รีวิวฉบับที่ 2197 … Groove รัชดา-พระราม 9 เป็นโครงการ Low Rise ใกล้เซ็นทรัล พระราม 9 ที่ตอนนี้สร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้ว ราคาเริ่มต้นที่ 2.69 ล้านบาท ขายแบบ Fully Furnished ด้วย ซึ่งที่นี่มีจุดที่น่าสนใจดังนี้ค่ะ
- ทำเลที่ความอุดมสมบูรณ์สูง และ เดินทางง่ายใกล้รถไฟฟ้า – อยู่รัชดาซอย 3 ซอยสถานทูต จีนฝั่งฟอร์จูนทาวน์ เป็นซอยที่คึกคัก อาหารการกินเพียบ และ มี Shuttle Service รับ-ส่ง MRT สถานีพระราม 9
- ความเป็นส่วนตัวสูง – มีอยู่ 154 ยูนิต ถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆย่านพระราม 9 นี้
- การออกแบบ – พื้นที่ส่วนกลางจัดมาหลากหลายมุม ดีไซน์น่าใช้งาน ส่วนตัวห้องเน้นการใช้กระจกขนาดใหญ่ จึงทำให้บรรยากาศภายในห้องพักดูโปร่งโล่ง แม้มีขนาดเล็ก
ตึกสร้างเสร็จแล้วจะเป็นอย่างไร ตามอ่านรีวิวกันต่อได้เลยค่ะ
ข้อมูลโครงการ
Fact @ 19 February 2021
- Groove Ratchada – Rama 9 (กรูฟ รัชดา – พระราม 9)
- ดิวายน์ ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment ได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : ซอยรัชดาภิเษก 3 แขวงดินแดง เขตดินแดง
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 154 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 22 ยูนิตต่อชั้น
- ที่จอดรถ 29 คัน และที่จอดรถอัตโนมัติ 43 คัน รวมทั้งหมด 72 คัน รวมจอดซ้อนคัน หรือประมาณ 47%
- ที่ดินประมาณ 0-3-53 ไร่
- แบบห้อง
– GROOVE Cooper : One Bedroom 22-26 ตร.ม.
– GROOVE XCoolsive : One Bedroom 33-36 ตร.ม.
– GROOVE Xtend : One Bedroom 28-36 ตร.ม. จำนวน
– GROOVE Xtend Plus : One Bedroom plus 32-44 ตร.ม. - ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท (โปรโมชัน)
- สร้างเสร็จพร้อมอยู่
- ราคาห้องโปรโมชันเฉลี่ยต่อตารางเมตร 105,000 บาท/ตร.ม.
- เว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 090-91306665
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด : 13.7632392 , 100.5621173
Google Maps : คลิก
ทำเลของ Groove รัชดา-พระราม 9 จะตั้งอยู่ที่รัชดาซอย 3 ฝั่งเดียวกับฟอร์จูนทาวน์ ปากซอยจะมีสถานทูตจีนอยู่นั่นเองค่ะ ตรงนี้ถือว่าเป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้กับห้างใหญ่ทั้ง Central พระราม 9 และที่ฟอร์จูนทาวน์เองก็จะมี Lotus อยู่ค่ะ นอกจากนี้ก็ยังถือว่าเป็นทำเลที่เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้าสถานี พระราม 9 ด้วย ซึ่งทางโครงการก็จะมี Shuttle Service ให้บริการแบบไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่จะมีกี่รอบ ให้บริการกี่โมงถึงกี่โมงนั้นต้องสอบถามกับทางโครงการหรือว่านิติบุคคลอีกครั้งนะคะ
จากเหตุผลเรื่องการเดินทางและความอุดมสมบูรณ์นี้ ทำให้บริเวณแยกพระราม 9-ดินแดง กลายเป็นอีกโซนที่มีคอนโดเกิดขึ้นเยอะเลยค่ะ เหมาะกับคนที่ทำงานหรือเรียนย่านอโศกรัชดาที่เน้นการใช้งานรถไฟฟ้าเป็นหลัก ซึ่งคอนโดที่มีตรงนี้นั้นก็จะมีให้เลือกหลายระดับ และหลายราคา คอนโดสูงก็มักจะอยู่ติดกับถนนพระราม 9 หรือว่าถนนอโศก-ดินแดง แต่ถ้าเป็น Low Rise ก็จะเจอที่ซอยรัชดา 3 นี้ค่ะ และถ้าจะให้เรามองเทียบกับโครงการรอบๆนี้ จุดเด่นของ Groove รัชดา-พระราม 9 จะเป็นเรื่องจำนวนยูนิตพักอาศัยที่มีอยู่ 154 ยูนิต น่าจะน้อยสุดในย่านก็ว่าได้นะคะ เพราะถ้าดูเรื่องราคาและห้องที่ขายแบบ Fully Furnished ก็จะมีโครงการในซอยที่ทำราคาขายออกมาใกล้เคียงกันอยู่ แต่โครงการอื่นจะมีจำนวนยูนิตเยอะ ดังนั้น Groove รัชดา-พระราม 9 จึงเหมาะกับคนที่มองหาคอนโดเล็กๆอยู่ อยากได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าค่ะ
บรรยากาศรอบๆโครงการ
ตัวโครงการจะติดกับรัชดาซอย 3 แต่จะทำทางเข้าไว้ทางซอยข้างๆค่ะ
สำหรับข้อมูลอื่นๆเกี่ยวกับทำเลของ Groove รัชดา-พระราม 9 เช่น เส้นทางการเดินทาง สถานที่รอบๆ สามารถอ่านต่อได้จากรีวิวเก่านะคะ > คลิก
รายละเอียดโครงการ
Groove รัชดา-พระราม 9 ถือว่าเป็นโครงการขนาดเล็กนะคะ ก่อสร้างบนที่ดินขนาดไม่ถึง 1 ไร่ รูปแบบจะเป็น 1 อาคาร สูง 8 ชั้น ก่อสร้างเต็มพื้นที่เลยค่ะ โดยทั่วไปแล้วโครงการ Low Rise 1 อาคารจะมีจำนวนยูนิตไม่เยอะ และมักจะมีพื้นที่ส่วนกลางไม่เยอะตามไปด้วย ส่วนใหญ่จัดอยู่ในอาคารทั้งหมด เนื่องจากที่ดินมีขนาดเล็กแต่ก็จะมีข้อดีเรื่องความ Private เพราะคนที่อยู่ร่วมกันไม่เยอะนั่นเองค่ะ
พื้นที่ส่วนกลาง
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของ Groove รัชดา-พระราม 9 จะจัดอยู่ที่ชั้น 1 , ชั้น 8 และชั้นดาดฟ้า รายละเอียดตามนี้ค่ะ
ชั้น 1 – พื้นที่จอดรถ+ที่จอดรถอัตโนมัติ , Mail room , Lobby + Co-working Space , Vending machine
ชั้น 8 – Sunken seat (มุมนั่งเล่น) , Meeting room , Co-kitchen , Fitness
ชั้นดาดฟ้า – Sky pool , สวนชั้นดาดฟ้าที่จัดมุมนั่งเล่นไว้หลากหลาย , Boosting Track (ทางวิ่ง)
เรามองว่าพื้นที่ส่วนกลางของ Groove รัชดา-พระราม 9 จัดออกมาได้หลากหลายมุมมากนะคะ แต่ละพื้นที่อาจจะไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก แต่เพราะความหลากหลายของมุมต่างๆที่จัดมา ก็จะช่วยกระจายความหนาแน่นเมื่อใช้งานได้ค่ะ เราลองไปดูแต่ละส่วนกันดีกว่านะ
ชั้น 1
ที่ชั้น 1 เราขอแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วน
ส่วนแรกคือที่จอดรถและทางเดินรถ โครงการนี้จะมีที่จอดรถอยู่ 2 แบบ คือแบบจอดเข้าซองและแบบระบบอัตโนมัติค่ะ ที่จอดรถจะเป็นส่วนที่กินพื้นที่เกิดครึ่งของชั้น 1 เลย
ส่วนที่ 2 เป็นส่วนห้องพักอาศัย ที่ชั้นนี้ก็จะมีห้องพักอาศัยอยู่ค่ะ มีทั้งหมด 5 ยูนิต
ส่วนที่ 3 เป็นพื้นที่ส่วนกลาง โดยส่วนกลางจะถูกจัดอยู่ทางฝั่งที่ติดซอยรัชดา 3 ฟังก์ชันส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่นั่งเล่น ทำงานเป็นหลัก แต่ก็จะมี Vending machine ขายเครื่องดื่มอัตโนมัติตั้งอยู่ อำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน ซึ่งตำแหน่งของ mail room และห้องทำงานนิติบุคคลก็จะอยู่รวมกับโซนนี้ค่ะ
ทางเข้าและที่จอดรถ
ทางเข้าโครงการ Groove รัชดา-พระราม 9 จะอยู่ทางซอยอยู่เจริญ 7 โดยทั้งทางเดินรถและทางคนเดินก็จะอยู่รวมกันเลยค่ะ โดยที่จอดรถของโครงการนี้จะมีทั้งแบบจอดปกติกับที่จอดรถระบบอัตโนมัติ รวมๆแล้วสามารถจอดได้ประมาณ 47% เมื่อเทียบกับจำนวนห้องพักอาศัยนะ ซึ่งถือว่ากลางๆไม่มากไม่น้อยไปสำหรับโครงการใกล้รถไฟฟ้าที่ผู้อยู่อาศัยมักจะใช้งานรถสาธารณะในการเดินทางเป็นหลักค่ะ คลิกเลื่อนดูรูปทางด้านล่างได้นะคะ
ทางเข้าจะอยู่ทางซอยอยู่เจริญ 7 ค่ะ
Lobby & Co-Working Area
พอเข้ามาภายในอาคารที่ชั้น 1 ตรงนี้จะเป็นเหมือน Lobby และพื้นที่นั่งเล่น ทำงาน รวมกันอยู่ค่ะ โดยพื้นที่อาจจะไม่ได้มีขนาดใหญ่โต โอ่อ่านะ แต่จะจัดไว้หลายๆมุม ได้ความเป็นส่วนตัวในการใช้งานดี และออกแบบ interior ออกมาสวยน่ามานั่งใช้งาน
โดยพื้นที่ตรงนี้ถ้าเข้ามาจากที่จอดรถก็ต้องใช้ Key card scan เพื่อเข้ามาใช้งานค่ะ และจะเป็นส่วนที่แยกตัวออกมาจากลิฟต์ ทำให้คนที่เข้า-ออกคอนโดจะไม่เดินผ่านพื้นที่ส่วนนี้ ตรงนี้จึงได้ความ Private ที่เพิ่มขึ้นด้วย
Work Capsules ออกแบบมาเป็นห้องเล็กๆ นั่งทำงานหรือจะคุยโทรศัพท์ก็ได้ค่ะ
โต๊ะยาวที่สามารถใช้ทำงานหรืออ่านหนังสือแบบจริงจังได้
ฝั่งนี้ก็จะมีห้องน้ำรองรับการใช้งาน 1 ห้อง
เดินไปดูอีกด้านกันนะคะ
ตรงนี้ก็จะจัดเป็นมุมนั่งเล่น นั่งทำงานอีกจุด หันไปหาสวนข้างๆอาคาร
ติดกันจะเป็นพื้นที่ลดระดับลงมา จัดเป็นมุมนั่งเล่นมองออกไปเห็นสวนอีก 1 จุดค่ะ
ด้านหลังจะเป็นตำแหน่ง Vending machine และ Mail room
Vending machine ที่เห็นตอนนี้ก็จะมีเครื่องดื่มขาย ตั้งคู่กับตู้บุญเติม
Mail room อยู่ด้านข้างค่ะ
ทางฝั่งนี้จะมีห้องน้ำอีกจุด โดยแยกชาย-หญิงมาให้นะ
ชั้น 8
ที่ชั้น 8 จะแบ่งพื้นที่ออกเป็นสองส่วนคือห้องพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลางค่ะ โดยจะแยกทางเดินจากโถงลิฟต์ออกจากกันนะ ส่วนของห้องพักก็ต้องใช้ Keycard เพื่อเข้าไปยังโซนที่พักอาศัย แต่ถ้าจะเดินมายังส่วนกลางก็เดินทะลุบันไดหนีไฟมายัง Co-kitchen ได้เลย
พื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ระดับเดียวกับชั้น 8 จะเป็นฟังก์ชันที่อยู่ในร่มค่ะ เป็น Co-kitchen และ Co-working ที่เชื่อมต่อกันได้ ตัว Co-working ก็สามารถปรับใช้เป็น Meeting room ได้ด้วย แต่ถ้าเดินออกมาจะเป็นพื้นที่ Semi-outdoor เจอกับ Sunken Seat และ Fitness ค่ะ ส่วนโซนสระว่ายน้ำจะต้องเดินขึ้นไปอีกครึ่งชั้นนะ ซึ่งการออกแบบระดับที่แตกต่างกันก็เป็นจุดที่เราชอบเลย เพราะว่าแต่ละพื้นที่เวลาใช้งานก็จะได้ความเป็นส่วนตัวดีค่ะ
Co-Kitchen & Meeting Room
ขึ้นมาที่ชั้น 8 มีพื้นที่ส่วนกลางอยู่หลายจุดนะคะ ที่ชั้นนี้ส่วนใหญ่จะเป็นฟังก์ชันที่อยู่ในอาคารเป็นหลัก ส่วนแรกที่จะเจอเลยเป็น Co-kitchen ต่อเนื่องกันกับ Meeting room
Co-kitchen ที่ได้ก็จะมีเคาน์เตอร์ครัวให้มาแบบจริงจังเลย พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเตาไฟฟ้า ตู้เย็น อ่างล้างจานมาครบครัน ถ้ามีเพื่อนมาบ้านเราก็สามารถชวนกันขึ้นมาทำอาหารกินกันเล่นๆได้ตรงนี้ค่ะ
ส่วน Meeting room ที่อยู่ติดกันก็จัดไว้เป็นห้องกระจก ปิดกั้นแยกเป็นสัดส่วนได้ ตรงนี้ก็ถือเป็นอีกมุมหนึ่งที่ลูกบ้านขึ้นมานั่งทำงานหรืออ่านหนังสือได้ค่ะ
เดินออกไปดูพื้นที่ส่วนอื่นๆกันต่อนะ
พอเดินออกมา สิ่งแรกที่เราจะเจอเป็น Sunken seat ที่เรียกว่า Sunken เพราะจะลดระดับจากชั้นดาดฟ้าลงมาค่ะ สามารถเห็นส่วนนี้ได้จากดาดฟ้านะ
ข้างๆกันจะเจอกับห้องฟิตเนสค่ะ
ภายในห้องฟิตเนสจะไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนะ แต่เราว่าตรงนี้จัดอุปกรณ์และเครื่องเล่นฟิตเนสให้มาแน่นห้องเลย มีเครื่องเล่นหลากหลายแบบ ใช้งานได้ไม่เบื่อ บริหารกล้ามเนื้อได้ทุกส่วนค่ะ
โดยส่วนกลางที่อยู่ชั้น 8 และชั้นดาดฟ้าจะมีห้องน้ำอยู่ 1 ห้องค่ะ จะออกแบบให้อ่างล้างมืออยู่ด้านนอก
ส่วนด้านในห้องน้ำก็จะมีโถสุขภัณฑ์ และฝักบัวอาบน้ำ เผื่อใครออกกำลังกายหรือว่ายน้ำก็มาใช้งานได้ แต่เราว่าแค่ล้างตัวแล้วกลับไปอาบน้ำในห้องน่าจะสะดวกกว่าค่ะ
ชั้นดาดฟ้า
เดินขึ้นมาจากชั้น 8 จะแบ่งเป็น 2 ระดับ ระดับแรกจะเป็นสระว่ายน้ำที่หันหน้าออกไปทางฝั่งรัชดาซอย 3 และอีกระดับจะเป็นพื้นที่สวนขนาดใหญ่กินพื้นที่เกือบเต็มชั้นของอาคารค่ะ ด้วยขนาดสวนที่มีพื้นที่ใหญ่ ทางโครงการจึงออกแบบมาให้หลากหลายมุม มีทางเดินรอบๆสามารถขึ้นมาออกกำลังกายได้ และมีการลงต้นไม้หลายๆพันธุ์ ทั้งไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม และหญ้าเทียมค่ะ
สำหรับวิธีขึ้นไปใช้งานชั้นดาดฟ้าจะต้องขึ้นทางบันไดเท่านั้นนะคะ
พอขึ้นมาก็จะเจอกับจุดล้างตัว สำหรับคนที่จะมาใช้งานสระว่ายน้ำค่ะ
ตัวสระว่ายน้ำจะยาวประมาณ 21 เมตร ใช้ว่ายออกกำลังกายได้ และเป็นโซนที่เล่นระดับแตกต่างจากพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆ เช่น สวน หรือมุมนั่งเล่น ทำให้คนที่มาใช้งานสระว่ายน้ำได้ความเป็นส่วนตัวดีค่ะ
นอกจากนี้บริเวณสระก็เป็นมุมที่ดีนะคะ หันไปทางฝั่งอโศก-ดินแดง ซึ่งทางนี้ยังไม่มีอาคารสูงมาบังเท่าไหร่ วิวดูเปิดโล่งดีค่ะ
จากสระว่ายน้ำเดินขึ้นไปจะเจอกับสวนชั้นดาดฟ้า
มองลงมาเจอสระว่ายน้ำและ Sunken seat สวยงามดีมุมนี้
สวนที่ชั้นดาดฟ้านั้น ออกแบบมาเต็มพื้นที่หลังคาของอาคารเลยก็ว่าได้ค่ะ มีหลายๆมุมให้เลือกใช้งานนะคะ และมีเส้นทางเดินรอบๆ สามารถมาเดินออกกำลังกายได้ด้วย เลื่อนดูบรรยากาศสวนจากรูปด้านล่างได้เลยค่ะ
การจัดสวนมีการเลือกพันธุ์ไม้สามระดับ คือ หญ้า ไม้พุ่ม และต้นไม้ใหญ่ค่ะ เราจึงจะเห็นพื้นที่สีเขียวรอบๆ
Typical floor plan
ชั้น 2-7 จะเป็นชั้นของห้องพักอาศัยทั้งหมดค่ะ โดยตำแหน่งลิฟต์จะอยู่ตรงกลางอาคาร มีอยู่ 2 ตัว ความหนาแน่นในการใช้งานไม่มาก เพราะจำนวนห้องพักอาศัยไม่เยอะ จากโถงลิฟต์สามารถเดินออกไปยังห้องพักได้สองฝั่งค่ะ Mass ตรงกลาง หรือทางเดินรอบๆโถงลิฟต์จะเป็น Single corridor เดินวนรอบได้ ได้ความเป็นส่วนตัวเพราะตรงข้ามกับประตูห้องเป็นผนัง แต่ส่วนนี้ก็จะไม่มีแสงสว่างจากรอบอาคารเข้ามา ในการใช้งานจริงต้องเปิดไฟส่องสว่างตลอดเวลา 24 ชั่วโมงค่ะ ส่วนอีกปีกของอาคารจะมีทางเดินแยกออกไป ทางเดินอาจจะคดเคี้ยวบ้างแต่ได้ความเป็นส่วนตัวดีขึ้นค่ะ
ในส่วนการจัดวางรูปแบบห้อง ดูแล้วขึ้นอยู่กับตำแหน่งและรูปร่างของอาคารค่ะ หลักๆห้องเล็กสุด Cooper (สีเหลือง) จะอยู่ตรงกลาง ส่วนห้องอื่นๆจะอยู่มุมอาคารค่ะ
บรรยากาศหน้าโถงลิฟต์ค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
Ground Floor
- Work Capsules
- Indoor-Outdoor Lobby Area
- Co-working Space
- Groove Box Vending Machine Zone
- Instant Food
- Postman Box
8th-Roof Top
- Sunbed Seating
- Boosting Track
- Sky Hanging Couch
- Private Meeting Room
- Co-kitchen
- Escalated Sky Pool
- สระว่ายน้ำระบบน้ำแร่ ขนาดยาว 21 เมตร กว้างสุด 5.6 เมตร แคบสุด 3.6 เมตร ลึก 1.2 เมตร
- Upbeat Fitness
- Sunken Seat
Other Facilities
- Digital Door Lock ระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ อุปกรณ์ตรวจจับควัน
- Intelligence home automation
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 77 : 1
- ที่จอดรถ 29 คัน และที่จอดรถอัตโนมัติ 43 คัน รวมทั้งหมด 72 คัน รวมจอดซ้อนคัน หรือประมาณ 47%
- ระบบ CCTV / Access Card
แบบห้อง
แบบห้องของ Groove รัชดา-พระราม 9 จะเป็นห้อง 1 Bedroom ทั้งหมดเหมาะสำหรับอยู่อาศัยกัน 1-2 คน แทบทุกห้องจะได้ครัวที่แยกออกไปเป็นสัดส่วน มีประตูกั้นแยกเป็นครัวปิด ยกเว้น Cooper ที่เป็นห้องขนาดเริ่มต้นค่ะ แต่ละแบบจะมีชื่อเรียกและขนาดดังนี้
GROOVE Cooper : One Bedroom 22-26 ตร.ม.
GROOVE XCoolsive : One Bedroom 33-36 ตร.ม.
GROOVE Xtend : One Bedroom 28-36 ตร.ม.
GROOVE Xtend Plus : One Bedroom plus 32-44 ตร.ม.
โดยในรีวิวนี้เราจะพาไปดูห้องตัวอย่าง 2 แบบ คือ Xtend กับ XCoolsive ค่ะ แต่ถ้าใครอยากดูห้อง Xtend Plus สามารถ คลิกที่นี่ เพื่อไปดูรีวิวห้อง Type นี้เพิ่มเติมจากรีวิวเดิมได้นะคะ
วัสดุที่ได้ภายในห้อง
- รูปแบบการขาย Fully Furnished
- Digital Door Lock
- พื้นห้อง สมาร์ทไวนิล
- ผนังห้องฉาบเรียบทาสี
- ไฟดาวน์ไลท์
- ครัว พื้นกระเบื้อง เตาไฟฟ้าแบบดูดออกนอกอาคารและอ่างล้างจานของ Hafele , Top counter หินเทียม
- ห้องน้ำ พื้นและผนัง กรุกระเบื้อง สุขภัณฑ์ของ Hafele
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
1 Bedroom Groove XCoolsive 32.83 sq.m.
สำหรับห้อง Type นี้ เราชอบความเป็นสัดส่วนมากค่ะ เพราะว่าแต่ละฟังก์ชันจะถูกออกแบบแยกออกจากกันชัดเจน เข้าห้องมาจะมีพื้นที่เล็กๆ เป็นเหมือนโถงต้อนรับที่เราจัดมุมเป็นชั้นวางรองเท้า ม้านั่งใส่รองเท้าได้ เข้ามาก็จะเจอกับมุมกินข้าว และมุมนั่งเล่นที่ดูเป็นสัดส่วน พื้นที่ครัวก็จะได้ครัวปิด ส่วนตัวห้องน้ำก็ออกแบบไว้ให้มีประตู 2 ทาง ใช้งานได้สะดวกที่เจ้าของห้องและแขกที่มาเยี่ยมเยียน ส่วนห้องนอนก็ได้ห้องนอนปิดแยกเป็นสัดส่วนเลยค่ะ ห้องนี้ถ้าอยู่คนเดียวก็สบายเลย แต่ถ้าอยู่กัน 2 คนก็ถือว่าไม่อึดอัดนะ
หน้าตาของเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาในห้องนี้ค่ะ ถือว่าได้มาครบชิ้นอยู่นะคะ
เข้ามาดูภายในห้องกันค่ะ เมื่อเข้ามาเราจะเจอกับผนังทึบก่อนนะ ตรงนี้ตกแต่งภายในด้วยกระจก เลยทำให้ห้องดูกว้างขึ้นด้วย สามารถนำไปใช้เป็นไอเดียเวลาตกแต่งห้องได้นะคะ
ประตูจะได้เป็นลายไม้แบบที่เห็นเลย มาพร้อมกับ Digital Door Lock พื้นที่หน้าประตูตรงนี้เราแนะนำว่าจัดเป็นมุมสำหรับวางรองเท้า แขวนกระเป๋า, ร่มได้ค่ะ พื้นที่ตรงนี้มีขนาดประมาณ 1.5×1.4 เมตร
ข้างๆประตูจะเป็นมุมสำหรับโต๊ะกินข้าว ในห้องมาตรฐานจะได้อีกดีไซน์ รูปแบบเป็น 2 ที่นั่ง ซึ่งเวลาใช้งานจริงจะปรับเป็นโต๊ะแบบ 3-4 ที่นั่งก็ได้นะคะ หรือดัดแปลงไปเป็นโต๊ะทำงานไปในตัวก็ได้นะ
มุมนั่งเล่น Living Area
หันมาตรงข้ามกับมุมกินข้าว ตรงนี้จะเป็นมุมนั่งเล่น พักผ่อนค่ะ ขนาดพื้นที่ประมาณ 2.3×1.7 เมตร อยู่ติดกับระเบียงด้วย ทำให้แสงเข้ามาภายในห้องเต็มที่
มุมนี้จะให้เฟอร์นิเจอร์มาเป็นโซฟารับแขกและชั้นวางทีวีค่ะ
ห้องครัว
ส่วนต่อมาที่จะพูดถึงคือห้องครัวค่ะ จากแปลนเดิมที่เราเห็นจะเป็นครัวเปิดนะ แต่ในห้องตัวอย่างนี้จะได้ครัวปิดมาเลย ซึ่งออกแบบเป็นประตูบานเลื่อนกระจกและมีกระจกเข้ามุมมาให้ด้วย ทำให้ห้องครัวนี้ดูไม่มืดทึบค่ะ
ขนาดภายในก็กว้างใช้ได้เลย 2.65×1.35 เมตร สามารถวางตู้เย็น เครื่องซักผ้าไปได้ จัดเป็นห้อง Service ไปในตัว
ส่วนครัวก็จะได้เคาน์เตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้ามาให้แบบนี้ค่ะ อ่างล้างจานและเตาไฟฟ้าของ Hafele Top เคาน์เตอร์ใช้หินเทียม ซึ่งทนต่อการใช้งานดีนะคะ ส่วนผนังทางด้านหลังกรุกระจกเงาสีชาแบบนี้ ง่ายต่อการทำความสะอาดคราบต่างๆที่มาจากการทำอาหารค่ะ
ห้องน้ำ
ห้องน้ำจะอยู่ด้านในทางเดินต่อจากห้องครัว เป็นห้องน้ำที่สามารถเข้าได้ 2 ทางนะคะ เข้ามาด้านใน พื้นและผนังจะกรุด้วยกระเบื้อง ตรงผนังจะเลือกกระเบื้องลายหินอ่อนเข้ากับผนังภายนอกของอาคารที่ใช้กระเบื้องลายหินอ่อนตกแต่งเช่นกันค่ะ
สุขภัณฑ์ต่างๆจะได้ของ Hafele ตามรูปที่เห็นเลย อ่างล้างหน้าก็มีชั้นวางของใต้อ่าง อุปกรณ์ต่างๆเช่น สายฉีดชำระ ที่ใส่กระดาษชำระหรือว่าราวแขวนผ้าก็ให้มาครบค่ะ
ห้องอาบน้ำเป็นประตูบานเลื่อน 3 ตอน ตัวบานเป็นกระจก Tempered กรอบอลูมิเนียมค่ะ ฝักบัวเป็น ABS สีดำด้านของ Hafele เช่นกัน
ห้องนอน
ภายในห้องนอนจะดูมีขนาดใหญ่เลยค่ะ เป็นห้องนอนปิดแยกเป็นสัดส่วน วางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆลงไปแล้วก็เห็นว่ามีพื้นที่รอบเตียงเหลือเยอะ เดินสบายนะ
หน้าต่างของห้องนี้จะมีอยู่ 2 จุด เป็นทรงสูง แม้จะไม่ใหญ่ แต่ปริมาณแสงที่เข้ากำลังดีค่ะ เน้นความสว่างให้ห้องไม่เน้นชมวิว
1 Groove Bedroom Xtend 28.97 sq.m.
สำหรับห้องนี้เรามองว่าเป็นอีกหนึ่งห้องที่จัด Layout ได้น่าสนใจเลยค่ะ ด้วยผังห้องที่เป็นห้องตอนลึก ซึ่งส่วนใหญ่ผังที่เป็นแบบนี้มักจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2-3 ส่วนลึกเข้าไปตามความยาวของห้อง แต่ห้องนี้กลับออกแบบฟังก์ชันมาแบบเยื้องๆ ห้องนอนเยื้องกับห้องนั่งเล่น ได้พื้นที่ครัวปิดอีก ทำให้เป็นห้องตอนลึกที่ออกแบบมาเป็นสัดส่วนดีเลยค่ะ และจากการเลือกใช้กระจกมากั้นห้องแทนผนังทึบ ก็ช่วยให้ภายในห้องมีความโปร่งโล่งสว่างมากขึ้นด้วยนะคะ
Furniture list ที่ได้มาพร้อมห้องนะ เราลองไปดูบรรยากาศภายในห้องกันต่อดีกว่า
เข้ามาภายในห้องจะเจอกับตัวห้องที่ลึกเข้าไปยังพื้นที่ระเบียงที่อยู่ด้านในสุดค่ะ การกั้นพื้นที่แต่ละฟังก์ชันด้วยกระจกก็ช่วยให้แสงเข้ามาในห้องได้เต็มที่ ห้องจึงดูใหญ่ไม่อึดอัดนะ
ส่วนแรกที่จะเจอเมื่อเข้ามาภายในห้องฝั่งหนึ่งจะเป็นห้องครัวค่ะ ส่วนอีกฝั่งจะเป็นพื้นที่โล่งที่เตรียมงานระบบเอาไว้ สำหรับวางตู้เย็น เครื่องซักผ้าได้
ตรงนี้ดูแล้วเราสามารถเพิ่มชั้นวางรองเท้าเข้าไปได้นะคะ หรือถ้ามีงบหน่อยก็ทำเป็น Built-in ชั้นเก็บของเพิ่มไป จะได้เก็บพวกอาหารแห้ง หรืออุปกรณ์ที่ใช้ซักรีดไปในตัว ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้นค่ะ โดยมุมที่สามารถเพิ่มได้จะมีขนาดประมาณ 60×70 ซม.นะ
ห้องครัว
หันมาอีกฝั่งจะเจอกับห้องครัวค่ะ ตั้งอยู่หน้าสุดของห้อง ติดกับประตูเลย โดยครัวที่ได้จะเป็นครัวปิด มีเคาน์เตอร์ อ่างล้างจาน และเตาไฟฟ้าให้มาครบค่ะ รูปแบบครัวปิดก็จะเหมาะสำหรับคนที่มักทำอาหารกินเองเป็นประจำ เพราะกลิ่นและควันจะได้ไม่ลอย ฟุ้งไปยังส่วนอื่นๆของห้องได้ค่ะ
ประตูห้องครัวจะได้เป็นบานเลื่อนสามตอนนะ ตัวบานเป็นกระจกเพิ่มความโปร่งโล่งให้กับครัวได้
Living Area
ส่วนต่อมาเป็นพื้นที่นั่งเล่นค่ะ ตรงนี้จะให้โซฟา และ ชั้นวางทีวีมาให้นะคะ ความกว้างของพื้นที่จะอยู่ที่ประมาณ 2.4 จัดโซฟาพอดีมุม ทางเดินเหลือดูกว้างเข้า-ออกด้านในสะดวก และการออกแบบผนังกระจกเข้ามุมก็ช่วยให้พื้นที่ตรงนี้ไม่มืดค่ะ
ชุดโซฟาของจริงจะได้อีกดีไซน์นะคะ
Working area และระเบียง
ตรงนี้เราขอเรียกว่า Working area นะคะ เพราะเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาเหมาะสำหรับการจัดเป็นมุมทำงานได้ค่ะ แต่ถ้าใครจะมานั่งกินข้าวตรงนี้ก็พอได้นะคะ หรือจะหาโต๊ะกินข้าวเล็กๆมาวางข้างๆโซฟาก็ได้ค่ะ
ทางออกไปยังระเบียงจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจก เพื่อให้แสงเข้ามาภายในห้องได้เต็มที่ค่ะ
ห้องนอน
ประตูทางเข้าห้องนอนจะเป็นประตูบานเปิดสวิงเข้าไปแบบนี้ค่ะ
ชุดประตูกระจกนี้ถือเป็นจุดเด่นของห้อง Type นี้เลยก็ว่าได้ ทำให้แสงจากภายนอกอาคารเข้าไปยังส่วนนั่งเล่นได้ แต่ถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น อาจจะติดม่านหรือมู่ลี่เพิ่มเติมเอาทีหลังได้นะคะ
เฟอร์นิเจอร์ที่ได้ในห้องนอนก็จะมีฐานเตียง ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง วางเรียงกันพอดีกับขนาดห้องค่ะ
ภายในห้องนอนก็จะได้กระจกเข้ามุมบานใหญ่ ช่วยให้ภายในห้องดูโปร่งโล่งค่ะ
ตู้เสื้อผ้าและมุมแต่งตัว
มุมแต่งตัวจะอยู่ทางด้านใน หน้าห้องน้ำเลยค่ะ
ตู้เสื้อผ้ากว้าง 1 เมตร มีราวแขวน ลิ้นชัก ชั้นวางของมาให้แบบนี้เลย
ห้องน้ำ
ห้องน้ำจะอยู่ทางด้านในของห้องนอนนะ โดยสุขภัณฑ์จะได้ของ Hafele มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ ดีไซน์ภายในเน้นโทนสีขาวดำเป็นหลักค่ะ
ผนังห้องน้ำใช้กระเบื้องลายหินอ่อนค่ะ
Groove Xtend Plus
ห้องนี้ถือเป็นอีกห้องที่น่าสนใจค่ะ เพราะได้พื้นที่ใช้สอยเยอะ และได้ห้องอเนกประสงค์เพิ่มมาอีกห้อง โดยแต่ละฟังก์ชันแยกออกเป็นสัดส่วน ได้ครัวปิด ห้องนอนปิด ห้องน้ำเข้าได้สองทาง ตัวห้องอเนกประสงค์สามารถปรับเป็นห้องนอนเล็กก็ได้ หรือจะเป็นห้องทำงาน ห้องกินข้าว หรือว่าห้องแต่งตัวก็ได้ค่ะ
furniture list ที่ได้ภายในห้อง Xtend plus ค่ะ สำหรับห้องนี้เรามีบรรยากาศห้อง Standard มาฝากกันค่ะ เลื่อนดูจากรูปด้านล่างได้เลยนะ
ส่วนห้องตัวอย่างก็เลื่อนดูจาก gallery ด้านล่างได้เหมือนกันค่ะ
Groove Cooper
ห้องนี้ถือว่าเป็นห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการค่ะ เป็นห้องแบบ1 Bedroom ขนาด 22-26 ตร.ม. ผังห้องจะเป็นห้องรูปร่างสี่เหลี่ยมจัตุรัส พื้นที่การใช้งานต่างๆจะเเยกเป็นสัดส่วน เมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วนนั่งเล่นพักผ่อนและทานอาหารก่อนเลย โดยพื้นที่ห้องนั่งเล่นจะกว้าง ตรงเข้ามาจะเป็นพื้นที่ห้องนอน ที่จะมีบานประตูบานเลื่อนและผนังกระจกที่เชื่อมพื้นที่เข้าด้วยกัน ส่วนอีกฝั่งของห้องจะเป็นพื้นที่ของห้องน้ำและห้องครัว โดยครัวที่ให้มาจะเป็นครัวเปิด แต่ถ้าใครอยากทำเป็นครัวปิดก็อาจจะลำบากหน่อยเพราะมีผนังกระจกของห้องนอนเข้ามุมอยู่นะคะ จะทำผนังปิดตรงครัวก็จะยากขึ้นเล็กน้อย ส่วนพื้นที่ครัวก็จะดีตรงที่อยู่ใกล้ระเบียง ระบายอากาศและกลิ่นควันจากครัวได้ดีเลยค่ะ
ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาก็ถือว่าครบครันเช่นกันค่ะ ลองไปดูบรรยากาศห้องตัวอย่างของ Cooper กันต่อได้นะ
บรรยากาศห้องมาตรฐานดูได้จากรูปด้านล่างค่ะ
ราคา
19 February 2021
- ทางโครงการแจ้งมาแต่ห้องโปรโมชันราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาทค่ะ เราเดาเอาว่าเป็นห้องแบบ Groove Cooper นะ
- รูปแบบการขาย Fully Furnished
- มีรถ Shuttle service รับ-ส่ง MRT พระราม9 เบื้องต้นไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร
- จอง 4,900 บาท
- ฟรีค่าทำสัญญา
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 58 บาท/ตร.ม./เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล :
ที่ตั้งของ Groove รัชดา-พระราม 9 ตั้งอยู่ในรัชดาซอย 3 ซอยข้างสถานทูตจีนค่ะ ทำเลนี้ถือว่าใกล้กับแยกรัชดา พระราม9 บริเวณนี้ถือว่ากลายเป็นแหล่งงานที่สำคัญอีกแห่งของกรุงเทพก็ว่าได้ มีห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน ที่พักอาศัย และสาธารณูปโภค ระบบขนส่งมวลชนเข้าถึงและครบครัน ส่วนในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์นั้น ถ้าดูบนถนนใหญ่ก็จะเจอกับห้างอย่างเซ็นทรัล พระราม 9 และฟอร์จูนทาวน์ตั้งอยู่ แต่ภายในซอยรัชดา 3 เอง เป็นซอยที่มีร้านอาหารการกินอยู่เยอะ แนว Street food ค่ะ
การเดินทางโดยใช้รถ :
ด้วยที่ตั้งถือว่าอยู่ใจกลางเมือง ตั้งอยู่ในซอยก็จริงแต่ก็ลัดเลาะไปออกได้ทั้ง ถนนรัชดา ถนนดินแดง หรือว่าถนนวิภาวดี-รังสิตได้ง่าย แต่ก็เป็นทำเลที่การจราจรติดขัดตามช่วงเวลาเข้าออกงานเช่นกันค่ะ ปริมาณที่จอดรถให้มา 47% ถือว่ากลางๆ แต่จะเป็นระบบจอดรถอัตโนมัติ ที่ต้องอาศัยเวลาทำความคุ้นเคย คุ้นชินในการใช้งาน ถอยรถเข้าออกซองนะคะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
ทำเลนี้ถือว่าเป็นซอยที่มีผู้คนอาศัยหนาแน่น มีวินมอเตอร์ไซค์ขับผ่านเข้าออกแทบจะตลอดเวลา และถ้าออกไปยังถนนใหญ่ก็จะมีทั้งรถเมล์และรถไฟฟ้าใต้ดินวิ่งผ่าน สถานีที่ใกล้สุดจะเป็นสถานีพระราม 9 ซึ่งทางโครงการจะมี Shuttle Service ให้บริการรับส่งที่สถานีด้วยค่ะ
วัสดุ :
โครงการนี้มีรูปแบบการขายห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์ (Fully Furnished) ซึ่งเหมาะกับห้องที่มีขนาดกะทัดรัด ขนาดและดีไซน์ของเฟอร์นิเจอร์จะได้มี Mood & Tone เดียวกัน ส่วนวัสดุภายในห้องก็จะได้พื้นกระเบื้องและสมาร์ทไวนิล ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี ติดไฟดาวน์ไลท์ ภายในครัวท็อปเคาน์เตอร์จะเป็นหินเทียม ติด Backsplash ให้มาเรียบร้อย ชุดครัวของ Hafele ภายในห้องน้ำ พื้นและผนังกรุกระเบื้อง สุขภัณฑ์ของ Hafele และมีติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้ค่ะ
การออกแบบ :
ที่นี่เป็นโครงการขนาดเล็กสร้างเต็มพื้นที่ เน้นความเป็นส่วนตัว ออกแบบมาให้มีแต่แบบ 1 Bedroom ขายเป็นหลัก ทางเดินหน้าห้องพักเป็น single corridor ที่ได้ความเป็นส่วนตัวก็จริง แต่จะไม่มีส่วนที่ติดกับหน้าต่าง ดังนั้นจึงต้องเปิดไฟทิ้งไว้ตลอดเวลาและระบายอากาศได้ยาก แต่ภายในห้องจะมีความแตกต่างเพราะเน้นเรื่องความโปร่งโล่ง มีการเลือกใช้ผนังกระจกเข้ามุมหลายๆส่วน เพื่อสร้างบรรยากาศภายในห้องให้แต่ละฟังก์ชันสามารถเชื่อมต่อกันได้ค่ะ
สาธารณูปโภค :
มีการออกแบบส่วนกลางไว้หลากหลายจุดที่ชั้น 1, 8 และชั้นดาดฟ้า เกิดเป็นพื้นที่ย่อยๆได้ความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน นอกจากนี้มีการตกแต่งภายในที่สวย น่าใช้งานค่ะ ฟังก์ชันของพื้นที่ส่วนกลาง ชั้นล่างจะเป็นมุมสำหรับนั่งพักผ่อน นั่งทำงานเป็นหลัก แต่ที่ชั้น 8 จะจัดเป็นฟังก์ชันในร่มที่หลากหลาย มี Co-kitchen , Meeting room และ Fitness ส่วนดาดฟ้าจะเป็นฟังก์ชันกลางแจ้ง ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำ และสวนที่ออกแบบมุมนั่งเล่นหลากหลายบรรยากาศค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 105,000 บาท/ตร.ม. (ราคาเฉลี่ยเฉพาะห้องโปรโมชัน ณ วันที่ไปโครงการ) , 19 February 2021
- ทำเล 8/10 – บริเวณรัชดา-พระราม 9 เป็นแหล่งงานที่สะดวกสบายทั้งการเดินทางและความอุดมสมบูรณ์
- เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – จำนวนที่จอดรถกลางๆ เทียบกับทำเลที่ใช้รถสาธารณะสะดวก
- ไม่ใช้รถ 7.5/10 – โครงการอยู่ในซอย แต่ก็สามารถเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้ง่าย
- วัสดุ 7.75/10 – fully furnished วัสดุต่างๆค่อนข้างดี
- แบบ 7/10 – มีแต่ 1 ห้องนอนให้เลือก
- สาธารณูปโภค 8/10 – ให้มาหลากหลาย สวยงาม เน้นความเป็นส่วนตัว
- UPPER CLASS
- 7.71 / 10.00
BOTTOM LINE
Groove รัชดา-พระราม9 เป็นโครงการที่เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดขนาดเล็ก เน้นความเป็นส่วนตัว แต่อยู่บนทำเลพระราม 9 ใกล้ห้าง ใกล้ MRT อยู่อาศัย 1-2 คน ชอบโครงการที่รูปแบบห้องโปร่ง พื้นที่ส่วนกลางมีหลายมุมให้ใช้งาน ไม่เน้นขนาดพื้นที่ใช้สอย มีงบประมาณ 2 ล้านปลายๆ ไปจนถึง 4 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนอยู่ที่ 18,000 – 28,000 บาทต่อเดือนค่ะ
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะคะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc