Highlight
- ทำเลดีตั้งอยู่ช่วงต้นซอยสุขุมวิท3 (นานาเหนือ) ห่าง BTS นานา 350 เมตร เดินทางสะดวกทั้งรถไฟฟ้าและทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร
- มีความสะดวกสบายเนื่องจากเป็นโครงการ Mixed – Use คอนโด + Retail 3 ชั้น จำนวนกว่า 50 ร้านค้า สามารถหาของกินของใช้ได้โดยไม่ต้องออกไปจากโครงการ
- เป็น Serviced Residences มีบริการต่างๆเพิ่มเข้ามาให้เช่น 24 hour reception ,
24 hour security , Laundry service , Room service , Daily housekeeping , Wi-Fi and LAN Internet access และ Maintenance on-call
ข้อมูลโครงการ
3 March 2021
- The Rich Ploenchit – Nana (เดอะริช เพลินจิต – นานา)
- บริษัท ริชี่เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน)
- HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2020 ได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ : ซอยสุขุมวิท3 , เขตวัฒนา
- ที่ดินประมาณ 2-0-37.8 ไร่
- คอนโด High Rise 32 ชั้น 1 อาคาร 377 ยูนิต
- Mixed – Use Building – Retail 3 Floors (B1 ,G,2nd FLOOR) กว่า 50 ร้านค้า
- จอดรถใต้ดินลึกลงไป 6 ชั้น ระบบ Automatic Parking (จอดรถได้ 66%)
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 17 ยูนิต (ที่ชั้น 6 – 16)
- สถานะโครงการ : สร้างเสร็จพร้อมอยู่
- 1 Bedroom 34.45-40 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.8 ล้านบาท
- 1 Bedroom Plus 49.85 – 60.7 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 9.8 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 70.7 – 87 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 13.9 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.70 เมตร (ส่วนงานระบบแอร์เหลือ 2.50 เมตร)
- ราคาห้องเริ่มต้น 6.8 ล้านบาท (1 Bedroom 34.45 ตร.ม.) / หรือคิดเป็น 194,000 บาทต่อตร.ม.
- ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 197,140 บาท/ตร.ม.
- เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 1343#902
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มค่ะ
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.743564, 100.553080
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
The Rich เพลินจิต – นานา ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 3 หรือเรียกอีกชื่อว่า ถนนซอยนานาเหนือ เป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนหลักอย่างเพชรบุรีและถนนสุขุมวิท แต่ว่าเป็นวันเวย์นะคะ ทำเลนี้ถือว่าคึกคักและเป็นทำเลเฉพาะของชาวต่างชาติมากๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับชาวต่างชาติ ทั้งร้านอาหารต่างชาติ ผับ บาร์ สถานบันเทิง ร้านขายของที่ระลึก เกสต์เฮ้าส์ หากใครที่ชอบความคึกคักบันเทิง ร้านอาหารสไตล์นานาชาติก็น่าจะชอบย่านนี้ แต่ไม่ได้มีแค่อาหารนานาชาติเท่านั้น อาหารตามสั่งธรรมดา หรือรถเข็นก็มีให้เลือกกิน และมีศูนย์การค้า นานาสแควร์ที่อยู่ไม่ไกลจาก BTS นานา มากนัก / สถานที่สำคัญอีกอย่างที่ใกล้กับโครงการสุดก็คงจะเป็นโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ที่การรักษาที่นี่มีชื่อระดับต้นๆของประเทศ
ย่านนานานี้จะถือว่าเป็นทำเลที่มีครบครันทั้งห้างสรรพสินค้า และโรงพยาบาลชั้นนำเดินทางสะดวกทั้งรถไฟฟ้าและทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร และเป็นย่านของชาวอาหรับหรือตะวันออกกลาง สิ่งที่เราจะเห็นได้เยอะนอกจากร้านอาหารในซอยนี้ก็คงหนีไม่พ้นโรงแรมทั้งเล็กๆอย่าง Hostel ยันไปโรงแรมห้าดาวเลย รวมทั้งสถานบันเทิงด้วย อยู่ที่นี่จึงไม่ต้องกลัวเงียบเหงา
ที่ตั้งโครงการมีจุดเด่นตรงที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS เดินลงรถไฟฟ้า BTS นานา ประมาณ 250 เมตร ก็ถึงหน้าปากซอยสุขุมวิท 3 แล้ว พอถึงหน้าซอยก็เดินเข้าไปอีกประมาณ 100 เมตร ก็ถึงโครงการ รวมระยะทางจากรถไฟฟ้า BTS ถึงโครงการ ประมาณ 350 เมตรค่ะ โดยสถานีใกล้เคียงคือ BTS เพลินจิต ที่เป็นแหล่งรวมของสำนักงาน ใครทำงานแถวนั้นมาอยู่ที่นี่ถือว่าสะดวก และใกล้กับ BTS อโศก ที่เป็นสถานี Interchange ไป MRT(สถานีสุขุมวิท) ได้
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : หากมาจากถนนเพชรบุรี เมื่อถึงแยกมิตรสัมพันธ์ให้เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 3 หรือ(ถนนนานาเหนือ) ได้เลยซึ่งเป็นทาง One way แต่หากมาจากถนนอโศกมนตรี พอถึงแยกอโศกสามารถเข้าทางถนนสุขุมวิทพอถึงหน้าซอยสุขุมวิท 11 ก็เลี้ยวเข้าวิ่งตามทางมาจนสุดซอยจะกลับมาโผล่ที่นานาเหนือ แล้วก็เลี้ยวขวาเข้าโครงการได้เลย หรือเราจะสามารถใช้ทางลัดเลาะอย่างซอยสุขุมวิท 19, 17, 15, 13 เพื่อมาเชื่อมกับซอย 11 แล้วก็ออกนานาเหนือได้เช่นกัน
การเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ : บนเส้นสุขุมวิท ซอย 3 (นานาเหนือ) ตลอดทั้งเส้น เราจะเห็นทั้ง TAXI, รถตุ๊กๆสามล้อ, มอเตอร์ไซค์รับจ้าง วิ่งผ่านไปมาตลอดทั้งวันยันไปถึงดึกๆตี 2-3 เลยค่ะ เนื่องจากเป็นทำเลเฉพาะที่ครึกครื้นทั้งกลางวันและกลางคืนจากชาวต่างชาติเหล่านี้นั่นเอง และสุดท้าย BTS นานา ระยะ 350 เมตรค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
สำหรับสภาพแวดล้อมโดยรอบของโครงการ The Rich เพลินจิต – นานา มีดังนี้ค่ะ
- ทิศเหนือ ในระยะที่ประชิดจะเป็นห้องแถวบ้านเดี่ยว 1-2 ชั้นค่ะ ต้องเลยไปหน่อยประมาณ 130-180 เมตร จะเห็นอาคารสูงอย่างโรงแรม Zenith และ ตึกของรพ.บำรุงราษฎร์
- ทิศตะวันออก ติดกับซอยสุขุมวิท 3 (ถนนนานาเหนือ) ซึ่งเป็นทางเข้า-ออก หลักของโครงการ ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นเหล่าแนวตึกแถวร้านต่างๆที่สูง 5-7 ชั้น ถ้าเฉียงๆหน่อยจะเห็น Grace Hotel ส่วนตึกสูงแต่ไม่ได้บังเราตรงๆ
- ทิศใต้ ติดกับ พื้นที่จอดรถของสำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงไทย แต่ก็เห็นส่วนอาคารสูง 17 ชั้นของสนง.ใหญ่บ้างประมาณ 20% ที่เหลือมองไปไกลๆจะเห็น Nana Square และ ข้ามสุขุมวิทไปมี JW Marriott Hotel
- ทิศตะวันตก ในระยะประชิดติดกับ อาคารจอดรถประมาณ 4-5 ชั้น ถัดไปเป็นอาคาร 7 ชั้น ฝั่งนี้ถ้ามองตรงจะโล่ง แต่เฉียงซ้ายหน่อยจะติดสำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงไทยบ้างด้วย
ทิศเหนือ ในระยะที่ประชิดจะเป็นร้านอาหารและห้องแถวบ้านเดี่ยว 1-2 ชั้นค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- ติดกับ KTB Headquarter
- Nana Square ~ 100 เมตร
- Foodland ~ 180 เมตร
- JW Marriott Hotel ~ 230 เมตร
- โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ~ 240 เมตร
- The Landmark Bangkok ~ 280 เมตร
- BTS นานา ~ 350 เมตร
- สถานเอกอัครราชทูตสวีเดน ~ 450 เมตร
- Central Embassy ~ 900 เมตร
- Sheraton Grande Sukhumvit ~ 1 กิโลเมตร
- Times Square Building NKS ~ 1 กิโลเมตร
- The Westin Grande Sukhumvit Bangkok ~ 1 กิโลเมตร
- Central Chidlom ~ 1.1 กิโลเมตร
- Terminal 21 ~ 1.2 กิโลเมตร
- NIST International School ~ 1.3 กิโลเมตร
- โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ~ 1.6 กิโลเมตร
- สวนเบญจกิติ ~ 1.8 กิโลเมตร
- EM District ~ 2.3 กิโลเมตร
- Park Ventures ~ 3.1 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
The Rich เพลินจิต – นานา เป็นโครงการ Mixed – Use ที่ผสมระหว่างคอนโดและ Retail Shop โดย ชั้น B1, Ground และชั้น 2 จะเป็นส่วนของ Retail Shop ที่มีชื่อว่า Rich Walk Lifestyle Mall โดยจะมีการแยกการใช้งานทั้งลิฟต์และบันไดเลื่อนออกจากส่วนพักอาศัยเพื่อความเป็นส่วนตัวค่ะ ซึ่งข้อดีของการมีศูนย์การค้าภายในโครงการก็คือความสะดวกสบาย สามารถลงมาหาอะไรทานหรือซื้อของได้เลยโดยไม่ต้องออกไปไหนไกล แต่จะมีร้านอะไรมาเปิดบ้างนั้น ต้องรอดูตอนพื้นที่ส่วนนี้สร้างเสร็จกันอีกทีค่ะ
และความสะดวกสบายอีกอย่างของโครงการนี้คือ Serviced Residences ที่จะมีบริการต่างๆระดับโรงแรม 4 ดาวมาให้ตามนี้ (เนื่องจากทางเรายังมีข้อมูลไม่มากนัก รายละเอียดจะต้องสอบถามทางโครงการอีกทีนะคะ)
- 24 Hour Reception
- 24 Hour Security
- Laundry Service
- Room Service
- Daily Housekeeping
- Wi-Fi and LAN Internet access
- Maintenance on-call
มาดูผังโครงการกันสักหน่อย ชั้น Ground Floor ส่วนของทางเข้า-ออกโครงการจะอยู่ติดกับซอยสุขุมวิท 3 พอเข้าโครงการมาแล้วรถจะเดินวนเป็นวันเวย์ผ่านตัวอาคารไปด้านหลัง โดยจะมีทางเลี้ยวเข้าที่จอดรถซึ่งเป็นระบบ Auto Parking จำนวน 2 ช่อง ลงไปชั้นใต้ดิน 6 ชั้น (ที่จอดรถ 66%) ส่วนทางทิศเหนือจะมี Private Garden จัดแยกส่วนการใช้งานออกจากตัวอาคาร ภายในอาคารจะแบ่งออกเป็นส่วนของคอนโด มี Lobby โถงลิฟต์ ห้องจดหมายอยู่ชั้นล่าง อีกส่วนคือ Retail ที่แยกทางเข้าออกกันชัดเจน แต่ก็สามารถเดินเชื่อมต่อกันภายในอาคารได้ค่ะ จัดว่าเป็นความสะดวกอย่างหนึ่ง ที่สามารถไป Shopping ได้ โดยไม่ต้องออกจากอาคาร
บรรยากาศทางเดินรถรอบอาคาร ทางเข้า Lobby และที่จอดรถ Auto Parking
พื้นที่สวนภายในโครงการ ที่แยกส่วนออกจากตัวอาคารที่ชั้น Ground เนื้อที่ประมาณ 70 ตารางวา มีลงต้นไม้ใหญ่เอาไว้ให้รอบแบบนี้
เข้ามาจะเจอกับ Lobby เป็นส่วนแรก ภายในตกแต่งด้วยไม้และกระจกเงาตัดกับพื้นสีขาว ดูบรรยากาศอบอุ่นดี
ด้านหลังจะมีเคาน์เตอร์อยู่อีกจุดหนึ่ง ทางฝั่งขวาจะเป็นทางไปโถงลิฟต์ที่ขึ้นไปยังชั้นพักอาศัย โดยจะมีประตูกั้นเอาไว้เป็นสัดส่วน
ห้องจดหมายของลูกบ้านจะอยู่รวมกันบริเวณหน้าทางเข้าโถงลิฟต์ก่อนขึ้นชั้นพักอาศัย เราสามารถแวะหยิบได้สะดวก โดยสุดทางของห้องนี้จะมีประตูที่สามารถเดินเชื่อมออกไปยังส่วนของ Retail ได้เลยโดยไม่ต้องออกไปจากโครงการ ถือว่าสะดวกมากๆทีเดียว
ทางไปโถงลิฟต์ส่วนพักอาศัยนั้นจะกั้นด้วยประตูที่ต้องใช้คีย์การ์ดถึงจะผ่านเข้าไปได้
ถ้าจะผ่านประตูนี้ไปได้ต้องสแกนคีย์การด์ เป็นการกรองความปลอดภัยก่อนเข้าส่วนพักอาศัยอีกหนึ่งชั้นค่ะ
ภายในโถงลิฟต์ตกแต่งด้วยโทนสีขาว โดยจะมีลิฟต์โดยสารอยู่ 3 ตัว ลิฟต์ Service อีก 1 ตัวโดยอัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการจะอยู่ที่ 142 : 1 ถือว่าปานกลาง ไม่มากไม่น้อย
ชั้น 3rd จะเป็นชั้นแรกสำหรับชั้นพักอาศัย ส่วนที่อยู่ทางทิศใต้ทั้งแนวจะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด โดยจะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ที่เหลือจะเป็นส่วนของห้องงานระบบต่างๆ
ชั้น 4 จะเป็นส่วนพักอาศัยผสมกับ Main Floor Facility ซึ่งจะประกอบไปด้วย Club Lounge , Multipurpose Room, Business Room, Kid’s room, Locker Room แยกชายหญิงมี Sauna ในตัว และสุดท้ายสระว่ายน้ำ Freeform ระบบเกลือ (พร้อม Jacuzzi) ขนาดใหญ่ที่ยาวประมาณ 25 เมตร กว้าง 6 เมตร ลึก 1.2 เมตร มีแยกสระเด็กมาให้ด้วย
โดยส่วนพักอาศัยจะอยู่แยกออกมาจากพื้นที่ส่วนกลาง มีประตูกั้นเป็นสัดส่วน คนที่มาใช้พื้นที่ส่วนกลางไม่สามารถเดินผ่านเข้ามารบกวนความเป็นส่วนตัวได้ ดังนั้นชั้นนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลาง ไม่เน้นวิวมากนักเพราะยังอยู่ในชั้นที่ไม่สูงมาก หรือเป็นคนที่อยากอยู่ชั้นที่มีจำนวนยูนิตต่อชั้นไม่เยอะค่ะ
ถ้าดูจากแปลนชั้น 5 ยังมี Facility อยู่เหมือนกันนะคะ คือห้องออกกำลังกาย และห้องโยคะแต่จะต้องขึ้นบันไดมาจากชั้น 4 ซึ่งถ้ามองวิวลงไปจะเห็นสระว่ายน้ำชั้น 4 ที่เหลือจะเป็นส่วนของห้องพักอาศัยที่มีจำนวน 10 ยูนิตต่อชั้น
โถงลิฟต์ชั้น Main Facility จะมีการตกแต่งมากกว่าชั้นห้องพักอาศัยอื่นๆ โดยส่วนห้องพักอาศัยจะมีการกั้นด้วยประตูที่ต้องใช้คีย์การ์ดค่ะ
ส่วนโถงทางเดินในแต่ละชั้นก็จะออกแบบเรียบๆโทนสีเทา ขาวค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 4 บริเวณนี้คือ Club Lounge พื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน จัดบรรยากาศมาได้น่านั่ง โปร่งโล่งด้วยกระจกผืนใหญ่ตลอดทั้งแนว สามารถนั่งทำงานไป ชมวิวเมืองไปด้วยได้ ที่นั่งที่เค้าจัดมาจะมีทั้งที่นั่งชุดเล็กสำหรับคนที่มาคนเดียว และชุดโซฟาที่นั่งแบบเป็นกลุ่มได้
ถัดมาเป็น Multipurpose Room ใช้งานได้หลากหลาย ทั้งทำงาน นั่งเล่น คุยงาน
สุดท้ายคือ Business Room ที่สามารถกั้นเป็นห้องปิดใช้ประชุมแบบเป็นส่วนตัวได้ โดยทางฝั่งขวาจะมีหน้าต่างที่มองออกไปเป็นวิวสวนหย่อมเล็กๆ
ชั้นนี้จะมีห้องนิติบุคคลอยู่ด้วย ถัดไปทางประตูฝั่งซ้ายคือทางไปห้องน้ำ
ชั้นนี้มีห้องน้ำมาให้ 2 จุด จุดแรกจะอยู่ใกล้กับห้องนิติบุคคล มีแยกชายหญิงมาให้ ส่วนอีกจุดจะอยู่บริเวณสระว่ายน้ำ
ห้องน้ำตรงส่วนนี้จะมีอ่างล้างหน้าและห้องน้ำมาให้ ถ้าเรานั่งอยู่บริเวณ Club Lounge จะเดินมาใช้งานสะดวกหน่อย
เดินย้อนกลับมาเพื่อไปดูสระว่ายน้ำและ Facilities อื่นๆที่อยู่อีกฝั่งของตัวอาคารกันค่ะ
สระว่ายน้ำ Freeform ระบบเกลือขนาดใหญ่ที่ยาวประมาณ 25 เมตร กว้าง 6 เมตร ลึก 1.2 เมตร แยกสระเด็กอยู่บริเวณในร่ม บริเวณปลายของสระจะมีสระแช่ตัวที่มีการตกแต่งเป็นเสมือนศาลาเล็กมาให้
สระจะมีส่วนที่สามารถว่ายออกกำลังกายยาวๆได้ และฝั่งขวาจะเป็นส่วนที่เอาไว้นั่งแช่ตัวเพื่อเพิ่มความผ่อนคลาย
ถ้าเราอยากมานั่งเอาบรรยากาศหรือนั่งรอเพื่อนๆเล่นน้ำก็มีที่นั่งเตรียมไว้ให้ ศาลาที่อยู่ด้านหลังจะเป็นสระแช่ตัว
บริเวณปลายของสระจะมีมุมให้นั่งเล่นพักผ่อนชมวิว
บริเวณสระว่ายน้ำจะมีห้องน้ำมาให้อีกจุดหนึ่งค่ะ แยกชายหญิงมาให้เช่นกัน ห้องนี้จะมี Sauna มาให้ด้วยค่ะ
ห้องน้ำฝั่งนี้จะมีขนาดกว้างกว่า มีล็อกเกอร์และห้อง Sauna มาให้ด้วยค่ะ
บรรยากาศภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำค่ะ
บรรยากาศภายในห้อง Sauna ออกกำลังกายแล้วก็สามารถมาใช้อบตัวพักผ่อนได้
จากบริเวณข้างสระว่ายน้ำชั้น4 จะมีบันไดขึ้นไปฟิตเนสที่อยู่ชั้น5 การใช้งานจะต้องเดินขึ้นจากตรงนี้เท่านั้น ไม่สามารถเข้าจากชั้น 5 ได้ เป็นการคุมความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของคนที่อยู่ส่วนพักอาศัยชั้น 5 ค่ะ
ห้องออกกำลังกายใส่เครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 10 เครื่อง สามารถมองลงมาเห็นวิวสระว่ายน้ำได้ค่ะ
แปลนชั้น 6
ชั้น 6 – 16 จะเป็น Typical Plan เป็นชั้นที่มีส่วนของห้องพักอาศัยเยอะที่สุดและเต็มพื้นที่อาคาร โดยเริ่มดูจาก Corridor โถงทางเดินกันก่อนจะเป็นรูปตัว H แนวนอน ซึ่งมีช่องแสงตามปลายอาคาร 2 จุด และจุดพิเศษก็คือ ด้านข้างๆบันไดหนีไฟหลัก (ช่องสีเหลี่ยมสีขาวตรงกลางอาคาร) นั้นถูกเจาะเป็นช่องลม เพื่อให้เกิด Ventilation การระบายหมุนเวียนของลมเข้าสู่โถงทางเดิน
ชั้น 32 จะเป็น Rooftop จุดชมวิวที่จัดเป็นที่นั่งและสวนหย่อมมาให้
ขึ้นมาถึงชั้น Rooftop แล้ว เรามาดูวิวกันสักหน่อยนะคะ
ทิศเหนือ ในระยะที่ประชิดจะเป็นห้องแถวบ้านเดี่ยว 1-2 ชั้น ต้องเลยไปหน่อยจะเห็นอาคารสูงอย่างโรมแรม Zenith และ ตึกของรพ.บำรุงราษฎร์
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- ชั้น 1
- Lobby
- สวนหย่อม
- Club Lounge
- Multipurpose Room
- Business Room
- Kid’s room
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 25 x 6 เมตร + Jacuzzi ลึก 1.20 เมตร แบ่งเป็นสระเด็กและสระผู้ใหญ่
- Locker Room แยกชายหญิงมี Sauna ในตัว
- ห้องออกกำลังกาย ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง
- Yoga Room
แบบห้อง
โครงการ The Rich เพลินจิต – นานา มีห้องพักทั้งหมด 3 Type ได้แก่ 1 Bedroom 34.45-40 ตร.ม. , 1 Bedroom Plus 49.85 – 60.7 ตร.ม. และ 2 Bedrooms 70.7 – 87 ตร.ม. ขายแบบ Fully Fitted ให้ชุดครัว สุขภัณฑ์ แอร์แบบฝังฝ้าเพดาน
มาดูห้องตัวอย่างห้องแรกเป็นแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.45 ตร.ม. พื้นที่การออกแบบแยกเป็นสัดส่วนชัดเจน เปิดเข้าไปส่วนแรกที่เจอจะเป็นพื้นที่ครัว ฝั่งซ้ายมือเป็นมีพื้นที่ให้วางชั้นวางของหรือชั้นวางรองเท้าและตู้เย็น ส่วนฝั่งขวามือเป็นชุดครัวทั้งหมด ถัดไปจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น พื้นที่ส่วนนี้กับครัวจะไม่มีประตูกั้น แต่พื้นจะเปลี่ยนไปจากกระเบื้องมากลายเป็นลามิเนตแทนให้อารมณ์ฟังก์ชันที่ถูกเปลี่ยนไป ห้องนั่งเล่นวางโซฟาตัวใหญ่ได้ ด้านหลังมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่ง ติดกันเป็นพื้นที่ระเบียงที่กว้างสามารถวางโต๊ะไว้นั่งเล่นได้ และเป็นพื้นที่สำหรับวาง Condensing Unit ของแอร์ทั้งหมด 3 ตัว
ส่วนที่เป็นห้อง Plus ของที่สามารถจัดฟัง์ชันของห้องได้ตามความต้องการของเจ้าของอาทิเช่น ห้องอ่านหนังสือ ห้องทำงาน ห้องนอนเล็ก ห้องดูหนัง หรือจะเป็นห้องแต่งตัวพิเศษสำหรับสาวๆที่ชอบ Fashion การแต่งตัว ห้องนี้จะมีประตูบานเลื่อนกั้นให้เป็นสัดส่วนชัดเจน ห้องน้ำสามารถเข้าได้จากทางห้องนั่งเล่นทำให้สะดวกต่อการใช้งานเวลามีแขก และสุดท้ายห้องนอนได้พื้นที่ภายในห้องกว้างพอสมควร วางเตียง King Size และพื้นที่รอบด้านเตียงเหลือ มีมุมตู้เสื้อผ้าและมุมโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่แยกออกมาเดินไปมาสะดวก
ประตูห้องเป็นประตูบานไม้ปิดผิวด้วยลามิเนตสีขาวครีม บานกรอบเป็นสีขาว มีตาแมวและ Digital door lock มาให้
Digital door lock ที่มีให้มาตรฐานโครงการ ของ KABA เป็นแบบสามารถใช้รหัสเข้าห้อง, คีย์การ์ด และกุญแจ
เข้ามาด้านในก็จะเจอกับพื้นที่ส่วนครัว โดยด้านขวามือจะเป็นเคาน์เตอร์ครัว ด้านซ้ายเป็นพื้นที่วางตู้เก็บของ, ชั้นวางรองเท้า และตู้เย็น โดยปูพื้นด้วยกระเบื้องสีขาว
มุมมองย้อนกลับไปที่ฝั่งประตู ด้านขวามือของห้องจะไม่ได้เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้านะคะ ในห้องตัวอย่างเป็นการตกแต่งห้องเพื่อให้เราได้ดูตำแหน่งการวางค่ะ
ชุดครัวเราจะได้มาตรฐานตามแบบนี้เลย ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเครื่องซักผ้าและไมโครเวฟ ชุดตู้ติดผนังด้านบนหน้าบานจะเป็นโครงสร้างไม้พ่น Hi-Glossสีขาว และ Fitting การเปิดปิดเป็น Soft close ทั้งหมด
อ่างล้างจากของ MEX
อ่างล้างจากของ MEX เป็นแบบที่มีฝาด้านหน้า สามารถเลื่อนมาปิดเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการประกอบอาหารได้
เครื่องดูดควันเป็นของ MEX
เตาเป็นแบบแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หัว ของ MEX เช่นกัน
ห้องนั่งเล่นจะกว้างขวางเป็นพิเศษ พื้นที่ทั้งหมดจะได้รับแสงธรรมชาติเพราะอยู่ติดกับประตูกระจกบานใหญ่ที่ออกไประเบียง
มุมรับประทานอาหารที่จัดวางโต๊ะแบบ 2 ที่นั่งเหมาะสมกับห้อง 1 Bedroom ที่น่าจะอยู่ 2 คนไม่เกินนี้ ถือว่าเหมาะสม
พื้นของระเบียงจะลดระดับลงมาเล็กน้อยเอาไว้กันฝนสาดเข้าห้อง พื้นระเบียงมีขนาดกว้างประมาณ 90 ซม. สามารถใช้งานได้จริง ทั้งจัดสวนขนาดเล็ก วางโต๊ะนั่งเล่น หรือเก็บของชิ้นใหญ่ ตากผ้าก็สบายๆ / ส่วนทางขวามือเป็นพื้นที่เก็บ Condensing Unit ของแอร์อยู่ด้านหลังระแนงอลูมิเนียม แต่ว่าคอมแอร์หันลมร้อนเข้าหาห้อง แนะนำให้ไปหา Grill บังคับทิศทางลมมาติดซะ ให้ลมร้อนหันหน้าออกไปนอกระเบียงจะได้ใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มที่
ห้องนี้เราสามารถทำเป็นห้องอเนกประสงค์ได้ตามใจเจ้าของห้องอย่างเช่น ห้องทำงาน, ห้องนอนเล็ก หรือถ้าสาวๆที่รัก Fashion ก็ทำเป็นห้องแต่งตัวแยกออกมาไปเลยก็ได้ค่ะ
เข้ามาในส่วนของห้อง Plus ในห้องตัวอย่างจัดเอาไว้เป็นห้องทำงานส่วนตัว เราสามารถใช้เป็นไอเดียได้นะ
เข้ามาที่ห้องนอนจะเจอกับพื้นที่ทำงานและส่วนเตียงนอนพักผ่อน
ในส่วนของห้องนอนจะได้พื้นที่ค่อนข้างกว้าง วางเตียง King Size ลงไปยังกลางห้องแล้ว ยังสามารถเดินรอบเตียงได้สะดวก ห้องนี้จะดูโปร่งโล่งสว่างเพราะได้รับแสงธรรมชาติจากหน้าต่างขนาดใหญ่เกือบถึงฝ้าเพดาน
พื้นที่ข้างเตียงฝั่งซ้ายกว้าง 60 cm.
ระยะด้านข้างเตียงทั้งสองฝั่งและปลายเตียงเหลือประมาณ 50 – 60 ซม.
มองย้อนกลับไปที่บริเวณหน้าห้องจะมีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะขนาดใหญ่ ที่จะทำเป็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้
เข้ามาด้านในขนาดจะเจอกับฟังก์ชันใช้งานมาตรฐานอย่างอ่างล้างมือ และสุขภัณฑ์ ผนังติดกระจกเงาขนาดใหญ่เอาไว้ให้
อ่างล้างหน้าของ KASCH
อ่างล้างมือและชุดก๊อกแยกระบบน้ำร้อนเอาไว้ให้ 2 หัว เป็นของ KASCH
ชุดสุขภัณฑ์เป็นของ KASCH เช่นกันเป็นแบบกึ่งอัตโนมัติ พวกระยะด้านข้างสองฝั่งเหลือสบายๆไม่อึดอัด
ส่วนของพื้นที่อาบน้ำแยกส่วนเปียก ได้ Shower Box แบบ Tempered Glass มา พื้นที่อาบน้ำค่อนข้างกว้างทีเดียว สามารถทำที่นั่งอาบน้ำเพิ่มได้ด้วย
ฝักบัวได้หน้าตามาตรฐานแบบนี้ค่ะ
ห้องตัวอย่างอีกห้องเป็นแบบ 2 Bedroom ขนาด 70.70 ตร.ม. (ห้องแบบนี้จะมีแค่ชั้น 26 ขึ้นไป) ห้องนี้จะเป็นแบบ 2 ห้องนอนและ 2 ห้องน้ำ แยกทุกฟังก์ชันเป็นสัดส่วนชัดเจน เข้ามาเจอจะพื้นที่ให้วางชั้นวางรองเท้าได้ มีห้องน้ำอยู่ทางฝั่งซ้ายซึ่งเป็นห้องที่มีฝักบัวอาบน้ำได้ ถัดไปจะเจอกับครัวซึ่งจะมีขนาดใหญ่กว่าห้อง 1 Bedroom ส่วนของโต๊ะทานอาหารจะอยู่ติดกับครัวเลย สามารถใช้เป็นส่วนเตรียมอาหารได้ด้วย ถัดไปเป็นห้องนั่งเล่น ทั้งสามส่วนนี้จะเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกัน พื้นจะปูด้วยกระเบื้องแบบเดียวกันและระเบียงจะอยู่ตรงกึ่งกลางห้อง มุมนั่งเล่น ยังคง Concept ระเบียงกว้างใช้งานจริงได้เหมือนเดิม
ห้องนอนเล็กจะอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ(ด้านหลังของโซฟา) ห้องนี้จะไม่มีห้องน้ำในตัวต้องออกมาใช้ด้านนอกร่วมกับห้องนั่งเล่น แต่ขนาดภายในห้องกว้างทีเดียว ส่วนของ Master Bedroom จะกินพื้นที่ซีกขวาประมาณ 1ใน3 ของห้อง เลยมีพื้นที่สำหรับฟังก์ชันที่ห้องนอนควรจะมีหมดเลย และมีห้องน้ำในตัว ขนาดห้องน้ำใหญ่และกว้าง มีแยกพื้นที่อาบน้ำด้วยกระจกนิรภัยและด้านในมีอ่างอาบน้ำและ Rain Shower
เปิดประตูเข้ามา เราจะเจอกับพื้นที่ที่สามารถทำเป็นตู้เก็บของและตู้เก็บรองเท้าได้ และทางซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำมีฟังก์ชันการใช้งานให้ใช้ครบทั้งโถสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้าและพื้นที่อาบน้ำ ซึ่งสุขภัณฑ์จะเป็นของ KASCH แบบเดียวกับห้องก่อนหน้า
ถัดมาจะเป็นส่วนห้องห้องครัว – รับประทานอาหาร – ห้องนั่งเล่น ซึ่งจะมีพื้นที่เชื่อมต่อกัน พื้นเป็นกระเบื้องสีขาวแบบเดียวกัน
โต๊ะรับประทานอาหารถูกจัดไว้ติดกับครัว ซึ่งการวางผังแบบนี้ฟังก์ชันจึงสามารถทำได้ทั้งเป็นโต๊ะทานข้าวและพื้นที่เตรียมอาหาร ที่นั่งสามารถจัดได้ 4-6 คน รองรับกลุ่มครอบครัวและคนที่พาเพื่อนมาปาร์ตี้ที่บ้าน ส่วนตรงฝ้าเพดานครัวเป็นงานระบบแอร์เลยสูงแค่ 2.50 เมตร พอมาเป็นส่วน Living จึงจะสูง 2.70 เมตร
หน้าบานตู้ด้านบนเป็นโครงสร้างไม้พ่น Hi-Gloss สีขาว
ชุดครัว วัสดุอุปกรณ์จะเหมือนกับห้อง 1 Bedroom แตกต่างกันที่ “ความยาว” ที่ได้พื้นที่จัดเตรียมอาหาร ชุดตู้เก็บของเพิ่มขึ้นมา
อ่างล้างจานของ MEX เป็นแบบฝังอยู่ด้านล่างเคาน์เตอร์
อุปกรณ์ครัวได้ของ MEX เหมือนกับห้อง 1 Bedroom ค่ะ
ถัดมาเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่อยู่บริเวณใจกลางห้อง โซนนี้จะได้ความโปร่งโล่งจากช่องแสงที่อยู่ด้านข้าง มีระยะดูทีวีเกือบ 4 เมตร สามารถจัดทีวี 50-60 นิ้วได้สบายๆ
ด้านหลังโซฟาจะเป็นห้อง Plus กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ส่วนด้านข้างคือทางออกไปที่ระเบียง เราจะได้ช่องแสงขนาดใหญ่จากมุมนี้ ทำให้ห้องส่วนใหญ่สว่างไปเลย กลางวันแทบไม่ต้องเปิดไฟก็ได้ค่ะ
ระเบียงมีการจัดพื้นที่วาง Condensing Unit ของแอร์เป็นสัดส่วนและไม่ต้องแบ่งพื้นที่ไปวางเครื่องซักผ้า (อยู่บริเวณครัวเรียบร้อยแล้ว) จึงสามารถออกมาใช้งานได้เต็มพื้นที่ จะหาเก้าอี้มาวางเพื่อนั่งเล่นชมวิวก็ทำได้สบายๆ ส่วนราวกันตก ทางโครงการให้มาเป็นกระจกทำให้สามารถเห็นวิวได้กว้าง ไม่มีราวมาขวางค่ะ
Condensing Unit ของแอร์ถูกจัดให้อยู่เป็นสัดส่วน ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดีค่ะ
ภายในห้อง Plus ในห้องตัวอย่างเอาเตียงขนาด 3.5 ฟุต มาวางแต่จริงๆแล้วพื้นที่เหลือสำหรับวางได้ถึง 5 ฟุตเลยนะคะ แต่อาจจะต้องเสียพื้นที่สำหรับวางโต๊ะข้างเตียงไป ปลายเตียงยัง Built-in เฟอร์นิเจอร์ได้ทั้งแนว อีกทั้งห้องนี้ยังได้ช่องแสงเกือบเต็มทั้งแนวผนัง ทำให้เป็นห้อง Plus ที่อยู่ได้สบายๆ ไม่อึดอัดเลย
ผนังอีกด้านหนึ่งของห้องสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ค่ะ
อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นห้องนอนใหญ่ Master Bedroom
ภายในห้องนอนใหญ่วางเตียงได้แบบ King Size ที่ปลายเตียงตั้งแต่หน้าห้องน้ำ สามารถ Built-in ชั้นวางของยาวไปเลย ทำเป็นชั้นวางทีวี + โต๊ะเครื่องแป้งได้
พื้นที่ข้างเตียงฝั่งซ้ายมีระยะ 60 cm.
ข้างเตียงมีระยะสำหรับวางโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง
ห้องนี้จะมีห้องน้ำในตัว สามารถใช้งานได้สะดวก
ภายในห้องน้ำมีการแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนแห้ง ส่วนเปียกเป็นสัดส่วน
โถสุขภัณฑ์ได้ของ KASCH
มีการติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่ ชั้นวางชุดอ่างล้างมือ มีอุปกรณ์ต่างๆที่ต้องใช้งานในห้องน้ำครบ พื้นที่อาบน้ำ “กว้างมากกก” มีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วย เป็นขนาดใหญ่ที่ลงไปนอนแล้วเหยียดขาได้
2 ห้องนอนขึ้นไปจะได้อ่างอาบน้ำของ Cristina ด้วย
สวิตซ์ของ Panasonic
สวิตซ์และปลั๊กของ Panasonic ค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคา
3 March 2021
- 1 Bedroom 34.45-40 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.8 ล้านบาท
- 1 Bedroom Plus 49.85 – 60.7 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 9.8 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 70.7 – 87 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 13.9 ล้านบาท
- รูปแบบการขาย Fully Fitted (ได้ชุดครัว, แอร์ทุกห้อง)
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.70 เมตร
- Kitchen & Sink / Top หินเทียมสีขาว
- Hob & Hood / ของยี่ห้อ MEX
- จอง 20,000 บาท
- ทำสัญญา 80,000 บาท
- ค่ากองทุน 700 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 70 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล : The Rich เพลินจิต – นานา ทำเลถือเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยเพราะตั้งอยู่ติดสุขุมวิทซอย 3 (ถนนนานาเหนือ) อยู่ในทำเลที่คึกคักและเป็นทำเลเฉพาะของชาวต่างชาติมากๆ เส้นนี้จะหาคนไทยที่อาศัยอยู่จริงๆมีน้อย สิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับชาวต่างชาติ ทั้งร้านอาหารต่างชาติ ผับ บาร์ สถานบันเทิง ร้านขายของที่ระลึก เกสต์เฮ้าส์ หากใครที่ชอบความคึกคักบันเทิง ร้านอาหารสไตล์นานาชาติก็น่าจะชอบย่านนี้ แต่ไม่ได้มีแค่อาหารนานาชาติเท่านั้น อาหารตามสั่งธรรมดา หรือรถเข็นก็มีให้เลือกกิน และมีศูนย์การค้า นานาสแควร์ที่อยู่ไม่ไกลจาก BTS นานา มากนัก / สถานที่สำคัญอีกอย่างที่ใกล้กับโครงการสุดก็คงจะเป็นโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ที่การรักษาที่นี่มีชื่อระดับต้นๆของประเทศ ย่านนานานี้จะขึ้นชื่อเรื่องเป็นย่านของคนตะวันออกกลาง จะมีร้านรวงต่างๆที่มีป้ายภาษาอาหรับให้เห็นเยอะแยะ มีอาหารมุสลิมและร้านอาหารต่างๆก็มักจะงดเมนูหมูด้วย สิ่งที่เราจะเห็นได้เยอะนอกจากร้านอาหารในซอยนี้ก็คงหนีไม่พ้นโรงแรมทั้งเล็กๆอย่าง Hostel ยันไปโรงแรมห้าดาวเต็มไปหมดเลย รวมทั้งสถานบันเทิงมากมายด้วย อยู่ที่นี่จึงไม่ต้องกลัวเงียบเหงา
การเดินทางโดยใช้รถ : หากมาจากถนนเพชรบุรี เมื่อถึงแยกมิตรสัมพันธ์ให้เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 3 หรือ(ถนนนานาเหนือ) ได้เลยซึ่งเป็นทาง One way ซึ่งเจ้าวันเวย์นี้แหละเป็นข้อเสียหน่อยของการเดินทางมาโครงการนี้ เราต้องหัดใช้เส้นทางลัดอื่นๆให้เป็นในช่วงสุขุมวิทตอนต้นเลขคี่ แต่จะสะดวกอีกอย่างเพราะอยู่ใกล้กับทางด่วนเฉลิมมหานคร และที่จอดรถให้มา 66% (แบบ Automatic Parking)
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : บนเส้นสุขุมวิท ซอย 3 (นานาเหนือ) ตลอดทั้งเส้น เราจะเห็นทั้ง TAXI, รถตุ๊กๆสามล้อ, มอเตอร์ไซค์รับจ้าง วิ่งผ่านไปมาตลอดทั้งวันยันไปถึงดึกๆตี 2-3 เลย เนื่องจากเป็นทำเลเฉพาะที่ครึกครื้นทั้งกลางวันและกลางคืนจากชาวต่างชาติเหล่านี้นั่นเอง และสุดท้าย BTS นานา ระยะ 350 เมตรค่ะ เรียกว่าสะดวกมากทีเดียว
วัสดุ : พื้นห้องที่ให้เป็นลามิเนตหนา 12 มม.และกระเบื้องเซรามิค กรอบประตูหน้าต่างอลูมิเนียมเคลือบสี ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ในห้องที่ได้จะเป็น Fully-fitted มีชุดครัว, Hob & Hood, แอร์ทุกห้อง สำหรับชุดอุปกรณ์ในห้องน้ำมีให้ครบโถสุขภัณฑ์ก็เป็นแบบกึ่งอัตโนมัติและ Rain Shower ซึ่งถ้าเทียบกับโครงการในระดับเดียวกันยังสามารถให้ของที่ดีกว่านี้ได้ค่ะ
การออกแบบ : หน้าตาโทนสีอาคารเป็นแนวโมเดิร์น ที่ใช้โทนของสีขาว สีสว่างตา ดูเรียบหรู โครงการนี้เป็นลักษณะของ Mixed – Useที่ดึงในส่วนของ Retail Shop มาถึง 3 ชั้นในพื้นที่ชั้นล่างของโครงการ ซึ่งการทำแบบนี้นับว่า “เหมาะ” และสอดคล้องกับทำเลที่ตั้งที่เป็นแหล่งของชาวต่างชาติเกือบทั้งหมด ปกติจะชอบอยู่โรงแรมและมี Facility ร้านค้า สิ่งอำนวยความสะดวกในตัวอีกทั้งทำให้ลูกบ้านสะดวกมากขึ้น ส่วนชั้นที่เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ออกแบบมาเน้นสไตล์คล้ายโรงแรมที่ชาวต่างชาติชอบ ยูนิตต่อชั้นถือว่าไม่เยอะนัก
ส่วนห้องของโครงการนี้หลักๆจะมีแค่ 3 แบบคือ 1 Bedroom, 1Bedroom Plus และ 2 Bedroom ซึ่งทุกห้องมีขนาดที่เหมาะสมกับการอยู่อาศัยได้จริง ถ้าดูจากแปลนทุกแบบถือว่าจัดฟังก์ชันได้ลงตัวดีเลยค่ะ
สาธารณูปโภค : สำหรับ Facilities ในคอนโดเริ่มจากพื้นที่สีเขียวที่มีให้ชั้น G ด้านนอกอาคารและก็ Green Area ที่อยู่ตามชั้นร่นระยะต่างๆถือว่ามีพื้นที่สีเขียวให้พอสมควร ส่วนกลางหลักอยู่ที่ชั้น 4-5 มีมาให้เยอะหลากหลายแต่เสียดายนิดหน่อยที่ไม่เอาไว้ชั้นสูงๆเพื่อให้ชม City View ได้ด้วย โดยชั้น Rooftop จะมีแค่สวนหย่อมนิดหน่อยเท่านั้น ในส่วน Retail ณ วันที่เข้าไปรีวิวยังสร้างไม่เสร็จจึงยังไม่เห็นว่ามีร้านค้าอะไรบ้างค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 150,000-200,000 บาท/ตร.ม., 3 March 2021
- ทำเล 8/10 – มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งโรงพยาบาล ห้าง ร้านอาหาร สถานบันเทิง เป็นย่านที่โรงแรมเยอะมาก
- เดินทางด้วยรถ 7/10 – สะดวกแต่ข้อเสียคือวันเวย์ รถติดมาก แต่ก็มีทางลัดเลาะเลี่ยงรถติดได้ต้องศึกษาหน่อย ใกล้ทางด่วนมาก และที่จอดรถเป็น Automatic ได้ที่จอด 66%
- ไม่ใช้รถ 8/10 – ติดซอยหลักนานาเหนือ มีรถแท็กซี่, มอเตอร์ไซค์, สามล้อผ่านทั้งวันทั้งคืน / BTS นานา 350 เมตร
- วัสดุ 6.5/10 – ให้วัสดุมาน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับราคาที่ต้องจ่ายไป
- แบบ 7.75/10 – แบบอาคารสไตล์โมเดิร์นโทนสีสว่าง ฟังก์ชันห้องลงตัวแยกเป็นสัดส่วนทุกจุดพอดีเหมาะกับการอยู่อาศัย
- สาธารณูปโภค 8.25/10 – ข้อนี้ให้คะแนนในกรณีที่ถ้าเผื่อโครงการดึงร้านค้าดีๆมาในส่วน Retail Shop ได้ด้วย , ส่วนลูกบ้านได้ส่วนกลางหลากหลาย
- HIGH CLASS
- 7.62 / 10.00
BOTTOM LINE
The Rich เพลินจิต – นานา เป็นโครงการในทำเลเฉพาะในย่านของชาวต่างชาติกลุ่มตะวันออกกลางที่มารวมตัวบนเส้นนานาเหนือ เป็นแหล่งของโรงแรม ห้าง ร้านค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิงที่มาเกาะกลุ่มเพื่อพวกเค้าเหล่านี้ ทำเลนี้ใช้รถยนต์เดินทางก็ได้แต่รถสาธารณะสะดวกกว่ามาก เหมาะกับคนที่ซื้อของเฉพาะเพื่อให้ถูกกลุ่ม ชอบความสะดวกสบายด้วยทำเลและ Mixed Use ในโครงการ มีงบประมาณ 6.8 – 19 ล้านบาทค่ะ
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะคะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc