รีวิวฉบับที่ 2453 จะพาไปชมโครงการ Ideo Rama 9 – Asoke (ไอดีโอ พระราม 9 – อโศก ) คอนโด High Rise 36 ชั้น ใจกลางพระราม 9 ทำเลอยู่ติดถนนใหญ่ใกล้ MRT และห้างเซ็นทรัลพระราม 9 สำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดที่เดินทางง่าย อยู่ใกล้แหล่ง Lifestyle และ Shopping Mall ขนาดใหญ่ ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจนะคะ โดยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 3.49 ล้านบาท ซึ่งเร็วๆนี้โครงการก็จะมีงาน Open House ในวันที่ 19 – 20 พ.ย. นี้ด้วย หากใครสนใจ ก็สามารถเข้ามาแวะชม Highlights ที่เรารวบรวมมาให้ก่อนได้เลยค่ะ
- ทำเล : โครงการ Ideo Rama 9 Asoke ตั้งอยู่ระหว่างแยกพระราม 9 และแยกอ.ส.ม.ท. ใกล้ MRT สถานีพระราม 9 ประมาณ 450 เมตร สามารถเชื่อมต่อไปยัง Airport Rail Link และ Bts ได้ใน 1 – 2 สถานี อยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้า ทั้งเซ็นทรัล พระราม 9 และ Fortune Town เดินทางเข้า – ออกเมืองด้วยรถยนต์ก็ง่าย เพราะอยู่ใกล้กับทางพิเศษศรีรัช
- รูปแบบห้องพักอาศัย : มีห้องแบบ Duo Space ได้เพดานสูงถึง 4.5 เมตร รูปแบบห้องหลักมีให้เลือกได้แก่ Studio , 1 Bedroom และ 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 25.50 – 90.50 ตร.ม. เหมาะกับอยู่อาศัย 1 – 4 คนได้เลยค่ะ ความน่าสนใจอยู่ที่ห้อง 2 Bedroom ซึ่งมีขนาดถึง 90.50 ตร.ม. ถือว่าหาได้ยากในย่านนี้เลยนะคะ
- การออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง : ชั้น Facilities จะอยู่บริเวณ 3 ชั้นบนสุดของอาคาร แยกออกจากส่วนพักอาศัยอย่างชัดเจน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว และสามารถ Take View มุมสูงของเมืองได้แบบรอบด้าน โดยจุดเด่นอยู่ที่พื้นที่ส่วนกลางออกแบบมาเป็น Hybrid Space หรือฝ้าเพดานสูงทั้งหมด ทำให้บรรยากาศโปร่งโล่ง ดูกว้างขวางน่าใช้งานค่ะ
ข้อมูลโครงการ
Ideo Rama 9 – Asoke (ไอดีโอ พระราม 9 – อโศก) ณ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2565
ชื่อโครงการ | Ideo Rama 9 – Asoke (ไอดีโอ พระราม 9 – อโศก ) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนนพระราม 9 เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร |
ที่ดิน | 5-2-70.5 ไร่ |
ประเภทคอนโด | High Rise 36 ชั้น ห้องพักอาศัย 1,216 ยูนิต, ร้านค้า 2 ยูนิต และ Town Villa 4 ยูนิต |
จำนวนยูนิต | 1,222 ยูนิต |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 48 ยูนิต |
ที่จอดรถ | 528 คัน คิดเป็น 43% ( ไม่รวมจอดซ้อนคัน ) |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2562 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2565 |
ประเภทห้องพัก |
|
ฝ้าเพดานสูง | 2.70 เมตร ในแบบห้องปกติ และ 4.5 เมตร ในแบบห้อง Hybrid |
ราคาเริ่มต้น | 3.49 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 128,000 ตร.ม. |
ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด) | 128,000 – 150,000 บาท / ตร.ม. |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | ผ่าน EIA แล้ว |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
Call Center | 02 316 2222 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.755321, 100.567361
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการจะเห็นได้ว่า Ideo Rama 9 – Asoke (ไอดีโอ พระราม 9 – อโศก ) อยู่ติดถนนพระราม 9 ระหว่างแยกพระราม 9 และแยก อ.ส.ม.ท. จัดเป็นทำเลที่อยู่ใจกลางย่านพระราม 9 เลยทีเดียวค่ะ ซึ่งในย่านนี้รายล้อมไปด้วยอาคารสูงหลายแห่ง ทั้งอาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียมแหละแหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่ การเดินทางสะดวกสบายทั้งผู้ที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว และรถขนส่งสาธารณะ เพราะโครงการอยู่ใกล้ MRT พระราม 9 เพียง 450 เมตร สามารถเชื่อมต่อไปยัง Airport Rail Link และ BTS ได้ในระยะ 1 – 2 สถานีเท่านั้น
สำหรับถนนที่ใช้เข้า – ออกโครงการ Ideo Rama 9 Asoke จะใช้ถนนพระราม 9 เป็นหลัก ซึ่งเป็นถนนที่สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนหลักเส้นอื่นๆได้อีกหลายสาย ทั้งถนนรัชดาภิเษก ถนนสุขุมวิท และถนนเพชรบุรี จากแยกพระราม 9 เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ตัวเมืองไปฝั่งอโศก ทองหล่อ – เอกมัย ได้อย่างสะดวก นอกจากนี้โครงการยังอยู่ใกล้กับจุดขึ้น – ลงทางพิเศษศรีรัชถึง 2 ด่าน ทำให้การเดินทางสะดวกและรวดเร็วขึ้น แต่ในช่วงชัวโมงเร่งด่วน ก็ยังต้องเผื่อเวลาสักหน่อยนะคะ
ในแง่ความอุดสมบูรณ์ ย่านพระราม 9 จัดเป็นแหล่งที่มีความหลากหลายมาก มีทั้งโรงแรม ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน สถานศึกษาและโรงพยาบาลหลายแห่ง โดยเฉพาะแยกพระราม 9 ซึ่งถือเป็น Prime Area ของย่าน สามารถเชื่อมต่อกับแหล่ง CBD ของกรุงเทพฯอย่างอโศกและสุขุมวิทได้ มีห้างสรรพสินค้าที่เป็นแลนด์มาร์คอย่าง เซ็นทรัล พระราม 9 ซึ่งจากโครงการสามารถเดินไปใช้งานได้สะดวก และในอนาคตก็จะมี Mega Project อย่าง Bangkok Midtown และ The Gran Rama IX โครงการ Mixed Use ซึ่งจะมีความสูงเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน เรียกว่าเป็นทำเลที่มีความคึกคักและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องค่ะ
สำหรับการเดินทางเข้า – ออกโครงการ Ideo Rama 9 Asoke จะใช้ถนนพระราม 9 เป็นหลัก ซึ่งเป็นถนนที่สามารถเชื่อมต่อกับถนนหลักได้อีกหลายเส้นทาง จากทางพิเศษศรีรัช สามารถใช้ถนนประดิษฐ์มนูญธรรม เพื่อมุ่งหน้ายังถนนพระราม 9 ได้ ฝั่งถนนรัชดาภิเษกถ้ามาจากอโศก ถึงแยกพระราม 9 เลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่ถนนพระราม 9 หลังจากนั้นกลับรถเพื่อเข้าสู่โครงการได้ หรือหากมาจากฝั่งพหลโยธิน ถึงแยกพระราม 9 เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนพระราม 9 ตรงต่อมาอีกประมาณ 500 เมตร ให้กลับรถ ขับต่อมา 200 เมตร ถึงทางเข้าโครงการค่ะ
ซึ่งในวันนี้เราจะใช้เส้นทางจากถนนรัชดาภิเษก มุ่งหน้าจากพหลโยธินเพื่อเข้าสู่โครงการ Ideo Rama 9 Asoke
เส้นทางการเดินทาง
บรรยากาศเส้นทางจากถนนรัชดาภิเษก
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
โครงการ Ideo Rama 9 – Asoke (ไอดีโอ พระราม 9 – อโศก) ตั้งอยู่ติดถนนพระราม 9 รอบข้างมีอาคารสูงขึ้นค่อนข้างเยอะ ทั้งอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และคอนโดมิเนียม โดยเฉพาะในฝั่งทิศตะวันตก จึงจัดเป็นทำเลที่มีความคึกคักมาก แต่ด้วยการวางผังอาคาร ที่ดันทางเข้าส่วนพักอาศัยเข้ามาอยู่ด้านใน ทำให้ได้ความสงบและเป็นส่วนตัวจากภายนอกเพิ่มมากขึ้น
- ทิศเหนือ ติดกับถนนพระราม 9 ฝั่งตรงข้ามมี Unilever โครงการ One 9 Five สูง 61 ชั้น
- ทิศใต้ ติดกับทางพิเศษศรีรัช
- ทิศตะวันออก ติดกับที่พักอาศัยแนวราบ และอาคารที่พักอาศัยสูง 10 – 12 ชั้น
- ทิศตะวันตก ติดกับคอนโดมิเนียม Aspire Rama 9 สูง 25 ชั้น และที่พักอาศัยแนวราบ
บรรยากาศด้านหน้าถนนพระราม 9
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- Unilever ~ 100 เมตร
- เซ็นทรัล พระราม 9 ~ 450 เมตร
- Fortune Town ~ 450 เมตร
- Tesco Lotus Fortune Town ~ 750 เมตร
- ตลาดละลายทรัพย์รัชดา ~ 1.1 กิโลเมตร
- Show DC ~ 1.1 กิโลเมตร
- ตลาดนัดรถไฟรัชดา ~ 1.6 กิโลเมตร
- Esplanade Cineplex ~ 1.6 กิโลเมตร
- Big C Extra รัชดาภิเษก ~ 1.9 กิโลเมตร
- The Street รัชดา ~ 2.3 กิโลเมตร
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลพระราม 9 ~ 600 เมตร
- โรงพยาบาลผิวหนังอโศก ~ 800 เมตร
- โรงพยาบาลจักษุ รัตนิน ~ 1.4 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลปิยะเวช ~ 1.9 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ~ 2.5 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลกรุงเทพ ~ 3.9 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ~ 4.3 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลคามิลเลียน ~ 4.7 กิโลเมตร
โรงเรียน
- วิทยาลัยเทคโนโลยี ดอนบอสโก ~ 1.4 กิโลเมตร
- โรงเรียนเซนต์ดอมินิก ~ 1.4 กิโลเมตร
- โรงเรียนนานาชาติ NIST ~ 1.9 กิโลเมตร
- มศว.ประสานมิตร ~ 2.0 กิโลเมตร
- โรงเรียนสาธิต มศว.ประสานมิตร ~ 2.0 กิโลเมตร
- โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ~ 2.7 กิโลเมตร
- โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ~ 3.6 กิโลเมตร
- โรงเรียนบางกอก ทวิวิทย์ ~ 3.6 กิโลเมตร
- โรงเรียนนานาชาติ KIS ~ 3.9 กิโลเมตร
การเดินทาง
- MRT พระราม 9 ~ 500 เมตร
- ARL มักกะสัน ~ 1.2 กิโลเมตร
- ทางด่วนพิเศษศรีรัช ~ 11 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
โครงการ Ideo Rama 9 – Asoke (ไอดีโอ พระราม 9 – อโศก ) เป็นคอนโด High Rise สูง 36 ชั้น จำนวน 1,222 ยูนิต แบ่งเป็นห้องพักอาศัย 1,216 ยูนิต ร้านค้า 2 ยูนิตและ Town Villa 4 ยูนิต ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ ใจกลางพระราม 9 มีที่จอดรถรองรับ 528 คัน คิดเป็น 43% ซึ่งจุดเด่นของโครงการ Ideo Rama 9 Asoke อยู่ที่ทำเล ที่สามารถเดินทางได้อย่างสะดวก ใกล้ MRT พระราม 9 ประมาณ 450 เมตร โดยภาพรวมโครงการ ตั้งแต่ชั้น 2 – 7 จะเป็นพื้นที่จอดรถ ชั้นพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 8 – 35 พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่บนชั้น 36 , 36M และชั้น Rooftop เป็นสวนที่สามารถขึ้นไปนั่งพักผ่อนได้ สำหรับรายละเอียดต่างๆ เราจะมาเริ่มอธิบายกันที่ Master Plan ก่อนเลยค่ะ
ทางเข้า – ออกของโครงการ Ideo Rama 9 Asoke จะมีเพียงจุดเดียวคือจากฝั่งถนนพระราม 9 แบ่งเป็น 2 เลน ไม่มีจุดรักษาความปลอดภัย แต่มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้อยู่ค่ะ โดยเมื่อเข้ามาจะเจอกับ Town Villa จำนวน 4 ยูนิต ปรับเปลี่ยนเป็นโฮมออฟฟิศได้ ซึ่งถือว่าเหมาะมาก เพราะอยู่ใกล้ทางเข้า – ออก และด้านในยังมีร้านค้าไว้ให้บริการอีกด้วย โดยในที่ดินจะมีสะพานข้ามคลองเล็กๆ เมื่เข้ามาจึงเจอป้อมรักษาความปลอดภัย ถนนในโครงการจะเป็นแบบ One Way สามารถควบคุมการเข้า – ออกได้ง่ายค่ะ
บริเวณชั้น 1 จะประกอบด้วยส่วน Lobby ที่อยู่ด้านหน้าอาคาร , Co – Working Space และ Meeting Room ที่ลูกบ้านสามารถลงมาใช้งานได้ โดยในโครงการมีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 7 ตัว Service Lift 1 ตัว คิดเป็นสัดส่วน 97 : 1 ถือว่ายังไม่หนาแน่นมากค่ะ และโถงลิฟต์ยังแยกออกเป็น 2 จุด ลูกบ้านจึงสามารถเลือกใช้งานได้อย่างสะดวก ไม่ต้องรอลิฟต์รวมกันจุดเดียว รอบๆอาคารมีต้นไม้คอยให้ความร่มรื่น ด้านข้างเป็นส่วน Playground มีเครื่องเล่นและแป้นบาสเก็ตบอลให้ลูกบ้านลงมายืดเส้นยืดสายกันได้แบบ Outdoor
บรรยากาศบริเวณหน้าทางเข้า – ออกโครงการ Ideo Rama 9 Asoke ติดกับถนนพระราม 9 มีไม้พุ่มและต้นไม้ใหญ่คอยให้ความร่มรื่น สำหรับคนที่เดินเข้ามา ก็มีทางเท้าให้ใช้งานได้อย่างสะดวกนะคะ
ด้านหน้าจะเจอกับ Town Villa และร้านค้า ตอนนี้ที่ชั้น 1 จะเป็น 7-11 ค่ะ ซึ่งถือว่าช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกบ้านได้มาก ไม่ต้องเดินออกไปนอกโครงการไกลเลย
ก่อนเข้าคอนโดที่เป็นส่วนพักอาศัยจะมีป้อมรักษาความปลอดภัยตั้งอยู่ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล 24 ชั่วโมง โดยระบบในการเข้า – ออกจะเป็นแบบ Easy Pass ลูกบ้านไม่ต้องลงจากรถมาเพื่อแตะบัตร
ส่วน Lobby ตกแต่งด้วยรูปแบบที่ทันสมัย เพื่อให้เข้ากับแนวความคิด Life Work Play ซึ่งเป็นพื้นที่ของคนรุ่นใหม่ ที่เต็มไปด้วยพลังและความสนุกสนาน โทนสีที่ใช้จะเน้นเป็นสีเหลืองและสีน้ำเงิน ตัดด้วยโลหะหรือหินอ่อนที่มีความแวววาว เพื่อเพิ่มความสวยงาม
บริเวณ Lobby
นอกจากโทนสีแล้ว ยังมีการใช้เส้นสายมาร่วมด้วย เพื่อให้เกิดเป็นมุมมองที่มีมิติ ทำให้พื้นที่มีความน่าสนใจ ด้านข้างเป็นส่วน Co – Working Space มีทั้งโต๊ะที่นั่งทำงานคนเดียว และชุดโซฟาที่เอาไว้นั่งพักผ่อน หรือนัดพูดคุยธุระแบบสบายๆได้ โดยแต่ละส่วนจะแบ่งพื้นที่ออกเป็นบล็อกๆ เพื่อความเป็นส่วนตัวค่ะ
Meeting Room
ถัดมาเป็นส่วน Meeting Room สำหรับคนที่มีสมาชิกเยอะ และต้องการความเป็นส่วนตัว ภายในห้องมีอุปกรณ์รองรับไว้แบบครบครัน มีหน้าจอที่สามารถใช้เพื่อประชุมหรือนำเสนองานได้ ผนังด้านข้างเป็นกระจก มองเห็นวิวสวนด้านนอก ช่วยผ่อนคลายสายตาได้ดีค่ะ
ห้องนิติบุคคล
เนื่องจากโถงลิฟต์ที่แบ่งเป็น 2 จุด ทำให้อาคารแบ่งออกเป็นด้านหน้าและด้านหลัง มีประตูอัตโนมัติกั้น ฝั่งอาคารด้านหลังถัดจาก Lobby จะมีห้องนิติบุคคล พื้นที่สำหรับรับฝากของ ห้องน้ำส่วนกลาง ห้อง Laundry และห้อง Grab Room เป็นกึ่งๆพื้นที่ Service ของส่วนกลางที่ลูกบ้านลงมาใช้งานได้
นอกจากนี้ยังมี Meeting Rooms อยู่อีก 2 ห้อง ผนังกระจกตกแต่งด้วยกราฟิกสีสันสดใส ผลงานการออกแบบจาก P7 ศิลปินกราฟฟิตี้และอาร์ตสตรีทระดับประเทศ ที่จะมาช่วยเพิ่มความสนุกสนานให้กับพื้นที่ ซึ่งต่อไปเราจะเห็นได้อีกตาม Feature Wall และ Sculpture ต่างๆค่ะ
ส่วนโถงลิฟต์และห้อง Mail Room บริเวณอาคารด้านหลัง ด้วยจำนวนยูนิตที่ค่อนข้างเยอะ การแบ่งพื้นที่ใช้งานออกเป็นหลายจุด ก็ถือเป็นการกระจายความหนาแน่นที่ดีค่ะ
บริเวณโถงลิฟต์
ส่วนโถงลิฟต์ด้านหน้า จะมีประตูอัตโนัติที่ควบคุมด้วยระบบ Face Scan อยู่ เมื่อเข้ามาก็จะเจอกับห้อง Mail Room ตกแต่งด้วยโทนสีเหลืองเช่นเดียวกัน ภายในลิฟต์จะใช้ระบบล็อกชั้น ผ่าน Face Scan อีกหนึ่งรอบ เพื่อความปลอดภัย
มากันที่ Facilities ของโครงการจะมีเพียง 3 ชั้นเท่านั้น ซึ่งจะแยกออกจากชั้นพักอาศัยอย่างชัดเจน คือชั้น 36 , 36M และชั้น Rooftop เป็น 3 ชั้นบนสุดของอาคาร ทำให้ได้วิวรอบข้างเต็มๆ โดยเฉพาะชั้น 36 เป็นพื้นที่ส่วนกลางหลัก ประกอบด้วย สระว่ายน้ำ , Amphitheater และ Multi-purpose Area
สระว่ายน้ำโครงการเป็นแบบ Outdoor ความยาวถึง 40 เมตร ใกล้เคียงกับขนาดของสระโอลิมปิกเลยนะคะ โดยสระนี้เป็นระบบเกลือ แยกเป็นส่วนสระเด็กและสระผู้ใหญ่ เพื่อความสะดวกและปลอดภัยในการใช้งาน
ส่วนสระว่ายน้ำ
ภายในสระมี Aqua Bike ให้ลองปั่นเพื่อบริหารกล้ามเนื้อต้นขาด้วยนะ ข้างๆมีพื้นที่ไว้สำหรับล้างตัวก่อนลงสระ และมีม้านั่งไว้สำหรับขึ้นมานั่งพัก วางของ หรือเป็นพื้นที่ให้ผู้ปกครองรอเด็กๆที่กำลังเล่นน้ำได้ด้วย
พื้นที่นั่งเล่น
อีกฝั่งของโถงลิฟต์จะเป็นพื้นที่สวน มีส่วนนั่งเล่นที่ออกแบบให้พื้นมีหลายระดับ คล้ายกับอัฒจรรย์ขนาดย่อมๆ มีทั้งสวน สระว่ายน้ำและวิวเมืองให้ชม สามารถมานั่งหรือนอนเล่นเพื่อผ่อนคลายได้ตลอดทั้งวัน
สำหรับทางเดินชั้น 36 จะเป็นแบบ Semi Outdoor เดินเชื่อมต่อกันได้ทั้งชั้น ด้านข้างของอีกฝั่งทางเดินจะเป็นพื้นที่สวนยาวตลอดแนว ทำให้บรรยากาศดูร่มรื่น น่าใช้งาน
มีชุดโต๊ะ – เก้าอี้ และโซฟาอีกหลายแบบไว้ให้เลือกใช้งานเลยค่ะ จะมานั่งเล่นสูดอากาศ หรือหามุมทำงาน Outdoor แบบชิวๆก็ได้เลยนะ
Amphitheater Room
การใช้งานจะเป็นพื้นที่นั่งแบบขั้นบันได มีปลั๊กไฟเตรียมไว้ให้ ด้านบนมีจอ Projector จะเอาไว้ฉายสไลด์ทำงาน หรือเปิดหนัง ฟังเพลงกับกลุ่มเพื่อน ก็ได้บรรยากาศสนุกสนานไปอีกแบบค่ะ
พื้นที่กิจกรรมแบบ Semi Outdoor
บรรยากาศรอบทางเดิน จะมีเครื่องเล่นไว้ตามจุดต่างๆ จัดเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่วางฟังก์ชันไว้ให้ใช้งานได้ในทุกส่วน มีโซน Boxing หรือสนามมวย ให้ได้มาออกกำลัง เรียกเหงื่อกันได้ค่ะ
ห้อง Multi – Purpose Room แบ่งการใช้งานออกเป็น 2 ชั้น รวมพื้นที่ทั้ง Social Club , Co – Working และ Co – Kitchen เอาไว้ด้วยกัน จึงเป็นพื้นที่ที่สามารถ กิน เล่น ทำงาน จบครบในที่เดียวเลย
Multipurpose Area
ในส่วนพื้นที่เล่น ก็จัดมาเอาใจคนชอบความสนุกสนาน มีทั้งบ่อบอลขนาดใหญ่ และสไลด์เดอร์ที่ไถลตัวลงมาจากชั้น 2 ได้ มีพื้นที่นั่งทำงานทั้งแบบเดี่ยวและแบบกลุ่ม เหมาะกับคนที่ชอบบรรยากาศคึกคักสักหน่อยค่ะ โดยผนังรอบข้างจะเป็นกระจกทั้งหมด จึงสามารถมองเห็นวิวได้แบบ 360 องศา
ส่วน Co - Kitchen
ส่วน Co – Kitchen มีโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 10 ที่นั่ง ส่วนเตรียมอาหารและอุปกรณ์ทำครัวแบบครบครัน สามารถจัดปาร์ตี้เล็กๆทำอาหารทานกันเองได้ หรือใครมานั่งทำงาน อ่านหนังสือ ก็แวะมาหาอะไรทานได้นะคะ
บริเวณชั้นลอย
บนชั้นลอยมีทั้งบอร์ดเกม โต๊ะโกล์ และโต๊ะพูล สามารถชวนเพื่อนๆขึ้นมาเล่นกันเป็นกลุ่มได้ มีทางลงสไลด์เดอร์ สำหรับคนที่อยากจะลองย้อนวัยกับเครื่องเล่นที่คุ้นเคยค่ะ
ชั้น 36M เป็นส่วนฟิตเนสหรือ Energym ที่ค่อนข้างได้ความเป็นส่วนตัว ภายในล้อมรอบด้วยผนังกระจกแบบเต็มบานทั้ง 3 ด้าน ทำให้บรรยากาศปลอดโปร่ง น่าใช้งาน
Energym ชั้น 36M
การตกแต่งเน้นโทนสีน้ำเงิน ตัดด้วยเส้นสีขาว ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในสนามกีฬา ภายในห้องประกอบด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน ทั้งแบบคาร์ดิโอ (Cardio) และเวทเทรนนิ่ง (Weight Training) จากชั้น 36M ได้วิวเปิดโล่ง มองเห็นสวนและสระว่ายน้ำด้านล่างได้
ส่วนชั้น Rooftop หรือชั้นดาดฟ้า ทางโครงการออกแบบให้เป็นพื้นที่สวน สามารถขึ้นมานั่งพักผ่อนเพื่อชมบรรยากาศได้ โดยจัดให้เป็นมุมต่างๆ วางชุดโซฟาเพื่อความเป็นส่วนตัวและสะดวกต่อการใช้งาน
Ideo Rama 9 - Asoke : 8th Floor Plan
ชั้นพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 8 – 35 ซึ่งจะเป็น Typical Floor Plan ผังอาคารวางขนานไปกับทิศเหนือ – ใต้ จึงจะมีอาคารด้านนึงที่หันหน้าเข้าหาทิศตะวันตกทั้งหมด โถงลิฟต์จะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งเพื่อกระจายความหนาแน่น ทางเดินเป็นแบบ Double Corridor มีช่องแสงที่ปลายโถงทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้บรรยากาศภายในไม่อึดอัด ที่ชั้น 8 จะได้พื้นที่สวนสามารถออกไปใช้งานได้
สำหรับตำแหน่งห้องจะแตกต่างกันเล็กน้อย แต่ในทุกชั้นที่มุมทั้ง 4 ฝั่งของอาคารจะเป็นรูปแบบห้อง 2 Bedroom โดยห้องขนาด 90 ตร.ม. จะอยู่ที่มุมอาคารซึ่งหันหน้าออกทางทิศตะวันตก มีจำนวนเพียง 20 ยูนิตเท่านั้นค่ะ
ส่วนในชั้นที่ 14 – 21 จะเห็นได้ว่ามีช่องว่างตรงกลาง ซึ่งโครงการออกแบบมาให้เป็นช่องระบายอากาศ เพื่อให้ลมสามารถไหลผ่านไปยังอาคารข้างเคียงได้ ซึ่งอาคารนี้เป็นประเภทคอนโดมิเนียมเช่นเดียวกัน อยู่ทางฝั่งทิศตะวันตก ความสูง 25 ชั้น สำหรับคนที่อยากได้วิวเปิดโล่งในทิศนี้ จะแนะนำเป็นชั้น 26 ขึ้นไปค่ะ ส่วนฝั่งทิศตะวันออกติดกับที่พักอาศัยแนวราบเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องวิวเลยค่ะ
บรรยากาศบริเวณโถงลิฟต์
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
ชั้น G
- Lobby
- Co – Working Space
- Meeting Room
- Garden
- Playground
- Juristic
- Parking
ชั้น 36 – 36M
- Hybrid Sky Pool
- Multi – Purpose Room
- Hybrid Space
- Social Club
- Co – Working Area
- Co – Kitchen
- Amphitheater
- Energym
Rooftop
- Garden
อื่นๆ
- ลิฟต์โดยสาร 7 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 97 : 1
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถประมาณ 528 คันคิดเป็น 43%
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Face Scan
แบบห้อง
โครงการ Ideo Rama 9 – Asoke (ไอดีโอ พระราม 9 – อโศก) มีรูปแบบห้องให้เลือกตั้งแต่ Studio ที่อาศัยอยู่คนเดียวก็ได้ ไปจนถึง 2 Bedroom ที่สามารถอาศัยอยู่ 3 – 4 คนได้แบบสบายๆ โดยความพิเศษจะอยู่ที่รูปแบบห้อง Hybrid ซึ่งเป็นห้องที่มีฝ้าเพดานสูง 4.5 เมตร เหมาะสำหรับคนที่ชอบห้องแบบ 2 ชั้น ได้บรรยากาศคล้ายกับอยู่ในบ้านนะคะ โดยรูปแบบการขายจะเป็น Fully Fitted คือได้เฟอร์นิเจอร์ Built in บางชิ้น สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ เคาน์เตอร์ครัว Hod & Hood ซึ่งรายละเอียดจะแตกต่างกันไปตามรูปแบบห้องดังนี้ค่ะ
- Studio ( A – AH ) พื้นที่ใช้สอยภายใน 25.50 – 26.50 ตร.ม.
- 1 Bedroom ( B – BH ) พื้นที่ใช้สอยภายใน 31.00 – 38.50 ตร.ม.
- 2 Bedroom ( C – CH ) พื้นที่ใช้สอยภายใน 52.00 – 90.50 ตร.ม.
เริ่มกันที่ห้อง 1 Bedroom ขนาด 31.00 ตร.ม. ซึ่งเป็นรูปแบบห้องที่มีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดในโครงการ โดยจุดเด่นอยู่ที่การแยกส่วนพักผ่อนและ Service ออกเป็นสัดส่วนชัดเจน ได้ห้องครัวแบบปิด ติดกับระเบียง ทำให้อากาศถ่ายเทสะดวก ส่วนห้องนอนกั้นด้วยประตูบานทึบ ได้ความเป็นส่วนตัว ห้องน้ำอยู่ติดกับบริเวณทางเข้า เวลาที่มีแขกมาก็สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก เหมาะสำหรับอยู่อาศัย 1 – 2 คนกำลังดีค่ะ โดยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 4.69 ล้านบาท
ประตูทางเข้า มีการทำขอบพื้นขึ้นมาเล็กน้อย ช่วยเก็บรอยต่อของวัสดุให้ดูเรียบร้อย และยังช่วยป้องกันฝุ่นที่อยู่ภายนอกไม่ให้เข้ามาในห้อง ที่ประตูจะติดตั้ง Digital Door Lock ยี่ห้อ SAMSUNG มาให้ด้วย
เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็จะเจอส่วนนั่งเล่นก่อนเป็นอย่างแรก บรรยากาศภายในค่อนข้างปลอดโปร่ง โดยแสงจากธรรมชาติจะส่องผ่านเข้ามาทางห้องครัว ซึ่งกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก
ความสูงจากพื้นถึงฝ้าจะอยู่ที่ 2.70 เมตร รวมถึงในส่วนของห้องน้ำ วัสดุพื้นด้านนอกปูด้วยลามิเนต หนา 12 มม. ในการใช้งานอาจจะต้องระวังเรื่องความชื้นและน้ำสักหน่อยนะคะ ไม่งั้นพื้นจะบวมได้
ด้านข้างประตูจะมีตู้รองเท้าแบบ Built in มาให้ ซึ่งจะได้ตั้งแต่ในรูปแบบห้อง 1 Bedroom ขึ้นไป มีชั้นวางของและที่แขวนสำหรับห้อยกุญแจได้ด้วยค่ะ
ระยะจากโซฟาถึงหน้าทีวีอยู่ที่ประมาณ 3.32 เมตร วางทีวีขนาด 40″ – 42″ ได้กำลังดี วางโต๊ะด้านหน้าโซฟาแล้ว ก็ยังเหลือทางเดินรอบได้แบบสบายๆเลย
ฝ้าเพดานจะเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาว ติดตั้งไฟดาวน์ไลท์และอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยอย่าง Smoke Detector มาให้ หรือใครจะติดตั้งโคมไฟเพิ่มเหมือนในห้องตัวอย่าง ก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจนะคะ
ตำแหน่งวางทีวีจะอยู่เยื้องมาเล็กน้อย ติดกันเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ สามารถเดินเข้า – ออกใช้งานได้อย่างสะดวกค่ะ
บริเวณห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำแยกเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้งอย่างชัดเจน อ่างล้างหน้า ก็อกน้ำและสุขภัณฑ์ต่างๆใช้ของยี่ห้อ American Standard ด้านล่างอ่างมีชั้นสำหรับวางของใช้และอุปกรณ์ในห้องน้ำได้
ในทุกรูปแบบห้องจะได้ฉากกั้นอาบน้ำยี่ห้อ CHARMER ติดตั้งมาให้ด้วยค่ะ
ส่วนอาบน้ำ
ส่วนอาบน้ำขนาด 0.79 x 1.52 เมตร มีการทำขอบยกสูงขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำไม่ให้ไหลออกสู่ภายนอก ฝักบัวเป็น Hand Shower หยิบใช้งานสะดวก โดยโครงการได้ติดตั้ง Junction Box มาให้ สำหรับคนที่อยากติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นในภายหลัง ส่วนฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาว ติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ 2 จุดพร้อมพัดลมระบายอากาศค่ะ
ถัดมาเป็นส่วนห้องครัว ซึ่งเป็นแบบปิด กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกทั้ง 2 ฝั่ง ประกอบด้วยเคาน์เตอร์ครัวที่ Built in มาให้แบบเต็มผนัง ด้านข้างยังเหลือพื้นที่ไว้วางโต๊ะทานข้าว 2 ที่นั่งได้ค่ะ
เคาน์เตอร์ครัว
ท็อปเคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์ มีความแข็งแรง ทนทาน ติดตั้งมาพร้อมอ่างล้างจาน Hob & Hood จาก TEKA ด้านบนมีตู้เก็บของเป็นแบบบานเปิด ส่วนด้านล่างมีลิ้นชักไว้เก็บพวกช้อน ส้อมได้ มีช่องใส่ไมโครเวฟ ทำให้ประหยัดพื้นที่บนเคาน์เตอร์ ข้างๆกันมีช่องไว้สำหรับใส่ตู้เย็นกว้างประมาณ 0.80 เมตร สูง 1.71 เมตร บนฝ้าเพดานติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มา 1 จุดพร้อม Smoke Detector
ห้องครัว
หลายคนน่าจะถูกใจกับห้องที่ได้ครัวปิด โดยเฉพาะที่ติดกับระเบียง เพราะว่าสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นเวลาทำอาหาร ในส่วนระเบียงทางโครงการได้ติดตั้งท่อไว้ให้ สำหรับวางเครื่องซักผ้าได้ ขนาด 0.93 x 1.57 เมตร คอมเพรสเซอร์จะแขวนไว้ที่ด้านข้าง บนฝ้าเพดานติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ ช่วยเพิ่มแสงสว่าง
ในส่วนห้องนอน วางเตียงขนาด 5 ฟุตได้แบบสบายๆ โดยเหลือพื้นที่ไว้สำหรับวางโต๊ะหรือตู้ข้างเตียงเล็กๆได้ทั้ง 2 ฝั่ง
ด้านข้างติดตั้งหน้าต่างบาน Fix พร้อมบานเลื่อนกระจกมาให้ 1 จุด สามารถเปิดม่านเพื่อรับแสงและลมจากธรรมชาติได้ โดยในห้องนี้จะได้ตู้เสื้อผ้าแบบ Built in มาด้วยค่ะ
ตู้เสื้อผ้า Built in แบบบานเปิด ด้านในมีชั้นวาง ราวแขวนผ้าและลิ้นชักไว้สำหรับใส่เสื้อผ้าส่วนตัวได้ 1 – 2 คนกำลังดีค่ะ
ส่วนแต่งตัว
รอบเตียงเหลือพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ส่วนแต่งตัวมีพื้นที่ใช้งานประมาณ 0.94 เมตร เปิด – ปิด ประตูตู้ ยืนแต่งตัวได้สะดวก ข้างเตียงจะเหลือพื้นที่ 0.69 เมตร ปลายเตียง 0.68 เมตร หากใครอยากติดตั้งทีวี ก็มีปลั๊กเตรียมไว้ให้แล้วนะคะ ส่วนฝ้าเพดานติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ 2 จุด อยู่ในตำแหน่งที่ไม่รบกวนสายตาเวลาพักผ่อน
สวิตช์และปลั๊กไฟใช้ของยี่ห้อ Schneider จากประเทศฝรั่งเศส
ถัดมาเป็นห้องรูปแบบ Studio Hybrid ขนาด 25.50 ตร.ม. มาพร้อมส่วนนั่งเล่นที่ได้ฝ้าเพดานสูงถึง 4.5 เมตร ส่วน Service จะอยู่ที่ด้านหน้า ประกอบด้วยห้องครัวแบบปิดและห้องน้ำ กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ทำให้ส่วนพักผ่อนด้านในได้ความเป็นส่วนตัว โดย หน้าต่างห้องจะเป็นแบบบานสูงเกือบถึงฝ้า มีพื้นที่สามารถจัดเป็นมุมพักผ่อนหรือโต๊ะนั่งทำงานได้ ใต้บันไดขึ้นชั้นลอยมีห้องไว้เก็บของ ด้านบนเมื่อขึ้นมาจะเป็นส่วนของห้องนอน วางตู้เสื้อผ้า จัดเป็นมุมแต่งตัวได้ สำหรับราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 5.89 ล้านบาทค่ะ
ด้านหน้าจะเจอส่วนห้องครัวก่อน เมื่อซื้อของหรืออาหารกลับมา ก็สามารถนำมาจัดเตรียมได้เลย ไม่ต้องหิ้วผ่านเข้าไปด้านในห้อง ติดกันเป็นห้องน้ำ เดินใช้งานได้อย่างสะดวก วัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ มีความทนทาน ทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ
ประตูที่กั้นส่วน Service และพักผ่อนออกจากกันเป็นประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ทำให้ในส่วนห้องครัวได้รับแสงสว่างจากภายนอกไปด้วย บรรยากาศจึงค่อนข้างปลอดโปร่ง
เคาน์เตอร์ครัว
เคาน์เตอร์ครัวเป็นแบบ Built in เต็มผนัง แบ่งพื้นที่วางตู้เย็นไปไว้อีกฝั่ง ทำให้ได้ส่วนเตรียมอาหารแบบเต็มที่ ด้านบนเป็นตู้เก็บของแบบบานเปิดและชั้นวาง ด้านล่างก็มีตู้เก็บของเช่นกันพร้อมลิ้นชัก ใช้งานได้อย่างสะดวก มีช่องสำหรับวางไมโครเวฟ และเครื่องซักผ้าที่ด้านล่าง ไม่ต้องนำออกไปวางไว้ที่ระเบียงค่ะ
พื้นที่บริเวณครัว
ช่องสำหรับใส่ตู้เย็นขนาด 0.83 x 1.63 เมตร ที่ตู้ไว้สำหรับเก็บของด้านบนได้ด้วย พื้นที่ตรงกลางค่อนข้างกว้าง ใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้แบบสบายๆ บนฝ้าเพดานติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้ พร้อม Smoke Detector และ Sprinkler
ภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่ใช้งานออกเป็นสัดส่วน อ่างล้างหน้าเป็นแบบยาวเต็มผนัง มีชั้นวางด้านล่าง ได้พื้นที่วางของค่อนข้างเยอะทีเดียวค่ะ
อุปกรณ์ในห้องน้ำ
สุขภัณฑ์จะได้ครบเหมือนในห้องตัวอย่างจากยี่ห้อ American Standard ในห้องนี้จะได้ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเลื่อนกระจก 3 ตอน พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.75 x 1.20 เมตร มีการทำขอบพื้นขึ้นมาเพื่อแยกส่วนเปียกและส่วนแห้ง ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว ติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้พร้อมพัดลมระบายอากาศ
ส่วนนั่งเล่นจะเป็นแบบ Duo Space เพดานสูง 4.50 เมตร ได้บรรยากาศเหมือนอยู่ในบ้าน 2 ชั้น หน้าต่างห้องสูงเกือบถึงฝ้า ทำให้ห้องนอนที่อยู่ด้านบนได้วิวและแสงธรรมชาติไปด้วย
ระยะจากโซฟาถึงหน้าทีวีประมาณ 2.66 เมตร วางโซฟาขนาด 2 – 3 ที่นั่งได้ ฝั่งนึงติดกับทางขึ้นบันได ส่วนอีกฝั่งเป็นประตูห้องเก็บของ เวลาเลือกโซฟา ก็ต้องวัดขนาดให้พอดีๆนะคะ
ส่วนนั่งเล่น
ถัดจากส่วนนั่งเล่น มีมุมสำหรับวางโต๊ะทำงานได้ ส่วนบันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีต ปิดผิวด้วยลามิเนต กว้างประมาณ 1 เมตร ลูกตั้งสูง 0.20 เมตร ลูกนอน 0.24 เมตร ด้านข้างเป็นราวจับเหล็กโปร่ง ติดกันเป็นระเบียงขนาด 0.94 x 1.25 เมตร มีประตูบานเลื่อนกระจกกั้น สามารถออกไปใช้งานได้
ชั้นลอยเป็นพื้นที่ส่วนห้องนอน สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ พร้อมตู้เสื้อผ้าแบบ Built in ด้านข้าง แต่ฐานเตียงจะไม่ได้มานะคะ โดยความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ประมาณ 2.00 เมตร ถือเป็นระยะที่พอใช้งานได้ค่ะ
ตู้เสื้อผ้าแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ด้านในมีชั้นวาง ราวแขวนและลิ้นชัก ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน ถ้าอยู่อาศัยแบบ 2 คน ก็สามารถแบ่งกันใช้คนละตู้ได้แบบสบายๆเลยค่ะ
ห้องนอนบริเวณชั้นลอย
ข้างเตียงฝั่งที่ติดกับตู้เสื้อผ้าเหลือพื้นที่ประมาณ 0.54 เมตร อีกฝั่งมีพื้นที่ 0.82 เมตร ส่วนปลายเตียงติดกับราวกันตกเหลือทางเดินกว้าง 0.78 เดินใช้งานได้อย่างปลอดภัยค่ะ
ส่วนนั่งเล่นชั้นล่าง
มุมมองจากด้านบน สามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่นด้านล่างได้ ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาว ในส่วนห้องนอนติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้พร้อมใช้งานค่ะ
รูปแบบห้อง Studio จะคล้ายกับห้องแบบ Studio Hybrid เลยค่ะ แต่ในส่วนพักผ่อน ส่วนนั่งเล่นและห้องนอนจะใช้พื้นที่ร่วมกัน ด้านหน้าจะเป็นพื้นที่ห้องน้ำและห้องครัวที่กั้นเป็นสัดส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ข้อดีของห้องนี้ก็คือ จะได้ช่องเปิดทั้งจากหน้าต่างและประตูบานเลื่อนที่เปิดออกไปใช้งานระเบียงได้ สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศ รับแสงและลมธรรมชาติได้ค่ะ
Studio 25.50 ตร.ม.
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม. ในรูปแบบห้องนี้จะแตกต่างกับห้องอื่นตรงที่ ได้ส่วนครัวแบบเปิด เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารทานแบบเบาๆ สามารถเปิดประตูระเบียงที่อยู่ถัดจากส่วนนั่งเล่น เพื่อระบายอากาศได้ ถัดเข้ามาเป็นห้องนอน มีพื้นที่แต่งตัวขนาดใหญ่ จัดไว้เป็นสัดส่วน น่าจะถูกใจสาวๆนะคะ ติดที่ห้องน้ำอยู่ภายในห้องนอน อาจจะไม่ค่อยสะดวก เวลาที่ต้องรับแขกเท่าไรค่ะ
1 Bedroom 34 ตร.ม.
มาที่รูปแบบห้อง 2 Bedroom ขนาด 52 ตร.ม. เหมาะสำหรับครอบครัว 2 – 3 คนกำลังดีค่ะ มีส่วนครัวแบบเปิดที่ด้านหน้า สามารถกั้นปิดด้วยฉากกั้นกระจกในภายหลังก็ได้นะ ส่วนห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดกับหน้าต่าง ทำให้ได้รับลมและแสงสว่างอย่างเต็มที่ ห้องนอนแยกออกเป็น 2 ฝั่ง โดยทั้ง 2 ห้องจะได้ระเบียงที่ออกไปใช้งานได้ด้วย ส่วนห้องน้ำได้เป็น 2 ห้องเช่นเดียวกัน คือห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันที่โถงกลางติดกับประตูทางเข้า และอีกห้องอยู่ในห้องนอนใหญ่ ทำให้ได้ทั้งความสะดวกและความเป็นส่วนตัวค่ะ
2 Bedroom 52 ตร.ม.
และรูปแบบห้องสุดท้ายคือ ห้อง 2 Bedroom ขนาด 90 ตร.ม. ซึ่งค่อนข้างน่าสนใจทีเดียวค่ะ เพราะในละแวกนี้ไม่มีคอนโดที่ทำห้องไซส์ใหญ่ขนาดนี้เลย สามารถอยู่ด้วยกัน 3 – 4 คนได้แบบสบายๆ และมีห้องเก็บของที่เก็บของชิ้นใหญ่ๆได้ มีระเบียงขนาดใหญ่ จัดเป็นมุมพักผ่อนเพื่อชมวิวและสูดอากาศด้านนอกได้เลย ในส่วนห้องนอน ได้พื้นที่อเนกประสงค์ที่จัดเป็นส่วนนั่งเล่น หรือวางโต๊ะทำงานแบบส่วนตัวได้ค่ะ
2 Bedroom 90 ตร.ม.
รูปแบบห้องพักอาศัยอื่นๆ
Studio (A-H) ขนาด 26.00 ตร.ม.
โครงการ Ideo Rama 9 Asoke ยังมีรูปแบบห้องให้เลือกอีกหลากหลาย ซึ่งจะแตกต่างกันที่ตำแหน่งและฟังก์ชันในห้อง ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมกับทางโครงการได้เลยค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคา
Ideo Rama 9 – Asoke ราคา ณ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2565
- Studio A พื้นที่ใช้สอยภายใน 25.50 – 26.50 ตร.ม. / ราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท
- Studio A – Hybrid พื้นที่ใช้สอยภายใน 25.50 – 26.50 ตร.ม. / ราคาเริ่มต้น 5.89 ล้านบาท
- 1 Bedroom B พื้นที่ใช้สอยภายใน 31.00 – 38.50 ตร.ม. / ราคาเริ่มต้น 4.69 ล้านบาท
- 1 Bedroom B – Hybrid พื้นที่ใช้สอยภายใน 31.00 – 38.50 ตร.ม. / ราคาเริ่มต้น 7.69 ล้านบาท
- 2 Bedroom C พื้นที่ใช้สอยภายใน 52.00 – 90.50 ตร.ม. / ราคาเริ่มต้น 7.99 ล้านบาท
- 2 Bedroom C – Hybrid พื้นที่ใช้สอยภายใน 52.00 – 90.50 ตร.ม. / ราคาเริ่มต้น 19.99 ล้านบาท
- รูปแบบการขาย Fully Fitted
- หน้าบานเฟอร์นิเจอร์ Built – in กรุด้วย HPL High Gross และ Laminate
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.70 เมตร ในแบบห้องปกติ และ 4.5 เมตร ในแบบห้อง Hybrid
- วัสดุปูพื้น ลามิเนต ความหนา 12 มิลลิเมตร
- สุขภัณฑ์แบบครบชุด ยี่ห้อ American Standard
- Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
- Hob & Hood / ของยี่ห้อ TEKA
- จอง 10,000 – 50,000 บาท
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล :
Ideo Rama 9 – Asoke (ไอดีโอ พระราม 9 – อโศก) จัดอยู่ในทำเลที่ค่อนข้างดี ใกล้แยกพระราม 9 ซึ่งเป็นแหล่งรวมความอุดมสมบูรณ์ที่หลากหลายเอาไว้ จัดเป็นอีกแหล่ง CBD ของกรุงเทพฯ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รองรับได้ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งพนักงานออฟฟิศที่ใช้ชีวิตในช่วงกลางวัน และผู้ที่อาศัยอยู่ในย่าน ซึ่งก็มีรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันออกไป สำหรับการเดินทางจัดว่าสะดวกสบายมาก เนื่องจากทำเลอยู่บนถนนเส้นหลักเข้า – เมืองได้อย่างสะดวก และมีขนส่งสาธารณะที่อยู่ใกล้ในระยะที่เดินได้สบายๆค่ะ
การเดินทางโดยใช้รถ :
จะใช้ถนนพระราม 9 เป็นหลัก ซึ่งเป็นถนนที่สามารถเชื่อมต่อไปสู่เส้นทางที่เข้า – ออกเมืองได้หลากหลาย ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนอย่างทางพิเศษศรีรัช เหมาะสำหรับคนที่ทำงานอยู่ในโซนตัวเมืองชั้นใน ทั้งอโศก สุขุมวิท เอกมัย แต่ในช่วงเวลาเร่งด่วนอาจจะต้องเผื่อเวลาสักหน่อยนะคะ ที่จอดรถในโครงการมีประมาณ 528 คัน คิดเป็น 43% จัดอยู่ในระดับกลางๆค่ะ หรือใครที่ไม่ได้มีรถส่วนตัว ก็สามารถเรียกวินมอเตอร์ไซต์หรือรถแท็กซี่ได้ง่ายๆ เพราะโครงการอยู่ติดกับถนนใหญ่เลย
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
โครงการ Ideo Rama 9 – Asoke อยู่ใกล้กับ MRT พระราม 9 จากหน้าโครงการสามารถเดินข้ามถนนไปได้ในระยะที่ค่อนข้างสบาย จาก MRT พระราม 9 นั่งไปเพียงสถานีเดียวก็ถึง Airport Rail Link มักกะสันแล้ว และอีก 2 สถานีก็ถึง MRT สุขุมวิท เป็นจุด Interchange ไป BTS อโศกได้ค่ะ
วัสดุ :
รูปแบบการขายเป็น Fully Fitted จะได้ Digital Door Lock เฟอร์นิเจอร์ Built in บางชิ้นเช่น ตู้รองเท้า ( ได้เฉพาะในห้อง 1 Bedroom ขึ้นไป ) เคาน์เตอร์ครัวท็อปหินสังเคราะห์ ได้ Sink , Hob&Hood ยี่ห้อ TEKA ตู้เสื้อผ้าและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำแบบครบชุดพร้อมฉากกั้นอาบน้ำ วัสดุปูพื้นเป็นลามิเนต ความหนา 14 มม. ในราคาแพคเกจเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท ส่วนตัวมองว่าน้อยไปสักหน่อย ( ไม่ได้ฐานเตียง ) เมื่อเทียบกับโครงการละแวกเดียวกันที่ขายแบบ Fully Fitted สำหรับคนที่ไม่รีบเข้าอยู่ ก็มีโครงการที่เปิดขายในรูปแบบ Fully Furnished อีกด้วย
การออกแบบโครงการ :
การวางผังอาคาร แยกส่วนโถงลิฟต์ออกเป็น 2 จุด ช่วยกระจายความหนาแน่นได้ดี เนื่องจากโครงการมีจำนวนยูนิตค่อนข้างเยอะ พื้นที่ส่วนกลางอยู่ที่ชั้น 36 เป็นชั้นบนสุดของอาคาร ซึ่งแยกจากชั้นพักอาศัยอย่างชัดเจน ได้ทั้งความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว การออกแบบจะเน้นพื้นที่ Semi Outdoor ส่วน Facilities ภายในเป็นห้องขนาดใหญ่ที่มีเพดานสูง สามารถรองรับลูกบ้านได้จำนวนมาก แต่ไม่อึดอัดค่ะ
การออกแบบห้องพักอาศัย :
ฟังก์ชันจัดได้เป็นสัดส่วนลงตัว เหมาะสมต่อการใช้งาน มีให้เลือกตั้งแต่ Studio ไปจนถึง 2 Bedroom มีห้องฝ้าเพดานสูง ทั้ง Studio Hybrid , 1 Bedroom Hybrid และ 2 Bedroom Hybrid สามารถเลือกได้ตามความชอบ Layout ของห้องจัดมาได้เหลือพื้นที่ค่อนข้างกว้าง เดินใช้งานได้ไม่ติดขัด
สาธารณูปโภค :
เน้นความสนุกสนานตามคอนเซปต์ Life Work Play จัดให้พื้นที่ส่วนกลางทุกจุดสามารถใช้งานได้ ทั้งเป็นส่วนเครื่องเล่น พื้นที่นั่งพักผ่อน และนั่งทำงาน ส่วนชั้น 36 เรียกว่าออกแบบมาได้ครบครัน ลูกบ้านเดินใช้งาน Facilites ได้อย่างสะดวก มีทั้งพื้นที่ Indoor และ Outdoor ขนาดใหญ่ เหมาะสมกับจำนวนยูนิตในโครงการ ส่วนตัวชอบสระว่ายน้ำที่ยาวถึง 40 เมตร สามารถ Take View มุมสูงได้ รอบๆยังจัดเป็นพื้นที่สีเขียวแทรกอยู่ตามทางเดินเอาไว้ ให้ความรู้สึกสดชื่นและร่มรื่นค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 128,000 บาท/ตร.ม., 12 พฤศจิกายน 2565
- ทำเล 8/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้แยกพระราม 9
- เดินทางด้วยรถ 8.5/10 – เชื่อมต่อถนนได้หลายสาย ใกล้ทางด่วน
- ไม่ใช้รถ 8.0/10 – ใกล้ MRT พระราม 9 ในระยะเดินได้
- วัสดุ 7.5/10 – ขายแบบ Fully Fitted วัสดุได้ตามมาตรฐาน เหมาะกับการใช้งาน
- แบบ 7.75/10 – มีห้องแบบ Duo Space เพดานสูง
- สาธารณูปโภค 7.75/10 – จัดมาหลากหลาย ครบครันตามมาตรฐาน
- UPPER CLASS
- 7.91 / 10.00
Ideo Rama 9 – Asoke เหมาะกับใคร
โครงการ Ideo Rama 9 – Asoke เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดในย่านพระราม 9 เดินทางง่าย ใกล้ขนส่งสาธารณะ เป็นครอบครัวที่มีสมาชิก 3-4 คนก็ได้ อยากได้ห้องแบบเพดานสูง มีงบประมาณเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 23,609 – 119,246 บาท/เดือน
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc