อยู่สบายในแนวราบตอน จัดที่ทางสำหรับวางหัวใจ จะพาไปดูการจัดวางบ้าน พื้นที่ใช้สอยสำหรับสมาชิกตัวน้อยคนใหม่ ที่กำลังจะเติบโตขึ้นมาในครอบครัวบนบ้านหลังที่แสนจะอบอุ่นค่ะ (ภาพประกอบ เจ๊สวยๆคนหนึ่งแถวๆออฟฟิสและลูกของเธอค่ะ)

สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านที่รัก วันนี้คุณนายจะชวนคุยเรื่องเบาๆ บ้างดีไหมคะ หลังจากอัดหนักทั้งข้อมูลและสถิติมาหลายตอน (ย้อนไปอ่านตอนเก่าๆได้ที่นี่นะคะ)

มีอยู่วันหนึ่ง คุณนายลงสถานะบน Facebook ของตัวเองว่า “Seeing my little girl’s face light up when I’m home just makes my day worthwhile.” ในสมองของคุณนายตอนนั้น ตั้งใจจะบอกว่า “พอเห็นเจ้าตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมาทำตาวิ้งวั้งเป็นประกายเหมือนได้ของขวัญวิเศษสุดในชีวิตเมื่อเห็นแม่กลับมาบ้าน มันทำให้วันวันนี้ของแม่คุ้มค่าขึ้นมาเลย” ปรากฏว่ามีพี่น้องเพื่อนฝูงทั้งที่เป็นคุณแม่แล้วและยังไม่ใช่ เข้ามา like กันตรึมเลย นี่แหละค่ะในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง ประสบการณ์ที่จัดอยู่ในระดับที่สามารถเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตกันได้เลยอันหนึ่ง คงหนีไม่พ้นการเป็นแม่ค่ะ

การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนเป็นแม่มือใหม่ที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือการอยู่ติดบ้านมากขึ้นค่ะ ก่อนจะมีลูก เอะอะก็ออกไปข้างนอกตลอดค่ะ ไม่ว่าจะไปกินข้าว ดูหนัง ออกกำลังกาย แดนซ์กระจาย ไปเที่ยว แฮงเอ้าท์ เม้าท์กับเพื่อน และอื่นๆๆๆ พอหลังจากมีลูกปุ๊บ ลองสังเกตดูซิคะ คุณแม่ๆ ทั้งหลายจากที่เคยเปรี้ยวเที่ยวกระหน่ำ กลายร่างเป็นนางตานีผีเฝ้าบ้านกันไปเลย จะไม่ให้อยู่บ้านยังไงไหวคะ นอนยังแทบไม่ได้นอน ต้องให้นม ต้องเลี้ยงลูก เวลาจะกินข้าวอาบน้ำ ยังทำแบบเบลอๆ ลนๆ เพราะกลัวว่าลูกจะร้องตื่นขึ้นมา เมื่อลักษณะกิจกรรมเปลี่ยนแปลงไป ใช้ชีวิตอยู่กับบ้านมากขึ้นแถมมีสมาชิกเล็กๆ เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง การใช้พื้นที่ในบ้านก็ย่อมเปลี่ยนไปด้วย

การเปลี่ยนแปลงการใช้พื้นที่ อย่างแรกเลยคือต้องมีการขยับขยายพื้นที่ให้ลูกอยู่ เชื่อไหมคะแค่เด็กตัวเล็กๆ แต่ข้าวของช่างเยอะแยะมากมาย ถ้าพฤติกรรมแบบแม่ไทยๆตัวติดลูกอย่างเราๆ หากห้องนอนปัจจุบันใหญ่พอ การหามุมวางเตียงเด็กไว้ในห้องนอน ก็สะดวกในการเลี้ยงตอนกลางคืนดีค่ะ แล้วก็หาที่หรือห้องแยกวาง Playpen หรือเตียงอีกตัวไว้ที่ชั้นล่างเวลาเลี้ยงตอนกลางวัน เมื่อเวลามีแขกมาเยี่ยม เราจะได้ไม่ต้องต้อนรับแขกในห้องนอนใหญ่ โซนที่ทำเป็นเนอเซอรี่เฟอร์นิเจอร์ก็มักจะประกอบไปด้วย เตียงนอนเด็ก ที่วางเบาะกันน้ำสำหรับเปลี่ยนผ้าอ้อม ตู้หรือชั้นเก็บพวกเสื้อผ้า ผ้าอ้อม ผ้าเช็ดตัวเด็ก ถังขยะแบบมีฝาปิด เก้าอี้สำหรับนั่งให้นม (ถ้าเป็นแบบปรับนอนได้เลยยิ่งดี) ที่เดินไปเดินมากว้างๆ เวลาเดินกล่อมลูก หน้าต่างบานใหญ่ๆ เอาไว้หลอกล่อดูนกดูไม้

ภาพจาก www.homedecordream.com

อันนี้ดูตัวอย่างจัดห้องโทนประมาณนี้คุณนายว่ากลางๆ ดีได้ทั้งเบบี๋หญิงหรือชาย เฟอร์นิเจอร์ไม่ต้องมากชิ้นแล้วก็ไม่ต้องแบบกุ๊กกิ๊กเด็กจ๋าเกินไปจะได้ใช้ต่อได้เวลาโต แนะนำว่าพวกของเล่นประดับตกแต่งตุ๊กตาขนสัตว์อะไรไม่ต้องเยอะค่ะ เด็กสมัยนี้เป็นภูมิแพ้กันเยอะมาก หลีกเลี่ยงข้าวของเครื่องใช้ที่ทำความสะอาดยาก เก็บฝุ่นเยอะเป็นดีที่สุด


ภาพจาก http://emmyloubeedoo.blogspot.com

อันนี้ตัวอย่างการจัดพื้นที่เนอเซอรี่ไว้ข้างล่างแบบกุ๊กกิ๊กมากหน่อย ได้แสงธรรมชาติเยอะดี แล้วพาเจ้าตัวเล็กอุ้มออกไปเดินเล่นดูต้นไม้ข้างนอกได้สะดวกดี เด็กเล็กๆ ทุกคนชอบดูธรรมชาติรอบๆ บ้าน ถ้าได้พาไปเข็นรถรอบหมู่บ้านแวะดูต้นไม้ กระรอกวิ่ง และเด็กอื่นๆ เล่นที่สนามเด็กเล่น จะชอบมาก หายงอแงเลย หรือถ้าเดินออกไปสนามหลังบ้าน ชวนดูนกหรือสัตว์ธรรมด๊าธรรมดา อย่างเช่นไส้เดือนกิ้งกือ เขาก็จะสนใจมาก


ภาพประกอบ โดยคุณนายเอง วาดตอนแพ้ท้องอยู่บ้าน


ภาพจาก http://en.wikipedia.org

อันนี้เป็นอีกอันที่คุณนายชอบนะคะ เรียบๆ ง่ายๆ ติสๆ หน่อยดี ใช้ภาพถ่ายหรือภาพโปสเตอร์มาตกแต่งห้องให้ดูมีสีสัน เด็กเล็กๆ ตาเขาจะให้ความสนใจและแยกออกเฉพาะสีสันสดๆ หรือภาพที่มี Contrast มากๆ ค่ะ แล้วภาพพวกนี้เราก็สามารถเปลี่ยนได้เรื่อยๆ ไม่จำเจดีค่ะ จุดเด่นของห้องนี้อีกอย่าง คือมีที่ให้งีบสำหรับคุณแม่ค่ะ

อันนี้ห้องสำหรับ Supermom ที่เป็นคุณแม่ลูกแฝดนะคะ (เราน่าจะต้องมอบโล่ห์เกียรติยศให้คุณเธอเหล่านี้) หน้าต่างเยอะดีค่ะคุณนายชอบ ข้อดีของหน้าต่างกว้างๆได้แสงธรรมชาติเยอะๆ อย่างนึงคืออะไรรู้ไหมคะ เด็กบางคนคลอดออกมาใหม่ๆ จนถึงสองสามสัปดาห์แรกจะมีอาการตัวเหลืองเพราะมีสารบิริรูบิลที่ยังขับออกไม่หมดค่ะ คุณหมอจะบอกให้เอาไปตากแดดอ่อนตอนเช้าๆ ทุกวันค่ะ จะช่วยให้ดีขึ้นค่ะ

เอาล่ะค่ะ ไว้ตอนหน้าเรามาดูการจัดพื้นที่สำหรับวัยเด็กโตขึ้นมาอีกหน่อยกันนะคะ คุณนายขอจบตอนนี้ ด้วยวลีสวยๆ อันเป็นที่มาของชื่อตอน…จัดที่ทางสำหรับวางหัวใจ

“Making a decision to have a child—it’s momentous. It is to decide forever to have your heart go walking around outside your body.” –Elizabeth Stone

XOXO
คุณนายสวนหลวง