วันนี้เรามีบทความพิเศษ ที่จะช่วงป้องกันให้เราห่างไกลโรคระบาดอย่าง Covid-19 ได้ ซึ่งกำลังเริ่มระบาดหนักในประเทศไทย เพราะมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มแพร่กระจายกันในหลายจังหวัด โดยนอกจากการดูแลตัวเองแล้ว เราควรดูแลและทำความสะอาดบ้านอย่างถูกวิธี เพราะไวรัสโควิดเมื่อเกาะที่วัสดุต่างๆ สามารถอยู่ได้นานเป็นชั่วโมง แต่..เจ้าไวรัสตัวนี้ก็มีจุดอ่อน แค่เราหมั่นเช็ดทำความสะอาดบริเวณที่สัมผัสบ่อยๆ บ้านเราก็จะปลอดภัยจากเชื้อโรค และป้องกันคนที่เรารักได้อีกด้วย

เชื้อไวรัส COVID-19 คือ ??

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักไวรัสตัวนี้กันก่อน โดยไวรัส Covid-19 หรือชื่อย่อมาจาก Coronavirus Disease 2019 ที่ตั้งโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) จริงๆแล้วไวรัสโคโรนาอยู่กับเรามานานมากแล้ว โดยเชื้อสามารถอยู่ได้ทั้งในสัตว์และคน ซึ่งไวรัสโคโรนามีหลากหลายสายพันธุ์ ส่วนใหญ่เป็นเพียงไข้หวัดธรรมดา แต่บางสายพันธุ์ก็ก่อให้เกิดอาการรุนแรงจนถึงขั้นปอดอักเสบได้ เช่น โรคซาร์ส โรคเมอร์ส และโควิด-19 ซึ่งการที่เชื้อไวรัสจะเข้าในร่างกายได้นั้น มีด้วยกัน 2 ช่องทาง คือ

  • การสูดลมหายใจ เอาละอองฝอยจากการไอ จาม และสารคัดหลั่งอย่างน้ำมูก น้ำลาย หรือพูดคุยกับผู้ป่วยในระยะ 1-2 เมตร เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจไปสู่ปอด
  • ทางการสัมผัส ถ้าเราไปหยิบจับของบริเวณที่ผู้ป่วยสัมผัสไว้ เช่น ราวบันได ลูกบิดประตู ปุ่มกดลิฟต์ โต๊ะ/เก้าอี้ แล้วมาขยี้ตา สัมผัสใบหน้า หรือหยิบของกินเข้าปากก็สามารถติดได้เช่นกัน

เมื่อเชื้อไวรัสโควิด เข้าสู่ร่างกายไวรัสจะเข้าไปเกาะที่ผิวเซลล์ของมนุษย์ จากนั้นไวรัสจะค่อยๆเพิ่มจำนวนเชื้อในตัวเรา โดยช่วงที่ติดเชื้อใหม่ๆบางรายอาจจะไม่มีอาการให้เห็นชัดเจน ทำให้ระยะฟักตัวนี้แหละที่น่ากลัว เพราะเราสามารถเป็นพาหะในการแพร่กระจายให้ผู้อื่นได้ แต่หลังจากนั้นประมาณ 7-14 วัน หรือขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของแต่ละบุคคล จะมีไข้ขึ้นสูงมากกว่า >37.5 องศา พร้อมอาการไอแห้งๆ ปวดเมื่อยเนื้อตัว และหายใจลำบาก ส่วนรายที่อาการรุนแรงอาจจะเกิดปอดอักเสบ และภาวะทางเดินหายใจล้มเหลวได้นะคะ

ช่วงอายุที่เสียชีวิตมากที่สุด

จาก 100% แสดงว่า 85% ของคนที่อายุ 80+ รอดชีวิตนะคะ

สำหรับเชื้อตัวนี้จะว่าน่ากลัวก็น่ากลัว จะว่าไม่น่ากลัวก็ได้ เนื่องจากเชื้อที่เข้าไปในแต่ละบุคคลจะแสดงอาการไม่เหมือนกัน เพราะส่วนใหญ่ข้อมูลจาก กรมควบคุมโรคบอกว่า 80% ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดธรรมดาที่สามารถหายเองได้ ถ้าเรารักษาตามอาการไปเรื่อยๆ แต่อีกที่เหลือประมาณ 20% จะเป็นกลุ่มของคนที่มีโรคประจำตัว + เชื้อลงปอดรวมด้วย ทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายลดลง ซึ่งถ้าปอดไม่โดนทำลายเกิน 50% ร่างกายยังฟื้นฟูเองได้ตามสภาพแต่ละคน แต่ถ้าปอดถูกทำลายเกิน 70% ขึ้นไป ถือว่าเป็นผู้ป่วยวิกฤต ต้องใช้เครื่องหายใจช่วยค่ะ

แผนภาพด้านบนเป็นการเก็บสถิติจากประเทศจีน พบว่าผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้วเสียชีวิตส่วนใหญ่จะอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป หรือคนที่มีโรคประจำตัวควบคู่ไปด้วย เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิต โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดตีบ-ตัน เป็นต้น และในทางตรงกันข้ามเด็กที่อายุต่ำกว่า 10 ปี ก็ยังไม่พบผู้เสียชีวิตนะคะ ส่วนวัยทำงานแบบพวกเรามีเพียง 1-3% เท่านั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราก็อย่าประมาท เพราะ COVID-19 นี้ ยังไม่มียาหรือวัคซีน ที่รักษาอาการได้โดยตรง ทำได้แค่รักษาตามอาการเท่านั้น แนะนำให้ “ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ระมัดระวังตัวเอง เน้นล้างมือบ่อยๆ เพราะเป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด” 

7 วีธีการดูแลบ้าน และคนในครอบครัวให้ห่างไกลจาก Covid-19

อย่างที่บอกไปโรคโควิด-19 น่ากลัวที่สุด สำหรับผู้สูงอายุ หรือคนที่มีโรคประจำตัว ดังนั้นใครที่ออกไปข้างนอกกลับมาบ้านต้องป้องกันตัวเองให้ดี และทำความสะอาดพื้นที่ต่างๆภายในบ้าน เพราะคนไทยอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ มีทั้งพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ซึ่งทำให้มีผู้สูงอายุภายในบ้านหลายคน และมีความเสี่ยงมากกว่า ดังนั้นเราควรดูแลให้ท่านห่างไกลจากไวรัสตัวนี้มากที่สุด โดยเรามี 7 วิธีดูแลบ้านอย่างไรให้ถูกวิธี จากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

1.วิธีการใช้ชีวิตเวลาอยู่รวมกันภายในบ้าน

สำหรับช่วงโรคระบาดแบบนี้ เราคงต้องยอมห่างกับคนที่บ้านสักพัก เพื่อความปลอดภัยของคนในครอบครัว โดยเริ่มตั้งแต่ใส่ MASK ปิดปากเวลาเจอกัน เพื่อป้องกันการไอ จามแบบไม่ทันตั้งตัว ถัดมาเรื่องอาหารการกิน ถ้าต้องกินข้าวด้วยกัน แนะนำให้มีช้อนกลางของตัวเอง เน้นว่าของตัวเอง คือมี 2 ช้อน 1.เอาไว้ตักจานกลาง และ 2.เอาไว้ตักข้าวกิน เป็นวิธีที่ดีที่สุดถ้าเราจะกินข้าวด้วยกัน หรือแนะนำให้กินอาหารเป็นจานเดียว แค่นี้ก็สามารถลด และป้องกันการติดเชื้อระหว่างกันภายในบ้านได้

2.วิธีการทำความสะอาดของใช้ภายในบ้าน

จริงๆแล้วเชื้อโรคจะเจริญเติบโตได้ดีในร่างกาย และอ่อนแอลงเมื่ออยู่ภายนอกร่างกาย แต่สำหรับเชื้อไวรัสตัวนี้มีผลวิจัยว่า แม้จะออกมาภายนอก แต่ถ้าได้เกาะอยู่บนพื้นผิวของวัตถุใดวัตถุหนึ่งแล้ว จะยังมีอายุอยู่ได้หลายชั่วโมง หรืออาจจะเป็นวันๆเลย ดังนั้น เราต้องหมั่นทำความสะอาดอยู่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น ห้องครัว เพราะเป็นห้องที่ทุกคนในบ้านใช้ร่วมกัน ดังนั้น เราควรเน้นการทำความสะอาดเป็นพิเศษ

  • สิ่งของที่ใช้ทุกวันและจับบ่อยๆ เช่น มือถือ คอมพิวเตอร์ หูฟัง

  • ควรทำความสะอาดสม่ำเสมอ ทุกครั้งที่ใช้งาน โดยเช็ดแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นมากกว่า 70% แล้วเอาผ้าแห้งมาเช็ดซ้ำอีกรอบ

  • พื้นผิวที่สัมผัสบ่อย เช่น สวิตช์ไฟ โต๊ะ เก้าอี้ ราวจับบันได รีโมท
    • แนะนำให้ทำความสะอาดทุกวัน เพราะเป็นสิ่งที่เราต้องใช้มือสัมผัสโดยตรง ดังนั้นให้เช็ดด้วยแอลกฮอล์ที่มากกว่า 70% หรือใช้ Dettol แทนได้

  • อุปกรณ์ภายในห้องน้ำ เช่น อ่างล้างมือ โถชักโครก อ่างอาบน้ำ
    • เนื่องจากห้องน้ำมีความชื้นอยู่ และเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคมากกว่าที่อื่น ดังนั้น ควรใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ 1 ฝา/น้ำครึ่งลิตร หรือใช้ไฮเตอร์น้ำยาซักผ้าขาวแทน

  •  พื้นผิวโลหะ เช่น ลูกบิดประตู ก๊อกน้ำ
    • เป็นพื้นผิวที่เราสัมผัสบ่อยๆ แต่เราอาจจะละเลยไป แนะนำให้เช็ดด้วยแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 70% แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง * ห้ามใช้น้ำยาฟอกผ้าขาว เพราะมีฤทธิ์กร่อนโลหะ

  • พวกผ้าต่างๆ เช่น เสื้อผ้า ผ้าปูเตียง ผ้าขนหนู
    • เวลากลับบ้านให้รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที โดยเราสามารถซักผ้าได้ตามปกติเลย (ใช้ผงซักฟอก) หรือจะแช่น้ำร้อนสูง 60-90 องศาก็ได้

    ภาพจาก Tops และ Big C

    แอบบอกนิดนึง … ในช่วงเวลาแบบนี้แอลกฮอล์ทำความสะอาดค่อนข้างหายากหน่อยนะ ถ้าในกรณีที่เราหาไม่ได้จริงๆ เราสามารถใช้สิ่งอื่นทดแทนได้ และมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ ไม่ต่างกัน โดยหาซื้อได้ง่ายในท้องตลาด ยกตัวอย่าง

    • ไฮเตอร์ซักผ้าขาว – สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ 99.9% สำหรับขวดขนาด 250 มิลลิลิตร ใช้น้ำยา 5 ฝา/น้ำ 1 ลิตร และขนาด 1.5 ลิตร ใช้ 2.5 ฝา/น้ำ 1 ลิตร เป็นขนาดที่กำลังดี แต่ห้ามเช็ดทำความสะอาดบนโลหะ ไม้ อลูมิเนียม เพราะมีฤทธิ์กัดกร่อน
    • น้ำยาฆ่าเชื้อ Dettol  –  สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ 99.9% นิยมใช้ทำความสะอาดพื้น ถูบ้าน อุปกรณ์เครื่องใช้บางอย่าง แต่ห้ามใช้กับร่างกายโดยตรงนะ

    3. วิธีการใช้ห้องน้ำที่ถูกวิธี

    ห้องน้ำเป็นสถานที่ ที่เราต้องใช้งานกันทุกวัน ซึ่งเราต้องขับของเหลวอย่าง ปัสสาวะ และอุจจาระออกมา โดยจากผลวิจัยพบว่า ถ้าเราเป็นผู้ติดเชื้อนั่น ของเหลวที่ออกมาจากร่างกายจะมีเชื้อไวรัสบางส่วนติดออกมาด้วย ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ละอองต่างๆฟุ้งกระจายในอากาศ เวลาเรากดชักโครกให้ปิดฝาใช้งานทุกครั้ง

    4. Covid-19 ไม่ชอบอากาศถ่ายเท และอุณหภูมิที่สูง

    สำหรับงานวิจัยที่ได้จาก WHO บอกว่าเชื้อไวรัสตัวนี้ไม่ชอบพื้นที่อากาศถ่ายเท และแสงแดดที่ร้อนจัดมากๆ เนื่องจากตัวมันห่อหุ้มด้วยไขมัน เวลาเจอแดดร้อนๆมันจะตายเร็วกว่าอุณหภูมิต่ำ ซึ่งสำหรับบ้านเราแอบโชคดีเพราะอากาศค่อนข้างร้อน แต่ก็อย่าดีใจไป เพราะแม้จะตายเร็วแต่ก็ยังอยู่ได้เป็นชั่วโมงนะ ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงแนะนำให้เปิดประตู หน้าต่าง ให้อากาศถ่ายเท และเปิดรับแสงธรรมชาติวันละ 2-3 ชม. – ไวรัสโควิดจะตายในอุณหภูมิ 60-90 องศา หรือน้ำร้อนเดือดๆนะคะ

    5.ทำความสะอาดแผ่นกรองแอร์ มู่ลี่ มุ้งลวด

    สำหรับหน้าที่หลักๆของแผ่นกรอง มู่ลี่ และมุ้งลวด คือเอาไว้ดักฝุ่นหรือเชื้อแบคทีเรียต่างๆ จึงเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดีเลย ดังนั้น เราควรทำความสะอาดกันบ่อยๆนะคะ โดยให้เราถอดออกไปล้างน้ำเปล่าก่อน 1 รอบ เสร็จแล้วใช้สบู่+แปรงช่วยขัดฝุ่นต่างๆออก แล้วหลังจากนั้นเอาไปผึ่งตากแดดให้แห้ง ส่วนมู่ลี่แนะนำให้ใช้ Dettol เช็ดทีละซี่ แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดอีกรอบ เผื่อไม่ให้เกิดคราบน้ำค่ะ

    6. วิธีการใส่ MASK และทิ้งขยะให้ถูกต้องCovid-19

    ทุกวันนี้ MASK กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว เพราะทุกครั้งที่ออกจากบ้านตอนนี้เราต้องใส่แมสตลอดเหมือนเสื้อผ้าชิ้นหนึ่งเลยนะคะ แต่รู้หรือไหมว่าการดึงแมสเข้า-ออกบ่อยๆ เสี่ยงให้เราติดเชื้อมากขึ้นนะ เพราะเราจะจับเชื้อโรคโดยตรง ดังนั้นถ้าจะใส่แล้วอย่าจับหน้ากากบ่อยๆ ส่วนเวลาใช้เสร็จก็ต้องทิ้งให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้ไวรัสแพร่กระจายได้ โดยแนะนำให้ใส่ถุงก่อนหนึ่งชั้น แล้วค่อยนำไปทิ้งถังขยะนะคะ

    7. ล้างมือเป็นประจำสม่ำเสมอ

    ที่มา – ผู้จัดการออนไลน์ (พื้นที่สีแดงคือจุดที่ละเลยมากที่สุด)

    เรื่องสุดท้ายเป็นเรื่องที่หลายๆคนอาจจะลืมคิดไป คือการล้างมือของเรานั่นเอง เพราะเป็นวิธีที่ง่าย และดีที่สุดในการป้องกันไวรัส Covid-19 รู้หรือไหมว่าจริงๆแล้วการล้างมือด้วยสบู่นาน 20 วินาที ดีกว่าใช้เจลแอลกฮอล์อีกนะคะ แต่ส่วนมากคนไม่ได้อยู่ใกล้ห้องน้ำตลอดเวลา ดังนั้นเจลแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นมากกว่า 70% ก็สามารถใช้ทดแทนกันได้ แต่ขอเตือนนิดนึง ใช้เจลแอลกอฮอล์กันระวังๆ เพราะสามารถติดไฟได้ง่ายค่ะ


    สำหรับบทความพิเศษนี้ เราได้หาข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้ ประกอบกับการค้นคว้าหาข้อมูลของผู้เขียน และเนื่องจากเป็นเรื่องใหม่สำหรับพวกเราทุกคน หากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วย แต่ความตั้งใจหลักๆ คือ ต้องการเผยแพร่ข้อมูล ให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านมากที่สุดในช่วงเวลานี้ ยังไงก็ขอให้ทุกคนดูแลตัวเองดีๆ ไม่จำเป็นช่วงนี้อย่าออกจากบ้าน และไปที่มีคนหนาแน่น รวมถึงเวลาอยู่บ้านก็ให้ใส่แมสกันจนชิน เน้นล้างมือบ่อยๆ แล้วกินอาหารสุกเสมอ ที่สำคัญอย่าลืม !!! หมั่นทำความสะอาดบ้านให้ปลอดจากไวรัส เพื่อให้คนที่เรารักห่างไกลจาก Covid-19 นะคะ > <