1

ที่มาของภาพ :  Maximum Temperature Record (Thai meteorological Department, 2011)

อยู่สบายกับคุณนายสวนหลวง – จัดต้นไม้ คลายร้อนให้บ้าน (ย้อนไปอ่านตอนเก่าๆได้ที่นี่นะคะ)

สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่าน ช่วงนี้อากาศมันช่างร้อนจริงอะไรจริงนะคะ แดดพี่ไทยเรานั้นร้อนแรงไม่แพ้ชาติไหนในโลก อันเนื่องมาจากเราอยู่ในโซนร้อนชื้น แถมยังใกล้เส้นศูนย์สูตรอีก โดยเฉพาะในช่วงหน้าที่ร้อนสุดๆ อย่างเช่นเดือน เมษายน พฤษภาคม

ยิ่งหลังปี 2550 มานี้ มีการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทั่วโลก ส่งผลกระทบให้ประเทศไทยต้องพบเจอกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะทางตอนบนของประเทศ ภาพด้านบนนี้คือตัวอย่างสถิติอุณหภูมิที่ขึ้นสูงสุดในแต่ละพื้นภาคของประเทศไทย สูงสุด 44 องศา!!!! O M G ><

คุณนายตั้งข้อสังเกตนะคะ จะเห็นว่าพื้นที่ที่เป็นที่โล่งราบสูงตามภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือบางส่วน เวลาร้อน จะร้อนมากกว่าบริเวณที่เป็นที่ราบลุ่ม เช่นภาคกลาง และพื้นที่ที่ติดชายฝั่งทะเล เช่นภาคใต้ ซึ่งจะมีฝนตกบ่อย ช่วยบรรเทาความร้อนไปบ้าง  ดังนั้นจะเห็นว่าสภาพแวดล้อม ภูมิประเทศที่แตกต่างกันมีผลทำให้ความร้อนเย็นในแต่ละพื้นที่แตกต่างกันออกไปด้วย

ดังนั้น นอกจากเรื่องของการออกแบบทางสถาปัตยกรรมของตัวบ้านเพื่อให้บ้านเย็นแล้ว (ซึ่งคุณนายได้ยกตัวอย่างและรีวิวในตอนบ้านประหยัดพลังงาน ต้นทุนต่ำกันไปแล้ว) สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการช่วยให้บ้านเย็นก็คือการจัดสภาพแวดล้อมรอบตัวบ้านค่ะ เรามาคุยกันเรื่องการจัดวางต้นไม้ เพื่อคลายร้อนให้บ้านกันดีกว่านะคะ ^^

2

คุณผู้อ่านคงเคยได้ยินสำนวน “Put the right man on the right job” ใช่ไหมค่ะ เรื่องของการเลือกพรรณไม้ก็เช่นเดียวกันค่ะ จะประสบความสำเร็จในการกันความร้อนและไม่ก่อให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังเราต้อง “Put the right plant on the right place “บ้านถึงจะอยู่สบาย เพราะการเลือกและวางต้นไม้ มีหลายอย่างที่ต้องคำนึงถึง ไม่ว่าจะเป็น การวางต้นไม้ที่ทรงพุ่มอยู่ในระดับที่กันแดด แต่ไม่บังลม และการวางระยะห่างให้พอเหมาะจากตัวบ้าน ที่เมื่อต้นไม้เจริญเติบโตเต็มที่แล้วจะไม่เป็นการกระทบกระเทือนต่อโครงสร้างบ้าน เป็นต้น

ประการแรก เรื่องเทคนิคการวางตำแหน่งของต้นไม้ หลักการที่สุดแสนจะง่ายดายที่คุณนายขอนำเสนอคือ “ ต้านแดด และรับลม” ค่ะ (แหม….แอบเหมือนหนังกำลังภายในพิกล อิอิ) ตำแหน่งของต้นไม้ควรช่วยในการป้องกันแสงแดดสู่ตัวบ้าน และให้ร่มเงาแก่ที่อยู่อาศัยโดยที่ไม่ไปบังหรือกีดขวางแนวพัดผ่านของลมคะ ทิศที่เหมาะสมจะจัดสวนและวางต้นไม้มากที่สุดนั้นก็คือ ทิศตะวันตก เพราะเป็นทิศทางของบ้านที่ได้รับความร้อนจากแสงแดดมากที่สุดของวัน

3

บ้านตามภาพก็มีการแก้ปัญหาเรื่องความร้อนของทิศตะวันตกไประดับหนึ่งแล้วนะคะ ด้วยการเอาส่วน serviceของบ้าน คือห้องน้ำและห้องแม่บ้านมาไว้ในทิศนี้ ซึ่งจะทำหน้าที่กันความร้อนเข้าสู่พื้นที่ที่เราใช้อยู่อาศัย แต่ว่า…คุณค่ะ  แม่บ้านสมัยนี้หายากนะคะ ถ้าเราอยากให้เขาอยู่กับเรานานๆ เราก็กันความร้อนให้เขาซะหน่อย ด้วยการใส่ต้นไม้เข้าไปกันความร้อนให้ห้องเขาอีกที จะได้อยู่สบายกันทั้งนายทั้งบ่าว แล้วถ้าเราเป็นคนชอบจิบกาแฟยามเช้าชมบรรยากาศสวน ตรงระเบียงด้านขวามือของบ้านในทิศตะวันออก เราจะใส่ต้นไม้ไว้ด้วยก็ได้นะคะ เราจะได้นั่งชิลได้นานขึ้น จากที่นั่งจิบกาแฟได้ถึงแค่ 9 โมงเช้า แต่ถ้าใส่ต้นไม้ใหญ่เข้าไปอาจเอา ipadมานั่งทำงานไปด้วย ชมสวนไปด้วย ได้ถึง 10-11โมง โดยแดดไม่แยงตา ^^

4

 

ควรปลูกต้นไม้ที่มีลักษณะให้ร่มเงา ดั่งเช่น ต้นไม้ที่มีใบและพุ่มค่อนข้างใหญ่ สามารถให้ร่มเงาได้ตลอดปี แต่ การปลูกต้นไม้ทางทิศใต้นั้น ควรจะเป็นพันธ์ไม้ที่พุ่มไม่ใหญ่จนเกินไป ตัวลำต้นโปร่งเพรียวสามารถช่วยป้องกันแสงแดดได้ก็จริงแต่ควรวางอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องและไม่ไปปิดกันทิศทางลมนะคะ เพราะว่าทิศใต้คือทิศที่มีกระแสลมพัดผ่านมากที่สุดค่ะ ช่วยให้บ้านเย็นขึ้นได้ ไม่ควรปลูกต้นไม้ประเภทลำต้นใหญ่เพราะจะบล็อกทิศทางลมค่ะ

5

ประการต่อมา ควรลดพื้นที่กักเก็บความร้อน พูดถึงเรื่องป้องกันแสงแดดโดยตรงกันมาแล้ว แต่คุณผู้อ่านทราบไหมคะ ความร้อนที่เข้ามาในตัวบ้านของคุนผู้อ่านนั้น ไม่ได้มาจากแสงอาทิตย์ที่ส่องลงมาตรงๆ อย่างเดียว  วัสดุและพื้นผิวต่างๆ สามารถกระจายความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านได้เช่นกัน เมื่อตัวมันเองอุณหภูมิสูงขึ้นหลังจากได้รับแสงแดดที่เรียกกันว่าการนำความร้อนไงคะ (ฮั่นแน่….ตอนเด็กๆ โดดเรียนฟิสิกส์กันรึเปล่า)

ถ้ามีการวางและปลูกต้นไม้ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมนัก อย่างภาพแรกด้านล่างนี้ก็ จะเห็นได้ว่าตัวบ้านนั้นได้รับแสงสะท้อนและความร้อนที่ถูกปล่อยมาจากลานคอนกรีตหน้าบ้าน

6

แต่พอปรับเปลี่ยนและจัดวางต้นไม้ในตำแหน่งที่เหมาะสมตามรูปด้านล่าง ต้นไม้ก็จะเป็นตัวป้องกันทั้งแสงและความร้อนจากพระอาทิตย์โดยตรง และไอความร้อนที่สะท้อนจากพื้นผิวคอนกรีต

 

7

การจัดวางตำแหน่งของต้นไม้ที่เหมาะสม  ต้นไม้ก็จะสามารถทำหน้าที่เป็นเหมือนป้อมปราการไม่ให้ความร้อนผ่านเข้ามาในบ้านของเราได้  แล้วถ้าเราเปลี่ยนจากลานคอนกรีตกว้างหน้าบ้านมาปลูกหญ้ากัน จะสามารถลดการกักเก็บสะสมความร้อนได้ถึง 45 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ แสงสะท้อนจากตัวพื้นผิวก้อจะลดลงถึง 20 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย

8

เห็นไหมละคะ ถ้าเราสามารถปูหญ้าจัดสวนวางต้นไม้ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ก็จะเบาภาระเรื่องพลังงานระบบปรับอากาศภายในบ้านไปได้เยอะเลยค่ะ

ประการที่สาม เทคนิคในการเลือกพันธุ์ไม้เพื่อปลูกให้ร่มเงาการเลือกพรรณไม้เพื่อปลูกให้ร่มเงานั้นควรจะมีลักษณะของพุ่มที่ค่อนข้างแผ่กว้างและหนาแต่ลำต้นควรที่จะโล่งโปร่งไม่บังทิศทางลม ง่ายๆ นะคะ ลองนึกถึงต้นไม้ที่เป็น Umbrella shape ที่ลำต้นไม่เกะกะเราเลย ไม่บังวิว ไม่บังลม แต่สามารถปกคลุมเราจากแดดจากฝนได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น ต้นสารภี ลำต้นสูงโปร่ง รูปทรงพุ่มสวยงาม ตามภาพด้านล่าง เป็นต้น และต้นอื่นๆ ก็มีอีกยกตัวอย่างเช่น พญาสัตบรรณ กันเกรา ประดู่ สาเก

9

ที่มาของภาพ : สวนพฤกษศาสตร์ โรงเรียนประชานุเคราะห์

แล้วถ้ายิ่งเป็นพันธุ์ไม้ที่ผลัดใบน้อยหรือไม่ผลัดใบเลย เราก็สามารถได้รับประโยชน์จากร่มเงาได้ทั้งปี แถมยังไม่ต้องเหนื่อยเก็บกวาดตลอดเวลาอีกต่างหาก แล้วก็ควรเลือกไม้ใหญ่ประเภทที่กิ่งก้านสาขามีความแข็งแรง ไม่เปราะหักง่าย  อีกสิ่งนึงที่เราจะต้องคำนึงถึงนั่นก็คือ รากของพันธุ์ไม้แต่ละประเภท เพราะเจ้าสิ่งนี้ล่ะคะ สามารถเป็นปัญหาใหญ่ให้กับโครงสร้างบ้านของเราได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพันธุ์ไม้ประเภท รากลอย อย่างเช่น พืชตระกูลไทร  เหลืองอินเดีย หางนกยูง  ไกรหรือ กร่าง ชมพูพันธุ์ทิพย์ รากจะอลังการชอนไชกันทุกอณูเลยทีเดียวค่ะ แนะนำไม่ให้ปลูกในบริเวณบ้านนะคะ ถ้าไม่ได้ต้องการความสะดวกในการขอเลขเด็ดเช้าเย็นอะไรขนาดนั้น

10

ที่มาของภาพ : Ok Nation

การเลือกวางตำแหน่งต้นไม้และเลือกประเภทต้นไม้ที่เหมาะสม นอกจากจะช่วยให้ร่มเงาและกันความร้อนแล้ว ยังสามารถสร้างบรรยากาศ​ทำให้เรารู้สึกสดชื่น สร้างบรรยากาศที่ดี ลดคาร์บอนไดออกไซด์ เพิ่มออกซิเจนคืนสู่อากาศ เพิ่มความสดชื่นให้กับผู้อยู่อาศัย

เท่านี้ล่ะค่ะ เราก็จะได้ความรู้สึกว่ากลับบ้าน เหมือนได้พักผ่อนตากอากาศ  สุดแสนสงบ สดชื่นและร่มเย็น ลืมความร้อน ความวุ่นวายและมลพิษของเมืองหลวง จนท่านอยากจะผูกตัวติดไว้กลับบ้านเลยล่ะคะ คุณนายขอบอก

 XOXO

คุณนายสวนหลวง