รีวิวโครงการ

รีวิวตึกเสร็จ KAVE AVA คอนโด Low Rise 5 อาคาร ใกล้ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต จัดเต็มส่วนกลาง 48 ฟังก์ชัน จาก AssetWise [รีวิวฉบับที่ 2484]

21 มกราคม 2023

อ่านรีวิวล่าสุด

หลังจากที่โครงการ KAVE TU สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่กันไปแล้วก็มาถึงคราว KAVE AVA กันบ้างค่ะ โครงการนี้เป็นกลุ่มคอนโดมิเนียม Low Rise ทำเลใกล้ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต จาก AssetWise ที่เขาทำออกมา ไม่เพียงตอบโจทย์นักศึกษา แต่ยังรองรับคนที่ทำงานในมหาวิทยาลัย, รพ.ธรรมศาสตร์ฯ หรือนักลงทุนที่สนใจปล่อยเช่าด้วย ซึ่งโครงการถือว่ามีจุดเด่นหลายอย่าง ดังนี้

  • ทำเล : โครงการตั้งอยู่บนถนนคลองหลวง ฝั่งตรงข้ามกับม.ธรรมศาสตร์ ข้ามมาถึงฝั่งประตูเชียงราก 2 และโซน U-Square ที่เป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยหลักของนักศึกษา และไม่ไกลจากนิคมอุตสาหกรรมนวนครด้วยค่ะ
  • พื้นที่ส่วนกลาง : เป็นโครงการที่ถือว่าให้พื้นที่ส่วนกลางมาจัดเต็มที่สุดในย่านนี้ มีฟังก์ชันทั้งหมด 48 รายการ พร้อมสระว่ายน้ำที่ให้มาถึง 3 สระ 3 สไตล์ และ Fitness 2 ชั้น พื้นที่อ่านหนังสือ และห้อง E-Sport เป็นต้น
  • การออกแบบโครงการ : KAVE AVA ออกแบบมาในสไตล์ Futuristic มีการใช้แสง เส้นโค้ง ในการออกแบบให้ดูล้ำสมัย น่าใช้งาน
  • วัสดุภายในห้อง : โครงการขายแบบ Fully Furnished Package เลือกเฟอร์นิเจอร์มาให้เข้ากับพื้นที่และการใช้สอย โดยมีห้องที่สามารถวางเตียงเดี่ยว 3 ฟุต 2 เตียงได้ เพื่อรองรับการปล่อยเช่าแบบ Roommate เป็นต้น
  • การออกแบบห้องพักอาศัย : มีแบบให้เลือกหลากหลาย เน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom แต่ Layout แตกต่างกันไป มีห้องที่เน้นความโปร่ง สบาย ห้องที่เน้นความเป็นส่วนตัว แยก Walk-in Closet เป็นสัดส่วน หรือห้องพื้นที่ใช้สอยเยอะ เป็นต้น
  • การลงทุน : สามารถซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่านักศึกษา หรือพนักงานในทำเลนี้ได้ โดยหอพักส่วนใหญ่มีค่าเช่าเฉลี่ย 6,000 – 10,000 บาท/เดือน ซึ่งคอนโดแถวนี้สามารถปล่อยเช่าได้ 8,000 – 10,000 บาท/เดือนขึ้นไป ในราคาเริ่มต้นของห้องอยู่ที่ประมาณ 1.39 ล้านบาท* (ราคาโปรโมชัน)

ข้อมูลโครงการ

KAVE AVA (เคฟ เอวา) ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565

 ชื่อโครงการ   KAVE AVA (เคฟ เอวา)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท แอสเซทไวส์ จํากัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS   MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่   ถนน เชียงราก อำเภอ คลองหลวง จังหวัด ปทุมธานี
 ที่ดิน   11-0-18.70 ไร่
 ประเภทคอนโด   Low Rise 8 ชั้น 5 อาคาร
 จำนวนยูนิต   ห้องพักอาศัย 1,278 ยูนิต และร้านค้า 13 ยูนิต
– อาคาร A จำนวน 254 ยูนิต และ 13 ร้านค้า
– อาคาร B จำนวน 247 ยูนิต
– อาคาร C จำนวน 263 ยูนิต
– อาคาร D จำนวน 260 ยูนิต
-อาคาร E จำนวน 254 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด   n/a ยูนิตที่อาคาร n/a
 ที่จอดรถ   ที่จอดรถประมาณ n/a คันคิดเป็น 31.37% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 35.75%
 เริ่มก่อสร้าง  Q3 2564
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   2566
 ประเภทห้องพัก
  • Studio พื้นที่ใช้สอย 21.60 – 23.50 ตร.ม.
  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 23.70 – 26.70 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Extra พื้นที่ใช้สอย 26.20 – 26.90 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Exclusive พื้นที่ใช้สอย 26.60 – 28.10 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.00 – 35.30 ตร.ม.

 ฝ้าเพดานสูง  2.40 เมตร
 ราคาเริ่มต้น  1.39 ล้านบาท  (ราคาโปรโมชัน 2022)
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 70,000 – 80,000 บาท/ตร.ม.
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด)  n/a
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  ผ่านแล้ว
 เว็บไซต์โครงการ https://kavecondo.com/condominium/kave-ava/
 Call Center 02 168 0000

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 14.064651128627009, 100.60970858027238
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ KAVE AVA ตั้งอยู่บนถนนคลองหลวง (ถนนเชียงราก) ตรงข้ามกับม.ธรรมศาสตร์ รังสิตค่ะ ซึ่งโครงการจะอยู่ตรงข้ามกับประตูเชียงราก 2 ซึ่งทำเลนี้จะเต็มไปด้วยหอพักอาศัย และคอนโดมิเนียม เนื่องจากมีความต้องการอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก ทั้งจากนักศึกษาที่ม.ธรรมศาสตร์เอง และจากพนักงานที่ทำงานที่สถานศึกษา โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ สวทช. รวมไปถึงนิคมอุตสาหกรรมนวนครที่อยู่ไม่ไกลด้วย

โครงการนี้จึงไม่เพียงแค่ตอบโจทย์น้องๆ นักศึกษาเท่านั้นนะคะ ยังเป็นที่น่าสนใจของกลุ่มนักลงทุน ที่สนใจซื้อปล่อยเช่าอีกด้วย เพราะหอพักบางแห่งก็มีราคาค่าเช่า เทียบเท่ากับผ่อนคอนโดมิเนียมได้เลย

จากภาพ เราสามารถแบ่งแยกโซนที่พักอาศัยของถนนเชียงรากออกได้อีกเป็น 4 โซน ซึ่งแต่ละโซนก็จะมีลักษณะ สภาพแวดล้อม และความเป็นอยู่ที่แตกต่างกันออกไป คือ

  1. โซน U-Square : เป็นโซนที่อุดมสมบูรณ์และใกล้กับประตูมหาวิทยาลัยมากที่สุด มีหอพักนักศึกษาขึ้นอย่างหนาแน่น และมีร้านค้าต่างๆ หลายแห่ง เรียกได้ว่าเป็นโซนที่สะดวกสบาย ความอุดมสมบูรณ์สูง แต่ก็พลุกพล่านมากที่สุดโซนหนึ่ง ซึ่งหากใครที่ชื่นชอบความเงียบสงบและเป็นส่วนตัว ก็อาจยังไม่เหมาะกับโซนนี้ค่ะ
  2. โซน SUNTA : เป็นโซนที่ตั้งของโครงการ อยู่ฝั่งตรงข้ามกับมหาลัยและ U-Square ซึ่งจะสามารถเดินข้ามไป – มาได้ด้วยสะพานลอย ก็ยังถือว่าเดินไปเรียนค่อนข้างสะดวกค่ะ รวมถึงเรื่องอาหารการกินก็พอจะมีตรงบริเวณริมถนนและปากซอยต่างๆ หรือส่วนใหญ่น้องๆนักศึกษาก็จะหาซื้อของกินกันตั้งแต่ฝั่ง U-Square เสร็จแล้วค่อยข้ามฝั่งเพื่อกลับไปยังที่พักได้ โซนนี้ถือว่ายังมีความสะดวกสบาย และมีความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นมาหน่อย ไม่พลุกพล่านเหมือนฝั่งมหาลัย จึงเหมาะแก่การอยู่อาศัยมากขึ้น
  3. โซน J-Park : เป็นอีกโซนที่อยู่ฝั่งเดียวกับมหาวิทยาลัย แต่จะอยู่บริเวณด้านหลัง และถ้าออกมาจากม. ก็จะต้องไปกลับรถมาก่อน 2 รอบ โซนนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นโซนที่มีหอพักราคาสูงอย่าง J-Park ตั้งอยู่ ด้านหน้ามี Plaza เป็นของตัวเอง ซึ่งก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และยังมีหอพักอื่นๆอยู่ด้านในซอยอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งทำเลที่ถือว่าสงบมากกว่า U-Square เพราะเดิมทีโดยรอบเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยดั้งเดิมค่ะ
  4. โซน Golf View : โซนนี้ถือว่าเป็นโซนที่แยกตัวออกมาจากโซนอื่นๆ และได้ตั้งอาณาจักรขึ้นมาเป็นของตัวเองด้านใน แต่ด้วยความที่มันไกลและเดินทางลำบากมากสุดในบรรดาทุกๆโซน จึงทำให้ราคาหอพักค่อนข้างถูก เหมาะกับนักศึกษาที่ไม่เน้นเรื่องความอุดมสมบูรณ์ ไม่กลัวเรื่องเดินทางลำบาก แต่อันที่จริงแล้วทางหอก็มีรถรับ – ส่งนะคะ ดังนั้นถ้าใครที่เน้นเรื่องราคาถูกและความเป็นส่วนตัวก็จะเลือกอยู่ที่โซนนี้กันค่ะ

บรรยากาศความอุดมสมบูรณ์ของ U-Square ที่เป็นเหมือนเต็นท์และศูนย์อาหารขนาดใหญ่ของโซนนี้ ซึ่งจะมีน้องๆ นักศึกษาและพนักงานงานแถวนั้นแวะมาจับจ่ายใช้สอยกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืน

อีกที่หนึ่งก็คือ TU Dome โครงการ Mixed-use ของมหาลัย ที่ด้านในจะเป็นหอพักนักศึกษา และด้านหน้าจะทำเป็นเหมือนศูนย์การค้า หรือ Community Mall ที่มีร้านค้าต่างๆค่อนข้างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น MK, Yayoi, Chester’s Grill และ Watson เป็นต้น รวมถึงบริเวณด้านหน้าก็จะมีตลาดนัดเล็กๆ ที่เปิดทุกวันให้เดินด้วยค่ะ เรียกได้ว่าเป็นโซนมหาลัยที่มีความคึกคักมากๆ เลย

สำหรับเรื่องการเดินทางนะคะ ทางโครงการจะอยู่ไม่ไกลจากทางด่วนอุดรรัถยา ระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตร และห่างจากทางยกระดับอุตราภิมุขประมาณ 12 กิโลเมตร เดินทางสะดวก รถไม่ติดเลยค่ะ นอกจากนั้นใครที่ทำงานที่นิคมนวนครก็อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 11.6 กิโลเมตรเท่านั้นเองค่ะ

สำหรับการเดินทางไปยังม.ธรรมศาสตร์ โครงการ KAVE มีแผนว่าจะก่อสร้างสะพานลอยเพื่อให้นักศึกษาได้เดินข้ามไปเรียนได้สะดวก โดยจะมีระยะทางจากโครงการถึงประตูทางเข้าม. ประตูเชียงราก 2 ประมาณ 280 เมตร เดินอีกนิดก็จะถึงท่ารถตู้ที่เพิ่งย้ายมาใหม่ ตรงบริเวณด้านหน้าคณะสถาปัตย์แล้วค่ะ ซึ่งนอกจากจะมีรถตู้แล้วก็ยังมีพวกรถราง NGV ที่นักศึกษาใช้เดินทางไปเรียนตามอาคารต่างๆในมหาลัยได้ฟรีอีกด้วย

การเดินทางด้วยรถยนต์จากประตูเชียงราก 1

สำหรับน้องๆ นักศึกษาที่ขับรถไปม. เข้าประตูเชียงราก 1 เราจะต้องไปกลับรถมาก่อน แล้วจึงเลี้ยวซ้ายเข้ามหาลัยที่ประตูเชียงราก 1 ได้ค่ะ ซึ่งจะมีระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตร หรือใช้เวลาประมาณ 4 – 5 นาที

การเดินทางด้วยรถยนต์จากประตูเชียงราก 2

สำหรับขากลับจากม. มายังโครงการ KAVE AVA สามารถออกทางประตูเชียงราก 2 แล้วไปกลับรถก่อนเลี้ยวซ้ายเข้าโครงการ มีระยะทางประมาณ 1.6 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 – 5 นาทีค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการ KAVE AVA ถือว่าค่อนข้างโล่งทีเดียวค่ะ จะมีก็แต่อาคาร KAVE TU ที่อยู่ด้านหลังเป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น เช่นกัน แต่ถ้าเทียบกับมุมมองในอาคารแล้ว ถือว่าไม่ได้บังวิวและอยู่ในระยะประชิดเลยค่ะ เรียกได้ว่ารอบๆ โครงการนั้นเป็นที่ว่างเปล่าเป็นส่วนใหญ่

  • ทิศเหนือ : ทางเข้าโครงการ อยู่ติดกับคลองหนึ่งและถนนคลองหลวง หรือถนนเชียงราก
  • ทิศใต้ : ติดกับ ที่ว่างและ มองเห็นโครงการคอนโดเพื่อนบ้านที่สูง 8 ชั้น
  • ทิศตะวันออก : ติดกับ ทางเข้าโครงการ KAVE TU และที่ว่าง
  • ทิศตะวันตก : ติดกับ ที่ว่างและ มองเห็นโครงการคอนโดเพื่อนบ้านที่สูง 8 ชั้น

บรรยากาศบริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการทางทิศเหนือ มองเห็นสะพานข้ามคลองหนึ่งและถนนคลองหลวงค่ะ

บรรยากาศบริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการ KAVE AVA ทางปัจจุบันกำลังล้อมรั้วก่อสร้างอยู่ค่ะ

ทางทิศตะวันออกของโครงการ KAVE AVA จะอยู่ติดกับทางเข้าโครงการ KAVE TU ที่อยู่ด้านหลัง

พื้นที่ก่อสร้างโครงการ KAVE AVA เมื่อมองมาจากโครงการ KAVE TU ค่ะ

Image 1/8
บรรยากาศบริเวณสำนักงานขาย

บรรยากาศบริเวณสำนักงานขาย

สำหรับสำนักงานขายปัจจุบันตั้งอยู่ตรงข้ามกับที่ตั้งโครงการนะคะ อยู่ฝั่งประตูเชียงราก 2 เลยค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • ฟลิค ทียู – 3.4 กิโลเมตร
  • แม็คโคร – 3.5 กิโลเมตร
  • ธรรมศาสตร์ เอกซ์ตรีม พลาซ่า – 3.8 กิโลเมตร
  • เทสโก้ โลตัส คลองหลวง 3.8 กิโลเมตร
  • ตลาดไท – 4.3 กิโลเมตร
  • ตลาดนัดอินเตอร์โซน (ตลาดกลางคืน ธรรมศาสตร์) – 4.7  กิโลเมตร
  • มิงเกิ้ล มอลล์ – 4.9 กิโลเมตร
  • ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต – 11.1 กิโลเมตร
  • เซ็นทรัลรังสิต (โครงการในอนาคต)

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ – 2.9 กิโลเมตร

สถานศึกษา / โรงเรียน

  • อุทยานเรียนรู้ป่วย 100 ปี – 2.8 กิโลเมตร
  • ศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ – 3.3 กิโลเมตร
  • สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ – 3.4 กิโลเมตร
  • หอสมุดป่วย อึ้งภากรณ์ – 3.6 กิโลเมตร
  • ศูนย์การเรียนรู้กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ – 3.6 กิโลเมตร
  • อาคารเรียนรวมสังคมศาสตร์ (SC) – 3.8 กิโลเมตร
  • โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ – 4.5 กิโลเมตร

สถานที่อื่นๆ

  • ศูนย์ประชุม ธรรมศาสตร์รังสิต – 2.7 กิโลเมตร
  • จุดขึ้น – ลง ทางด่วนอุดรรัถยา – 3.5  กิโลเมตร
  • กิติยาคาร – 3.7 กิโลเมตร
  • อาคารโดมบริหาร – 3.9 กิโลเมตร
  • สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และ – 4.3 กิโลเมตร
  • เทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) – 4.3 กิโลเมตร
  • สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) – 4.5 กิโลเมตร
  • จุดขึ้นลงทางด่วนอุตราภิมุข – 12  กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

โครงการ KAVE AVA เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise จาก AssetWise โครงการที่ 2 แล้วนะคะ หลังจากโครงการ KAVE TU ในทำเลติดกันที่สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ไปแล้ว โครงการนี้ทำออกมาตอบโจทย์ทั้งกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พนักงานมหาวิทยาลัย รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และนักลงทุนที่สนใจซื้อเพื่อปล่อยเช่าทำกำไร

โดยมีแนวความคิดคือ “กำเนิดใหม่” หรือว่า Ava ที่มาจาก Eve ผู้หญิงที่กำเนิดขึ้นมาคนแรกของโลกตามความเชื่อทางศาสนาคริสต์ ทำให้มีการออกแบบเป็นสไตล์ Futuristic ใช้แสง เส้นโค้ง ในการออกแบบให้ดูล้ำสมัยนั่นเองค่ะ

ทางเข้า – ออกของโครงการมีจุดเดียวนะคะ อยู่บนถนนเลียบคลองหนึ่ง ข้ามสะพานจากถนนคลองหลวงมาก็จะเห็นทางเข้าโครงการเลย โดยระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่มี รปภ.คอยดูแลอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง และเป็นระบบไม้กั้นกระดกอัตโนมัติค่ะ

โครงการ KAVE AVA ตั้งอยู่บนที่ดิน 11-0-18.70 ไร่ มีทั้งหมด 5 อาคาร รวมทั้งหมด 1,278 ยูนิต และร้านค้า 13 ยูนิต แบ่งเป็น

  •  อาคาร A จำนวน 254 ยูนิต และ 13 ร้านค้า
  • อาคาร B จำนวน 247 ยูนิต
  • อาคาร C จำนวน 263 ยูนิต
  • อาคาร D จำนวน 260 ยูนิต
  • อาคาร E จำนวน 254 ยูนิต

โดยจุดเด่นของโครงการนี้ก็คือให้พื้นที่ส่วนกลางมาได้จัดเต็มมากๆ มีพื้นที่สีเขียวกว่า 2.4 ไร่ และ Facility รวม 48 รายการ ประมาณ 7,000 ตารางเมตร กระจายกันไปในแต่ละอาคาร ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกันได้ทั้งหมดทุกอาคารเลยค่ะ โดยพื้นที่ส่วนกลางที่มีทุกอาคารเลยก็คือ Lobby Lounge, Mailbox และพื้นที่ส่วนกลางสำหรับนั่งอ่านหนังสือ นั่งทำงาน เป็นต้น

Highlight อีกอย่างหนึ่งเลยก็คือตัวอาคารที่โอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางตรงกลาง ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยเยอะ ได้สระว่ายน้ำมาถึง 3 สระด้วยกัน นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น Rooftop ของอาคาร B, C ด้วยค่ะ

ก่อนเราจะไปดูพื้นที่ส่วนกลางทีละชั้น มาดูส่วนที่เป็น Highlight กันก่อนนะคะ ส่วนกลางที่อยู่ Outdoor ระหว่างอาคารจะแบ่งเป็น 2 จุดด้วยกันค่ะ

  • จุดที่ 1 : สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลางเชื่อมต่อกับ Landscape ประกอบไปด้วย AVA The Gym Pod เป็นห้องออกกำลังกาย 2 ชั้น สามารถชมวิวได้แบบ Panorama และ AVA The Chef Pod เป็นพื้นที่ Co-Cooking และ Co-Dining สำหรับทำอาหาร พร้อมชมวิวสระว่ายน้ำไปด้วยเหมือนเราปาร์ตี้อยู่ริมสระว่ายน้ำเลย
  • จุดที่ 2 : พื้นที่สระว่ายน้ำส่วนกลางระหว่างอาคาร D และ E AVA Terrace Zone สามารถว่ายน้ำออกกำลังกาย หรือเล่นน้ำกับเพื่อนๆ ได้เป็นส่วนตัวมากขึ้น

ผังโครงการจะเห็นว่าพื้นที่ส่วนกลางนั้นอยู่ตรงกลางระหว่างอาคารพักอาศัยทั้ง 5 อาคาร สามารถเดินมาใช้งานได้สะดวก มีการกระจายสระว่ายน้ำออกเป็น 3 สระ 3 สไตล์ จุดที่ 1 AVA POD เป็นสระว่ายน้ำส่วนกลางขนาดใหญ่ที่สุด จุดที่ 2 สระว่ายน้ำ ระหว่างอาคาร D และ E และจุดที่ 3 เป็นสระว่ายน้ำวิว Rooftop บริเวณชั้นดาดฟ้า อาคาร B ค่ะ นอกจากจะกระจายการใช้งานให้เข้าถึงได้ง่าย ลดความหนาแน่นแล้ว แต่ละโซนยังเป็นทัศนียภาพที่สวยงามให้กับอาคารพักอาศัยด้วยค่ะ

บรรยากาศจำลองบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง มีการออกแบบพื้นที่สีเขียวเล่นระดับ ปลูกต้นไม้ใหญ่ค่อนข้างเยอะ ช่วยเพิ่มบรรยากาศสดชื่น มีความร่มรื่นมากขึ้น นอกจากนั้นยังมีสะพาน Sky Walk เดินเชื่อมกันระหว่าง AVA The Chef Pod ซ้ายมือไปยัง AVA The Gym Pod สูง 2 ชั้น ทางขวามือได้

สระว่ายน้ำจุดที่ 1 เป็นสระระบบเกลือ รูปทรง Free Form ขนาดใหญ่ตามแนวคิดในการออกแบบ Futuristic ซึ่งจะเห็นว่าโครงการนี้มีการใช้เส้นโค้งเป็นส่วนใหญ่เลยค่ะ อยู่ระหว่างอาคาร AVA Pod ทั้ง 2 จุด มีพื้นที่นั่งเล่นด้านข้างสระว่ายน้ำ สามารถมานั่งพักผ่อน ชมวิวในช่วงเย็นๆ ได้

บรรยากาศจำลองบริเวณสวน Landscape ซึ่งจะอยู่ระดับต่ำกว่าสระว่ายน้ำ คนที่เดินเล่นที่สวนไม่สามารถมองเห็นคนที่ว่ายน้ำอยู่ได้ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น นอกจากนั้นคนที่อยู่ในห้องพักอาศัยก็จะเห็นวิวยอดไม้เป็นตัวช่วยพรางสายตาให้อีกชั้นหนึ่งด้วยค่ะ

ภายใน AVA The Chef Pod เป็นอาคารที่ล้อมรอบด้วยกระจก ได้ความโปร่งสบาย มองเห็นวิวได้รอบด้าน เป็นพื้นที่ Co-Cooking และ Co-Dining ให้ลูกบ้านสามารถมาจองทำอาหาร จัดปาร์ตี้ ริมสระว่ายน้ำ หรือนัดเป็นกลุ่มมารับประทานอาหารร่วมกันได้

ส่วน AVA The Gym Pod เป็นอาคาร 2 ชั้นที่แบ่งชั้นล่างเป็นพื้นที่ Weight Training Studio มีเครื่องออกกำลังกายเสริมสร้างกล้ามเนื้อมาให้ ส่วนชั้น 2 เป็นโซน Active Cardio มีลู่วิ่ง และจักรยานมาให้ใช้งานพร้อมชมวิวได้รอบด้านแบบ Panorama

บรรยากาศจำลองภายใน AVA The Gym Pod ที่ชั้น 1 Weight Training Studio ล้อมรอบไปด้วยผนังกระจก มองเห็นวิวสระว่ายน้ำได้ ให้บรรยากาศผ่อนคลายเหมาะกับการออกกำลังกาย

สระว่ายน้ำจุดที่ 2 เป็นสระว่ายน้ำระหว่างอาคาร D, E บริเวณ AVA Terrace Zone สำหรับใครที่อยากว่ายน้ำออกกำลังกายจริง หรือแช่ตัวใน Jacuzzi Pool แบบสบายๆ ไม่ชอบความวุ่นวาย ก็มาเลือกใช้สระที่จุดนี้ได้ค่ะ

ดูพื้นที่ส่วนกลางหลักไปแล้ว เรามาดูแต่ละชั้นกันบ้างค่ะ

เริ่มจากชั้น 1 มีทางเข้า – ออกโครงการจุดเดียวติดถนนเลียบคลองหนึ่งเลย เข้ามาแล้วจะมี Drop off อยู่ตรงกลาง พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นที่จอดรถใต้อาคารทั้งหมดเลยค่ะ โดยจะสามารถจอดได้ประมาณ 400 คัน รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 35.75% แต่ก็สามารถรองรับนักศึกษา ที่อาจจะเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์ หรือเรียกรถสาธารณะได้

ชั้น 1 ของแต่ละอาคารจะมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ด้วยค่ะ แต่ Highlight จะอยู่ที่ อาคาร A มีร้านค้าจำนวน 13 ยูนิต อยู่ทางด้านหน้า (สีฟ้า) ซึ่งเปิดให้คนภายนอกสามารถเข้ามาใช้งานได้ด้วย และยังช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้พักอาศัยภายในโครงการ หาของกินได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องเดินทางออกไปข้างนอก

อาคาร A : Shop, Kave Café, Co-Working, Private Meeting Room, Reading Corner, Lobby Lounge, Mailbox
อาคาร B : Reading Corner, Lobby Lounge, Mailbox
อาคาร C : Thinking Space, Laundry, Food Station, Reading Corner, Lobby Lounge, Mailbox
อาคาร D : E Sport, The Maze, Reading Corner, Lobby Lounge, Mailbox
อาคาร E : Food Station, Laundry, Lobby Lounge, Mailbox

บรรยากาศภายใน Lobby Lounge อาคาร A เป็นโถงสูงตกแต่งด้วยต้นไม้ผสมกับเส้นแสงโค้ง มีชุดโซฟาและพื้นที่นั่งแยกเป็นโซนสามารถมานั่งรอ พักคอยเพื่อนๆ หรือรอของ Delivery หรือมานั่งอ่านหนังสือทำงานได้

บรรยากาศบริเวณ Co-Working Space เป็นพื้นที่ Double Volume มีชั้นลอย ให้สามารถเลือกนั่งทำงานได้ทั้งเดี่ยวและเป็นกลุ่ม โดยด้านข้างเป็นผนังกระจกสามารถมองเห็นวิวสวนตรงกลางได้

บรรยากาศบริเวณ Lobby Lounge อีกจุดหนึ่ง ซึ่งจะมีเคาน์เตอร์บาร์ และ Vending Machine ให้สามารถกดของกินได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลย ใครอ่านหนังสือดึกๆ ก็ไม่ต้องออกไปไหนไกล เพราะสามารถซื้อขนมได้ที่ Lobby ภายในโครงการเลยค่ะ

บรรยากาศภายในห้อง E-Sport หมดยุคหลังเลิกเรียนแล้วไปร้านเกมส์แล้วค่ะ เพราะทางโครงการมีห้องคอมพิวเตอร์ออกแบบทันสมัย มองเห็นวิวได้รอบด้าน ให้สามารถนั่งเล่นเกมส์ได้เลย นอกจากนั้นยังสามารถนั่งทำงานกลุ่มใช้คอมพิวเตอร์ส่วนกลางได้อีกด้วยค่ะ

ชั้น 2 เป็นชั้นพักอาศัยชั้นแรก แต่ละอาคารจะมีรูปแบบและจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

อาคาร A : Co-Library + ห้องพักอาศัย
อาคาร B : ห้องพักอาศัย
อาคาร C : ห้องพักอาศัย
อาคาร D : The Stage, Netflix room + ห้องพักอาศัย
อาคาร E :Private Working Zone, Brain Strom Room, Creative Workshop and Meeting Room, Study Pot, Reading Corner + ห้องพักอาศัย

* *เดี๋ยวเราจะขออธิบายผังห้องพักอาศัยแยกแต่ละอาคารด้านล่างนะคะ

Image 1/2
ชั้น 3

ชั้น 3

ชั้น 3 เป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมดเลยค่ะ แต่จะมีพื้นที่ส่วนกลางพิเศษที่อาคาร D คือห้อง Music Studio และ Photo Studio สำหรับถ่ายภาพทำงาน หรือซ้อมดนตรีได้

ชั้น 4 – 7 เป็นชั้นพักอาศัย Typical Floor Plan โดยห้องพักอาศัยที่หันหน้าเข้ามาด้านใน เห็นวิวพื้นที่ส่วนกลางนั้นจะเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ เช่น 1 Bedroom Extra 26 ตารางเมตรขึ้นไป ทำให้มีราคาที่สูงกว่า ส่วนห้องที่หันออกด้านนอกจะเป็นห้องขนาดเริ่มต้น เช่น Studio – 1 Bedroom ขนาด 21.60 – 25 ตารางเมตร มีราคาที่ถูกกว่าค่ะ ซึ่งผู้ซื้อจะต้องพิจารณาว่าต้องการซื้ออยู่เอง ราคาไม่สูงมากนัก หรือว่าต้องการห้องที่ปล่อยเช่าได้ง่าย เห็นวิวสวย ห้องใหญ่ และเลือกตำแหน่งให้ตอบโจทย์กับความต้องการค่ะ

ตำแหน่งอาคารและทัศนียภาพด้านนอก

  • อาคาร A, E : เห็นวิวทางทิศเหนือบริเวณคลองหนึ่ง และถนนเชียงราก(ถนนคลองหลวง) ฝั่งตรงข้ามถนนเป็นอาคารพักอาศัย สูงตั้งแต่ 8 – 31 ชั้น
  • อาคาร A, B : เห็นวิวทางทิศตะวันออก เป็นพื้นที่ดินโล่ง ปัจจุบันยังไม่มีอาคารมาบังวิวค่ะ
  • อาคาร C, D : เห็นวิวทางทิศใต้ เป็นพื้นที่ดินว่างโล่งเช่นกันค่ะ บางส่วนจะเห็นโครงการ Kave Tu สูง 8 ชั้นด้วย แต่จะไม่ได้อยู่ในระยะที่กระชั้นชิด
  • อาคาร E : เห็นวิวทางทิศตะวันตก บางส่วนเป็นพื้นที่ดินโล่ง มองเห็นอาคารบ้านพักอาศัย สูง 2 – 8 ชั้น อยู่ในระยะที่ไม่กระชั้นชิดเช่นกันค่ะ

เจาะลึกแต่ละอาคาร

อาคาร A

อาคาร A มีจุดเด่นคือเป็นอาคารเดียวที่มียูนิตร้านค้าอยู่ด้านล่าง และเป็นอาคารที่อยู่ด้านหน้าโครงการเข้าถึงได้ง่าย ไม่ต้องเดินไกล ทิศเหนือมองเห็นวิวคลองหนึ่ง และถนนเชียงราก ฝั่งตรงข้ามถนนเป็นอาคารพักอาศัย สูงตั้งแต่ 8 – 31 ชั้น ถือว่าเป็นวิวที่ค่อนข้างเปิดโล่งค่ะ ส่วนทิศใต้มองเห็นวิวสระว่ายน้ำส่วนกลาง

อาคาร A มีจำนวน 254 ยูนิต และ 13 ร้านค้า ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 40 ยูนิต วางผังอาคารเป็นรูปตัว L มีโถงทางเดินแบบ Double Corridor และโถงลิฟต์อยู่ตรงกลาง ทำให้เดินไปยังปีกอาคารทั้ง 2 ฝั่งได้ไม่ไกล อัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 127 : 1 ค่อนข้างหนาแน่น อาจจะมีรอลิฟต์สักหน่อยในช่วงเวลาเร่งด่วนค่ะ

  • อาคาร A เหมาะกับคนที่ชอบความสะดวกสบาย เดินเข้าถึงห้องพักอาศัยได้ไม่ไกล พอลงมาก็เจอร้านค้าเลย แต่อาจจะมีคนพลุ่งพล่านเสียงดังเสียหน่อย เนื่องจากอาจจะมีคนนอกมาใช้บริการร้านค้าด้วย จึงไม่เหมาะกับคนที่ซีเรียสเรื่องความเป็นส่วนตัว และรักความเงียบสงบค่ะ

อาคาร B

อาคาร B เป็นอาคารด้านในที่มีจุดเด่นคือ มีชั้นดาดฟ้าเป็นพื้นที่ส่วนกลางและสระว่ายน้ำส่วนตัว แม้จะเป็นสระว่ายน้ำที่ทุกคนมาใช้งานได้ แต่แน่นอนว่าคนที่ใช้ได้สะดวกที่สุดคือลูกบ้านอาคาร B นั่นเองค่ะ ถ้ามองจากผังแล้วอาจจะเป็นอาคารที่เข้ามาลึกที่สุด แต่ก็น่าจะเงียบสงบที่สุดด้วยเช่นกันค่ะ ทิศตะวันออกมองเห็นวิวเป็นพื้นที่ดินโล่ง ปัจจุบันยังไม่มีอาคารมาบังวิวค่ะ ส่วนด้านในห้องใหญ่จะมองเห็นวสระว่ายน้ำ ส่วนห้องเล็กจะเห็นวิวอาคาร C ค่ะ

อาคาร B มีจำนวน 247 ยูนิต ซึ่งมีความหนาแน่นน้อยที่สุดในโครงการ 34 ยูนิตต่อชั้น วางผังอาคารเป็นรูปตัว I มีโถงทางเดินแบบ Double Corridor และโถงลิฟต์อยู่ตรงกลาง เดินไปยังปีกอาคารทั้ง 2 ฝั่งได้ไม่ไกล อัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 124 : 1 อาจจะใช้เวลารอลิฟต์สักหน่อยค่ะ

  • อาคาร B เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว รักความเงียบสงบ ยูนิตไม่เยอะมาก ชอบใช้งานพื้นที่ส่วนกลางบรรยากาศ Rooftop แต่อาจจะไม่เน้นห้องที่วิวสวยมากนัก และไม่ซีเรียสเรื่องอยู่ไกลจากทางเข้าโครงการค่ะ

อาคาร C

อาคาร C ก็เป็นอีก 1 อาคารที่มีพื้นที่ส่วนกลางในชั้น 8 และดาดฟ้าค่ะ มีทางเชื่อมต่อไปยังสระว่ายน้ำบนชั้น Rooftop อาคาร B ได้ด้วย ตำแหน่งอาคารจะอยู่ด้านในของโครงการ แต่จะได้วิวภายในที่ดีเลยค่ะ เพราะอยู่ตรงกลาง ทิศเหนือมองเห็นวิวสระว่ายน้ำส่วนกลาง ทิศใต้มองเห็นวิวพื้นที่โล่ง และเห็นโครงการ KAVE TU ที่อยู่ด้านหลังค่ะ

อาคาร C มีจำนวน 263 ยูนิต ซึ่งมีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดในโครงการ 39 ยูนิตต่อชั้น วางผังอาคารเป็นรูปตัว L มีโถงทางเดินแบบ Double Corridor และโถงลิฟต์อยู่ตรงกลาง เหมือนกับอาคาร A เลยค่ะ

  • อาคาร C เหมาะกับคนที่ชอบห้องวิวสวย ชอบใช้งานพื้นที่ส่วนกลางมุมสูง และบรรยากาศ Rooftop สามารถเดินเชื่อมไปยังอาคาร B ได้ ไม่ซีเรียสเรื่องความหนาแน่น และจำนวนยูนิตที่เยอะกว่าเพื่อนค่ะ

อาคาร D

อาคาร D เป็นอาคารที่อยู่ทางทิศตะวันตกของโครงการ ถ้าดูจากทางเข้าแล้วถือว่าเข้ามานิดเดียวก็เจอกับอาคาร D แล้วค่ะ แม้จะเป็นอาคารที่ไม่ได้มี Facility ชั้นดาดฟ้า และร้านค้าชั้นล่าง แต่ก็มีพื้นที่ส่วนกลางที่เยอะทีเดียวค่ะ มีทั้งชั้น 1, 2 และ 3 เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่เน้นไปทางสันทนาการ เช่น มีห้อง E-Sport, Creative Lounge มีเวที, ห้องดนตรี และ Studio ถ่ายภาพ เป็นต้น อาคารนี้จะเห็นวิวทางทิศเหนือเป็นสระว่ายน้ำด้านในโครงการ AVA Terrace Zone และทิศใต้เป็นวิวที่ดินโล่งค่ะ

อาคาร D มีจำนวน 260 ยูนิต ซึ่งมีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดในโครงการ 38 ยูนิตต่อชั้น วางผังอาคารเป็นรูปตัว I มีโถงทางเดินแบบ Double Corridor มีโถงลิฟต์อยู่ริมอาคารทางฝั่งตะวันออก ทำให้ถ้าเดินมาจากหน้าโครงการเข้าถึงโถงลิฟต์ได้ง่าย แต่ถ้าอยู่ห้องริมฝั่งตะวันตก ก็จะต้องเดินไกลสักนิดนึงนะคะ อาคาร D มีห้อง Studio ที่อยู่ฝั่งตะวันตก 2 ห้อง แยกออกมาได้ความเป็นส่วนตัวไม่ติดกับห้องอื่นๆ ถ้าใครชอบความเป็นส่วนตัวสูง อาจเลือกห้องติดกันทั้ง 2 ห้องนี้เลยก็ได้นะ

  • อาคาร D เหมาะกับคนที่ชอบใช้งานพื้นที่ส่วนกลางภายในอาคาร ชอบห้องสันทนาการต่างๆ ต้องการพื้นที่นั่งทำงาน เข้าถึงอาคารได้ง่ายไม่ต้องเดินไกล แต่ห้องพักอาศัยก็ยังได้ความเป็นส่วนตัวสูง

อาคาร E

อาคาร E เป็นอาคารที่ได้พื้นที่ส่วนกลางชั้น 1 และ 2 แบบจะเต็ม เน้นความโปร่งสบาย มีพื้นที่นั่งทำงาน ติวหนังสือ หรือประชุมได้เยอะ อีกทั้งยังสามารถเดินลงมายังสระว่ายน้ำจุดที่ 2 ได้สะดวกมากๆ ตัวอาคารยังตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าโครงการ ทำให้เข้าถึงง่าย และยังถือว่าเดินไปซื้อของที่ร้านค้าอาคาร A ได้ไม่ยากด้วยค่ะ ด้านนอกทางทิศเหนือมองเห็นวิวคลองหนึ่ง และถนนเชียงราก ฝั่งตรงข้ามถนนเป็นอาคารพักอาศัย สูงตั้งแต่ 8 – 31 ชั้น และด้านในทิศใต้มองเห็นวิวสระว่ายน้ำส่วนกลางจุดที่ 2 ค่ะ ถือว่าวิวค่อนข้างดีเลย

อาคาร E มีจำนวน 254 ยูนิต เท่ากับอาคาร A มีความหนาแน่น 38 ยูนิตต่อชั้น วางผังอาคารเป็นรูปตัว L มีโถงทางเดินแบบ Double Corridor มีโถงลิฟต์อยู่ริมอาคารทางฝั่งตะวันออก ทำให้ถ้าเดินมาจากหน้าโครงการเข้าถึงโถงลิฟต์ได้ง่าย แต่ถ้าอยู่ห้องริมฝั่งตะวันตก ก็จะต้องเดินไกลหน่อยค่ะ

  • อาคาร E เหมาะกับคนที่ชอบใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง โดยเฉพาะพื้นที่นั่งอ่านหนังสือ ทำงาน ประชุมได้ และยังเดินไปสระว่ายน้ำ ใช้งาน Terrace Outdoor ได้สะดวก เข้าถึงอาคารได้ง่ายไม่ต้องเดินไกล แต่อาจจะไม่เน้นความเป็นส่วนตัวมากนัก เพราะถ้าอยู่ใกล้ส่วนกลางก็อาจจะมีเสียงคนเยอะกว่าปกติค่ะ

ชั้น 8 เป็นชั้นพักอาศัยที่สูงที่สุดค่ะ โดยแต่ละอาคารจะมีห้องพักอาศัยล้วนๆ ยกเว้นที่อาคาร C มีพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 8 มองเห็นวิว AVA POD สระว่ายน้ำด้านในโครงการ บรรยากาศน่าใช้งานทีเดียวค่ะ

อาคาร A : ห้องพักอาศัย
อาคาร B : ห้องพักอาศัย
อาคาร C : ห้องพักอาศัย
อาคาร D : Co-living space, Mini-Theater, Yoga Studio + ห้องพักอาศัย
อาคาร E : ห้องพักอาศัย

บรรยากาศจำลองภายในห้อง Mini-Theater ภายในมีโซฟาแบ่งที่นั่งเป็นกลุ่มๆ พร้อมจอ TV ขนาดใหญ่ สามารถชวนเพื่อนๆ มานั่งดูหนังฟังเพลงได้

บรรยากาศจำลองบริเวณ Yoga Studio ที่ชั้น 8 ปัจจุบันมีคนเล่นโยคะกันมากขึ้นนะคะ ทางโครงการจึงออกแบบพื้นที่เล่นโยคะมาให้เฉพาะตัวแยกจาก Fitness เลย ภายในจะเป็นพื้นที่โล่ง พร้อมหน้าจอให้ดู VDO Trainer ได้ มีผนังรอบข้างเป็นกระจกมองเห็นวิวส่วนกลางได้

มาถึงชั้น Rooftop กันบ้างค่ะ Facility ในชั้นนี้จะมีที่อาคาร B และ อาคาร C เท่านั้น โดยจะมีสะพานเชื่อมต่อกันระหว่าง 2 อาคาร สามารถเดินข้ามมาใช้งานได้สะดวก และเปิดให้ลูกบ้านทุกอาคารขึ้นมาใช้ได้นะคะ

Sky Facility จะแบ่งเป็น 2 โซนค่ะ ส่วนแรกที่อาคาร B เป็นพื้นที่สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool และพื้นที่นั่งเล่น ชมวิวสวน เชื่อมต่อกับส่วนที่ 2 ที่อาคาร C มี Sky Bar และจุดชมวิว เหมาะกับคนที่ชอบนั่งเล่น กินลมชมวิวบนชั้นดาดฟ้า

บรรยากาศจำลองบริเวณสระว่ายน้ำ Infinity Edge Pool ชั้น Rooftop อาคาร B มองเห็นวิวเปิดโล่งได้แบบ 180 องศา และช่วยกระจายความหนาแน่นในการใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง เป็นสระว่ายน้ำที่สามารถว่ายออกกำลังกายได้จริง เป็นส่วนตัวไม่เป็นจุดสนใจเหมือนสระว่ายน้ำตรงกลางค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

Land Scape

  • Ava Hill Zone
    1.AVA Pool
    2.Green Terrace
    3.Pool bed
    4. The Fall
    5.Amphitheater
    6.Outdoor Working Space
    7.Step Terrace
    8.The Bridge
    9.The iconic Bridge
    10.Sky Theater
  • AVA Terrace Zone
    11.Private Pool
    12.Jacuzzi Pool
    13.Poolside Terrace
    14.Pool Bed
    15.The Cascade
    16.Terrace Garden
  • AVA SKY
    17.Sky Pool (building B)
    18.Sky Sunken (building B)
    19.Sky Garden building B)
    20.Sky Deck (building C)
    21.Sky Bar (building C)

Building A
G Floor
22.Shop
23.kave café
24.Co-working
25.Private Meeting Room
26.Reading Corner
27.Lobby Lounge
28.Mailbox

2nd Floor
29.Co-Library

Building B
G Floor
26.Reading Corner
27.Lobby Lounge
28.Mailbox

Building C
G Floor
30.Thinking Space
31.Laundry
32.Food Station
26.Reading Corner
27.Lobby Lounge
28.Mailbox
8nd Floor
29.Co-living space
30.Mini-Theater
31.Yoga Studio

Building D
G Floor
32.E sport
33.Reading Corner
34.The Maze
27.Lobby Lounge
38.Mailbox
2nd Floor
35.The Stage
36.Netflix room
3rd Floor
37.Music Studio
38.Photo Studio

Building E
G Floor
31.Laundry
32.Food Station
27. Lobby Lounge
28.Mailbox
2nd Floor
39.Private Working Zone
40.Brain Strom Room
41.Creative Workshop and Meeting Room
42.Study Pot
43.Reading Corner

AVA POT
The Gym Pot
G Floor
44.Weight Training Studio
2nd Floor
45.Active Cardio
The Chef Pot
G Floor
46.Master Chef Studio
47.Co-dining

  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 128 :  1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 127 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 124 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก C 132 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก D 130 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก E 127 : 1
  • Service Lift – ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ n/a คันคิดเป็น 31.37% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 35.75%
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card / Finger Scan

แบบห้อง

โครงการ KAVE AVA จะเน้นห้องพักอาศัยแบบ 1 Bedroom เป็นหลัก เหมาะกับนักศึกษา หรือคนที่หาที่พักใกล้ที่ทำงาน อาจจะอยู่ 1 – 2 คนไม่เกินนี้ค่ะ ไม่เน้นกลุ่มครอบครัว แต่จะมีห้องพักอาศัยที่วาง Layout แตกต่างกันไป สามารถเลือกให้ตรงตามความชอบได้ ดังนี้

  • Studio พื้นที่ใช้สอย 21.60 – 23.50 ตร.ม.
    ราคาเริ่มต้น 1.39 – 1.67 ล้านบาท
  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 23.70 – 26.70 ตร.ม.
    ราคาเริ่มต้น 1.72 – 2.19 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Extra พื้นที่ใช้สอย 26.20 – 26.90 ตร.ม.
    ราคาเริ่มต้น 2.03 – 2.37 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Exclusive พื้นที่ใช้สอย 26.60 – 28.10 ตร.ม.
    ราคาเริ่มต้น 1.97 – 2.33 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.00 – 35.30 ตร.ม.
    ราคาเริ่มต้น 2.38 – 3.03 ล้านบาท

จุดเด่นของห้องพักอาศัยในโครงการนี้คือ

  • ห้องพักอาศัยที่มีฟังก์ชันครบครัน ตั้งแต่พื้นที่เริ่มต้น 21.60 ตร.ม. มีพื้นที่ครัว และระเบียงส่วนตัวทุกยูนิต
  • ห้องพักอาศัยพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบ ขายแบบ Fully Furnished ได้ชุดครัว พร้อมอ่างล้างจาน (แต่จะไม่มี Hob & Hood) ได้ชั้นเก็บของ, ชั้นวาง TV, โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง, ตู้เสื้อผ้า, ชุดโต๊ะรับประทานอาหาร, ฐานเตียง และเครื่องปรับอากาศ
  • Bluetooth Sound System มีระบบเสียงลำโพงติดตั้งมาให้ภายในห้องพักอาศัยตามสไตล์ Asset Wise สามารถเปิดเพลงเชื่อมต่อกับโทรศัพท์เพื่อฟังภายในห้องได้ทุกยูนิต

ซึ่งห้องตัวอย่างวันนี้เราพาไปชมห้องที่มีจำนวนมากที่สุดในโครงการ 1 Bedroom Exclusive และห้องใหญ่ฟังก์ชันครบสะดวกสบาย กับ 1 Bedroom Plus ค่ะ และมีภาพบรรยากาศห้องเริ่มต้น Studio และ 1 Bedroom Extra มาฝากกันด้วย จะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลย

1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.00 – 35.30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.38 – 3.03 ล้านบาท

เริ่มกันที่ห้องใหญ่ที่สุดในโครงการกับ 1 Bedroom Plus กันค่ะ ห้องนี้จะมีจุดเด่นเลยคือฟังก์ชันที่ออกแบบได้ลงตัว เหมาะกับคนที่อยู่ 1 – 2 คน ชอบพื้นที่ใช้สอยเยอะ มีห้องแยกเป็นสัดส่วน ดังนี้

  • ภายในห้องมีพื้นที่ครัวปิด สามารถทำอาหารได้โดยกลิ่นไม่ฟุ้งกระจาย
  • มีห้องอเนกประสงค์ ที่ทำเป็นห้องนอนที่ 2 หรือปรับเป็นห้องทำงานส่วนตัวแยกต่างหากได้
  • ห้องนอนกั้นเป็นสัดส่วน ภายในห้องนอนมีระเบียงส่วนตัว และสามารถจัดมุม Walk-in Closet ได้
  • ห้องน้ำสามารถเข้าได้จากส่วนกลาง เวลามีเพื่อนมาหาสามารถเข้าห้องน้ำได้โดยไม่ต้องผ่านห้องนอนให้เสียความเป็นส่วนตัว

เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้องจะเจอกับส่วนแรกคือพื้นที่ครัวก่อนค่ะ เวลาที่ซื้อของเข้ามาก็สามารถเก็บได้เลย ไม่ต้องเดินผ่านห้องนั่งเล่น และเป็นเหมือนห้องกั้นพื้นที่ส่วนตัวทางด้านใน เวลาเปิดประตูอยู่คนข้างนอกที่เดินผ่านมาก็จะมองไม่เป็นด้านในได้ชัด

ประตูทางเข้าห้องเป็นประตูไม้ลามิเนต พร้อมติด Digital Door Lock มาให้รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือ, Keycard, Password และกุญแจสำรอง

ทางโครงการออกแบบมาเป็นครัวปิดมาให้ ทำให้สามารถทำอาหารได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นฟุ้งกระจายภายในห้องค่ะ พร้อมกับ Built-in ชุดครัวรูปตัว L และตู้เก็บของอเนกประสงค์มาให้

Image 1/2
เคาน์เตอร์ครัว

เคาน์เตอร์ครัว

บริเวณเคาน์เตอร์ครัวมีอ่างล้างจานมาให้ 1 จุด แต่จะไม่ได้เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันนะคะ เหมาะกับซื้ออาหารมาอุ่นกิน หรือเตรียมอาหารเบาๆ ได้ หรือใครที่ต้องการทำอาหารรับประทานเองก็สามารถซื้อเตาไฟฟ้ามาวางเพิ่มเติมได้ ด้านหลังเคาน์เตอร์ติดตั้ง Backsplash มาให้ ทำความสะอาดได้ง่าย ไม่เลอะผนังค่ะ

ชั้นเก็บของบริเวณเคาน์เตอร์ครัว จะติดตั้งมาให้ 2 จุดค่ะ คือชั้นวางของด้านบนแบบไม่มีหน้าบาน ทำให้หยิบใช้ได้สะดวก เหมาะกับวางจานชาม แก้วน้ำ หรืออุปกรณ์ทำอาหารต่างๆ และมีช่องวางเครื่องไมโครเวฟมาให้ด้วย ช่วยประหยัดพื้นที่บน Top เคาน์เตอร์ได้

ส่วนด้านล่างนั้นจะมีช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้ามาให้ค่ะ ทำให้ไม่ต้องไปวางด้านนอกระเบียง ใช้งานได้ง่าย และมีช่องเก็บของขนาดใหญ่ใต้อ่างล้างจาน สามารถเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด หรือวางถังขยะเพื่อไม่ได้เกะกะได้ค่ะ

ฝั่งตรงข้ามครัวมีพื้นที่วางตู้เย็น ส่วนด้านข้างมีตู้เก็บของอเนกประสงค์ Built-in มาให้เรียบร้อย เหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ สามารถเก็บรองเท้า วางกระเป๋าได้ ซึ่งคอนโดมิเนียมขนาดเล็กมักไม่ค่อยมีพื้นที่วางรองเท้ามาให้ค่ะ ด้านหน้าบานยังเป็นกระจกให้เราเช็คความเรียบร้อยก่อนออกจากห้องได้เลย

ส่วนครัวจะกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกสูงจากพื้นถึงฝ้า ได้ความโปร่งมากขึ้น เป็นประตูแบบ 3 ตอนนะคะ ข้อดีคือจะเปิดได้กว้างกว่าแบบ 2 ตอน และช่วยกันกลิ่น และแมลงจากครัวเข้ามาในห้องได้

มาถึงพื้นที่ภายใน Common Area จัดเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร และพื้นที่นั่งเล่นได้ โดยจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.40 เมตร ซึ่งเป็นความสูงปกติของโครงการ Low Rise 8 ชั้นนะคะ พื้นห้องทั้งหมดปูด้วยสมาร์ทไวนิล ลายไม้ ดูอบอุ่น สบายเท้า

ภายในห้องจะมีโต๊ะรับประทานอาหารและเก้าอี้มาให้ 2 ที่นั่ง ขนาดพอดีกับพื้นที่ แต่หน้าตาเฟอร์นิเจอร์จะเหมือนกับภาพในแปลนนะคะ ในห้องตัวอย่างเป็นพร็อพตกแต่งให้ดูสวยงามเฉยๆ ค่ะ

Image 1/2
ห้องนั่งเล่น

ห้องนั่งเล่น

พื้นที่นั่งเล่นกับพื้นที่รับประทานอาหารจะมีขนาดประมาณ 2.60 x 3.00 เมตร  สามารถวางโซฟา 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลาง และ Built-in ชั้นวาง TV ได้สบายๆ  มีระยะดู TV ประมาณ 2.30 เมตร เหมาะกับการวาง TV ขนาดประมาณ 46 นิ้วขึ้นไปได้เลย

ห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับห้องอเนกประสงค์ด้วยประตูกระจก 3 ตอน เช่นเดียวกับครัวค่ะ แต่จะมีขนาดใหญ่กว่า และสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน ทำให้ภายในห้องดูโปร่ง ในห้องตัวอย่างตกแต่งด้วยสีเข้มเลยอาจจะดูมืดสักหน่อยนะคะ แต่ในห้องจริงจะมีแสงธรรมชาติจากหน้าต่างห้องอเนกประสงค์ขนาดใหญ่เข้ามาได้ทั่วถึงค่ะ

Image 1/3
ห้องอเนกประสงค์

ห้องอเนกประสงค์

ห้องอเนกประสงค์มีขนาดประมาณ 2.00 x 2.60 เมตร ในห้องมาตรฐานจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in ขนาดเล็กและฐานเตียง 3 ฟุตมาให้ สามารถทำเป็นห้องนอนที่ 2 ได้เลยค่ะ แต่ถ้าใครอยู่คนเดียว ก็สามารถปรับเป็นห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือแบบในห้องตัวอย่างเลยก็ได้นะ

บรรยากาศภายในห้องพักอาศัย 1 Bedroom Plus เมื่อมองออกมาจากห้องอเนกประสงค์

ส่วนห้องนอนและห้องน้ำจะแยกออกมาเป็นสัดส่วนเลยค่ะ เราคิดว่าห้องนี้ออกแบบได้เป็นส่วนตัวดีนะคะ ประตูห้องน้ำก็จะไม่รบกวนสายตาจากห้องนั่งเล่น และห้องนอนก็จะได้ความเป็นส่วนตัวแยกกับพื้นที่ Common Area ไปเลย

มาดูภายในห้องน้ำกันค่ะ ห้องน้ำจะตกแต่งด้วยโทนสีขาว ตัดกับดำ แบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจน มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อยเลยค่ะ

พื้นห้องน้ำจะลดระดับจากพื้นห้องเล็กน้อยทำให้เวลาล้างห้องน้ำไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะไหลออกมาเปียกด้านนอก

ภายในห้องน้ำจะได้กระจกเงาบานสูง ติดตั้งอ่างล้างหน้าแบบมีช่องเก็บของด้านล่างมาให้ เก็บสบู่ แชมพูสำรอง หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ ได้ พร้อมโถสุขภัณฑ์ และสายชำระ จาก Cotto ค่ะ

พื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นกระจกบานเลื่อน 3 ตอนมาให้ ช่วยให้น้ำไม่กระเด็นออกมาเปียกส่วนแห้งเวลาอาบน้ำ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเองได้หลักพันบาทเลยค่ะ

พื้นที่อาบน้ำประมาณ 1.00 x 1.00 เมตร ยืนอาบหมุนตัวได้สบายๆ ค่ะ ได้ฝักบัวสายอ่อน จาก Cotto พร้อมชั้นวางของด้านข้าง และเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยแล้ว

ภายในห้องนอนมีช่องแสงขนาดใหญ่เต็มผนังเลย เพราะเป็นประตูบานเลื่อนเชื่อมต่อไปยังระเบียง สามารถนอนมองเห็นวิวได้กว้าง และได้แสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะ

มีพื้นที่วางเตียงประมาณ 2.65 x 2.60 เมตร ไม่รวมส่วน Walk-in Closet เหมาะกับเตียง 5 ฟุต พอดีๆ ซึ่งทางโครงการก็มีฐานเตียงมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศภายในห้องนอน

บรรยากาศภายในห้องนอน

ส่วนปลายเตียงจะเหลือพื้นที่เดินได้สบายๆ ใครจะติดตั้ง TV ก็ขอแนะนำแบบแขวนผนังนะคะ ด้านข้างเตียงจะเหลือพื้นที่ประมาณฝั่งละ 0.50 เมตร สามารถวางโต๊ะข้างเตียงเล็กๆ เพิ่มเติมได้ค่ะ

Image 1/3
Walk-in Closet

Walk-in Closet

ฝั่งขวามือจะเป็นพื้นที่ Walk-in Closet ค่ะ โดยทางโครงการเขา Built-in ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งมาให้เหมือนกับในห้องตัวอย่างเลยค่ะ เป็นตู้บานกระจกดูสวยงาม เปิดได้ 2 ฝั่ง พร้อมชั้นวางของด้านบน

Image 1/2
ระเบียงห้อง 1 Bedroom Plus

ระเบียงห้อง 1 Bedroom Plus

ระเบียงห้องนี้มีพื้นที่ประมาณ 0.80 x 2.60 เมตร ถือว่าได้พื้นที่เยอะสามารถตากผ้าได้สบายๆ ด้านข้างเป็นพื้นที่แขวน Condensing units สามารถวางกระถางต้นไม้ตกแต่งห้องได้อีกด้วยนะ* พื้นที่ระเบียงปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ทำให้ล้างทำความสะอาดได้ง่าย

*อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> ปลูกผักสวนครัวกินเองได้ในคอนโดพื้นที่จำกัด


1 Bedroom Exclusive พื้นที่ใช้สอย 26.60 – 28.10 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.97 – 2.33 ล้านบาท

ห้องถัดมาเป็นห้อง 1 Bedroom Exclusive ที่จะมีการวางผังคล้ายกับห้อง 1 Bedroom ปกติเลยค่ะ แต่จะมีพื้นที่มากขึ้น ภายในห้องสามารถอยู่ได้ 1 – 2 คน เหมาะกับคนที่ชอบความโปร่งพื้นที่เชื่อมต่อกันทุกส่วน มีจุดเด่น ดังนี้

  • เน้นความโปร่งสบาย ภายในห้องกั้นพื้นที่ห้องนอนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ทำให้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างเข้ามาได้ทั่วถึงทั้งห้อง
  • มีพื้นที่ครัวปิด เชื่อมต่อกับห้องน้ำอยู่ที่ด้านหน้าห้อง เป็นการแยกส่วน Service ออกมาจากส่วนพักอาศัยค่ะ
  • มีฐานเตียง 3 ฟุต 2 ตัว รองรับการใช้งานแบบ Roommate อยู่กัน 2  คน หรือจะปรับเป็นวางฟูกใหญ่ 5 – 6 ฟุตก็ได้
  • มีพื้นที่นั่งทำงานแบบ Bay Window พร้อมโต๊ะทำงานเข้ามุม สามารถนั่งได้ 2 คน
  • มีพื้นที่ระเบียง สามารถวางเครื่องซักผ้าหรือตากผ้าได้

ห้องนี้จะมีส่วนครัวอยู่ด้านหน้าห้องเช่นกันกับห้อง 1 Bedroom Plus เลยค่ะ โดยจะเป็นพื้นที่ครัวปิดเช่นกัน มีข้อดีคือเก็บของได้ง่าย กลิ่นไม่ฟุ้งกระจาย และเป็นโซนกั้นระหว่างโถงทางเดินกับพื้นที่ส่วนตัวภายในห้องด้วยค่ะ

ความแตกต่างจากห้องใหญ่คือ ภายในห้องนี้จะมีทางเข้าห้องน้ำอยู่ด้านหน้าตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวเลยค่ะ เป็นการแยกโซน Service ออกมาด้านหน้า ถือว่าเป็นข้อดีนะคะ ความชื้น กลิ่นอับจากห้องน้ำจะไม่เข้าไปภายในพื้นที่ Common Area และห้องนอนได้

ทางโครงการ Built-in ชุดครัวมาให้เป็นแบบตัว L มีพื้นที่วางตู้เย็นด้านข้าง และจะมีความแตกต่างจากห้องที่แล้วตรงที่พื้นที่วางเครื่องซักผ้าจะอยู่ที่ด้านนอกระเบียงแทนค่ะ

Image 1/3
เคาน์เตอร์ครัว

เคาน์เตอร์ครัว

บริเวณเคาน์เตอร์ครัวมีอ่างล้างจานมาให้ 1 จุด ไม่ได้เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันนะคะ เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการทำอาหารจริงจังมากนัก แต่ทางโครงการก็คิดเผื่อไว้สำหรับคนที่ต้องการทำอาหารกินเอง สามารถวางเครื่องครัวต่างๆ บนเคาน์เตอร์ และดึงถาดวางของออกมาเพื่อเพิ่มพื้นที่เตรียมอาหารได้อีก ช่วยแก้ปัญหาพื้นที่น้อยได้ค่ะ

ชั้นบนมีช่องเก็บของให้แบบในห้องตัวอย่างเลยค่ะ เป็นตู้ที่ไม่มีหน้าบาน หยิบจานชามต่างๆ ใช้ได้สะดวก

Image 1/2
ช่องเก็บของใต้เคาน์เตอร์ครัว

ช่องเก็บของใต้เคาน์เตอร์ครัว

ส่วนด้านล่างจะมีพื้นที่วางไมโครเวฟ ลิ้นชักเก็บช้อน ส้อมต่างๆ 2 จุด และช่องเก็บของขนาดใหญ่ใต้อ่างล้างจาน สามารถเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด หรือวางถังขยะได้

ห้องน้ำภายในห้องนี้จะมีพื้นที่เป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส ตกแต่งด้วยกระเบื้องโทนสีขาว พื้นห้องน้ำจะลดระดับจากพื้นห้องเล็กน้อย ภายในแบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจน มีฉากกั้นอาบน้ำแบบเข้ามุมมาให้ค่ะ

ภายในห้องน้ำจะได้กระจกเงาบานสูง ติดตั้งอ่างล้างหน้าแบบมีช่องเก็บของด้านล่างมาให้  พร้อมโถสุขภัณฑ์ และสายชำระ จาก Cotto เช่นกันค่ะ

Image 1/2
พื้นที่อาบน้ำ

พื้นที่อาบน้ำ

พื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นกระจกแบบเข้ามุม ติดตั้งมาให้แล้ว ช่วยให้น้ำไม่กระเด็นออกมาเปียกส่วนแห้งเวลาอาบน้ำ ห้องนี้มีพื้นที่ยืนอาบประมาณ 0.85 x 1.00 เมตร ยืนอาบหมุนตัวได้สบาย ได้ฝักบัวสายอ่อน จาก Cotto และเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เช่นกันค่ะ

ถัดเข้ามาภายในห้องจะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับห้องนอนค่ะ โดยห้องนี้จะได้ความโปร่งกว้าง เพราะกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก แบบ Full Hight สูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน ทำให้แสงธรรมชาติที่เข้ามาจากหน้าต่างเข้ามาถึงห้องนั่งเล่นได้ทั่วถึงด้วยค่ะ

Image 1/3
พื้นที่นั่งเล่น

พื้นที่นั่งเล่น

พื้นที่นั่งเล่นจะมีความกว้างประมาณ 1.60 เมตร ยาว 3.00 เมตร สามารถวางโซฟา 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลาง และ Built-in ชั้นวาง TV ได้สบายๆ ซึ่งทางโครงการก็ได้เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เข้ากับพื้นที่มาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ (ดูแบบเฟอร์นิเจอร์ได้ที่ภาพแปลน)

ห้องนี้มีระยะดู TV ประมาณ 2.60 เมตร เหมาะกับการวาง TV ขนาดประมาณ 50 นิ้วขึ้นไปได้เลย

ห้องนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับห้องนอนด้วยประตูกระจก 3 ตอน เปิดเชื่อมต่อกันได้กว้าง เหมาะกับคนที่ชอบห้องโปร่งๆ ไม่เน้นความเป็นส่วนตัวมากนัก

Image 1/3
บรรยากาศภายในห้องนอน

บรรยากาศภายในห้องนอน

ภายในห้องนอนมีพื้นที่ประมาณ 2.65 x 3.00 เมตร ซึ่งทางโครงการมีฐานเตียงขนาด 3 ฟุต มาให้ 2 ตัวค่ะ เหมาะกับการทำเป็นห้องเช่าสำหรับนักศึกษาที่อยู่กัน 2 คน หรือใครอยู่คนเดียวก็สามารถปรับวางฟูกขนาดใหญ่ได้ ซึ่งฐานเตียงที่ได้ก็จะมีช่องเก็บของด้านล่างให้ด้วยนะ

Image 1/2
Walk-in Closet

Walk-in Closet

บริเวณปลายเตียงจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้แบบในห้องตัวอย่างเลยนะคะ เป็นแบบที่สามารถติดตั้ง TV แบบแขวนผนังเพิ่มเติมตรงกลางได้ ส่วนตู้เสื้อผ้าก็แบ่งเป็น 2 ฝั่ง ใครที่อยู่กับ Roommate ก็แบ่งกันชัดเจนได้เลย

Image 1/3
พื้นที่นั่งทำงานห้อง 1 Bedroom Exclusive

พื้นที่นั่งทำงานห้อง 1 Bedroom Exclusive

Highlight อีกจุดหนึ่งก็คือมุมทำงานแบบ Bay Window ซึ่งทางโครงการจะมีโต๊ะตัว L เข้ามุมขนาดพอดีกับพื้นที่ พร้อมเก้าอี้มาให้ 2 ตัว สามารถใช้เป็นโต๊ะอ่านหนังสือ หรือโต๊ะเครื่องแป้งได้

บริเวณนี้จะได้แสงสว่างส่องเข้ามาเพียงพอ เพราะเป็นกระจกแบบเข้ามุม ทำให้มองเห็นวิวได้กว้างมากขึ้นด้วยค่ะ ซึ่งห้องนี้ก็จะได้วิวพื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการค่ะ

Image 1/2
ระเบียงห้อง 1 Bedroom Exclusive

ระเบียงห้อง 1 Bedroom Exclusive

ระเบียงห้องนี้มีพื้นที่ประมาณ 1.00 x 1.80 เมตร มีพื้นที่วางเครื่องซักผ้า ซึ่งเดินงานระบบไว้ให้แล้วค่ะด้านบนเป็นพื้นที่แขวน Condensing units ถ้าออกมาใช้งานบ่อยๆ แนะนำให้ติดแผงเปลี่ยนทิศทางลมเพิ่มเติมนะคะ บริเวณระเบียงจะได้ไม่ร้อน พื้นที่ระเบียงปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ทำให้ล้างทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ


1 Bedroom Extra พื้นที่ใช้สอย 26.20 – 26.90 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.03 – 2.37 ล้านบาท

ห้อง 1 Bedroom Extra จะมี Layout ที่เหมาะกับการอยู่อาศัยเองคนเดียว ต้องการพื้นที่ส่วนตัวแบ่งเป็นสัดส่วน ไม่เน้นทำอาหารเองและพื้นที่ระเบียงมากนัก ภายในมีจุดเด่น ดังนี้

  • Walk-in Closet แยกออกจากห้องนอน เชื่อมต่อกับห้องน้ำได้ความเป็นส่วนตัว และไม่มีฝุ่นจากตู้เสื้อผ้าเข้าไปยังห้องนอน
  • ภายในห้องได้ความโปร่งสบาย มีการกั้นห้องนอนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ทำให้แสงธรรมชาติเข้ามายังห้องนั่งเล่นได้
  • ครัวเปิดเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น เหมาะกับคนที่ชอบ Common Area กว้างเชื่อมต่อกัน ไม่เน้นทำอาหารรับประทานเอง

Image 1/8
1 Bedroom Extra พื้นที่ใช้สอย 26.20 – 26.90 ตร.ม.

1 Bedroom Extra พื้นที่ใช้สอย 26.20 – 26.90 ตร.ม.


Studio พื้นที่ใช้สอย 21.60 – 23.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.39 – 1.67 ล้านบาท

ห้องเริ่มต้นของโครงการคือห้อง Studio ค่ะ การวางผัง Layout ห้องจะให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง Common Area กว้าง โดยจะมีพื้นที่เคาน์เตอร์ครัว ห้องนั่งเล่น และเตียงนอน เชื่อมต่อกัน เหมาะกับคนที่อยู่คนเดียว ชอบพื้นที่โปร่งเหมือนกับห้องพักในโรงแรมค่ะ

  • พื้นที่ภายในกว้าง มีพื้นที่เชื่อมต่อถึงกันทั้งเคาน์เตอร์ครัว ห้องนั่งเล่น และเตียงนอน
  • ฟังก์ชันครบ มีทั้งส่วนครัวสำหรับเตรียมอาหาร โซฟานั่งเล่น โต๊ะนั่งทำงาน ฐานเตียง ตู้เสื้อผ้า
  • มีระเบียงส่วนตัว สามารถวางเครื่องซักผ้า ตากผ้าได้

Image 1/9
Studio พื้นที่ใช้สอย 21.60 – 23.50 ตร.ม.

Studio พื้นที่ใช้สอย 21.60 – 23.50 ตร.ม.

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

แบบแปลน

Image 1/4
Studio พื้นที่ใช้สอย 21.60 – 23.50 ตร.ม.

Studio พื้นที่ใช้สอย 21.60 – 23.50 ตร.ม.

ราคา

KAVE AVA (เคฟ เอวา) ราคา ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565

  • Studio พื้นที่ใช้สอย 21.60 – 23.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.39 – 1.67 ล้านบาท
  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 23.70 – 26.70 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.72 – 2.19 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Extra พื้นที่ใช้สอย 26.20 – 26.90 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.03 – 2.37 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Exclusive พื้นที่ใช้สอย 26.60 – 28.10 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.97 – 2.33 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 34.00 – 35.30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.38 – 3.03 ล้านบาท

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
  • Hob & Hood / ของยี่ห้อ n/a
  • จอง 5,000 บาท (ห้อง 1 Bedroom Plus 10,000 บาท)
  • ทำสัญญา 5,000 บาท (ห้อง 1 Bedroom Plus 10,000 บาท)
  • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ 13 งวด
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 47 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :

โครงการ KAVE AVA ตั้งอยู่บนถนนคลองหลวง หรือถนนเชียงราก ฝั่งตรงข้ามกับม.ธรรมศาสตร์ ใกล้ประตูทางเชียงราก 2 เป็นทำเลที่มีหอพักอาศัยจำนวนมาก มีข้อดีในเรื่องความเงียบสงบและไม่พลุกพล่าน เดินทางสะดวกข้ามสะพานลอยไปก็เข้าม.ได้เลย ตอบโจทย์ทั้งนักศึกษา บุคลากร และพนักงานของมหาวิทยาลัย โรงพยาบาล สวทช. ไปจนถึงนิคมอุตสาหกรรมนวนคร นอกจากนั้นยังได้ความอุดมสมบูรณ์บริเวณ U-Square ให้จับจ่ายซื้อของกินได้สะดวก

สำหรับนักลงทุนทำเลนี้ก็มีความน่าสนใจทีเดียวค่ะ เพราะหอพักแถวนี้ส่วนใหญ่ช่วงเปิดเทอมก็จะเต็มกันเกือบหมด โดยจะมีเรทราคาค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 8,500 – 10,000 บาท/เดือน ซึ่งโครงการ KAVE AVA ก็มีความน่าสนใจเนื่องจาก อยู่ใกล้ทางเข้าม. มีแบบห้องพักอาศัยให้เลือกเยอะ พร้อมพื้นที่ส่วนกลางที่เรียกได้ว่าจัดเต็ม อาจทำให้ได้ราคาค่าเช่าดีกว่าหอพักที่มีมานานแล้วค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ :

การเดินทางโดยใช้รถสำหรับคนทั่วไปสามารถใช้ทางด่วนอุดรรัถยา ขึ้นเหนือไปทางอยุธยา หรือลงใต้ไปจตุจักรได้ง่าย ระยะทางจากโครงการถึงจุดขึ้น-ลง ทางด่วนประมาณ 3.5 กิโลเมตรเท่านั้นเองค่ะ

สำหรับนักศึกษาม.ธรรมศาสตร์ โครงการอยู่ห่างจากประตูมหาวิทยาลัยประมาณ 1.6 – 3.5 กิโลเมตรเท่านั้น และรถบนถนนเชียงรากเองก็ไม่ติดเลยค่ะ แต่ภายในโครงการมีที่จอดรถ 31.37% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 35.75% เราคิดว่าน้อยไปหน่อย เพราะถ้ารองรับพนักงานที่ทำงานในย่านนี้ด้วย อาจจะมีความจำเป็นต้องใช้ที่จอดรถเยอะขึ้นค่ะ แต่ถ้าโครงการสร้างเสร็จแล้ว มีรถรับ-ส่งที่ม.ธรรมศาสตร์ให้ก็จะดีเลย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

ในอนาคตก็คาดว่าทาง AssetWise มีแผนที่จะทำสะพานลอยตรงบริเวณด้านหน้าโครงการ เพื่อใช้ข้ามถนนไปยังฝั่งม.ได้ ซึ่งถ้าสร้างเสร็จเรียบร้อยจะทำให้นักศึกษาที่อยู่ในโครงการสามารถข้ามไปม.ได้สะดวก โดยระยะทางจากหน้าโครงการเดินข้ามสะพานลอย(ในอนาคต) ไปยังประตูเชียงราก 2 คือประมาณ 280 เมตร

วัสดุ :

โครงการมีรูปแบบการขายแบบ Fully Furnished  ได้ชุดครัว พร้อมอ่างล้างจาน (ไม่มี Hob & Hood) ได้ชั้นเก็บของ, ชั้นวาง TV, โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง, ตู้เสื้อผ้า, ชุดโต๊ะรับประทานอาหาร, ฐานเตียง และเครื่องปรับอากาศ ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มเติมนิดหน่อยก็ครบเลยค่ะ นอกจากนั้นห้องบาง Type ก็จะได้ฐานเตียง 3 ฟุต 2 ตัวที่สามารถเลื่อนมาชิดกันให้กลายเป็นเตียงใหญ่ 6 ฟุตได้ พื้นปูด้วยสมาร์ทไวนิลลายไม้ และมี Bluetooth Sound System ให้ทุกยูนิตค่ะ

การออกแบบ :

โครงการ KAVE AVA ถือว่าเป็นโครงการที่ค่อนข้างใหญ่เลยนะคะ มีที่ดิน 11-0-18.70 ไร่ ทั้งหมด 5 อาคาร รวมทั้งหมด 1,278 ยูนิต และร้านค้า 13 ยูนิต จึงมีการวางผังอาคารทั้ง 5 ให้ล้อมรอบพื้นที่ส่วนกลางตรงกลาง นอกจากนั้นยังกระจายพื้นที่ส่วนกลางไปยังทุกๆ อาคาร เฉลี่ยกันไปทำให้เข้าถึงได้สะดวก โดยการออกแบบมีแนวคิดคือ “การเกิดขึ้นมาใหม่” จึงออกแบบมาเป็นสไตล์ Futuristic ใช้แสง เส้นโค้ง ในการออกแบบให้ดูล้ำสมัยสังเกตได้ชัดเจนจากพื้นที่ส่วนกลางที่เน้นวงรี และเส้นโค้ง บริเวณ AVA POD และ Landscape

การออกแบบห้องพักอาศัยของโครงการนี้ทำได้น่าสนใจทีเดียวค่ะ เพราะมีห้องให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่เริ่มต้น Studio ไปจนถึง 1 Bedroom Plus ซึ่งฟังก์ชันภายในห้องค่อนข้างลงตัว ได้พื้นที่ครัวปิด มีระเบียงทุกยูนิต มีทั้งห้องที่เน้นความเป็นส่วนตัว และเน้นความโปร่งสบาย เหมาะกับการอยู่ 1 – 2 คน ตอบโจทย์คนที่ต้องการอยู่ใกล้สถานศึกษา และที่ทำงานมากกว่าอยู่เป็นครอบครัวค่ะ

สาธารณูปโภค :

พื้นที่ส่วนกลางมาได้จัดเต็มทีเดียวค่ะ มีพื้นที่สีเขียวกว่า 2.4 ไร่ และ Facility รวม 48 จุดประมาณ 7,000 ตารางเมตร กระจายพื้นที่ส่วนกลางที่จำเป็นเช่น Lobby Lounge, Mailbox, พื้นที่อ่านหนังสือ หรือ Laundry ออกไปในทุกๆ อาคาร Highlight คือสระว่ายน้ำ 3 สระ 3 สไตล์ ที่ออกแบบมาเพื่อกระจายความหนาแน่นในการใช้งาน และให้ความรู้สึกแตกต่างกันไปในแต่ละโซน มีทั้ง Facility Indoor, Outdoor และ Rooftop สามารถใช้งานข้ามอาคารได้ อีกทั้งยังมีร้านค้า 13 ยูนิต ให้ลูกบ้านสามารถซื้อของกินใช้ได้สะดวก ไม่ต้องออกไปไหนไกลได้เลย

นอกจากนั้นที่สำคัญคือมีพื้นที่รองรับกิจกรรมของนักศึกษาไม่ว่าจะเป็นพื้นที่นั่งทำงาน อ่านหนังสือ ติวกับเพื่อนเป็นกลุ่มหรือเดี่ยวก็สามารถใช้งานส่วนกลางได้ และที่ว้าวก็คือมีห้อง E-Sport สำหรับเล่นเกมกันเป็นกลุ่ม หรือใช้คอมนั่งทำงานก็ได้ เรียกได้ว่าให้มาแบบจัดเต็ม น่าจะเพียงพอกับการใช้งานของลูกบ้าน 1,278 ยูนิตเลยค่ะ


Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 65,000 – 80,000 บาท/ตร.ม., ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565

  • ทำเล 7.75/10 – อยู่ใกล้ถนนใหญ่ ฝั่งตรงข้ามม.ธรรมศาสตร์ ไม่ไกลจากความอุดมสมบูรณ์
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – เดินทางสะดวกทั้งม.ธรรมศาสตร์และนิคมอุตสาหกรรม ใกล้ทางด่วน
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – เดินไปม.ธรรมศาสตร์ได้สะดวกถ้ามีสะพานลอย
  • วัสดุ 8.5/10 – Fully Furnished และ  Bluetooth Sound System
  • แบบ 8.75/10 – ออกแบบโครงการค่อนข้างลงตัว พื้นที่ส่วนกลางน่าใช้งาน ห้องพักอาศัยฟังก์ชันดี เป็นสัดส่วน มีให้เลือกเยอะ
  • สาธารณูปโภค 9.25/10 – ครบครัน จัดเต็ม ถือว่ามากที่สุดในทำเลนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ

  • MAIN CLASS
  • 8.07 / 10.00

KAVE AVA เหมาะกับใคร

โครงการ KAVE AVA เหมาะกับคนที่หาคอนโดใกล้ม.ธรรมศาสตร์ ที่สามารถเดินไปเรียนได้ หรือคนที่กำลังหาที่พักใกล้ที่ทำงานในทำเลนี้ ต้องการคอนโดที่มีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ให้ใช้งานหลากหลายฟังก์ชัน มีความสะดวกสบาย มีร้านค้าภายในโครงการ อีกทั้งยังเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องกลางปล่อยเช่าทำกำไร เนื่องจากหอพักทำเลนี้ยังเป็นที่ต้องการของนักศึกษาจำนวนมาก ต้องมีงบประมาณ 1.5 – 3.5 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 10,500 – 24,500 บาท/เดือน


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc