ปัญหาหลักของคนอยู่คอนโดหรือทาวน์เฮาส์เล็กๆคือที่เก็บของไม่พอ เพราะการออกแบบพื้นที่เล็กๆฟังก์ชันรองจะถูกตัดออกไปเป็นสิ่งแรกๆ ทำให้มีปัญหาในการเก็บของหรือไม่รู้ว่าจะเก็บตรงไหนดี ยิ่งถ้าพูดถึงเฟอร์นิเจอร์ด้วยนี่ยิ่งปวดหัวเลยเพราะบางคนตอนซื้อของก็เลือกแต่ของที่ชอบๆมา พอกลับมาถึงบ้านกลับวางแล้วมีระยะไม่พอดีหรือวางได้แต่ทำให้บรรยากาศของห้องดูอึดอัดและแคบลงเนื่องจากรูปแบบของโซฟา ผมเลยขอเสนอไอเดียการจัดเก็บข้าวของต่างๆในบ้านมาให้ดูกัน อันไหนทำยากก็ประยุกต์เอาได้นะครับ

เริ่มกันที่ห้องเก็บของทั่วๆไปก่อนโดยทั่วไปแล้วพื้นที่เก็บของในบ้านนั้นจะมีมาให้ไม่เยอะเป็นแค่ห้องใต้บันไดหรืออยู่ตามมุมเล็กๆของบ้าน ส่วนคอนโดนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยครับ ถ้าเป็นห้องขนาดเล็กแค่ Studio หรือ 1 Bedroom นี่หายากมากที่จะมีพื้นที่เก็บของมาให้ส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus หรือห้อง 2 Bedroom ขึ้นไป ดังนั้นการจัดเก็บของในห้องเก็บของต้องใช้ให้คุ้มหน่อย อย่างในรูปจะเห็นว่าเค้าไม่ได้วางของที่พื้นอย่างเดียวแต่มีการทำชั้นวางของที่ด้านบนและราวแขวนไว้แขวนอุปกรณ์ด้วย ส่วนที่ประตูก็เอาไว้วางพวกน้ำยาทำความสะอาดต่างๆ

สำหรับพื้นที่ห้องเก็บของถ้าไม่มีมาให้เราสามารถทำ Built-in เพิ่มเองได้โดยใช้พื้นที่ด้านข้างของตู้เย็นมาทำตู้เล็กๆแบบในรูปก็ได้ครับเวลาใช้งานก็หยิบง่ายด้วย

สำหรับบ้านหรือทาวน์โฮมที่มีพื้นที่ขึ้นมาหน่อย เราสามารถใช้พื้นที่ผนังส่วนที่จอดรถทำเป็นพื้นที่แขวนเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด หรือทำสวนได้ ข้อดีสะดวกแก่การใช้งานหยิบจับง่าย และจะไม่ไปกินเนื้อที่ภายในบ้าน แถมยังไม่ต้องมีเศษดินหรือสิ่งสกปรกเข้าไปภายในตัวบ้านด้วย

เช่นเดียวกันสำหรับคนที่มีไลฟ์สไตล์ต่างๆ ก็อาจจะใช้พื้นที่ระนาบแนวตั้งนี้จัดเก็บของเพื่อประหยัดพื้นที่ไปได้อีกด้วย ทั้งการแขวนจักรยาน แขวนอุปกรณ์แต่งรถ กระถางต้นไม้แนวตั้ง เป็นต้น

ส่วนต่อมาคือ ห้องครัว ที่เปรียบเสมือนศูนย์รวมแหล่งพลังงานของคนในครอบครัวดังนั้นจึงไม่แปลกที่ห้องนี้จะต้องมีข้าวของต่างๆมากมายตามความต้องการของสมาชิกภายในครอบครัว ยิ่งถ้าใครชอบทำครัวนี่นอกจากจะต้องเก็บวัตถุดิบทั้งสดและแห้งแล้วยังต้องมีเครื่องครัวและอุปกรณ์อีกมากมาย แถมบางที่ก็ต้องรวมพื้นที่รับประทานอาหารเข้ามาด้วยอีก ยิ่งทำให้แคบไปใหญ่ เรามาดูเคล็ดลับเล็กๆน้อยกันนะครับว่าจะมีอะไรบ้าง

ส่วนใหญ่พื้นที่ของคอนโดจะมีที่ว่างข้างๆตู้เย็นมาให้ซึ่งถ้าใครไม่ได้ซื้อตู้เย็นมาวางแบบเต็มพื้นที่ก็เลือกที่จะทำชั้นวางของด้านข้างให้เป็นลิ้นชักแบบนี้ก็ได้ครับ จะได้เอาไว้เก็บอุปกรณ์เครื่องครัวได้เยอะเลย

แต่ถ้าพื้นที่เหลือแคบเกินกว่าจะทำที่เก็บอุปกรณ์ครัวแล้วหละก็ทำชั้นวางของมีล้อเลื่อนเป็นช่องเล็กๆให้พอใส่พวกขวดซอสหรือเครื่องกระป๋องต่างๆจะดีกว่าครับเวลาใช้งานก็หยิบเลื่อนออกมาได้สบายๆ แต่ถ้าจะทำสูงมากอย่าลืมทำรางเลื่อนด้านบนด้วยนะครับ เทคนิคนี้ยังนำไปใช้กับการเก็บของบริเวณเครื่องซักผ้าได้อีกด้วย การใช้งานก็หยิบง่ายสะดวกเพราะเป็นการเก็บแบบแนวตั้งครับ

ส่วนบ้านใครมีที่เหลือพอที่จะทำชั้นวางของขนาดใหญ่หน่อยลองทำชั้นวางของเป็นแบบปรับระดับได้ก็ดีครับจะได้ปรับความสูงของแต่ละชั้นให้เหมาะกับของที่เรามีแถมถ้ามีช่องว่างระหว่างชั้นเหลือพอยังสามารถแทรกชั้นเล็กๆเข้าไปได้อีกเอาไว้เก็บของเล็กๆได้ดีเลยทีเดียว

การเก็บของเล็กๆน้อยๆนอกจากจะเก็บตามชั้นวางของที่ทำเป็นช่องๆแล้วแต่ละช่องควรมีรูปแบบการเก็บของที่แตกต่างกันด้วยเพื่อความยืดยุ่นในการเก็บของรูปทรงต่างๆ ถ้าเป็นกล่องขนาดใกล้ๆกับช่องก็ยังพอจัดเก็บได้ไม่ยาก แต่พอเป็นของที่มีรูปทรงต่างออกไปอย่างผลไม้หรือเครื่องกระป๋องสิ่งที่ช่วยได้คือการทำชั้นย่อยในช่องเก็บของอีกทีครับ

ทีนี้ถ้าชั้นวางของเต็มแล้วยังไม่มีที่เก็บของกระจุกกระจิกอย่างพวกซองขนมก็ไม่ต้องห่วงไปครับ เรายังพอมีตัวช่วยได้อีกหน่อยคือการทำราวแขวนของแบบมีตัวหนีบ ตัวหนีบนี้นอกจากจะช่วยประหยัดพื้นที่แล้วยังช่วยให้เห็นของง่ายและหยิบมาใช้ได้สะดวกกว่าด้วย เราอาจนำของกินที่ใกล้หมดอายุย้ายมาไว้ส่วนนี้ พอได้เห็นก่อนก็จะหยิบไปกินก่อนไม่ต้องกลัวลืมว่าจะไปหยิบของใหม่มากินแทนที่จะเป็นของเก่า

ถ้าใครเจอปัญหาทำ Built-in มาแล้วช่องเก็บของใหญ่ไปหรือไม่อยากทำชั้นวางของเพิ่มลองวิธีนี้ดูครับเป็นการใช้กล่องเก็บของมาวางซ้อนกันแทนกล่องประเภทนี้มักจะขายกันเป็นชุดอยู่แล้วหรือจะเรียกว่ากล่องแบบ stack ก็ได้ครับ

ไหนๆก็พูดถึงกล่องเก็บของแล้วลองมาดูรายละเอียดของกล่องกันหน่อย เวลาเก็บของตามชั้นต่างๆถ้าเป็นของที่มีขนาดเล็กเยอะๆแนะนำว่าให้หาถาดมาใส่แบบในรูปจะใช้งานสะดวกกว่า แต่ลองสังเกตดูจะเห็นว่าถ้าเราใช้กล่องใสแบบด้านขวาจะช่วยให้เราเห็นของด้านในชัดเจนกว่า แล้วเวลาจะหาของที่ต้องการจะหาง่ายขึ้นครับ

การจัดเก็บของที่เคาน์เตอร์นั้นออกจากจะเอาไว้เก็บเครื่องครัวแล้วยังสามารถปรับให้เป็นที่เก็บเสื้อผ้ารอซักก็ได้ในกรณีที่พื้นที่ครัวเชื่อมต่อกับพื้นที่วางเครื่องซักผ้า การนำพวกตะกร้าผ้ามาใส่ใต้เคาน์เตอร์นั้นต้องทำรางเลื่อนด้านล่างไว้ด้วยเวลาจะดึงตะกร้าผ้าออกมาจะได้ไม่ลำบาก แถมเวลาแขกไปใครมายังช่วยให้บ้านเราดูเรียบร้อยมากขึ้นด้วยครับ

สำหรับใต้อ่างล้างจานส่วนใหญ่เรามักจะเอาไว้เก็บพวกน้ำยาต่างๆเช่นพวกน้ำยาล้างจาน, น้ำยาล้างห้องน้ำ หรืออุปกรณ์อย่างฟองน้ำและแปรงต่างๆ การจัดเก็บควรหาถาด ตะแกรง หรือลิ้นชักเล็กๆมาใส่ไว้เพื่อแยกประเภทของออกจากกัน

นอกจากการเก็บของในตู้แล้วที่ฝาตู้ด้านข้างยังใช้พื้นที่ให้เป็นประโยชน์ได้อีกนะ สิ่งที่จะเก็บได้จะเป็นพวกของที่ไม่หนามากอย่างม้วนฟอยล์หรือพลาสติกแรปห่ออาหาร โดยนำกล่องใส่แฟ้มเอกสารมาติดด้านข้างจะใส่ได้ประมาณ 4 ม้วนครับ

มาดูในส่วนของ ห้องน้ำ กันบ้างครับ ในห้องน้ำถ้าไม่ได้มีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับการเก็บของ อาจจะต้องเพิ่มตู้เข้ามาเป็นตัวช่วยอย่างในรูปด้านบนจะเห็นว่าเค้าใช้ฉากกั้นตรงอ่างล้างหน้ากับทางเดินทำเป็นลิ้นชักเก็บของในตัว ข้อดีของการเก็บของแบบนี้คือจะไม่มีพวกเครื่องสำอางหรืออุปกรณ์ต่างๆมาอยู่บนเคาน์เตอร์เลยทำให้บริเวณอ่างดูเรียบร้อย ส่วนรูปขวาจะเป็นการทำชั้นเก็บเพิ่มเติมอยู่ด้านข้างของส่วนโถสุขภัณฑ์ซึ่งเป็นโซนแห้งที่ไม่ค่อยโดนน้ำเท่าไหร่เอาไว้เก็บพวกน้ำยา สบู่ หรือกระดาษทิชชู่ก็ได้

พื้นที่อีกส่วนที่ไม่ค่อยมีคนใช้คือพื้นที่ระหว่างขอบประตูด้านบนกับฝ้าเพดานพื้นที่เหลือตรงนี้จะกว้างไม่มากนักพอทำชั้นเก็บของเล็กๆได้ เอาไว้เก็บของที่ไม่อยากให้โดนน้ำได้เป็นอย่างดีอย่างเช่น ทิชชู่หรือผ้าเช็ดตัว แต่การหยิบใช้งานอาจจะลำบากไปสักหน่อยสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆนะครับ

พื่้นที่อีกจุดที่สามารถทำช่องเก็บของพร้อมตกแต่งไปได้ด้วยก็คือ พื้นที่เหนือโถสุขภัณฑ์โดยส่วนใหญ่แล้วพื้นที่ตรงนี้มักจะถูกทิ้งให้ว่างไปเปล่าๆไม่ได้ใช้งานอะไร การเพิ่มตู้หรือชั้นวางของเข้าไปจะช่วยให้เพิ่มพื้นที่เก็บของได้อีกพอสมควร หรือถ้าใครมีไอเดียเก๋ๆหาของน่ารักมาตกแต่งจะช่วยสร้างบรรยากาศในห้องน้ำให้น่าใช้งานมากขึ้นอีกด้วย

สำหรับ ห้องนอน นั้นส่วนใหญ่มักจะมีตู้เสื้อผ้าหรือตู้เก็บของใต้เตียงกันอยู่แล้ว เลยเอาไอเดียการทำ Built-in มาให้ดูแทน เพราะถ้าอยากได้ที่เก็บของเยอะๆเราก็สามารถทำ Built-in แทนที่พื้นไปเลยก็ได้อยากในรูปจะเห็นว่าเค้ายกพื้นขึ้นมาสูงพอสมควรเพื่อให้เก็บของได้เยอะขึ้น แต่การทำแบบนี้มีข้อควรระวังที่ต้องคำนึงถึงอยู่สองข้อ ข้อแรกคือความสูงของฝ้าเพดาน ถ้าฝ้าเพดานต่ำการทำให้พื้นให้สูงขึ้นห้องจะดูแคบลงไปพอสมควร ข้อที่สองคือเฟอร์นิเจอร์ที่มาวางในพื้นที่ต้องมีน้ำหนักเบาและเคลื่อนย้ายได้ไม่ยากเกินไปเพราะถ้าต้องการหยิบของในตู้ที่พื้นจะได้ขยับไม่ยาก ยกเว้นว่าคุณตั้งใจจะแอบเก็บของที่ไม่อยากให้ใครรู้นะครับ ฮ่าๆๆ
** ขอบคุณภาพประกอบทั้งหมดจาก pinterest.com


ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving