Nue Riverest ราษฎร์บูรณะ คอนโด High Rise – Mid Rise ติดแม่น้ำ เริ่ม 1.79 ล้าน จาก Noble Development [รีวิวฉบับที่ 2443]

Nue Riverest Ratburana (นิว ริเวอร์เรสต์ ราษฎร์บูรณะ) ณ วันที่ 24 ตุลาคม 2565

Highlights

• โครงการ Nue Riverest ราษฎร์บูรณะ มีจุดเด่นของทำเลที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาเลย ซึ่งคอนโดรอบๆ แม่น้ำในโซนราษฎร์บูรณะ-พระราม 3 ที่เหลือขายตอนนี้จะเป็น “คอนโดวิวแม่น้ำ” ซะเป็นส่วนใหญ่ มองเห็นวิวแม่น้ำได้อย่างเดียวไม่ได้มี Facilities ริมน้ำได้เหมือน “คอนโดริมแม่น้ำ” ดังนั้นทำเลติดริมน้ำแบบ Nue Riverest ราษฎร์บูรณะ จึงเป็นของหายากนะคะ

พิกัด Google Maps : 13.675935, 100.516679
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

คอนโด Nue Riverest ราษฎร์บูรณะ ตั้งอยู่ริมถนนใหญ่ราษฎร์บูรณะ ใกล้ๆ กับคอนโดรุ่นเก๋าที่บุกเบิกโซนนี้มานานร่วม 10 ปีอย่าง Chapter One Modern Dutch ซึ่งโซนราษฎร์บูรณะนี้เป็นย่านที่ครบรสดีนะคะ เพราะผสมผสานความสงบของชุมชนที่อยู่อาศัยดั้งเดิมไม่จอแจแบบถนนสุขสวัสดิ์ แต่แค่ข้ามแม่น้ำมาก็ถึงตัวเมืองพระราม 3 และยังใกล้กับพื้นที่ธรรมชาติอย่างบางกระเจ้า แต่ก็ไม่ได้เห็นคอนโดเปิดใหม่ในทำเลนี้นานแล้วนะคะ

ส่วนตัวมองว่าทำเลของ Nue Riverest ราษฏร์บูรณะนี้เหมาะสำหรับทั้งคนที่ทำงานฝั่งธนบุรีและฝั่งพระนครเลยนะ แต่อาจมีเหตุผลในการซื้อต่างกัน …ในแง่ของคนที่ทำงานอยู่ฝั่งพระราม 3  ก็ยังพอมีคอนโดมือหนึ่งที่ราคาต่อตารางเมตรใกล้ๆกัน รอบแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งพระราม 3 ให้เลือก แต่ว่าส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดวิวแม่น้ำ ส่วนคอนโดริมน้ำมือหนึ่งก็มีค่ะแต่ Package ราคาจะสูงกว่าที่นี่ 2-3 ล้านจับต้องไม่ได้ เพราะเป็นห้องขนาดใหญ่หน่อย Nue Riverest จึงเป็นทางเลือกของคนที่อยากได้คอนโดติดริมแม่น้ำเลย ในราคาหยิบจับง่ายงบ 2-3 ล้านจ่ายได้ เดินทางข้ามสะพานไปทำงานได้ไม่เป็นไร

ส่วนในแง่ของคนทำงานฝั่งธนบุรีนั้นไม่ว่าจะทำงานแถวราษฏร์บูรณะ พระประแดง, สุขสวัสดิ์หรือประชาอุทิศ ก็เดินทางได้สะดวกทั้งหมด ซึ่งที่อยู่อาศัยโซนนี้จะเป็นแนวราบซะส่วนใหญ่ แต่หากใครสนใจขยับขยายครอบครัวมาอยู่คอนโดริมน้ำแทนการอยู่บ้านที่นี่ก็ตอบโจทย์ค่ะ

การเดินทางเข้าเมืองต้องใช้สะพานข้ามแม่น้ำเป็นหลัก โดยสะพานหลักๆ 2 เส้นที่ใช้ก็คือสะพานพระราม 9 (ทางด่วน) และสะพานภูมิพล (วงแหวนอุตสาหกรรม) โดยทั้งสองสะพานจะต้องขึ้นลงที่ถนนสุขสวัสดิ์ ทำให้จะต้องเดินทางมากกว่าปกติหน่อย ต้องเข้าซอยทางลัดไปสุขสวัสดิ์ก่อนเพื่อไปข้ามแม่น้ำ แต่ถ้าใครไม่ต้องข้ามแม่น้ำก็สามารถเดินทางได้สะดวกขึ้นมาก

หากต้องการใช้รถสาธารณะก็สะดวกพอสมควร มีป้ายรถเมล์และวินมอเตอร์ไซค์อยู่ไม่ไกลจากหน้าโครงการค่ะ ประมาณ 50 เมตร และสามารถเรียกรถแท็กซี่หรือรถสองแถวได้จากหน้าโครงการเลย

ในอนาคตจะมีอีกตัวช่วยหนึ่งในการเดินทางคือ สะพานคู่ขนานสะพานพระราม 9 ที่กำลังก่อสร้างกันอยู่นะคะ ซึ่งสะพานนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ขนาด 8 ช่องจราจร ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้การจราจรเชื่อมโยงระหว่างตัวเมืองกรุงเทพกับโซนปริมณฑลฝั่งตะวันตกดีขึ้นนะคะ คาดว่าจะเปิดใช้ได้ในปี 2567 ถ้าเป็นไปตามแผนก็เสร็จก่อนโครงการ Nue Riverest ด้วยนะคะ ทันใช้พอดี

นอกจากนี้ในอนาคตยังมีอีกตัวช่วยหนึ่งคือ รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้เชื่อมต่อจากสถานีเตาปูน  ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2570 ซึ่งโครงการจะมี Shuttle Van รับ-ส่งใกล้รถไฟฟ้าด้วยนะคะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

แม้ว่าโครงการ Nue Riverest ราษฎร์บูรณะ จะมีตำแหน่งแปลงที่ดินที่อยู่ใกล้คอนโด Chapter One Modern Dutch ที่สูง 27-31 ชั้น แต่ด้วยบริยทโดนรอบที่เป็นโกดังและชุมชนแนวราบเสียเป็นส่วนใหญ่ทำให้โครงการสามารถออกแบบให้หลบหลีกการบังวิวได้ดีพอสมควรเลยนะคะ โดยไปเน้นให้ห้องพักส่วนใหญ่อยู่ทางฝั่งที่ติดกับโกดังแทน สรุปได้ดังนี้

• ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ติดกับ แม่น้ำเจ้าพระยา
• ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ติดกับ โกดังสูงพอๆ กับบ้าน 2 ชั้น
• ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ติดกับ โครงการบ้านริมน้ำ Noble Aqua (ในอนาคต) ถัดไปเป็นคอนโด Chapter One Modern Dutch สูง 27-31 ชั้น ตัวอาคารห่างจากโครงการประมาณ 100 เมตร++
• ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ติดกับ โกดังสูงพอๆ กับบ้าน 2 ชั้น

บรรยากาศโดยรอบโครงการ

บรรยากาศภายในที่ดินโครงการ

บรรยากาศโครงการบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า

• Big C ~ 2.1 km.
• Terminal 21 พระราม 3 ~ 9.7 km.
• ICON SIAM ~ 10.5 km.
• Central พระราม 3 ~ 11.2 km.
• Central พระราม 2 ~ 12.2 km.

สำนักงาน

• ธนาคารกสิกร สาขาสำนักงานราษฎร์บูรณะ ~ 550 เมตร
• สำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ~ 9.3 km.

ตัวช่วยในการเดินทาง

• ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ~ 4 km.
• ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ด่านสุขสวัสดิ์ ~ 5 km.
• สะพานคู่ขนานสะพานพระราม 9 (กำหนดเปิดใช้ปี 2567)
• รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีราษฎร์บูรณะ (คาดว่าแล้วเสร็จปี 2570)

Highlights

• ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาทกับคอนโด “ริมแม่น้ำ” ไม่ใช่ “วิวแม่น้ำ” จึงเป็นของหายากในโซนนี้
• เป็นคอนโดใหญ่จำนวน 1,517 ยูนิต แต่ออกแบบมาเป็นกลุ่มคอนโด High-Mid Rise 8 อาคาร เพื่อกระจายผู้อยู่อาศัยออกไปในแต่ละตึก ทำให้ในหลายๆ อาคารอย่าง A,B,C,D,G,H มีจำนวนห้องต่อชั้นเพียง 4-10 ยูนิตเท่านั้น
• Pet Friendly มีอาคารที่อนุญาตให้สามารถเลี้ยงน้องหมาน้องแมวได้อย่างถูกกฎระเบียบ
• มี Facilities ส่วนกลางหลากหลายทั้ง Sky Zone, River Zone, Forest Zone, Valley Zone

Nue Riverest ราษฎร์บูรณะ เป็นคอนโดเปิดใหม่ริมน้ำเจ้าพระยาที่ทำราคาออกมาได้เร้าใจเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท!! แต่ถ้าดูราคาต่อตารางเมตรจะตกประมาณ 9x,xxx บาท ซึ่งถือว่าราคาเกาะกลุ่มกับเพื่อนๆ รอบแม่น้ำในโซนนี้นะคะ สิ่งที่ทำให้โครงการสามารถทำราคา Package เราใจได้ก็เพราะโครงการวางห้อง Studio, 1 Bed, 1 Bed Plus ขนาด 20-30 กว่าตร.ม. ไว้เป็นห้องส่วนใหญ่ของโครงการ แต่ห้องขนาดใหญ่ 2-3 Bedroom ก็มีนะคะ ทำให้ช่วงราคากว้างมาก 1.79 – 15 ล้านบาทเลยค่ะ

เราคงเห็นคอนโดแบรนด์ Nue ของโนเบิลในหลายๆ ทำเลใช่มั้ยคะ แต่โครงการนี้จะเป็นโครงการแรกที่เป็นคอนโดริมแม่น้ำจึงมีชื่อห้อยว่า Riverest มาจากคำว่า River+Urban Forest การออกแบบโครงการจึงทำให้แต่ละตึกเรียกตัวสูงต่ำ มีลักษณะเหมือนภูเขาที่เป็นต้นกำเนิดของสายน้ำ และออกแบบให้บรรยากาศดูเขียวชอุ่มเป็นเสมือนป่าในเมือง

ก่อนจะไปชมบรรยากาศของแต่ละชั้น เราจะอธิบายภาพรวมโครงการกันอีกสักนิดค่ะ Nue Riverest ราษฎร์บูรณะ เป็นกลุ่มคอนโด High Rise-Mid Rise ทั้งหมด 8 อาคาร สูง 18-35 ชั้น จำนวน 1,517 ยูนิต บนพื้นที่ประมาณ 12 ไร่ แม้ว่าจำนวนยูนิตของโครงการจะเยอะแต่พอออกแบบมาเป็น 8 อาคาร ก็ช่วยลดความอึดอัดลงได้ ทำให้ในหลายๆ อาคารอย่าง A,B,C,D,G,H มีจำนวนห้องต่อชั้นเพียง 4-10 ยูนิตเท่านั้น

โครงการนี้มี Facility ส่วนกลางเยอะและหลากหลายมากนะคะ ซึ่งแยกเอาไว้ในหลายโซน ได้แก่ Forest Zone เป็นพื้นที่พักผ่อนในสวน, Jogging Track, พื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง ส่วน Sky Zone จะเป็นส่วนกลางที่รองรับการสังสรรค์ ปาร์ตี้แบบ Indoor อยู่บนชั้น 35 ของอาคาร B และ C มีจุดเด่นคือวิวเมืองมุมสูง อีกโซนหนึ่งคือ River Zone เน้นไปทางฟังก์ชันที่เกี่ยวกับการออกกำลังกาย ตั้งอยู่ริมน้ำเลย เปิดให้เห็นวิวแม่น้ำแบบเต็มๆ

หากใครกังวลว่าอาคารที่พักอาศัยอยู่คนละตึกกับ 3 Zone นี้แล้วจะเข้าถึงลำบาก เพราะเค้ามีทางเชื่อมบริเวณชั้น 2 ที่ทอดยาวเชื่อมทุกตึกเข้าไว้ด้วยกัน และมีรถกอล์ฟคอยรับ-ส่งภายในโครงการด้วยค่ะ  ซึ่งเราสามารถสรุปสิ่งอำนวยความสะดวกได้ ดังนี้

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• ชั้น 1  : Valley Zone

• Lobby (ทุกอาคาร)
• Mail Room (ทุกอาคาร)
• Laundry (ทุกอาคาร)
• Delivery Station (ทุกอาคาร)
• Co-Working Space
• Multi-Function Room
• Meeting Room
• Kids Club (ตึก G)

• Connecting Sky Path

• Sky Lounge All-day Bar
• Sky Theatre
• Sky Co-Kitchen
• Party Room
• Sky Spa
• Private Onsen
• Stream/Sauna
• Observation Bridge

• River Lounge
• River Deck
• River Fitness Center
• Kids Pool ระบบเกลือ ขนาด 6 x 6 เมตร ลึก 0.5 เมตร
• Leisure Pool ระบบเกลือ ขนาด 10 x 27 เมตร
• Lap Pool ระบบเกลือ ขนาด 7 x 25 เมตร

• Passive Park
• Forest Cocoon
• Playscape
• Pet Park
• Sunken Lawn
• Jogging Track
• Stream Pavilion

• ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• Shuttle Van to Nearest BTS
• Shuttle Cart Service
• ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 94 :  1
• ที่จอดรถประมาณ 678 คันคิดเป็น 44%
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card

ต่อไปเราจะพาชมรายละเอียดแต่ละชั้นกันนะคะ

Ground Floor

โครงการ Nue Riverest ราษฎร์บูรณะ ตั้งอยู่บนที่ดินแปลงยาว มีระยะจากถนนราษฎร์บูรณะถึงริมน้ำประมาณ 440 เมตร ส่วนแรกที่ติดกับถนนจะเป็นซุ้มประตูและร้านค้า จึงแวะช้อปปิ้งก่อนเข้าอาคารพักอาศัยได้สะดวก ถัดเข้ามาด้านในจะเจอกับอาคารที่จอดรถ ซึ่งเป็นที่จอดรถหลักของโครงการ จากตรงนี้จะมีรถกอล์ฟคอยรับส่งลูกบ้านตามอาคารต่างๆ อีกที และอาคาร A-E ก็จะมีช่องจอดรถที่ชั้น 1 ได้อีกนิดหน่อย รวมแล้วประมาณ 44% นะคะ

การจัดวางอาคารพักอาศัยทั้ง 8 เป็นแบบล้อมคอร์ท ซึ่ง Forest Zone ก็จะกระจุกรวมกันอยู่ที่คอร์ทตรงกลางนี่เอง..ทำให้ผู้อยู่อาศัยในแต่ละอาคารเข้าถึงพื้นที่ส่วนกลางได้สะดวกและยังเป็นวิวให้กับห้องพักที่หันเข้าในโครงการด้วยนะคะ ส่วนสระว่ายน้ำจะตั้งอยู่ติดริมน้ำเป็นวิวให้กับอาคาร H เป็นหลัก และเป็นพื้นที่ให้ออกมาเดินรับลมชมวิวริมน้ำกันได้

เข้ามาด้านในของแต่ละอาคารก็จะมี Lobby เป็นของตัวเอง และมี Valley Zone ในทุกตึก แต่ละอาคารจะมีลิฟต์ 2 ตัว สรุปเป็นอัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 94 : 1 ไม่หนาแน่นนักค่ะ

การตกแต่งภายในอาคารยังคงคุมธีมความเป็นธรรมชาติ โดยมีคอนเซปต์มาจากแสงแดด ที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละช่วงเวลาค่ะ

ส่วนแรกบริเวณหน้าโครงการจะมีร้านค้าทั้งหมด 4 ร้าน คอยอำนวยความสะดวกให้ลูกบ้านช้อปปิ้งก่อนเข้าขึ้นห้องพักได้

ถัดเข้ามาด้านในจะเจอกับอาคารที่จอดรถ วนจอดแบบ Conventional ตัวอาคารจะถูกคลุมด้วยต้นไม้เพื่อให้เข้ากับความเป็น Urban Forest

บรรยากาศ Passive Park ใน Forest Zone ที่ออกแบบมาให้ได้ความสงบเหมาะกับการพักผ่อน ซึ่งเค้าทำซุ้มพักผ่อนเป็นซุ้มเล็กๆ ให้ได้ความเป็นส่วนตัวเหมือนรังไหมในธรรมชาติ

ใครที่รักการวิ่งก็สามารถมายืดเส้นยืดสายที่ Jogging Track ได้นะคะ ซึ่งเส้นทางก็คาดว่าน่าจะวนไปชมวิวริมน้ำได้นะคะ

หากถามว่าเลือกอยู่อาคารไหนดี A-F ? เราคิดว่าแต่ละอาคารมีความน่าสนใจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าใครให้น้ำหนักกับเรื่องไหนมากน้อยกว่ากัน ไปดูกันทีละตึกนะคะ…

อาคาร A มีจุดเด่นในเรื่องของทำเลที่อยู่ติดกับอาคารจอดรถที่สุด ใกล้กับทางเข้าที่สุด และราคาที่หยิบจับง่าย เพราะห้องพักหลักๆ วางไว้เป็นห้อง 1 Bedroom ประมาณ 30 ตร.ม. ใครที่เดินทางด้วยรถสาธารณะหรือไม่อยากรอรถกอล์ฟของโครงการ เลือกอาคารนี้กันเข้าออกง่ายสุดค่ะ

Typical Floor Plan ของอาคารนี้คือชั้น 3-16 หากสูงขึ้นไปกว่านี้จำนวนยูนิตก็จะลดลงไปอีกนะคะ ห้องพักของโครงการนี้หลักๆ จะมี 2 ทิศคือตะวันตกเฉียงเหนือและตะวันออกเฉียงใต้

ซึ่งชั้นนี้จะมีห้องพักทั้งหมด 9 ห้อง โดยห้องส่วนใหญ่เป็นแบบ 1 Bedroom ขนาด 30 – 31 ตร.ม. วางตัวอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือซึ่งเป็นทิศที่ได้วิวสะพานพระราม 9 ได้วิวธนาคารกสิกรสวยๆ แบบไม่มีอาคารบังค่ะ ส่วนห้องพักทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จะติดกับอาคารที่จอดรถสูงประมาณ 8 ชั้น และถูกบล็อควิวแม่น้ำด้วยคอนโด Chapter One โครงการจึงวางห้อง Studio 22 ตร.ม. ไว้ทางฝั่งนี้ซึ่งคาดว่าน่าจะมีราคาหยิบจับง่ายสุดนะคะ และมีห้อง 1 Bedroom Plus อีกหนึ่งห้อง ซึ่งเป็นห้องมุม Take View ออกไปทางถนนราษฎร์บูรณะได้แบบไม่โดนบล็อควิวค่ะ

ภาพจำลองชั้น 1 ของอาคาร A ที่ตกแต่งมาในธีม Star Light

อาคาร B และ C เป็นอาคารที่สูงสุดของโครงการจึง Take View ได้ไกล จุดเด่นของอาคารนี้คือมี Sky Facilities อยู่ที่ชั้น 35 และยังอยู่ติดกับ Forest Zone ห้องที่อยู่ในชั้นล่างๆ ประมาณ 3-5 จึงได้วิวสวนด้วยนะคะ ห้องพักของอาคารนี้ยังคงเน้นไปที่ห้องขนาดกระทัดรัด Studio, 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus

Typical Floor Plan ของอาคารนี้คือชั้น 3-33 ซึ่งมีห้องพักทั้งหมด 7 ห้อง เทคนิคการวางห้องพักยังคงวางห้องแบบ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งวิวจะโล่งกว่าห้องพักทิศตะวัออกเฉียงใต้ จึงวางห้องไซส์เล็กแบบ Studio ไว้ให้มีราคาหยับจับง่ายทดแทนกันนะคะ

ภาพจำลองชั้น 1 ของอาคาร B ที่ตกแต่งมาในธีม Twilight ค่ะ

Sky Facilities บนชั้น 35 จะมีทางเชื่อมต่อกันทั้ง 2 อาคาร ซึ่งชั้น 35 นี้จะหลุดพ้นการบังวิวจากอาคารโดยรอบจึงเป็นจุดชมวิวที่สูงสุดของโครงการเลยนะคะ

ภาพจำลองบรรยากาศใน Sky Onsen ที่สามารถชมวิวเมืองมุมสูงได้

โครงการมี Private Spa ไว้เอาใจหนุ่มๆ สาวๆ ที่ชอบนวดผ่อนคลายกันด้วย โดยลูกบ้านสามารถจองใช้ห้อง โดยให้ Therapist ส่วนตัวมาดูแลที่โครงการได้เลย

สำหรับสายปาร์ตี้จะมี Bar ไว้รองรับการจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ของครอบครัวหรือแกงค์เพื่อนด้วยนะคะ

นอกจากนี้ยังมี Sky Co-Kitchen ที่สามารถชวนครอบครัวมาทานข้าวพร้อมชมวิวได้ หรือหากเป็น Youtuber หมวดอาหารก็มีครัวสวยๆ ให้เป็นสถานที่ถ่ายงานอีกด้วย

ภาพจำลองบรรยากาศใน Sky Theatre เป็นห้องขนาดใหญ่ที่รองรับการใช้งานเป็นกลุ่มได้

อาคาร D จะอยู่บริเวณกลางโครงการ มีความสูงลดหลั่นลงมาจากอาคาร B,C เพื่อไม่ให้บังวิวกันนะคะ เรามองว่าจุดเด่นของอาคารนี้อยู่ที่มีห้อง 1 Bedroom Plus ให้เลือกหลายยูนิต ซึ่งห้อง Type นี้เป็นห้องหน้ากว้าง Take View แม่น้ำไปทางสะพานพระราม 9 แบบที่ไม่มีอะไรบัง และเป็นอาคารสูง 28 ชั้น ยิ่งเลือกชั้นบนก็ยิ่งได้วิวที่กว้างขึ้นค่ะ

Typical Floor Plan ของอาคารนี้คือชั้น 4-19 ซึ่งมีห้องพักทั้งหมด 10 ห้อง เน้นให้ห้องพักทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเป็นห้อง 1 Bedroom Plus เพื่อให้ห้องพักมีมูลค่าสูงหน่อย เพราะ ได้ทั้งห้องหน้ากว้างขนาด 33-37 ตร.ม.และได้วิวดี ส่วนห้องทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ยังคงเน้นเป็นห้อง Studio เพื่อให้ราคาหยิบจับง่าย วิวของห้องพักทางฝั่งนี้เป็น Stack Garden บนอาคาร F

ห้องพักส่วนหนึ่งของอาคาร D จะ Take View สวนเล่นระดับบนอาคาร F ทำให้ห้องที่ได้วิวสวนไม่ใช่แค่ห้องบนชั้นล่างๆ แล้วนะคะ ห้องบนชั้นสูงก็ยังเห็นวิวต้นไม้เขียวๆ ค่ะ

จุดเด่นของอาคาร E จะคล้ายอาคาร D เลยคือมีห้อง 1 Bedroom Plus แบบหน้ากว้างที่ Take View แม่น้ำไปทางสะพานพระราม 9 ให้เลือกหลายยูนิต และขยับเข้ามาใกล้แม่น้ำใกล้สระว่ายน้ำด้วย แต่ตัวอาคารจะไม่ได้สูงเท่าอาคาร D , มีจำนวนยูนิตต่อชั้นค่อนข้างเยอะสูงสุด 17 ยูนิตเลย และห่างจากอาคารจอดรถมากขึ้นค่ะ

Typical Floor Plan ของอาคารนี้คือชั้น 3-7 ซึ่งมีห้องพักทั้งหมด 17 ห้อง เน้นให้ห้องพักทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเป็นห้อง 1 Bedroom Plus เพื่อให้ห้องพักมีมูลค่าสูงหน่อย (กรอบสีน้ำตาล) และมีห้อง 1 Bedroom Plus ที่มีขนาดใหญ่พิเศษเป็นห้องมุม หันหน้าเข้าหาแม่น้ำเลย (กรอบสีแดง) ส่วนห้องทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ยังคงเน้นเป็นห้อง Studio เพื่อให้ราคาหยิบจับง่าย ซึ่งห้องพักบางส่วนจะโดนบล็อควิวด้วยอาคาร F นะคะ

จุดเด่นของอาคาร F คือเป็นอาคารเดียวที่โครงการอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้นะคะ ตัวอาคารจะอยู่ติดกับ Pet Park ให้สามารถพาน้องๆสัตว์เลี้ยงออกไปวิ่งเล่นได้สะดวก

ชั้นที่มีจำนวนเยอะสุดของอาคารนี้คือชั้น 3 ซึ่งมีห้องพักทั้งหมด 27 ห้อง ซึ่งห้องพักในอาคารนี้จะเลือกวางห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย เป็น 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ไม่มี Studio นะคะ เพื่อรองรับการอยู่อาศัยร่วมกับสัตว์เลี้ยงได้สะดวกขึ้น โดยห้องที่มี Value มากกว่าเรามองว่าเป็นห้องทิศตะวันออกเฉียงใต้ที่หันไป Take View นอกโครงการ (กรอบสีน้ำตาล คือ 1 Bedroom 31 ตร.ม.) และ (กรอบสีแดงคือ 1 Bedroom Plus 34 ตร.ม.)

อาคาร G และ H มีจุดเด่นที่อยู่ติดแม่น้ำที่สุดและเป็นอาคารสูงด้วย นับเป็น Rare Item ที่สุดในโครงการเพราะจะได้วิวแม่น้ำที่เคลียร์เลย และยังอยู่ติดกับ Riverfront Facilities ด้วย แต่ก็เป็นอาคารที่ไกลจากอาคารจอดรถมากที่สุดระยะประมาณ 250 เมตร ซึ่งโครงการมีรถกอล์ฟคอยรับส่งหรือหากเดินก็มี Connecting Sky Path บนชั้น 2 และ Cover Walk Way ผ่านสวน เป็นแนวทางเดินช่วยกันแดดกันฝนอยู่ค่ะ

Typical Floor Plan ของอาคาร G และ H ซึ่งมีห้องพักประมาณชั้นละ 4-6 ห้อง ห้องพักส่วนใหญ่เป็นแบบ 2 Bedroom  โดยห้องในกรอบสีแดงคือตำแหน่งห้องที่เราคิดว่าได้วิวดี ก็คือวิวดีเกือบหมดทั้งชั้นเลยนะ และมีห้องที่ได้วิวดีพิเศษคือห้องในกรอบสีน้ำตาล ที่ Take View แม่น้ำได้แบบตรงๆ เห็นทั้งสะพานพระราม9 และสะพานภูมิพลเลยค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศภายใน River Lounge ที่ชั้น 1 ของอาคาร H

ในส่วนของ Riverfront Fitness จะอยู่ที่ชั้น 2 ได้วิวโค้งน้ำแบบกว้างๆ เลยค่ะ

สำหรับสระว่ายน้ำจะอยู่ติดกับแม่น้ำเลยค่ะ ซึ่งนอกจากสระว่ายน้ำที่ไว้ใช้ออกกำลังกายหลักๆ แล้ว ก็จะมี Kids Pool, Leisure Pool , Lap Pool และพื้นที่พักผ่อนริมน้ำด้วยนะคะ

Highlights

• รูปแบบห้อง 1 Bedroom Plus ออกแบบให้เป็นห้องหน้ากว้าง รับวิวแม่น้ำ เป็นแบบห้องที่หายาก
• โครงการขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์ฯ มาครบ ซึ่งได้มากกว่าคอนโดรอบแม่น้ำฝั่งพระราม 3 ที่มักจะขายแบบ Fully Fitted นะคะ
• โครงการมีห้องหลากหลายรูปแบบ หลายขนาดให้เลือก จึงตอบโจทย์ทั้งผู้ที่มีงบประมาณพอจะได้ห้องวิวสวยๆ และผู้ที่มีงบไม่มากนัก 2-3 ล้านที่อยากอยู่คอนโดริมน้ำค่ะ

แบบห้องของโครงการ Nue Riverest ราษฎร์บูรณะ มีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่แบบ Studio เริ่มต้นที่ 22 ตร.ม. ไปจนถึง 3 Bedroom ที่ใหญ่ถึง 105.75 ตร.ม. เหมาะทั้งการอยู่อาศัยคนเดียว, อยู่เป็นคู่, อยู่กับสัตว์เลี้ยง, เป็นบ้านหลังที่ 2 ของครอบครัว และนักลงทุน ซึ่งโครงการออกแบบมาให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในการอยู่อาศัยที่แตกต่างกัน

โดยห้องพักแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือ Nue Collection จะเป็นห้องขนากระทัดรัดหน่อย เป็นห้องส่วนใหญ่ของโครงการ คือ Studio, 1 bedroom และ 1 bedroom Plus อยู่ที่อาคาร A-F ส่วนห้องพักของอาคารริมน้ำ G และ H จะอยู่ในกลุ่ม River Collection มีขนาดใหญ่หน่อย เป็นห้องแบบ 1-3 Bedroom ค่ะ

รูปแบบการขายสำหรับโครงการนี้จะเป็นแบบ Fully Furnished โดยให้วัสดุและเฟอร์นิเจอร์ ดังนี้ค่ะ

วัสดุและเฟอร์นิเจอร์

• พื้นห้องปูด้วยพื้นลามิเนต
• ผนังฉาบเรียบทาสี
• พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลน
• Pantry ครัว
• Top เคาน์เตอร์ครัวหินสังเคราะห์
• Hob&Hood ของ Teka หรือเทียบเท่า ระบายอากาศแบบหมุนเวียน
• สุขภัณฑ์และวัสดุต่างๆ ในห้องน้ำของ American Standard และ COTTO หรือเทียบเท่า
• Digital Door Lock
• เฟอร์นิเจอร์ : ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต, โต๊ะข้างเตียง, ตู้เสื้อผ้า, โซฟา, โต๊ะกาแฟ, ชั้นวางโทรทัศน์, โต๊ะอาหาร, เก้าอี้, ตู้รองเท้า, โต๊ะเครื่องแป้ง+เก้าอี้แต่งหน้า (จำนวนและประเภทที่ให้ขึ้นกับรูปแบบห้อง)
• แอร์แบบ Wall Type 1-4 เครื่อง (ขึ้นอยู่กับรูปแบบห้อง)

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ห้องตัวอย่างของโครงการ Nue Riverest ราษฎร์บูรณะ จะมีให้ชมทั้งหมด 3 ห้อง …ไปชมกันค่ะ

ห้อง Studio ขนาด 22.55 ตร.ม.

ห้อง Studio ขนาด 22.55 ตารางเมตร เป็นการวางผังของห้องขนาดเล็กที่ลงตัว ความพิเศษของ Layout แบบนี้คือ สามารถทำประตูบานเลื่อนกั้นระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนเพิ่มเองได้นะคะ (ตามแนวเส้นประสีแดง) มีข้อดีคือเวลามีแขกมาก็สามารถดึงประตูบานเลื่อนออกมากั้นพื้นที่ห้องนอนกับห้องนั่งเล่นได้ ส่วนเวลาที่อยู่คนเดียวสามารถเปิดประตูเลื่อนออก แล้วนอนดูทีวีจากบนเตียงได้เลย เป็นการใช้ประโยชน์พื้นที่ใช้สอยของห้องได้เต็มที่ แต่แปลนนี้เหมาะกับการอยู่อาศัยคนเดียวที่ไม่ได้มีแขกมาบ่อยเท่าไหร่ เพราะห้องน้ำจะอยู่ด้านในห้องนอน จึงอาจเสียความเป็นส่วนตัวไปได้นะคะ

ส่วนครัวจะได้ครัวแบบครัวเปิด ตำแหน่งอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องเลย เหมาะกับเตรียมอาหารอาหารเบาๆ ไม่เน้นผัด หรืออาหารที่มีกลิ่นแรงๆ การวางตำแหน่งครัวอยู่ด้านหน้าดีตรงที่ ถ้าวันไหนไป Shopping ของกินของใช้เข้าบ้านมาหนักๆ พอมาถึงห้องก็เอามาวางพักไว้ตรงนี้ได้ หรือเก็บของสดเข้าตู้เย็นได้สะดวก ถัดจากครัวจะเป็นโต๊ะทานอาหารที่รวมอยู่ในห้องนั่งเล่น ด้านในสุดเป็นพื้นที่ระเบียงที่ออกไปยืนรับลม ชมวิวได้จริง เพราะทางโครงการแขวน Condensing Unit ไว้เรียบร้อย ไม่ให้บังสายตาค่ะ

สำหรับเฟอร์ฯ ของห้อง Type นี้จะให้มาตามลิสต์ในรูปเลยนะคะ มีทั้งเฟอร์ฯ แบบ Built-in และลอยตัวค่ะ

เข้ามาในห้องโซนแรกจะเป็นโซน Pantry ครัว ซึ่งได้มาเป็นครัวเปิด จึงเหมาะกับการทำอาหารเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่มีกลิ่นฉุนนัก สามารถทำอาหารที่มีกลิ่นฉุนได้ แต่จะระบายกลิ่นควันออกไปได้ช้ากว่าห้องครัวที่อยู่ติดกับระเบียงนะคะ ซึ่งถ้าใครชอบทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจ แล้วอยากได้ห้องครัวปิดก็มีให้เลือกแต่เป็นห้องไซส์ใหญ่ขึ้นเริ่มต้นที่รูปแบบ 1 Bedroom Plus นนะคะ

โครงการ Built-in ตู้เก็บรองเท้าไว้ติดกับประตูเลย พอถอดรองเท้าปุ๊บก็หยิบมาเก็บในตู้ได้เรียบร้อยดูเป็นระเบียบดี และยังมีตู้เก็บของเล็กๆ น้อยๆ เหมาะกับการเก็บของที่ใช้บ่อยๆ อย่างพวกกุญแจ, หมวก, ร่ม, Mask ที่ต้องหยิบก่อนออกจากห้อง

ด้านข้างตู้เป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น ขนาดตู้เย็นตามห้องตัวอย่างประมาณ 9 คิว น่าจะเพียงพอสำหรับการอยู่อาศัย 1-2 นะคะ

ตรงข้ามตู้เย็นเป็นเคาน์เตอร์ครัวที่ Built-in มาให้ตามแบบในห้องตัวอย่างเลยค่ะ ตู้เก็บของจะให้มาทั้งใต้เคาน์เตอร์และตู้ลอย มีการเจาะช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าไว้เรียบร้อย โดยเครื่องซักผ้าในห้องตัวอย่างมีขนาด 9 กก. ..ตามปกติชาวคอนโดจะใช้ขนาด 7-9 กก. เป็นส่วนใหญ่ค่ะ พร้อมทั้งติดตั้ง Hob&Hood ดูดควันมาให้ แต่จะไม่ได้ให้เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ เช่น  ไมโครเวฟ, เครื่องซักผ้านะคะ อยากใช้รุ่นไหน ไซส์ไหนก็เลือกตามที่ชอบได้เลย

มือจับตู้ถูกออกแบบให้ขอบด้านบนถูกเฉือนเป็นสามเหลี่ยม เพื่อให้เกิดช่องสำหรับสอดมือไปดึงลิ้นชักออกได้ ซึ่งแบบนี้มีข้อดีที่ไม่ต้องกลัวมือจับตู้หลุดอีกต่อไปค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวแบ่งพื้นที่ใช้งานมาได้ครบทั้งอ่างล้างจาน, เตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควัน แต่พื้นที่เตรียมอาหารจะไม่ใหญ่นัก …Top เคาน์เตอร์ได้เป็นหินสังเคราะห์ ส่วน Backsplash นี้จะให้มาเป็นผนังกระจกเหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ

ซิงค์ล้างจานของ Teka หลุมลึกทีเดียว สามารถใส่จานชามได้เยอะพอสมควร ลองเทียบกับขนาดหม้อที่เราจับวางลงไปดูนะ

เตาไฟฟ้าหัวเดียวของ Teka มาพร้อมเครื่องดูดควันแบบหมุนเวียน ซึ่งเราสามารถเปิดระเบียงเพื่อช่วยระบายกลิ่นไปได้อีกทางหนึ่งนะ

ข้างตู้เย็นเป็นตำแหน่งของโต๊ะทานอาหาร ซึ่งโครงการให้มาเป็นโต๊ะขนาด 2 ที่นั่ง

เราลองเลื่อนเก้าอี้ออกก็ดูมีพื้นที่ให้ขยับใช้งานได้สะดวกนะคะ

ถัดเข้ามาโซนพักผ่อนด้านในเป็น Common Area ที่รวม Living + Dining Area เข้าไว้ด้วยกัน ระดับฝ้าเพดานของห้องสูง 2.6 เมตร ทำให้ห้องดูโปร่ง ไม่อึดอัด มีระยะดูทีวีประมาณ 2 เมตร ติดทีวีไซส์ 43″ ก็พอค่ะ ส่วนมีเฟอร์ฯ ที่ให้มาจะมีโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง+ชั้นวางทีวี+โต๊ะกาแฟ ตามแบบที่เห็นนะคะ

ด้านในสุดของห้องนั่งเล่นมีประตูกระจกสำหรับเปิดออกไประเบียง หรือหากติดมุ้งลวดก็สามารถเปิดรับลมธรรมชาติได้ …ทางโครงการช่วยประหยัดพื้นที่ระเบียงด้วยการแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบนจึงใช้งานระเบียงได้เต็มที่

ระเบียงมีขนาด 0.7 x 2.1 เมตร เพียงพอให้วางราวตากผ้าเล็กๆ ได้ หรือหากใช้เครื่องซักผ้าที่มีระบบอบผ้าด้วยก็ไม่จำเป็นต้องตากผ้าเลย สามารถใช้รับวิวได้เต็มที่

ด้านบนจะติดตั้งไฟบริเวณระเบียงมาให้เรียบร้อย

ถัดมาที่ห้องนอนมีจุดเด่นที่สามารถทำประตูบานเลื่อนกั้นระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่นได้ ซึ่งบานเลื่อนนี้ทางโครงการติดตั้งไว้เป็นตัวอย่างเฉยๆ นะคะ ไม่ได้กั้นให้ค่ะ

ภายในห้องนอนมีพื้นที่ใช้สอยพอสมควร และทางโครงการจะให้เป็นฐานเตียง 5 ฟุต มาพร้อมกับโต๊ะข้างเตียงเลย จากตำแหน่งของเตียงก็สามารถนอนชมวิวได้จากบนเตียงเลยนะคะ

หน้าต่างในห้องนอนจะเป็นบาน Fixed ผสมบานกระทุ้ง จึงสามารถเปิดรับลม-ระบายอากาศได้ ซึ่งทางโครงการจะติดขอบยางมาให้ช่วยกันเสียงกันฝุ่นได้ดียิ่งขึ้นค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นตำแหน่งของตู้เสื้อผ้า ซึ่งอยู่ติดกับทางเข้าห้องน้ำพอดีจึงใช้งานต่อเนื่องกันได้สะดวก

โครงการจะ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ ภายในแบ่งเป็นราวแขวน 2 ชั้นและตู้เก็บของย่อยๆ ขนาดไม่ใหญ่นักเหมาะกับใช้งานคนเดียวค่ะ

ปิดท้ายด้วยห้องน้ำวางตำแหน่งไว้ด้านในไม่ติดหน้าต่าง โครงการจึงติดตั้งเครื่องดูดอากาศมาให้เพื่อช่วยลดความชื้น ..ภายในมีสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ติดตั้งให้ครบตามอย่างห้องตัวอย่าง พื้นที่ภายในห้องน้ำแบ่งแยกโซนเปียกโซนแห้งไว้เป็นสัดส่วน พื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องทั้งหมด

สุขภัณฑ์ของ American Standard พร้อมสายฉีดชำระและแกนใส่กระดาษทิชชู่

อ่างล้างมือขนาดกะทัดรัด …มีพื้นที่ขอบอ่างให้วางของได้นิดหน่อย พร้อมกระจกและตู้เก็บของ

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.8 x 1.2 m. เป็นขนาดที่ยืนอาบน้ำแล้วพอจะหมุนตัวได้ ภายในจะติดตั้งฝักบัวอาบน้ำมาให้ของ American Standard พร้อมชั้นวางสบู่ แต่จะไม่ได้มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้นะคะ แนะนำให้ติดตั้งเองในภายหลังเพื่อให้ใช้งานได้สะดวกนะคะ

ห้อง 1 Bedroom Plus 34.4 ตร.ม.

ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.4 ตร.ม. มีจุดเด่นที่เป็นห้องหน้ากว้าง รับวิวได้เยอะ ซึ่งห้อง Type นี้ทางโครงการมักจะวางไว้ในตำแหน่งที่ได้วิวดี พื้นที่ภายในแบ่งออกเป็นสัดส่วนทั้งโซนครัว, ห้องนั่งเล่น+ทานอาหาร, มีห้องอเนกประสงค์ตอบโจทย์การ Work From Home ในยุคนี้ ส่วนห้องน้ำเข้าได้ 2 ทางทั้งจากห้องนอนและห้องนั่งเล่น เหมาะกับการอยู่อาศัยแบบคู่รัก 2 คนกำลังดี หรือครอบครัวที่มีเด้กเล็กก็สามารถจัดห้องอเนกประสงค์เป็นห้องนอนเด็กได้ค่ะ

เฟอร์นิเจอร์ที่ได้จะเพิ่มเติมจาก Type แรก ขึ้นมานิดหน่อย เช่น โต๊ะอาหารเป็นแบบ 4 ที่นั่ง มีเคาน์เตอร์ครัวแบบ Island เพิ่มเติมขึ้นมาเป็นต้น

เปิดห้องเข้ามา…ก็สัมผัสได้ถึงพื้นที่ที่ดูกว้างขวาง ต้องขอชมเลยว่าจัดแปลนมาได้ลงตัว แปลนนี้จะเป็นห้องครัวเปิดนะคะ หากใครชอบทำอาหารก็จะมีแปลนที่เป็นครัวปิดให้เลือกด้วยเช่นกัน

พื้นที่ครัวของห้องนี้มีขนาดใหญ่ต่อเชื่อมกับโต๊ะทานอาหารพอดี ซึ่งนอกจาก Pantry ครัวที่จะได้มาเหมือนห้องแบบแรกแล้ว ห้องนี้จะมีเคาน์เตอร์ครัวแบบ island เพิ่มมาให้ รวมถึงโต๊ะอาหารก็ใหญ่ขึ้นเป็นแบบ 4 ที่นั่งค่ะ แต่เก้าอี้จะไม่ได้เป็นแบบใสๆ นะคะจะได้เหมือนเก้าอี้ในห้อง Studio ห้องแรกที่พาไปชมมาค่ะ

เคาน์เตอร์ Island เป็นเฟอร์ฯที่เพิ่มเติมเข้ามาใน Type นี้ ซึ่งภายในซ่อนช่องเก็บของไว้เยอะทีเดียวนะคะ

จากมุมของเคาน์เตอร์ Island ก็สามารถดริปกาแฟไป ชมวิวแม่น้ำไปได้ด้วยค่ะ

ห้องอเนกประสงค์มีขนาด 2.2 x 2 เมตร ตัวห้องมีประตูปิดมิดชิด แต่จะไม่ได้เป็นประตูกระจกบานเลื่อนแบบนี้นะคะ เป็นผนังฉาบเรียบพร้อมประตูบานสวิงเหมือนแบบห้องนอนค่ะ โดยห้องตัวอย่างจัดการใช้งานไว้สำหรับทำงานก็เหมาะกับยุคนี้ที่เราต้องทำงานที่บ้านบ่อยๆ หรือหากใครต้องการทำเป็นห้องนอนอีกห้องหนึ่งก็สามารถวางเตียงเดี่ยวในห้องนี้ได้นะคะ

ห้องนั่งเล่นจะอยู่บริเวณกลางห้องติดกับระเบียง นอกจากจะได้วิวแล้วยังเปิดรับลมได้ด้วย ส่วนชุดโซฟาที่ให้มาเป็นแบบ 2 ที่นั่งแต่หน้าตาเหมือนชุดโซฟาในห้อง Studio นะคะ ระยะดูทีวีของห้องนี้จะอยู่ที่ 2.4 m. จากประสบการณ์ส่วนตัวคิดว่าใช้ทีวีขนาด 43″ กำลังดีค่ะ

ระเบียงของห้องนี้อาจจะใช้งานได้ไม่เท่ากับห้อง Studio เพราะ ห้องนี้จะได้แอร์มา 3 เครื่องทำให้เราต้องเสียพื้นที่ส่วนหนึ่งไปกับ Condensing Unit จึงเหลือพื้นที่ให้สำหรับตากผ้าและยืนชมวิวประมาณ 1.3 x 0.7 เมตรนะคะ

ห้องนอนดูโปร่งด้วยช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ ซึ่งในห้องนี้ทางโครงการจะวางเตียงนอนและเฟอร์นิเจอร์มาให้ตามแบบในห้องตัวอย่างเลย เป็น Type ที่สามารถติดทีวีในห้องนอนได้ด้วยนะคะ

อีกฝั่งหนึ่งของห้องจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in และมีโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมเก้าอี้มาให้ ซึ่งติดกับประตูทางเข้าห้องน้ำพอดีค่ะ

ห้องน้ำจะมีเพียง 1 ห้อง แต่มี 2 ประตู จึงเข้าได้จากทั้งห้องนอนและห้องนั่งเล่น เวลาแขกไปใครมาก็สามารถเข้าห้องน้ำได้เลย ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนนะคะ

ห้องน้ำมีขนาดพอๆ กับห้องแรกนะคะ ภายในก็ติดตั้งวัสดุอุปกรณ์ทุกอย่างไว้ให้ครบของ American Standard และ COTTO เช่นเดียวกัน

ความพิเศษของห้องน้ำนี้คือจะมีชั้นวางของ Built-in เพิ่มขึ้นมาให้ เผื่อเอาไว้วางของใช้ วางหนังสือ โทรศัพท์ได้สะดวก และมีพื้นที่เข้ามุมด้านล่าง..จะวางอุปกรณ์ทำความสะอาดหรือต้นไม้เล็กๆ เพื่อเพิ่มสีเขียวในห้องน้ำก็ได้ค่ะ

ห้อง 2 Bedroom 50.25 ตร.ม.

อีกแบบหนึ่งที่เป็นห้องหน้ากว้างก็คือ Type 2 Bedroom ซึ่งมักจะเป็นห้องมุมของอาคาร ที่ได้วิวแม่น้ำแบบเต็มที่ค่ะ สำหรับห้องนี้เราเก็บเป็นบรรยากาศมาฝากกันนะคะ

Nue Riverest ราษฎร์บูรณะ ราคา ณ วันที่ 24 ตุลาคม 2565

• ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท ไปจนถึง 15 ล้านบาท

• รูปแบบการขาย Fully Furnished
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.60 เมตร / ห้องน้ำและโซน Pantry ครัวสูง 2.40 เมตร
• มีรถ Shuttle Van รับ-ส่ง ใกล้รถไฟฟ้า
• จอง n/a บาท
• ทำสัญญา n/a บาท
• ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลางไม่เกิน 60 บาท/ตร.ม./เดือน (สอบถามโครงการอีกครั้งนะคะ)

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล :

โครงการ Nue Riverest ราษฎร์บูรณะ มีจุดเด่นของทำเลที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาเลย ซึ่งคอนโดรอบๆ แม่น้ำในโซนราษฎร์บูรณะ-พระราม 3 ที่เหลือขายตอนนี้จะเป็น “คอนโดวิวแม่น้ำ” ซะเป็นส่วนใหญ่ มองเห็นวิวแม่น้ำได้อย่างเดียวไม่ได้มี Facilities ริมน้ำได้เหมือน Nue Riverest ราษฎร์บูรณะ ที่เป็น “คอนโดริมแม่น้ำ” ดังนั้นจึงเป็นของหายากนะคะ

ส่วนตัวมองว่าทำเลของ Nue Riverest ราษฏร์บูรณะนี้เหมาะสำหรับทั้งคนที่ทำงานฝั่งธนบุรีและฝั่งพระนครเลยนะ แต่อาจมีเหตุผลในการซื้อต่างกัน …ในแง่ของคนที่ทำงานอยู่ฝั่งพระราม 3  ก็ยังพอมีคอนโดมือหนึ่งที่ราคาต่อตารางเมตรใกล้ๆกัน รอบแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งพระราม 3 ให้เลือก แต่ว่าส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดวิวแม่น้ำ ส่วนคอนโดริมน้ำมือหนึ่งก็มีค่ะแต่ Package ราคาจะสูงกว่าที่นี่เพราะเป็นห้องขนาดใหญ่หน่อย Nue Riverest จึงเป็นทางเลือกของคนที่อยากได้คอนโดติดริมแม่น้ำเลย ในราคาหยิบจับง่ายงบ 2-3 ล้านจ่ายได้ เดินทางข้ามสะพานไปทำงานได้ไม่เป็นไร

ส่วนในแง่ของคนทำงานฝั่งธนบุรีนั้นไม่ว่าจะทำงานแถวราษฏร์บูรณะ พระประแดง, สุขสวัสดิ์หรือประชาอุทิศ ก็เดินทางได้สะดวกทั้งหมด ซึ่งที่อยู่อาศัยโซนนี้จะเป็นแนวราบซะส่วนใหญ่ แต่หากใครสนใจขยับขยายครอบครัวมาอยู่คอนโดริมน้ำแทนการอยู่บ้านที่นี่ก็ตอบโจทย์ค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ :

การเดินทางเข้าเมืองต้องใช้สะพานข้ามแม่น้ำเป็นหลัก โดยสะพานหลักๆ 2 เส้นที่ใช้ก็คือสะพานพระราม 9 (ทางด่วน) และสะพานภูมิพล (วงแหวนอุตสาหกรรม) โดยทั้งสองสะพานจะต้องขึ้นลงที่ถนนสุขสวัสดิ์ ทำให้จะต้องเดินทางมากกว่าปกติหน่อย ต้องเข้าซอยทางลัดไปสุขสวัสดิ์ก่อนเพื่อไปข้ามแม่น้ำและในอนาคตจะมีสะพานคู่ขนานสะพานพระราม 9 มาอีกหนึ่งตัวช่วยในการเดินทางด้วยนะคะ แต่ถ้าใครไม่ต้องข้ามแม่น้ำก็สามารถเดินทางได้สะดวกขึ้นมาก

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

หากต้องการใช้รถสาธารณะก็สะดวกพอสมควร มีป้ายรถเมล์และวินมอเตอร์ไซค์อยู่ไม่ไกลจากหน้าโครงการค่ะ ประมาณ 50 เมตร และสามารถเรียกรถแท็กซี่หรือรถสองแถวได้จากหน้าโครงการเลย และในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้เชื่อมเข้ากับเตาปูนมายังโซนนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งสถานีใกล้สุดคือสถาณีราษฎร์บูรณะค่ะ

วัสดุ :

ขอเพิ่มคะแนนให้กับการขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์ฯ มาครบ ซึ่งคอนโดในโซนนี้ไม่ค่อยมีให้เทียบนะคะ ใกล้สุดก็คือฝั่งพระราม 3 ที่มักจะขายแบบ Fully Fitted เสียดายนิดเดียวที่แปลนส่วนใหญ่เป็นห้องครัวแบบเปิด แต่ Hob&Hood ที่ให้มาเป็นแบบหมุนเวียน จึงเหมาะกับการทำอาหารที่ไม่ได้มีกลิ่นควันฉุนๆ สักเท่าไหร่ค่ะ

การออกแบบ :

โครงการออกแบบมาด้วยคอนเซปต์ Riverest (River+ Urban Forest) จึงออกแบบให้กลุ่มอาคารมีระดับความสูงไม่เท่ากัน ลดหลั่นกันเป็นระดับคล้ายภูเขา ช่วยลดปัญหาการบังวิวกันเองไปได้ระดับหนึ่ง ภาพลักษณ์ดูเริ่ดเมื่อเทียบกับห้องส่วนใหญ่ที่ราคาอยู่ประมาณ 2-4 ล้านบาท ส่วนห้องที่ราคาสูงของโครงการจะได้ Value พิเศษจากตำแหน่งอาคารที่ติดแม่น้ำเลย รับวิวโค้งน้ำได้แบบจริงจัง แต่เรื่องความหนาแน่นของโครงการที่มากถึง 1,517 ห้อง ก็ต้องดูกันไว้ด้วยนะคะ มีหลายตึกที่จำนวนยูนิตต่อชั้นน้อยดูจะรักษาความเป็นส่วนตัวได้

ในเรื่องของการออกแบบห้องพักเราว่าเค้าพิถีพิถันดี มีห้องให้เลือกหลายแบบหลายขนาดหลายราคา ตอบโจทย์แบบรวบตั้งแต่อยู่อาศัยคนเดียว ไปจนถึงครอบครัว หรือจะเลี้ยงสัตว์ก็ได้ ที่ชอบสุดคือตั้งแต่ห้อง 1 Bedroom Plus ขึ้นไปจะออกแบบมาเป็นห้องหน้ากว้าง รับวิวได้เต็มที่ จัดฟังก์ชันลงตัว หรือห้องเริ่มต้นอย่าง Studio เองก็สามารถติดประตูเลื่อนกั้นระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่นได้

สาธารณูปโภค : จัดออกมาได้ดีและกระจายไว้ทั่วโครงการแบบไม่น้อยหน้ากัน มีความหลากหลายทั้ง Sky Zone บนชั้นสูง, River Zone เป็นพื้นที่ริมน้ำ, Forest Zone พื้นที่ในสวนและมีทางเชื่อมให้เดินถึงกันได้ทุกอาคาร แถมมีรถกอล์ฟคอยรับส่งในโครงการด้วย แต่ก็ทำให้ค่าส่วนกลางอาจสูงถึง 60 บาท/ตร.ม./เดือน ซึ่งยังต้องรอคอนเฟิร์มจากทางโครงการอีกครั้งค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 9x,xxx บาท/ตร.ม., 24 October 2565

• ทำเล 8/10 – ติดแม่น้ำและถนนราษฎร์บูรณะ
• เดินทางด้วยรถ 8/10 – เข้าเมืองง่ายใกล้สะพานแต่ทางถึงอยู่บนถนนสุขสวัสดิ์
• ไม่ใช้รถ 7.5/10 – มีรถสาธารณะหน้าโครงการ และในอนาคตมีรถไฟฟ้าเข้ามาในโซนนี้ สถานีใกล้สุดคือราษฎร์บูรณะค่ะ
• วัสดุ 8.5/10 – ดี ให้เฟอร์ฯ มาครบ เสียนิดเดียวเครื่องดูดควันเป็นแบบหมุนเวียน
• แบบ 8.5/10 –  สวยงามน่าอยู่อาศัย แต่จำนวนยูนิตเยอะหน่อย
• สาธารณูปโภค 8.5/10 – ครบครัน หลากหลายและกระจายไว้ในหลายอาคาร

• MAIN CLASS
• 8.1 / 10.00

Nue Riverest ราษฎร์บูรณะ เหมาะกับใคร

Nue Riverest ราษฎร์บูรณะ เหมาะกับคนที่ตามหาคอนโดติดแม่น้ำ ตอบโจทย์ตั้งแต่อยู่คนเดียวไปจนถึงครอบครัวใหญ่ที่อาจมองหาคอนโดตากอากาศเป็นบ้านหลังที่ 2 , คนที่ชอบห้องหน้ากว้างรับวิวได้เต็มที่, คนที่ต้องการเลี้ยงสัตว์ในคอนโด และนักลงทุนที่เห็น Value ของคอนโดติดแม่น้ำ ในแง่ของคนทำงานเราของแยกออกเป็น 2 ฝั่งหลักๆ

• สำหรับคนที่ทำงานโซนพระราม 3 ซึ่งฝั่งพระราม 3 เองก็มีหลายโครงการให้เลือกแต่โครงการนี้จะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่มีงบประมาณ 2-4 ล้านและะอยากได้เป็นคอนโดติดแม่น้ำ ขายแบบ Fully Furnished ไม่ต้องซื้อเฟอร์ฯ เองเยอะ
• คนทำงานในโซนราษฏร์บูรณะ, พระประแดง, สุขสวัสดิ์หรือประชาอุทิศ ฝั่งนี้จะเดินทางสะดวกเลย เหมาะกับคนที่อยากอยู่คนโดริมน้ำมากกว่าอยู่บ้านหรือเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่นะคะ

โดยคนที่สนใจโครงการนี้ต้องมีงบประมาณตั้งแต่ 1.79 -15 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนเริ่มต้น 12,530 บาทต่อเดือน

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc