รีวิวโครงการ

คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.45 (2/2) – บ้านทิวทะเล เฟส 2 “Blue Sapphire” by Issara United [ตากอากาศ]

28 กันยายน 2013

อ่านรีวิวล่าสุด

บ้านทิวทะเล2

รีวิวฉบับที่ 432 … Mr.Oe พาไปเที่ยวทะเลครับ โครงการ บ้านทิวทะเล ชะอำ-หัวหิน เฟส 2 ชือเล่น “Blue Sapphire” ของ Issara United หรือ รวมอิสสระ ซึ่งเป็นการร่วมมือกันของ กลุ่มชาญอิสสระ กับสหพัฒนพิบูลย์ และ ICC ตัวโครงการ อยู่ติดหาด ชะอำ ติดๆกันกับบ้านทิวทะเล เฟส 1 ซึ่งผมเคยพาไปดูมาแล้ว แต่เฟส 2 นี้จะออกแนวอายุน้อยกว่า สีสันสดใส อารมณ์ต่างกันชัดเจน

Fact @ 29 Aug 2013

  • บ้านทิวทะเล ชะอำ-หัวหิน เฟส2 “Blue Sapphire”
  • รวมอิสสระ (ชาญอิสสระ + สหพัฒนพิบูลย์ +ICC International)
  • MAIN – UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • คอนโด High Rise 15 ชั้น 1 อาคาร และ Low Rise 4 ชั้น 2 อาคาร  รวม 421 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 15 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ  150 คัน คิดเป็น 50%
  • ที่ดินประมาณ 15-1-47 ไร่
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2558
  • 1 Bedroom ขนาดประมาณ 36 ตารางเมตร
  • 2 Bedrooms ขนาดประมาณ 70 ตารางเมตร
  • 3 Bedrooms ขนาดประมาณ 159 ตารางเมตร
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.9 ล้านบาท
  • ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 73,000  – 130,000 บาท
  • ขายแบบ Fully Furnished
  • http://www.baanthewtalay.com/phase2/
  • โทร 088-9088445-7

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

ก่อนจะไปดูเรื่องทำเลที่ตั้งโครงการ บ้านทิวทะเล ใครที่ยังไม่เคยอ่านบทความทำเล ชะอำ – หัวหิน ก็แนะนำให้อ่านผ่านๆก่อนครับ

และสำหรับ ท่านที่ยังไม่เคยอ่านรีวิว บ้านทิวทะเล เฟส 1 ซึ่งอยู่ติดๆกัน กดตรงนี้ เพื่ออ่าน รีวิวฉบับที่ 363 บ้านทิวทะเล เฟส1 … สำหรับท่านที่เคยอ่านแล้ว สามารถกดข้ามส่วน วิเคราะห์ทำเลได้เลยนะครับ เพราะทำเลแทบจะเรียกได้ว่า ติดกันเลย

แผนที่โครงการ อยู่บนถนนเพชรเกษม ถ้ามาจากกรุงเทพ พอถึงแยกชะอำก็ตรงต่อไปอีก 4.4 กิโลเมตร จะเจอสำนักงานขายซึ่งอยู่ซ้ายมือติดถนนเพชรเกษมเลย โครงการอยู่ระหว่าง หมู่บ้าน โอเรียลทอล กับ โครงการ บ้านชานทะเล ตัวโครงการจริงๆ จะต้องขับรถเข้าไปอีกเกือบ 500 เมตรนะครับ เพราะโครงการเขาอยู่ติดหาด ไม่ได้อยู่ติดถนน

ให้ดูว่า Issara เขามาทำโครงการแถวนี้เยอะอยู่นะ สีเหลืองๆ นั่นคือโครงการในอดีตที่ Issara เป็นผู้พัฒนา สีฟ้าคือบ้านทิวทะเลทั้ง 2 เฟสครับ

ถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าสำนักงานขาย

สำนักงานขาย เป็นอะไรที่หาไม่ยาก ขับเลย แยกชะอำ มุ่งหน้าหัวหิน เลยแยกชะอำมา 4.4 กิโลเมตร ก็จะเจอ สำนักงานขายหน้าตาแบบนี้ อยู่ติดถนนเลย

ป้ายติดเต็มสำนักงานเลย จะบอกว่า EIA ผ่านแล้วนะ และใช้ Italian-Thai ก่อสร้าง

พื้นที่ด้านหน้าที่ติดถนน แถวๆนี้ ยังไม่ได้พัฒนาอะไรกันนะครับ คงต้องรออีกระยะ … ที่ดินแถวนี้ เขาพัฒนาที่ติดทะเล ลามออกมาถนน ไม่เหมือนที่ทำเลในเมืองที่พัฒนาติดถนนแล้วลามลึกเข้าไปข้างใน

จากสำนักงานขาย มองไปที่ทะเล จะเห็นโครงการอยู่ลิบๆนู่นเลย ระยะทางจากถนน ลึกเข้าไปถึงโครงการร่วม 500 เมตร

ก่อนจะเข้าไปดูโครงการข้างใน อยากให้ทำความเข้าใจกับ Master Plan นี้ก่อน เพราะที่ดินแปลงใหญ่มาก มีโครงการหลายอย่างอยู่ในนี้… ซ้ายมือคือถนนเพชรเกษม  ขวามือคือทะเล โครงการ Phase1 กับ Phase2 น่ะ ไม่ติดกันเป๊ะ เพราะตรงกลางจะเป็นโรงแรม ตามที่เห็นในรูป ส่วนที่ดินด้านซ้ายมือที่ติดถนนนั้น ยังคงเว้นไว้ พัฒนาต่อไป ซึ่งจะเป็นอะไรนั้น คงต้องติดตามครับ

เมื่อเราเข้ามาด้านใน ตรงที่ติดกับชายหาด จะเจอบ้านหลังนี้ ซึ่งจะเป็นบ้านที่อยู่ตรงกลางที่จะทำเป็นโรงแรม ซ้ายมือของบ้าน เป็นห้องตัวอย่างของ เฟส1 และเป็นที่ตั้งโครงการเฟส1 … ขวามือของบ้าน เป็นห้องตัวอย่างของ เฟส2  และเป็นที่ตั้งของโครงการเฟส 2 “Blue Sapphire”

บ้านหลังนี้อดีตเป็นบ้านตากอากาศของท่าน ดร.เทียม โชควัฒนา ผู้ก่อตั้ง กลุ่มสหพัฒนพิบูลย์นะครับ ปัจจุบันคือสำนักงานของโครงการ และในอนาคต บ้านหลังนี้ก็ยังคงอยู่ครับ เป็นส่วนหนึ่งของโรงแรมที่จะสร้างในพื้นที่นี้ต่อไป

บ้านตากอากาศ หลังเล็ก อีกมุม มีสวนเขียวๆ คั่นระหว่างบ้านกับชายหาด น่านอนเล่นนัก

ให้ดูระยะ ที่มันติดหาด

ตึกสีฟ้าๆ นั่นคืออาคารห้องตัวอย่างของ เฟส 2 ครับ

สภาพหาด มองไปทางหัวหิน … หาด ชะอำ-หัวหิน นี่มันมีหลายแบบนะครับ แต่ละช่วงแต่ละแบบ นี้คนละโลกคนละอารมณ์เลย ไล่มาตั้งแต่ หาดที่ติดคลองติดชุมชนชาวบ้านชาวประมง ส่วนมากจะไม่สวยและมีเลน บางที่ก็สกปรกมากเพราะขาดการจัดการที่ดี… หาดชะอำส่วนที่มีถนนเลียบหาด อันนี้จะอารมณ์กิจกรรมเยอะแนวฉิ่งฉาบทัวร์ ไม่น่าอยู่อาศัยครับ… หาดชะอำช่วงที่ไม่มีถนนเลียบหาด ที่เป็นที่ดินเอกชน นี่ก็จะสภาพประมาณนี้แหละ เพราะนักท่องเที่ยวเดินมาไม่ถึง ไม่มีทางลงหาด (นอกจากจะเดินผ่านที่ดินเอกชน) และไม่มีคลองหรือหมู่บ้านชาวประมง…หาดชะอำส่วนที่ติดกับเขตทหารหรือสถานที่ราชการ อันนี้ขอข้ามนะครับ เพราะไม่เคยเข้าไปดู…

ส่วนหาดหัวหิน ถ้าเทียบกับชะอำ จะสู้ชะอำตรงช่วงนี้ไม่ได้นะครับ เพราะหาดหัวหินมันแน่นไปหมดแล้ว

ผมยืนที่ชายหาด มองไปที่โครงการ จะเห็นว่า สโลปค่อนข้างเยอะ ซึ่งขึ้นอยู่กับฤดูด้วยนะครับ ฤดูร้อน จะลาดเอียงน้อย และมีพื้นที่ชายหาดมากครับ

ถ่ายให้ดู เฟส 1 ทางขวา ใกล้จบงานโครงสร้างแล้ว

บริเวณหน้าหาด มองไปทางแยกชะอำ … ความกว้างของหาดค่อนข้างเยอะ ส่วนทราย พอเดินเล่นได้ แต่ไม่ได้สวยขาวละเอียดเป็นแป้งเหมือนฝั่งอันดามัน หรือตามเกาะต่างๆนะ

ให้ดูความกว้างของหาดอีกที

นี่คือหาด ที่ยังไม่ได้จัด Land Scape (ปรับปรุงทัศนียภาพ) นะครับ ถ้าโครงการเฟส1 เฟส2 และโรงแรมเสร็จ ก็คงจะดูดีกว่านี้… จะเห็นว่า แถวนี้ มันโล่งมากเลย ดังนั้นการที่มีโรงแรม และเพื่อนบ้านอย่างเฟส1 อยู่ติดกัน จะทำให้ เหมือนกับได้พื้นที่ชายหาดส่วนตัว เชื่อมต่อกันเป็นแนวยาว แม้ว่า เฟส2 จะมีเนื้อที่ดินติดหาดยาวแค่ 20 เมตรก็ตาม… ส่วนโรงแรม ทำให้ได้ Facility เพิ่ม และมีความปลอดภัยมากขึ้นเพราะ รปภ คุมหาด 24 ชั่วโมง… แต่ต้องแลกมากับความวุ่นวายหน่อยในช่วง High Season หรือ Long Weekend

สภาพน้ำทะเล… แตกต่างจากชะอำตรงเลียบถนน และหัวหินโซนเมืองแน่นอน

ทะเลที่ตรงจุดนี้ ใสใช้ได้นะครับ น่าเล่นกว่าหัวหิน แต่ความปลอดภัยจะสู้หัวหินตรงเขาตะเกียบยังไม่ได้ เพราะตรงนี้จะลึกกว่าครับ

น้ำทะเลที่นี่ ไม่ได้เหมือนกันตลอดปีนะครับ ช่วงหน้าฝนนี่แล้วแต่ดวง ถ้าฝนตกน้ำก็ขุ่นแมงกระพรุนก็มา .. ช่วงหน้าหนาว คลื่นจัดลมแรง น้ำขุ่นไม่เหมาะเล่นน้ำ  ส่วนช่วงหน้าร้อน สวยใสน่าเล่น และหาดจะกว้างที่สุดครับ

 

รูปโครงการ ส่วนสระว่ายน้ำ ซึ่งเป็นสระขนาดใหญ่ แต่จะไม่เหมือนของเฟส1 นะ เพราะของเฟส1 เป็นสระว่ายน้ำรอบตึกและมีที่หน้าหาดด้วย ส่วนของเฟส2 มีสระว่ายน้ำแค่หน้าตึกคู่ B-C และหน้าหาด ส่วนสระรอบตึกใหญ่ตึกA เป็นสระบัวไม่ใช่สระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำอีกมุม

สระบัวรอบตึก C

ตึก C สูง 15 ชั้น อยู่ตรงกลาง ส่วนตึกเตี้ย 4 ชั้นด้านขวาที่เห็นคือตึก B,A ส่วนที่ติดหาด เป็น Club House มีสระว่ายน้ำ ชั้นล่าง สระแช่น้ำชั้น 2 และ Fitness ด้วย

รูปส่วน Club House ที่ติดหาด

สระว่ายน้ำติดหาด นั่งเล่นนอนเล่นแช่น้ำเล่นได้ แต่ถ้าจะว่ายจริงจัง ไปว่ายสระใหญ่หน้าตึก B-C จะสนุกกว่า

ให้ดูแผนที่ ภาพรวมอีกที เผื่อจะลืม

Master Plan ของโครงการ บ้านทิวทะเล 2 “Blue Sapphire” ซ้ายมือคือทางเข้าโครงการ (มาจากถนนเพชรเกษม) ขวามือคือชายหาด … ตึก C หน้าตาเหมือนตัว A นั่นแหละ ส่วน B-A อยู่ติดกันมาทางหน้าหาด … ส่วนที่ติดหาดคือ Club House สังเกตุได้เลยว่า เนื้อที่ดินติดหาด หั่นมาให้น้อย เมื่อเทียบกับเฟส1 และ โรงแรม … แต่อย่างที่บอกว่า เจ้าของเดียวกัน และการดูแลบริหารจัดการ ทำร่วมกัน ดังนั้น ก็เหมือนหาด มันเชื่อมต่อกันอยู่นะครับ

สำนักงานขาย ใช้ที่เดียวกับ บ้านทิวทะเล เฟส1 เลย

ตัวโมเดลโครงการ มองจากทางด้านชายหาดซึ่งอยู่ทางขวามือ

เวลาขับรถเข้ามาที่โครงการ จากถนนเพชรเกษม จะเข้ามาเจอตึก C ที่สูง 15 ชั้นก่อน

ตึก C จากมุมบน ที่เขาออกแบบเช่นนี้ เพื่อให้ทุกห้องได้รับวิวทะเล และเป็นแบบ Single Corridor ส่วนด้านหน้าตึก C จะเป็นลานจอดรถหลัก มี Lobby ที่เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด และมีเรือนนอนสำหรับคนขับรถหรือแม่บ้าน แยกออกมาที่มุมขวาล่างของรูป… ที่จอดรถจอดได้รอบๆโครงการ สำหรับลูกบ้านตึก B-C ขับไปจอดหน้าตึกตัวเองได้ รวมที่จอดเหลือเฟือ 70% (สำหรับบ้านตากอากาศถือว่าเยอะมากครับ เพราะคนไม่ค่อยได้มาพร้อมๆกัน)

ตึก C ลองสังเกตุแนวหน้าต่างระเบียง จะเอียงรับวิวทะเล และมีช่องเล็กๆ บนหลังคาเพื่อการไหลเวียนของอากาศ

ส่วนลานจอดรถด้านหน้า

อีกมุม จะเห็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด นี่เป็นส่วนต้อนรับหรือ Lobby มีทางเชื่อมเข้าตึก แยกออกสามด้านเลย

อาคารพักสำหรับ คนขับรถ ผู้ติดตาม หรือแม่บ้านครับ

ตึก C อีกมุม แนวตึกจะเอียงรับวิวทะเล … ตึกนี้เป็นตึกสูง 15 ชั้น ถ้าต้องการวิวทะเลสวยๆ เปิดโล่ง ก็เลือกได้ แต่ตึกนี้จะเดินไกลจากชายหาดกว่าตึก B-C นะครับ เวลาจะเล่นน้ำหรือลงหาด ตึก B-C สะดวกกว่ามาก

เนื่้อที่โครงการ 15 ไร่กว่าๆ กับจำนวน Unit ที่ 421 ห้อง ถือว่าได้พื้นที่ส่วนกลางเยอะ เราจึงเห็นสวนบนดิน ถนน และที่จอดรถ แบบเหลือๆแบบนี้

อันนี้ถ่ายให้ดู สระบัวที่อยู่รอบตึก C ดังนั้นเวลาจะเดินเข้าตึก ต้องข้ามสะพานเล็กๆ เข้ามา … ตัวสระบัวนี้ ถ้าดูแลได้สวยจริง จะเพิ่ม Value  ให้กับชั้น 1-2-3 ขึ้นมาพอสมควร พอได้ก้มดูบัว ดูปลาจากระเบียงห้องตัวเอง … แลกกับการไม่เห็นวิวทะเลครับ

Club House ส่วนที่ติดหาด ได้หน้ากว้าง 20 เมตร แต่ในความเป็นจริง ชายหาดด้านขวารวมยาวประมาณ 200 เมตรนี่เป็นของเขาทั้งหมด ซึ่งจะพัฒนา เป็น บ้านทิวทะเล เฟส1, โรงแรม, และอีกส่วนสำหรับโครงการในอนาคต

ระหว่าง Club House  ติดหาดกับตึก C จะมีตึกเตี้ย 2 ตึกคือตึก B-C สองตึกนั้นสูงแค่ 4 ชั้น แต่มีทีเด็ดตรงสระว่ายน้ำขนาดเบ้อเร่อ อยู่หน้าตึกครับ

Club House ส่วนที่ติดหาด มีสระว่ายน้ำ 2 สระ ที่ชั้นล่างกับชั้น 2

Zoom ให้ดู Club House ชัดๆ

ตึก B-C คู่แฝดกัน อยู่ติดสระ และใกล้ทะเล ตั้งใจวางตึกให้เอียงๆ เพื่อรับวิวและลมทะเลครับ

สระว่ายน้ำ Free Form ระบบเกลือหน้าตึก B-C

Floor Plan ของตึก C ซึ่งรูปร่างเป็นตัวA ตึกนี้มี 389 Unit มี 15 ชั้น ชั้นละ 26 ห้อง มีลิฟท์อยู่ตรงกลาง ที่เป็นทางเชื่อมระหว่างสองปีก… ลิฟท์โดยสารมี 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ 194 ต่อ 1 ซึ่งก็น่าจะเพียงพอสำหรับบ้านตากอากาศ ด้านหน้าห้องของแต่ละห้องจะมีช่องเชื่อมกับปล่องระบายอากาศบนหลังคา

Floor Plan ของตึก B-C หน้าตาแบบนี้ทุกชั้น มี 4 ชั้น ชั้นละ 4 ห้อง รวมทั้งตึกมี 16 ห้อง จัดลิฟท์มา 1 ตัว และรูปแบบเป็น Single Corridor เช่นเคยพร้อมมีช่องระบายอากาศหน้าห้องทุกห้องครับ

อ้อ ที่นี่คอมแอร์ไม่ได้วางระเบียงนะครับ มีส่วนแยกเก็บไว้ต่างหาก ไม่ต้องเสียพื้นที่และทัศนวิสัยให้กับคอมแอร์

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • Lobby
  • Business Center
  • ห้องสมุด
  • Play room
  • Fitness + Steam + Jacuzzi
  • Jogging Track
  • BBQ Zone
  • สระว่ายน้ำ 3 สระ
  • สวนหย่อมรอบโครงการ
  • เรือนพักสำหรับผู้ติดตาม
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว สำหรับ ตึก C และ 1 ตัวสำหรับตึก B-A
  • ที่จอดรถ 150 คัน คิดเป็น 50%
  • ระบบ CCTV

Product Walkthrough

อาคารสำหรับห้องตัวอย่าง จะสร้างไว้ใกล้ๆหาดนะครับ ไม่ได้อยู่ที่สำนักงานขาย มีให้ดู 2 ห้อง คือ 1 Bedroom และ 2 Bedroom

ผังห้อง 1 Bedroom 36.7 ตารางเมตร ซึ่งออกแบบมาเป็นบ้านตากอากาศ แท้ๆ เน้น วิว การใช้งานเชื่อมต่อกัน และอากาศธรรมชาติ … ครัวเป็นครัวเปิด  เพราะคงไม่ได้ทำอาหารจริงจังอยู่แล้ว ส่วนโซฟานั่งเล่น เน้นนั่งรับวิว ไม่เน้นดูทีวี ระเบียง ขนาดวางชุดเก้าอี้ out door จิบชา ได้ ไม่มีคอมแอร์ที่ระเบียง เพราะแยกไปวางด้านนอกห้องอีกส่วนหนึ่ง … ห้องนอนกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน เปิดเลื่อนเชื่อมกับห้องนั่งเล่นได้ จะดูกว้างขึ้น แต่จะวางทีวีปลายเตียงไม่ได้นะจ๊ะ … ห้องน้ำได้เป็น Function แบบยืนอาบน้ำ ในห้องน้ำมีหน้าต่างบานกระทุ้ง ระบายอากาศออกช่องที่ไปออกด้านบนหลังคาตึกได้

ห้องขายแบบ Fully Furnished นะครับ แต่งให้เสร็จสรรพแล้ว

รูปแบบประตูหน้าห้อง  บานใหญ่ สีน้ำเงินแบบนี้เลย

เปิดประตูมาแล้ว จะมีประตูเหล็กโปร่งกั้นอีกชั้น (มีมุ้งลวด) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Issara เค้า … ประตูนี้เปิดไว้ ไม่ต้องกลัวคนแอบเข้าห้อง ไม่ต้องกลัวแมลง .. เปิดแล้วลมแรงมากเพราะอยู่ติดทะเลซะขนาดนี้ … วันไหนอากาศดีๆ ไม่ต้องเปิดแอร์เลย

พื้นห้องจะยกระดับ สูงจากโถงทางเดินหน้าห้องเล็กน้อย เป็นพื้นกระเบื้องนะครับ

เปิดประตูเข้ามาแล้วจะ เป็นส่วน Living Area ที่มีครัว โต๊ะทานข้าว และโซฟานั่งเล่น

มองย้อนออกไปที่ประตูหน้า ให้ดูระยะของครัว

ขนาดของ Pantry ไม่ใหญ่ ตู้เย็นก็ไม่ใหญ่ เพราะนี่เป็นบ้านตากอากาศ ไม่ได้ออกแบบมาให้ทำครัวเยอะแยะ

TOP Pantry พื้นที่แค่นี้ พอล้างของวางจานนิดๆหน่อยๆ  อุ่นอาหารไมโครเวฟได้บ้าง

ส่วนโซฟาที่จัดไว้ เหมาะนั่งดูวิว อ่านหนังสือมากกว่านั่งดูทีวี … แหม่ มาเที่ยวทะเล แล้วมัวแต่นั่งดูทีวี นี่ นอนอยู่บ้านจะดีกว่านะฮะ 😀

มองย้อนกลับไปที่ประตูอีกที ให้ดูระยะ ซ้ายขวา ของ Living Area

ชุดโซฟาดูทีวี วางเน้นชมวิว ซึี่งที่วางทีวีแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน มันเลื่อนไปมาได้

พื้นที่ระเบียง พอจะเอาชุดเก้าอี้ outdoor มาวางนั่งเล่นชมวิวได้

ราวกันตก แนวตั้ง จะแตกต่างจากของเฟส1 ที่เป็น กระจกนิรภัย

ขนาดระเบียง กว้างประมาณนี้ ระเบียงไม่มีคอมแอร์แขวนนะครับ โล่งๆแบบนี้แหละ

ชุดประตูบานเลื่อนกั้นห้องนอน

เป็นแบบสามชิ้น ที่ทำให้เลื่อนเปิดออกได้กว้างขึ้น

เปิดบานเลื่อนให้ดู จะกว้างขนาดนี้

อันนี้ปิด นะครับ ตัวกระจกจะเป็นกระจกฝ้า ทำให้พอจะได้ Privacy แต่มีแสงส่องผ่านได้ ไม่ต้องไปติดม่าน

ห้องนอน วางเตียงหกฟุต สบายๆ

ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะแต่งตัว อยู่ฝั่งห้องน้ำ

ภาพรวมพื้นที่ห้องน้ำ ตัวสุขภัณเป็นของ Cristina และหัวก็อกของ GROHE

ชุดโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้า ที่มีที่เก็บของใต้อ่าง

ชุดอ่างล้างหน้าของ Cristina เหนืออ่างมีพื้นที่วางของจุกจิกนิดหน่อย

Shower Box ติดฉากกั้นกระจกนิรภัยมาให้เรียบร้อย พื้นที่ยืนอาบ เบียดกันสองคนสบายๆ

ฝักบัวและเครื่องทำน้ำอุ่นที่ติดมาให้

เหนือโถสุขภัณฑ์ มีหน้าต่างบานกระทุ้งอยู่หนึ่งอัน เอาไว้เปิดระบายอากาศ

เปิดระบายอากาศ นี่ไม่ได้ออกไปรบกวนเพื่อนบ้านนะครับ ช่องนี้จะไปเชื่อมกันกับช่องอากาศ ที่หมุนเวียนดึงอากาศ ขึ้นไปหลังคา

แอร์ Daikin ที่แถมมา

ต่อด้วย ห้อง 2 Bedroom ขนาด 70 ตารางเมตรบ้าง ห้องนี้ส่วน Living Area ค่อนข้างใหญ่ ระเบียงก็ใหญ่ ใช้งานได้หลายๆคน.. ครัวได้เป็นครัวเปิด Pantry ยาว ที่เก็บของเยอะขึ้นมาก ห้องนอน มี 2 ห้อง ห้องนอนเล็ก อยู่ติดส่วน Living Area กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน เหมือนกับห้อง 1 Bedroom แต่ต้องใช้ห้องน้ำ ร่วมกับส่วน Living … Master Bedroom มีห้องน้ำในตัว น่าเสียดายที่ไม่มีอ่างอาบน้ำ… ห้องน้ำทั้ง 2 ห้อง จะมีช่องระบายอากาศเชื่อมกับช่องระบายอากาศที่อยู่ติดกัน

หน้าห้อง 2 Bedroom ที่เห็น เป็นผนังยื่นออกมาหลังโซฟา อันนี้แหละ ช่องอากาศ ที่ระบายขึ้นหลังคา

ประตูห้อง

เปิดให้ดูยังคงมี ชุดประตูในเหล็กโปร่งและมุ้งลวดนะครับ

เปิดประตูเข้ามาจะเป็นส่วน Living Area นี้

ครัว อยู่ด้านหน้าห้อง เป็นครัวเปิด Pantry ยาว ไม่เน้นทำอาหารจริงจัง

หน้าตา Pantry ที่มีมาให้ครบชุด ทั้งเตาและเครื่องดูดควันด้วย ส่วนตู้เย็นก็เช่นเคย ไม่เน้นใหญ่ครับ

Counter Top

ที่นั่งทานข้าว ที่วางอยู่ติดครัว พอจะนั่งได้ 4-5 คน

โซฟาจัดชุดใหญ่ ตัว L นั่งๆนอนๆ กลิ้งเกลือกดูวิวได้เต็มที่

ชุดโซฟา ที่วางอยู่ติดกับระเบียง … เน้นดูวิว ไม่เน้นดูทีวีนะครับ

มองย้อนกลับไปที่ประตูอีกที ให้ดูระยะความกว้างของส่วน Living Area ใหญ่กว่าห้อง 1 Bedroom เยอะ

ระเบียง ขนาดใหญ่ขึ้นไปอีก สามารถวางชุดโต๊ะนั่งจิบชาได้ เก้าอี้นอนอาบแดดไปวางยังได้เลย

ร่องระบายน้ำ ที่ระเบียง

ระเบียงบ้านตากอากาศ ก็คือเน้นนั่งเล่น Outdoor พักผ่อนรับธรรมชาตินะครับ การออกแบบจะไม่เหมือนระเบียงคอนโดในเมืองที่เอาไว้ใช้งานส่วนซักล้าง ตากผ้า

ประตูกระจกบานเลื่อนกั้นห้องนอน2 ….จะเหมือนห้อง 1 Bedroom

ห้องนอน 2

ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะอเนกประสงค์ ไว้วางของจุกจิกซะมากกว่า

ส่วนโถงไป ห้องน้ำ และ Master Bedroom

ห้องน้ำส่วน Living Area ที่ใช้ร่วมกับห้องนอน 2

มีช่องเปิดระบายอากาศ เหนือโถสุขภัณฑ์

ห้อง Master Bedroom

ห้องนี้รับวิว สบายๆ

ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะแป้ง เหมือนห้อง 1 Bedroom

ภาพรวมห้องน้ำ ที่ได้เป็น Shower Box

มีหน้าต่างระบายอากาศเช่นกัน

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 29/08/2013

  • 1 Bedroom เนื้อที่ 36.77 ตารางเมตร ราคา 3.2 – 3.97 ล้านบาท หรือ 73,877 – 108,023 บาทต่อตารางเมตร
  • 2 Bedroom เนื้อที่ 70.46 ตารางเมตร ราคา 5.3 – 7.89 ล้านบาท หรือ 75,345 – 112,042 บาทต่อตารางเมตร
  • 3 Bedroom เนื้อที่ 159.35 ตารางเมตร ราคา 12.3 – 20.6 ล้านบาท หรือ 77,302 – 129,343 บาทต่อตารางเมตร

  • Fully Furnished
  • ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 35 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

 

 

 

เจาะลึกรวบยอด

บ้านทิวทะเล ชะอำ-หัวหิน เฟส2 หรือ “Blue Sapphire” อยู่ในทำเลชายหาดชะอำ ที่ไม่ใช่ชะอำที่เราคุ้นเคยกันแน่นอน เพราะที่ดินของหาดในช่วงนี้ มันเข้าถึงยากกว่า ชะอำที่มีถนนเลียบหาดนะครับ อารมณ์จะแตกต่างกันมาก ตัวหาดยังคงมีสภาพดี หาดทรายและน้ำ เล่นได้ แต่หาดชะอำ-หัวหิน-เขาเต่า มีฤดูกาลเหมือนกันนะครับ ในช่วงหน้าร้อนจะสวยที่สุด น้ำทะเลใสหาดงามมีทรายแบบเต็มๆ แต่พอช่วงหน้าหนาวปลายปีจะเป็นฤดูคลื่นจัดลมแรงน้ำขุ่น ซึ่งถ้าลมและคลื่นแรงมากๆบางช่วงน้ำจะซัดเอาหาดหายไปเลยก็มี แต่พอเวลาผ่านไป ทะเลเค้าจะค่อยๆเติมทรายคืนชายหาดให้เหมือนเดิม…  ทำเลหาดโดยธรรมชาติก็โอเคใช้ได้อยู่แล้ว แต่เชื่อว่า เมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์ คงมีการจัดปรับแต่ง Land Scape ให้สวยขึ้นไปอีกเพราะจะมีโครงการโรงแรมอยู่ติดๆกันด้วย

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการค่อนข้างสงบมาก เนื่องจากที่ดินแถวนี้ เป็นของส่วนบุคคล หรือไม่ก็ถูกพัฒนาเป็นโครงการเกือบหมดแล้ว ไม่มีชุมชนชาวบ้านอยู่ใกล้ ไม่มีร้านอาหารอยู่ใกล้ๆ เมื่อมีการพัฒนาครบ พื้นที่ติดหาดจะมีทั้ง บ้านทิวทะเลเฟส 1 เฟส2 และโรงแรม  จึงค่อนข้างหมดกังวลเรื่องสภาพแวดล้อม ความปลอดภัย และทัศนวิสัย วิวที่จะถูกบัง… จากจุดนี้ไปทางซ้ายระยะทาง 1.3 กิโลเมตรจะเป็นสปริงฟิล์ด ที่มีถนนเลียบหาดสั้นๆวิ่งผ่านสังเวียนซีฟู้ด เลียบหาดไปสุดที่วิรันดา … ทำเลโครงการจึงค่อนข้างพิเศษ ที่อยู่ช่วงกลางของหาดที่ไม่มีถนนพอดี มันไกลเกินระยะคนปกติทั่วไปจะเดินมา จึงค่อนข้าง สงบ และ Private ครับ

การออกแบบโครงการ ค่อนข้างง่ายเพราะเนื้อที่ดินแปลงใหญ่มาก การจัดที่ดินออกมาทำโครงการเลยทำได้แบบมีข้อจำกัดน้อย บ้านทิวทะเล เฟส 2 มีที่ดิน 15 ไร่กว่า แต่ทำมาแค่ 421 Units ถือว่า เป็นโครงการที่ลูกบ้านได้ร่วมเป็นเจ้าของที่ดินได้ค่อนข้างมาก น่าเสียดายที่ พื้นที่ติดหาดมีแค่ 20 เมตร… โครงการออกแบบตึกเป็นตัว A ให้ทุกห้องเอียงรับวิว ห้องเกือบทุกห้องมองเห็นวิวทะเลเกือบทั้งหมดแต่ไม่ได้เห็นแบบตรงๆนะ … การออกแบบโครงการนี้ เน้นให้เป็นบ้านตากอากาศแท้ๆ ไม่มีการหยิบยืมหรือยกเอา โครงการในกรุง มาตั้งไว้ที่นี่ เพราะฟังค์ชั่นและรูปแบบห้องจะไม่เหมือนกัน เนื่องจากบ้านตากอากาศ มันไม่เหมือนบ้านที่เราอยู่ประจำ .. ส่วนระบายอากาศ และการออกแบบให้อากาศไหลเวียนภายในอาคาร ค่อนข้างทำได้ดี ตัวโครงการเฟส 2 นี้จะเน้นสีสันมากกว่า เฟส 1 มากหน่อย ออกแนวจับกลุ่มคนอายุน้อยกว่า

วัสดุอุปกรณ์ของที่ให้มาจัดเต็มแบบ Fully Furnished แต่ยังด้อยกว่าโครงการเฟส1 ในบางจุด แต่ก็ยังนับว่าคุ้มค่ามากสำหรับห้องที่ราคาไม่เกิน 85,000 บาทต่อตารางเมตร ส่วนที่ราคาเกินกว่านั้น ถือว่า น่าจะได้ของที่ดีกว่านี้ ในทำเลแบบนี้

สาธารณูปโภค ค่อนข้างเยอะ แต่ไม่ได้เยอะเท่าเฟส 1 … สำหรับ “Blue Sapphire” ถ้ามาเป็นครอบครัว มีเด็กๆ ตึก B-A จะอยู่ใกล้สระและ Club House ที่สุด ส่วนตึก C กลายเป็นค่อนข้างสงบไปแทน เพราะรอบตึกเป็นสระบัว ใครจะเล่นน้ำ ก็ต้องไป ตึก B-C หรือ Club House หน้าหาด… โครงการจัด Facility มาค่อนข้างครบ มีแม้แต่ ที่พักผู้ติดตาม แต่น่าเสียดายที่ตึก C ตึกใหญ่สุด น่าจะจัดสระว่ายน้ำสวยๆ ให้สักสระนะ … แหม่ เฟส 1 ยังมีสระรอบตึกเยอะแยะมากมาย 🙂

 

Judgement

โครงการบ้านตากอากาศ ใช้ความคุ้มค่าทางอารมณ์ เป็นตัวตัดสินมากกว่า ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับเงินที่จ่ายไป ทางเราจึงยังไม่มีเกณฑ์การให้คะแนนที่เหมาะสมนะครับ แนะนำให้ไปดูและใช้ใจตัวเองเป็นตัวตัดสิน (หลังจากคนที่บ้านอนุมัตินะครับ เพื่อความปลอดภัย)

  • MAIN – UPPER CLASS 

BOTTOM LINE

บ้านทิวทะเล เฟส 2 “Blue Sapphire” เหมาะกับคนมองหาบ้านตากอากาศริมทะเลย่านชะอำ-หัวหิน เป็นคนชอบความสงบ ไม่วุ่นวาย เห็นคุณค่าของตัวเองและครอบครัว มีนิสัยเลือกซื้อของโดยมองหาคนขายที่มั่นใจ และเชื่อถือได้ มากกว่าหยิบคว้าหาของถูกที่สุด มีเงินเย็นๆในกระเป๋าพร้อมจ่ายระดับ 3 – 20 ล้าน ไม่แนะนำให้กู้เยอะสำหรับบ้านตากอากาศครับ :)

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ