รีวิวโครงการ
รีวิวตึกเสร็จ Fynn สุขุมวิท 31 คอนโด Low Rise ในซอยสุขุมวิท 31 จาก FYNN Development [รีวิวฉบับที่ 2040]
13 กุมภาพันธ์ 2020
รีวิวฉบับที่ 1307 สวัสดีมิตรรักแฟนเพจค่ะ วันนี้จะพาไปเดินเล่นชมทำเลโครงการ Fynn สุขุมวิท 31 (ซอยสวัสดี) คอนโด Low Rise โครงการใหม่จาก Yellowfynn Development ที่ได้ทำเลในย่าน Prime Area บนที่ดินเกือบ 1 ไร่ โครงการมีจำนวนห้องทั้งหมดเพียง 63 ยูนิต ออกแบบห้องมาให้มีหลายขนาดตั้งแต่ 36-398 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท โครงการจะเปิด Pre Sale วันที่ 25-26 มีนาคมนี้ ทำเลจะอุดมสมบูรณ์ขนาดไหนไปชมพร้อมๆ กันเลยค่ะ
เวปไซต์ลงทะเบียน : Click Here
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด : 13.741594, 100.566980
แผนที่จากทางโครงการ FYNN สุขุมวิท 31 เป็นโครงการในย่าน Prime Area ที่ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 31 หรือที่มักจะเรียกกันว่า ” ซอยสวัสดี ” อยู่เยื้องๆ กับร้านอาหาร Le Vendome เส้นทางแถวนี้บางส่วนจะเป็นวันเวย์นะคะ ถ้าคนมาอยู่แรกๆ ยังไม่ชิน คงต้องจำกันซักหน่อย ซึ่งเส้นทางในย่านนี้มีทางลัดหลายเส้นทางทำให้การเดินทางสะดวกมากทีเดียว
ก่อนไปชมทำเลโครงการจะพามาดูข้อมูลคร่าวๆ ของโครงการกันก่อนนะคะ โครงการ Fynn สุขุมวิท 31 เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น ถูกพัฒนาโดย YellowFynn Development ที่หลายๆ คนคงจะรู้จักในนามผู้พัฒนาโครงการ Fynn Aree ซึ่งจริงๆ แล้ว Developer เจ้านี้มีชื่อเสียงมาจากธุรกิจโรงแรมที่หาดเทียนบีช รีสอร์ต เป็นที่มาของ Concept ในการออกแบบที่เน้นให้เกิดความเป็นส่วนตัว และเหมาะกับการพักผ่อนด้วยช่องเปิดที่ค่อนข้างกว้าง ภายในแต่ละยูนิตจะมีพื้นที่สีเขียว สำหรับตัวอาคารมี Shading บังแดดที่ทำให้อาคารดูสวยสะดุดตา
โครงการขายมีจำนวนห้องทั้งหมด 63 ยูนิต ขายแบบ Fully Furnished พร้อมที่จอดรถทั้งโครงการประมาณ 93 % แบบห้องมีให้เลือกทั้งแบบ 1 Bedroom (36-48 ตร.ม.), 2 Bedroom (70-80 ตร.ม.), 3 Bedroom (113-117 ตร.ม.) และ Penthouse (398 ตร.ม.) ในราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท โครงการจะเปิด Presale ในวันที่ 25-26 มี.ค. นี้ ใครสนใจก็สามารถลงทะเบียนได้ที่นี่เลยค่ะ Click Here
โครงการ FYNN สุขุมวิท 31 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 31 (ซอยสวัสดี) อยู่ในช่วงกลางซอยระหว่างถนนสุขุมวิทกับถนนเพชรบุรี ทำเลนี้ถือเป็นทำเลใจกลางเมืองที่ดีทำเลหนึ่ง คือแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ติดกับถนนใหญ่ที่รายรอบ แต่จากโครงการก็มีเส้นทางลัดไปออกถนนหลักได้หลายเส้นทาง ไปได้หมดทั้งอโศก สุขุมวิท ทองหล่อ และเพชรบุรี เป็นทำเลที่เป็นย่านออฟฟิศของแท้ เวลากลางวันจะมีความคึกคักมาก เวลากลางคืนก็จะสงบหน่อย เพราะคนกลับบ้านกันหมดแล้ว
ที่ตั้งโครงการลึกเข้ามาในซอยสุขุมวิท 31 ประมาณ 1 กม. จึงเป็นทำเลที่สงบหน่อย แต่จากโครงการไม่ใช่ระยะที่สามารถเดินไปรถไฟฟ้าได้นะ (ระยะเดินของคนทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 500 ม.) ต้องต่อรถไปอีกสักต่อหนึ่ง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีรถยนต์ส่วนตัวหรือผู้ที่ยอมต่อรถเพื่อไปยังรถไฟฟ้าซะมากกว่าค่ะ
แม้ว่าทำเลโครงการอยู่กลางใจเมืองที่มีรถติดมากกก (><) แต่เป็นทำเลที่มีทางลัดเลาะในซอย จึงใช้เลี่ยงการจราจรจากถนนหลักได้ ซึ่งถนนบางส่วนเป็นทางวันเวย์ เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นเลยทำลูกศรมาในแผนที่ให้ด้วยค่ะ
จากซอยทองหล่อ สามารถเข้ามาที่โครงการได้โดยทะลุเข้าซอยทองหล่อ 13 > สุขุมวิท 49/11 > ซอยพร้อมจิตร > ซอยสวัสดี มีระยะทางจากทองหล่อถึงโครงการประมาณ 2.5 กม.
จากทางถนนเพชรบุรี โดยเข้าซอยเพชรบุรี 38/1 แต่ต้องเลี้ยวซ้ายไปวนทางถนนเพชรบุรี 39 ก่อนเพราะมันเป็นวันเวย์ แล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยพร้อมจิตร ทะลุไปซอยสวัสดี มีระยะทางจากถนนเพชรบุรีถึงโครงการประมาณ 2.3 กม.
จากถนนอโศกมนตรี ก็สามารถเข้าทางซอยสุขุมวิท 21/3 เลี้ยวขวาเข้าซอยสุขุมวิท 23 วิ่งตามทางไปจนทะลุซอยสวัสดี มีระยะทางจากถนนอโศกมนตรีถึงโครงการประมาณ 1.1 กม.
จากถนนสุขุมวิท สามารถเข้าได้หลายทางคือซอย 23, 31, 33 และ 39 จะสามารถเชื่อมเข้าสู่ซอยสวัสดีได้ ถ้าเข้าจากซอยสุขุมวิท 31 จะมีระยะทางถึงโครงการประมาณ 1 กม.
ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการที่อยู่ในย่านพร้อมพงษ์ทำให้มีความอุดมสมบูรณ์ที่อยู่รายรอบเยอะมาก แต่จากโครงการจะต้องพึ่งพารถยนต์กันสักหน่อย เรื่องแหล่งความเจริญอาหารการกินในระยะสัก 200 ม. พอจะมีร้านอาหารอย่าง Le Vendome, Exhibit Cafe’ ที่อยู่ใกล้ๆ ให้พึ่งพิงได้บ้าง แต่ถ้าออกแรงเดินหน่อยหรือขับรถในระยะ 500-700 ม. มีร้านอาหารดีๆ ให้เลือกเพียบ ทั้งแบบที่เป็นร้าน Stand Alone และแบบที่เป็นกลุ่มร้านอาหารหลายๆ ร้าน ได้แก่ 39 Boulevard, Seed, Taka Town นอกจากนี้ยังมี Fuji Supermarket อยู่ในซอยอีกด้วย
ถ้าจะหาแหล่งช้อปปิ้งใหญ่ๆอย่างศูนย์การค้า ก็แค่ออกมาถนนใหญ่ในระยะประมาณ 1 กม. ก็จะมีตั้งแต่ Terminal 21 ที่แยกอโศก ไล่มาที่พร้อมพงษ์จะมี The District Em ซึ่งประกอบด้วยห้าง ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และ ดิ เอ็มสเฟียร์ ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของ 3 โครงการศูนย์การค้าระดับเวิร์ลคลาสใจกลางสุขุมวิท จากเดอะมอลล์ กรุ๊ป เพื่อยกระดับสุขุมวิทให้เป็นย่านการค้า แหล่งธุรกิจ โรงแรม ออฟฟิศที่พักอาศัย และศูนย์ความบันเทิงต้อนรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ซึ่งตอนนี้ ดิ เอ็มควอเทียร์เพิ่งสร้างเสร็จและเปิดตัวไปอย่างยิ่งใหญ่ สร้างความคึกคักให้กับย่านนี้ได้มากทีเดียว หากใครยังไม่เคยไปเดินสามารถอ่านรีวิว ดิ เอ็มควอเทียร์ ของ Mr.Boom ได้ ที่นี่
ส่วนห้างสรรพสินค้าที่เรารู้จักกันดีและอยู่มานานคู่ย่านพร้อมพงษ์คือ ดิ เอ็มโพเรียม ที่หลายๆคนก็คงมาเดินเล่นช็อปปิ้งกันบ้างแล้ว ในดิ เอ็มโพเรียมนี้ก็มี TCDC ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านการออกแบบอยู่ข้างในด้วย หากใครที่ทำงานเกี่ยวกับด้านงานออกแบบน่าจะชอบนอกจากนี้ยังมีวิลล่า มาร์เก็ต และสวนเบญจสิริ ที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ บริเวณย่านพร้อมพงษ์นี้จะอุดมไปด้วยชาวต่างชาติมากมาย โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่มักเลือกย่านนี้เป็นที่พักอาศัย จนกลายเป็นจุดเด่นอีกอย่างของย่านนี้ที่มีร้านอาหารญี่ปุ่นและร้านขายของญี่ปุ่นน่ารักๆ ให้เลือกเพียบค่ะ
และหากคุณเป็นคนที่มีไลฟ์สไตล์ที่ชอบไปแหล่ง Hang Out อย่างทองหล่อ เอกมัย ในยามค่ำคืน ก็ถือว่าจากตัวโครงการสามารถใช้เส้นทางภายในซอยลัดเลาะไปได้สะดวก โดยไม่ต้องไปออกถนนใหญ่สุขุมวิทหรือเพชรบุรีเลยค่ะ
การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า
จากทำเลโครงการอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าทั้งใต้ดินและบนดิน (MRT + BTS) สถานีอโศกสุขุมวิท ที่ระยะทางประมาณ 1 กม. และอยู่ห่างจาก BTS สถานีพร้อมพงษ์ประมาณ 1.4 กม. เรื่องรถไฟฟ้านี่แม้ว่าไม่ได้อยู่ในระยะเดินจากโครงการได้สบาย แต่ก็มีตัวช่วยในการเดินทางอย่างพี่วิน ที่หาได้ไม่ยากเลยในซอยนี้
การเดินทางด้วยทางด่วน
1. ทางขึ้นทางด่วนที่ใกล้โครงการมากที่สุดคือทางขึ้นทางด่วนศรีรัช บริเวณถนนอโศก – ดินแดง เป็นเส้นทางด่วนที่สามารถเชื่อมไปยังทางด่วนเฉลิมมหานครต่อไปได้ ที่ใช้วิ่งออกเมืองได้หลายทางเช่น ไปดอนเมือง-รังสิต, ไปนนทบุรี เป็นต้น
ถ้าเริ่มต้นจากโครงการจะไปขึ้นทางด่วนศรีรัช ให้ออกทางซอยเพชรบุรี 38/1 เพื่อเข้าสู่ถนนเพชรบุรี วิ่งตรงไปที่แยกอโศก – เพชรบุรี แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนอโศก – ดินแดง ทางขึ้นทางด่วนจะอยู่ทางซ้ายมือ ประมาณ 3 กม. จากโครงการค่ะ
2. หากต้องการออกนอกเมืองไปทางสนามบินสุวรรณภูมิ หรือออกไปทางชลบุรี ก็สามารถใช้ทางด่วนศรีรัช (ทางฝั่งออกเมือง) เชื่อมไปต่อมอเตอร์เวย์ได้
ถ้าเริ่มต้นจากโครงการก็ออกทางซอยเพชรบุรี 38/1 เพื่อเข้าสู่ถนนเพชรบุรี แล้ววิ่งตรงไปที่แยกอโศก – เพชรบุรี เหมือนเส้นทางแรก จากนั้นขวาเข้าถนนอโศก – ดินแดง ข้างทางขึ้นทางด่วนทางที่ 1 จะมีทางไปกลับรถเพื่อไปขึ้นทางด่วนฝั่งออกเมือง ระยะประมาณ 6.6 กม. จากโครงการค่ะ
จากที่บอกแล้วว่าการเข้าถึงโครงการสามารถเข้าได้จากหลายเส้นทาง วันนี้จะพาไปดูเส้นทางเข้าสู่โครงการสัก 3 เส้นทาง ซึ่งจริงๆ ระยะทางของแต่ละเส้นต้องใช้รถยนต์นะคะ สำหรับการพาชมเส้นทางในวันนี้จะขอตะลุยพา “เดินเท้า” เพื่อดูบรรยากาศในซอย มาดูความอุดมสมบูรณ์กันว่าจะมีร้านอะไรบ้าง และมีร้านอาหารให้เลือกมากแค่ไหน 😀
เส้นทางแรกเริ่มจากรถไฟฟ้าสถานีพร้อมพงษ์ และเดินตามทางมาเข้าซอยสุขุมวิท 31 ตามเส้นทางที่ทำมาประกอบในแผนที่เลยนะคะ จากรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ถึงโครงการมีระยะทางประมาณ 1.5 กม.
บรรยากาศของสถานีพร้อมพงษ์ ออกจากรถไฟฟ้าแล้วเราจะพาเดินลงบันไดไปออกจากสถานีกัน
แผนที่จากทางสถานีค่ะ (ดูแผนที่ขนาดจริง “คลิ๊กที่นี่“)
ป้ายทางออกของสถานีว่าไปไหนได้บ้าง ให้เลือกทางออก 1, 2 เป็นเส้นทางเดียวกับทางเขื่อมเข้าศูนย์การค้าใหญ่ในย่านนี้ทั้ง Em Quartier และ ดิ เอ็มโพเรียม
ออกจาก BTS มาก็เจอทางเชื่อมเข้า Em Quartier เลย ศูนย์การค้านี้มีทั้งโซนช๊อปปิ้ง และ อาคารสำนักงานภิรัชทาวเวอร์ วันธรรมดาคนก็เยอะดีคะ ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนและญี่ปุ่น
อีกฝั่งหนึ่งก็เป็นทางเชื่อมเข้า ดิ เอ็มโพเรียม ซึ่งศูนย์การค้าทั้ง 2 เป็นแหล่งช๊อปปิ้งระดับ High-En นะคะ
เดินตามทาง Sky Walk มาเรื่อยๆที่ทางออก 5 ทางฝั่งขวา
มองเลยมาฝั่งตรงข้ามนิดหนึ่งจะมีสวนสาธารณะเบญจสิริ ที่อยู่ติดกับศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม เวลาเย็นๆ จะคนมาออกกำลังกายเพียบเลย
เดินตามทางออก 5 มาที่ทางลง เป็นถนนสุขุมวิทฝั่งเลขคี่นะคะ
ลงมาจากสถานีแล้ว จะเดินตามริมถนนไปจนถึงปากซอยสุขุมวิท 31 ตลอดทางเดินก็มีความคึกคักมากเลย มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร และอาคารสำนักงานยาวตลอดเส้นทางค่ะ
ร้านอาหารนี่มีหลายชาติให้เลือกมากเลย อย่างร้านนี้ก็ The Robin Hood ผับสไตล์อังกฤษ ที่อยู่ด้านหน้าซอยสุขุมวิท 33/1
ด้านหน้าร้าน The Robin Hood มีวินมอเตอร์ไซค์ ที่ใกล้กับทางลง BTS ที่สุด ถ้าลงจาก BTS แล้วจะเรียกพี่วินเข้าโครงการก็เรียกได้ตั้งแต่ตรงนี้เลย ราคาก็อยู่ที่ประมาณ 25-30 บาท
เดินต่อไปตามทางก็จะผ่านร้านแว่นตาบุญเท่ง ร้านนวด นี่ก็จะเห็นอยู่หลายร้านเลย
ต่อมาก็เป็นธนาคารกรุงศรี สำหรับย่านที่มีชาวต่างชาติเยอะแบบนี้ทางธนาคารก็ขึ้นป้ายรับแลกเงินไว้เด่นเลย
ติดกันมีร้านเสริมสวยทั้งรับทำผมและสปาเล็บ ถัดไปเป็นร้านอาหาร Subway ที่เปิดตลอด 24 ชม.
ถ้าจะช๊อปปิ้งวัตถุดิบปรุงอาหาร /อาหารสำเร็จรูป หรือพวกของใช้ในบ้านก็มี Villa Market ให้เลือกซื้อได้
ถัดไปเป็นอาคารสำนักงานใหญ่ UBC II ที่ใต้ตึกมี Starbuck Coffee ด้วย
มองข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามเป็น Dinosaur Planet ที่เป็นสวนสนุกแห่งใหม่ บนพื้นที่ Emsphere ของ Em District ใจกลางกรุงเทพมหานคร
กลับมาที่ฝั่งสุขุมวิทเลขคี่ ถัดมาไม่ไกลจากอาคารสำนักงาน UBC II จะมีอาคารสำนักงานใหญ่อีกแห่งหนึ่ง คืออาคารสำนักงาน RSU Tower
ซึ่งอาคาร RSU Tower จะอยู่ตรงหัวมุมหน้าปากซอยสุขุมวิท 31 พอดี มองเลยไปอีกฝั่งหนึ่งของซอยเป็นโรงแรม S 31
จากซอยสุขุมวิท 31 จะตรงกับแยกสวัสดีพอดี ทำให้ซอยนี้สามารถเลี้ยวเข้าจากถนนสุขุมวิทได้ทั้งขาเข้าเมือง และขาออกเมืองได้เลย
สำหรับซอยสุขุมวิท 31 มีชื่อเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า ซอยสวัสดี เป็นถนน 2 เลน ไปกลับ ด้านข้างมีฟุตบาทให้เดินได้สะดวกทั้ง 2 ฝั่ง
เดินตามฟุตบาทเข้ามาในซอย ผ่านตึก RSU Tower เข้ามา จะมีร้านขนมชื่อดัง Au Bon Pain เปิดขายอยูที่ชั้นล่าง
ส่วนฝั่งตรงข้ามที่เป็น โรงแรม S31 จะมีพี่วินคอยให้บริการอยู่ที่ทางด้านหน้าของโรงแรม ถ้าเรียกพี่วินจากตรงนี้เข้าไปยังโครงการก็ สนน. ราคาอยู่ที่ 20 บาทค่ะ
เดินเข้ามาในซอยเรื่อยๆ ผ่านโรงแรม อโมร่า นีโอลักซ์ สวีท ระดับ 4 ดาว
ฝั่งตรงข้ามเป็นคอนโดรุ่นพี่อย่าง Le Raffine Jambunuda Sukhumvit 31 สูง 30 ชั้น ซึ่งเป็นคอนโดหลายปีแล้ว การแบ่งห้องเน้นพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่แบบ Penthouse
เดินเข้ามาในซอยบรรยากาศส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ที่เปิดชั้นล่างเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ก็จะมีตั้งแต่ร้านนั่งชิวแบบคาเฟ่ ไปจนถึงร้านอาหาร ส่วนร้านอื่นๆ ก็จะมีพวกร้านทำผม ร้านตัดเสื้อผ้า ดูๆ ไปร้านพวกนี้เหมือนจะเอาใจกลุ่มแม่บ้านชาวต่างชาติที่ส่วนใหญ่เป็นญี่ปุ่น กับกลุ่มผู้มีอันจะกินที่อยู่อาศัยในย่านนี้ค่ะ
ถ้ดมาเป็น Service Apartment สไตล์ฝรั่งเศส Paradiso 31 สูง 8 ชั้น
ไม่ไกลกันมีร้านอาหารญี่ปุ่นแบบปิ้งย่าง Japanese BBQ Restaurant
ฝั่งตรงข้ามเป็น Chocolate Cafe’ ร้านเค้กเบเกอรี่ในตำนาน “Cherubin” เมนูที่อยากจะแนะนำคือ Caramelly Monkey, Nuts About Chocolate ราคาแต่ละชิ้นก็ร้อยกว่าบาทค่ะ
ถัดมาเป็นร้าน Foot Master แบบครบวงจร ที่มีทั้ง Therapeutic Massage, Head Neck & Shoulder Massage, Thai Massage, Foot Reflexology, Milk Bath, Herbal Compress, Foot Spa
ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านเสริมสวยและทำผม ติดกันเป็นอาคารสำนักพิมพ์ นานมี บุ๊คส์
นอกจากร้านเสริมสวย และร้านอาหารต่างๆ ที่ติดกับซอยสุขุมวิท 31 แล้ว ยังมีร้านอาหารแนวๆ ที่อยู่เข้าไปในซอยย่อยอีกด้วยนะคะ อย่างร้านอาหาร Antonio’s ที่เข้าจากทางซอยย่อยสุขุมวิท 29 ค่ะ
เนื่องจากซอยนี้ผู้คนส่วนใหญ่นิยมใช้เป็นเส้นทางลัด ทำให้การจะเรียกแท๊กซี่ในซอยนี้หาไม่ยากนะคะ
ต่อไปเป็นร้าน Cassia Cafe ร้านอาหารสไตล์ผู้ดีอังกฤษ เมนูอาหารจะเป็นประเภททานกันเองในบ้าน โดยเน้นรสชาติโฮมเมด อย่างเช่น อาหารเช้าจะมีครัวซองต์ แซนด์วิช อาหารหลักมี พอร์คพาย พายไก่ สตูว์หางวัว เป็นต้น
นอกจากสไตล์ร้านอาหารแบบต่างชาติแล้ว ฝั่งตรงข้ามยังมีร้านอาหารอีสานให้เลือกทานด้วย
เดินเข้ามาในซอยอีกหน่อยจะมีร้านอาหารสไตล์อิตาเลียน ที่ใช้สูตรตามต้นตำรับของชาวโรมัน ซึ่งได้ยกชื่อถนนที่อิตาลีมาตั้งเป็นชื่อร้านว่า Appia
ถัดมาไม่ไกลคือร้าน Harvest Restaurant ร้านอาหารฝรั่งในสไตล์เมนิเตอร์เรเนียน ที่ตกแต่งในสไตล์บ้านไร่แบบตะวันตก
เดินเข้ามาในซอยอีกหน่อยจะเจอกับสี่แยก ที่เป็นจุดเชื่อมกันระหว่างซอยพร้อมจิตรกับซอยสวัสดี จากตรงนี้ให้เลี้ยวซ้ายไปค่ะ เป็นทางเดียวที่ใช้ออกไปทางถนนอโศก และเป็นทางที่ไปทะลุถนนเพชรบุรีได้นะคะ ทำให้ถนนเส้นนี้ถูกใช้เป็นทางลัดหลักและมีรถหนาแน่นอยู่เสมอเลย
จุดสังเกตุของทางเลี้ยวคือมีร้านอาหารสไตล์โฮมเมดตรงหัวมุมที่มีชื่อว่า Home Work
เลี้ยวเข้ามาเรียบร้อยบรรยากาศจะเป็นแบบตึกแถวที่เปิดชั้นล่างเป็นร้าน Massage เรียงกันอยู่หลายร้านเลย
ตามทางมาเรื่อยๆ จะเป็นทางบังคับเลี้ยวขวา ตรงหัวมุมมีร้านอาหารอีกร้านหนึ่งที่ตกแต่งดูสะดุดตาทีเดียว
เป็นร้านเบเกอรี่ Holey Artisan Bakery จุดเด่นของขนมปังโฮมเมดที่นี่จะใช้เวลา 2-3 วันในการทำ ส่วนเบเกอรี่ที่นี่ก็ใช้ของโฮมเมดทุกขั้นตอน รวมทั้ง แยม หรือเกลซซิ่งบนโดนัท
ถัดมาไม่ไกลมีร้าน MRS.BANGONSRI & SONS (มิสซิส บังอรศรี แอนด์ ซันส์) ร้านขายของวินเทจที่นำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ ไปจนถึงงานศิลปะ
ฝั่งตรงข้ามมีร้านเค้กเก่าแก่ Mousses & Meringue ที่มีเมนูเด็ดอย่างเช่น Carrot Cake , สตอเบอรี่ชีสเค้ก , Iced Cappuchino , Mixberry Cheesecake
ถัดมาไม่ไกลมีร้านอาหารสไตล์เกาหลีชื่อดัง Bibimbub ที่มีบริการ Delivery ด้วยนะคะ
ตรงมาอีกหน่อยจะผ่านรั้วส้มๆ ของโรงเรียนสวัสดีวิทยา ซึ่งอยู่ตรงหัวมุมทางแยกที่สามารถเลี้ยวซ้ายไปออกทางอโศกได้ สำหรับทางไปโครงการจะตรงผ่านแยกไปนะคะ
ผ่านแยกมาแล้วความคึกคักจะลดลงหน่อย โซนนี้จะดูมีความสงบมากขึ้น คนไม่ค่อยพลุกพล่าน
เดินตรงมาได้หน่อย ฝั่งขวาของซอยจะผ่าน The Eugenia โรงแรมและห้องอาหารที่มีกลิ่นอายความเป็นไทยผสมกับฝรั่งเศส สำหรับอาหารก็มีให้เลือกทั้งอาหารไทย อเมริกัน และฝรั่งเศสเลยค่ะ
ถัดมาไม่ไกลก็จะมีร้านอาหาร Le Vendome อีกแห่งหนึ่ง เปิดจันทร์ถึงเสาร์ ช่วงกลางวันเปิดเวลา 11.30 น. -15.00 น. และ ช่วงเย็นเปิดตั้งแต่ 18.00 น. – 23.00 น. จากร้านอาหารตรงนี้อีกประมาณ 50 ม. ก็จะถึงที่ตั้งของโครงการ Fynn สุขุมวิท 31 กันแล้วค่ะ
เดินมาตามทางเรื่อยๆ ถนนช่วงหน้าโครงการจะไม่มีฟุตบาทแล้วนะคะ จะต้องเดินชิดขอบถนนเอา แต่คนที่อยู่อาศัยในย่านนี้ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเดินกันหรอกค่ะ จะนั่งรถหรือขับรถกันมากกว่า
ถึงแล้วค่ะที่ตั้งของโครงการ Fynn สุขุมวิท 31 หน้าโครงการถูกล้อมรั้วไว้เรียบร้อย
ภายในกำลังก่อสร้างกันอยู่นะคะ มาดูที่ดินกับโครงการโดยรอบกันว่าจะติดกับอะไรบ้าง
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
แผนที่แสดงสภาพแวดล้อมรอบๆข้างในระยะประชิด จะประมาณนี้นะคะ ไล่จากด้านบนมาเลยทางทิศเหนือของแปลงที่ดินจะติดกับคอนโดรุ่นพี่ Voque สุขุมวิท 31 ที่มีความสูง 8 ชั้นพอๆกัน ส่วนทางทิศตะวันออกจะเป็นด้านหน้าโครงการที่ติดกับซอยสุขุมวิท 31 ซึ่งฝั่งตรงข้ามเป็นแปลงที่ดินของบุคคลอื่น ด้วยขนาดแปลงที่ดินก็มีขนาดใหญ่พอสมควรให้ขึ้นอาคาร Low Rise ได้ ก็ต้องมารอลุ้นกันต่อไปค่ะ ส่วนทางทิศใต้จะติดกับถนนซอยเล็กๆ เป็นทางเข้าของบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ส่วนด้านหลังจะติดกับอาคารเรียนของโรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ประมานมิตรค่ะ
เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นก็ถ่ายรูปบริเวณโดยรอบมาฝาก ด้านข้างที่ดินฝั่งซ้ายติดกับซอยที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นทางเข้าของบ้านเดี่ยว 2 หลัง
ทำให้พื้นที่ที่ติดกับโครงการฝั่งนี้จะมีพื้นที่ทางเดินรถในซอยคั่น ไม่ได้ติดกับบ้านพักอาศัยโดยตรง สุดซอยจะเป็นด้านหลังของอาคารจอดรถ 6 ชั้น
เดินเข้ามาในซอยจะพามาดูที่ดินด้านในว่าติดกับอาคารเรียนของโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ประสานมิตร ที่สูงประมาณ 10 ชั้น
ส่วนพื้นที่โครงการทางฝั่งขวาจะติดกับคอนโด Low Rise รุ่นพี่อย่าง Voque สุขุมวิท 31 ที่สูง 8 ชั้นเท่าๆกัน พอจะเข้าใจตำแหน่งที่ตั้งโครงการกันแล้วนะคะ ต่อไปเราจะพาไปชมการเข้าถึงโครงการจากเส้นทางอื่นๆ กันต่อค่ะ
หลังจากที่เส้นทางแรกเราได้เดินมากจาก BTS พร้อมพงษ์ แล้วเข้าทางซอยสุขุมวิท 31 ที่เป็นซอยหลักของโครงการกันแล้ว สำหรับเส้นทางที่ 2 จะพามาจากทาง MRT สุขุมวิท กันบ้าง ซึ่งจะมีทางลัดในตึก Intercahnge ที่สามารถทะลุมาออกในซอยสุขุมวิท 23 ได้เลย จริงๆ แล้วเส้นทางนี้เป็นเส้นทางจาก MRT+BTS ที่ใกล้กับโครงการที่สุดนะคะ ไปดูกันค่ะ
บรรยากาศของสถานี MRT สุขุมวิท เนื่องจากเป็นสถานี Intercahnge และเป็นย่าน CBD ที่สำคัญทำให้สถานีนี้จะมีคนใช้บริการที่เยอะเป็นพิเศษกว่าสถานีอื่นๆ นะคะ
แผนที่ MRT สถานีสุขุมวิท ทางออกที่ใกล้โครงการคือทางออกที่ 2 มุ่งหน้าไปยังตึก Interchange 21 เพื่อทะลุไปยังซอยสุขุมวิท 23 ค่ะ
ไปตามทางออก 2 นะคะ
ทางออก 2 จะมาออกข้างๆทางเข้าตึก Intercahnge เลยค่ะ ออกมาแล้วก็เลี้ยวซ้ายเข้าตึกไปตรงป้าย Family Mart
เข้ามาในอาคารจะมีร้านค้าให้ช๊อปปิ้งได้นิดหน่อย เผื่อเวลาจะกลับบ้านแล้วอยากแวะซื้อของทานง่ายๆ ก็เลือกซื้อที่ใต้ตึกนี้ได้นะคะ
เดินผ่านตึกเข้ามาจะมีป้ายติดชัดเจนเลยว่า “ทางลง ซอย 23 ” ให้เข้าไปในตึกนี้ ก็เข้าไปกันเลย
เข้าภายในตึกจะมีร้านขายโทรศัพท์ Telewiz เราก็ลงบันไดมาชั้นล่างจะเป็นทางออกซอย 23 ซึ่งระหว่างทางเดินก็จะมีร้านขายขนมพวกเบเกอรี่ด้วยนะ
เดินตามมาก็จะเจอกับทางออก มองไปสุดจะเจอพี่วินต่อแถวกันอยู่เลยค่ะ ถ้าเรียกพี่วินจากตรงนี้ไปโครงการก็อยู่ที่ประมาณ 15 บาทนะคะ
จากตึก Interchange เดินเข้าซอยสุขุมวิท 23 ไป เป็นถนน 2 เลนไปกลับ 2 ข้างทางมีฟุตบาทให้เดินได้สะดวกตลอดแนวนะคะ
เดินมาไม่ไกลจะมีร้าน Queen Victoria Pub & Restaurant ซึ่งบรรยากาศร้านในซอย 23 จะเป็นแบบร้านเหล้านั่งชิวซะเยอะนะ ต่างจากในซอย 31 ที่ส่วนใหญ่จะเป็นพวกร้านอาหาร เบเกอรี่ นะคะ
เดินมาอีกหน่อยจะผ่านคอนโด MUNIQ Sukhumvit 23 สูง 36 ชั้นของ Major ที่กำลังก่อสร้างอยู่นะคะ
เดินมาเรื่อยๆ จะเจอร้านอาหาร Slanted Taco เป็นร้านอาหารสไตล์เม็กซิกัน อยู่ในเวิ้งเดียวกับร้าน Whisgars วิสกี้ แอนด์ ซิการ์ บาร์ และ Craft บาร์สำหรับคอเบียร์คราฟต์ค่ะ
ติดกับกับร้านเป็นสามแยก ซึ่งทางไปโครงการให้เลี้ยวขวาไปนะคะ เป็นทางเดียวกับทางลัดที่จะเชื่อมไปออกถนนเพชรบุรี และถนนสุขุมวิทฝั่งทางพร้มพงษ์ได้
เลี้ยวมาไม่ไกลจะผ่านร้านอาหารไทยฉบับต้นตำรับ คือร้าน “วนคาม” ที่อยู่ทางซ้ายมือ
ถัดมาอีกหน่อยมีร้านก๋วยเตี๋ยวเรือแสนแสบ เจ้าอร่อยเลยแหละค่ะ ร้านนี้ไม่ได้มีแค่ก๋วยเตี๋ยวเรือนะ ยังมีเมนูข้าวแบบโฮมเมด ที่ขึ้นชื่อเลยคือข้าวผัดเนื้อเค็ม ปิดท้ายด้วยไอศกรีมโฮมเมดอีกเช่นกันค่ะ
สำหรับร้านนวดก็ยังหาได้ไม่ยากเลยนะคะ เอาใจคุณแม่บ้านน่าดู เวลากลางวันว่างๆ ก็ออกมาหาร้านนวดผ่อนคลายได้ ส่วนร้านหัวมุมเป็นร้าน Pak Bakery ที่ขอแนะนำเลยว่าห้ามพลาด โดยเฉพาะขนมปังเนยสด หอมอร่อยสุดๆ
ติดกับหัวมุมเป็นแยกสำหรับเชื่อมซอยประสานมิตร ซอยนี้เป็นทางเข้าไปมหาวิทยาลัย มศว. นะคะ ส่วนทางไปโครงการก็ตรงต่อไปตามซอยสุขุมวิท 23 ค่ะ
ข้ามแยกมาไม่ไกลก็เจอร้าน Chunky S23 ที่มีให้เลือกทานทั้งเบอร์เกอร์ สลัด สปาเกตตี้
เยอะจริงๆค่ะ ร้านอาหารในซอยนี้และเป็นอาหารที่หลากหลายชาติมากๆด้วย อย่างทางซ้ายจะผ่านร้านอาหารเวียดนาม Madam T. ค่ะ
ฝั่งตรงข้ามเป็น Entertainment Complex ชื่อร้าน Pegasus
จกานั้นก็ตามทางมาเรื่อยๆ ทางจะบังคับให้เลี้ยวซ้ายค่ะ
สังเกตุดูรถจะติดฝั่งตรงข้ามตลอดแนวเลยนะคะ เพราะฝั่งตรงข้ามเป็นเส้นทางลัดที่ไปออกถนนอโศกค่ะ ส่วนขาวิ่งเข้าโครงการจะไม่ค่อนติดนะ
ตามทางมาเรื่อยๆ จะมีคาร์แคร์ล้างรถ ” Sukhumvit 23 Car Wash ”
เข้ามาในซอยอีกหน่อยจะเห็นร้านขายเฟอร์นิเจอร์ร้านใหญ่เรียงกันอยู่ 2-3 ร้าน
ถัดมาอีกไม่ไกลจะถึงสามแยก ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของซอยสุขุมวิท 23 ตรงจุดที่เชื่อมกับซอยสุขุมวิท 31 (ซอยสวัสดี) สำหรับทางไปโครงการก็เลี้ยวขวาไปทางซอยสวัสดีค่ะ
เลี้ยวขวาเข้าซอยสวัสดีมาเรียบร้อย ฝั่งขวาจะเป็นสวัสดีพลาซ่า เวิ่งอาคารพาณิชย์ที่เปิดเป็นธุรกิจหลายอย่าง เช่น ร้านอาหาร โรงเรียนสอนดนตรี ศูนย์แนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศ เป็นต้น
ติดกันเป็นร้านอาหาร Silom Village ซอยสวัสดี เมนูอาหารมีตั้งแต่ไทยดั้งเดิม อาหารไทย และเมนู Seafood
ฝั่งตรงข้ามเป็นคอนโดมิเนียมรุ่นพี่อย่าง Residence สุขุมวิท 31 ของ Major ซึ่งเป็นคอนโด High Rise ที่มาในสไตล์อังกฤษ
ติดกับคอนโดเป็นร้านอาหารอีกเช่นเคย ก็มีให้เลือกทั้งร้านอาหารไทย อาหารฝรั่งเศส และอาหารญี่ปุ่นกันเลย
เดินต่อมาอีกหน่อยจะผ่านโรงเรียนสวัสดีวิทยา ที่อยู่ตรงหัวมุมสามแยกพอดี
จากตรงนี้ก็จะชนกับเส้นทางเดินที่ 1 แล้วนะคะ ทางไปโครงการก็เลี้ยวซ้ายไป ตรงไปอีกประมาณ 180 ม. ก็จะถึงโครงการแล้วค่ะ
พอเลี้ยวซ้ายแล้วตรงมาเรื่อยๆ เหมือนเส้นทาง 1 ก็จะถึงที่ตั้งโครงการแล้วค่ะ
ต่อไปคือเส้นทางสุดท้ายที่จะพาไปเดินชมบรรยากาศในวันนี้ จะเริ่มเดินมาจากทางฝั่งด้านหลังที่ถนนเพชรบุรีบ้าง ขอบอกเลยว่าความอุดมสมบูรณ์ไม่แพ้กับ 2 เส้นทางแรกเลย จะเป็นอย่างไรไปกันต่อเลยค่ะ 🙂
เริ่มต้นจากแยกพร้อมพงษ์ เป็นแยกที่ตัดกันระหว่างถนนเพชรบุรีกับซอยเพชรบุรี 38/1 ซึ่งทางไปโครงการจะต้องเข้าไปในซอย 38/1 นี้นะคะ
อาคารที่อยู่ตรงหัวมุมคืออาคารสำนักงาน Italthai Tower ซึ่งชั้นล่างก็มีร้านอาคาร คาเฟ่ หลายร้าน เช่น ร้าน SNP Headquarter ร้านอาหารและเบเกอรี่ที่ทาง S&P จัดให้ร้านนี้เป็นเหมือนที่เริ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อให้ลูกค้าได้ลองรสชาด ก่อนส่วไปยังสาขาอื่นๆ
จากแยกพร้อมพงษ์ก็เดินเข้ามาในซอยกันเลยนะคะ ซอยนี้บรืเวณที่เชื่อมกับถนนเพชรบุรีจะเป็น 4 เลนไปกลับ แต่พอช่วงขึ้นสะพานข้ามคลองไปแล้วจะเป็นถนน 2 เลน ไปกลับค่ะ
ช่วงก่อนขึ้นสะพานจะมีพี่วินคอยให้บริการอยู่
ราคาก็ตามนี้เลย จากที่ถามราคาพี่วิน ถ้าเรียกไปโครงการก็เสียค่าโดยสารประมาณ 30 บาท
เราเดินข้ามสะพานข้ามคลองแสนแสบเพื่อเข้าไปยังซอยสุขุมวิท 39 นะคะ
มองมาที่คลองแสนแสบ มีโป๊ะขึ้นเรือด้วย เส้นทางนี้เข้าเมืองไปถึงราชเทวี สยาม ได้เลยนะ
ข้ามสะพานมาฝั่งขวาจะเห็นโครงการ ” Taka Town ” แหล่งรวมร้านอาหารอีกที่หนึ่งในย่านนี้ จะพาข้ามถนนไปดูกันนะ ว่าภายในมีร้านอะไรบ้าง
ภายใน Taka Town เป็นศูนย์รวมร้านอาหาร โดยส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีร้าน Car Wash ด้วย
ร้านอาหารที่มีใน Taka Town ได้แก่ ร้าน Maybe, ร้านเรือด่วน กะ เรือชิลล์, ร้าน The Treasure Box และร้านขายของอย่าง Ribbee Ukulele Center
เดินออกจาก Taka Town มุ่งหน้าเข้าในซอยสุขุมวิท 39 กันต่อ ฝั่งขวาจะผ่านเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ Living @ Citi Resort
ฝั่งตรงข้ามเป็นร้าน Provencal จำหน่ายของตกแต่งบ้านสไตล์โพรวองซ์
ถัดไปไม่ไกลเป็น Shinsen Fish Market ร้านที่รวบรวมทั้งซีฟู้ดเป็นๆ สดๆ หลากชนิด ให้เลือกมาปรุงเป็นเมนูโปรด หรือจะเลือกซื้อกลับไปปรุงกันเองก็ได้
ตรงเข้ามาเรื่อยๆ จะเป็นทางบังคับเลี้ยวซ้าย อาคารที่อยู่ตรงแยกพอดีคือ Citi Resort ตรงนี้จะเป็นแหล่งช๊อปปิ้งของใช้เข้าบ้าน และยังอาหารทานได้ที่นี่ด้วยค่ะ
พาเข้ามาดูบรรยากาศภายในกันหน่อย จะมี Fuji Supermarket ที่ขายทั้งของใช้ อาหารสด และอาหารปรุงสำเร็จพร้อมทาน และยังมีร้านกาแฟ Starbuck ด้วยนะคะ
อาหารปรุงสำเร็จใน Fuji Supermarket จะเน้นเป็นพวกอาหารญี่ปุ่น ส่วนพวกผักผลไม้ก็มีนะคะ เป็นแบบเกรดดี ราคาจะสูงกว่าตาม Tesco Lotus ขึ้นมาค่ะ
ออกมาจาก Citi Resort แล้ว ก็เลี้ยวซ้ายไปตามทางวันเวย์เลยค่ะ
ตามทางมาเรื่อยๆ จะผ่าน โรงแรม Centre Point Residence ทางขวามือ
ถัดไปเป็นคอนโดอีกแห่งหนึ่ง The Cadogan Private Residences by KPN
เยื้องๆ กันจะมีร้านขนมที่ตกแต่งร้านในสไตล์ฝรั่งเศศ ชื่อร้าน La Creperie
ถัดไปไม่ไกลเป็นคอนโด Maestro 39 จาก Major Development จากที่เห็นช่วงบริเวณนี้จะมีแค่บ้านคนอาศัยอยู่ดั้งเดิมสลับกับ Service Apartment, Hotel หรือ Condominium แบบนี้
ตามทางวันเวย์มาเรื่อยๆ จะผ่าน Tubtim Mansion
ติดกันเป็นร้านอาหารอรรถรส ในเครือของบริษัท บุญรอดฯ มีอาหารหลายสไตล์ตั้งแต่ไทยไปจนถึงฝรั่ง
ฝั่งตรงข้ามเป็นโรงแรม 137 Pillars Suites & Residences
เดินตามทางเข้ามาเรื่อยๆ ฝั่งขวาจะผ่านตึก Bio House เป็นอาคารสำนักงานในซอยสุขุมวิท 39 ซึ่งอยู่ตรงหัวมุมสามแยกที่จะเลี้ยวไปทางซอยพร้อมจิตรค่ะ
สามแยกเป็นแยกที่เชื่อมซอยสุขุมวิท 39 เข้ากับซอยพร้อมจิตร โดยซอยนี้จะเป็นทางลัดสำคัญที่ไปเชื่อมกับซอยสุขุมวิท 33 และ 31 จะเป็นถนนวันเวย์ต่อเนื่องมาเลย
เลี้ยวขวาเข้ามาในซอยพร้อมจิตรเรียบร้อย ฝั่งขวายังคงเป็นอาคารสำนักงาน Bio House ซึ่งชั้นล่างของอาคารก็จะมีฟิตเนส มีร้านค้าเล็กๆ ร้านรับส่งไปรษณีย์ เป็นต้น
ส่วนฝั่งซ้ายจะผ่าน L’OPERA Pizzeria ร้านอาหารประเภทพิซซ่า
ถัดมาจะผ่านคอนโด Above จาก แอสเซท ไบร์ท โครงการแบ่งขนาดห้องค่อนข้างใหญ่ประมาณยูนิตละ 200-300 ตร.ม. ทำให้เวลาคิดราคา Total รวมต่อห้องออกมาแล้วราคาจะจับต้องยาก จึงเป็นคอนโดหรูโครงการหนึ่งในทำเลนี้
ถัดมาอีกหน่อยทางขวามือจะเจอร้านอาหาร Beirut Lebanese Restaurant พื้นที่ภายในค่อนข้างกว้าง มีที่จอดรถให้พอประมาณ
ตรงมาอีกนิดนึงจะเจอกับสามแยก ที่ถ้าเลี้ยวขวาซอยพร้อมศรี จะลัดไปถนนเพชรบุรีได้ แต่เราต้องตรงๆนะคะ ฝั่งซ้ายเป็นเวิ้งร้านอาหารชื่อ The Seed ส่วนอีกเวิ้งหนึ่งที่เยื้องๆ กันคือ 39 Boulevard Residence
ภายใน The Seed จะมีภัตตาคารอาหารจีนหงเปา มีร้านขายเฟอร์นิเจอร์ Art of Living
ส่วนที่ 39 Boulevard Residence เป็น service apartment รายวันและรายเดือนนะครับ แถมชั้นล่างยังเป็นแหล่งรวมร้านอาหารอยู่หลายร้านด้วย ร้านอาหารก็มีให้เลือกหลายสไตล์ทั้งอาหารญี่ปุ่น Yokio Udon, UOMASA หรือพวกอาหารฝรั่งเศสอย่าง Whale’ Belly
ตรงต่อไปเรื่อยๆ ขวามือผ่านหน้า @27/1 ข้างในมีร้าน Jaiyen Cafe ชื่อดังแถวนี้ ต้องแวะมาทาน เป็นร้านไอศรีมเล็กๆ บรรยากาศน่ารัก มานั่งถ่ายรูป นั่งชิลๆ เหมาะกับการหลบอากาศร้อนๆได้ เเต่อาจจะกดดันนิดหน่อยเพราะคนเข้ามาเรื่อยๆ และที่นั่งน้อยมาก
ถัดไปไม่ไกลมีร้าน Peppina เป็นร้านพิซซ่าสไตล์อิตาเลียนแท้ๆ
ตรงต่อมาจะเจอกับสี่แยกที่เชื่อมซอยพร้อมจิตรเข้ากับซอยสวัสดี แยกนี้เราเคยเดินผ่านในเส้นทางที่ 1 แล้ว จำได้ไหมคะ ที่หัวมุมแยกมีร้าน Home Work จากตรงนี้ก็ตรงไปตามเส้นทางแบบเดียวกับเส้นทางทางที่ 1 เลย
ผ่านเข้ามาในซอยตามทางไปเรื่อยๆ
เลี้ยวขวาตามทางบังคับ แล้วก็ตรงไปเรื่อยๆ
โครงการจะอยู่ทางขวามือค่ะ วันนี้ก็ขอบจบการพามาชมรีวิวทำเลเท่านี้นะคะ
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับทำเลคร่าวๆ ของโครงการ Fynn สุขุมวิท 31 เหมือนอย่างที่บอกไว้ในตอนต้นไหมคะว่าเป็นทำเลที่อุดมสมบูรณ์จริงๆ แต่ต้องขยันเดินหรือขับรถกันหน่อย สำหรับรีวิวฉบับเต็มที่จะเจาะลึกรายละเอียดของตัวโครงการคงต้องอดใจรอกันอีกนิด เมื่อสำนักงานขายเสร็จเรียบร้อยและมีรายละเอียดของโครงการที่ครบถ้วน ทางเราจะเข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิวตัวเต็มอีกทีค่ะ 😀
