รีวิวทำเล Noble Curve (โนเบิล เคิร์ฟ) ทาวน์โฮมติดถนนเลียบด่วนรามอินทรา ที่สามารถเดินไป The Crystal ได้ เทียบเพื่อนบ้านแล้วน่าสนใจอย่างไร?

Noble Curve (โนเบิล เคิร์ฟ) ณ วันที่ 30 มกราคม 2566

พิกัด Google Maps : 13.814639, 100.621667
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

“ย่านเลียบด่วนรามอินทรา”

..เป็นทำเลที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี หลายๆคนก็ยังคงให้ความสนใจมาตามหาบ้านในย่านนี้กันอยู่เสมอๆ นั่นเพราะความอุดมสมบูรณ์ และความสะดวกสบายในการเดินทาง อันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนย่านอื่นๆ

โดยมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่าง Central East Ville เป็นศูนย์กลางความเจริญหลัก รวมถึงยังมีซูเปอร์มาร์เก็ต คอมมูนิตี้มอลล์อย่าง The Crystal + Crystal Design Center (CDC) และยังมีโรงเรียนนานาชาติอีกหลายแห่งด้วยครับ

ทำเลและราคาแบบนี้ มีความน่าสนใจอย่างไร?

..ปัจจุบันย่าน “เลียบด่วนรามอินทรา” มีโครงการจัดสรรใหม่ๆเกิดขึ้นในย่านนี้มากมาย แต่ถ้าเป็นโครงการที่มีทางเข้าจากถนนใหญ่เลียบด่วนโดยตรงนั้น กลับมีตัวเลือกเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นครับ

ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นบ้านเดี่ยวหรูระดับ Hi-End ที่มีราคาเริ่มต้นหลายสิบล้านบาทขึ้นไป ส่วนใครที่มองหาโครงการที่จับต้องได้ง่ายประมาณไม่เกิน 10 ล้านบาท ก็จะต้องเป็นทำเลในซอยหรือถนนเส้นรองต่างๆของย่านนี้แทน

แต่สำหรับ Noble Curve จะเป็นโครงการระดับเริ่มต้น 10 กว่าล้านเพียงหนึ่งเดียว ที่มีทางเข้า-ออกจากถนนใหญ่เลียบด่วนรามอินทราได้โดยตรงในปัจจุบันครับ

อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับ The Crystal ซึ่งเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดใหญ่ และยังเป็น Magnet Value ที่ช่วยตอบโจทย์คุณภาพชีวิตในการอยู่อาศัย ของคนที่อาศัยอยู่ในโครงการนี้ได้อย่างมากเลยทีเดียว

ทำเลใกล้ The Crystal มีความน่าสนใจอย่างไร?

..แน่นอนว่า The Crystal เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดใหญ่ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นซูเปอร์มาร์เก็ต / ร้านอาหาร / คาเฟ่ / Fitness First / โรงหนัง

และล่าสุดก็ยังได้ข่าวว่ามีร้าน After Yum BKK ที่เคยมีคนรอต่อคิวยาวกว่า 5 – 6 ชั่วโมง มาเปิดสาขาใหม่ในกรุงเทพนี้เป็นที่แรกอีกด้วยครับ (ไม่ต้องขับรถไปถึงพัทยาแล้ว)

ซึ่งทั้งหมดนี้เรียกได้ว่าตั้งอยู่ใกล้ๆบ้าน สามารถมาช้อปปิ้งและทานอาหารที่นี่ได้ทุกวัน และใครที่เป็นสมาชิกของ Absolute You หรือว่า Fitness First สาขานี้ก็คือเดิน. Warm up ร่างกายมาจากบ้านได้เลย

รวมถึงเรายังอาจใช้สถานที่แห่งนี้เป็นจุดนัดพบ ไว้นัดพูดคุยธุระกับแขกได้อีกด้วย ทำให้เราไม่ต้องพาเข้าบ้านให้เสียความเป็นส่วนตัว

โดยภายใน The Crystal ก็มีร้านอาหารและคาเฟ่ดีๆมากมาย แถมยังมีบรรยากาศที่สวยงามร่มรื่นมากๆอีกด้วย และถ้าใครที่มีสัตว์เลี้ยงก็สามารถพาน้องๆไปเดินเล่นด้วยได้นะครับ

แบบบ้านที่เป็นที่อยู่อาศัยก็ดี ..หรือจะทำธุรกิจส่วนตัวก็เหมาะ :

ด้วยลักษณะการออกแบบพื้นที่ใช้สอยของ Noble Curve ที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจส่วนตัวที่บ้าน หรือเป็น Home Office เล็กๆได้ด้วย โดยเฉพาะแบบบ้านหลังใหญ่สุด OCTA ที่มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 454.5 ตร.ม. ซึ่งบนชั้น 2 จะเป็น Common Area ขนาดใหญ่ให้จัดแบ่งเป็นพื้นที่นั่งทำงานได้

ดังนั้นผมจึงมองว่าทำเลของโครงการที่ใกล้กับ The Crystal หรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆแบบนี้ นับเป็นจุดแข็งที่น่าสนใจและแตกต่างจากเพื่อนบ้านในปัจจุบัน เพราะหากเรามีการประกอบธุรกิจในอนาคต แน่นอนว่าบางครั้งอาจจะต้องมีพนักงาน ซึ่งตอนพักเที่ยงเค้าก็จะสามารถออกมาหาอะไรทานใกล้ๆกันได้นั่นเอง

โดยตัวโครงการจะอยู่ห่างจาก The Crystal ประมาณ 300 m. (นับตั้งแต่บริเวณปากซอยทางเข้าโครงการ) ซึ่งถ้าใครที่ไม่อยากเสียเวลาไปกลับรถบนถนนใหญ่ในช่วงรถติดหนักๆ ก็อาจเลือกที่จะเดิน/ปั่นจักรยานมาแทนก็ได้เหมือนกันครับ เพราะเป็นระยะที่ไม่ได้ไกลมากนัก แถมบริเวณฟุตบาทของเส้นเลียบด่วนรามอินทราก็ยังกว้าง และมีความร่มรื่นน่าใช้งานมากๆอีกด้วย

เดินไป The Crystal จะไกลมั้ย..ร้อนหรือเปล่า?

นี่เป็นบรรยากาศบริเวณปากซอยด้านหน้าทางเข้าโครงการ ซึ่งอยู่ติดกับถนนใหญ่เลียบด่วนรามอินทรา และด้านซ้ายก็จะเป็นทางเดินไปยัง The Crystal โดยมีทางเท้าขนาดใหญ่ที่มีต้นไม้คอยให้ความร่มรื่นครับ

บรรยากาศบริเวณทางเท้าริมถนนใหญ่ จะมีการปลูกต้นไม้เพื่อให้ความร่มรื่นเกือบตลอดเส้นทาง (ซึ่งขนาดผมมาตอนเที่ยงๆแบบนี้ก็ยังพอจะเดินได้อยู่นะ) อีกทั้งยังมีป้ายรถเมล์อยู่บริเวณด้านหน้า ให้สามารถเรียกรถสาธารณะได้สะดวกแบบนี้ด้วยครับ

จากหน้าโครงการก็จะเดินผ่านโชว์รูมฮอนด้า หมู่บ้านจัดสรร และสะพานข้ามคลอง รวมระยะทางประมาณ 300 m. ก็จะเจอกับทางเข้า The Crystal แบบนี้แล้วครับ ซึ่งอย่างที่บอกว่าจะเดินหรือปั่นจักรยานมาก็ได้นะ

ทำไมห้างและคอมมูนิตี้มอลล์ของย่านเลียบด่วนรามอินทรา จึงมีความพิเศษและน่าเดินต่างจากย่านอื่นๆ?

..ก่อนอื่นเราคงต้องเท้าความถึงตัว Central Eastville ที่เข้ามาปักธงในย่านนี้เป็นห้างแรกๆ ซึ่งมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ใหม่ที่แตกต่างจากเซ็นทรัลสาขาอื่นๆในสมัยนั้น ด้วยการใส่สิ่งที่คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญและใส่ใจมากขึ้นเป็นพิเศษ

นั่นคือ การอนุญาตให้พาสัตว์เลี้ยงมาได้ / มีพื้นที่เดินเล่นให้กับสัตว์เลี้ยง / เน้นพื้นที่สีเขียวในห้าง / มีพื้นที่ปั่นจักรยาน / พื้นที่วิ่งออกกำลังกาย / พื้นที่เอ้าท์ดอร์สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ เป็นต้น และนั่นก็เลยทำให้ศูนย์การค้าแห่งนี้ สามารถติดตลาดได้ในเวลาอันรวดเร็ว

ซึ่งห้างและคอมมูนิตี้มอลล์อื่นๆของย่านนี้ในปัจจุบัน ต่างก็ใช้คอนเซ็ปต์แบบเดียวกัน ทำให้เราสามารถพาน้องๆสัตว์เลี้ยงแสนรัก ออกมาเดินเล่นด้วยกันได้เกือบทุกที่ โดยไม่จำเป็นต้องอยู่เฝ้าบ้านคนเดียวเหงาๆเหมือนเดิมอีกต่อไป

รวมถึงห้างและคอมมูนิตี้มอลล์อื่นๆ เช่น Crystal Design Center (CDC) และ Nawamin City Avenue ก็จะมีการจัดพื้นที่สีเขียวมาให้เยอะมาก บรรยากาศจึงมีความร่มรื่นและน่าเดินเล่นพักผ่อนเป็นอย่างมากครับ

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว :

สำหรับใครที่ใช้รถยนต์เป็นหลัก จะมีจุดกลับรถอยู่หลักๆ 2 – 3 จุดนี้ที่เราสามารถใช้ชีวิตแบบวน Loop ไป-มา ระหว่างห้างสรรพสินค้าและ Communuty Mall ใหญ่ๆของย่านนี้ได้ครับ ประกอบด้วย

• จุดที่ 1 : มีระยะทางประมาณ 400 m. เป็นจุดกลับรถที่ใกล้ที่สุดในขากลับมายังโครงการ แต่อาจไม่สามารถแวะเข้า The Crystal ได้ทันนะครับ จึงเหมาะกับคนที่จะกลับบ้านเลยทันทีมากกว่า
• จุดที่ 2 : มีระยะทางประมาณ 1.4 km. เป็นจุดกลับรถตรงแยกตลาดหัวมุม ที่สามารถไป CDC ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม หรือจะกลับรถเพื่อขับเข้าเมืองไปขึ้นทางด่วนก็ได้ครับ
• จุดที่ 3 : มีระยะทางประมาณ 1.7 km. เป็นจุดกลับรถเพื่อที่จะมาเดินช้อปปิ้งที่ Central Eastville / Lotus’s และ Makro นั่นเอง

สำหรับทางด่วนที่ใกล้ที่สุดคือ “ทางพิเศษฉลองรัช” จะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2.3 km. สามารถเข้าเมืองไปทางพระราม 9 – อ่อนนุช และไปเชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัชได้อีกด้วย

การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า (ในอนาคต) :

..อย่างที่ทราบกันดีว่าย่านเลียบด่วนรามอินทรา เป็นทำเลที่มีหมู่บ้านจัดสรรและห้างสรรพสินค้าเยอะมาก ซึ่งช่วงเวลาเช้าและเย็นก็จะมีการจราจรที่ค่อนข้างติดขัด ดังนั้นการมาของรถไฟฟ้าสายสีเทา (ช่วงวัชรพล – ทองหล่อ) ก็จะช่วยทำให้การเดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวกมากขึ้นเยอะเลยครับ

แต่ก็ยังคงต้องลุ้นกันต่อไปสักหน่อยนะ เพราะปัจจุบันยังไม่มีแผนที่ชัดเจนออกมาเท่าไหร่นัก (มีข่าวการชลอและเลื่อนกำหนดการออกไปหลายรอบมาก) รวมถึงตำแหน่งของสถานีก็ยังคงไม่แน่นอนด้วย โดยตามแผนที่เคยประกาศออกมา ก็คาดการณ์เอาไว้ว่าจะเปิดใช้งานได้ในปี 2573

และสถานีในอนาคตที่ใกล้ที่สุดคือ “สถานี โยธินพัฒนา” ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นที่ได้รับมาจากทาง Noble คือตัวสถานีจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 600 m. และจะมีรถ Shuttle Bus คอยให้บริการรับ-ส่งลูกบ้านด้วยนะ (ปัจจุบันจะรับ-ส่งอยู่ที่รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานี ลาดพร้าว 71 ที่จะมีการเปิดใช้งานก่อนครับ)

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

• The Crystal เอกมัย-รามอินทรา ~ 300 m.
• Makro Food Service ประดิษฐ์มนูธรรม ~ 700 m.
• ตลาดหัวมุม ~ 1.5 km.
• The Walk & Index Living Mall ~ 2 km.
• Garden Centre ตลาดต้นไม้ ~ 2.2 km.
• Chic Republic ~ 3.6 km.
• Crystal Design Centre (CDC) ~ 3.8 km.
• Tesco Lotus เอกมัย-รามอินทรา ~ 4.5 km.
• Central Festival East Ville ~ 4.5 km.
• HomePro เอกมัย-รามอินทรา ~ 7.8 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งดับเบิ้ลยู ~ 900 m.
• โรงพยาบาลสัตว์ ทีเอช (TH Animal Hospital) ~ 3.4 km.
• โรงพยาบาล นวเวช ~ 6.1 km.
• โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4 ~ 7.4 km.
• โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา ~ 9.3 km.
• โรงพยาบาล นพรัตนราชธานี ~ 10.6 km.
• โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง ~ 14.9 km.

โรงเรียน

• KPIS International School ~ 3.8 km.
• Niva American International School ~ 5.6 km.
• Singapore International School Bangkok (SISB) ~ 9.2 km.
• Regent’s International School ~ 9.3 km.
• KIS International School ~ 10.3 km.
• มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 10.1 km.

..โครงการ Noble Curve (โนเบิล เคิร์ฟ) ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 23-0-91.8 ไร่ และมีเพื่อนบ้าน 187 ยูนิต ซึ่งถือว่าเป็นโครงการจัดสรรขนาดไม่ใหญ่มาก จึงค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวระดับหนึ่งเลยทีเดียวครับ

แต่จุดที่ผมชอบจริงๆก็คือ “บรรยากาศโครงการ” ที่ทำออกมาได้ค่อนข้างน่าอยู่และมีความร่มรื่นดี สังเกตได้จากตลอด 2 ข้างทางนับตั้งแต่บริเวณปากซอยทางเข้าถนนใหญ่ จะมีการปลูกต้นไม้ประดับอยู่ตลอดทาง ดังนั้นตัวโครงการจึงมีความน่าสนใจของลักษณะทำเลที่ตั้งดังนี้

1. ความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย
2. บรรยากาศระหว่างทางที่ร่มรื่นสวยงาม

จากแผนที่เราจะเห็นว่า ตัวโครงการจะอยู่ถัดเข้าไปด้านในห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 450 m. โดยจะเป็นถนนภาระจำยอมที่ใช้งานร่วมกันระหว่าง 3 โครงการจากทาง Noble ซึ่งเค้าได้มีการทำถนนและจัดสวนให้ใหม่ เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ให้มีความสวยงามน่าใช้งานมากขึ้น

ถนนภาระจำยอมที่มีความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย :

..ถนนภาระจำยอมนี้จะใช้งานร่วมกันระหว่าง 3 โครงการจากทาง Noble เท่านั้น อีกทั้งยังมีป้อม รปภ. ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้า เพื่อช่วยดูแลความปลอดภัย และคอยสแกนคนเข้า-ออกอยู่ตลอด 24 ชม. (เป็นปราการด่านแรก ก่อนที่จะเข้าไปถึงโครงการ) จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัว และไม่ค่อยพลุกพล่านเหมือนโครงการที่อาจอยู่ในซอยสาธารณะครับ

บรรยากาศระหว่างทางที่สวยงามร่มรื่น :

..ทางโครงการได้มีการทำถนนและปลูกต้นไม้ เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ให้มีความสวยงาม ซึ่งเวลาที่เราขับรถกลับมาบ้านเหนื่อยๆ ก็จะได้เจอกับพื้นที่สีเขียวบริเวณนี้เป็นส่วนต้อนรับ และช่วยปรับอารมณ์หลีกหนีความวุ่นวายจากภายนอก ให้มาเจอความร่มรื่นและเงียบสงบได้เป็นอย่างดี

รวมถึงบริเวณ Sale Gallery หรือสำนักงานขายด้านหน้าในปัจจุบัน ผมได้ลองสอบถามมาเบื้องต้นแล้วได้ความว่า อาจทำเป็น Shop ร้านค้าในอนาคต ซึ่งลูกบ้านก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวก ที่สามารถแวะซื้อของเล็กๆน้อยๆก่อนเข้าบ้านได้ง่ายมากขึ้นนั่นเองครับ

และสำหรับใครที่ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ สามารถเข้าไปอ่านรีวิวเจาะลึกกันต่อได้ที่นี่ครับ >> Noble Curve (โนเบิล เคิร์ฟ) ทาวน์โฮม สไตล์ Mid-Century Modern บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม เดินไป The Crystal ได้ จาก Noble Development [รีวิวฉบับที่ 2436]

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• The Arch Clubhouse
• Flow Pool (สระว่ายน้ำ) ขนาด 5.3 x 25 m.
• Kids Pool (สระเด็ก) ขนาด 4.6 x 12.5 m.
• Jacuzzi
• Curve Gym (ห้องออกกำลังกาย)
• Flow Chamber (ห้อง Multi-purpose อเนกประสงค์)
• Steam Room (ห้องสตรีม)
• Curve Society Club (ห้องรับรอง)
• Kid Arcadia (ห้องเด็กเล่น)
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ ขนาดประมาณ 950 ตร.ม.
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
• ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
• Access Control With License Plate
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก และเลื่อนไฟฟ้า
• เดินระบบไฟฟ้าแบบ 3 Phase รองรับ EV Charger และเดินสายไฟลงใต้ดินทั้งโครงการ

แบบบ้านของโครงการ Noble Curve (โนเบิล เคิร์ฟ) จะมีให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ เป็นสไตล์ Mid-Century Modern ที่ทางโนเบิลได้นำดีไซน์นี้มาใช้ที่นี่เป็นแห่งแรก ประกอบด้วย

OCTA ทาวน์โฮม 4 ชั้น หน้ากว้าง 8 เมตร ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 37 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 454.5 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 6 ที่จอดรถ / 1 ลิฟต์ / 1 ห้องแม่บ้าน / Courtyard ตรงกลางบ้าน
HELIX ทาวน์โฮม 4 ชั้น หน้ากว้าง 6.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 30 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 370.5 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
SPHERE ทาวน์โฮม 4 ชั้น หน้ากว้าง 6.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 21.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 239 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
ARC ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 19.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 175.5 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ  / 2 ที่จอดรถ

โดยวันนี้ผมก็มีภาพอัพเดตของบ้านตัวอย่างหลังเล็กสุด 2 Type ที่เพิ่งจะสร้างเสร็จใหม่ๆมาให้ชมกันด้วย ส่วนถ้าใครที่อยากจะชมแบบบ้านหลังใหญ่ ก็สามารถเข้าไปดูในรีวิวฉบับเต็มก่อนหน้านี้ได้เลยครับ

SPHERE ทาวน์โฮม 4 ชั้น หน้ากว้าง 6.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 21.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 239 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน

เป็นแบบบ้านที่เน้นฟังก์ชัน Family Area บนชั้น 2 ให้มีขนาดใหญ่ สามารถรองรับใช้งานร่วมกันได้หลายคน หรือจะปรับเปลี่ยนเป็นฟังก์ชันอื่นๆได้ตามต้องการ เช่น อาจใช้เป็นพื้นที่นั่งทำงานในกรณีที่อยากทำเป็น Home Office เป็นต้น ส่วนห้องนอนก็จะอยู่บนชั้น 3 – 4 มีความเป็นส่วนตัว และมีห้องน้ำให้ใช้งานครบทุกห้องเลยครับ

ARC ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 19.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 175.5 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ  / 2 ที่จอดรถ

เป็นแบบบ้านไซส์เล็กสุดของโครงการ ที่มีความแตกต่างจากแบบอื่นๆคือ บริเวณชั้น 1 ของบ้านจะถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานหรืออยู่อาศัยได้มากขึ้น (ในขณะที่แบบอื่นๆจะเน้นเป็นที่จอดรถ+ห้องแม่บ้าน แล้วพื้นที่พักผ่อนจะไปเริ่มที่ชั้น 2 แทน) ส่วนห้องนอนอื่นๆก็จะมีขนาดใหญ่และเป็นส่วนตัวเหมือนเดิมครับ

ความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน :

..โครงการ Noble Curve (โนเบิล เคิร์ฟ) ตั้งอยู่ติดถนนเลียบด่วนรามอินทรา มีความสะดวกในการเดินทาง และไม่ต้องเสียเวลาเข้าซอยลึกๆให้ยุ่งยาก ซึ่งทำเลแบบนี้มักจะเป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับ Luxury ที่มีราคา 65 – 80 ล้านบาทขึ้นไป แต่เราสามารถเป็นเจ้าของโครงการในทำเลแบบเดียวกันนี้ได้ ในราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 16 ล้านบาท และจัดเป็นทาวน์โฮมขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะไม่แพ้บ้านเดี่ยวเลยครับ

หากพูดกันอย่างแฟร์ๆ ราคานี้ก็ไม่ใช่ถูกสำหรับหลายๆคนก็จริง แต่สิ่งที่น่าสนใจและทำให้ตัวโครงการของ Noble Curve แตกต่างจากทำเลเพื่อนบ้านอื่นๆก็คือ “ตำแหน่งที่ตั้งโครงการที่อยู่ใกล้กับ The Crystal” ในระยะที่สามารถเดินมาจากปากซอยถึงได้เพียง 300 m. โดยเราสามารถเดินมาทานอาหาร ดูหนัง ออกกำลังกาย หรือจับจ่ายใช้สอยสิ่งของเข้าบ้านได้สะดวก

อีกทั้งยังเอื้อประโยชน์สำหรับคนที่อาจประกอบธุรกิจที่บ้าน ซึ่งอาจใช้เป็นจุดนัดพบแขกและลูกค้า หรือถ้าใครที่มีพนักงานทำงานอยู่ด้วย เค้าก็จะได้มีสถานที่ให้ออกมาพักทานอาหารกลางวันได้สะดวก โดยตัวโปรดักส์ทาวน์โฮมของ Noble Curve ได้ถูกออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้สามารถทำเป็น Home Office ส่วนตัวเล็กๆได้ด้วยนั่นเองครับ

อีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการคือ “บรรยากาศที่ดี” ซึ่งแวดล้อมไปด้วยโครงการต่างๆของทาง Noble อื่นๆอีก 3 โครงการ จึงได้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ ปลูกต้นไม้และจัดสวนจนร่มรื่น อีกทั้งยังเป็นถนนภาระจำยอมที่ไม่พลุกพล่านเหมือนซอยสาธารณะทั่วไป จึงทำให้สังคมการใช้ชีวิตภายในมีความเงียบสงบ เป็นส่วนตัว และปลอดภัยนั่นเองครับ

โดยภาพรวมผมมองว่า คนที่จะซื้อโครงการ Noble Curve เป็นกลุ่มคนที่ต้องการคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่ว่าจะเป็นความสะดวกสบายในการเดินทาง ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกในระยะเดิน การมีสภาพแวดล้อมทางสังคมที่ดี และอาจมองเห็นถึงโอกาสในการประกอบธุรกิจส่วนตัวในอนาคตด้วยก็ได้ครับ เพราะทำเลใกล้ The Crystal แบบนี้ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีมากๆ

ซึ่งหากใครที่มีความสนใจ และต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ ก็สามารถเข้าไปอ่านรีวิวเจาะลึกกันต่อได้ที่นี่ครับ >> Noble Curve (โนเบิล เคิร์ฟ) ทาวน์โฮม สไตล์ Mid-Century Modern บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม เดินไป The Crystal ได้ จาก Noble Development [รีวิวฉบับที่ 2436]

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc