THE BASE BUKIT PHUKET (เดอะ เบส บูกิต ภูเก็ต) คอนโด Low Rise ติดถนนใหญ่ ใกล้เซ็นทรัล ภูเก็ต เพียง 550 เมตร จาก Sansiri [รีวิวฉบับที่ 2627]

THE BASE BUKIT PHUKET (เดอะ เบส บูกิต ภูเก็ต) ณ วันที่ 26 ตุลาคม 2566

พิกัด Google Maps : 7.896612 , 98.363611
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากโครงการ แสดงตำแหน่งที่ตั้ง THE BASE BUKIT PHUKET (เดอะ เบส บูกิต ภูเก็ต) เป็นโครงการคอนโด Low Rise แห่งใหม่ตัวที่ 5 ภายใต้แบรนด์ THE BASE จาก Sansiri โดยทำเลตั้งอยู่ใจกลางเมืองภูเก็ต ติดถนนใหญ่คือถนนวิชิตสงคราม ซึ่งเป็นถนนหลักที่ใช้วิ่งเชื่อมต่อเข้า – ออกโซนต่างๆของภูเก็ตได้สะดวก จะไปแหล่งท่องเที่ยวโซนเมืองเก่าก็ง่าย หรือขับไปหาดต่างๆก็ไม่ไกลเลย โดยจุดเด่นของโครงการนี้อยู่ที่ที่ตั้ง ซึ่งนอกจากจะอยู่ติดถนนใหญ่แตกต่างกับโครงการคอนโดอื่นๆที่ขยับเข้าไปอยู่ในซอยแล้ว ยังอยู่ใกล้ Central ภูเก็ต เพียง 550 เมตรเท่านั้น

ความอุดมสมบูรณ์รอบโครงการจัดว่าคึกคักมากสมกับเป็นทำเลที่อยู่ใจกลางเมือง ในระยะ 1 กิโลเมตรมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และห้างขนาดใหญ่ ใกล้ที่สุดจะมี Big C ภูเก็ต , Makro , Index Living Mall ที่สามารถเดินไปซื้อของกิน ของใช้ได้แบบสบายๆ และจากโครงการยังมีรถ Shuttle Service วิ่งรับ – ส่งไปที่ห้าง Central ภูเก็ตอีกด้วย

ห้าง Central ภูเก็ต แบ่งเป็น 2 เฟส คือโซนเฟสเก่า Central Phuket Festival และเฟสใหม่ Central Phuket Floresta โดยจะมีสะพานใช้เดินเชื่อมกันได้ตรงกลาง เป็นห้างขนาดใหญ่ที่รวมสิ่งอำนวยความสะดวกไว้ให้ครบครัน

ก่อนไปชมโครงการ วันนี้เราจะพาไปดู Sale Gallery กันก่อน โดยที่ตั้งจะอยู่ห่างกันประมาณ 3.1 กิโลเมตร ซึ่งจะอยู่ติดถนนใหญ่ทั้งคู่ ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 10 นาทีเลย

Sale Gallery โครงการอยู่ติดถนนพระภูเก็ตแก้ว ขับเชื่อมต่อเข้าถนนวิชิตสงครามได้เลย โดยสำนักงานขายนี้จะใช้ร่วมกับโครงการ dcondo reef มีป้ายด้านหน้าให้เห็นชัดเจน ตัวอาคารเป็นอาคารชั้นเดียว มีป้อมรปภ. อยู่ด้านหน้า คอยช่วยอำนวยความสะดวก หากขับรถมาก็มีที่จอดรถด้านในไว้รองรับด้วยนะคะ

บรรยากาศ Sale Gallery ดูโปร่งโล่งด้วยผนังกระจก 2 ด้าน การตกแต่งใช้ Mood&Tone เดียวกันกับ Lobby ของโครงการ โดยห้องตัวอย่างมีให้ชม 2 ห้อง เป็น Type 1 Bedroom ขนาด 26.25 – 27.00 ตร.ม. และขนาด 29.50 – 30.00 ตร.ม. ซึ่งจะมีกำหนดการเปิดให้ชมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในวันที่ 20 – 22 กันยายน และเปิด Presale 3 – 5 พฤศจิกายนนี้ค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ THE BASE BUKIT PHUKET (เดอะ เบส บูกิต ภูเก็ต) ส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะเป็นที่ดินเปล่า อาคารแนวราบ และอาคารพาณิชย์สูง 3 – 4 ชั้น จัดว่าได้วิวแบบเปิดโล่ง รอบๆไม่มีโครงการคอนโดประเภทเดียวกัน เพราะส่วนใหญ่จะอยู่ในซอยหลัง Central ทำให้โครงการนี้ได้จุดเด่นในเรื่องวิว และทำเลที่อยู่ติดถนนใหญ่ เดินทางเข้า – ออกง่าย ไม่พลุกพล่าน แต่ด้วยศักยภาพของพื้นที่ ทำให้ในอนาคตอาจมีโครงการใหม่เกิดขึ้นในบริเวณข้างเคียงได้นะคะ

• ทิศเหนือ ติดกับ ที่ดินเปล่า และอาคารแนวราบ
• ทิศใต้ ติดกับ ที่ดินเปล่า
• ทิศตะวันออก ติดกับ อาคารแนวราบ และอาคารพาณิชย์สูง 3 – 4 ชั้น
• ทิศตะวันตก ติดกับถนนวิชิตสงคราม (ทางเข้า – ออกของโครงการ)

ภาพมุมสูงจากโครงการเห็นบรรยากาศโดยรอบที่ตั้ง THE BASE BUKIT PHUKET (เดอะ เบส บูกิต ภูเก็ต) สามารถมองเห็นอาคารโดยรอบ สิ่งอำนวยความสะดวก และวิวมุมสูงใจกลางเมือง สำหรับโครงการคอนโดในย่านนี้ จัดว่าเป็นตลาดที่มีความคึกคัก ด้วยราคาที่หยิบจับง่ายเพียงล้านต้นๆ ถึงจะไม่ได้อยู่ติดแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ได้วิวทะเล แต่ก็แลกกับการเดินทางที่สะดวกสบาย ใกล้แหล่งของกิน ของใช้ และได้บรรยากาศท้องถิ่นของเมืองเก่า

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• Central ภูเก็ต ~ 550 เมตร
• Villa Market Bukis Phuket ~ 750 เมตร
• Big C ภูเก็ต ~ 800 เมตร
• Makro ภูเก็ต ~ 800 เมตร
• Index Living Mall ภูเก็ต ~ 1.9 กิโลเมตร
• Lotus ภูเก็ต ~ 2.1 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลกรุงเทพสิริโรจน์ ~ 1.1 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ~ 3.2 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ~ 3.6 กิโลเมตร

โรงเรียน

• โรงเรียนดาราสมุทรภูเก็ต ~ 1 กิโลเมตร
• โรงเรียนนานาชาติเฮดสตาร์ท ~ 1.8 กิโลเมตร
• มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ~ 3.3 กิโลเมตร

สถานที่ท่องเที่ยว

• Phuket Old Town ~ 2.5 กิโลเมตร
• หาดป่าตอง ~ 9.6 กิโลเมตร

THE BASE BUKIT PHUKET (เดอะ เบส บูกิต ภูเก็ต) เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร มีจำนวน 609 ยูนิต แบ่งเป็นอาคาร A จำนวน 205 ยูนิต อาคาร B 183 ยูนิต และอาคาร C 221 ยูนิต โดยการออกแบบได้แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรม Chino Portuguese ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่นของชาวเปอรานากัน (ภาษามลายู แปลว่า “ผู้ที่เกิดในท้องถิ่น” เป็นคำเรียกลูกหลานที่เกิดจากชาวจีนและชาวมลายูที่มาตั้งถิ่งฐานอยู่ในพื้นที่แถบนี้) และคำว่า Bukit (บูกิ๊ต) ก็เป็นคำที่เพี้ยนมาจนกลายเป็นคำว่า “ภูเก็ต” ซึ่งก็เป็นภาษามลายูที่แปลว่า “ภูเขา” เข้ากับบริบทพื้นที่ ที่รายล้อมไปด้วยแนวสันเขา ได้บรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติ

รูปแบบอาคารดึงเอาประตูทรงโค้ง (หง่อคากี่) ซึ่งพบเจอได้ทั่วไปในเมืองเก่าภูเก็ต มาผสมผสานกับคู่สีหลักอย่างสีเขียวและแดง ที่ใช้ในงานเซรามิกและกระเบื้องสไตล์จีน รั้วโครงการยังตกแต่งด้วยลวดลายของผ้าปาเต๊ะ รวมออกมาเป็น Element ที่มีเอกลักษณ์ทั้งภายนอกและภายใน โดยบรรยากาศภายในโครงการจะเป็นยังไง ไปชมกันเลย

เริ่มกันที่ Master Plan ของโครงการ ทางเข้า – ออกจะอยู่ติดถนนใหญ่ คือถนนวิชิตสงคราม เมื่อเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ Drop off หน้าอาคาร A ส่วนไม้กั้นกระดกจะเป็นแบบอัตโนมัติ ใช้ระบบ Bluetooth ในการเข้า – ออก ซึ่งอยู่ถัดเข้าไปด้านในกั้นระหว่างถนนทางเข้าและที่จอดรถใต้อาคาร เพื่อความสะดวกของลูกบ้าน เวลาใช้บริการรถสาธารณะ ก็ไม่ต้องเสียเวลาแลกบัตร โดยที่จอดรถจะแบ่งเป็นส่วนใต้อาคาร A – B และที่จอดรถใต้ดินอาคาร B – C คิดเป็น 30% หรือ 184 คัน (ไม่รวมจอดซ้อน) โดยที่อาคาร A จะมี EV Charger ติดตั้งมาให้ด้วยค่ะ

Facilities หลักของโครงการจะอยู่ภายในอาคาร A – B ประกอบด้วย Main Lobby , Entertainment Room , Co-Working Space และพื้นที่ Outdoor อย่าง Swimming Pools , Chilling Garden , Sansiri Backyard , Sunbathe Area รวมเป็นพื้นที่กว่า 2 ไร่ ซึ่งจุดเด่นของโครงการนี้ อยู่ที่อาคารพักอาศัยทั้ง 3 อาคาร จะได้วิวโปร่งโล่ง ไม่มีสิ่งรบกวนสายตา การวางอาคารเป็นแนวยาวขนานไปกับที่ดิน โดยอาคาร A ด้านหน้าจะเป็นรูปทรงตัว L ช่วยเปิดมุมมองให้กับทางเข้า ส่วนห้องพักอาศัยจะแบ่งเป็นฝั่งทิศเหนือ – ใต้ จึงทำให้หน้าห้องไม่โดนแดดโดยตรง

แปลนชั้นใต้ดินอาคาร เป็นส่วนที่จอดรถ มีลิฟต์และบันไดขึ้น – ลงสะดวก รถสามารถขับสวนและเชื่อมต่อใต้อาคาร B – C ได้ โดยทางลาดขึ้น – ลงจะอยู่ที่อาคาร B ช่วยลดความพลุกพล่านด้านหน้าโครงการ

โมเดลจำลองแสดงภาพรวมของโครงการ ลักษณะอาคารเป็นรูปตัว L วางขนานไปกับแนวที่ดิน ประกอบด้วยอาคาร A B และ C จากด้านหน้าทางเข้าตามลำดับ โดย Faciliites ส่วนใหญ่จะอยู่ภายในอาคาร A เป็นอาคารที่เข้าถึงได้ง่าย เหมาะกับคนที่ชอบใช้ส่วนกลาง ถัดมาเป็นอาคาร B มีฟังก์ชันหลักเป็น Fitness และอาคาร C ที่อยู่ด้านในสุด จะเป็นอาคารที่เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว

ทางเข้า – ออกติดถนนหลัก มีป้อมรปภ.อยู่ด้านหน้า คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกบ้าน ไม้กั้นกระดกจะเป็นแบบอัตโนมัติอยู่ด้านใน โดยหน้าอาคาร A จะมี Drop off อยู่ใต้อาคารติดกับ  Main Lobby เวลาขึ้น – ลงรถก็ไม่ต้องโดนแดด โดนฝน

ภาพจำลองบรรยากาศ  Main Lobby ของอาคาร A ได้บรรยากาศโปร่งโล่ง มีหน้าต่างกระจก Full Height มองออกไปด้านนอกเห็นวิวสวนธรรมชาติ การตกแต่งได้กลิ่นอายอบอุ่น ด้วยเฟอร์นิเจอร์สีเอิร์ธโทน และลวดลายผ้าแบบท้องถิ่น

Co – Working Space เชื่อมต่อกับ Main Lobby ได้ฝ้าเพดานสูง มีพื้นที่รองรับการทำงานได้ทั้งแบบเดี่ยว แบบกลุ่ม และห้องประชุมสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว

ติดกันเป็น Entertainment Room หลังจากทำงานเหนื่อยๆ ก็สามารถเดินมานั่งเล่น ชมวิวสระว่ายน้ำ และสวนเพื่อผ่อนคลายได้ หรือจะยืดเส้นยืดสายด้วย Billiard table กับเพื่อนๆ ก็ผ่อนคลายไปอีกแบบนะคะ

ถัดมาเป็นพื้นที่ส่วนกลางด้านนอก ที่สามารถเดินเชื่อมต่อได้ทั้ง 3 อาคาร มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่อยู่ที่อาคาร A เดินจาก Main Lobby ออกมาใช้งานได้ ถัดมาเป็นสวนชั้น 2 ของอาคาร B หรือ Yoga Lawn เป็นพื้นที่ออกกำลังกาย Outdoor ที่เชื่อมต่อกับ Fitness ในอาคาร

สระว่ายน้ำได้เป็นระบบเกลือ ความยาวกว่า 30 เมตร แบ่งเป็นสระเด็กและสระผู้ใหญ่ มาพร้อมมุม Jacuzzi ไว้ให้มานั่งผ่อนคลายหลังว่ายน้ำแบบหนักๆมาได้ค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศส่วนสระว่ายน้ำ ด้านข้างติดกับอาคาร A มีพื้นที่วาง Sunbed ไว้ให้มานอนอาบแดดหรือนั่งเล่นพักผ่อนได้ รอบๆตกแต่งด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่และไม้พุ่มช่วยเพิ่มความร่มรื่น

โมเดลแสดงการเชื่อมต่อพื้นที่ส่วนกลางนอกอาคาร ระหว่างอาคาร A และ B โดยในอาคาร B จะประกอบด้วย Yoga Lawn , Fitness , Chilling Garden และ Sansiri Backyard สวนผักหลังบ้านที่สามารถเก็บไปทำอาหารเองได้

ชั้น 2 ของอาคาร เป็นชั้นเริ่มส่วนพักอาศัยของอาคาร A และ B ส่วนอาคาร C จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1  โดยในชั้นนี้ยังมีฟังก์ชันของพื้นที่ส่วนกลางคือ Fitness ที่อาคาร B ซึ่งลูกบ้านสามารถเดินมาใช้งานได้สะดวก ส่วนที่ชั้น 8 มี Sunbathe Area เป็นสวนบนชั้นดาดฟ้า ลูกบ้านได้ขึ้นไปนั่งเล่น ชมวิวมุมสูงของเมืองภูเก็ตได้

ภาพจำลองบรรยากาศ Fitness ในโครงการ จัดอุปกรณ์มาให้ครบทั้ง Weight Trainning , Cardio และ Yoga Lawn ลานออกกำลังกายด้านนอกท่ามกลางสวนหย่อมสีเขียว

Chilling Garden และ Sansiri Backyard สวนขนาดใหญ่กว่า 1 ไร่ ที่ลูกบ้านสามารถลงมาเดินเล่น พักผ่อน หรือนั่งปิกนิกกับเพื่อนๆและครอบครัวในวันสบายๆได้

Sunbathe Area เป็นพื้นที่สวนหย่อมบนชั้นดาดฟ้าของอาคาร B รอบๆตกแต่งเป็นสวนดูร่มรื่น มีมุมนั่งเล่นรับลม พร้อมชมวิวสวยๆของเมืองที่โอบล้อมด้วยบรรยากาศธรรมชาติของแนวภูเขา

ภาพจำลองบรรยากาศ Lobby ของอาคาร C เป็นอาคารที่อยู่ด้านในสุด เน้นความเป็นส่วนตัว เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความพลุกพล่าน แต่ยังสามารถเดินไปใช้พื้นที่ส่วนกลางได้ง่ายค่ะ

แปลนชั้นพักอาศัย

อาคาร A – เป็นอาคารที่อยู่ด้านหน้าสุดของโครงการ มีจุดเด่นคือได้พื้นที่ส่วนกลางเยอะ เข้าถึงได้ง่าย โดยชั้นพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ขึ้นไป มีห้องพักอาศัย 205 ยูนิต ได้ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร คิดเป็นสัดส่วน 103 : 1 จัดว่าไม่หนาแน่นมาก พอใช้งานได้ การจัดวางห้อง ด้วยลักษณะอาคารที่เป็นตัว L ทำให้ได้ Layout ที่หลากหลายกว่าอาคารอื่นๆ

โดยห้องส่วนใหญ่จะเป็น Type 1 Bedroom ขนาด 29.50 – 30.00 ตร.ม. ส่วนห้องขนาดเริ่มต้น จะมี 2 ยูนิต (กรอบสีเขียว) นอกจากได้ราคาที่ย่อมเยาแล้ว ยังได้วิวส่วนกลางอีกด้วย ส่วน 1 Bedroom Plus (กรอบสีส้ม) จะมีชั้นละ 5 ยูนิต มีฝั่งทิศใต้ , ทิศตะวันออกที่ได้วิวส่วนกลาง และฝั่งทิศเหนือเป็นห้องมุม 1 ตำแหน่ง ส่วนห้อง 2 Bedroom จะมีชั้นละ 4 ยูนิต เป็นห้องมุมทั้งหมด โดยจะมียูนิตพิเศษ (กรอบสีเหลือง) เป็นรูปแบบห้อง 2 Bedroom ที่ได้ครัวแบบปิด

อาคาร B – อยู่กลางโครงการ เป็นอาคารที่มีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดคือ 183 ยูนิต สัดส่วนลิฟต์คิดเป็น 92 : 1 โดยอาคารนี้จะมีรูปแบบห้องแค่ 1 Bedroom และ 2 Bedroom เท่านั้น โดยชั้น 2 และชั้น 8 จะมีทางเดินแบบ Single Corridor เหมาะกับคนที่ไม่อยากเปิดประตูห้องมาชนกับใคร แต่ห้องที่ได้จะมีแค่ 1 Bedroom ขนาดเริ่มต้นให้เลือกเท่านั้น (กรอบสีเขียว) ส่วน 2 Bedroom จะเป็นห้องมุมทั้งหมด มีชั้นละ 3 ยูนิตค่ะ ซึ่งอาคารนี้ก็จะเหมาะกับคนที่ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลางอย่าง Fitness อยากได้ห้องวิวสวนที่มีความสงบ

อาคาร C – เป็นอาคารที่อยู่ในสุดของโครงการ มีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดคือ 221 ยูนิต สัดส่วนลิฟต์คิดเป็น 111 : 1 เวลาใช้งานพร้อมๆกันอาจต้องรอสักหน่อย สำหรับอาคาร C เป็นอาคารที่เน้นความเป็นส่วนตัว มี Lobby ขนาดใหญ่ไว้ใช้รับแขกได้ แต่ส่วนกลางอื่นๆต้องเดินไปใช้งานที่อาคาร A และ B แต่ก็ได้ข้อดีในเรื่องความสงบและปลอดภัย สำหรับห้องพักอาศัยจะมีให้เลือกทุก Type โดยจะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom Plus สำหรับใครที่ชอบฟังก์ชันห้องแบบนี้ก็จะแนะนำเป็นอาคาร C ค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

อาคาร A

• Main Lobby
• Entertainment Room
• Co-Working Space
• Private Pods
• Swimming Pools
• Chilling Garden
• Laundry Room / Vending Machine
• EV Charger Station

อาคาร B

• Fitness
• Sunbathe Area
• Sansiri Backyard
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการรวมประมาณ 2 ไร่
• ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 102 :  1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 103 : 1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 92 : 1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก C 111 : 1
• ที่จอดรถประมาณ 184 คันคิดเป็น 30% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card
• การเข้า – ออกโครงการใช้ระบบ Bluetooth

รูปแบบห้องในโครงการ THE BASE BUKIT PHUKET (เดอะ เบส บูกิต ภูเก็ต) มีให้เลือก 3 แบบหลักๆ แต่จะมี Layout ให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย สามารถอยู่อาศัยได้ 2 – 4 คนเลย โดยรูปแบบการขายจะเป็น Fully Furnished ได้เฟอร์ครบ พร้อมเข้าอยู่ ในราคาแพคเกจเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท* ซึ่งรายละเอียดจะมีดังต่อไปนี้ค่ะ

• 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 26.00 – 35.00 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ใช้สอย 35.00 ตร.ม.
• 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 50.00 – 55.00 ตร.ม.

สรุปวัสดุในห้อง

• Furniture Package : โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง , โต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่ง , ชั้นวางทีวี , ตู้รองเท้า , เคาน์เตอร์ครัว , ตู้เสื้อผ้า , ฐานเตียงขนาด 5 ฟุตพร้อมฟูก
• Digital Door Lock ใช้งานได้ 5 ระบบ จากยี่ห้อ Lockman
• วัสดุพื้น ลามิเนต ความหนา 8 มิลลิเมตร
• วัสดุพื้นห้องครัว กระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 เซนติเมตร
• เคาน์เตอร์ครัว ท็อปหินสังเคราะห์
• เตาไฟฟ้า , เครื่องดูดควันและอ่างล้างจาน จากยี่ห้อ TEKA
• สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ จากยี่ห้อ Novabath

โดยห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันวันนี้ คือห้อง 1 Bedroom ซึ่งเป็นรูปแบบห้องหลักที่มีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดในโครงการ บรรยากาศภายในจะเป็นยังไงบ้าง ไปชมกันได้เลยค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

1 Bedroom 26.00 – 35.00 ตร.ม.

1 Bedroom จะได้พื้นที่ใช้สอย 26.00 – 35.00 ตร.ม. โดยขนาดเริ่มต้นจะมี Layout แบบ 1A คล้ายกับห้อง Studio ให้เลือก แต่ได้ครัวปิดแยกมาให้เป็นสัดส่วนอยู่ที่ด้านหน้าทางเข้า โดยส่วนพักผ่อนจะขยับเข้าไปอยู่ด้านใน กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้น ส่วนนั่งเล่นและห้องนอนใช้พื้นที่ร่วมกัน เหมาะกับคนที่ชอบความโปร่งโล่ง และยังมีระเบียงออกไปใช้งานได้ ติดกันมีหน้าต่างขนาดใหญ่ ช่วยเพิ่มแสงสว่างให้กับห้อง โดยด้านข้างสามารถจัดเป็นมุมอเนกประสงค์ วางโต๊ะทำงานเพิ่มได้ด้วยค่ะ

จากประตู เมื่อเข้ามาก็จะเจอส่วนครัวที่ด้านหน้า ซึ่งจัดพื้นที่ใช้งานมาให้ค่อนข้างกว้าง แบ่งเป็นเคาน์เตอร์ครัวได้ฝั่งหนึ่ง และตู้รองเท้าที่ติดกับทางเข้า – ออก ถอดเก็บก่อนเข้าห้องได้สะดวก

พื้นที่ด้านหน้ากั้นประตูมาให้เป็นสัดส่วน ภายในแบ่งเป็นตู้รองเท้าบานเปิดคู่ ติดตั้งชั้นวางมาให้เรียบร้อย วางรองเท้าได้ 10 – 15 คู่เลยค่ะ ส่วนเคาน์เตอร์ครัว กรุท็อปด้วยหินสังเคราะห์ มาพร้อมเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจานจาก TEKA ด้านบนมีช่องใส่ไมโครเวฟ ชั้นวางและตู้ไว้เก็บแก้ว หรือจาน ชามได้ ส่วนด้านล่างมีตู้เก็บของใต้อ่างล้างจาน ใช้เก็บของชิ้นใหญ่ๆได้เลย โดยในรูปแบบห้องนี้จะวางตำแหน่งติดตั้งเครื่องซักผ้าไว้ด้านใน ใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องเดินออกไปด้านนอก

ห้องครัวกับส่วนพักผ่อน กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ช่วยป้องกันกลิ่นและควันเวลาที่ทำอาหารได้ ส่วนพื้นครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 เซนติเมตร ได้ความแข็งแรง ทนทาน เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

ฝ้าเพดานเป็นฉาบเรียบทาสีขาว ติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ 1 จุด พร้อมอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยอย่าง Smoke Detector

เข้ามาในส่วนพักผ่อน จะประกอบด้วยพื้นที่นั่งเล่น เตียงนอน มุมทำงาน และส่วนแต่งตัว เน้นความโปร่งโล่ง มาพร้อมฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร

พื้นปูด้วยลามิเนตลายไม้ความหนา 8 มิลลิเมตร โดยในส่วนนั่งเล่นจะได้โซฟาขนาด 2 ที่นั่งมาเลย ไม่ต้องซื้อเพิ่ม จะใช้รับแขก นั่งพักผ่อน หรือจัดเป็นมุมทานข้าว ก็สะดวก โดยในห้องตัวอย่างนี้ เฟอร์นิเจอร์จะเป็นแบบมาตรฐานที่ได้ในห้องจริงเลยนะคะ

ตรงกลางห้องวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้กำลังดี โดยโครงการจะ Built – in เป็นฐานเตียงมาให้ ด้านล่างมีช่องเก็บของ ไว้เก็บของใช้หรือกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ได้เลย ทั้งนี้ยังมีฟูกขนาด 5 ฟุต แถมมาให้ด้วยค่ะ

ติดกันเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ที่โครงการจัดมาให้เป็นมุมนั่งทำงาน มีพื้นที่ให้วางโต๊ะตัวยาวและมุมเก็บของเพิ่มได้ นั่งทำงานไป ชมวิวจากหน้าต่างภายในห้อง ก็ช่วยเพิ่มความสดชื่นและผ่อนคลายในเวลาทำงานได้ดีเลย

ระเบียงกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ได้มาขนาด 0.78×1.07 เมตร คอมเพรสเซอร์ถูกยกไปแขวนด้านบน ทำให้สามารถใช้พื้นที่ด้านล่างได้แบบเต็มที่เลย

ปลายเตียงมีชั้นวางทีวีที่ได้จากโครงการ ติดตั้งชั้นวางมาให้เรียบร้อย ส่วนด้านข้างเป็นมุมแต่งตัวอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องน้ำ ได้มาเป็นตู้เสื้อผ้า Built – in สูงถึงฝ้า ลักษณะเป็นบานเปิดคู่ ภายในมีกระจกเงา ราวแขวน และชั้นวางของด้านบน ใช้งานได้ 1 – 2 คนกำลังดี

ห้องน้ำแยกโซนเปียก โซนแห้งมาให้ชัดเจน เมื่อเปิดประตูเข้ามา พื้นที่ใช้งานจะถูกแยกเป็น 2 ฝั่ง คือพื้นที่วางเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ และโถสุขภัณฑ์

อ่างล้างมือได้แบบฝังเคาน์เตอร์ ด้านล่างเป็นตู้ไว้เก็บของใช้ส่วนตัวได้ มีกระจกเงาด้านบน ที่สามารถเปิดออกมาเป็นช่องเก็บของ มีชั้นวางมาให้เรียบร้อย ส่วนโถสุขภัณฑ์ สายฉีดชำระ และที่เก็บกระดาษทิชชู่ ได้จากยี่ห้อ Novabath ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน

พื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นกระจกแบบบานเลื่อน 3 ตอนติดตั้งมาให้จากยี่ห้อ Showerking ส่วนยืนอาบมีขนาด 0.90×1.09 เมตร ฝักบัวเป็น Hand Shower จาก Novabath เช่นเดียวกัน ส่วนฝ้าเพดานเป็นฉาบเรียบทาสีขาว ได้ไฟดาวน์ไลท์ติดตั้งมาให้ 2 จุด พร้อมพัดลมระบายอากาศ ช่วยระบายกลิ่นและความชื้นได้ดีค่ะ

1 Bedroom 29.50 – 30.00 ตร.ม.

ต่อมาเป็น 1 Bedroom ขนาด 29.50 – 30.00 ตร.ม. เหมาะกับคนที่อยากได้ห้องไซส์ใหญ่ขึ้นมาหน่อย และชอบห้องที่เป็นสัดส่วนมากขึ้น โดยในห้องนี้พื้นที่ด้านหน้าจะเป็นส่วนนั่งเล่น มีมุมสำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหาร ห้องนอน ห้องน้ำ และห้องครัวกั้นแยกเป็นสัดส่วน ทั้งยังได้เป็นครัวปิด ติดระเบียง เหมาะกับคนชอบทำอาหารจริงจัง ทั้งยังมีพื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถจัดเป็นมุมเก็บของเพิ่มได้อีกจุดด้วย

เมื่อเข้ามาในห้องก็จะเจอกับส่วนนั่งเล่น มองไปเห็นพื้นที่ห้องนอนและห้องครัวที่กั้นแยกมาให้ด้วยประตูบานเลื่อนกระจก จากทางเข้ามี Digital Door Lock ยี่ห้อ Lockman ติดตั้งมาให้ทุกยูนิต สามารถใช้ได้ทั้ง กดรหัส คีย์การ์ด สแกนลายนิ้วมือ กุญแจ และ Bluetooth เลยค่ะ

ส่วนนั่งเล่นได้เป็นแบบหน้ากว้าง มีพื้นที่สำหรับวางโซฟาและโต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่ง ระยะจากโซฟาถึงหน้าทีวีกว้างประมาณ 2.42 เมตร วางทีวีขนาด 40 – 44″ ได้เต็มสายตาพอดี

ห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน วางเตียงขนาด 5 ฟุต ใกล้กับหน้าต่าง ด้านข้างเหลือเป็นพื้นที่สำหรับมุมแต่งตัว ยืนใช้งานได้สะดวก

หน้าต่างเป็นบานเลื่อนกระจก 2 ตอน ใช้เปิด – ปิด เพื่อรับลมและระบายอากาศได้ พื้นที่ด้านข้างเตียงเหลือกว้างประมาณ 0.47 เมตร ให้เดินใช้งานได้ ส่วนปลายเตียงกว้าง 0.45 เมตร สำหรับใครที่อยากติดตั้งทีวีในห้อง โครงการก็ได้เดินสายงานระบบเตรียมไว้ให้เรียบร้อยค่ะ

ถัดมาเป็นโถงอเนกประสงค์ที่เชื่อมระหว่างห้องน้ำและครัว จัดเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งเหมือนในห้องตัวอย่าง ก็ช่วยเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานได้อีกจุดนะคะ

ห้องน้ำที่อยู่ติดกับส่วนนั่งเล่นด้านนอก ทำให้สะดวกเวลารับแขก ไม่ต้องเดินผ่านพื้นที่ส่วนตัวอย่างห้องนอน และยังเชื่อมต่อกับส่วน Service อย่างห้องครัวอีกด้วย

ห้องน้ำใน Type นี้ได้เป็นแบบหน้ากว้าง กั้นพื้นที่โซนเปียกและโซนแห้งมาให้เป็นสัดส่วน สะดวกต่อการใช้งานและทำความสะอาด ส่วนสุขภัณฑ์ได้มาครบชุดจากยี่ห้อ Novabath เหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ

ส่วนอาบน้ำได้ฉากกั้นเป็นบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ผนังด้านข้างมีช่องให้สำหรับใส่อุปกรณ์อาบน้ำหรือของใช้ส่วนตัวได้ เหมือนกับห้องที่แล้ว พื้นที่ยืนอาบได้ขนาด 0.80×1.10 เมตร ใช้งานได้สะดวก

ครัวได้เป็นฟังก์ชันครัวปิด ติดระเบียง เวลาทำอาหารก็สามารถเปิดประตูบานเลื่อนกระจกเพื่อระบายควันและกลิ่นได้ ไม่ต้องกังวัลว่าจะฟุ้งกระจายเข้าไปในห้อง

เคาน์เตอร์ครัวเป็น Built – in ครบชุด มีเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควันและอ่างล้างจานจาก TEKA ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน เคาน์เตอร์ด้านล่างมีลิ้นชัก ให้ใช้เก็บของเพิ่มได้ ด้านข้างยังเหลือช่องว่างให้วางตู้เย็นได้กว้างประมาณ 74 เซนติเมตร

ติดกันเป็นประตูระเบียงที่สามารถเปิดออกไปใช้งานได้ โดยได้มาขนาด 1.12×1.40 เมตร ใช้เป็นพื้นที่ตากผ้า เก็บของ หรือมุมสวนเล็กๆ ก็ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับภายห้องได้ค่ะ

สวิตช์ไฟเป็นกรอบสีขาว ดีไซน์เรียบเข้ากับผนัง จากยี่ห้อ bticino

1 Bedroom Plus 35.00 ตร.ม.

ถัดมาเป็น 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.00 – 34.25 ตร.ม. เหมาะกับคนที่ชอบพื้นที่ใช้สอยเยอะ มีห้องอเนกประสงค์แยกมาให้เป็นสัดส่วน จัดเป็นพื้นที่ห้องนอนหรือห้องทำงานเพิ่มส่วนตัวก็ได้ โดยใน Type ห้องนี้ จะได้ห้องครัวแบบเปิดติดกับประตูทางเข้า มีพื้นที่วางโต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่ง และส่วนนั่งเล่น มีประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอนกั้นอีกชั้น ช่วยให้แสงจากภายนอกส่องเข้ามาในห้องได้อย่างทั่วถึง ส่วนห้องนอนจะได้ประตูเป็นบานทึบ ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว

2 Bedroom 50.00 – 55.00 ตร.ม.

สุดท้ายเป็นห้อง 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 50.00 – 50.25 ตร.ม. รองรับการอยู่อาศัยได้ 3 – 4 คนเลยค่ะ ฟังก์ชันแยกเป็นพื้นที่ Service นั่งเล่น และห้องนอนชัดเจน โดยมี Common Area ขนาดใหญ่ สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ 4 ที่นั่ง มีพื้นที่นั่งเล่นอยู่ติดระเบียง สามารถออกไปใช้งานได้ โดยจุดเด่นของรูปแบบห้องนี้อยู่ที่ห้องนอนขนาดใหญ่ 2 ห้อง ที่มีมุมแต่งตัวอยู่ภายใน มีห้องน้ำแยกใช้งานได้ โดยห้องหนึ่งอยู่ภายในห้องนอน และอีกห้องมีประตูที่เปิดเชื่อมได้ 2 ฝั่ง ไม่ต้องเดินออกมาด้านนอก ได้ทั้งความสะดวกและเป็นส่วนตัวเลยค่ะ

ทั้งหมดเป็นรูปแบบห้องพักอาศัยหลักๆภายในโครงการ THE BASE BUKIT PHUKET (เดอะ เบส บูกิต ภูเก็ต) นอกจากนี้ยังมี Layout อื่นๆ หากใครสนใจก็สามารถสอบถามหรือคลิกชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หน้าเว็บไซต์เลยค่ะ

THE BASE BUKIT PHUKET (เดอะ เบส บูกิต ภูเก็ต) ราคา ณ วันที่ 26 ตุลาคม 2566

• 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 26.00 – 35.00 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ใช้สอย 35.00 ตร.ม.
• 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 50.00 – 55.00 ตร.ม.
• ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท*
• รูปแบบการขาย Fully Furnished (โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง , โต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่ง , ชั้นวางทีวี , ตู้รองเท้า , เคาน์เตอร์ครัว , ตู้เสื้อผ้า , ฐานเตียงขนาด 5 ฟุตพร้อมฟูก)
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.45 เมตร
• Digital Door Lock ใช้งานได้ 5 ระบบ จากยี่ห้อ Lockman
• วัสดุพื้น ลามิเนต ความหนา 8 มิลลิเมตร
• วัสดุพื้นห้องครัว กระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 เซนติเมตร
• เคาน์เตอร์ครัว ท็อปหินสังเคราะห์
• เตาไฟฟ้า , เครื่องดูดควันและอ่างล้างจาน จากยี่ห้อ TEKA
• สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ จากยี่ห้อ Novabath
• มีรถ Shuttle Service ไป – กลับ เซ็นทรัล ภูเก็ต
• จอง 20,000 บาท
• ทำสัญญา 30,000 บาท
• ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลางปีที่ 1 – 2 เก็บ 58 บาท/ตร.ม./เดือน ปีที่ 3 ขึ้นไป 65 บาท
• เปิดชมห้องตัวอย่างครั้งแรก 20 – 22 กันยายน 2566 / Presale 3 – 5 พฤศจิกายน 2566

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล :

ที่ตั้งของโครงการ THE BASE BUKIT PHUKET (เดอะ เบส บูกิต ภูเก็ต) อยู่ติดถนนวิชิตสงคราม เป็นทำเลที่เดินทางสะดวกสบาย ใกล้แยกดาราสมุทร ซึ่งอยู่ใจกลางเมือง ใกล้โซนเมืองเก่า Phuket Old town และยังไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอย่างหาดป่าตอง แหลมพรหมเทพ ไป – กลับสนามบินสะดวก เหมาะกับคนที่ชอบความคึกคักของบรรยากาศเมือง เดินหาของกิน ของใช้ได้ง่าย ล้อมรอบด้วยห้างขนาดใหญ่หลายแห่งในระยะที่เดินไปได้สบายๆ อาทิ Big C ภูเก็ต , Makro และ Central ภูเก็ตในระยะเพียง 550 เมตร

การเดินทางโดยใช้รถ :

เป็นวิธีการสัญจรหลักของคนในจังหวัดนี้ ที่เน้นความคล่องตัว สำหรับนักท่องเที่ยวก็มีบริการรถเช่าให้เลือกหลากหลาย และเนื่องจากที่ตั้งของโครงการที่อยู่ติดถนนใหญ่ จึงทำให้การเข้า – ออกค่อนข้างสะดวกสบาย ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่แตกต่างกับโครงการคอนโดอื่นๆที่จะอยู่ในซอยเป็นส่วนใหญ่ โดยในโครงการได้เตรียมที่จอดรถไว้ให้ 30% หรือประมาณ 184 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคันค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

จากโครงการมี Shuttle Service วิ่งรับ – ส่งไปห้าง Central Phuket สำหรับคนที่เดินทางด้วยรถสาธารณะ ที่ห้างก็มีจุดบริการแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซต์อยู่ หรือจะเรียกรถจาก App ก็ง่าย และในอนาคตยังมีแผนการสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลภายในจังหวัด และ Smart Bus จากสนามบินไปแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ คาดว่าหากแล้วเสร็จน่าจะทำให้การเดินทางสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ

วัสดุ :

รูปแบบการขายของโครงการเป็น Fully Furnished ได้เฟอร์ครบ ในราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท* ส่วนตัวเรามองว่าจัดวัสดุมาให้ตามมาตรฐาน พื้นลามิเนตและกระเบื้องแกรนิตโต้แยกส่วนพักผ่อนกับ Service ห้องน้ำได้สุขภัณฑ์ครบชุด พร้อมฉากกั้นและเครื่องทำน้ำอุ่น ครัวได้เคาน์เตอร์ท็อปหินสังเคราะห์ เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน อ่างล้างจานติดตั้งมาให้เรียบร้อย จะเข้าอยู่เองหรือซื้อเพื่อปล่อยเช่าก็สะดวก พร้อมเข้าอยู่ได้เลย

การออกแบบโครงการ :

พูดถึงหน้าตาของอาคาร ถือว่าออกแบบมาได้ดูมีเอกลักษณ์ ด้วยการนำ Element ของท้องถิ่นมาใช้ ทั้งเส้นโค้งของหลังคา ลวดลายผ้าปาเต๊ะและคู่สีแดง – เขียวที่ได้กลิ่นอายแบบจีน ทำให้ตัวโครงการดูโดดเด่นเข้ากับ Concept ของแบรนด์ THE BASE ในโซนเมืองภูเก็ต การจัดวางตำแหน่งของอาคารจะเป็นแนวยาวขนานไปกับที่ดิน โดยแต่ละตึกก็จะมีฟังก์ชันที่ชัดเจน อย่างอาคาร A เหมาะกับคนที่ไม่อยากเดินไกล ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลาง อาคาร B เป็นสายออกกำลังกาย มีฟิตเนสอยู่ใต้อาคาร แล้วยังมีห้องที่ได้วิวสวน ส่วนอาคาร C อยู่ด้านในสุด เหมาะกับคนที่ชอบความสงบ ไม่พลุกพล่าน

การออกแบบพื้นที่ใช้สอย :

รูปแบบห้องพักอาศัยมีให้เลือก 3 แบบ หลักๆคือ 1 Bedroom , 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom โดยใน Type 1 Bedroom ยังแบ่งจากขนาดพื้นที่ใช้สอยออกมาได้อีก 2 Layout คือห้องขนาดเริ่มต้น 26.00 ตร.ม. ที่จะได้ฟังก์ชันคล้ายห้อง Studio แต่มีครัวปิดที่ด้านหน้า และห้องที่ขนาดใหญ่ขึ้นมาจะเป็นครัวปิดติดระเบียง

1 Bedroom Plus ในโครงการจะเหมาะกับคนที่อยากได้ห้องอเนกประสงค์เพิ่ม แต่ไม่ได้ชอบทำอาหารจริงจังเท่าไรนะ เพราะจะได้เป็นครัวเปิดทั้งหมด ส่วนห้องไซส์ใหญ่สุดอย่าง 2 Bedroom เรามองว่าออกแบบมาได้ลงตัว ห้องนอนทั้ง 2 ห้องได้เป็นขนาดใหญ่ มีมุมแต่งตัวภายใน และได้ห้องน้ำแยกใช้งานได้ ทั้งยังมี Layout ให้เลือกอีกหลายแบบ

สาธารณูปโภค :

จัดฟังก์ชันมาตรฐานมาให้ครบครัน ทั้ง Co – Working Space , Entertainment Room , Fitness , สระว่ายน้ำ และสวนหย่อมขนาด 1 ไร่ โดยส่วนใหญ่จะเน้นไปที่อาคาร A ซึ่งอยู่ด้านหน้าโครงการ ส่วนอาคารอื่นๆก็ยังสามารถเดินมาใช้งานได้อย่างสะดวก

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 85,000 บาท/ตร.ม. , 26 ตุลาคม 2566

• ทำเล 8.0/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้ห้าง หาของกิน ของใช้ง่าย
• เดินทางด้วยรถ 8.0/10 – เชื่อมต่อถนนหลักเข้า – ออกเมืองได้หลายสาย
• ไม่ใช้รถ 7.75/10 – มี Shuttle Service รับ – ส่ง
• วัสดุ 7.75/10 – ตามมาตรฐานของระดับราคา
• แบบ 8/10 – รูปแบบห้องเยอะ ได้กลิ่นอายเอกลักษณ์ท้องถิ่น
• สาธารณูปโภค 7.75/10 – จัดมาให้เหมาะสมตามมาตรฐาน

• MAIN CLASS
• 7.87 / 10.00

THE BASE BUKIT PHUKET (เดอะ เบส บูกิต ภูเก็ต) เหมาะกับใคร

โครงการ THE BASE BUKIT PHUKET (เดอะ เบส บูกิต ภูเก็ต) เหมาะกับคนที่กำลังมองหาที่พักอาศัยหรือคอนโดตากอากาศในจังหวัดภูเก็ต อยากซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าก็ได้ ชอบทำเลติดถนนใหญ่ ใกล้ห้าง เดินไปหาของกิน ของใช้ได้ง่าย มีแบบห้องให้เลือกหลากหลาย มีงบเริ่มต้นในใจไม่เกิน 2 ล้านบาท* หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 12,957 บาท / เดือน

ส่งท้ายปีด้วยโปรโมชั่นคอนโดใกล้แนวรถไฟฟ้าและสินเชื่อพิเศษกับงาน Living Expo 2023 อย่าลังเลจนพลาดเป็นเจ้าของคอนโดราคาดีๆ

ลงทะเบียนรับฟรี หนังสือและโพย ที่จะพลิกทุกวิธีการหาบ้านเดิมๆให้ตรงใจและประหยัดเวลามากขึ้น

Living Expo 2023 วันที่ 23 – 26 พฤศจิกายน 2566 ชั้น 1 สยามพารากอน
ลงทะเบียนเลย คลิกที่นี่