สร้างเสร็จและพึ่งเปิดตัวไปหมาดๆเลยนะคะกับโครงการ CHAPTER ทองหล่อ 25 แบรนด์ Chapter ใหม่ที่ทำออกมาในรูปแบบ Low Rise จาก พฤกษา ในซอยทองหล่อ 25 ที่มีเอกลักษณ์ของอาคารในสไตล์ Minimal Luxury พร้อมพื้นที่ส่วนกลางที่ให้มาแบบจัดเต็ม ในราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท ช่วงราคาเริ่มต้น 4 – 8.5 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้จะมีความน่าสนใจอย่างไร เราไปรีวิวเจาะลึกกันค่ะ

  • ทำเล : โครงการตั้งอยู่ในซอยแสงเงินหรือทองหล่อ 25 มีซอยย่อยลัดเลาะไปยังย่านต่างๆได้หลายเส้นทางไม่ว่าจะเป็น ย่านพร้อมพงษ์ อโศก เพชรบุรีได้โดยไม่ต้องผ่านถนนสุขุมวิทที่รถติด อีกทั้งอยู่ไม่ไกลจากทางด่วนหลายเส้น และถึงแม้ว่าจะอยู่ในซอยทางโครงการก็มี  Shuttle Service รับ – ส่งที่ BTS ทองหล่อทุกชั่วโมง (6.00 –  18.00 น.)
  • พื้นที่ส่วนกลาง : โครงการนี้ให้ Facility มาค่อนข้างเยอะทีเดียวค่ะ ซึ่งสามารถรองรับการทำงาน Work From Home มีมุมนั่งเล่น มุมทำงานอยู่ทุกๆห้องของพื้นที่ส่วนกลาง และยังได้สระว่ายน้ำขนาดใหญ่เชื่อมต่อ 2 อาคารเข้าด้วยกัน
  • การออกแบบ : การออกแบบทั้งตัวโครงการและภายในห้องพักอาศัยมีความลงตัวในสไตล์ Minimal Luxury มีการออกแบบโดยเล่นเส้นสายด้วยโลหะสี Rose Gold ตัดกับลานหินอ่อนสีขาว ทำให้มีความเรียบหรู ภายในห้องพักอาศัยมีการดีไซน์กระจกบานใหญ่เปิดได้กว้างพร้อมราวกันตกกระจกใสทำให้รับลมชมวิวได้เต็มที่ ภายในห้องพักอาศัยได้ครัวปิด (ยกเว้นห้อง 1 Bedroom Plus) ทำอาหารจริงจังได้ และยังได้พื้นที่ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ในทุกๆห้องนอน
  • วัสดุ : ขายแบบ Fully Furnished และเครื่องปรับอากาศ เพียงแค่ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า + ม่านเพิ่มเติมก็เข้าอยู่ได้เลย ภายในห้องเลือกใช้กระเบื้อง Porcelain และพื้นไวนิลลายก้างปลา (Herringbone) และวัสดุอุปกรณ์ภายในห้องน้ำเลือกใช้สี Rose Gold โดดเด่นขึ้นมาดู Luxury ค่ะ

ข้อมูลโครงการ

CHAPTER THONGLOR 25 (แชปเตอร์ ทองหล่อ 25) ณ วันที่ 21 กันยายน 2564

 ชื่อโครงการ   CHAPTER THONGLOR 25 (แชปเตอร์ ทองหล่อ 25)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS  HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ซอยทองหล่อ 25 เขตวัฒนา
 ที่ดิน  2-3-33.68 ไร่
 ประเภทคอนโด  Low Rise 8 ชั้น
 จำนวนยูนิต   288 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด   n/a ยูนิต
 ที่จอดรถ   142 คัน คิดเป็น 49% (ไม่รวมซ้อนคัน) แบ่งเป็นที่จอดแบบ Automated Parking 37% และที่จอดแบบปกติ 12%
 เริ่มก่อสร้าง   ปี 2562
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   สร้างเสร็จพร้อมอยู่
 ประเภทห้องพัก
  • Studio ขนาดพื้นที่ใช้สอย 28.91 – 29.30 ตร.ม. (30 ยูนิต)
    – ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท
  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.62 – 34.97 ตร.ม. (172 ยูนิต)
    – ราคาเริ่มต้น 4.90 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ใช้สอย 42.08 – 61.85 ตร.ม. (48 ยูนิต)
    – ราคาเริ่มต้น 6.09 ล้านบาท
  • 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 57.63 – 61.17 ตร.ม. (38 ยูนิต)
    – ราคาเริ่มต้น 8.49 ล้านบาท

 ฝ้าเพดานสูง  2.55 เมตร
 ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 160,000 บาท/ตร.ม.
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด) n/a
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) ผ่านแล้ว
 เว็บไซต์โครงการ https://www.pruksa.com/chapter/thonglor25
 Call Center 1739

 

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.74283221075593, 100.58376268842001
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ CHAPTER ทองหล่อ 25 ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 25 เป็นซอยที่อยู่ใกล้กับถนนเพชรบุรี โดยทางเข้าซอยทองหล่อ 25 จะมีจุดสังเกตง่ายๆ เลยคือเป็นซอยด้านข้างโรงพยาบาลคามิลเลียนค่ะ

โครงการนี้มีจุดเด่นคือมีความสงบและเป็นส่วนตัวด้วยทำเลที่ไม่ติดถนนใหญ่ และเป็นคอนโดมิเนียม Low Rise ที่มีจำนวนยูนิตไม่เยอะ มีราคาจับต้องง่ายกว่าคอนโดที่อยู่ติดถนนใหญ่

สำหรับการเดินทางโครงการนี้เหมาะกับการใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักมากกว่ารถสาธารณะ เนื่องจากทำเลทองหล่อเองที่มีซอยลัดเลาะอยู่เยอะทีเดียว สามารถเดินทางไปออก พร้อมพงษ์, อโศก, เพชรบุรี ได้โดยไม่ต้องผ่านถนนสุขุมวิทเลย นอกจากนั้นยังไม่ไกลจากทางด่วนหลายเส้นทางไม่ว่าจะเป็นทางพิเศษศรีรัช, ทางด่วนรามอินทรา – อาจนรงค์ และทางพิเศษเฉลิมมหานคร ซึ่งถือว่าการเดินทางด้วยรถยนต์สะดวกทีเดียวค่ะ 

ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะนั้นทางโครงการมีบริการ Shuttle Service รับ – ส่งลูกบ้านที่สถานี BTS ทองหล่อ ทุกวันเริ่มตั้งแต่ 6.00 – 18.00 น. ออกทุกชั่วโมง โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งเป็นตัวเลือกให้กับลูกบ้านที่ต้องการใช้รถไฟฟ้า BTS ได้สะดวกค่ะ นอกจากนั้นยังมีตัวเลือกการเดินทางด้วยเรือ ซึ่งจากโครงการมีทางออกเชื่อมไปยังทางเลียบคลองแสนแสบเพื่อเดินไปขึ้นเรือที่ท่าเรือทองหล่อได้ในระยะทางประมาณ 150 เมตร

โครงการ CHAPTER ทองหล่อ 25 นั้นตั้งอยู่ในทำเลที่ถือว่าเป็นย่าน Lifestyle ในซอยทองหล่อเองเส้นที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงมากๆ มีร้านค้า ร้านอาหารชื่อดังอยู่ตลอดทั้ง 2 ข้างทางตั้งแต่ต้นซอยไปจนถึงท้ายซอยเลย นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งสถานบันเทิง สังสรรค์ เหมาะกับคนที่ชอบเที่ยว ชอบปาร์ตี้ทีเดียวค่ะ

ทำเลทองหล่อจัดเป็นย่านที่มีความคึกคักตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน สำหรับลูกบ้านที่อยู่ในโครงการดึกๆอยากออกมาหาร้านอาหารอร่อยๆก็มีให้เลือก หรืออยากชอปปิง ก็มี Community Mall ให้เลือกหลายแห่ง ถ้าเบื่อแล้วก็ลองขยับไปยังซอยเอกมัย ก็ยังคงความอุดมสมบูรณ์ให้เลือกจับจ่ายใช้สอยได้อีกเช่นกันค่ะ โดยถนนเอกมัยจะมี Hyper Market อย่าง Big C เอกมัย, Index Living Mall ให้สามารถไปซื้อของกินของใช้ ของแต่งบ้าน หรือบนถนนเส้นสุขุมวิทเองก็จะมีห้างสรรพสินค้า เช่น Gateway เอกมัย, Major สุขุมวิท, The Emporium, The Emquartier ให้เลือกเดินอีกด้วยค่ะ

สำหรับตัวอย่างการเดินทางด้วยรถยนต์เป็นเส้นทางง่ายๆไม่ซับซ้อนค่ะ ไม่ว่าจะมาจากถนนเพชรบุรี หรือถนนสุขุมวิท ก็สามารถเลี้ยวเข้าซอยทองหล่อ 25 ได้เลย (มีสัญญาณไฟจราจร) มีจุดสังเกตง่ายๆคือ โรงพยาบาลคามิลเลียนที่อยู่ด้านหน้า ซึ่งโครงการอยู่ด้านในซอยห่างจากปากซอยทองหล่อ 25 ประมาณ 700 เมตรค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

บรรยากาศในซอยแสงเงิน หรือซอยทองหล่อ 25 เป็นซอยที่มีบ้านพักอาศัยเดิมอยู่พอสมควร บรรยากาศในซอยค่อนข้างเงียบสงบ ไม่มีอาคารสูง ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น และมีอาคารพักอาศัยสูงกว่า 5 ชั้น 2 อาคาร ตรงข้ามกับโครงการ ถ้าพูดถึงทัศนียภาพจากภายในโครงการจะมองเห็นวิวโปร่งโล่ง มองเห็นชุมชนพักอาศัย วิวคลองแสนแสบ และวิวอาคารสูงอยู่ในระยะไกลค่ะ

  • ทิศเหนือ ติดกับ ทางเดินเลียบคลองแสนแสบ
  • ทิศตะวันออก ติดกับ บ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น
  • ทิศใต้ ติดกับ บ้านพักอาศัยสูง 2-3 ชั้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ซอยแสงเงิน ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพักอาศัยสูง 5-9 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • 72 Courtyard 1.1 km.
  • The Commons 1.2 km.
  • J Avenue 1.3 km.
  • Seenspace1.4 km.
  • Nihonmura Mall 1.5 km.
  • Donki Mall Thonglor 1.8 km.
  • Em Quartier2.4 km.
  • The Emporium 2.7 km.

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาล Camillian 900 m.
  • โรงพยาบาลสมิติเวช 1.5 km.
  • โรงพยาบาลกรุงเทพ 3 km.

สถานศึกษา

  • The American School of Bangkok (ASB) 1.8 km.
  • Wells International School 2.4 km.
  • Bangkok Prep School 2.5 km.
  • Satit Prasarnmit International Programme 3.4 km.
  • Anglo Singapore International School 3.5 km.

Mass Transit

  • สถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ 2.4 km.
  • ท่าเรือ ทองหล่อ 150 m. (จากเขตที่ดินโครงการ)
  • MRT เพชรบุรี (Interchange) 3.2 km.
  • ARL รามคำแหง 3.3 km.

รายละเอียดโครงการ

โครงการ CHAPTER ทองหล่อ 25 เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise 2 อาคารที่อยู่ในซอยทองหล่อ 25 ตามชื่อเลยค่ะ ตั้งอยู่บนที่ดินเกือบๆ 3 ไร่ ซึ่งมีทั้งหมด 2 อาคาร จำนวนยูนิตรวม 288 ยูนิตไม่มากไม่น้อยจนเกินไป

ออกแบบด้วยสไตล์ Minimal Luxury ซึ่งจะเน้นความเรียบหรู ได้แรงบันดาลใจมาจากนิตยสาร Kinfolk เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่อายุประมาณ 30 ต้นๆที่อยากมีคอนโดมิเนียมใจกลางไลฟ์สไตล์บนทำเลทองหล่อ  จะเห็นได้จากทั้งภายนอกอาคารและการตกแต่งภายในที่เน้นความเรียบง่ายแต่แซมไปด้วยความหรูหราอย่างการเลือกใช้ผนังลายหินอ่อน และแถบโลหะสี Rose Gold ตกแต่งให้ดู Luxury

มาดูกันที่ผังโครงการชั้น 1 กันก่อนนะคะ โครงการ CHAPTER ทองหล่อ 25 มี 2 อาคาร อาคาร A จะอยู่ทางทิศเหนือฝั่งใกล้กับคลองแสนแสบ และอาคาร B อยู่ทางทิศใต้ การจัดวางอาคารเป็นรูปตัว L ล้อมรอบสระว่ายน้ำตรงกลาง ซึ่งเป็นวิวให้กับห้องพักอาศัยด้านในด้วยค่ะ

การเข้า-ออกโครงการสามารถเข้าได้ 2 ทางด้วยกันค่ะ ทางเข้าออกหลักจะอยู่ที่ซอยแสงเงิน(ทองหล่อ 25) ทางเข้าหลักมีป้อม รปภ.ดูแลความปลอดภัยอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับจุด Drop off เพื่อแยกทางเดินไปยัง Lobby ของทั้ง 2 อาคารก่อนค่ะ ส่วนถ้าใครจะจอดรถสามารถลงที่ลานจอดรถใต้ดินได้ โดยจะไม่แบ่งอาคารชัดเจนนะคะ ถ้าฝั่งไหนเต็มก็สามารถจอดอีกอาคารแทนได้ โดยจะมีที่จอดรถแบบ Automated Parking และที่จอดแบบปกติผสมกัน รวมแล้วสามารถจอดได้ 142 คัน หรือประมาณ 49 % ( Automated Parking 37% และที่จอดแบบปกติ 12%) ถือว่าไม่เยอะมากนักเนื่องจากโครงการอยู่ในซอยและกลุ่มลูกค้าระดับ Luxury มักใช้รถยนต์ในการเดินทางเป็นหลักค่ะ ส่วนทางเข้า-ออกอีกจุดนึงคือทางด้านข้างเลียบคลองแสนแสบที่สามารถเดินออกไปยังท่าเรือทองหล่อได้สะดวก

ส่วน Facility หลักของโครงการจะอยู่ที่ชั้น 1 ทั้งหมด และจะเน้นไปที่อาคาร A เป็น Facility โถงสูงแบบ Double Volume ทำให้ห้องพักอาศัยภายในอาคาร A จะเริ่มที่ชั้น 3 – 8 ค่ะ (แต่ทางโครงการใช้เลขชั้น 2 – 7 เพื่อให้เข้าใจง่ายๆนะคะ) ส่วนอาคาร B จะมีห้องพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 1 – 8 เลยโดยมีพื้นที่ส่วนกลางคือ Lobby (Chapter Hall) และ Rooftop Facility ค่ะ ส่วนห้องพักอาศัยของอาคาร B ที่ชั้น 1 จะมีการกั้นส่วนสระว่ายน้ำด้วยต้นไม้บังสายตาสูงประมาณ 2.5 เมตร ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวและเห็นวิวต้นไม้สบายตาค่ะ นอกจากนั้นห้องอื่นๆที่หันออกด้านนอกก็จะเห็นวิวต้นไม้ล้อมรอบโครงการเช่นกัน

โครงการนี้ถือว่าให้พื้นที่ส่วนกลางมาจัดเต็มทีเดียว รองรับการใช้งานของลูกบ้านทั้ง 288 ยูนิตได้สบายๆ พื้นที่ Facility สามารถแบ่งให้เข้าใจได้ง่ายๆ ดังนี้

Facilities ชั้น 1
– Chapter Hall (Lobby) [อาคาร A, B]
– Fine & Dine Club [อาคาร A]
– Co-Function Space [อาคาร A]
– The Capsule [อาคาร A]
– Fitness [อาคาร A]
– Steam-Sauna [อาคาร A]
– Co-Living Garden [อาคาร A]
– The Social Club [อาคาร A]
– The White Marble Pool
– Co-Creating Deck
– Chapter Cafe
Facilities ชั้น 3
– The Garden [อาคาร A]
Facilities Rooftop
– The Sunset Deck [อาคาร B]

ดังนั้นสำหรับคนที่ใช้งาน Facility บ่อยๆ จำนวนยูนิตในอาคารไม่เยอะแนะนำให้เลือกอาคาร A ค่ะ แต่อาจจะมีราคาที่สูงขึ้นกว่าอาคาร B บ้างเล็กน้อยขึ้นอยู่กับตำแหน่งและ Type ของห้องด้วย ส่วนคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวไม่มีคนเดินผ่านไป-มา ที่ด้านล่างเยอะๆ เข้าโครงการมาแล้วสามารถเดินขึ้นอาคารได้สะดวกแนะนำให้เลือกอาคาร B ค่ะ

สำหรับชั้นพักอาศัยของอาคาร A และอาคาร B ตัวอาคารเป็นรูปทรงตัว L มีโถงลิฟต์อยู่บริเวณกลางอาคารเหมือนกันค่ะ มีลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัว โถงทางเดินเป็นแบบ Double Corridor แต่มีการออกแบบให้ประตูทั้ง 2 ฝั่งไม่ตรงกันเพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้นในแต่ละอาคารจะมีการจัดวางตำแหน่งห้องแต่ละ Type แตกต่างกันนะคะ ผู้อ่านอาจจะต้องเลือก Type ห้องที่เหมาะกับตัวเองก่อนแล้วค่อยเลือกตำแหน่งที่ถูกใจอีกทีค่ะ

  • อาคาร A 

ห้อง Studio : สำหรับห้อง Studio (สีเทาอ่อน) จะมีเฉพาะอาคาร A และอยู่ฝั่งทิศตะวันตกชั้นละ 5 ยูนิตเท่านั้นค่ะ เป็นห้องที่มองออกมาเห็นวิวซอยแสงเงินและอาคารพักอาศัยฝั่งตรงข้าม เหมาะกับคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องวิวมากนัก ชอบห้อง Studio อยู่แล้ว และตำแหน่งนี้ไม่ไกลจากโถงลิฟต์เดินเข้าถึงได้สะดวกค่ะ

ห้อง 1 Bedroom : ห้อง 1 Bedroom (สีน้ำตาลอ่อน) ในอาคาร A จะอยู่ตำแหน่งหันหน้าไปทางทิศเหนือหรือฝั่งคลองแสนแสบทั้งหมด ข้อดีคือมุมฝั่งนี้ได้วิวโปร่งโล่ง มองเห็นสวนภายในโครงการและคลองได้ ไม่มีอาคารสูงอยู่ในระยะประชิด นานๆทีจะมีเรือผ่านไปมาด้วยค่ะ

ห้อง 1 Bedroom Plus : สำหรับห้อง Type นี้ (สีน้ำตาล) เป็นห้องที่อยู่ตำแหน่งมุมอาคารทิศใต้และหันเข้าหาสระว่ายน้ำและร้านกาแฟ + สวนด้านในได้วิวดีทีเดียวค่ะ

ห้อง 2 Bedroom : (สีเทา) มี 4 ยูนิตต่อชั้นและอยู่ในตำแหน่งมุมอาคาร สามารถมองเห็นวิวได้ 2 ฝั่ง และส่วนใหญ่เป็นห้องที่ไม่ติดกับใครทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวสูงไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงรบกวนจากห้องข้างๆ นอกจากนั้นยังได้วิวสระว่ายน้ำส่วนกลางเต็มที่เลยค่ะ ส่วนห้องมุมอาคารด้านนอกจะมองเห็นวิวคลองแสนแสบและวิวอาคารสูงบนถนนเพชรบุรีได้

  • อาคาร B

ห้อง 1 Bedroom : มีให้เลือกทั้ง 2 ฝั่งเลยค่ะ สำหรับคนที่ชอบวิวสวยๆ ให้เลือกห้องทางทิศเหนือที่หันเข้าหาสระว่ายน้ำค่ะ ส่วนคนที่ต้องการห้องหันออกด้านนอก จะมีให้เลือกฝั่งทิศตะวันออก แดดไม่ร้อน และทิศใต้อาจมีแดดเข้าบางแต่เป็นทิศที่มีลมดีค่ะ ทั้ง 2 ฝั่งจะมองเห็นวิวบ้านพักอาศัยรอบๆ โดยไม่มีอาคารสูงอยู่ในระยะประชิดค่ะ

ห้อง 1 Bedroom Plus : ห้อง Type นี้ในอาคาร B จะมีอยู่บริเวณมุมอาคารเท่านั้นค่ะ มีข้อดีคือมองเห็นวิวได้กว้าง

ห้อง 2 Bedroom : ห้อง Type นี้ในอาคาร B จะมีอยู่ 2 ยูนิตในตำแหน่งที่มองเห็นวิวสระว่ายน้ำด้านในโครงการ เป็นห้องที่ได้วิวสวย แต่จะแตกต่างกับอาคาร A ตรงที่เป็นห้องที่อยู่ติดกับเพื่อนบ้างอาจได้ความเป็นส่วนตัวที่ลดลงหน่อยค่ะ

บรรยากาศภายในโครงการและพื้นที่ส่วนกลางมีความน่าสนใจอย่างไรตามไปชมกันเลยค่ะ

บรรยากาศเมื่อเข้ามาภายในโครงการจะเจอกับลาน Drop off ขนาดใหญ่ เป็นแบบ Outdoor อาจจะโดนแดดและฝนบ้าง แต่เดินเข้านิดเดียวก็ถึงอาคารแล้วค่ะ บริเวณนี้ไว้รับ – ส่งคนก่อนจะแยกไปจอดรถใต้อาคารได้ทั้ง 2 ฝั่ง

Image 1/3
บรรยากาศบริเวณที่จอดรถ

บรรยากาศบริเวณที่จอดรถ

ที่จอดรถจะอยู่ชั้นใต้ดิน (B1) ซึ่งมีทั้งช่องจอดแบบปกติ และ Automated Parking พร้อมจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging) ของรถยนต์ไฟฟ้าที่ตอนนี้เริ่มใช้กันอย่างแพร่หลายแล้วค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศบริเวณที่จอดรถ

บรรยากาศบริเวณที่จอดรถ

ใครที่ลงมาจอดรถชั้น B1 สามารถเดินเข้าโถงลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังชั้นพักอาศัยได้เลยโดยใช้ Key Card ซึ่งล็อกชั้นไว้แล้วเพื่อความปลอดภัยของลูกบ้านค่ะ บรรยากาศภายในโถงลิฟต์ตกแต่งมาสวยงามตามแนวคิด Minimal Luxury ของโครงการซึ่งเราจะเห็นการตกแต่งด้วยแถบสี Rose Gold ตัดกับสีขาวหรือลวดลายหินอ่อนอยู่ทั่วไปทั้งอาคารเลยค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศบริเวณโถงทางเดินไปยัง Lobby

บรรยากาศบริเวณโถงทางเดินไปยัง Lobby

จากที่จอดรถขึ้นมาดูข้างบนกันบ้าง พื้นที่ส่วนกลางด้านในระหว่างอาคารจะถูกบังสายตาด้วยโถงทางเดินอุโมงค์สีขาวเพื่อแบ่งส่วนกันชัดเจน ทางเดินไปอาคาร B อยู่ทางขวามือ ส่วนอาคาร A อยู่ทางซ้ายมือ ซึ่งเราขอพาทุกคนไปดูทางอาคาร A ซึ่งเป็น Facility หลักก่อนนะคะ

เข้ามาแล้วจะเจอกับสระว่ายน้ำมีชื่อว่า The White Marble Pool ใช้วัสดุเป็นหิน LimeStone ลายหินอ่อนสวยงาม เป็นสระยาวเชื่อมต่อกันตั้งแต่อาคาร A มาจนถึงอาคาร B บริเวณริมสระมีมุมนั่งเล่นพักผ่อนใต้ต้นไม้ เป็นวิวสวนให้กับผู้อยู่อาศัยที่อาคาร B ค่ะ

Image 1/3
บรรยากาศบริเวณสวน

บรรยากาศบริเวณสวน

บรรยากาศบริเวณนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกับแปลงผักสวนครัวหลังบ้าน มีพื้นที่นั่งเล่นใต้ร่มเงาต้นไม้ ได้ยินเสียงน้ำไหลบริเวณสระว่ายน้ำไปด้วย ซึ่งห้องที่ได้ประโยชน์จากวิวนี้ที่สุดคือห้องชั้น 2 และ 3 อาคาร B ฝั่งด้านในนั่นเองค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำ

บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำ

ส่วนสระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือไม่ทำร้ายผิว รูปทรงของสระว่ายน้ำเป็นตัว Z เชื่อมต่อกันมากกว่า 50 เมตร ทำให้สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้ยาวๆเลยค่ะ

Image 1/3
บรรยากาศบริเวณ Co-Creating Deck

บรรยากาศบริเวณ Co-Creating Deck

ด้านข้างเป็นพื้นที่ Co-Creating Deck ที่แบ่งเป็น 2 ส่วน ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่นั่งเล่นริมสระน้ำที่มีขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ มีการเล่นระดับทำให้คนที่นั่งด้านในสามารถมองเห็นวิวสระได้ชัดเจน แบ่งเป็นโซฟาชิงช้า โต๊ะยาวสำหรับนั่งกันเป็นแก๊ง และโซฟากลมขนาดใหญ่ชวนเพื่อนๆมานั่งเล่นได้หลายคน บริเวณนี้ยังเป็นพื้นที่ Semi-Outdoor นั่งเล่นได้สบายๆ แดดไม่ร้อนและไม่ตากฝนเหมือนกับพื้นที่นั่งเล่นริมสระว่ายน้ำทั่วไป

Image 1/2
บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำ

บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำยังมีส่วนของ Jacuzzi นั่งส่วนตัว 3 จุด และสระ Water Chanel ที่เล่นระดับด้านบนให้ขึ้นไปแช่น้ำได้ มีลูกเล่นเป็นน้ำตกเพิ่มเสียงบรรยากาศสดชื่นให้กับพื้นที่นั่งเล่นรอบๆ

Image 1/2
บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำ

บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำจะเชื่อมต่อยาวมาจนถึงใต้อาคาร A ทำให้มีบางส่วนที่เป็น Semi-Outdoor แช่น้ำคลายร้อนได้ในวันที่มีแดดแรง จากจุดนี้จะมองเห็นทั้งสระว่ายน้ำภายนอก Fitness และ Lobby บริเวณอาคาร A เลยค่ะ

ส่วนสระเด็กจะอยู่ด้านในเป็นสระแบบ Semi-Outdoor ให้คุณพ่อคุณแม่พาเด็กๆมาว่ายน้ำเล่นได้ตลอดทั้งวันเลยค่ะ สระนี้มีขนาด ประมาณ 2.40 x 6.50 เมตร ลึก 0.40 เมตร

Image 1/5
บรรยากาศภายในห้อง Fitness

บรรยากาศภายในห้อง Fitness

ภายในห้อง Fitness มีการออกแบบให้เป็นห้องกระจกขนาดใหญ่มองเห็นวิวได้ 2 ฝั่ง ทั้งฝั่งทางเดินริมคลองแสนแสบทางทิศเหนือ และฝั่งสระว่ายน้ำด้านใน บรรยากาศโปร่งสบายเหมาะกับการออกกำลังกาย ซึ่งทางโครงการมีเครื่องออกกำลังกายมาให้ครบทั้ง Weight training และ Cardio training เลย

Image 1/3
บรรยากาศบริเวณทางเดินริมอาคาร A

บรรยากาศบริเวณทางเดินริมอาคาร A

ด้านหน้าห้อง Fitness จะเป็นทางเดินไปออกทางเลียบคลองแสนแสบ ซึ่งบริเวณนี้มีการปลูกต้นไม้ใหญ่เพิ่มบรรยากาศสีเขียวให้กับทางเดินและเป็นวิวให้กับห้องที่หันหน้าไปยังคลองด้วยค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศทางเดินเลียบคลองแสนแสบ

บรรยากาศทางเดินเลียบคลองแสนแสบ

เมื่อออกมาแล้วจะเจอกับทางเดินเลียบคลองแสนแสบซึ่งสามารถเดินไปยังท่าเรือทั้ง 2 ฝั่งได้ โดยฝั่งที่ใกล้ที่สุดอยู่ทางขวามือคือท่าเรือทองหล่อค่ะ ระยะห่างจากโครงการประมาณ 150 เมตร

Image 1/2
ทัศนียภาพโครงการ CHAPTER ทองหล่อ 25 เมื่อมองจากทางเดินเลียบคลองแสนแสบ

ทัศนียภาพโครงการ CHAPTER ทองหล่อ 25 เมื่อมองจากทางเดินเลียบคลองแสนแสบ

Image 1/5
บรรยากาศภายในห้องน้ำส่วนกลาง

บรรยากาศภายในห้องน้ำส่วนกลาง

ถัดจากห้อง Fitness เข้าไปจะเป็นส่วนของห้องน้ำแยกชายหญิงมาให้ ภายในตกแต่งด้วยผนังลายหินอ่อน และมีการใช้ก๊อกน้ำ ฝักบัวต่างเป็นสี Rose Gold ตัดกับสุขภัณฑ์สีขาวดูสวยงามโดดเด่นขึ้นมาเลยค่ะ ภายในห้องน้ำมี Locker มาให้สำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนชุดออกกำลังกาย หรือเก็บของใช้ส่วนตัว นอกจากนั้นยังมีห้อง Steam ในห้องน้ำผู้หญิง และ Sauna ในห้องน้ำผู้ชายให้ด้วย เนื่องจากทางโครงการสำรวจมาให้แล้วว่าผู้หญิงส่วนใหญ่น่าจะชอบ Steam มากกว่าเพราะ Sauna อาจทำให้ผิวแห้งได้ค่ะ

Image 1/4
บรรยากาศบริเวณร้านกาแฟ

บรรยากาศบริเวณร้านกาแฟ

นอกจาก Facility ส่วนกลางแล้วทางโครงการมี Chapter Cafe ที่ดีลกับร้านกาแฟ Real มาเปิดให้บริการลูกค้าภายในโครงการ ให้เลือกซื้อเครื่องดื่มได้ง่ายๆไม่ต้องสั่งเดลิเวอรี่ที่ไหนเลยค่ะ (โครงการดีลกับ Real Cafe ไว้เป็นระยะเวลาประมาณ 1 ปี ส่วนปีถัดไปจะเป็นร้านแบรนด์ไหนต้องรอติดตามสอบถามจากโครงการอีกครั้งนะคะ) บรรยากาศรอบๆร้านมีที่นั่งเล่น ดื่มกาแฟชิลๆ ทั้งบริเวณลานหินด้านหน้าร้าน และส่วน Co-Living Garden

Image 1/3
บรรยากาศบริเวณ Co-Living Garden

บรรยากาศบริเวณ Co-Living Garden

พื้นที่ Co-Living Garden เป็นส่วนที่เชื่อมต่อกับร้านกาแฟ เป็นพื้นที่นั่งยกระดับขึ้นไปด้านบนสวน เหมาะจะพาเพื่อนๆมานั่งคุยหรือนัดคุยธุระกันบริเวณนี้ก็ดีนะคะ มองลงมาเห็นวิวทั้งสวนและสระว่ายน้ำเลย

ด้านข้าง Co-Living Garden เป็นพื้นที่ Paint by gongkan ซึ่งเป็นลานหินล้อมรอบต้นไม้ใหญ่ที่มีผลงานของศิลปินชื่อดัง คุณก้อง กันตภณ เมธีกุล เพ้นท์อยู่บนผนังด้วย ซึ่งคุณ gongkan นั้นมีผลงานโดดเด่นในแนว Pop Art ในระดับสากลเลยค่ะ

Image 1/4
บรรยากาศภายใน The Social Club

บรรยากาศภายใน The Social Club

ถัดมาด้านในสุดจะเป็นพื้นที่ที่มีความ Private มากขึ้น ซึ่งเป็นห้อง The Social Club ให้ลูกบ้านสามารถจองใช้งานเพื่อจัดปาร์ตี้ จัดงานเลี้ยงวันสำคัญต่างๆได้ โดยจะได้ความเป็นส่วนตัวเพราะแยกส่วนจากพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆชัดเจน ด้านในมีโซฟา TV เคาน์เตอร์บาร์และห้องน้ำในตัวถือว่าใช้งานได้สะดวกมากๆเลยค่ะ

เข้ามาดูภายใน Lobby อาคาร A กันบ้างนะคะ (Chapter Hall) บรรยากาศภายในตกแต่งเหมือนกับคาเฟ่เก๋ๆ ให้เช็คอินถ่ายรูปกันได้เลยค่ะ

ภายในมีหุ่นยนต์วัดอุณหภูมิให้กับผู้เยี่ยมชมโครงการด้วย น่ารักมากๆเลย

Image 1/4
บรรยากาศภายใน Chapter Hall อาคาร A

บรรยากาศภายใน Chapter Hall อาคาร A

บริเวณ Lobby ของอาคาร A เป็น Lobby ขนาดใหญ่โถงสูง Double Volume พร้อมกระจกสูงเต็มบานจากพื้นถึงฝ้าเพดาน ทำให้ดูโปร่ง สบาย มองเห็นวิวสระว่ายน้ำได้เต็มที่เลยค่ะ ความเก๋อีกอย่างหนึ่งภายในห้องนี้คือไฟที่ฝ้าเพดานทำให้เหมือนกับมี Skylight ส่องลงมา ที่ชุดโซฟาขนาดใหญ่ ทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง และบริเวณนี้ยังมีโต๊ะให้นั่งทำงาน อ่านหนังสือสบายๆได้อีกด้วย

Image 1/3
บรรยากาศบริเวณ The Capsule

บรรยากาศบริเวณ The Capsule

สำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวขึ้นมาหน่อยให้เดินเข้ามาใช้งาน The Capsule ซึ่งเป็นพื้นที่เหมาะกับการมานั่งเล่นอ่านหนังสือมากๆเลยค่ะ ได้ความเป็นส่วนตัวด้วย Capsule ที่แบ่งพื้นที่ 4 มุม หรือจะนั่งทำงานที่โซฟาขนาดใหญ่ก็ได้ ซึ่งถือว่าโครงการนี้ให้พื้นที่นั่งพักผ่อนมาหลายจุดรองรับลูกบ้านทั้ง 288 ยูนิตได้เลยค่ะ

Image 1/3
บรรยากาศภายใน Co-Function Space

บรรยากาศภายใน Co-Function Space

นอกจากพื้นที่นั่งเล่นสบายๆแล้วยังมีพื้นที่นั่งทำงานจริงจัง ให้เลือกใช้งานด้วยค่ะ เผื่อใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศการนั่งทำงานให้ห้อง ก็สามารถลงมาใช้พื้นที่ Co-Function Space ตรงนี้ได้ ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่เป็นวัยทำงานที่มีความยืดหยุ่น

จาก Lobby บริเวณอาคาร A ยังมีพื้น Laundry มีเครื่องซัก อบผ้าให้บริการด้วยนะคะ ทำให้ลูกบ้านที่ไม่ต้องการตากผ้าบนห้อง สามารถลงมาใช้งานเครื่องอบผ้าที่ Laundry ได้

Image 1/2
บรรยากาศบริเวณโถงลิฟต์อาคาร A

บรรยากาศบริเวณโถงลิฟต์อาคาร A

ส่วนโถงลิฟต์จะต้องใช้ Key Card ในการเข้าถึงนะคะ เพื่อคัดแยกลูกบ้านเฉพาะอาคารที่อาจมาใช้ Facility ร่วมกัน ภายในโถงลิฟต์จะมีห้อง Mail Box ของลูกบ้านตึกนี้ให้แวะหยิบจดหมายได้สะดวก

Image 1/3
บรรยากาศภายในห้อง Fine and Dine Club

บรรยากาศภายในห้อง Fine and Dine Club

Facility ห้องสุดท้ายในอาคาร A ก็คือห้อง Fine & Dine Club เป็นพื้นที่นั่งกินขนม ดื่มเครื่องดื่มได้ โดยทางโครงการจะมีตู้ขนมติดตั้งมาให้บริเวณเคาน์เตอร์บาร์ ดึกๆรู้สึกหิวก็ลงมาซื้อขนมกินได้สะดวกสบาย มีชุดโต๊ะรับประทานอาหารรองรับให้เรียบร้อยเลยค่ะ

ถัดมาเรามาดู Facility ที่อาคาร B กันบ้างค่ะ

เข้ามาที่ Lobby อาคาร B จะเจอกับเคาน์เตอร์ต้อนรับพร้อมน้องหุ่นยนต์เหมือนกับในอาคาร A เลยค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศภายใน Chapter Hall อาคาร B

บรรยากาศภายใน Chapter Hall อาคาร B

พื้นที่นั่งเล่น Chapter Hall แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง มีชุดโต๊ะ โซฟาสำหรับนั่งพักคอยได้ ซึ่งภายในห้องนี้สามารถมองเห็นรถที่เข้ามายังบริเวณ Drop off ได้ง่าย ใครที่เรียกรถไว้มานั่งรอสบายๆในห้องนี้ก่อนได้

Image 1/2
บรรยากาศภายใน Chapter Hall อาคาร B

บรรยากาศภายใน Chapter Hall อาคาร B

อีกฝั่งหนึ่งเป็นพื้นที่นั่งพักคอยมีช่องแสงสูงเต็มบานมองเห็นวิวสวนและสระว่ายน้ำได้ชัดเจน พร้อมไฟขนาดใหญ่เหมือนกับ Skylight ส่องลงมาทำให้โถง Lobby ที่มีความสูงปกติดูโปร่งกว้างมากขึ้นค่ะ

Image 1/4
บรรยากาศบริเวณโถง Mail Box และห้องนิติบุคคลของอาคาร B

บรรยากาศบริเวณโถง Mail Box และห้องนิติบุคคลของอาคาร B

ถัดมาจะเป็นส่วน Mail Box ของอาคาร B และห้องนิติบุคคล ให้ทุกคนมาติดต่อได้สะดวก

ถัดมาด้านในเป็นโถงลิฟต์ของอาคาร B ซึ่งต้องใช้บัตรในการแตะเข้ามาเช่นกันค่ะ ส่วนใครที่เป็นลูกบ้านชั้น 1 ของอาคาร B จะมีประตูกั้นโถงทางเดินแยกมาให้เพื่อความเป็นส่วนตัวอีกชั้นหนึ่งค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศบริเวณโถงทางเดินไปยัง Rooftop

บรรยากาศบริเวณโถงทางเดินไปยัง Rooftop

ที่อาคาร B มีพื้นที่ส่วนกลางนอกจาก Lobby ที่ชั้น 1 แล้วจะมี Facility ที่ Rooftop อีกจุดหนึ่งค่ะ ลูกบ้านทั้ง 2 อาคารสามารถใช้งานร่วมกันได้ โดยจะแยกส่วนกลางและโถงทางเดินด้วยประตูกั้นต้องใช้ Key Card ในการแตะเข้าไปเพื่อความเป็นส่วนตัวค่ะ

Image 1/4
บรรยากาศบริเวณ The Sunset Deck

บรรยากาศบริเวณ The Sunset Deck

บริเวณนี้มีชื่อว่า The Sunset Deck เป็นพื้นที่นั่งเล่นบนชั้นดาดฟ้า มีการตกแต่งด้วยสวนหินและต้นกระบองเพชร พร้อมโต๊ะ 2 ชุด ให้เราขึ้นมาเปลี่ยนบรรยากาศทานข้าวเย็นกันที่ Rooftop ได้นะคะ

วิวเมื่อมองจาก The Sunset Deck ไปยังอาคาร A ค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby (Chapter Hall)
  • Fine & Dine Club
  • The Capsule
  • Co-Function Space
  • Fitness
  • Steam-Sauna (หญิง-Steam ชาย-Sauna)
  • Co-Living Garden
  • The Social Club
  • The White Marble Pool ระบบ เกลือ ขนาด 6.00 x 24.00 เมตร ลึก 1.10 เมตร
    มีการแบ่งสระเด็ก ลึก 0.40 เมตร ขนาดประมาณ 2.40 x 6.50 เมตร
  • The Sunset Deck
  • สวนหย่อมที่ชั้น 1 และ ดาดฟ้า
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 72 :  1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก A n/a : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์ตึก B n/a : 1
  • Service Lift – ตัว
  •  142 คัน คิดเป็น 49% (ไม่รวมซ้อนคัน) แบ่งเป็นที่จอดแบบ Automated Parking 37% และที่จอดแบบปกติ 12%
  • Shuttle Sevice : รับ – ส่ง BTS ทองหล่อ วันธรรมดาเริ่ม 6.00 – 18.00 น. และวันเสาร์ – อาทิตย์เริ่ม 10.00 – 18.00 น. ออกทุกชั่วโมง
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card / Finger Scan

แบบห้อง

ห้องพักอาศัยภายในโครงการ CHAPTER ทองหล่อ 25 มีทั้งหมด 4 แบบ ดังนี้

  • Studio ขนาดพื้นที่ใช้สอย 28.91 – 29.30 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.62 – 34.97 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ใช้สอย 42.08 – 61.85 ตร.ม.
  • 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 57.63 – 61.17 ตร.ม.

โดยมีรูปแบบการขายแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเครื่องปรับอากาศ เพียงแค่ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและติดผ้าม่านก็พร้อมเข้าอยู่ได้เลยค่ะ เฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการให้มาเป็นแบบ Custom Made ขึ้นมาเพื่อให้เข้ากับห้องพักอาศัยโดยเฉพาะ (แบบเดียวกับห้องตัวอย่าง) ข้อดีของห้องที่ขายแบบ Fully Furnished คือทำให้เราได้เฟอร์นิเจอร์ที่มีความเข้ากัน มีผู้ออกแบบเลือกมาให้เรา และไม่ต้องไปเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ขนาดพอดีเองค่ะ เพราะบางครั้งการหาเฟอร์ฯที่เข้ากับพื้นที่ห้องของเราพอดีนั้นไม่ง่ายเลยค่ะ

นอกจากเฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเข้าอยู่แล้วโครงการนี้ยังมีการออกแบบหน้าต่างบานเปิดขนาดใหญ่ให้เราเปิดรับลมได้สบายๆและมองเห็นวิวได้กว้าง แตกต่างจากในคอนโดมิเนียมทั่วไปที่มักเป็นบานกระทุ้งบานเล็กๆทำให้อากาศไหลเวียนได้น้อย และมองเห็นวิวได้จำกัดค่ะ

วันนี้เราจะพาทุกคนไปชมรีวิวเจาะลึกกันที่ห้อง 1 Bedroom ซึ่งเป็นห้องที่มีจำนวนมากที่สุดในโครงการ และห้อง 2 Bedroom ที่อยู่ในตำแหน่งมุมวิวสวยกันค่ะ และมีภาพบรรยากาศภายในห้อง 1 Bedroom Plus และ Studio ให้ชมกันด้วยค่ะ

1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.88 ตร.ม.

ห้อง 1 Bedroom ตำแหน่งจะหันออกด้านนอกอาคาร มีให้เลือกฝั่งวิวคลองแสนแสบ และฝั่งด้านในบรรยากาศวิวสระว่ายน้ำและวิวสวนค่ะ ภายในห้องออกแบบมาเป็นห้องตอนลึกแบ่งพื้นที่การใช้งานชัดเจน เหมาะกับคนที่ชอบห้องที่เป็นสัดส่วน จัดพื้นที่ ทำความสะอาดง่าย โดยจะมีห้องครัว ห้องนั่งเล่นและห้องนอนมีประตูกั้นแยกกันชัดเจน ทำให้พื้นที่ครัวสามารถทำอาหารจริงจังมีกลิ่นได้ และเวลาที่ซื้อของเข้าห้องมาก็วางเก็บในครัวก่อนได้เลยค่ะ

เข้ามาด้านในห้องจะมีพื้นที่รับประทานอาหารมาให้ 2 ที่นั่ง เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่นและระเบียงมองเห็นวิวและเปิดรับอากาศภายนอกได้ดี ส่วนห้องนอนนั้นจะแยกส่วนออกมาเป็นส่วนตัว และมีจุดเด่นที่แตกต่างจากโครงการอื่นๆนั่นก็คือพื้นที่ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ นั่นเองค่ะ โครงการนี้ได้ Built-in บานเลื่อนกั้น Walk-in Closet เป็นสัดส่วนมาให้แล้วเหมาะกับคนที่ไม่ชอบให้ฝุ่นจากเสื้อผ้า หรือเครื่องสำอางฟุ้งกระจายภายในห้อง ซึ่งถือว่าดีเลย ส่วนพื้นที่นอนจะเหมาะกับการวางเตียงขนาดประมาณ 5 ฟุต ได้พอดีๆ

ห้องน้ำออกแบบมาให้อยู่ในห้องนอนใช้งานได้สะดวกสำหรับผู้อยู่อาศัย แต่อาจไม่สะดวกนักสำหรับคนที่ชอบพาเพื่อนๆมาที่ห้องบ่อยๆและห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัวเพราะต้องเดินผ่านห้องนอนทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำค่ะ

ด้านหน้าทางเข้าห้องมีป้ายเลขที่ห้องที่ออกแบบมาน่ารัก กรอบสี Rose Gold เข้ากันกับพื้นที่ส่วนกลาง บานประตูเป็นไม้ปิดผิวด้วยเมลามีนลายไม้สวยงามทั้งบานประตูหลักก่อนเข้าห้องและบานประตูในห้องย่อยเลยค่ะ มือจับเป็น Digital Door Lock จาก Hafele รองรับการใช้งานทั้งหมด 3 แบบ คือ Keycard, Password และกุญแจ

ระหว่างพื้นห้องและพื้นโถงทางเดินจะมีขอบกั้นสูงขึ้นมาเล็กน้อยช่วยกันฝุ่น ปิดช่องว่างระหว่างประตูกับพื้นดูเรียบร้อยดี พื้นภายในห้อง(ส่วนครัว) จะได้กระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อนทำความสะอาดได้ง่าย และดูสวยงาม

Image 1/2
บรรยากาศภายในห้องครัว

บรรยากาศภายในห้องครัว

เข้ามาแล้วจะเจอกับห้องครัวก่อนนะคะ ซึ่งมีการกั้นมาให้เป็นครัวปิดทำให้สามารถทำอาหารมีกลิ่นได้บ้าง ซึ่งภายในครัวจะมีเคาน์เตอร์ Built-in มาให้ทั้ง 2 ฝั่งเหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ ทำให้มีพื้นที่เก็บของได้เยอะ มีพื้นที่ทางเดินตรงกลางค่อนข้างกว้าง เวลาซักผ้าหิ้วตะกร้ามาวางซักได้สบายๆ

Image 1/3
อุปกรณ์ที่ได้ภายในครัว

อุปกรณ์ที่ได้ภายในครัว

มาดูฝั่งเคาน์เตอร์ครัวกันก่อนนะคะ วัสดุ Top ครัวที่ได้คือ หินสังเคราะห์ (Solid Surface) สีขาวจาก Index ด้านหลัง Backsplash กรุกระจกทำให้ทำความสะอาดได้ง่ายและห้องครัวดูมีมิติมากขึ้น ด้านหลังซ่อนไฟไว้ให้ เวลาทำอาหารจะได้มีความสว่างมองเห็นได้ชัดเจน และดูสวยงามด้วยค่ะ

อ่างล้างจานที่ได้จาก MEX เป็นหลุมรูปทรงสี่เหลี่ยมพร้อมก๊อกน้ำสายซิลิโคนสามารถปรับองศา ขยับก๊อกได้ ล้างจานง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ ส่วนเตาไฟฟ้าเป็นแบบ Induction 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควันแบบดูดออกด้านนอก ซึ่งมีประสิทธิภาพได้ค่อนข้างดีกว่าแบบหมุนเวียนอากาศ 2 ชิ้นนี้ได้จาก Hafele

Image 1/2
ตู้เก็บของภายในห้องครัว

ตู้เก็บของภายในห้องครัว

ตู้เก็บของภายในห้องครัวจะได้เหมือนกับในห้องตัวอย่างเลยค่ะ เป็นตู้บานลามิเนตสีเทา Soft Close ปิดแล้วไม่มีเสียงดัง และไม่กระแทกของใช้ภายในตู้เก็บจาน ชาม ช้อน ซ้อม รวมถึงอุปกรณ์ทำอาหารอื่นๆได้สบาย ด้านล่างเคาน์เตอร์มีช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าและไมโครเวฟ ช่วยประหยัดพื้นที่บนเคาน์เตอร์

ส่วนฝั่งตรงข้ามชั้นล่างเป็นช่องเก็บรองเท้า ซึ่งวางรองเท้าได้ประมาณ 20 คู่เลย ตรงกลางเป็นพื้นที่วางของใช้ที่หยิบใช้งานบ่อยๆเวลาออกข้างนอก เช่น กุญแจ กระเป๋าถือ เป็นต้น ส่วนตู้ด้านบนไว้เก็บของใช้ทั่วไปอื่นๆ เพิ่มเติมได้ค่ะ

การออกแบบที่น่าสนใจภายในห้องก็คือประตูบานเลื่อนที่กั้นระหว่างห้องครัวและพื้นที่ Common Area จะเป็นบานสูงถึงฝ้าเพดานเปิดออกด้านข้างทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้ทางเดินตรงกลางกว้าง และเมื่อเข้ามาภายในห้องแล้วจะเป็นส่วนที่ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร พร้อมซ่อนไฟหลืบแบบในห้องตัวอย่างมาให้เลยค่ะ

พื้นในส่วน Common Area ปูด้วยพื้นไวนิลลายไม้ โดยใช้ลายก้างปลา (Herringbone) ดูสวยงามและมีลูกเล่นเพิ่มมากขึ้น ซึ่งไวนิลเป็นพื้นที่มีความทนทานและเกรดดีกว่าพื้นลามิเนตขึ้นมาระดับหนึ่ง และบำรุงรักษาได้ง่าย

ด้านในพื้นที่ Common Area สามารถแบ่งได้เป็น 2 ส่วนคือพื้นที่รับประทานอาหารและห้องนั่งเล่นค่ะ

Image 1/2
ชุดโต๊ะรับประทานอาหาร

ชุดโต๊ะรับประทานอาหาร

โต๊ะรับประทานอาหารของห้อง 1 Bedroom ได้เป็นชุดโต๊ะ เก้าอี้ 2 ที่นั่งแบบนี้เลยค่ะ โดยจะเป็นขาโต๊ะเก้าอี้โลหะสี Rose Gold เข้ากับการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ต่างๆภายในห้องและภายในโครงการ

จากพื้นที่นั่งรับประทานอาหารมาจนถึงห้องนั่งเล่นมีความยาวประมาณ 4 เมตร ความกว้างสำหรับระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 2.50 เมตร เหมาะกับการวาง TV ขนาดประมาณ 40 นิ้วกำลังพอดีค่ะ

Image 1/2
เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องนั่งเล่น

เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องนั่งเล่น

เฟอร์นิเจอร์ที่ได้ภายในห้องนั่งเล่นเหมือนกับในห้องตัวอย่างเลยค่ะ โดยจะมีโซฟาขนาดประมาณ 3 ที่นั่งโทนสีเทา เข้ากันกับชั้นวาง TV ที่มีหน้าบานเป็นลูกเล่นลอนๆ เหมือนกับหน้าบานตู้เก็บของในห้องครัว เก็บของได้ 3 ช่องใหญ่ พร้อมโต๊ะกลางกระจกสีชา ขาตั้งสี Rose Gold เมื่อวางแล้วมีระยะเดินผ่านได้สบายๆไม่อึดอัด

มาถึงส่วนของระเบียงห้อง 1 Bedroom มีขนาดประมาณ 0.75 x 2.50 เมตร เป็นส่วนที่ตั้งของ Condensing Units ถ้านับเฉพาะส่วนเปิดโล่งสามารถวางกระถางต้นไม้ หรือตากผ้าได้จะมีพื้นที่ประมาณ 0.75 x 1.50 เมตร ขนาดพอดีๆไม่เล็กไปหรือใหญ่จนเกินไปค่ะ

พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเพื่อให้ทำความสะอาดง่ายฉีดน้ำล้างได้เลย นอกจากนั้นราวกันตกและระแนงบังสายตาเลือกใช้เป็นอะลูมิเนียมสีเข้ากันกับประตูหน้าต่างห้องพักอาศัย

วิวของห้อง 1 Bedroom เป็นวิวหันออกด้านนอกอาคารทั้งหมด ซึ่งห้องนี้มองไปทางถนนเพชรบุรีเห็นวิวคลองแสนแสบและสวนด้านข้างอาคาร บรรยากาศเปิดโล่ง ไม่มีอาคารสูงมาบังวิวในระยะประชิดเลยค่ะ เหมาะกับคนที่ชอบวิวธรรมชาติ เปิดโล่งและได้ความเป็นส่วนตัว

เข้ามาดูภายในห้องนอนกันต่อนะคะ ขอเริ่มที่ส่วนพักผ่อนก่อนเลยบริเวณนี้มีพื้นที่ประมาณ 2.60 x 2.75 เมตร สามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้ แต่ถ้าอยู่คนเดียวแล้วต้องการพื้นที่กว้างหน่อยแนะนำให้วางเตียง 5 ฟุต ซึ่งโครงการได้ให้ฐานเตียงพร้อมโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง มาเรียบร้อยแล้วค่ะ

ด้านข้างเตียงจะได้หน้าต่างขนาดใหญ่ซึ่งเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยค่ะ เป็นชุดหน้าต่างที่สูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน เป็นบานเปิดข้าง 2 ฝั่งทำให้เปิดหน้าต่างได้กว้างรับลมชมวิวได้เต็มที่ โดยมีราวกันตกเป็นกระจกใสมาให้ไม่บังสายตาด้วยค่ะ

Image 1/3
วิวเมื่อมองจากห้อง 1 Bedroom อาคาร A ที่หันหน้าออกไปยังคลองแสนแสบค่ะ

วิวเมื่อมองจากห้อง 1 Bedroom อาคาร A ที่หันหน้าออกไปยังคลองแสนแสบค่ะ

ฝั่งตรงข้ามกับหน้าต่างเป็นพื้นที่ Walk-in Closet ที่ให้มาขนาดค่อนข้างใหญ่ทีเดียวค่ะ เหมาะสมกับโครงการระดับ Luxury ซึ่งทางโครงการได้มีการกั้นกระจกสีชาบานสูงจากพื้นถึงฝ้าเลย แบ่ง Walk-in Closet เป็นสัดส่วนค่ะ อาบน้ำออกมายืนแต่งตัวด้านในได้ไม่เคอะเขิน

Image 1/4
บรรยากาศภายใน Walk-in Closet

บรรยากาศภายใน Walk-in Closet

ส่วน Walk-in Closet สามารถเลื่อนประตูบานเลื่อนคู่เพื่อเข้าใช้งานได้ แบบนี้มีข้อดีคือฝุ่นจากเสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งจะไม่ฟุ้งกระจายภายในห้องนอนค่ะ ด้านในมีพื้นที่ยืนแต่งตัวประมาณ 1.00 x 1.30 เมตร เหมาะกับการใช้งานคนเดียวสบายๆ

โดยด้านในจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in แบบไม่มีบานปิด รูปตัว L ออกแบบให้มีพื้นที่แขวนเสื้อผ้า ลิ้นชักเก็บของ และชั้นวางกระเป๋าด้านข้าง พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งและเก้าอี้ รองรับการใช้งานได้ดีทีเดียวค่ะ

มาดูภายในห้องน้ำกันบ้างค่ะ ห้องน้ำมีการตกแต่งที่น่าสนใจทีเดียว มีการเลือกใช้แถบโลหะสี Rose Gold และเลือกใช้ก๊อกน้ำ สายชำระ ฝักบัวต่างๆเป็นสี Rose Gold ทั้งหมดตัดกับสีขาวของชุดสุขภัณฑ์ทำให้ดูโดดเด่นออกมาสวยงามค่ะ

การจัดพื้นที่ห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก ส่วนแห้งชัดเจนมีฉากกั้นกระจกอาบน้ำมาให้และยกขอบขึ้นมาเล็กน้อยกันน้ำไหลออกมายังส่วนแห้ง

Image 1/2
บริเวณอ่างล้างมือและกระจกเงาภายในห้องน้ำ

บริเวณอ่างล้างมือและกระจกเงาภายในห้องน้ำ

อ่างล้างมือเป็นแบบติดตั้งพร้อมเคาน์เตอร์มีชั้นเก็บของด้านล่างเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆได้ ส่วนด้านบนเป็นอ่างรูปทรงสี่เหลี่ยมสีขาวจาก Kohler ส่วนกระจกก็สวยงามไม่แพ้กันค่ะ เป็นกระจกรูปทรงวงรีที่มีขอบ Rose Gold พร้อมซ่อนไฟด้านใน สามารถเปิดเก็บของได้อีกด้วย

โถสุขภัณฑ์สีขาว จาก COTTO พร้อมสายชำระสี Rose Gold ตัดกัน

ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นแบบ Frameless มาให้เรียบร้อย เป็นบานเปิดเข้าด้านในใช้งานได้สะดวก มีพื้นที่อาบน้ำประมาณ 0.90 x 1.00 เมตร ยืนอาบคนเดียวได้สบายๆค่ะ นอกจากนั้นมีงานระบบสามารถติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นได้ เลือกใช้ Floor Drain ทรงสี่เหลี่ยม สวยงาม พร้อมชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำด้านข้าง


2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 58.13 ตร.ม.

มาดูห้อง 2 Bedroom กันบ้างค่ะ ตำแหน่งของห้อง 2 Bedroom จะเป็นตำแหน่งห้องมุมและวิวสระว่ายน้ำด้านในค่ะ ซึ่งจะมีข้อดีคือกระจกเข้ามุมทำให้มองเห็นวิวได้กว้างมากขึ้น เหมาะกับคนที่ต้องการห้องพักอาศัยขนาดใหญ่ มองเห็นวิวสวย

การจัดพื้นที่ใช้สอยยังเน้นความเป็นสัดส่วนแยกพื้นที่ใช้งานในแต่ละฟังก์ชันชัดเจน โดยจะมีห้องครัวอยู่ด้านหน้าเหมือนกับห้อง 1 Bedroom เลยค่ะ เป็นครัวปิดที่สามารถทำอาหารจริงจังได้ เชื่อมต่อกับ Common Area ที่วางโต๊ะรับประทานอาหารได้ถึง 4 ที่นั่ง มองเห็นวิวได้จากระเบียง

ส่วนห้องนอนจะแยกออกไปด้านข้าง แบ่งเป็นห้องนอนรองได้ช่องแสงขนาดใหญ่ ใช้ห้องน้ำร่วมกันตรงกลาง และห้อง Master Bedroom ที่มีห้องน้ำในตัวและยังคงจุดเด่นพื้นที่ Walk-in Closet ขนาดใหญ่อยู่ค่ะ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำของห้อง Master Bedroom นั้นจะมีอ่างอาบน้ำมาให้พร้อมกับระบบทำน้ำร้อนที่มีให้เฉพาะใน Type 2 Bedroom ด้วยค่ะ

Image 1/2
บรรยากาศภายในห้องครัว

บรรยากาศภายในห้องครัว

เข้ามาด้านในห้องแล้วจะเจอกับส่วนห้องครัวก่อนค่ะ ซึ่งเป็นครัวปิดมีฉากกั้นบานสูงเหมือนกับในห้อง 1 Bedroom เลยซึ่งภายในครัวจะมีเคาน์เตอร์ Built-in มาให้ทั้ง 2 ฝั่ง แต่จะมีความกว้างมากขึ้น สามารถยืนทำครัวได้ 2-3 คนสบายๆ

Image 1/4
อุปกรณ์ที่ได้ภายในครัว

อุปกรณ์ที่ได้ภายในครัว

เคาน์เตอร์ครัวของห้องนี้จะมีพื้นที่เตรียมอาหารมากขึ้น แต่วัสดุอุปกรณ์ที่ได้จะเหมือนกับในห้อง 1 Bedroom เลยค่ะ คือ Top ครัว หินสังเคราะห์ (Solid Surface) สีขาวจาก Index ด้านหลัง Backsplash กรุกระจก พร้อมอ่างล้างจานที่ได้จาก MEX เตาไฟฟ้า 2 หัวและเครื่องดูดควันจาก Hafele

Image 1/3
ตู้เก็บของภายในห้องครัว

ตู้เก็บของภายในห้องครัว

ส่วนตู้เก็บของเคาน์เตอร์ครัวจะเก็บของได้มากขึ้น ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่วางตู้เย็น ขนาดประมาณ 16 คิว และตู้รองเท้ามาให้เก็บรองเท้าได้ประมาณ 20 คู่ค่ะ

เข้ามาด้านในพื้นที่ Common Area สามารถจัดได้เป็นส่วนรับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่น เชื่อมต่อกับส่วนระเบียง ซึ่งบริเวณนี้จะได้ช่องแสงค่อนข้างเยอะเนื่องจากเป็นห้องมุมทำให้ห้องสว่างเหมือนกับบ้านพักอาศัยเลยค่ะ

ส่วนฝ้าเพดานมีการซ่อนไฟหลืบมาให้แบบในห้องตัวอย่างเลยค่ะ ทำให้ฝ้าเพดานสูงสุดอยู่ที่ 2.55 เมตร เป็นระดับมาตรฐานทั่วไป

ชุดโต๊ะรับประทานอาหารของห้อง 2 Bedroom ได้เป็นชุด 4 ที่นั่ง มีลูกเล่นขาโลหะสี Rose Gold แบบเดียวกับในห้องตัวอย่างเลย

Image 1/3
บรรยากาศภายในห้องนั่งเล่น

บรรยากาศภายในห้องนั่งเล่น

พื้นที่ห้องนั่งเล่นของห้อง Type นี้มีขนาดพอดีๆ ประมาณ 4.20 x 2.70 เมตร ความกว้างสำหรับระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 2.50 เมตร เหมาะกับการวาง TV ขนาดประมาณ 40 นิ้วกำลังดี อีกทั้งมีเฟอร์นิเจอร์มาให้ครบชุดแล้วเป็นโซฟา 3 ที่นั่งที่มีส่วนตัว L ให้นอนยืดขาได้สบายๆ โต๊ะกลางและชั้นวาง TV ได้เหมือนกับในห้อง 1 Bedroom เลยค่ะ

Image 1/3
หน้าต่างบานกว้างพร้อมราวกันตกกระจกใส

หน้าต่างบานกว้างพร้อมราวกันตกกระจกใส

เนื่องจากห้อง Type นี้อยู่บริเวณมุมอาคารพอดีทำให้ได้ช่องแสงถึง 2 ฝั่ง เปิดรับลม ระบายอากาศได้กว้าง ไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดทั้งวันยังได้ค่ะ นอกจากนั้นยังทำให้มองลงไปเห็นวิวสวน และสระว่ายน้ำส่วนกลางได้อีกด้วย

Image 1/2
บรรยากาศบริเวณระเบียง

บรรยากาศบริเวณระเบียง

ส่วนพื้นที่ระเบียงของห้องนี้วาง Condensing units ได้ถึง 3 ตัว สำหรับ ห้องนอนและส่วน Common Area ทำให้มีพื้นที่ระเบียงเหลือสำหรับจัดสวน หรือออกมาชมวิวได้ประมาณ 0.75 x 1.50 เมตร ขนาดพอดีๆ สามารถวางเก้าอี้นั่งเล่นตัวเล็กๆได้ค่ะ

Image 1/2
โถงทางเดินด้านในห้อง 2 Bedroom

โถงทางเดินด้านในห้อง 2 Bedroom

กลับเข้ามาด้านในกันบ้างค่ะ ส่วนพักผ่อนห้องนอนทั้ง 2 ห้องจะต้องผ่านโถงทางเดินซึ่งแยกส่วนจากพื้นที่นั่งเล่นชัดเจน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยจะแบ่งเป็นห้อง Master Bedroom ด้านในสุด ตรงกลางเป็นห้องนอนรองและห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันกับ Common Area ค่ะ

ภายในห้องน้ำส่วน Common Area นั้นจัดพื้นที่การใช้งานและการตกแต่งเหมือนกับในห้อง Type 1 Bedroom เลยค่ะ ภายในแบ่งส่วนเปียก ส่วนแห้งชัดเจนมีฉากกั้นกระจกอาบน้ำมาให้และยกขอบขึ้นมาเล็กน้อยกันน้ำไหลย้อน และมีการตกแต่งด้วยแถบสี Rose Gold พร้อมเลือกใช้ก๊อกน้ำและอุปกรณ์ประกอบสี Rose Gold ทั้งหมดดูสวยงาม

Image 1/5
สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ

สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ

กระจกเงารูปทรงวงรีมีขอบ Rose Gold ซ่อนไฟด้านในสามารถเปิดเก็บของได้ อ่างล้างมือ จาก Kohler มีชั้นเก็บของด้านล่าง และสุขภัณฑ์ จาก COTTO เป็นแบบเดียวกับในห้อง 1 Bedroom เลยค่ะ แต่จะมีพื้นที่ห้องอาบน้ำที่กว้างมากขึ้น

ถัดมาดูห้องนอนรองกันก่อนนะคะ ภายในห้องนี้มีขนาดประมาณ 2.30 x 3.90 เมตร ซึ่งทางโครงการได้ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้แล้ว ทำให้เหลือพื้นที่เหมาะสำหรับวางเตียง 3.5 ฟุตค่ะ

ห้องนี้ได้หน้าต่างบานใหญ่เหมือนกับในส่วน Common Area และในห้อง 1 Bedroom เป็นหน้าต่างบานสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานสามารถเปิดได้กว้าง และมีราวกันตกเป็นกระจกใสไม่บังสายตา ทำให้ห้องดูโปร่ง คลีนๆ ใครที่ไม่ต้องการห้องนอนก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน หรือห้องแต่งตัวได้ค่ะ

Image 1/2
Built-in ตู้เสื้อผ้าในห้องนอนรอง

Built-in ตู้เสื้อผ้าในห้องนอนรอง

แม้จะเป็นห้องนอนที่มีขนาดไม่ใหญ่มากแต่ทางโครงการก็ให้ความสำคัญกับพื้นที่ Walk-in Closet ให้มีขนาดใหญ่ เหมาะกับคนที่ชอบแต่งตัว ตู้เสื้อผ้าที่ได้เป็นบานกระจกสีชา ซ่อนไฟด้านในดูสวยงาม แบ่งเป็นพื้นที่แขวนชุดเดรส และเสื้อผ้าชุดสั้น พร้อมลิ้นชักและชั้นวางกระเป๋าเหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ

มาดูห้อง Master Bedroom กันค่ะ ห้องนี้เป็นห้องนอนขนาดใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัวใช้งานได้สะดวกและมีความเป็นส่วนตัวมากที่สุด ซึ่งมีพื้นที่ส่วนพักผ่อนประมาณ 2.40 x 5.00 เมตรเลยค่ะ

แบ่งเป็นพื้นที่วางเตียงนอน 2.40 x 3.00 เมตร วางเตียงขนาด 5 ฟุตได้สบายๆ พร้อมโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งทางโครงการมีฐานเตียงมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ ภายในห้องนี้ได้หน้าต่างบานใหญ่เช่นกันค่ะทำให้นอนมองเห็นวิวสระว่ายน้ำภายในโครงการได้เลย

หน้าต่างที่ได้เป็นบานเปิดคู่เหมือนกับในห้องนอนรองนะคะ แต่จะมีส่วนกระจกบานสูงเข้ามุมมาให้เพิ่มเติม ทำให้ห้องนี้โปร่งและมองเห็นวิวได้มากขึ้นไปอีก

เก็บวิวจากห้อง 2 Bedroom มาฝากกันค่ะ สามารถนอนมองเห็นวิวนี้ได้จากห้อง Master Bedroom เลย

ฝั่งตรงข้ามเป็นส่วน Walk-in Closet เชื่อมต่อกับส่วนเตียงนอนทำให้ห้องดูกว้าง และจะเห็นว่าภายในห้อง Master Bedroom จะได้ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร พร้อมฝ้าเพดานที่ซ่อนไฟมาให้ดูสวยงาม

Image 1/3
บรรยากาศภายใน Walk-in Closet

บรรยากาศภายใน Walk-in Closet

ส่วน Walk-in Closet ภายในห้องนี้ไม่ได้กั้นแยกมาให้แบบในห้อง 1 Bedroom นะคะ ใครที่ชอบแบบเป็นสัดส่วนอาจกั้นเพิ่มเติมเองได้ แต่จะทำให้ส่วนห้องนอนดูเล็กลง เพราะที่นี่ให้พื้นที่ Walk-in Closet มาขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ

ตู้เสื้อผ้าเป็นตู้ Built-in ตัว L มีบานปิดเป็นกระจกสีชา ซ่อนไฟด้านในเหมือนกับในห้องนอนรอง แต่จะมีขนาดใหญ่กว่าค่ะ พื้นที่ Walk-in Closet มีประตูทางเข้าห้องน้ำอยู่ตรงกลาง ทำให้แบ่งตู้ออกเป็น 2 ส่วน แยกคุณผู้หญิงคุณผู้ชายได้เลย และมีชุดโต๊ะเครื่องแป้งมาให้เรียบร้อยค่ะ

Image 1/6
บรรยากาศห้องน้ำในห้อง Master Bedroom

บรรยากาศห้องน้ำในห้อง Master Bedroom

ภายในห้องน้ำในห้อง Master Bedroom ของห้อง 2 Bedroom จะมีการอัพเกรดขึ้นมาโดยมีอ่างอาบน้ำมาให้ พร้อมระบบทำน้ำร้อน ในขณะที่ห้องอื่นๆจะเป็นเครื่องทำน้ำอุ่นค่ะ

ภายในห้องน้ำแบ่งการใช้งานออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งอ่างล้างหน้าและส่วนอาบน้ำ ซึ่งจะได้วัสดุเหมือนกับในห้องน้ำอื่นๆเลยค่ะ เป็นอ่างแบบติดตั้งพร้อมเคาน์เตอร์มีชั้นเก็บของด้านล่างรูปทรงสี่เหลี่ยมสีขาวจาก Kohler กระจกรูปทรงวงรี พร้อมซ่อนไฟและมีชั้นเก็บของด้านใน

ส่วนสุขภัณฑ์จาก COTTO และอ่างอาบน้ำจาก Kohler เป็นอ่างขนาดใหญ่นอนแช่น้ำได้สบายๆ พร้อมชุดฝักบัวที่มีระบบน้ำร้อน-น้ำเย็นค่ะ


1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ใช้สอย 46.62 ตร.ม.

ส่วนห้อง 1 Bedroom Plus เป็นห้องที่ตอบโจทย์คนที่ต้องการอยู่คนเดียวถึง 2 คนที่ไม่ต้องการห้องขนาดใหญ่นัก แต่ต้องการพื้นที่อเนกประสงค์สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้เอง ชอบห้องที่มีความโปร่งเชื่อมต่อกัน เพราะห้องนี้จะมีการออกแบบให้เป็นครัวเปิด เชื่อมต่อครัวกับห้องนั่งเล่นได้เลย อีกทั้งห้องน้ำสามารถเข้าได้ทั้ง 2 ฝั่งจากทาง Common Area และห้องนอน ส่วนพื้นที่อเนกประสงค์สามารถเปิดให้เชื่อมกับห้องนั่งเล่นได้ หรือจะปิดกั้นเป็นสัดส่วนก็ทำได้ด้วยประตูกระจกบานเลื่อนสูงเต็มจากพื้นถึงฝ้ามาให้เช่นกันค่ะ สามารถปรับเป็นห้องทำงานส่วนตัว พื้นที่ออกกำลังกาย เล่นโยคะ หรือเป็นห้องนอนสำหรับเพื่อนๆที่แวะมาหาได้

ส่วนห้องนอนมีพื้นที่ขนาดใหญ่มีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้เยอะทีเดียวค่ะ ภายในห้องสามารถวางเตียง 5 ฟุตได้สบายๆ พร้อมมุมนั่งเล่น Bay Window และระเบียงส่วนตัว เวลามีใครมาก็มองไม่เห็นผ้าที่เราตาก หรือไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนเพื่อเข้าห้องน้ำค่ะ

เหมาะกับคนที่ชอบชวนเพื่อนๆมาที่ห้อง ชอบความโปร่งกว้างในขณะเดียวกันก็แบ่งห้องนอนได้เป็นส่วนตัวสูง

Image 1/10
บรรยากาศภายในห้อง 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ใช้สอย 46.62 ตร.ม.

บรรยากาศภายในห้อง 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ใช้สอย 46.62 ตร.ม.


Studio ขนาดพื้นที่ใช้สอย 28.91 ตร.ม.

ห้อง Studio ทางโครงการก็จัดพื้นที่ใช้สอยมาได้ลงตัวค่ะ ห้องนี้เหมาะกับคนที่ชอบห้องโปร่งกว้าง ในพื้นที่ใช้สอยกะทัดรัดพอดีตัว โดยเข้าห้องมาแล้วจะเจอกับส่วนพักผ่อนคือห้องนอนและพื้นที่นั่งเล่นรวมกัน มีส่วน Walk-in Closet ขนาดใหญ่กว่าห้อง Studio ทั่วๆไป พร้อมกับสามารถจัดพื้นที่โต๊ะทำงานหรือโต๊ะรับประทานอาหารริมหน้าต่างได้ อีกทั้งยังมีพื้นที่ระเบียงให้ตากผ้า หรือออกมาชมวิวสูดอากาศข้างนอกได้ค่ะ

ส่วนครัวและห้องน้ำจะแยกส่วนออกมาชัดเจน กั้นเป็นครัวปิดทำให้สามารถทำอาหารที่จริงจังได้เลย ถ้ามีกลิ่นก็สามารถเปิดหน้าต่างระบายอากาศไปยังระเบียงได้ ส่วนห้องน้ำแบ่งพื้นที่ใช้งานส่วนเปียกแห้งชัดเจน พร้อมฉากกั้นกระจก วัสดุอุปกรณ์ภายในห้องน้ำเหมือนกับห้องอื่นๆค่ะ

Image 1/7
บรรยากาศภายในห้อง Studio ขนาดพื้นที่ใช้สอย 28.91 ตร.ม.

บรรยากาศภายในห้อง Studio ขนาดพื้นที่ใช้สอย 28.91 ตร.ม.

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคา

CHAPTER ทองหล่อ 25 ราคา ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2564

  • Studio ขนาดพื้นที่ใช้สอย 28.91 – 29.30 ตร.ม. (30 ยูนิต)
    – ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท
  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.62 – 34.97 ตร.ม. (172 ยูนิต)
    – ราคาเริ่มต้น 4.90 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ใช้สอย 42.08 – 61.85 ตร.ม. (48 ยูนิต)
    – ราคาเริ่มต้น 6.09 ล้านบาท
  • 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 57.63 – 61.17 ตร.ม. (38 ยูนิต)
    – ราคาเริ่มต้น 8.49 ล้านบาท

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.55 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์ Index
  • Hob & Hood / ของยี่ห้อ Hafele
  • Shuttle Service : รับ – ส่ง BTS ทองหล่อ วันธรรมดาเริ่ม 6.00 – 18.00 น. และวันเสาร์ – อาทิตย์เริ่ม 10.00 – 18.00 น. ออกทุกชั่วโมง (ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
  • จอง 20,000 บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 75 บาท/ตร.ม./เดือน

ลงทะเบียนรับโปรโมชั่นสุดพิเศษได้ที่>> https://bit.ly/399xKFi

  • จองเริ่ม 20,000 บ. พร้อมเข้าอยู่
  • อยู่ฟรี 3 ปี*
  • FREE ALL​​
  • ฟรี! LIVING SET สูงสุด 18 รายการ
  • รับเพิ่ม iPad Pro*

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :

โครงการ CHAPTER ทองหล่อ 25 ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 25 เข้ามาจากหน้าปากซอยประมาณ 700 เมตร เป็นทำเลที่อยู่ช่วงท้ายของซอยทองหล่อก่อนออกถนนเพชรบุรี บรรยากาศในซอยเงียบสงบ รอบๆข้างไม่มีอาคารสูงอยู่ในระยะประชิดทำให้ได้วิวเปิดโล่ง เหมาะกับการใช้รถยนต์ส่วนตัว แต่ทางโครงการก็มีบริการ Shuttle Service รับ-ส่งที่ BTS เพิ่มเติมด้วย

ความอุดมสมบูรณ์ในทำเลถือว่ามีอยู่เยอะทีเดียวค่ะเนื่องจากอยู่ในย่านทองหล่อที่เป็นแหล่ง  Lifestyle มีร้านอาหาร Community Mall อยู่เยอะทำให้หาของกิน จับจ่ายใช้สอยง่าย อีกทั้งสั่ง Delivery ก็มีร้านให้เลือกเต็มไปหมดโดยที่ค่าส่งไม่แพงเลยค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ :

การเดินทางด้วยรถยนต์ถือว่าสะดวกทีเดียวค่ะ เพราะว่าโครงการตั้งอยู่ในซอยทองหล่อที่สามารถลัดเลาะไปออกย่านต่างๆได้สะดวกทั้งพร้อมพงษ์, อโศก, เพชรบุรี ได้โดยไม่ต้องผ่านถนนสุขุมวิท เป็นทางเลี่ยงรถติดได้ และยังไม่ไกลจากทางด่วนพิเศษศรีรัช, ทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ และทางพิเศษเฉลิมมหานครให้เลือกใช้งาน แต่ทางโครงการมีที่จอดรถมาให้อยู่ที่ 142 คัน หรือคิดเป็น 49% (ไม่รวมซ้อนคัน) แบ่งเป็นที่จอดแบบ Automated Parking 37% และที่จอดแบบปกติ 12% ซึ่งถือว่าไม่มากนักเมื่อเทียบกับโครงการระดับ Luxury ที่ไม่ได้อิงรถไฟฟ้าเป็นหลักค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

การเดินทางด้วยรถสาธารณะนั้นทางโครงการมีบริการ Shuttle Service รับ – ส่งลูกบ้านที่สถานี BTS ทองหล่อ ทุกวันเริ่มตั้งแต่ 6.00 – 18.00 น. (ออกทุกชั่วโมง) ซึ่งเป็นตัวเลือกให้กับลูกบ้านที่ต้องการใช้รถไฟฟ้า BTS ได้สะดวก แต่ถ้านอกเวลาการให้บริการ จะต้องเรียกวินมอเตอร์ไซค์ด้านหน้าโครงการ หรือเรียกผ่าน Application แทน แต่ก็ยังมีตัวเลือกการเดินทางด้วยเรือเพิ่มเติม ซึ่งจากโครงการมีทางออกเชื่อมไปยังทางเลียบคลองแสนแสบเพื่อเดินไปขึ้นเรือที่ท่าเรือทองหล่อได้ในระยะทางประมาณ 150 เมตร สามารถใช้เดินทางไปยังประสานมิตร – ประตูน้ำ – Central World ได้

วัสดุ :

วัสดุภายในโครงการให้มาแบบ Fully Furnished ซึ่งเป็นการ Custom Made ให้เข้ากับสไตล์ Minimal Luxury ให้ชุดเฟอร์นิเจอร์มาครบชุด ไม่ว่าจะเป็น ชุดครัว ชุดโต๊ะรับประทานอาหาร โซฟา โต๊ะกลาง ชั้นวาง TV เตียง ตู้เสื้อผ้า เครื่องปรับอากาศ ฯลฯ เพียงแค่ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มก็สามารถเข้าอยู่ได้เลย ซึ่งเป็นข้อดีคือเราจะได้เฟอร์นิเจอร์ที่มีความเข้ากัน และไม่ต้องหาขนาดของเฟอร์นิเจอร์เพื่อให้ลงตัวกับห้องเองค่ะ

วัสดุภายในห้องที่ได้มาเหมาะสมกับราคา ไม่ว่าจะเป็น Top ครัวหินสังเคราะห์ (Solid Surface) สีขาวจาก Index พร้อม Backsplash และอุปกรณ์ประกอบจาก Hafele & MEX พื้นไวนิลลายก้างปลา (Herriring Bone) และ กระเบื้อง Porcelain สุขภัณฑ์สี Rose Gold จาก Kohler & COTTO เป็นต้น

การออกแบบ :

การออกแบบโครงการมีเอกลักษณ์ความเป็น Minimal Luxury อยู่ทั่วทั้งโครงการภายนอก พื้นที่ส่วนกลางและภายในห้อง โดยมีการเลือกใช้สีโทนขาว ลายหินอ่อน และแซมด้วยแถบโลหะสี Rose Gold ทำให้ดูมีความเรียบหรู หวานๆ ในทุกๆพื้นที่

การวางผังอาคารทั้ง 2 อาคารเป็นรูปตัว L หันเข้าหากันมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ตรงกลางเพื่อเป็นวิวให้กับห้องพักอาศัยด้านใน ทำให้ห้องมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจุดสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือทางโครงการมีการวางผังห้องแต่ละ Type ในตำแหน่งที่แตกต่างกันชัดเจน เช่นห้องขนาดใหญ่ 2 Bedroom จะเป็นห้องที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูงไม่ติดกับใคร และมองเห็นวิวสระว่ายน้ำภายในได้ชัดเจน ห้องเล็กอย่างเช่นห้อง 1 Bedroom เป็นห้องที่ส่วนใหญ่หันออกด้านนอกโครงการมองเห็นวิวคลองและชุมชนพักอาศัย เป็นต้น

การออกแบบภายในห้องทำให้ลงตัวทีเดียวค่ะ มีการแบ่งพื้นที่การใช้งานชัดเจนในทุก Function ได้ห้องครัวปิดทำอาหารได้จริง จุดเด่นคือพื้นที่ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ และการดีไซน์ช่องเปิดเป็นหน้าต่างบานเปิดคู่สูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน ทำให้ห้องโปร่ง มองเห็นวิวได้กว้าง และเหมาะกับคนที่ชอบเปิดรับอากาศธรรมชาติภายนอกค่ะ

สาธารณูปโภค :

สาธารณูปโภคในโครงการนี้ถือว่าให้มาแบบจัดเต็มพอสมควร มีพื้นที่นั่งเล่น นั่งทำงาน พักผ่อนตามมุมต่างๆอยู่เยอะ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าวัย 30 ต้นๆที่เป็นวันทำงาน มีความยืดหยุ่นสูง ทางโครงการยังนำร้านกาแฟ Real Cafe มาเปิดให้บริการกับลูกบ้านด้วย นอกจากนั้น Facility พื้นฐานอย่าง Fitness สระว่ายน้ำก็ทำออกมาขนาดใหญ่ น่าใช้งานโดยเฉพาะสระว่ายน้ำที่มีความยาวต่อเนื่องกัน 50-70 เมตร เราสามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้จริง มีจุดแช่น้ำ Jacuzzi และสระเด็กแยกต่างหากมาให้ พร้อมสวนชั้น Rooftop ของอาคาร B ให้เปลี่ยนบรรยากาศมานั่งเล่นชมวิวมุมสูงกันได้


Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 160,000 บาท/ตร.ม., 21 กันยายน 2564

  • ทำเล 7.5/10 – อยู่ในซอยมีความเงียบสงบ แต่ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – เดินทางสะดวกมีซอยลัดเลาะ และใกล้ทางด่วน
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – มีรถรับส่ง BTS ทองหล่อทุกชั่วโมง ไม่ไกลจากท่าเรือทองหล่อ และวินมอเตอร์ไซค์
  • วัสดุ 8/10 – Fully Furnished ดีไซน์สวย วัสดุเหมาะสมกับระดับราคา
  • แบบ 8.5/10 – ออกแบบได้ลงตัวมีเอกลักษณ์ชัดเจน ห้องพักอาศัยเป็นสัดส่วนได้ช่องแสง และ Walk-in Closet ขนาดใหญ่
  • สาธารณูปโภค 8.5/10 – Facility ให้เลือกใช้เยอะน่าใช้งาน

  • LUXURY CLASS
  • 7.77 / 10.00

CHAPTER ทองหล่อ 25 เหมาะกับใคร

โครงการ  Chapter ทองหล่อ 25 เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมทำเลทองหล่อที่ราคาเข้าถึงง่าย ชอบบรรยากาศเงียบสงบ ชอบลักษณะโครงการ Low Rise ที่มียูนิตต่ออาคารไม่มาก ชอบความ Minimal แต่เรียบหรู มีไลฟ์สไตล์ขับรถส่วนตัว ชอบแต่งตัว และชอบใช้งานพื้นที่ส่วนกลางหลากหลาย ห้องพักอาศัยโปร่ง เปิดรับลมชมวิวได้กว้าง และมีครัวปิดทำอาหารเองได้สบายๆ ในราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 24,000 บาท/เดือนขึ้นไป


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc