CHAPTER เจริญนคร – ริเวอร์ไซด์ จาก พฤกษา 

รีวิวฉบับที่ 1906 ,, คงจะปฎิเสธไม่ได้ว่าเวิ้งแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นหนึ่งในวิวที่สวยที่สุดในกรุงเทพ วันนี้ผมมีโครงการใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยามาให้ชมกันครับ กับ Chapter เจริญนคร-ริเวอร์ไซด์ คอนโด High Rise 2 อาคาร ที่จัดเต็มมาให้ในเรื่องของวิวแม่น้ำจากภายในห้อง และพื้นที่ส่วนกลางริมแม่น้ำ ในราคาเริ่มต้นที่ 3.29 ล้านบาท… ใช่ครับ! ราคานี้จริงๆ ถ้าไม่เชื่อผม เราเข้าไปชมรายละเอียดภายในกันเลยดีกว่า

Fact @ 18 July 2019

  • Chapter Charoennakhon – Riverside (แชปเตอร์ เจริญนคร – ริเวอร์ไซด์ )
  • บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
  • LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ : ถนนเจริญนคร เขตคลองสาน
  • ที่ดินประมาณ 5-2-26.2 ไร่
  • คอนโด High Rise 2 อาคาร และ อาคาร Low Rise 1 อาคาร จำนวน 669 ยูนิต
  • BUILDING A : 45 ชั้น
  • BUILDING B : 43 ชั้น
  • FACILITY BUILDING : 6 ชั้น
  • ที่จอดรถประมาณ 62% ไม่รวมซ้อนคัน หรือ 66% รวมจอดซ้อนคัน
  • เริ่มก่อสร้าง : Q4 2562
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : Q1 2565
  • BUILDING A
  • 1 BEDROOM (RIVERVIEW) ขนาด 34 ตารางเมตร
  • 1 BEDROOM EXCLUSIVE (RIVERVIEW) ขนาด 38.95 ตารางเมตร
  • 2 BEDROOM (RIVERVIEW) ขนาด 68.6 – 78.8 ตารางเมตร
  • 2 BEDROOM (RIVERFRONT) ขนาด 75.60 ตารางเมตร
  • 3 BEDROOM (RIVERFRONT) ขนาด 151.60 ตารางเมตร
  • BUILDING B
  • STUDIO (RIVERVIEW) ขนาด 25.10 ตารางเมตร
  • 1 BEDROOM (RIVERVIEW) ขนาด 32.10 ตารางเมตร
  • 2 BEDROOM (RIVERFRONT) ขนาด 49.10 ตารางเมตร
  • ฝ้าเพดานสูง 3 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท หรือประมาณ 129,000 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ 167,000 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1739

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.714163, 100.504437
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่ 

แผนที่จากทางโครงการครับ

ก่อนจะเข้าไปดูรายละเอียดภายในของโครงการ ขอพูดถึงความเป็นมาของทำเลสักนิดนึงนะครับ.. “ถนนเจริญนคร” เป็นถนนสายสำคัญในย่านฝั่งธน โดยตั้งชื่อล้อกับ “ถนนเจริญกรุง” ที่อยู่ในแนวขนานกันของฝั่งพระนคร และยังเป็นถนนสายแรกที่สร้างด้วยความกว้างถึง 30 เมตร ทำเลนี้เคยเป็นย่านที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและสังคมในอดีตของทางฝั่งธน เดิมมีโรงสีและโกดังจำนวนมาก สมัยก่อนจะเน้นการขนส่งสินค้าทางรถไฟและทางน้ำเป็นหลัก จึงมีการตัดทางรถไฟสายคลองสาน-วงเวียนใหญ่-มหาชัยขึ้น ทำให้ย่านเจริญนครกลายเป็นตลาดค้าส่งสินค้าขนาดใหญ่ ที่ทำหน้าที่ในการกระจายสินค้าออกจากกรุงเทพฯ ไปยังพื้นที่ต่างๆ ต่อมาการสัญจรทางน้ำและรถไฟถูกลดบทบาทลงไปค่อนข้างเยอะ จึงทำให้ย่านนี้ถูกลดความสำคัญลงตามเช่นกัน (สถานีรถไฟคลองสานถูกรื้อไป) แต่สภาพแวดล้อมในปัจจุบันยังสะท้อนให้เห็นชุมชนเก่าแก่และวิถีชีวิตดั้งเดิม ที่เห็นชัดๆเลยคือชุมชนแบบห้องแถวที่หัวซอยติดถนนและท้ายซอยติดแม่น้ำเจ้าพระยา (ที่ตั้งของเราก็เช่นกัน) ปัจจุบันพื้นที่โดยรอบกลายเป็นแหล่งที่ตั้งของโรงแรม3-5 ดาว คอนโดมิเนียมระดับ Hi-end และ Community Mall รวมถึงการมาของ ICON SIAM ซึ่งจะดึงดูดให้ย่านนี้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนเจริญนคร เป็นถนนขนาดใหญ่ที่มีจุดเริ่มต้นอยู่ที่แยกคลองสาน ยาวไปเชื่อมต่อกับถนนราชบูรณะ โดยจะผ่านแยกสำคัญ 2 แยก คือแยกกรุงธนบุรีที่เชื่อมไปบนถนนกรุงธนบุรีเข้าเมืองไปทางสาทร-สีลมได้ง่าย หรือจะออกไปฝั่งวงเวียนใหญ่ก็สะดวก และอีกแยกหนึ่งคือแยกบุคคโลที่ไปยังฝั่งพระราม 3 การเดินทางบนทำเลนี้ทำได้ค่อนข้างหลากหลาย ทั้งรถบนท้องถนน เรือ และรถไฟฟ้า บริบทภายในพื้นที่เป็นชุมชนเก่าแก่กระจายตัวอยู่เต็มพื้นที่ มีวัดกระจายอยู่โดยรอบหลายแห่ง ริมถนนจะเป็นอาคารตึกแถวเก่าๆ ค้าขายทั้งอาหารและร้านค้า การสัญจรก็ค่อยข้างสะดวก แต่ปัจจุบันตั้งแต่แยกกรุงธนขึ้นไปถึงแยกคลองสานจะมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีทอง จึงทำให้การจราจรค่อนข้างติดขัดตลอดทั้งวัน

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว จัดว่าเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด เพราะตัวโครงการติดถนนใหญ่เดินทางง่าย แต่ต้องเข้าไปจากถนนภายในโครงการอีกประมาณ 150 เมตร จึงจะถึงตัวอาคาร ข้อดีคือพื้นที่พักอาศัยไม่ได้รับผลกระทบเรื่องเสียงและฝุ่นจากตัวถนนใหญ่ แต่ถ้าเดินเข้าออกก็อาจจะเหนื่อยหน่อย เพราะอย่างนี้ทางโครงการจึงมีรถกอล์ฟรับส่งให้ (โทรเรียกได้)  ด้านหน้าจะมีพี่ รปภ. ดูแลอีกจุดคอยดูแลอำนวยความสะดวก พื้นที่จอดรถภายในรวมจอดซ้อนคันได้ 66% ครับ

ส่วนการเดินทางสาธารณะก็ถือว่าเป็นตัวเลือกในการเดินทางที่น่าสนใจครับ โดยจะมีระยะห่างจาก BTS กรุงธนบุรีประมาณ 1 กิโลเมตร โครงการจะมี Shuttle Service รับส่งให้ ส่วนการสัญจรทางน้ำก็จะมีท่าเรือของตนเอง ซึ่งจะมี Shuttle Boat ไปส่งท่าเรือสาทร (BTSสะพานตากสิน) ให้ด้วยเช่นกัน โดยเบื้องต้นจะมีรอบให้ทุกๆครึ่งชั่วโมง จำนวนรถและเรืออย่างน้อย 1 คัน(ลำ) และไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจจะปรับเปลี่ยนตามมติคณะกรรมการลูกบ้านและนิติบุคคลภายหลังได้ ส่วนการเดินทางสาธารณะอย่างอื่นบนถนนเจริญนคร จะใช้รถประจำทางได้ง่าย เพราะมีจุดอยู่เยื้องๆกับทางเข้าออกโครงการ ตำแหน่งพี่วิน ไม่ได้มีใกล้โครงการนักแต่ก็มีวิ่งผ่านไปมาตลอด เช่นเดียวกันกับ Taxi ครับ ซึ่งจะให้ทางโครงการเรียกให้เข้ามารับภายในก็ได้ เราก็นั่งรอที่ Lobby ได้เลยครับ

ถนนเจริญนครเป็นแหล่งอาศัยของทั้งชาวไทย จีน และมุสลิม (ซอยเจริญนคร 7 มีชุมชนมัสยิดสุวรรณภูมิ) อาหารการกินจึงค่อนข้างหลากหลาย บนถนนจะมีให้เห็นตามตึกแถวต่างๆ ตั้งแต่ อาหารจีน ลาบอีสาน อาหารใต้ ข้าวมันไก่ อาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ไปจนถึงอาหารอิสลาม ซึ่งในระยะเดินของเราจะไม่ได้มีตลาดหรือกลุ่มร้านอาหารมากนัก แต่จะกระจายตามแนวตึกแถวโดยรอบทั้งฝั่งซ้าย ขวา และฝั่งตรงข้าม แต่ถ้าขับรถออกมาหน่อยจะมี Community Mall ให้ใช้กันหลายจุด ไม่ว่าจะเป็น SENA Fest, Light House, Vue ไปจนถึง ICON SIAM ล้วนแต่มีร้านอาหาร ร้านค้าให้ไปจับจ่ายกันได้ทั้งนั้น ส่วนทางฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงข้ามโครงการเองก็มี Asiatique Riverfront ให้ไปเดินรับลมชมวิว ทานอาหารกันได้ รวมถึงความอุดมสมบูรณ์ด้านอื่นเช่นโรงเรียนนานาชาติ Shrewsburry, รร.เพาะปัญญา, รพ.ตากสิน, รพ.สมิติเวช โรงแรมชั้นนำเช่น Mandarin Oriental Hotel Bangkok, Shangri-La Hotel Bangkok, The Peninsula Hotel Bangkok, Millennium Hilton Bangkok, Chatrium Hotel Riverside Bangkok ในระยะไม่ไกล

การเดินทางในวันนี้ผมจะพาไปตั้งแต่จุดเริ่มต้นของถนนเจริญนครกันเลยนะครับ นั่นก็คือแยกคลองสานนั่นเอง จะมาทางถนนลาดหญ้า หรือถนนสมเด็จเจ้าพระยาก็ได้ หรือจะลงเรือมาจากฝั่งพระนครลงที่ท่าคลองสาน แล้วเข้ามาบนถนนเจริญนครก็ได้นะครับ จากนั้นก็ตรงตามทางมาเรื่อยๆบนถนนเจริญนคร ประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะเห็นตัวโครงการอยู่ทางซ้ายมือครับ

เริ่มที่แยกคลองสาน ให้เราเลี้ยวเข้าไปยังถนนเจริญนครเลยครับ

เอาจริงๆแล้วตรงไปเรื่อยๆอีกประมาณ 2 กิโลเมตรก็ถึงเลย แต่ผมอยากจะพาชมบรรยากาศระหว่างทางด้วย เริ่มที่จุดแรกเลยหลังจากตรงจากแยกคลองสานมาประมาณ 600 เมตร จะเจอกับ ICON SIAM ทางฝั่งซ้ายมือ เป็นห้างสรรพสินค้าหรูขนาดใหญ่ที่พึ่งเปิดตัวกันไปเมื่อต้นปี ส่วนถนนเจริญนครด้านหน้าที่เราวิ่งกันอยู่ ในช่วงนี้จะเดินทางลำบากซักหน่อย รถค่อนข้างติดตลอดเวลา เพราะมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีทองอยู่นะ โดยระยะที่ 1 คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2563

ตรงต่อมาจาก ICON SIAM อีกประมาณ 500 เมตร จะมี The Light House Shopping Mall อยู่ทางขวามือ ภายในจะมีร้านอาหารค่อนข้างเยอะและหลากหลาย ตั้งแต่ร้านอาหารญี่ปุ่น พิซซ่า ชาบู ปิ้งย่าง อาหารไทย อาหารใต้ อาหารอีสาน และอีกมากมาย

เยื้องๆกันไม่ถึง 100 เมตร ทางฝั่งซ้ายมือ จะมี VUE เป็น Avenue เล็กๆ ซึ่งเป็นทางเข้าโครงการ The River คอนโดสูงริมแม่น้ำอีกแห่ง ภายในจะมีพวก Max valu, Tom n Tom, Shibuya Shabu และร้านค้าต่างๆ

เลยต่อมาอีกประมาณ 450 เมตร จะมี SENA Fest ทางฝั่งขวามือ ภายในก็ประกอบไปด้วยร้านค้าร้านอาหารชั้นนำมากมากเช่นกัน จะมีทั้งหมด 4 ชั้น โดยร้านอาหารส่วนใหญ่จะอยู่ที่ชั้น 2 มีทั้งอาหารไทยและนานาชาติ เช่น ง้วนวังหลัง, Sukiya, Kimju, แสนแซ่บ, เท็กซัสสุกี้ฯ และร้านเบเกอรี่ เครื่องดื่มชื่อดัง เช่น ร้านนม Hokkaido แถวนี้มี Avenue อยู่ติดกันในระยะใกล้ๆ ให้เลือกใช้ได้หลายที่จริงๆ

ตรงต่อมาจาก SENA Fest ประมาณ 800 เมตร ก็จะถึงตัวโครงการของเรากันแล้วครับ สังเกตเห็นได้ง่ายๆทางฝั่งซ้ายมือ จะเห็นว่าถนนช่วงหน้าโครงการจะค่อนข้างกว้างเลยนะ เป็นถนนฝั่งละ 3 เลน

ขอพูดถึงถนนหน้าโครงการสักเล็กน้อย ปัจจุบันถนนหน้าโครงการเป็นเส้นทึบ ไม่สามารถเลี้ยวตัดเลนได้ ต้องเลี้ยวซ้ายออกไปยูเทิร์นมาประมาณ 220 เมตรนะครับ แต่ปัจจุบันจากข้อมูลของทางโครงการว่ากำลังเจรจากับทางเขตเพื่อขอพื้นที่บริเวณนี้ให้เป็นเส้นประให้รถสามารถผ่านได้ ซึ่งต้องรออัพเดทข้อมูลจากทางโครงการอีกทีนะครับ

สำหรับพื้นที่โดยรอบโครงการ ต้องบอกก่อนว่าโครงการนี้มีทางเข้าติดถนนเจริญนคร แต่มีพื้นที่พักอาศัยอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา เหมือนๆกับโครงการส่วนใหญ่ในบริเวณนี้ ซึ่งจะช่วยให้เราได้ความเป็นส่วนตัวจากถนนใหญ่มากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือได้วิวแม่น้ำซึ่งเป็นจุดขายของโครงการอยู่แล้ว ตัวอาคารแยกออกเป็น 2 ตึกสำหรับพักอาศัยวางเหลื่อมๆกัน และอีกอาคารสำหรับพื้นที่ส่วนกลาง วางอาคารพักอาศัยไม่ตรงตามแกนทิศเหนือใต้ จึงทำให้วิวหลักๆจะไปอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นทิศที่รับลมประจำปีของประเทศเราพอดี ไหนๆก็เป็นทิศหลักของโครงการแล้ว ขอเล่าเกร็ดความรู้ตรงนี้นิดนึงนะครับ

  • ลมประจำฤดูร้อน – เป็นลมอุ่นและชื้น จะพัดในทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคมจนถึงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพฤศจิกายน รวมระยะเวลาประมาณ 6 เดือน
  • ลมประจำฤดูหนาว – เป็นลมเย็นและแห้ง จะพัดในทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ประมาณ 4 เดือน

มาต่อกันที่มุมมองของเรากันบ้างถึงทิศหลักจะไม่ได้หันโดยตรงสู่ตัวแม่น้ำ แต่ก็มองเห็นโค้งแม่น้ำได้เหมือนกันนะครับ เพราะในระยะประชิดตัวโครงการไม่มีตึกสูงขึ้นมาบังเลย นอกจากนั้นไฮไลท์ของเรายังมีห้องที่เรียกว่า River Front ซึ่งเป็นห้องมุมอาคารทางแนวทิศตะวันออกเฉียงใต้ที่หันไปทางแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองอาคาร ให้เห็นวิวแม่น้ำกันไปเต็มๆ อีกส่วนที่ผมชอบคือผู้ออกแบบใช้ระยะ Set Back ของอาคารสูงทางกฎหมายของอาคารริมน้ำมาทำเป็นอาคารที่เป็นพื้นที่ส่วนกลาง เป็นการแยกจากที่พักอาศัยอย่างชัดเจน ได้ความเป็นส่วนตัว ใช้งานง่าย และได้ริบวิวแม่น้ำเต็มๆ ลองมาดูวิวแต่ฝั่งของโครงการกันครับ

ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ – ในระยะประชิด ช่วงต้นฝั่งที่ติดถนนเจริญนครจะเป็นวัดเศวตฉัตร ส่วนด้านในจะเป็นโรงเรียนวัดเศวตฉัตรสูง 5 ชั้น เรื่องวิวคงไม่เป็นปัญหามากนัก แต่อาจได้ยินเสียงจากโรงเรียนบ้างในช่วงเวลากลางวัน อาคาร B จะเริ่มที่ชั้น 4  ส่วนอาคาร A จะเริ่มที่ชั้น 7 ซึ่งปัจจุบันอาคารยังสร้างไม่เสร็จ ผมเองก็ไม่สามารถบอกได้แน่ชัด แต่คิดว่าน่าจะมีผลกระทบบ้างไม่มากก็น้อยนะ ถัดไปจากตัวอาคารประมาณ 200 เมตร ปัจจุบันจะเป็นพื้นที่ว่าง แต่ในอนาคตจะมีกระทรวงมหาดไทยใหม่ขึ้นมาตั้งบริเวณนี้นะครับ ประมาณ 20 ชั้น ซึ่งอาจจะบังวิวสะพานสาทรของเราไปบ้างเหมือนกัน

ทิศตะวันออกเฉียงใต้ – เป็นวิวฝั่งหันไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งตรงนี้ไม่มีอะไรมาบังแน่นอน ทางฝั่งของอาคาร A จะได้วิวดีกว่าเพราะจะเปิดโล่งเต็มๆ ส่วนอาคาร B แม้ตัวอาคารจะเหลื่อมกันเล็กน้อย แต่ก็ยังมีห้องบางส่วนที่ถูกอาคาร A บังอยู่บ้าง

ทิศตะวันตกเฉียงใต้ – เป็นทิศที่ค่อนข้างโล่ง เห็นโค้งแม่น้ำไกลๆ ระยะประชิดจะเป็นพื้นที่พักอาศัยที่เป็นชุมชนเก่า 1-2 ชั้นหมดเลย ไม่มีผลกระทบเรื่องวิวใดๆ ถ้าจะมีคงจะเป็นโครงการศุภาลัย ริเวอร์เพลส 34 ชั้น ที่มีระยะห่างออกไปประมาณ 400 เมตร แต่ก็เป็นระยะที่ค่อนข้างไกล ไม่ได้บังอะไรมากมาย แค่ทำให้วิวไม่ได้โล่งไปซะทีเดียว

ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ – เป็นฝั่งเดียวที่ไม่เห็นแม่น้ำเลย ทางโครงการจึงออกแบบให้ไม่มีห้องไหนหันไปทางทิศนี้เลย ใช้เป็นตำแหน่งของโถงลิฟต์แทน แต่จริงๆวิวก็แอบดีเหมือนกัน เพราะเป็น City View โล่งยาวไปเลย

มาดูกันต่อที่พื้นที่รอบๆทางเข้าโครงการกันนะครับ เลี้ยวซ้ายไปทางสะพานพระราม 3 กันก่อนนะ

ติดตัวโครงการจะมี ธนาคารออมสิน เป็นอาคาร 4-5 ชั้น

ถัดมาจะมี 7-Eleven พร้อมตู้ ATM ให้ใช้งานสะดวกเลย

ติดกันจะมีร้านค้าทั่วไป หน้าปากซอยเจริญนคร 27

ภายในซอยเจริญนคร 27 เป็นซอยแคบๆที่ภายในเป็นพื้นที่พักอาศัยทั้งหมด จะติดกับตัวโครงการของเรา ในช่วงทางเข้าไปภายในโครงการจนถึงอาคารพักอาศัย โดยชุมชนพักอาศัยภายในซอยจะมีความสูง 1-2 ชั้น ไม่ส่งผลกระทบเรื่องวิว รวมถึงขนาดซอยที่ค่อนข้างแคบทำให้ไม่มีรถผ่านไปมาวุ่นวายนัก

ต่อมาจะมีแนวตึกแถวของคนในชุมชน ซึ่งเปิดเป็นร้านค้าด้านล่าง และพื้นที่พักอาศัยด้านบนยาวตลอดแนว

ถัดมาจะซอยเจริญนคร 29 ด้านหน้าจะมีบริบทแบบที่ผ่านๆมาเลยครับ

เป็นซอยที่กว้างกว่าซอยเจริญนคร 27 เล็กน้อย ภายในเป็นพื้นที่ชุมชนพักอาศัยทั้งหมดเช่นเดียวกัน

ย้อนกลับมาที่ฝั่งตรงข้ามพื้นที่โครงการของเรานะ จะมีแนวอาคารตึกแถวอยู่ฝั่งตรงข้าม มีร้านค้าร้านอาหารเล็กน้อย รวมถึงมีป้ายรถประจำทางให้บริการด้วย

ลองไปดูทางฝั่งขวามือของตัวโครงการกันบ้าง เป็นทางเดียวกันกับที่เรามานั่นแหละครับ

ติดพื้นที่โครงการเลยจะเป็นวัดเศวตฉัตร ซึ่งจุดนี้จะเป็นทางเข้าออกรองของวัดนะครับ ด้านหน้าจะมีสะพานลอยข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามได้ สำหรับใครที่ใช้รถประจำทางเป็นประจำก็สะดวกเลย

หน้าสะพานลอยจะมีป้ายรถประจำทางด้วย พร้อมทั้งที่นั่งแบบมีหลังคากันแดดกันฝนให้ครบ

ถัดมาจะเป็นทางเข้าหลักจากทางถนนเจริญนครของวัดเศวตฉัตร เป็นวัดเก่าแก่ที่ถูกสร้างในสมัยอยุธยาและก็มีการบูรณะขึ้นใหม่ โดยหลังจากบูรณะจนถึงปัจจุบันก็มีอายุมาประมาณ 200 กว่าปีแล้ว หน้าวัดจะอยู่ทางฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนจุดนี้เป็นหลังวัดนะครับ

ทางเดินข้างกำแพงวัดค่อนข้างกว้าง ประมาณ 3-4 เมตร เดินสบายๆ มีต้นไม้ให้ตลอดแนว แต่ตอนกลางคืนก็เปลี่ยวอยู่นะครับ คุณผู้หญิงไม่ควรเดินคนเดียวนะ

ถัดมาจะมีสะพานเจริญนคร 4 ซึ่งทั้งเส้นถนนเจริญนคร จะมีสะพานข้ามคลองเล็กๆลักษณะนี้กระจายอยู่ทั้งหมด 7 สะพานไล่ไปจากแยกคลองสานนะครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • SENA Fest ~ 450 m.
  • The Light House ~ 1.1 km.
  • VUE ~ 1.1 km.
  • ICON SIAM ~ 1.6 km.
  • Asiatique Riverfront ~ 1.7 km.
  • ริเวอร์ไซด์พลาซ่า ~ 1.8 km.
  • รพ. สมิติเวช ธนบุรี ~ 2.5 km.
  • รพ. ตากสิน ~ 2.5 km.
  • รร. มิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ ~ 3.3 km.
  • ร.ร. กรุงเทพคริสเตียนฯ ~ 3.7 km.
  • ร.ร. อัสสัมชัญฯ ~ 3.9 km.
  • รร. เพนนินซูลา กรุงเทพฯ ~ 3.9 km.
  • รร. เชียงการี-ลา กรุงเทพฯ ~ 4.1 km.
  • รร. แมนดารินโอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ~ 4.2 km.
  • รพ. เซนต์หลุยส์ ~ 4.5 km.
  • ร.ร. นานาชาติโชรส์เบอรี่ ~ 5.4 km.
  • รร. ชาเทรียม ริเวอร์ ~ 5.4 km.


เจาะลึกตัวโครงการ

ตัวโครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ดินรูปทรงแนวยาวลึกจากถนนหลักมาถึงแม่น้ำเจ้าพระยา มีพื้นที่ประมาณ 5 ไร่กว่าๆ มีทางเข้าที่ถนนเจริญนครยาวมาจนถึงริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตัวโครงการออกแบบมาในสไตล์ Minimal Luxury ด้วยโทนสีขาว เทา ดำ เน้นการตกแต่งที่ดูเรียบง่าย แต่หรูหรา และไม่ไปลดทอนความโดดเด่นของสิ่งที่ตัวโครงการต้องการจะเน้น นั่นก็คือ “แม่น้ำเจ้าพระยา” โดยโครงการนี้เป็นโครงการติดแม่น้ำที่เรียกได้ว่ายกให้ตัวแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นพระเอกอย่างแท้จริง เพราะมีการเน้นการรับวิวแม่น้ำให้กับเกือบจะทุกพื้นที่ สังเกตได้จากตัวห้องพักอาศัยที่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำได้ในทุกๆตำแหน่งห้อง (ไม่มากก็น้อย) และพื้นที่ส่วนกลางจัดแยกออกมาเป็นอาคารริมแม่น้ำ โดยจะใช้พื้นที่แนว Set Back ของกฎหมายอาคารสูงริมแม่น้ำ ทำให้สามารถรับวิวแม่น้ำได้จากแทบจะทุกพื้นที่ Facilities ในอาคาร หรือถ้าใครอยากได้วิวมุมสูงก็มี Sky Lounge แยกให้ทั้งสองตัวอาคารด้วยนะ

ภายในโครงการมีรายละเอียดภายในเยอะเหมือนกันนะ แต่ละจุดก็มีการออกแบบมาได้ดีพอสมควร เหมาะสมกับตำแหน่งที่ตั้งเพราะการแยกอาคารออกเป็น 3 ส่วน ก็มีข้อดีหลายๆข้อ เช่นได้ความเป็นส่วนตัวจากการกระจายจำนวนผู้พักอาศัยออกเป็น 2 อาคาร มีการแบ่งอาคารพื้นที่ส่วนกลางออกมาทำให้เข้าถึงและจัดการดูแลรักษาง่าย ได้ความเป็นส่วนตัว แต่ก็ต้องแลกกับการเดินที่ไกลหน่อยสำหรับบางพื้นที่ โดยแต่ละอาคารก็มีการเชื่อมต่อกันได้ดีทีเดียว ลองดูรายละเอียดแต่ละโครงการกันครับ

อาคาร B

  • ชั้น 1 : มี Drop Off ด้านหน้าอาคาร เข้ามาภายในจะเป็น Lobby ขนาดใหญ่ เชื่อมต่อไปยังพื้นที่ด้านบนของอาคาร มีลิฟต์โดยสารให้บริการ 3 ตัว ลิฟต์ขนของ 1 ตัว
  • ชั้น2 : จะเป็น Active Gym ภายในประกอบไปด้วย Rock Climbing, Boxing, Yoga & Dancing, Street Basketball & Futsal
  • ชั้น 3 : หลักๆคือเป็นชั้นที่เชื่อมต่อไปยังอาคาร A และอาคาร Facilities พื้นที่อื่นๆส่วนใหญ่ จะเป็น Double Volume ของ Active Gym ชั้น 2
  • ชั้น 4 : เป็นชั้นแรกที่มีห้องพักอาศัย โดยจะมีทั้งหมด 9 ยูนิต
  • ชั้น 5-42 : จะมีจำนวนยูนิต 11 ยูนิต/ชั้น
  • ชั้น 43 : Sky Lounge  และสวน

อาคาร A

  • ชั้น 1 : มี Drop Off หน้าอาคาร ภายในอาคารจะเป็น Lobby ขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายกับอาคาร B เชื่อมต่อไปยังพื้นที่ด้านบนของอาคาร มีลิฟต์โดยสารให้บริการ 4 ตัว (แยกออกเป็น 2 จุด 3 ตัวที่ตำแหน่เดียวกันกับอาคาร B และอีกตัวเป็น Private Lift ) ลิฟต์ขนของ 1 ตัว ทางขึ้นลงพื้นที่จอดรถ
  • ชั้น 2-6 : พื้นที่จอดรถ
  • ชั้น 7-16 : เริ่มมีห้องพักอาศัย โดยจะมี 10 ยูนิต/ชั้น
  • ชั้น 17-44 : จะเปลี่ยนเป็นห้องขนาดใหญ่ เหลือเพียง 5 ยูนิต/ชั้น
  • ชั้น 45 : Sky Lounge และสวน

อาคาร Facilities

  • ชั้น 1 : พื้นที่จอดรถ, เจ้าพระยา Tea Room, River Lounge, Chapter Pier
  • ชั้น 1-4 : พื้นที่จอดรถ
  • ชั้น 4 : Onzen & Steam Room, Changing Room
  • ชั้น 5 : พื้นที่ส่วนกลางประกอบไปด้วย Co-Kitchen Space, Pool Side Lounge, Pool Side Cabana, Swimming Pool, Kids Club & Sand Pit, River Desk
  • ชั้น 6 : Pool Side Fitness Center

อย่างที่บอกไปว่าทางเข้าโครงการอยู่บนถนนเจริญนคร ซึ่งจะมีระยะเข้าไปภายในจนถึงอาคาร B ประมาณ 150 เมตร ทางเข้าออกจะเป็นถนนกว้าง 12 เมตร มีป้อมรปภ.ให้ที่ด้านหน้าด้วย เป็นการเดินรถสองทางสวนกัน มีทางเท้าด้านข้างให้ พร้อมแนวต้นไม้ตลอดแนวถนน มีสวนด้านข้างให้ด้วยนะ รั้วโครงการจะเป็นรั้วทึบ 3 เมตร และรั้วโปร่งอีก 2 เมตร รวม 5 เมตรครับ มีแนวต้นไม้ช่วยบังสายตาจากมุมสูงได้อีกที

เข้ามาภายในจะมีวงเวียนสำหรับเป็น Drop Off ที่อาคาร B มีแนวหลังคายื่นออกมารับ จะช่วยให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในช่วงเวลาแดดแรงๆและฝนตก แนวกระจกที่ชั้น 2 จะเป็น Active Gym ครับ ภายในเป็นพื้นที่ออกกำลังกายรูปแบบ Active ที่ค่อนข้างหลากหลาย ทั้งปีนเขา ต่อยมวย สตรีทบาสเก็ทบอล ฟุตซอล โยคะ และเต้น เน้นการอยู่รวมกันเป็น Community

ภายในจะมีวงเวียนให้วน Drop Off หน้าอาคาร B ได้ ถ้าเป็น Visitor จะสามารถวนไปจอดรถด้านหลังได้ เป็นการเดินรถสองทางสวนกัน หรือถ้าเป็นลูกบ้านจะวนเข้าไปจอดภายในอาคาร A หรือเลยไปจอดในอาคาร Facilities ก็ได้ ลองอ้อมเข้าไปดูด้านหลังกันนะครับ

ด้านข้างฝั่งซ้ายของโครงการจะมาเส้นทางที่เป็นที่จอดรถสำหรับ Visitor ครับ เป็นการเดินรถสองทางสวนกัน

เมื่ออ้อมมาด้านหลังจะมีทางเลือกให้เข้าไปจอดยังพื้นที่จอดรถ Visitor ที่ภายในอาคาร Facilities (สีน้ำเงิน) เป็นการเดินรถสองทาง มีทางรถออกมาจากอาคาร A (สีส้ม) และทางวนเข้าออกสำหรับลูกบ้านที่จะไปจอดรถที่อาคาร Facilities (สีชมพู) ซึ่งระหว่างพื้นที่จอดของ Visitor กับลูกบ้าน จะไม่สามารถเดินรถเชื่อมกันได้นะครับ

ทางวนออกโครงการด้านหลังแนวอาคารครับ

นอกจากส่วนของ Lobby ที่ชั้น 1 แต่ละอาคาร และพื้นที่ Active Gym ของอาคาร B แล้ว ยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่รับวิวสูงรอบด้านอยู่ที่ชั้นบนสุดของแต่ละอาคารด้วย นั่นก็คือพื้นที่ Sky Lounge นั่นเอง เป็นพื้นที่ที่จะได้ความเป็นส่วนตัวกว่าจุดอื่นๆ เพราะมีแยกแต่ละอาคารของใครของมันเลย

นอกจากนั้นที่ชั้น 6 ของอาคาร A จะมีสวนด้านข้าง เป็นส่วนที่เชื่อมต่อไปยังอาคาร Facilities ได้ โดยชั้นนี้ก็จะเป็นส่วนที่เชื่อมต่อมาจากอาคาร B ด้วยเช่นกัน มีการเชื่อมต่อ ถึงกันได้ง่ายเลยล่ะ

แนวทางเดินจะเปิดโล่ง รับวิวสวนรอบข้าง จะเข้าไปเชื่อมต่อกับชั้น 6 ของอาคาร Facilities ซึ่งส่วนนี้ถ้าฝนตกหรือแดดแรงๆก็สามารถเดินได้ที่ชั้น 1 ใต้แนวทางเดินนี้ครับ ไปดูส่วนของ Main Facilities ของโครงการนี้กัน แอบกระซิบเลยว่าไม่ธรรมดาเลยล่ะครับ

เมื่อเดินเชื่อมต่อเข้ามาภายในโผล่ที่ชั้น 6 ของอาคาร จะถึงอาคาร Facilities ตัวอาคารนี้จะออกแบบมาในสไตล์เดียวกันกับอาคารพักอาศัยนั่นก็คือสไตล์ Minimal Luxury แต่จะใส่อัตลักษณ์บางส่วนที่พยายามจะทอนมาจากใบเรือและประภาคาร ให้ดูมีความกลมกลืนกับบรรยากาศริมน้ำมากยิ่งขึ้น โดยจะเน้นไปที่สีขาวเป็นหลัก ให้ดูโล่งๆ และไม่แย่งความโดดเด่นจากตัวแม่น้ำเจ้าพระยา

ชั้น 6 เป็นส่วนของห้องออกกำลังกาย รับวิวสระว่ายน้ำและแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนด้านล่างจะเป็นพื้นที่ของ Co-Kitchen Space ครัวเปิดโล่งรับวิวแม่น้ำ สามารถมาทำอาหาร จัดปาร์ตี้เล็กๆ ริมสระกันได้ และ Pool Side Lounge พื้นที่รับรอง นั่งพักคอยรับลมในบรรยากาศชิลๆ

ภายในห้องจะเปิดรับวิวค่อนข้างโล่ง ใช้เสาและผนังแนวโค้ง (Arch) ที่ทอนมาจากรูปแบบของประภาคาร ให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ภายในมีอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครันทั้งแบบ Weight Training และ Cardio

ลงมาที่ชั้น 5 ด้านข้างจะมีอาคารที่เป็น Kids Club & Sand Pit ส่วนของพื้นที่เด็ก จุดนี้ผมชอบนะที่เขาไม่ได้ทำมาให้เฉพาะสำหรับเด็กอย่างเดียว เพราะอย่าลืมกันนะว่าในพื้นที่ของเด็กก็ควรจะมีมุมที่จัดให้ผู้ใหญ่เห็นเด็กๆในสายตาตลอดด้วยกันเช่นกัน ภายในจึงมีพื้นที่ของผู้ปกครองที่มานั่งดูลูกๆเล่น พบปะพูดคุยกันกับครอบครัวเพื่อนบ้าน รวมถึงมีพื้นที่ของเด็กที่จัดให้เป็นมุมเฉพาะ ไม่ไปรบกวนส่วนอื่นๆ ในอนาคตบริเวณนี้อาจจะเป็นจุดรวมพลของสมาคมแม่บ้านของโครงการเลยก็ว่าได้นะ ฮ่าๆ

ส่วนต่อมาเป็นพระเอกของชั้นนี้ นั่นก็คือ Swimming Pool ของเรานั่นแหละครับ เป็นสระทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าระบบเกลือขนาด 25 x 6 เมตร (Half Olympic) ลึก 1.2 เมตร ภายในสระมีหลากหลายพื้นที่ที่น่าสนใจ ทั้งสระเด็ก, สระ Jacuzzi, Sunken Seat, เตียงในน้ำสำหรับมานั่งจุ่มขากันเบาๆ หรือจะเป็น Terrace ที่ยื่นลงไปในน้ำสำหรับนอนเตียง Sunbed รับวิวสระและแม่น้ำได้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น

ด้านข้างมี Pool Side Cabana พื้นที่นั่งเล่น ใต้ร่มเงาไม้ ใครที่ชอบรับบรรยากาศแม่น้ำในมุมเงียบๆ ไม่วุ่นวาย ก็สามารถมานอนเล่น นั่งอ่านหนังสือในมุมด้านข้างนี้ได้นะ

ลงมาที่ชั้น 4 จะอยู่ด้านในภายใต้ชั้นสระว่ายน้ำ มีส่วนของห้องเปลี่ยนชุด ห้องน้ำ และพื้นที่ Onzen & Steam Room แยกชายหญิงให้เรียบร้อย ซึ่งส่วน Onzen จะเป็นพื้นที่ Semi Out Door ได้แสงและลมจากภายนอก แต่มิดชิด รับบรรยากาศดีๆนอนแช่น้ำดูท้องฟ้ากันได้

ส่วนต่อไปจะลงมาทางด้านหน้าริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นพื้นที่ River Desk นอนเล่นกินลมชมวิวแม่น้ำ

ส่วนด้านล่างสุดจะมีพื้นที่ River Lounge อีกส่วน ที่รับวิวแม่น้ำเต็มๆ จัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นริมแม่น้ำ ลักษณะก็จะใกล้เคียงกับ Sale Gallery ของโครงการ ถ้าหากใครได้เข้าไปชมก็คงจะพอนึกภาพออก

อีกฝั่งจะเป็น เจ้าพระยา Tea Room ซึ่งจะเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ไว้สำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่อเนกประสงค์นั่นแหละ รับวิวแม่น้ำ มีทั้งภายนอกและภายใน สำหรับลูกบ้านที่สนใจใช้พื้นที่ก็สามารถติดต่อขอยืมสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆได้เลยนะ

ส่วนสุดท้ายของพื้นที่นี้คือ Chapter Pier ท่าเรือของโครงการ ซึ่งเบื้องต้นจะมีเรือให้ 1 ลำ สำหรับรับส่งที่ท่าเรือสาทร (BTS สะพานตากสิน) โดยจะออกทุกๆ ครึ่งชั่วโมง ในอนาคตอาจจะมีจำนวนเรือเพิ่ม หรือจุดหมายที่หลากหลายยิ่งขึ้น ขึ้นอยู่กับนิติบุคคลอีกที ในส่วนนี้ต้องสอบถามข้อมูลจากทางโครงการอีกทีนะครับ

จากที่เราดูโมเดลกันมาก็พอจะทราบรายละเอียดกันบ้างแล้วล่ะ  ลองมาดูกันต่อที่ภาพรวมของผังโครงการกันบ้าง จะเห็นพื้นที่ภายในได้ชัดเจนยิ่งขึ้นนะครับ โดยภายในแยกออกเป็น 3 อาคารหลักๆ อาคาร B ถัดมาอีกประมาณ 9 เมตรจะเป็นอาคาร A และ อาคาร Facilities ตามลำดับ

  • การเข้าออกและการเดินรถภายในโครงการ : ทางเข้าออกโครงการมีทางเดียว คือทางฝั่งถนนเจริญนคร มีระยะทางประมาณ 150 เมตรจากถนนถึงตัวอาคาร B มีทางเท้าแยกให้ชัดเจน รวมถึงต้นไม้ให้ร่มเงาตลอดแนว ที่หน้าโครงการจะมีการเดินรถแบบสองทางสวนกันเข้าออก แต่เมื่อเข้ามาจะมีวงเวียนจุดแรกซึ่งจะเป็น Drop Off ของอาคาร B ให้วนรับส่งคนได้ จากนั้นจะมีให้เลือกสำหรับ Visitor จะเข้าไปจอดรถที่บนอาคาร Facilities ด้านใน ซึ่งจะเป็นการเดินรถทางเดียว หรือสำหรับลูกบ้านจะเข้าไปสู่ Drop Off ของอาคาร A และเลือกได้ว่าจะขึ้นจอดรถที่พื้นที่จอดรถของอาคาร A หรือจะเลยไปจอดที่อาคาร Facilities ด้านใน ส่วนทางด้านหลังจะเป็นทางวนรถออกอย่างเดียวครับ หลังอาคาร B จะมีพื้นที่จอดรถใต้อาคารเล็กน้อย เป็นการเดินรถสวนกัน ทั้งโครงการมีที่จอดรถประมาณ 62% ไม่รวมซ้อนคัน (66% รวมจอดซ้อนคัน)
  • สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของชั้นนี้ก็จะมีส่วนของ Lobby แยกทั้ง 2 อาคาร แต่ที่ของอาคาร A จะมี Lobby ภายในแยก 2 ส่วน อีกส่วนหนึ่งสำหรับ Lobby ห้องที่ต้องใช้ Private Lift โดยจะใช้ Keycard ในการเข้าถึงพื้นที่ Lobby นี้ด้วยเช่นกัน ส่วนอาคาร Facilities จะยังคงเป็นพื้นที่จอดรถนะครับสำหรับชั้นนี้

มาลองดูรายละเอียดกันทีละอาคารนะครับ ขอเริ่มจากอาคาร B นอกสุดก่อนเลย โดยอาคารนี้จะมีตำแหน่งไกลจากอาคาร Facilities มากกว่าอาคาร A ดังนั้นทางโครงการจึงจัดพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 2 เป็น Active Gym มาให้ใช้งานกัน ลูกบ้านจากอาคาร A ก็สามารถมาใช้งานได้นะ โดยภายในจะประกอบไปด้วย Rock Climbing, Boxing, Yoga & Dancing, Street Basketball & Futsal ชั้นนี้จะยังไม่มีห้องพักอาศัยอยู่ เป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งชั้น ได้พื้นที่ภายในแบบ Double Volume ยกเพดานสูงทั้งชั้นเลย

ขึ้นมาอีกชั้น จะมาต่อกันที่ภาพรวมทั้งโครงการอีกครั้งนะครับเพราะเป็นชั้นที่เชื่อมต่อทุกอาคารเข้าด้วยกัน โดยจะเริ่มที่ชั้น 3 ของอาคาร B ซึ่งจะมีตำแหน่งอยู่สูงหน่อยเพราะเพดานชั้น 2 (ชั้น Active Gym) เมื่อสักครู่ยกขึ้นสูง ชั้น 3 นี้เป็นทางเดินไล่ระดับไปเชื่อมต่อกับชั้น 6 ของอาคาร A และ ชั้น 6 ของอาคาร Facilities ตามลำดับด้วยเช่นกัน ซึ่งชั้นนี้ของอาคาร A จะมีสวนด้านข้างให้ออกไปนั่งรับวิวเดินชิลๆกันได้ด้วย ถ้าในกรณีฝนตกก็สามารถใช้พื้นที่ด้านล่างที่ชั้น 1 เดินใต้แนวทางเดินนี้ได้เช่นกัน

ขึ้นมาที่ชั้น 4 ของอาคาร B จะเป็นชั้นแรกที่เริ่มมีพื้นที่พักอาศัยของโครงการ โดยอาคารนี้จะเน้นที่ห้องขนาดไม่ใหญ่มากนัก เหมาะกับการอยู่กัน 1-2 คน เป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีห้องมุมที่เป็นห้องขนาดใหญ่ขึ้นมาให้เป็นตัวเลือกเช่นเดียวกัน

ชั้นนี้อาจจะอยู่ด้านล่างหน่อย (โดยทั่วไปราคาจะต่ำกว่าชั้นด้านบน) ไม่ค่อยได้วิวสูงนักแต่มีส่วนพิเศษที่ชั้นอื่นไม่มีหลายจุดเหมือนกัน เป็นอีกชั้นที่น่าสนใจทีเดียว โดยจะเริ่มที่ 9 ยูนิต เป็นชั้นที่มีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดของอาคาร B

  • โถงลิฟต์และโถงทางเดิน – สำหรับโถงลิฟต์จะมีลิฟต์โดยสารให้ทั้งหมด 3 ตัว และลิฟต์ขนของ 1 ตัว แยกพื้นที่ออกจากห้องพักอาศัยชัดเจน ทำให้ไม่มีห้องไหนติดกับโถงลิฟต์เลย มีช่องแสงให้ที่หน้าลิฟต์ด้วย โดยสำหรับอาคารนี้จะมีอัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 1 : 142 ยูนิต ส่วนโถงทางเดินของชั้นนี้จะเป็นชั้นเดียวในโครงการที่ได้เป็นแบบ Single Corridor Loaded นะครับ
  • มุมมอง –โครงการนี้เน้นให้ทุกห้องต้องเห็นวิวแม่น้ำ ดังนั้นทางฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือที่เป็นวิวเมืองจึงเป็นตำแหน่งของโถงลิฟต์ไม่มีห้องพักอาศัย และชั้นนี้จะใช้ทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นหลัก วิวฝั่งนี้จะค่อนข้างโล่งเลย เป็นบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้นเท่านั้น เห็นโค้งแม่น้ำอยู่เฉียงๆ โดยจะเป็นห้อง Studio ขนาด 25.10 ตร.ม. ทั้งหมด 7 ยูนิต ส่วนทิศตะวันออกเฉียงใต้ (วิวแม่น้ำ) จะเป็นห้อง 2 Bedroom ขนาด 49.10 ตร.ม. 2 ยูนิต ห้องฝั่งหัวมุมตะวันออกเฉียงใต้จะรับวิวแม่น้ำฝั่งเห็น Asiatique Riverfront ส่วนห้องฝั่งเยื้องไปทางทิศตะวันออกจะโดนอาคาร A บังเล็กน้อยทางด้านหน้า แต่มีระยะห่างพอสมควรเพราะห่างกันประมาณ 9 เมตร และจะได้วิวแม่น้ำฝั่งสะพานสาทรที่อีกห้องจะไม่ได้เห็นนะ

ขึ้นมาที่ชั้น 5-42 ซึ่งเป็นชั้นพักอาศัยที่เหลือของอาคารนี้ ห้องพักอาศัยจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 11 ยูนิต คือมีห้องพักอาศัยเพิ่มมาอุดช่องที่ว่างอยู่ของชั้นที่ 4 เป็นห้อง 1 Bedroom ขนาด 32.10 ตร.ม. จำนวน 2 ยูนิต ทำให้ชั้นที่เหลือเหล่านี้จะเป็นโถงทางเดินแบบ Double Corridor Loaded ทั้งหมด แต่ยังมีการเว้นช่องแสงไว้ให้นะ ทำให้ภายในได้แสงและมีลมระบายอากาศบริเวณโถงทางเดิน สำหรับมุมมองทางฝั่งห้องเดิมๆจะเหมือนกับที่อธิบายไปในชั้นที่ 4 ส่วนห้องที่เพิ่มมาทางฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือของชั้นนี้จะหันไปทางวัดเศวตฉัตร ซึ่งจะได้วิวแม่น้ำฝั่งสะพานสาทร แต่จะใกล้กับโรงเรียนวัดเศวตฉัตร (5 ชั้น) สักหน่อย ชั้นที่อยู่ด้านล่างอาจจะมีผลกระทบเรื่องเสียงมารบกวนบ้างเล็กน้อย เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยได้อยู่ที่ห้องในช่วงเวลากลางวัน จะไม่ได้รับผลกระทบนี้มากนัก โดยทั้งอาคารจะมีอัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 142 : 1 ยูนิต

ส่วนชั้น 43 ซึ่งเป็นชั้น Roof Top บนสุดของอาคาร B จะสามารถขึ้นมาด้วยลิฟต์ได้นะ (โครงการบางที่ต้องเดินขึ้นมาเอง) จะมีพื้นที่สวนเปิดโล่งให้ออกไปสูดอากาศรับลมดูดาวกันได้ และที่มุมอาคารฝั่งแม่น้ำจะได้เป็น Sky Lounge ขนาดใหญ่ รับวิวแม่น้ำได้รอบทั้งฝั่ง Asiatique Riverfront และ ฝั่งสะพานสาทรเลย

มาต่อกันที่อาคาร A กันบ้าง อาคารนี้จะเน้นห้องขนาดใหญ่ขึ้นมาจากอาคาร B โดยหลักๆจะแบ่งเป็น 2 โซน โซนที่เน้นห้อง 1 Bedroom จะอยู่ด้านล่าง (7-16) ส่วนห้องที่เน้นพื้นที่ห้องขนาดใหญ่พวก 2 หรือ 3 Bedroom จะอยู่ด้านบน (17-44)

อาคารนี้เริ่มต้นเป็นพื้นที่จอดรถที่ชั้น 1-6 นะครับ โดยจะมีห้องพักอาศัยชั้นแรกที่ชั้น 7 ตัวตึกจะตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำเลย ซึ่งจะทำให้ได้วิวโล่งในทุกๆห้อง และได้วิวแม่น้ำทุกห้องเช่นเคย โดยชั้น 7-16 นี้จะมีห้องพักอาศัยอยู่ที่ 10 ยูนิต/ชั้น

  • โถงลิฟต์และโถงทางเดิน – อาคารนี้จะมีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 4 ตัว โดย 3 ตัวแรกจะอยู่ที่เดิม ตำแหน่งเดียวกันกับอาคาร B ส่วนอีกตัวจะอยู่อีกฝั่งของโถงทางเดิน เป็น Private Lift สำหรับห้องมุมริมแม่น้ำทั้ง 2 ห้อง และมีลิฟต์ขนของ 1 ตัวใกล้กับโถงลิฟต์ 3 ตัวแรก มีการแยกพื้นที่โถงลิฟต์ออกจากห้องพักอาศัยเช่นกันกับอาคาร B แต่จะมีห้องหนึ่งที่ติดกับลิฟต์ขนของ ส่วนโถงทางเดินของอาคารนี้จะได้เป็น Double Corridor Loaded ทั้งหมด มีเปิดช่องแสงให้บริเวณโถงลิฟต์ และข้างบันไดหนีไฟทั้งสองจุด
  • มุมมอง – ฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้จะเป็นห้อง 1 Bedroom Exclusive ขนาด 38.95 ตร.ม. ทั้งหมด 4 ห้อง รับวิวโล่งเห็นแม่น้ำฝั่ง Asiatique Riverfront ส่วนฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะเป็นห้อง 1 Bedroom  ขนาด 34.00 ตร.ม. จำนวน 4 ห้องเช่นกัน รับวิวแม่น้ำฝั่งสะพานสาทร และห้องมุมพิเศษของเราทั้ง 2 ห้องที่จะได้ Private Lift ภายในจะรับวิวแม่น้ำไปเต็มๆเลยครับ

เมื่อขึ้นมาที่ชั้นด้านบนตั้งแต่ชั้น 17-44 จะเหลือเพียง 5 ยูนิต/ชั้น จากจำนวนยูนิตต่อชั้นนั้นสามารถบอกได้เลยว่าจากนี้ไปจะเริ่มเป็นดินแดนของห้องขนาดใหญ่ทั้งหมดแล้ว เหมาะกับการอยู่เป็นครอบครัว ตั้งแต่ 2 Bedroom จนถึง 3 Bedroom ที่สำคัญคือเป็นห้องหน้ากว้างทั้งหมด รับวิวแม่น้ำเต็มๆแบบให้เบื่อกันไปเลย โดยจะมีจำนวนลิฟต์โดยสารเท่าเดิม แบ่งเป็นโถงลิฟต์โดยสาร 3 ตัวสำหรับใช้ภายนอกกับห้องพักอาศัย 4 ยูนิต ที่แบ่งเป็น 2 Bedroom ขนาด 78.80 ตร.ม. 2 ยูนิต ทางฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ และห้อง 2 Bedroom ขนาด 68.60 ตร.ม. อีก 2 ยูนิต ทางฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะมาพร้อมโถงทางเดิน Double Corridor Loaded และลิฟต์อีกหนึ่งตัวสำหรับพี่ใหญ่ห้องมุม 3 Bedroom ขนาด 151.60 ตร.ม. จะได้ Private Lift ไปใช้ห้องเดียวสบายใจเลย โดยอัตราส่วนลิฟต์ทั้ง A อยู่ที่ 1 : 64 ยูนิต สำหรับโซนทั่วไป และ 1 : 48 ยูนิต สำหรับโซน Private Lift

ชั้นบนสุดของอาคารนี้ Lay Out รวมจะคล้ายๆกับชั้น Roof Top ของอาคาร B จะมีลิฟต์ขึ้นมาได้ถึงเลยเช่นกัน แต่ที่สำคัญของอาคารนี้ พวกห้อง Private Lift ทั้งหลาย ก็มีลิฟต์ขึ้นมายังชั้นนี้ได้เลยเช่นกัน ภายในประกอบไปด้วย สวนกลางอาคาร และ Sky Lounge เปิดโล่งรับวิวแม่น้ำเต็มๆ

มาถึงอาคารสุดท้ายของเรากัน กับอาคาร Facilities ซึ่งเบื้องต้นก็ทำหน้าที่เป็นอาคารจอดรถไปในตัวด้วย โดยจะเริ่มที่ชั้น 1-4 แต่ที่ชั้น 1 เองก็มีพื้นที่ส่วนกลางติดแม่น้ำให้เริ่มใช้งานได้เช่นกันกับ ห้องเจ้าพระยา Tea Room ที่ทำหน้าที่เป็นห้องอเนกประสงค์สำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ ริมแม่น้ำ และห้อง River Lounge พื้นที่พักผ่อนริมแม่น้ำนั่นเองครับ รวมถึงมีทางเดินเชื่อมไปยัง Chapter Pier ท่าเรือประจำโครงการของเราด้วย จะมี Shuttle Boat ให้บริการรับส่งที่ท่าเรือสาทร (BTSสะพานตากสิน) จากข้อมูลเบื้องต้นเรือจะออกทุกๆครึ่งชั่วโมงนะครับ

ขึ้นมายังชั้น 4 หลักๆชั้นนี้จะทำหน้าที่เป็นชั้นงานระบบหรือชั้นใต้สระว่ายน้ำนั่นเอง แต่ก็มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งานเช่นกัน คือห้องน้ำแยกชายหญิง ภายในเป็นส่วนของห้องเปลี่ยนชุด ล้างตัว และมี Onzen กับห้อง Steam ให้บริการ โดยส่วนของ Onzen จะมีช่องแสงที่เชื่อมต่อกับภายนอกได้ด้วย

ขึ้นมาที่ชั้นหลักของอาคารที่ชั้น 5 ครับ เป็นพื้นที่ของสระว่ายน้ำและพื้นที่ริมสระ มีครัวให้ใช้งาน รวมถึงห้องสำหรับเด็กที่มีพื้นที่รองรับผู้ปกครองของเด็กๆด้วย ส่วนด้านล่างใกล้แม่น้ำก็มีพื้นที่นั่งเล่นรับวิวแม่น้ำแบบเปิดวิวโล่งพาโนราม่าเลยก็ว่าได้

ขึ้นมาที่ชั้นบนสุดของอาคาร จะเป็นส่วนเชื่อมต่อกับอาคาร A ที่ชั้น 6 สำหรับชั้นนี้จะมีห้องออกกำลังกายให้บริการครับ  จะเห็นภาพรวมทั้งหมดของพื้นที่อาคาร Facilities ได้รับวิวสระว่ายน้ำและแม่น้ำเจ้าพระยา

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • RIVER LOUNGE
  • RIVERSIDE BOULEVARD
  • POOLSIDE FITNESS CENTER
  • CO-KITCHEN TERRACE
  • POOLSIDE LOUNGE
  • KIDS CLUB & SAND PIT
  • SKY LOUNGE (OBSERVATION DECK)
  • ACTIVE GYM
  • ROCK CLIMBING
  • BOXING
  • YOGA & DANCING
  • STREET BASKETBALL & FUTSAL
  • ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 112 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์อาคาร B อยู่ที่ 1 : 142 ยูนิต
  • อัตราส่วนลิฟต์อาคาร A อยู่ที่ 1 : 64 ยูนิต สำหรับโซนทั่วไป และ 1 : 48 ยูนิต สำหรับโซน Private Lift
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 66 % รวมจอดซ้อนคัน
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ


Product Walkthrough

วันนี้มีห้องตัวอย่างมาให้ดู 2 ห้องนะครับ เป็นห้อง 2 Bedroom ที่อาคาร B และ ห้อง 3 Bedroom ที่อาคาร A  ซึ่งทั้งสองห้องนี้เป็นห้อง River Front นั่นก็คือหันหน้าให้ทางฝั่งแม่น้ำเต็มๆ หรือเป็นห้องมุมอาคารนั่นเอง

โดยห้องพักอาศัยทุกห้องทั้งโครงการจะขายในรูปแบบ Fully Furnished ยกเว้นห้อง 3 Bedroom รูปแบบเดียวที่จะขายแบบ Fully Fitted เหมาะสำหรับคนที่อยากแต่งห้องเองนะครับ

ขอเริ่มที่ห้อง 2 Bedroom ขนาด 49.10 ตร.ม. ที่มุมของอาคาร B กันก่อนเลยนะครับ ห้องนี้รับวิว 2 ฝั่ง จุดเด่นภายในคือการแบ่งแยกพื้นที่ส่วน Common Area และ Living Area อย่างชัดเจน ทำให้แต่ละส่วนจะไม่รบกวนกัน เวลามีแขกมาก็ยังได้ความเป็นส่วนตัวอยู่ เน้นการรับวิวและช่องแสงจากภายนอก ทำให้ “ทุกพื้นที่ ” ภายในห้องมีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาถึง ส่วนที่ผมชอบคือได้ห้องน้ำที่มีหน้าต่างระบายอากาศ ไม่ต้องกังวลเรื่องความชื้น แถมยังได้ช่องแสงในช่วงเวลากลางวันด้วย อีกอย่างที่ต้องพูดถึงคือโครงการให้มาแบบ Fully Furnished โดยเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มาด้วยนั้นมีขนาดและรูปแบบที่เหมาะกับตัวห้อง ซึ่งจะได้เหมือนห้องตัวอย่างเลยครับ

แบ่งพื้นที่ภายในออกเป็น 6 ส่วน ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ระเบียงซักล้าง ห้องน้ำ ห้องนอนรอง และห้องนอนหลัก เปิดประตูเข้ามาภายในห้องจะพบกับพื้นที่ห้องครัวก่อนเลย เป็นครัวเปิดที่จะช่วยทำให้ตัวห้องดูโล่ง ช่องแสงเข้ามาถึงหน้าประตูทางเข้า แต่เวลาประกอบอาหารจะควบคุมกลิ่นและควันให้ไม่ไปรบกวนส่วนอื่นได้ยากหน่อย ถัดเข้ามาภายในจะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น ที่รวมพื้นที่รับประทานอาหารไว้ด้วย พื้นที่นั่งเล่นส่วนนี้จะติดระเบียงทำให้ได้แสงธรรมชาติในเวลากลางวัน ถัดไปเป็นพื้นที่ระเบียงที่สามารถออกไปเดินเล่น สูดอากาศได้ กลับมาเข้ามาภายในห้อง อีกฝั่งของพื้นที่ห้องจะถูกแบ่งเป็นพื้นที่พักผ่อน ซึ่งมีห้องน้ำอยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอนทั้งสอง จัดว่าอยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานได้สะดวกจากทุกพื้นที่ภายในห้อง ห้องนอนรองด้านหลังจะได้ตู้เสื้อผ้ามาให้ และมีช่องแสงภายในรับวิวแม่น้ำด้วย ส่วนห้องนอนหลักจะมีขนาดใหญ่ และได้ตู้เสื้อผ้าเช่นกัน แถมยังมีพื้นที่ให้วางโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงาน พร้อมทั้งได้กระจกเข้ามุมรับวิวแม่น้ำได้มากกว่า 180 องศา เข้าไปดูภายในกันเลย

เริ่มต้นที่ประตู HDF สีดำ ที่มาพร้อมกับ Digital Door Lock จาก Hafele

เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้องจะมีพื้นเป็นกระเบื้องยางไวนิลลาย Herringbone หรือที่เราเรียกกันว่าลายก้างปลานั่นแหละครับ ผนังและฝ้าฉาบเรียบทาสี ได้ไฟ Downlight ทั้งห้อง ตัวห้องจะมีระดับพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 3 เมตร มาพร้อมกับเครื่องปรับอากาศแบบ Concealed Type ทั้งห้องด้วย

ส่วนแรกเป็นครัวเลยครับ จะเป็นครัวเปิดได้มุมมองที่โล่งถึงแนวกระจกผนังห้องเลย แต่จะควบคุมกลิ่นและควันจากการทำอาหารยากสักหน่อย จะเหมาะกับคนที่ไม่ได้ทำอาหารแบบจริงจังบ่อยนัก เพราะกลิ่นอาจจะไปตกค้างตามพวกเฟอร์นิเจอร์และผ้าม่านได้ง่าย

พื้นที่ด้านหน้านี้ก็ยังมีผนังหลังแนวประตูให้เราตกแต่งได้นะ สามารถติดเป็นแนวกระจก หรือจะทำเป็นพื้นที่แขวนกุญแจเล็กน้อยพอไหว อีกฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวคือตู้เก็บรองเท้าที่จะมีมาให้ด้วย

แต่พื้นที่หน้าประตูห้องและพื้นที่ครัวบริเวณนี้ มักจะสกปรกได้ง่ายเพราะต้องเดินเข้าออกประจำ และจากการปรุงอาหาร แถมยังมีเครื่องซักผ้าที่อาจจะก่อให้เกิดความชื้นได้ง่ายด้วย ทางโครงการเลือกใช้เป็นพื้นไวนิลเหมือนตัวห้อง อาจจะทำความสะดากได้ยากหน่อยเพราะพื้นผิวไม่ได้เรียบนัก (ควรเป็นพวกกระเบื้องจะทำความสะอาดได้ง่าย) แต่ก็ยังดีที่ไวนิลทนต่อความชื้นได้ ไม่พอง

ส่วนเคาน์เตอร์ครัว จะได้แบบนี้มาให้เลยนะ แต่ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า ด้านบนเป็นบานเปิดหลายช่องทีเดียว หน้าบานเป็นเมลามีน High Gloss แบบ Soft Close ได้ Back Splash กระจกแบบห้องตัวอย่างเลยครับ

ส่วนชั้นกลางจะมี Top ครัวเป็นหินสังเคราะห์ ได้เตาแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันและอ่างล้างจานมาครับ ตรงกลางเว้นไว้ให้เป็นพื้นที่เตรียมอาหารขนาดกำลังดี

อ่างล้างจานสเตนเลสทรงสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 0.5 x 0.4 เมตร มาพร้อมก็อกน้ำสีดำด้าน จาก Hafele

เตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบ 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควันแบบต่อท่อออกภายนอกจาก Hafele เช่นกันครับ

ฝั่งตรงข้ามมีตู้ใส่รองเท้า Built-in มาให้ ขนาดประมาณ 0.6 x 0.45 เมตร รูปแบบเดียวกันกับหน้าบานเคาน์เตอร์ครัวเลยครับ

บริเวณพื้นที่ด้านหน้าประตูห้องนี้จะได้ไฟ Downlight 2 ดวง

มาดูส่วนต่อไปภายในห้องกัน กับพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่รวมพื้นที่รับประทานอาหารไว้ด้วยเลย ส่วนที่ผมชอบคือเขาให้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำให้สามารถใช้งานพื้นที่ภายในได้คุ้มค่า เช่นแนวที่นั่งติดผนังนี้ สามารถนั่งได้หลายคนทีเดียว ไม่มีพื้นที่ที่เป็น Waste Space เลยสำหรับมุมนี้

พื้นที่ริมผนังสามารถนั่งได้เกือบจะทั้งหมด ซึ่งสิ่งที่เราจะได้จากห้องนี้นั่นก็คือ เฟอร์นิเจอร์ต่างๆเหล่านี้แหละ ยกเว้นของตกแต่งนะครับ และโต๊ะระหว่างโซฟากับที่นั่งริมผนังไม่ได้นะครับ

ที่นั่งริมผนังขนาดประมาณ 1.9 x 0.6 เมตร สีอ่อนเข้ากับหน้าบานต่างๆ จัดมาให้แบบนี้เลย

โต๊ะรับประทานอาหารวงกลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.8 เมตร พร้อมเก้าอี้ 2 ตัว แต่จะได้เป็นเก้าอี้แบบมีพนักพิงทั้งสองตัวนะ สามารถนั่งได้หลายคนเลยล่ะ

ถัดมาจะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นริมระเบียง ซึ่งนั่นก็คือพื้นที่สำหรับนั่งดูทีวี ให้โซฟา ชุดโต๊ะกลาง และตู้ใต้ทีวีมาแบบนี้เลย

มีระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.4 เมตร สามารถใช้ทีวีขนาดใหญ่ได้ ประมาณ 55-60 นิ้วเลยครับ

ชั้นวางทีวีที่จะได้มาด้วย เป็นพื้นที่วางของทึบๆ ถ้าติดตั้งทีวีแบบแขวนจะได้พื้นที่วางของเพิ่ม ชั้นวางทีวีเข้ากับขนาดของพื้นที่ได้พอดี แต่ด้วยความที่เป็นชั้นวางทีวีแบบวางบนพื้น ไม่ได้แขวนติดผนัง อาจจะทำให้ทำความสะอาดได้ยากสักหน่อย และต้องระวังความชื้นที่พื้นด้วยนะครับ

โซฟาที่จะได้มาหน้าตาแบบนี้ครับ นั่งได้ 2-3 ที่นั่ง

บริเวณนี้จะให้ไฟ Downlight มา 4 ดวงครับ

ด้วยความที่ระดับพื้นถึงฝ้าภายในห้องสูงถึง 3 เมตร จึงได้แนวกระจกสูงเกือบจะถึงฝ้ามาให้ด้วย ทำให้ภายในห้องรับแสงได้เยอะ ยาวไปถึงหน้าประตูทางเข้าเลย

เป็นประตูกระจกที่สามารถเปิดได้ 2 ฝั่ง มาพร้อมตัวล็อคทั้งสองฝั่งและรางที่พื้น เป็นกระจก Euro Grey กระจกตัวนี้จึงเหมาะสำหรับการใช้กันแสงแดด กระจกโทนสีเทาจะค่อนข้างมืดหน่อย แต่ให้สีที่ทำให้ตัวห้องดูทันสมัย ไม่เชย

ภายนอกเป็นกระเบื้องแผ่นใหญ่ ขนาดพื้นที่ประมาณ 3 x 1 เมตร ราวกันตกระแนงเหล็กเว้นร่องให้ลมผ่านได้สูง 1.1 เมตร

ฝ้าเพดานให้ไฟ Downlight 1 ดวง

มองย้อนกลับเข้ามาภายในจะเห็นว่าเราใช้เครื่องปรับอากาศระบบ Concealed Type ซึ่งจะมีข้อดีที่สวยงาม ดูเรียบร้อย กระจายความเย็นได้ทั่วถึง แต่ถ้ามีปัญหามาก็อาจจะแก้ไขเองได้ยากสักหน่อย รวมถึงพวกอะไหล่ต่างๆจะมีราคาสูงกว่าแอร์ Wall Type ทั่วไปที่เราใช้กันนะครับ

มาดูส่วนต่อไปของห้องกันดีกว่า จะประกอบไปด้วยห้องนอนรอง (ซ้าย) ห้องน้ำ (กลาง) และห้องนอนใหญ่ (ขวา) ซึ่งผนังของห้องนอนใหญ่จริงๆจะเป็นผนังทึบนะครับ ไม่ได้กระจกแบบนี้

มาดูห้องนอนใหญ่ของเรากันก่อนเลย เรียกว่าเป็นห้องที่ได้วิวดีที่สุดในห้องนี้เลย ภายในมีขนาดมาให้ค่อนข้างกว้าง มีพื้นที่ด้านข้างจัดเป็นโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานได้ด้วย

วางเตียง 5 ฟุตแล้วเหลือพื้นที่รอบเตียงสามารถเดินได้สะดวกเลยครับ วางโต๊ะหัวเตียงได้สบายๆ

ผนังฝั่งปลายเตียงจะทึบทั้งบานนะครับ สามารถติดทีวีนอนดูได้สบาย

รวมถึงมีตู้เสื้อผ้าไว้ให้ด้วย ขนาดไม่ใหญ่มากนัก สำหรับใช้งานได้ 1-2 คน กรณีเสื้อผ้าไม่เยอะนัก ถ้าสำหรับคุณผู้หญิงก็คงอาจจะใช้งานได้แค่คนเดียว

วางไว้ตำแหน่งนี้จะทำให้ทับกันกับตำแหน่งของม่าน เวลาเปิดม่านที่หน้าต่างม่านจะมากองหน้าตู้เหมือนรูปด้านบนก่อนหน้านี้ ทำให้เปิดใช้งานบานริมหน้าต่างได้ไม่สะดวก ภายในรูปนี้ผมต้องรูดม่านปิดหน้าต่างก่อนจึงจะเปิดหน้าบานสุดท้ายริมหน้าต่างได้เต็มบาน

พื้นที่ปลายเตียงก็ค่อนข้างกว้างทีเดียวขนาดพื้นที่ประมาณ 1.2 เมตร เดินสบายอยู่เหมือนกัน

ด้านริมผนังคือไฮไลท์ของห้องนี้ครับ เนื่องจากได้แนวกระจกยาว ทำให้ทั้งห้องสว่างในช่วงเวลากลางวัน

มีบานกระทุ้งขนาดประมาณ 1.8 x 0.7 เมตร เปิดรับลมระบายอากาศได้ รวมถึงมีกระจกเข้ามุมให้ด้วย ข้อดีคือรับวิวได้มากกว่า 180 องศา ได้มุมมองที่แตกต่าง และโล่งมากขึ้น

พอเป็นกระจกเข้ามุมบริเวณนี้ จะทำให้ต้องรวบม่านไปเก็บทางฝั่งตู้เสื้อผ้า จึงเกิดปัญหาแบบที่ผมบอกไปครับ

พื้นที่ฝั่งนี้ก็เหลือเยอะเลยล่ะครับ สามารถจัดเป็นมุมโต๊ะทำงานรับวิวแม่น้ำได้เลยนะ

ห้องนี้ก็จะได้ระบบปรับอากาศแบบ Concealed Type เช่นกันกับส่วนของห้องนั่งเล่นครับ ด้านในจะมีทางเข้าห้องน้ำจากห้องนี้ด้วย สะดวก ทำให้ไม่ต้องสูญเสียความเป็นส่วนตัว เช่นต้องเดินออกนอกห้องไปเพื่อเข้าห้องน้ำ

พื้นท่ีหน้าทางเข้าห้องน้ำอาจจะไม่ได้กว้างนัก แต่เราสามารถเลื่อนเตียงเองได้นะ ตามความเหมาะสมเลยครับ

ทุกๆจุดหัวเตียงของทุกๆห้องในโครงการนี้จะให้สวิทช์ไฟที่เป็นแบบพอร์ตสากล 2 ช่อง และเต้าเสียบ USB 2 ช่อง แบบมีสวิทช์ให้ด้วย

ภายในห้องนอนหลักนี้จะได้ไฟ Downlight 4 ดวง

มาต่อกันที่ห้องน้ำหนึ่งเดียวของห้องนี้กัน ความพิเศษของห้องนี้มีหลักๆอยู่ 2 จุดครับ จุดแรกเลยคือสามารถเข้าออกได้ 2 ทาง ทั้งจากพื้นที่ห้องนั่งเล่น และห้องนอนหลัก ช่วยอำนวยความสะดวกและรักษาความเป็นส่วนตัวได้ดี ส่วนอีกจุดคือเป็นห้องน้ำติดริมอาคาร ทำให้สามารถรับช่องแสงได้ในช่วงเวลากลางวัน ที่สำคัญคือระบายความชื้นได้ดีทีเดียว ไม่ต้องกังวลถึงกลิ่นอับชื้นเลย

ภายในห้องเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินทั้งพื้นและผนัง มีหลังอ่างล้างหน้าจะเป็นผนังเซรามิค พื้นที่ภายในค่อนข้างกว้าง ใช้งานได้สะดวก แยกส่วนแห้งส่วนเปียกชัดเจน

ส่วนแรกจะเป็นส่วนแห้ง ประกอบไปด้วยอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ ซึ่งเราจะได้แบบนี้ทั้งหมดเลยครับ เริ่มที่แนวกระจกเงาวงกลมและชั้นวางของ อ่างล้างหน้าแบบเคาน์เตอร์สามารถเก็บของได้ ยกสูงจากพื้นเพื่อง่ายแก่การทำความสะอาด พวกอุปกรณ์ต่างๆเช่นสายชำระ ก็อกน้ำ ที่ใส่กระดาษชำระจะเป็นสีดำด้านมาเป็น set เดียวกันทั้งหมด

อ่างล้างหน้าจาก TOTO มีพื้นที่วางของเล็กน้อยด้านใน แต่ด้านบนมีชั้นวางอุปกรณ์ต่างๆที่มาพร้อมกับกระจกเงาให้ ด้านข้างมีสวิทช์ไฟ สำหรับโกนหนวด เป่าผม พร้อมตัวปิด Waterproof Switch Box

โถสุขภัณฑ์จาก American Standard มาพร้อมที่ใส่กระดาษชำระแบบมีที่ปิดกันน้ำ และสายชำระ เป็นสีดำด้านทั้งคู่ติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสมพร้อมใช้งาน

ส่วนอาบน้ำได้ฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยจาก I-Spa มาด้วย

พื้นที่อาบน้ำภายในขนาดประมาณ 0.95 x 1.1 เมตร ขนาดกำลังพอดีสำหรับการอาบคนเดียว

ชุดอาบน้ำให้มาทั้ง Hand Shower และ Rain Shower สีดำด้านจาก Hafele ทั้ง Set ด้านข้างมีกระจกบานกระทุ้งขนาดประมาณ 1.3 x 0.5 เมตร นอกจากจะเปิดระบายอากาศได้แล้วยังเป็นจุดที่ได้วิวแม่น้ำอีกด้วยนะ อาบน้ำวิวดีขนาดนี้คงจะฟินเลยล่ะครับ

แต่แอบติดเล็กน้อยที่ไม่มีพื้นที่สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้ ซึ่งเราต้องหามาติดตั้งเองนะ จะเป็นแบบแขวน หรือแบบวางกับพื้นก็แล้วแต่ถนัดครับ

ภายในห้องน้ำจะได้ไฟ Downlight 2 ดวง ถึงจะมีหน้าต่างระบายอากาศได้แต่ก็ให้พัดลมระบายอากาศมาด้วยนะ

มาดูห้องสุดท้ายกัน ซึ่งเป็นห้องนอนรอง แต่ก็ไม่น้อยหน้านะครับ ได้วิวแม่น้ำเช่นกัน

ภายในห้องนี้ ห้องตัวอย่างจัดเป็นห้องทำงาน ลักษณะ Studio ให้เห็นถึงความหลากหลายของห้อง ว่าสามารถจัดได้หลากหลายรูปแบบแล้วแต่ความต้องการในการใช้งานเลยครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางโครงการก็ให้เตียง 5 ฟุตมาด้วยสามารถทำเป็นห้องนอนรองปกติได้เลย เพราะในห้องก็ให้ตู้เสื้อผ้ามาด้วยเช่นกัน

ที่ฝั่งผนังด้านปลายเตียงจะมีงานระบบติดตั้งไว้ให้สำหรับแขวนทีวีดูได้นะครับ

อาจจะได้ช่องแสงมาไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ทั้งห้องสว่างในช่วงเวลากลางวัน มีบานกระทุ้งเปิดระบายอากาศได้ด้วยเช่นกัน

ด้านในได้ตู้เสื้อผ้าเหมือนห้องนอนหลัก และแอร์ระบบ Concealed Type เช่นกันด้วยครับ

ห้องนี้จะได้ไฟ Downlight 2 ดวงนะ

มาต่อกันที่ห้องใหญ่ที่สุดของโครงการกัน จะตั้งอยู่ที่มุมอาคาร A ตั้งแต่ชั้น 17-44 เป็นห้องที่ได้วิวดีที่สุดในโครงการเลยก็ว่าได้ เพราะรับวิว 3 ฝั่ง โดยไม่มีอะไรมาบัง เห็นโค้งแม่น้ำตั้งแต่ฝั่งสะพานสาทรไปจนถึง Asiatique Riverfront เลย เป็นห้องหน้ากว้างขนาดใหญ่ ภายในจัดพื้นที่ได้ค่อนข้างลงตัว ได้ Private Lift ของตัวเอง ที่ผมชอบคือทั้ง 3 ห้องนอนของเรา จะใช้ห้องน้ำแยกกันทั้งหมด และเป็นห้องน้ำที่ติดกับภายนอกอาคาร มีช่องแสงสามารถระบายอากาศได้ด้วยทั้งหมดทุกห้อง และส่วน Back Of House ก็จัดมาให้ค่อนข้างเป็นสัดส่วน เริ่มตั้งแต่ครัวปิด พื้นที่ซักล้างที่มีทางเดินแม่บ้านเชื่อมต่อไปยัง Corridor หลักของโครงการได้ รวมถึงมีส่วนของห้องแม่บ้านให้ด้วยเลย สามารถใช้เป็นแม่บ้านประจำได้เลยเพื่อความปลอดภัย

ภายในห้องแบ่งออกเป็น 9 ส่วน ของเริ่มที่ออกจาก Private Lift ออกมาจะพบกับพื้นที้่ Foyer หน้าห้อง เป็นพื้นที่ที่สามารถจัดได้มากกว่าแค่เป็นพื้นที่ใส่-ถอดรองเท้าด้วยซ้ำ เพราะมีขนาดค่อนข้างกว้าง เข้ามาภายในห้องจะเจอกับห้องนั่งเล่นตรงกลางขนาดใหญ่ เชื่อมต่อไปยังส่วนต่างๆภายในห้อง ส่วนนี้จะรวมพื้นที่ดูทีวี พื้นที่รับประทานอาหารไว้ด้วยกัน มีแนวระเบียงขนาดใหญ่ รับวิวแม่น้ำเต็มๆ ฝั่งห้องพักอาศัยรองจะประกอบไปด้วย 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ซึ่งหนึ่งในนั้นจะเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกับส่วนกลางของห้องด้วย ส่วนอีกฝั่งจะเป็นพื้นที่ห้องนอนหลักที่จะได้พื้นที่ห้องขนาดใหญ่และห้องน้ำในตัว และ Back Of House สำหรับแม่บ้านที่มีตั้งแต่ครัว พื้นที่ซักล้าง ห้องแม่บ้าน ห้องน้ำแม่บ้าน และระเบียงซักล้าง เข้าไปดูของจริงกันเลย

เมื่อประตู Private Lift เปิดออก นี่คือภาพแรกที่เราจะเห็นครับ พื้นที่ด้านหน้าของเราคือ Foyer หน้าห้อง มีลักษณะเป็นแนวยาว วัสดุจะเป็นเหมือนห้องที่ผ่านมา พื้นไวนิลปูแบบ Herringbone เช่นเดิม ผนังฉาบเรียบทาสี ไฟ Downlight ทั้งห้อง รวมถึงระดับพื้นถึงฝ้า 3 เมตร แต่ห้องนี้จะได้เป็น Fully Fitted นะครับ ไม่ได้เฟอร์นิเจอร์มาด้วย

พื้นที่ส่วนนี้มีขนาดประมาณ 5 x 1.4  เมตร จัดว่าเป็น Foyer ท่ีขนาดกว้างมากทีเดียว สามารถจัดเป็นชั้นรองเท้าขนาดใหญ่ แนวที่นั่งสำหรับนั่งใส่รองเท้า หรือพื้นที่เก็บของก็ทำได้ค่อนข้างหลากหลายเลย จากนั้นจะมีประตูเข้าห้องเป็น HDF สีดำสูง Over Size พร้อม Digital Door Lock ให้อีกชั้น เป็น Double Security ที่ดีทีเดียว

เปิดประตูเข้ามาภายในจะเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ตรงกลาง เรียกว่าเป็นจุดศูนย์กลางของห้องก็ได้ เพราะทำหน้าที่แจกไปยังจุดต่างๆ ห้องนี้มาพร้อมแนวหน้ากว้าง 8 เมตร รับวิวแม่น้ำ ซึ่งจะรวมทั้งพื้นที่นั่งเล่น และพื้นที่รับประทานอาหารไว้ภายในนี้เลย

พื้นที่นั่งเล่นก็ค่อนข้างกว้างนะ มีช่วงลึก 4 เมตร จัด Built-in ผนัง หรือเลือกวางโซฟาขนาดใหญ่ได้สบายๆเลยครับ

ส่วนพื้นที่รับประทานอาหาร ด้วยขนาดพื้นที่ขนาดนี้ จริงๆแล้วสามารถวางโต๊ะขนาดใหญ่สำหรับ 6-8 ที่นั่งได้นะ แต่ถ้าอยากนั่งสบายๆ ก็ 4 ที่นั่ง มีพื้นที่รอบๆเหลือให้เดินไปมาได้ไม่อึดอัดเกินไป หรือจะใส่บาร์ไว้ด้านหลังแบบในห้องตัวอย่างก็ยังรู้สึกไม่อึดอัดนะ

จุดเด่นคือมีแนวระเบียงยาว 8 เมตรเท่ากัน ส่วนนี้จะมีลูกเล่นเล็กน้อยด้วยแนวระเบียงแบบ Double Balcony เป็นแบบแนวกระจกสองชั้น ซึ่งจะช่วยให้พื้นที่ห้องส่วนกลางนี้โล่งยิ่งขึ้นไปอีก ได้ขนาดพื้นที่เยอะขึ้น แต่ยังเปิดแอร์อยู่ภายในห้องได้

พื้นที่ระเบียงส่วนนี้จะมีขนาดประมาณ 8 x 1.4 เมตร ที่มุมกระจกก็สามารถจัดเป็นชั้นวางของ หรือพื้นที่นั่งเล่นได้เหมือนกัน แต่อาจจะต้องคำนึงถึงแดดสักหน่อยนะครับ ไม่ควรวางพวกโซฟาหนังสังเคราะห์ หรืออะไรที่ไม่ทนต่อแดดแรงๆ เพราะพื้นที่ระเบียงยังไงก็ต้องได้รับความร้อนสูงกว่าพื้นที่ภายในห้องอยู่แล้ว

บริเวณนี้เมื่อเปิดจนสุดจะมีระยะอยู่ที่ 5 เมตร สูง 3 เมตร ก็ทำให้โล่ง รับวิว รับลม และแสงได้ทั่วทั้งห้องเหมือนกัน

ระเบียงด้านนอกเปิดอีกชั้นเพื่อรับลมได้ ระยะเปิดสุดอยู่ที่ 5 เมตรเช่นกัน และจะมีแนวกระจกกันตกไว้ให้ ซึ่งยังได้ความโล่งอยู่เช่นเดิม

ภายในห้องจะได้ระบบปรับอากาศเป็น Concealed Type ยาว 8 เมตร มองจากตรงนี้ก็จะเห็นว่าห้องนี้โล่งและกว้างมาก แต่แสงจากภายนอกก็ยังเข้าไปได้ทั่วถึงทุกพื้นที่ของห้องนี้เลย

บริเวณนี้จะได้ไฟ Downlight 8 ดวงภายในห้องนั่งเล่น และ 4 ดวงที่ระเบียงครับ

ลองเข้าไปดูฝั่งห้องนอนรองทั้ง 2 กันก่อนนะครับ ด้านหน้าเลยคือห้องนอนที่ 2 ซึ่งเอาจริงๆแล้วขนาดอาจจะเป็นรองห้องนอนหลักเล็กน้อย แต่รายละเอียดภายในก็จัดมาให้หวือหวาน่าสนใจไม่แพ้กันเลย เข้าไปชมกันครับ

เข้ามาภายในจะได้แนวตู้เสื้อผ้าด้านหน้า ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้เป็น Walk-in Closet ของห้องนี้ครับ ตู้เสื้อผ้าจะได้แบบนี้เลย แต่ไม่ได้โต๊ะเครื่องแป้งนะ

ตู้เสื้อผ้าบานกระจกดำ มีไฟภายในพร้อมหน้าบานเปิด 2 บาน ให้มา 2 ตู้วางซ้ายขวาชิดผนังครับ

อีกส่วนจะมีพื้นที่ให้วางโต๊ะเครื่องแป้งได้ หามาวางกันเองได้ไม่ยากครับผม บริเวณนี้ยังไม่มีกระจกเงาสำหรับส่องเวลาแต่งตัว อาจจะติดผนังไว้มุมนี้ก็เหมาะดีนะครับ

เข้ามาภายในห้องนอน จะเห็นถึงความโล่งของห้องนี้ เพราะได้กระจกเข้ามุมรับวิวแม่น้ำ มองเห็นสะพานสาทรเต็มๆ ไม่มีอะไรมาบังแน่นอน

จัดแนวกระจกรอบด้านมาให้ ที่สำคัญได้บานกระทุ้งระบายอากาศได้ถึง 2 บาน ซ้ายสุดและขวาสุด ช่วยให้รับลมระบายอากาศภายในห้องได้ดีทีเดียวครับ ที่ปลายเตียงส่วนนี้จะแขวนทีวีไม่ได้แต่ก็มีพื้นที่ให้วางชั้นวางทีวีได้นะครับ

ภายในห้องก็ได้ระบบแอร์ Concealed Type เช่นเดิม

มาดูภายในห้องน้ำของห้องนี้กันเลย จะได้เป็นห้องน้ำส่วนตัวใช้ห้องเดียวเลยนะ

ภายในจะมีประตูอยู่กลางห้อง ทำให้ช่วยเป็นตัวแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งภายในห้องน้ำได้ดีทีเดียว

ห้องน้ำตกแต่งแบบเดิมด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินทั้งพื้นและผนังในส่วนอาบน้ำ พื้นที่ส่วนห้องผนังจะเป็นกระเบื้องเซรามิคแผ่นเล็ก ภายในก็ค่อนข้างโล่งใช้งานได้สะดวก

อ่างล้างหน้าเป็นแบบฝังในเคาน์เตอร์ มีช่องใส่ของด้านล่าง มากับกระจกวงกลมและชั้นวางของเช่นเคย

อ่าง Cotto ทรงสี่เหลี่ยม พร้อมพื้นที่วางของTop หินเทียม

โถสุขภัณฑ์จะหน้าตาเหมือนของห้องก่อนหน้านี้นะครับเป็น American Standard พร้อมสายชำระและที่ใส่กระดาษชำระติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสมพร้อมใช้งาน

ส่วนอาบน้ำจะได้แนวฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยมาให้เหมือนเดิมครับ

พื้นที่ภายใน ส่วนกว้างสุดจะอยู่ที่ 1.3 x 1.1 เมตร อาบคนเดียวสบายๆเลยครับ

ด้านข้างมี Hand Shower จาก Hafele สีดำด้านเช่นเดิม มาพร้อมกระจกระบายอากาศ ไม่ได้มีพื้นที่วางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้เหมือนเดิม

ได้ไฟ Downlight 3 ดวงพร้อมพัดลมระบายอากาศ

ออกจากห้องแรกไปยังห้องถัดไปกันเลย จะเป็นห้องที่อยู่ด้านใน ประกอบไปด้วยหนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ

ห้องนอนส่วนนี้จะอยู่ด้านใน มีความเป็นส่วนตัวสูงกว่าห้องก่อนหน้านี้ แต่จะต้องใช้ห้องน้ำร่วมกับพื้นที่อื่นๆภายในห้อง มีประตูห้องติดกับห้องน้ำครับ เข้าไปดูห้องนอนกันก่อน

ห้องนอนห้องนี้นอกจากจะอยู่ด้านในของตัวห้อง ภายในมีพื้นที่ภายในห้องค่อนข้างกว้างสำหรับวางโต๊ะทำงานได้ เหมาะกับเป็นห้องลูก วัยรุ่นที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัว แต่ก็ยังได้รับวิวฝั่งสะพานสาทรจากแนวกระจกเต็มบานนะ

พื้นที่ปลายเตียงติดทีวีได้ แต่จะเหลือระยะไม่เยอะนักประมาณ 0.40 เมตร

ด้านในของห้องได้แนวกระจกกว้าง พร้อมบานกระทุ้งรับลมระบายอากาศ

พื้นที่หน้าด้านข้างสามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้

ภายในได้แอร์ระบบ Concealed Type เช่นกัน มีแนวตู้เสื้อผ้ายาวภายใน จัดเต็มมาให้เลย

พื้นที่โต๊ะทำงานตัวนี้ไม่ได้ให้มานะ แต่จะเว้นระยะมาให้ จากเตียงถึงหน้าตู้จะมีระยะประมาณ 1.7 เมตร จัดได้ค่อนข้างหลากหลายเลย

ตู้เสื้อผ้าบานเปิด 4 บานและชั้นวางของด้านในจัดมาให้ลักษณะนี้เลยครับ

ห้องนี้จะได้ไฟ Downlight ทั้งหมด 4 ดวงครับ

มาต่อกันทีห้องน้ำข้างๆ อย่างที่บอกว่าห้องน้ำห้องนี้ใช้ร่วมกันระหว่างพื้นที่ส่วนกลางและห้องนอนเมื่อสักครู่ เป็นห้องที่ตกแต่งคล้ายกับห้องที่ผ่านมา วัสดุภายในจะใช้เหมือนกันทั้งหมด

ภายในมีขนาดค่อนข้างกว้าง ใกล้เคียงกับห้องก่อนหน้านี้ครับ

ให้กระจกวงกลมและชั้นวางของมาเช่นเดิม

ส่วนอ่างหน้าล้างจะเหลือเป็นเคาน์เตอร์เล็กลง แต่ยังเก็บของด้านล่างได้นะ และโถสุขภัณฑ์จาก American Standard เช่นเดิม

ส่วนอาบน้ำก็เหมือนกันกับห้องก่อนหน้านี้ครับ ได้ฉากกั้นอาบน้ำมาพร้อม

พื้นที่อาบน้ำประมาณ 1.4 x 0.95 เมตร อาบได้สบายๆเลย

ส่วนอาบน้ำก็มีลักษณะเช่นเดิมกับห้องก่อนหน้านี้ครับ ได้ Hand Shower สีดำด้าน จาก Hafele และช่องแสงที่เป็นบานกระทุ้งด้านข้าง รับวิวแม่น้ำเช่นเดิม

ได้ไฟ Downlight 3 ดวง และพัดลมระบายอากาศ

ไปดูอีกฝั่งของห้องกันต่อบ้างนะครับ หลักจะเป็นพื้นที่ส่วนหลังบ้าน และห้องนอนหลักครับ ไปดูห้องนอนหลักก่อนเลยนะครับ

ภายในห้องนอนหลัก หรือ Master Bedroom มีขนาดพื้นที่ค่อนข้างกว้าง จัดได้หลายพื้นที่ภายใน เปิดประตูมาจะเจอกับส่วนของพื้นที่นั่งทำงาน และ Walk-in Closet หน้าห้องน้ำ

พื้นที่ส่วนหน้านี้จากเตียงถึงหน้าตู้เสื้อผ้ามีขนาดประมาณ 2.5 เมตร สามารถเลือกจัดกันได้ตามสะดวกเลยครับ

สำหรับห้องตัวอย่างจะวางมาเป็นพื้นที่ทำงาน ดูเป็นตัวอย่างในการตกแต่งได้นะครับ

พื้นที่พักผ่อนของห้องนี้จะคล้ายกับห้องอีกฝั่ง เน้นรับวิวภายนอก แยกม่านออกเป็น 2 ฝั่ง ทีวีจะใช้เป็นชั้นวางทีวีที่ปลายเตียงแทนการแขวน แต่ยังเหลือพื้นที่ให้เดินสบายๆ

พื้นที่พักผ่อนค่อนข้างโล่ง เดินรอบได้สบายๆ ด้านข้างวางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้งสองฝั่ง

กระจกของห้องนี้ก็จัดเต็มมาให้แบบห้องฝั่งตรงข้ามกันเลย ซึ่งจะได้กระจกเข้ามุมเต็มบานเช่นกัน พร้อมบานกระทุ้ง 2 บาน ซ้ายสุดและขวาสุด ฝั่งนี้จะเห็นวิวฝั่ง Asiatique Riverfront เป็นหลักครับ

ส่วนพักผ่อนของห้องนอนนี้จะได้ไฟ Downlight 2 ดวง

ใช้แอร์ Concealed Type ด้านในเป็นพื้นที่ Walk-in Closet ที่จะได้ตู้เสื้อผ้าเยอะหน่อย

จัดมาให้แบบนี้เลยครับ เป็นตู้ตัว L และอีกฝั่ง ใช้งานได้ 2 คนแน่นอน หน้าห้องน้ำ แต่บริเวณนี้ไม่ได้มีกระจกให้ส่องนะ อาจจะนำมาติดที่หน้าบานเองได้

บริเวณ Walk-in Closet นี้จะได้ไฟ Downlight 2 ดวง

ภายในห้องน้ำของห้องนี้ก็ต้องพิเศษหน่อย เพราะเป็น Master Bathroom จะได้ชุดสุขภัณฑ์ที่อำนวยความสะดวกได้มากกว่า รวมถึงมีช่องแสงขนาดใหญ่ด้วยนะ แต่ยังตกแต่งในสไตล์เดิมครับ

ติดผนังฝั่งตรงข้ามทั้งหมด มีประตูเข้าจากกลางห้อง ช่วงแบ่งส่วนแห้ง และส่วนเปียกไปในตัว ใช้งานสะดวก

เริ่มที่เคาน์เตอร์อ่างล้างมือTop หินสังเคราะห์สีดำ มาพร้อมกระจกเงาวงกลมและชั้นวางของ

จะได้สุขภัณฑ์อัตโนมัติจาก TOTO Washlet ครับ

มีรีโมทคอนโทลให้ด้านข้าง ติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสมพร้อมใช้งาน

ส่วนอาบน้ำจะได้ฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัยแบบสูงถึงฝ้าเลย แยกส่วนให้ชัดเจน

ภายในจัดส่วนอาบน้ำมาให้ครบทั้ง 3 รูปแบบ ทั้ง Hand Shower, Rain Shower สีดำด้านจาก Hafele เช่นเคย และอ่างอาบน้ำเพิ่มขึ้นมาด้วย

พื้นที่อาบน้ำภายในจะมีขนาดประมาณ 1.85 x 0.8 เมตร

อ่างอาบน้ำจาก Cotto ขนาดประมาณ 1.85 x 0.75 เมตร ริมหน้าต่าง

อุปกรณ์ของอ่างยังเลือกใช้แบบสีดำด้าน เพื่อให้เข้ากับส่วนอื่นๆของห้องน้ำ

กระจกบานใหญ่ด้านข้าง มีทั้งบาน Fixed ขนาด 1.2 x 1.1 เมตร และบานกระทุ้งด้านบนขนาด 1.2 x 0.55 เมตร ช่วยระบายอากาศ

ห้องน้ำส่วนนี้จะได้ไฟ Downlight 3 ดวง พร้อมพัดลมระบายอากาศ

สำหรับห้องขนาดใหญ่จำเป็นต้องมีคนคอยดูแล ทางโครงการจึงจัดส่วนของแม่บ้านไว้ให้ด้วยเลย ทั้งดูแลเรื่องอาหารการกิน ซักอบรีด และความเรียบร้อยภายในบ้าน จัดโซนนี้มาให้เฉพาะเลย แบ่งพื้นที่ด้วยประตูไม้ HDF ขนาดกว้างกว่าปกติ สำหรับง่ายต่อการขนย้ายข้าวของเข้าออก พื้นส่วนนี้จะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ปูสลับ ง่ายแก่การทำความสะอาด

ส่วนแรกจะเป็นเคาน์เตอร์ครัวยาว 3 เมตร ซึ่งจะอยู่ในโซนหลังบ้านนี้ กลิ่นและควันจะไม่ออกไปรบกวนพื้นที่พักผ่อนด้านนอก

ลักษณะของครัวจะเหมือนกับห้องก่อนหน้านี้ครับ จะได้แบบนี้แต่ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า ด้านบนเป็นบานเปิดหลายช่องทีเดียว หน้าบานเป็นเมลามีน High Gloss แบบ Soft Close ได้ Back Splash กระจกแบบห้องตัวอย่างเลยครับ

ชั้นกลางจะมีเตาแม่เหล็กไฟฟ้า 4 หัว อ่างล้างจานแบบ 2 อ่าง พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และพื้นที่เตรียมอาหารที่เป็น Top หินสังเคราะห์สีดำ

อ่างล้างจานจะเป็นสเตนเลส 2 หลุม พร้อมอุปกรณ์สำหรับวางจาน ชาม ช้อนซ่อม จาก Hafele ก็อกน้ำสีดำด้านเช่นเดิม

เตาแม่เหล็กไฟฟ้า 4 หัวพร้อมเครื่องดูดควันแบบต่อท่อออกภายนอก

ใต้อ่างมีช่องขนาดใหญ่เก็บของได้ และลิ้นชักด้านข้างมากมาย

ใต้เตาก็มีช่องเก็บของค่อนข้างเยอะ ทั้งลิ้นชักและบานเปิด

ฝั่งตรงข้ามจะมีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นขนาดใหญ่ได้

ส่วนนี้จะมีไฟ Downlight ให้ 2 ดวงครับ

ด้านในจะมีพื้นที่แยกไปยังส่วนของพื้นที่ซักล้าง และพื้นที่ของแม่บ้านและระเบียง ลองไปดูพื้นที่ภายในห้องให้หมดก่อนนะครับ

ส่วนนี้จะเป็นจุดที่เป็นพื้นที่ซักล้างครับ มีพื้นที่ให้วางเครื่องซักผ้า เครื่องปั่นผ้า ส่วนเคาน์เตอร์ด้านข้างทางโครงการจะให้มาเป็นเคาน์เตอร์เปล่า จะไม่ได้ปิดผิวมาให้นะครับ ได้เฉพาะช่องเก็บของด้านล่าง และอ่าง Top เป็นคอนกรีตเปลือย

บริเวณนี้จะมีทางเข้าออกห้องอีกส่วน ที่เป็น Digital Door Lock เช่นกัน สำหรับแม่บ้าน จะเป็นเส้นทาง Service นั่นเอง สำหรับทิ้งขยะ นำอุปกรณ์และอาหารเข้าออก

ได้อ่างเซรามิคของ Cotto มาให้ครับ Top ครัวจะเป็นปูนเปลือยมาให้นะครับ ต้องติดตั้งเอาเอง

ส่วนนี้ฝ้าเพดานจะให้ไฟ Downlight มา 2 ดวง

อีกฝั่งจะมีห้องพักสำหรับแม่บ้านครับ มีกระจกให้บานหนึ่ง

ภายในได้เป็นห้องเปล่า พื้นปูกระเบื้องเซรามิค ผนังฉาบเรียบทาสี ขนาดประมาณ 2.15 x 2 เมตร

ด้านข้างมีห้องน้ำแนวยาว ขนาดประมาณ 2 x 1 เมตร จะมีเฉพาะโถสุขภัณฑ์ และฝักบัวอาบน้ำ

ด้านนอกสุดมีระเบียงซักล้าง ที่เอาไว้สำหรับวาง Condensing Unit และตากผ้าได้ ขนาดประมาณ 3 x 1.3 เมตร

ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีให้ไฟ Downlight 2 ดวง

สวิทช์ไฟทั้งหมดของโครงการนี้จะใช้ของ Art DNA แบรนด์สวิทช์ไฟหรูจากอังกฤษ โดยนักออกแบบชื่อดัง Michael Young เน้นสไตล์การออกแบบ Minimal Design เรียบหรู การันตีด้วยรางวัล RED DOT DESIGN ครับ (รางวัลออกแบบที่ใหญ่และโด่งดังที่สุดในโลก)

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 18 July 2019

อาคาร A

  • 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม. ชั้น 7-16 ช่วงราคา 5.65 – 5.79 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 38.95 ตร.ม. ชั้น 7-16 ช่วงราคา 6.45 – 6.69 ล้านบาท
  • 2 Bedroom ขนาด 68.60 – 78.80 ตร.ม. ชั้น 17-44 ช่วงราคา 11.15 – 15.19 ล้านบาท
  • 3 Bedroom (River Front) ขนาด 151.60 ตร.ม. ชั้น 17-44 ช่วงราคา 28.73 – 33.49 ล้านบาท

อาคาร B 

  • Studio ขนาด 25.10 ตร.ม. ชั้น 4-42 ช่วงราคา 3.29-4.29 ล้านบาท
  • 1 Bedroom ขนาด 32.10 ตร.ม. ชั้น 4-42 ช่วงราคา 4.03-5.29 ล้านบาท
  • 2 Bedroom (River Front) ขนาด 49.10 ตร.ม. ชั้น 4-42 ช่วงราคา 6.86-8.79 ล้านบาท

 

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished (ยกเว้นห้อง 3 Bedroom (River Front) เป็น Fully Fitted)
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 3 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท๊อปหินสังเคราะห์
  • Hob & Hood แบบต่อท่อออกภายนอกของยี่ห้อ Hafele
  • มีรถ Shuttle Bus ไปกลับ BTS กรุงธนบุรี
  • มีเรือ Shuttle Boat ไปกลับ ท่าเรือสาทร (BTS สะพานตากสิน)
  • จอง 50,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.ม. จ่ายล่วงหน้า 2 ปี

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล : ตัวโครงการมีทางเข้าอยู่บนถนนเจริญนครและพื้นที่ดินยาวไปจนถึงแม่น้ำเจ้าพระยา ทำเลบริเวณนี้จึงสามารถเลือกการเดินทางได้หลากหลาย ทั้งรถ เรือ และรถไฟฟ้า ใกล้กับแยกสำคัญที่ตัดผ่านถนนหลักหลายเส้น ทั้งถนนกรุงธนบุรี เชื่อมต่อไปยังสีลม-สาทร ถนนรัชดาภิเษกเชื่อมต่อไปยังจรัญสนิทวงศ์หรือพระราม 3 ไปวงเวียนใหญ่และกระจายออกพื้นที่รอบๆได้ง่าย นอกจากนั้นยังขนานกันกับถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินทางฝั่งธนบุรี และถนนเจริญกรุงทางฝั่งพระนคร (ใช้เรือข้ามไปได้ไม่ยาก) เดินทางได้อีกหลากหลาย สำหรับความเจริญบริเวณนี้ก็มีห้างใหญ่เปิดใหม่อย่าง ICON SIAM ในระยะใกล้ๆ ระหว่างนั้นมี Avenue อีก 3 แห่งให้เลือกจับจ่ายใช้สอยกันได้ ทางฝั่งด้านล่างก็มี ริเวอร์ไซด์พลาซ่า และ Asiatique Riverfront ทางฝั่งตรงข้าม นอกจากนั้นยังมีโรงแรมหรู โรงเรียน และโรงพยาบาลกระจายอยู่โดยรอบ ระยะเดินคึกคักมีร้านค้าร้านอาหารตามแนวตึกแถวกระจายอยู่ตลอดเส้นเจริญนคร

การเดินทางโดยใช้รถ : เป็นการเดินทางหลักๆที่สะดวกทีเดียว เพราะอย่างที่อธิบายไปว่าสามารถเชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญได้หลายสาย เดินทางไปได้สะดวกทุกทิศทาง ภายในโครงการก็มีพื้นที่จอดรถให้ 66% รวมจอดซ้อนคัน แยกออกเป็น 2 จุด ที่ใต้อาคาร A และอาคาร Facilities ซึ่งก็จะสะดวกกับการสามารถจอดได้ใกล้อาคารพักอาศัยของตัวเองได้ง่าย แต่แอบติดเล็กน้อยตรงทางเข้าโครงการ ถนนตรงกลางเป็นเส้นทึบ ทำให้ไม่สามารถเลี้ยวตัดข้ามเลนได้ ต้องไปกลับรถแทนถึงจะถูกกฎจราจร ซึ่งจุดนี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ยังไงต้องสอบถามทางโครงการอีกที หรือถ้ามีการเปลี่ยนแปลงจะมาอัพเดทข้อมูลให้นะครับ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :  เป็นตัวเลือกในการเดินทางที่ดี เพราะมีให้ใช้ค่อนข้างครบเลย ทั้งรถสาธารณะที่มีป้ายอยู่หน้าโครงการ รถไฟฟ้ากรุงธนบุรีห่างประมาณ 1 กิโลเมตร ทางโครงการมีรถรับส่งให้ รวมถึงเรือที่ทางโครงการเองก็มีท่าเรือส่วนตัวให้บริการรับส่งที่ท่าเรือสาทร (BTSสะพานตากสิน) เช่นกัน พวก Shuttle Service ต่างๆเหล่านี้ เบื้องต้นจะมีให้ทุกๆครึ่งชั่วโมงนะครับ เส้นทางละ 1 คันทั้งบนบกและในน้ำ ส่วนวินมอเตอร์ไซค์และแท็กซี่เรียกได้ไม่ยากครับ เพราะโครงการเราเป็นโครงการติดถนนใหญ่ ใช้งานได้สะดวกอยู่แล้ว

วัสดุ : ทางโครงการจัดมาให้แบบ Fully Furnished เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ที่ได้ก็ค่อนข้างลงตัวกับพื้นที่ห้อง ออกแบบมาให้เหมาะสมทั้งดีไซน์และขนาดพื้นที่ ในส่วนของห้องใหญ่ 3 Bedroom จะเป็นห้องเดียวที่ได้ Fully Fitted นะ แต่จะได้ Private Lift ให้ใช้งาน วัสดุต่างๆภายในโครงการ เริ่มต้นที่ประตู HDF พร้อม Digital Door Lock พื้นภายในห้องจะได้เป็นกระเบื้องยางไวนิลติดตั้งลาย Herringbone ผนังและฝ้าฉาบเรียบทาสี ได้ไฟ Downlight ทั้งห้อง ชุดครัวเป็น Top หินสังเคราะห์ หน้าบานต่างๆเป็น เมลามีน High Gloss แบบ Soft Close เตาแม่เหล็กไฟฟ้าและเครื่องดูดควันแบบต่อท่อออกด้านนอก และอ่างล้างจานสเตนเลส ทั้งหมดจาก Hafele ส่วนห้องน้ำจะได้อ่างล้างหน้า TOTO ฝังบน Top หินสังเคราะห์ ชุดสุขภัณฑ์ทั่วไปจะได้ American Standard แต่ห้อง Master Bedroom ของห้อง 3 Bedroom จะได้เป็น TOTO Washlet พร้อมอ่างอาบน้ำจาก Cotto ส่วนอาบน้ำทั้ง Hand Shower และ Rain Shower จะเป็นของ Hafele พวกก็อกน้ำและอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำจะเป็นสีดำด้านทั้งหมด เครื่องปรับอากาศภายในห้องจะเป็น Concealed Type ทุกห้อง

การออกแบบ : การออกแบบของโครงการนี้จัดว่าโดดเด่นนะ ตั้งแต่การเลือกวาง zoning ของพื้นที่ โดยมีทางเข้าจากถนนใหญ่ และขยับตัวอาคารมาติดแม่น้ำ แก้ปัญหาเสียงและฝุ่นจากถนนใหญ่ ภายในแบ่งอาคารออกเป็น 3 อาคารหลักๆ ในส่วนของพื้นที่พักอาศัยก็เพื่อกระจายจำนวนห้องพักอาศัยออก ลดจำนวนผู้อยู่อาศัยต่ออาคาร และทำให้สามารถรับวิวแม่น้ำได้มากขึ้น ที่สำคัญทางโครงการออกแบบมาให้สามารถเห็นวิวแม่น้ำทุกห้อง วิวฝั่งทิศที่ไม่เห็นแม่น้ำจึงไม่มีห้องพักอาศัยเลย ใช้เป็นจุดวางโถงลิฟต์แทน ทำให้ตำแหน่งไม่ติดกับห้องพักอาศัย ไม่รบกวนกัน นอกจากนั้นยังแยกพื้นที่ส่วนกลางออกมาเป็นอาคารด้วย โดยใช้พื้นที่ที่เป็นระยะ Set Back ของตัวอาคารสูงอยู่แล้ว (ไม่สามารถขึ้นอาคารสูงติดแม่น้ำได้) เป็นตำแหน่งอาคาร 6 ชั้นที่เป็นส่วนของ Facilities และที่จอดรถ ทำให้สามารถใช้งานพื้นที่ส่วนกลางรับวิวแม่น้ำได้อย่างเต็มที่ เข้าถึงและดูแลจัดการง่าย ไม่ไปรบกวนพื้นที่พักอาศัย แต่ถ้าอยากได้วิวแม่น้ำมุมสูงก็มีให้ที่ชั้นบนสุดของแต่ละอาคาร ซึ่งจะค่อนข้างเป็นส่วนตัว เพราะแยกอาคารกันไปเลย

การออกแบบห้องก็จัดว่าทำได้ดีนะ มีห้องให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่สำหรับคนเดียวจนถึงเป็นครอบครัว เน้นการรับวิวภายนอก และเปิดความโล่งด้วยระดับพื้นถึงฝ้าที่ 3 เมตร มาพร้อมแนวกระจกสูงเกือบเต็มพื้นที่ มีกระจกเข้ามุมมาให้ด้วย ทำให้ได้วิวและแสงธรรมชาติในเกือบจะทุกพื้นที่ของห้อง และที่ชอบคือบางห้องจะได้ห้องน้ำติดกรอบอาคาร ทำให้ระบายอากาศได้ง่ายและได้แสงธรรมชาติ พวกห้องใหญ่ภายในแบ่งพื้นที่ Common Area และ Living Area ได้ดีทีเดียว ได้ความเป็นส่วนตัว รวมถึงการวางเฟอร์นิเจอร์มาให้ก็เหมาะสมกับพื้นที่

สาธารณูปโภค : พื้นที่ส่วนกลางภายในอาคารก็มีที่ส่วนของอาคาร B ที่อาจจะตั้งไกลอาคาร Facilities สักหน่อย จึงจัดพื้นที่ Active Gym มาให้ที่ชั้น 2 และสำหรับอาคาร A ก็มีที่ชั้น 6  ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อของแต่ละอาคาร เป็นพื้นที่ที่ได้ใช้กันทุกคนไม่ว่าอาคารไหน ด้านบนของแต่ละอาคารมีพื้นที่สวนและ Sky Lounge ให้ขึ้นไปใช้งานกันได้ง่ายๆ ส่วนอาคาร Facilities จะรวมพื้นที่สวนกลางหลักๆไว้ทั้งหมด ซึ่งเป็นพื้นที่ Semi Out Door ซะส่วนใหญ่ เพราะเน้นรับวิวและลมจากธรรมชาติ เริ่มตั้งแต่ชั้น 1 ที่มี River Lounge และ เจ้าพระยา Tea Room ขึ้นมาหน่อยจะมี River Desk ขึ้นมาอีกจะมีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าภายในมี Onzen & Steam ด้านบนจะเป็นสระว่ายน้ำที่มีหลายพื้นที่ภายในสระ ด้านข้างมี Kid’s Club&Sand Pit เป็นพื้นที่สำหรับเด็กที่มีห้องรับรองผู้ปกครองให้ด้วย ด้านในมี Pool Side Loung และ Co-Kitchen ด้านบนสุดมี Fitness เรียกได้ว่าครบและหลากหลายเลยครับ มีอัตราส่วนลิฟต์ทั้งอาคาร A อยู่ที่ 1 : 64 ยูนิต สำหรับโซนทั่วไป และ 1 : 48 ยูนิต สำหรับโซน Private Lift  ส่วนอาคาร B อยู่ที่ 1 : 142 ยูนิต


Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 160,000 บาท/ตร.ม., 18 July 2019

  • ทำเล 8.5/10 – ติดแม่น้ำ เข้าจากถนนใหญ่ ใกล้ ICON SIAM รอบข้างอุดมสมบูรณ์
  • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – ติดถนนใหญ่ ที่จอดรวมซ้อนคัน 66% ปัจจุบันถนนหน้าโครงการเป็นเส้นทึบต้องไปกลับรถ
  • ไม่ใช้รถ 8.25/10 – ติดถนนใหญ่ เรียกรถสาธารณะง่าย มีท่าเรือของตัวเอง มีรถรับส่ง BTS
  • วัสดุ 8/10 – Fully Furnished เหมาะกับการใช้งาน ของในห้องได้ค่อนข้างดี
  • แบบ 8.5/10 – มีห้องให้เลือกหลายแบบ พื้นถึงฝ้าสูง 3 ม. เห็นวิวแม่น้ำทุกห้อง แยกส่วนอาคารได้ดี ยูนิตต่อชั้นไม่เยอะ
  • สาธารณูปโภค 8.5/10 – มีทั้งบนอาคารพักอาศัย รับวิวชั้นสูง และอาคาร Facilities แบบครบ

  • LUXURY CLASS
  •  8.3/ 10.00

BOTTOM LINE

Chapter เจริญนคร – ริเวอร์ไซด์ เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดติดแม่น้ำ หรือขยับขยายจากทำเลเดิม มีห้องให้เลือกหลายรูปแบบ ตั้งแต่อยู่คนเดียวไปจนถึงครอบครัว ให้วัสดุภายในห้องค่อนข้างดี ให้ส่วนกลางริมแม่น้ำแบบค่อนข้างจัดเต็ม เดินทางด้วยรถส่วนตัวเป็นหลัก มีรถไฟฟ้าและเรือให้เป็นตัวเลือกในการเดินทาง หรือเหมาะกับการลงทุนเพราะทำเลค่อนข้างพิเศษและห้องมีราคาเริ่มต้นที่ไม่สูงมากนัก มีงบประมาณระดับ 3.29 – 35 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 25,000 – 250,000 บาท/เดือน


ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving