Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ คอนโด High Rise 32 ชั้น บนถนนราชพฤกษ์ ห่างจาก BTS บางหว้า 450 เมตร จาก AP [Walk-in รีวิว]

28 August 2020

• Aspire Sathorn-Ratchapruek (แอสปาย สาทร – ราชพฤกษ์)
• บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ (2014) จำกัด
• MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2020 ได้ที่นี่)
• โครงการตั้งอยู่ใน : ถนนราชพฤกษ์ เขตภาษีเจริญ
• ที่ดินประมาณ 4-3-16.6 ไร่
• คอนโด High Rise 32 ชั้น จำนวน 1 อาคาร
• จำนวนห้องพัก 1049 ยูนิต และ 1 ร้านค้า
• ที่จอดรถประมาณ 40% รวมจอดซ้อนคัน
• เริ่มก่อสร้าง :  2559
• แล้วเสร็จ : 2561
• 1 Bedroom 32 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.33 ล้านบาท
• 2 Bedrooms 46.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท
• ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร
• ราคาห้องเริ่มต้น 2.33 ล้านบาท / หรือตร.ม.ละ 72,812 บาท
• ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ 73,000 บาท/ตร.ม.
• เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
• Call Center: 1623

ที่ตั้งโครงการ Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ ตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์ ใกล้กับถนนเทอดไท ห่างจากรถไฟฟ้าบางหว้า ซึ่งเป็นสถานี Interchange ในระยะ 450 เมตร ประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับทำเลของโครงการมีดังนี้ครับ

• โครงการอยู่บนถนนราชพฤกษ์ฝั่งขาออกเมืองก็จริง แต่อยู่ติดกับทางกลับรถใต้สะพานจึงเข้าเมืองได้สะดวกไม่ต่างกับอยู่ฝั่งเข้าเมืองเลย รวมกับที่จอดรถประมาณ 40% ถือว่าก็แอบน้อยอยู่เหมือนกัน แต่มีรถไฟฟ้าเป็นทางเลือกเสริมในการเดินทาง จึงไม่เป็นปัญหานัก
• ด้วยความที่ติดกับทางกลับรถใต้สะพาน จึงทำให้เข้าเมืองได้ง่ายก็จริง แต่ถ้าจะไปทางถนนเพชรเกษม จะต้องใช้ถนนเทอดไทเพื่อลัดเลาะข้ามคลองไป เป็นถนนสองเลนทำให้อาจจะลำบากและเสียเวลาหน่อย
• นอกจากการใช้รถยนต์แล้ว ระบบขนส่งอย่างรถไฟฟ้าก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ สามารถเดินไปใช้งานได้ในระยะ 450 เมตร แต่ข้อจำกัดก็มีเช่นกันเพราะต้องเดินเท่านั้น เนื่องจากเส้นทางจะเป็น Sky Walk ข้ามคลองภาษีเจริญไป ถ้ารีบเร่งก็เรียกวินมอเตอร์ไซค์ไปไม่ได้
• บรรยากาศของเส้นทางจากโครงการเดินไปรถไฟฟ้า มีการปรับสภาพให้ดูเรียบร้อยมากขึ้น แต่ก็ยังมีจุดอับเพราะเป็นทางที่อยู่ใต้สะพาน ใกล้คลอง ทำให้ถ้าเป็นผู้หญิงและต้องใช้งานตอนกลางคืนอาจจะรู้สึกเปลี่ยวได้ (ส่วนตัวไม่ใช่คนพื้นที่ก็แอบคิดว่ากลางคืนก็น่ากลัวเหมือนกัน แต่ถ้าผู้อ่านคนไหนเป็นคนคุ้นชินทำเลนี้ ลอง Comment มาเล่าเรื่องบรรยากาศเส้นทางนี้เพิ่มเติมได้นะครับ)
• ความอุดมสมบูรณ์ เช่น ร้านอาหาร หรือว่า ร้านสะดวกซื้อ ยังไม่เห็นในระยะเดินสบายนะครับ แนะนำว่าอาจจะต้องซื้อก่อนกลับบ้านมาเลยหรือพึ่งพาร้าน  7-eleven ภายในโครงการแทน

พิกัด Google Maps : 13.716917, 100.458819
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

Aspire สาทร – ราชพฤกษ์  ตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์ ใกล้ช่วงที่ตัดกับถนนเทอดไท อยู่ในฝั่งขาออกที่เป็นทางกลับรถพอดี (ไม่ต่างจากฝั่งขาเข้าเมืองเลย) สามารถเดินทางไปยังถนนสาทรใต้ได้โดยผ่านสะพานตากสินในระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร หรือถ้าใครทำงานย่านพระราม 3 ก็สามารถใช้งานสะพานกรุงเทพได้ โดยผ่านถนนรัชดาภิเษก พูดง่ายๆว่าเป็นฝั่งที่เข้าเมืองได้สะดวกเลยทีเดียว

รถไฟฟ้า ตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าบางหว้า ซึ่งเป็นสถานี interchange ระหว่างรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว กับรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ดังนั้นในแง่การใช้งานก็จะมีตัวเลือกในการเดินทางหลากหลายขึ้นครับ พร้อมทั้งมี Skywalk มาตั้งให้ที่หน้าโครงการเลย

บรรยากาศเส้นทางเดินทางไปโครงการ ถึงแม้จะอยู่ไกลกว่าเพื่อนหน่อยแต่ก็มีข้อได้เปรียบที่มี Sky Walk มาตั้งให้ถึงหน้าโครงการเลย ทำให้เวลาฝนจะตกหรือแดดออกก็สามารถใช้งานรถไฟฟ้าได้ตลอด แต่มีข้อจำกัดตรงที่ต้องเดินเท่านั้น ถ้านั่งรถหรือวินไปก็อาจจะอ้อมสักหน่อยนะครับ เส้นทางก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย อย่างที่เห็นกันใน Gellery ด้านบน

การเดินทางด้วยเรือ : เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจเหมือนกัน โครงการเดินเรือในคลองภาษีเจริญเป็นการขยายเส้นทางการเดินเรือโดยสารโดยเริ่มต้นที่คลองแสนแสบช่วงต่อขยาย(วัดศรีบุญเรือง – มีนบุรี) ต่อมาได้พัฒนาการเดินเรือในคลองภาษีเจริญ จากท่าเทียบเรือประตูน้ำภาษีเจริญไปจนถึงเพชรเกษม 69 รวมทั้งหมดจำนวน 15 ท่า ระยะทางประมาณ 11.50 กิโลเมตร ซึ่งโครงการของเรา ตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือ P4 ท่าสะพานตากสิน-เพชรเกษม (ท่าเรือบางหว้า) มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 200 เมตร

ความอุดมสมบูรณ์ :  จากที่ผมลองเดินดูรอบๆ เราไม่เห็นร้านสะดวกซื้อหรือร้านอาหารเท่าไรนะครับ สำหรับคนที่จะมาอยู่คงต้องหาซื้อของกินจากที่เรียน ที่ทำงาน หรือว่ารอบๆสถานีก่อนกลับบ้านแทน แต่ในโครงการมี 7-eleven แบบหยอดเหรียญมาให้ หรือถ้าใครประกอบอาหารเป็นก็ซื้อมาทำเองก็ได้ครับ

ส่วนเรื่องร้านฝากท้องในระยะที่ห่างออกมาหน่อย บนถนนเพชรเกษมเองก็มีร้านค้าร้านอาหารเรียงรายตลอดแนวถนนเลย หรือถ้าขับรถออกมาจากโครงการเราสามารถใช้ถนนเทอดไทไปหาของกินอร่อยๆในพื้นที่โดยรอบได้ เช่น ตลาดเสนีย์ (ประมาณ 1.6 กม.), ตลาดพลู (ประมาณ 2.4 กม.) หรือจากถนนราชพฤกษ์ก็สามารถใช้เดินทางไปยังโซนท่าพระได้ (ประมาณ 3.2 กม.) บริเวณนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งห้างใหญ่ของคนแถวนี้เลย และอีกโซนคือบางแค (ประมาณ 8.3 กม.ด้วยรถยนต์, 3.5 กม.จากสถานีรถไฟฟ้า) บนถนนเพชรเกษมเองก็จะมีตลาดบางแคหรือ The Mall บางแคอยู่เช่นกัน เป็นตัวเลือกให้ใช้งานได้นะครับ

Highlight

• อาคาร High Rise 32 ชั้น 1,049 ยูนิต จัดเป็นโครงการที่มีจำนวนยูนิตสูงที่สุดในย่านนี้
• ส่วนกลางจัดไว้ 3 ชั้น อยู่ที่ชั้น 1, 8 และ ชั้น 32 (ชั้นบนสุด) แบบทั้งชั้น สามารถชมวิวได้รอบด้าน
• การจัดการด้วยนิติบุคคลของ SMART ในการดูแลโครงการ มี Application เสริมในการอำนวยความสะดวกของลูกบ้าน และอื่นๆอีกมากมาย

Project Overview

โครงการ Aspire สาทร – ราชพฤกษ์ เป็นอาคาร High Rise สูง 32 ชั้น สร้างอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 4 เกือบจะ 5 ไร่ มีจำนวนห้องพักอาศัยทั้งหมด 1,049 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต โดยพื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการจะแบ่งเป็น 3 ชั้นคือ ชั้น 1, 8 และชั้น 32 แบบทั้งชั้นเลย สามารถชมวิวได้แบบรอบด้านเลยครับ

ชั้น 1 : Lobby Lounge, Co-Working Space, Smart Locker
ชั้น 1-7 : ที่จอดรถประมาณ 40% รวมจอดซ้อนคัน
ชั้น 8 : ห้องพักอาศัย และ พื้นที่ส่วนกลางประกอบด้วย สระว่ายน้ำ, jacuzzi, ห้องน้ำแยกชายหญิงมี sauna ภายใน และห้องออกกำลังกาย
ชั้น 8-31 : ห้องพักอาศัย
ชั้น 32 : Eco Jogging Track, Multi-Sports Courtyard, Urban Sky Farm, Observation Deck

โครงการ Aspire สาทร – ราชพฤกษ์ เป็นโครงการที่มีทางเข้า-ออก 2 ทาง จะแยกเป็นทางเข้าออกรถยนต์หลักจากถนนราชพฤกษ์ และทางเข้าออกสำหรับทางเดินเท้าที่เชื่อมต่อกับ Sky Walk ของรถไฟฟ้า ซึ่งจะมีการดูแลเข้าออกอย่างมิดชิดด้วย Keycard Access และมีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดครับ ส่วนพื้นที่จอดรถจะมีทั้งภายในอาคาร และด้านหลังอาคาร

Facilities

ที่ชั้น 1 ภายในอาคารจะจัดเป็นพื้นที่ส่วนกลางผสมกับพื้นที่จอดรถ เป็นพื้นที่ลักษณะต้อนรับและพักคอย รวมไปถึงมีมุมให้นั่งเล่น นั่งทำงานแบบเป็นส่วนตัวอยู่ด้วยเช่นกัน พร้อมพื้นที่สนับสนุนต่างๆ อย่าง Smart Locker, ร้านค้าหยอดเหรียญจาก 7-Eleven

ส่วนที่จอดรถจะมีทั้งกลางแจ้งและในอาคารเลย ส่วนภายในอาคารจะมีจุด Drop-off ที่เอาไว้รับส่งผู้โดยสาร

อีกอย่างที่น่าสนใจของโครงการคือ การจัดการของ AP คือการมีผู้ดูแลประจำในโครงการในนามของ SMART ที่จะเข้ามาดูแลส่วนต่างๆของโครงการ ซึ่งจริงๆแล้ว SMART ก็ทำหน้าที่เป็นนิติบุคคลนั่นแหละครับ แต่ที่น่าสนใจคือการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้งานร่วมกัน ให้ลูกบ้านสามารถสื่อสารกับ SMART ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นผ่าน Appication ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การรับข่าวสาร, การแสดงข้อคิดเห็นหรือสอบถามปัญหา ตลอดจนดูแลในเรื่องของการซ่อมบำรุงทั้งพื้นที่ส่วนกลาง และที่พักอาศัย ไปจนถึงบริการต่างๆ เช่น รับพัสดุแทนให้ หรือให้คำปรึกษา ช่วยติดต่อ รปภ. โรงพยาบาล ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

คลิกอ่านข้อมูลเพิ่มเติมของระบบ SMART ได้ ที่นี่

ต่อมาที่ชั้น 8 จะเป็นชั้นพื้นที่ส่วนกลางหลักของโครงการและก็มีส่วนของห้องพักอาศัยอยู่ด้วย 31 ยูนิต แต่แยกสัดส่วนการเข้าใช้งานกันอย่างชัดเจน ซึ่งจะมีห้องที่ได้วิวสระว่ายน้ำด้วย 2 ห้องมุมฝั่งทิศตะวันตก โดยชั้นนี้จะมีส่วนกลางที่มีความ Active เช่นพวก ฟิตเนส ห้องน้ำแยกชายหญิง และ Sauna มีสระว่ายน้ำที่เป็นระบบเกลือ ขนาด 25 x 7 เมตร มี Jacuzzi พร้อมสระเด็กในตัว ซึ่งเป็นสระที่มีทั้งส่วนว่ายจริงจังออกกำลังกาย หรือจะเป็นมุมพักผ่อน

ที่ชั้น 32 ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของอาคาร จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางให้ทั้งชั้นเลย โดยจะจัดเป็นพื้นที่สีเขียว และพื้นที่กิจกรรม ชั้นนี้จะต้องเดินขึ้นมานะครับ ไม่ได้มีลิฟต์มาถึง โดยจะประกอบไปด้วย Eco Jogging Track, Multi-Sports Courtyard, Urban Sky Farm, Observation Deck หรือพูดรวมๆก็เป็นพื้นที่ออกกำลังกาย พักผ่อน และรับวิวโดยรอบไปด้วยกันครับ

วิเคราะห์ห้องพักอาศัยและวิวรอบๆโครงการ

สำหรับการออกแบบห้องพักของที่นี่โดยรวมส่วนใหญ่จะเหมือนกันทุกชั้น โดยที่ผมจะยกมาให้ดูเป็นผังของชั้น 10-28 นะครับ มีจำนวนห้องอยู่ 40 ยูนิตต่อชั้น ซึ่งก็ถือว่าเยอะอยู่เหมือนกัน มีลิฟต์โดยสารอยู่ 5 ตัว หรือเทียบเป็นอัตราส่วน ลิฟต์ 1 ตัวต่อห้อง 210 ห้อง ซึ่งก็จัดว่าหนาแน่น ในเวลาเร่งด่วนก็อาจจะต้องรอบ้างนิดหน่อยนะครับ ในส่วนของทางเดิน จะเป็นแบบ Double Corridor คือมีห้องอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง แต่ก็ออกแบบให้ประตูห้องส่วนใหญ่ไม่อยู่ตรงกับห้องฝั่งตรงข้าม จะช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวได้บ้างเล็กน้อย และปลายทางเดินกับส่วนที่เป็นโถงลิฟต์ตรงกลางจะเป็นช่องแสงและช่องระบายอากาศให้กับทางเดิน ตรงนี้ถือว่าดีเลย ทางเดินจะได้ไม่มืดและอับชื้น และช่วยลดค่าไฟได้ด้วย (จะไปมีผลในค่าส่วนกลาง)

ส่วนการวางรูปแบบห้อง ที่จะมีขนาดห้องที่ค่อนข้างใหญ่ เพราะอย่างห้องที่เยอะที่สุดอย่าง 1 Bedroom ก็เริ่มที่ 32 ตร.ม. แล้ว เรียงตามแนวกลางของตัวอาคารให้เลือกในทุกฝั่งเลย มีห้อง Studio (ที่ขายหมดไปแล้ว) ชั้นละ 2 ยูนิต ส่วนห้องแบบ 2 Bedrooms มักจะจับจองตำแหน่งมุมต่างๆเอาไว้ เพราะสามารถออกแบบให้ห้องเปิดช่องแสงและหน้าต่างได้ 2 ด้าน การใช้งานภายในห้องก็จะสบายมากขึ้นครับ ตำแหน่งที่น่าสนใจคือโซนห้องที่อยู่มุมทางทิศตะวันออก ที่จะมีอยู่ 4-5 ห้อง พวกนี้จะอยู่ใกล้ลิฟต์แถมเป็นส่วนตัว เพราะแนวทางเดินสั้น ไม่มีใครเดินผ่านหน้าห้องเยอะ และได้ช่องแสงที่สว่างบริเวณหน้าห้องแน่ๆ

วิวแต่ละทิศรอบๆโครงการ

เราลองมาดูเรื่องวิวกันต่อเลยครับ โดยวิวของโครงการเราจะมีห้องที่หันออกไปทุกทิศเลย แต่ด้วยตำแหน่งของโครงการจะอยู่ในทำเลที่ยังไม่มีอาคารสูงหรือคอนโดมิเนียมขึ้นเยอะนัก ส่วนใหญ่วิวรอบ ๆ จึงเป็นที่โล่งแทบทุกทิศเลย แต่จะมีโครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ สาทร-ราชพฤกษ์ ที่เพิ่งเริ่มก่อสร้างอยู่ทางฝั่งตรงข้าม จัดเป็นคอนโดสูงที่อยู่ใกล้สุดแล้วครับ

Highlight

โครงการ Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ โดยปกติแล้วจะมีแบบห้องให้เลือกหลาย Layout หลายขนาด แต่ก็ขายมาสักพักใหญ่ๆแล้ว จึงทำให้เหลือแบบห้องให้เลือกในปัจจุบันเพียง 2 แบบเท่านั้น คือ 1 Bedroom 32 ตร.ม. (เริ่มต้น 2.33 ล้านบาท) และ 2 Bedrooms 46.5 ตร.ม. (เริ่มต้น 3.39 ล้านบาท) แต่อย่างไรก็ตาม ผมมองว่าจุดเด่นในเรื่องห้องพักอาศัยของโครงการนี้ยังอยู่นะ

• ถ้าพูดถึงระดับราคาแล้ว จะได้ขนาดพื้นที่ใช้สอยภายในห้องที่ค่อนข้างกว้าง เพราะอย่างที่เห็นว่าเราก็เริ่มกันที่ 32 ตร.ม. ในราคา 2.33 ลบ. ถ้าลองไปดูราคานี้กับโครงการโดยรอบ “ส่วนใหญ่” ก็จะเห็นว่าได้ขนาดพื้นที่ใช้สอยน้อยกว่านี้นะครับ
• อีกเรื่องคงจะเป็นเรื่องของวัสดุภายในห้องเพราะปัจจุบันโครงการจะขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์จาก SB Furniture และเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ด้วยเลย และวัสดุที่ได้มาก็ค่อนข้างดูดีเมื่อเทียบกับโครงการส่วนใหญ่ในแถวนี้ เช่นมีเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันให้ประกอบอาหารได้ (2-3 โครงการในละแวกนี้ไม่มีให้นะ), ห้องน้ำสำเร็จรูป, พื้นลามิเนตและกระเบื้องแกรนิตโต้ เป็นต้นครับ

Product Overview

Aspire สาทร – ราชพฤกษ์ มีรายละเอียดรูปแบบห้องขายทั้งหมดดังนี้

• 1 Bedroom 32 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.33 ล้านบาท
• 2 Bedrooms 46.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท

ห้อง 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.

สำหรับห้องตัวอย่างแรกที่จะพาไปชมกันเป็น 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม. เป็นแปลนที่หลายๆคนคงจะคุ้นตากันดีอยู่แล้วนะครับ ภายในจะแบ่งพื้นที่ใช้สอยออกเป็นสัดส่วนได้ดีเลย ได้ห้องนั่งเล่นที่มีระยะดูทีวีค่อนข้างกว้าง ได้ครัวปิดติดระเบียงที่ทำให้สามารถประกอบอาหารได้อย่างเต็มที่ ห้องน้ำสำเร็จรูปที่แยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้อย่างดี และห้องนอนที่สามารถวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะหัวเตียงได้สบายๆ

โดยห้องนี้จะใช้พื้นที่ห้องนั่งเล่นเป็นส่วนเชื่อมและแจกไปยังส่วนต่างๆ ทำให้แต่ละพื้นที่แบ่งความเป็นส่วนตัวออกจากกันได้ดี ในขณะเดียวกันก็เข้าถึงกันได้ง่าย ใช้ห้องน้ำได้ไม่ยากจากทุกส่วน โดยห้องนั่งเล่นจะได้ช่องแสงหลักจากทางห้องครัว และห้องนอนก็ปิดเป็นบนทึบไปเลย แยกความเป็นส่วนตัวออกไป ในกรณีที่ต้องรับแขกก็ไม่ต้องรบกวนกันครับ

Living Area

สำหรับห้องนี้ ส่วนแรกที่เราจะเจอเลยคือ Living Area ประกอบด้วยพื้นที่สำหรับจัดมุมนั่งเล่น พักผ่อน หรือรับแขกได้ ส่วนพื้นที่รับประทานอาหารจะเข้าไปอยู่ในห้องครัวแทน ซึ่งจะมีข้อดีที่จำกัดพื้นที่ได้เป็นสัดส่วน ไม่ต้องออกมาเลอะภายนอก ทานเสร็จก็ล้างภายในครัวไปเลย หรือถ้าจะอยากทานไปด้วยดูทีวีไปด้วยก็ยังสามารถยกออกมาทานที่โซฟาได้ครับ โดยพื้นที่ตรงนี้สามารถวางโซฟาแบบตัว L และโต๊ะกลางได้ สามารถรองรับการใช้งานได้หลายคน

ด้านข้างจะเป็นช่องแสงหลักของห้องทางห้องครัวครับ ซึ่งก็ได้กระจกสูงถึงฝ้าในความสูง 2.55 เมตร มาด้วยเลย ทำให้พื้นที่ภายในห้องสว่างอย่างเพียงพอ ทำให้สามารถทำประตูห้องนอนเป็นประตูทึบ แยกความเป็นส่วนตัวไปเลยได้สบายๆ

ส่วนอีกฝั่งจะเป็นพื้นที่วางทีวี ซึ่งจะได้ชั้นวางทีวีที่สามารถเก็บรองเท้ามาด้วยได้ ทำให้ไม่ต้องไปสกปรกพื้นที่อื่นๆภายในห้อง ด้านหลังมีทางเข้าห้องน้ำครับ จะเห็นว่าพื้นห้องน้ำจะสูงกว่าพื้นห้อง ซึ่งเป็นห้องน้ำสำเร็จรูป ข้อดีคือจะถูกควบคุมคุณภาพมาจากโรงงานแล้ว และเวลาเสียหายก็สามารถแก้ไขได้ง่ายกว่าห้องน้ำปกติ

รูปแบบการขายปัจจุบันจะได้เฟอร์นิเจอร์และแอร์มาให้พร้อมเลย ไม่ต้องเผื่องบประมาณสำหรับตกแต่งภายในกันเพิ่มมากเลยนะ

Kitchen + Balcony

สำหรับครัวของห้องนี้จะได้มาเป็นครัวปิดติดระเบียง ซึ่งทำให้สามารถประกอบอาหารเองได้แบบเต็มที่เลย เหมาะกับทำเลโครงการที่ในระยะเดินไม่ค่อยมีร้านอาหารให้บริการเท่าไหร่นัก ภายในจะมีชุด Built-in มาให้ทางซ้ายมือ เป็นเคาน์เตอร์ และอ่างล้างจาน พร้อมเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันมาให้ พื้นที่ส่วนนี้จะเปลี่ยนรูปแบบพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาดเช็ดถู และยังมีขนาดที่รองรับการวางโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่ง ที่ทางโครงการก็แถมมาให้ได้ด้วยนะครับ

Bathroom

ตำแหน่งของห้องน้ำจะอยู่เรียกว่ากลางห้องก็ว่าได้ เพราะสามารถเข้าถึงได้ง่ายจากทุกพื้นที่เลย ทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอน สิ่งที่จะพิเศษของห้องน้ำห้องนี้คือเป็นห้องน้ำสำเร็จรูป อาจจะมีบางคนที่ยังรู้สึกว่าไม่ชอบห้องน้ำสำเร็จรูป แต่ปัจจุบันห้องน้ำสำเร็จรูปก็พัฒนามาไกลแล้วนะครับ ลองอ่านบทความเพิ่มเติมได้ > “ห้องน้ำสำเร็จรูป” แตกต่างจากห้องน้ำทั่วไปอย่างไร ?

สำหรับห้องน้ำผมว่าวัสดุ อุปกรณ์ต่างๆดูดีเลยนะครับ เมื่อเทียบกับราคาคอนโดเรทนี้นะ ตั้งแต่ได้สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆจาก American Standard มีฉากกั้นอาบน้ำแบบ 3 ตอนมาให้ รวมถึงก่อผนัง Low Wall ไว้ให้หลายจุด เพื่อวางของและอุปกรณ์อาบน้ำได้ด้วย

Bedroom

ห้องนอนจะเป็นอีกฟังก์ชันที่อยู่ด้านในของห้อง ทำให้ได้หน้าต่างในตัวและสามารถรับแสงสว่างได้ ขนาดภายในห้องก็จัดมาสำหรับอยู่ 1-2 คนได้ มีส่วนของตู้เสื้อผ้า และสามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้ ส่วนผนังปลายเตียงก็แขวนทีวีแล้วเหลือทางเดินได้สบายๆ

ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 44.5 ตร.ม.

มาดูห้องตัวอย่างห้องที่ 2 กันต่อเลย ห้องนี้จะเป็นห้อง 2 Bedrooms ขนาด 46.50 ตร.ม. ที่จะมีตำแหน่งอยู่ที่มุมอาคาร โดยจุดเด่นของห้องนี้คือจะเป็นห้องหน้ากว้าง ที่จัดฟังก์ชันภายในค่อนข้างเป็นสัดส่วนเช่นเดิม ทั้งห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ที่รวมพื้นที่รับประทานอาหารไว้ด้วยเลย ได้ช่องแสงของตัว ห้องครัวเป็นครัวปิดติดระเบียงทำอาหารได้สบายๆเช่นเดิม รวมถึงห้องนอนทั้งสองห้องจะได้ช่องแสงในตัว แถมยังมีประตูทางเข้าเป็นประตูทึบ แยกความเป็นส่วนตัวออกไปได้เลย และห้องน้ำของห้องนี้ก็สามารถเข้าออกได้สองทางด้วย ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวก และไม่รบกวนความเป็นส่วนตัวของแต่ละพื้นที่ด้วย

Living Area

ยังคงใช้แนวคิดเดิมในการวางผังห้อง เหมือนห้องที่แล้วครับ ที่จะใช้พื้นที่ Living Room เป็นตัวแจกไปยังส่วนต่างๆ โดยเปิดประตูห้องมาจะเจอกับส่วน Living Room ก่อนเลย พื้นที่ส่วนนี้จะรวมพื้นที่รับประทานอาหารไว้ให้ด้วย สำหรับ 4 ที่นั่ง แถมด้วยความที่เป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวยาว ทำให้แยกส่วนนั่งเล่นไปชิดหน้าต่างเลย แบ่งพื้นที่ภายในชัดเจนดีครับ

ครัว

พื้นที่นี้เป็นส่วนที่ผมชอบที่สุดในห้องนี้เลยครับ เพราะให้ขนาดมากว้างมากจริงๆ ได้เคาน์เตอร์ทั้ง 2 ฝั่ง มีพื้นที่วางตู้เย็น และเครื่องซักผ้าไว้ในนี้ได้สบายๆ แถมยังเหลือพื้นที่ให้เข้าออกระเบียงได้สะดวก การแยกเคาน์เตอร์ออกเป็น 2 ฝั่ง นอกจากจะจัดเป็นสัดส่วนดีแล้ว ยังทำให้สามารถใช้งานได้ทีละหลายคน และวัสดุที่ได้มาก็จะเหมือนกันกับห้องที่ผ่านมานะครับ

Bathroom

มาดูส่วนห้องน้ำกันบ้างครับ เป็นห้องน้ำสำเร็จรูปเช่นเคย โดยที่วัสดุภายในที่จะได้จะเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่จะต่างตรงที่สามารถเข้าออกได้ 2 ฝั่งครับ

Master Bedroom 

มาดูที่ห้องนอนหลักของห้องนี้กันต่อเลย เป็นห้องที่มีขนาดกว้างมากครับ ภายในจะวางได้ทั้งตู้เสื้อผ้า และวางโต๊ะทำงานได้สบายๆ ด้วย แถมยังมีช่องแสงภายในให้พร้อมเช่นเดิม

Second Bedroom

ส่วนห้องนอนรองอีกห้องจะเข้าจากทางพื้นที่นั่งเล่นครับ ห้องนี้ถึงจะเป็นห้องนอนรองแต่ก็มีจุดเด่นพิเศษเหมือนกันนะครับ เพราะนอกจากจะมีแนวกระจกขนาดใหญ่ และพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าแล้ว ก็จะมีกระจกเข้ามุมให้ด้วย

และนี่ก็เป็นห้องตัวอย่างทั้ง 2 ห้องที่เราพาไปดูในรีวิวนี้ คุณผู้อ่านชอบห้องไหนกันครับ สำหรับส่วนตัวผมแล้ว ผมชอบทั้ง 2 ห้องเลย เพราะด้วยขนาดพื้นที่ใช้สอยที่เทียบกับราคาเริ่มต้นที่ 2.33 และ 3.39 ลบ. นี้ เรียกว่าเป็นสินค้าที่หาไม่ง่ายเหมือนกันนะในทำเลนี้ แถมยังเป็นการจัดวางฟังก์ชันภายในมาแบบที่ค่อนข้างลงตัวเลยล่ะครับ 🙂

สรุปวัสดุและของแถมภายในห้อง

• พื้น : ลามิเนต หนา 8 มม. และ กระเบื้องแกรนิตโต้ (ในห้องน้ำและห้องครัว)
• ครัว : หินสังเคราะห์ Built-in + อ่างล้างจาน เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน
• ผนัง : ฉาบเรียบทาสี และกระเบื้องแกรนิตโต้ (ในห้องน้ำ)
• ห้องน้ำ : ห้องน้ำสำเร็จรูป สุขภัณฑ์ของ American Standard, เครื่องทำน้ำอุ่น, ฉากกั้นอาบน้ำแบบ 3 ตอน กระจกนิรภัย
• ฝ้าเพดาน : สูง 2.55 เมตร ฉาบเรียบ ติดไฟดาวน์ไลท์
• ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ (ขนาดของ BTU เหมาะกับขนาดพื้นที่ภายในห้อง)

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักๆที่น่าสนใจของคอนโดนี้ คือคนที่ทำงานในย่านสีลม-สาทร ที่อยากลดค่าใช้จ่าย ยอมกระเถิบออกมาห่างหน่อย เพราะส่วนใหญ่ถ้ามองหาคอนโดใกล้รถไฟฟ้า ก็มักจะมาดูคอนโดทางฝั่งธนบุรีนี้เนื่องจากเป็นแนวรถไฟฟ้าที่เดินทางสะดวก และไม่ต้องเปลี่ยนขบวนให้วุ่นวาย แต่เรทราคาคอนโดที่ขึ้นบริเวณสถานีที่ใกล้กับสีลม-สาทรนั้น ก็เริ่มจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นสถานีสุดสายอย่างบางหว้า จึงกลายเป็นสถานีที่ราคายังไม่สูงมากนัก แถมเป็นสถานี Interchange ด้วย

สำหรับเรื่องการเงินนั้น เรามองว่าคนที่อยากได้คอนโดนี้น่าจะมีงบประมาณ 2.5-4.5 ล้านบาทโดยประมาณ หรือว่ามีกำลังผ่อนอยู่ที่  20,000-32,000 บาทต่อเดือนครับ

ตัวอย่างราคาห้องพักอาศัยในโครงการ Aspire สาทร – ราชพฤกษ์ ณ วันที่ 28 ส.ค. 2563

• 1 Bedroom ขนาด 32.2 ตร.ม. ยูนิต A28B06 ชั้น 28
  ราคา 2.33 ล้านบาท หรือ 72,360 บาท/ตร.ม.
• 2 Bedrooms ขนาด 46.74 ตร.ม. ยูนิต A12AE08 ชั้น 12 A
  ราคา 3.39 ล้านบาท หรือ 72,529 บาท/ตร.ม.

ตัวอย่างเรทราคาคอนโดติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า
พอเราลองมาเทียบราคาดูจะเห็นว่าช่วงราคาต่อตร.ม.ของ Aspire สาทร – ราชพฤกษ์ จะอยู่ที่ประมาณ 73,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งจัดว่ายังถูกกว่าโครงการติดถนนใหญ่ทั้งหมดในโซนนี้เลย
ดังนั้นเราจึงคิดว่า”ราคา“เป็นอีกจุดเด่นของโครงการนี้นะ

• รูปแบบการขาย Fully Furnished จาก SB Furniture และเครื่องใช้ไฟฟ้า
• ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร
• ครัว Built-in + อ่างล้างจาน + เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน
• ฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัย

ค่าใช้จ่ายต่างๆ

• จอง 5,000 บาท
• ทำสัญญา – บาท
• ค่ากองทุน 350 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 38 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

โครงการ Aspire สาทร – ราชพฤกษ์ เป็นโครงการใกล้รถไฟฟ้าสร้างเสร็จพร้อมอยู่แบบแถมเฟอร์ฯและเครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อมย้ายเข้าได้เลย ที่มีราคาที่น่าสนใจ (เฉลี่ยประมาณ 7 หมื่นต้นๆ) เมื่อเทียบกับคอนโด High Rise ติดรถไฟฟ้าในย่านนี้ที่มักจะขายอยู่ที่ราคาประมาณ 8-9 หมื่นบาทต่อตร.ม. เพราะทำเลที่มีระยะห่างออกมาจากรถไฟฟ้ามากกว่าเพื่อนๆหน่อย อาจจะดูเงียบๆและหาอะไรทานยากนิดนึง แต่ยังใช้รถไฟฟ้าได้สะดวกอยู่ และเน้นประกอบอาหารเองได้ เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดสำหรับอยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้า เดินทางมายังโซนสีลมสะดวก ชอบรูปแบบห้องที่มีขนาดใหญ่ ดูโปร่งโล่ง อยู่อาศัยได้สบาย 1-2 คนสำหรับ 1 ห้องนอน หรือจะอยู่กันเป็นครอบครัวขนาดเล็กกับห้องแบบ 2 Bedrooms ได้ และมีส่วนกลางให้ใช้ครบ แต่ก็อย่าลืมนะครับว่าต้องอยู่อาศัยถึงพันกว่ายูนิตในโครงการ ถ้าไม่ติดตรงนี้ก็จัดเป็นโครงการที่น่าสนใจไม่น้อยเลยครับ 🙂