รีวิวฉบับที่ 2048 … ถือว่าเป็นโครงการที่สร้างเสร็จเร็วมากๆอีกโครงการนึงเลย กับ Plum Condo สะพานใหม่ สเตชั่น คอนโด Low Rise 3 อาคาร ที่เรียกได้ว่ายกส่วนกลางมาจัดจ้านที่สุดในย่านนี้ มีอยู่ในทั้ง 3 อาคาร และพื้นที่สวนและสระว่ายน้ำตรงกลาง แบบห้องจัดมาให้เลือกหลายแบบหลายขนาด ขายแบบ Fully Furnished ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.39 ล้านบาท ลองเข้าไปชมรายละเอียดกันเลยครับ

ข้อมูลโครงการ

25 February 2020

  • PLUM CONDO SAPHANMAI STATION (พลัมคอนโด สะพานใหม่ สเตชั่น)
  • บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
  • ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : สายไหม
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร 681 ยูนิต
  • ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 40%
  • ที่ดินประมาณ 4-3-40.9 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : พฤษจิกายน 2018
  • แล้วเสร็จ : เมษายน 2020
  • Studio 20.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 1.25 ล้านบาท (Update 29/07/20)
  • 1 Bedroom 22.75-31.25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.55-2.59 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus 33.5-39.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.55-3.25 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 1.25 ล้านบาท (Update 29/07/20)
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 70,000 บาท/ตร.ม.
  • เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 1793

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.8948303,100.6135793
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการครับ

Plum Condo สะพานใหม่ สเตชั่น ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 52 สำหรับการเข้าถึงโครงการสามารถเข้าทางถนนพหลโยธินได้โดยตรงและเป็นเส้นทางที่ใกล้ที่สุด เพราะโครงการห่างจากปากซอยพหลโยธิน 52 ประมาณ 450 ม. หากมองที่ถนนสายหลักคือ ถนนพหลโยธินจัดเป็นถนนหลักที่เริ่มตั้งแต่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิสามารถวิ่งตรงต่อเนื่อง ผ่านย่านและพื้นที่สำคัญหลากหลายจนไปถึงปทุมธานีได้ ถนนพหลโยธินสามารถเชื่อมต่อกับถนนหลักสำคัญอย่างเช่น ถนนวิภาวดี รังสิต ไปเชื่อมต่อออกไปถนนแจ้งวัฒนะที่มาจากทางปากเกร็ด นนทบุรี และถนนรามอินทราที่มาจากทางมีนบุรีได้ นอกจากนี้ซอยพหลโยธิน 52 คือ เป็นเส้นที่สามารถลัดเลาะเชื่อมทั้งซอยพหลฯ 50 และก็ถนนเทพรักษ์(ตัดใหม่) ซึ่งสามารถไปใช้ทางด่วนตรงวัชรพลได้ง่าย

แถมได้ข่าวมาว่าในอนาคตจะมีการต่อเติมเชื่อมไปยังวิภาวดีรังสิตทางซอยวิภาฯ72 ด้วย ให้เดินทางได้หลากหลายและไปสนามบินดอนเมืองได้ง่ายขึ้นด้วย (แหล่งที่มา : ประชาชาติ และ เดลีนิวส์ )

รวมถึงถนนพหลโยธินที่ตรงมาจากทางด้านเสนานิคมก็สามารถขับตรงมาลงอุโมงค์ตรงวงเวียนหลักสี่และมุ่งหน้ามายังโครงการโดยไม่ต้องเผชิญรถติดที่บริเวณวงเวียนหลักสี่ ทำให้การเข้าถึงโครงการได้ง่ายมากยิ่งขึ้นและในอนาคตที่รถไฟฟ้าเปิดใช้งานก็จะเข้าถึงโครงการได้ง่ายขึ้นด้วย เพราะตำแหน่งสถานีสะพานใหม่ห่างจากตัวโครงการเพียงแค่ 450 เมตร

ในส่วนของการเดินทางนอกเหนือจากการใช้รถยนต์หรือรถโดยสารเพื่อมายังโครงการแล้ว หลายๆคนในบริเวณนี้เฝ้าคอยโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต กันมานานพอสมควร ซึ่งสายนี้เริ่มต้นต่อสายมาจากสถานีหมอชิต ซึ่งเป็นแหล่งเชื่อมต่อไปยัง รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวอ่อน สายสุขุมวิท และ รถไฟฟ้ามหานคร MRT ที่สถานีหมอชิต สามารถเชื่อมต่อไปยังหลายจุดสำคัญของกรุงเทพได้ง่าย และสิ้นสุดสายสีเขียวที่ คลองสอง สถานี คูคต โดยสถานีที่ใกล้โครงการของเราคือ สถานีสะพานใหม่ ตั้งอยู่บริเวณตลาดยิ่งเจริญ หรือ ห่างจากโครงการประมาณ 450 เมตร อีกทั้งยังมีแนวทางลงสถานีที่ค่อนข้างยาว เดินลงมาที่หน้าปากซอย พหลโยธิน 52 ได้พอดิบพอดี มีแผนเปิดให้บริการปลายปีนี้ (พ.ศ. 2563) อีกทั้งภายในซอยยังมีพี่วินและแท็กซี่วิ่งไปมาตลอดทั้งวัน ทำให้การเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัว ทำได้ค่อนข้างสะดวกทีเดียวครับ

พื้นที่โครงการจัดว่าอยู่ในทำเลชานเมืองตอนเหนือของกรุงเทพ ซึ่งภาพรวมส่วนใหญ่จะเป็นที่พักอาศัยแนวราบค่อนข้างเยอะ อาคารพาณิชย์ ตลาด และ ร้านค้าต่าง ๆ ที่เห็นกันประจำในชีวิตประจำวัน เช่นใกล้ๆโครงการบนถนนพหลโยธินขาออกมีตลาดยิ่งเจริญที่เป็นตลาดสดขนาดใหญ่ของย่านนี้ เปิดขายตั้งแต่เช้าถึงเย็น รวมไปถึง BigC Supercenter สะพานใหม่, Tesco Lotus, หรือ Central รามอินทรา ที่อยู่ไม่ไกลนัก และโรงพยาบาล บริเวณนี้ก็มีหลายที่ เช่น โรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัล โรงพยาบาลภูมิพล

บนสองฝั่งของถนนส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์สูง 3-4 ชั้น โดยชั้นล่างสุดมักจะเปิดกิจการร้านค้า ร้านอาหาร ที่ง่ายต่อการซื้อ-ขาย ทำเลย่านนี้จึงจัดเป็นย่านที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์พอสมควร หาของกินของใช้ไม่ยากมีห้าง ตลาด โรงเรียน โรงพยาบาล และหากมองความอุดมสมบูรณ์ระยะใกล้เข้ามาหน่อย ในซอยพหลโยธิน 52 ถือว่าค่อนข้างคึกคัก เนื่องจากเป็นซอยใหญ่ในย่านนี้ ภายในซอยมีอาคารพักอาศัยและโครงการต่างๆ ค่อนข้างเยอะ อีกทั้งภายในซอยสามารถเชื่อมไปมหาวิทยาลัย North Bangkok (SBAC) ได้ ทำให้ภายในซอย มีพี่วินวิ่งไปมาตลอดเวลา มีร้านค้าร้านอาหารเรียงรายตลอดข้างทาง คลีนิค ร้านขายยา ร้านทำฟัน และสิ่งอำนวยความสะดวกเบื้องต้นอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้ภายในซอยค่อนข้างคึกคักพอสมควรครับ

เส้นทางการเดินทาง

การเดินทางมาโครงการของเราวันนี้เริ่มต้นที่ถนนพหลโยธินวิ่งตรงมาถึงตลาดยิ่งเจริญและสถานีรถไฟฟ้าสะพานใหม่ ให้ตรงเลยไปกลับรถบริเวณปากซอย พหลโยธิน 54 ย้อนกลับมาประมาณ 600 m. เลี้ยวซ้ายเข้าซอยพหลโยธิน 52 จากปากซอยเข้ามาในซอยประมาณ 450 m. จะพบโครงการ Plum Condo สะพานใหม่ สเตชั่น อยู่ทางขวามือครับ

Image 1/4
เริ่มต้นการเดินทางบนถนนพหลโยธินฝั่งมุ่งหน้าไปสะพานใหม่

เริ่มต้นการเดินทางบนถนนพหลโยธินฝั่งมุ่งหน้าไปสะพานใหม่

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

ทำเลที่ตั้งโครงการอยู่ในซอยพหลโยธิน 52 เข้าจากปากซอยมาถึงหน้าโครงการประมาณ 450 ม. เนื่องจากตัวโครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นแนวยาว ทำให้พื้นที่รอบโครงการส่วนใหญ่จะหันออกไปในทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก และการแยกออกเป็น . 3 อาคารทำให้ได้วิวแต่ละอาคารที่หลากหลาย มีให้เลือกค่อนข้างเยอะ เดิมทีโดยรอบเป็นแหล่งชุมชนลักษณะบ้านพักอาศัยส่วนบุคคลและอาคารพาณิชย์ แต่ด้วยการขยายตัวของเมืองในช่วงหลายๆปีหลัง ทำให้เริ่มมีอาคารสูงทั้งของใหม่และของเดิมให้เห็น ทำให้มีมุมมองบางฝั่งของบางอาคารต้องโดนแนวอาคารสูงบังไปบ้าง ก่อนจะไปดูภาพจริงลองมาดูวิวแต่ละฝั่งของแต่ละอาคารกันครับ

อาคาร A

  •  ทิศเหนือ – จะมีเพียง 2 ห้องมุมเท่านั้นที่ได้วิวฝังนี้ เป็นวิวทางเข้าโครงการ ซึ่งฝั่งตรงข้ามจะเป็นอาคารตึกแถวสูงประมาณ 3-4 ชั้น มีระยะถนนซอยพหลโยธิน 52 คั่นตรงกลาง ทำให้ไม่ได้อยู่ในระยะประชิดจนเกินไป สำหรับห้องทางฝั่งนี้ถ้าอยากได้วิวโล่ง ต้องเป็นประมาณชั้น 4-5 ขึ้นไปนะครับ แต่ชั้นก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้แย่ซะทีเดียว
  • ทิศตะวันออก – จะเป็นฝั่งที่ได้วิวค่อนข้างโล่งเลย เพราะติดกับพื้นที่พักอาศัยแนวราบ ไม่มีอะไรมาบังวิว อีกข้อดีของฝั่งนี้คือจะไม่ร้อนในช่วงตอนบ่าย พอช่วงบ่ายไม่โดนแดด ตัวอาคารก็ไม่เก็บความร้อนมาคายตอนกลางคืน ทำให้จะรู้สึกสบายมากกว่าในช่วงเย็นๆและหัวค่ำ
  • ทิศตะวันตก – เป็นฝั่งที่มีห้องบางส่วนฝั่งทิศเหนือของอาคารจะได้วิวหน้าโครงการ มองข้ามถนนไปเห็นอาคารตึกแถว 4 ชั้นบนถนนพหลฯ52 หน้าโครงการ ไกลออกไปจะเห็นอาคารของโครงการ Wynn Condo ที่เป็น Condo Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร อยู่บ้าง ส่วนบางส่วน (ทางฝั่งทิศใต้ของอาคาร) จะมองไปเจอแนวอาคารสูง 5 ชั้น ในระยะใกล้เข้ามาหน่อย แต่มีถนนโครงการคั่นไว้อยู่ วิวอาจจะไม่ได้โล่งนัก (ถ้าต่ำกว่าชั้น 5) แต่ก็ได้แนวอาคารข้างเคียงช่วยบังแดดช่วงบ่ายอยู่บ้าง เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยอยู่ห้องช่วงกลางวัน หรือกลับบ้านมาค่ำๆก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ
  • ทิศใต้ – อาคารนี้ไม่มีห้องที่ได้รับวิวทางฝั่งทิศใต้เลยครับ

อาคาร B

  • ทิศเหนือ – อาคารนี้ไม่มีห้องที่ได้รับวิวทางฝั่งทิศเหนือเลยครับ
  • ทิศตะวันออก – จะหันเข้าพื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการ ผังจึงวางห้อง 1 Bedroom ขนาด . 26 ตร.ม.  ไว้ทางด้านในเยอะหน่อย ฝั่งนี้จะไม่ร้อน โดนแดดน้อยแต่ได้แสงสว่างอยู่นะ เหมาะกับคนชอบชมวิวภายในของโครงการ และไม่ติดกับการมีห้องฝั่งตรงข้าม
  • ทิศตะวันตก – เป็นฝั่งที่ค่อนข้างโล่ง จะมีพื้นที่ว่างเปล่าเว้นว่างไว้ ระหว่างโครงการเรากับ Reach Condo ที่เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 6 อาคาร
  • ทิศใต้ – อาคารนี้ไม่มีห้องที่ได้รับวิวทางฝั่งทิศใต้เลยครับ

อาคาร C

  • ทิศเหนือ – จะมี 1 ห้องที่รับวิวฝั่งนี้ ซึ่งจะได้วิวฝั่งมองออกจากโครงการ เห็นถนนเข้าออกของโครงการ มีแนวอาคาร A และอาคาร 5 ชั้นอยู่ด้านข้าง
  • ทิศตะวันออก – จะติดกับอาคาร Newport Place Condo เป็นคอนโดเก่า 4 ชั้น ในระยะประชิด ทางโครงการเลยวางเป็นห้อง Studio ขนาดเล็กที่สุดของโครงการในแนวทางฝั่งด้านนี้
  • ทิศตะวันตก – เป็นฝั่งที่หันหน้าเข้าภายในโครงการ รับวิวพื้นที่ส่วนกลาง จะได้แนวอาคาร B ช่วยบังแดดบ้าง สำหรับชั้นล่างๆ
  • ทิศใต้ – อาคารนี้ไม่มีห้องที่ได้รับวิวทางฝั่งใต้เหนือเลยครับ

ส่วนแนวราบเราจะเห็นพื้นที่ข้างเคียงที่ติดกับโครงการ ตามทิศได้ดังนี้

  • ทิศเหนือ – ติดกับ ถนนพหลโยธินซอย 52 ฝั่งตรงข้ามเป็นแนวอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ยาวตลอดแนวถนน
  • ทิศตะวันออก –  ติดกับ ที่ดินเปล่าสลับกับอาคารพักอาศัยทั่วไป 2 ชั้น และ ด้านในมีอาคารพักอาศัย 4 ชั้น เป็นแนวยาว
  • ทิศตะวันตก – ติดกับ อาคารพักอาศัย 5 ชั้นและที่ว่างเปล่า
  • ทิศใต้ – ติดกับ ถนนซอยและที่ว่างเปล่า

ลองไปชมภาพจริงกันทั้งแนวราบและบนอาคารเลยครับ

สำหรับแนวหน้าโครงการนี้ผมจะไปเร็วหน่อยนะครับ เพราะสภาพโดยรวมเหมือนเดิมกับที่เราเคยพามาชมกันแล้วเมื่อปี 2018 เลย เพราะเป็นชุมชนเดิม หน้าโครงการยังคงเป็นอาคารตึกแถว 3 ชั้น ที่ด้านล่างเปิดเป็นร้านค้า ส่วนด้านบนเป็นพื้นที่พักอาศัย ผสมกับพื้นที่บ้านเดี่ยวแทรกผสมกันไป

เลยไปอีกจะพบแยก มี 7-eleven บริเวณนี้พร้อมพี่วินมอเตอร์ไซค์ ห่างกับตัวโครงการประมาณ 120 เมตร ที่ 7-eleven มี ตู้ ATM ให้บริการ 2 ตู้ ที่หัวโค้งนี้มีร้านขายอาหารมากมาย จำพวกรถเข็น ร้านค้าแผงลอย บริเวณกลางวันและช่วงเย็น

กลับมาที่หน้าโครงการ ฝั่งตรงข้ามมีอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ยาวตลอดแนว ตรงข้ามโครงการมีซอยเข้าไปสู่พื้นที่พักอาศัยภายในซอยย่อยลงไปอีกครับ

มาดูฝั่งทางย้อนกลับไปที่ปากซอยพหลโยธิน 52 กันต่อครับ บริบทโดยรวมก็เหมือนเดิมเลย โดยรอบบริเวณนี้มีอาคารพาณิชย์สูง 3-4 ชั้น ตลอดแนวถนน ติดกับตัวโครงการมีอาคารพาณิชย์อาศัย 3-4 ชั้น และอาคารพักอาศัย 5 ชั้นภายใน ตรงนี้จะมีผลกระทบกับวิวห้องพักอาศัยของอาคาร A อยู่บ้าง ส่วนถ้าเดินต่อไปทางซอยพหลฯ 52 ก็จะมีร้านอาหารตามสั่งให้ฝากท้องเวลาฉุกเฉินกันได้ง่าย 2 ร้าน

วันนี้เรามาดูตึกเสร็จกัน ดังนั้นพอแล้วสำหรับพื้นที่โครงการแนวราบในซอยพหลฯ 52 ลองกระโดดขึ้นไปดูวิวบนตึกแต่ละอาคารกันบ้างดีกว่า ว่าจะเป็นยังไงกันบ้าง

ภาพถ่ายจากชั้น 8 อาคาร A ทางฝั่งมองไปทางทิศตะวันตก

เริ่มต้นที่กันอาคาร A วิวของห้องพักอาศัยเราจะรับทางฝั่งทิศตะวันออกและทิศตะวันตกเป็นหลัก เรียกว่าทั้งหมดเลยก็ว่าได้ ซึ่งทางฝั่งนี้จะมีแนวอาคาร 4 ชั้น และ 5 ชั้น ในระยะติดกับโครงการ ห่างประมาณ 20-30 เมตรได้ ด้วยถนนทางเข้าออกหน้าโครงการ จะเริ่มพ้นอาคารข้างเคียงกันประมาณชั้น 6 ขึ้นไป ซึ่งอย่างที่เห็นวิวชั้น 8 ก็จะได้ค่อนข้างโล่งอยู่เหมือนกัน จะมีอีกทีคือโครงการ REACH -Phahon Yothin 52 ที่เป็น คอนโด Low Rise 8 ชั้น 6 อาคารครับ

ภาพถ่ายจากชั้น 8 อาคาร A ทางฝั่งมองไปทางทิศตะวันออก

ส่วนอีกฝั่งนึงทางทิศตะวันออกบอกเลยว่าโล่งกว่าเยอะนะ เพราะติดกับบ้านพักอาศัยแนวราบ และแนวอาคารสูงจะอยู่ค่อนข้างห่าง ซึ่งการที่ติดกับพื้นที่พักอาศัยว่างเปล่าก็ดีที่ได้วิวโล่งนะครับแต่ก็อาจจะไม่ได้การันตีวิวจะสวยแบบนี้ตลอดไป ถ้าถามปัจจุบันฝั่งนี้ก็จะได้วิวที่โล่งมากกว่า แถมยังไม่ร้อนมากนักเพราะไม่ต้องรับแดดช่วงบ่ายด้วย

ภาพถ่ายจากชั้น 6 อาคาร C ทางฝั่งมองไปทางทิศตะวันตก

กระเถิบเข้ามาที่ด้านในนะครับ ผมขอต่อที่อาคาร C ก่อน เพราะเป็นอาคารที่ถัดมาจากอาคาร A รอบนี้ผมเริ่มขึ้นไปถ่ายที่ชั้น 6 เพราะจะได้เห็นระยะและพอเห็นภาพของชั้นอื่นๆได้ง่ายกว่าชั้น 8 นะ ด้านนี้จะหันไปที่อาคาร B (ตัวอาคารยังอยู่ในขั้นตอนของการเก็บงานนะครับเลยอาจจะยังดูไม่เรียบร้อย แต่ถ้าดูจากส่วนที่เสร็จแล้วเนี่ย ผมรับรองได้เลยว่าสวยงามแน่ๆ เดี๋ยวผมจะพาไปชม) ฝั่งนี้อาจจะไม่ได้วิวโล่งนัก แต่จะได้วิวพื้นที่ส่วนกลางมาแทน แถมยังได้แนวอาคาร B ช่วยบังแดดให้ด้วย ยังไงก็ลองเลือกกันดูแล้วแต่คนชอบครับ

ภาพถ่ายจากชั้น 6 อาคาร C ทางฝั่งมองไปทางทิศใต้

ส่วนด้านข้างทางทิศเหนือและทิศใต้ของช่องว่างระหว่างสองอาคารก็ยังพอมีให้เห็นกันอยู่นะครับ ไม่ได้ชิดกันขนาดนั้น ซึ่งตรงนี้อาจจะได้วิวที่ดูบีบหน่อย แต่ก็ได้ช่องลมที่ทำให้ได้ลมพัดค่อนข้างแรงมาทดแทนครับ

ภาพถ่ายจากชั้น 6 อาคาร C ทางฝั่งมองไปทางทิศตะวันออก

ฝั่งทิศตะวันออกจะติดกับอาคารพักอาศัย 4 ชั้น ที่ติดกับโครงการ ทำให้ทางทิศนี้ของอาคาร C ถ้าต่ำกว่าชั้น 5 ลงไปจะโดนบังวิวค่อนข้างเยอะเลย มองในแง่ดีก็ยังได้อาคารนี้ช่วยบังแดดอยู่ เหมาะกับคนที่ไม่ได้ซีเรียสเรื่องวิว ไม่ค่อยได้ออกมาใช้งานพื้นที่ระเบียงนัก

ภาพถ่ายจากชั้น 6 อาคาร B ทางฝั่งมองไปทางทิศตะวันออก

มาฝั่งอาคาร B กันต่อบ้าง วิวฝั่งนี้ก็จะคล้ายๆกับของอาคาร C ทางฝั่งทิศตะวันตก ที่จะมองเห็นตัวอาคารของอาคารเราเองในฝั่งตรงข้าม ได้วิวพื้นที่ส่วนกลางด้านล่าง ของอาคารนี้ก็มีข้อดีคือไม่มีแดดมาส่องเข้าตาช่วงเย็นและบ่ายทางฝั่งด้านนี้ เหมาะกับคนชอบออกมารับวิว ชมสวนและสระว่ายน้ำที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางด้านล่าง

ภาพถ่ายจากชั้น 6 อาคาร B ทางฝั่งมองไปทางทิศตะวันตก

จะเป็นอีกฝั่งที่หันออกนอกโครงการแล้วได้วิวโล่ง ซึ่งในระยะใกล้ก็จะมีสีเขียวของพื้นที่บ้านพักส่วนบุคคลให้ชมกัน แต่ในระยะไกลจะมีอาคารของโครงการ REACH – พหลโยธิน 52 ที่เป็น คอนโด Low Rise 8 ชั้น 6 อาคารครับ มีระยะไกลเกินกว่าจะรบกวนความเป็นส่วนตัวกันได้ แต่แค่ไม่ได้มองแล้วโล่งไปซะทีเดียวเท่านั้นเอง

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ ~ 400 ม.
  • รถไฟฟ้า BTS สถานี สะพานใหม่ ~ 450 ม.
  • ตลาดยิ่งเจริญ ~ 470 ม.
  • Big C Supercenter ~ 1 กม.
  • โรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัล ~ 1.2 กม.
  • Central Plaza รามอินทรา ~ 1.3 กม.
  • Tesco Lotus หลักสี่ ~ 2.4 กม.
  • มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ~ 3.1 กม.
  • วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร ~ 3.6 กม.
  • มหาวิทยาลัยเกริก ~ 3.7 กม.
  • มหาวิทยาลัยศรีปทุม ~ 5.6 กม.
  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ~ 7.1 กม.

รายละเอียดโครงการ

Master Plan โครงการจะเห็นผังรวมของพื้นที่ดินทั้งหมดประมาณ เกือบๆ 5 ไร่ โดยไล่อาคารตั้งแต่ถนนด้านหน้า คือ A-C-B แต่ว่าทางเข้าออกจะอยู่ติดถนนซอยพหลโยธิน 52 การเดินรถเป็นแบบ 2 เลนสวนกันได้ทุกส่วนในโครงการ โดยสามารถจอดรถที่ใต้อาคารชั้น 1 ทั้งสามอาคาร ที่จอดรถทั้งหมดคิดเป็น 40% รวมจอดซ้อนคัน ไม่ Fix ที่จอด ใครสะดวกจอดตรงไหนก็ได้ รอบโครงการจะรายล้อมด้วยต้นไม้ พื้นที่ส่วนสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลาง จะอยู่ระหว่างอาคาร B และ อาคาร C

โดยข้อดีของการวางแนวอาคารแบบนี้คือจะทำให้แต่ละอาคารมีเอกลักษณ์ของการใช้รถที่แตกต่างกัน (สำหรับคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัว)

  • อาคาร A : เป็นอาคารที่เข้าออกง่ายเพราะมีตำแหน่งอยู่ด้านหน้าสุดของพื้นที่ ใครที่ตั้งใจจะจอดรถใต้อาคารนี้ก็ขับเข้ามาไม่ลึก เอารถออกก็ไม่ต้องวนเยอะ แต่ถ้าวนใต้อาคารตัวเองไม่มีก็ต้องวนเข้าไปภายในโครงการ
  • อาคาร C : อาคาร C ถัดเข้ามาตามแนวถนน คนอยู่อาคารนี้สามารถเลือกจอดรถได้ง่ายในทุกตำแหน่งของโครงการเลย เพราะเป็นอาคารที่เหมือนจะตั้งอยู่ตรงกลาง เข้าถึงได้ง่ายจากทั้งใต้อาคาร A และ อาคาร B ไม่ต้องมีส่วนไหนที่เดินไกล
  • อาคาร B : เป็นอาคารที่อยู่ด้านในสุด ถ้าตั้งใจจะเข้าไปจอดใต้อาคารตัวเองแล้วเต็ม ก็ต้องวนออกมาใหม่ หรือถ้าบังเอิญได้จอดใต้อาคาร A ก็อาจจะทำให้ต้องเดินไกลหน่อยครับ

มาดูพื้นที่ส่วนกลางกันบ้าง พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น 2 ของอาคารทั้งหมด (เพราะชั้น 1 เป็นพื้นที่จอดรถ) ข้อดีคือจะทำให้ได้มุมมองที่สูงขึ้น สำหรับอาคาร A ก็จะเห็นพื้นที่ถนน ทางเข้าออกแบบมุมที่สูงกว่าถนน ส่วนอาคาร B และ C ก็จะได้วิวของพื้นที่สระว่ายน้ำและสวนตรงกลางมากยิ่งขึ้น โดยที่ชั้น 2 นี้ก็จะมีห้องพักอาศัยอยู่ด้วย แต่ก็มีการกั้นสัดส่วนด้วยประตูและแนวทางเดินเพื่อแบ่งพื้นที่การใช้งานให้เป็นสัดส่วน ไม่รบกวนส่วนพักอาศัย พื้นที่ส่วนกลางจะถูกแบ่งกระจายไปทั้ง 3 อาคารนะครับ แต่ละส่วนก้มีลักษณะการใช้งานหรือประเภทกิจกรรมที่ถูกแยกออกไป ช่วยทำให้ลดจำนวนผู้ใช้งานในแต่ส่วนได้ แบ่งความเป็นส่วนตัวได้ดี ไม่รบกวนกัน

อาคาร A : เนื่องจากเป็นส่วนหน้าสุดของโครงการ พื้นที่ส่วนกลางของอาคารนี้จึงจะเป็นประเภทพักผ่อน ต้อนรับ โดยจะเป็นส่วน Lobby พื้นที่ต้อนรับ, นิติบุคคล, Working Area พื้นที่ทำงานและอ่านหนังสือ

อาคาร C : จะมีลักษณะเป็นพื้นที่ที่มี Life Style มากยิ่งขึ้นและจะรับบรรยากาศจากสวนและสระว่ายน้ำตรงกลางได้ทุกส่วนด้วย โดยอาคารนี้ประกอบไปด้วย Water Front Lounge เป็นเหมือนพื้นที่ต้อนรับพักผ่อนจากสระว่ายน้ำ, Co-Kitchen ขนาดใหญ่ สำหรับมาจัดปาร์ตี้ทำอาหารทานในบรรยากาศริมสระว่ายน้ำ มีพื้นที่ส่วนครัวขนาดใหญ่ให้ในห้อง และ Game Room ห้องเกมสำหรับทำกิจกรรมต่าง ๆ ชวนเพื่อนมานั่งเล่นพักผ่อนในนี้ได้

อาคาร B :  สำหรับอาคารด้านในยังคงสามารถได้รับบรรยากาศจากสวนและสระว่ายน้ำในชั้นล่างจากแนวกระจกของแต่ละห้องได้ พื้นที่ส่วนกลางในส่วนนี้ก็มีจะมีความ Active มากยิ่งขึ้น เพราะจะเป็นพื้นที่ออกกำลังกายเป็นหลัก แต่ก็มีส่วนของพื้นที่ส่วนตัวมากด้วยเช่นกัน โดยจะมี Living Lounge เป็นห้องรับแขกสำหรับลูกบ้าน, Yoga Room และ Fitness รวมถึงห้องน้ำแยกชายหญิงสำหรับสระว่ายน้ำ แถมห้องดูหนังฟังเพลง Movie Room มาให้ที่มุมอาคาร

มาเริ่มกันที่พื้นที่หน้าโครงการเลย จะเป็นถนนทางเข้าออกที่เดินรถ 2 ทาง มีแนวต้นไม้ด้านข้างให้

ด้านข้างจะแยกเป็นแนวทางเดิน ซึ่งถ้าใครที่เดินเข้าออกบ่อยๆแนะนำให้พกร่มด้วยนะครับ เพราะหลังคาไม่ได้กันแดดและฝน

ป้อม รปภ. จัดมาให้ที่ด้านในเล็กน้อย แต่ด้านหน้าสุดก็มีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่อีกคนนะครับคอยโบกรถให้

ด้านข้างจะเห็นแนวอาคาร A ซึ่งจะมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ที่บริเวณนี้ครับ ก่อนจะเข้าไปดูภายในเราเดินเข้าไปภายในโครงการกันก่อนนะ

เมื่อเข้ามาจะเจอแนวถนนสำหรับเข้าไปจอดรถด้านใน ด้านข้างรั้วโครงการมีแนวทางเดินพร้อมต้นไม้ให้ด้วย ซึ่งในภาพยังลงไม่เสร็จดีนะครับ อีกสักหน่อยจะเขียวขจีกว่านี้แน่นอน ส่วนถ้าจะจอดรถใต้อาคาร A ก็เลี้ยวซ้ายในภาพได้เลย

บรรยากาศของพื้นที่จอดรถจะมีประมาณนี้ครับ ซึ่งจะมีพี่รปภ.คอยดูแลให้ในแต่ละอาคารด้วย

จะมีแนวทางเดินขึ้นไปที่แนวอาคาร ซึ่งสำหรับใครที่มาจากพื้นที่จอดรถก็จะมีทางขึ้นอาคารด้านใต้อาคารได้เลยนะ

ผังพื้นชั้น 2 ของอาคาร A พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ใกล้กับพื้นที่ต้อนรับของโครงการ โดยจะมีส่วน Living room เป็นตัวเชื่อมต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ รวมถึงพื้นที่พักอาศัยด้วย เป็นส่วนเชื่อมต่อกับนิติบุคคล และพื้นที่ทำงานอ่านหนังสือ

ซึ่งโถงลิฟต์ของอาคารนี้จะอยู่ทางฝั่งด้านหน้าโครงการทางฝั่งทิศเหนือ ห้องพักอาศัยที่อยู่ทางฝั่งทิศใต้ของอาคารก็จะต้องเดินไกลหน่อย โดยห้องพักในชั้นนี้ของอาคาร A จะเน้นในห้องแบบ 1 Bedroom 22.75 ตร.ม. เกือบทั้งหมด ส่วนที่มุมอาคารจะมีห้องขนาดใหญ่ขึ้นมาคือ ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 31.25 ตร.ม. จำนวน 2 ห้อง ซึ่งแอบเสียดายที่เป็นห้องมุมแต่ไม่ได้เปิดรับวิวทางฝั่งทิศใต้ ทำให้วิวห้องของห้องพักจะถูกแบ่งออกเป็นแค่ 2 ฝั่ง ทิศตะวันออก จะติดกับบ้านพักอาศัยและพื้นที่โล่ง รับลมและแสงได้อย่างเต็มที่ ส่วนฝั่งทิศตะวันตกจะติดกับอาคารพักอาศัย 5 ชั้น แต่จะมีถนนภายในโครงการคั่นอยู่ จึงไม่ได้อยู่ในระยะประชิดกันมากนัก ไปดูบรรยากาศกันครับ

จริงๆจะมีส่วนของ Reception ด้วย แต่จะยังไม่เรียบร้อยนัก เลยข้ามมาดูที่ส่วน Living Room กันเลย จะตกแต่งในสไตล์ประมาณนี้แหละครับ ส่วนนี้ข้อดีคือได้แนวกระจกบานใหญ่ด้านข้าง ที่จะได้บรรยากาศของทางเข้าออก แถมยังเป็นช่องแสงขนาดใหญ่ทั้งวันเลย

ส่วนด้านในสุดจะมีความเป็นส่วนตัวสูงขึ้น ซึ่งจะเป็นพื้นที่ Co-Working Space สำหรับนั่งทำงานอ่านหนังสือ ที่มีมุมนั่งเล่นให้เลือกหลายรูปแบบ ไม่น่าเบื่อ และอย่างที่บอกว่าได้ช่องแสงขนาดใหญ่ทั้งวันเลย

ส่วน Reception จะเชื่อมต่อมายังโถงทางเดินภายในครับ ซึ่งจะเริ่มกันที่ส่วนของ Mail Box เลย

ด้านข้างจะเป็นทางเดินเล็กๆที่มีโถงลิฟต์อยู่ภายในครับ หน้าตาจะประมาณนี้เหมือนกันทั้ง 3 อาคารเลย

ส่วนโถงทางเดินของส่วนห้องพักอาศัยจะมีหน้าตาประมาณนี้ครับ เหมือนกันทั้ง 3 อาคารเลย คือเป็นโถงทางเดินแบบ Double Corridor มีแนวห้องพักอาศัยทั้ง 2 ฝั่งทางเดิน

ผังอาคาร A ชั้นที่ 3 มีห้องพักอาศัยเพิ่มขึ้นมา 2 ห้องครับ ในตำแหน่งของห้องนิติบุคคล ของชั้น 2 และในส่วนพื้นที่ Lobby นั้นยังเป็นพื้นที่โล่ง เนื่องจากชั้น 2 พื้นที่ส่วนนี้เป็น Double Volume ครับ

เมื่อขึ้นมาด้านบนชั้นที่ 4-8 จะมีห้องพักอาศัยเต็มชั้น ประกอบไปด้วยห้อง 1 Bedroom 22.75 ตร.ม. จำนวน 35 ยูนิต และ ห้องหัวมุมฝั่งทิศเหนือ ห้อง 1 Bedroom Plus 36.25 ตร.ม. 2 ยูนิต ที่จะเป็นห้องได้รับวิวทางทิศเหนือด้วย และ หัวมุมอาคารทิศใต้ ห้อง  1 Bedroom Plus 31.25 อีก 2 ยูนิต เหมือนเดิมครับ

เดินต่อเข้ามาภายในโครงการจะเจอ 2 อาคารคู่ที่ประกบพื้นที่ส่วนกลางอยู่ จะมีความคล้ายแต่ภายในแตกต่างเยอะเหมือนกัน โดยอาคารฝั่งซ้ายมือในภาพจะเป็นอาคาร C และฝั่งขวามือคืออาคาร B ครับ

ก่อนจะเข้าไปภายในอาคาร เรามาดูพื้นที่ส่วนกลางบริเวณนี้กันก่อนครับ ซึ่งต้องบอกก่อนนะครับว่าต้นไม้และบรรยากาศภายในโครงการยังไม่สมบูรณ์ 100% แต่ก็อยากให้เห็นภาพกันก่อน ซึ่งเพียงเท่านี้ก็บอกได้เลยเหมือนกันนะว่าสวยไม่น้อยเลย

เริ่มต้นที่สระว่ายน้ำ ขนาด 5 x 25 เมตร ลึก 1.2 เมตร ภายในแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วน Swimming Pool, Sunken Seat, Relax Pool และยังมีสวนรอบๆ เป็นการจัด landscape ให้มีการเล่นระดับที่สร้างบรรยากาศให้กับพื้นที่บริเวณนี้ได้ดีเลย

ส่วนถ้าถามถึงมุมโปรด ของผมคงต้องจะเป็นมุมนี้เลยครับ พื้นที่ Relax Pool สำหรับนั่งเล่นท่ามกลางสวนล้อมรอบ น่าจะชิลน่าดู

เดินมาด้านในสุดจะมีแนวทางเดินที่แจกไปยังแต่ละอาคาร และมีส่วนขึ้นลงจากพื้นที่จอดรถจากบริเวณนี้ด้วยนะ เราขึ้นไปดูอาคาร C กันก่อนนะครับ

ผังอาคาร C ที่ถัดเข้ามา จะมีรูปทางเป็นตัว l เหมือนเดิมครับ แต่จะย้ายโถงลิฟต์มาที่กลางอาคาร ทำให้เข้าถึงพื้นที่ต่างๆในอาคารได้ง่ายขึ้น ชั้นที่ 2 พื้นที่ส่วนกลางของอาคารนี้จะมีส่วนของระเบียงด้านหน้าค่อนข้างกว้าง ทำให้สามารถออกมายืนรับบรรยากาศบริเวณนี้ได้ ในส่วนพื้นที่ส่วนกลางของอาคารนี้จะมี Water Front Lounge เป็นเหมือนส่วนของ Lobby มีส่วน Co-Kitchen ห้องใหญ่สำหรับทำอาหารและพื้นที่นั่งรับประทานภายในรับวิวสระว่ายน้ำและสวน อีกทั้งยังมีห้อง Game Room เป็นห้องทำกิจกรรม มีโต๊ะพูลให้เล่นด้วยนะ

โดยห้องพักของชั้นนี้จะมีห้องเช่นเดียวกันกับอาคาร A และ B คือ 1 Bedroom 22.75 ตร.ม. ในด้านทิศตะวันตก ได้รับวิวสวนและสระว่ายน้ำ และจะมีห้องมุมคือห้อง 1 Bedroom Plus 36.00 ตร.ม. รับวิวสวนและสระว่ายน้ำเช่นกัน ส่วนฝั่งทิศตะวันออกจะเป็นห้อง Studio 20.50 ตร.ม. ห้องขนาดเล็กที่สุดของโครงการด้านนั้นจะติดกับอาคารพักอาศัย 4 ชั้น ในระยะประชิดเลย

ด้านหน้าจะมีแนวทางเดินที่ค่อนข้างกว้าง สามารถเดินเล่น ทำกิจกรรมได้ค่อนข้างเยอะ ทุกห้องมาในแบบ Double Volume รับความโปร่งโล่งเต็มที่กันไปเลย

ห้องแรกตรงนี้จะเป็นพื้นที่ Water Front Lounge ซึ่งจะเป็นเสมือน Lobby ของอาคารนี้ รับวิวสระว่ายน้ำ แถมยังเป็นพื้นที่พักคอย นั่งเล่น รองรับของการใช้งานสระว่ายน้ำได้ด้วย ภายในจะจัดมาให้มีมุมหลายรูปแบบ ทั้งชุดโซฟายาว แยกนั่ง 2 ที่นั่ง หรือชุดโต๊ะที่นั่งสำหรับนั่งอ่านหนังสือได้ จัดมาให้อย่างละ 2 ชุด ยาวเข้าไปในห้องเลย

ถัดมาจะเป็นห้อง Game Room ที่สามารถออกมาเล่นเกม ทำกิจกรรมต่างๆกันได้ ภายในจะมีชุดโต๊ะพูลรับรองให้ 1 ตัว ด้านในจะมีทีวีและชุดโซฟาสำหรับเล่นเกมได้ พร้อมพื้นที่นั่งพักผ่อนกระจายอยู่รอบๆ

พื้นที่ตรงนี้น่าจะถูกใจใครหลายๆคน เพราะมีช่องแสงขนาดใหญ่ด้านข้างรับวิวสระว่ายน้ำด้วย เป็นการเล่นพูลรับวิวสระและสวนที่ชิลเหมือนกันนะ

มีการแบ่งพื้นที่ที่ทำให้ด้านในนี้ได้ความเป็นส่วนตัว แต่ก็ยังเชื่อมต่อกับภายนอกได้ดีเหมือนกัน จัดมาเป็นชุดโซฟา และทีวีให้หนึ่งเครื่อง

ห้องถัดมานี่ ส่วนตัวผมชอบที่สุดเลยนะ ทั้งการตกแต่ง โทนสี การเลือกใช้วัสดุ และบรรยากาศของการใช้งานจริงน่าจะเป็นมุมโปรดของผมเลย ส่วนนี้คือ Co-Kitchen ครับ เขาจัดมาให้ค่อนข้างกว้าง ด้วยขนาดพื้นที่ภายใน บวกกับระยะความสูงและแนวกระจกรับวิวสระว่ายน้ำภายนอก ทำให้การทำอาหารรับประทานกันตรงนี้มันคงจะดีไม่น้อยเลย เพราะมีส่วนของโต๊ะยาวสำหรับ 8 ที่นั่งจัดมาให้ 2 ชุด พร้อมพื้นที่ทำครัวขนาดใหญ่ แถมทั้งหมดนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะ จะมาใช้ตอนไหนก็ได้ตามเวลาที่เปิดทำการ (เบื้องต้นเป็นยังงี้นะครับ แต่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงต้องแล้วแต่ทางนิติและลูกบ้านตกลงกันอีกที)

เป็นพื้นที่ทำครัวที่มีพื้นที่เตรียมอาหารค่อนข้างกว้าง ช่วยกันทำหลายๆคนก็น่าจะสนุกดีเหมือนกัน

ด้านในสุดยังมีพื้นที่ชุดโต๊ะรับประทานอาหารอีกตัว ซึ่งจะได้แนวกระจกด้านข้างเช่นเดียวกัน

ผังอาคาร C ชั้นที่ 3 มีห้องพัก 1 Bedrooms 26.50 ตร.ม. เพิ่มขึ้นมา 4 ห้อง ในพื้นที่ตรงข้ามโถงลิฟต์ และแทนที่ห้อง 22.75 ตร.ม. จำนวน 2 ห้อง ในส่วนพื้นที่ส่วนกลางยังไม่สามารถทำเป็นห้องพักได้เนื่องจากเป็น Double Volume ของพื้นที่ส่วนกลางชั้น 3 ข้อดีของชั้นนี้คือจะได้จำนวนยูนิตในชั้นน้อย ได้ความเป็นส่วนตัว

ผังอาคาร C ชั้นที่ 4-8 มีห้องพักอาศัยเต็มชั้นครับ ประกอบไปด้วยทิศตะวันออกเป็นห้อง Studio 20.50 ตร.ม. ทั้งหมดเหมือนเดิม ส่วนทิศตะวันตก จะมีห้องมุมฝั่งทิศเหนือคือห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 39.25 ตร.ม. 1 ห้อง เรียกว่าเป็น Rare Item ก็ได้เพราะมีแค่ 5 ยูนิตทั้งโครงการ (ชั้นละห้อง) ส่วนมุมทิศใต้จะเป็นห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 36.00 ตร.ม. 1 ห้อง เช่นเดิม ส่วนตรงกลางทางฝั่งทิศตะวันตกที่รับวิวส่วนของของโครงการ เป็นห้อง 1 Bedroom 26.50 และ 22.75 ตร.ม. ทั้งหมดครับ โดยห้องขนาดใหญ่ 26.50 ตร.ม. จะสิ้นสุดแค่ส่วนของพื้นที่ส่วนกลาง ส่วนห้อง 22.75 ตร.ม. จะได้วิวด้านข้างอาคาร B เป็นพื้นที่โล่งด้านหลัง

มุมมองจากแนวทางเดินของอาคาร C บริเวณหน้าส่วนห้องพื้นที่ส่วนกลางทั้งหลาย มองไปยังพื้นที่ส่วนกลางและอาคาร B เราเดินไปดูต่อกันเลย

ทางขึ้นอาคาร B จะมีลักษณะเหมือนของอาคาร C เลย มีพื้นที่ด้านข้างเป็นสวนเล็กน้อย ส่วนด้านล่างจะเป็นทางลาดสำหรับรถเข็นที่เชื่อมต่อมาจากพื้นที่จอดรถครับ ใครที่รู้ตัวว่าต้องใช้บ่อยก็แนะนำให้พกร่มนะครับ ไม่ได้มีหลังคาให้ในส่วนนี้

ผังอาคาร B ชั้นที่ 2 ด้วยตำแหน่งของอาคารที่เข้ามาด้านในพื้นที่โครงการมากยิ่งขึ้น ทำให้พื้นที่ส่วนกลางของอาคารนี้จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นนั่นเอง เขาจึงวางไว้เป็นส่วนออกกำลังกายและห้องดูหนังที่ต้องได้ความเป็นส่วนตัว ประกอบด้วย Living Room เป็นเสมือน Lobby ของอาคาร ส่วนออกกำลังกาย มี Yoga Room และ Fitness ทั้งหมดนี้ สามารถมองเห็นวิวของสระว่ายน้ำและสวนของโครงการได้เช่นเดิม นอกจากนั้นยังมีห้องน้ำแยกชายหญิงสำหรับใช้งานก่อนและหลังออกกำลังกาย รวมถึงสระว่ายน้ำไว้ให้ด้วย ภายในมีห้อง Sauna ให้ด้วยนะ เดี๋ยวผมจะพาไปชม

ส่วนพื้นที่พักอาศัยจะมีผลกระทบเรื่องโถงลิฟต์เล็กน้อย เพราะไม่ได้มีตำแหน่งอยู่ตรงกลาง ก็อาจจะทำให้บางห้องต้องเดินไกลหน่อย แต่ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวตรงที่ไม่ต้องมีใครมาเดินผ่านหน้าห้องมากนัก โดยห้องพักอาศัยของอาคาร B ในชั้นนี้จะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom 22.75 ตร.ม. เช่นเดียวกับของอาคาร A ส่วนที่มุมจะมีห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 33.50 ตร.ม. 1 ห้องครับ โดยห้องพักอาศัยของชั้นนี้จะรับวิวฝั่งทิศตะวันตกที่เป็นพื้นที่โล่งในระยะประชิด ห่างออกไปจะมีแนวอาคาร Reach Condo ซึ่งเป็น Condo Low Rise 8 ชั้น 6 อาคาร ครับ

ขึ้นมาด้านบนเจอสวนที่จัดเป็นที่นั่งตามมุมต่างๆ สำหรับนั่งพักผ่อน มานั่งรับลม คุยโทรศัพย์ หรือเล่นเกมก็ได้ มองลงไปเห็นสระว่ายน้ำสวยด้วย ด้านหลังตรงแนวทางเดินหน้าอาคารใกล้ๆสวนนี้มีห้องน้ำแยกชายหญิงให้ สำหรับใช้งานกับสระว่ายน้ำ และห้องออกกำลังกายก็ง่าย เข้าไปดูกันเลย

เป็นสระว่ายน้ำที่จัดมาให้ค่อนข้างอลังการเหมือนกันนะ ด้วยขนาด สีสัน และวัสดุ เริ่มที่หน้าห้องน้ำมาพร้อมล็อคเกอร์ 21 ตู้

ภายในมีส่วนของห้องน้ำและห้องอาบน้ำมาให้หลายห้องเลย เรียกว่าใช้งานพร้อมกันได้เป็นสิบคนเลยล่ะ

ด้านในสุดมีห้อง Sauna ขนาดค่อนข้างกว้าง นั่งพร้อมกันได้ประมาณ 5-7 คนเลยนะ

ส่วนห้องผู้ชายก็มีโถมาให้เข้ามุมพร้อม

รวมถึงอ่างล้างหน้าก็จัดมาให้สวยเลย 3 จุด

เดินออกมาที่แนวทางเดินด้านหน้ากันต่อ เพื่อไปยังส่วนอื่นๆ

บริเวณกลางสระจะมีทางเดินลงไป Sunken Seat ด้านล่าง สำหรับอยู่ใกล้ชิดกับสระว่ายน้ำ คุยกับคนที่ว่ายน้ำได้ใกล้ชิดเลย

กลับเข้ามาส่วนของในอาคารจะมีอีกหนึ่งไฮไลท์ของอาคารนี้ครับ กับห้องออกกำลังกาย ที่จัดเต็มมาให้ใหญ่มากเลยนะ ขนาดเหมือนฟิตเนสที่ต้องเสียเงินเล่นตามห้างสรรพสินค้าเลย แต่เครื่องเล่นอาจจะไม่หลากหลายเท่า แต่ถ้าใช้พวกเครื่องพื้นฐานที่มีตามคอนโดต่างๆ ก็มีมาให้ครบและหลายจำนวนเหมือนกันนะ

ด้านข้างมีห้องโยคะ ที่มีขนาดพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ได้แนวกระจกที่เป็นวิวสระว่ายน้ำและช่วยเป็นช่องแสงให้ห้อง รวมถึงมีทีวีให้ด้วยในกรณีที่เล่นตามคลาสต่างๆ

ห้องนี้มี Living Lounge สำหรับเป็นพื้นที่นั่งเล่นของอาคารนี้ ที่จัดภายในมาให้หลากหลายมุมเลย มาในบรรยากาศอบอุ่น

ภายในแย่งพื้นที่นั่งมาให้หลายส่วน ทั้งโต๊ะยาวสำหรับคุยงาน ประชุมงาน หรือทำงานกลุ่ม หรือจะนั่งเล่นเฉยๆก็ได้

อีกฝั่งเป็นชุดโซฟาแบบสบายๆ สำหรับนั่งเล่นคุยกัน ก็มีให้เลือกใช้ได้หลายแบบ

ห้องถัดมาเป็น Lobby จริงๆของอาคารนี้ ที่เป็นส่วนแยกเข้าไปยังพื้นที่พักอาศัยครับ จัดมาให้เป็นพื้นที่นั่งเล่นตามมุมต่างๆ พร้อมส่วนของ Mail Box ด้านข้าง

มาถึงห้องสุดท้ายสำหรับพื้นที่ส่วนกลางที่ “ชั้น 2” ของทั้ง 3 อาคารกันแล้วนะ เป็นห้อง Movie Room สำหรับดูหนังฟังเพลง แม้ห้องจะเป็นแนวกระจก 2 ฝั่ง แต่ที่ด้านข้างก็มีม่านที่สามารถรูดปิดแบบจากพื้นถึงฝ้าได้เหมือนกันนะครับ สำหรับแบ่งความเป็นส่วนตัว ภายในจัดเฟอร์นิเจอร์มาให้เลือกนั่ง นอน ดูหนังได้หลายมุม

ผังอาคาร B ชั้นที่ 3 มีห้องพักเต็มทั้งชั้น โดยจะเป็นห้อง 1 Bedroom 26.50 ตร.ม. ในส่วนของทิศตะวันออกรับบรรยากาศสระว่ายน้ำและสวนของโครงการ โดยที่มุมทางทิศใต้จะมีห้องเพิ่มขึ้นมา 1 ห้อง คือห้อง 1 Bedroom Plus 39.50 ตร.ม. ห้องขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ ได้รับวิวสวนอย่างเต็มที่ ฝั่งตรงข้ามเป็นห้อง 1 Bedroom Plus 33.50 ตร.ม. รับวิวนอกโครงการ

ยังไม่จบแค่นี้นะ ถ้าขึ้นมาที่ชั้นดาดฟ้าของโครงการ ก็จะถูกจัดสรรพื้นที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่สีเขียวแบบเปิดโล่งเพิ่มอีก แบ่งออกเป็น 3 ประเภทการใช้งาน

อาคาร A : Active Space พื้นที่ออกกำลังกายบนอาคารท่ามกลางสวน
อาคาร B : BBQ Terrace พื้นที่ปาร์ตี้ ปิกนิกในสวนรับลมและวิวส่วนกลาง
อาคาร C : Forrest Terrace พื้นที่นั่งเล่นใต้ร่มเงาต้นไม้ในบรรยากาศธรรมชาติ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 25×5 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย
  • Sauna แยกชายหญิง
  • Yoga Room
  • Working Area
  • Movie Room
  • Game Room
  • Co-Kitchen
  • Water Front Lounge
  • Living Lounge
  • Active Space
  • BBQ Terrace
  • Forrest Terrace
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 114 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์อาคาร A 130 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์อาคาร B 107 : 1
  • อัตราส่วนลิฟต์อาคาร C 105 : 1
  • ที่จอดรถประมาณรวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 40%
  • ระบบ CCTV / Access Card

แบบห้อง

ห้องตัวอย่างที่จะพามาชมกันวันในวันนี้จะเป็นแบบ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 22.75 ตร.ม. จัดมาให้แบบ Fully Furnished ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.45 m. รูปร่างของห้องเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า จัดพื้นที่การใช้งานภายในห้องหลักๆ เป็น 5 ส่วน ได้แก่ ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องนอน ห้องน้ำและระเบียงซักล้าง ขนาดห้องไม่ใหญ่มากแต่จัดพื้นที่การใช้งานในส่วนต่างๆไว้เป็นสัดส่วนชัดเจน เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ส่วนห้องครัว เป็นครัวแบบเปิด ไม่มีฉากกั้นให้ ครัวแบบนี้จะต้องระมัดระวังเรื่องการประกอบอาหารที่มีกลิ่นและควัน ภายในครัวมีชุดครัวแบบ Built Inให้แต่ถ้าอยากทำอาหารจริงจังอาจต้องติดตั้ง เตาและเครื่องดูดควันเองเพิ่มเติม พื้นทั้งห้องด้วยพื้นลามิเนตอาจจะต้องระมัดระวังความเปียกชื้นจากการทำครัว ต่อมาฝั่งตรงข้ามครัวคือ ห้องน้ำ มีการแบ่งพื้นที่การใช้งานโซนเปียกและโซนแห้ง อุปกรณ์ภายในห้องน้ำหลักๆครบตามที่ต้องใช้งานแต่จะไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้นะ

ถัดเข้ามาเป็นห้องนั่งเล่น ที่เชื่อมต่อไปยังห้องนอนด้านใน จัดพื้นที่ห้องนั่งเล่นสามารถวางชุดโซฟาขนาดกลาง 2-3 ที่นั่งได้ มีระยะดูทีวีอยู่ที่ 3 เมตร เลยเข้าไปในตัวห้องจะเป็นพื้นที่ห้องนอน โดยจะมีบานเลื่อนกระจกกั้นแบ่งพื้นที่การใช้งานเพื่อความเป็นส่วนตัว ภายในห้องนอนจัดพื้นที่มาให้สามารถตั้งเตียงขนาด 5 ฟุต ได้แบบพอดีๆ ตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่างของตัวห้อง ทำให้สามารถเปิดรับแสงธรรมชาติและระบายอากาศได้ดี มีพื้นที่ว่างริมหน้าต่างสำหรับทำเป็นพื้นทีทำงานอ่านหนังสือได้ มีประตูบานเลื่อนเชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียง ระเบียงจัดพื้นที่มาให้สามารถพอใช้งานได้ เป็นส่วนซักล้าง ตั้งเครื่องซักผ้า เป็นที่ตากผ้าเล็กๆได้ หรืออาจะใช้วิธีแขวนราวตากผ้าด้านบนแทนเพื่อเพิ่มพื้นที่การใช้งาน

ประตูเข้าห้องจะเป็นประตูไม้ HDF (High Density Fiber) พร้อมมือจับและตัวล็อค Digital Door Lock จาก COLT

ทางเข้าห้องมาจะพบกับส่วนครัวก่อนเลยนะครับ ฝั่งตรงข้ามทางขวาจะเป็นห้องน้ำ ส่วนด้านในถึงจะเป็นห้องนั่งเล่น บริเวณทางเข้าห้องจุดนี้จะมีระยะทางเดินจากขอบเคาน์เตอร์ครัวถึงผนังห้องน้ำประมาณ 90 cm. ถือว่าสะดวกกับการเดินเข้าออกครับ แต่จะไม่มีพื้นที่สำหรับวางชั้นวางรองเท้า อาจจะต้องเก็บภายในตัวห้องแทน

พื้นภายในห้องทั้งหมดยกเว้นห้องน้ำจะเป็นพื้นไม้ลามิเนตลายไม้หนา 8 mm. ในส่วนของผนังห้องจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสีปกติ โดยมีระยะพื้นถึงฝ้าที่ 2.45 m.

ครัวที่ได้จะเป็นลักษณะครัวเปิดครับ ไม่มีฉากหรือประตู้กัน เนื่องจากพื้นที่ครัวของห้องนี้ถูกออกแบบเป็นครัวที่เน้นทำอาหารเบาๆ อุ่นอาหารง่ายๆ ซึ่งก็เหมาะกับครอบครัวที่ไม่เน้นประกอบอาหารทานเอง เพราะครัวเปิดจะช่วยทำให้ห้องขนาดไม่ใหญ่แบบนี้ดูไม่อึดอัดและโล่งมากยิ่งขึ้น

ส่วนที่จะได้มากับชุดครัวนั้นคือ ชุดเคาน์เตอร์ครัว Build-in ซึ่งจะเป็น Top ลามิเนต หน้าบานเปิดต่าง ๆ ก็เป็นลามิเนตเช่นกัน มีอ่างล้างจานของ Franke ที่ได้มาด้วย แต่จะไม่มีส่วนเตา เครื่องดูควัน และเครื่องใช้ไฟฟ้าให้

ส่วนเคาน์เตอร์ Top จะเป็นลามิเนต ซึ่งมีคุณสมบัติไม่ได้ทนความร้อนและความชื้นได้มากนัก อาจจะต้องระวังการใช้งาน ถ้าเห็นเปียกน้ำก็ต้องรีบเช็ดไม่ให้ตกค้างไว้นะ และได้อ่างล้างจานสเตนเลสแบบหลุมเดี่ยว ยี่ห้อ Franke ด้านข้างมีพื้นที่ทำครัวให้เล็กน้อย มีพื้นที่เหลือ สามารถวางเตาไฟฟ้า กะทะไฟฟ้าได้บ้าง ในกรณีที่อยากปรุงอาหาร แต่อาจจะต้องระวังเรื่องกลิ่นและควันภายในห้องหน่อยนะครับ

ชั้นด้านบนเคาน์เตอร์ครัว จะมีทั้งแบบบานเปิด และชั้นวางครับ ซึ่งจะทำจาก ไม้ลามิเนตทั้งหมด หน้าตาแบบนี้เลย

ส่วนด้านล่าง จะมีบานเปิด 1 บาน เป็นช่องใต้อ่างนั่นเอง และลิ้นชักอีก 2 ตำแหน่ง ช่องบนสำหรับเก็บอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ช้อน ส้อม ตะเกียบ ส่วนด้านล่างเป็นช่องสำหรับเก็บของ นอกจากนั้นแล้วเคาน์เตอร์ build-in ชุดนี้ยังเว้นพื้นที่ไว้สำหรับวางไมโครเวฟ เตาอบ ได้นะ สำหรับทำอาหารเบาๆ

ด้านข้างตรงข้ามครัวจะเป็นห้องน้ำ เข้ามาภายในจะเห็นว่ามีการแบ่งส่วนแห้งส่วนเปียกชัดเจนนะครับ แต่แอบเสียดายที่ของจริงจะไม่ได้ฉากกั้นแบบในห้องตัวอย่างนะครับ แต่สามารถถติดตั้งเองได้ โดยเข้ามาจะพบกับส่วนของอ่างล้างหน้าและกระจก ถัดไปเป็นโถสุขภัณฑ์ ผนังด้านข้างโถสุขภัณฑ์มีการเจาะช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำ หรือใส่ของต่างๆได้และส่วนอาบน้ำจะอยู่ในสุด

พื้นที่ภายในห้องน้ำไม่ใหญ่นัก แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งาน ส่วนทางเข้าจะลดระดับจากพื้นในห้องลงมาประมาณ 3 cm. และส่วนอาบน้ำจะยกขอบสูงขึ้นมาประมาณ 2 cm.

อย่างนึงที่ชอบคือได้กระจกบานใหญ่ถึงฝ้าแบบนี้เลย ข้อดีคือทำให้ห้องดูกว่างมากยิ่งขึ้น ด้านข้างก็เจาะช่องสำหรับเก็บอุปกรณ์ต่างๆไว้ให้ด้วย

อ่างล้างหน้าเป็นของ Cotto หรือเทียบเท่านะครับ ส่วนโถสุขภัณฑ์เป็นของ Cotto เช่นเดียวกัน พร้อมทั้งสายชำระและที่ใส่กระดาษชำระด้านข้าง ติดไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสมพร้อมใช้งานครับ

ส่วนอาบน้ำไม่ได้ให้ฉากกั้นอาบน้ำมานะ สำหรับใครที่จะติดตั้งเองก็แนะนำให้ใช้เป็นแบบ 3 ตอนเหมือนในห้องตัวอย่างนะครับ จะช่วยให้เปิดได้กว้างกว่าแบบ 2 ตอน

ภายในมีพื้นที่อาบน้ำ 0.85 x 0.85 เมตร มีจุดระบายน้ำอยู่ที่มุมห้องครับ อีกทั้งยังมีก๊อกน้ำด้านล่าง สำหรับเปิดน้ำด้านล่างได้ง่ายและสะดวกครับ

ส่วน Hand Shower เป็นของ Cotto เช่นเดียวกัน ส่วนตัวฝักบัวอาบน้ำ สามารถปรับรูปแบบการไหลของน้ำได้ครับผม มีชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำที่มุมให้เล็กน้อย สำหรับคุณผู้หญิงที่ใช้อุปกรณ์อาบน้ำมากชิ้นหน่อย ต้องการพื้นที่วางอุปกรณ์อาบน้ำเพิ่มขึ้น ผมแนะนำให้ใช้เป็นแบบชุดแขวนผนังเพิ่มนะ เพราะถ้าวางพื้นน่าจะทำให้พื้นที่นี้อึดอัดไปหน่อย

และส่วนถัดมาคือห้องนั่งเล่น ที่ได้ช่องแสงจากห้องในสุดของห้องคือส่วนห้องนอนและระเบียงด้วย

ข้อดีคือมีระยะดูทีวีที่ค่อนข้างกว้างที่ประมาณ 3 เมตร ในระยะประมาณนี้สามารถเลือกทีวีขนาดใหญ่ได้สบายๆเลย (เหมาะกับทีวีขนาดประมาณ 50-60 นิ้ว) และการใช้ทีวีขนาดใหญ่ก็จะช่วยให้สามารถนอนดูจากบนที่นอนได้ด้วยเช่นกัน

มีการจัดพื้นที่ภายในห้องสำหรับห้องนั่งเล่นไว้ค่อนข้างเป็นสัดส่วน เหมาะกับผู้ใช้ประมาณ 1-2 คน เมื่อวางชุดโซฟาแบบ 2-3 ที่นั่ง ได้พอดีกับการใช่งาน

สำหรับห้องจริงในส่วนนี้เราจะได้โต๊ะทานข้าวขนาด 70×70 cm. พร้อมเก้าอี้ 1 ตัว โซฟาขนาด 1.70 m. 1 ตัว หน้าตาแบบนี้พอดีกับพื้นที่เลย

ส่วนอีกฝั่งก็จะได้ชั้นวางหน้าทีวี ขนาด 1.20 m. หน้าตาแบบนี้มาให้ เป็นสีแบบเดียวกันกับเคาน์เตอร์ครัวและโต๊ะรับประทานอาหาร ซึ่งถ้าใช้ทีวีแบบแขวนผนังก็จะช่วยให้ได้พื้นที่วางของมากขึ้นนะครับ

ในบริเวณส่วนต่อไปจะเป็นส่วนเชื่อมต่อกับห้องนอน มีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน เป็นตัวแบ่งสัดส่วนห้องอย่างชัดเจน ข้อดีคือเป็นประตูกระจกที่สูงถึงฝ้าเลยทำให้ห้องดูกว้างและโปร่งมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังได้แสดงจากระเบียงภายนอกเข้ามาในส่วนของห้องนั่งเล่นได้เยอะขึ้นด้วย แต่ข้อเสียคือจะไม่มีพื้นที่ให้ติดม่านด้านบน ในกรณีที่อยากแบ่งความเป็นส่วนตัว อาจจะต้องใช้แบบเป็นรางม่านแขวนฝ้าหรือที่เป็นฟิล์มติดที่กระจกแทน เมื่อเลื่อนสุดบานจะมีพื้นที่เหลือประมาณ 1.85 เมตร ครับ เดินเข้าออกได้สบายๆเลย

มาดูที่ส่วนสุดท้ายกัน ห้องนอนมีพื้นที่ที่จัดให้มาถือว่าใช้งานแบบพอดีๆ สามารถตั้งเตียงนอนขนาด 5 ฟุต ได้ แต่ต้องชิดกับแนวกระจกทำให้จะไม่สามารถขึ้นลงได้สะดวกเท่าไหร่ เนื่องจากติดกระจกบานสไลด์

พื้นที่รอบๆเตียงก็ Fit พอดีกับพื้นที่จริงๆ เดินได้ปลายเตียงและด้านข้างเล็กน้อย มีพื้นที่ปลายเตียงประมาณเกือบเมตรให้เดินเข้าออกระเบียงได้สะดวก ส่วนด้านข้างฝั่งติดระเบียงก็มีระยะห่างจากผนังประมาณ 40 cm. พอเดินไปมาได้อยู่

ในส่วนของห้องนอนทางโครงการจะให้ฐานเตียงขนาด 5 ฟุตมาหน้าตาคล้ายกับเพื่อนๆชิ้นอื่นที่ได้มาในห้องเลย

ส่วนด้านปลายเตียงจะมีพื้นที่ไว้สำหรับทำเป็นชุดโต๊ะเครื่องแป้ง และวางตู้เสื้อผ้า เป็นตู้เสื้อผ้าขนาด 1.2 ม. สูงจรดฝ้าเลย หน้าตาประมาณนี้ ได้หน้าบานที่เป็นกระจกฝั่งนึงทำให้สามารถยืนส่องกระจกหน้าตู้ได้เลย

ห้องนี้มีข้อดีตรงตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่าง และมีพื้นที่ว่างเว้นไว้ให้ประมาณ  1.5 x 1.3 m. สำหรับทำเป็นพื้นที่ทำงานหรืออ่านหนังสือได้ มีหน้าต่างบานเลื่อนใหญ่ๆ ขนาดประมาณ 1 x 1.5 m. ให้ ทำให้สามารถเปิดรับลมและได้แสงธรรมชาติที่เพียงพอกับการทำงานและอ่านหนังสือ

ประตูออกไประเบียงเป็นประตูบานเลื่อนกระจกใสกรอบบานอลูมิเนียมพ่นสีดำ  ยกธรณีประตูขึ้นมาประมาณ 5 cm.  ภายนอกระเบียงปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 cm. มีขนาดพื้นที่ประมาณ 2 x 1 m. สำหรับวางเครื่องซักผ้าได้ ส่วนราวระเบียงสูง 1.1 m. จากพื้นครับ

ตรงนี้จะแขวน Condensing Unit ไว้ตรงนี้ด้วย ซึ่งถ้าใครติดเครื่องปรับอากาศแยก เครื่อง ก็จะต้องวางซ้อนกันลงมาอีก ทำให้ต้องใช้เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้านะครับ

.

.

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

 

ราคา

25 February 2020

  • Studio ขนาด 20.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท
  • 1 Bedroom ขนาด 22.75 ตร.ม. ราคา 1.55-1.69 ล้านบาท
  • 1 Bedroom ขนาด 26.50 ตร.ม. ราคา 1.85-2.03 ล้านบาท
  • 1 Bedroom ขนาด 31.25 ตร.ม. ราคา 2.23-2.59 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 33.5 ตร.ม. ราคา 2.55-2.78 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 36.00, 36.25 ตร.ม. ราคา 2.73-2.98 ล้านบาท
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 39.25, 39.50 ตร.ม. ราคา 3.18-3.25 ล้านบาท

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.45 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท็อปลามิเนต
  • จอง 500 บาท
  • ทำสัญญาฟรี
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม. (ฟรีปีแรก)
  • ค่าส่วนกลาง 48 บาท/ตร.ม./เดือน (ฟรีปีแรก)

**สำหรับใครที่สนใจวันที่  15-16 ส.ค.นี้ จะมี Promotion “เริ่ม 1.25 ล้าน*” จองในงานรับสิทธิ์ LUCKY DRAW รับเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกห้อง ฟรีค่าสัญญา* แอร์*  Digital Door Lock* พร้อมส่วนลดสูงสุด 300,000 บาท ผ่อนเพียงล้านละ 1,000 บาท/เดือน *

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

บทสรุป

ถ้ามองตามเนื้อผ้าแล้วโครงการในซอยพหลโยธิน 52 จะมีอยู่ 3 โครงการหลักๆที่มีลักษณะโครงการใกล้เคียงกัน ซึ่งแต่ละโครงการจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน เช่น Wynn Condo จะโดดเด่นในเรื่องจำนวนยูนิตที่ไม่เยอะนัก ส่วน Reach Condo จะได้เรื่องของราคาที่ถูกที่สุด ส่วนถ้าโครงการของเราจะเด่นในเรื่องกลุ่มที่อยากยกระดับคุณภาพชีวิตขึ้นมาใช้พื้นที่ส่วนกลางสวยๆ และมีให้เลือกใช้เยอะ ส่วนรูปแบบและรายละเอียดอื่นๆของแต่ละโครงการก็ลองไปทำการบ้านกันดูนะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถึงจะเป็น 3 โครงการที่มีรูปแบบโครงการใกล้เคียงกัน แต่ส่วนตัวผมเองเชื่อว่าหน้าตาของผู้อยู่อาศัยในแต่ละโครงการก็มีความแตกต่างกันพอสมควรเลย

ทำเล : ทำเลของโครงการ Plum Condo สะพานใหม่ สเตชั่น ตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 52 เป็นซอยค่อนข้างคึกคัก มีร้านค้าต่างๆแต่เดิมอยู่แล้ว โครงการ Plum Comdo นี้จัดเป็นโครงการที่รองรับการขยายตัวของระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายหมอชิต – สะพานใหม่โดยสถานีที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดคือ สถานีสะพานใหม่ ห่างจากตัวโครงการเพียงแค่ 450 m. โดยพื้นที่ใกล้เคียงบริเวณนี้เป็นแหล่งของที่พักอาศัยแนวราบค่อนข้างเยอะ ทั้งบ้าน ทาวน์โฮม หรืออาคารพาณิชย์ จึงมีความอุดมสมบูรณ์ใกล้กับโครงการก็มี 7-11 และร้านค้า ในบริเวณใกล้เคียงไม่เกิน 5 กิโลเมตร ก็ตอบสนองต่อการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตประจำวันในพื้นที่ย่านนี้เป็นอย่างดีมี Big C Supercenter,รพ.เซ็นทรัลเยนเนอรัล, ตลาดยิ่งเจริญ จัดเป็นตลาดใหญ่ดั่งเดิมในพื้นที่ , Tesco Lotus, เซ็นทรัลรามอินทรา วัดและโรงเรียนต่างๆ รวมถึงเป็นพื้นที่ของสถานที่ราชการ มีให้เลือกตามความต้องการหลากหลาย

การเดินทางโดยใช้รถ : ที่ตั้งโครงการอยู่ภายในซอยพหลโยธิน 52 การเข้าถึงโครงการหลักๆจะมาทางถนนพหลโยธิน ตัวโครงการห่างจากปากซอยไปถนนพหลโยธินเพียงแค่ 450 m. โดยภายในซอยที่โครงการตั้งอยู่ก็ยังสามารถมีตัวเลือกในการลัดเลาะเลี่ยงรถติดได้โดยทะลุออกถนนเทพรักษ์ได้ และในอนาคตก็มีแผนที่จะเชื่อมถนนเทพรักษ์กับถนนวิภาวดีรังสิตให้เดินทางได้ง่ายและหลากหลายยิ่งขึ้น ส่วนที่จอดรถเป็นแบบจอดใต้อาคารทั้ง 3 อาคาร แบบไม่ fix ที่จอด รวมจอดซ้อนคันแล้วคิดเป็น 40% ครับ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :  บริเวณนี้มีรถสาธารณะวิ่งผ่านหลายสายครับ และภายในซอยก็มีวินมอเตอร์ไซต์และแท็กซี่วิ่งพลุกพล่านเกือบจะตลอดเวลา เนื่องจากเป็นแหล่งชุมชน และมีมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพตั้งอยู่ภายในซอย แต่จุดเด่นสุดของการเดินทางโดยไม่ใช้รถของโครงการคงหนีไม่พ้นรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต ที่คงจะมาช่วยแก้ปัญหาเรื่องรถติดและสร้างความสะดวกในการเดินทางให้ดีขึ้น ตามแผนจะเปิดให้บริการปลายปีนี้ (พ.ศ. 2563) ซึ่งบริเวณซอยพหลโยธิน 52 ก็จะอยู่ใกล้กับสถานีสะพานใหม่ที่สุด เพราะตำแหน่งสถานีจะอยู่บริเวณหน้าตลาดยิ่งเจริญ อีกทั้งยังมีทางขึ้นลงสถานียาวลงมาที่หน้าปากซอยพอดีอีกด้วย รวมระยะทางจากหน้าโครงการมาถึงสถานีสะพานใหม่แล้วนั้นประมาณ 450 m.

วัสดุ : ให้ครบตามมาตรฐานเหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละส่วน โครงการจัดมาแบบ Fully Furnished ประตูทางเข้าเป็นแบบ Digital door lock มีชุดครัว build-in แต่ต้องมาเพิ่ม Hob & Hood เองถ้าอยากทำอาหารจริงจัง Top ครัวและหน้าบานต่างๆเป็น Laminate ส่วนห้องน้ำให้สุขภัณฑ์ของ Cotto แต่ไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้ พื้นภายในส่วนนั่งเล่น ห้องนอน เป็นลามิเนตลายไม้หนา 8 mm. ทางเข้าไปสู่ตัวห้องนอนให้ฉากกั้นกรอบอลูมิเนียมพ่นสีดำ มีรางอลูมิเนียมและตัวล็อคประตูบานเลื่อนให้เรียบร้อย ภายในห้องนอนให้เตียงขนาด 5 ฟุต และตู้เสื้อผ้าสูงจรดฝ้าหน้าบานกระจกหนึ่งข้างมาให้ ระเบียงได้ไฟแบบกลมเหมือนในห้องตัวอย่างครับ

การออกแบบ : ขอชมในเรื่องของการ Grouping กลุ่มกิจกรรมพื้นที่ส่วนกลางในแต่ละอาคารนะครับ ช่วยทำให้แบ่งประเภทผู้ใช้งานออกไปในหลายๆจุด ไม่รบกวนกัน ซึ่งแต่ละจุดก็ยังคำนึงถึงเรื่องวิว มุมมอง และบรรยากาศการใช้งานจริงๆ แถมยังมีสไตล์การออกแบบที่จัดว่าอยู่ในธีมเดียวกัน รวมถึงการแยกอาคารออกเป็น 3 อาคารก็ช่วยให้กระจายจำนวนผู้ใช้งานในแต่ละอาคารลง ทำให้ไม่รู้สึกหนาแน่นจนเกินไป ส่วนเรื่องวิวเขาก็เลือกวางห้องที่เหมาะสมกับตำแหน่งที่จะได้รับค่อนข้างดีนะ เช่นห้องขนาดใหญ่หน่อยจะได้วิวภายในโครงการ ส่วนห้อง Studio จะวางไว้ฝั่งที่โดนบล็อควิว

ส่วนตัวห้องพักอาศัยก็มีแบบห้องให้เลือกหลายแบบหลายขนาด เพิ่มความหลากหลายในการตัดสินใจให้ผู้ซื้อ อีกรายละเอียดที่ผมชอบคือด้วยความที่มีห้องขนาดไม่ใหญ่นัก ทำให้รูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ที่เขาให้เขาคิดมาให้ลงตัวกับพื้นที่ภายในห้อง ทำให้สามารถใช้พื้นที่ได้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น การมีห้อง 1 Bedroom Plus เข้ามาก็ช่วยให้ได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ภายในได้มากขึ้น ตอบสนอง Life Style ของผู้อยู่อาศัยได้ดียิ่งขึ้นด้วย

สาธารณูปโภค : ถ้าเทียบกับราคาระดับนี้ก็เรียกว่าจัดมาให้จัดจ้านที่สุดในย่านนี้แล้วนะ มีแยกให้ทั้ง 3 อาคารเลย โดยมีการแบ่งความสำคัญและแยกตามความเหมาะสมไว้อย่างลงตัว เช่นอาคาร A ใกล้กับส่วนทางเข้าด้านหน้าของอาคาร พื้นที่ส่วนกลางส่วนนี้เป็นเสมือนพื้นที่ต้อนรับของโครงการ ประกอบด้วย Lobby, Juristic Room, Reception, Working Area, Active Space (ที่ชั้นดาดฟ้า) ผู้ใช้ที่เหมาะสำหรับอาคารนี้ก็จะเป็นประเภทที่เน้นการเข้าออกสะดวก ใช้พื้นที่ส่วนกลางประเภทสระว่ายน้ำหรือออกกำลังกายไม่บ่อยนัก ส่วนอาคาร B และ C ตำแหน่งตัวอาคารจะอยู่เข้ามาทางด้านในโครงการ มีความเป็นส่วนตัวจากภายนอกมากขึ้น อาคาร B ประกอบด้วย Living Lounge, Fitness, Yoga room, Movie room BBQ Terrace (ที่ชั้นดาดฟ้า) ส่วนอาคาร C ประกอบด้วย Water front lounge, Co-Pantry 2 ห้อง, Game room, Forrest Terrace (ที่ชั้นดาดฟ้า) ผู้ใช้ที่เหมาะกับอาคาร 2 อาคารนี้คือ กลุ่มที่ชอบทำกิจกรรมต่างๆภายในโครงการ ใช้พื้นที่ส่วนกลางค่อนข้างบ่อย นอกเหนือจากนั้นด้านบนดาดฟ้าของแต่ละอาคาร ยังมีพื้นที่สีเขียวให้ใช้งานกันทุกอาคารอีกด้วยครับ แต่ความหนาแน่นของการใช้ลิฟต์ค่อนข้างเยอะ โดยมีอัตราส่วนของการใช้ลิฟต์ต่อจำนวนห้องคือ อาคาร A 1:130 ยูนิต / อาคาร B 1: 107 ยูนิต / อาคาร C 1:105 ยูนิต

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 70,000 บาท/ตร.ม., 25 February 2020

  • ทำเล 7.5/10 – ทำเลย่านชุมชน มีความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินถึง เข้าซอยแค่ 450 ม.ใกล้รถไฟฟ้าในอนาคต
  • เดินทางด้วยรถ 7/10 – เดินทางง่ายเข้าออกง่ายไม่ซับซ้อน แต่ต้องระวังเรื่องรถติด
  • ไม่ใช้รถ 7.5/10 – มีรถประจำทาง รถรับจ้างต่างๆ อนาคตมีรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีสะพานใหม่ ไม่ไกลจากโครงการ
  • วัสดุ 8/10 – มาตรฐานเหมาะสมกับการใช้งาน Fully Furnished พร้มอยู่
  • การออกแบบ 7.75/10 – มีแบบห้องให้เลือกหลากหลาย จัดวางฟังก์ชันในห้องได้ดีเป็นสัดส่วน
  • สาธารณูปโภค 8.5/10 – มีให้เลือกหลายหลาย กระจายการใช้งานได้ทั่วถึง

  • ECONOMY CLASS
  • 7.61 / 10.00

BOTTOM LINE

โครงการ Plum Condo สะพานใหม่ สเตชั่น เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดแต่งเสร็จพร้อมอยู่ในย่านพหลโยธิน ใกล้แหล่งของกินของใช้ สามารถเดินทางโดยใช้รถยนต์หรือเดินได้เข้าซอยไม่ลึก และกำลังจะมีรถไฟฟ้าเป็นตัวเลือกในการเดิน มีห้องหลากหลายขนาดให้เลือก ส่วนกลางให้มาเยอะน่าใช้งาน มีงบประมาณเริ่มต้นที่ 1.39 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 10,000 – 15,000 บาท/เดือน ลองพิจารณากันดูครับ


ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving