ยุคนี้ข้าวของอะไรก็แพงเศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี ปลูกผักสวนครัวกินเองก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยในการประหยัดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และเป็นงานอดิเรกเล็กๆคอยเฝ้าดูต้นไม้ของเราเติบโตก็มีความสุขนะคะ แต่ถ้าเราอยู่คอนโดไม่มีพื้นที่เยอะๆเหมือนกับบ้านจะทำยังไงดี ?

ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพียงแค่คุณรักในการปลูกต้นไม้พื้นที่ในคอนโดมิเนียมแค่พื้นที่ห้องครัวหรือระเบียงเล็กๆก็สามารถปลูกผักสวนครัวกินเองได้แล้วค่ะ ผักสวนครัวที่ปลูกได้ง่ายไม่ใช้พื้นที่เยอะจะมีอะไรบ้าง มีไอเดียในการปลูกต้นไม้และจัดพื้นที่ในคอนโดอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ


ก่อนจะไปดูไอเดียการจัดการพื้นที่ปลูกผักสวนครัวในคอนโด เรามาดู 9 ผักสวนครัวยอดนิยม ที่ปลูกง่ายใช้พื้นที่ไม่มากสามารถปลูกที่ระเบียงคอนโดได้กันค่ะ  โดยผักสวนครัวที่เราเลือกมานั้นมีขั้นตอนการปลูกไม่ยาก ไม่ต้องดูแลมากนัก อีกทั้งยังเป็นพืชผักยอดฮิตคนไทยชอบกิน เหมาะกับการปลูกในพื้นที่จำกัดคอนโดมิเนียมเลยค่ะ

1 กะเพรา

กะเพราเป็นต้นไม้ยอดนิยมที่นำเอามาทำอาหารมากที่สุดในเมืองไทยเลยก็ว่าได้ค่ะ คิดอะไรไม่ออกก็ต้องนึกถึงผัดกะเพราขึ้นมา ก็เพราะว่าต้นกะเพรานั้นขึ้นง่ายมากๆยกให้เป็นอันดับ 1 เลย ยิ่งถ้าปลูกด้วยการเพาะเมล็ดแค่โรยลงดินรดน้ำนิดหน่อยก็ขึ้นมาแล้วค่ะ ถ้าใครที่ไม่อยากไปซื้อเมล็ด แต่สามารถขอแบ่งกิ่งมาจากคนอื่นได้ ก็ปักชำได้ไม่ยากเลยค่ะ เพียงเด็ดส่วนยอดออก แล้วนำไปปักลงดินเฉียงๆประมาณ 45 องศา แล้วรดน้ำพอชุ่ม ก็รอมันงอกออกมาได้เลย

  • ขนาด : ต้นกะเพราเป็นต้นที่น้ำหนักเบา ขึ้นง่าย สามารถปลูกได้ตั้งแต่เมล็ดจนโตสูงประมาณ 1 เมตร เลือกใช้กระถางกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 – 12 นิ้ววางบนระเบียงได้เลย
  • น้ำและแสงแดด : ต้นกะเพราเป็นพืชที่ทนสามารถอยู่ได้ทุกสภาพอากาศแต่ถ้ารดน้ำสม่ำเสมอ โดนแสงแดดตลอดทั้งวันก็จะทำให้โตเร็วงอกงามค่ะ
  • ระยะเวลาเก็บเกี่ยว : สามารถเก็บกินได้ตั้งแต่ใบอ่อน 20 วัน เป็นพืชล้มลุกมีอายุ 1 – 2 ปี เก็บกินได้เรื่อยๆตลอดทั้งปีค่ะ

2 ผักบุ้ง

ผักบุ้งก็เป็นพืชอีกชนิดที่สามารถปลูกได้ง่ายค่ะ อีกทั้งยังสามารถเก็บกินเป็นยอดอ่อนได้ด้วยนะ ซึ่งนอกจากจะให้เส้นใยสูงแล้วยังได้วิตามินและแร่ธาตุอื่นๆด้วย ต้นผักบุ้งสามารถปลูกได้หลายวิธี นอกจากปลูกเมล็ดลงดินแล้ววิธีที่นิยมกันก็คือปลูกในตะกร้าค่ะ วิธีการปลูกผักบุ้งด้วยตะกร้าคือใช้กาบมะพร้าวสับวางลงบนตะกร้า(ที่มีรูๆเยอะๆ) ซ้อนด้วยกะละมังใส่น้ำข้างใต้ให้ปริ่มๆกาบมะพร้าว แล้วโรยเมล็ดลงไปทิ้งไว้ในร่มรอเมล็ดงอกประมาณ 2 วัน จากนั้นวันที่ 5 เติมน้ำและปุ๋ย นำออกไปโดนแสงแดดได้

อีกวิธีคือการปลูกผักบุ้งแบบไม่ใช้เมล็ด ใครที่ซื้อผักบุ้งทำกับข้าวแล้วมีรากอย่าทิ้งนะคะ นำฟองน้ำมาหั่นเป็นก้อนกรีดตรงกลางให้ใส่รากลงไปได้ ชุบน้ำให้ชุ่มและนำไปวางในตะกร้าซ้อนกะละมังแบบเดิมเหมือนที่ปลูกด้วยเมล็ดเลยค่ะ

  • ขนาด : ผักบุ้งเป็นต้นไม้ที่ไม่สูงมากนักสามารถปลูกได้โดยไม่กินที่ ใช้เพียงตะกร้าใบเดียว ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 12 นิ้ว
  • น้ำและแสงแดด : ผักบุ้งเป็นต้นที่สามารถปลูกง่ายเพียงใส่ตะกร้าใส่น้ำ เติมให้ได้ระดับสม่ำเสมอ ต้องการแสงแดดพอประมาณ (ยกเว้นตอนเพาะเมล็ด ไม่ต้องการแสงแดดจนกว่าจะงอกค่ะ)
  • ระยะเวลาเก็บเกี่ยว : สามารถเก็บกินได้ตั้งแต่ยอดอ่อน 10 วัน หรือจะรอต้นสูงประมาณ 30 เซนติเมตรก็ใช้เวลาเพียง 20 – 25 วันเท่านั้นค่ะ

3 ปวยเล้ง

ปวยเล้งเป็นผักที่มีสารอาหารกลุ่มแคโรทีนอยเยอะ และมีวิตามินซีสูง นอกจากนั้นยังมีธาตุเหล็กและแคลเซียมสูง ใช้เวลาปลูกไม่นานอยู่ที่ประมาณ 30-40 วันก็สามารถเก็บกินได้เลย แต่เป็นพืชที่ไม่เหมาะกับการกินสดนะคะ เพราะจะทำให้เกิดนิ่วได้ ควรลวกก่อนกินทุกครั้งค่ะ วิธีการปลูกปวยเล้งสามารถทำได้ไม่ยาก หยอดเมล็ดเป็นจุดๆ ลงบนร่องดินห่างกันประมาณ 15 เซนติเมตรรอบด้าน รดน้ำให้ชุ่ม แนะนำให้ใช้ดินผสมระหว่างดิน+ปุ๋ยหมัก+แกลบดำ ในอัตราส่วนที่เท่ากันค่ะ

  • ขนาด : ปวยเล้งเป็นต้นไม้ที่ควรปลูกโดยเว้นระยะห่างกันประมาณ 15-20 เซนติเมตร สามารถใช้กระถางกลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 12 นิ้วได้ โดยหยอดเมล็ดเป็นจุด ห่างกันค่ะ
  • น้ำและแสงแดด : ปวยเล้งเป็นพืชที่ขึ้นได้ดีในอุณหภูมิต่ำ หรือในฤดูหนาว แต่ก็สามารถปลูกได้ตลอดโดยการปลูกในที่ร่มไม่ให้โดนแสงแดดนัก ต้องการน้ำปานกลางพอชุ่มแต่ห้ามน้ำขัง
  • ระยะเวลาเก็บเกี่ยว : ปวยเล้งโตไวถ้าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ใช้เวลาในการปลูกประมาณ 1 เดือน หรือ 35 วันก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้วค่ะ

4 ผักสลัด

พืชสวนครัวตระกูลผักสลัดนั้นก็เป็นอีกหนึ่งชนิดที่ปลูกง่าย สามารถปลูกได้ทั้งในกระถางดินและในน้ำ แต่ถ้าใครต้องการปลูกที่คอนโดริมระเบียงไม่อยากต่อระบบน้ำให้วุ่นวายแนะนำให้ปลูกลงดินในกระถางเหมือนพืชชนิดอื่นๆได้เลยค่ะ โดยการหยอดเมล็ดลงในหลุม รดน้ำพอชุ่มแล้วทิ้งไว้ในร่มสัก 2-3 วันให้เมล็ดงอก รอประมาณ 1 สัปดาห์นำออกกมาวางในโดนแสงแดดตลอดทั้งวัน ย้ายต้นโตลงในกระถางแยกทำให้ต้นไม้ไม่แย่งอาหารกัน จะได้ผักที่ใหญ่สวยงามค่ะ

  • ขนาด : เมื่อผักสลัดโตพร้อมแยกกระถางสามารถเลือกใช้กระถาง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10 – 12 นิ้วต่อต้น
  • น้ำและแสงแดด : ผักสลัดเป็นพืชที่ต้องการแสงแดดตลอดทั้งวันแต่ไม่จัดมาก ถ้าอยู่ในทิศที่แสงแดดเข้าถึงจัดควรมีผ้าบางกันแดด 1 ชั้น หรือมีต้นไม้อื่นๆช่วยบังแดดบ้าง แต่ตอนเพาะเมล็ดให้รอจนงอนออกมาประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนออกแดดค่ะ
  • ระยะเวลาเก็บเกี่ยว : สามารถเก็บกินได้ใช้เวลาประมาณ 45 วันค่ะ

5 ต้นหอม

ต้นหอมพืชอีก 1 ชนิดที่เรามักจะได้มากับการซื้ออาหารเพราะสามารถกินสดได้เลยไม่ต้องปรุงสุก และมักจะเป็นส่วนประกอบในอาหารหลายๆอย่าง เพิ่มสีสันให้ดูน่ากินมากขึ้น ถ้าเราไปซื้อต้นหอมที่มีรากติดมาด้วย ก็สามารถปลูกเพื่อกินในครั้งต่อไปได้เลย วิธีการปลูกคือตัดโคนต้นหอมเหนือรากประมาณ 1 – 2 นิ้ว ปักลงในดินรดน้ำให้พอชุ่มชื้น จากนั้นก็รองอกมารับประทานได้ใหม่เลยค่ะ หรืออีกวิธีหนึ่งสามารถนำหอมแดงมาตัดหัวแล้ววางบนดิน รดน้ำให้ชุ่มชื้นจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ก็งอกขึ้นมาสูงประมาณ 10 – 15 เซนติเมตรแล้วค่ะ

  • ขนาด : ต้นหอมมีขนาดเล็กสามารถปลูกได้หลายต้นในกระถางเดียวโดยไม่กินที่เลยค่ะ จะเลือกใช้ได้ตั้งแต่กระถางเล็ก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4 นิ้วจนถึงกระถาง 6 นิ้วก็ได้แล้วแต่พื้นที่ของแต่ละคนเลย
  • น้ำและแสงแดด : ต้นหอมเป็นต้นไม้ที่ไม่ต้องการแสงแดดมากนัก สามารถปลูกในร่ม หรือวางกระถางไว้ในห้องครัวที่มีแสงแดดส่องถึงได้เลยค่ะ ส่วนการรดน้ำแค่พอชุ่มชื้นก็เพียงพอ
  • ระยะเวลาเก็บเกี่ยว : ถ้าปลูกจากเมล็ดสามารถเก็บกินได้ใช้เวลาประมาณ 45 วัน แต่ถ้าปักชำ แค่รอให้ต้นสูงขึ้นมาประมาณ 2 สัปดาห์ก็สามารถตัดรับประทานได้แล้วค่ะ

6 กวางตุ้ง

กวางตุ้งผักนิยมคู่อาหารของคนไทยอีกเช่นกันนะคะ เห็นได้บ่อยๆในบะหมี่หมูแดง ควรทำให้สุกก่อน เพราะกวางตุ้งสดจะมีความเหนียวพอสมควรเลยค่ะ กวางตุ้งเป็นผักที่ปลูกง่ายสามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี การเพาะเมล็ดสามารถโรยบนดินนำปุ๋ยคอกทับเล็กน้อย แล้วรดน้ำให้ชุ่ม ผ่านไปประมาณ 20 วัน ให้แยกระยะห่าง หรือแยกกระถางออกมา ประมาณ 45 วันก็สามารถเก็บเกี่ยวกินได้แล้วค่ะ

  • ขนาด : กวางตุ้งสามารถเพาะบนดินได้หลายขนาด แต่เมื่อโตประมาณ 20 วันให้แยกใส่กระถาง เพื่อให้ต้นใหญ่ดูดซึมสารอาหารได้อย่างเต็มที่ ควรเลือกใช้ต้นขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10 นิ้วค่ะ
  • น้ำและแสงแดด : กวางตุ้งเป็นผักที่ต้องการน้ำและแสงแดดมาก โดยชอบน้ำชุ่มชื้นเช้า-เย็น แต่อย่าให้น้ำขังนะคะ นำไปออกแดดตลอดทั้งวันจะทำให้ต้นโตเร็วค่ะ
  • ระยะเวลาเก็บเกี่ยว : สามารถเก็บกินได้ใช้เวลาประมาณ 45 วันค่ะ

7 ผักชี

ผักชีพืชผักสวนครัวอีกชนิดที่ปลูกไม่ยาก แต่ควรปลูกในดินที่ร่วนซุย ปนทรายมีสารอินทรีย์วัตถุสูง วิธีการปลูกคือนำเมล็ดมาบดให้แตกออกเป็น 2 ส่วนแช่น้ำไว้ประมาณ 2-3 วัน (ควรให้เมล็ดจมน้ำ) เรียบร้อยให้นำไปผึ่งให้แห้งก่อนโรยลงบนดิน รดน้ำให้ชุ่มเก็บในที่ร่มได้ตลอด เมื่อเมล็ดงอกแล้วให้เว้นระยะห่างต้นละประมาณ 10 เซนติเมตร ซึ่งเป็นพืชที่ไม่ต้องการพื้นที่ปลูกเยอะแถมยังน้ำหนักเบา และใบสวย ปลูกตกแต่งภายในห้องครัวที่มีแสงแดดส่งถึงได้เลย

  • ขนาด : ผักชีใช้พื้นที่ในการปลูกน้อย สามารถแยกต้นใช้กระถางใบเล็ก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4 นิ้วได้เลย
  • น้ำและแสงแดด : ผักชีเป็นต้นไม้ที่ไม่ต้องการแสงแดดมากนัก สามารถปลูกในร่ม หรือวางกระถางไว้ในห้องครัวที่มีแสงแดดส่องถึงได้เลยค่ะ ส่วนการรดน้ำแค่พอชุ่มชื้นก็เพียงพอ
  • ระยะเวลาเก็บเกี่ยว : สามารถเก็บกินได้ใช้เวลาประมาณ 45 วัน ก่อนเก็บควรรดน้ำให้ชุ่มชื้นเพื่อให้ง่ายต่อการถอนออก และต้นไม่ขาดง่าย

8 พริก

พริกเป็นพืชที่หลายคนพูดกันว่าปลูกให้ขึ้นยาก แถมยังมีราคาแพง หลายคนเลยเลือกซื้อเป็นต้นเล็กๆในกระถางแทน แต่วิธีการเพาะเมล็ดนั้นก็ไม่ยากและไม่ซับซ้อนมากนักนะคะ เพื่อนๆสามารถลองทำตามดูได้ เมื่อพริกโตมาแล้วก็สามารถใช้วางประดับได้อีกด้วยเพราะมีรูปทรง สีสันสวยงาม

วิธีการปลูกคือนำเมล็ดแช่น้ำไว้ประมาณ 1 วัน จากนั้นนำมาผึ่งแดดให้แห้ง เพาะลงบนดินร่วนปนทราย หยอดเมล็ดลงในหลุม กลบดินและรดน้ำให้ชุ่ม และวางไว้ที่แสงแดดส่งถึงเพราะพริกสอบแสงแดด พริกจะโตช้ากว่าผักอื่นๆสักหน่อยช่วงแรกให้รดน้ำสม่ำเสมอ แต่ไม่ให้น้ำขัง พอออกดอกก็ลดเว้นช่วงการรดน้ำ ใช้เวลาในการปลูกประมาณ 2 – 3 เดือนหรือประมาณ 80 วันก็ออกผลค่ะ

  • ขนาด : พริกถ้าปลูกนานจะมีต้นสูงใหญ่กว่าพืชผักสวนครัวชนิดอื่นๆจึงควรเตรียมกระถางที่มีขนาดใหญ่สักหน่อย เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10 – 12 นิ้ว แต่ถ้าใครชอบต้นเล็กๆ ไว้วางประดับอย่างเดียวก็สามารถเลือกกระถางเล็กลงที่เส้นผ่านศูนย์กลาง 6 นิ้วได้ค่ะ
  • น้ำและแสงแดด : พริกเป็นต้นไม้ที่ชอบแสงแดดมาก สามารถวางไว้ที่ระเบียงเพื่อรับแดดได้ตลอดทั้งวัน ถ้าอยู่ในที่ร่มจะไม่เจริญเติบโตอย่างเต็มที่ รดน้ำให้ชุ่มชื้นในช่วงแรกก่อนออกดอก พอมีดอกแล้วให้เว้นระยะวันเว้นวัน
  • ระยะเวลาเก็บเกี่ยว : พริกใช้เวลาในการเติบโตนานกว่าผักชนิดอื่นๆโดยมีระยะเวลาเก็บเกี่ยวอยู่ที่ประมาณ 80 วัน (2  – 3 เดือน)

9 มะกรูด

มะกรูดมีประโยชน์ที่หลากหลาย สามารถนำผล และใบมาทำอาหารและยังนำมาใช้เป็นตัวช่วยดับกลิ่นภายในห้องได้ด้วย วิธีการปลูกมะกรูดก็ไม่ยากค่ะ นำมะกรูดแก่มาคว้านเมล็ดออกมา ล้างน้ำสะอาดผึ่งแดดให้แห้งประมาณ 2 – 4 วัน โรยลงบนดินร่วนปนทราย หรือมีปุ๋ยคอกสูง รดน้ำให้ชุ่ม อยู่ในพื้นที่แสงแดดส่องถึง ระบายอากาศดี เมื่อใบเริ่มงอกออกมาประมาณ 3-4 ใบนำใส่ถุงดำจนต้นสูงประมาณ 30 เซนติเมตร จากนั้นนำออกมา

มะกรูดเป็นพืชที่ใช้เวลาโตนานกว่าผักสวนครัวชนิดอื่นๆ ใช้เวลาออกผล 1-2 ปี แต่สามารถนำใบมารับประทานก่อนได้ค่ะ ซึ่งผู้เขียนชอบกินใบมะกรูดซอยและทอดกรอบมาก เพราะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวเลยหยิบยกต้นมะกรูดขึ้นมาแนะนำเผื่อใครสนใจปลูกที่ระเบียงคอนโดของตัวเองกันนะคะ

  • ขนาด : มะกรูดถ้าปลูกนานจะมีต้นสูงใหญ่กว่าพืชผักสวนครัวชนิดอื่นๆจึงควรเตรียมกระถางที่มีขนาดใหญ่สักหน่อย เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10 – 12 นิ้วขึ้นไปค่ะ
  • น้ำและแสงแดด : มะกรูดต้องการน้ำชุ่มชื้นสม่ำเสมอแต่ไม่ชอบน้ำขังเพราะอาจทำให้รากเน่าได้ ชอบแสงแดดโดนแดดได้ตลอดทั้งวัน
  • ระยะเวลาเก็บเกี่ยว : สามารถเก็บใบกินได้ตั้งแต่ลำต้นสูงประมาณ 30 – 50 เซนติเมตร หรือถ้าต้องการรอผลมะกรูดจะต้องปลูกนาน 1 – 2 ปีค่ะ

พื้นที่ปลูกผักในคอนโด

รู้จักกับผักสวนครัวที่นิยมปลูกกันไปแล้วเรามาดูพื้นที่ที่สามารถปลูกผักสวนครัวในคอนโดกันค่ะ เราสามารถปลูกผักสวนครัวแทนต้นไม้ประดับในคอนโดได้เลยไม่ว่าจะเป็นที่พื้นที่ห้องทานอาหาร ครัว ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำ หรือพื้นที่ระเบียง แต่ใครที่ไม่อยากดูแลหลายที่ เราขอแนะนำพื้นที่เหมาะสมสำหรับปลูกผักสวนครัวกัน 2 ห้องคือ ห้องครัว และพื้นที่ระเบียงนั่นเองค่ะ

สำหรับคนที่มีพื้นที่น้อยหรือพื้นที่ค่อนข้างจำกัดหรือคอนโดที่ไม่มีระเบียง การปลูกผักสวนครัวไว้ในห้องครัว นอกจากจะช่วยประหยัดพื้นที่แล้ว ยังสามารถหยิบจับนำมาปรุงอาหารได้สะดวกสบายอีกด้วย

ห้องครัวเหมาะกับการใช้เป็นพื้นที่เพาะเมล็ดผักสวนครัว เพราะไม่โดนแสงแดดแรงๆโดยตรง อีกทั้งยังมีพื้นที่สำหรับวางกระถางต่างๆ แต่จะให้ยกกระถางต้นไม้เข้ามาไว้ในครัวอาจจะไม่สวยงาม หรือกินพื้นที่เยอะเกินไป เรามีไอเดียในการประยุกต์ใช้ภาชนะต่างๆ เผื่อใครที่สนใจตกแต่งประดับห้องครัวไปในตัวด้วยค่ะ

4 ไอเดียประยุกต์กระถางต้นไม้ในคอนโด

 

1 ภาชนะที่ไม่ใช้แล้ว

ใครมีแก้ว จาน ชามที่มีรอยร้าวไม่สามารถใช้งานได้แล้ว แต่เสียดายไม่อยากทิ้งก็สามารถนำมาให้ปลูกผักสวนครัวได้นะคะ เนื่องจากภาชนะต่างๆมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ก้นไม่มีรูสามารถอุ้มน้ำได้ดีและช่วยให้ไม่มีเศษดินออกมาเลอะเทอะด้านนอกเวลาเรารดน้ำ แล้วยังประดับตกแต่งห้องครัวได้เก๋ๆทีเดียวค่ะ

2 ลัง/ถาดใส่ไข่

ลังใส่ไข่ Item ยอดฮิตในการปลูกผักสวนครัวเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการเพาะเมล็ดผักสลัด ก็ทำได้ง่ายเพราะลังใส่ไข่นั้นมีแบ่งเป็นช่องๆอยู่แล้ว ไม่ต้องแบ่งดินหรือแยกกระถางเองเลย หรือจะปลูกต้นหอมก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้ดินแต่จะต้องใช้ลังที่เป็นกระดาษสีเทาๆเท่านั้นนะคะ ลังพลาสติกไม่สามารถทำได้ค่ะ เพราะลังกระดาษจะช่วยอุ้มน้ำให้ความชุ่มชื้นกับต้นหอมได้

3 กระป๋องต่างๆ

กระป๋องอลูมิเนียมก็เป็นขยะที่หลายๆบ้านมี แต่แทนที่จะทิ้งไปเราสามารถนำมา Reuse ทำเป็นกระถางต้นไม้เก๋ๆ เหมาะกับห้องสไตล์ Loft ได้อีกด้วยค่ะ เหมาะกับการเพาะเมล็ดหรือใช้แทนกระถางต้นไม้พลาสติกได้เลยนะ

4 ขวดพลาสติก

Item สุดท้ายขวดพลาสติก ไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำเปล่า ขวดน้ำอัดลม ขวดเล็กหรือขวดลิตร ก็สามารถดัดแปลงเป็นกระถางต้นไม้แนวๆได้ เพราะมองเห็นดินและรากต้นไม้ได้ดี จะโรยหินสีๆตกแต่งก็สวย สามารถเจาะช่องได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง วางในห้องครัวได้ไม่กินพื้นที่ค่ะ


ระเบียงคอนโดถือเป็นพื้นที่ปลูกผักยอดนิยมเพราะเป็นพื้นที่กว้างจัดวางได้หลากหลายรูปแบบ ระบายอากาศได้ดีได้รับ “แสงแดด” เพียงพอ แต่การจะปลูกผักให้ได้ทานก็ต้องเข้าใจธรรมชาติของผักกันสักนิด ว่าผักที่คุณจะปลูกนั้นต้องการแสงแดดมากน้อยแค่ไหนเพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของผักสวนครัวเลยค่ะ

พื้นที่ระเบียงคอนโดมิเนียมแต่ละแห่งนั้นมีความหลากหลายมาก เราจึงขอแบ่งออกเป็น 3 ขนาดตามพื้นที่ใช้สอย แบ่งเป็น

  • พื้นที่ระเบียง S : เหมาะสำหรับคอนโดมิเนียมที่มีพื้นที่ระเบียงน้อย เป็นคอนโดมิเนียมห้อง Studio หรือ 1 Bedroom เน้นพื้นที่ใช้สอยภายในห้องมากกว่าพื้นที่ระเบียง อาจจะมีระเบียงกว้าง 0.60 เมตร ยาว 1.60 เมตร หรือมีขนาดระเบียงรวมประมาณ 1 ตารางเมตร
  • พื้นที่ระเบียง M : เหมาะสำหรับคอนโดมิเนียมห้อง 1 Bedroom หรือ 1 Bedroom Plus ที่เน้นพื้นที่ระเบียงกว้าง มองเห็นวิวได้เยอะ หรือสามารถทำพื้นที่นั่งเล่นเล็กๆริมระเบียงได้  อาจจะมีระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร ยาว 2 เมตร หรือมีขนาดระเบียงรวมประมาณ 2 ตารางเมตร
  • พื้นที่ระเบียง L : เหมาะสำหรับคนที่อยู่คอนโดมิเนียมห้องใหญ่ 2 Bedroom ขึ้นไป ที่ได้พื้นที่ระเบียงกว้าง อาจจะมีระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร ยาว 3 เมตร หรือมีขนาดระเบียงรวมประมาณ 3 ตารางเมตรค่ะ

ไอเดียการจัดพื้นที่ปลูกผักสวนครัวสำหรับระเบียง Size S นั้นอาจจะเลือกปลูกไม่ได้ทั้งหมดทุกชนิดที่ต้องการเพราะพื้นที่จำกัด ซึ่งสำหรับคอนโดมิเนียมบางแห่งอาจมีพื้นที่ระเบียงไม่ถึง 1 ตารางเมตรนะคะ ซึ่งการปลูกผักสวนครัวในระเบียงSize S นั้นต้องคำนึงถึงปัจจัยในการเลือกชนิดของผักสวนครัว ดังนี้ค่ะ

  • ขนาดของผักสวนครัว

สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงคือขนาดของผักสวนครัวที่เราจะปลูกเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่พร้อมเก็บเกี่ยวนั้นมีขนาดเท่าไร ซึ่งเราได้รวมไว้ให้แล้วที่ตาราง 9 ผักสวนครัวนิยมปลูกนะคะ ถ้าเราปลูกใกล้กันเกินไปอาจทำให้พื้นที่ระเบียงรก ไม่เป็นระเบียบทำความสะอาดได้ยากค่ะ อย่างในภาพตัวอย่างเราได้จัดต้นไม้ใหญ่ๆไว้ด้านนอกคนละชนิดกันเพิ่มความหลากหลาย เช่น พริก มะกรูด และกะเพรา มีต้นไม้ที่ขนาดรองลงมาอย่าง ผักบุ้ง กวางตุ้ง ปวยเล้ง ด้านล่างให้ดูไม่หนาแน่นจนเกินไป ใครที่มีบันไดไม้ หรือสามารถแขวนกระถางได้ ก็ช่วยเพิ่มพื้นที่ปลูกผักสวนครัวให้มากขึ้นได้ค่ะ

  • ความต้องการแสงแดด

นอกจากขนาดแล้วปัจจัยแสงแดดก็สำคัญ ถ้าเราเลือกต้นไม้ที่ชอบแดดต้นใหญ่สัก 1 ต้น อาจจะต้องเลือกต้นไม้อื่นๆที่ชอบแสงแดดปานกลาง เนื่องจากจะต้องระวังถ้ามีต้นไม้หนาแน่นเกินไปอาจทำให้ต้นอื่นๆไม่ได้รับแสงแดดจนไม่เจริญเติบโตหรือเน่าได้ค่ะ อย่างในระเบียงตัวอย่างลองจัดให้ต้นไม้ที่ชอบแดดเช่น พริก มะกรูด กระเพราไว้ด้านนอกสุด และมีต้นไม้ที่ชอบร่มเงาอย่างต้นหอม ผักชีไว้ด้านใน ให้เงาของต้นด้านนอกช่วยบังแสงแดดให้กับต้นด้านในเวลาแดดแรงๆค่ะ

พื้นที่ระเบียงขนาดกลางสามารถปลูกผักสวนครัวได้มากขึ้น นอกจากจะได้ปลูกผักสวนครัวแล้วยังมีพื้นที่เหลือสำหรับวางเก้าอี้นั่งเล่นชมวิวได้ แต่การเลือกชนิดของผักสวนครัวที่จะปลูกก็ควรคำนึงถึงปัจจัยทั้ง 2 ข้อที่กล่าวมา เรื่องขนาดและความต้องการแสงแดดเหมือนกันนะคะ

ระเบียงตัวอย่างจัดพื้นที่ปลูกผักสวนครัวแบ่งเป็น 2 ฝั่งของระเบียงเพื่อให้ตรงกลางสามารถมองเห็นวิวภายนอกได้จากห้องนั่งเล่นค่ะ และทำให้ดูแลผักสวนครัวของเราได้ทั่วถึงสามารถเอื้อมมือไปรดน้ำ ถอนวัชพืชออกได้สบายๆ จะปลูกต้นที่ต้องการแสงแดดมากและมีขนาดใหญ่ไว้ริมด้านนอก อย่างเช่นมะกรูด พริก กะเพรา กวางตุ้ง เป็นต้น ด้านในปลูกผักสลัดหลายชนิด มีกระถางเล็กๆสำหรับต้นหอม ผักชี อยู่ด้านในค่ะ

มาถึงระเบียงขนาดใหญ่กันบ้างค่ะ ระเบียงมีพื้นที่เยอะเจ้าของห้องก็สามารถออกแบบพื้นที่ได้หลากหลายมากขึ้นนะคะ สามารถปลูกผักสวนครัวได้หลายชนิดและทำเป็น mini Farm เหลือผักสวนครัวแจกจ่ายให้เพื่อนห้องข้างๆได้อีกด้วย

ระเบียงตัวอย่างจัดพื้นที่ปลูกผักสวนครัวแบ่งเป็น 2 ฝั่งเพื่อให้มองเห็นวิวตรงกลางได้เหมือนเดิมค่ะ แต่จะเพิ่มผักสวนครัวที่กินได้ครั้งเดียวมากขึ้นเช่น ผักสลัด ปลูกเว้นระยะกันประมาณ 1 สัปดาห์ทำให้มีผักสลัดกินได้ตลอดทั้งเดือน ส่วนต้นกะเพรา มะกรูด หรือพริกเราสามารถเด็ดแต่ใบและผลออกมา แล้วรอให้แตกกิ่งออกมาใหม่ได้ก็ปลูกจำนวนไม่มากค่ะ จะได้ไม่เสียพื้นที่ระเบียงมากจนเกินไป

ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเพียงไอเดียในการจัดพื้นที่ปลูกผักสวนครัวบนระเบียงคอนโดตามพื้นที่ประมาณ 1 – 3 ตารางเมตรเท่านั้นนะคะ ใครที่คิดว่ามีไอเดียเจ๋งๆ หรือเลือกปลูกผักสวนครัวชนิดไหนในคอนโด มา Comment แชร์ประสบการณ์กันได้ที่ด้านล่างบทความนี้เลยค่า

เมื่อได้ไอเดียชนิดของผักที่นิยมปลูกในคอนโดและการจัดพื้นที่ครัวและระเบียงแล้ว ลองอ่าน ต้นไม้ฟอกอากาศที่นิยมปลูก หรือ ไอเดียจัดสวนในบ้านและคอนโดพื้นที่น้อย กันต่อได้เลยค่ะ ไม่ว่าจะผักสวนครัว ไม้ดอก หรือไม้ประดับ ก็สามารถจัดให้สวยลงตัวได้ในแบบที่คุณชอบ แล้วระเบียงคอนโดจะกลายเป็นมุมโปรดของคนรักการปลูกเช่นคุณแน่นอนค่ะ


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะคะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc

ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving