รีวิวโครงการ

BoomTharis l คอนโดแห่งแรกในไทย ที่ได้มาตรฐาน Well Certified ระดับ Gold: ANIL Sathorn 12

7 พฤศจิกายน 2022

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิวฉบับที่ 1870 …. Anil สาทร 12 โครงการระดับ Super Luxury ตัวแรกจาก Grand Unity หลังจากที่เปิดมาหลายโครงการ หลากหลายแบรนด์ โดยโครงการนี้ตั้งอยู่ติดถนนสาทร ข้างๆซอยสาทร 12 หรือบนที่ดินของ Double A Book Tower เก่า ซึ่งในอนาคตจะติดกับ BTS สถานีศึกษาวิทยา สำหรับการออกแบบโครงการนี้น่าสนใจทีเดียวเพราะได้นำเอา Well Building Standard มาตรฐานจากสหรัฐอเมริกา ที่ออกแบบอาคารให้เป็นมิตรต่อสุขภาพของผู้พักอาศัยมาใช้ทั้งส่วนกลางและภายในทุกยูนิต เค้าจะทำออกมาเป็นแบบไหนตามมาชมกันเลยค่ะ

Fact @ 22 May 2019

  • Anil Sathorn 12 (อนิล สาทร 12)
  • บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จํากัด
  • SUPER LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: ถนนสาทรเหนือ ติดกับซอยสาทร 12 แขวงสีลม เขตบางรัก
  • ที่ดินประมาณ  1-2-41.30 ไร่
  • คอนโด High Rise 42 ชั้น 1 อาคาร 222 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 9 ยูนิต ที่ชั้น 12A – 35
  • ที่จอดรถประมาณ 246 คัน (ระบบอัตโนมัติ) คิดเป็น 110%
  • เริ่มก่อสร้าง :  พฤษภาคม 2562
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : เมษายน 2565
  • 1 Bedroom  45.00 – 46.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 11 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 62.00 – 92.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 15.7 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms Plus 111.00 – 114.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 31.9 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms Duplex 104.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • 3 Bedrooms 109.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 32 ล้านบาท
  • Penthouse 509.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 3.00 เมตร (พื้นที่ครัว 2.60 เมตร)
  • ราคาห้องเริ่มต้น 11 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 260,000 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่ 
  • โทร  : 02 652 4000

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.720997, 100.525974

หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

“สีลม-สาทร” ถือเป็นทำเลที่ขึ้นชื่อว่าเป็น Real CBD (Central Business District) หรือใจกลางเขตธุรกิจ อีกหนึ่งย่านของกรุงเทพมหานครในปัจจุบัน เพราะในย่านนี้รวมอาคารสูงซึ่งเป็นทั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทชั้นนำในประเทศ, โรงแรมระดับหรู 4-5 ดาว, สถานฑูตต่างๆ, ห้างสรรพสินค้าเล็กใหญ่, สถานศึกษากับโรงพบายบาลชื่อดัง และที่สำคัญคือการคมนาคม ซึ่งย่านนี้มีทั้งรถไฟฟ้าที่ตัดผ่ากลางกับมีทางด่วนอยู่ด้วย ทำให้พื้นที่นี้เรียกว่าเป็นแหล่งงานที่ครบครันทีเดียวค่ะ

และด้วยความครบครันของย่านนี้ทำให้ทำเลนี้กลายเป็นทำเลที่มีความต้องการสูง ราคาที่ดินจึงถีบตัวขึ้นอยู่เรื่อยๆ มี Developer เจ้าใหญ่ซื้อที่ดินกันมากมาย ตั้งแต่ที่ดินแปลงทั่วไปจนถึงที่ดินของสถานฑูตเลยทีเดียวค่ะ ทำให้คอนโดในย่านนี้ส่วนใหญ่เป็นคอนโดระดับ Luxury – Ultimate Class ในระดับราคาต่อตาราเมตรเฉลี่ยก็ประมาณ 200,000 ขึ้นไปกันแล้วค่ะ เรียกได้ว่าเป็นแหล่งงาน+แหล่งที่อยู่ของคนมีระดับกำลังซื้อสูง

ที่ตั้งโครงการ Anil สาทร 12 ตั้งอยู่ติดถนนสาทร ข้างๆซอยสาทร 12 หรือบนที่ดินของ Double A Book Tower เก่า บนทำเลในย่านสาทรซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าย่านนี้คือศูนย์กลางย่านธุรกิจของกรุงเทพมหานคร เพราะอย่างที่บอกไปว่ามีสถานที่สำคัญครบทุกด้าน ซึ่งหากดูภาพแผนที่จะเห็นได้ชัดว่าบริเวณโดยรอบโครงการส่วนใหญ่แวดล้อมด้วยอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ทั้งนั้นเลยนะคะ ส่วนถัดมาเลยคือโรงแรม 4-5 ดาว อย่าง Pullman Bangkok และ W Bangkok รวมไปถึง Bayantree The Sukhothai Bangkok ที่อยู่บนถนนสาทร หรือจะเลยไปอีกหน่อยแถบย่านริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงแถวบางรักก็จะมีทั้ง แมนดาริน โอเรียนเต็ล และแชงกรี-ลา อีกด้วย ส่วนโรงพยาบาลชื่อดังในย่านก็อย่าง BNH, เซนต์หลุยส์ และที่สำคัญคือในย่านนี้เป็นย่านของโรงเรียนเอกชนดังหลายโรงเรียนทีเดียว หลักๆ เลยคือ กรุงเทพคริสเตียน, อัสสัมชัญบางรัก, อัสสัมชัญคอนแวนต์​ และอัสสัมชัญศึกษา และยังไม่ไกลจากสวนสาธารณะขนาดใหญ่อย่างสวนลุมพินีอีกด้วย

ดังนั้นทำเลนี้จึงถือว่าตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่อิงในเรื่องของการเดินทางไปทำงานได้ง่าย ใกล้ ไม่ต้องเสียเวลารถติด รวมไปถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ในไลฟ์สไตล์คนเมือง

นอกจากนั้นบริเวณแยกถนนวิทยุกับถนนพระราม 4 จะมี Mega Project ขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า “One Bangkok” จาก TCC ที่ได้ชนะการประมูลที่ดินสวมลุมไนท์บาซาร์เดิม พัฒนาเป็นโครงการ Mixed Use ที่มีทั้งอาคารสำนักงาน โรงแรมหรู ที่พักอาศัยระดับ Ultra Luxury ธุรกิจค้าปลีก พื้นที่พักผ่อน พื้นที่ศิลปะและวัฒนธรรม และพื้นที่สีเขียวครบครันในที่เดียว  กับอีกเจ้าแปลงโรงแรมดุสิตธานี ที่จับมือกับ CPN ร่วมกันมูลค่าโครงการ 36,700 ล้านบาท ซึ่งทั้งคู่จะเป็นลักษณะอาคารแบบ Mixed Use ที่ประกอบด้วยโรงแรม ออฟฟิศ คอนโดมิเนียม (Leasehold) การที่มี Mega Project มาเกิดขึ้นในย่านใกล้สาทรนี้ถือเป็นสิ่งที่จับตามองเพราะเป็นจุดสำคัญที่ยกระดับทำเลย่านนี้ให้เจริญมากขึ้น ส่งผลต่อราคาที่ดิน ราคาที่อยู่อาศัยต่างๆ ที่จะถีบตัวสูงขึ้นในอนาคตเช่นกัน

ที่ตั้งโครงการ Anil สาทร 12 ตั้งอยู่บนถนนสาทรเหนือ ติดกับซอยสาทร 12 เดินทางสะดวกทั้งรถยนต์และรถสาธารณะ การเดินทางโดยรถยนต์จะใช้ถนนสาทรเป็นหลักในการวิ่งเข้า-ออกเมือง ทั้งไปยังถนนเจริญกรุง เพื่อผ่านสะพานตากสินไปยังฝั่งธนฯ หรือจะวิ่งเข้าเมืองไปทางพระราม 4 , ถนนวิทยุ ก็มีระยะขับรถที่ไม่ไกล

สำหรับการเดินทางด้วยทางด่วนมีให้เลือกใช้ 2 เส้นด้วยกันคือ ทางด่วนเฉลิมมหานคร จุดทางขึ้นลงที่ใกล้สุดคือด่วนแยกพระราม 4 (ตรงแยกพระราม 4) ตรงนี้จะต้องวิ่งผ่านถนนสาทรที่อาจจะมีการจราจรหนาแน่นในชั่วโมงเร่งด่วน อีกทางด่วนนึงคือทางด่วนศรีรัชที่มีจุดขึ้น-ลงใกล้ๆ 2 จุดคือ บริเวณถนนสุรวงศ์-ถนนสีลม และบริเวณถนนจันทน์ ซึ่งจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2 กิโลเมตร ทั้ง2 จุด ค่ะ

ด้านหน้าโครงการมีจุดกลับรถอยู่ไม่ไกลทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้สะดวกในการเดินทางทั้งไปถนนเจริญกรุง และถนนนราธิวาสราชนครินทร์เลย และอีกหนึ่งทางเลือกเมื่อเราตัดสินใจอยู่ในเมืองย่านสาทรซึ่งเป็นถนนที่มีการจราจรหนาแน่น เราจึงควรรู้เส้นทางซอยลัดเพื่อให้เราเลี่ยงพื้นที่รถติดไปออกยังถนนอื่นได้ค่ะ สำหรับในกรณีที่ต้องการไปยังถนนสาทร ก็สามารถเลี้ยวซ้ายจากโครงการเข้าสาทร ซอย 12 ได้เลย ซึ่งพื้นที่ซอยจะทะลุออกปทางถนนสีลมได้โดยไม่ถึง 1 กิโลเมตร

ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะนั้นสามารถทำได้ไม่ยากเลย เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่บนเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีลม ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีสุรศักดิ์ประมาณ 450 เมตร และ BTS สถานีช่องนนทรีประมาณ 650 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่เดินได้ และในอนาคต BTS และกรุงเทพฯ จะลงทุนขยายราง เพิ่มสถานีให้วิ่งสวนกันได้ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกินปี 2564 และจะลงทุนเพิ่มก่อสร้างสถานีสายสีลม ที่สถานีศึกษาวิทยา ซึ่งจะทำให้การเดินทางโดยรถสาธารณะสะดวกมากขึ้นออกจากโครงการมาก็ขึ้นรถไฟฟ้าได้เลยค่ะ นอกจากนั้นยังมีรถประจำทาง วินมอเตอร์ไซค์ และรถ Taxi ให้เรียกได้ง่ายเนื่องจากเป็นถนนที่มีการสัญจรคึกคักตลอดทั้งวันค่ะ

การเดินทางที่เราจะพาไปวันนี้เริ่มต้นที่สถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีสุรศักดิ์ เดินไปตามถนนสาทรเหนือ ไปทางตะวันออกประมาณ 450 เมตร จะเจอกับโครงการทางด้านซ้ายมือ หน้าปากซอยทสาทร 12 พอดีค่ะ

สถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีสุรศักดิ์ ซึ่งเป็นสถานีปัจจุบันที่ใกล้กับโครงการมากที่สุด โดยห่างเพียง 450 เมตร สามารถเดินได้สบายๆ ซึ่งในอนาคตเมื่อมีการก่อสร้างสถานีศึกษาวิทยาขึ้นแล้ว (สถานี S4 ระหว่างสถานีช่องนนทรีและสถานีสุรศักดิ์) ก็จะทำให้เดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้นค่ะ

เราจะเดินเลียบถนนสาทรเหนือ ไปทางตะวันออกค่ะ

ผ่านถนนประมวญ ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมระหว่างถนนสาทรเหนือและถนนสีลม สามารถใช้ถนนเส้นนี้ไปออกถนนสีลมได้

เดินมาอีกหน่อยจะเจอกับโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ทางด้านซ้ายมือ ทำให้ทางเดินบริเวณนี้คึกคักไปด้วยเด็กๆนักเรียนโดยเฉพาะเวลาหลังเลิกเรียนค่ะ

โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนเป็นโรงเรียนชายล้วนขนาดใหญ่ โรงเรียนที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4

ฝั่งตรงข้ามถนน เป็นวัดเซนต์หลุยส์ เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ประจำโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์และโรงเรียนเซนต์หลุยส์ศึกษา

เดินมาหน่อยจะผ่านธนาคารกรุงไทย ด้านหน้ามีป้ายรถประจำทาง บรรยากาศค่อนข้างคึกคักโดยเฉพาะเด็กๆและผู้ปกครองโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนมายืนรอรถกัน

เดินมาอีกหน่อยเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล สองข้างทางมีต้นไม้พุ่มเป็นระยะๆ บรรยากาศระหว่างทางค่อนข้างดี ไม่อันตรายค่ะ

ฝั่งตรงข้ามจะเห็นโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์

เดินมาอีกนิดจะผ่านถนนปั้น ซึ่งก็เป็นถนนอีกเส้นที่สามารถไปออกยังถนนสีลมได้

ถัดมาจะเห็นอาคารสำนักงานของบริษัท Bayer Thai ให้เราเดินตรงไปค่ะ

ผ่านอาคารสำนักงาน Wong Jewelry เดินตรงไปอีกหน่อยก็ใกล้ถึงโครงการแล้วค่ะ

ผ่านซอยสาทร 14 มาจะเจอกับสถานทูตเมียนมา

ถัดมาจากสถานทูตเมียนมา เป็นที่ตั้งของโครงการ Anil สาทร 12 ซึ่งจะอยู่ติดถนนสาทร และซอยสาทร 12 เลยค่ะ ด้านหน้าโครงการมีสะพานลอยข้ามไปสาทรฝั่งใต้ได้สะดวก

มาถึงซอยสาทร 12 กันแล้ว ถ้าเป็นการเดินทางด้วยรถยนต์จะต้องเข้าโครงการจากซอยสาทร 12 ซึ่งฝั่งตรงข้ามมี Health Land สถานที่นวดเพื่อสุขภาพชื่อดัง ใครที่ชื่นชอบแวะมานวดได้สบายๆเลยค่ะ

ภายในซอยสาทร 12 เป็นซอยขนาดใหญ่ บรรยากาศร่มรื่น มีต้นไม้ใหญ่ตลอดทั้งสองฝั่ง ข้างทางมีรถจอดอยู่แต่ก็ยังสามารถขับรถสวนกันได้ โดยทางเข้าโครงการจะอยู่ตรงข้ามกับ Health Land เลยค่ะ

ด้านหลังโครงการมีพื้นที่ซอยเล็กๆเว้นระยะห่างระหว่างอาคารการไฟฟ้านครหลวงสาขาย่อยและรั้วโครงการ

บรรยากาศทางเดินด้านหลังอาคารทางทิศเหนือ ติดกับการไฟฟ้านครหลวงสถานีย่อย

บรรยากาศภายในซอยเมื่อมองออกไปยังถนนสาทรเหนือ และ Health Land จะเห็นว่าทางเดินค่อนข้างร่มรื่นทีเดียวค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการเนื่องจากอยู่ในตัวเมืองพื้นที่ดินไร่กว่าๆ ติดถนนใหญ่ใจกลาง CBD รอบข้างส่วนมากจึงเป็นอาคารสูง แต่โดยส่วนใหญ่อาคารที่อยู่ระยะใกล้เคียงกับโครงการจะมีความสูงที่น้อยกว่า และในอาคารที่มีความสูงใกล้เคียงกันมักจะอยู่ห่างออกไป ซึ่งจะได้ความเป็นส่วนตัว แต่ก็อาจจะบังวิวบ้างบางทิศค่ะ ซึ่งจะเป็นอย่างไรไปดูกันค่ะ

ทิศใต้ – เป็นด้านหน้าโครงการ ติดถนนสาทรเหนือ ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารสำนักงานอย่าง AIA Sathorn Tower สูง 29 ชั้น และอาคาร @Sathron สูง 27 ชั้น ซึ่งจะบังวิวอาคารทางทิศใต้นี้จนถึงประมาณชั้น 30 ค่ะ

ทิศตะวันตก – ติดกับสถานทูตเมียนมา ความสูงประมาณ 5 ชั้น ดังนั้นตั้งแต่ชั้น 12 เป็นต้นไปจึงเห็นวิวทิศนี้เป็นวิวเมืองสาทร ฝั่งสถานีรถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์

ทิศเหนือ – ทิศเหนือติดกับซอยส่วนบุคคลและอาคารการไฟฟ้าสถานีย่อย ไม่มีอาคารสูงในระยะประชิด จะมีอาคารที่มองเห็นสูงๆเป็นวิวคือ The Address  Sathorn, Tait 12 อยู่ห่างประมาณ 120 เมตร

ทิศตะวันออก – ติดกับซอยสาทร 12 หันไปทางฝั่งถนนนราธิวาสราชนครินทร์ เป็นทิศที่มีอาคารสูงหนาแน่นมากที่สุด แต่ยังไม่มีอาคารไหนอยู่ในระยะประชิด ทำให้เห็นวิวเมืองสาทรที่ค่อนข้างคึกคักค่ะ

ภาพบรรยากาศรอบๆที่ตั้งโครงการ ด้านหน้าติดถนนสาทรเหนือ และมีทางเข้าด้านข้างบริเวณซอยสาทร 12 บรรยากาศค่อนข้างร่มรื่นค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • BTS Station :
    – 0 Meters to BTS ศึกษาวิทยา (สถานีในอนาคต)
    – 450 Meters to BTS สุรศักดิ์
    – 500 Meters to BTS ช่องนนทรี
    – 1.7 KM to BTS ศาลาแดง
  • Express Way :
    – 1.4 KM ทางพิเศษศรีรัช
  • Business Hub :
    – 110 Meters to AIA Sathorn Tower
    – 400 Meters to Empire Tower
    – 500 Meters to Sathorn Square
    – 550 Meters to Bangkok City Tower
    – 2.1 KM to Q House Lumpini
  • Shopping Mall :
    – 1.0 KM to Villa Market Silom
    – 1.7 KM to Central Silom Complex
  • School :
    – 350 Meters to Bangkok Christian College
    – 350 Meters to Saint Louis Suksa School
    – 1.3 KM to St. Joseph Convent School
    – 2.3 KM to Assumption College
    – 2.5 KM to Assumption Convent School
    – 3.0 KM to Shrewsbury International School Bangkok
  • Hospital :
    – 140 Meters to Saint Louis Hospital
    – 1.2 KM to BNH Hospital
    – 1.8 KM to โรงพยาบาลเลิดสิน
  • PARK
    – 2.1 KM to สวนลุมพินี


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ Anil สาทร 12 เป็นคอนโดมิเนียมสูง 42 ชั้น จำนวนทั้งหมด 222 ยูนิต โครงการนี้เป็นคอนโดระดับ Super Luxury ตัวแรกจาก Grand Unity ที่มีแนวความคิดในการออกแบบที่น่าสนใจเพราะ ได้ตีความคำว่า Luxury เป็นคุณภาพในการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยโดยออกแบบอาคารให้ได้ตามมาตรฐานของ WELL Building Standard จาก International WELL Building Institute (IWBI) ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นมาตรฐานที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้พักอาศัยให้ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมภายในอาคารที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งโครงการนี้ถือว่าเป็นคอนโดมิเนียมแห่งแรกของประเทศไทยที่ผ่านมาตรฐานนี้ค่ะ โดยมาตรฐานนี้จะมีอะไรบ้างเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังกันนะคะ

มาตรฐาน WELL Building Standard ที่โครงการ Anil สาทร 12 นำมาใช้จะประกอบด้วยการคำนึงถึงปัจจัยสุขภาพสำคัญ 7 ชนิด ได้แก่ Air คุณภาพอากาศที่บริสุทธิ์, Water คุณภาพน้ำดื่มน้ำใช้, Nourishment สุขภาวะด้านโภชนาการ, Light การออกแบบแสงสว่างที่เหมาะสม, Fitness สุขภาพความแข็งแรงของร่างกาย, Comfort ความรู้สึกสบาย, Mind ความสุขทางใจ

  • Air คุณภาพอากาศที่บริสุทธิ์

  • Design :

  •  การออกแบบระบบระบายอากาศภายในส่วนกลางและส่วนพักอาศัย
  • การออกแบบที่คำนึงถึงการควบคุมความชื้นของอากาศภายในอาคาร
  • การออกแบบที่คำนึงการไหลผ่านของฝุ่นจากอากาศภายนอกเข้าสู่ภายในโครงการและห้องพักอาศัย (โครงการจะติดตั้งแผ่นกรองอากาศ MERV 13 ซึ่งสามารถกรองป้องกันฝุ่น PM 2.5 และ ไวรัส จากภายนอกได้ และติดตั้งประตู 2 ชั้น พร้อมพรมดักจับฝุ่น)
  • การตรวจวัดปริมาณสารมลพิษในอากาศทุกตัว เช่น ฟอร์มัลดีไฮด์ VOC, PM 2.5 , PM 10 Ozone และ Radon ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ต่ากว่าค่าที่กำหนดตามมาตรฐาน WELL ก่อนการย้ายเข้าพักอาศัย

  • Materials :
    • เลือกใช้วัสดุตกแต่งที่มีสารเคมีหรือสารพิษที่ก่อมะเร็งต่ำ ตั้งแต่ กาว สี สารเคลือบผิว ไม้อัด วัสดุปูพื้น และฉนวนกันความร้อน ที่ผ่านมาตรฐาน CDPH หรือ California Departmen t of Public Health

  • System :
    • ระบบระบายอากาศที่เรียกว่า ERV หรือ Energy Recovery Ventilation จาก Mitsubishi Electric ที่ช่วยนำอากาศบริสุทธิ์ภายนอกเข้าสู่ภายในห้องพัก

    • Water คุณภาพน้ำดื่มน้ำใช้

    • Materials :

    • ระบบท่อน้ำใช้ในโครงการทั้งหมดจะต้องเป็นรุ่นที่ปราศจากสารตะกั่ว (Lead free piping)
    • ทางโครงการติดตั้งเครื่องกรอง 3M สำหรับทุกห้องพักอาศัยในส่วนห้องครัว เพื่อควบคุมคุณภาพน้ำดื่มและน้ำใช้ให้กับผู้พักอาศัย
    • สำหรับพื้นที่ส่วนกลาง มีการจัดเตรียมน้ำดื่มที่มีคุณภาพผ่านตามมาตรฐานไว้ให้กับผู้พักอาศัย ในส่วนบริเวณ Culinary Area และ Panoramic Gym

    • Nourishment สุขภาวะด้านโภชนาการ

    • Design :

    • การออกแบบอ่างล้างจานให้มีสองหลุม และการคำนวณ ระยะก๊อกน้ำอย่างน้อย 25 ซม. ช่วยให้น้ำไม่กระเด็นระหว่างอ่างเพื่อส่งเสริมการเตรียมอาหารให้สะอาดและถูกสุขอนามัยในส่วนห้องครัว
    • Built-in refrigerator ที่มีการแสดงอุณหภูมิชัดเจน เพื่อรักษาความสดใหม่และช่วยถนอมคุณค่าของวัตถุดิบ และ Steam Oven เพื่อรักษาคุณภาพและประโยชน์ของอาหาร จาก BOSCH

  • Light การออกแบบแสงสว่างที่เหมาะสม
    • Design :

    • การออกแบบแสงสว่างให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ใช้งาน

  • Materials :
    • สเปคของหลอดไฟตรงตามมาตราฐานและเหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ใช้งาน

  • Light at Night :
    • การติดตั้งม่านที่ป้องกันแสงเข้า 100% (Black out shade)
    • ติดตั้งเซนเซอร์เพื่อเปิดไฟนำทางเฉพาะจุดไปห้องน้ำในตอนกลางคืน โดยที่ไม่ต้องเปิดไฟสว่างทั้งห้องให้รบกวนการพักผ่อน

    •  Fitness สุขภาพความแข็งแรงของร่างกาย

    • จัดเตรียมพื้นที่จอดจักรยานรวมถึงอุปกรณ์ซ่อมบำรุง
    • คำนวณและกำหนดจำนวนอุปกรณ์ออกกำลังกายโดยเครื่องคาดิโอ (Cardiorespiratory Exercise Equipment) และเครื่องเสริมสร้างกล้ามเนื้อ (Muscle strengthening Exercise Equipment Equipment) ให้เพียงพอต่อจำนวนผู้พักอาศัย

    • Comfort ความรู้สึกสบาย

    • Design :

    • คำนึงถึงการควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และความเร็วลม เพื่อให้ได้ตามค่ามาตรฐาน (ASHRAE55)

  • Materials :
    • มีการติดตั้งกระจกอลูมิเนียมกรองเสียงมาตรฐานเยอรมัน จาก Schueco เพื่อช่วยในการกรองเสียงจากภายนอก
    • การเลือกอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีเสียงรบกวนน้อย (เครื่องปรับอากาศและเครื่อง ERV)

    • Mind ความสุขทางใจ

    • Design :

    • การออกแบบที่ผสมผสานพื้นที่ส่วนกลางให้เข้ากับธรรมชาติ
    • การออกแบบห้องพักอาศัยให้มีระยะจากพื้นถึงฝ้าเพดานถึง 3 เมตร
    • Art work บริเวณพื้นที่ส่วนกลาง ทางโครงการออกแบบ sculpture และ art wall บริเวณพื้นที่ส่วนกลางชั้น 12

  • จัดเตรียม WELL Guideline และหนังสือที่มีข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ การออกกำลังกาย หรืออาหารเพื่อสุขภาพ ให้กับผู้พักอาศัยในโครงการได้ศึกษาหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ที่ห้องสมุดของโครงการ
  • มาดูภาพรวมโครงการกัน ตัวอาคารจะแบ่งพื้นที่ชั้น 1 เป็นส่วนของ Lobby พื้นที่สีเขียว และทางเข้าลานจอดรถแบบ Auto Parking รวมพื้นที่จอดแล้วประมาณ 110 % ชั้น 2 – 11 เป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด ชั้น 12 เป็นชั้น Facility ที่เน้นพื้นที่นั่งทำงาน สังสรรค์ และพักผ่อน โดยมีจุดเด่นเป็น Anil Lounge ห้องพักผ่อนกลางน้ำ มองเห็นวิวด้านหน้าโครงการ ชั้นพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 12A จนถึงชั้น 39 โดยชั้น 14 – 35 เป็นชั้น Typical Floor แต่ต่างกันเล็กน้อยตรงส่วนยื่นของกรอบอาคาร ชั้น 36 – 39 เป็นชั้นห้องพักขนาดใหญ่และห้อง Duplex และชั้น 41 เป็นส่วนของสระว่ายน้ำระบบโอโซน ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการฆ่าเชื้อโรค ชั้น 42 เป็นชั้น Sky Facility สามารถมองเห็นวิวได้รอบ แบ่งเป็นส่วนต่างๆเช่นห้อง Panoramic Gym, Steam , Sauna เป็นต้น

    ด้านหน้าอาคารติดกับถนนสาทรเหนือ แต่โครงการมีทางเข้า-ออกอยู่ทางด้านซอย สาทร 12 มีข้อดีคือ ลดความแออัดของการจราจรบนถนนหลัก และทำให้ทางเข้า-ออกมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยทางเข้า-ออก ของคนเดิน (ลูกศรสีน้ำเงิน) จะอยู่บริเวณหน้าปากซอย และทางเข้าออกของรถยนต์ (ลูกศรสีส้ม) จะอยู่ค่อนไปทางท้ายโครงการค่ะ

    ชั้น 1 มีลักษณะการเดินรถรอบโครงการเป็นการเดินรถแบบทางเดียว (One way) ตามเข็มนาฬิกา มีส่วน Drop Off อยู่ด้านหน้าอาคาร สามารถเข้าไปยัง Lobby ได้เลย สำหรับคนที่ต้องการจอดรถ จะมีทางเข้าช่องจอดอัตโนมัติด้านหลังอาคาร 2 จุด ช่วยลดระยะเวลารอให้น้อยลงได้ค่ะ พื้นที่ Lobby จะเห็นวิวสวนซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดค่อนข้างใหญ่ด้านหน้าโครงการได้ มีแกนอาคาร (Lift Core) อยู่ทางทิศตะวันตก มีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 3 ตัว อัตราส่วนลิฟต์เฉลี่ยอยู่ที่ 74 : 1 ซึ่งถือว่าไม่หนาแน่นมากและทำให้ไม่ต้องรอลิฟต์นาน และมีลิฟต์ดับเพลิง 1 ตัว ที่ชั้น 1 ด้านข้างโถงลิฟต์จะมีห้อง Mail Box ให้ลูกบ้านเข้าถึงได้สะดวกก่อนขึ้นไปยังห้องพักอาศัย

    ทางเข้าอาคารจะอยู่ทางทิศตะวันออก มีทางเข้าคนเดินอยู่ทางซ้ายมือ (ลูกศรสีน้ำเงิน) และทางเข้า-ออกรถยนต์ 2 ช่องทางสวนกันทางด้านขวามือ (ลูกศรสีส้ม)

    บรรยากาศจำลองบริเวณทางเข้ารถยนต์ จากซอยสาทร 12 ออกแบบให้ดูเรียบหรู มีการซ่อนไฟสวยงาม ประตูทางเข้า-ออกเป็นประตูรั้วมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

    บรรยากาศจำลองบริเวณ Drop Off ด้านหน้าอาคาร มีหลังคาเป็น Semi Outdoor ช่วยกันแดดและฝนได้ การตกแต่งเน้นสไตล์เรียบหรู

    บรรยากาศจำลองบริเวณ Drop Off ด้านหน้าอาคารเป็นจุดที่สามารถวนรถมารับ-ส่ง คนเข้าไปยังส่วน Lobby ได้เลย

    บรรยากาศจำลองบริเวณทางเข้า Lobby เป็นประตู 2 ชั้นมีพรมดักฝุ่น ช่วยกรองฝุ่นจากภายนอกไม่ให้เข้าไปภายในอาคารตามมาตรฐานการออกแบบสุขภาวะด้านอากาศค่ะ

    บรรยากาศจำลองภายใน Lobby ฝ้าเพดานสูง ดูโปร่งสบาย เน้นการตกแต่งด้วยลายหินอ่อน โทนสีน้ำตาล ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน ภายใน Lobby มีโซฟามาให้หลายจุด แยกเป็นส่วนๆ มองออกไปเห็นวิวสวนด้านนอกได้

    บริเวณ Lobby มีกระจกด้านหน้าบานใหญ่ทำให้มองออกมาเป็นสวนและ รถไฟฟ้าด้านหน้าโครงการ และได้รับแสงสว่างจากธรรมชาติเต็มที่ ได้สุขภาวะด้านแสงสว่าง (Light)

    ด้านหน้าอาคารเป็นทิศใต้ ติดกับถนนสาทรเหนือ มีพื้นที่สีเขียวอยู่ด้านหน้าเป็นที่สำหรับเดินพักผ่อน และช่วยให้บรรยากาศทางเข้าสดชื่นมีชีวิตชีวา

    บรรยากาศจำลองบริเวณสวนด้านหน้าโครงการ มีความร่มรื่น เพื่อส่งเสริมการเดินออกกาลังการสำหรับผู้พักอาศัย ส่งเสริม WELL Building Standard ในด้าน สุขภาพและความแข็งแรงของร่างกาย (Fitness) ค่ะ

    ด้านข้างอาคารทางทิศตะวันตกติดกับสถานทูตเมียนมา เป็นทางเดินรถไปยังด้านหลังอาคาร

    ด้านหลังอาคารทางทิศเหนือเป็นจุดเข้า-ออก ช่องจอดรถระบบอัตโนมัติที่สามารถจอดได้ทั้งหมด 246 คัน จอดได้ทั้งรถทั่วไปและรถสปอร์ต (ยกเว้นบางรุ่น ซึ่งต้องติดต่อกับทางโครงการแต่แรกค่ะ) รวมจอดได้ประมาณ 110% ถือว่าให้มาค่อนข้างเยอะ และการมีช่องจอด 2 ช่องทำให้ลดระยะเวลาในการรอได้ค่ะ

    ชั้น 12 เป็นพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อน ด้านหน้าเป็น Lounge แยกออกมาจากตัวอาคารทำให้มีความเป็นส่วนตัว มีทางน้ำล้อมรอบเพิ่มบรรยากาศที่เหมาะกับการนั่งพักผ่อนหรือพาเพื่อนมานั่งคุยธุระกันได้ ส่วนพื้นที่ทางทิศตะวันตกของ Lounge เป็นลาน Semi-Outdoor จะมีโต๊ะพูล หรือเครื่องเล่นอื่นๆ มาไว้ให้ลูกบ้านได้พาครอบครัวมาใช้เวลาร่วมกัน ฝั่งทิศเหนือ เป็นห้อง Library สำหรับนั่งทำงาน อ่านหนังสือ มีห้องแยกสำหรับ Meeting 2 ห้อง ด้านข้างเป็นห้อง Kids Room และส่วน Culinary Area, Social Dining สำหรับรับประทานอาหาร

    เมื่อมองจากด้านนอกจะเห็นว่าชั้น 12 เป็นชั้นเริ่มต้นของส่วนพักอาศัย โดยชั้นนี้เป็นชั้น Facility ทั้งหมดมีความสูงมากกว่าชั้นพักอาศัยทั่วไป บรรยากาศภายในจะเป็นอย่างไรไปชมกันต่อได้เลยค่ะ

    บริเวณ Anil Lounge ห้องพักผ่อนกลางน้ำให้ความเป็นส่วนตัวและสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย

    ภายใน Anil Lounge มีการตกแต่งด้วยโทนสีเหมือนกับส่วน Lobby มีกระจกล้อมรอบทำให้มองวิวไปยังถนนสาทรได้

    ภายใน Library สำหรับคนที่ต้องการที่นั่งอ่านหนังสือเงียบ หรือนั่งทำงานคนเดียว ซึ่งจะเหมาะกับคนที่ต้องการความสงบมากว่าส่วน Lounge ภายในห้องได้กระจกรอบด้านมองเห็นวิวเมืองสาทร ได้ 180 องศา

    บรรยากาศจำลองส่วน Social Dining เชื่อมต่อกับพื้นที่ Culinary Area เป็นห้องที่มีความเป็นส่วนตัว สามารถจัด Private Party ได้เลยค่ะ

    ส่วน Culinary Area สำหรับทำอาหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ Co-Kitchen อยู่ติดกับส่วน  Social Dining  มองเห็นวิวเมืองฝั่งสีลม สำหรับคนที่ต้องการมาใช้งานก็สามารถจองผ่านนิติบุคคลได้ค่ะ

    ภายในห้อง Kids Room มีส่วนนั่งเล่น และพื้นที่สำหรับปีนป่าย ช่วยฝึกฝนกล้ามเนื้อและให้เด็กๆมาใช้เวลาว่างและทำความรู้จักเพื่อนใหม่ได้ที่นี่ค่ะ

    ชั้น 12A เป็นชั้นแรกของห้องพักอาศัย จะมีห้องเพียงแค่ครึ่งชั้นทางทิศเหนือ ทำให้ชั้นนี้มีความหนาแน่นน้อย เพียง 5 ยูนิต และเป็น Single Corridor ทั้งหมด ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง โดยเฉพาะห้องทางทิศตะวันออก ที่ไม่มีด้านไหนติดกับห้องอื่นเลยค่ะ

    ชั้น 14 – 35 เป็นชั้น Typical Floor Plan (ต่างกันที่ส่วนยื่นภายนอกอาคาร) มีห้องพักทั้งหมด 9 ยูนิตต่อชั้น ถือว่าไม่หนาแน่นมาก และวางผังเป็นรูปทรงจตุรัส มีบันไดหนีไฟและงานระบบต่างๆไว้ตรงกลางใช้งานง่ายทั้ง 2 ฝั่ง มีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 3 ตัว อัตราส่วนประมาณ 74 : 1 ถือว่าไม่หนาแน่นมากนะคะ ทำให้ไม่ต้องรอลิฟต์นานในช่วงเวลาเร่งด่วน และมี Service ลิฟต์ 1 ตัว  มีโถงลิฟต์อยู่ฝั่งด้านบน ทำให้โถงทางเดินเป็น Single Corridor ทั้งหมด มีข้อดีคือ ทำให้มีความเป็นส่วนตัว แต่ก็แลกกับโถงทางเดินที่มีช่องเปิดเพียงจุดเดียว จะทำให้มีแสงเข้ามาน้อยและระบายอากาศได้ยาก ห้องที่ได้วิวมากที่สุดจะเป็นห้องขนาดใหญ่ 2 Bedroom ที่อยู่บริเวณมุมอาคาร มี 3 ยูนิตต่อชั้นซึ่งห้องทางทิศตะวันตกจะได้วิว BTS สถานีสุรศักดิ์ และวิวเมืองสาทร ส่วนห้องด้านตะวันออกจะเห็นวิวเมืองฝั่งถนนนราธิวาสราชนคริทร์ ซึ่งมีอาคารสูง และโรงแรมเป็นส่วนใหญ่ค่ะ ส่วนห้อง 1 Bedroom ที่มีจำนวนมากที่สุด จะหันหน้าไปทางทิศเหนือ-ใต้ และทิศตะวันออก ซึ่งทางทิศเหนือจะเห็นวิวอาคาร AIA Sathorn Tower จนถึงประมาณชั้นที่ 29 ค่ะ ส่วนทางทิศใต้จะมองเห็นอาคาร The Address และอาคาร Tait 12 ห่างประมาณ 120 เมตร

    ชั้น 36, 38 เป็นชั้นห้องพักขนาดใหญ่ คือ 2 Bedroom 4 ยูนิต และ 3 Bedroom 1 ยูนิตทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ รวมจำนวน 5 ยูนิตต่อชั้น ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง มีห้อง 2 Bedroom Duplex อยู่ทางทิศตะวันออกชั้นละ 1 ห้อง (เป็นชั้นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว 2 ห้อง)

    ชั้น 37, 39 เป็นชั้นที่มีการวางผังเหมือนกับชั้น 36, 38 จะแตกต่างกันตรงที่ห้อง 2 Bedroom Duplex ที่เป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น และส่วนครัวค่ะ

    ชั้น 40 เป็นชั้น Penthouse ค่ะ

    ชั้น 41 เป็นชั้น Facility มีการกั้นประตูส่วนโถงลิฟต์ต้องใช้ Key Card แตะเพื่อเข้ามายังส่วนสระว่ายน้ำ ตัวสระเป็นรูปทรงตัว L ความยาว 18 และ 22 เมตร กว้าง 3.70 เมตร ทำให้เลือกว่ายได้ 2 ฝั่ง เมื่อมีคนอยู่อีกฝั่งเราก็สามารถแยกมาว่ายได้ มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ด้านข้างมีสระเด็กแยกออกมาเลยค่ะ ช่วยป้องกันไม่ให้เด็กพลัดตกมายังสระผู้ใหญ่ได้ ด้านหน้าอาคารทางทิศใต้มีพื้นที่สีเขียว ให้ออกมานั่งเล่นชมวิวเมืองรอบๆสาทรด้วยความสูง 41 ชั้นกันได้ค่ะ

    สระว่ายน้ำ เป็นแบบ Semi Outdoor สามารถว่ายได้ตลอดทั้งวันไม่ต้องกลัวแดดค่ะ และสระว่ายน้ำที่นี่ใช้ระบบบำบัดด้วยโอโซน โดยการผลิตก๊าซโอโซน (Ozone Gas) จากเครื่องอัดอากาศ (O2) ในอากาศให้กลายเป็นก๊าซโอโซน และสัมผัส (Contact) กับน้ำโดยตรง เพื่อใช้ในการฆ่าเชื้อโรค ซึ่งเป็นตัวฆ่าเชื้อโรคที่มีศักยภาพสูงไม่ทำให้ระคายเคืองตา แสบตา หรือทำให้ตาแดง

    บรรยากาศจำลองบริเวณสระว่ายน้ำ เป็นแบบ Infinity Edge Pool ให้มองเห็นวิวภายนอกได้ ภายในสระมีการเล่นแสงไฟเป็นระยะๆช่วยเพิ่มความสวยงามมากขึ้นในเวลากลางคืน

    บรรยากาศจำลองบริเวณสระว่ายน้ำ มองไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเห็นวิวตึกมหานคร

    ชั้น 42 เป็นชั้น Sky Facility บนสุด เน้นพื้นที่ออกกำลังกาย มีห้อง Fitness ชมวิวได้ 180 องศา และห้องออกกำลังกายแยก 2 ห้อง ภายในห้องน้ำมีห้อง Steam & Sauna แยกชาย-หญิงมาให้อย่างละ 1 ห้องค่ะ

    บรรยากาศจำลองภายในห้อง Fitness มีกระจกสูงเต็มผนังทั้งสองฝั่ง ทำให้มองเห็นวิวได้ 180 องศา มีการคำนวณและกำหนดจำนวนอุปกรณ์ออกกำลังกายโดยเครื่องคาดิโอ (Cardiorespiratory Exercise Equipment Equipment) และเครื่องเสริมสร้างกล้ามเนื้อ (Muscle strengthening Exercise Equipment Equipment) ให้เพียงพอต่อจำนวนผู้พักอาศัย ด้วยการคำนึงถึงสุขภาพและความแข็งแรงของร่างกาย (Fitness)

    วิวจากชั้น 41 เมื่อมองไปทางทิศใต้ฝั่งถนนสาทร มองเห็นวิวเมืองย่านสาทร

    วิวจากชั้น 41 เมื่อมองไปทางทิศตะวันตกฝั่งสถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์ มองเห็นวิวเมือง

    วิวจากชั้น 41 เมื่อมองไปทางทิศตะวันออกฝั่งถนนนราธิวาสราชนครินทร์ เห็นโรงแรม W และตึกมหานคร

    วิวจากชั้น 41 เมื่อมองไปทางทิศเหนือฝั่งถนนสีลม

    สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

    • ชั้น G

    • Green Sanctuary
    • Lobby
    • Waiting lounge for automatic parking
    • Mail room

  • ชั้น 12
    • Anil lounge
    • Al fresco @ 12
    • Social dining
    • Library
    • Culinary area
    • Private study 2 ห้อง
    • Kids room
    • Garden

  • ชั้น 41
    • Sky garden
    • Ozone sky pool ขนาด 22 + 18 กว้าง 3.70 เมตร
    • Kids pool ขนาด 3.00 x 4.20 เมตร

  • ชั้น 42
    • Panoramic gym
    • Serene Zone
    • Pilates Zone
    • Steam
    • Sauna

  • ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 74 :  1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ 246 คันคิดเป็น 110% (Auto Parking)
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card

  • Product Walkthrough

    แบบห้องของโครงการนี้มีให้เลือกหลายขนาดเลยนะคะตั้งแต่ 1 Bedroom จนถึง 3 Bedroom โดยมีขนาด ดังนี้

    • 1 Bedroom  45.00 – 46.00 ตร.ม.
    • 2 Bedrooms 62.00 – 92.50 ตร.ม.
    • 2 Bedrooms Plus 111.00 – 114.50 ตร.ม.
    • 2 Bedrooms Duplex 104.00 ตร.ม.
    • 3 Bedrooms 109.50 ตร.ม.
    • Penthouse 509.50 ตร.ม.

    ซึ่งภายในห้องขายแบบ Fully Fitted มีชุดครัว ตู้รองเท้า ตู้เสื้อผ้า และชุดสุขภัณฑ์มาให้พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าบางส่วน คือ

    • ห้อง 1 Bedroom จะได้

    • ชุดครัว

    • SINK : FOSTER
    • HOOD : BOSCH
    • COMPACT STEAM OVEN : BOSCH
    • WASHER AND DRYER : BOSCH
    • BUILT IN REFRIGERATOR : BOSCH
    • WATER PURIFIER : 3M

  • ชุดสุขภัณฑ์
    • FAUCET : TOTO
    • PUSH PLATE : TOTO
    • WALL HUNG TOILET : TOTO
    • BASIN : TOTO
    • SHOWER : TOTO
    • CONCEALED TANK WITH FRAME : TOTO
    • TOP SINK : SOLID SURFACE COLORQUARTZ
    • WALL AND FLOOR : ERGON ENGINEERED STONE

    • ห้อง 2 Bedroom จะได้เพิ่มเติมจาก 1 Bedroom คือ

    • ชุดครัว

    • DISHWASHER : BOSCH

  • ชุดสุขภัณฑ์
    • CONCEALED TANK WITH FRAME : TOTO
    • WHIRLPOOL WITH 6 JET BATHTUB : BATHROOM DESIGN I
      SPA

    • ห้อง 2 Bedroom Plus, 2 Bedroom Duplex, 3 Bedroom

    • ชุดครัวจะเปลี่ยนจาก WASHER AND DRYER อัพเกรดเป็น

    • FRONT LOAD WASHING MACHINE : BOSCH
    • CONDENSER DRYER : BOSCH

  • ชุดสุขภัณฑ์ เหมือนกับห้อง 2 Bedroom
  •  

    มาดูผังห้อง 1 Bedroom ขนาด 46.00 ตารางเมตร กันค่ะ เป็นแบบห้องที่มีมากที่สุดในโครงการ การจัดพื้นที่ใช้งานค่อนข้างลงตัว เมื่อเข้าห้องมาแล้วจะเจอกับพื้นที่ครัวเปิดและส่วนรับประทานอาหารก่อน ซึ่งทางโครงการ Built-in เคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L มาให้เลย พื้นที่ครัวค่อนข้างใหญ่สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ถึง 4 ที่นั่ง และยังเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นทำให้ดูห้องโล่ง กว้าง โครงการนี้มีแบบห้องที่ไม่เหมือนกับที่อื่นคือจะไม่มีระเบียงมาให้นะคะ มีข้อดีคือทำให้มีพื้นที่ใช้สอยด้านในใหญ่ขึ้น เหมาะกับคนที่ไม่ได้ใช้ระเบียงอยู่แล้ว ต้องการพื้นที่ห้องนั่งเล่นกว้าง เป็นต้น ซึ่งส่วนแรกที่เป็น Common Area นี้จะได้รับแสงธรรมชาติที่เข้ามาจากประตู(ส่วนห้องนั่งเล่น)  ที่เป็นกระจกบานเลื่อนสูงเต็มผนัง มีราวกันตกกระจกมาให้ ส่วนห้องนอนจะอยู่อีกฝั่งของห้อง ขนาดค่อนข้างใหญ่วางเตียง 6 ฟุตได้  มีห้องน้ำและ Walk-in Closet ในตัว ใช้งานสะดวกสำหรับผู้อยู่อาศัยแต่ถ้าในกรณีมีแขกมาหาแล้วต้องการเข้าห้องน้ำ จะต้องเดินผ่านห้องนอนของเราอาจจะไม่ค่อยเป็นส่วนตัวมากนักค่ะ บรรยากาศภายในห้องจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลย

    ประตูด้านหน้าห้องจะได้กรอบบานสีขาวมีแนวเซาะร่องและขอบมนแบบเดียวกับห้องตัวอย่างเลยค่ะ หน้าบานประตูเป็นลายไม้มีแถบสีทองเป็นลูกเล่นเล็กๆตกแต่งก่อนเข้าห้อง และมี Digital Door Lock ติดตั้งมาให้

    Digital Door Lock จาก DORMA KABA รองรับระบบได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นลายนิ้วมือ, การ์ด, รหัสผ่าน, กุญแจเครื่องจักรกล, บลูทูธ และรีโมทคอนโทรล(อุปกรณ์เสริม) ดีไซน์โค้งขอบมนสีดำ

    เมื่อเข้ามาภายในห้องจะเจอกับส่วนครัว พื้นที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นทำให้ดูกว้าง ความสูงจากพื้นถึงฝ้าของส่วนห้องนั่งเล่นสูงประมาณ 3.00 เมตร และส่วนครัวลดระดับลงมาเล็กน้อยจะสูงประมาณ 2.60 เมตรค่ะ พื้นห้องปูด้วย Hybrid Engineered จากแบรนด์ Quick Step ประเทศเบลเยี่ยม หนา 14 มิลลิเมตร

    มองย้อนกับไปยังส่วนครัวนะคะ ทางโครงการได้ Built-in เคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L และตู้เก็บรองเท้ามาให้เรียบร้อย พื้นที่ครัวค่อนข้างใหญ่เลยเมื่อเทียบกับห้อง 1 Bedroom ที่อื่นๆค่ะ

    ด้านข้างประตูมีตู้รองเท้ามาให้ ใช้งานสะดวกจะออกจากบ้านหรือพึ่งกลับมาก็หยิบรองเท้าจากชั้นได้เลย ตู้มีหน้าบานเป็นวัสดุ Hi Gloss สีขาว วางรองเท้าได้ 7 ชั้น ประมาณ 7 – 14 คู่ค่ะ

    พื้นที่ครัวสามารถวางชุดโต๊ะรับประทานอาหารได้ 4 ที่นั่ง ส่วนครัวมีการออกแบบตัวหน้าบานให้มีความเรียบหรู ลดการใช้มือจับ ทำให้มองแล้วสวยงามสบายตา มีการออกแบบให้เข้ากับแนวคิด  WELL Building Standard ด้านคุณภาพน้ำและสุขภาวะทางอาหารอย่างไรเราไปชมกันค่ะ

    ส่วนครัวมีตู้เย็น Built-in ของ Bosch จากประเทศเยอรมัน ติดตั้งมาให้เลย ซึ่งตัวตู้เย็นสามารถปรับอุณหภูมิที่เหมาะสมกับการแช่อาหารแต่ละชนิด เพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้บริโภค หน้าบานของตู้ภายในครัวทั้งหมดเป็นบาน HPL Hi Gloss สีขาวค่ะ

    เคาน์เตอร์ครัวที่ได้เป็น Top หินควอซ์ทที่มีความพรุนต่ำมีความคงทนสูง ด้านหลังติดตั้ง Backsplash กระจกขุ่นมาให้ ช่วยกันรอยเปื้อนบนผนังและทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ บนเคาน์เตอร์จะมีเตาไฟฟ้าชนิด 2 หัว และเครื่องดูดควันจาก Bosch มาให้ด้วย

    ด้านล่างทางโครงการติดตั้งเตาอบมาให้ ช่วยให้ประกอบอาหารได้หลากหลาย จาก Bosch เช่นกันค่ะ

    เคาน์เตอร์อีกฝั่งมีพื้นที่ทำอาหารที่ค่อนข้างกว้าง เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหาร แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่ครัวเปิดอาจจะต้องเปิดประตูห้องนั่งเล่นเพื่อระบายกลิ่นเวลาทำอาหารจริงจังค่ะ

    อ่างล้างจานจาก FOSTER มีการออกแบบความลึกของอ่างให้น้ำไม่กระเด็นออกมาเลอะด้านบน และแยกสองส่วนเพื่อให้สะดวกในการใช้งานล้างจาน ก๊อกน้ำที่ได้จาก KOHLER จะสังเกตว่ามี 2 ก๊อก ตัวใหญ่สำหรับล้างจาน และก๊อกตัวเล็กติดตั้งระบบกรองน้ำมาให้สามารถใช้ดื่มได้ค่ะ

    ด้านล่างเป็นช่องเก็บของ และถังขยะแบบเปิดอัตโนมัติ มีเครื่องกรองน้ำติดตั้งมาให้บริเวณนี้ค่ะ

    ด้านบนเป็นช่องเก็บของซึ่งออกแบบมาให้วางจานและหยิบใช้งานได้สะดวก

    ด้านล่างมีช่องเก็บของสำหรับใส่อุปกรณ์ทำอาหารภายในครัว

    ด้านข้างของช่องเก็บของจะมีช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้ามาให้ ซึ่งทางโครงการก็ได้ให้เครื่องซักผ้ามาด้วยนะคะ จาก Bosch เป็นเครื่องซักผ้าที่สามารถอบผ้าได้ด้วย ช่วยลบปัญหาเรื่องพื้นที่ตากผ้าไปค่ะ

    ส่วนพื้นที่ห้องนั่งเล่นมีประตูบานเลื่อนกระจกบานใหญ่เต็มผนังติดตั้งมาให้ทำให้ได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เต็มที่ และจากภายในห้องสามารถมองวิวข้างนอกได้กว้าง มีฝ้าดรอปสำหรับซ่อนรางม่านมาให้ เพื่อความเรียบร้อยสวยงามค่ะ

    พื้นที่ห้องนั่งเล่นค่อนข้างใหญ่ วางโซฟาขนาด 4 ที่นั่งและโต๊ะกลางได้สบายๆ มีพื้นที่เดินเหลือค่อนข้างเยอะ มีระยะดู TV ประมาณ 3.00 เมตร ซึ่งเหมาะกับการวาง TV ขนาด 40 – 42 นิ้วค่ะ

    บานประตูกรอบอลูมิเนียมจาก SCHUECO ตัวกระจกเป็น LAMINATED GLASS  สีเทายูโรเกรย์ ช่วยกรองแสงทำให้ลดความร้อนที่เข้าสู่ตัวห้อง สามารถเปิดได้กว้างครึ่งนึงของผนังเลยค่ะ ทำให้ระบายอากาศได้ดี ทางโครงการก็ได้ทำราวกันตกมาให้เพื่อลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ

    ราวกันตกความสูงประมาณ 1.00 เมตร เป็นกระจกใส หนา 8 มิลลิเมตร 2 ชั้น ช่วยกันอันตรายแต่ก็ไม่รบกวนการมองวิวค่ะ

    ห้องนอนมีขนาดประมาณ 3.30 x 3.20 เมตร สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้ มีช่องเปิดมาให้ 1 จุดบริเวณด้านข้างเตียง และใช้วางโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานได้ค่ะ

    ทางโครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุต มาจะเห็นว่ามีพื้นที่ด้านข้างทั้งสองฝั่งวางโต๊ะข้างเตียงหรือโคมไฟได้

    พื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 1.10 เมตร สามารถวางชั้นวาง TV เล็กๆ หรือใครที่ชอบทางเดินกว้างๆสบายๆ แนะนำให้ติดตั้ง TV แบบแขวนผนังแทนค่ะ

    พื้นที่ด้านข้างมีขนาดประมาณ 1.60 x 0.75 เมตร เหมาะกับการวางโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ เพราะเป็นจุดที่ได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาด้วยค่ะ

    ช่องแสงสามารถเปิดได้ 1 จุดช่วยระบายอากาศภายในห้องนอนได้

    ด้านหลังมีประตูบานเปิดกระจกฝ้าสำหรับออกไปยังพื้นที่ระเบียงสำหรับวาง Condensing Unit ค่ะ

    ภายนอกระเบียงมีพื้นที่ประมาณ 1.60 x 0.70 เมตร เป็นที่สำหรับวาง Condensing Units และเครื่องทำน้ำร้อน STIEBEL ELTRON สำหรับระบบน้ำภายในครัวและห้องน้ำ มีระแนงเหล็กสีดำช่วยบังสายตา สำหรับคนที่ต้องการตากผ้าก็สามารถตากบริเวณนี้ได้เล็กน้อยค่ะ

    ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่ Walk-in Closet ด้านบนเป็นพื้นที่ติดตั้งระบบแอร์แบบ Concealed Type  จะทำให้ความสูงของฝ้าเพดานลดลงประมาณ 40 เซนติเมตรค่ะ เหลือความสูง 2.60 เมตร ซึ่งยังรู้สึกสบายๆไม่ต่ำจนเกินไปค่ะ

    ตู้เสื้อผ้าติดตั้งมาให้ 2 ตู้ เป็นตู้บานเลื่อน Hi Gloss สีขาว ด้านในมีราวแขวนผ้าสามารถเลื่อนเปิดได้ 2 ฝั่ง

    ส่วนด้านซ้ายมือเป็นตู้บานเปิด มีราวแขวนและช่องสำหรับวางกระเป๋า เครื่องประดับ ฯลฯ ไว้ให้เช่นกันค่ะ หน้าบานเป็นกระจกเงาสะดวกต่อการแต่งตัวค่ะ

    ห้องน้ำเน้นการตกแต่งผนังด้วยกระเบื้องลายหินดูสวยงาม พื้นปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนผิวด้านช่วยให้ไม่ลื่นเวลาเปียกน้ำ แบ่งการใช้งานออกเป็นส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจนมีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ค่ะ

    อ่างล้างหน้าที่ได้เป็นแบบฝังในเคาน์เตอร์ดูเรียบร้อย(จาก TOTO) สามารถใช้พื้นที่ด้านข้างวางของ เช่น สบู่ล้างมือ หรือน้ำหอมดับกลิ่นได้ค่ะ ด้านข้างมีปลั้กไฟพร้อมฝากันน้ำมาให้สำหรับต่อไดร์เป่าผมได้

    สุขภัณฑ์ที่ได้จาก TOTO ด้านข้างติดสายชำระมาให้ มีระยะนั่งได้ค่อนข้างสบายค่ะ

    พื้นที่อาบน้ำกั้นฉากกั้นกระจกบานเปลือยมาให้ดูสวยงาม และช่วยให้เวลาอาบน้ำแล้วน้ำจะไม่กระเด็นออกมาด้านนอกค่ะ

    พื้นที่ส่วนอาบน้ำกว้างประมาณ 1.00 x 1.00 เมตร ยืนอาบได้สบายๆ ภายในติดตั้งฝักบัวแบบสายอ่อนมาให้ พร้อม Rain Shower จาก TOTO ด้านข้างมีพื้นที่ช่องวางของภายในผนังสามารถกั้นชั้นวางเพิ่มเติมได้ค่ะ

    ห้องต่อมาที่เราจะพามาดูเป็นห้อง 2 Bedroom ขนาด 63.00 ตารางเมตร  เป็นห้องมุมอาคารมีข้อดีคือได้รับวิว 2 ฝั่ง พื้นที่ภายในแบ่งออกเป็นสัดส่วน สังเกตได้จากพื้นที่บริเวณห้องนอนจะอยู่ติดกับด้านนอกอาคารเพื่อให้มองเห็นวิวได้ และอีกฝั่งเป็นพื้นที่ของส่วน Service คือห้องครัว และห้องน้ำค่ะ เมื่อเข้ามาภายในห้องจะเจอกับส่วนครัวก่อน ซึ่งจะได้เป็นครัวเปิดเหมือนกับห้อง 1 Bedroom เลยค่ะ พื้นที่ครัวสามารถกั้นปิดได้ แต่ไม่แนะนำเนื่องจากจะทำให้ห้องดูแคบลงค่ะ สำหรับพื้นที่วางชุดโต๊ะรับประทานอาหาร สามารถวางได้ประมาณ 4 ที่นั่ง พื้นที่ทั้งหมดเชื่อมต่อกันไปยังห้องนั่งเล่นค่ะ ห้องนี้ก็จะไม่มีระเบียงเช่นกันนะคะ ทำให้ใช้งานพื้นที่ภายในได้เต็มที่ ถัดมาจะเป็นส่วนของโถงทางเดินแจกไปยังห้องต่างๆ ฝั่งขวามือเป็นห้องนอน ใช้ห้องน้ำร่วมกันกับห้องน้ำกลาง ซึ่งจะมีพื้นที่อาบน้ำแยกส่วนเปียก-แห้งและกั้นกระจกมาให้ค่ะ ถัดมาจะเจอกับห้องเล็กๆก่อนเข้าไปยังห้อง Master Bedroom ห้องนี้จะเป็นห้องสำหรับเครื่องซักผ้าและเครื่องทำน้ำร้อนค่ะ มาถึงห้อง Master Bedroom มีขนาดค่อนข้างใหญ่ประมาณ 1 ใน 3 ของห้องเลย ห้อง Master Bedroom มี Walk-in Closet เป็นสัดส่วน และมีห้องน้ำในตัว ถ้าเป็นห้อง 2 Bedroom เป็นต้นไปในห้องนอนใหญ่จะได้อ่างอาบน้ำมาให้ด้วยค่ะ  ภายในห้องจะเป็นอย่างไรเราไปดูกันค่ะ

    เข้ามาในห้องแล้วจะเจอกับส่วนครัวก่อนซึ่งจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ประมาณ 2.60 เมตร พื้นปูด้วย QUICK STEP ENGINEERED FLOOR (จากประเทศ BELGIUM) หนา 14 มิลลิเมตร จากบริเวณส่วนครัวจะสามารถมองวิวออกไปด้านนอกได้ผ่านห้องนั่งเล่นเลยค่ะ

    ด้านหลังประตูมี Built-in ตู้รองเท้ามาให้สะดวกต่อการใช้งาน

    ส่วนครัวจะเป็นเคาน์เตอร์รูปตัว L หน้าบาน HPL Hi Gloss เหมือนกับห้อง 1 Bedroom จะมีความแตกต่างกันที่อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าประกอบ และแยกพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าเป็นสัดส่วนไปเลยค่ะ

    สิ่งที่แตกต่างจากห้อง 1 Bedroom อย่างแรกก็คือตัว Hob & Hood เตาไฟฟ้าจะได้ขนาดใหญ่ขึ้นเป็นแบบ 4 หัว และได้เครื่องดูดควันตัวใหญ่ ดีไซน์สวย สามารถปรับระดับความแรงได้ช่วยลดข้อจำกัดของพื้นที่ครัวแบบเปิดที่มีปัญหาเรื่องกลิ่นจากการทำอาหารได้ค่ะ

    ด้านล่างเป็นชั้นเก็บของ พร้อมติดตั้งเตาอบมาให้สำหรับการทำอาหารที่หลากหลาย

    เคาน์เตอร์อีกฝั่งมีช่องเก็บของมาให้ค่อนข้างเยอะเช่นกันค่ะ โดยที่ด้านล่างของอ่างล้างจานได้ติดตั้งเครื่องกรองน้ำ จาก 3 M มาให้ สามารถบริโภคได้ค่ะ

    เคาน์เตอร์ทำอาหารมีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ ด้านหลังติดตั้ง Backsplash มาให้ด้วยเช่นกันค่ะ ทำให้ทำความสะอาดง่ายค่ะ

    อ่างล้างจานที่ได้จาก FOSTER เหมือนกับห้อง 1 Bedroom เลยค่ะ คือมีช่องล้างจาน 2 ช่อง ที่มีการคำนวณความลึกของอ่างไว้เพื่อลดการกระเด็นค่ะ และก๊อกตัวเล็กเป็นตัวที่เชื่อมกับเครื่องน้ำสามารถเอาแก้วมารองแล้วเปิดดื่มได้เลยค่ะ

    นอกจากนั้นห้อง 2 Bedroom ขึ้นไปจะได้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่อัพเกรดมากขึ้นมีเครื่องล้างจานติดตั้งมาให้ด้วยค่ะ

    ส่วนตู้เย็น Built-in ของห้องนี้จะได้แบบเดียวกับห้อง 1 Bedroom ตัวตู้เย็นสามารถปรับอุณหภูมิที่เหมาะสมกับการแช่อาหารแต่ละชนิด เพื่อสุขภาวะที่ดีให้กับผู้บริโภคค่ะ

    พื้นที่ครัวจะเชื่อมกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น ตรงกลางสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ 4 ที่นั่งค่ะ

    พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะมีฝ้าเพดานสูง 3.00 เมตร ห้องค่อนข้างกว้างสามารถวางโซฟา 3-4 ที่นั่งได้สบายๆ มีระยะดู TV ประมาณ 2.70 เมตร เหมาะกับการวาง TV ขนาดประมาณ 40 นิ้ว  ด้านข้างติดกับประตูบานเลื่อนกระจกเต็มผนังทำให้รับแสงเข้ามาได้ทั่วถึง มองเห็นวิวได้กว้างจากห้องนั่งเล่น และมีการดรอปฝ้าเพื่อซ่อนรางม่านมาให้เช่นกันค่ะ

    ประตูเปิดระบายอากาศเป็นบานเลื่อนขนาดใหญ่กรอบบานอลูมิเนียมจาก SCHUECO ตัวกระจกเป็น LAMINATED GLASS  สีเทายูโรเกรย์  ช่วยกรองแสงและความร้อน และไม่ต้องกลัวตกไปนะคะ เพราะทางโครงการมีราวกันตกกระจกใสกั้นไว้ให้อีกชั้นนึงค่ะ

    ถัดมาเราไปดูส่วนของพื้นที่พักผ่อนกันบ้าง ฝั่งขวาจะเป็นห้อง Bedroom ตรงกลางเป็นทางเข้าห้อง Master Bedroom และฝั่งซ้ายเป็นห้องน้ำส่วนกลาง (ที่ห้อง Bedroom เข้ามาใช้ด้วย) และถัดไปเป็นห้องเครื่องซักผ้าค่ะ

    มาดูที่ห้องน้ำกลางกันก่อน ห้องนี้มีพื้นที่อาบน้ำมาให้พร้อมกระจกกั้นสำหรับรองรับห้องนอนเล็ก ตัวห้องน้ำตกแต่งคล้ายกับห้อง 1 Bedroom แบ่งพื้นที่การใช้งานส่วนเปียก-ส่วนแห้งได้ดีค่ะ

    อ่างล้างหน้าเป็นแบบฝังเคาน์เตอร์ สามารถวางของได้ พร้อมสุขภัณฑ์ และสายชำระจาก TOTO ค่ะ

    พื้นที่อาบน้ำกั้นฉากกั้นกระจกบานเปลือยมาให้ดูสวยงาม และช่วยให้เวลาอาบน้ำแล้วน้ำจะไม่กระเด็นออกมาด้านนอก

    ภายในติดตั้งฝักบัวสายอ่อนมาให้ และด้านข้างมีช่องเก็บของไว้วางสบู่ แชมพูทั่วไปค่ะ

    พื้นที่ห้องอาบน้ำกว้างประมาณ 1.00 x 1.00 เมตร ติดตั้ง Rain Shower และดรอปฝ้าเพดานซ่อนไฟตรงส่วนอาบน้ำมาให้ค่ะ นอกจากนั้นห้องนี้ไม่ได้อยู่ติดระเบียงที่สามารถระบายอากาศได้ จึงมีพัดลมดูดอากาศมาให้ด้วยค่ะ

    ห้องนอนเล็ก เป็นห้องที่มีขนาดประมาณ 2.40 x 2.60 เหมาะสำหรับวางเตียง 3.5 ฟุต จะดูพอดีๆไม่อึดอัดค่ะ แต่ถ้าใครจะติดตั้ง TV ในห้องนี้ แนะนำเป็นติดตั้งแบบแขวนจะช่วยให้ประหยัดพื้นที่มากขึ้นค่ะ

    เมื่อวางเตียง 3.5 ฟุต จะมีพื้นที่ด้านข้างสำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้ง แต่ก็จะบังตู้เสื้อผ้าไปสักหน่อยค่ะ

    ข้อดีของห้องนี้คือได้กระจกบานกว้าง มองเห็นวิวได้โดยไม่มีกรอบอลูมิเนียมมาบังสายตา และมีช่องเปิดระบายอากาศได้ทางขวามือค่ะ

    ฝั่งตรงข้ามเตียงมี Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้เป็นบานเลื่อน Hi Gloss วัสดุเดียวกันกับหน้าบานของครัว ทำให้ดูเข้ากันค่ะ

    ตู้เสื้อผ้าสามารถเลื่อนเปิดได้ 2 ฝั่ง แต่ไม่มีกระจกเงาติดตั้งมาให้นะคะ แนะนำติดตั้งเพิ่มเติมที่ด้านข้างของตู้ค่ะ เวลาไม่ใช้งานแล้วจะได้ไม่มองเห็นจากเตียง หรือถ้าใครชอบก็สามารถติดตั้งที่หน้าบานตู้ได้ค่ะ

    ต่อมาเรามาดูห้องเครื่องซักผ้า ก่อนถึงห้อง Master Bedroom กันค่ะ ลักษณะภายนอกจะมีบานเปิดสูง หน้าบานเหมือนกับตู้เสื้อผ้าดูกลมกลืนกับภายในห้อง

    ภายในเป็นพื้นที่วางเครื่องซักผ้า ข้อดีของการแยกส่วนเครื่องซักผ้าออกมาก็คือเวลาใช้งานจะไม่ได้ยินเสียงรบกวน สามารถเก็บผ้าไว้ในห้องนี้ได้เลยค่ะ ส่วนด้านบนเป็นเครื่องทำน้ำร้อนจาก STIEBEL ELTRON

    เข้ามาภายในห้อง Master Bedroom การวางผังของห้องนี้เน้นไปที่การมองวิวเมืองย่านสาทร ได้หน้าต่างบานสูงยาวต่อกันตลอดทั้งผนัง

    ห้องนอนสามารถวางเตียงได้ 5- 6 ฟุต แต่ถ้าวางเตียง 5 ฟุตจะมีพื้นที่เหลือด้านข้างสำหรับวางโต๊ะข้างขนาดเล็กได้ แต่ถ้าผู้ใช้งานห้องนี้นอน 2 คน แนะนำให้เป็นเตียง 6 ฟุตจะสบายมากกว่าค่ะ

    เนื่องจากห้องนี้เน้นไปที่การชมวิว ทำให้ไม่เหมาะกับการวาง TV มากนัก แต่ถ้าใครชอบดู TV ก็สามารถติดตั้งได้ เนื่องจากทางโครงการได้เดินระบบสายไฟต่างๆมาให้ที่พื้นแล้วค่ะ

    ฝั่งตรงข้ามมีพื้นที่สำหรับออกไปยังระเบียงที่วาง Condensing Units ได้ (พื้นที่กรอบสีเหลือง) แต่ถ้าไม่ต้องการเห็นประตูก็สามารถเลื่อนม่านมาบังไว้ได้ค่ะ เนื่องจากฝ้าเพดานด้านบนรองรับรางม่านให้เดินเป็นตัว L ได้

    ประตูทางออกระเบียงเป็นบานกระจกขุ่น มีการกันเสียงค่อนข้างดีช่วยให้เสียงตัว Condensing Units ไม่เข้ามารบกวนในห้องค่ะ

    พื้นที่ด้านหน้าห้องน้ำมี Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้เหมือนกับห้องนอนเล็กเลยค่ะ การใช้งานค่อนข้างสะดวก อาบน้ำเสร็จออกมาแล้วหยิบเสื้อผ้าแต่งตัวได้เลย

    ตัวตู้เป็นบานเลื่อน 2 ข้างหน้าบาน Hi Gloss แต่จะไม่มีบานกระจกมาให้นะคะ ถ้าไม่ใช้ภายในห้องน้ำก็ติดตั้งเพิ่มเติมที่หน้าบานตู้เสื้อผ้าได้ค่ะ

    มาดูห้องน้ำกันบ้างห้องน้ำภายในห้อง Master Bedroom แบ่งพื้นที่ใช้งานออกเป็น 2 ฝั่ง ด้านซ้ายเป็นพื้นที่ส่วนแห้งที่มีอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ ส่วนด้านขวาจะเป็นพื้นที่อาบน้ำ(ส่วนเปียก) ค่ะ

    อ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ประกอบที่ได้จาก TOTO เช่นกันค่ะ

    มีติดตั้งปลั๊กพร้อมฝาครอบกันน้ำมาให้ สำหรับใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าเช่น ไดร์เป่าผม สเปรย์ดับกลิ่นอัตโนมัติ เป็นต้น

    ฝั่งขวามือจะเป็นส่วนอาบน้ำ ซึ่งกั้นด้วยฉากกั้นกระจกบานเปลือยมาให้ค่ะ

    ภายในมีทั้งพื้นที่อาบน้ำแบบยืนอาบ และอ่างแช่น้ำอยู่ติดกัน และได้ช่องแสงขนาดใหญ่เต็มผนังมองวิวได้เต็มบาน แต่ถ้าสำหรับใครเขินๆก็แนะนำให้ติดม่านบังสายตาเพิ่มเติมค่ะ

    ตัวฝักบัวติดตั้งแบบสายอ่อนมาให้ พร้อม Rain Shower สามารถปรับระดับน้ำร้อน-น้ำเย็นได้ ด้านข้างมีพื้นที่ช่องเก็บของมาให้หยิบใช้งานสะดวกค่ะ

    ตัวอ่างอาบน้ำจาก i-Spa สามารถนอนแช่ได้ มีระบบ Jet นวดตัวด้วยนะคะ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 22 May 2019

    • 1 Bedroom เนื้อที่ 45.00 ตร.ม. / ราคา 11 ล้านบาท หรือ 244,445 บาท/ตร.ม.
    • 2 Bedroom เนื้อที่ 62.00 ตร.ม. / ราคา 15.7 ล้านบาท หรือ 253,225 บาท/ตร.ม.
    • 2 Bedroom Plus  เนื้อที่ 111.00 ตร.ม. / ราคา 31.9 ล้านบาท หรือ 287,387 บาท/ตร.ม.
    • 3 Bedroom Plus  เนื้อที่ 109.50 ตร.ม. / ราคา 32 ล้านบาท หรือ 292,237 บาท/ตร.ม.

    • รูปแบบการขาย Fully Fitted
    • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 3.00 เมตร ห้องครัว 2.60 เมตร
    • Kitchen & Sink / ท๊อปหินควอทซ์
    • Hob & Hood / ของยี่ห้อง BOSCH
    • จอง n/a บาท
    • ทำสัญญา n/a บาท
    • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
    • ค่ากองทุน 900 บาท/ตร.ม.
    • ค่าส่วนกลาง 95 บาท/ตร.ม./เดือน

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


    เจาะลึกรวบยอด

    ทำเล :

    โครงการ Anil สาทร 12 ตั้งอยู่ในย่านสาทร ซึ่งเป็น CBD ของกรุงเทพมหานคร มีอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ โรงแรม 5 ดาว สถานฑูต โรงพยาบาล และสถานศึกษาที่มีชื่อเสียง รวมถึงใกล้กับพื้นที่สีเขียวของเมืองอย่างสวนลุมพินี มีความอุดมสมบูรณ์และสาธารณูปโภคครบครัน การเดินทางสะดวกทั้งโดยรถยนต์ส่วนตัว และรถสาธารณะ เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ติดกับถนนสาทรเหนือ มีรถไฟฟ้าสายสีลมผ่าน ด้านข้างติดกับสถานทูตเมียนมา ซึ่งมีการรักษาความปลอดภัยที่ดี ทางเข้า-ออกของโครงการติดซอยสาทร 12 เป็นซอยขนาดใหญ่ ที่มีบรรยากาศร่มรื่น มีต้นไม้ใหญ่สองข้างทาง ซึ่งปัจจุบันในทำเลนี้หาที่ดินมาพัฒนาโครงการได้ยากแล้วค่ะ

    การเดินทางโดยใช้รถ :

    การเดินทางโดยรถยนต์ถือว่าสะดวกเลยค่ะ โครงการตั้งอยู่ติดกับถนนใหญ่ฝั่งเข้าเมือง เน้นการเดินทางบนถนนสาทรเป็นหลัก โดยจะวิ่งเข้าเมืองไปทางถนนพระราม 4 และถนนวิทยุสะดวก หรือจะข้ามไปยังฝั่งธนบุรีก็ใช้ถนนสาทรวิ่งตรงได้เลย เนื่องจากด้านหน้าโครงการมีจุดกลับรถอยู่ไม่ไกลทั้ง 2 ฝั่ง ในซอยสาทร 12 เองก็สามารถทะลุไปออกถนนสีลม ที่ซอยสีลม 9ได้ เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการเดินทางไปยังสีลม และเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดในช่วงเวลาเร่งด่วน การใช้ทางด่วนก็สามารถเลือกใช้ได้ 2 เส้นคือทางพิเศษศรีรัช 2 ด่าน และ ทางด่วนเฉลิมมหานคร (ตรงพระราม 4) และสิ่งที่ขาดไม่ได้เมื่อต้องเดินทางด้วยรถยนต์นั่นก็คือจำนวนที่จอดรถ ซึ่งที่นี่เขาให้มาเป็นระบบ Auto Parking รองรับได้ถึง 110 % ค่ะ

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : 

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถก็ค่อนข้างสะดวกเนื่องจากอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS สายสีลม ห่างจากสถานีสุรศักดิ์ประมาณ 450 เมตร และสถานีช่องนนทรี 650 เมตร เป็นระยะที่เดินได้ไม่ไกล นอกจากนั้นในอนาคตกทม. ยังมีแผนที่จะก่อสร้างสถานีศึกษาวิทยาเพิ่มเติม เมื่อสร้างเสร็จจะมีตำแหน่งสถานีอยู่ด้านหน้าโครงการเลย ทำให้เดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้นค่ะ นอกจากนั้นถนนสาทรก็เป็นถนนหลักมีรถประจำทาง และรถ Taxi ให้เรียกได้ง่ายค่ะ

    วัสดุ :

    วัสดุทางโครงการเน้นการใช้วัสดุที่ผ่านมาตรฐาน WELL Building Standard เพื่อคำนึงถึงปัจจัยสุขภาพต่างๆ เช่น วัสดุที่ใช้ภายในห้องจะไม่ปล่อยสารระเหยที่เป็นพิษต่อร่างกาย,มีระบบปรับอากาศที่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ทั้งภายในอาคารและห้องพัก , มีเครื่องทำน้ำร้อน และเครื่องกรองน้ำดื่มติดตั้งมาให้ทุกยูนิต รวมถึงตู้เย็น เตาอบ และเครื่องซักผ้า  ทางโครงการขายแบบ Fully Fitted พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าบางส่วน ความสูงพื้นถึงฝ้า 3.00 เมตร ปูพื้นด้วย QUICK STEP ENGINEERED FLOOR จากประเทศเบลเยี่ยม ห้องน้ำปูกระเบื้องพอร์ซเลน ชุดครัวบาน HPL Hi Gloss ท็อป Solid Serface (Colorquartz) ชุดครัวจาก Bosch และสุขภัณฑ์จาก TOTO

    การออกแบบ :

    การออกแบบอาคารค่อนข้างลงตัว ใช้งานง่ายในพื้นที่ส่วนกลาง  มีจำนวนลิฟต์โดยสารมาให้ 3 ตัว ความหนาแน่นประมาณ 74 : 1 ถือว่าหนาแน่นน้อย จะทำให้ไม่ต้องคอยนานในเวลาเร่งด่วนค่ะ การวางผังห้องต่างๆได้รับวิวเยอะ และมียูนิตต่อชั้นน้อย (ไม่เกิน 9 ยูนิตต่อชั้น) ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง การออกแบบคำนึงถึงปัจจัยสุขภาพ เช่น

    • Lobby มีประตูทางเข้า 2 ชั้น และมีพรมดักฝุ่นเพื่อกันไม่ให้ฝุ่นเข้ามายังภายในอาคาร
    • มีพื้นที่สีเขียวให้อยู่ใกล้กับธรรมชาติ เหมาะกับการพักผ่อน
    • Anil Lounge มีน้ำล้อมรอบ ให้บรรยากาศผ่อนคลาย

    ส่วนห้องพักอาศัยมีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ 1 Bedroom 45.00 ตารางเมตร ไปจนถึง 3 Bedroom 109.50 ตารางเมตร และมีห้อง Duplex ด้วย ภายในห้องจะมีจุดเด่นแตกต่างกันไปแต่ละแบบ แต่ทั้งหมดจะไม่มีพื้นที่ระเบียงเหมาะกับคนที่ชอบพื้นที่การใช้งานส่วน Common Area ขนาดใหญ่ และมีบานเลื่อนกระจกบานใหญ่เต็มผนังเปิดรับลมชมวิวได้กว้าง พื้นที่ครัวเป็นครัวเปิด มีเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่ ส่วนห้องนอนจะมีพื้นที่ Walk-in Closet ในตัว ตั้งแต่ 2 Bedroom ขึ้นไปจะได้อ่างอาบน้ำในห้อง Master Bedroom ด้วยค่ะ

    สาธารณูปโภค :  

    ให้มาครบครันและหลากหลาย แบ่งเป็น 3 ชั้น คือ

    • ชั้น 12 เน้น พื้นที่นั่งพักผ่อน นั่งคุย อ่านหนังสือ ทำงานเป็นหลัก โดยจะมีห้อง Anil Lounge อยู่ด้านหน้าอาคาร มองเห็นวิวทางทิศใต้ ตัว Lounge อยู่กลางน้ำให้บรรยากาศดี มีพื้นที่ Semi Outdoor สำหรับสังสรรค์ และห้อง Co-Kitchen ทำอาหารและนั่งกินชมวิวเมืองสาทรได้
    • ชั้น 41 เป็นพื้นที่สระว่ายน้ำ ระบบ Ozone ทำความสะอาด และฆ่าเชื้อโรคได้ดี ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว และดวงตา สระเป็นแบบ Infinity Edge Pool รูปตัว L ขนาด (18+22) x 3.7 เมตร มีแยกสระเด็กมาให้
    • ชั้น 42 เน้นพื้นที่ออกกำลังกาย มีห้อง Fitness มองเห็นวิวเมืองสาทรในมุมสูง 180 องศา พร้อม Steam & Sauna

    Judgement

    ราคาของคอนโดนี้ถือเป็นระดับ SUPER LUXURY CLASS ซึ่งความคุ้มค่าด้านราคาไม่ใช่ปัจจัยหลักเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจซื้อแล้ว ยังมีเรื่องความคุ้มค่าด้านอารมณ์ Emotional ส่วนบุคคลที่มาเป็นปัจจัยหลักอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งตราบเท่าที่ทางเรายังไม่สามารถวัดค่ามาตรฐานทางอารมณ์ได้ ทาง Think of Living ขอไม่ให้คะแนนฟันธงในรีวิวเจาะลึกนะคะ เพราะเป็นสินค้าประเภท Unique Item และเราก็เชื่อว่าลูกค้าที่พร้อมจะซื้อคอนโดระดับนี้ ไม่ตัดสินด้วยคะแนนค่ะ

    BOTTOM LINE

    Anil สาทร 12 เหมาะกับคนที่ต้องการคอนโดในย่านสาทร เดินทางสะดวกทั้งรถยนต์และรถสาธารณะ ชอบที่อยู่อาศัยที่ใส่ใจสุขภาพ พื้นที่ส่วนกลางครบครัน ชอบความเป็นส่วนตัว มียูนิตไม่เยอะ ไม่เน้นพื้นที่ระเบียง มีห้องหลายขนาดให้เลือก และมีงบประมาณระดับ 11 – 40 ล้าน หรือคิดเล่นๆคือมีกำลังผ่อนประมาณ 77,000 – 280,000 บาท/เดือน