หากพูดถึงต้นไม้ เชื่อว่าเกือบทุกคนคงจะนึกถึงความร่มรื่น สบายตา สบายใจ ใครที่พอมีพื้นที่จึงมักจะซื้อมาปลูกหรือจัดสวนในตัวบ้าน อย่างปัจจุบันก็จะฮิตต้นไม้ฟอกอากาศกัน หรือจะปลูกเพื่อเสริมดวงก็มีค่ะ แต่รู้ไหมคะ ว่าถ้าเลือกต้นไม้มาปลูกในบ้านผิดก็อาจจะสร้างความวิบัติให้กับตัวบ้านและผู้อยู่อาศัยได้

แล้วต้นไม้ประเภทไหนที่ไม่แนะนำให้ปลูกในบ้านบ้าง?

ต้นไม้ใหญ่เติบโตเร็ว

ต้นไม้ใหญ่ถึงแม้ว่าจะมีรูปทรงที่สวยงาม สามารถแผ่กิ่งก้านให้ร่มเงากับเราได้ แต่ถ้าเป็นต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่จนเกินกว่าพื้นที่ในบ้านจะรับไหว แถมยังเจริญเติบโตค่อนข้างไวก็อาจจะมีปัญหากับตัวบ้านแน่ๆ เพราะอาจจะทำให้บ้านดูรก ตัดกิ่งก้านไม่ทัน และบางชนิดอาจจะใหญ่จนทำลายโครงสร้างของบ้านได้ เช่น ต้นไทร เป็นต้นไม้ใหญ่ที่โตเร็วมากๆ , ต้นจามจุรีที่โตเต็มที่ได้ถึง 20 เมตร และแผ่กิ่งก้านได้กว้างระดับ 20 เมตรเลยทีเดียว หรือจะเป็นต้นยางที่มีความสูงใหญ่มากๆหากโค่นล้มลงมาทับคนในบ้านอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้

ต้นไม้ที่มีรากที่ชอนไช

ต้นไม้บางชนิดมีรากที่ทรงพลังมากๆ สามารถชอนไชทำลายกำแพงและก่อความเสียหายให้โครงสร้างบ้านได้อย่างน่ากลัวหากพลั้งเผลอปลูกเอาไว้ในบริเวณบ้าน ต้นไม้บางชนิดมีรากที่แข็งแรงและสามารถแผ่ได้เป็นบริเวณกว้าง ทำให้เกิดความเสียหายให้กับบ้านเราและลามไปถึงเพื่อนบ้านได้ด้วย ตัวอย่างของไม้ประเภทนี้ได้แก่ ไทร ชมพูพันธุ์ทิพย์ หูกวาง หางนกยูงฝรั่ง หูกระจง

ต้นไม้ใหญ่ที่มีกิ่งก้านเปราะ หักง่าย

กิ่งก้านของต้นไม้ประเภทนี้จะหักง่าย บทจะหักก็หักเอาเฉยๆ ซึ่งสามารถทำให้คุณเสี่ยงอันตรายจากการโดนกิ่งไม้ตกลงมาใส่ศีรษะคนในบ้านหรือร่วงลงมาใส่หลังคาบ้านและรถ สร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินได้ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนที่มีลมพายุแรง จึงไม่ควรเลือกต้นไม้ประเภทนี้มาปลูกในบ้านค่ะ เช่น หางนกยูงฝรั่ง ก้ามปู กระถินณรงค์ ปาล์มขวด ไผ่ โพธิ์ เป็นต้น

ต้นไม้ที่ใบหรือผลร่วงง่าย

ต้นไม้ที่มีใบหรือผลร่วงง่ายมักจะทำให้มีปัญหาในการเก็บกวาด ยิ่งถ้าหล่นลงไปบ้านเพื่อนบ้านอาจจะมีดราม่ากันได้ โดยเฉพาะถ้าพื้นที่นั้นๆมีแอ่งน้ำหรือสระว่ายน้ำเพราะจะทำให้การเก็บกวาดยากขึ้นเป็นทวีคูณ ยกตัวอย่างต้นไม้ในกลุ่มนี้เช่น หูกวาง เป็นต้นไม้ที่มีใบใหญ่ ใบและผลร่วงเยอะ แถมผลเมื่อสุกจะหล่นลงพื้นเละเทะทำความสะอาดได้ยาก และอาจมีสัตว์ต่างๆมาจิกกินเป็นการเพิ่มปัญหาเข้ามาอีก หูกระจง ต้นไม้ที่มีใบเล็กชอบปลิวเข้าบ้านหรือปลิวไปปิดท่อระบายน้ำ นอกจากนั้นจะมีต้นไม้ประเภทที่ผลัดใบเป็นบางเดือนแต่ผลัดทีทั้งต้นเช่นต้นโพธิ์ หรือ ชมพูพันธุ์ทิพย์ ที่จะผลัดใบ ช่วงเดือนพฤศจิกายน – มกราคม ซึ่งจะเป็นปัญหาให้กับเราและเพื่อนบ้านเดือดร้อนแน่ๆ

ต้นไม้ที่มีพิษ

ต้นไม้บางชนิดที่ลักษณะภายนอกแล้วดูสวยงาม มีดอกสีสันสดใสน่าเอามาปลูกในบ้าน แต่ใบ ราก หรือผลของมันกลับมีพิษ ที่เจอบ่อยคือมียางที่เป็นอันตรายต่อคนที่ไปสัมผัส ซึ่งถ้าไม่ระวังอาจจะทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน เป็นอันตรายต่อผิวหนังได้ บางรายอาจจะถึงขั้นอัมพาตหรือเสียชีวิตได้ ไม้ที่อยู่ในกลุ่มนี้ได้แก่ ลั่นทม รัก ชวนชม สาวน้อยประแป้ง ลิลลี่ หางนกยูงไทย เป็นต้น

ต้นไม้ที่มีหนามแหลม

การปลูกต้นไม้ที่มีส่วนหนึ่งส่วนใดแหลมคม ไม่ว่าจะเป็นกิ่ง ก้าน หรือใบ ถึงแม้ว่าใบจะมีทรงสวยน่าเอามาประดับตกแต่งก็ตาม ย่อมทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดบาดแผลต่อคนในบ้านและสัตว์เลี้ยง หากปลูกในตำแหน่งที่เสี่ยงต่อการเดินไปสัมผัสหรือในพื้นที่ที่จำกัด ถ้าเราเดินไม่ระวังก็อาจจะโดนบาดได้ เช่น ต้นหวาย โป๊ยเซียน กระบองเพชร (ต้นใหญ่) เข็มกุดั่น ปาล์มสิบสองปันนา เป็นต้น

ต้นไม้ที่มีกลิ่นรบกวน

ต้นไม้บางชนิดจะมีกลิ่นที่รุนแรงออกมาจากดอก ผล หรือใบ ซึ่งกลิ่นนั้นอาจจะไม่มีพิษมีภัยแต่ถ้าสูดดมไปนานๆอาจจะทำให้ปวดหัว คลื่นเหียนจนไม่อยากจะดมต่อไป กลายเป็นรบกวนการอยู่อาศัยไปเลยค่ะ เช่น พญาสัตบรรณ ที่ดอกมีกลิ่นหอมมากจนฉุนเพราะเวลาออกดอกจะออกทีเดียวเต็มต้น จนหลายๆคนทนความฉุนไม่ได้ อีกตัวอย่างคือ อุตพิด ที่มีดอกที่เหม็นมากๆแค่เดินเฉียดห่างเป็นเมตรยังได้กลิ่นเลยค่ะ

ต้นไม้ที่ดึงดูดแมลงหรือสัตว์มีพิษเข้ามาในบ้าน

ต้นไม้บางชนิดเป็นที่ชื่นชอบของแมลงมากๆ ซึ่งแมลงนอกจากจะทำให้เกิดความรำคาญแล้ว บางชนิดอาจจะมีพิษเป็นอันตรายต่อคนในบ้านได้อีกด้วย ยกตัวอย่างต้นไม้ประเภทนี้เช่น ต้นโพธิ์ ไม้ใหญ่ที่มีแมลงค่อนข้างเยอะ หรือ พวกไม้ดอกที่เป็นตัวดึงดูดผีเสื้อ แม้ว่าจะดูสวยน่ารัก แต่ก่อนจะมาเป็นผีเสื้อนั้นก็เคยเป็นหนอนบุ้งมาก่อน ทางที่ดีควรเลือกปลูกต้นไม้ที่สามารถไล่แมลงได้จะดีกว่าค่ะ

ถึงแม้ว่าต้นไม้ที่ปลูกแล้วสร้างความเสียหายให้กับบ้านจะมีไม่น้อย แต่หากเราทำความเข้าใจลักษณะทางกายภาพของต้นไม้ก่อนตัดสินใจซื้อ ก็จะทำให้เรามีความสุขกับการปลูกต้นไม้และจัดสวนหย่อมภายในบ้านแน่นอนค่ะ


ติดตามพวกเราได้ที่