Noble Curve (โนเบิล เคิร์ฟ) ทาวน์โฮม สไตล์ Mid-Century Modern บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม เดินไป The Crystal ได้ จาก Noble Development [รีวิวฉบับที่ 2436]

Noble Curve (โนเบิล เคิร์ฟ) ณ วันที่ 7 กันยายน 2565

พิกัด Google Maps : 13.814639, 100.621667
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

Noble Curve ตั้งอยู่บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม หรือที่ใครหลายคนเรียกกันว่าถนนเลียบทางด่วนฯ เนื่องจากเป็นถนนที่คู่ขนานไปกับทางด่วนฉลองรัชที่เชื่อมจากรามอินทรา-วัชรพล เข้ามายังใจกลางเมืองบริเวณพระราม 9 แถวที่เชื่อมต่อกับปลายถนนเอกมัยค่ะ

ถนนเส้นนี้มีความน่าสนใจตรงที่เป็นเส้นทางหลักอีกเส้นทางที่ชาวรามอินทรา นวลจันทร์ วัชรพล สายไหม ลำลูกกา ซึ่งเป็นโซนที่มีโครงการบ้านแนวราบอยู่เป็นจำนวนมาก ใช้เชื่อมต่อเข้ามายังใจกลางเมือง เหมาะกับคนที่ต้องทำงานใจกลางเมืองอย่างพระราม 9 – อโศก ก็สามารถใช้ถนนเส้นนี้หรือทางด่วนขับเข้ามาได้ง่าย จึงทำให้พื้นที่ทั้งสองฝั่งถนนจากเดิมทีเป็นที่ดินเปล่า ถูกพัฒนาขึ้น ความเจริญต่างๆสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยระดับ Super Luxury หรือว่าบ้านระดับราคาร้อยล้าน ก็มีที่ตั้งบนถนนเส้นนี้หลายโครงการเช่นกันค่ะ ยิ่งในอนาคตทำเลนี้อยู่ในแผนการพัฒนารถไฟฟ้าสายสีเทา คาดว่าน่าจะส่งผลให้ทำเลมีศักยภาพและความเจริญเพิ่มมากขึ้นอีกค่ะ

ช่วงถนนที่ถือว่าเป็น Prime Area เรามองว่าจะเป็นช่วงระหว่างถนนลาดพร้าวและถนนประเสริฐมนูกิจ ซึ่งตรงนี้จะเป็นที่ตั้งของห้างใหญ่หลายแห่ง เช่น HomePro, Lotus, Central Festival Eastville, The Crystal , CDC และล่าสุดที่เพิ่งเปิดใช้งานคือ Makro ค่ะ ถือว่าเป็นแหล่งรวมพลของชาวลาดพร้าว เลียบด่วนฯ และชาวรามอินทราก็ว่าได้ โดยคาแรกเตอร์ที่เราว่าน่าสนใจของห้างในโซนนี้คือ เป็นทั้งแหล่ง Educational เสริมสร้างพัฒนาการเด็ก, Pet Friendly ให้น้องหมาน้องแมวมาวิ่งเล่นได้ และที่สำคัญสำหรับเราเองเลยคือโซนนี้มักจะไม่คิดค่าบริการที่จอดรถค่ะ

ส่วนเรื่องอาหารการกิน ห้างร้านต่างๆ ย่านเลียบทางด่วนถือว่าพร้อมมากค่ะ โดยโครงการนี้เรามองว่าอิงการใช้งานมาเดินห้างที่ติดถนนใหญ่อย่าง Central festival Eastville, The Crystal , Lotus’s, Makro หรือว่าจะเป็นฝั่ง CDC ก็ยังเดินทางไปใช้งานได้ง่าย หรือจะเป็นโซนนาคนิวาส, ลาดพร้าว-วังหิน ก็ถือว่าเดินทางไปได้สะดวกนะคะ ใช้ชีวิตวนเป็นลูปได้ไม่แตกต่างกันเท่าไร

จุดที่น่าสนใจคือจากทางเข้าฝั่งติดถนนใหญ่ของโครงการ Noble Curve จะระยะมีห่างจาก The Crystal  300 เมตร แต่ทว่าตัวโครงการจะอยู่เลยห้างนี้ออกไป ถ้าจะขับรถเพื่อมาที่นี่ก็อาจจะต้องเสียเวลากลับรถไป-มาสักหน่อย แต่ถ้าเดินจะใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีค่ะ ซึ่งเรามองว่าสามารถเดินได้ง่ายนะ ถนนเส้นนี้มีทางเท้าร่มรื่นพอสมควร ใครที่เป็นสมาชิกของ Absolute You หรือว่า Fitness First สาขานี้ก็คือเดินมาจากบ้านได้เลย ถือว่าเป็นการ Warm up ร่างกายไปในตัวได้ด้วยค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

Noble Curve เป็นโครงการที่ไม่ไกลจากถนนใหญ่ และอยู่ร่วมกับอีก 2 โครงการใหม่ของ Noble ซึ่งก็คือคอนโด Noble Create และ บ้าน Noble Curate

โครงการ Noble Create เป็นโครงการกลุ่มคอนโดมิเนียมอาคารสูงแห่งเดียวที่อยู่ติดถนนประดิษฐ์มนูธรรมแห่งนี้ ส่วนโครงการ Noble Curate ถือเป็นโครงการบ้านระดับ Super Luxury ที่มีวิธีคิดน่าสนใจคือที่นี่จะขายที่ดินในโครงการ ส่วนแบบบ้านจะมี List รายชื่อบริษัทสถาปนิกชั้นนำในประเทศไทยให้ลูกค้าเลือกสไตล์ที่ชื่นชอบ และติดต่อให้บริษัทนั้นออกแบบบ้านแบบ Customize เฉพาะมาให้เลย ซึ่งการที่โครงการ Noble Curve  ถูกแวดล้อมด้วยโครงการเหล่านี้ของ Noble เอง จะทำให้สภาพแวดล้อมตั้งแต่ถนนทางเข้า หรือบรรยากาศภายในมีความสงบเรียบร้อยและมีความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้นค่ะ ไม่มีรถคนนอกเข้ามาพลุกพล่านนั่นเอง

Noble Curve จะอยู่ร่วมกับอีก 2 โครงการใหม่ของ Noble ซึ่งก็คือคอนโด Noble Create และ บ้าน Noble Curate

โครงการที่อยู่ติดกับถนนใหญ่ประดิษฐ์มนูธรรมเลย เพราะฉะนั้นการเดินทางไปที่ต่างๆถือว่าสะดวกมากๆค่ะ

จากถนนใหญ่เราสามารถเดินเท้าไป The Crystal ได้ด้วยระยะเพียง 300 เมตรนะคะ ซึ่งทางเท้าก็มีต้นไม้ให้ร่มเงาร่มรื่น ทางเดินเป็นระเบียบเรียบร้อย น่าใช้งานค่ะ

The Crystal ไลฟ์สไตล์ชอปปิงมอลล์ย่านเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทราที่ใกล้โครงการที่สุด ด้านในมีร้านค้า ร้านอาหาร ธนาคาร ฟิตเนส Supermarket ครบครันค่ะ

จากถนนใหญ่เข้ามาด้านในโครงการจะเจอกับสำนักงานขายของโครงการ Noble Create ก่อน

ถัดเข้ามาจะเจอกับโครงการ Noble Curate และโครงการ Noble Curve อยู่ด้านในสุดตรงวงเวียนน้ำพุค่ะ จะเห็นว่าจากถนนใหญ่เข้ามายังโครงการ บรรยากาศและถนนหนทางมีความเรียบร้อย มีความปลอดภัยสูง ซึ่งเป็นข้อดีของโครงการที่อยู่รวมกันเป็น Cluster ค่ะ

โครงการ Noble Curve จะอยู่บริเวณวงเวียนน้ำพุนี้ค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• The Crystal เอกมัย-รามอินทรา ~ 300 m.
• Makro Food Service ประดิษฐ์มนูธรรม ~ 700 m.
• ตลาดหัวมุม ~ 1.5 km.
• The Walk & Index Living Mall ~ 2 km.
• Garden Centre ตลาดต้นไม้ ~ 2.2 km.
• Chic Republic ~ 3.6 km.
• Crystal Design Centre (CDC) ~ 3.8 km.
• Tesco Lotus เอกมัย-รามอินทรา ~ 4.5 km.
• Central Festival East Ville ~ 4.5 km.
• HomePro เอกมัย-รามอินทรา ~ 7.8 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งดับเบิ้ลยู ~ 900 m.
• โรงพยาบาลสัตว์ ทีเอช (TH Animal Hospital) ~ 3.4 km.
• โรงพยาบาล นวเวช ~ 6.1 km.
• โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4 ~ 7.4 km.
• โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา ~ 9.3 km.
• โรงพยาบาล นพรัตนราชธานี ~ 10.6 km.
• โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง ~ 14.9 km.

โรงเรียน

• KPIS International School ~ 3.8 km.
• Niva American International School ~ 5.6 km.
• Singapore International School Bangkok (SISB) ~ 9.2 km.
• Regent’s International School ~ 9.3 km.
• KIS International School ~ 10.3 km.
• มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 10.1 km.

Noble Curve เป็นโครงการทาวน์โฮม 187 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดิน 23-0-91.8 ไร่ ซุ้มประตูทางเข้าจะอยู่ใกล้กับวงเวียนน้ำพุ พอผ่านเข้ามาในโครงการจะเจอกับถนนส่วนตัวที่ทั้งสองข้างทางร่มรื่นด้วยเงาต้นไม้ ตรงเข้ามาด้านในจะเจอกับโซนพักอาศัยก่อน ซึ่งทาวน์โฮมส่วนใหญ่จะวางตัวในแนวทิศเหนือ-ใต้ ทำให้บ้านไม่ต้องรับแดดร้อนในตอนบ่าย สำหรับคนที่อยากให้หน้าบ้านร่มตลอดวันแนะนำบ้านที่หันไปทางทิศเหนือ ส่วนใครที่อยากได้บ้านที่ลมเข้าทางหน้าบ้านได้ดีแนะนำบ้านที่หันหน้าทางทิศใต้ค่ะ แต่จะมีทาวน์โฮมบางหลังที่หันเข้าถนนหลักและClubhouse ซึ่งข้อดีคือหน้าบ้านจะไม่ชนกับใครเลยค่ะ

ส่วน Clubhouse และสวนหย่อมขนาดใหญ่ ทางโครงการวางผังให้อยู่ด้านในสุดเนื่องจากต้องการให้ลูกบ้านใช้งานอย่างเป็นส่วนตัวค่ะ

ซุ้มประตูทางเข้ามีการออกแบบให้ดูโดดเด่นด้วยสไตล์ Mid-Century Modern เล่นกับรูปทรงเรขาคณิต ให้รู้ถึง Concept ตั้งแต่ทางเข้าโครงการเลย

ระบบรักษาความปลอดภัยหน้าโครงการมีรปภ.ดูแลให้ตลอด 24 ชั่วโมง CCTV รั้วกั้นไม้กระดกและประตูเลื่อนอัตโนมัติอีกชั้นหนึ่งค่ะ

ถัดเข้ามาจะเจอ ถนนส่วนตัว (Bliss Boulevard) ที่มาพร้อมกับเส้นทางปั่นจักรยานที่ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ร่มรื่นเขียวขจี ทำให้รู้สึกสดชื่นตั้งแต่ยังไม่เข้าบ้าน และโครงการนี้จะมีการเอาเสาไฟฟ้าลงดินทั้งหมดเพื่อทัศนียภาพที่สวยงามค่ะ

ตรงเข้ามาถึงด้านในโครงการจะเจอกับ Clubhouse ขนาดใหญ่ 3 ชั้นที่ออกแบบมาในสไตล์ Mid-Century Modern เช่นกัน ด้านหน้าจะเป็นพื้นที่สวนส่วนกลางขนาดใหญ่ 950 ตรม.

สวนส่วนกลางนี้มีการจัด Landscape ให้บรรยากาศเป็นเหมือนสวนป่า พร้อมมีลานสนามหญ้า และ พื้นที่พักผ่อนสําหรับครอบครัวมาให้ด้วย

นอกจากนั้นยังมีมุมให้เด็กๆเล่นกลางแจ้งได้ อย่างตรงนี้ทำเป็นสไลเดอร์ทรงโค้งล้อมรอบต้นไม้

บรรยากาศมุมพักผ่อนท่ามกลางสวนหย่อมค่ะ ดูชิลล์ๆเหมือนอยู่ในคาเฟ่

The Arch Clubhouse หรือ Clubhouse 3 ชั้นที่ Facade ด้านหน้าออกแบบโดยใช้รูปทรงเรขาคณิตต่างๆเอามาจัดองค์ประกอบให้ดูมีมิติ โดย Facilities ด้านในจะประกอบด้วย

• ชั้น 1 : Steam Room และ ห้องเด็กเล่น (Kid Arcadia)
• ชั้น 2 : Curve Society Club (ห้อง Lounge) และ Juristic Office
• ชั้น 3 : Curve Gym (ฟิตเนส) และ Flow Chamber (ห้อง Multi-Purpose อเนกประสงค์)

ส่วนด้านหน้า Clubhouse จะเป็น Flow Pool  สระว่ายน้ำระบบเกลือ รูปทรง L Shape ขนาดใหญ่

โดยจะแบ่งออกเป็นสระผู้ใหญ่กว้าง 5.30 เมตร ยาว 25 เมตร ลึก 1.20 เมตร และ สระเด็กกว้าง 4.60 เมตร ยาว 12.50 เมตร ลึก 0.60  เมตรพร้อมโซนจากุชชี่

ด้านข้างสระมีมุมสำหรับอาบน้ำล้างตัวมาให้ด้วยค่ะ

ส่วนพื้นที่รอบๆสระจะมีที่นั่งพักผ่อนมาให้หลายชุด ให้ลูกบ้านมานั่งพักผ่อนรับบรรยากาศสวนสวยกันได้อย่างเต็มที่

เข้ามาดูในอาคารชั้น 1 จะมีห้องเด็กเล่น ตกแต่งได้น่ารัก สดใส

ด้านในมีของเล่นและกระโจมมาให้เด็กๆเสริมสร้างพัฒนาการ

อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นทางไปห้องน้ำซึ่งมีแยกมาให้ทั้งชายหญิง

ด้านในห้องน้ำจะมีทั้งห้องน้ำ ห้องอาบน้ำและห้องSteam เลยค่ะ  เราไปว่ายน้ำหรือออกกำลังกายมาก็สามารถมาใช้ได้สะดวก

นอกจากนั้นยังมีอ่างล้างหน้าและตู้ล็อกเกอร์ไว้ให้บริการด้วยค่ะ

บรรยากาศภายในห้องอาบน้ำและห้องน้ำ มีติดตั้งสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆมาให้พร้อมใช้งาน

โครงการมีห้อง Steam มาให้ทั้งในห้องน้ำชายและหญิงนะคะ สามารถมาใช้อบไอน้ำพักผ่อนกันได้

ขึ้นมาชั้น 2 จะเป็นสำนักงานนิติบุคคล

และมีห้องน้ำที่เป็น Powder Room มาให้อีก 1 จุด เหมาะกับการใช้งานง่ายๆ ซึ่งห้องนี้จะใกล้กับห้องฟิตเนสมากกว่าค่ะ

ถัดมาเป็น Curve Society Club หรือห้อง Lounge เอาไว้นั่งพักผ่อน ใช้รับรองแขก ในบรรยากาศสบายๆ

ในห้องนี้จะมีมุม Co-Kitchen ให้ลูกบ้านมาทำอาหารทานกันในครอบครัวหรือใช้จัดปาร์ตี้เล็กๆได้ด้วย

ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะเป็นฟิตเนส ที่มีอุปกรณ์มาให้ครบครันทั้งคาร์ดิโอและเวทเทรนนิ่ง

ส่วนอีกห้องคือห้อง Multi-purpose อเนกประสงค์ที่จัดเป็นห้องโยคะ สามารถเรียกเทรนเนอร์มาสอน หรือจัดกลุ่มโยคะเล็กๆได้ค่ะ ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็น Clubhouse ที่มี Facilities มาให้ใช้ครบครัน รองรับได้ทุกช่วงวัยเลยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการ (The Arch Clubhouse) ประกอบไปด้วย
• Flow Pool (สระว่ายน้ำ) จำนวน 1 สระ ระบบเกลือ / แบ่งออกเป็นสระผู้ใหญ่กว้าง 5.30 เมตร  ยาว 25 เมตร ลึก 1.20 เมตร และ สระเด็กกว้าง 4.60 เมตร ยาว 12.50 เมตร ลึก 0.60 เมตร เมตรพร้อมโซนจากุชชี่
• Curve Gym (ห้องออกกำลังกาย)
• Flow Chamber (ห้อง Multi-purpose อเนกประสงค์)
• Steam Room (ห้องสตรีม)
• Curve Society Club (ห้อง Lounge = ห้องรับรอง)
• ห้องเด็กเล่น (Kid Arcadia)
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ ขนาดประมาณ 950 ตร.ม.
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
• ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
• Access Control With License Plate
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก และ เลื่อนไฟฟ้า

สำหรับโปรดักส์ทาวน์โฮมในโครงการนี้ มีการออกแบบ Facade ภายนอกด้วยสไตล์ Mid-Century Modern โดยการใช้รูปทรงเรขาคณิตมาจัดองค์ประกอบ ทำให้ตัวอาคารดูมีความน่าสนใจ โดยจะมีแบบบ้านมาให้เลือก 4 แบบ ทั้งทาวน์โฮม 3 ชั้นและทาวน์โฮม 4 ชั้น ดังนี้

OCTA ทาวน์โฮม 4 ชั้น หน้ากว้าง 8 เมตร ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 37 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 454.5 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 6 ที่จอดรถ / 1 ลิฟต์ / 1 ห้องแม่บ้าน
HELIX ทาวน์โฮม 4 ชั้น หน้ากว้าง 6.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 30 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 370.5 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
SPHERE ทาวน์โฮม 4 ชั้น หน้ากว้าง 6.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 21.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 239 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
ARC ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 19.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 175.5 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ  / 2 ที่จอดรถ

OCTA – รองรับทั้งการอยู่อาศัยและ Home Office มีพื้นที่ Courtyard กลางบ้าน พร้อมลิฟต์ในบ้าน

เรามาเริ่มกันที่ทาวน์โฮมแบบที่ใหญ่ที่สุดกับ OCTA ซึ่งเป็นทาวน์โฮม 4 ชั้น โดยจุดเด่นของ Type นี้คือพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ถึง 454.5 ตร.ม. และฟังก์ชันที่จัดได้มากสุดถึง 4 ห้องนอน  5 ห้องน้ำ  6 ที่จอดรถ  1 ห้องแม่บ้านเหมาะกับครอบครัวใหญ่ และยังมาพร้อมกับลิฟต์และCourtyard ส่วนตัวภายในบ้าน เชื่อมระหว่างชั้น 3 และชั้น 4 ทำให้เกิดการระบายอากาศ (Ventilation) ที่ดีในตัวบ้านและเป็นการเพิ่มช่องแสงให้กับพื้นที่กลางบ้านด้วย

การวางผังชั้นล่างจะถูกจัดเป็นที่จอดรถ ห้องเก็บของและห้องแม่บ้าน ฟังก์ชันการใช้ชีวิตของคนในบ้านจะเริ่มที่ชั้น 2 ซึ่งถูกจัดวางเป็นห้องครัว ห้องรับแขกและห้องรับประทานอาหาร+ห้องน้ำที่สามารถอาบน้ำได้ จึงเป็นบ้านที่เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวเพราะมองจากข้างนอกแทบจะไม่เห็นภายในบ้านเลยค่ะ ส่วนชั้น 3-4 เป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำและ Walk-in Closet ในตัว แต่ละห้องมีขนาดใหญ่เทียบเท่าบ้านเดี่ยวเลย สามารถนอนพักผ่อนและจัดฟังก์ชันต่างๆได้ลงตัวค่ะ

Facade ภายนอกอาคารออกแบบด้วยรูปทรงเรขาคณิตให้ได้กลิ่นอาย  Mid-Century ทำให้ตัวบ้านดูเด่น ต่างจากทาวน์โฮมทั่วๆไปค่ะ ส่วนโครงสร้างจะเป็น Precast นะคะ

หน้าบ้านวางตำแหน่งตู้ไฟฟ้า กล่องจดหมายและถังขยะมาให้เรียบร้อย

ทาวน์โฮม Type นี้มีหน้ากว้าง 8 เมตร จอดรถได้สูงสุดถึง 6 คันตามแนวยาวของตัวบ้านเลยค่ะ ซึ่งถ้าเรามีรถไม่ถึง 6 คันก็สามารถจัดพื้นที่เป็นมุมพักผ่อนหรือสวนหย่อมเพิ่มเติมได้

สำหรับแปลงมุมจะมีที่ดินข้างบ้านให้สามารถจัดเป็นสวนหย่อมเพื่อเพิ่มความร่มรื่นให้ตัวบ้านได้

หลังบ้านจะเป็นห้องแม่บ้านค่ะ ซึ่งจะอยู่แยกจากโซนพักอาศัยของสมาชิกในบ้าน

จุดที่เราชอบของการออกแบบทาวน์โฮมในโครงการนี้คือพื้นที่เก็บของหน้าบ้านนี่แหละค่ะ ที่จัดมาให้ใหญ่จุใจและมีบานเลื่อนกั้นดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากๆ

ส่วนประตูทางเข้าหลักของบ้านจะมี Digital Door Lock มาให้ด้วย

เข้ามาชั้น 1 จะเจอกับโถงซึ่งเราสามารถเลือกว่าจะเดินขึ้นบันไดหรือขึ้นลิฟต์ก็ได้

โดยตำแหน่งของลิฟต์จะอยู่ตรงข้ามบันไดนี่เอง

ขึ้นมาชั้น 2 จะเริ่มเป็นพื้นที่พักอาศัย แต่ถ้าครอบครัวไหนอยากทำ Home Office ก็สามารถเอาชั้นนี้มาปรับทำได้นะคะ

เข้ามาจะเจอกับ Common Area ขนาดใหญ่ที่สามารถจัดเป็นพื้นที่รับแขกและรับประทานอาหารได้ แต่บ้านตัวอย่างจัดออกมาเป็นแนว Home Office เลยวางเป็นโต๊ะทำงานยาวๆ

ห้องนี้จะได้ช่องแสงค่อนข้างเยอะ โดยแปลงมุมนี้จะมีช่องเปิดทั้งหน้าบ้าน ข้างบ้านและหลังบ้าน ทำให้ลมพัดผ่านได้ดี แทบไม่ต้องเปิดแอร์เลยค่ะ

นอกจากช่องแสงจากประตูกระจกบานเลื่อนจะมีขนาดใหญ่แล้ว ระเบียงก็ใหญ่กินพื้นที่เกือบเท่าความกว้างตัวบ้าน

พื้นที่ระเบียงสามารถออกมานั่งเล่นหรือจัดสวนได้ โดยตำแหน่งของ Condensing Unit จะถูกแขวนไว้ที่ด้านบนค่ะ

ส่วนใครที่อยากจะต่อเติมหลังคาที่จอดรถ ทางโครงการก็ได้เตรียมโครงสร้างเอาไว้ให้เรียบร้อยค่ะ

ส่วนห้องครัวฝั่งหน้าบ้านมีขนาดค่อนข้างใหญ่สามารถ Built-in เคาน์เตอร์ครัวได้เต็มที่ อีกทั้งยังมีช่องแสงขนาดใหญ่อีก ทำให้บรรยากาศรวมๆของห้องดูโปร่ง ห้องนี้สามารถปรับทำเป็นห้องประชุมหรือห้องผู้บริหารได้นะคะ ถ้าบ้านไหนจะทำ Home Office

ห้องน้ำบรรยากาศจะคล้ายๆกันทุกห้อง แต่สุขภัณฑ์จะได้แตกต่างกันในแต่ละชั้น ลองสอบถามโครงการดูอีกทีนะคะ

จุดที่ชอบในห้องน้ำห้องนี้คือช่องแสงขนาดใหญ่ที่ทำให้ห้องน้ำดูสว่างน่าใช้งาน อีกทั้งยังช่วยลดความอับชื้นและกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ด้วย

ฝักบัวได้ทั้งแบบมือจับและ Rain Shower ค่ะ

ขึ้นไปดูกันต่อที่ชั้น 3

ชั้นนี้ถ้าดูจากแปลนจะสามารถจัดเป็นห้องนอนได้ 2 ห้อง แต่ในบ้านตัวอย่างจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหาร

ซึ่งถ้าดูจากขนาดพื้นที่สามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ได้แบบ L Shape ชั้น 3-4 นี้จะมีส่วนที่เป็น Courtyard กลางบ้านซึ่งข้อดีคือทำให้ภายในบ้านมีช่องแสงและทางลมผ่านมากขึ้น ช่วยให้บ้านดูโปร่ง แตกต่างจาก Space ของทาวน์โฮมทั่วๆไป

ห้องนั่งเล่นที่ได้ช่องแสงจากทั้ง 2 ฝั่งค่ะ

Courtyard กลางบ้านที่ผนังถูกดีไซน์ให้เป็นกระจกบานเลื่อน สามารถเปิดระบายอากาศรับลมเย็นๆและแสงธรรมชาติได้

Courtyard นี้สามารถปลูกต้นไม้ จัดสวน เพิ่มพื้นที่สีเขียวในบ้านได้ โดยพื้นที่จะเชื่อมขึ้นไปถึงชั้น 4

สำหรับส่วนที่เป็น Facade รูปทรงเรขาคณิตหน้าบ้าน ถ้าใครสงสัยว่ามันจะบดบังแสงในบ้านและทำให้ความโปร่งหายไปมั้ย ขอตอบว่าไม่นะคะ เพราะด้านในจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจก  Full Height อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งพอเปิดประตูก็จะได้ลมเต็มๆ

ตำแหน่งของห้อง Walk-in Closet ในบ้านตัวอย่างปรับทำเป็นครัวนะคะ ซึ่งได้พื้นที่ใหญ่ไม่แพ้ครัวชั้น 2 เลย และได้ช่องแสงขนาดใหญ่เช่นเดียวกัน

พื้นที่บริเวณนี้จัดเป็นห้องรับประทานอาหารซึ่งจะสามารถรองรับคนได้ถึง 8 ที่นั่ง อีกทั้งยังเป็นห้องที่มีความโปร่ง สามารถเห็นวิวและได้แสงธรรมชาติถึง 2 ฝั่งอีกด้วย

ฝั่งหลังบ้านจะเป็นห้องน้ำที่มีพื้นที่อาบน้ำมาให้ด้วยค่ะ บรรยากาศและการดีไซน์คล้ายกับห้องก่อนหน้า

มาดูที่ชั้น 4 กันค่ะ

ชั้น 4 จัดเป็นห้องนอน 2 ห้อง มาดูห้องฝั่งหน้าบ้านกันก่อน ด้วยขนาดพื้นที่ที่ค่อนข้างใหญ่ทำให้สามารถจัดฟังก์ชันและวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างลงตัว

ปลายเตียงมีพื้นที่สำหรับวางโซฟา ทำเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อน ดูทีวี

ห้องนี้จะมีระเบียงให้ออกมาใช้งานด้วยค่ะ

ฝั่งหน้าห้องจัดเป็นห้องน้ำและ Walk-in Closet เราจะเห็นว่าห้องนี้ได้แสงธรรมชาติค่อนข้างดีเพราะนอกจากจะมีช่องแสงจากประตูทางออกไปที่ระเบียงแล้ว ยังได้แสงจากหน้าต่างฝั่งที่ติดกับ Courtyard อีกด้วย

ภายในห้องมีพื้นที่จัดเป็นมุมทำงานได้ด้วย จริงๆแล้วเราสามารถวางโต๊ะทำงานได้เต็มความกว้างของผนังเลยนะคะ หรือจะวางเป็นม้านั่งยาวสำหรับนั่งพักผ่อนก็ได้ค่ะ

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ สุขภัณฑ์จะมีการ Upgrade ขึ้นมาจากห้องทั่วๆไป

อย่างอ่างล้างหน้าก็จะเป็นแบบ His & Her ใช้งานพร้อมกันได้ 2 คน + ได้พื้นที่อาบน้ำที่ค่อนข้างกว้างอาบสบาย

มุมอ่างอาบน้ำ มีการออกแบบช่องหน้าต่างให้เป็นทรงกลมพอดี ดูเก๋ น่านอนแช่น้ำมากๆ

ห้องนอนใหญ่จะได้อ่างอาบน้ำด้วยค่ะ

ฝักบัวเป็นแบบดึงออกมาอาบได้

ห้องนอนฝั่งหลังบ้านมีขนาดไม่ต่างกันเท่าไร ห้องนี้ก็มีระเบียง ห้องน้ำและ Walk-in Closet ในตัวเช่นเดียวกันค่ะ

Walk-in Closet จะอยู่หน้าห้องน้ำเลย เช่นเดียวกับในห้อง Master Bedroom

บรรยากาศภายในห้องน้ำค่ะ มีการแยกส่วนแห้ง ส่วนเปียกเป็นสัดส่วนและได้ช่องแสงขนาดใหญ่เช่นเดียวกันค่ะ

HELIX – รองรับการอยู่อาศัยครอบครัวขนาดใหญ่ จัดฟังก์ชันมากสุด 4 ห้องนอน

สำหรับทาวน์โฮมแบบ HELIX เป็นทาวน์โฮม 4 ชั้นที่มีขนาดใหญ่รองลงมา มีพื้นที่ใช้สอย 370.5 ตร.ม. จุดเด่นคือสามารถรองรับครอบครัวใหญ่ จัดฟังก์ชันได้มากสุดถึง 4 ห้องนอน  5 ห้องน้ำ จอดรถได้ 4 คันและมีห้องแม่บ้านมาให้ด้วย

จริงๆแล้วฟังก์ชันหลักของบ้านแบบนี้จะคล้ายกันกับ OCTA เลย คือชั้นล่างเป็นที่จอดรถ ห้องแม่บ้าน พื้นที่พักอาศัยเริ่มที่ชั้น 2 จัดฟังก์ชันได้ 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำเหมือนๆกัน (จัดห้องนอนขนาดใหญ่ได้ถึง 2 ห้อง) แต่จุดที่แตกต่างคือไม่มี Courtyard ในตัวบ้าน ส่วนลิฟต์ทางโครงการทำโครงสร้างรองรับเอาไว้ให้ เราสามารถติดตั้งเองได้ค่ะ

แบบบ้าน HELIX เป็นทาวน์โฮม 4 ชั้น หน้ากว้าง 6.5 เมตร การออกแบบ Facade ภายนอกทำออกมาในสไตล์ Mid-Century Modern เช่นเดียวกัน

ทางโครงการมีวางตำแหน่งตู้ไฟฟ้า กล่องจดหมายและถังขยะมาให้บริเวณหน้าบ้าน

Type นี้หน้ากว้าง 6.5 เมตร จอดรถได้ 4 คันค่ะ ทางฝั่งขวาจะเป็นห้องเก็บของเช่นเดียวกับแบบบ้านก่อนหน้า

สำหรับแปลงมุมจะมีพื้นที่ให้จัดสวนหย่อมข้างบ้าน

เดินอ้อมไปหลังบ้านจะเป็นห้องแม่บ้าน ลานซักล้างและมีพื้นที่ให้จัดสวนหย่อมได้อีก

ทางเข้าหลักของบ้านมีการยก Step ขึ้นไป 2 ขั้นบันไดซึ่งจะกันฝุ่นและน้ำเข้าตัวบ้านได้  หน้าประตูมีพื้นที่ให้วางชั้นวางรองเท้า โดยประตูมีติดตั้ง Digital Door Lock มาให้ค่ะ

เข้ามาในตัวบ้านชั้น 1 จะเป็นโถงโล่งๆซึ่งจะมีบันไดขึ้นไปที่ชั้น 2 และตำแหน่งสำหรับติดตั้งลิฟต์

ขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันค่ะ การวางผังบันไดของบ้านในโครงการนี้จะจัดให้อยู่ริมขนานไปกับตัวบ้าน เพื่อให้ภายในบ้านสามารถใช้พื้นที่ได้สูงสุด

ชั้น 2 จะมีการเล่นระดับหน่อย พอขึ้นบันไดมาจะเจอกับห้องรับแขกก่อน ส่วนถ้าขึ้นบันไดอีกจะเป็นห้องรับประทานอาหารและครัว การเล่นระดับแบบนี้ทำให้แต่ละฟังก์ชันแยกกันเป็นส่วนตัว สมาชิกในบ้านสามารถมาใช้พื้นที่ได้โดยไม่รบกวนกันค่ะ

บรรยากาศห้องรับแขกฝั่งหน้าบ้าน เป็นห้องที่ค่อนข้างกว้างนอกจากจะวางชุดโซฟาได้ใหญ่จุใจแล้ว ยังสามารถ Mix ฟังก์ชันอื่นๆที่เป็นความชอบของเจ้าของบ้านได้ด้วย เช่น มุมทำงาน หรืองานอดิเรกต่างๆ

ห้องนี้มีระเบียงยาวตลอดหน้ากว้างของตัวบ้าน เราสามารถออกมายืนสูดอากาศหรือจัดสวนกระถางเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ตัวบ้านได้

ขึ้นไปดูห้องรับประทานอาหารและครัวกันค่ะ

พอขึ้นมาก็จะเจอกับห้องรับประทานอาหารและครัวที่เราสามารถกั้นห้องเป็นสัดส่วนได้

ห้องนี้จะแบ่งฟังก์ชันเป็น 3 ส่วนคือ มุมรับประทานอาหาร ครัวและห้องน้ำ

มุมรับประทานอาหารจัดได้เต็มที่ประมาณ 8-10 ที่นั่ง

ห้องครัวมีขนาดค่อนข้างกว้าง เราสามารถ Built-in เคาน์เตอร์แบบ U-Shape ได้เหมือนในบ้านตัวอย่างเลย นอกจากนั้นจุดที่เราชอบคือเป็นห้องที่ได้ช่องแสงขนาดใหญ่ สามารถเปิดระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติได้ดี

ห้องน้ำในห้องนี้เป็นแบบ Powder Room สำหรับการใช้งานง่ายๆ ไม่มีพื้นที่อาบน้ำค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะเป็นส่วนพักผ่อนแบ่งออกเป็น Master Bedroom และห้องนอน ซึ่งทั้ง 2 ห้องมี Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว

มาดูกันที่ Master Bedroom ซึ่งเป็นห้องฝั่งหน้าบ้านที่มีขนาดใหญ่ สามารถจัดฟังก์ชันต่างๆในห้องได้ลงตัว

ด้านข้างเตียงมีพื้นที่สำหรับจัดเป็นมุมพักผ่อนและมุมทำงานได้ด้วย

อีกฝั่งของห้องจะเป็น Walk-in Closet และห้องน้ำค่ะ

Walk-in Closet จะอยู่หน้าห้องน้ำเลย สามารถมาเลือกเสื้อผ้าหรือแต่งตัวได้สะดวก

บรรยากาศห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ค่ะ มีการแยกส่วนแห้ง ส่วนเปียก พร้อมมีสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆมาให้ครบ

อ่างล้างหน้ามีตู้เก็บของด้านล่างมาให้ ส่วนพื้นที่อาบน้ำก็แยกเป็นสัดส่วน

สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆในห้องน้ำค่ะ

อีกห้องบ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องทำงาน ซึ่งด้วยขนาดพื้นที่สามารถจัดเป็นห้องนอนได้นะคะ

ห้องนี้จะมีพื้นที่สำหรับทำเป็น Walk-in Closet ซึ่งในบ้านตัวอย่างจัดเป็นตู้สำหรับโชว์ของสะสม

ห้องนี้จะมีห้องน้ำในตัวด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นจึงสะดวกสำหรับทำเป็นห้องนอน โดยภายในห้องมีสุขภัณฑ์ต่างๆมาให้ครบและได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างบานใหญ่ค่ะ

ขึ้นมาดูที่ชั้น 4 ค่ะ

ฝั่งหน้าบ้านจะเป็น Master Bedroom ขนาดใหญ่พอๆกันกับห้องชั้น 3 และมีฟังก์ชันที่เหมือนกันอีกด้วย กลายเป็นว่าทาวน์โฮมหลังนี้สามารถจัดห้องนอนขนาดใหญ่ได้ถึง 2 ห้อง

พื้นที่นั่งเล่นและทำงานข้างเตียง

จากในห้องมองไปที่ระเบียงจะเห็นฟอร์มของรูปทรงเรขาคณิตซึ่งเป็น Facade หน้าบ้าน ซึ่งสามารถช่วยกันแดดได้ ส่วนประตูบานเลื่อนออกไปที่ระเบียงจะได้ความสูงจากพื้นจรดฝ้าเพดาน ช่วยให้รับแสงธรรมชาติเข้ามาให้ห้องได้ดีค่ะ

ระเบียงที่ยาวตลอดแนวหน้ากว้างของตัวบ้าน มีพื้นที่สำหรับวาง Condensing Unit ของแอร์มาให้เป็นสัดส่วน

ห้องนี้มี Walk-in Closet หน้าห้องน้ำเช่นเดียวกัน

บรรยากาศภายในห้องน้ำค่ะ

อีกห้องเป็นห้องนอนทางฝั่งหลังบ้าน ซึ่งมี Walk-in Closet ห้องน้ำและระเบียงเช่นเดียวกัน แต่ขนาดห้องเล็กกว่า เหมาะกับจัดเป็นห้องนอนลูกหรือห้องทำงาน

ฝั่งตรงข้ามเตียงเป็นทางไป Walk-in Closet และห้องน้ำ

หน้าห้องมี Walk-in Closet อาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาแต่งตัวได้สะดวก

ห้องน้ำแยกส่วนแห้งส่วนเปียกเป็นสัดส่วนค่ะ

SPHERE – มี Family Area สามารถออกแบบพื้นที่ส่วนกลางใช้ร่วมกันได้

SPHERE เป็นทาวน์โฮม 4 ชั้นที่มีขนาดกะทัดรัดลงมาหน่อย หน้ากว้าง 6.5 เมตรเช่นเดียวกับแบบ HELIX แต่จะจอดรถได้ 3 คันเพราะความยาวของตัวบ้านน้อยกว่า สามารถจัดฟังก์ชันได้ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ + ห้องแม่บ้าน 1 ห้อง ในขนาดพื้นที่ 239 ตร.ม. ชั้นล่างเป็นที่จอดรถและห้องแม่บ้านเหมือนเดิม ส่วนชั้น 2 จะเป็น Common Area ขนาดใหญ่ให้ครอบครัวใช้ทำกิจกรรมร่วมกัน รวมถึงมีครัวและห้องน้ำแบบ Powder Room ด้วย

ชั้น 3 เป็นห้อง Master Bedroom ขนาดใหญ่ที่โปร่งโล่ง ได้ระเบียงทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน ดังนั้นห้องนี้จะได้ลมพัดผ่านดีแน่นอนค่ะ และยังได้แสงธรรมชาติจากช่องแสงทั้ง 2 ฝั่งได้ ซึ่งจะลดปัญหาการมีแสงสว่างไม่เพียงพอในทาวน์โฮมหรือตึกแถวได้เลย ห้องนี้จะมี Walk-in Closet และห้องน้ำในตัวด้วย ส่วนชั้น 4 แบ่งออกเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องที่มีห้องน้ำในตัวและระเบียงเช่นกันค่ะ

ARC – ปลอดโปร่งด้วยความสูงฝ้าเพดานห้องนอน 4 เมตร

ARC เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 175.5 ตร.ม. จัดฟังก์ชันได้ 3 ห้องนอน  3 ห้องน้ำ  จอดรถหน้าบ้านได้ 2 คัน ทาวน์โฮม Type นี้ห้องนั่งเล่นและรับประทานอาหารจะอยู่ชั้นล่างเลย โดยห้องนั่งเล่นจะอยู่ทางฝั่งหลังบ้านเชื่อมต่อกับพื้นที่สวนหลังบ้าน ให้สมาชิกสามารถมานั่งพักผ่อนได้อย่างเป็นส่วนตัว ส่วนห้องครัวทางโครงการวางผังให้อยู่หน้าบ้านแทน ข้อดีคือถ้าไปซื้อของกลับบ้านมาก็สามารถเอาไปเก็บได้ง่าย

ชั้น 2 เป็นห้อง Master Bedroom ที่สามารถจัดพื้นที่เป็น Walk-in Closet ในห้องได้และมีระเบียงทั้งฝั่งหน้าบ้าน-หลังบ้าน ช่วยให้บรรยากาศของห้องดูโปร่ง ส่วนชั้น 3 เป็นห้องนอนอีก 2 ห้อง ห้องนอนทุกห้องของ Type นี้จะมีห้องน้ำในตัวนะคะ สามารถใช้งานได้อย่างเป็นส่วนตัวและสะดวกสบายค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

Noble Curve (โนเบิล เคิร์ฟ) ณ วันที่ 7 กันยายน 2565

• OCTA ทาวน์โฮม 4 ชั้น หน้ากว้าง 8 เมตร ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 37 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 454.5 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 6 ที่จอดรถ / 1 ลิฟต์ / 1 ห้องแม่บ้าน
• HELIX ทาวน์โฮม 4 ชั้น หน้ากว้าง 6.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 30 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 370.5 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
• SPHERE ทาวน์โฮม 4 ชั้น หน้ากว้าง 6.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 21.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 239 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
• ARC ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้นประมาณ 19.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 175.5 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ  / 2 ที่จอดรถ
• ราคาเริ่มต้น 12.5 ล้านบาท
• จองและทำสัญญา N/A บาท
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ N/A บาท
• ค่าส่วนกลาง N/A บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

โครงการ Noble Curve ตั้งอยู่บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม บนที่ดินขนาดใหญ่ของ Noble ทำเลเดียวกับคอนโด Noble Create และ บ้าน Noble Curate ซึ่งถือเป็น Prime Area ของถนนเส้นนี้ สามารถเข้า-ออกจากถนนประดิษฐ์มนูธรรมได้ง่าย และสามารถเดินไป The Crystal เพียงประมาณ 300 เมตร ในแง่ของความสะดวกถือว่าดีมากๆ สามารถเดินไปได้ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีค่ะ ส่วนห้างร้านต่างๆและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆย่านเลียบทางด่วนถือว่าพร้อมมากค่ะ

ส่วนการเดินทาง เรามองว่าสามารถใช้ถนนประดิษฐ์มนูธรรมหรือทางด่วนเดินทางไปทำงานใจกลางเมืองอย่างพระราม 9 – อโศกได้โดยง่ายค่ะ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

โครงการมีระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ประตูรั้วโครงการทั้งแบบรั้วกั้นไม้กระดกและเลื่อนไฟฟ้า พร้อมระบบ Access Control ด้วย License Plate ระบบอ่านป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติ ส่วนในตัวบ้านจะมี Digital Door Lock / Motion Sensor / Smart Siren มาให้

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

โครงการมีการออกแบบ Facade ภายนอกบ้านด้วยสไตล์ Mid-Century Modern โดยการใช้รูปทรงเรขาคณิตมาจัดองค์ประกอบ ทำให้ตัวอาคารดูมีความน่าสนใจ โดยจะมีแบบบ้านมาให้เลือก 4 แบบ ทั้งทาวน์โฮม 3 ชั้นและทาวน์โฮม 4 ชั้น พื้นที่ใช้สอยสูงสุดถึง 454.5 ตร.ม. 4 ห้องนอน 6 ที่จอดรถ สามารถรองรับการอยู่อาศัยของครอบครัวใหญ่ มีแบบบ้านที่มีลิฟต์ และ Indoor Courtyard ในบ้าน ส่วนบ้าน Type อื่นๆก็มี Family Area สามารถออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้ร่วมกันได้

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

มีพื้นที่สวนส่วนกลางขนาดใหญ่ 950 ตรม. โดนสวนส่วนกลางนี้มีการจัด Landscape ให้บรรยากาศเป็นเหมือนสวนป่า พร้อมมีลานสนามหญ้า และ พื้นที่พักผ่อนสําหรับครอบครัวมาให้ด้วย นอกจากนั้นยังมีถนนส่วนตัวที่มาพร้อมกับเส้นทางปั่นจักรยานที่ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ร่มรื่นเขียวขจี และโครงการนี้จะมีการเอาเสาไฟฟ้าลงดินทั้งหมดเพื่อทัศนียภาพที่สวยงามค่ะ

สาธารณูปโภค :

พื้นที่ส่วนกลางมี Clubhouse ขนาดใหญ่ 3 ชั้น พร้อม Facilities หลากหลายรองรับคนได้ทุกกลุ่มทุกวัยทั้ง Steam Room และ ห้องเด็กเล่น ห้อง Lounge ฟิตเนส และห้องอเนกประสงค์ ซึ่งตอนนี้จัดพื้นที่เป็นห้องโยคะ นอกจากนั้นยังมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่รูปทรง  L Shape อยู่ด้านหน้า Clubhouse อีกด้วย

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพ็กเกจ 12.5 – 30 ล้านบาท, 7 กันยายน 2565

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 9/10 – ทำเลดี มีทางเข้าออกติดถนนประดิษฐ์มนูธรรม เดินไป The Crystal ได้ ถือเป็น Prime area ของทำเลนี้ 
• ความปลอดภัย 7.5/10 – รปภ.หน้าหมู่บ้าน / ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ / Access Control With License Plate / Motion Sensor / Smart Siren
  
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – ดีไซน์ตัวบ้านได้โดดเด่น น่าสนใจ เป็นทาวน์โฮมที่พื้นที่ใช้สอยเยอะ รองรับครอบครัวขนาดใหญ่และสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามต้องการ
• วัสดุ 7.5/10 – ให้มาเหมาะสมกับราคา 
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.25/10 – มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ออกแบบ Landscape ได้ดี
• สาธารณูปโภค 8.25/10 – Clubhouse ขนาดใหญ่ 3 ชั้นพร้อม Facilities หลากหลาย
• 8.40 / 10.00

Noble Curve เหมาะกับใคร

Noble Curve เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ที่มีงบประมาณ 12.5 – 30 ล้านบาท ที่มองหาบ้านย่านเลียบทางด่วน เอกมัย – รามอินทรา ต้องการความสะดวกสบาย ใกล้ห้างและถนนใหญ่ อยากได้บ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ จัดฟังก์ชันได้ 3-4 ห้องนอนและทำเป็นโฮมออฟฟิศได้ หรือเป็นกลุ่มคนที่ชอบสไตล์การออกแบบของโครงการค่ะ 

📖 เตรียมพบกับหนังสือเล่มใหม่ “อยู่ได้ไม่ใช่ แค่ได้อยู่” ที่มาพร้อมแนวคิดการอยู่อาศัยรูปแบบใหม่ เปลี่ยนชีวิตให้อยู่ง่าย อยู่สบายหลังโควิด
ลงทะเบียนรับหนังสือฟรี : คลิกที่นี่
แล้วมารับหนังสือได้ที่งาน Living Expo 2022
–> 24-27 พ.ย. ชั้น 1 สยามพารากอน

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc