รีวิวโครงการ

BoomTharis l คอนโดแห่งแรกในไทย ที่ได้มาตรฐาน Well Certified ระดับ Gold: ANIL Sathorn 12

7 พฤศจิกายน 2022

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิวฉบับที่ 2448 กับโครงการ Anil สาทร 12 คอนโด High Rise ระดับ Super Luxury ตัวแรกจาก Grand Unity ซึ่งอาจจะเป็น Developer ที่พอคุ้นเคยกันมาบ้างกับโครงการใน Segment อื่นๆนะคะ โดยโครงการนี้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2562 และตอนนี้ก็สร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่ตั้งของโครงการอยู่บนถนนสาทร – เหนือ ติด BTS สถานีเซนต์หลุยส์ในระยะ 0 เมตร

สำหรับความน่าสนใจของโครงการเราได้รวบรวมเป็น Highlights มาให้ชมดังนี้ค่ะ

  • ทำเล : โครงการ Anil สาทร 12 ตั้งอยู่ใจกลางย่านสาทร ซึ่งเป็นศูนย์กลาง Real CBD ของประเทศ จึงเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน การเดินทางจัดว่าสะดวกสบายมาก เพราะโครงการอยู่ติดถนนหลัก และรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวเข้ม สามารถเชื่อมต่อกับจุด Interchange ที่สถานีสยามได้
  • การออกแบบ : มีแนวคิดในการออกแบบที่น่าสนใจ เพราะโครงการได้นำเอาหลัก WELL Building Standard ซึ่งเป็นมาตรฐานจากสหรัฐอเมริกา ที่เน้นการออกแบบอาคารที่เป็นมิตรต่อสุขภาพของผู้ใช้งาน สอดคล้องกับแนวคิดโครงการ Anil สาทร 12 ที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ไม่ใช่แค่พื้นที่ส่วนกลางแต่รวมถึงในห้องพักทุกยูนิตค่ะ
  • วัสดุ : เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ตรงตามมาตรฐาน WELL Building Standard ต้องยึดปัจจัย 7 อย่างที่ส่งผลต่อสุขภาพของผู้อาศัย ยกตัวอย่างเช่นเลือกใช้วัสดุตกแต่งที่มีสารเคมีหรือสารพิษที่ก่อมะเร็งต่ำ ติดตั้งเครื่องกรองน้ำ 3M สำหรับทุกห้องพักอาศัยในส่วนห้องครัว เพื่อควบคุมคุณภาพน้ำดื่มและน้ำใช้ เป็นต้นค่ะ

ข้อมูลโครงการ

Anil Sathorn 12 (อนิล สาทร 12) ณ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2565

 ชื่อโครงการ  Anil Sathorn 12 (อนิล สาทร 12)
 ชื่อผู้ประกอบการ บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จํากัด
 SEGMENT CLASS  SUPER LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่  ถนนสาทร ​- เหนือ ซอยสาทร 12 เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร
 ที่ดิน  1-2-41.3 ไร่
 ประเภทคอนโด  High Rise 42 ชั้น 1 อาคาร
 จำนวนยูนิต  222 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด   9 ยูนิต
 ที่จอดรถ  246 คัน ( ระบบ Auto Parking ) คิดเป็น 110%
 เริ่มก่อสร้าง  ปี 2562
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  ปี 2565
 ประเภทห้องพัก
  • ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 45.00 – 46.00 ตร.ม.
  • ห้อง 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 62.00 – 92.50 ตร.ม.
  • ห้อง 2 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 111.00 – 114.50 ตร.ม.
  • ห้อง 2 Bedroom Duplex พื้นที่ใช้สอยภายใน 104.00 ตร.ม.
  • ห้อง 3 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 109.5 ตร.ม.

 ฝ้าเพดานสูง  3.00 เมตร / ห้องครัว 2.60 เมตร
 ราคาเริ่มต้น  13.40 ล้านบาท*
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 270,000 บาท/ตร.ม.
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด)  n/a
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  ผ่าน EIA แล้ว
 เว็บไซต์โครงการ คลิกที่นี่
 Call Center  02-652-4000

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.720783, 100.525823
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

โครงการ Anil สาทร 12 ตั้งอยู่บนถนนสาทร – เหนือ ติด BTS สถานีเซนต์หลุยส์ ข้างๆเป็นซอยสาทร 12 ที่สามารถเดินเชื่อมต่อไปยังฝั่งถนนสีลมได้ โดยที่ดินนี้เดิมเป็นของสำนักงาน Double A Book Tower จัดเป็นทำเลระดับพรีเมียมใจกลางเมืองที่แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เดินทางสะดวกทั้งรถส่วนตัวและรถสาธารณะ โดยการเดินทางด้วยรถยนต์จะใช้ถนนสาทรเป็นหลัก ขับไปถนนเจริญกรุงเพื่อผ่านสะพานตากสินไปฝั่งธนฯได้ หรือจะวิ่งเข้าเมืองไปทางพระราม 4 , ถนนวิทยุ ก็มีระยะขับที่ไม่ไกลค่ะ

สำหรับการเดินทางด้วยทางด่วนก็มีให้เลือกใช้ 2 เส้นด้วยกันคือ ทางด่วนเฉลิมมหานคร จุดทางขึ้นลงที่ใกล้สุดคือด่วนแยกพระราม 4 (ตรงแยกพระราม 4) และทางด่วนศรีรัชที่มีจุดขึ้น – ลงใกล้ 2 จุดคือ บริเวณถนนสุรวงศ์ – สีลม และบริเวณถนนจันทน์ ซึ่งจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2 กิโลเมตร ทั้ง2 จุด ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะก็ยิ่งสะดวกสบาย เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ติดสถานี BTS ซึ่งเป็นสายสีเขียวเข้ม สามารถไปเปลี่ยนสถานี Interchange ได้ที่สยาม ในระยะไม่กี่ป้ายเท่านั้น อีกทั้งยังมีรถไฟฟ้า MRT ให้เลือกใช้บริการอีกด้วย

ในแง่ความอุดมสมบูรณ์รอบโครงการ Anil สาทร 12 ส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งรวมของอาคารสำนักงาน โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว โรงพยาบาลและโรงเรียนเอกชนชื่อดังอีกหลายแห่ง เช่น โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน , อัสสัมชัญบางรัก , อัสสัมชัญคอนแวนต์​ และอัสสัมชัญศึกษา จึงจัดเป็นย่านที่มีความคึกคักในช่วงกลางวันพอสมควร โดยภายในซอยเองก็มีทั้งร้านค้า ร้านอาหารและร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 ฝั่งถนนสีลมก็สามารถเดินทะลุซอยออกไปได้นะคะ ย่านนั้นมีทั้ง Community Mall และตลาดอยู่หลายแห่ง ถัดออกมาก็มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่อย่างสวนลุมพินี ให้เรามาวิ่งสูดอากาศขณะออกกำลังกายได้ เรียกว่าเป็นย่านที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองได้แบบ One – Stop Service Location เลยค่ะ

สำหรับการเดินทางไปโครงการ Anil สาทร 12 ในวันนี้เราเลือกเส้นทางไปลงที่ BTS สถานีเซนต์หลุยส์ เมื่อลงมาก็เดินตรงมาที่ทางออกหมายเลข 5 จะเจอกับสะพานเชื่อมที่ไปลงหน้าโครงการเลย สะดวกสบายมากๆ

Image 1/10
จาก BTS ถึงหน้าโครงการ

จาก BTS ถึงหน้าโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

โครงการ Anil สาทร 12 ตั้งอยู่ใจกลางย่านสาทร รอบข้างจึงมีอาคารสูงอยู่ค่อนข้างหนาแน่น แต่ไม่มีอาคารที่ความสูงใกล้เคียงกันอยู่ในระยะประชิดเลย จึงเป็นทำเลที่ไม่ได้แออัดจนเกินไป สามารถมองเห็นวิวเมืองได้โดยรอบในชั้นสูงๆค่ะ แต่ในฝั่งของ Health Land ก็จัดเป็นพื้นที่ศักยภาพเช่นเดียวกันนะคะ ซึ่งในอนาคตอาจจะมีการพัฒนาเป็นอาคารสูงได้เหมือนกัน

  • ทิศเหนือ ติดกับซอยส่วนบุคคลและอาคารการไฟฟ้าสถานีย่อยสีลม มีอาคารสูงคือ The Address Sathorn, Tait 12 อยู่ห่างประมาณ 120 เมตร
  • ทิศใต้ เป็นด้านหน้าโครงการ ติดถนนสาทร – เหนือ ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารสำนักงาน AIA Sathorn Tower สูง 29 ชั้น และอาคาร @Sathron สูง 27 ชั้น
  • ทิศตะวันออก ติดกับซอยสาทร 12 หันไปทางฝั่งถนนนราธิวาสฯ เป็นทิศที่มีอาคารสูงหนาแน่นมากที่สุด แต่ยังไม่มีอาคารไหนอยู่ในระยะประชิด สามารถมองเห็นวิวฝั่งสาทรได้
  • ทิศตะวันตก ติดกับสถานทูตเมียนมา สูง 5 ชั้น มองเห็นวิวสาทร และสถานีรถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Villa Market Silom ~ 1 กิโลเมตร
  • Central Silom Complex ~ 1.7 กิโลเมตร
  • Icon Siam ~ 3.1 กิโลเมตร
  • Central World ~ 4.5 กิโลเมตร
  • Siam Paragon ~ 4.7 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ~ 140 เมตร
  • โรงพยาบาล BNH ~ 1.2 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลเลิดสิน ~ 1.8 กิโลเมตร

โรงเรียน

  • โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ~ 350 เมตร
  • โรงเรียนเซนต์หลุยส์ศึกษา ~ 350 เมตร
  • โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ ~ 1.3 กิโลเมตร
  • โรงเรียนอัสสัมชัญ ~ 2.3 กิโลเมตร
  • โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ ~ 2.5 กิโลเมตร
  • โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่ ~ 3.0 กิโลเมตร

อื่นๆ

  • สวนลุมพินี ~ 2.1 กิโลเมตร
  • BTS เซนต์หลุยส์ ~ 0 เมตร
  • BTS สุรศักดิ์ ~ 450 เมตร
  • BTS ช่องนนทรี ~ 500 เมตร
  • BTS ศาลาแดง ~ 1.7 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

โครงการ Anil สาทร 12 เป็นคอนโดมิเนียมสูง 42 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 222 ยูนิต บนเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินเก่าของ Double A Book Tower ทำเลตั้งอยู่ต้นซอยสาทร 12 ติดถนนสาทร – เหนือและ BTS เซนต์หลุยส์ โดยความน่าสนใจอยู่ที่การเป็นโครงการพักอาศัยแห่งแรกของไทยที่ผ่านการรับรอง WELL Multifamily Precertified TM ระดับ Gold ตามมาตรฐาน WELL Building Standard จากสหรัฐอเมริกา

ซึ่งเป็นมาตรฐานที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพ จึงถือว่าตรงกับแนวคิดของโครงการ Anil สาทร 12 ที่ได้ตีความคำว่า Luxury เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ที่นอกจากจะมีภาพลักษณ์ที่ดีแล้ว ต้องควบคู่ไปกับการมีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วย เกิดเป็นนิยามใหม่ของคำว่า Luxury Redefined สำหรับมาตรฐาน WELL Building Standard ที่ทางโครงการได้นำมาใช้ ประกอบด้วยการคำนึงถึงปัจจัยสุขภาพ 7 อย่างด้วยกัน ดังนี้

Air คุณภาพอากาศที่บริสุทธิ์

  • Design :
  • การออกแบบระบบระบายอากาศภายในส่วนกลางและส่วนพักอาศัย
  • การออกแบบที่คำนึงถึงการควบคุมความชื้นของอากาศภายในอาคาร
  • การออกแบบที่คำนึงการไหลผ่านของฝุ่นจากอากาศภายนอกเข้าสู่ภายในโครงการและห้องพักอาศัย (โครงการจะติดตั้งแผ่นกรองอากาศ MERV 13 ซึ่งสามารถกรองป้องกันฝุ่น PM 2.5 และ ไวรัส จากภายนอกได้ และติดตั้งประตู 2 ชั้น พร้อมพรมดักจับฝุ่น)
  • การตรวจวัดปริมาณสารมลพิษในอากาศทุกตัว เช่น ฟอร์มัลดีไฮด์ VOC, PM 2.5 , PM 10 Ozone และ Radon ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ต่ากว่าค่าที่กำหนดตามมาตรฐาน WELL ก่อนการย้ายเข้าพักอาศัย
  • Materials :
  • เลือกใช้วัสดุตกแต่งที่มีสารเคมีหรือสารพิษที่ก่อมะเร็งต่ำ ตั้งแต่ กาว สี สารเคลือบผิว ไม้อัด วัสดุปูพื้น และฉนวนกันความร้อน ที่ผ่านมาตรฐาน CDPH หรือ California Departmen t of Public Health
  • System :
  • ระบบระบายอากาศที่เรียกว่า ERV หรือ Energy Recovery Ventilation จาก Mitsubishi
  • Electric ที่ช่วยนำอากาศบริสุทธิ์ภายนอกเข้าสู่ภายในห้องพัก

Water คุณภาพน้ำดื่มน้ำใช้

  • Materials :
  • ระบบท่อน้ำใช้ในโครงการทั้งหมดจะต้องเป็นรุ่นที่ปราศจากสารตะกั่ว (Lead free piping)
  • ทางโครงการติดตั้งเครื่องกรอง 3M สำหรับทุกห้องพักอาศัยในส่วนห้องครัว เพื่อควบคุมคุณภาพน้ำดื่มและน้ำใช้ให้กับผู้พักอาศัย
  • สำหรับพื้นที่ส่วนกลาง มีการจัดเตรียมน้ำดื่มที่มีคุณภาพผ่านตามมาตรฐานไว้ให้กับผู้พักอาศัย ในส่วนบริเวณ Culinary Area และ Panoramic Gym

Nourishment สุขภาวะด้านโภชนาการ

  • Design :
  • การออกแบบอ่างล้างจานให้มีสองหลุม และการคำนวณ ระยะก๊อกน้ำอย่างน้อย 25 ซม. ช่วยให้น้ำไม่กระเด็นระหว่างอ่างเพื่อส่งเสริมการเตรียมอาหารให้สะอาดและถูกสุขอนามัยในส่วนห้องครัว
  • Built-in refrigerator ที่มีการแสดงอุณหภูมิชัดเจน เพื่อรักษาความสดใหม่และช่วยถนอมคุณค่าของวัตถุดิบ และ Steam Oven เพื่อรักษาคุณภาพและประโยชน์ของอาหาร จาก BOSCH

Light การออกแบบแสงสว่างที่เหมาะสม

  • Design :
  • การออกแบบแสงสว่างให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ใช้งาน
  • Materials :
  • สเปคของหลอดไฟตรงตามมาตราฐานและเหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ใช้งาน
  • การติดตั้งม่านที่ป้องกันแสงเข้า 100% (Black out shade)
  • ติดตั้งเซนเซอร์เพื่อเปิดไฟนำทางเฉพาะจุดไปห้องน้ำในตอนกลางคืน โดยที่ไม่ต้องเปิดไฟสว่างทั้งห้องให้รบกวนการพักผ่อน

Fitness สุขภาพความแข็งแรงของร่างกาย

  • Design :
  • จัดเตรียมพื้นที่จอดจักรยานรวมถึงอุปกรณ์ซ่อมบำรุง
  • คำนวณและกำหนดจำนวนอุปกรณ์ออกกำลังกายโดยเครื่องคาดิโอ (Cardiorespiratory Exercise Equipment) และเครื่องเสริมสร้างกล้ามเนื้อ (Muscle strengthening Exercise Equipment Equipment) ให้เพียงพอต่อจำนวนผู้พักอาศัย

Comfort ความรู้สึกสบาย

  • Design :
  • คำนึงถึงการควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และความเร็วลม เพื่อให้ได้ตามค่ามาตรฐาน (ASHRAE55)
  • Materials :
  • มีการติดตั้งกระจกอลูมิเนียมกรองเสียงมาตรฐานเยอรมัน จาก Schueco เพื่อช่วยในการกรองเสียงจากภายนอก
  • การเลือกอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีเสียงรบกวนน้อย (เครื่องปรับอากาศและเครื่อง ERV)

Mind ความสุขทางใจ

  • Design :
  • การออกแบบที่ผสมผสานพื้นที่ส่วนกลางให้เข้ากับธรรมชาติ
  • การออกแบบห้องพักอาศัยให้มีระยะจากพื้นถึงฝ้าเพดานถึง 3 เมตร
  • Art work บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง ทางโครงการออกแบบ sculpture และ art wall บริเวณพื้นที่ส่วนกลางชั้น 12
  • จัดเตรียม WELL Guideline และหนังสือที่มีข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ การออกกำลังกาย หรืออาหารเพื่อสุขภาพ ให้กับผู้พักอาศัยในโครงการได้ศึกษาหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ที่ห้องสมุดของโครงการ

ภาพรวมของโครงการ แบ่งฟังก์ชันออกเป็นส่วนต่างๆได้ดังนี้ อาคารชั้น 1 เป็นส่วน Lobby พื้นที่สีเขียวด้านหน้า และทางเข้าที่จอดรถแบบ Auto Parking คิดเป็นพื้นที่จอดประมาณ 110% ชั้น 2 – 11 จะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด ชั้น 12 เป็นส่วน Facilities เน้นพื้นที่สำหรับนั่งทำงาน สังสรรค์ และพักผ่อนได้ ส่วนชั้นพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 12 จนถึงชั้น 39 ชั้น 41 จะเป็นสระว่ายน้ำระบบ Ozone ซึ่งเหมาะกับคนที่มีสภาพผิวบอบบาง และชั้น 42 เป็นชั้นบนสุด จะเป็นห้อง Sky Panoramic Gym ที่สามารถมองวิวเมืองได้แบบ 180 องศา

มาดูรายละเอียดที่ส่วน ​Master Plan กันต่อเลยค่ะ จากผังจะเห็นว่าโครงการตั้งอยู่ติดถนนสาทร – เหนือ แต่ทางเข้า – ออก จะอยู่ถัดเข้ามาในซอยสาทร 12 ซึ่งจะสามารถช่วยลดปัญหาความแออัดของการจราจรบนถนนหลักได้ เมื่อเข้ามาในโครงการที่บริเวณชั้น 1 การเดินรถจะเป็นลักษณะแบบ One – Way ( ตามเข็มนาฬิกา ) มีส่วน Drop Off ในร่มอยู่ด้านหน้าอาคาร สามารถเดินเข้า Lobby ได้เลย ส่วนทางเข้าที่จอดรถจะอยู่ด้านหลัง เป็นระบบอัตโนมัติ แบ่งเป็น 2 ช่องจอด ช่วยลดความหนาแน่นระหว่างรอใช้บริการได้

ทางเข้า – ออกโครงการอยู่ถัดมาในซอยสาทร 12 ด้านหน้ามีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยอำนวยความสะดวกอยู่ ซึ่งนอกจากจะมีประตูใหญ่สำหรับรถยนต์แล้ว ก็มีประตูสำหรับคนเดินอยู่ด้วย โดยการเข้า – ออกใช้ระบบ Face Scan เป็นระบบรักษาความปลอดภัยหลักที่จะใช้ภายในโครงการ เพื่อช่วยลดการสัมผัสค่ะ

ด้วยลักษณะการเดินรถแบบ One – Way ทำให้ไม้กั้นกระดกอัตโนมัติแยกออกเป็น 2 ฝั่ง ใช้ระบบ RFID ควบคุมการเข้า –  ออก ลักษณะการทำงานเป็นแบบ Easy Pass ลูกบ้านไม่ต้องลงมาเพื่อแตะบัตรเลยค่ะ

Image 1/5
บรรยากาศหน้าทางเข้าอาคาร

บรรยากาศหน้าทางเข้าอาคาร

ถนนในโครงการปูด้วย Stamp Concrete ทั้งหมด นอกจากจะได้เรื่องความสวยงามแล้ว พื้นผิวยังมีความแกร่งมากกว่าคอนกรีตทั่วไปอีกด้วย ด้านหน้าตกแต่งเป็นพื้นที่สีเขียว มีทั้งสนามหญ้า ไม้พุ่ม และต้นไม้ขนาดใหญ่ที่สามารถใช้เป็นแนวบังสายตา จากคนที่สัญจรอยู่บนสะพานภายนอกได้ค่ะ

Image 1/4
Sculpture ตกแต่งหน้าทางเข้า

Sculpture ตกแต่งหน้าทางเข้า

เสริมจุดเด่นบริเวณ Drop off ด้วย Sculpture ขนาดใหญ่ ที่ได้รับการออกแบบจากคุณโด่ง Sculpture Thailand โดยมีแนวคิดที่สอดคล้องกับชื่อโครงการก็คือ Anil ที่แปลว่า เทพเจ้าแห่งสายลม รูปทรง Sculpture จึงเลียนแบบลักษณะลมที่มีการเคลื่อนไหว ใช้ความโปร่งมาเป็นส่วนประกอบ ผสมผสานกับวัสดุที่เป็นเอกลักษณ์ของศิลปินที่มีความทันสมัย

Sculpture ที่ออกมาจึงไม่ใช่แค่ของประดับตกแต่ง แต่สื่อถึงความเชื่อมต่อของอาคารและสภาพแวดล้อม ที่ยึดโยงกับธรรมชาติ เข้ากับความเป็น Anil สาทร 12 ที่พูดถึงอาคารและการสร้างสิ่งแวดล้อมที่สะอาดค่ะ

ถัดมาที่ด้านหลังอาคาร จะเป็นทางเข้าพื้นที่จอดรถ ซึ่งในโครงการจะคิดเป็นประมาณ 110% ใช้ระบบ Auto Parking ทั้งหมด สามารถจอดได้ 246 คัน

ระบบ Auto Parking นี้ใช้ของบริษัท PARK PLUS เป็นระบบจอดรถอัจฉริยะ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกบ้าน หมดปัญหาเรื่องการวนหาที่จอด ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุจากการเฉี่ยวชน หรือรอยขูดจากการจอดรถแบบทั่วไป

การใช้งานสามารถใช้ได้ทั้งระบบ Key Card และ Face Scan ทั้งตอนที่เอารถเข้าไปจอด และตอนที่ต้องการรับรถมาใช้งาน โดยใช้เวลารอประมาณ 3 – 5 นาที แต่ในช่วงเวลาเร่งด่วน อาจจะต้องเผื่อเวลาสักหน่อยนะคะ

เมื่อรับรถแล้วก็สามารถขับตรงไปที่ประตูทางออกซึ่งอยู่ใกล้กันได้เลย ระบบที่ใช้เป็น RFID และไม้กั้นกระดกอัตโนมัติเช่นเดียวกับฝั่งทางเข้า รอบโครงการยังมีการตกแต่งด้วยต้นไม้ตลอดแนว ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับอาคารได้

Image 1/4
บริเวณโถงพักคอย

บริเวณโถงพักคอย

จากที่จอดรถ จะมีโถงพักคอย เพื่อเดินเชื่อมจากพื้นที่ด้านหลังเข้าสู่ Lobby สำหรับลูกบ้านที่มี Driver ส่วนตัว ก็สามารถให้นั่งรอที่บริเวณนี้ก่อนได้ ที่พื้นปูพรมดักฝุ่นเอาไว้ เพื่อช่วยกรองสิ่งสกปรกไม่ให้เข้าสู่อาคารด้านในค่ะ

หากเข้ามาจากทางเดินหลังอาคาร จะเจอกับส่วนที่นั่งพักคอยและเคาน์เตอร์ Concierge ที่ช่วยรับรองแขกและให้บริการแก่ลูกบ้านภายในโครงการ ตามความต้องการมาตรฐาน เช่น บริการซักรีด บริการทำความสะอาด บริการส่งอาหาร และบริการฝากของ เป็นต้น

ห้องน้ำส่วนกลางแยกเป็นฝั่งห้องน้ำชายและหญิง ภายในได้สุขภัณฑ์ครบครันตามมาตรฐาน และมีห้องน้ำสำหรับคนพิการไว้คอยรองรับอยู่ด้วย ข้างกันเป็นห้อง Mail Room มีประตูเปิด – ปิด กั้นพื้นที่ไว้เป็นสัดส่วน

จุดเรียกรถภายในอาคาร สามารถใช้ Key Card หรือ Face Scan ได้ จึงไม่ต้องออกไปยืนรอที่ด้านนอก เมื่อลูกบ้านลงมาจากชั้นพักอาศัย ก็สามารถเรียกรถได้เลย

ภายใน Lobby การออกแบบให้ความรู้สึกหรูหรา โอ่อ่าด้วยฝ้าเพดานสูง ผนังด้านหน้าเป็นกระจกเต็มบาน ทำให้เปิดรับแสงจากธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ตรงตามหลักการออกแบบเพื่อสุขภาวะด้านแสงสว่าง

ส่วนประตูเข้า – ออกอาคาร เป็นประตู 2 ชั้น พื้นปูด้วยพรมดักฝุ่นความยาว 3 เมตร เพื่อช่วยกรองฝุ่นอย่าง PM 2.5 ไม่ให้เข้าสู่ในอาคารได้ ตามหลัก WELL Building Standard ด้านการออกแบบเพื่อสุขภาวะด้านอากาศค่ะ

เมื่อเข้ามาในอาคาร การตกแต่งจะเน้นวัสดุโทนสีไม้ ให้ความรู้สึกเรียบง่าย ตัดด้วยหินอ่อนสีดำที่มีเส้นแร่สีทองแดง ช่วยเพิ่มความหรูหรา โดยเฉพาะผนังด้านหน้า เป็นหินอ่อนสีดำขนาดใหญ่ 25 แผ่น มาวางเรียงต่อกัน ซึ่งได้ผ่านการตรวจวัดค่า Raydon มาแล้ว เพื่อให้มั่นใจว่า จะไม่เป็นวัสดุที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพในภายหลังอย่างแน่นอน

Image 1/4
บริเวณ Lobby

บริเวณ Lobby

บรรยากาศส่วนที่นั่งพักคอย จะจัดเป็นชุดโซฟา ให้ความรู้สึกอบอุ่นคล้ายกับอยู่ในบ้าน ส่วนที่ติดกับผนังกระจกด้านหน้า สามารถมองเห็นวิวสวนภายนอกได้

ก่อนเข้าสู่ชั้นพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลางด้านใน ต้องผ่านจุด Face Scan เพื่อตรวจสอบก่อนเข้าสู่โถงลิฟต์ โดยลิฟต์ภายในโครงการจะแบ่งเป็นลิฟต์โดยสาร 3 ตัว และลิฟต์ Service 1 ตัว สัดส่วนจะอยู่ที่ 74 : 1 ซึ่งถือว่าไม่หนาแน่นมาก ทำให้ไม่ต้องรอลิฟต์นานค่ะ

ภายในก็มี Face Scan อีก 1 จุด ก่อนกดลิฟต์เพื่อขึ้นสู่ชั้นพักอาศัยของตนเอง ผนังด้านข้างมีจอ LED ที่ฉายความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ การออกกำลังกาย และตารางคอร์สที่น่าสนใจ ซึ่งลูกบ้านสามารถจองได้ผ่าน Application ของโครงการค่ะ

ชั้น 12  เป็นพื้นที่เหมาะสำหรับนั่งพักผ่อนหรือทำงานได้ ประกอบด้วย Anil Lounge แยกออกมาจากตัวอาคาร รอบๆมีทางน้ำและสวนที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศ เหมาะกับการมานั่งผ่อนคลายหรือคุยธุระแบบส่วนตัวได้ ด้านข้างเป็นลาน Semi – Outdoor จัดให้เป็นส่วนสำหรับนั่งรับประทานอาหาร หรือจัดปาร์ตี้เล็กๆในกลุ่มเพื่อนและครอบครัว อีกฝั่งจะเป็นส่วนห้อง Library ที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ด้านในมีห้องแยกอย่าง Private Study Room เพิ่มเข้ามา ใกล้ๆกันจะมีห้อง Kids Room, Culinary Area และ Social Dining ค่ะ

เมื่อออกจากโถงลิฟต์มาก็จะเจอห้อง Anil Lounge ซึ่งจุดเด่นก็คือเป็นห้องสำหรับนั่งพักผ่อนที่มีทางน้ำอยู่ล้อมรอบ ข้างกันเป็นลาน Semi Outdoor ขนาดค่อนข้างใหญ่ สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารประมาณ 8 – 10 ที่นั่งได้ มีส่วน Pantry สำหรับเตรียมอาหาร ใช้งานได้ทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน

Image 1/4
Al fresco @ 12

Al fresco @ 12

พื้นที่นี้เรียกว่า AI fresco @ 12 เหมาะกับลูกบ้านที่ต้องการพื้นที่สังสรรค์ที่สามารถจะออกมาสูดอากาศภายนอกได้ หรือเป็นพื้นที่ผ่อนคลายเพื่อมารับประทานอาหารร่วมกัน หลังทำงานหรือคุยธุระเสร็จเรียบร้อย

ภายในส่วน Anil Lounge ได้บรรยากาศที่โปร่งโล่งด้วยการออกแบบฝ้าเพดานสูงคล้ายกับส่วน Lobby ผนังด้านข้างเป็นกระจกเต็มบานเป็น  Full Height สามารถมองเห็นวิวสวน และวิวฝั่งถนนสาทรได้แบบเต็มที่

แนวความคิดในการออกแบบ ได้แรงบันดาลใจมาจากกระดาษ ซึ่ง Relate กับความเป็นมาของที่ดินเดิม นำเสนอออกมาในรูปแบบของ Feature Art Wall ที่ดึงเอาลักษณะความเรียบ บาง การเรียงตัวกันเป็นชั้นหนังสือ เพิ่มความอบอุ่นเข้าไปด้วยการใช้โทนสีน้ำตาล เพื่อให้เหมาะกับการเป็นอาคารเพื่อการอยู่อาศัย

Image 1/8
Anil Lounge

Anil Lounge

พื้นที่ด้านในจัดเป็นชุดโซฟาไว้ให้สำหรับนั่งพักผ่อนได้ หรือใครอยากได้ความเป็นส่วนตัว ก็มีฉากกั้นที่สามารถพลิกเปิด – ปิด เพื่อแบ่งห้องได้ บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าปูพรมดักฝุ่นเอาไว้ ด้านบนติดตั้ง Sensor ตรวจจับความหนาแน่น เพื่อตรวจสอบจำนวนคน ไม่ให้เข้ามาใช้บริการเยอะจนเกินไป โดยลูกบ้านสามารถเช็คผ่าน Application ของโครงการ จะมีแสดงความหนาแแน่นของพื้นที่ส่วนกลางไว้ทั้งหมดค่ะ

ถัดมาอีกฝั่งเป็นห้อง Library และ Kids Room เวลาที่คุณพ่อหรือคุณแม่จะมานั่งทำงาน ก็สามารถให้เด็กๆมายืดเส้นยืดสายรอในห้องนี้ได้ค่ะ

ภายในมีเครื่องเล่นไว้สำหรับปีนป่ายเพื่อฝึกกล้ามเนื้อได้ มีบ่อบอลและสไลด์เดอร์สีสันสดใส วัสดุที่บุไว้มีความนุ่มและค่อนข้างหนา เด็กๆสามารถมาเล่นได้อย่างปลอดภัยค่ะ

มาที่ส่วนห้อง Library กันบ้าง ซึ่งส่วนนี้จัดว่าค่อนข้างตอบโจทย์การทำงานในยุคปัจจุบันที่เน้นการ WFH เลยนะคะ และยิ่งเหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการนัดลูกน้อง หุ้นส่วนหรือลูกค้าเข้ามาคุยงาน โดยที่ไม่ต้องฝ่าการจราจรออกไปภายนอกให้เสียเวลาเลยค่ะ

Image 1/6
บริเวณห้อง Library

บริเวณห้อง Library

โดยในห้อง Library จะมีทั้งพื้นที่ไว้นั่งคุยงานกันแบบสบายๆ โต๊ะส่วนกลางขนาดใหญ่ที่นั่งประชุมได้ และห้อง Private Study Room สำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นมาหน่อย ก็มีแยกไว้ให้ใช้งานถึง 2 ห้องเลยนะคะ ซึ่งที่พื้นจะมีปลั๊กซ่อนเอาไว้ สามารถใช้ชาร์จแบตได้นะคะ

และฟังก์ชันสุดท้ายในชั้นนี้ก็คือส่วน Culinary area ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับทำอาหาร สามารถเชื่อมต่อกับส่วน Social Dining ได้ เหมาะสำหรับจัดงานสังสรรค์เล็กๆที่มีความเป็นส่วนตัว

Image 1/4
Culinary area

Culinary area

การตกแต่งใช้โทนสีน้ำตาล ให้ความรู้สึกสุขุม เรียบหรู อาจจะเป็นพื้นที่จัดงานที่มีความเป็นทางการขึ้นมาหน่อย ส่วนเตรียมอาหารมีอุปกรณ์มาให้ครบครัน จะใช้บริการ Chef Table มาปรุงอาหารให้ทานก็ได้เหมือนกันนะคะ ในส่วนรับประทานอาหารมีฉากกั้นเป็นบานเลื่อนกระจกติดตั้งมาให้  หากกำลังเตรียมอาหารที่มีกลิ่นแรงๆ ก็สามารถปิดเพื่อกันกลิ่นหรือเสียงที่อาจรบกวนได้ค่ะ

Image 1/3
ห้องน้ำ

ห้องน้ำ

โดยในชั้นนี้ก็มีห้องน้ำส่วนกลาง แยกฝั่งเป็นห้องน้ำชายและหญิง อยู่ที่บริเวณตรงกลางใกล้กับโถงลิฟต์ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานค่ะ

ชั้น 41 เป็นชั้น Facilities ทั้งชั้นเช่นเดียวกัน โดยในชั้นนี้จุดเด่นจะอยู่ที่สระว่ายน้ำ รูปทรงตัว L ความยาว 18 และ 23 เมตร ความกว้างประมาณ 5.00 เมตร สามารถเลือกว่ายได้ทั้ง 2 ฝั่ง หากมีคนลงมาใช้งานด้านนึง เราก็สามารถว่ายมาที่อีกฝั่งได้ ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว โดยสระจะแยกเป็นสระเด็กและผู้ใหญ่ อีกฝั่งของอาคารเป็นพื้นที่สีเขียว สามารถมานั่งเล่นรับลม ชมวิวรอบๆสาทรได้จากชั้น 41 กันได้ค่ะ

สระว่ายน้ำ เป็นแบบ Semi Outdoor สามารถว่ายได้ตลอดทั้งวันไม่ต้องกลัวแดดหรือฝนเลยค่ะ โดยสระที่นี่จะใช้ระบบบำบัดด้วยโอโซน ทำงานด้วยการผลิตก๊าซโอโซน (Ozone Gas) จากเครื่องอัดอากาศ (O2) ให้อากาศกลายเป็นก๊าซโอโซนและสัมผัสกับน้ำโดยตรง เพื่อฆ่าเชื้อโรค มีประสิทธิภาพสูง แต่ไม่ทำให้ระคายเคืองหรือแสบตา จัดเป็นน้ำที่มีคุณภาพใกล้เคียงกับน้ำดื่มเลยนะคะ ( แต่ไม่ดื่มจะดีกว่าค่ะ อิ_อิ )

Image 1/6
สระว่ายน้ำระบบ Ozone

สระว่ายน้ำระบบ Ozone

สระว่ายน้ำออกแบบมาให้เป็น Infinity Edge Pool ให้ความรู้สึกที่เชื่อมต่อกับภายนอกได้ สามารถมองเห็นวิวเมืองได้โดยรอบ ด้านข้างของสระเด็กมีส่วนล้างตัวก่อนลงสระเอาไว้ให้ไม่ต้องเดินเข้า – ออกห้องน้ำ ถัดมามีพื้นที่สำหรับวางเก้าอี้ไว้นั่งพักผ่อน ใครที่ไม่อยากว่ายน้ำ ก็ขึ้นมานั่งชมวิวและรับลมด้านบนได้เหมือนกันค่ะ

 

Image 1/7
บรรยากาศสวน

บรรยากาศสวน

ติดกับสระว่ายน้ำเป็นพื้นที่สวน เรียกว่า Sky Garden สามารถมานั่งเล่นหรือจัดเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่นๆได้ จากมุมนี้มองเห็นวิวฝั่งสาทรได้แบบ 180 องศาเลยค่ะ ยิ่งในตอนกลางคืนที่มีแสงไฟ ก็ยิ่งทำให้บรรยากาศดูดีขึ้นไปอีกนะคะ

Image 1/3
โถงทางเดิน

โถงทางเดิน

ห้องน้ำส่วนกลางอยู่ใกล้กับโถงลิฟต์ แยกใช้งานออกเป็นส่วนห้องน้ำชายและหญิง โดยในชั้นนี้จะมีส่วนอาบน้ำเพิ่มมาให้ และมีห้อง Locker ไว้สำหรับเก็บของได้ด้วยค่ะ

ชั้น 42 เป็นชั้นบนสุดของอาคาร ฟังก์ชันจะเน้นไปที่การเป็นพื้นที่ออกกำลังกาย เรียกว่าห้อง Panoramic Gym ที่สามารถชมวิวเมืองได้เกือบ 360 องศา ภายในประกอบด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกายแบบครบครัน ที่คำนวนออกมาตามหลัก WELL Building Standard เพื่อให้เพียงพอต่อจำนวนผู้พักอาศัย (คิดเป็น 2% จากจำนวนยูนิต )

ด้านหน้าก่อนเข้าห้อง Fitness หรือ Panoramic Gym จะมีเคาน์เตอร์สำหรับเจ้าหน้าที่ ด้านข้างมีโต๊ะ – เก้าอี้ไว้สำหรับคนที่มารอใช้บริการหรือคนที่อยากออกมานั่งพักสูดอากาศค่ะ

Panoramic Gym มีผนังกระจกแบบ Full Height ล้อมรอบ 2 ฝั่งเป็นรูปทรงตัว L ทำให้มองเห็นวิวได้แบบ 180 องศา ภายในมีทั้งเครื่องออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ และเวทเทรนนิ่ง ซึ่งผ่านการคำนวนมาแล้วว่าเพียงพอต่อจำนวนผู้พักอาศัย

Image 1/5
Panoramic Gym

Panoramic Gym

อุปกรณ์ออกกำลังกายทั้งหมดใช้ของแบรนด์ TECHNOGYM จากประเทศอิตาลี ซึ่งนอกจากดีไซน์จะสวยหรู น่าใช้งาน ตัวเครื่องยังประกอบด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย อย่างโปรแกรมที่สามารถบันทึกและเก็บค่าสถิติของร่างกายในเวลาที่ใช้เครื่องได้ โดยจุดเด่นของเครื่องออกกำลังกายยี่ห้อ TECHNO GYM นี้ ทุกเครื่องจะเชื่อมต่อกันได้ด้วย My Wellness App ค่ะ

Image 1/5
Pilates Zone

Pilates Zone

Pilates Zone เป็นห้องที่เชื่อมต่อกับ Panoramic Gym ภายในมีอุปกรณ์ให้แบบครบครัน สามารถเลือกทำกิจกรรมได้ตามความชอบเลยค่ะ ซึ่งห้องนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่รองรับการจัดคอร์สต่างๆของโครงการ เพื่อเพิ่มฟังก์ชันในการใช้งาน จึงมีผนังบานเลื่อนที่สามารถดึงออกมาเพื่อกั้นแยกห้องออกเป็น 2 ฝั่งได้ ด้านข้างมีตู้ Built in ขนาดใหญ่ ไว้ใช้เก็บของส่วนตัวและอุปกรณ์อื่นๆได้ค่ะ

ในส่วนของห้องน้ำส่วนกลางจะอยู่ในห้อง Panoramic Gym เพราะผู้ใช้งานส่วนใหญ่เป็นลูกบ้านที่ขึ้นมาใช้บริการส่วนฟิตเนสค่ะ โดยในห้องนี้นอกจากจะเป็นห้องน้ำแล้ว ยังมีส่วนอาบน้ำ ตู้ Locker ห้อง Steam&Suana แยกใช้งานไว้ทางฝั่งชายและหญิงอย่างละห้อง

Image 1/6
บริเวณห้องน้ำชาย

บริเวณห้องน้ำชาย

ห้องน้ำชาย ภายในมีสุขภัณฑ์ครบครัน มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำและ Locker ไว้สำหรับเก็บของใช้ส่วนตัวได้ มีห้อง Suana และห้อง Steam ที่สามารถชมวิวได้แบบ 180 องศา

Image 1/4
บริเวณห้องน้ำหญิง

บริเวณห้องน้ำหญิง

ห้องน้ำทั้ง 2 ฝั่ง ตกแต่งมาได้แบบเรียบหรู ดูน่าใช้งานมาก มีการเปิดวิวด้วยผนังกระจกทั้งด้าน เพื่อรับแสงจากธรรมชาติ ทำให้บรรยากาศโปร่งโล่ง

แปลนชั้นพักอาศัย

ชั้น 13 เป็นชั้นแรกของห้องพักอาศัย จะมีห้องเพียงแค่ครึ่งชั้นทางทิศเหนือ ทำให้ชั้นนี้มีความหนาแน่นน้อย เพียง 5 ยูนิต และเป็น Single Corridor ทั้งหมด ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง โดยเฉพาะห้องทางทิศตะวันออก ที่ไม่มีด้านไหนติดกับห้องอื่นเลยค่ะ

ชั้น 14 – 35 เป็นชั้น Typical Floor Plan (ต่างกันที่ส่วนยื่นภายนอกอาคาร) จะมีห้องพักทั้งหมด 9 ยูนิตต่อชั้น ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนสูงสุดในโครงการ วางผังเป็นแบบจตุรัส จัดส่วนบันไดหนีไฟและงานระบบต่างๆไว้ตรงกลาง ใช้งานง่าย โถงทางเดินเป็น Single Corridor ทั้งหมด ข้อดีคือ ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว แต่แลกกับช่องเปิดที่จะมีเพียงจุดเดียว ทำให้มีแสงเข้ามาน้อยและระบายอากาศยาก

สำหรับห้องที่ได้วิวมากที่สุดจะเป็นห้อง 2 Bedroom ที่อยู่บริเวณมุมอาคาร มี 3 ยูนิตต่อชั้น โดยในฝั่งทิศตะวันตกจะได้วิวเปิดโล่งมากกว่าและอยู่ใกล้กับโถงลิฟต์ เดินใช้งานได้สะดวก เหมาะกับคนที่อยากได้วิวและไม่กังวลเรื่องแดดนะคะ ส่วนห้อง 1 Bedroom ที่มีจำนวนมากที่สุด จะหันหน้าไปทางทิศเหนือ -ใต้ และทิศตะวันออก ซึ่งเป็นโซนที่มีอาคารสูงบล็อควิวอยู่ค่อนข้างเยอะ แต่ก็ไม่ได้อยู่ในระยะประชิด โดยส่วนใหญ่จะเป็นอาคารสำนักงานและโรงแรม ข้อดีก็คือเป็นโซนห้องที่จะไม่ร้อนอย่างแน่นอนค่ะ

ชั้น 36 , 38 เป็นชั้นห้องพักขนาดใหญ่ คือ 2 Bedroom 4 ยูนิต และ 3 Bedroom 1 ยูนิตทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ รวมจำนวน 5 ยูนิตต่อชั้น ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง มีห้อง 2 Bedroom Duplex อยู่ทางทิศตะวันออกชั้นละ 1 ห้อง (เป็นชั้นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว 2 ห้อง)

ชั้น 37 , 39 เป็นชั้นที่มีการวางผังเหมือนชั้น 36 , 38  แตกต่างกันตรงที่ห้อง 2 Bedroom Duplex ที่เป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น และส่วนครัวค่ะ

ทางเดินชั้นพักอาศัย มีช่องแสงสามารถเปิดระบายอากาศได้ พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ มีการจัดแพทเทิร์นและลวดลายน่าใช้งาน ตัวลิฟต์ที่แผงควบคุม มี Sencer สามารถปัดมือขึ้นหรือลง เพื่อบอกทิศทางในการเรียกลิฟต์ได้ เป็นระบบ Touchless ลดการสัมผัสค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

ชั้น G

  • Green Sanctuary
  • Lobby
  • Waiting lounge for automatic parking
  • Mail room

ชั้น 12

  • Anil Lounge
  • Al fresco @ 12
  • Social dining
  • Culinary area
  • Library
  • Private study room
  • Kids room
  • Garden

ชั้น 41

  • Sky garden
  • Ozone sky pool ขนาด ( 18.00 + 23.00 ) x 5.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร
  • Kids pool ขนาด 3.00 x 4.20 เมตร ลึก 0.30 เมตร

ชั้น 42

  • Panoramic gym
  • Serene Zone
  • Pilates Zone
  • Steam & Sauna

อื่นๆ

  • ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 74 : 1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 246 คันคิดเป็น 110% (Auto Parking)
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Key Card

แบบห้อง

โครงการ Anil สาทร 12 มีรูปแบบห้องให้เลือกหลากหลาย เหมาะทั้งอาศัยอยู่คนเดียว และอยู่อาศัยกันแบบครอบครัว 2 – 4 คนกำลังดีค่ะ โดยรูปแบบการขายจะเป็น Fully Fitted คือจะให้เฟอร์นิเจอร์ Built in บางชิ้น และจะได้เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวมาแบบพร้อมใช้งาน ซึ่งก็จะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับแบบห้องที่เลือกนะคะ สำหรับรายละเอียดภายในจะมีดังต่อไปนี้

  • 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 45.00 – 46.00 ตร.ม.
  • 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 62.00 – 92.50 ตร.ม.
  • 2 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 111.00 – 114.50 ตร.ม.
  • 2 Bedroom Duplex พื้นที่ใช้สอยภายใน 104.00 ตร.ม.
  • 3 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 109.5 ตร.ม.

เริ่มกันที่รูปแบบห้อง 2 Bedroom ขนาด 63.00 ตร.ม. กันก่อน สำหรับฟังก์ชันในห้อง ส่วนตัวเรามองว่าค่อนข้างเหมาะกับครอบครัว 2 – 3 คน ที่กำลังมองหาที่พักอาศัยๆใกล้โรงเรียน หรือคุณพ่อคุณแม่ที่ทำงานในย่านสีลม – สาทรทีเดียวค่ะ ด้วยจำนวน 2 ห้องนอน มีส่วนแต่งตัวและห้องน้ำไว้แยกใช้งานได้อย่างสะดวก เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับส่วนครัวแบบเปิดก่อน มีส่วนรับประทานอาหาร และส่วนนั่งเล่นที่อยู่ติดกับหน้าต่าง บรรยากาศในส่วนนี้จะได้ความโปร่งโล่งจากแสงจากธรรมชาติ โดยในโครงการนี้จะไม่มีระเบียงมาให้นะคะ ซึ่งข้อดีก็คือได้พื้นที่ใช้สอยภายในเพิ่มมากขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้ใช้ระเบียงอยู่แล้ว เป็นต้น ถัดเข้ามาจึงจะเป็นโซนพักผ่อน เชื่อมกันด้วยโถงทางเดินตรงกลาง ทำให้ห้องดูเป็นสัดส่วนและได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ

บริเวณประตูทางเข้า ทำขอบธรณีประตูขึ้นมาเล็กน้อย นอกจากเพื่อความเรียบร้อย ยังจะช่วยป้องกันฝุ่นผงที่อาจกระเด็นเข้ามาได้ด้วยค่ะ และที่มือจับโครงการได้ได้ติดตั้ง Digital Door Lock ยี่ห้อ doma kaba จากสวิตเซอร์แลนด์มาให้ รองรับได้ทั้งลายนิ้วมือ , การ์ด , รหัสผ่าน , กุญแจ , บลูทูธ และรีโมทคอนโทรลค่ะ

เมื่อเข้ามาภายในห้อง ด้านข้างติดกับประตูจะมีตู้รองเท้าแบบ Built in ติดตั้งมาด้วย วัสดุกรุหน้าบานจะเป็น HPL High Gross สีขาว ทำให้ดูกลมกลืนไปกับผนังห้องค่ะ

มุมมองจากหน้าประตูห้อง จะเห็นเคาน์เตอร์ครัว ส่วนรับประทานอาหารและส่วนนั่งเล่นที่ใช้พื้นที่ร่วมกัน ความสูงจากพื้นถึงฝ้าของห้องจะอยู่ที่ 3.00 เมตร ในส่วนห้องครัวจะอยู่ที่ 2.60 เมตร เนื่องจากใช้แอร์เป็นระบบฝังกับฝ้าเพดาน

พื้นห้องปูด้วย Hybrid Engineered Wood จากแบรนด์ Quick Step ประเทศเบลเยี่ยม หนา 14 มิลลิเมตร คุณสมบัติจะทนความชื้นและรอยขีดข่วนได้ดีกว่าพื้นไม้ Engineered ทั่วไปค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวจะได้เป็นรูปทรงตัว L เข้ามุมกับผนัง ทำให้เหลือพื้นที่ใช้งานด้านหน้าค่อนข้างกว้าง หน้าบานกรุด้วย HPL High Gross สีขาว เป็นวัสดุที่มีความแวววาว ทนทานสูง ดีไซน์ออกแบบมาให้ดูเรียบหรู ลดการใช้มือจับ ทำให้ดูเรียบร้อย สบายตาค่ะ

สำหรับจุดเด่นของครัวนี้ที่แตกต่างกับโครงการอื่นๆก็คือ การออกแบบให้สอดคล้องกับหลัก WELL Building Standard เพื่อยกระดับสุขภาวะทางอาหารและคุณภาพของน้ำให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการ สำหรับใครที่อยากนำไปปรับใช้ภายในบ้าน ก็ลองมาดูรายละเอียดกันได้นะคะ

Image 1/3
เคาน์เตอร์ครัว

เคาน์เตอร์ครัว

เคาน์เตอร์ครัวได้ท็อปเป็นหินควอทซ์ทที่มีความพรุนต่ำแต่มีความทนทานสูง ด้านหลังจะติดตั้ง Backsplash มาให้ เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหาร แล้วกังวลเรื่องคราบสกปรกค่ะ ซึ่งในห้องจริงจะได้เป็นกระจกขุ่นนะคะ สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ด้านบนจะเป็นช่องเก็บของ ออกแบบมาให้วางจานได้ หยิบใช้งานสะดวก

Image 1/3
เคาน์เตอร์ครัว

เคาน์เตอร์ครัว

ด้านล่างมีช่องเก็บอุปกรณ์ที่ใช้ภายในครัว มีถังขยะเปิด – ปิดแบบอัตโนมัติติดตั้งมาให้ด้วย ถัดมาจะเป็นเตาอบแบบ Steam Oven ยี่ห้อ BOSCH ซึ่งจะช่วยรักษาคุณค่าทางโภชนาการได้ดีกว่าเตาอบทั่วไป สำหรับห้อง 2 Bedroom สิ่งที่จะได้เพิ่มเติมเข้ามาก็คือ เครื่องล้างจานฝังเคาน์เตอร์ แบบ 2 ตะแกรงยี่ห้อ BOSCH สามารถแยกใส่ช้อน ส้อม และมีดเพื่อทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นค่ะ

Image 1/2
อุปกรณ์ในครัว

อุปกรณ์ในครัว

อ่างล้างจานยี่ห้อ FOSTER ตัวอ่างมีความลึกทำให้เวลาใช้งาน น้ำไม่กระเด็นขึ้นมาเลอะด้านบนค่ะ ลักษณะของอ่างแยกออกเป็น 2 ส่วน เพื่อความสะดวกในการใช้งาน สามารถแยกล้างเนื้อสัตว์และผักได้ ก็อกน้ำก็มีแยกให้ออกเป็น 2 ตัวจาก KOHLER เช่นเดียวกัน สามารถปรับแรงดันน้ำได้

ก็อกตัวใหญ่จะใช้สำหรับล้างจาน ส่วนก็อกตัวเล็กสามารถใช้รองน้ำเพื่อมาดื่มได้ค่ะ เพราะโครงการติดตั้งระบบกรองน้ำจาก 3M มาให้ เพื่อควบคุมคุณภาพน้ำให้ลูกบ้านใช้อุปโภคและบริโภคได้อย่างปลอดภัยค่ะ สำหรับเตาไฟฟ้าจะเป็นแบบ 4 หัว ได้เครื่องดูดควันขนาดใหญ่ สามารถปรับระดับความแรงได้ ช่วยลดข้อจำกัดของพื้นที่ครัวแบบเปิดที่มีปัญหาเรื่องกลิ่นจากการทำอาหารได้ค่ะ

ถัดมาเป็นตู้เย็น Built in สามารถปรับอุณหภูมิที่เหมาะสมในการแช่อาหารแต่ละชนิดได้ ส่วนช่อง Freeze จะจัดให้อยู่ที่ชั้นล่าง เพื่อให้ถูกสุขลักษณะและคงคุณค่าทางอาหาร หน้าบานกรุด้วย HPL High Gross สีขาว ทำให้ดูกลมกลืนไปกับเคาน์เตอร์ โดยทั้ง Hob Hood และตู้เย็นนี้ใช้ของยี่ห้อ BOSCH จากประเทศเยอรมนีเช่นเดียวกันค่ะ

ฝ้าเพดานจะเป็นแบบฉาบเรียบทาสีขาว ติดตั้งไฟดาวน์ไลท์มาให้พร้อมอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยอย่าง Smoke Detector และ Sprinkler ค่ะ

Image 1/4
ส่วนรับประทานอาหาร

ส่วนรับประทานอาหาร

ส่วนนั่งเล่นอยู่ติดหน้าต่าง ลักษณะเป็นบานเลื่อนแบบ Full Height สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศหรือรับลมธรรมชาติได้ค่ะ บานกรอบเป็นอลูมิเนียมจากแบรนด์ SCHUECO ประเทศเยอรมนี กระจกใช้ Laminated Glass จึงมีทั้งความแข็งแรง ทนทาน สามารถป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกและกรองฝุ่นได้ดี

ระยะจากโซฟาถึงหน้าทีวีประมาณ 3.00 เมตร เหมาะกับวางทีวีขนาด 40​” – 42″ กำลังดี จะวางโซฟา 3 -4 ที่นั่งพร้อมโต๊ะด้านหน้า ก็ยังเหลือทางเดินรอบๆไว้ได้แบบสบายๆ ฝ้าเพดานมีการทำช่องสำหรับซ่อนรางม่าน ทำให้ดูเรียบร้อยสวยงาม

Image 1/3
หน้าต่างเปิดระบายอากาศ

หน้าต่างเปิดระบายอากาศ

บริเวณด้านนอกเมื่อเปิดหน้าต่างออกไป โครงการได้ทำราวกันตกกระจกสูงประมาณ 1 เมตรเอาไว้เพื่อความปลอดภัย แต่ไม่รบกวนการมองวิวโดยรอบค่ะ สำหรับเรื่องอากาศในห้อง ก็ยังต้องเป็นอากาศที่ดี เหมาะแก่การอยู่อาศัย

โดยทางโครงการก็ได้ติดตั้ง Sensor เพื่อตรวจจับค่า Co2 เอาไว้ ซึ่งแผงควบคุมจะทำงานอัตโนมัติ เพื่อเติมอากาศจากภายนอกมาให้  ( ​Fresh Air ) โดยผ่าน Filter ที่กรองได้แม้แต่อนุภาคเล็กๆอย่าง PM2.5 ถือว่าตอบโจทย์การเป็นที่พักอาศัยในย่านใจกลางเมืองทีเดียวค่ะ

ถัดเข้ามาที่ส่วนพักผ่อน ประกอบด้วยห้องนอนแบบ Master Bedroom 1 ห้องที่มีส่วนแต่งตัวและห้องน้ำแยกใช้งาน และห้องนอนที่มีขนาดเล็กกว่า จะใช้ห้องน้ำที่อยู่ตรงโถงทางเดินด้านนอก ซึ่งก็จัดไว้เป็นสัดส่วน แยกพื้นที่โซนเปียกและโซนแห้ง ทำให้ใช้งานได้สะดวกค่ะ

Image 1/4
อุปกรณ์ในห้องน้ำ

อุปกรณ์ในห้องน้ำ

อ่างล้างหน้าเป็นแบบฝังเคาน์เตอร์ติดตั้งพร้อมก็อกน้ำแบบผสมยี่ห้อ TOTO ด้านข้างมีปลั๊กไว้สำหรับเสียบไดร์เป่าผม มีกรอบกันน้ำมาให้เพื่อความปลอดภัย โถสุขภัณฑ์ สายฉีดชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู่จากยี่ห้อ TOTO เช่นเดียวกัน ด้านหลังมี Low Wall กว้างประมาณ 20 เซนติเมตร สามารถวางของใช้และอุปกรณ์ในห้องน้ำเช่น สบู่ หรือที่ใส่แปรงสีฟันได้

ฉากกั้นอาบน้ำเป็นกระจกใส บานเปิดสวิงยี่ห้อ I – Spa ลักษณะกรอบเป็นแบบเปลือย ทำให้ดูโปร่งเบา ไม่เทอะทะ หลังมือจับติดตั้งตัวกันกระแทกมาให้ ป้องกันบานกระจกเสียหายเวลาเปิด – ปิดค่ะ

Image 1/5
อุปกรณ์ในห้องน้ำ

อุปกรณ์ในห้องน้ำ

ฝักบัวอาบน้ำติดตั้งมาเป็นแบบสายอ่อน พร้อม Rain Shower จากยี่ห้อ TOTO สามารถปรับเปลี่ยนเป็นน้ำร้อนหรือเย็นได้ จึงไม่ต้องติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น ส่วนอาบน้ำขนาด 1.24 x 1.09 เมตร มีการทำขอบพื้นสูงขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อป้องกันน้ำไม่ให้ไหลออกภายนอก บนฝ้าเพดานดีไซน์เป็นไฟซ่อนมาให้ พร้อมไฟดาวน์ไลท์และพัดลมระบายอากาศ

ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องนอน สามารถเดินเข้า – ออกใช้งานห้องน้ำด้านนอกได้สะดวกค่ะ ภายในวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้แบบกำลังพอดีค่ะ เหลือพื้นที่ด้านข้างไว้ยืนแต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้าได้ หน้าต่างเป็นแบบ Full Height ติดตั้งบานกระทุ้งมาให้ 1 จุด

ม่านที่ติดตั้งในห้องนอนจะเป็นแบบ Blackout shades ที่ช่วยป้องกันแสงจากภายนอกได้เกือบ 100% ทั้งยังช่วยลดความร้อนจากแดดได้ ทำให้ไม่รบกวนเวลาพักผ่อน ไม่ว่าจะในตอนกลางวันหรือกลางคืนค่ะ

Image 1/4
ห้องนอน

ห้องนอน

ในห้องจะได้ตู้เสื้อผ้าแบบ Built in เป็นบานเลื่อน กรุด้วย HPL High Gross สีขาว ข้างในมีลิ้นชัก ชั้นวางของ และราวแขวน สามารถใส่เสื้อผ้าสำหรับ 1 – 2 คนได้ ด้านล่างตู้เสื้อผ้ามีไฟอัตโนมัติ ทำงานด้วยระบบ Motion Sensor ที่จะช่วยนำทางเราไปเข้าห้องน้ำในตอนกลางคืน โดยไม่ต้องเปิดไฟให้สว่างทั้งห้อง เพื่อไม่ให้รบกวนภาวะร่างกายขณะกำลังพักผ่อนค่ะ

บริเวณโถงทางเดินและในห้องน้ำก็มีการติดตั้งไฟนำทางอัตโนมัตินี้ไว้เช่นเดียวกัน ถือว่าเป็นรายละเอียดเล็กๆเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพร่างกายควบคู่ไปกับการอยู่อาศัยที่น่าสนใจนะคะ

บริเวณด้านข้างโถงทางเดิน จะมีตู้ Built in แบบนี้มาให้ ลักษณะเป็นบานเปิดคู่ ไว้สำหรับใช้แยกเป็นพื้นที่วางเครื่องซักผ้า และอุปกรณ์ซักรีดได้อย่างเป็นสัดส่วน ซึ่งในห้อง 2 Bedroom จะได้เครื่องซักผ้าฝาหน้าแบบ 2 in 1 ที่สามารถอบผ้าในตัวได้ด้วย จึงช่วยลดปัญหาเรื่องพื้นที่ในการตากผ้าไปได้ค่ะ

ส่วนห้องด้านในสุดจะเป็นห้องนอนแบบ Master Bedroom สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ โดยเหลือพื้นที่ด้านข้างไว้สำหรับวางโต๊ะหรือตู้เล็กๆค่ะ

Image 1/5
ห้องนอน

ห้องนอน

บริเวณปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 0.65 เมตร สำหรับใครที่อยากติดตั้งทีวีก็ทำได้นะคะ เพราะโครงการได้เตรียมระบบสายไฟต่างๆมาไว้ให้ที่พื้นแล้ว ผนังด้านข้างเป็นกระจกแบบเข้ามุม ติดตั้งหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ 1 จุด สามารถมองเห็นวิวได้กว้างมากขึ้นค่ะ

ในห้องนี้มีส่วนเชื่อมต่อออกไปยังระเบียงที่วางคอมเพรสเซอร์ได้ โดยจะมีประตูอยู่หลังม่าน เวลาที่ไม่ได้ต้องการเปิดออกไปใช้งาน ก็สามารถลากม่านมาปิดไว้แบบนี้ได้ค่ะ

ภายนอกเป็นพื้นที่สำหรับวางคอมเพรสเซอร์ หันด้านที่เป่าลมร้อนออกนอกอาคาร ด้านบนเป็นเครื่องทำน้ำร้อนยี่ห้อ STIEBEL ELTRON ที่จะติดตั้งแยกมาให้ใช้งานในทุกยูนิต

ถัดมาด้านในเป็นส่วนพื้นที่แต่งตัว จะได้ตู้เสื้อผ้า Built in จากทางโครงการ หน้าบานกรุด้วย HPL High Gross สีขาว ลักษณะตู้เป็นแบบเดียวกับในห้องนอนเล็กแต่มีขนาดใหญ่กว่า

ด้านล่างติดตั้งไฟอัตโนมัติที่ทำงานด้วยระบบตรวจจับความเคลื่อนไหว เพื่อนำทางไปห้องน้ำในเวลากลางคืนได้ และในห้องน้ำก็จะติดตั้งไฟไว้ด้านล่างเคาน์เตอร์ ใกล้กับโถสุขภัณฑ์ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างสะดวกค่ะ

ห้องน้ำ แยกพื้นที่ใช้งานออกเป็น 2 ฝั่ง คือส่วนเปียกเป็นพื้นที่อาบน้ำ มีฝักบัวและอ่างอาบน้ำมาให้ ส่วนอีกฝั่งเป็นพื้นที่ส่วนแห้ง วางโถสุขภัณฑ์ คั่นด้วยอ่างล้างหน้าแบบฝังเคาน์เตอร์ค่ะ

Image 1/6
ห้องน้ำ

ห้องน้ำ

อ่างล้างหน้า ก็อกน้ำและสุขภัณฑ์ต่างๆจะได้ครบชุดเหมือนห้องตัวอย่างจากยี่ห้อ TOTO ด้านหลังมี Low Wall สามารถวางของใช้ส่วนตัวและอุปกรณ์ตกแต่งอย่างแจกันดอกไม้ เพื่อเพิ่มความสดชื่นในห้องน้ำได้

ฉากกั้นอาบน้ำเป็นแบบกระจกเปลือย บานสวิง เวลาใช้งานสามารถเปิด – ปิดได้ ส่วนอาบน้ำขนาด 0.77 x 1.94 เมตร ในห้อง 2 Bedroom ขึ้นไปจะได้อ่างอาบน้ำเป็นแบบน้ำวน มีระบบ Jet ช่วยนวดตัวได้ นอนแช่น้ำสบายๆพร้อมชมวิวด้านนอกไปด้วย ก็ถือว่าได้ผ่อนคลายไปอีกแบบนะคะ

นอกจากนี้ส่วนอาบน้ำยังติดตั้งฝักบัวมาให้ มีทั้งแบบสายอ่อนและ Rain Shower ให้เลือกใช้ ด้านข้างมีช่องสำหรับเก็บของได้ วางอุปกรณ์อาบน้ำ หยิบใช้งานได้สะดวกค่ะ

สวิตช์ไฟในห้อง ยังคงเน้นความเรียบหรู ใช้ของยี่ห้อ Schneider จากประเทศฝรั่งเศสค่ะ

Image 1/8
ภาพบรรยากาศห้อง 2 Bedroom : ห้องเปล่าพร้อมส่งมอบ

ภาพบรรยากาศห้อง 2 Bedroom : ห้องเปล่าพร้อมส่งมอบ

สำหรับคนที่มองหาห้องพักอาศัยเพื่ออยู่คนเดียว หรือจะมาแบบเป็นคู่ ก็แนะนำห้องรูปแบบ 1 Bedroom เลยค่ะ โดยในห้องนี้จะได้ส่วนครัวแบบเปิดที่ด้านหน้า สามารถวางโต๊ะทานข้าวขนาด 4 ที่นั่งได้ ด้านในเป็นส่วนนั่งเล่นติดกับหน้าต่าง ซึ่งจะมีราวกันตกอยู่ด้านนอก โซนพักผ่อนแยกเป็นสัดส่วนอยู่อีกฝั่ง เวลาเปิดประตูเข้ามาจะมองไม่เห็นทางเข้าห้องนอน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวนะคะ โดยด้านในจะมี Walk – in Closet พร้อมห้องน้ำในตัว แต่อาจจะไม่สะดวกเท่าไร เวลามีแขกมาที่ห้อง แล้วต้องเดินผ่านส่วนห้องนอนนะคะ

เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอส่วนครัว ซึ่งเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่น หน้าต่างเป็นกระจกแบบ Full Height ทำให้ในห้องได้รับแสงจากธรรมชาติเต็มที่ บรรยากาศจึงค่อนข้างปลอดโปร่ง พื้นปูด้วย  Hybrid Engineered Wood หนา 14 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 3.00 เมตร ในส่วนห้องครัวจะลดลงมาอยู่ที่ 2.60 เมตรค่ะ

ประตูทางเข้าติดตั้ง Digital Door Lock ยี่ห้อ doma kaba มาให้ ด้านข้างจะเป็นตู้รองเท้า Built in ซึ่งในห้องจริงหน้าบานจะกรุด้วย HPL High Gross สีขาวนะคะ

เคาน์เตอร์ครัวเป็น Built in รูปทรงตัว L เข้ามุมผนัง ในห้องตัวอย่างตกแต่งให้เป็นโทนสีเข้ม เพื่อเป็นไอเดีย สำหรับคนที่อยากปรับเปลี่ยนดีไซน์ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ค่ะ

Image 1/6
ส่วนทำอาหาร

ส่วนทำอาหาร

ท็อปเป็นหิวควอทซ์ ที่มีความทนทานสูง ด้านหลังติดตั้ง Black Splash มาให้ ซึ่งในห้องจริงจะเป็นกระจกขุ่นค่ะ ด้านบนเป็นตู้เก็บของสามารถวางจานได้ ตรงกับอ่างล้างจานที่แยกออกเป็น 2 ฝั่ง การออกแบบคำนึงถึงความกว้างของอ่าง และความสูงของก็อก เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำกระเด็นขึ้นมาด้านบน พอล้างเสร็จก็ยกวางเก็บได้เลย

เตาไฟฟ้าที่ได้เป็นแบบ 2 หัว ติดตั้งมาให้พร้อมเครื่องดูดควัน ด้านล่างมีเตาอบแบบ Steam Oven ยี่ห้อ BOSCH เช่นเดียวกัน โดยในห้อง 1 Bedroom จะมีช่องสำหรับใส่เครื่องซักผ้าที่สามารถอบผ้าได้ในตัว ใช้งานได้สะดวก และมีตู้เย็นแบบ Built in ที่สามารถปรับอุณหภูมิได้ เพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้บริโภคค่ะ

ระยะจากโซฟาถึงหน้าทีวีประมาณ 3.30 เมตร ถือว่าค่อนข้างกว้างเลยค่ะ สามารถวางทีวีขนาด 40″ ขึ้นไปได้เลย

ด้านข้างเป็นหน้าต่าง Full Height บานเลื่อนกระจก 2 ตอน กรอบเป็นอลูมิเนียมจากแบรนด์ SCHUECO ป้องกันเสียงจากภายนอกและกรองฝุ่นได้ดี เหมาะกับคอนโดที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าเลยค่ะ

อีกฝั่งของห้องจะเป็นส่วนพักผ่อน ประกอบด้วยห้องนอนที่มีส่วนแต่งตัวและห้องน้ำอยู่ภายใน ซึ่งห้องจริงจะได้ประตูบานทึบติดตั้งมาด้วย ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวค่ะ

ห้องนอนวางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุตได้กำลังดี เพิ่มฟังก์ชันด้วยการจัดเป็นเป็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้ค่ะ ด้านข้างฝั่งหัวเตียง มีหน้าต่างกระจก Full Height ติดตั้งมาให้ พร้อมบานกระทุ้ง 1 จุด เปิดรับลมและระบายอากาศได้

Image 1/3
ห้องนอน

ห้องนอน

ทางเดินรอบเตียงเหลือพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ด้านข้างมีประตูที่สามารถเปิดออกไปยังระเบียงด้านนอกได้ เช่นเดียวกับห้องที่แล้ว ด้านนอกเป็นพื้นที่สำหรับวางคอมเพรสเซอร์ และเครื่องทำน้ำร้อน ยี่ห้อ STIEBEL ELTRON บนผนังมีโคมไฟติดตั้งมาให้ พร้อมใช้งาน

ฝ้าเพดานบริเวณหน้าห้องน้ำเป็นพื้นที่สำหรับติดตั้งแอร์ระบบ Concealed Type ทำให้ความสูงของฝ้าเพดานลดลงมาประมาณ 40 เซนติเมตร เหลือความสูงอยู่ที่ 2.60 เมตร เท่ากับส่วนครัวด้านนอกค่ะ

ส่วนแต่งตัว ได้ตู้เสื้อผ้าแบบ Built in รูปทรงตัว L หน้าบานกรุด้วย HPL High Gross สีขาว สามารถเลื่อนเปิดได้ทั้ง 2 ฝั่ง ด้านล่างตู้ติดตั้งไฟนำทางแบบอัตโนมัติมาให้ด้วย

ห้องน้ำอยู่ติดกับส่วนแต่งตัว ทำให้สะดวกเวลาใช้งาน ภายในห้องแยกโซนเปียกและโซนแห้งไว้อย่างเป็นสัดส่วน ง่ายต่อการทำความสะอาด โดยทางโครงการได้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้ของยี่ห้อ I – Spa

Image 1/3
อุปกรณ์ในห้องน้ำ

อุปกรณ์ในห้องน้ำ

อ่างล้างหน้าเป็นแบบฝังเคาน์เตอร์ ติดตั้งเข้ากับ Low Wall ด้านหลัง โถสุขภัณฑ์ สายฉีดชำระ และที่ใส่กระดาษทิชชู่ใช้ของยี่ห้อ TOTO ค่ะ

Image 1/4
ส่วนอาบน้ำ

ส่วนอาบน้ำ

ส่วนอาบน้ำขนาด 0.93×0.98 เมตร ติดตั้งมาพร้อมฝักบัวสายอ่อน และฝักบัวแบบ Rain Shower ให้เลือกใช้งาน ด้านข้างมีช่องสำหรับเก็บของและอุปกรณ์ในห้องน้ำได้ ดูสะดวกและเป็นระเบียบค่ะ

Image 1/7
ภาพบรรยากาศห้อง 1 Bedroom : ห้องเปล่าพร้อมส่งมอบ

ภาพบรรยากาศห้อง 1 Bedroom : ห้องเปล่าพร้อมส่งมอบ

แปลนห้องพักอาศัยอื่นๆ

Image 1/14
ห้อง 1 Bedroom (1B-1)

ห้อง 1 Bedroom (1B-1)

โครงการ Anil สาทร 12 ยังมีรูปแบบห้องให้เลือกอีกหลากหลาย มีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 45.00 – 114.50 ตร.ม. ซึ่งเป็นขนาดห้องค่อนข้างใหญ่สำหรับ 1 Bedroom เลยนะคะ แต่ก็จัดว่าเป็นมาตรฐาน หากเทียบกับโครงการในละแวกเดียวกัน ซึ่งฟังก์ชันก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก โดยแปลนห้องของโครงการนี้ สิ่งที่เหมือนกันก็คือ จะเป็นรูปแบบห้องที่ไม่มีระเบียง และครัวที่ได้จะเป็นแบบเปิด สำหรับใครที่อยากได้ห้องแบบ Duplex ในโครงการก็มีให้เลือกนะคะ ส่วนราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 13.4 ล้านบาท

 

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคา

Anil สาทร 12  ราคา ณ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2565

  • ห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 45.00 – 46.00 ตร.ม. / ราคาเริ่มต้น 13.4 – 17 ล้านบาท
  • ห้อง 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 62.00 – 92.50 ตร.ม. / ราคาเริ่มต้น 18.4 – 21.5 ล้านบาท
  • ห้อง 2 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยภายใน 111.00 – 114.50 ตร.ม. / ราคาเริ่มต้น 35 – 38.4 ล้านบาท
  • ห้อง 2 Bedroom Duplex พื้นที่ใช้สอยภายใน 104.00 ตร.ม. / ราคาเริ่มต้น 38.4 ล้านบาท
  • ห้อง 3 Bedroom พื้นที่ใช้สอยภายใน 109.5 ตร.ม. / ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • รูปแบบการขาย Fully Fitted ( ตู้เก็บรองเท้า, ตู้เสื้อผ้า, เคาน์เตอร์ห้องน้ำ, เคาน์เตอร์ครัวพร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า )
  • เฟอร์นิเจอร์ วัสดุหน้าบาน  HPL High Gloss
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 3.00 เมตร / ห้องครัว 2.60 เมตร
  • วัสดุปูพื้น Hybrid Engineered จากแบรนด์ Quick Step หนา 14 มม.

ห้อง 1 Bedroom จะได้

  • Sink : FOSTER
  • Hob & Hood : BOSCH
  • Compact Steam Oven : BOSCH
  • Black Splash กระจกขุ่น / ท็อปเคาน์เตอร์หิวควอซ์ท
  • เครื่องซักผ้า : BOSCH
  • ตู้เย็น แบบ Built in : BOSCH
  • ระบบกรองน้ำ : 3M
  • ก็อกน้ำผสม ฝักบัว และสุขภัณฑ์ : TOTO
  • ท็อปเคาน์เตอร์ : Solid Surface Color Quartz
  • วัสดุปูพื้นและผนัง  : Ergon Engineered Stone

ห้อง 2 Bedroom จะได้เพิ่มเติมจาก 1 Bedroom คือ

  • เครื่องล้างจาน : BOSCH
  • อ่างน้ำวนแบบฝัง ( Whirlpool with 6 jet ) :  I SPA

ห้อง 2 Bedroom Plus , 2 Bedroom Duplex , 3 Bedroom

  • เครื่องซักผ้าจะเปลี่ยนเป็นแบบฝาหน้า และ เครื่องอบผ้า : BOSCH
  • จอง 100,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 95 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเล :

โครงการ Anil สาทร 12  ตั้งอยู่ในย่านสาทร ซึ่งเป็นศูนย์กลาง CBD ของกรุงเทพมหานครเป็นแหล่งรวมสำนักงานใหญ่ของบริษัทชั้นนำในประเทศ โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว สถานฑูตต่างๆ โรงพยาบาล โรงเรียนเอกชนชื่อดัง ห้างสรรพสินค้าและสวนสาธารณะขนาดใหญ่ มีความอุดมสมบูรณ์และสาธารณูปโภคครบครัน ทำให้โซนนี้มีมูลค่าที่ดินค่อนข้างสูง และหาที่ดินมาพัฒนาเป็นโครงการเพื่ออยู่อาศัยได้ค่อนข้างยาก เหมาะกับผู้ซื้อที่เป็นระดับ High Class การเดินทางสะดวกสบายทั้งโดยรถส่วนตัวและรถสาธารณะ เนื่องจากที่ตั้งซึ่งอยู่ติดถนนสาทร – เหนือ มีรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มวิ่งผ่าน ภายในซอยสาทร 12 บรรยากาศร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ 2 ข้างทาง ถนนภายในก็กว้างขวาง ใช้งานได้อย่างสะดวก

การเดินทางโดยใช้รถ :

การเดินทางโดยใช้รถส่วนตัวถือว่าสะดวกเลยค่ะ เพราะโครงการตั้งอยู่ติดกับถนนใหญ่ฝั่งเข้าเมือง เน้นการเดินทางบนถนนสาทรเป็นหลัก วิ่งเข้าเมืองไปทางถนนพระราม 4 และถนนวิทยุได้สะดวก หรือจะข้ามไปยังฝั่งธนบุรีก็ใช้ถนนสาทรวิ่งตรงได้เลย ด้านหน้าโครงการมีจุดกลับรถอยู่ไม่ไกลทั้ง 2 ฝั่ง ในซอยสาทร 12 เองก็สามารถทะลุไปออกถนนสีลมที่สีลมซอย 9 ได้ ใกล้ทางด่วน 2 เส้นคือทางพิเศษศรีรัช และทางด่วนเฉลิมมหานคร ประมาณ 2 กิโลเมตร ในโครงการมีที่จอดรถไว้รองรับคิดเป็น 110% ใช้ระบบ Auto Parking ทั้งหมด ซึ่งก็ไม่ได้แตกต่างกับโครงการในทำเลเดียวกันมาก แต่สำหรับลูกบ้านถือว่าสะดวกทีเดียว เพราะจะมั่นใจได้ว่า 1 ห้องพักอาศัยจะได้ที่จอดรถ 1 คันอย่างแน่นอนค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

ถือว่าสะดวกสบายไม่แพ้การเดินทางด้วยรถส่วนตัวเลยค่ะ ทั้งยังสามารถเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดในช่วงเวลาเร่งด่วนได้อีกด้วย ซึ่งในย่านนี้ก็จัดว่าขึ้นชื่อทีเดียวนะ และสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดก็คือ BTS สถานีเซนต์หลุยส์ที่อยู่หน้าโครงการ นั่งต่อไปอีกก็จะถึง BTS ศาลาแดง ซึ่งเป็นจุด Interchange สามารถไปเชื่อมต่อกับ MRT สายสีลมได้ โดยในส่วนนี้ก็ถือเป็นจุดเด่นของโครงการเลยนะคะ เพราะโครงการอื่นๆจะอยู่ในซอยเป็นส่วนใหญ่ ต้องเดินออกมาอีกหน่อย ถึงจะใช้รถไฟฟ้าได้ และโครงการในฝั่งถนนสาทร – ใต้ที่เป็นระดับ Super Luxury ใกล้เคียงกัน จะไม่มีรถไฟฟ้าผ่านเลย ใกล้ที่สุดต้องใช้บริการที่สถานีช่องนนทรี ซึ่งถือว่าเป็นระยะที่ค่อนข้างไกลค่ะ

วัสดุ :

ทางโครงการเน้นใช้วัสดุที่ผ่านมาตรฐาน WELL Building Standard เพื่อคำนึงถึงปัจจัยสุขภาพต่างๆ เช่น วัสดุที่ใช้ภายในห้องจะไม่ปล่อยสารระเหยที่เป็นพิษต่อร่างกาย , มีระบบปรับอากาศที่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ทั้งภายในอาคารและห้องพัก , เครื่องทำน้ำร้อน และเครื่องกรองน้ำดื่มติดตั้งมาให้ทุกยูนิต ซึ่งไม่ค่อยเห็นในโครงการอื่นๆนะคะ

สำหรับรูปแบบการขายเป็น Fully Fuitted วัสดุปูพื้นใช้ Hybrid Engineered ซึ่งจะมีความทนทานมากกว่าพื้นไม้ Engineered ทั่วไป  เฟอร์นิเจอร์จะได้ Built in บางชิ้น สุขภัณฑ์ครบชุดยี่ห้อ TOTO และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวจาก BOSCH ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับ High end ทั้งหมด

นอกจากนี้ภายในห้องยังมีการติดตั้ง Sensor ตรวจจับค่า CO2 ในอากาศ ทำงานอัตโนมัติเพื่อเติมอากาศบริสุทธิ์เข้ามาในห้อง ประตู –  หน้าต่างเป็นกระจกกรองเสียงและกันฝุ่น ที่โถงทางเดินและในห้องนอนมีการติดตั้งไฟ ที่สามารถนำทางเราไปห้องน้ำเวลากลางคืนได้ ทำให้ไม่ต้องเปิดไฟสว่างทั่วห้อง ไม่รบกวนร่างกายที่อยู่ในสภาวะพักผ่อน ม่านที่ติดตั้งในห้องนอนเป็น Blackout Shades ซึ่งทั้งหมดออกแบบมาตรงตามหลัก WELL Building Standard ซึ่งเรามองว่าเป็นมาตรฐานที่ใส่ใจคุณภาพชีวิต และสุขภาพของผู้อยู่อาศัยได้แบบละเอียดทุกจุดจริงๆค่ะ

การออกแบบ :

การออกแบบอาคารค่อนข้างลงตัว พื้นที่ส่วนกลางแยกออกจากส่วนพักอาศัย แต่สามารถเข้าไปใช้งานได้ง่าย ผนังกระจกส่วนใหญ่เป็น Full Height เปิดรับวิวได้แบบเต็มที่ การวางผังชั้นพักอาศัยเน้นความเป็นส่วนตัว ทางเดินภายในเป็น Single Corridor มียูนิตต่อชั้นน้อย สูงสุดไม่เกิน 9 ยูนิตต่อชั้น โดยการออกแบบยังคงคำนึงถึงปัจจัยสุขภาพตามมาตรฐาน WELL Building Standard เช่น

  • Lobby มีประตูทางเข้า 2 ชั้น และมีพรมดักฝุ่นเพื่อกันไม่ให้ฝุ่นเข้ามายังภายในอาคาร
  • มีพื้นที่สีเขียวให้อยู่ใกล้กับธรรมชาติ เหมาะกับการพักผ่อน
  • Panoramic Gym หรือห้องออกกำลังกาย ผ่านการคำนวนมาแล้วว่าเพียงพอและเหมาะสมต่อผู้พักอาศัย

ส่วนห้องพักอาศัยมีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ 1 Bedroom 45.00 ตารางเมตร ไปจนถึง 3 Bedroom 109.50 ตารางเมตร และมีห้อง Duplex มาให้เลือกด้วย โดยภายในห้องจะมีจุดเด่นแตกต่างกันไปแต่ละแบบ แต่ทั้งหมดจะไม่มีระเบียงนะคะ และส่วนครัวจะได้เป็นแบบเปิด  เหมาะกับคนที่อยากได้พื้นที่ใช้สอยเยอะๆ และไม่เน้นการทำอาหารแบบจริงจังค่ะ

สาธารณูปโภค :

จัดมาให้แบบครบครันทั้ง 3 ชั้น ส่วนตัวเราชอบ Facilities ในชั้น 12 ซึ่งค่อนข้างตอบโจทย์วัยทำงานทีเดียวค่ะ อีกทั้งพื้นที่ยังสามารถยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ มีส่วนนั่งพักผ่อนอย่าง Anil Lounge ที่สามารถมานั่งคุยธุระหรือพบปะกับเพื่อน มีส่วนสำหรับนั่งทำงาน ถ้าเราต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นก็มีห้อง Library ที่จัดประชุมเล็กๆได้ สำหรับครอบครัวที่มีเด็กๆอยู่ด้วย ก็มีพื้นที่ไว้รองรับอย่าง Kids Room อยู่ใกล้ๆ มีที่สังสรรค์ทั้งแบบ Indoor และ Semi – Outdoor คล้ายกับมีออฟฟิศในบ้านที่ให้ทั้งความสะดวกและความผ่อนคลายเลยค่ะ หรือสำหรับใครเป็นสาย Active ก็มีฟังก์ชันอย่างสระว่ายน้ำที่ชั้น 41  และ Panoramic Gym ที่ชั้น 42 โดยรวมแล้วจัดเป็น Facilities ที่ให้มาในระดับมาตรฐาน แต่สามารถใช้งานได้จริงนะคะ

 


Judgement

ราคาของคอนโดนี้ถือเป็นระดับ SUPER LUXURY CLASS ซึ่งความคุ้มค่าด้านราคาไม่ใช่ปัจจัยเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจซื้อ แต่มีเรื่องความคุ้มค่าด้านอารมณ์ส่วนบุคคลที่มาเป็นปัจจัยหลักอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งตราบเท่าที่เรายังไม่สามารถวัดค่ามาตรฐานทางอารมณ์ได้ ทาง Think of Living จึงขอไม่ให้คะแนนฟันธงในรีวิวเจาะลึกนะคะ และเพราะเป็นสินค้าประเภท Unique Item จึงมีตัวเปรียบเทียบน้อย

Anil สาทร 12 เหมาะกับใคร

โครงการ Anil สาทร 12 เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดในย่านสีลม – สาทร ชอบทำเลติดถนนใหญ่ เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้า มีพื้นที่ส่วนกลางครบครัน ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาวะความเป็นอยู่มาอันดับหนึ่ง อยากได้ห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยเต็มที่ ไม่มีระเบียงก็ไม่เป็นไร มีงบประมาณเริ่มต้นอยู่ที่ 13.40 ล้านบาท

 


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc