ห้อง มีช่องระบายอากาศด้วยเพื่อไม่ให้ห้องน้ำอับจนเกินไป
มีอ่างล้างมือและติดตั้งกระจกแนวยาวให้ด้วยค่ะ
อีกมุมหนึ่งของสระว่ายน้ำ บริเวณสวนในโซน Club House มีป้ายโครงการติดตั้งไว้ด้วย ส่วนตัวมองว่าสวยดีค่ะ เลยเก็บภาพมาฝากกัน
สวนหย่อมใน Club House ค่ะ พื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง มีการวางทางคอนกรีตไว้ให้ด้วยสำหรับเดินเล่นหรือวิ่ง Jogging เบาๆ
ทางคอนกรีตจะยาวไปทางด้านหลังเลยค่ะ ซึ่งยังคงเป็นพื้นที่สวนอยู่
นอกจากนี้ยังมีสนามบาสเกตบอลด้วย ให้ลูกบ้านได้มาเล่นหรือออกกำลังกายกันค่ะ
ถัดจากโซน Club House เข้าไปจะเริ่มเป็นพื้นที่พักอาศัยค่ะ ซอยเลขคี่จะอยู่ทางฝั่งซ้าย ส่วนเลขคู่จะอยู่ทางฝั่งขวา (หันหน้าเข้าไปในโครงการ) โดยถนนเส้นรองหน้าบ้านแต่ละซอย จะกว้าง 9 เมตร เผื่อพื้นที่ให้จอดรถหน้าบ้านได้ค่ะ แต่เวลารถสวนกันเข้าออกซอยอาจจะต้องระมัดระวังหน่อยนะคะ
อย่างที่บอกนะคะว่าโครงการ The Passage รามอินทรา-คู้บอน จะมีบ้านอยู่ทั้งหมด 2 เฟสด้วยกันค่ะ โซนหน้าจะเป็นบ้านในเฟสที่ 1 และโซนหลังจะเป็นบ้านในเฟสที่ 2 โดยจะมีคลองสาธารณะประโยชน์กั้นอยู่ โครงการได้สร้างสะพานข้ามคลองเชื่อมระหว่างทั้ง 2 เฟสค่ะ
สะพานข้ามคลองสาธารณะ The passage Bridge เชื่อมต่อโครงการในเฟส 1 และ 2
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Club House
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ แบ่งเป็นสระผู้ใหญ่ขนาด 15.8 x 9.8 เมตร และสระเด็กขนาด 6.4 x 3.4 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย
- สวนหย่อม
- สนามบาสเกตบอล
แบบบ้าน
สำหรับบ้านที่มีจำนวนมากที่สุดในโครงการคือบ้านประเภททาวน์โฮมค่ะ โดยมีจำนวนถึง 280 ยูนิต เราจึงจะขอพูดถึงบ้านตัวอย่างประเภททาวน์โฮมเป็นหลักนะคะ โครงการ The Passage รามอินทรา-คู้บอน มีทาวน์โฮมแบ่งเป็น 2 แบบด้วยกันค่ะ ได้แก่ Type B หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดิน 21.3 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 100 ตาราางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ และ Type A หน้ากว้าง 6 เมตร ที่ดิน 22.5 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 105 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถค่ะ
เรามาเริ่มดูแปลนจากภาพข้างบนกันเลยค่ะ แปลนนี้จะเป็นทาวน์โฮมหน้ากว้าง 5.5 เมตรนะคะ ส่วนแปลนของบ้านหน้ากว้าง 6 เมตรจะคล้ายกันเลยค่ะ แตกต่างกันแค่ขนาดห้องน้ำและผนังห้องนั่งเล่นที่จะขยับออกมาเล็กน้อย ซึ่งจะเห็นได้ว่าทาวน์โฮมที่นี่จะมีพื้นที่จอดรถได้ถึง 2 คัน เหมาะสำหรับจอดรถเก๋งแบบซีดาน หากเป็นหน้ากว้าง 6 เมตรก็จะมีพื้นที่ด้านข้างเหลือเยอะขึ้น ไม่แออัดจนเกินไปค่ะ ถัดเข้าไปด้านในบ้านจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นหรือรับแขกก่อนเป็นอันดับแรก สามารถจัดวางโซฟาและโต๊ะขนาดเล็กไว้ได้ทางฝั่งทางเข้าได้เลยค่ะ ส่วนผนังตรงข้ามกับโซฟาสามารถติดตั้ง Built-in วางของและโทรทัศน์ได้ค่ะ แต่จากแปลนเนี่ยจะเห็นว่าโซฟาจะอยู่เยื้องๆกับผนัง หากวางติด Built-in อาจจะต้องขยับโซฟาเข้ามาด้านในอีกนิดค่ะ เพื่อให้ดูโทรทัศน์ในตำแหน่งที่เหมาะสม ด้านข้างจะเป็นบันไดขึ้นไปสู่ชั้นสอง และมีห้องน้ำแยกอยู่บริเวณใต้บันไดค่ะ พื้นที่นั่งเล่นจะมี Space ที่เชื่อมต่อไปยังส่วนรับประทานอาหารและส่วนครัวด้านในได้ ซึ่งสามารถต่อเติม Top ครัวเป็นแนวยาวขนานไปกับผนังหรือทำเป็นทรงตัว L ก็ได้ แต่เหมาะสำหรับทำอาหารเบาๆนะคะ หากต้องการทำครัวหนักอาจจะต้องไปพื้นที่ด้านหลังแทน นอกจากนี้ด้านล่างจะมีห้องอเนกประสงค์ให้อีกหนึ่งห้องค่ะ สามารถปรับเป็นห้องนอนหรือห้องทำงานได้ตามความต้องการ
ไปดูชั้น 2 กันต่อค่ะ ด้านบนจะประกอบด้วย 3 ห้องนอน ได้แก่ Master Bedroom 1 ห้อง โดยจะอยู่ตำแหน่งฝั่งด้านหน้าบ้าน พื้นที่ห้องจะวางตัวไปตามหน้ากว้าง เราสามารถจัดวางเตียงขนาด King Size หรือ Queen Size ได้โดยยังมีพื้นที่เหลือ ทั้งนี้จะวางเตียงตามตำแหน่งเหมือนในแปลนก็ได้ แต่อาจจะไม่มีพื้นที่วางโทรทัศน์ค่ะ ดังนั้นขอแนะนำว่าให้ปรับหัวเตียงมาทางฝั่งหน้าบ้านแทน โดยผนังฝั่งปลายเตียงจะสามารถติด Built-in วางของและโทรทัศน์ได้อย่างพอดี ขยับไปด้านข้างของห้องนอนนี้กันต่อนะคะ จะเป็นตำแหน่งของห้องน้ำและพื้นที่แต่งตัวค่ะ สามารถติด Walk-in Closet ได้บริเวณมุมหน้าระเบียง ส่วนระเบียงมีพื้นที่เล็กน้อยพอไปยืนสูดอากาศนอกบ้านได้ค่ะ นอกจากนี้โซนด้านหลังจะเป็นห้องนอน 2 ห้องเล็ก ขนาดพื้นที่จะเล็กกว่า พอจัดวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตไว้ได้พร้อมตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงาน มีช่องแสงที่เป็นหน้าต่างให้ห้องละ 1 จุด ส่วนห้องน้ำจะใช้รวมกันด้านนอกค่ะ
ต่อไปเรามาดูบ้านตัวอย่างของจริงกันค่ะ โดยจะเป็นแบบหน้ากว้าง 6 เมตร สไตล์โมเดิร์นโทนสีครีมและเบจ ดูสดใส บ้านหลังนี้จะเป็นแปลงมุมนะคะ พอจะมีพื้นที่ข้างบ้านเล็กน้อย
บริเวณหน้าบ้านกว้าง 6 เมตร บ้านตัวอย่างเค้ามีการตกแต่งด้วยหญ้าเทียมสีเขียว จัดวางชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อนไว้ด้านหน้า และที่สำคัญมีการลงเสาเข็มเท่าตัวบ้านตั้งแต่ลานจอดรถยาวไปจนถึงลานซักล้างหลังบ้านเลยค่ะ
ภาพนี้จะเป็นหน้าบ้านจริงที่มีการติดตั้งรั้วไว้ให้แล้ว โดยจะเป็นรั้วเหล็กสีดำเปิดตรงกลาง พับ 3 ตอน ประมาณนี้ค่ะ
พื้นที่สำหรับจอดรถจริงค่ะ สามารถจอดได้ 2 คัน
สำหรับบ้านทุกหลังจะมีช่องเก็บขยะหน้าบ้าน ส่วนด้านในจะเชื่อมกับถังขยะแบบนี้ค่ะ
ประตูบ้านจะเป็นบานกระจกสไลด์ เลื่อนเปิดสองฝั่งจากตรงกลาง วัสดุเป็นกระจกบานเขียวตัดแสงป้องกันรังสี UV กรอบ UPVC สีขาว
โครงการขายแบบบ้านเปล่านะคะ มาดูด้านในกันค่ะ สำหรับพื้นที่ในบ้านชั้นล่าง เพดานจะสูง 2.7 เมตร ส่วนแรกที่เจอคือ Living Area เราสามารถจัดวางโซฟาและโต๊ะไว้ริมชิดติดผนังด้านหนึ่งได้ ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นผนังที่ทำหน้าที่เป็น Partition ยื่นออกมากั้นโซนห้องน้ำ และมีห้องเก็บของขนาดเล็กอยู่ใต้บันไดค่ะ
มาโฟกัสดูส่วนของพื้นบ้านกันค่ะ ที่นี่จะเป็นพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กหล่อในที่ ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตสีขาวขนาด 60*60 เซนติเมตร
ส่วนริมประตูพอมีพื้นที่เหลือให้วางชั้นวางของหรือตู้เก็บรองเท้าได้ค่ะ เวลาใช้งานจะได้หยิบจับสะดวก บ้านแปลงมุมจะได้ช่องแสงหน้าต่างเพิ่มค่ะ
ขยับเข้าไปโซนด้านในจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร บ้านตัวอย่างเค้าได้วางโต๊ะพร้อมเก้าอี้ไว้ สำหรับนั่ง 4 คน ส่วนห้องตรงข้ามจะเป็นห้องอเนกประสงค์
มุมที่มองออกจากด้านในบ้านค่ะ หากมีช่องแสงด้านข้างด้วยก็ยิ่งช่วยให้บ้านดูปลอดโปร่ง ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟในเวลากลางวัน
ส่วนภาพนี้จะแสดงให้เห็นโครงสร้างใต้หลังคา ซึ่งจะมีสายไฟต่างๆภายในบ้านถูกเก็บรวมใส่แนวท่อ PVC เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและป้องกันไฟรั่วได้ แต่เมื่อต้องซ่อมแซมสายไฟ อาจจะเสียเวลาถอดท่อออกมาและใส่กลับเข้าไปใหม่อีกครั้ง
มุมด้านข้างของโต๊ะรับประทานอาหาร ริมชิดผนังจะเป็นติด TOP ครัวไว้ให้เป็นไอเดียตัวอย่างค่ะ นอกจากนี้ยังมีช่องแสงเพิ่มด้วยสำหรับแปลงมุมเช่นบ้านตัวอย่างหลังนี้ ช่วยให้ในบ้านได้รับแสงธรรมชาติ
ในบ้านทำครัวเปิดได้ค่ะ โดยติดตั้ง TOP ครัวเล็กๆไว้ได้โดยกินพื้นที่ไม่มากนัก มีประตูเปิดไปหลังบ้านส่วนซักล้าง ผนังจุดนี้โครงการเค้าจะติดหน้าต่างไว้ให้ แต่หากมีการต่อครัวปิดไปข้างหลัง แสงจะไม่สามารถเข้ามาในบ้านได้ค่ะ
บ้านจริงจะมีการติดตั้งระบบท่อไว้ให้เสร็จสรรพ เผื่อทำครัวด้านใน ต่อกับอ่างล้างจานจะได้ไม่ต้องเสียเวลาทำเพิ่ม นอกจากนี้เรายังจะได้บัวเชิงผนังติดให้รอบบ้านเลยค่ะ วัสดุจะเป็นไม้คอนวูด ใช้ทดแทนไม้ที่ใช้นานวันไปอาจเกิดการคดงอได้
มาดูส่วนซักล้างด้านหลังกันบ้างค่ะ บ้านตัวอย่างเค้าจะมีการต่อเติมเป็นครัวไทย ขนาดพื้นที่จะอยู่ที่ 6*2 เมตร ระยะตามมาตรฐานเลย หากคนที่ต้องการห้องครัวขนาดใหญ่ วาง TOP ครัว ตู้เย็น ติด Built-in เก็บของได้เยอะๆ แบบนี้ สามารถดูเป็นไอเดียได้ค่ะ โดยเราไม่ต้องไปลงเสาเข็มเองเพิ่มให้เสียเงินหลักแสน เพราะทางโครงการเค้าลงมาให้เรียบร้อยแล้ว
มองจากมุมด้านข้างค่ะ ผนังทั้ง 2 ฝั่งระยะกว้าง 2 เมตร เมื่อลองจัดวางตู้ Built-in และเครื่องใช้ต่างๆแล้ว ก็พอเหลือพื้นที่ สามารถเดินสวนกันได้ค่ะ
ส่วนด้านนี้จะเป็นมุมฝั่งตรงข้ามค่ะ สามารถจัดวางเครื่องซักผ้า ทำเป็นมุมซักล้างโดยเฉพาะได้ หรือใครที่ไม่ชอบห้องทึบ อยากใช้ประโยชน์ช่องแสงจากหน้าต่างในมุมนี้ สามารถทำเป็นพื้นที่เปิดได้ค่ะ ห้องอเนกประสงค์ที่มีบานหน้าต่างด้านในก็จะได้รับแสงธรรมชาติเพิ่ม
นอกจากนี้ทางโครงการเค้าก็ยังมีการก่ออิฐฉาบปูนฉาบทำเป็นช่องชาร์ปไว้ให้เรียบร้อย เพื่อแบ่งเป็นช่องทางเดินทางท่อประเภทต่างๆ จากบนฝ้าเพดานลงมาเลยค่ะ
ทาวน์โฮมจะมีห้องอเนกประสงค์ข้างล่างให้ด้วยค่ะ โดยขนาดห้องจะอยู่ที่ประมาณ 2.5*3 เมตร เราสามารถจัดวางเตียงขนาดเตียง 3.5 ฟุตไว้ได้ เผื่อครอบครัวไหนมีผู้สูงอายุอยู่ด้วย สามารถใช้งานห้องนี้ได้ แถมยังอยู่ใกล้ห้องน้ำด้วยค่ะ เดินไปใช้งานได้อย่างสะดวก
นอกจากนี้ยังวางโต๊ะทำงานขนาดเล็ก พร้อมตู้เสื้อผ้าไว้ข้างๆ ได้อย่างพอดี ส่วนใครที่ไม่ต้องห้องนอน ก็สามารถปรับห้องนี้เป็นห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือหรือห้องเก็บของก็ได้ตามสะดวกค่ะ
ก่อนขึ้นข้างบน มาดูโซน Living Area กันต่อสักเล็กน้อยค่ะ เราสามารถติด Built-in วางของและโทรทัศน์ไว้ตรงผนังส่วนนี้ได้ แต่จากภาพแปลนรวมถึงในภาพจริงจากจุดที่ถ่ายมา ณ ตำแหน่งของโซฟา จะเห็นได้ว่ามันจะไม่ตรงกับผนังบริเวณที่วางโทรทัศน์นะคะ ดังนั้นเราอาจต้องขยับโซฟาเข้าไปด้านในอีกหน่อย เพื่อให้สามารถดูโทรทัศน์ได้อย่างสะดวกค่ะ
ส่วนใต้บันไดจะทำเป็นห้องน้ำ 1 ห้องค่ะ ซึ่งถือเป็นการใช้พื้นที่ได้คุ้มดี ส่วนพื้นที่ใต้ขั้นบันไดจะเป็นห้องเก็บของขนาดเล็ก สามารถเก็บพวกอุปกรณ์ทำความสะอาดหรือของที่ไม่ค่อยได้ใช้ไว้ที่มุมนี้ได้
ห้องน้ำออกแบบได้ตามรูปแบบมาตรฐานทั่วไป โดยห้องน้ำชั้นล่างนี้สามารถอาบน้ำได้ด้วยค่ะ ทางโครงการเค้าให้สุขภัณฑ์มาครบเลย แต่เนื่องจากเป็นมุมใต้บันไดทำให้ทำให้ไม่มีการติดช่องระบายอากาศมาให้ ซึ่งเราอาจต้องอาศัยการเปิดประตูเพื่อช่วยแก้ปัญหาความอับชื้นค่ะ
สุขภัณฑ์เป็นของแบรนด์ COTTO อ่างล้างมือเป็นนแบบลอยตัว มีติดกระจกบานใหญ่ให้ด้วย
ชักโครกก็เป็นของแบรนด์ COTTO เช่นกัน
ห้องน้ำในบ้านตัวอย่างจะมีการติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำให้ด้วย แต่บ้านจริงเราต้องติดตั้งเอง แต่ทั้งนี้โครงการเค้าได้ดีไซน์พื้นที่ให้เรียบร้อย เราสามารถติดตั้งฉากกั้นได้อย่างไม่ยากค่ะ
ที่อาบน้ำ จะมีที่วางของใช้ยื่นออกมาให้ด้วย สำหรับวางสบู่ แชมพูต่างๆ หยิบใช้งานได้สะดวก พื้นมีองศาลาดเอียงเล็กน้อยเพื่อให้น้ำระบายลงช่องด้านล่างได้ง่าย
ฝักบัวอาบน้ำได้หน้าตาประมาณนี้ค่ะ โครงการได้เดินระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย
มาดูส่วนของบันไดขึ้นไปชั้นสองกันค่ะ องศาไม่ลาดชันมาก มีราวจับให้พร้อม และยังได้ช่องแสงจากหน้าบ้านอีกด้วย เห็นขั้นบันไดชัดเจน ช่วยให้เวลาขึ้นลงมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านี้โครงการเค้าให้ Chandelier ด้วยทุกยูนิตค่ะ
ผนังบ้านทั้งหลังจะเป็นแบบก่ออิฐมอญแดงฉาบปูน แล้วทาสีขาวทับ พื้นผิวเนียนเรียบ ให้ความแข็งแรงมากกว่าแผ่น Precast เวลาที่เราต่อหรือเจาะผนังจะไม่ส่งกระทบต่อโครงสร้างของบ้าน
บันไดจะเป็นการเทคอนกรีตเสริมเหล็ก ฉาบปูน พื้นผิวปิดด้วยไม้ยางพารา ให้ความแข็งแรง ใช้งานได้อย่างนานพอสมควร และพื้นที่ข้างบันไดที่สามารถใช้เป็นที่วางของเล็กๆน้อยๆได้ แต่เราต้องไปติดอุปกรณ์กั้นสักหน่อยนะคะ เพราะของอาจตกลงไปเกิดอันตรายได้
ขึ้นไปชั้นสองจะเจอกับห้องนอน 3 ห้อง และห้องน้ำ 2 ห้อง ความสูงระหว่างพื้นและเพดานอยู่ที่ 3 เมตร ซึ่งช่วยให้บรรยากาศดูโปร่งโล่ง ไม่อึดอัดค่ะ
สำหรับห้องนอนแรกคือ Master Bedroom โดยจะวางอยู่ในแนวยาวขนานไปกับด้านหน้าของตัวบ้าน มีช่องแสงผ่านหน้าต่างบานใหญ่ติดตั้งให้พร้อม พื้นที่ห้องจะกว้างเพียงพอวางเตียงขนาด King Size ได้เลย ตามภาพบ้านตัวอย่างเตียงจะหันหัวไปทางทิศตะวันออกค่ะ
พื้นด้านบนจะเป็นพื้นไม้ลามิเนต หนา 8 มิลลิเมตร โดยจะปูแผ่นโฟมไว้ข้างใต้ด้วยเพื่อช่วยทำให้พื้นแน่น ไม่มีเสียงดังเวลาเดินค่ะ
เตียงขนาดใหญ่จัดวางไว้กลางห้องได้โดยยังมีพื้นที่ข้างเตียงและปลายเตียงเหลือให้เราวางโต๊ะขนาดเล็กหรือติดชั้นวางของได้ เดินผ่านไปมาได้สะดวก
ด้านนี้จะเป็นพื้นที่ส่วนปลายเตียง ซึ่งเหมาะสำหรับติดตั้งชั้นวางของและวางโทรทัศน์ นอนไปด้วยดูซีรี่ย์ไปด้วย เพลินดีนะคะ โดยระยะห่างจากตำแหน่งที่นอนถึงหน้าจอโทรทัศน์จะอยู่ที่ประมาณ 3 เมตร กำลังดีค่ะ
นอกจากนั้นยังมีห้องน้ำอยู่ภายในอีก 1 ห้อง ส่วนพื้นที่ที่เหลือจะไว้ใช้วางโต๊ะเครื่องแป้งสำหรับคุณผู้หญิง หรือติดตั้ง Walk-in Closet ได้ตรงบริเวณหน้าระเบียงก็ได้ ช่วยให้เป็นสัดส่วนและใช้งานพื้นที่ใช้ได้อย่างคุ้มค่า
ได้แสงจากระเบียงส่องเข้ามา ช่วยให้ในห้องสว่าง โปร่งสบาย ประหยัดไฟในตอนกลางวัน
ระเบียงห้องนอนจะอยู่ตรงมุม หันหน้าออกไปหน้าบ้านเลยค่ะ กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกบานเขียวตัดแสง แบบ 2 ตอน ส่วนพื้นที่ระเบียงอาจจะไม่กว้างมากนัก แต่ก็พอออกไปยืนชมวิวหรือวางเก้าเล็กๆไว้นั่งเล่นยามเช้าได้
ที่เสียบปลั๊กไฟติดผนัง แบรนด์ Panasonic ติดให้หลายจุดภายในห้องค่ะ
ห้องน้ำภายในห้องนอนใหญ่ ดีไซน์และสุขภัณฑ์เหมือนห้องชั้นล่างเลยค่ะ
ห้องนอนเล็กจะสามารถวางเตียงเดี่ยว 3.5 ฟุตไว้ได้ หากจัดฟังก์ชันห้องดีๆก็จะสามารถวางตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของหรือชั้นวางหนังสือ รวมถึงโต๊ะทำงานได้อย่างพอดี โดยยังเหลือพื้นที่ใช้งานตรงกลางได้ ไม่คับแคบจนเกินไปค่ะ มีช่องแสงให้ช่วยให้ห้องสว่าง
ห้องนอนเล็กนี้เหมาะสำหรับเด็กๆ หรือถ้าเป็นผู้ใหญ่อยากวางเตียงขนาดใหญ่ขึ้นก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยวางไปในแนวกว้าง ห้องนี้รองรับเตียงขนาด 5 ฟุตยังพอได้ค่ะ แต่ก็พื้นที่วางเฟอร์นิเจอร์อื่นๆก็จะเหลือน้อยลงค่ะ
ห้องนอนเล็ก ห้องที่ 2 ค่ะ รูปแบบคล้ายๆกับห้องก่อนหน้านี้ค่ะ ต่างกันที่ขนาดจะเล็กกว่าค่ะ
สามารถวางเตียง โต๊ะ เก้าอี้ และตู้เสื้อผ้าได้อย่างกะทัดรัด
ตรงกลางจะมีห้องน้ำ 1 ห้อง สำหรับใช้รวมกันค่ะ รูปแบบเหมือนห้องน้ำด้านล่างเช่นกัน
โครงการ The Passage รามอินทรา-คู้บอน ยังมีบ้านตัวอย่างอีกหลังที่แสดงให้เห็นถึงโครงสร้างส่วนต่างๆ โดยจะอธิบายผ่านตัววัสดุที่ใช้ และมีข้อความติดไว้ในแต่ละจุดของทาวน์โฮม เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมโครงการสามารถมองเห็นโครงสร้างของบ้านได้อย่างละเอียดยิ่งขึ้น
ถัดมาจะเป็นบ้านเดี่ยวค่ะ ซึ่งโครงการ The Passage รามอินทรา-คู้บอน มีเปิดขายบ้านเดี่ยวจำนวน 3 ยูนิต รูปแบบ 2 ชั้น ที่ดิน 51.9 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 158 ตารางเมตร จำนวน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ซึ่งที่ดินจะเป็นแปลงมุมค่ะ ทำให้มีพื้นที่โดยรอบบ้าน ซึ่งทางโครงการเค้าได้ปลูกหญ้าและต้นไม้ให้ความร่มรื่นให้ด้วย เห็นได้จากแปลนด้านบนว่าจะมีพื้นที่สีเขีียวอยู่รายล้อมเลยค่ะ สำหรับพื้นที่ภายในบ้านชั้นล่างจะเป็นส่วนของ Living Area เชื่อมต่อไปยังส่วนรับประทานอาหารทางด้านหลัง แต่โดยรวมจะมีพื้นที่กว้างกว่าทาวน์โฮม จุดเด่นของแปลนนี้ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือได้ช่องแสงเยอะหลายจุดค่ะ ทำให้ภายในบ้านสว่าง ปลอดโปร่ง นอกจากนี้โครงการยังได้ลงเสาเข็ม เตรียมพื้นที่ซักล้างไว้หลังบ้านสำหรับให้ต่อเติมครัวไทยโดยเฉพาะ บ้านเดี่ยวชั้นล่างจะได้ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้อง ห้องน้ำ 1 ห้อง และยังมีประตูที่สามารถเปิดออกไปยังพื้นที่จอดรถด้านหน้าได้ด้วยค่ะ
ส่วนพื้นที่ชั้น 2 เชื่อมขึ้นไปด้วยบันไดวนรูปตัว U ประกอบด้วย 3 ห้องนอน และ 2 ห้องน้ำค่ะ ห้องนอนใหญ่อยู่ฝั่งหน้าบ้าน มีห้องน้ำภายในตัว ส่วนห้องนอนเล็ก 2 ห้องอยู่ด้านหลัง มีห้องน้ำรวมด้านนอก 1 ห้อง ฟังก์ชันทุกอย่างเหมือนห้องน้ำด้านล่างเลยค่ะ ทั้งนี้ห้องนอนแต่ละห้องจะได้ช่องแสง โดยเฉพาะห้องนอนใหญ่จะได้หน้าต่างหลายบาน รับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ และมีระเบียงกว้างให้ด้วย กั้นด้วยกระจกเขียวอย่างดี แข็งแรงไม่แตกง่าย ความโดดเด่นของชั้น 2 คือวัสดุพื้นค่ะเป็นปาร์เก้ เคลือบเงา ซึ่ง Think of Living ได้เก็บภาพบ้านตัวอย่างมาฝากกัน ตามไปดูใน Gallery ได้เลยค่ะ
บริเวณหน้าบ้านเดี่ยวที่เปิดขาย โครงการ The Passage รามอินทรา-คู้บอนค่ะ เป็นบ้าน 2 ชั้นสไตล์โมเดิร์นมีพื้นที่สีเขียวรอบบ้าน และได้รั้วไฟฟ้าด้วยนะคะ
และบ้านรูปแบบสุดท้ายของโครงการคือบ้านแฝดค่ะ ซึ่งมีจำนวนเพียง 2 ยูนิต รูปแบบ 2 ชั้น ที่ดิน 41.3 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 126 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ โดยบ้านแฝดทั้ง 2 หลังจะเชื่อมกันด้วยคานที่อยู่ด้านบน หากดูจากภาพจะเห็นได้ว่าแปลนเหมือนกับทาวน์โฮมเลยค่ะ แต่แตกต่างกันที่หน้ากว้างจะมีขนาดกว้างกว่า และมี Living Area ขยายออกมามากขึ้น ห้องอเนกประสงค์ด้านล่างจะมีพื้นที่ขยายตามไปด้วยเช่นกัน และเนื่องจากบ้านแฝดมีพื้นที่รอบบ้านด้วย จึงสามารถติดตั้งประตูกระจกบานเลื่อนด้านข้าง สำหรับเปิดออกไปไปด้านนอกเจอกับสวนสีเขียวได้ ส่วนพื้นที่ซักล้างที่ทางโครงการมีให้บ้านแฝด ความยาวจะประมาณครึ่งหนึ่งของตัวบ้าน โดยแตกต่างจากทาวน์โฮมซึ่งจะมีพื้นที่ซักล้างยาวเท่าขนาดหน้ากว้างค่ะ ส่วนแปลนบ้านชั้นบน เหมือนกับบ้านรูปแบบทาวน์โฮมแต่จะต่างกับที่วัสดุเล็กน้อยค่ะ
บ้านแฝด เชื่อมกัน 2 หลังด้วยคานที่อยู่บริเวณด้านบน
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคา
@13 February 2020
- ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดิน 21.3 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 100 ตารางเมตร
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
– ราคาแปลงมาตรฐาน 3.29 ล้านบาท - ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 6 เมตร ที่ดิน 22.5 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 105 ตารางเมตร
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
– ราคาแปลงมาตรฐาน 3.79 ล้านบาท - บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดิน 41.3 ตารางวาพื้นที่ใช้สอย 126 ตารางเมตร
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
– ราคาแปลงมาตรฐาน 6.29 ล้านบาท - บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 51.9 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 158 ตารางเมตร
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
– ราคาแปลงมาตรฐาน 7.59 ล้านบาท - จองและทำสัญญา N/A
- ดาวน์ N/A ผ่อนดาวน์ N/A งวด
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 75,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 900 บาท/เดือน (จ่ายล่วงหน้า 3 ปี)
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : ทำเลโครงการ The Passage รามอินทรา-คู้บอน ตั้งอยู่บนถนนคู้บอนซอย 38 บรรยากาศในโซนนี้ค่อนข้างเงียบสงบ โดยเป็นแหล่งชุมชนดั้งเดิมและมีหมู่บ้านจัดสรรอยู่เยอะ ซึ่งที่ตั้งของโครงการอยู่ในซอยคู้บอนเลขคู่ สามารถเดินทางเข้าสู่ถนนรามอินทราได้อย่างสะดวก โดยรอบโครงการมีร้านค้า ร้านอาหารอยู่หลายร้าน ตรงข้ามโครงการจะเป็นที่ตั้งของร้านสะดวกซื้อ 7-eleven ส่วนห่างออกไป 400 เมตรจะมี Max Value ตั้งอยู่ สำหรับใครที่อยากได้อาหารสดหรืออาหารพร้อมรับประทานสามารถเดินทางไปยังตลาดสายเนตร กม. 8 ซึ่งอยู่บริเวณถนนคู้บอนช่วงต้น บริเวณช่วงนั้นจะมีร้านค้าอยู่ค่อนข้างเยอะค่ะ ส่วนศูนย์การค้าขนาดใหญ่ใกล้กับโครงการคือ The Promenade และ Fashion Island ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 4 กิโลเมตร ส่วนใครที่อยากเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองก็สามารถใช้ทางด่วน รามอินทรา-อาจณรงค์ได้ แต่ถ้าจะออกไปโซนนอกเมืองสามารถใช้ทางด่วนวงแหวนรอบนอก-กาญจนาภิเษกได้
การใช้รถยนต์ส่วนตัวจะเป็นวิธีการที่สะดวกที่สุดในการสัญจรในย่านนี้ค่ะ เนื่องจากไม่มีรถเมล์ผ่านหน้าโครงการ หากต้องการโดยสารรถเมล์อาจจะต้องไปขึ้นที่ป้ายรถเมล์บริเวณถนนรามอินทราหรือถนนนวมินทร์ซึ่งจุดนั้นจะมีรถผ่านหลายสาย หากพูดถึงป้ายรถเมล์ที่คนในย่านนี้มักไปขึ้นจะอยู่ที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลสินแพทย์ค่ะ ส่วนรถสาธารณะที่มีผ่านหน้าโครงการ ได้แก่ แท็กซี่ มอเตอร์ไซต์รับจ้างและรถสองแถว
ในภาพรวมแล้วการอยู่อาศัย ในทำเลนี้มีความอุดมสมบูรณ์ ท่ามกลางบรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติและเงียบสงบ มีพื้นที่ดินเหลือสำหรับการพัฒนาโครงการใหม่ๆได้อีกเยอะ คาดว่าคู้บอนจะได้รับการพัฒนามากขึ้นอีกในอนาคตตามการเข้ามาของเมกะโปรเจ็กต์ต่างๆ ก่อเกิดความต้องการที่อยู่อาศัยไปพร้อมๆกับการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่หลากหลายยิ่งกว่าเดิม สอดคล้องไปกับความต้องการของกลุ่ม Demand ที่เริ่มขยายตัวออกนอกเมืองมากขึ้น
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่เป็นไปตามมาตรฐานค่ะ เริ่มจากก่อนเข้าโครงการจะต้องผ่าน Main Gate ซึ่งจะมีป้อมรปภ.อยู่ตรงกลางคอยดูแลรถเข้าออก หากเป็น visitors จะต้องแลกบัตรเข้าก่อนค่ะ ส่วนลูกบ้านสามารถเข้าออกโครงการโดยใช้ระบบ Easy Pass สะดวกสบายและรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่คอยรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และมีกล้อง CCTV ติดตั้งทั่วทั้งโครงการดูแล ความเรียบร้อยค่ะ
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย : โครงการ The Passage รามอินทรา-คู้บอน มีแบบบ้านทั้งทาวน์โฮม บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ซึ่งผู้ซื้อสามารถเลือกได้ตามความต้องการ แต่บ้านรูปแบบทาวน์โฮมจะมีจำนวนยูนิตมากที่สุด เปิดขายเป็น Type หลักของโครงการเลยค่ะ การวางผังโครงการ ตัวบ้านจะถูกวางไปในแนวเหนือใต้ทำให้ไม่ร้อน และได้รับทิศทางลมที่เหมาะสม ทั้งนี้ได้มีการแยกโซนที่พักอาศัยและโซนพื้นที่ส่วนกลางออกจากกัน Club House จะตั้งอยู่ด้านหน้าซึ่งนับว่าเป็นข้อดีนะคะ เพราะจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านค่ะ สำหรับถนนหลักของโครงการกว้าง 12 เมตร ถนนรองแยกออกไปตามซอยต่างๆกว้าง 9 เมตร
มาถึงการออกแบบของบ้าน ทาวน์โฮมโครงการนี้เน้นรูปแบบทันสมัย สไตล์โมเดิร์น หน้ากว้างอยู่ที่ 5.5 เมตรและ 6 เมตร ขนาดที่ดินเริ่มต้น 21.30 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 100-105 ตารางเมตร จำนวน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิก 3-4 คนด้านหน้าบ้านมีพื้นที่จอดรถให้ถึง 2 คัน ใครที่ใช้พื้นที่จอดรถแค่คันเดียวก็สามารถปรับพื้นที่บริเวณด้านหน้าทำเป็นมุมนั่งเล่นเล็กๆหรือวางของได้ค่ะ สามารถอยู่อาศัยได้อย่างไม่แออัด การดีไซน์ภายในบ้านถือว่าทำออกมาได้อย่างลงตัวค่ะ จัดสรร Living Area และโซนรับประทานอาหารพร้อมครัวได้ ส่วนห้องครัวปิดด้านหลังอาจจะต้องต่อเติมเองสำหรับคนที่ต้องการพื้นที่ในการทำอาหารหนักๆ นอกจากนี้ยังมีห้องอเนกประสงค์ให้ชั้นล่าง เหมาะสำหรับครอบครัวที่อาจมีผู้สูงอายุหรือเด็กๆ สามารถนอนที่ห้องนี้ได้โดยไม่ต้องขึ้นบันได มีห้องน้ำอยู่ใกล้ๆด้วย สุขภัณฑ์เป็นของ Cotto มีการออกแบบ โซนแห้งและโซนเปียกรองรับการใช้งานได้อย่างเหมาะสม เรียกได้ว่าลงตัวสำหรับคนหลาย Generation อยู่รวมกันได้ ส่วนบริเวณชั้น 2 ของบ้านมีห้องนอน ถึง 3 ห้องด้วยกัน สามารถจัดสรรให้กับสมาชิกได้ใช้งานอย่างทั่วถึงค่ะ
วัสดุ : บ้านในโครงการ The Passage รามอินทรา-คู้บอน ที่เปิดขายจะเป็นบ้านเปล่านะคะซึ่งเรื่องของตัววัสดุที่นี่ถือว่าโอเคเลย ถือว่าทำออกมาได้ดีตามมาตรฐาน อย่างพื้นชั้นล่างจะ เป็นคอนกรีตหล่อในที่ ซึ่งจะได้ในเรื่องของความแข็งแรง ปูทับด้วยกระเบื้องแกรนิตขนาด 60 * 60 เซนติเมตร สีขาว ส่วนผนังก็จะเป็นการก่ออิฐมอญแดง ฉาบเรียบทาสีขาว ซึ่งจะมีความแข็งแรงมากกว่าการใช้แผ่น Precast มาประกอบ ส่วนพื้นด้านบนใช้วัสดุลามิเนต นอกจากนี้ส่วนประกอบอื่นๆของตัวบ้านก็ยังมีการดีไซน์โดยคำนึงถึงความเป็นระเบียบเรียบร้อยร่วมด้วย เช่น การเก็บสายไฟใส่ไว้ในท่อ PVC เพื่อไม่ให้สายไฟบนฝ้าเพดานกระจัดกระจาย รวมไปถึงการสร้างช่องชาร์ปเพื่อรวมท่อและสายไฟต่างๆ จากด้านบนลงข้างล่างได้อย่างเป็นระเบียบ ทำให้ง่ายเมื่อต้องซ่อมแซมวัสดุอุปกรณ์ในอนาคต
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : จุดเด่นของพื้นที่ส่วนกลางโครงการ The Passage รามอินทรา-คู้บอน ก็คือสวนสีเขียวข้าง Club House ค่ะโดยมีพื้นที่จัดสรรมากว้างพอสมควร โครงการได้ลาดปูนซีเมนต์ทำเป็นเส้นทางสำหรับวิ่ง Jogging และเดินเล่นให้ด้วย นอกจากนี้ก็มีสนามบาสอยู่ด้านใน สามารถมาเล่นออกกำลังกายได้
สาธารณูปโภค : สาธารณูปโภคภายในโครงการ The Passage รามอินทรา- คู้บอน ถือว่าให้มาครบครันค่ะ บนพื้นที่คลับเฮ้าส์กว้างขวาง เริ่มต้นจากสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 15.8 x 9.8 เมตร แยกสระเด็กและผู้ใหญ่ให้เรียบร้อย มีห้องฟิตเนสพร้อมเครื่องออกกำลังกายมาให้ครบ จำนวนอาจจะไม่เยอะมากแต่ก็ถือว่าเฉลี่ยใช้งานกันได้ โดยรวมแล้วพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ The Passage รามอินทรา- คู้บอน ออกแบบมาได้ครบและใช้งานได้จริงค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 3– 4 ล้านบาท, 13 February 2020
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 – เดินทางเข้าเมืองผ่านทางด่วนได้ง่าย โครงการตั้งอยู่บนถนนคู้บอน 38 มีความอุดมสมบูรณ์สูง บรรยากาศเงียบสงบ เชื่อมต่อเข้าถนนรามอินทราและเลียบคลองสองได้อย่างสะดวก แต่สภาพการจราจรในตอนเช้าจะค่อนข้างรถติด
- ความปลอดภัย 7.5/10 – ระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐาน มีรั้วกั้นไม้กระดก เข้าโครงการโดยระบบ Easy Pass และรปภ.หน้าหมู่บ้านดูแลความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – ออกแบบบ้านได้อย่างเป็นสัดส่วน มีห้องอเนกประสงค์ให้ข้างล่าง และลงเสาเข็มให้ถึงหลังบ้าน เตรียมพื้นที่ซักล้างให้เรียบร้อย
- วัสดุ 7.75/10 – วัสดุตามมาตรฐาน สมราคา แต่ที่ได้เพิ่มมา แตกต่างจากโครงการใกล้เคียงคือวัสดุผนังจะก่ออิฐมอญแดง ฉาบปูน แข็งแรงกว่าแผ่น Precast
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.75/10 – ได้สวนสีเขียวกว้างขวาง บริเวณ Club House พร้อมทางเดินคอนกรีตให้เดินเล่นได้ พร้อมสนามบาสในพื้นที่สวน
- สาธารณูปโภค 8/10 – มี Club House สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน น่าใช้งาน จัดออกมาได้โอเค
- 7.78 / 10.00
BOTTOM LINE
The Passage รามอินทรา-คู้บอน เป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีครบทั้งทาวน์โฮม บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ตั้งอยู่ในทำเลคู้บอนซึ่งเป็นถนนที่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองผ่านถนนรามอินทราและสามารถขึ้นทางด่วนได้ง่ายอีกด้วย เหมาะกับคนที่มีรถยนต์ส่วนตัวไว้ใช้เดินทาง เนื่องจากทำเลจะอยู่ไกลเมืองออกมาเสียหน่อย นอกจากนี้ก็ยังเหมาะสำหรับคนที่ต้องการบ้านแนวราบไว้ขยายครอบครัวขนาดกลาง มีสมาชิกในบ้าน 3-4 คน ชื่นชอบบรรยากาศการอยู่อาศัยที่สงบและไม่แออัด งบประมาณซื้อบ้านอยู่ที่ 3-4 ล้านบาท สำหรับรูปแบบทาวน์โฮมค่ะ
ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving