ONEDER เกษตร จาก เอกภูมิทรัพย์เป็นอีกหนึ่งคอนโดย่านม.เกษตร ใกล้กับการไฟฟ้า โดย

  • มีทำเลติดกับถนนใหญ่อย่างงามวงศ์วาน โดยเป็นโครงการ Low Rise 
  • ราคาเริ่มต้นจับต้องง่าย 1.59 ล้านบาท ขายแบบ Fully Furnished
  • มีพื้นที่ส่วนกลางที่ถือว่าเยอะเลยค่ะ รวมแล้วประมาณ 2 ไร่ได้
  • ส่วนรูปแบบห้องที่มีขายในโครงการจะเน้นห้องขนาดเล็ก Studio และ 1 Bedroom รายละเอียดของโครงการนี้จะเป็นอย่างไร ไปอ่านรีวิวเต็มๆกันเลยค่ะ

ข้อมูลโครงการ

6 January 2021

  • ONEDER Kaset (วันเดอร์ เกษตร)
  • บริษัท เอกภูมิทรัพย์ ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2020 ได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ : ถนนงามวงศ์วาน เขตจตุจักร
  • ที่ดินประมาณ 4-1-55.3 ไร่
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร 585 ยูนิต และร้านค้า 7 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 32 ยูนิตที่อาคาร B และ C
  • ที่จอดรถ 35%
  • เริ่มก่อสร้าง : 2564
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q4 2565
  • แบบห้อง
    – Studio ขนาด 21.50 – 23.55 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท
    – Studio Exclusive ขนาด 23.75 – 25.35 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
    – 1 Bedroom ขนาด 27.95 – 28.85 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.68 ล้านบาท
    – 1 Bedroom Plus ขนาด 35.00 – 36.05 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.52 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท (Studio) / หรือตร.ม.ละ 7x,xxx บาท
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 8x,xxx บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
  • ว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • ลงทะเบียนรับส่วนลด : https://bit.ly/2IJnFVR
  • โทร : 062-324-2626
  • Line : https://lin.ee/dDwG5vj

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มค่ะ

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.8495708,100.557237
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

Oneder เกษตร ถือเป็นอีกโครงการย่านม.เกษตรที่มีทำเลน่าสนใจเลยค่ะ โดยทั่วๆไปคอนโดย่านเกษตรนั้นจะอยู่อีกฝั่งใกล้กับมหาลัยเกษตรฯ แต่สำหรับโครงการนี้จะมีทำเลที่ขยับมาทางฝั่งงามวงศ์วาน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าห่างจากม.เกษตรฯออกมานะคะ และมีถนนใหญ่อย่างถนนวิภาวดีคั่นกลาง เป็นถนนที่ใหญ่ และต้องใช้สะพานลอยข้าม (อาจจะดูลำบากกว่าเล็กน้อย) แต่ว่าข้อดีของทำเลนี้คืออยู่ฝั่งเดียวกับสถานีรถไฟฟ้าค่ะ โดยจะเป็นรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีบางเขน ห่างจากโครงการประมาณ 400 เมตร พอเดินไปใช้ได้ หรือจะเรียกรถมอเตอร์ไซค์อาจจะสะดวกกว่า

สำหรับทำเลนี้เราขอแยกกลุ่มลูกค้าออกเป็น 2 กลุ่มนะคะ
กลุ่มแรก บุคลากร หรือว่านักศึกษาม.เกษตรฯ อย่างที่บอกไปว่ามีถนนวิภาวดีคั่นระหว่าโครงการ Oneder เกษตร และม.เกษตรฯ ถ้าใช้รถขับไปมหาลัยก็ต้องกลับรถที่ถนนวิภาวดีก่อน จึงจะเข้าไปยังมหาลัยได้ แต่ถ้าไม่มีรถก็อาจจะต้องเรียกรถมอเตอร์ไซค์ไปแทน จะเดินไปช่วงรถติดก็อาจจะได้อยู่แต่ดูจากระยะทางก็ถือว่าเดินเหนื่อยนะคะ แต่ก็สะดวกสำหรับคนที่วันธรรมดาทำงานแถวนี้ เสาร์-อาทิตย์กลับบ้านได้โดยใช้รถไฟฟ้า Oneder เกษตร ก็ถือว่าตอบโจทย์อยู่ค่ะ
กลุ่มที่สอง คนวัยทำงานค่ะ ทางฝั่งเส้นงามวงศ์วานเองจะมีแหล่งทำงานอยู่เยอะ เช่นข้าราชการ กระทรวงต่างๆในละแวก เช่น กระทรวงสาธารณสุข หรือว่าพนักงานของการไฟฟ้าเอง (โครงการนี้อยู่ติดกับการไฟฟ้า) Oneder เกษตร จึงเป็นโครงการที่เหมาะกับคนที่หาคอนโดอยู่ใกล้ที่ทำงาน (ยิ่งโซนนี้ถือว่าเป็นอีกทำเลที่รถติดหนักมาก มีคอนโดใกล้ที่ทำงานก็จะสะดวกและประหยัดเวลาชีวิตขึ้นค่ะ)

เท่าที่ดู Oneder เกษตร ก็เป็นคอนโดที่เจาะกลุ่มตลาดคนวัยทำงานเป็นหลักนะคะ อาจจะมีกลุ่มนักลงทุนบ้างที่ต้องการปล่อยเช่า แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็น real demand หรือคนที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองเป็นหลักค่ะ อย่างวันที่เราไปโครงการก็เจอพนักงานการไฟฟ้าเดินมาชมไม่ขาดสายเลยนะคะ

ทำเลโครงการ Oneder เกษตร อยู่ติดถนนงามวงศ์วาน ใกล้กับแยกบางเขน ในแง่การเดินทางก็จะ เข้า-ออก เมืองด้วยถนนวิภาวดี ไปยังรังสิตหรือห้าแยกลาดพร้าวได้ หรือจะใช้ถนนงามวงศ์วานเข้า-ออกไปยังนนทบุรีหรือว่ารามอินทราได้เช่นกันค่ะ ในส่วนของอาหารการกินนั้น ในย่านนี้เป็นแหล่งทำงานและมหาลัย ดังนั้นจะไปทางฝั่งเกษตรก็มีของกินอยู่เยอะเลย หรือว่าจะเป็นทางงามวงศ์วานก็จะมี The mall งามวงศ์วาน, พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า, ตลาดพงษ์เพชรอยู่ค่ะ หายห่วงได้เลย แต่ถ้าจะซูมดูใกล้ๆโครงการในระยะเดินถึง เรามองว่าเนื่องจากโครงการเราติดกับการไฟฟ้านะ ดังนั้นพนักงานหลายพันคนของการไฟฟ้ามีข้าวกิน เราก็ต้องมีข้าวกินเหมือนกัน รอบๆก็จะมีร้านอาหารตามตึกแถวอยู่อิ่มสบายหายห่วงค่ะ

จุดที่น่าสนใจสำหรับโครงการ Oneder เกษตร : ที่นี่มีทางเข้า-ออกติดกับถนนใหญ่อย่างถนนงามวงศ์วานค่ะ สำหรับเรื่องที่ตั้งเรามี 2 ประเด็นที่อยากเล่าให้ฟังนะ
1) Condo low rise ติดถนนใหญ่ – เรามักจะไม่ค่อยเจอโครงการ low rise ที่ติดถนนใหญ่เท่าที่ควร ส่วนใหญ่ที่ตั้งของ low rise มักจะอยู่ในซอยมากกว่าค่ะ ซึ่งโครงการที่ติดถนนใหญ่ก็จะมีความสะดวก(เรียกรถต่างๆง่าย) ปลอดภัย(เมื่อต้องเดินเข้า-ออกในซอยเวลากลางคืน) นอกจากนี้โครงการ low rise จะมีต้นทุนค่าก่อสร้างค่อนข้างต่ำกว่าโครงการตึกสูงหรือ high rise ดังนั้นราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.ส่วนใหญ่จึงทำมาในราคาที่ต่ำกว่าได้ค่ะ
2) ขึ้นสะพานข้ามแยกบางเขนไม่ทัน – จุดนี้อาจจะเป็นข้อเสียสำหรับคนใช้รถไปทางฝั่งเกษตรนะคะ เพราะจากหน้าโครงการถ้าเราต้องการไปทางฝั่งม.เกษตรฯหรือว่าฝั่งรามอินทราเราจะไม่สามารถขึ้นสะพานได้ ต้องไปกลับรถที่ถนนวิภาวดีก่อนค่ะ

นี่ก็เป็นประเด็นต่างๆที่เกี่ยวกับทำเลของที่นี่ที่เราอยากเล่าให้ฟังค่ะ ต่อไปเราไปลองดูตัวอย่างเส้นทางการเดินทางไปยัง Oneder เกษตร กันดูนะ

เส้นทางการเดินทาง

สำหรับเส้นทางการเดินทางในวันนี้ เรามาจากถนนประเสริฐมนูกิจค่ะ โดยจะผ่านแยกเกษตรและแยกบางเขน โดยเราสามารถชิดขวาเพื่อขับลงอุโมงค์ข้ามแยกเกษตรและขึ้นสะพานข้ามแยกบางเขนได้ หลังจากนั้นเราก็จะเจอแยกพงษ์เพชร แต่เราจะกลับรถก่อนถึงแยกนะคะ หลังจากกลับรถมาโครงการเราจะอยู่ซ้ายมือ ติดกับการไฟฟ้าสำนักงานใหญ่เลยค่ะ ลองเลื่อนดูบรรยากาศการเดินทางจาก Gallery ด้านล่างได้เลยนะ

Image 1/12
เราต้นกับที่ถนนประเสริฐมนูกิจค่ะ ก่อนจะถึงแยกเกษตร เราชิดขวาได้เลย

เราต้นกับที่ถนนประเสริฐมนูกิจค่ะ ก่อนจะถึงแยกเกษตร เราชิดขวาได้เลย

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

ที่ตั้งของ Oneder เกษตร นั้นจะอยู่บนถนนงามวงศ์วานใกล้กับแยกบางเขน และใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีแดงสถานีบางเขนด้วยค่ะ ทิศเหนือและทิศตะวันตกจะติดกับการไฟฟ้า สำนักงานใหญ่ ทิศตะวันตกติดกับที่พักอาศัยอย่าง Apartment สูงไม่เกิน 8 ชั้น ส่วนทิศใต้จะติดกับถนนงามวงศ์วานค่ะ คลิกดูบรรยากาศรอบๆจาก gallery ด้านล่างนี้ได้นะคะ

Image 1/4
หน้าโครงการจะเป็นถนนงามวงศ์วาน แต่จากทางเข้าเราไม่สามารถขับไปขึ้นสะพานข้ามแยกได้นะคะ

หน้าโครงการจะเป็นถนนงามวงศ์วาน แต่จากทางเข้าเราไม่สามารถขับไปขึ้นสะพานข้ามแยกได้นะคะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • กฟผ. หรือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ~ 0 m.
  • รถไฟฟ้าสายสีแดงสถานีบางเขน ~ 400 m.
  • MOCA ~ 900 m.
  • ตลาดพงษ์เพชร ~ 2.2 km.
  • โรงพยาบาล นนทเวช ~ 2.4 km.
  • The Mall งามวงศ์วาน ~ 2.5 km.
  • โรงเรียนแสงโสม ~ 2.5 km.
  • ม.เกษตร ~ 3 km.
  • โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 3.6 km.
  • โรงพยาบาลวิภาวดี ~ 3.8 km.
  • มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ~ 4.7 km.
  • พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า งามวงศ์วาน ~ 4.9 km.
  • กระทรวงสาธารณสุข ~ 5.7 km.

รายละเอียดโครงการ

Oneder เกษตร เป็นคอนโด Low Rise บนถนนงามวงศ์วาน ติดกับการไฟฟ้าสำนักงานใหญ่ค่ะ โครงการนี้ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 4 ไร่ครึ่ง ประกอบด้วย 3 อาคาร สูง 8 ชั้น 585 ยูนิต และมี 7 ร้านค้า โดยร้านค้าทั้ง 7 ร้านนี้เท่าที่ทราบข้อมูลมาคือขายไปหมดแล้วนะคะ เป็นส่วนที่คนภายนอกสามารถมาใช้งานได้ แยกที่จอดรถเอาไว้ให้(เดี๋ยวไปดูที่ plan จะเห็นชัดขึ้นค่ะ)

แนวความคิดในการออกแบบโครงการหรือที่มาของคำว่า Oneder จะพ้องไปกับคำว่า Wonder นั่นเองค่ะ concept  7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก นำมาตีความดังนี้

  1. Wonder of wonder โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
  2. Wonder of location โครงการติดถนนใหญ่งามวงศ์วานช่วงต้นที่ตัดกับถนนวิภาวดีรังสิต และติดกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ใกล้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, โรงพยาบาล วิภาวดี และเดอะมอลล์งามวงศ์วาน
  3. Wonder of transport โครงการห่างจากรถไฟฟ้า สถานีบางเขน (S.R.T. Red line) และใกล้รถไฟฟ้าถึง 5 สาย (สีน้ำตาล / สีเขียว / สีชมพู / สีแดง / สีม่วง) เชื่อต่อถนนแจ้งวัฒนะ ถนนวิภาวดีรังสิต ทางด่วนศรีรัช และดอนเมืองโทลเวย์
  4. Wonder of lifestyle รวมแหล่งไลฟ์สไตล์ แหล่งงาน ร้านค้า และคอมมูนิตี้ ตลอด 24 ชั่วโมง
  5. Wonder of facility พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่เกือบ 2 ไร่ ที่รู้ใจ New Generation พื้นที่สวน 1 ไร่ ถูกออกแบบให้เหมือนอยู่ใน Wonderland
  6. Wonder of space ตอบโจทย์ทุกกลุ่ม คำนึงเรื่องฟังก์ชั่น และพื้นที่การใช้งานในทุกรายละเอียด
  7. Wonder of furnishing เฟอร์นิเจอร์ครบ จบที่เดียว

ภายในโครงการถูกแบ่งออกเป็น 3 ตึก วางรอบที่ดินเกิดเป็น Court หรือพื้นที่ว่างตรงกลางระหว่างอาคาร จัดเป็นสวนขนาดใหญ่เอาไว้ค่ะ โดยพื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้ก็ถือว่าได้มาเยอะและหลากหลายนะคะ มีทั้งที่อยู่กลางแจ้ง(ใน court และ ดาดฟ้า) และในร่มตามอาคารต่างๆ ส่วนกลางจะมีอะไรบ้าง อยู่ชั้นใด อาคารไหน? เราไปดูกันต่อเลยค่ะ

Facility

ส่วนกลางชั้น 1

ชั้น 1 ของโครงการนี้ถ้าดูจากผังจะเห็นว่าเป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดเลยค่ะ
ทางเข้า-ออกอยู่ติดกับถนนงามวงศ์วาน ภายในโครงการจะเดินรถทางเดียว เมื่อเข้ามาจะต้องเลี้ยวซ้ายไปใต้อาคาร A ไล่ไป B และ C จึงขับออกได้ค่ะ โดยที่อาคาร A ใต้อาคารส่วนที่ติดกับถนนใหญ่จะถูกออกแบบเป็นร้านค้าทั้งหมด 7 ยูนิต ดังนั้น พื้นที่ด้านหลังจึงจัด visitor parking เอาไว้ให้ด้วย ส่วนที่จอดรถส่วนอื่นๆจะอยู่ใต้อาคารค่ะ และจะมี auto parking อยู่ที่อาคาร C โดยทั้งหมดจะมีที่จอดรถอยู่ 213 คัน และมีที่จอดรถจักรยานยนต์เพิ่มมาอีก 15 คัน อัตราส่วนที่จอดรถต่อจำนวนห้องพักอาศัยก็จะอยู่ที่ราวๆ 35%-40% ไม่เยอะเท่าไหร่นะคะ แต่ก็ต้องอย่าลืมว่าเป็นคอนโดที่ใกล้รถไฟฟ้า ผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ทำงานหรือนักเรียนละแวกนี้ อาจจะไม่ใช้รถส่วนตัวมากนักค่ะ

ในแต่ละอาคารจะมีลิฟต์แยกอาคารละ 2 ตัวค่ะ ที่ชั้น 1 หน้าโถงลิฟต์ก็จะมีที่นั่งจัดมุมเล็กๆไว้ และมีตู้จดหมายอยู่ จะไม่มี lobby ที่ใหญ่โตโอ่อ่าอะไรนะคะ ใครที่อยากได้ที่นั่งเล่นก็จะมีส่วนที่เป็น Co-living, Co-working และ Co-kitchen ให้เลือกใช้งานที่ชั้น 2 แทน (ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าด้วยค่ะ)  ส่วนตรงกลางระหว่างทั้ง 3 อาคารจะเป็นสวนขนาดใหญ่มีสนามเด็กเล่น, pavillion กลายเป็นวิวสวยงามให้กับห้องพักที่หันเข้าสู่ภายในโครงการนี้ และเป็นส่วนกลางที่มาใช้งาน เดินออกกำลังกายได้ค่ะ

ภาพบรรยากาศจำลองสวนกลางอาคารและ pavillion โดยสวนที่อยู่ตรงกลางจะออกแบบโดยเน้นเส้นสายโค้งค่ะ เป็น freeform ดูเป็นธรรมชาติ และเกิดพื้นที่หลากหลาย ไว้นั่งเล่นเดินเล่น มีมุมส่วนตัว

เนื่องจากพื้นที่ส่วนกลางในอาคารส่วนใหญ่จะอยู่ที่ชั้น 2 ของทุกอาคาร ซึ่งจะเข้าถึงจากลิฟต์ของอาคารนั้นก็ได้หรือว่าจะเดินขึ้นจากสวนตรงกลางอาคารได้เช่นกันค่ะ จุดที่เราชอบคือการออกแบบสวนที่มีต้นไม่ใหญ่แทรกอยู่ ช่วยให้ห้องพัดที่อยู่ชั้น 2-3 มีต้นไม้ช่วยพรางตาจากคนที่เดินเล่นหรือใช้งานส่วนกลางได้นะ

ตัวสระว่ายน้ำจะถูกยกขึ้นมาไว้ที่ชั้น 2 เช่นกันค่ะ ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นจากคนที่เข้า-ออกชั้น 1 ของโครงการด้วยนะ

ภาพจำลองบรรยากาศการตกแต่ง lobby และโถงลิฟต์ที่ชั้น 1 ค่ะ จะเป็นตำแหน่งเดียวกับตู้จดหมายด้วย ขึ้น-ลงห้องพักก็เดินมาเช็คดูตู้จดหมายได้เลย ห้องนี้มี concept คือ “Asteroid” ใช้เรื่องราวของการเดินทางสู่ห้วงอวกาศ เหมือนเป็นการเริ่มต้นเดินเข้าไปในส่วนอื่นๆของโครงการ

ส่วนกลางชั้น 2-3

ฟังก์ชันส่วนกลางของโครงการนี้จะถูกจัดไว้ที่ชั้น 2 เป็นหลักค่ะ ซึ่งจะเน้นอยู่ที่อาคาร B เป็นส่วนใหญ่นะคะ โดยจะมีสระว่ายน้ำอยู่ที่ระดับเดียวกับชั้น 2 อยู่ติดกับอาคาร B เลย ส่วนภายในอาคารนั้น
อาคาร A – มี co-working area
อาคาร B – มี co-kitchen, cinema room, ห้องน้ำ และ fitness
อาคาร C – มี co-living area

สำหรับส่วนกลางที่ชั้น 3 นั้นจะมีอยู่นิดเดียวคือ dance studio ที่อาคาร B ค่ะ โดยจะขึ้นมาส่วนนี้ได้จากฟิตเนสชั้น 2 เท่านั้นนะคะ

บรรยากาศสระว่ายน้ำของโครงการค่ะ มีการแยกสระปกติและสระเด็กเอาไว้ให้ด้วย โดยสระว่ายน้ำจะเป็นระบบเกลือ มีขนาด 25×8 เมตร ลึก 1.2 เมตรค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศ co-working space ที่อาคาร A ห้องนี้มี concept “Ice” ได้ Idea มาจาก Ice Cave ที่ Iceland (Skaftafell) ถ้ำน้ำแข็งที่เข้าไปแล้วจะรู้สึกเย็น สงบ focus เหมาะกับการใช้เป็นพื้นที่ทำงานค่ะ

ที่อาคาร B จะมี co-kitchen ให้ใช้งานค่ะ

นอกจากนั้นก็จะมีฟิตเนส โดยส่วนนี้จะมี Concept “Earth” มากจาก Grand Canyon ที่เกิดจาก Earth transformation ออกแบบให้มี Double Volume Space และมีพื้นที่สำหรับ Rock Climbing อีกด้วย

ฟิตเนสจะมีสองส่วนค่ะ มีส่วนชั้นล่างที่วางลู่วิ่ง ดัมเบล อุปกรณ์ออกกำลังกายต่างๆไว้

ชั้นบนก็จะเป็นสตูดิโอ เรามองว่าสามารถปรับใช้งานได้หลากหลายนะคะ เป็น dance studio หรือว่าจะเอาเสื่อโยคะมากางเล่นก็ได้เหมือนกัน

ภาพจำลองบรรยากาศ music studio ค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศ cinema room หรือห้องดู netflix มานอนดูหนังหรือซีรีส์แบบสบายๆได้เลย

game&party room เป็นอีกห้องที่อาคาร B ค่ะ สำหรับห้องนี้จะมี concept “Light” มาจาก North Light ที่ Iceland ห้องนี้จึงมีสีสัน เหมาะกับฟังก์ชันที่สร้างความบันเทิง

ส่วน co-living area จะเป็นห้องที่อยู่อาคาร C โดย concept ของห้องนี้คือ “Coral Island” เป็นธรรมชาติใต้น้ำของหมู่เกาะปะการัง Great Barrier Reef ให้ความรู้สึกถึงคลื่นทะเล ชายหาด เหมาะแก่การนั่งพักผ่อนค่ะ

ส่วนกลางชั้นดาดฟ้า

และส่วนกลางสุดท้ายจะอยู่ที่ชั้นดาดฟ้าค่ะ โดยที่ชั้นดาดฟ้านี้เองจะมีสะพานเชื่อมระหว่าง 3 อาคารเข้าด้วยกันนะคะ มีฟังก์ชันทั้ง มุมนั่งเล่น ทำ BBQ เล่น yoga หรือจะวิ่งออกกำลังกายก็ได้ค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศบนชั้นดาดฟ้า มีมุมสำหรับเล่นโยคะและลู่วิ่งให้ใช้งาน

บรรยากาศของ party deck และมุม BBQ ที่ชั้นดาดฟ้า

ผังชั้นพักอาศัย

Image 1/3
typical floor plan ชั้น 4-8

typical floor plan ชั้น 4-8

สำหรับห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ไปจนถึงชั้น 8 ค่ะ โดยทางเดินหน้าห้องพักอาศัยจะเป็นแบบ double corridor ทั้งหมด หรือว่ามีห้องพักอาศัยอยู่ทั้ง 2 ฝั่งทางเดินเลย โดยที่ปลายทางเดินจะถูกวางไว้เป็นหน้าต่างระบายอากาศบริเวณทางเดิน และช่วยเพิ่มแสงสว่างให้กับบริเวณทางเดินได้ค่ะ

ส่วนตำแหน่งของห้องพักอาศัยนั้นจะเห็นได้ว่าวางไว้คละๆกันทั้ง Studio และ 1 Bedroom ก็จะมีห้องที่หันหน้าเข้าสู่ Court กลางโครงการทั้งหมดนะคะ แต่จะมีห้องที่พิเศษหน่อย เช่น 1 Bedroom plus จะเป็นห้องที่หันหน้าเข้าสู่ court ตรงกลาง และอยู่ที่ตำแหน่งมุมอาคารเท่านั้นค่ะ ส่วนห้องที่ราคาถูกหรือที่น่าจะจัดเป็นห้อง promotion น่าจะอยู่ที่อาคาร A หันออกถนนใหญ่ เป็น studio ขนาดเล็ก ที่เราคิดว่าห้องโปรโมชันน่าจะอยู่โซนนี้เพราะว่าเป็นห้องที่อาจจะถูกรบกวนจากเสียง ฝุ่น ควันจากถนนใหญ่ได้มากที่สุดนั่นเองค่ะ


สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

พื้นที่ส่วนกลางขนาดมากกว่า 2 ไร่ โดยมีทั้ง 3 อาคาร ภายใน+Rooftop ที่ใช้เชื่อมกันได้ทุกอาคาร และ สวนขนาดใหญ่ 1 ไร่อยู่ระหว่างอาคาร

  • Outdoor Space
    – Infinity Edge Pool ขนาด 25×8 เมตร ลึก 1.2 เมตร
    – Kids Pool
    – Outdoor Terrace
    – Multi-yard
    – Playground
    – Sunken Lounge
    – Pavilion
    – Chillout Deck
  • Rooftop
    – Yoga Deck
    – Sky Bar & Lounge
    – Sky Theatre
    – Sky running
  • Indoor Space
    – Lobby
    – Co-living Space
    – Co-Working Space
    – Meeting Room
    – Reading Pocket
    – Fitness & Sport Zone
    – Dance Studio
    – Co-Kitchen Space
    – Multi function room
    – Netflix
    – The library
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 98 :  1
  • ที่จอดรถประมาณ 35%
  • CCTV
  • Keycard Access (เข้าได้เฉพาะชั้นพักอาศัยของเราและชั้นส่วนกลางเท่านั้น)

แบบห้อง

Oneder เกษตร เป็นคอนโดที่เน้นขายห้องขนาดเล็กค่ะ เพราะมีแต่แบบ studio และ 1 bedroom เท่านั้น เหมาะกับการอยู่ 1-2 คน รายละเอียดและขนาดของห้องมีดังนี้

– Studio ขนาด 21.50 – 23.55 ตร.ม.
– Studio Exclusive ขนาด 23.75 – 25.35 ตร.ม.
– 1 Bedroom ขนาด 27.95 – 28.85 ตร.ม.
– 1 Bedroom Plus ขนาด 35.00 – 36.05 ตร.ม.

  • โดยห้อง Studio exclusive จะต่างกับ studio ปกติตรงที่ มีโซนห้องแต่งตัวเพิ่มขึ้นมาค่ะ เหมาะกับคนที่มีงบประมาณซื้อห้องเล็ก แต่ก็ยังอยากได้ฟังก์ชันภายในห้องที่แยกเป็นสัดส่วน
  • ส่วนห้อง 1 bedroom plus ก็จะต่างจาก 1 bedroom ตรงที่มีห้องอเนกประสงค์เพิ่มมา และตัวห้องนอนก็จะเป็นห้องนอนปิดแยกเป็นสัดส่วนเช่นกันค่ะ

โดยโครงการนี้จะขายเป็นแบบ Fully furnished ให้เฟอร์นิเจอร์หลักๆมาครบเลย และมีแอร์แถมมาให้ด้วย (จำนวนและขนาด BTU แล้วแต่ unit type นะคะ) ในรีวิวนี้เรามีห้องตัวอย่างให้ดูถึง 3 แบบเลย แต่ละห้องจะเป็นอย่างไร ไปดูกันต่อได้เลยค่ะ


Studio Exclusive ขนาด 24.30 ตร.ม.

ห้องแรกที่จะพาไปดูเป็นห้อง studio exclusive ขนาด 24.25 ตร.ม. ห้องนี้ราคาเริ่มต้นน่าจะอยู่ที่ล้านปลายๆนะคะ โดยจุดเด่นของห้องนี้คือเป็นห้องหน้ากว้าง และจัดเป็นสัดส่วนมากค่ะ มีครัวปิดพร้อมพื้นที่กินข้าวแยกจากพื้นที่ห้องนอน มีโซนแต่งตัวหรือ walk-in closet อยู่ภายในตัว ห้องน้ำสามารถเข้าได้สองทาง ถือว่าเป็นห้องที่จัดออกมาได้ฟังก์ชันครบเลยนะคะ เราลองไปดูห้องตัวอย่างกันเลย

ที่ประตูทางเข้าจะติดตั้ง digital door lock ของ samsung ให้มาทุกห้องเลยค่ะ

เข้ามาจะเจอกับพื้นที่ครัวและกินข้าวเป็นอันดับแรก ส่วนทางซ้ายมือจะเห็นประตูเข้าห้องน้ำนะคะ

ส่วนครัวและกินข้าวจะแยกจากพื้นที่พักผ่อนโดยมีฉากกั้นกระจกค่ะ พื้นที่ส่วนนี้กว้าง 3 เมตร ตัวประตูบานเลื่อนกระจกก็ทำออกมาเต็มความกว้างและความสูงของห้องด้วยค่ะ ทำให้พื้นที่ส่วนครัวและกินข้าวไม่ดูแคบจนเกินไป

ส่วนนี้เราจะได้โต๊ะและเคาน์เตอร์ครัวดังภาพนะคะ (ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้านะ)

ส่วนนี้จะกว้างประมาณ 1.7 เมตร ถือว่ามีขนาดจำกัด ตามขนาดห้องที่กะทัดรัด แต่ก็ยังมีทางเดินประมาณ 70 ซม. ถือว่าใช้งานได้ พอดี 1 คนเดิน

โต๊ะจะเป็นผิวเมลามีนลายหินอ่อน เหมือนกันกับ top ของเคาน์เตอร์ครัวค่ะ ซึ่งอาจจะบวมน้ำได้ง่าย การใช้งานจึงควรระวังน้ำนองขัง วางแก้วน้ำก็อย่าลืมที่รองแก้วนะคะ

โต๊ะนี้ก็จะมีดีไซน์ตู้เก็บของอยู่ด้านใต้ด้วยค่ะ เพิ่มพื้นที่เก็บของไปในตัว

หันมาดูที่เคาน์เตอร์ครัวกันบ้าง เคาน์เตอร์ครัวจะกว้างประมาณ 1.20 เมตร ติดกระเบื้องให้เป็น back splash ที่ด้านหลังเคาน์เตอร์ เพื่อที่จะทำความสะอาดได้ง่าย ตรงนี้จะมีอ่างล้างจาน และเตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันให้มาค่ะ เป็นของ Lucky Frame

ตรงนี้จะ Built-in ตู้และชั้นวางของให้ทั้งด้านบนและด้านล่างค่ะ อย่างด้านบนตัวชั้นก็จะดีไซน์ให้มีชั้นวางไมโครเวฟ และเก็บพวกจาน ชาม อุปกรณ์ทำครัวต่างๆได้ ส่วนด้านล่างก็จะเป็นตำแหน่งวางเครื่องซักผ้า และมีตู้เก็บของใต้อ่างล้างจาน เราสามารถวางถังขยะเอาไว้ตรงนี้ได้นะคะ

ถัดเข้ามาภายในส่วนพักผ่อนค่ะ ห้องนี้จะเป็นห้อง Studio ซึ่งจะรวมพื้นที่ห้องนอนและส่วนพักผ่อนเอาไว้ด้วยกัน พื้นที่จะลึก 3.50 เมตร มีหน้ากว้าง 2.75 เมตรค่ะ ส่วนความสูงของห้องจะอยู่ที่ 2.45 เมตร พื้นห้องเป็นสมาร์ท ไวนิล ผนังฉาบเรียบทาสีขาวนะคะ

ติดกับประตูบานเลื่อนกระจกจะเป็นมุมพักผ่อน ระยะดูทีวีกว้าง เดินผ่านเข้า-ออกได้สบาย ดูแล้วไม่อึกอัด

โซฟาที่ได้จะดีไซน์แบบนี้ค่ะ

ฝั่งตรงข้ามกับโซฟาจะเป็นตำแหน่งสำหรับวางทีวีนะคะ ตรงนี้จะไม่ได้ทำ Built-in ให้ หาชั้นวางทีวีมาวางได้ หรือจะติดทีวีไว้กับผนังแบบห้องตัวอย่างก็ได้ค่ะ

ส่วนเตียงที่ได้จะเป็นฐานเตียงขนาด 5 ฟุต ไม่มีฟูกนะ บริเวณฐานเตียงนี้ก็จะมีฟังก์ชันลิ้นชักอยู่ด้วย สามารถเก็บข้าวของได้ค่ะ

เนื่องจากห้องมีขนาดกะทัดรัด ตำแหน่งเตียงจึงต้องวางชิดหน้าต่างนะ (สามารถเว้นระยะ 10-20 ซม.ได้เผื่อระยะของผ้าม่าน) ตัวกระจกได้บานค่อนข้างใหญ่เลย เพื่อให้แสงสว่างธรรมชาติจากภายนอก ส่องเข้ามาในห้องได้อย่างเต็มที่ค่ะ

ห้องนี้เป็น Studio exclusive ส่วนที่พิเศษขึ้นมาจะเป็นโซนแต่งตัวค่ะ ถือว่าเป็น walk-in closet แยกจากพื้นที่พักผ่อนเป็นสัดส่วนนะ พื้นที่ตรงนี้จะอยู่หลังทีวีค่ะ ได้ตู้เสื้อผ้ามาดีไซน์แบบในรูปเลย แต่จะไม่มีโต๊ะเครื่องแป้งนะ โดยพื้นที่สำหรับโต๊ะเครื่องแป้งจะมีขนาดกว้างประมาณ 85 ซม.ค่ะ

ฟังก์ชันในตู้เสื้อผ้าก็ได้มาครบเลย มีชั้นวางของ ราวแขวนผ้า ตัวตู้จะยาว 1.2 เมตร

พื้นที่ระเบียงจะเชื่อมกับโซนแต่งตัวค่ะ โดยระเบียงจะปูพื้นด้วยกระเบื้องนะ มีขนาด 1.80×0.70 เมตรโดยประมาณ

ฟังก์ชันระเบียงหลักๆก็จะเป็นส่วนตากผ้า เปิดประตูระบายอากาศได้ และเป็นตำแหน่งสำหรับวาง Condensing unit ของแอร์ค่ะ

ฝั่งตรงข้ามกับระเบียงจะเป็นห้องน้ำ โดยห้องน้ำของ studio exclusive นี้จะเป็นห้องที่เข้า-ออกได้ 2 ทาง จากครัว หรือ จากโซนแต่งตัวก็ได้

ฟังก์ชันภายในห้องน้ำก็จะแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งออกจากกันค่ะ ใช้กระเบื้องกรุพื้นและผนัง แต่เพิ่มลูกเล่นด้วยการเลือกกระเบื้องที่มีลวดลายเหมือนหินขัด terrazzo ทำให้ห้องน้ำดูมีสีสันมากขึ้นนะ

สุขภัณฑ์ต่างๆภายในห้องน้ำจะได้ของ hafele ค่ะ อ่างล้างหน้าก็จะเป็นรุ่นที่กะทัดรัดหน่อย แต่มี built-in ชั้นวางของใต้อ่างมาดูเรียบร้อยสวยงาม

ห้องอาบน้ำจะมีธรณีประตูยกสูงขึ้นมา กันน้ำไหลล้น แต่จะไม่ได้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้นะคะ เราสามารถเลือกม่านมาติดหรือว่าฉากกั้นมาติดภายหลังเองได้ไม่ยาก พื้นที่โซนอาบน้ำจะมีขนาด 1.0×0.9 เมตรค่ะ ถือว่ายังเป็นระยะใช้งานได้สะดวก


1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม.

ห้องตัวอย่างแบบต่อมาที่จะพาไปดูเป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม.ค่ะ ห้องนี้ถือว่าเป็นห้องที่ขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย แต่ได้ครัวปิด แยกเป็นสัดส่วนจริงจังเลย โดยตัวห้องถ้าเราดูจากแปลนก็จะแยกเป็นสองฝั่ง ซ้าย-ขวา ฝั่งซ้าย หลังจากเข้าห้องมาจะเป็นส่วนพื้นที่นั่งเล่นและกินข้าว ถัดลึกเข้าไปจะเป็นห้องนอน แยกพื้นที่จากโซนนั่งเล่นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ส่วนทางฝั่งขวาของห้องจะเป็นพื้นที่ service อย่างครัว ระเบียงและห้องน้ำค่ะ

เข้ามาภายในห้อง ส่วนแรกที่เจอเป็นพื้นที่นั่งเล่นนะคะ ส่วนนี้จะมีหน้ากว้าง 2.9 เมตร

เป็นตำแหน่งสำหรับวางโซฟาพักผ่อนและมุมดูทีวี ถ้ารวมกับพื้นที่วางโต๊ะกินข้าวแล้วจะมีความลึกอยู่ 3.2 เมตร

ดีไซน์ของโซฟานั้นจะเหมือนกับตัวอย่างโซฟาในห้อง Studio exclusive ที่เราพาไปชมกันก่อนหน้านะคะ

นอกจากทีวีแล้ว ผนังฝั่งนี้เราสามารถจัดเป็นชั้นวางของ ชั้นวางรองเท้าได้นะคะ

ส่วนมุมโต๊ะกันข้าวที่ให้มาจะพอสำหรับ 2 ที่นั่ง แต่ดีไซน์เฟอร์นิเจอร์จะไม่ใช่แบบนี้นะคะ ลองสอบถามเรื่องดีไซน์จากทางโครงการดูอีกทีเพื่อความชัวร์ดีกว่านะ

ระหว่างห้องนอนและพื้นที่นั่งเล่น+กินข้าว จะมีประตูบานเลื่อนกระจกคั่นกลางค่ะ แสงสว่างจากภายนอกสามารถส่องถึงห้องนั่งเล่นได้และสามารถเปิดประตูเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศภายในห้องได้นะ

ตัวประตูจะเป็นบานเลื่อนกระจก 3 ตอน เปิดได้ฝั่งเดียวค่ะ

ส่วนห้องนอนนั้นจะมีขนาดประมาณ 2.9×2.9 เมตร ได้ดีไซน์กระจกบานใหญ่เช่นเคย

เตียงที่ได้จะเป็นเตียงขนาด 5 ฟุตค่ะ ไม่มีฟูกให้นะ ส่วนข้างๆเตียงติดกับประตูจะเป็นตำแหน่งวางตู้เสื้อผ้า ดีไซน์ตู้จะเป็นโทนไม้ เหมือนกับห้องที่แล้วค่ะ

ห้องนี้เป็นห้องที่หน้ากว้างเยอะนะ ปลายเตียงถือว่ากว้างเลย เดินสะดวกค่ะ จะมีชั้นวางทีวีมาวางเพิ่มก็ได้อยู่นะ

นอกจากนี้ข้างๆประตูยังสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งได้อีกค่ะ

เดี๋ยวเราจะไปดูห้องครัวกันต่อนะ ซึ่งหน้าห้องครัวจะมีประตูบานเลื่อนอยู่ค่ะ แต่ในห้องตัวอย่างไม่ได้ติดไว้ให้ดู

ครัวจะเป็นครัวปิดแนวยาวติดกับระเบียงด้วย ขนาดเคาน์เตอร์ครัวก็ใหญ่ขึ้นด้วย

ทางเดินมีระยะประมาณ 90 ซม. เดินเข้า-ออกใช้งานสะดวก

ครัวก็มีชั้นวางของตู้บนล่างครบ วางไมโครเวฟ เครื่องซักผ้าได้ มีอ่างล้างจานและเตาไฟฟ้าให้มาของ lucky frame ค่ะ โดยเครื่องดูดควันจะเป็นแบบหมุนเวียนภายในนะคะ เนื่องจากครัวติดกับระเบียงอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาเรื่องระบายอากาศแน่นอนค่ะ แต่ถ้าเป็นห้องแบบ 1 Bedroom plus ที่ครัวอยู่ด้านในห้องได้ติดระเบียง จะได้เครื่องดูดควันเป็นแบบต่อท่อออกนอกอาคารแทนค่ะ

ติดกับครัวจะเป็นระเบียง เวลาทำอาหารเราก็สามารถเปิดประตูเพื่อช่วยให้ระบายอากาศเพิ่มได้นะ โดยพื้นที่ระเบียงตรงนี้จะมีขนาดอยู่ที่ 1.0×1.3 เมตร เป็นพื้นที่ซักล้าง ตากผ้า วาง condensing unit ค่ะ

ส่วนด้านในจะเป็นห้องน้ำค่ะ โดยห้องน้ำนี้จะมีดีไซน์ วัสดุและชนิดของสุขภัณฑ์เหมือนกันไปทุกห้อง ของ hafele ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำนะ


1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตร.ม.

ห้องตัวอย่างห้องสุดท้ายที่มีอยู่ใน Sale gallery จะเป็นห้อง 1 Bedroom plus คลิกเลื่อนดูรูปบรรยากาศของห้องทางด้านล่างได้เลยค่ะ

1 Bedroom Plus ถือว่าเป็นห้องที่ได้ฟังก์ชันครบและแบ่งเป็นสัดส่วน โดยจะได้ครัวปิด ห้องน้ำสามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง เวลาที่มีแขกมาเยี่ยมก็ไม่ต้องผ่านห้องนอนเพื่อไปใช้ห้องน้ำ พื้นที่กินข้าว+นั่งเล่นก็ถือว่าจัดได้สบายไม่อึดอัด ห้องอเนกประสงค์จะใช้เป็นห้องทำงานก็ได้หรือจะเป็นห้องนอนวางเตียง 3-3.5 ฟุตก็ได้เช่นกันค่ะ ส่วนตัวห้องนอนก็เป็นห้องปิด เป็นสัดส่วน ในกรณีที่อยู่กัน 2 คน คนหนึ่งนอนพักผ่อน อีกคนดูทีวีก็ไม่รบกวนกันค่ะ

Image 1/29


ผังห้องอื่นๆ

นอกจากห้องตัวอย่าง 3 ห้องที่มีอยู่ที่ Sale Gallery แล้ว โครงการนี้ก็ยังมีห้องแบบอื่นๆอยู่ด้วยนะคะ เราลองไปดูแปลนห้องอื่นๆกันซักนิดดีกว่า

Studio แบบนี้จะเป็นห้องเริ่มต้นภายในโครงการเลย โดยมีผังคล้ายกับโรงแรม คือได้เป็นครัวเปิด เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยจะทำอาหารกินเองค่ะ ห้องนี้คิดว่าอยู่ 1 คนได้แบบสบายๆเลย ฟังก์ชันที่ขาดไปก็จะเป็นโต๊ะกินข้าว แต่ปรับใช้โต๊ะหน้าโซฟาหรือว่าโต๊ะทำงานข้างหน้าตามาแทนได้ค่ะ

ห้อง Studio ขนาดเล็กอีกห้องจะเป็นห้องที่เหมาะสำหรับอยู่ 2 คนมากกว่าแปลนเมื่อสักครู่นะคะ เนื่องจากจะวางเตียงไว้กลางห้อง สามารถขึ้น-ลงได้สองฝั่ง ได้ครัวปิดด้วยสามารถทำอาหารได้ กลิ่นและควันจากการทำอาหารไม่ไหลลอยไปเกาะตามโซฟาหรือฟูกค่ะ

วัสดุที่ได้ภายในห้อง

  • พื้นห้อง สมาร์ทไวนิล
  • พื้นห้องน้ำและระเบียง กระเบื้อง
  • ผนังห้องฉาบเรียบทาสีขาว
  • ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว
  • ไฟ ดาวน์ไลท์แบบฝังฝ้า
  • สุขภัณฑ์ในห่องน้ำ ของ Hafele
  • เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจานของ Lucky Frame
  • Digital Door Lock ของ Samsung

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคา

6 January 2021

  • Studio ขนาด 21.50-23.55 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.59 – 2.75 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยต่อตร.ม. เริ่มต้น 73,954 บาท
  • Studio Exclusive ขนาด 23.75-25.35 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.69 – 2.85 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยต่อตร.ม. เริ่มต้น 71,158 บาท
  • 1 Bedroom ขนาด 27.95-28.85 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.68 – 3.36 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยต่อตร.ม. เริ่มต้น 95,886 บาท
  • 1 Bedroom plus ขนาด 35.00-36.05 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.52 – 4.08 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยต่อตร.ม. เริ่มต้น 100,572 บาท

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.45 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท็อปเมลามีน
  • Hob & Hood / ของยี่ห้อ Lucky Frame
  • จอง 10,000 บาท
  • ทำสัญญา 20,000-40,000 บาท
  • ผ่อนดาวน์ 17 งวด
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :
แยกบางเขนเป็นจุดตัดระหว่างถนนงามวงศ์วานและถนนวิภาวดี-รังสิต เป็นทำเลที่ประกอบไปด้วยสถานศึกษา แหล่งงานและสถานที่ราชการมากมายค่ะ บริเวณนี้มีการพัฒนาทางด้านการคมนาคมอย่างต่อเนื่องทั้งการทำอุโมงค์ข้ามแยกเกษตร แนวรถไฟฟ้าสายสีแดงที่ใกล้จะเปิดให้ใช้งาน และในอนาคตที่จะมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลขึ้นมาอีกด้วยค่ะ แต่ระหว่างการก่อสร้างต่างๆก็ทำให้การจราจรบริเวณนี้ถือว่าติดหนักอยู่เหมือนกัน น่าเหนื่อยใจแทนคนที่ต้องเดินทางมาเรียนหรือทำงานบริเวณนี้นะคะ ดังนั้น คอนโดหรือที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทำงานจึงเป็นอีกตัวเลือกของคนที่ต้องมาใช้ชีวิตเเถวนี้ค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ :
เนื่องจากโครงการ Oneder เกษตร เป็นโครงการที่ติดถนนใหญ่ จึงทำให้ไปใช้งานได้ทั้งถนนงามวงศ์วานและถนนวิภาวดี-รังสิตได้ง่าย เข้าและออกเมืองได้สบาย แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่นิดหน่อยตรงที่จากหน้าโครงการนั้นไม่สามารถขับขึ้นสะพานข้ามแยกบางเขนได้ ดังนั้นถ้าใครจะไปทางฝั่งถนนประเสริฐมนูกิจ ก็จะต้องเลี้ยวไปกลับรถที่ถนนวิภาวดีก่อน แล้วจึงเลี้ยวเข้าถนนงามวงศ์วานมุ่งหน้ารามอินทราได้ค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
ในส่วนของการเลือกใช้รถสาธารณะนั้น โชคดีที่โครงการอยู่ติดถนนใหญ่ และเป็นถนนสายหลักที่มีรถสาธารณะขับผ่านหลากหลาย ทั้งรถเมล์ Taxi และมีรถไฟฟ้าสายสีแดงที่กำลังจะเปิดใช้งาน คิดว่าโครงการสร้างเสร็จก็ใช้งานรถไฟฟ้าได้ค่ะ นอกจากนั้นก็จะมีสะพานลอยอยู่หน้าการไฟฟ้าที่อยู่ข้างโครงการ เดินข้ามไปขึ้นรถเมล์ไปเดอะ มอลล์ งามวงศ์วานได้สบายเลยค่ะ

วัสดุ :
Oneder เกษตร ขายห้องเป็นแบบ Fully Furnished คือขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักๆภายในห้อง เช่น โซฟา ตู้เสื้อผ้า ฐานเตียงนอน(ปริมาณเฟอร์นิเจอร์ขึ้นอยู่กับแบบห้องนะคะ สอบถามกับเซลล์ของโครงการกันอีกทีนะ) ส่วนวัสดุภายในห้องก็จะมีที่ได้ตามมาตรฐานของราคา และที่ดีกว่ามาตรฐาน เช่นพื้นสมาร์ทไวนิล ที่ดีและทนกว่าลามิเนตที่เห็นทั่วๆไป ภายในครัวจะได้ชุดครัวของ Lucky frame พร้อม built-in ตู้เก็บของต่างๆ ส่วนในห้องน้ำจะได้สุขภัณฑ์ของ Hafele ในเรื่องของวัสดุจะมีจุดที่ควรระวังคือ Top ของครัวที่จะได้เป็นเมลามีน มีสิทธิ์บวมได้ถ้าเจอความชื้นหรือเปียกนานๆ ส่วนพื้นที่อาบน้ำนั้นจะไม่มีฉากกั้นให้ อาจจะต้องหางบติดม่านหรือฉากกั้นกระจกเพิ่มเติมค่ะ

การออกแบบ :
ตัวโครงการแบ่งเป็น 3 อาคาร ใช้ส่วนกลางร่วมกัน โดยการวางผังเป็นไปตามมาตรฐาน แต่ว่ามีการออกแบบ interior ที่ดูสวยงาม เข้า concept ALICE in Oneder land ดูน่าค้นหาค่ะ โดยรูปแบบห้องพักของที่นี่จะมีขายเฉพาะ studio และ 1 bedroom แต่ก็มีหลายแบบให้เลือก ครัวเปิด ครัวปิด แบบ 1 bedroom plus จะได้ห้องอเนกประสงค์เพิ่ม หรือ studio exclusive ที่ได้ทั้งครัวปิด ห้องน้ำเข้าได้สองทางและมี walk-in closet ในตัวก็เป็นอีกผังห้องที่น่าสนใจค่ะ

สาธารณูปโภค :
พื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการนี้มีมากกว่า 2 ไร่ มีทั้ง indoor และ outdoor อยู่ที่ชั้น 1, ชั้น 2 ภายในอาคาร และชั้นดาดฟ้า มีฟังก์ชันที่หลากหลาย ทั้งฟังก์ชันทั่วไปอย่างสวน สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และมีฟังก์ชันสนุกๆอย่าง co-working, co-kitchen, co-living ห้องดู netflix เป็นต้นค่ะ มีดีไซน์ที่ดูมีสีสัน สนุกสนานด้วยค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 8x,xxx บาท/ตร.ม., 6 January 2021

  • ทำเล 8.25/10 – ติดถนนใหญ่ใกล้แยกบางเขน
  • เดินทางด้วยรถ 7.25/10 – ขึ้นสะพานข้ามแยกไม่ทัน สัดส่วนที่จอดรถไม่เยอะ 36%
  • ไม่ใช้รถ 8/10 – มีตัวเลือกหลากหลาย
  • วัสดุ 7.75/10 – ให้มาเหมาะสมราคา fully furnished
  • แบบ 8.25/10 – ออกแบบมี concpet ฟังก์ชันลงตัว
  • สาธารณูปโภค 8.5/10 – ส่วนกลางเยอะ หลากหลาย

  • MAIN CLASS
  • 8.01 / 10.00

BOTTOM LINE

Oneder เกษตร เป็นคอนโดใกล้แยกบางเขน เหมาะสำหรับคนบุคลากรในม.เกษตรฯหรือพนักงานที่ทำงานอยู่บริเวณนี้ ที่กำลังมองหาคอนโดอยู่ 1-2 คน มีส่วนกลางให้ใช้ครบครัน เดินทางสะดวก มีงบประมาณ​ล้านกว่าบาทไปจนถึง 4 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนอยู่ที่ 12,000-30,000 บาทต่อเดือน


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะคะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc