THE MIXX PRAEKASA (เดอะมิกซ์ แพรกษา) เป็นโครงการโฮมออฟฟิศ 4.5 ชั้น สไตล์ Modern Luxury ติดถนนแพรกษา ใกล้รถไฟฟ้าและทางด่วน เดินทางเข้า-ออกเมืองได้ง่าย โดยโครงการมีจำนวนเพียง 18 ยูนิต ในราคาเริ่ม 14.6-32.2 ล้านบาท โดยเราได้สรุปจุดเด่นโครงการมาดังนี้

  • ทำเลเดินทางด้วยรถยนต์และ BTS สะดวก โครงการอยู่ติดถนนแพรกษา ใกล้ BTS  สถานีแพรกษา และทางด่วนกาญจนาภิเษก
  • จดทะเบียนอาคารเป็นอาคารพาณิชย์ สามารถประกอบธุรกิจได้หลากหลาย พร้อมติดป้ายร้านค้าหน้าบ้านได้ พร้อมพื้นที่จอดรถส่วนกลางสำหรับพนักงานและลูกค้าที่มาติดต่อ
  • เหมาะกับธุรกิจที่ชอบความเป็นส่วนตัว ด้วยที่ดินโครงการเป็นแนวยาวติดถนนแพรกษา ทำให้มีพื้นที่ภายในโครงการ ได้พื้นที่จอดรถส่วนกลาง พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยบริเวณด้านหน้าและด้านในโครงการ
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย เป็นโครการที่มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่สุดบนทำเล ออกแบบเน้นความโปร่งโล่ง ได้แสงธรรมชาติเยอะ มีพื้นที่ Double Volume ตรงชั้นสำนักงานและ Inner Court ตรงชั้นพักอาศัย รวมถึงจัดฟังก์ชันได้เป็นสัดส่วน

ข้อมูลโครงการ

THE MIXX PRAEKASA (เดอะมิกซ์ แพรกษา) ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567

 ชื่อโครงการ   THE MIXX PRAEKASA (เดอะมิกซ์ แพรกษา)
 ชื่อผู้ประกอบการ   KIM CHUA GROUP
 SEGMENT CLASS   HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่   ถนนพุทธรักษา (เดิม แพรกษา) ต.ท้ายบ้านใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ
 ที่ดิน    2-0-42.1 ไร่
 จำนวนยูนิต    จำนวน 18 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • Type A โฮมออฟฟิศ 4.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 22.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 280 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 ห้องรับแขก / 1 ห้อง CEO / 1 ห้องทำงาน / 2 ที่จอดรถ พร้อมจุดติดตั้งรองรับลิฟต์โดยสาร
    – ราคาเริ่มต้น 14.6 ล้านบาท
  • Type B โฮมออฟฟิศ 4.5 ชั้น หน้ากว้าง 6.25 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 46 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 402 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 ห้องรับแขก / 1 ห้อง CEO / 1 ห้องทำงาน / 2 ที่จอดรถ พร้อมจุดติดตั้งรองรับลิฟต์โดยสาร
    – ราคาเริ่มต้น 27.5 ล้านบาท
  • Type C โฮมออฟฟิศ 4.5 ชั้น หน้ากว้าง 6.25 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 41.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 388 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 ห้องรับแขก / 1 ห้อง CEO / 1 ห้องทำงาน / 2 ที่จอดรถ พร้อมจุดติดตั้งรองรับลิฟต์โดยสาร
    – ราคาเริ่มต้น 32.2 ล้านบาท
  • Type D โฮมออฟฟิศ 4.5 ชั้น หน้ากว้าง 6.25 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 27.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 330 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 ห้องรับแขก / 1 ห้อง CEO / 1 ห้องทำงาน / 2 ที่จอดรถ พร้อมจุดติดตั้งรองรับลิฟต์โดยสาร
    – ราคาเริ่มต้น 21.8 ล้านบาท

 ความสูงจากพื้นถึงฝ้า   ชั้นที่ 1 = 2.7-2.9 เมตร / ชั้นที่ 2 = 2.2-4.9 เมตร / ชั้นที่ 2M = 2.2 เมตร / ชั้นที่ 3-4 =2.6 เมตร
 ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ                      N/A บาท
 เริ่มก่อสร้าง   ปี 2565
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี 2567
 เว็บไซต์โครงการ   คลิกที่นี่
 โทร   092-455-8222

 

ทำเลที่ตั้ง

Highlight

  • ตั้งอยู่ติดถนนแพรกษา ห่างจากแยกแพรกษา 600 เมตร
  • ใกล้ถนนสุขุมวิทและ BTS สถานีแพรกษา เดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก
  • ใกล้ทางด่วนกาญจนาภิเษก ประมาณ 4-6 กิโลเมตร เดินทางไปทางบางขุนเทียน พระราม 2 ลาดกระบัง รามอินทรา หรือบางปะอินได้สะดวก
  • ความอุดมสมบูรณ์ทำเลสูง ทั้ง Robinson Lifestyle สมุทรปราการ, Black Market ตลาดนัดกลางคืนและ Big C สมุทรปราการ อีกทั้งยังมี 7-11 และร้านอาหารใกล้โครงการ
  • มีทางม้าลายด้านหน้าโครงการ ทำให้สามารถเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม เพื่อจับจ่ายใช้สอยหรือเดินข้ามมาติดต่อรับบริการภายในโครงการได้ด้วย

พิกัด Google Maps : 13.5853494731871, 100.61409659999998
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

THE MIXX PRAEKASA (เดอะมิกซ์ แพรกษา) เป็นโฮมออฟฟิศที่ตั้งติดถนนแพรกษาที่เป็นถนนใหญ่ฝั่งละ 3 ช่องทางมีเกาะกลางชัดเจน โดยจะตั้งอยู่ช่วงตอนต้นทางฝั่งสุขุมวิทที่มีความคึกคักสูงทั้งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ตลาดนัดและแนวเส้นทางรถไฟฟ้า BTS สถานีแพรกษา รวมถึงยังเชื่อมต่อกับถนนเส้นอื่นๆอย่างถนนศรีนครินทร์, ถนนตำหรุ-บางพลี, ถนนเทพารักษ์ และถนนกิ่งแก้ว เดินทางเชื่อมไปสนามบินสุวรรณภูมิได้

ทำให้พนักงานหรือลูกค้าสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือนั่งรถไฟฟ้ามาโครงการก็สะดวกสบายค่ะ โดยโครงการจะอยู่ห่างจากแยกแพรกษา 600 เมตร หรือใครที่เดินทางมาจาก BTS แล้วไม่อยากเดินตากแดดร้อนๆ หรือรีบเข้าทำงานในตอนเช้า ก็สามารถเรียกวินมอเตอร์ไซค์ที่ขับผ่านมาไปมาได้ตลอดเลย

สำหรับคนที่ต้องการหาโฮมออฟฟิศเพื่อประกอบธุรกิจบนทำเลนี้ ก็จะพอมีโครงการโฮมออฟฟิศให้เห็นอยู่บ้าง มีราคาอยู่ในช่วง 4-7 ล้านบาท ตั้งอยู่ในซอยและหน้าบ้านติดถนน จึงทำให้ไม่ได้ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยมากนัก หรือบางคนอาจจะมองหาเป็นอาคารพาณิชย์ที่เป็นตึกแถว ที่ถึงแม้จะซื้อมาในราคาที่ไม่สูง แต่อย่าลืมพิจารณาข้อจำกัดเรื่องโครงสร้างอาคารเก่า, ความสูงฝ้าเพดานที่ไม่สูงมาก, ต้องเตรียมพื้นที่ติดตั้งลิฟต์, เกรดของวัสดุ และจำนวนที่จอดรถในการรองรับพนักงานและลูกค้าที่มาติดต่อ ซึ่งมีทั้งสิ่งที่เราสามารถแก้ไขได้และไม่ได้ แต่ยังไงเราก็ต้องใช้เงินและเวลาในการซ่อมแซมปรับปรุงเพิ่มขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง

THE MIXX PRAEKASA (เดอะมิกซ์ แพรกษา) เป็นโครงการโฮมออฟฟิศหรูติดถนนใหญ่ที่ถึงแม้จะมีราคาเริ่มต้นสูงกว่าโฮมออฟฟิศอื่นๆบนทำเลเดียวกัน แต่ออกแบบมีพื้นที่ภายในโครงการ หน้าบ้านไม่ติดถนนโดยตรง มีระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ ส่วนพื้นที่รองรับการทำงานและอยู่อาศัยก็ออกแบบมาอย่างดีทั้งมีพื้นที่จอดรถส่วนกลาง, พื้นที่สำนักงานแบบฝ้าเพดานสูง, Inner Court ตรงกลางพื้นที่พักอาศัย และเตรียมงานระบบมาครบครัน รวมถึงมีพื้นที่รองรับการติดตั้งลิฟต์โดยสารมาให้อีกด้วยนั่นเอง  ทำให้เป็นโฮมออฟฟิศที่เดินทางสะดวกสบายทั้งรถยนต์และ BTS ออกแบบได้ความเป็นส่วนตัวสูง และสามารถตกแต่งจัดวางเฟอร์นิเจอร์อีกนิดหน่อยก็สามารถเข้ามาทำงานอยู่อาศัยได้เลยนั่นเอง 

ในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของโครงการก็ถือว่าตั้งอยู่บนแพรกษาตอนต้นที่อิงความอุดมตรงเส้นถนนสุขุมวิท มีห้างใหญ่ๆทั้ง Robinson Lifestyle สมุทรปราการ, Black Market ตลาดนัดกลางคืนและ Big C สมุทรปราการ และอยู่ติดกับ BTS แพรกษา ที่เราสามารถมาเดินเล่นได้สบายๆตลอดทั้งวันเลย สำหรับบริเวณใกล้ๆโครงการจะมีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 และมีร้านอาหารอีกหลายร้านตั้งอยู่ใกล้ๆ ทำให้พนักงานสามารถเดินมาซื้อข้าวตอนพักลางวันได้สะดวก หรือจะเดินไปตามแนวถนนก็มีร้านค้าร้านอาหารเรียงยาวตลอดแนวถนนเลย

นอกจากนี้เราได้เก็บภาพบรรยากาศรอบๆโครงการมาให้ดูกันด้วยนะคะ

Image 1/10
Robinson Lifestyle สมุทรปราการ

Robinson Lifestyle สมุทรปราการ

Robinson Lifestyle สมุทรปราการ เป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อยู่ติดกับ BTS แพรกษา เดินออกจากสถานีก็เดินต่อไปที่ห้างได้เลย นอกจากภายในห้างจะมีร้านค้า ร้านอาหาร ศูนย์อาหารและ Major Cineplex มาดูหนังแล้ว ยังมีซุ้มร้านค้าอยู่ด้านหน้าห้างที่จะมีร้านค้าใหม่ๆหมุนเวียนมาตั้งร้านขายของ เราจึงมาเดินจับจ่ายใช้สอยกันได้ไม่เบื่อเลย

Image 1/6
Big C สมุทรปราการ

Big C สมุทรปราการ

Big C สมุทรปราการ

เป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อีกแห่งที่ตั้งอยู่ติดกับ BTS แพรกษา โดยอยู่ตรงข้ามกับ Robinson Lifestyle สมุทรปราการ ทำให้เราสามารถมาจับจ่ายใช้สอยสินค้าในราคาย่อมเยา รวมถึงมีโรงภาพยนตร์เครือ Major Cineplex ให้มาดูหนังกันได้อีกแห่ง แต่ในปัจจุบันทางห้างมีการปิดปรับปรุงในบางบริเวณ จึงไม่ค่อยคึกคักมากนัก รวมถึงทางห้างได้ก่อสร้าง Sky Walk จาก BTS ให้เดินเชื่อมเข้าถึงภายในห้างได้เลยด้วย เมื่อเปิดให้ใช้งานกันแล้ว ก็จะช่วยดึงผู้คนและความคึกคักให้กับห้างอย่างนี้มากขึ้นแน่นอน

Black Market ตลาดนัดกลางคืนตั้งอยู่ข้างๆ Robinson Lifestyle สมุทรปราการ เลยค่ะ บรรยากาศภายในตลาดจะค่อนข้างคึกคัก มีร้านค้าอยู่หลากหลายเลยทั้งร้านของกินเล่น ร้านบุฟเฟ่ต์ ร้านนั่งชิล และลานเบียร์ที่มานั่งชิลล์ มีดนตรีสดให้ฟังด้วย สำหรับใครที่อยากจะออกมาเดินเล่นหรือหาของกินตอนกลางคืนก็สามารถแวะมาที่นี่ได้เลย

จุดขึ้น-ลงทางด่วน

Image 1/2
จากโครงการไปทางด่วน

จากโครงการไปทางด่วน

ทางด่วนที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดคือ ถนนกาญจนาภิเษก ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 4-6 กิโลเมตรค่ะ สามารถเดินทางเข้าเมืองไปทางบางขุนเทียน พระราม 2 ลาดกระบัง รามอินทรา หรือบางปะอิน ได้สะดวก

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการ THE MIXX PRAEKASA (เดอะมิกซ์ แพรกษา) ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบ ได้บรรยากาศแบบชุมชน มีรถยนต์ขับผ่านไป-มาตลอดเวลา แต่การจราจรไม่หนาแน่น มีร้านสะดวกซื้อและซุ้มร้านอาหารอยู่ใกล้โครงการประมาณ 110 เมตรค่ะ

  • ทิศเหนือ ติดกับ อาคารจอดรถสูง 9 ชั้น ของคอนโดมิเนียม
  • ทิศตะวันออก ติดกับ สำนักงานและบ้านพักอาศัยแนวราบ
  • ทิศใต้ ติดกับ ถนนแพรกษา ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบ
  • ทิศตะวันตก ติดกับ คอนโดมิเนียมสูง 35 ชั้น

บรรรยากาศบริเวณด้านหน้าโครงการ อยู่ติดกับเส้นถนนแพรกษาและมีทางม้าลายเดินข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามเพื่อไปซื้อข้าวหรือจับจ่ายใช้สอยได้สะดวกดีเลยค่ะ

บรรยากาศโครงการเมื่อหันไปทิศตะวันตก จะอยู่ติดกับโครงการคอนโดมิเนียมสูง 35 ชั้น

บรรยากาศโครงการเมื่อหันไปทิศตะวันออก จะอยู่ติดกับสำนักงานและบ้านพักอาศัยแนวราบ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • 7-Eleven สาขา เทศบาลบางปู 26 ∼ 110 เมตร
  • Black Market ∼ 750 เมตร
  • Big C สมุทรปราการ ∼ 900 เมตร
  • Robinson Lifestyle ∼ 1.1 กิโลเมตร
  • JAS Urban ∼ 6.8 กิโลเมตร
  • Foodland ∼ 7.1 กิโลเมตร
  • Big C ศรีนรินทร์ ∼ 8.8 กิโลเมตร
  • Makro ∼ 8.9 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

  • รพ. เปาโล ∼ 2.3 กิโลเมตร
  • รพ. สินแพทย์ เทพารักษ์ ∼ 7.6 กิโลเมตร
  • รพ. ศิศรินทร์ สมุทรปราการ ∼ 7.8 กิโลเมตร

โรงเรียน

  • รร. สารสาสน์วิเทศสมุทรปราการ ∼ 6.3 กิโลเมตร
  • รร. เซนต์โยเชฟบางนา ∼ 9.5 กิโลเมตร
  • รร. บางกอกพัฒนา ∼ 11.8 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

Highlight

  • โครงการโฮมออฟฟิศสูง 4.5 ชั้น ในสไตล์ Modern Luxury มีจำนวนเพียง 18 ยูนิต
  • จดทะเบียนอาคารเป็นอาคารพาณิชย์ ประกอบธุรกิจได้หลากหลาย พร้อมติดป้ายร้านค้าหน้าบ้านได้
  • ออกแบบเน้นความเป็นส่วนตัว ด้วยที่ดินโครงการเป็นแนวยาวติดถนนแพรกษา ทำให้มีพื้นที่ภายในโครงการ
  • พื้นที่ส่วนกลางในโครงการ ประกอบด้วยพื้นที่จอดรถส่วนกลาง 18 คัน รองรับทั้งพนักงานและลูกค้าที่มาติดต่อ รวมถึงมีสวนหย่อมในโครงการ 2 จุด

THE MIXX PRAEKASA (เดอะมิกซ์ แพรกษา) เป็นโครงการโฮมออฟฟิศสูง 4.5 ชั้น ในสไตล์ Modern Luxury ตั้งอยู่ติดถนนแพรกษา มีจำนวนเพียง 18 ยูนิต บนเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ปัจจุบันทางโครงการได้เปิด PRESALE ไปเมื่อวันที่ 17-18 ก.พ. ที่ผ่านมาค่ะ

หลายๆคนอาจจะไม่คุ้นชื่อกับ KIM CHUA GROUP ในวงการอสังหาริมทรัพย์กันเท่าไหร่ ถึงแม้จะมีประกอบธุรกิจเกี่ยวอสังหาริมทรัพย์และให้เช่าอสังหาริมทรัพย์มาบ้าง แต่เราบอกได้เลยว่าบริษัทนี้ไม่ใช่บริษัทเล็กๆที่เพิ่งเปิดใหม่นะคะ แต่เป็นบริษัทชั้นนำขนาดใหญ่โดดเด่นในวงการอาหารมาอย่างยาวนานที่มีแบรนด์สินค้าที่เรามั่นใจว่าทุกคนต้องรู้จักนั่นคือคุกกี้อิมพีเรียลกล่องแดงนั่นเอง นอกจากแบรนด์อิมพีเรียลแล้วยังมีแบรนด์อลาวรี่ และแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงประกอบธุรกิจเบเกอรี่และร้านอาหารภายใต้แบรนด์ K HOUSE และธุรกิจจัดจำหน่ายพืชผลทางการเกษตรอีกด้วย ดังนั้นจึงมั่นใจได้เลยว่าเป็นบริษัทที่มีความมั่นคงสูง ซึ่งปัจจุบันได้มาพัฒนาโครงการและเปิดตัว THE MIXX PRAEKASA (เดอะมิกซ์ แพรกษา) เป็นโครงการแรก 

สำหรับแนวคิดของโครงการคือ MIX FOR YOUR BEST WORK-LIFE INTEGRATION โดยการออกแบบให้เป็นพื้นที่เหมาะแก่ทั้งการทำงานและอยู่อาศัย ได้จดทะเบียนอาคารเป็นอาคารพาณิชย์ที่สามารถประกอบธุรกิจได้หลากหลาย พร้อมติดป้ายร้านค้าหน้าบ้านได้ และยังออกแบบมีพื้นที่ติดตั้งลิฟต์โดยสารภายในอาคารด้วย สำหรับบริเวณส่วนพักอาศัยก็ออกแบบแตกต่างจากส่วนพักอาศัยของโฮมออฟฟิศอื่นๆที่จะเป็นพื้นที่ปิดทึบ โดยโครงการนี้ออกแบบมี Inner Court พื้นที่แบบ Outdoor กลางบ้าน แสงธรรมชาติสามารถส่องเข้ามาภายในบ้านได้ ให้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้านเลย รวมถึงการจัดวางฟังก์ชันอยู่อาศัยก็ลงตัวดีเลยค่ะ

เรามองว่าโฮมออฟฟิศของโครงการนี้เด่นในเรื่องความเป็นส่วนตัว เหมาะกับบริษัทหรือธุรกิจที่ไม่ได้ต้องการจำนวนลูกค้าหมุนเวียนในร้านค้าเยอะ แต่เน้นเป็นลูกค้าที่ตั้งใจมาหรือรู้จักกับบริษัทดีอยู่แล้ว เช่น บริษัทของโรงงาน, บริษัทสถาปนิก, ธุรกิจ Studio หรือ Production และบริษัท Start-up ต่างๆ แตกต่างจากโฮมออฟฟิศอื่นๆ ที่จะมีหน้าบ้านติดถนนเลยจึงเหมาะกับธุรกิจที่ต้องการทำหน้าร้าน เน้นให้คนแวะเวียนเข้ามาภายในร้านจำนวนมาก

สำหรับ Master Plan ของโครงการนี้จะเห็นว่าที่ดินโครงการจะเป็นแนวยาวติดถนนแพรกษา โดยด้านหน้าโครงการจะมีพื้นที่ติดป้ายชื่อโครงการและป้ายร้านค้าต่างๆภายในโครงการ อีกทั้งมีประตูรั้วไม้กั้นกระดกและประตูรั้วบานเลื่อน พร้อมป้อม รปภ. อยู่ด้านข้าง คอยดูแลรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวภายในโครงการ ทำให้ลูกค้าที่จะเข้ามาภายในโครงการนี้จะต้องมีการแลกบัตรด้วยนั่นเอง

ส่วนถนนภายในโครงการกว้าง 10.5-12 เมตร โดยด้านข้างจะเป็นพื้นที่จอดรถส่วนกลางจำนวนรวม 18 คัน สำหรับรองรับรถของพนักงานหรือลูกค้าที่เข้ามาติดต่อภายในโครงการค่ะ พร้อมปลูกต้นไม้ใหญ่ตลอดแนว เพิ่มบรรยากาศร่มรื่นและน่าอยู่อาศัยโครงการ และมีจุดกลับรถพร้อมตกแต่งเป็นพื้นที่สวนหย่อมส่วนกลางภายในโครงการให้มานั่งเล่นพักผ่อนได้ด้วย

การจัดผังอาคารจะเป็นแนวยาว โดยมีแปลงมุม 6 หลัง แต่จะมีเพียง 2 หลังที่อยู่ด้านหน้าและด้านในโครงการที่มีพื้นที่สวนด้านข้าง ส่วนบ้านแปลงกลางจะมีทั้งหมด 12 หลัง ซึ่งทุกยูนิตจะหันหน้าบ้านไปในทิศตะวันตกเฉียงใต้ ได้แสงแดดมาจากหน้าบ้านค่อนข้างแรงแต่ก็ได้ลมมาจากทางทิศใต้ด้วยเหมือนกัน ซึ่งทางโครงการก็ออกแบบเป็นพื้นที่ด้านหน้าบ้านเป็นระเบียงปลูกต้นไม้ ทำให้ได้ต้นไม้โตสวยงามและพื้นที่ Service ที่ปกติจะเปียกชื้นก็จะโดนแดดและแห้งเร็วด้วย

เรามาเริ่มที่ทางด้านหน้าโครงการกันเลยค่ะ จะออกแบบให้ทางเข้าโครงการมีระยะร่นจากถนนแพรกษาเข้ามา ทำให้รถต่อแถวเข้า – ออกได้สะดวก การจราจรไม่ติดขัดตรงถนนด้านหน้าโครงการด้วยค่ะ รวมถึงมีจัดสวนและปลูกต้นไม้ให้บรรยากาศร่มรื่นดี

ประตูทางเข้า-ออกโครงการจะเป็นประตูรั้วกั้นไม้กระดกและประตูรั้วโครงอะลูมิเนียมแบบบานเลื่อนของ ALNEX มีระบบในการเข้า-ออกโครงการเป็นแบบจดจำป้ายทะเบียน / สติกเกอร์ ส่วนทางด้านข้างจะเป็นป้อม รปภ. คอยดูแลความปลอดภัยภายในโครงการและเป็นจุดแลกบัตรสำหรับลูกค้าที่ต้องการมาติดต่อด้านในโครงการค่ะ ทำให้พื้นที่ภายในโครงการเป็นส่วนตัวขึ้น ไม่อนุญาตให้คนภายนอกเข้ามาได้เองค่ะ

ด้านข้างประตูเข้า-ออกโครงการจะมีการจัดสวนไว้อย่างสวยงามทั้งไม้พุ่ม ไม้ดอกและไม้ยืนต้น ทำให้บรรยากาศด้านหน้าโครงการดูสวยงามดีเลย

มีกำแพงที่ติดชื่อโครงการและป้ายร้านค้าต่างๆภายในโครงการ ซึ่งเรามองว่าขนาดป้ายร้านค้าก็ไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก จึงเหมาะกับธุรกิจที่ลูกค้ารู้จักดีอยู่แล้ว ตั้งใจแวะมาติดต่อหรือเยี่ยมเยียน จึงไม่จำเป็นที่ต้องอาศัยป้ายร้านค้าขนาดใหญ่ เพื่อดึงคนเข้ามาภายในโครงการค่ะ

นอกจากนี้ยังมีประตูสำหรับคนเดินอยู่ทางด้านข้างด้วย ซึ่งประตูนี้จะเป็นประตูของโฮมออฟฟิศที่อยู่ด้านหน้าบ้านเท่านั้นนะคะ สำหรับลูกบ้านและลูกค้าของบริษัทอื่นๆจะไม่สามารถใช้งานได้ค่ะ ทำให้ยูนิตนี้พิเศษมากยิ่งขึ้นที่นอกจากจะอยู่ใกล้ทางเข้า-ออกโครงการแล้ว ยังมีประตูเข้า-ออกโครงการแบบส่วนตัวด้วย

เมื่อเข้ามาภายในโครงการจะมีถนนภายในโครงการกว้าง 10.5-12 เมตร พร้อมปลูกต้นไม้เรียงยาวตลอดแนวถนน และเป็นพื้นที่จอดรถส่วนกลางเป็นแนวยาวรวม 18 คัน ซึ่งในอนาคตทางโครงการจะมาตีเส้นช่องจอดรถให้เพิ่มนะคะ นอกจากนี้เมื่อต้นไม้โตเต็มที่ก็จะให้ร่มเงากับพื้นที่จอดรถส่วนกลางนี้ จอดรถได้ไม่โดนแดดร้อนนั่นเอง

สำหรับเรามองว่าจำนวนที่จอดรถอาจจะไม่เพียงพอต่อการใช้งานถ้าพนักงานทุกคนใช้รถยนต์ส่วนตัวกันทั้งหมด จะต้องมีการหมุนเวียนรถที่จอดภายในโครงการสูง แต่ว่าทางโครงการตั้งอยู่ใกล้กับ BTS แพรกษา จึงถือเป็นตัวเลือกการเดินทางของพนักงานบางส่วนได้ค่ะ รวมถึงทางโครงการยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาเช่าพื้นที่จอดรถบริเวณใกล้ๆโครงการในอนาคตด้วยค่ะ

แต่ข้อดีของการมีพื้นที่จอดรถส่วนกลางนี้คือเจ้าของบ้าน พนักงานหรือลูกค้าก็สามารถมาจอดรถตรงบริเวณนี้ได้สะดวกเลย ไม่เหมือนกับโฮมออฟฟิศอื่นๆที่หน้าบ้านอยู่ติดถนน ทำให้ลูกค้าที่ต้องการมาติดต่อจะต้องจอดรถข้างทางนั่นเอง

สำหรับพื้นที่กลับรถภายในโครงการจะมีอยู่ 2 จุดด้วยกัน ซึ่งตรงบริเวณพื้นที่กลับรถนี้ก็จะมีตกแต่งเป็นสวนหย่อม

สำหรับสวนหย่อมของโครงการนี้ที่นอกจากจะเพิ่มความร่มรื่นน่าอยู่อาศัยภายในโครงการแล้ว ยังเป็นพื้นที่ให้มาเดินเล่นพักผ่อนได้ด้วยค่ะ โดยตกแต่งเป็นทั้งไม้พุ่มและไม้ยืนต้นอย่างหลากหลาย ซึ่งบ้านที่อยู่ด้านข้างบริเวณนี้ก็เหมือนกับได้พื้นที่สวนข้างบ้านเลยนั่นเอง

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • พื้นที่จอดรถส่วนกลาง 18 คัน
  • พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 2 จุด
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดกและประตูรั้วโครงอะลูมิเนียมแบบบานเลื่อนของ ALNEX
  • ระบบในการเข้า-ออกโครงการเป็นแบบจดจำป้ายทะเบียน / สติกเกอร์
  • รั้วทึบรอบโครงการสูง 3 เมตร / รั้วด้านหน้าเป็นรั้วโปร่งสูง 1 เมตร
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการประมาณ 3-4 ตัว
  • ถนนหลักกว้าง 10.5-12 เมตร
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ระบบไฟในโครงการเป็นแบบ 3 เฟส 30/100 เดินสายไฟใต้กันสาด จาก THAI YAZAKI

แบบบ้าน

Highlight

  • โครงสร้างบ้านเป็นแบบ Conventional ก่อด้วยอิฐมวลเบา QCON สามารถทุบกำแพงเชื่อมบ้าน 2 หลังเข้าด้วยกันได้
  • ออกแบบทุกแบบบ้านมีลักษณะเหมือนกัน ทั้งหน้าตาอาคาร พื้นที่ภายในบ้านและฟังก์ชันการใช้งาน พร้อมเตรียมงานระบบต่างๆ เพื่อประกอบธุรกิจต่างๆ
  • พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่สุดบนทำเล มีขนาดตั้งแต่ 280-402 ตร.ม. รวมถึงออกแบบพื้นที่ให้สามารถปรับเปลี่ยนตามการใช้งานได้ยืดหยุ่น
  • พื้นที่สำนักงานฝ้าเพดานสูง Double Volume ทำให้ได้บรรยากาศการทำงานที่โปร่งโล่ง
  • ออกแบบเน้นพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน ทั้งระเบียงปลูกต้นไม้บริเวณหน้าบ้านและ Inner Court ตรงกลางบ้านค่ะ
  • มีพื้นที่ติดตั้งลิฟต์โดยสารภายในอาคารทุกหลัง สามารถติดตั้งลิฟต์เพิ่มเติมได้ 
  • ทุกหลังได้ Solar Roof จาก SCG Solution ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าในช่วงกลางวัน

THE MIXX PRAEKASA (เดอะมิกซ์ แพรกษา) เป็นโฮมออฟฟิศสูง 4.5 ชั้น ในสไตล์ Modern Luxury ออกแบบในโทนสีขาว เทาและดำโดยออกแบบเน้นพื้นที่สีเขียวภายในบ้านทั้งระเบียงปลูกต้นไม้บริเวณหน้าบ้านและ Inner Court ตรงกลางบ้านค่ะ โดยมีรูปแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ

  • Type A โฮมออฟฟิศ 4.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 22.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 280 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 ห้องรับแขก / 1 ห้อง CEO / 1 ห้องทำงาน / 2 ที่จอดรถ พร้อมจุดติดตั้งรองรับลิฟต์โดยสาร
  • Type B โฮมออฟฟิศ 4.5 ชั้น หน้ากว้าง 6.25 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 46 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 402 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 ห้องรับแขก / 1 ห้อง CEO / 1 ห้องทำงาน / 2 ที่จอดรถ พร้อมจุดติดตั้งรองรับลิฟต์โดยสาร
  • Type C โฮมออฟฟิศ 4.5 ชั้น หน้ากว้าง 6.25 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 41.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 388 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 ห้องรับแขก / 1 ห้อง CEO / 1 ห้องทำงาน / 2 ที่จอดรถ พร้อมจุดติดตั้งรองรับลิฟต์โดยสาร
  • Type D โฮมออฟฟิศ 4.5 ชั้น หน้ากว้าง 6.25 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 27.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 330 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 ห้องรับแขก / 1 ห้อง CEO / 1 ห้องทำงาน / 2 ที่จอดรถ พร้อมจุดติดตั้งรองรับลิฟต์โดยสาร

โครงสร้างบ้านของโครงการจะเป็นแบบ Conventional ก่อด้วยอิฐมวลเบา QCON มีความแข็งแรง ทนทานจึงสามารถทุบหรือต่อเติมได้ตามการใช้งานเลย รวมถึงใครที่ซื้อบ้าน 2 หลัง ติดกันก็สามารถทุบผนังเชื่อมพื้นที่เข้าด้วยกันได้ด้วยนะคะ

การออกแบบหน้าตาอาคาร พื้นที่และฟังก์ชันภายในของทั้ง 4 แบบบ้านมีลักษณะเหมือนกันเลยค่ะ รวมถึงทุกยูนิตมี Junction รองรับการติดตั้ง Ev Charger, Solar Roof จาก SCG Solution และพื้นที่รองรับการติดตั้งลิฟต์โดยสารด้วย จุดที่แตกต่างของแต่ละแบบบ้านคือขนาดที่ดิน 22.4-46 ตร.วา ที่ทำให้พื้นที่ใช้สอยมีตั้งแต่ 280-402 ตร.ม. เนื่องจาก Type B และ C จะมีที่ดินเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู ทำให้มีพื้นที่ด้านข้างเพิ่มขึ้นมานั่นเอง ส่วนตัวบ้านมีหน้ากว้าง 5.50-6.25 เมตร ที่จอดรถ 2 คันใหญ่ได้สบายๆเลยค่ะ ซึ่งถือว่าโครงการนี้ออกแบบพื้นที่ใช้สอยที่ถือว่าค่อนข้างเยอะกว่า Homeoffice บนทำเลเลยค่ะ

วัสดุในบ้าน

  • หลังคาทรงปั้นหยา / Lean / Flat Slab
  • โครงสร้างบ้านแบบ Conventional ก่อด้วยอิฐมวลเบา QCON ผิวฉาบเรียบทาสีอะครีลิก และสีเทกเจอร์
  • เสาเข็มอาคารและรั้ว : เสาเข็ม SPUN ระบบ Green Pile ขนาด 0.25 ม. x 25.00 ม.
  • โครงสร้างพื้นแบบ Post Tension
  • ลานซักล้าง สามารถทำเป็นพื้น Slab on Beam เชื่อมเหล็กเสริมไว้กับคานรั้วได้เลย
  • พื้นที่จอดรถ : กระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 60×60 เซนติเมตร
  • พื้นชั้น 1 และ 2 : กระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 60×60 เซนติเมตร
  • พื้นชั้น 2M :  พื้น SPC ลายไม้ หนา 4 มม.
  • พื้นชั้น 3 : พื้น SPC ลายไม้ หนา 4 มม.
    – Inner Court : พื้นไม้เทียม WPC จาก Treeconcept
    – พื้นที่ซักล้าง : กระเบื้อง ขนาด 15×60 เซนติเมตร
  • พื้นชั้น 4 : พื้น SPC ลายไม้ หนา 4 มม.
    – พื้นห้องน้ำ : กระเบื้อง ขนาด 15×60 เซนติเมตร และ 60×60 เซนติเมตร
  • พื้นห้องน้ำชั้น 1-3 : กระเบื้อง ขนาด 60×60 เซนติเมตร
  • สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจาก American Standard
  • บันไดเหล็กแผ่นเรียบ ทำสีขาว ส่วนลูกนอนเป็นไม้ทำสีย้อมไม้ พร้อมราวมือจับเหล็กทำสีขาว
  • บันไดหนีไฟและประตูทนไฟ : บริเวณด้านหลังอาคารจากชั้น 4 ลงมาถึงชั้น 2 และทางออกจากอาคารใช้ประตูเหล็กทนไฟ จาก บริษัท ศุภรัช จำกัด
  • Sprinkler รดน้ำต้นไม้อัตโนมัติบริเวณพื้นที่สวนชั้น 2
  • ประตูบ้าน : ประตูกระจกเฟรมอะลูมิเนียม พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock แบบ Smart Door Lock G-200 มีแหล่งพลังงานในตัวได้ สามารถควบคุมผ่าน Application จาก บริษัท ยูเมียน จำกัด
  • ประตูและหน้าต่างกระจกเขียวตัดแสง
  • วัสดุกรอบบานหน้าต่างและประตู : เฟรมอะลูมิเนียม หนา 1.5 มม. ,อะลูมิเนียมสีดำ ของ Schimmer, Muangthong หนา 5-8 มม. จากกระจกไทยอาซาฮี
  • ไฟ LED แบบดาวน์ไลท์
  • จัดสวนตามมาตรฐานโครงการ มีต้นไม้ตรงระเบียงชั้น 2
  • ตู้โหลดเซนเตอร์ พร้อมเบรคเกอร์ / สวิตช์และปลั๊กไฟ จาก Schneider
  • สายโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ จาก Phelps Dodge, Link
  • ถังน้ำดีแบบตั้งพื้นขนาดจุ 1500 ลิตร จาก DOS
  • ปั๊มน้ำขนาด 900W จาก Grundfos
  • ติดตั้ง Solar Roof จาก SCG Solution ในทุกยูนิต
  • มี Junction รองรับการติดตั้ง Ev Charger ในทุกยูนิต
  • พื้นที่รองรับการติดตั้งลิฟต์โดยสารในทุกยูนิต

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ


วันนี้เราจะพามาดูบ้าน Type D กันนะคะ จะเป็น Home Office 4.5 ชั้น หน้ากว้าง 6.25 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 27.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 330 ตร.ม. มีฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 ห้องรับแขก / 1 ห้อง CEO / 1 ห้องทำงาน / 2 ที่จอดรถ พร้อมจุดติดตั้งรองรับลิฟต์โดยสาร ซึ่งแบบบ้านนี้จะเป็นบ้านแปลงมุม มีการแชร์ผนังร่วมกับเพื่อนบ้านเพียงด้านเดียวค่ะ จะมีเพียง 4 หลังในโครงการนะคะ

ชั้น 1

  • ที่จอดรถในร่ม 2 คัน
  • พื้นที่เฉลียงหน้าบ้าน ทำเป็นมุมนั่งพักผ่อนหรือวางของได้
  • พื้นที่ Open Plan ขนาดใหญ่ ทำเป็นพื้นที่ต้อนรับ รองรับลูกค้าได้
  • พื้นที่ Service อยู่ฝั่งด้านหลังบ้าน สามารถกั้นผนังปิดเพิ่มความเป็นสัดส่วนได้
  • ห้องน้ำแบบ Powder Room รองรับลูกค้า
  • พื้นที่รองรับการติดตั้งลิฟต์โดยสารในอนาคต หรือจะใช้เป็นห้องเก็บของก็ได้
  • พื้นที่สวนด้านหลังบ้าน ทำเป็นมุมพักผ่อนหย่อนใจของบ้านได้

ชั้น 2

  • โถงชั้น 2 ประกอบด้วย Powder Room, ประตูและบันไดหนีไฟ และพื้นที่รองรับการติดตั้งลิฟต์โดยสาร
  • พื้นที่ Open Plan ขนาดใหญ่ พร้อม Double Volume สูง 4.9 เมตร ทำเป็นพื้นที่สำนักงาน
  • Green Deck พื้นที่ระเบียงพร้อมต้นไม้ขนาดใหญ่ ช่วยเพิ่มบรรยากาศร่มรื่นและผ่อนคลาย

ชั้น 2M

  • โถงชั้น 2M ออกแบบเหมือนโถงชั้นอื่นๆเลย
  • พื้นที่สำนักงาน สำหรับเป็นพื้นที่ของ CEO สามารถกั้นผนังปิด เพื่อความเป็นสัดส่วนมากขึ้นได้
  • สามารถต่อเติมพื้นที่ยื่นออกมาเพิ่มได้

ชั้น 3

  • โถงชั้น 3 ออกแบบเหมือนโถงชั้นอื่นๆเลย
  • พื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารอยู่บริเวณเดียวกัน
  • Inner Court บริเวณตรงกลางบ้าน อยู่ระหว่างพื้นที่นั่งเล่น-รับประทานอาหาร และพื้นที่ครัว ช่วยเพิ่มแสงธรรมชาติส่องเข้ามาภายในบ้าน ปลูกต้นไม้ได้
  • ห้องครัวขนาดใหญ่ ทำเป็นเคาน์เตอร์บาร์ได้
  • พื้นที่ซักล้าง สำหรับซักผ้าและตากผ้า ออกแบบกั้นเป็นสัดส่วน

ชั้น 4

  • ออกแบบเป็นโถงทางเดินยาว มองลงไปเห็น Inner Court ตรงชั้น 3
  • Master Bedroom ขนาดใหญ่ มีพื้นที่นั่งเล่นในห้อง พร้อม Walk – in Closet และห้องน้ำภายในตัว
  • Master Bathroom แบบเปิด มีกั้นแบ่งพื้นที่อาบน้ำและโถสุขภัณฑ์ไว้เป็นสัดส่วน
  • พื้นที่ติดตั้งลิฟต์โดยสารและประตูสำหรับหนีไฟอยู่ภายใน Master Bedroom
  • ห้องนอนรอง เหมาะวางเตียง 3.5 ฟุต มีพื้นที่ด้านข้างวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะ พร้อมห้องน้ำในตัว

ด้านหน้าบ้านจะเป็นพื้นที่จอดรถในร่มกว้าง 6.10 เมตร สามารถจอดรถ 2 คันได้สบายๆ ทำให้ไม่ต้องจอดรถตากแดดตากฝน และทางบริษัทสามารถติดป้ายชื่อบริษัทข้างบนเลขที่บ้านได้เลยค่ะ

ทางโครงการไม่มีกล่องไปรษณีย์และถังขยะมาให้นะคะ แต่ทางลูกบ้านก็สามารถหาซื้อและติดตั้งเพิ่มเองได้เลยค่ะ ส่วนเรื่องการทิ้งขยะในโครงการจะมีเจ้าหน้าที่มาเก็บขยะของแต่ละบ้านไปไว้ด้านหน้าโครงการให้ทางเทศบาลมาจัดการขยะต่ออีกทีในทุกวันนะคะ

Green Deck บริเวณชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ ทำให้เราได้บรรยากาศร่มรื่นตั้งแต่หน้าบ้านเลยนะคะ

บริเวณนี้จะเป็นพื้นที่จอดรถในร่ม 2 คันได้สบายๆ พร้อม Junction รองรับการติดตั้ง Ev Charger ด้วย ซึ่งทางบ้านตัวอย่างได้ปรับตกแต่งเป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบ Semi Outdoor ไว้รองรับลูกค้าได้ ส่วนวัสดุปูพื้นที่จอดรถนี้เป็นกระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 60×60 เซนติเมตร

สำหรับแบบบ้านมาตรฐานจะมีเฉลียงหน้าบ้านขนาด 4.45×6.10 เมตร สำหรับตั้งชั้นวางรองเท้าหรือชั้นวางของได้ รวมถึงทำเป็นมุมนั่งเล่นแบบ Semi Outdoor พร้อมต้นไม้เล็กๆได้นะคะ

โดยประตูทางเข้าจะเป็นประตูกระจกเฟรมอะลูมิเนียม พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock แบบ Smart Door Lock G-200 มีแหล่งพลังงานในตัวได้ สามารถควบคุมผ่าน Application ได้สะดวก

หากออฟฟิศไหนไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่ต้อนรับทั้งชั้น ก็สามารถทุบพื้นที่เฉลียงหน้าบ้านและเอาประตูกระจกออก ก็จะสามารถจอดรถได้มากถึง 4 คันเลย ทำให้พื้นที่ชั้น 1 นี้เป็นพื้นที่จอดรถเท่านั้น โดยเราสามารถไปชั้นสำนักงานตรงชั้น 2 ได้จากบันไดหรือลิฟต์ค่ะ

เราพามาดูบรรยากาศด้านในของชั้น 1 กันค่ะ ซึ่งปัจจุบันทางโครงการได้ใช้บ้านตัวอย่างนี้เป็น Sale Gallerys นะคะ โดยชั้น 1 นี้เราสามารถใช้เป็นพื้นที่ต้อนรับและรองรับลูกค้าได้ สามารถตกแต่งเหมือนทางบ้านตัวอย่างได้เลย มีทั้งเคาน์เตอร์ต้อนรับและชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับให้ลูกค้านั่งพักคอย

ตามแบบบ้านมาตรฐานจะออกแบบเป็นพื้นที่โล่งขนาด 6.10×7.95 เมตร เราจึงสามารถออกแบบตกแต่งได้ตามการใช้งานและภาพลักษณ์ของบริษัทได้เลยค่ะ โดยทางโครงการได้ปูพื้นเป็นกระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 60×60 เซนติเมตร ซึ่งเป็นกระเบื้องที่มีเนื้อแข็ง หนาแน่นสูง รูพรุนน้อยกว่าเมื่อเทียบกับกระเบื้องแกรนิตโต้ที่มีส่วนผสมของหินจริงค่ะ ส่วนความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.7-2.9 เมตร ทำให้ได้บรรยากาศที่โปร่งโล่งดีเลย

ทางโครงการได้เตรียมงานระบบต่างๆไว้เรียบร้อยแล้วทั้งตู้โหลดเซนเตอร์ พร้อมเบรคเกอร์ สวิตช์และปลั๊กไฟ จาก Schneider สายโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ จาก Phelps Dodge, Link รวมถึงไฟฉุกเฉินและกริ่งแจ้งเตือนเหตุเพลิงไหม้ที่จะติดตั้งอยู่บริเวณโถงทางเดินในทุกชั้นค่ะ

บริเวณนี้จะเป็น Powder Room ห้องน้ำรองรับแขก บันไดขึ้นไปชั้น 2 และ พื้นที่รองรับการติดตั้งลิฟต์โดยสารค่ะ ซึ่งทางบ้านตัวอย่างก็ได้ติดตั้งลิฟต์โดยสารมาให้เห็นภาพมากขึ้นด้วย หากไม่ได้ต้องการติดตั้งลิฟต์ก็สามารถใช้พื้นที่นี่ทำเป็นห้องเก็บของได้ด้วยนะคะ ก็ทำให้เก็บของได้เป็นระเบียบ ดูเรียบร้อยสวยงาม

ห้องน้ำรองรับแขกจะเป็นแบบ Powder Room คือไม่มีพื้นที่อาบน้ำนะคะ ภายในห้องน้ำนี้จะมีขนาดประมาณ 1.55×1.90 เมตร ซึ่งมีติดตั้งโถสุขภัณฑ์ชายมาให้ด้วยนะคะจะอยู่ถัดจากอ่างล้างมือไปอีก อยู่ด้านหลังบานประตูห้องน้ำค่ะ และมีหน้าต่างเปิดระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้ด้วยนะคะ โดยวัสดุที่ปูในห้องน้ำจะเป็นกระเบื้องลายหินอ่อน ขนาด 60×60 เซนติเมตร

เคาน์เตอร์อ่างล้างมือมีพื้นที่กว้างสามารถวางเจลล้างมือ ทิชชู ของตกแต่งและกระเป๋าได้สะดวก ส่วนสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะเลือกใช้แบรนด์ American Standard ทั้งหมดค่ะ

ทางโครงการออกแบบมีประตูกระจกบานเลื่อนเปิดออกไปพื้นที่สวนทางด้านหลังบ้านได้ด้วย จะอยู่ใกล้กับ Powder Room และบันไดค่ะ

Image 1/3
พื้นที่สวนด้านหลังบ้านของบ้านตัวอย่าง

พื้นที่สวนด้านหลังบ้านของบ้านตัวอย่าง

สวนหลังบ้านจะปูหญ้าให้เป็นมาตรฐานนะคะ ซึ่งเราก็สามารถตกแต่งจัดสวนได้ตามต้องการเลย มีพื้นที่ขนาด 2.85×6.10 เมตร ส่วนรั้วบ้านเป็นรั้วทึบสูง 3 เมตร เราสามารถปลูกได้ทั้งไม้พุ่มไปจนถึงต้นไม้ใหญ่ได้เลย พร้อมหาชุดโต๊ะเก้าอี้มาตั้งเป็นมุมนั่งเล่นอีกจุดก็ดีเหมือนกันค่ะ

หรือใครที่ไม่ชอบการดูแลต้นไม้เท่าไหร่ ก็จัดเป็นสวนหินแบบญี่ปุ่นหรือต่อเติมเป็นพื้นที่ Pantry ก็ได้นะคะ แต่ว่าทางลูกบ้านต้องทำพื้นเป็น Slab on Beam เชื่อมเหล็กเสริมไว้กับคานรั้วได้เลยค่ะ เพราะทางโครงการได้ลงเสาเข็มบริเวณรั้วโครงการมาให้เรียบร้อยแล้ว

เมื่อเรามองไปด้านบนจะเห็นว่าทางโครงการได้ออกแบบมีบันไดลิงติดตั้งเอาไว้ด้วยนะคะ ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมายของอาคารที่สูงเกิน 9 เมตร จะต้องมีบันไดหนีไฟเพื่อความปลอดภัยนั่นเองค่ะ

พื้นที่บริเวณนี้ เราสามารถหาฉากกั้นหรือทำกำแพงกั้นปิดคล้ายๆกับที่ทางบ้านตัวอย่างได้ตกแต่งเลยค่ะ ทำให้แยกพื้นที่ต้อนรับทางหน้าบ้านและพื้นที่ Service อยู่ทางหลังบ้านค่ะ ส่วนผนังกระจกที่อยู่อีกด้านของบันไดก็ทำให้ได้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาภายในตัวบ้านและเป็นวิวสีเขียวด้วยค่ะ

โครงสร้างบันไดเป็นโครงเหล็กแผ่นเรียบ ทำสีขาว ส่วนความกว้างบันไดประมาณ 1 เมตร ด้านข้างมีราวมือจับเหล็กทำสีขาว ส่วนลูกนอนเป็นไม้ทำสีย้อมไม้ประมาณ 25 ซม. ลูกตั้งสูง 18 ซม. ได้แสงธรรมชาติมาจากทางด้านหลังบ้าน ทำให้โถงบันไดไม่มืดทึบ แต่เราก็สามารถติดตั้งโคมไฟเพิ่มได้เหมือนกัน

เมื่อขึ้นมาชั้น 2 จะเป็นชั้นสำนักงานนะคะ เราจะเจอกับโถงทางเดินขนาด 2.00×3.50 เมตร ซึ่งออกแบบเหมือนกันทุกชั้น โดยเรียงจากทางด้านซ้ายจะเป็นประตูทางเข้าพื้นที่สำนักงาน, พื้นที่ติดตั้งลิฟต์โดยสารและห้องน้ำแบบ Powder Room อยู่ตรงกลาง และทางด้านขวาสุดจะเป็นประตูสำหรับหนีไฟค่ะ

ห้องน้ำแบบ Powder Room นี้จะออกแบบเหมือนกันทุกห้องเลยค่ะ มีขนาด 1.55×1.90 เมตร เลือกใช้สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งหมดจาก American Standard โดยโถสุขภัณฑ์ชายอยู่ถัดจากอ่างล้างมือเหมือนกันค่ะ ส่วนวัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้องลายหินอ่อน ขนาด 60×60 เซนติเมตร

โดยทั้งลูกค้าและพนักงานที่ทำงานอยู่ในชั้นนี้ก็สามารถมาใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องเดินไปเข้าห้องน้ำที่ชั้นล่างเพียงอย่างเดียว

ทางโครงการเลือกใช้ประตูเหล็กทนไฟ จาก SPR พร้อมบันไดหนีไฟ โดยติดตั้งอยู่บริเวณด้านหลังอาคารจากชั้น 4 ลงมาถึงชั้น 2 เมื่อเราเปิดประตูออกไปแล้วจะมีพื้นที่ให้ยืนกว้างประมาณ 0.85 เมตร พร้อมราวจับเพิ่มความปลอดภัยด้วยค่ะ

ต่อมาเราจะพาไปพื้นที่สำนักงานกันนะคะ จะเป็นประตูกระจก กรอบอะลูมิเนียมสีดำ ของ Schimmer, Muangthong หนา 5-8 มม. จากกระจกไทยอาซาฮี ซึ่งจะเลือกใช้ประตูแบบนี้เหมือนกันทุกชั้นเลยค่ะ

เมื่อเข้ามาภายในพื้นที่สำนักงานแล้วจะเป็นพื้นที่แบบ Open plan ขนาดใหญ่ 5.95×9.50 เมตร ปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลน ขนาด 60×60 เซนติเมตร

ซึ่งตามแบบบ้านมาตรฐานแล้วจะได้เหมือนภาพด้านบนเลย โดยเฉพาะบริเวณชั้นลอยที่ยื่นออกมาไม่เยอะ ส่วนภาพด้านล่างจะเป็นภาพบ้านตัวอย่างที่ได้ต่อเติมพื้นที่ชั้นลอยเพิ่มขึ้นมาและทาเป็นสีเทานั่นเอง ซึ่งก็เป็นไอเดียให้สำหรับคนที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยตรงชั้นลอยเพิ่มขึ้นนั่นเอง

อย่างทางบ้านตัวอย่างที่ได้ต่อเติมพื้นที่ชั้นลอยยื่นออกมามากขึ้น ได้พื้นที่ใช้สอยตรงชั้นลอยเพิ่ม แต่ก็แลกมากับบรรยากาศตอนเดินเข้า-ออกพื้นที่สำนักงานตรงชั้น 2 ที่มีความสูงจากพื้นถึงเพดานที่ 2.20 เมตร อาจจะทำให้รู้สึกอึดอัดได้ค่ะ

แต่พอเดินผ่านตรงส่วนพื้นที่มีพื้นที่ชั้นลอยแล้วก็จะเป็นพื้นที่ Double Volume ฝ้าเพดานสูง 4.90 เมตร โดยทางโครงการก็ออกแบบเป็นกระจกเต็มความสูงของห้องเลย ทำให้ได้แสงธรรมชาติเข้ามาเต็มที่ ภายในห้องก็ดูสว่าง รวมถึงมีต้นไม้ตรงระเบียงช่วยบังแดดและพรางสายตาจากด้านนอก ก็ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวดี

ภาพนี้จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าตามแบบบ้านมาตรฐานจะได้พื้นที่ชั้นลอยถึงบริเวณพื้นที่สีขาวค่ะ ส่วนพื้นที่เทาคือพื้นที่ที่ทางบ้านตัวอย่างต่อเติมให้เป็นไอเดียนั่นเอง

พื้นที่สำนักงานนี้สามารถกั้นแบ่งและจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ยืดหยุ่นตามการใช้งานเลยนะคะ อย่างทางบ้านตัวอย่างก็ตั้งเป็นโต๊ะยาว พร้อมมุมนั่งทำงานแบบโซฟา หรือเราจะกั้นห้องเพิ่มเป็นห้องประชุม และตั้งเป็นโต๊ะเก้าอี้เรียงต่อๆกันแบบสำนักงานทั่วไปได้เลยค่ะ

นอกจากนั้นโครงสร้างของบ้านเป็นแบบ Conventional ก่อด้วยอิฐมวลเบา QCON จึงสามารถทุบต่อเติมได้ง่ายเลย ถ้าซื้อเป็นโฮมออฟฟิศติดกัน 2 หลัง ก็สามารถทุบกำแพงด้านข้างเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ไปยังอีกบ้านได้นั่นเอง ทำให้ได้พื้นที่สำนักงานมีขนาดใหญ่ถึง 9.50×11.90 เมตร

ชั้นนี้จะมี Green Deck พื้นที่ระเบียงด้านหน้าบ้านด้วย สามารถเปิดออกไปได้จากพื้นที่สำนักงานเลยค่ะ

เมื่อออกมาแล้วจะเจอกับพื้นที่ขนาด 1.50×3.00 เมตร เวลาคิดงานไม่ออกหรือเครียดก็สามารถเดินออกมายืนพักผ่อน สูดอากาศบริสุทธิ์ด้านนอกได้ค่ะ

ทางโครงการได้ออกแบบเป็นกระถางขนาดใหญ่ พร้อมปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่มาให้แล้วนะคะ อีกทั้งยังติดตั้ง Sprinkler รดน้ำต้นไม้อัตโนมัติมาให้ด้วย ซึ่งข้อดีของปลูกต้นไม้บริเวณนี้มีหลายอย่างเลย คือเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ตัวบ้าน ช่วยกันแดดและพรางสายตาจากด้านนอกที่ฝั่งตรงข้ามจะเป็นคอนโด รวมถึงเป็นวิวสีเขียว ให้บรรยากาศผ่อนคลายเวลานั่งทำงานอยู่ด้านในบ้านนั่นเอง

สำหรับโถงชั้น 2M จะเหมือนกับชั้นอื่นๆเลยนะคะ มีประตูทางเข้าพื้นที่สำนักงาน โถงลิฟต์ ห้องน้ำแบบ Powder Room และประตูหนีไฟ

พื้นที่ของชั้นลอยตามแบบบ้านมาตรฐานจะมีขนาด 1.20×5.95 เมตร โดยไม่มีการกั้นผนังปิด ติดตั้งเป็นระเบียงกันตกเหมือนภาพด้านบนเลย ซึ่งเราสามารถกั้นผนังเป็นห้องปิดได้เหมือนทางบ้านตัวอย่าง อีกทั้งต่อเติมพื้นที่ห้องเพิ่มได้ด้วย อย่างบ้านตัวอย่างก็ได้ต่อเติมจนเป็นห้องขนาด 3.650×5.95 เมตร

สำหรับห้องนี้เหมาะเป็นห้องทำงานสำหรับ CEO อยู่แยกชั้นกับชั้นสำนักงาน ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น หรือสำหรับออฟฟิศที่มีบรรยากาศการทำงานเป็นกันเองสูง ไม่จำเป็นต้องมีห้อง CEO แยกส่วนตัว ก็สามารถใช้พื้นที่นี้เป็นห้องประชุมก็ได้เหมือนกันนะคะ

ทางบ้านตัวอย่างได้ตกแต่งมีทั้งมุมโต๊ะทำงานและมุมนั่งพักผ่อนที่สามารถรองรับพูดคุยกับลูกค้าอย่างเป็นส่วนตัวได้ โดยทางโครงการได้ปูพื้น SPC ลายไม้ หนา 4 มม. ทำให้ได้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเองมากขึ้น ส่วนความสูงจากพื้นถึงเพดานอยู่ที่ 2.20 เมตร

สิ่งที่เราชอบของการออกแบบห้องนี้คือพอเปลี่ยนจากราวกันตกเป็นผนังแล้ว ก็ทำเป็นหน้าต่างกระจกได้เต็มความกว้างห้องเลย เราจึงสามารถคอยมองดูพนักงานที่อยู่ด้านล่างได้ อีกทั้งยังได้ความโปร่งโล่งของห้องด้วย

เมื่อยืนมองจากชั้น 2M ลงมาพื้นที่สำนักงานตรงชั้น 2 ก็สามารถมองเห็นพื้นที่ทำงานและพนักงานได้ชัดเจนเลยค่ะ รวมถึงได้วิวต้นไม้สีเขียวจากด้านหน้าบ้านด้วยนะคะ

ถัดมาที่โถงชั้น 3 ก็ออกแบบเหมือนกับโถงทางเดินชั้นอื่นๆเลย แต่สำหรับชั้นนี้จะเป็นชั้นของส่วนพักอาศัยแล้วค่ะ

ตามแบบบ้านมาตรฐานจะเป็นประตูกระจกเหมือนกับชั้นก่อนหน้านี้เลยนะคะ แต่ทางบ้านตัวอย่างได้ตกแต่งประตูใหม่เป็นประตูบานทึบ ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ซึ่งเราก็มองว่าเป็นสิ่งที่ดีเลย แนะนำให้ทำตามนะคะ เพราะถ้ามีพนักงานหรือบุคคลภายนอกเผลอเดินขึ้นมายังชั้น 3 นี้ ก็จะมองเห็นด้านในห้องและเราจะรู้สึกไม่ปลอดภัย

แต่ใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูงมากๆ เราแนะนำว่าควรกั้นผนังปิดตรงบันไดที่เดินจากชั้น 2M มาชั้น 3 ด้วยนะคะ จะได้ไม่มีคนอื่นเดินขึ้นมาถึงส่วนพักอาศัยในชั้นนี้นั่นเอง รวมถึงออกแบบติดตั้งเป็นประตูพร้อม Digital Door Lock ด้วยก็จะดีมากๆเลยค่ะ ทำให้เจ้าของบ้านอยู่อาศัยได้อย่างปลอดภัย เพราะเราว่ามีโอกาสสูงมากที่พนักงานจะต้องเดินขึ้นมาเข้าห้องน้ำที่ชั้นนี้เนื่องจากมีคนเข้าใช้งานพร้อมกันนั่นเอง

แต่สำหรับใครที่ไม่ซีเรียสมากนัก เราก็แนะนำเป็นการเลือกใช้ประตูบานทึบเหมือนบ้านตัวอย่าง และติดตั้ง Digital Door Lock เพิ่มสักหน่อย ได้ความรู้สึกปลอดภัยดีเหมือนกัน

ตามแบบบ้านมาตรฐานจะให้ออกแบบมาเป็นพื้นที่ห้องโล่งๆนะคะ ซึ่งเราสามารถตกแต่งได้ตามใจชอบเลยค่ะ โดยปูเป็นพื้น SPC ลายไม้ หนา 4 มม. ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมาะแก่การพักผ่อนค่ะ ส่วนความสูงจากพื้นถึงเพดานอยู่ที่ 2.60 เมตร

โดยพื้นที่ภายในส่วนพักอาศัยของชั้น 3 นี้จะแบ่งออกเป็น 3 โซนและกั้นแบ่งด้วยประตูกระจกบานเลื่อน เมื่อเดินเข้าห้องมาจะเจอกับโซนแรกที่เป็นพื้นที่นั่งเล่นรับประทานอาหาร โซนต่อมาเป็น Inner Court และโซนที่อยู่ทางด้านหน้าบ้านจะเป็นห้องครัวและห้องซักล้างค่ะ

พื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารจะตั้งอยู่บริเวณเดียวกัน มีขนาด 3.40×5.95 เมตร สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างยืดหยุ่น โดยทางโครงการได้ตกแต่งเป็นพื้นที่นั่งรับประทานอาหารอยู่ด้านหลังพื้นที่นั่งเล่น ทำให้สามารถนั่งรับประทานอาหารไปและดูข่าวหรือซีรีส์ต่างๆได้พร้อมกันเลย

บริเวณพื้นที่นั่งเล่นสามารถตั้งชั้นวางทีวี โต๊ะกลางและโซฟา 3 ที่นั่งได้สบายๆเลยนะคะ รวมถึงทางโครงการได้เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีความโค้งมนและโทนสีขาว-ไม้ ทำให้สร้างบรรยากาศอบอุ่น ผ่อนคลาย เราสามารถนำไปเป็นไอเดียในการตกแต่งได้นะคะ

พื้นที่นั่งรับประทานอาหารจะสามารถตั้งโต๊ะ 6 ที่นั่งได้ มีพื้นที่เดินรอบโต๊ะได้สะดวก ส่วนด้านข้างของพื้นที่รับประทานอาหารจะมีพื้นที่วางเหลือไว้ตั้งชั้นวางของหรือทำเป็นมุมนั่งดื่มชาก็ดีเหมือนกันค่ะ

บริเวณด้านข้างของพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 5 ตอน มีขนาดใหญ่เต็มผนังห้องเลยค่ะ ทำให้เราได้แสงธรรมชาติที่สะท้อนความสว่างเข้ามาภายในห้องได้ และเมื่อเราเปิดประตูกระจกบานเลื่อนนี้ก็จะเป็นการเชื่อมต่อพื้นที่ทั้ง 3 โซนเข้าด้วยกัน ทำให้ได้ความโปร่งโล่งมากๆเลย

เรามองว่าทางโครงการก็ออกแบบส่วนพักอาศัยนี้ได้ดีเลย จนเราเกือบลืมไปเหมือนกันว่านี่เรายืนอยู่ที่ชั้น 3 นะ เพราะได้บรรยากาศการพักผ่อนเหมือนอยู่บ้านอย่างที่โครงการตั้งใจไว้เลยค่ะ

พอเราเดินจากพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารออกมาจะเป็นโซนที่ 2 ก็คือ Inner Court ตรงกลางบ้านที่เป็นจุดเด่นของโฮมออฟฟิศโครงการนี้นั่นเอง บริเวณนี้มีขนาด 2.20×5.95 เมตร ปูด้วยพื้นไม้เทียม WPC จาก Treeconcept

เราสามารถใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบ Outdoor ปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่อย่างที่ทางบ้านตัวอย่างตกแต่งได้เลย หรือจัดเป็นมุมปาร์ตี้กับเพื่อนๆก็ได้เหมือนกัน เพราะสามารถเปิดประตูเชื่อมพื้นที่ทั้งหมดได้นั่นเอง

ตอนแรกเราไม่มั่นใจเหมือนกันว่าแสงแดดจะส่องลงมาถึงบริเวณนี้ไหม แต่พอเรามาดูที่บ้านตัวอย่างแล้วก็เห็นได้ชัดเจนว่าแสงแดดและลมสามารถลงมาถึงบริเวณนี้ได้ค่ะ เราจึงสามารถปลูกต้นไม้ เพิ่มวิวต้นไม้ภายในบ้านและบรรยากาศร่มรื่นและผ่อนคลายได้

อย่างที่เราได้บอกไปนะคะว่าสำหรับคนที่ซื้อโฮมออฟฟิศติดกัน 2 หลัง ก็สามารถทุบกำแพงออกเพื่อเชื่อมพื้นที่ทั้ง 2 หลังเข้าด้วยกันได้ โดยทางโครงการก็ได้ทุบกำแพงตรง Inner Court บริเวณนี้เพื่อเดินเชื่อมไปบ้านหลังข้างๆนั่นเอง ทำให้เราได้พื้นที่พักผ่อนเพิ่มขึ้น มีห้องดูหนังหรือห้องทำงานส่วนตัวได้ด้วยนั่นเอง

หลังจากเราผ่านพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหาร รวมถึง Inner Court มาแล้ว ก็จะเป็นโซนสุดท้ายที่อยู่ทางด้านหน้าบ้านก็คือห้องครัวและพื้นที่ซักล้างนั่นเอง ซึ่งจะออกแบบเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 4 ตอน ขนาดใหญ่เต็มผนัง สามารถเปิดประตูเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ทั้ง 3 โซนได้

ดังนั้นเราสามารถประกอบอาหารอยู่ที่ห้องครัว โดยเปิดประตูไว้ เพื่อจะได้เสิร์ฟอาหารให้เพื่อนที่นั่งปาร์ตี้อยู่ตรง Inner Court ได้ง่ายๆ ส่วนโซนพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารก็ปิดประตูไปเพื่อไม่ให้กลิ่นอาหารลอยไปติดเฟอร์นิเจอร์ค่ะ

สำหรับห้องครัวแบบปิดตามแบบบ้านมาตรฐานจะเป็นห้องโล่งๆขนาด 3.40×4.40 เมตร โดยออกแบบมีช่องเปิดเพื่อระบายกลิ่นและควันอยู่ด้วย ซึ่งหน้าต่างนี้ไม่ได้ออกแบบมีขนาดใหญ่นะคะ เพราะว่าห้องครัวนี้จะได้แสงมาจากทาง Inner Court เพียงพออยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องใช้หน้าต่างขนาดใหญ่เพื่อดึงแสงมาจากทางหน้าบ้านอีกนั่นเอง รวมถึงยังทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวภายในบ้านมากขึ้นด้วยค่ะ

ทางบ้านตัวอย่างก็ได้ตกแต่งห้องครัวนี้มาให้เป็นไอเดียนะคะ โดยทำ Built-in เคาน์เตอร์ครัว ตู้เก็บของทั้งด้านบนและด้านล่าง ทำให้สามารถเก็บของได้เยอะ รวมถึงมีเว้นพื้นที่วางตู้เย็นด้วย

ด้านข้างของห้องครัวจะมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นก่อนที่จะไปพื้นที่ซักล้างค่ะ

สำหรับพื้นที่ซักล้างนี้มีขนาด 1.50×3.00 เมตร สามารถทำ Built-in เป็นชั้นเก็บของสำหรับประกอบอาหาร หรือทำเป็นพื้นที่ซักผ้า ตากผ้าได้เต็มที่เลย ทั้งตั้งเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า ราวตากผ้า เลือกใช้วัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้อง ขนาด 15×60 เซนติเมตร

ทางโครงการได้เดินระบบท่อน้ำต่างๆไว้เรียบร้อยแล้วนะคะ จึงสามารถติดตั้งได้สะดวกเลย มีติดตั้งก๊อกน้ำและท่อระบายน้ำ พร้อมออกแบบกั้นแบ่งพื้นที่ไว้อย่างชัดเจน มีขนาด 0.80×1.50 เมตร น้ำจะได้ไม่ไหลเข้ามาภายในบ้านค่ะ

พอเราเดินบันไดขึ้นจากชั้น 3 ไปชั้น 4 ที่เป็นชั้นบนสุดของบ้าน จะมีการออกแบบลูกนอนบันไดขั้นแรกและขึ้นสุดท้ายมีขนาดใหญ่กว่าลูกนอนอื่น มีขนาดประมาณ 0.50-0.60 เมตร ทำให้เราสามารถหาต้นไม้มาตั้งตกแต่งได้ด้วย

และพอเดินขึ้นมาถึงชั้น 4 แล้วจะเป็นโถงทางเดินยาวแตกต่างกับโถงทางเดินในชั้นอื่นๆ โถงนี้มีความกว้าง 1.20 เมตร และเราสามารถติดตั้งโคมไฟเพิ่มได้ โดยประตูห้องแรกจะเป็น Master Bedroom และห้องนอนรองอยู่ด้านใน ซึ่งเราจะมองเห็น Inner Court ตรงชั้น 3 ด้วยค่ะ โดยวัสดุปูพื้นของชั้นนี้จะเป็น SPC ลายไม้ หนา 4 มม. และมีความสูงจากพื้นถึงเพดานที่ 2.60 เมตร

เราพามาดูภายใน Master Bedroom กันเลย จะเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ถึง 4.60×7.00 เมตร โดยแบ่งเป็นพื้นเตียงนอนและด้านในจะเป็นพื้นที่ห้องน้ำและแต่งตัวค่ะ

ตามแบบบ้านมาตรฐานก็จะออกแบบเป็นห้องโล่งนะคะ รวมถึงมีตำแหน่งพื้นที่รองรับการติดตั้งลิฟต์โดยสารด้วย แต่สำหรับทางบ้านตัวอย่างได้ทุบกำแพงส่วนนี้ออก และใช้เป็นที่ตั้งตู้เสื้อผ้าแทนนั่นเอง ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูโล่งขึ้นด้วย

แต่สำหรับคนที่ต้องการให้มีลิฟต์โดยสารขึ้นมาถึงห้องนอนนี้เลยก็เก็บพื้นที่ติดตั้งลิฟต์นี้ไว้และเลือกลิฟต์ที่สามารถล็อกชั้นได้ ให้มีเฉพาะคนในครอบครัวที่สามารถขึ้นลิฟต์มายังส่วนชั้นพักอาศัยได้ค่ะ

พื้นที่ภายในห้องมีขนาดใหญ่ สามารถวางเตียงนอน 6 ฟุต พร้อมโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่งได้สบายๆเลยค่ะ บริเวณปลายเตียงก็ตั้งชั้นวางทีวีและโซฟานั่งเล่นได้ มีพื้นที่เดินผ่านปลายเตียงได้สะดวก

ด้านข้างเตียงจะเป็นหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่เต็มผนังห้องเลยค่ะ ทำให้ได้แสงธรรมชาติส่องเข้ามา ห้องดูสว่าง และถ้าเราปลูกต้นไม้สูงบริเวณ Inner Court ก็จะทำให้เวลาที่นอนอยู่บนเตียงหรือนั่งดูทีวีก็ได้วิวต้นไม้นี้ด้วยค่ะ

อีกฝั่งของห้องจะมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าที่อยู่ติดกับอ่างล้างมือที่ทางโครงการได้ก่อเป็นเคาน์เตอร์มาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ ซึ่งทางบ้านตัวอย่างจะออกแบบไม่มีลิฟต์ขึ้นมาภายในห้องนี้ จึงทำให้มีพื้นที่วางตู้เสื้อที่นอกเหนือจากบริเวณนี้ ก็ยังมีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าอีกฝั่งนั่นเอง

สำหรับ Master Bathroom จะมีความกว้าง 2.40 เมตร และไม่ได้ออกแบบเป็นห้องปิดนะคะ แต่จะออกแบบแยกฝั่งเป็นโซนอ่างล้างหน้า ใกล้กับตู้เสื้อผ้า สามารถล้างหน้าหรือเช็กเครื่องสำอางได้สะดวก รวมถึงหยิบเสื้อผ้ามาลองได้ง่ายดีค่ะ

ส่วนอีกฝั่งจะออกแบบกั้นกำแพงแบ่งพื้นที่อาบน้ำและโถสุขภัณฑ์ไว้เป็นสัดส่วนค่ะ แต่ถ้าใครอยากจะได้ความเป็นสัดส่วน ก็สามารถกั้นกำแพงปิดเป็นห้องน้ำได้เลย แต่พอทางโครงการออกแบบมาเป็นอย่างนี้ก็จะได้ความโปร่งโล่งของห้องค่ะ

ส่วนบริเวณตรงกลางจะมีพื้นที่ว่าง ที่เราสามารถวาง Island สำหรับเก็บนาฬิกา เครื่องประดับหรือกระเป๋าถือได้เหมือนที่ทางบ้านตัวอย่างได้ตกแต่งเลยค่ะ นอกจากนั้นบริเวณตรงกำแพงด้านในสุดจะมีประตูทนไฟที่เปิดไปเป็นบันไดหนีไฟด้วยนะคะ

ทางโครงการจะก่อเคาน์เตอร์ พร้อมติดตั้งอ่างล้างมือจาก American Standard และกระจกเงามาให้นะคะ ซึ่งทางบ้านตัวอย่างได้ตกแต่งเพิ่มตู้เก็บของทั้งด้านบนและล่างมาให้เป็นไอเดีย เผื่อนำไปปรับใช้กันนะคะ

ซึ่งบริเวณเคาน์เตอร์ก็มีพื้นที่วางของได้เยอะ สามารถวางโฟมล้างหน้าและเครื่องสำอางได้ เวลาแต่งหน้าและทำความสะอาดใบหน้าก็สะดวกดีค่ะ

สำหรับอีกฝั่งของบริเวณนี้จะเป็นก่อกำแพงเพื่อแบ่งพื้นที่อาบน้ำและโถสุขภัณฑ์ พร้อมติดตั้งประตูกระจกพร้อมราวจับ โดยพื้นที่อาบน้ำจะมีช่องแสงเปิดระบายความชื้นได้ด้วย

ห้องของโถสุขภัณฑ์มีขนาด 0.90×1.50 เมตร สามารถเปิดประตูได้พอดี ไม่ชนกับโถสุขภัณฑ์ค่ะ ซึ่งออกแบบมีก่อกำแพงด้านหลังสามารถวางของทิชชูหรือของตกแต่งได้ ส่วนโถสุขภัณฑ์เลือกใช้เป็น American Standard และเลือกวัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้อง ขนาด 15×60 เซนติเมตร

พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.90×1.50 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้อง ขนาด 15×60 เซนติเมตร เหมือนกันเลย โดยทางโครงการได้มีการก่อที่นั่งอาบน้ำมาให้ด้วย ส่วนฝักบัวเป็นฝักบัวสายอ่อนจาก American Standard พร้อมรองรับการติดตั้งเครื่องน้ำอุ่นเพิ่มด้วยนะคะ

ต่อมาเราจะพาไปดูห้องนอนรองที่อยู่ทางด้านหน้าบ้านกันนะคะ ซึ่งระหว่างทางเดินจะมีหน้าต่างที่ทำให้พื้นที่โถงทางเดินไม่มืดแล้ว ยังได้วิวต้นไม้ตรงบริเวณ Inner Court ตรงชั้น 3 ด้วยค่ะ

ข้อดีของการออกแบบ Inner Court ไว้ตรงกลางที่นอกจากจะทำให้ทั้ง 2 ห้องนอนได้แสงและวิวต้นไม้แล้ว ยังเป็นการแยกตำแหน่งห้อง เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้แต่ละห้องมากขึ้นด้วยนั่นเอง

สำหรับห้องนอนรองจะอยู่ทางด้านหน้าบ้าน มีขนาด 3.40×4.40 เมตร โดยแบบบ้านมาตรฐานจะเป็นห้องโล่งเลยนะคะ ซึ่งเราสามารถใช้ห้องน้ำเป็นห้องนอนสำหรับลูกได้ หรือสำหรับคนที่ไม่ได้อยู่บ้านนี้ประจำ เน้นใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนเฉพาะวันที่เหนื่อยๆ มีงานเยอะ ก็อาจจะออกแบบห้องนี้เป็น Walk-in Closet ขนาดใหญ่ไปเลยก็ได้เหมือนกัน หรือว่าใช้เป็นห้องดูหนัง เล่นเกมหรือห้องทำงานส่วนตัวก็ได้เหมือนกันค่ะ

เราแนะนำให้เลือกเตียงนอนขนาด 3.5 ฟุตดีกว่านะคะ จะได้มีพื้นที่ว่างภายในห้องตั้งโต๊ะและตู้เสื้อผ้าได้สบายๆ สามารถวางเตียงติดกับหน้าต่างก็ดีเหมือนกันค่ะ เพราะจะได้วิวต้นไม้ด้านนอกด้วยนั่นเอง

พื้นที่อีกฝั่งของห้องตั้งโต๊ะอ่านหนังสือ พร้อมชั้นวางของและตู้เสื้อผ้าได้ ซึ่งบริเวณนี้ไม่ได้เป็นพื้นที่สี่เหลี่ยม แต่จะมีเหลี่ยมมุมกำแพงอยู่ จึงอาจจะหาเฟอร์นิเจอร์หายากหน่อยที่จะสามารถวางเข้ามุมได้ หรือทางที่ดีเลยก็ทำ Built-in เป็นโต๊ะเหมือนที่ทางบ้านตัวอย่าง หรือทำเป็นตู้เสื้อผ้าเต็มผนังได้สำหรับคนที่มีเสื้อผ้าเยอะค่ะ

ห้องนอนรองจะมีห้องน้ำในตัวเลย จึงสามารถใช้งานได้สะดวก ซึ่งห้องน้ำนี้มีขนาด 1.50×2.30 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้อง ขนาด 15×60 เซนติเมตร และมีพื้นที่แขวน Condensing Unit อยู่ด้านข้างค่ะ

พื้นที่นี้มีขนาดประมาณ 0.75×1.50 เมตร โดยแขวน Condensing Unit ไว้ด้านบน ทำให้ใช้ประโยชน์พื้นที่ด้านล่างได้ ทำเป็นพื้นที่ซักล้างเล็กๆได้ หรือทำเป็นมุมต้นไม้ โดยมีประตูกระจกกั้นปิด ทำให้ช่วยป้องกันเสียงดังจาก Condensing Unit ได้

บริเวณนี้มีขนาด 1.30×1.50 เมตร ทางโครงการติดตั้งอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์จาก American Standard และมีก่อกำแพงด้านหลังสำหรับวางอุปกรณ์ของใช้ในห้องน้ำได้ด้วย

ส่วนบริเวณพื้นที่ด้านข้างของอ่างล้างมือจะเป็นพื้นที่อาบน้ำค่ะ

ทางโครงการจะมีติดตั้งฉากกั้นกระจกอาบน้ำมาให้ด้วย ทำให้เวลาเราอาบน้ำก็จะไม่มีน้ำกระเด็นไปเลอะบริเวณอื่นนั่นเอง

พื้นที่อาบน้ำนี้มีขนาด 1.00×1.20 เมตร สามารถยืนอาบน้ำและหมุนตัวได้สะดวก มีเจาะช่องกำแพงด้านข้างทำเป็นชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำด้วย เราจึงหยิบใช้งานได้ง่ายเลย สำหรับฝักบัวทางโครงการเลือกเป็นฝักบัวสายอ่อนจาก American Standard ค่ะ

แบบแปลน

อย่างที่เราได้บอกไปก่อนหน้านี้นะคะว่าทุกแบบบ้านในโครงการจะมีหน้าตาบ้าน การออกแบบพื้นที่และฟังก์ชันภายในมีลักษณะเหมือนกันเลย จะมีความแตกต่างที่บางแบบบ้านจะได้พื้นที่ดินใหญ่ มีพื้นที่สวนด้านข้างและได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้นค่ะ

Type A เป็นโฮมออฟฟิศ 4.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 22.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 280 ตร.ม. โดยเป็นบ้านแปลงกลางและเป็นแบบบ้านเริ่มต้นของโครงการนั่นเอง ซึ่งทางโครงการก็ได้ออกแบบมีพื้นที่รองรับการติดตั้งลิฟต์โดยสารมาตั้งแต่แบบบ้านเริ่มต้นนี้เลยนะคะ มีฟังก์ชันภายในบ้านประกอบด้วย 2 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 ห้องรับแขก / 1 ห้อง CEO / 1 ห้องทำงาน / 2 ที่จอดรถ

Type B เป็นโฮมออฟฟิศ 4.5 ชั้น หน้ากว้าง 6.25 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 46 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 402 ตร.ม. ซึ่งมีเพียงหลังเดียวและตั้งอยู่ด้านในสุดของโครงการนะคะ จึงได้ความเป็นส่วนตัวมากที่สุด นอกจากนั้นยังเป็นแบบบ้านที่ได้พื้นที่ใช้สอยและขนาดที่ดินใหญ่ที่สุดด้วย ได้พื้นที่สวนด้านข้างบ้าน แต่ก็จะมีระยะในการเข้า-ออกโครงการไกลกว่าหลังอื่นๆค่ะ ส่วนฟังก์ชันภายในบ้านเหมือนแบบบ้านอื่นๆเลย พร้อมมีจุดติดตั้งรองรับลิฟต์โดยสารด้วย

Type C เป็นโฮมออฟฟิศ 4.5 ชั้น หน้ากว้าง 6.25 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 41.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 388 ตร.ม. ที่มีความพิเศษกว่ายูนิตอื่นๆเลย ด้วยตำแหน่งที่ตั้งของอาคารที่อยู่ติดกับด้านหน้าโครงการและมีประตูคนเดินแบบส่วนตัว ทำให้เจ้าของและลูกค้าของโฮมออฟฟิศนี้ไม่ต้องเดินเข้าออกจากประตูทางเข้าหลักค่ะ ซึ่งทางเจ้าของก็สามารถปิดล็อกประตูสำหรับใช้งานส่วนตัวได้เลยนะคะ ด้วยความพิเศษและสะดวกสบายนี้เอง ทำให้แบบบ้านนี้มีราคาสูงที่สุดของโครงการนะคะ ส่วนการออกแบบพื้นที่และฟังก์ชันภายในบ้านก็เหมือนกับแบบบ้านอื่นๆเลย

ราคา

THE MIXX PRAEKASA (เดอะมิกซ์ แพรกษา) ราคา ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567

  • Type A โฮมออฟฟิศ 4.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 22.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 280 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 ห้องรับแขก / 1 ห้อง CEO / 1 ห้องทำงาน / 2 ที่จอดรถ พร้อมจุดติดตั้งรองรับลิฟต์โดยสาร
    – ราคาเริ่มต้น 14.6 ล้านบาท
  • Type B โฮมออฟฟิศ 4.5 ชั้น หน้ากว้าง 6.25 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 46 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 402 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 ห้องรับแขก / 1 ห้อง CEO / 1 ห้องทำงาน / 2 ที่จอดรถ พร้อมจุดติดตั้งรองรับลิฟต์โดยสาร
    – ราคาเริ่มต้น 27.5 ล้านบาท
  • Type C โฮมออฟฟิศ 4.5 ชั้น หน้ากว้าง 6.25 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 41.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 388 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 ห้องรับแขก / 1 ห้อง CEO / 1 ห้องทำงาน / 2 ที่จอดรถ พร้อมจุดติดตั้งรองรับลิฟต์โดยสาร
    – ราคาเริ่มต้น 32.2 ล้านบาท
  • Type D โฮมออฟฟิศ 4.5 ชั้น หน้ากว้าง 6.25 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 27.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 330 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 1 ห้องครัว / 1 ห้องรับแขก / 1 ห้อง CEO / 1 ห้องทำงาน / 2 ที่จอดรถ พร้อมจุดติดตั้งรองรับลิฟต์โดยสาร
    – ราคาเริ่มต้น 21.8 ล้านบาท
  • ค่าจอง 100,000 บาท
  • ค่าทำสัญญา 300,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 155 บาท/ตร.วา/เดือน ฟรี! ค่าส่วนกลาง 2 ปี*
  • Promotion : ส่วนลดสูงสุด 3 ล้านบาท*, ฟรี! ลิฟต์โดยสาร และ Furniture Package

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

โครงการตั้งติดถนนแพรกษาช่วงตอนต้นทางฝั่งสุขุมวิท เชื่อมต่อถนนหลายสายอย่างถนนสุขุมวิท, ถนนศรีนครินทร์, ถนนตำหรุ-บางพลี, ถนนเทพารักษ์ และถนนกิ่งแก้ว พนักงานและลูกค้าสามารถเดินทางได้สะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัวและ BTS สถานีแพรกษา หากต้องเดินทางไปโซนอื่นๆก็สามารถใช้ทางด่วนกาญจนาภิเษกห่างประมาณ 4-6 กิโลเมตร

ตัวโครงการจะอิงความอุดมสมบูรณ์มาทางถนนสุขุมวิทที่มีความคึกคักสูงทั้ง Robinson Lifestyle สมุทรปราการ, Black Market ตลาดนัดกลางคืนและ Big C สมุทรปราการ ใกล้ๆโครงการก็มี 7-11 และร้านค้า ร้านอาหารหลากหลายให้พนักงานสามารถมาซื้อข้าวและจับจ่ายใช้สอยได้สะดวก

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

ถึงแม้จะเป็นโครงการขนาดเล็ก แต่ทางโครงการก็เตรียมระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆมาให้ด้วย โดยทางเข้า – ออกเป็นรั้วกั้นไม้กระดกและประตูรั้วโครงอลูมิเนียมแบบบานเลื่อน มีระบบในการเข้า-ออกเป็นแบบจดจำป้ายทะเบียน / สติกเกอร์ รวมถึงติดตั้งกล้อง CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการประมาณ 3-4 ตัว พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง  สำหรับโฮมออฟฟิศทุกหลังจะมีติดตั้ง Digital Door Lock ที่ประตูทางเข้า และสามารถหากล้อง CCTV มาติดตั้งเพิ่มเองได้ค่ะ

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

โครงการนี้มีเพื่อนบ้านทั้งหมด 18 ยูนิต ออกแบบให้มีความเป็นส่วนตัวสูง อีกทั้งยังจัดให้มีพื้นที่จอดรถส่วนกลาง เพื่อรองรับแขกหรือลูกค้าที่จะเข้ามาติดต่อธุรกิจด้วย สำหรับโครงการนี้เป็นโฮมออฟฟิศ 4.5 ชั้น ที่มีพื้นที่ใช้สอยภายในกว้างที่โดดเด่นด้วย Inner Court และพื้นที่ฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume

ทุกแบบบ้านจะมีหน้าตาอาคาร การออกแบบพื้นที่และฟังก์ชันภายในเหมือนกันเลย โดยชั้น 1 – 2M จะออกแบบเป็นพื้นที่โล่งๆสำหรับเป็นพื้นที่สำนักงาน ให้เราออกแบบและจัดฟังก์ชันได้เหมาะกับธุรกิจของเราเลยค่ะ ทางโครงการได้เตรียมงานระบบทั้งไฟฟ้าและท่อน้ำรองรับการทำธุรกิจอยู่แล้ว พร้อมห้องน้ำที่จะมีอยู่ในทุกชั้นเลย

ส่วนพื้นที่อยู่อาศัยจะอยู่ที่ชั้น 3-4 มีการกั้นแบ่งพื้นที่ได้เป็นสัดส่วน พร้อม Inner Court ที่พิเศษกว่าโฮมออฟฟิศอื่นๆ ช่วยสร้างบรรยากาศเหมือนอยู่บ้านจริงๆ นอกจากนั้นในทุกยูนิตมี Junction รองรับการติดตั้ง Ev Charger, Solar Roof จาก SCG Solution และพื้นที่รองรับการติดตั้งลิฟต์โดยสารตั้งแต่แบบบ้านเริ่มต้นเลยค่ะ

วัสดุ :

โครงสร้างบ้านแบบ Conventional ก่อด้วยอิฐมวลเบา QCON สามารถทุบผนังหรือต่อเติมได้ง่าย สามารถซื้อบ้าน 2 หลังเพื่อทุบเชื่อมต่อกันได้ สำหรับชั้น 1-2ที่เป็นชั้นสำนักงานจะปูพื้นเป็นกระเบื้องงพอร์ซเลน ส่วนชั้น 2M-4 จะปูเป็นพื้น SPC มีความแข็งแรง ทนทานดีค่ะ ส่วนสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำทั้งหมดเลือกใช้เป็น American Standard

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

ทางโครกงารมีการจัดสวนปลูกต้นไม้อยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ และปลูกต้นไม้ตามแนวถนนภายในโครงการมาให้ด้วย รวมถึงยังมีสวนหย่อมอยู่ 2 จุดตรงบริเวณจุดกลับรถ นอกจากนั้นทางโครงการให้ต้นไม้ใหญ่ตรงระเบียงหน้าบ้านตรงชั้น 2 ของบ้านแต่ละหลังด้วย ช่วยสร้างบรรยากาศร่มรื่น น่าอยู่อาศัยภายในโครงการได้ดีเลยค่ะ

สาธารณูปโภค :

โครงการนี้เป็นโครงการโฮมออฟฟิศขนาดเล็ก ส่วนกลางหลักๆจึงเน้นพื้นที่จอดรถส่วนกลางที่เตรียมเอาไว้ 18 คัน เพื่อรองรับพนักงานหรือลูกค้าที่จะเข้ามาติดต่อธุรกิจของเรานั่นเอง และถนนภายในโครงการมีคาวมกว้าง 10.5-12 เมตร จึงสามารถจอดรถหน้าบ้านได้แบบชั่วคราว ไม่ขวางการเข้า-ออกโครงการค่ะ นอกจากนี้ยังมีสวนหย่อมอีก 2 จุด ให้มาเดินเล่น พักผ่อนหย่อนใจได้อีกด้วย

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 14.6-32.2 ล้านบาท, 23 กุมภาพันธ์ 2567

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ติดถนนใหญ่แพรกษาช่วงต้นทางฝั่งสุขุมวิท และใกล้ BTS สถานีแพรกษา
  • ความปลอดภัย 7/10 – ประตูทางเข้า-ออกโครงการเป็นรั้วกั้นไม้กระดกและประตูรั้วโครงอะลูมิเนียมแบบบานเลื่อน พร้อมป้อม รปภ. และระบบ CCTV
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.5/10 – โฮมออฟฟิศ 4.5ชั้น สไตล์ Modern Luxury ออกแบบมี Inner Court ตรงกลางบ้าน และพื้นที่สำนักงานแบบฝ้าเพดานสูง ได้ความโปร่งโล่ง ฟังก์ชันเป็นสัดส่วน แยกโซนการใช้งานดี
  • วัสดุ 7.5/10 – โครงสร้างบ้านแบบ Conventional ก่อด้วยอิฐมวลเบา QCON สามารถทุบกำแพงเชื่อมบ้าน 2 หลังเข้าด้วยกันได้ ปูพื้นด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนและพื้น SPC
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – จัดสวนด้านหน้าและตลอดแนวถนนภายในโครงการ มีสวนหย่อมส่วนกลาง 2 จุดและให้ต้นไม้ขนาดใหญ่บริเวณระเบียงชั้น 2 ทุกยูนิต
  • สาธารณูปโภค 7/10 – พื้นที่จอดรถส่วนกลางรวม 18 คันและสวนหย่อม 2 จุด
  • 7.38 / 10.00 

THE MIXX PRAEKASA (เดอะมิกซ์ แพรกษา) เหมาะกับใคร

โครงการ THE MIXX PRAEKASA (เดอะมิกซ์ แพรกษา) เหมาะกับคนที่กำลังมองหาโฮมออฟฟิศติดถนนใหญ่แพรกษา สำหรับประกอบธุรกิจและอยู่อาศัย มีพื้นที่ภายในที่ยืดหยุ่น สามารถตกแต่งและปรับฟังก์ชันได้ตามความต้องการ พร้อมโครงสร้างแบบก่ออิฐมวลเบาที่ทุบกำแพงเชื่อมบ้านหลังข้างๆได้ มีพื้นที่รองรับการติดตั้งลิฟต์โดยสารมาให้ด้วย นอกจากนั้นยังมีพื้นที่จอดรถส่วนกลางไว้รองรับพนักงานและลูกค้าที่มาติดต่อธุรกิจด้วย ในงบประมาณเริ่มต้นที่ 14.6-32.2 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 87,600-225,400 บาท


Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่