…หลังจากที่พาทัวร์กับทุกโครงการที่เปิดขายภายใน The Forestias ทั้ง Mulberry Grove และ Whizdom มาถึงตัวสุดท้ายอย่าง The Aspen Tree กันแล้วนะคะ คอนโดแนวคิดใหม่สำหรับผู้คนวัย 50+ ที่จะทำให้ทุกคนลืมคอนโดผู้สูงอายุแบบเดิมๆไปได้เลย ด้วยคอนเซ็ปต์ เทคโนโลยี และทำเลที่ตั้ง ที่มีความสมบูรณ์แบบในตัวเอง สมกับเป็น 1 ในโครงการ Mixed-Use อย่าง The Forestias ส่วนรายละเอียดที่น่าสนใจอื่นๆ มีดังนี้

  1. The Aspen Tree : เป็นโครงการที่อยู่ภายใน The Forestias ที่มีผืนป่าขนาดใหญ่กว่า 30 ไร่ ซึ่งได้ผลประโยชน์ของทำเลที่ตั้ง ทั้งระบบนิเวศต่างๆ อากาศบริสุทธิ์ พื้นที่โครงการยกสูงป้องกันน้ำท่วม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ทั้งห้างสรรพสินค้า, โรงพยาบาล, ศูนย์การเรียนรู้ และลานกิจกรรมต่างๆ ที่ช่วยให้การอยู่อาศัย โดยภายในโครงการมีที่จอดรถใต้ดิน 100% ที่เราไม่ได้เห็นตัวเลขแบบนี้นานแล้วนะคะ
  2. Age Range : โดยปกติคอนโดผู้สูงอายุกลุ่มเป้าหมายคือคนอายุ 60 ปีขึ้นไป แต่สำหรับโครงการนี้ให้ผู้อยู่อาศัยได้ตั้งแต่ 50+ เลย เพื่อต้องการสร้าง Community สำหรับคนโสด หรือสามีภรรยาที่ไม่มีทายาท ให้มีสังคมแบบ Family ตั้งแต่วัยที่ยังสุขภาพดี ดูแลตัวเองได้ มีกิจกรรมต่างๆให้บริการ พร้อมความอุ่นใจที่ได้อยู่ใกล้ชิดคุณหมอ
  3. Lifetime Care : คือการดูแลเจ้าของในระยะยาว ภายในมาพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนกลางเพิ่มเติมให้กวนใจ เหมาะสมสำหรับกลุ่ม Silver Age กลุ่มคนสูงวัย ที่พร้อมด้วยกำลังทรัพย์ ที่ไม่อยากเป็นภาระของลูกหลาน หรือบุคคลที่ไม่มีทายาท ถือเป็นการวางแผนเกษียณไปในตัวด้วยนะคะ
  4. Wellness Clubhouse : อาคารคลับเฮ้าส์ขนาด 6,000 ตร.ม. พร้อมกิจกรรมที่เข้าใจผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง ช่วยส่งเสริมสุขภาพกาย จิตใจ สมอง รวมถึงสุขภาพทางอารมณ์ที่ดี อาทิเช่น สระว่ายน้ำเพื่อสุขภาพทั้งแบบ outdoor และ indoor, ฟิตเนส, Golf Simulator, ห้องศิลปะและงานฝีมือ, ห้องดูหนัง ไปจนถึงห้องคาราโอเกะ และอื่นๆ อีกมากมาย
  5. แผนผังโครงการ : ทั้งโครงการมีเพียง 290 ยูนิต โดยกระจายเป็นตึก High Rise สูง 13, 18, 22 ชั้น (Active Living Condo) 3 อาคาร และ Low Rise 5 ชั้น (Sky Villa Residences) 2 อาคาร  ทุกห้องหันออกผืนป่า 30 ไร่ พร้อมทางเดินแบบ Single Corridor ทั้งหมด ได้ความเป็นส่วนตัวดี
  6. ห้องพักอาศัย : ห้องมีทั้งแบบ 1-2 Bedrooms โดยเน้นเป็นห้องขนาดใหญ่ พื้นที่ใช้สอย 83-250 ตร.ม. ภายในออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานแบบ Universal Design รองรับการใช้งานของผู้สูงวัย พร้อมวัสดุและเทคโนโลยีที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ


ข้อมูลโครงการ The Aspen Tree

The Aspen Tree (ดิ แอสเพน ทรี) ณ วันที่ 18 ตุลาคม 2564

 ชื่อโครงการ  The Aspen Tree (ดิ แอสเพน ทรี)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
 SEGMENT CLASS  N/A CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ถนนบางนา-ตราด กม.7 อำเภอบางพลี จ.สมุทรปราการ
 ที่ดิน   23 ไร่ จำนวน 290 ยูนิต
 ประเภทคอนโด   คอนโด High Rise 3 อาคาร สูง 13 ชั้น, 18 ชั้น, 22 ชั้น
(Active Living Condominiums)
คอนโด Low Rise 2 อาคาร สูง 5 ชั้น (Sky Villa Residences)
 จำนวนยูนิต   290 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด   5 ยูนิต (Active Living Condominiums) และ
4 ยูนิต (Sky Villa Residences)
 ที่จอดรถ    พื้นที่จอดรถ 100% บริเวณชั้นใต้ดิน
– ที่จอดรถ 1 คันต่อ 1 ยูนิต (Active Living Condominiums)
– ที่จอดรถ 2 คันต่อ 1 ยูนิต (Sky Villa Residences)
 เริ่มก่อสร้าง   ปี 2564
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี 2567
 ประเภทห้องพัก
  • Active Living Condominiums 250 units
    – 1 Bedroom ขนาด 83 ตร.ม.
    – 1 Bedroom plus Den ขนาด 85 ตร.ม.
    – 2 Bedrooms ขนาด 123 ตร.ม.
  • Sky Villa Residences 40 units
    – 2 Bedrooms plus Den ขนาด 184-203 ตร.ม.
    – 2 Bedrooms plus Den & Private Garden ขนาด 213 – 250 ตร.ม.

 ฝ้าเพดานสูง 3 เมตร (Active Living Condo) / 3.5 เมตร (Sky Villa Residences)
 ราคาเริ่มต้น  28 ล้านบาท (รวมค่าบริการล่ำซำตลอดชีวิต หรือค่าใช้จ่ายส่วนกลาง)
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ n/a
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด)  n/a
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  ผ่านแล้ว
 เว็บไซต์โครงการ www.theaspentree.com
 Call Center  1265

โซนบางนา บนถนนบางนา-ตราดดียังไง?

พื้นที่ย่านบางนาเป็นอีกพื้นที่รองรับการขยายตัวของเมือง ที่เริ่มมีผู้คนให้ความสนใจมากขึ้น สังเกตในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มี Mega Project ขนาดใหญ่เกิดขึ้นในย่านนี้เยอะเลย รวมถึงตามมาด้วยอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ และที่อยู่อาศัยทั้งบ้านแนวราบ และคอนโดมิเนียม ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ช่วยพัฒนาให้ย่านบางนาโตเร็วมากยิ่งขึ้น

The Aspen Tree The Forestias มีทางเข้า-ออกอยู่ติดกับถนนบางนา-ตราดกม. 7 ใกล้ทางด่วน เดินทางเข้าเมืองได้ง่ายเลย โดยตั้งอยู่ระหว่าง Bitec Bangna และ Mega Bangna ส่วนความน่าสนใจของทำเลบางนา ได้แก่

  1. สะดวกเรื่องการเดินทาง
    พื้นที่ย่านบางนาเป็นอีกโซนที่มีการพัฒนาเรื่องระบบขนส่งเยอะทีเดียว โดยปัจจุบันมีรถไฟฟ้าสายสีเขียว และสายสีเหลือง(กำลังจะเปิดให้บริการ) และในอนาคตจะมีรถไฟฟ้า Light Rail บางนา-สุวรรณภูมิ ที่จะวิ่งบนถนนบางนา-ตราดอีกด้วยนะคะ
  2. การเจริญเติบโตของแหล่งงาน
    ทำเลบางนาเป็นอีกหนึ่งโซนที่กำลังมาแรงของตึก Office Building เนื่องจากเป็นโซนที่เชื่อมต่อกับจังหวัดชลบุรี ที่มีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่มากมาย เช่น นิคมบางปู นิคมบางพลี นิคมเวลโกรว์ นิคมอมตะนคร เป็นต้น
  3. รวมตัวของ Mega Project
    อีกเรื่องที่น่าสนใจคือเป็นย่านที่มีเมกะ โปรเจกต์ขนาดใหญ่เยอะเลย ที่จะทำให้มูลค่าที่ดินในย่านนี้สูงขึ้นในอนาคตอีกด้วย รวมถึงเป็นอีกโซนที่อยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ที่ในอนาคตถ้ามีรถไฟฟ้าให้ใช้งาน คาดว่าจะเป็นอีกโซนที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจไม่มากก็น้อยค่ะ

The Forestias

The Forestias เป็น Mixed-use Project ขนาดใหญ่ บนที่ดินขนาด 398 ไร่ ที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โดยมีคอนเซ็ปต์ชัดเจนคือการมีผืนป่าขนาดใหญ่กว่า 30 ไร่อยู่กลางโครงการ พร้อมทางเดิน Sky Canopy Walk ที่ให้ลูกบ้านสัมผัสบรรยากาศของจริง  พร้อมระบบนิเวศแบบอย่างยั่งยืน (Sustainable System) และออกแบบ Universal Design เหมาะสมการใช้งานทุกเพศ ทุกวัย

ภายในโครงการ The Forestias มีหลากหลายโครงการรวมอยู่ด้วยกัน ประกอบไปด้วย โรงพยาบาล, ออฟฟิศ, ห้างสรรพสินค้า, คอมมูนิตี้มอลล์, Service Apartment, โรงแรม, คอนโดมีเนียม High Rise, Low Rise, คอนโดสำหรับคนวัย50+ และพื้นที่สวนป่า+ Forest Pavilion(ศูนย์การเรียนรู้)

ที่ตั้งของ The Aspen Tree The Forestias ตั้งอยู่บนพื้นที่ 23 ไร่  ใกล้ Forest Pavilion(ศูนย์การเรียนรู้) ที่อยู่ไม่ไกลจากทางเข้าออกหลักของฟอเรสเทียส์ เดินทางได้สะดวก ที่น่าสนใจคือภาพรวมโครงการจะวางถนนไว้รอบนอก เพื่อไม่ให้รบกวนพื้นที่อยู่อาศัยภายในโครงการค่ะ

สำหรับ The Aspen Tree มีทั้งส่วนพักอาศัย และ Health & Brain Center หรือคลินิกเวชศาสตร์สำหรับผู้สูงอายุ ภายในพื้นที่พักอาศัยมีคอนโด High Rise 3 อาคาร, คอนโด Low Rise 2 อาคาร และอาคาร Wellness Clubhouse ขนาด 6,000 ตร.ม.

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

ที่ดินของ The Forestias อยู่ที่ประมาณ 398 ไร่ ซึ่งมีขนาดใหญ่มากพอที่จะรวมโครงการที่อยู่อาศัยย่อยๆ ไว้ได้หลายโครงการด้วยกัน รวมถึงพื้นที่ป่าขนาด 30 ไร่ โดยส่วนพักอาศัยจะขยับเข้ามาด้านในที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ส่วนพื้นที่โดยรอบ The Forestias ส่วนใหญ่รายล้อมด้วยชุมชนพักอาศัย ที่ได้ความเงียบสงบดี

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

Shopping Center

  • Mega Bangna & IKEA
  • Bangkok Mall
  • Index Living Mall บางนา
  • Central บางนา
  • Seacon Square
  • Paradise Park
  • Market Village สุวรรณภูมิ
  • Central Village

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ
  • โรงพยาบาลไทยศรีนครินทร์
  • โรงพยาบาลสิรินธร
  • โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์


การออกแบบโครงการ The Aspen Tree
แตกต่างจากคอนโดผู้สูงอายุที่อื่นอย่างไร !?

…ทุกวันนี้สังคมไทยกำลังเข้าสู่ยุคที่มีการเปลี่ยนแปลง คนไทยแฮปปี้กับการใช้ชีวิตโสดมากขึ้น ไม่ได้แต่งงาน หรือถ้าแต่งงานก็จะไม่มีทายาท รวมถึงถ้าใครมีลูกก็แยกย้ายกันไปใช้ชีวิตครอบครัวส่วนตัวกันมากขึ้น แตกต่างจากสมัยก่อนที่อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ ทำให้การใช้ชีวิตอย่าง Independent ที่เน้นพึ่งพาตัวเองจึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เมื่อคนกลุ่มนี้อายุมากขึ้นและเริ่มเข้าสู่กลุ่มผู้สูงวัย…

ความน่าสนใจของคนวัย 50+ ถือเป็นช่วงเวลาที่เพียบพร้อมในการเริ่มต้นใช้ชีวิตอิสระอย่างแท้จริง เพราะมีทั้งเงิน เวลา และสุขภาพที่แข็งแรง เรียกคนกลุ่มนี้ว่าวัย Sliver age และการที่คนกลุ่มนี้หันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น พร้อมการวางแผนเกษียณของตัวเองตั้งแต่ตอนนี้ ซึ่งเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าให้กับชีวิตตลอดชีวิต..

“คำถามคือที่อยู่แบบไหนตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้สูงวัยกลุ่ม Sliver age”

The Aspen Tree The Forestias คอนโดแนวคิดใหม่สำหรับคนวัย 50+ ที่พักอาศัยที่เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัยทั่วไป แต่เป็นการออกแบบทั้งในส่วนที่พักอาศัยและบริการ โดยมุ่งเน้นด้านการดูแลตลอดชีวิต (Lifetime Care) ครอบคลุมทั้งในด้านการดูแลสุขภาพกาย สุขภาพใจ สมอง ผ่านกิจกรรมต่างๆระหว่างวัน ให้ผู้พักอาศัยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข อิสระ ปลอดภัย ได้ตลอดชีวิต พร้อมบริการแบบครบวงจร มาตรฐานระดับโลก เราจะพาทุกคนไปรู้จัก The Aspen Tree กันมากขึ้น ด้วยคอนเซ็ปต์ “The Most Beautiful Chapter in Life”

นอกจากนี้ปัจจุบันยังมีเทรนด์ใหม่อย่าง Aging-In-Place ที่ทำให้คนสูงอายุสามารถมีชีวิตอยู่ในบ้านตัวเองได้เอง โดยมีความช่วยเหลือจากระบบจัดการหรือเทคโนโลยี ที่จะช่วยให้ผู้พักอาศัยมีคุณภาพชีวิตที่ดีมากขึ้น โดยทางโครงการ The Aspen Tree ใช้หลักการออกแบบ Universal Design ในทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นห้องพัก หรือพื้นที่ส่วนกลาง ทุกคนสามารถอยู่อาศัยได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย

Consultant & Co-operator : ที่ได้ร่วมมือกับบริษัท Baycrest ผู้เชี่ยวชาญการดูแลผู้สูงวัยด้านการวิจัยนวัตกรรม และการศึกษาอย่างครบวงจรจากประเทศแคนาดา โดยมีประสบการณ์มากกว่า 100 ปี ซึ่งแต่ละท่านที่เข้าพักอาศัยในโครงการ เมื่อแรกเข้าจะได้รับการวางแผน Life Planning Program ซึ่งเป็นโปรแกรมการตรวจสุขภาพเฉพาะบุคคลจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อจัดการวางแผนด้านอาหาร การออกกำลังกาย และกิจกรรมที่เหมาะสม

หลายคนที่สนใจด้านอสังหาริมทรัพย์ คงจะรู้จักประเภทตามสิทธิครอบครองคอนโด 2 ประเภท ได้แก่รูปแบบ Leasehold (สัญญาเช่าซื้อ) และ Freehold (ซื้อขายขาด) เป็นอย่างดี ซึ่งความแตกต่างของ The Aspen Treeเป็นลักษณะคอนโดแบบ Lifetime Care โดยทางโครงการให้ความสำคัญกับเจ้าของห้องพักอาศัยเป็นหลัก โดยรูปแบบเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะบุคคล ที่จะไม่สามารถส่งต่อให้ลูกหลานได้นะคะ ภายในโครงการมีเอกลักษณ์ชัดเจน ด้วยการดูแลผ่าน Health & Wellness Activities ที่ให้การอยู่อาศัยเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง

สิ่งที่เราจะได้เพิ่มเติมแตกต่างจากโครงการอื่นๆทั่วไป

  • โครงการมอบประกันสุขภาพให้กับเจ้าของห้องพักอาศัย ดูแลระยะยาวด้วยความคุ้มครองจนถึงอายุ 99 ปี

  • ความคุ้มครองสูงสุด 20 ล้านบาท/ปีกรมธรรม์ ในช่วงระหว่างการก่อสร้างโครงการฯ
  • เพิ่มความคุ้มครองสูงสุดเป็น 40 ล้านบาท/ปีกรมธรรม์ เมื่อโครงการฯแล้วเสร็จ และโอนสิทธิการเช่าสำเร็จ

  • ไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนกลางรายปีตลอดการอยู่อาศัย
  • มีบริการอาหารเช้าฟรีตลอดชีพ
  • หากเจ้าของห้องพักอาศัยไม่ประสงค์จะพักอาศัยต่อในโครงการแล้วและยังอยู่ในระยะที่กำหนด เจ้าของห้องพักอาศัยจะได้รับเงินคืน (Refund) ตามเงื่อนไขของสัญญา
  • The Aspen Tree ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 23 ไร่ อาคารออกแบบมาในสไตล์ Classic Contemporary แสดงถึงความ Luxury ของโครงการ โดยมีทั้งหมด 4 ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่

    • Active Living Condominiums : คอนโด High Rise ทั้งหมด 3 อาคาร ความสูง 13, 18 และ 22 ชั้น รวมทั้งหมด 250 ยูนิต โดยมีเพียง 5 ยูนิต/ชั้นเท่านั้น ได้ความเป็นส่วนตัวสูง ห้องพักอาศัยเริ่มต้นขนาด 83-123 ตร.ม.
    • Sky Villa Residences : คอนโด Low Rise ที่อยู่ใกล้กับผืนป่า 30 ไร่มากยิ่งขึ้น มีทั้งหมด 2 อาคาร ลักษณะห้องขนาดใหญ่ 184-250 ตร.ม. พร้อม Private Lift ทุกตำแหน่ง และพื้นที่สวนหย่อมส่วนตัวเฉพาะลูกบ้าน Sky Villa
    • Wellness Clubhouse : อาคารขนาดใหญ่มากกว่า 6,000 ตร.ม. พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมบริการอาหารเช้าฟรีเฉพาะเจ้าของห้อง
    • Health&Brain Center : คลินิกเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ลักษณะอาคารสาธารณะที่อยู่ใกล้กับพื้นที่โครงการ ทำให้เราอุ่นใจในการอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น

    โครงการ The Aspen Tree เองก็ออกแบบ Community มาค่อนข้างดีเลยนะคะ โดยวางพื้นที่สีเขียวกระจายทั่วโครงการ เน้นบรรยากาศร่มรื่นให้เหมาะสมกับการอยู่อาศัย ที่น่าสนใจคือออกแบบที่จอดรถอยู่ใต้ดินทั้งหมด 100% เพื่อความปลอดภัยและให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้พื้นที่สวนและพื้นในส่วนต่างๆ ได้เต็มที่และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น พร้อมทางเดินรอบโครงการ(Loop Trial) ความยาวประมาณ 850 เมตร และกระจายกิจกรรมแบบกลางแจ้งให้ใช้งาน เช่น Glasshouse, Organic Farm, Multi-purpose Lawn, BBQ Zone, Outdoor Seating Area เป็นต้น


    Wellness Clubhouse

    อาคารคลับเฮ้าส์ขนาด 6,000 ตร.ม. ที่ออกแบบมาให้สำหรับผู้สูงวัย ทั้งกิจกรรมและรูปแบบการใช้งาน ซึ่งภายในแบ่งเป็นกิจกรรมย่อยๆเยอะมาก เพิ่มความหลากหลายในการใช้งาน ทำให้เกิด Community ใหม่ ที่เหมาะกับตัวคุณมากยิ่งขึ้น

    อาคาร Wellness Clubhouse

    • Outdoor Family Pool (สระว่ายน้ำกลางแจ้ง)
    • Indoor Wellness Pool (สระว่ายน้ำในร่ม)
    • Fitness (ฟิตเนส)
    • Golf Simulator Room
    • Open Library & Cafeteria (มุมอ่านหนังสือและร้านเบเกอรี่)
    • Business Lounge (ห้องรับรอง/ห้องประชุม)
    • Multipurpose Room (ห้องอเนกประสงค์)
    • All-Day Dining Restaurant & Private Dining
    • Media & Theater Room (ห้องดูหนัง)
    • Karaoke Room (ห้องคาราโอเกะ)
    • Meditation Rooms (ห้องนั่งสมาธิ)

    Image 1/18
    The Aspen Tree

    The Aspen Tree

    ส่วนพักอาศัยเราขอเริ่มที่คอนโด Active Living Condominiums ลักษณะคอนโด Mid Rise โดยต้องการออกแบบให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ไล่ระดับความสูง 13, 18 และ 22 ชั้น ทั้งหมด 250 ยูนิต รูปแบบห้องขนาดใหญ่ พื้นที่ใช้สอย 83-123 ตร.ม. มาพร้อมความสูง 3 เมตร ทำให้บรรยากาศภายในโปร่งโล่ง แตกต่างจากคอนโดอยู่อาศัยทั่วไป

    ถัดมาส่วนชั้นพักอาศัยกันต่อนะคะ โดยแต่ละอาคารจะมีล็อบบี้แยกใช้งานกัน วางโถงลิฟต์ไว้ตรงกลาง ออกแบบให้มีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว และลิฟต์ Service 1 ตัว ที่ถือว่าให้มาค่อนข้างเยอะ อัตราส่วนการใช้งานของลิฟต์ไม่ถึง 100:1 ที่ได้ความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน

    ส่วนห้องพักอาศัยมีเพียง 5 ยูนิต/ชั้น ที่ออกแบบให้ทุกห้องพักอาศัยหันหน้าเข้าพื้นที่ผืนป่า 30 ไร่ของโครงการ The Forestias ภายใน The Aspen Tree พร้อมทางเดินแบบ Single Corridor ไม่มีเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามรบกวน ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น สมกับความเป็น Luxury ของแบรนด์นี้เลย เน้นห้องใหญ่ ยูนิตน้อย อยู่กันแบบสบายๆ ไม่แออัด ซึ่งยังไม่เห็นคอนโดผู้สูงวัยที่ไหนทำแบบนี้เลยนะคะ

    บรรยากาศด้านหน้าอาคาร Active Living Condominiums

    บรรยากาศภายในล็อบบี้ของอาคาร Active Living Condominiums

    มาดูอาคาร Sky Villa Residences กันบ้างนะคะ โดยมีเพียง 2 อาคาร ที่มีความ Premium มากยิ่งขึ้น โดยมีห้องพักอาศัยเพียง 40 ยูนิตเท่านั้น ที่ออกแบบไม่ให้มีผนังใช้งานร่วมกันกับเพื่อนบ้าน ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน พร้อมพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ เน้นห้อง 2 Bedrooms ขนาด 184-250 ตร.ม. ฝ้าเพดานที่สูง 3.5 เมตร นอกจากนี้ยังได้ Private Garden สำหรับลูกบ้าน Sky Villa ให้เดินเล่นใช้งานส่วนตัว

    ออกแบบห้องพักอาศัยให้แต่ละอาคารจะมีเพียง 4 ยูนิต/ชั้น ที่น่าสนใจคือแต่ละห้องจะมีเสมือน Private Lift ให้ใช้งาน โดยมีลิฟต์โดยสาร 4 ตัว/อาคาร และ Service 1 ตัว/อาคาร เรียกว่าใช้งานกันเป็นส่วนตัวทีเดียว

    สำหรับห้องพักอาศัยในโซนนี้ยังให้ที่จอดรถ 2 คัน เป็นแบบ Fix ที่จอดรถ 1 คัน ซึ่งอยู่ตรงกับลิฟต์ให้ใช้งานได้สะดวก นอกจากนี้ห้องพักอาศัยชั้นล่าง+สวนหย่อมส่วนตัว โดยมีเพียง 8 ยูนิตเท่านั้น เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการปลูกต้นไม้ และอยากมีพื้นที่ใช้งานเป็นของตัวเองค่ะ


    Health and Brain Center

    คลินิกเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ หรือ Geriatric Clinic ที่แตกต่างจากบรรยากาศในโรงพยาบาลทั่วไป โดยอาคารออกแบบมาในสไตล์ Classic Contemporary ที่มีความหรูหรา พร้อมบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น รวมถึงเป็นการสร้าง Community ที่ให้คนวัยเดียวกันมาแลกเปลี่ยนความคิด พูดคุยกันได้ด้วยนะคะ

    การออกแบบกิจกรรมต่างๆจากพาร์ทเนอร์อย่าง Baycrest ด้วยนะคะ ซึ่งมีประสบการณ์ และเชี่ยวชาญในการดูแลผู้สูงวัยที่เป็นมาตรฐานสากล ภายในมีบริการทั้งการฟื้นฟูสมรรถภาพ (Rehabilitation Center), โปรแกรมการดูแลเกี่ยวกับสมองและความทรงจำ (Brain and Memory Care) และ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุรายวัน (Adult Day Care)

    Image 1/3
    บรรยากาศภายใน Health and Brain Center

    บรรยากาศภายใน Health and Brain Center

    สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

    พื้นที่สวนหย่อม

    • Outdoor Activity Areas (พื้นที่จัดกิจกรรมกลางแจ้ง)
    • Therapeutic Garden (สวนบำบัด)
    • Covered Walkaway (ทางเดินปกคลุม)

    อาคาร Wellness Clubhouse

    • Outdoor Family Pool (สระว่ายน้ำกลางแจ้ง)
    • Indoor Wellness Pool (สระว่ายน้ำในร่ม)
    • Fitness (ฟิตเนส)
    • Golf Simulator Room
    • Open Library & Cafeteria (มุมอ่านหนังสือและร้านเบเกอรี่)
    • Business Lounge (ห้องรับรอง/ห้องประชุม)
    • Multipurpose Room (ห้องอเนกประสงค์)
    • All-Day Dining Restaurant & Private Dining
    • Media & Theater Room (ห้องดูหนัง)
    • Karaoke Room (ห้องคาราโอเกะ)
    • Meditation Rooms (ห้องนั่งสมาธิ)
    • Arts & Crafts Room (ห้องศิลปะและงานฝีมือ)

    สำหรับบริการที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

    • Spa & Beauty Salon (สปาและบิวตี้ซาลอน)
    • Specialty Restaurant (ร้านอาหารชั้นที่ 2 ของอาคารคลับเฮ้าส์)
    • Convenience Store (ร้านสะดวกซื้อ)
    • Personal Caregiver (คนดูแลผู้สูงอายุแบบใกล้ชิด)
    • Personal Trainer (คนดูแลออกกำลังกาย)
    • Catering Service for Private events (บริการจัดเลี้ยง)
    • Linen & Laundry (บริการส่งซักรีด)
    • Utility Fee (ค่าน้ำค่าไฟ)

    อาคาร Health & Brain Center จำนวน 1 อาคาร (ความสูง 7 ชั้น)

    • Geriatric Clinics (คลีนิคเฉพาะทางผู้สูงวัย)
    • Adult Day Care(ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุรายวัน)
    • Short-Term Post Rehabilitation Units (ห้องพัก 24 ยูนิต)
    • Long-Term Care Residential Units (ห้องพัก 96 ยูนิต)

    Security & Safety

    • Home Intelligence ติดตั้งภายในห้องพักอาศัย
    • 1-Hour Fire-Rated Entrance Door (ประตูทางเข้าทนไฟ 1 ชั่วโมง)
    • Emergency Call Button (ปุ่มฉุกเฉิน)
    • Automatic Night Light (ระบบไฟอัตโนมัติเวลากลางคืน)
    • Grab Bar in Bathroom (ราวจับในห้องอาบน้ำ)
    • Non-Slip Flooring (พื้นกันลื่น)
    • Resilient Flooring (พื้นยืดหยุ่นรองรับแรงกระแทก)
    • Wearable Device for Health, Safety, and Convenience (อุปกรณ์เสริมแบบสวมใส่สำหรับสุขภาพ)
    • Access Control with Security Card (เข้าออกพื้นที่ควบคุมด้วยระบบคีย์การ์ด)
    • Emergency Electricity Backup System (ระบบสำรองไฟฟ้าฉุกเฉิน)
    • Concierge Service ดูแล 24 ชม.


    แบบห้อง

    แบบห้องภายในโครงการเริ่มต้นขนาดใหญ่ 83-250 ตร.ม. โดยมีทั้งแบบ 1-2 Bedrooms ทั้งหมด 5 แบบ ภายใน 2 อาคาร ได้แก่

    • Active Living Condominiums 250 units
      – 1 Bedroom ขนาด 83 ตร.ม.
      – 1 Bedroom Plus Den ขนาด 85 ตร.ม.
      – 2 Bedrooms ขนาด 123 ตร.ม.
    • Sky Villa Residences 40 units
      – 2 Bedrooms Plus Den ขนาด 184-203 ตร.ม.
      – 2 Bedrooms Plus Den & Private Garden ขนาด 213 – 250 ตร.ม.

    ด้วยความที่เป็นคอนโดสำหรับคนวัย 50+ ซึ่งมีความใส่ใจในรายละเอียดการออกแบบทุกขั้นตอนตั้งแต่วัสดุที่ดีต่อการใช้งาน ระบบรักษาความปลอดภัย ไปจนถึงเทคโนโลยีต่างๆภายในห้องพักอาศัย เพื่อเป็นการดูแลสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน ภายในติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ได้แก่

    • ปุ่มกดฉุกเฉิน Emergency Button
    • Motion Sensors with Automatic Night Light
    • พื้นกันลื่น, ราวจับภายในห้องน้ำ(ติดตั้งเพิ่มเติมได้ทุกเมื่อ)
    • ห้องน้ำไม่มีการยกระดับพื้น รองรับการใช้งานแบบ Universal Design
    • พื้นกระเบื้องยางไม้  (Resilient floor) ที่มีความยืดหยุ่น ป้องกันการกันลื่นล้มได้ดี
    • มีอุปกรณ์สวมใส่ที่จะช่วยดูในเรื่องของสุขภาพ ความปลอดภัยของลูกบ้าน
    • ระบบไฟฟ้าสำรอง (Emergrncy Electricity Backup System) เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน

    แปลนห้องพักอาศัยของอาคาร Active Living Condominiums จะมีทั้งหมด 3 แบบด้วยกัน โดยการวาง Layout ของที่นี่น่าสนใจทีเดียว โดยทั้งห้อง 1 Bedroom Plus และห้อง 2 Bedrooms เป็นลักษณะห้องมุมที่ทำให้ Take View ได้ 2 ฝั่ง ส่วนห้อง 1 Bedroom ก็เลือกวางไว้ตรงกลางอาคาร ที่ทำให้ Take View ได้เต็มที่เลยนะคะ

    วันนี้เราขอพาไปดูห้องตัวอย่างขนาดกลาง นั้นก็คือ 1 Bedroom Plus ขนาด 85 ตร.ม. ทั้งโครงการมีเพียง 100 ยูนิตเท่านั้น โดยมีเพียงชั้นละ 2 ยูนิตเท่านั้น

    ลักษณะแปลนออกแบบให้มีพื้นที่ Foyer ก่อนเข้าห้องพักอาศัย เป็นเหมือน Transition Space ก่อนเปลี่ยนฟังก์ชันใช้งาน ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่ Living Area ยาว รับแสงได้เต็มที่ ภายในเป็นลักษณะพื้นที่ครัวเปิด ซึ่งอาจจะไม่เหมาะทำอาหารจริงจังมากนัก แต่ข้อดีคือมีห้องอเนกประสงค์ที่เพิ่มขึ้นมา ที่เราสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนได้ หรือปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามใจชอบ ถัดไปพื้นที่ห้องนอนวางเป็นแนวยาว ภายในมีห้องน้ำ และพื้นที่ Walk-in Closet ส่วนตัวให้ใช้งาน

    เปิดประตูเข้ามาเป็นพื้นที่ Foyer ก่อนเข้าห้องพักอาศัย เป็นเหมือน Transition Space โดยทางโครงการ Built-in ตู้รองเท้าและตู้เก็บของมาให้เรียบร้อย / ซึ่งไฟบริเวณนี้เป็นแบบอัตโนมัติ เวลาเดินเข้าบ้านมาจะได้ไม่ต้องเดินหาสวิตซ์ไฟ

    ประตูทางเข้ากว้างกว่ามาตรฐานทั่วไป ซึ่งจะมีความกว้างถึง 1 เมตร เพื่อให้สะดวกสบายเวลาเข้า-ออก รวมถึงมือจับติดตั้งเป็น Digital Door Lock ให้ใช้งานได้ง่าย / ส่วนวัสดุบานประตูเป็นแบบกันไฟได้หนึ่งชั่วโมง และเมื่อปิดประตูจะมีตัวซีลตามขอบประตูเพื่อป้องกันไม่ให้ควันเข้ามาในห้องได้อีกด้วย

    บริเวณนี้มี Powder Room ให้ใช้งานสำหรับแขกด้วยนะคะ

    ถัดมาเป็นพื้นที่ Living Area ขนาดใหญ่ วางยาวจนถึงหน้าต่าง ที่แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้ทั่วถึง / พื้นที่ใช้งานกว้างเน้นให้เดินใช้งานได้สะดวก

    พื้นที่ Living Area วางเป็นแนวยาวต่อเนื่องกันได้ระหว่างพื้นที่นั่งเล่น, พื้นที่รับประทานอาหาร และพื้นที่ห้องครัวปิด

    พื้นที่ห้องครัวเปิดจะได้ชุดครัวหน้าตาแบบนี้เลยนะคะ ลักษณะท็อปครัวเป็นวัสดุประเภท Food Grade ที่สามารถสัมผัสอาหารได้โดยตรง ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ รองรับการควบคุมโดย NSF International พร้อมไฟบริเวณครัวที่ติดตั้งความสว่างที่เหมาะสมกับการใช้งานอีกด้วย มากกว่าจุดอื่นๆ เพื่อความสะดวกในการมองเห็นขณะทำอาหาร

    นอกจากนี้ยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้ง Microwave & Oven และเตาไฟฟ้า Hob & Hood ยี่ห้อ Kuppersbusch, อ่างล้างมือ และตู้เย็น ยี่ห้อ TEKA ครบครันให้ใช้งานเป็นมาตรฐานค่ะ

    ถัดไปด้านข้างเป็นส่วนของห้องอเนกประสงค์ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่

    สำหรับห้องอเนกประสงค์นั้น เป็นขนาดสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนขนาดเล็กได้อีก 1 ห้อง หรือจะปรับเป็นห้องอ่านหนังสือแบบห้องตัวอย่างก็ได้นะคะ

    ถัดไปมีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ต่อเนื่องกับพื้นที่ระเบียงด้านนอก ซึ่งทุกประตูหน้าต่างของโครงการจะมีมุ้งลวดมาให้ใช้งานเรียบร้อย ไม่ต้องกังวลเรื่องแมลงที่จะเข้ามาด้านในห้องพักอาศัยนะคะ

    ระเบียงกว้างสามารถใช้งานได้เต็มที่ เพราะทุกห้องในโครงการจะไม่มี Condensing Unit ของเครื่องปรับอากาศ ทำให้ไม่มีไอร้อนระบายออกมา อีกทั้งติดตั้งราวระเบียงสูงมากกว่าปกติ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานค่ะ

    ห้องนอนขนาดใหญ่ หลังจากที่วางเตียงแล้วจะมีพื้นที่การใช้งานรอบเตียงประมาณ 90 ซม. เพื่อความสะดวกในการใช้งาน และกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

    นอกจากนี้บริเวณหัวเตียงยังมีปุ่มฉุกเฉินให้เรียกพนักงานได้ตลอด 24 ชม.

    บริเวณปลายเตียงมีพื้นที่เหลือกว้าง เดินใช้งานได้สบายๆเลยนะคะ

    ถัดไปด้านในเป็นส่วนของห้องน้ำ + พื้นที่ Walk in Closet

    ภายในพื้นที่ Walk-in Closet โครงการ Built-in ตู้เสื้อ + โต๊ะเครื่องแป้งมาให้ใช้งานเรียบร้อย โดยจะวางเป็นรูปตัว U เหมาะใช้งาน 1-2 คนได้กำลังดีค่ะ

    ห้องน้ำขนาดใหญ่ มาพร้อมพื้นกันลื่นแบบระนาบเดียวกัน ไม่มีขอบยกสูง ทำให้เดินใช้งานได้ง่าย ไม่ต้องกลัวสะดุดล้มนะคะ ภายในติดตั้งอุปกรณ์ครบครัน ทั้งอ่างล้างหน้า,โถสุขภัณฑ์ และตู้เก็บของ ซึ่งกรณีที่ลูกบ้านต้องการราวจับ หรือต้องการถอดตู้บริเวณอ่างล้างหน้าออก เพื่อให้ใช้งานรถ Wheel Chair ได้สะดวก ก็สามารถบอกกับทางโครงการได้เลยนะคะ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    ถัดมาดูห้องตัวอย่างที่ 2 เป็นลักษณะห้องขนาดใหญ่ 2 Bedroom Plus Den ขนาด 184-203 ตร.ม. ที่อยู่ในอาคาร Sky Villa Residences โดยจะมีห้องเพียง 2 แบบเท่านั้น ภายในออกแบบพื้นที่ใช้งานแยกกันชัดเจน ทั้งส่วนพักอาศัย, ส่วนรับแขก และส่วนบริการ (Service)

    ขอเริ่มที่ส่วน Living Area ขนาดใหญ่ (พื้นที่นั่งเล่น,พื้นที่รับประทานอาหาร และพื้นที่ Pantry ครัว สำหรับเตรียมอาหารเล็กๆน้อยๆ) ด้านข้างมีห้องอเนกประสงค์ที่ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามใจชอบ ถัดไปห้องครัวปิดจะต่อเนื่องกับ Laundry ที่ภายในมีประตู Service ให้สำหรับแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดได้ง่าย ถัดไปเป็นส่วนพักอาศัยพร้อมทางเดินแยกใช้งานเป็นสัดส่วน ได้ความเป็นส่วนตัวดี โดยเป็นลักษณะ 2 Bedrooms ขนาดใหญ่ วางเตียง 5-6 ฟุตได้ พร้อมห้องน้ำส่วนตัวให้ใช้งานได้สะดวกค่ะ

    เปิดประตูเข้ามาเป็นพื้นที่ Foyer ก่อนเข้าห้องพักอาศัย เป็นเหมือน Transition Space โดยทางโครงการ Built-in ตู้รองเท้าและตู้เก็บของมาให้เรียบร้อย / ซึ่งไฟบริเวณนี้เป็นแบบอัตโนมัติ เวลาเดินเข้าบ้านมาจะได้ไม่ต้องเดินหาสวิตซ์ไฟ

    บริเวณนี้มี Powder Room ให้ใช้งานสำหรับแขกด้วยนะคะ

    เดินเข้ามาด้านในเป็นทางแยกสำหรับแขก และผู้พักอาศัยที่แยกใช้งานได้เป็นสัดส่วน / ความสูงพื้นถึงฝ้าของห้องพักในอาคาร Sky Villa Residences ความสูงพื้นถึงฝ้า 3.5 เมตร ที่ยิ่งทำให้ตัวห้องดูโอ่โถ่ง และโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น

    ถัดไปด้านข้างเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ที่ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามใจชอบ

    สำหรับห้องครัวปิดต่อเนื่องกับพื้นที่ Laundry รวมกันแล้วเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่เลยนะคะ โดยบริเวณนี้ทางโครงการจะ Built-in ตู้ต่างๆ มาให้ใช้งานเรียบร้อยเลยค่ะ

    Living Area ขนาดใหญ่ วางเป็นแนวยาวที่เอาไว้ต้อนรับแขกได้ หรือรองรับครอบครัวขนาดใหญ่ที่มาเยี่ยมได้เลยนะคะ พาเพื่อนมาแฮงค์เอ้าที่บ้านได้เลยสบายๆ

    บริเวณนี้วางโซฟาขนาดใหญ่ ต่อเนื่องกับพื้นที่โต๊ะรับประทานอาหาร และส่วน Pantry ครัว สำหรับเตรียมอาหารเล็กๆน้อยๆ

    สำหรับบริเวณนี้ทางโครงการ Built-in ชุดครัวมาให้ + Island หน้าตาแบบนี้เลยนะคะ

    ถัดไปเราไปดูระเบียงส่วน Semi Outdoor กันต่อค่ะ

    พื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ มาพร้อมหน้าต่าง 3 ฝั่งเลย รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ เหมาะเป็นพื้นที่ทำงานอดิเรก พร้อมตำแหน่งที่มองออกไปพื้นที่สวนหย่อมภายนอกได้

    ถัดไปดูส่วนพักอาศัยกันต่อ โดยจะมีทางเดินแยกใช้งานส่วนตัวมากขึ้น ระหว่างทางเดินไปมีตู้ Built-in แบบฝังผนัง ให้เราเก็บของได้เพิ่มเติมอีกด้วยนะคะ

    ห้องนอนขนาดใหญ่ หลังจากที่วางเตียงแล้วจะมีพื้นที่การใช้งานรอบเตียงประมาณ 90 ซม. เพื่อความสะดวกในการใช้งาน และกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

    ถัดไปด้านในเป็นส่วนของห้องน้ำ ซึ่งด้านหน้าห้องน้ำพื้นที่ Walk in Closet + โต๊ะเครื่องแป้ง ที่ใช้งานได้ 2 คนสบายๆค่ะ

    ภายในห้องน้ำขนาดใหญ่ มาพร้อมพื้นกันลื่นแบบระนาบเดียวกัน ไม่มีขอบยกสูง ทำให้เดินใช้งานได้ง่าย ไม่ต้องกลัวสะดุดล้มนะคะ ภายในติดตั้งอุปกรณ์ครบครันเป็นมาตรฐาน

    ห้องนอนขนาดใหญ่ หลังจากที่วางเตียงแล้วจะมีพื้นที่การใช้งานรอบเตียงประมาณ 90 ซม. เพื่อความสะดวกในการใช้งาน และกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

    ภายในห้องน้ำขนาดใหญ่ พร้อมอุปกรณ์ครบครันแบบเดียวกับห้องที่แล้วเลยนะคะ

    แบบห้อง 2 Bedrooms Plus Den ขนาด 184-203 ตร.ม. โดยวาง Layout แตกต่างกับห้องตัวอย่างด้านบน โดยแปลนนี้เราจะได้พื้นที่ห้องนอนขนาดใหญ่ขึ้น วางเป็นแนวยาวเลย มีพื้นที่ Walk-in Closet มากขึ้น เหมาะกับคนชอบแต่งตัวเลยนะคะ ส่วนอีกห้องนอนจะต้องเดินออกมาใช้ห้องน้ำด้านนอกแทน ส่วนพื้นที่Living Area จะมีขนาดใหญ่มากขึ้น อันนี้ก็แล้วแต่คนชอบเลยนะคะ


    จุดเด่นของโครงการ The Aspen Tree กับคอนโดผู้สูงอายุที่อื่น

    ราคาและค่าใช้จ่าย
    สำหรับคนที่มองเรื่องความคุ้มค่าของตัวเอง ก็ต้องบอกเลยว่าโครงการนี้ถือเป็นอีกตัวเลือกในการวางแผนเกษียณอีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจทีเดียว

    • ประกันสุขภาพปีละ 40 ล้านบาท (จนอายุ 99 ปี) : หลายๆคนอาจจะเริ่มนึกไปถึงสุขภาพตัวเองในช่วงอายุที่เพิ่มมากขึ้น เราคงต้องยอมรับว่าบางทีเราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆได้ การที่เรามีประกันสุขภาพคุ้มครองก็ยิ่งทำให้เราอุ่นใจ เพราะเราไม่ต้องเอาเงินเก็บมาใช้ง่ายในส่วนนี้ ซึ่งต้องบอกว่าประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะเลย
    • ยกตัวอย่าง : ถ้าเราอายุ 50 สมมุติว่าถ้าเราซื้อประกันสุขภาพทั่วไป ราคาประกันจะอยู่ที่ราคาปีละ 100,000-200,000 บาท/ ปี ซึ่งถ้าเราลองมาคำนวณกันดูเล่นๆ สมมุติต้องจ่ายแบบนี้ไปอีก 40 ปีข้างหน้า ค่าใช้จ่ายก็จะต้องอยู่ที่ประมาณ 8 ล้านบาทเลยนะคะ หรือบางคนที่ไม่ซื้อประกันสุขภาพ เวลาเจ็บป่วยก็อาจจะต้องเสียเงินมากกว่านี้ก็ได้นะคะ
    • ไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนกลางตลอดชีพ : ถือเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายรายปีไปได้เยอะพอสมควรเลยนะคะ เป็นการจ่ายเงินซื้อห้องครั้งเดียวแล้วจบทุกอย่าง (ยกเว้นค่าน้ำ ค่าไฟ) ซึ่งเราจะได้ไม่ต้องไปรบกวนเงินเก็บของตัวเอง นอกจากนี้ทางโครงการยังมี Offer เป็นอาหารเช้าให้ฟรีตลอดชีวิตสำหรับเจ้าของห้องด้วยนะคะ

    ทำเล
    โครงการตั้งอยู่ในพื้นที่ The Forestias ซึ่งเป็น Mixed-use Project ขนาดใหญ่ของทาง MQDC บนที่ดินขนาด 398 ไร่ ที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และการออกแบบที่เน้นพื่นที่สีเขียวภายในโครงการ ขนาดใหญ่กว่า 30 ไร่ โดยโครงการตั้งอยู่ติดถนนบางนา-ตราด กม.7 ซึ่งตั้งอยู่ระหว่าง Bitec Bangna และ Mega Bangna ที่เดินทางเข้าเมือง หรือไปห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในห้างได้ง่าย รวมถึงย่านบางนากำลังเป็นที่ฮอตฮิต มีทั้งโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่, อาคารสำนักงาน ที่ขยับมาอยู่ในพื้นที่โซนนี้กันมากขึ้น

    ความปลอดภัย
    หัวใจสำคัญที่สุดสำหรับคนที่ต้องการอยู่อาศัยคอนโดลักษณะนี้ โดยภายในห้องพักอาศัยจะมีปุ่มกดฉุกเฉิน พร้อมระบบ Tracking System ติดตามผู้พักอาศัย กรณีมีเหตุฉุกเฉินหรือสิ่งผิดปกติภายในห้องพักอาศัย ก็จะมีคนรอให้บริการให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชม. นอกจากนี้การออกแบบห้องพักอาศัย หรือวัสดุและเทคโนโลยีต่างๆภายในห้องนั้น ได้คิดมาให้เหมาะสมกับอายุของคนใช้งานแล้วเรียบร้อย

    บรรยากาศและการออกแบบโครงการ
    คนไทยส่วนใหญ่มักติดภาพจำโครงการประเภทนี้ว่าเป็น “บ้านพักคนชรา” แต่ส่วนตัวเรากลับมองว่าเป็นคอนโดแนวคิดใหม่ทำออกมาตอบโจทย์กลุ่มคนวัย50+ เพื่อเตรียมชีวิตหลังเกษียณอย่างแท้จริง พร้อมคุณภาพชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ที่ไม่ต้องมีเงินฉุกเฉินสำหรับการรักษาตัว แต่เป็นการใช้จ่ายเงินได้อย่างแท้จริง

    ซึ่งโครงการนี้ไม่ได้เพียงออกแบบพื้นที่ Universal Design อย่างเดียว แต่มีการออกแบบกิจกรรมต่างๆ (Health & Wellness Activities) ให้เหมาะสมกับคนสูงวัย เพื่อสุขภาพที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง รวมถึงการอยู่ใกล้ผู้เชี่ยวชาญให้เราอุ่นใจในการอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือการมี Community ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ตัวเองนั้น ทำให้คนอาศัยไม่รู้สึกเบื่ออีกด้วย

    บริการเสริมต่างๆ
    เป็นสิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาสำหรับเจ้าของห้องพักอาศัยภายในโครงการ ที่แตกต่างจากการอยู่อาศัยคอนโดผู้สูงอายุที่อื่นๆ ประกอบด้วย

    • บริการ Concierge Service ดูแล 24 ชม.
    • บริการทำความสะอาด 1 ครั้ง
    • บริการอาหารเช้าฟรีสำหรับเจ้าของห้องพักอาศัย

    The Aspen Tree เหมาะกับใคร

    เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจคอนโดแนวคิดใหม่ สำหรับคนวัย 50+ หรือ Sliver Age ที่มีเงินให้จับจ่าย และเป็นการวางแผนอนาคตตัวเองในระยะยาว หรือ Life Time Care ซึ่งอยู่ในพื้นที่ Mixed-Use : The Forestias ที่มีความครบครันในตัวเอง ภายในออกแบบทุกอย่างให้เหมาะสมกับผู้สูงวัยทั้งกิจกรรม และบริการดูแลตลอด 24 ชม. โดยมีงบประมาณเริ่มต้น 28 ล้านบาท (รวมค่าบริการล่ำซำตลอดชีวิต หรือค่าใช้จ่ายส่วนกลาง)


    ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
    ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc