Modiz Launch (โมดิซ ลอนช์) คอนโด High Rise ติดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ใจกลางแหล่งของกินโซน U-Square จาก AssetWise [รีวิวฉบับที่ 2122]

13 September 2020

• Modiz Launch (โมดิซ ลอนช์)
• AssetWise PLC.
• MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment ปี 2020 ได้ที่นี่)
• โครงการตั้งอยู่ใน : อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
• คอนโด High Rise 36 ชั้น 1 อาคาร 463 ยูนิต และร้านค้า 3 ยูนิต
• ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 20 ยูนิต
• ที่จอดรถประมาณ 215 คันคิดเป็น 46.43% (รวมจอดซ้อนคัน)
• ที่ดินประมาณ 1-3-44 ไร่
• เริ่มก่อสร้าง : Q1 ปี 2564
• คาดว่าจะแล้วเสร็จ : กันยายน 2565 กันยายน 2566 Update 9/4/2021
• มีห้องทั้งหมด 8 แบบ

•  Simplex

• Studio 21.9-22.9 ตร.ม.
• 1 Bedroom 25.9-26.1 ตร.ม.
• 1 Bedroom Extra 28.50-29.90 ตร.ม.
• 1 Bedroom Exclusive 34.90 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus 34.40 ตร.ม.
• 2 Bedroom 57.10-57.20 ตร.ม.

• 1 Bedroom Exclusive Vertical Suite 25.60-28.80 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus Vertical Suite 29.90-39.50 ตร.ม.

• ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
• ราคาห้องเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 9x,xxx บาท/ตร.ม.
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด n/a – n/a บาท/ตร.ม. (สอบถามโครงการในภายหลัง เนื่องจากยังไม่เปิด Pre-Sale ค่ะ)
• EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : n/a
• เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
• โทร  : 02-168-0000

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มค่ะ

พิกัด Google Maps : 14.066029, 100.607911
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

พิกัด สำนักงานขาย : คลิกที่นี่ (ที่เดียวกับโครงการ Kave TU)

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

ใครที่คุ้นเคยกับทำเลของม.ธรรมศาสตร์ รังสิต อาจจะสงสัยว่าเราหมุดตำแหน่งของโครงการ Modiz Launch (โมดิซ ลอนช์) ไว้แทน U-Square เดิมเลยหรอ? ใช่แล้วค่ะ เพราะตำแหน่งที่เคยเป็นเต็นท์อาหารขนาดใหญ่ ที่นักศึกษาเรียกติดปากกันว่า U-Square นั้นกลายเป็นที่ตั้งของโครงการไปแล้ว “ดังนั้น ทำเลของโครงการนี้จึงเรียกได้ว่าอยู่ในแหล่งความอุดมสมบูรณ์ติดมหาลัยเลยนะ” ในส่วนของ U-Square เดิมนั้นไม่ได้ย้ายไปไหนไกล แต่ไปเปิดเป็น U-Square 2 ติดกับโซนเดิมนั่นแหละ

สำหรับเด็กๆ ที่เพิ่งสอบติดที่นี่เราขออธิบายเพิ่มเติมนิดนึงว่า U-Square และ U-Village เป็นย่านฮอตฮิตของน้องๆ นักศึกษาที่เต็มไปด้วยหอพัก ร้านค้า ร้านอาหาร จึงเป็นที่นิยมสำหรับการมาหาของกิน เป็นจุดนัดพบเพื่อนๆ ตลอดทั้งวัน ก็เพราะทำเลนี้อยู่ใกล้ประตูเข้ามหาลัยเชียงราก 2 มากกว่าโซนอื่นๆ เลย และไม่ได้มีแต่น้องๆในมหาลัย หรือคนที่พักอยู่แถวนั้นเท่านั้นที่จะมาหาของกินที่นี่ แต่ยังรวมไปถึงคนในละแวกใกล้เคียง หรือคนวัยทำงานที่ขับรถผ่านไปมา ก็มักจะแวะมาฝากท้องกันเป็นประจำ

นอกจากโซน U-Square และ U-Village แล้วความอุดมสมบูรณ์อีกจุดหนึ่งคือ TU Dome เป็นเหมือนอาคาร Mixed-use ขนาดใหญ่ ที่ชั้นล่างด้านหน้าจะเป็นร้านอาหารเหมือนแบบในห้าง ถ้าอยากหาร้านอะไรง่ายๆ กินเช่น MK หรือ ยาโยอิ ก็จะมา TU Dome นี่แหละง่ายดี แต่เด็กส่วนใหญ่ก็ยังชอบไปแหล่งจับจ่ายใช้สอยใหญ่ๆ ของย่านนี้อย่าง ตลาดไท และฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต อยู่ดีเพราะมีของขายเยอะกว่า

เรื่องการคมนาคมของทำเลนี้ ฝั่งซ้ายซ้ายจะมีทางด่วนอุดรรัถยาที่สามารถออกเมืองไปทางบางปะอิน หรือเข้าเมืองไปทางแจ้งวัฒนะ – ดาวคะนองได้ และยังมีรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้มที่จะแล้วเสร็จประมาณปี 2022 ให้ใช้งานในอนาคต ซึ่งก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางเข้าเมืองที่สะดวกมากขึ้น

การเดินทางของคอนโดนี้มีความสะดวกนะ เรามองว่าเดินทางง่ายกว่าโครงการที่อยู่บนถนนใหญ่ด้วยซ้ำ เพราะจะเข้ามหาลัยหรือออกถนนใหญ่ก็ง่ายทั้ง 2 ทาง (เส้นสีส้มและสีฟ้า) และมีจุดกลับรถใต้สะพาน (เส้นสีเหลือง) ใช้ย้อนกลับไปฝั่งเชียงราก และไปขึ้นทางด่วนอุดรรัถยาได้

มาดูระยะเดิน ..เราลองวัดจากประตูโครงการถึงซุ้มประตูเชียงราก 2 ก็จะมีระยะทางประมาณ 300 m. และถ้าจะเดินไปขึ้นรถตู้ ก็ใช้ทางเดินลัดผ่านประตูหนอนได้ มีระยะจากโครงการถึงประตูหนอนประมาณ 100 m.

ทางด่วนอุดรรัถยาจะอยู่ห่างจากโครงการไปประมาณ 5.3 km. เท่านั้น ให้เราใช้จุดกลับรถใต้สะพานหน้าที่ได้บอกไปแล้วเมื่อสักครู่นี้ได้เลย สามารถเข้าเมืองไปทางแจ้งวัฒนะ ดินแดง ดาวคะนอง บางนา ได้

หรือถ้าใครจะขึ้นโทลเวย์ไปทางดอนเมือง ห้าแยกลาดพร้าว หรือจตุจักร จะต้องไปขึ้นทางด่วนบนถนนพหลโยธินช่วงก่อนถึงฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 5.7 km.

สำหรับน้องๆ ที่กำลังมองหาที่พักใกล้มหาลัย ก็อยากให้เข้าใจภาพรวมของโซนที่พักกันก่อน โดยเราจะแบ่งที่พักอาศัยบนถนนเชียงรากออกเป็น 4 โซน ตามลักษณะ สภาพแวดล้อม และความเป็นอยู่ที่แตกต่างกันออกไป คือ

1. โซน U-Square และ U-Village : เป็นโซนที่อุดมสมบูรณ์และใกล้กับประตูมหาลัยมากที่สุด มีหอพักนักศึกษาขึ้นกันอยู่อย่างหนาแน่น และมีร้านค้าต่างๆ มากมาย สรุปคือเป็นโซนที่สะดวกสบาย แต่ก็พลุกพล่านมากที่สุดโซนหนึ่ง ซึ่งโครงการ Modiz Launch ก็จะอยู่ในโซนนี้ด้วย เด็กๆ ที่ชอบความคึกคัก ชอบการเดินง่าย ใกล้มอส่วนใหญ่จะเลือกอยู่โครงการนี้

2. โซน SUNTA : เป็นโซนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับมหาลัยและ U-Square ซึ่งจะสามารถเดินข้ามไป-มาได้ด้วยสะพานลอย ก็ยังถือว่าเดินทางค่อนข้างสะดวกอยู่ ไม่ได้ลำบากมากนัก มีความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นมาหน่อย ไม่พลุกพล่านเหมือนฝั่งมหาลัย รวมถึงเรื่องอาหารการกินก็พอมีบริเวณริมถนนและปากซอยต่างๆ หรือส่วนใหญ่น้องๆ นักศึกษาก็จะหาซื้อของกินกันตั้งแต่ฝั่ง U-Square เสร็จแล้วค่อยข้ามฝั่งเพื่อกลับไปยังที่พัก

3. โซน J-Park : เป็นอีกโซนที่อยู่ฝั่งเดียวกับมหาลัย แต่จะอยู่บริเวณด้านหลัง และถ้าออกมาจากมอก็จะต้องไปกลับรถมาก่อน 2 รอบ โซนนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นโซนที่มีหอพักราคาแพงอย่าง J-Park ตั้งอยู่ ด้านหน้ามี Plaza เป็นของตัวเอง ซึ่งก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และยังมีหอพักอื่นๆอยู่ด้านในซอยอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งทำเลที่ถือว่าสงบมากกว่า U-Square เพราะเดิมทีโดยรอบเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยดั้งเดิม แต่หากใครคิดว่าจุดนี้เป็นแหล่งผับและแฮงค์เอ้าท์ ตอนนี้ไม่มีแล้วนะคะ ร้านปิดไปหมดแล้ว (T^T)

4. โซน Golf View : โซนนี้ถือว่าเป็นเอกเทศมากๆ แยกตัวออกมาจากโซนอื่นๆ และได้ตั้งอาณาจักรขึ้นมาเป็นของตัวเองด้านใน แต่ด้วยความที่มันไกลและเดินทางลำบากมากสุดในบรรดาทุกๆ โซน จึงทำให้ราคาหอพักค่อนข้างถูก เหมาะกับนักศึกษาที่ไม่เน้นเรื่องความอุดมสมบูรณ์ ไม่กลัวเรื่องเดินทางลำบาก เพราะอันที่จริงแล้วทางหอก็มีรถรับ-ส่งนะ ถ้าใครที่เน้นเรื่องราคาถูกและความเป็นส่วนตัวก็จะเลือกอยู่ที่โซนนี้กันค่ะ

การเดินทางในวันนี้จะพาดูบรรยากาศใกล้ๆ โครงการจากประตูเชียงราก 2 มายังโครงการ มีระยะทางประมาณ 300 m.

สำหรับสำนักงานขายจะไม่ได้อยู่บนที่ดินของโครงการเหมือนโครงการอื่นๆ นะ จะไปรวมกับสำนักงานขายของโครงการ Kave TU ซึ่งวันนี้เราก็มีบรรยากาศมาฝากกันด้วย

เส้นทางการเดินทาง

ปิดท้ายในส่วนของทำเลด้วยบรรยากาศบริเวณสำนักงานขาย อยู่ที่เดียวกับโครงการ Kave TU ที่เคยพามาชมไปเมื่อปีที่แล้ว ใครเล็งๆ ไว้ก็แวะมาชมห้องตัวอย่างได้ที่นี่นะ

เข้ามาในสำนักงานขายก็มาติดต่อขอรายละเอียดกันได้ที่เคาน์เตอร์นี้เลย

ห้องตัวอย่างของโครงการ Modiz Launch จะอยู่ชั้น 2 ทั้งหมดนะ

บริเวณชั้น 2 ตกแต่งพื้นที่ไว้ด้วยธีมเดียวกับพื้นที่ส่วนกลางในโครงการจริงเลย ดูเรียบหรูดี เป็นบรรยากาศที่แตกต่างจากหอพักในโซนนี้อย่างแน่นอน และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของน้องๆ นักศึกษาอยากอยู่คอนโดติดมหาลัยค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

บริบทโดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นหอพักนะคะ ซึ่งเมื่อโครงการแล้วเสร็จจะกลายเป็นอาคารที่มีความสูงที่สุดในย่านนี้เลย ทำให้สามารถมองวิวที่เปิดโล่งและมองไปได้ไกลทุกด้านโดยแต่ละฝั่งจะติดกับ

ทิศเหนือ : ติดกับหอพัก Twin Town สูง 8 ชั้น
ทิศใต้ : ติดกับแปลงที่ดินเปล่าที่อยู่ติดกับถนนเชียงราก ฝั่งตรงข้ามเป็นชุมชนแนวราบ, หอพัก 8 ชั้น และที่ดินว่างเปล่า
ทิศตะวันออก : ติดกับหอพัก U-House สูง 8 ชั้น
ทิศตะวันตก : ติดกับหอพัก City Park สูงประมาณ 16 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

• U-square – 0 m.
• U-Village – 0 m.
• มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ~ 1.4 km.
• โรงพยาบาล ธรรมศาสตร์ ~ 1.8 km.
• ตลาดบางขันธ์ ~ 2.1 km.
• TU Dome ~ 2.8 km.
• โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ~ 2.8 km.
• ตลาดไท ~ 5.8 km.
• มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ~ 6.1 km.
• ทางขึ้นโทลเวย์จากรังสิตมุ่งหน้าสู่ดินแดง ~ 8.5 km.
• ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ~ 11.1 km.
• สถานีรถไฟฟ้าสถานีธรรมศาสตร์ (ในอนาคต) ~ 12.2 km.

โครงการ Modiz Launch (โมดิซ ลอนช์) เป็นคอนโดใกล้มหาลัยเปิดใหม่ ติด ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ที่เปิดตัวมาด้วยราคาเฉลี่ยประมาณ 90,000 บาท/ตร.ม. ถือว่ามีราคาสูงกว่าบรรดาคอนโดในโซนนี้ เพราะส่วนใหญ่คอนโดโซนเชียงรากก็จะอยู่ที่ราวๆ 50,000 -70,000 บาท/ตร.ม. แน่นอนว่ามีเหตุผลอยู่ 3 – 4 ข้อที่เราคิดว่าทำให้โครงการตั้งราคามาสูงแบบนี้..

1. ทำเลดี นับเป็นคอนโดที่อยู่ใกล้ประตูเชียงราก 2 ที่สุด เรียกได้ว่าติดม. ธรรมศาสตร์เลย และอยู่ในย่าน U-Square และ U-Village ที่เป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์ติดมหาลัย ตอบโจทย์น้องๆ นักศึกษาที่อยากอยู่ใกล้มอ แบบเดินได้สะดวก ไม่ต้องต่อรถ หรือกลับห้องกลางคืนก็ยังไม่เปลี่ยว
2. เป็นคอนโด High Rise ที่สูงสุดในกลุ่มคอนโดใกล้ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต สำหรับใครที่อยากอยู่ในคอนโดสูง จึงเป็นตัวเลือกที่มีคู่แข่งไม่มากนัก
3. ขายแบบ Fully Furnished พร้อมอยู่ หากใครซื้อลงทุนปล่อยเช่าก็ไม่ต้องแต่งเพิ่มเยอะ
4. ให้ Facilities มาเยอะ ทั้งชั้น 1, 9, 9M, 34 – 36 และบน Rooftop ซึ่งแต่ละชั้นจะให้มาแบบเต็มพื้นที่ทั้งชั้น

ภาพรวมของโครงการ Modiz Launch (โมดิซ ลอนช์) เป็นคอนโด High Rise 1 อาคาร สูง 36 ชั้น บนที่ดินเกือบ 2 ไร่ มีจำนวนยูนิตในโครงการ 463 ยูนิต โดยชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 10 ซึ่งปัจจุบันห้องพักทุกห้องไม่โดนบังวิวเลยนะคะ แต่ในอนาคตยังต้องดูว่าแปลงที่ดินด้านหน้าที่ติดถนนเชียงรากจะถูกพัฒนาไปเป็นอะไร

สำหรับ Facilities จัดไว้ 2 ส่วนหลักๆ คือชั้น 1 – 9, 9M, 34-36 และ Rooftop เพื่อให้เห็นวิวโดยรอบได้ เราคิดว่าที่โครงการให้พื้นที่ส่วนกลางมาเยอะก็เพื่อตอบโจทย์น้องๆ นักศึกษา ที่อยากมีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้อ่านหนังสือ เล่นเกมส์ ว่ายน้ำและทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับกลุ่มเพื่อนได้อย่างเป็นส่วนตัวมากขึ้น

จากโมเดลจะเห็นตำแหน่งของแปลงที่ดินที่อยู่ถัดเข้ามาในซอยประมาณ 40 m. ไม่ได้ติดถนนเชียงรากโดยตรง ข้อดีคือช่วยลดมลภาวะทั้งทางเสียงและทางฝุ่นไปได้ ส่วนแปลงที่ดินด้านหน้าติดระยะถอยร่น คาดว่าขึ้นอาคารพาณิชย์ไม่สูงมากได้ แต่ในอนาคตจะถูกพัฒนาเป็นอะไร ต้องรอลุ้นกันต่อไปค่ะ

ด้านหน้าโครงการติดกับถนนภาระจำยอมที่มีความกว้างให้เดินรถสวนกันได้สะดวก จากมุมนี้จะเห็นลักษณะอาคารที่เป็นทรงผอมสูง ห้องพักของที่นี่จึงมีแค่ 2 ฝั่ง ฝั่งหนึ่งหันเข้าหาหอพัก Twin Town ที่สูงประมาณ 8 ชั้น และอีกฝั่งหนึ่งหันไปทางที่ดินเปล่า ทำให้ปัจจุบันห้องพักทุกห้องไม่โดนบังวิวเลยนะคะ

Facilities หลักๆ ส่วนหนึ่งจะอยู่บนชั้น 9 ซึ่งฟังก์ชันส่วนใหญ่จัดมาให้เหมาะกับการใช้งานของเด็กๆ นักศึกษา มีความทันสมัย

Facilities บนชั้น 9 แบ่งเป็นฟังก์ชันย่อยๆ เยอะมาก น่าจะตอบโจทย์ Lifestyle ของน้องๆ ที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะอยากเล่นเกมส์ ร้องเพลง ติวหนังสือกับเพื่อนๆ

การออกแบบพื้นที่ภายในอาคารดูมีความสนุก เพราะบางส่วนก็เป็น Indoor บ้าง Outdoor บ้าง ส่วนที่เราชอบเลยคือเค้าจัดสวนไว้ทั้ง 2 ฝั่งของอาคาร ทำให้บรรยากาศของพื้นที่ส่วนกลางจะได้วิวสวนทั้งหมด

ขึ้นมาที่ Facilities อีกส่วนหนึ่ง จัดไว้ที่ 3 ชั้นบนสุดของอาคาร สำหรับชั้น 34 – 35 จะรวมกิจกรรมที่ Active หน่อย เน้นไปที่การออกกำลังกาย เช่น มีสระว่ายน้ำ มี Gym เป็นต้น ส่วนชั้น 36 จะเป็นพื้นที่สังสรรค์ ชมวิว จึงจัดพื้นที่ให้เป็น Sky Lounge, Social Club และ The Bar

มาดู Master Plan ของโครงการ Modiz Launch (โมดิซ ลอนช์) กันต่อ ดูจากรูปของที่ดินจะเป็นแปลงที่ดินรูปผืนผ้า หน้าแคบ ติดถนนซอยทั้ง 2 ฝั่ง และด้านหลังติดกับหอพักสูงประมาณ 16 ชั้น โครงการจึงออกแบบสวนและวางแนวต้นไม้ไว้เป็น Buffer Zone ทั้ง 3 ด้าน เพื่อให้การอยู่อาศัยมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และยังสามารถนั่งเล่นในสวนทั้งด้านหน้าและหลังของโครงการได้ด้วย

เส้นทางเดินรถในโครงการเป็นทางเดินรถแบบ Two-Way และ One-Way บางส่วน คือสามารถเดินรถสวนกันได้แค่ถึงทางขึ้นที่จอดรถบนอาคารเท่านั้น หากต้องการวนมาส่งลูกบ้านที่ทางเข้าอาคาร ต้องวนรถแบบ One-Way รอบตึก เดาว่าการจัดการรถแบบนี้ทำให้มีพื้นที่จอดรถรอบอาคารได้มากขึ้น ถือเป็นประโยชน์ต่อลูกบ้านที่พักอาศัยที่นี่นะ

เข้ามาในอาคารพักอาศัยจะเจอ The Reception เป็นลำดับแรก ใครมาหาเพื่อนๆ ก็นั่งรอที่ Lobby Hall ได้ มีสิ่งที่อำนวยความสะดวกให้เด็กๆ เป็นร้านค้า 3 ยูนิต, มีห้อง Laundry และที่พลาดไม่ได้ของยุคนี้คือ Smart Box ไว้สำหรับรับฝากของ เผื่อพ่อแม่เอาของกินของใช้มาให้ ต่อที่ลูกๆ ไปเรียนอยู่ก็ฝากไว้ที่ Smart Box ได้ หรือเด็กๆ จะฝากของไว้ที่ Smart Box แล้วให้คนมารับตอนที่ตัวเองไปเรียนก็สะดวกเช่นกัน

โครงการมีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 3 ตัว ลองคิดสัดส่วนลิฟต์ทั้งอาคารอยู่ที่ 154 : 1 จัดว่าหนาแน่นพอสมควร ในช่วงเวลาเร่งด่วนตอนเช้าที่ต้องเข้าเรียนพร้อมกันคงต้องเผื่อเวลารอลิฟต์บ้าง และมี Service Lift แยกให้อีก 1 ตัวค่ะ

ถัดขึ้นมาที่ชั้น 9 ของอาคารพักอาศัย ชั้นนี้มี Facilities เยอะมาก แต่ละฟังก์ชันมีพื้นที่เล็กบ้างใหญ่บ้าง แต่ข้อดีคือให้มาเยอะ ตอบโจทย์กิจกรรมของเด็กๆ ที่มีความหลากหลาย ให้เค้าได้มีพื้นที่ทำกิจกรรมตามไลฟ์สไตล์ของตัวเองถึง 25 ฟังก์ชัน

ซึ่งเราคิดว่าส่วนกลางของที่นี่มาให้แตกต่างจากหอพักทั่วไป ที่นอกจากจะรองรับการอ่านหนังสือ ทำการบ้านของเด็กๆ แล้ว ยังมีพื้นที่ที่เหมาะกับกิจกรรมของวัยรุ่น เช่น Borad Game Room, The Playroom, Creative Studio เป็นต้น

บนชั้น 9 นี้ยังมีชั้นลอยที่จัดเป็นโซนสงบหน่อย เหมาะกับเวลาที่ต้องการบรรยากาศเงียบๆ มานั่งอ่านหนังสือช่วงใกล้สอบ เป็นต้น

เราขอเอารูปนี้มาฝาก เพื่อให้เข้าใจบรรยากาศของ Facilities ส่วนกลางง่ายขึ้น ถ้าเป็นสมัยก่อนเวลาใกล้สอบหรือเวลาต้องทำงานกลุ่ม ก็คงหาร้านกาแฟสักที่ ให้นั่งรวมกับเพื่อนๆ ได้แต่ถ้าอยู่คอนโดนี้ก็คงไม่พ้นส่วนกลางที่นี่แหละ สะดวกดี มีทั้งโซนเงียบ โซนคึกคักให้เลือกใช้ได้หมด

ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 10 เป็น Typical Floor Plan ไปจนถึงชั้น 30 เลย โถงทางเดินเป็นแบบ Double Corridor มีตำแหน่งลิฟต์อยู่ช่วงกลางๆ อาคาร ค่อนมาทางด้านหน้านิดหน่อย แต่เนื่องจากอาคารไม่ใหญ่มากทำให้ทุกยูนิตเดินไม่ไกลจากลิฟต์ มีจำนวนห้อง 20 ยูนิตต่อชั้น ถือว่าไม่เยอะเท่าไหร่สำหรับคอนโดระดับราคานี้

มีห้องพักให้เลือก 2 ฝั่งคือห้องทางทิศเหนือและใต้ ซึ่งห้องทั้งหมดจะพ้นจากการบังวิวจากอาคารข้างเคียง ทางฝั่งทิศเหนือจะการัยตีวิวแล้วว่าได้วิวมธ. ไม่มีอาคารบังวิวในอนาคต นั่นทำให้ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรของห้องพักทิศเหนือสูงกว่าทิศใต้ด้วยเช่นกัน

สำหรับรูปแบบห้องพักทางทิศเหนือส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Extra 2 ห้องนี้แปลนคล้ายๆ กัน อยู่อาศัยได้ 2 คนเหมือนกัน ต่างกันที่ห้องนอนของ 1 Bedroom Extra จะใหญ่กว่านิดนึง แต่ก็มีราคาที่บวกเพิ่มประมาณ 40,000 บาท และมีห้องมุมเป็นแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 25.9 – 34.4 ตร.ม. ที่อยู่อาศัย 3 คนได้ลงตัว

ส่วนห้องพักทางทิศใต้จะมีทั้งห้องเล็กที่เป็นรูปแบบ Studio ขนาด 21.9 – 22.9 ตร.ม. และแบบ 1 Bedroom Exclusive ขนาด 29.9 – 34.9 ตร.ม. ที่มีขนาดใหญ่หน่อย ซึ่งห้องพักทางฝั่งนี้จะเหมาะกับการอยู่อาศัยแบบ 1 – 2 คน

ถ้าถามว่าเลือกห้องตำแหน่งไหนดี? สำหรับโครงการนี้เราชอบห้องทางทิศเหนือเพราะการันตีวิวเป็นม.ธรรมศาสตร์ ถ้าอยากได้วิวดี โล่งๆ ก็เลือกให้สูงขึ้นมาหน่อยประมาณชั้น 14- 15 ก็น่าจะมองพ้นหลังคาของหอพัก Twin Town ไปได้ ตำแหน่งห้องเลือกไกลลิฟต์หน่อยก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ถัดขึ้นมาที่ชั้น 31 – 32 เป็นชั้นที่มียูนิตพิเศษคือห้องแบบ Vertical Suite ห้องพักของ 2 ชั้นนี้ทั้งหมดจะมีฝ้าเพดานสูงที่ 4.5 m. และมีจำนวนห้องต่อชั้นลดลงเหลือ 19 ยูนิต

ชั้น 33 เป็นชั้นที่มีความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยมากที่สุด เนื่องจากชั้นนี้จะมีจำนวนห้องลดลงเหลือ 5 ยูนิต และเป็นห้อง Type ใหญ่แบบ 1 Bedroom Exclusive ไปจนถึง 2 Bedroom รูปแบบห้องเป็น Simplex ตามปกติไม่ใช่ห้อง Loft นะคะ

ขึ้นมาที่ชั้น 34 จัดเป็น Sky Facilities ของโครงการ การออกแบบลักษณะนี้เราว่าลูกบ้านส่วนใหญ่ได้ประโยชน์นะ เพราะทำให้ลูกบ้านทุกชั้นได้มีโอกาสมาชมวิวบนชั้นสูง เปลี่ยนบรรยากาศมาชมวิวโล่งๆ ให้ผ่อนคลายจากการเรียนกันบ้าง

โดยส่วนกลางที่จัดไว้ให้ ได้แก่ Floating Pool เป็นสระว่ายน้ำขนาดประมาณ 4.9 x 26.8 m. ให้ว่ายออกกำลังกายในแนวยาวได้ ภายในสระมีมุม Jacuzzi ให้นั่งแช่ผ่อนคลายด้วย สำหรับพื้นที่รอบสระจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่โครงการเรียกว่า The Pool Lounge และมีมุมนั่งเล่นในสวนเรียกว่า Moonlight Seating

สำหรับน้องๆ ที่อยากชมวิวในอาคารมากกว่าก็มี Indoor Pool Lounge ให้นั่งเล่น แต่ถ้าช่วงเย็นๆ ที่แดดร่มแล้วก็สามารถมาเดินเปลี่ยนบรรยากาศในสวนบริเวณ Launch Garden ได้

ขึ้นมาที่ชั้น 35 จัดเป็นกิจกรรมออกกำลังกายแบบ Indoor ทั้งชั้น ประกอบด้วย The Gym, Functional Floor Training และ Active Studio

สำหรับชั้น 36 จะต้องเดินขึ้นบันไดเชื่อมจากชั้น 35 ขึ้นมา จัดพื้นที่ไว้ให้เป็น Sky Lounge, The Bar และพื้นที่ที่ให้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นแบบ Social Club น้องๆ จึงมีมุมนั่งเล่น ชมวิวได้หลายมุม เป็นจุดชมวิวได้เกิน 180 องศา ด้วยกระจกอาคารทรงโค้ง

ชั้น Roof Floor ของอาคารเป็นพื้นที่สีเขียวแบบ Launch Yard ซึ่งมีข้อดีที่ช่วยกรองความร้อนให้กับชั้น 36 ซึ่งเป็นชั้น Sky Lounge ของโครงการค่ะ

เนื่องจากห้องพักของที่นี่มีให้เลือก 2 ทิศ เราจึงเอามาฝากกันทั้งทิศเหนือและใต้ เป็นรูปจากชั้น 10 และ ชั้น 27 ค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

1st floor

• Welcome Zone
• Relax Zone
• The Reception
• Lobby Hall
• Laundry
• Smart Box
• Mail Box
• Platform Seating

9th floor

• Vending Machine
• The Reception Bar
• Modiz Lounge
• Working Station
• Thinking Chamber
• Cook Tuber
• The Playroom
• Launch Cinema
• VR Room
• Health Station
• Brainstorm Room
• Study Cube
• Creative Studio
• Music Studio
• The Stage
• Board Game Room
• Launch Garden

9th (M) floor

• Take a Nap Zone
• The Lazy Zone

34th floor

• The Pool Lounge
• Floating Pool
• Moonlight Seating
• Jacuzzi
• Launch Garden
• Indoor Lounge

35th floor

• The Gym
• Function Floor Training
• Active Studio

36th floor

• Sky Lounge
• The Bar
• Social Club

Rooftop

• Launch Yard

• ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 154 :  1
• Service Lift 1 ตัว
• ที่จอดรถประมาณ 215 คันคิดเป็น 46.43% (รวมจอดซ้อนคัน)
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card

โครงการ Modiz Launch มีจุดเด่นที่ออกแบบห้องพักให้มีขนาดกะทัดรัด แต่ยังคงฟังก์ชันที่ครบตอบโจทย์เด็กมหาลัยเพราะโครงการส่วนใหญ่ในทำเลนี้จะทำห้องออกมาเริ่มต้นที่ประมาณ 30 ตร.ม. ในขณะที่ Modiz Launch ทำขนาดออกมาเริ่มต้นที่ประมาณ 21.9 ตร.ม. เท่านั้น ขายแบบ Fully Furnished เอาใจคนที่อยากหิ้วกระเป๋ามาพร้อมอยู่ได้เลย ไม่ต้องตกแต่งเพิ่ม โดยจะมีแบบให้เลือกอยู่ 8 แบบ คือ

Simplex

• Studio 21.9 – 22.9 ตร.ม.
• 1 Bedroom 25.9 – 26.1 ตร.ม.
• 1 Bedroom Extra 28.50 – 29.90 ตร.ม.
• 1 Bedroom Exclusive 34.90 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus 34.40 ตร.ม.
• 2 Bedroom 57.10 – 57.20 ตร.ม.

Vertical Suite

• 1 Bedroom Exclusive Vertical Suite 25.60 – 28.80 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus Vertical Suite 29.90 – 39.50 ตร.ม.

ในรีวิวนี้เราจะพาไปชมห้องตัวอย่าง 2 แบบ เป็นแบบ 1 Bedroom Extra กับ 1 Bedroom Plus เราไปดูกันดีกว่าว่าภายในห้องนั้นจะมีบรรยากาศอย่างไร วัสดุและเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาจะได้อะไรบ้าง

ห้องแรกเป็นแบบ 1 Bedroom Extra ขนาด 28.5 ตารางเมตร รูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบ ภายในแบ่งพื้นที่ห้องนอนออกจาก Living Area อย่างเป็นสัดส่วน

เข้ามาในห้องส่วนแรกฝั่งซ้ายจะเป็น Pantry ครัว ส่วนห้องน้ำจะอยู่ตรงข้ามห้องครัวไม่ได้อยู่ในห้องนอนนะคะ ซึ่งในกรณีที่มีเพื่อนๆ หรือแขกมาหาก็สามารถเข้าห้องน้ำได้จากด้านนอก ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนเรา ภายในห้องน้ำจัดพื้นที่แยกส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจน แต่ด้วยตำแหน่งที่อยู่ด้านในของอาคารจึงไม่มีช่องระบายอากาศ ทำให้ต้องพึ่งพาระบบของอาคารล้วนๆ

ถัดเข้าไปด้านในเป็นห้องนั่งเล่นที่อยู่ตรงกลางห้อง สำหรับห้องนั่งเล่นจะไม่มีหน้าต่างต้องอาศัยแสงธรรมชาติที่ลอดผ่านห้องนอนออกมาเท่านั้นซึ่งโครงการนี้ทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลย เพราะผนังในส่วนของห้องนอนและระเบียงเป็นผนังกระจกขนาดใหญ่จากพื้นถึงฝ้าจึงได้แสงมาเต็มๆ แต่ข้อจำกัดของห้องขนาดเล็กทั่วๆ ไปคือ พื้นที่ทานอาหารที่ต้องมาใช้ร่วมกับห้องนั่งเล่น แต่ก็แก้ปัญหาได้ด้วยการหาเฟอร์นิเจอร์มาช่วยได้

ห้องนอนได้พื้นที่เป็นสัดส่วนเพราะมีประตูบานเลื่อนปิดได้ ภายในห้องนอนมีพื้นที่สำหรับวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า Built-in และโต๊ะทำงาน ส่วนระเบียงจะอยู่ภายในห้องนอนทำให้เวลาจะเดินมาซักผ้า ตากผ้าที่ระเบียงจะต้องเดินผ่านห้องนอนนะคะ

สรุปเฟอร์นิเจอร์ที่ให้ก็จะได้ครบตามในรูปเลย สำหรับห้อง Type นี้จะได้แอร์ขนาด 9,000 BTU 2 เครื่องด้วยค่ะ

เริ่มจากทางเข้าห้องเป็นประตูบานไม้ MDF หน้าบานเคลือบผิวด้วยเมลามีน ซึ่งวัสดุชนิดนี้จะต้องดูแลกันสักหน่อยเพราะความทนทานจะไม่เท่าไม้ลามิเนตนะคะ

ประตูติดระบบ Digital Doorlock ซึ่งรุ่นที่เลือกมาใช้นี้สามารถเปิดประตูได้ทั้งหมด 5 วิธี ได้แก่ Bluetooth, Fingerprint, RFID Card, Password และกุญแจ Master Key ด้านหลังประตูจะติด Door Stopper มาให้เรียบร้อย

เข้ามาภายในห้องจะเจอกับ Pantry ครัว, ห้องน้ำ และ Living Area เป็นส่วนแรก ถัดเข้าไปด้านในจึงเป็นห้องนอนที่อยู่ติดกับระเบียง

บรรยากาศแรกที่เรารู้สึกเมื่อเปิดประตูเข้ามาคือห้องดูโปร่งโล่งดี เนื่องจากประตูทางเข้าตรงกับประตูบานเลื่อนกระจกจึงได้แสงธรรมชาติที่ส่องผ่านเข้ามา

มองย้อนไปทางประตูห้องจะเห็นห้องน้ำอยู่ตรงข้าม Pantry ครัว เราว่าตำแหน่งของห้องน้ำเหมาะกับน้องๆ นักศึกษาดี เพราะเวลาที่เพื่อนมาหาก็เข้าห้องน้ำได้สะดวก ไม่ต้องผ่านเข้าไปในห้องนอนนะ ฝ้าเพดานที่นี่สูง 2.6 เมตรตามมาตรฐานดีค่ะ

เฟอร์นิเจอร์ส่วนแรกที่ Built-in มาให้คือ Pantry ครัวและตู้เก็บของที่อยู่ติดกับประตูทางเข้า หน้าตาก็เหมือนแบบในห้องตัวอย่างเลย

ส่วนตัวแล้วชอบตำแหน่งของตู้เก็บของที่ให้มาหน้าห้อง เพราะสามารถเอาไว้เก็บรองเท้าและของใช้เล็กๆ น้อยๆ ได้ ทำให้ภายในห้องเป็นระเบียบ

Pantry ครัวมีลิ้นชักสำหรับใส่ช้อนส้อม ด้านล่างมีตู้ช่องโล่งสำหรับวางไมโครเวฟ และมีตู้บานเปิดปิดใต้อ่างล้างจาน ไว้ใช้เก็บของเล็กๆ น้อยๆ ได้แต่ใส่ของเต็มไม่ได้นะคะเพราะต้องเว้นพื้นที่เผื่อซ่อมแซมอ่างล้างจาน บานพับให้มาเป็นแบบ Soft Close ใช้งานได้สะดวก

ข้อดีอีกอย่างของครัวโครงการนี้คือ ติดตั้งเครื่องกรองน้ำดื่มของ Pentair มาให้แล้ว ทำให้น้องๆ ไม่ต้องไปซื้อน้ำเปล่าเป็นแพ็คๆ ไม่ต้องออกแรกยกเลย สะดวกดีค่ะ

เนื่องจาก Pantry ครัวไม่กว้างมาก โครงการจึงออกแบบชุดครัวให้มีลิ้นชัก สำหรับวางของเพิ่มเติมได้

มาดูส่วนบนของเคาน์เตอร์ครัวกันบ้าง ให้ช่องเคาน์เตอร์มา 2 ช่อง ช่องหนึ่งเป็นซิงค์ล้างจาน อีกช่องเป็นเตาไฟฟ้า ทำให้เหลือพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารเล็กน้อย น้องๆ อาจจะดึงลิ้นชักออกมาวางของเพิ่มได้นิดหน่อย

ส่วน Backsplash ด้านหลังจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ตามแบบในห้องตัวอย่าง ทำให้เวลาปรุงอาหารแล้วกระเด็นก็สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย

ส่วนใหญ่แล้วคอนโดใกล้มหาวิทยาลัยจะไม่ค่อยได้ติดเครื่องดูดควันมาให้ แต่สำหรับที่นี่จะให้มาทั้ง Hob & Hood ของ Mex ค่ะ

ซิงค์ล้างจานของ Mex มีขนาดพอจะใส่อุปกรณ์ทำครัวได้ และมีความลึกพอสมควรที่จะล้างแล้วน้ำไม่กระเด็นออกมา

ด้านบนมีตู้ลอยสำหรับเก็บจานชามได้นิดหน่อย แต่ก็น่าจะพอสำหรับการใช้ชีวิตของนักศึกษา

มาดูส่วนของห้องน้ำกันบ้างจะได้มาครบตามแบบในห้องตัวอย่าง ยกเว้นพวกของตกแต่ง สำหรับพื้นและผนังของห้องปูด้วยกระเบื้องเซรามิคทั้งหมด จึงดูแลรักษาง่าย

อ่างล้างหน้าขนาดกะทัดรัดของ Cotto มีพื้นที่วางของด้านข้างก๊อกน้ำได้เล็กน้อย

ใต้อ่างล้างมือมีตู้เก็บของใช้ได้นิดหน่อย เป็นตู้ที่มีหน้าบานปิดจึงดูเรียบร้อยดี

โถสุขภัณฑ์เป็นโถแบบ 2 ชิ้นยี่ห้อ Cotto มาพร้อมอุปกรณ์ในห้องน้ำอื่นๆ ได้แก่ สายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษชำระ ของ Englefield

Shower Box เป็นฉากกั้นอาบน้ำบานเลื่อนแบบ 3 ตอน ซึ่งข้อดีของบานเลื่อนแบบ 3 ตอน ทำให้เราสามารถเปิดประตูได้กว้างจึงเข้าไปใช้งานได้สะดวกดี

ขอบประตู Shower Box จะมีขอบยางเพื่อช่วยให้สามารถปิดประตูได้สนิท และมีมือจับให้ใช้งานง่าย

ภายในติดตั้งฝักบัวของ Englefield และมีพื้นที่วางของที่ทางโครงการจะเจาะช่องไว้ให้ จึงไม่ต้องติดตั้งชั้นวางของเพิ่ม

หน้าตาของฝักบัวอาบน้ำของ Englefield มีขนาดจับได้ถนัดมือดี ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีขนาดกว้างประมาณ 1 x 1 m. กั้นพื้นที่ด้วยขอบ Shower Box เพื่อไม่ใช้น้ำจากพื้นที่ส่วนเปียกไหลออกมาในพื้นที่ส่วนแห้ง

เนื่องจากตำแหน่งของห้องน้ำอยู่ภายในอาคาร การระบายอากาศจึงต้องพึ่งพาพัดลมดูดอากาศล้วนๆ เลยนะ แนะนำให้หลังใช้งานเสร็จพยายามเปิดพัดลมไว้จนห้องน้ำแห้ง เพื่อป้องกันเชื้อราค่ะ

ถัดเข้ามายังพื้นที่นั่งเล่น จะได้เฟอร์นิเจอร์เป็นโซฟาขนาด 2 ที่นั่งแต่จะไม่ได้ให้แบบตัวนี้เป๊ะเลยนะ จะเป็นโซฟาผ้าตามรูปที่แปะไว้ให้ดูใน Furniture List โต๊ะกลางที่แถมให้เป็นโต๊ะสี่เหลี่ยมที่มีขนาดเล็กกว่านี้หน่อย

ข้อจำกัดอย่างหนึ่งของห้อง Type นี้คือ ไม่มีพื้นที่ให้วางโต๊ะทานอาหาร ถ้าเป็นน้องๆ นักศึกษาก็อาจจะนั่งกับพื้นแล้วทานตรงโต๊ะกลางได้ไม่มีปัญหา หรือถ้าไม่สะดวกก็แนะนำให้ซื้อโต๊ะข้างที่สามารถสอดขาใต้โซฟาได้มาเพิ่ม เอาไว้สำหรับนั่งทานอาหารบนโซฟาได้

ระยะดูทีวีประมาณ 3.8 m. จึงสามารถติดทีวีขนาดใหญ่แบบ 60 นิ้วได้เลย

หน้าตาของชั้นวางทีวีที่ให้มาก็จะคล้ายๆ แบบตัวนี้ มีหน้าบานปิดบางส่วน ภายในแบ่งเป็นชั้นสำหรับเก็บของได้

ห้องนอนจะมีความเป็นสัดส่วนขึ้น เพราะถูกกั้นด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอน เป็นประตูบานใหญ่ที่มีความสูงถึงฝ้า ทำให้ห้องดูโปร่ง

แต่ถ้าใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวในห้องนอนคงต้องติดม่านเพิ่มสักหน่อย เผื่อห้องไหนที่พักอาศัย 2 คน หากคนนึงต้องการนอนก่อนจะได้ปิดม่านบังแสงได้

รางประตูจะฝังลงไปที่พื้นทำให้เวลาเดินผ่านเข้าออกไม่ต้องกลัวสะดุด

พื้นที่ภายในห้องนอนค่อนข้างกว้าง วางเตียง, ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเขียนหนังสือได้ครบ ด้านในมีระเบียงและหน้าต่างซึ่งเป็นช่องแสงธรรมชาติของห้อง แม้หน้าต่างจะไม่ได้บานใหญ่จากพื้นถึงฝ้าแต่ก็มีขนาดใหญ่เกือบเต็มผนังเลย

ถ้าวางเตียงขนาด 5 ฟุตจะเหลือพื้นที่ให้เดินได้รอบเตียง และวางโต๊ะข้างเตียงได้ฝั่งหนึ่ง

ส่วนที่ต้องขอชมเลยคือตู้เสื้อผ้าของห้อง Type นี้เพราะเค้าออกแบบตู้ให้สามารถแขวนทีวีได้ เป็นปัญหาคลาสสิคที่เราเห็นบ่อยๆ ในแปลนลักษณะนี้ แต่ต้องแขวนทีวีแบบเครื่องเล็กหน่อย ขนาดไม่เกิน 32 นิ้ว

ตู้เสื้อผ้าที่โครงการ Built-in ไว้ให้เป็นตู้บานเปิด 2 ฝั่ง ซึ่งแขวนได้ทั้งแบบเสื้อผ้าตัวสั้นและตัวยาวและมีตู้ช่องโล่งสำหรับเก็บไว้ให้อีก 3 ช่อง ด้านบนมีช่องโล่งสำหรับเก็บของชิ้นใหญ่ๆ เช่น ผ้านวมได้อีกด้วย

สำหรับมุมนั่งเขียนหนังสือของน้องๆ โครงการจะให้เป็นโต๊ะเขียนหนังสือตัว L เข้ามุม พร้อมเก้าอี้ 1 ตัว ซึ่งหากน้องๆ อยู่อาศัย 2 คนก็พอจะแบ่งพื้นที่กันได้คนละฝั่ง แค่ต้องซื้อเก้าอี้มาเพิ่มอีกตัวนึงนะ

หน้าต่างจะมีส่วนที่เป็น Bay Window ทำให้มีมุมมองวิวภายนอกที่กว้างขึ้น และให้แสงธรรมชาติเข้ามาโต๊ะเขียนหนังสือได้เพียงพอ และมีบานกระทุ้งให้เปิดระบายอากาศได้

สำหรับระเบียงห้องจะอยู่ถัดจากเตียงนอน ประตูระเบียงเป็นบานเลื่อนกระจก 3 ตอน จึงเปิดประตูได้กว้าง

พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 2 x 0.75 m. เป็นตำแหน่งที่ทางโครงการเตรียมไว้ให้สำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าและวางราวตากผ้า พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคทำให้ทำความสะอาดง่าย มีความคงทนต่อสภาพแวดล้อม และผิวหน้ากระเบื้องจะป้องกันการลื่นได้ค่ะ

Condensing Unit จะถูกแขวนอยู่ด้านบนจึงช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยบริเวณระเบียงไปได้ พื้นระเบียงจะลดระดับลงจากพื้นห้องเล็กน้อยเพื่อกันไม่ให้น้ำจากระเบียงไหลเข้ามาในห้อง

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว ดวงไฟได้เป็นดาวน์ไลท์ ตามแบบในห้องตัวอย่าง แต่จะไม่มีการเซาะร่องซ่อนไฟให้นะคะ

ส่วนที่แตกต่างจากโครงการอื่นเลยคือ เค้าติดตั้งลำโพงที่เชื่อมกับระบบ Bluetooth Sound System มาให้ด้วยของ RAZR ข้อดีคือเราสามารถเปิดเพลงจากมือถือ แล้วเสียงจะไปออกลำโพงที่ทางโครงการฝังไว้บนฝ้าเพดานในห้องพัก

นอกจากจะควบคุมด้วยมือถือได้แล้วยังสามารถ Touch Screen จากหน้าจอเพื่อกดเลือก Apps เปลี่ยนเพลงจากหน้าจอได้ด้วยค่ะ

ต่อไปเป็นห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.4 ตารางเมตร มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นกว่าแบบแรก ทำให้สามารถแบ่งพื้นที่ได้เป็นสัดส่วนมากขึ้น มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหารที่ลงตัว และมีห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมาอีก 1 ห้อง ทำให้จัดให้เป็นห้องนอนอีกห้องหนึ่งได้

จากขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 34 ตร.ม. นั้นถือว่าไม่เล็กจนเกินไป สามารถอยู่กัน 2-3 คน ได้ เพราะห้องนอนและห้องอเนกประสงค์มีประตูกั้นสัดส่วนไว้เรียบร้อย เวลามีเเขกมาเยี่ยมหรือเพื่อนมาสังสรรค์ที่ห้องก็สามารถใช้ Living Area โดยไม่รบกวนพื้นที่ภายในห้องนอน

ตำแหน่งของห้องน้ำอยู่ติดกับส่วนครัวทำให้เวลาเพื่อนๆ มาหาที่ห้องแล้วอยากเข้าห้องน้ำก็ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอน ส่วนครัวนั้นเป็นครัวเปิด จึงไม่เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารหนักๆ ที่มีกลิ่นและควันฉุนๆ ค่ะ

เฟอร์นิเจอร์ที่ให้ก็จะได้ครบตามในรูปเช่นกัน สำหรับห้อง Type นี้จะได้แอร์ขนาด 9,000 BTU 2 เครื่องค่ะ

จากประตูห้องเปิดเข้ามาจะเจอกับโซนครัวก่อนเป็นลำดับแรก ซึ่งเป็นโถงทางเดินตรงกลางที่เชื่อมต่อกับ Living Area ด้านใน โครงการจะให้เฟอร์นิเจอร์มาครบ แต่จะไม่ได้เหมือนเป๊ะกับในห้องตัวอย่าง ให้ดูตามรูปใน Furniture List ที่แปะไว้ให้ดูด้านบนนะคะ

Pantry ครัวและตู้เก็บของหน้าห้องจะ Built-in มาให้คล้ายๆ ห้องแบบแรก

ฝั่งตรงข้าม Pantry ครัวเป็นตำแหน่งของห้องน้ำและห้องนอน

ภายในห้องน้ำมีการแบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นสัดส่วน มีขนาดพื้นที่ที่กว้างขึ้นกว่าห้องแบบแรก ให้สุขภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ครบถ้วน

ห้องน้ำของ Type นี้สามารถเข้าได้ 2 ทาง คือจากทางห้องครัวและห้องนอน เวลาดึกๆ อยากเข้าห้องน้ำก็สะดวก ไม่ต้องเดินอ้อม

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดกว้างยาวประมาณ 0.95 x 0.95 m.

ภายในห้องนอนถือว่าใช้งานได้แบบสบายๆ ไม่อึดอัด สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ได้ครบถ้วนทั้งเตียงนอน โต๊ะเขียนหนังสือและตู้เสื้อผ้า มีหน้าต่างบานใหญ่เต็มผนังแบบสูงจากพื้นถึงฝ้า เป็นบาน Fix ผสม บานกระทุ้ง ทำให้สามารถรับแสงธรรมชาติได้มาก และเปิดระบายอากาศได้

สำหรับใครที่อยากติดทีวีในห้องนอนเพิ่มแนะนำเป็นแบบแขวนจะช่วยประหยัดพื้นที่การใช้งานได้ดี

พื้นที่ของห้องนี้กว้างพอสมควรเลย พอวางเตียงขนาด 5 ฟุตแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง

ด้านข้างเตียงเหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะเขียนหนังสือได้ตลอดแนว แบ่งกันใช้ 2 คนก็ยังไหว

มุมนี้คงเป็นมุมโปรดของน้องๆ หลายคน เพราะเวลานั่งอ่านหนังสือจะได้ชมวิวภายนอกไปได้ด้วย ยิ่งห้องไหนอยู่ชั้นสูงหน่อยนะ มองวิวไปได้ไกลๆ ไม่มีตึกบังแน่ๆ

พื้นที่ด้านข้างเตียงอีกฝั่งหนึ่งจะมีการ Built-in เฟอร์นิเจอร์มาให้เป็นตู้เสื้อผ้าตามแบบในห้องตัวอย่างเลย

พื้นที่นั่งเล่นและทานอาหารจะอยู่ด้วยกันในบริเวณ Common Area ส่วนตัวชอบแปลนแบบนี้นะคะ คือพอเราวางทีวี โซฟา และโต๊ะทานอาหารไว้ในแนวเดียวกัน ทำให้เราสามารถดูทีวีได้สะดวกจากโต๊ะทานอาหารเลย

ระยะดูทีวีของห้องนี้อยู่ที่ประมาณ 2 m. ขนาดทีวีที่เหมาะสมจึงไม่ควรเกิน 46 นิ้ว ชุดโซฟาที่ให้เป็นแบบ 2 ที่นั่งเช่นเดียวกับห้องแบบแรกมาพร้อมชั้นวางทีวี แต่ห้องนี้จะไม่ได้ให้โต๊ะกลางมานะ เพราะพื้นที่บริเวณนี้ไม่ได้กว้างมาก ปล่อยโล่งๆ ไว้ก็ดี ให้เดินผ่านไประเบียงได้สะดวก

ส่วนโต๊ะทานอาหารมีขนาด 2 ที่นั่ง พอวางโต๊ะแบบนี้แล้วก็ยังเหลือพื้นที่ด้านหลังให้สามารถดึงเก้าอี้ออกมานั่งทานข้าวได้สะดวก

จากที่นั่งทานข้าวก็สามารถดูทีวีไปด้วยได้

ส่วนที่เราว่าเป็น Highlight ของห้องนี้คือระเบียงที่ยาวตลอดแนว Common Area ประมาณ 3.25 m. เลย ซึ่งโครงการออกแบบที่วาง Condensing Unit ให้แขวนไว้ด้านบน ทำให้สามารถใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มที่

พอวางเครื่องซักผ้าและราวตากผ้าแล้วก็ยังเหลือพื้นที่โล่งๆ ให้ออกไปยืนชมวิวได้แหละ

ถ้าอยากประหยัดแอร์ก็เปิดประตูระเบียงกว้างๆ แบบนี้ได้ มุมนี้ดูน่าอยู่ดีนะ

ปิดท้ายด้วยห้องอเนกประสงค์ที่มีขนาดประมาณ 1.95 x 2.15 m. พื้นที่ห้องกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน ทำให้สามารถเปิดห้องได้กว้าง ซึ่งถ้าใครจะจัดเป็นห้องนอน คงต้องติดม่านเพิ่มเพื่อความเป็นส่วนตัวนะคะ

โครงการตั้งใจทำห้องนี้ให้จัดเป็นห้องนอนได้จริง โดยจะให้เตียงเดี่ยวและตู้เสื้อผ้ามาด้วย แม้ว่าห้องจะมีขนาดกะทัดรัดแต่ภายในห้องก็มีหน้าต่างในตัวทำให้บรรยากาศในห้องดูกว้างขึ้น

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

13 September 2020

• Studio / เนื้อที่ 21.90 – 22.90 ตร.ม. / ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท หรือ 81,735 บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom / เนื้อที่ 25.9 – 26. 1 ตร.ม. / ราคาเริ่มต้น 2.26 ล้านบาท หรือ 87,259 บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom Extra / เนื้อที่ 28.5 ตร.ม. / ราคาเริ่มต้น 2.62 ล้านบาท หรือ 91,930 บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom Exclusive / เนื้อที่ 29.90 – 34.90 ตร.ม. / ราคาเริ่มต้น 2.81 ล้านบาท หรือ 93,980 บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus / เนื้อที่ 34.4 ตร.ม. / ราคาเริ่มต้น 3.19 ล้านบาท หรือ 92,733 บาท/ตร.ม.
• Vertical Suite / เนื้อที่ 25.60(+ ชั้นลอย 10.4) – 28.80(+ ชั้นลอย 10.7) ตร.ม. / ราคาเริ่มต้น 3.21 ล้านบาท หรือ 125,390 บาท/ตร.ม. (รวมชั้นลอย 89,167 บาท/ตร.ม.)
• 1 Bedroom Plus Vertical Suite / เนื้อที่ 34.4 (+ ชั้นลอย 18.6) – 39.5 (+ ชั้นลอย 24) ตร.ม. / ราคาเริ่มต้น 4.01 ล้านบาท หรือ 116,570 บาท/ตร.ม. (รวมชั้นลอย 75,660 บาท/ตร.ม.)
• 2 Bedroom / เนื้อที่ 57.1 – 57.2 ตร.ม. / ราคาเริ่มต้น 5.77 ล้านบาท หรือ 101,050 บาท/ตร.ม.

• รูปแบบการขาย Fully Furnished
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.60 เมตร
• Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
• Hob & Hood / ของยี่ห้อ MEX
• จอง+ทำสัญญา 19,000 บาท
• ดาวน์ 10 – 13% ผ่อนดาวน์ 34 งวด
• ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลางห้อง Simplex 55 บาท/ตร.ม./เดือน และห้อง Vertical Suite 75 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล : โครงการ Modiz Launch เรียกได้ว่าอยู่ในแหล่งความอุดมสมบูรณ์ติดมหาลัยอย่าง U-Square และ U-Village เลยนะ เป็นย่านฮอตฮิตของน้องๆ นักศึกษาที่เต็มไปด้วยหอพัก ร้านค้า ร้านอาหาร จึงเป็นที่นิยมสำหรับการมาหาของกิน เป็นจุดนัดพบเพื่อนๆ ตลอดทั้งวัน เพราะทำเลนี้อยู่ใกล้ประตูเข้ามหาลัยเชียงราก 2 มากกว่าจุดอื่นๆ เลย หรือถ้าอยากช้อปปิ้งของกินของใช้เข้าห้องแบบครบครันก็จะมีทั้ง TU Dome, ตลาดไท และฟิวเจอร์พาร์ครังสิตให้เลือกเดินกันได้

การเดินทางโดยใช้รถ : โครงการตั้งอยู่ในซอยย่อยถัดเข้ามาจากถนนเชียงรากประมาณ 40 เมตร ซึ่งเรามองว่าเดินทางง่ายกว่าหลายๆ โครงการที่อยู่ติดถนนใหญ่เสียอีก เพราะสามารถเดินทางเข้าม. ธรรมศาสตร์ ทางประตูเชียงราก 2 ได้โดยไม่ต้องไปกลับรถ หรือหากต้องการไปขึ้นทางด่วนอุดรรัถยา, โทลเวย์หน้าฟิวเจอร์ ก็ขึ้นสะพานกลับรถได้ทัน จึงถือเป็นทำเลที่เดินทางด้วยรถค่อนข้างสะดวกเลยทีเดียว โครงการมีที่จอดรถถึง 46.43% ถือว่าให้มาเยอะกว่าโครงการโดยรอบนะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ติดกับโครงการที่ด้านหน้าหอพัก City Park จะมีพี่วินมอไซค์คอยให้บริการอยู่ เดินนิดเดียวก็เจอพี่วินแล้ว หรือถ้าจะเดินเข้ามหาลัยก็มีระยะถึงประตูเชียงราก 2 ประมาณ 250 m. และอยู่ใกล้ประตูทางลัดเข้ามหาลัย (ประตูหนอน) ในระยะ 100 m. อีกด้วย ส่วนในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้มเข้ามาในพื้นที่ ถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยการเดินทางเข้า – ออกเมืองได้สะดวกขึ้น

การออกแบบอาคาร : โครงการวางอาคารตามความยาวของที่ดินและหันห้องพักอาศัยออก 2 ฝั่ง ทำให้ไม่บังวิวกันเอง โถงลิฟต์อยู่ช่วงกลางๆ อาคารทำให้ง่ายต่อการใช้งานทุกยูนิต สำหรับ Facilities หลักจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือที่ชั้น 9, 9M จัดเป็นแบบเต็มชั้น ภายในแบ่งเป็นฟังก์ชันย่อยๆ จัดพื้นที่เป็นสัดส่วนไม่รบกวนกัน และอีกส่วนหนึ่งจะถูกยกไว้บนชั้น 34 – 36 จึงได้วิวที่เปิดโล่งและเดินเชื่อมถึงกันได้ทั้ง 3 ชั้น ไปจนถึงสวนบนชั้น Rooftop ค่ะ

การออกแบบห้องพัก : โครงการนี้มีแบบห้องให้เลือกทั้งหมด 8 แบบ ซึ่งเป็นแปลนมาตรฐานที่ AssetWise ชอบใช้ เป็นห้องที่ถูกออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด แต่มีฟังก์ชันพื้นฐานครบตามที่น้องๆ นักศึกษาต้องใช้งาน

อย่างที่บอกว่าโครงการมีรูปแบบห้องให้เลือกเยอะ บางห้องที่ให้ความสำคัญกับ Bedroom จะออกแบบมาให้มีประตูกั้นได้ความเป็นส่วนตัว บางแบบเหมาะกับการอยู่หลายคน เน้นการใช้งาน Living Area กว้างๆ เพื่อให้สมาชิกในห้องมีพื้นที่สำหรับนั่งทำงานกลุ่ม หรือชวนเพื่อนๆมาเล่นเกมส์และจัดปาร์ตี้ที่ห้องได้ แต่ก็ยังมีจุดที่รู้สึกแปลกๆ เช่นในห้อง 1 Bedroom และ 1 Bedroom Extra ที่ไม่มีตำแหน่งสำหรับวางโต๊ะทานอาหาร เป็นต้น

วัสดุ : ให้มาเป็นแบบ Fully Furnished คือมีเฟอร์นิเจอร์หลักๆให้มาค่อนข้างครบ แต่ด้วยราคาเฉลี่ยที่ประมาณ 90,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งสูงกว่าคอนโดอื่นในทำเลนี้ เราจึงได้เห็นวัสดุหลายๆ อย่างที่เพิ่มเติมมาให้ อย่างเช่นเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน พร้อมเครื่องกรองน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่คอนโดใกล้มหาลัยส่วนใหญ่ไม่ได้มีมาให้

ส่วนที่ต้องชมอีกเรื่องคือการเลือกเฟอร์นิเจอร์ Built-in ของโครงการนี้ ที่เลือกมาให้แบบใช้งานได้จริง เช่นตู้เสื้อผ้าที่สามารถติดทีวีบนผนังตู้ได้ ซึ่งเราเห็นจากหลายโครงการว่าเป็นปัญหาของแปลนลักษณะนี้ ก็ถือว่าแก้ไปได้ดี ส่วนวัสดุอื่นๆ ได้มาตามาตรฐาน อ้อ! แน่นอนว่าถ้าเป็นโครงการของ AssetWise ก็มักจะให้ Bluetooth Sound System มาด้วย ครบพร้อมอยู่ หรือใครซื้อไปปล่อยเช่าก็ง่ายแล้วค่ะ ซื้อเพิ่มแค่เครื่องใช้ไฟฟ้าเท่านั้น

สาธารณูปโภค : โครงการนี้มีจุดเด่นกว่าโครงการเพื่อนบ้านตรงที่ให้ Facilities มาค่อนข้างเยอะมากเมื่อเทียบกับจำนวนห้องเพียง 463 ยูนิต จัดวางไว้ที่ชั้น 1, 9, 9M, 34 – 36 และบน Rooftop ซึ่งแต่ละชั้นจะให้มาแบบเต็มพื้นที่ทั้งชั้น และจัดแบ่งเป็นฟังก์ชันย่อยๆ ที่หลากหลาย แต่ละฟังก์ชันดูทันสมัย เป็นที่นิยมในกลุ่มเด็กๆ รุ่นใหม่ เช่น Borad Game Room, Creative Studio, Music Studio, VR Room, Cook Tuber เป็นต้น

หรือจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางมาตรฐานอย่างสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และ Sky Lounge ก็มีให้ใช้ตามปกติด้วย สำหรับอัตราส่วนลิฟต์ 154 : 1 จัดว่าหนาแน่นพอสมควร แต่ก็เป็นปกติของคอนโดระดับราคานี้ค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 9x,xxx บาท/ตร.ม., 13 September 2020

• ทำเล 8/10 – ติดมหาวิทยาลัย ในทำเล U-Square และ U-Village หาของกินง่าย ไม่มีตึกสูงบังวิว
• เดินทางด้วยรถ 8/10 – เข้ามหาลัยได้สะดวก ใกล้จุดกลับรถและทางด่วน มีที่จอดรถเยอะกว่าโครงการโดยรอบ
• ไม่ใช้รถ 8/10 – มีวินมอไซค์อยู่ด้านหน้า มี Shuttle Van เข้าในมหาลัย ใกล้ท่ารถตู้
• วัสดุ 7.5/10 – ให้มาแบบ Fully Furnished ตามราคาของคอนโดระดับนี้
• แบบ 8/10 – ออกแบบส่วนกลางน่าใช้งาน ห้องพักกะทัดรัดแต่ฟังก์ชันส่วนใหญ่ลงตัวดี
• สาธารณูปโภค 8.5/10 -ให้มาเยอะเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิต และจัดไว้อยู่บนชั้นสูง

• MAIN CLASS
• 7.96 / 10.00

BOTTOM LINE

คอนโด Modiz Launch เหมาะกับนักศึกษาหรือคนที่กำลังมองหาคอนโดติดมหาลัยธรรมศาสตร์ แบบที่อยู่ในระยะเดินไปมหาวิทยาลัยได้สบาย และชอบอยู่ใกล้แหล่งของกิน มีคนเดินผ่านไปมาคึกคัก ไม่เปลี่ยว อยากได้ห้องที่แต่งเสร็จพร้อมอยู่ ชอบส่วนกลางที่เยอะและหลากหลาย มีพื้นที่ให้สังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนได้ มีงบประมาณ 1.79 – 6 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 12,530 – 42,000 บาท/เดือน

หรืออีกนัยหนึ่งคือเหมาะกับกลุ่มลงทุนปล่อยเช่า ที่หวังจะได้ลูกค้าเป็นนักศึกษาหรือคนทำงานที่ต้องการอยู่ติดมหาลัย เดินไปมหาลัยได้แบบไม่ต้องขับรถ

ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving