Burlington สุขสวัสดิ์-พุทธบูชา ทาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์ 3-7 ล้าน สไตล์ Modern Classic จาก บิ๊กทรี พรอพเพอร์ตี้ เพอร์เฟก [รีวิวฉบับที่ 2552]

Burlington Suksawat-Phutthabucha (เบอร์ลิงตัน สุขสวัสดิ์-พุทธบูชา) ณ วันที่ 2 มิถุนายน 2566

พิกัด Google Maps : 13.713492, 100.600415
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากโครงการ Burlington สุขสวัสดิ์-พุทธบูชา ค่ะ …หากดูภาพรวมของบ้านในโซนพระราม 2, พุทธบูชา, สุขสวัสดิ์ มีโปรดักส์ให้เลือกตั้งแต่ทาวน์โฮมไปจนถึงบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่เลย …ในส่วนของทาวน์โฮมเห็นมีตั้งแต่ 2 ล้านปลายๆ ไปจนถึง 4 ล้านบาท ส่วนบ้านแฝดจะยังไม่ค่อยมีสักเท่าไหร่ ราคาจะกระโดดไปที่โครงการบ้านเดี่ยวที่มีราคาเริ่มต้น 7 ล้านบาทขึ้นไปจนถึงหลายสิบล้านเลยก็มี ทำให้ทาวน์โฮมอย่าง “Burlington สุขสวัสดิ์-พุทธบูชา” เป็นคำตอบที่น่าสนใจสำหรับคนที่งบไปไม่ถึงบ้านเดี่ยวค่ะ

สำหรับทำเลของโครงการ Burlington สุขสวัสดิ์-พุทธบูชา จะอยู่ในโซนพระราม 2 ตอนต้น ตั้งอยู่ในซอยพุทธบูชา 39 เข้ามาจากถนนพุทธบูชาประมาณ 900 m. หรือไปออกถนนสุขสวัสดิ์ผ่านซอยสุขสวัสดิ์ 26 ประมาณ 3.7 km. และไปออกถนนพระราม2 ได้ไม่ไกล ตัวช่วยในการเดินทางของโซนนี้ ได้แก่

• ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางขึ้นจะอยู่บนถนนพระราม 2 ห่างจากโครงการไป 5.2 km. ใช้เข้าเมืองไปสีลม, สาทร, พระราม 4, คลองเตยได้สะดวก
• รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ “เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ” (ในอนาคต) โดยสถานีที่คาดว่าใกล้สุดคือสถานีบางปะกอก ประมาณ 4 km. อาจจะเป็นระยะที่ไม่ได้ใกล้มากนัก แต่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางเข้าเมืองได้ ซึ่งปัจจุบันรถไฟฟ้าสายนี้ได้รับการอนุมัติจาก ครม.เรียบร้อยแล้ว ปลายปีนี้จะมีการประกวดราคาและคาดว่าจะเปิดให้ใช้บริการในปี 2570

นอกจากนี้ที่แยกนาหลวง เราสามารถไปเชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญอย่างถนนประชาอุทิศ และ ถนนสุขสวัสดิ์ได้ ซึ่งถ้าเราออกไปที่ถนนสุขสวัสดิ์และจะมีตัวเลือกการเดินทางอื่นๆเสริมอีกเยอะเลยค่ะ ทั้งตัวเลือกของสะพานข้ามแม่น้ำทั้ง 3 จุดอย่างทางด่วนเฉลิมมหานคร, สะพานวงแหวนอุตสาหกรรม และวงแหวนรอบนอกกาญจนาภิเษก

ความอุดมสมบูรณ์ในโซนนี้ถือว่ามีครบเลย ทั้งชุมชนที่อยู่อาศัยเดิม, ตลาด, ห้างสรรพสินค้าให้เลือกหลากหลาย แต่จุดที่สำคัญจริงๆ คือเค้าจะอยู่ใกล้กับ “แยกนาหลวง” แค่ 1.5 km. เท่านั้น ซึ่งแยกนาหลวงนี้เป็นจุดที่มีความเจริญครบเครื่องทุกอย่างแล้วในโซนนี้ มีทั้งร้านอาหารริมทางเยอะมาก, Minimart, ปั๊มน้ำมัน อยู่ใกล้ตัวโครงการแบบที่เราจะปั่นจักรยานหรือขี่มอเตอร์ไซค์ออกมาได้ง่ายๆ

ใกล้ๆ กันก็มีสวนสาธารณะอย่างสวนธนบุรีรมย์ที่เป็นสวนขนาดใหญ่เลยนะคะ เนื้อที่ 60 กว่าไร่ ช่วงเย็นก็สามารถเปลี่ยนบรรยากาศมาวิ่งออกกำลังกายได้ และก็ยังมีศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ, โรงเรียนนาหลวง และที่สำคัญเลยคือมีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีที่ขึ้นชื่อเรื่องคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี ก็อยู่ใกล้กับแยกนาหลวงแห่งนี้ค่ะ

ถัดมาในระยะไกลขึ้นบนถนนพระราม 2 ก็จัดว่าเป็นทำเลที่มีครบทั้งห้างสรรพสินค้า และ Community Mall อย่าง Central พระราม 2, The Bright ส่วน Hypermarket ก็จะมี Big C พระราม 2, Tesco Lotus พระราม 2 นอกจากนั้นยังมีโรงพยาบาลชื่อดังอยู่หลายแห่งอีกด้วย ทั้งโรงพยาบาลบางมด, โรงพยาบาลบางกอก 9และ โรงพยาบาลนครธน เป็นต้น

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

พื้นที่โดยรอบของโครงการ Burlington สุขสวัสดิ์-พุทธบูชา จะติดกับที่ดินเปล่าเกือบทั้งหมด มีเพียงทิศตะวันตกที่ติดกับถนนซอยพุทธบูชา 39 และฝั่งตรงข้ามเป็นตึกแถว 4 ชั้น ซึ่งโครงการได้ออกแบบอาคารพาณิชย์ไว้ตามแนวถนนด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็น Buffer Zone ให้กับกลุ่มทาวน์โฮมที่อยู่ด้านในด้วยค่ะ

บรรยากาศด้านหน้าโครงการจะอยู่ติดกับซอยพุทธบูชา 39 เป็นถนน 2 เลนไปกลับ ซึ่งโครงการจะมีแนวรั้วกั้นระหว่างตัวอาคารกับถนนอีกชั้นหนึ่งจึงได้ทั้งความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้นกว่าอาคารพาณิชย์ที่อยู่ติดถนนเลยนะคะ

บรรยากาศในซอยจะเป็นชุมชนพักอาศัยสลับกับที่ดินเปล่า และเนื่องจากซอยนี้เป็นซอยลัดที่ใช้ออกถนนสุขสวัสดิ์ได้ จึงมีรถผ่านไปมาอยู่ตลอด

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ตัวช่วยในการเดินทาง

• ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ~ 5.2 km.
• ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ~ 8.4 km.
• รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีบางปะกอก (โครงการในอนาคต)

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• Max Valu ประชาอุทิศ ~ 5.2 km.
• Makro Food Service ประชาอุทิศ ~ 5.2 km.
• Big C บางปะกอก ~ 5.5 km.
• ตลาดอินดี้ ดาวคะนอง ~ 5.6 km.
• The Bright พระราม2 ~ 5.8 km.
• Tesco Lotus บางปะกอก ~ 6.2 km.
• Homepro พระราม2 ~ 7 km.
• Central พระราม2 ~ 8.2 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลบางมด ~ 5.2 km.
• โรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ ~ 5.8 km.
• โรงพยาบาลบางปะกอก 1 ~ 6 km.
• โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล ~ 6.5 km.
• โรงพยาบาลนครธน ~ 8.5 km.
• โรงพยาบาลบางปะกอกสมุทรปราการ ~ 9.2 km.
• โรงพยาบาลบางปะกอก 3 ~ 9.3 km.
• โรงพยาบาลเปาโล พระประแดง ~ 13.4 km.

โรงเรียน

• โรงเรียนสารสาสน์สุขสวัสดิ์ ~ 1.8 km.
• มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ~ 3.1 km.
• โรงเรียนดรุณสิกขาลัย ~ 3.3 km.
• โรงเรียนขจรโรจน์วิทยา ~ 3.6 km.
• โรงเรียนรุ่งอรุณ ~ 3.8 km.
• โรงเรียนวรรณสว่างจิต ~ 5.6 km.
• โรงเรียนบางปะกอกวิทยาคม ~ 5.7 km.
• โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี ~ 5.7 km.
• โรงเรียนจินดามณี ~ 8.2 km.
• Royce Royal International School ~ 8.3 km.
• BASIS International School Bangkok ~ 8.4 km.
• โรงเรียนสารสาสน์วิเทศศึกษา ~ 8.8 km.
• โรงเรียนราชประชาสมาสัย ~ 9.3 km.
• Shrewsbury International School Bangkok (Riverside Campus) ~ 10.2 km.
• โรงเรียนสารสาสน์ประชาอุทิศ ~ 12.1 km.

Burlington สุขสวัสดิ์-พุทธบูชา เป็นทาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์โครงการใหม่จาก บริษัท บิ๊กทรี พรอพเพอร์ตี้ เพอร์เฟก ซึ่ง Developer เจ้านี้เค้าพัฒนาโครงการอสังหาฯ มากว่า 30 ปีแล้วนะคะ และตอนนี้ส่งต่อให้ Generations ที่ 2 มาทำต่อ ตัวอย่างโครงการใหม่ที่เค้าทำมาก่อนหน้าก็คือ อาคารพาณิชย์และโฮมออฟฟิศในแบรนด์ The Master ที่อยู่ในทำเล พัฒนาการ, อ่อนนุช, อุดมสุข เรียกได้ว่ามีประสบการณ์มาระดับนึงอยู่แล้วนะคะ

มาดูที่ตัวโครงการ Burlington สุขสวัสดิ์-พุทธบูชา เป็นโครงการประเภททาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์ที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก ตั้งอยู่บนที่ดิน 11 ไร่เศษ โดยมีทาวน์โฮม 92 ยูนิตและอาคารพาณิชย์ 16 ยูนิต ซึ่งแยกโซนไว้อย่างชัดเจน โดยอาคารพาณิชย์จะอยู่ด้านหน้าโครงการ ก่อนที่จะผ่านซุ้มประตูเข้าไปเพื่อเข้าสู่โซนทาวน์โฮมพักอาศัย จึงไม่ต้องห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัว และยังมีข้อดีตรงที่อาคารพาณิชย์เหล่านี้ หากเปิดเป็นร้านค้าหรือคลีนิค ก็ยังช่วย Support ลูกบ้านให้เข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกได้ง่าย และอาคารพาณิชย์เองก็อาจจะได้ลูกค้าจากลูกบ้านทาวน์โฮมเช่นกัน

จุดเด่นของผังโครงการนี้เลยคือ เค้าวางพื้นที่สวนส่วนกลางและ Clubhouse ขนาดประมาณ 200 กว่า ตร.วา ไว้ตรงกลางโครงการติดถนนหลักเลยค่ะ นอกจากจะทำให้ลูกบ้านเข้าถึงได้ง่ายแล้ว ยังเป็นจุดนำสายตาสวยๆ ให้ลูกบ้านเวลาที่ขับรถเข้าออกโครงการด้วย อีกประเด็นหนึ่งคือเรื่องประตูโครงการที่ให้มาเป็นประตูเหล็กบานเลื่อนขนาดใหญ่ ถือว่าเป็นโครงการทาวน์โฮมที่มีการออกแบบประตูได้เทียบเท่าหมู่บ้านเดี่ยวหลายๆ โครงการเลยนะคะ

โซนที่เราคิดว่าได้ Value พิเศษ คือกลุ่มบ้านในโซนที่อยู่รอบสวนจะได้วิวต้นไม้ดูร่มรื่นและเข้ามาใช้สวนได้ง่าย แต่ก็ต้อง Trade Off กับความเป็นส่วนตัวที่จะลดน้อยลงไป หรือหากใครชอบความสงบเป็นส่วนตัวก็แนะนำเป็นแปลงมุมในซอยจะได้ความสงบยิ่งขึ้น

โครงการวางทิศของบ้านมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งเหนือ,ใต้, ออก, ตก ซึ่งเป็นทิศยอดนิยมสำหรับคนหาบ้านก็คือเหนือใต้ เพราะหน้าบ้านที่หันไปทางเหนือแน่นอนว่าก็จะได้แสงเช้าที่ไม่ค่อยแรงมาก ธรรมชาติหน่อย ส่วนบ้านที่หันไปทางใต้จะได้แสงและลมที่แรงกว่า

ซุ้มประตูทางเข้าโครงการโดดเด่นในสไตล์ Modern Classic ที่นี่เค้าให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยมากอยู่นะคะ เพราะเลือกใช้เป็นประตูเหล็กบานเลื่อนอัตโนมัติที่ปิดมิดชิดทั้งกลางวันและกลางคืน ฝั่งขาเข้าจะแยกเป็นสองเลนของ Visitors และลูกบ้าน เพื่อความคล่องตัว

สำหรับรถลูกบ้านจะเข้าออกด้วยระบบจดจำป้ายทะเบียน และมีประตูคนเดินแยกไว้เป็นสัดส่วน ซึ่งต้องใช้ระบบ Face Scan เช่นเดียวกันค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีรปภ. ดูแลตลอด 24 ชั่วโมงและคอยเดินดูแลตรวจตราตามจุดต่างๆภายในโครงการ, มี CCTV ติดตั้งไว้รวมทั้งหมด 18 จุดด้วยกัน

เข้ามาด้านในมุมมองแรก โครงการตั้งใจให้เป็น First Impression ที่ดูสวยงาม โอ่อ่า จึงทำแนวน้ำพุตกแต่งไว้ตรงกลางเพื่อนำสายตาไปยังอาคาร Clubhouse 2 ชั้นสีขาวที่คุมธีมมาในสไตล์ Modern Classic ดูหรูหรา ส่วนถนนด้านหน้าจะปูด้วยคอนกรีตแสตมป์พร้อมตกแต่งลวดลายค่ะ

Facade ของ Clubhouse มีดีเทลเพิ่มความหรูหรา อย่างการย่อมุม, ใส่ลูกฟักหน้าต่าง, ตกแต่งด้วยโทนสีทองและลวดลายของหินอ่อน ในส่วนของฟังก์ชันต่างๆ ก็จัดมาให้ครบครันดีนะคะ ไปชมแต่ละฟังก์ชันกันเลย

Lobby ออกแบบเป็นห้องฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume ในเวลาที่ไม่ต้องการเชิญแขกเข้าบ้าน ก็สามารถใช้รับรองแขกได้ ภายในมีชุดโซฟาขนาดใหญ่ไว้รับรอง 2 ชุด

ติดกับ Lobby เป็นโซนห้องน้ำ ซึ่งมีอ่างล้างมือด้านนอกให้ใช้งานได้ง่าย เข้ากับยุค Covid นี้เลย ในส่วนของห้องน้ำจะมีการแยกห้องชาย/หญิง ไว้เรียบร้อยค่ะ

เราพาเข้ามาดูในส่วนของห้องน้ำหญิงนะคะ จะเห็นว่ามีการตกแต่งให้ดูหรูหราอีกเช่นกัน

ภายในแยกออกเป็นห้องสุขาและห้องอาบน้ำ เผื่อใครว่ายน้ำก็สามารถมาล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ Clubhouse ได้เลย

Facility หลักของชั้นนี้ขอยกให้สระว่ายน้ำ ซึ่งโครงการออกแบบมาให้เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือแยกสระเด็กกับสระผู้ใหญ่ไว้เป็นสัดส่วน

สำหรับสระผู้ใหญ่เป็นสระกลางแจ้ง ขนาด 4.4×10 m. ใช้ว่ายออกกำลังกายได้พอสมควร และแม้ว่าตัวสระจะตั้งอยู่ชั้น 1 แต่ก็มีพุ่มไม้บังตลอดแนว เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับคนที่มาใช้งานค่ะ

พื้นที่สระเด็กจะเป็นสระในร่มแบบ Semi-Outdoor มีหลังคาคลุมกันแดดกันฝน เด็กๆ จึงสามารถมาใช้งานในช่วงเวลากลางวันได้ค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะมีฟังก์ชันที่น่าสนใจอีก 2 ห้องด้วยกัน คือ Fitness ที่เปิด 24 ชั่วโมง และ Co-Working Space รองรับการประชุม การทำงานได้ค่ะ

Co-Working Space เป็นห้อง Indoor มีแอร์ฯ ติดตั้งไว้ให้ พร้อม Free Wifi จึงเป็นทางเลือกหนึ่งของลูกบ้านสำหรับนัดประชุม หรือนั่งทำงานเปลี่ยนบรรยากาศได้

ในส่วนของ Fitness เป็นห้องแอร์อีกเช่นกัน มีเครื่องออกกำลังกายอยู่ประมาณ 6 ชิ้น แบ่งออกเป็นลู่วิ่ง, เครื่องปั่นจักรยาน, Weight Training มุมโยคะและดัมเบล นับว่ามีให้ครบ วิวจากฟิตเนสก็สามารถมองออกไปเห็นสวนได้พอดิบพอดีค่ะ

ความพิเศษของ Fitness ที่นี่คือ เปิดให้ลูกบ้านเข้าใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยนะคะ และมีเครื่องเติมอากาศจากด้านนอก พร้อมกรอง PM 2.5 ติดตั้งมาให้ด้วย เพื่อให้ลูกบ้านได้มีอากาศที่บริสุทธิ์เหมาะกับการออกกำลังกายค่ะ

ด้านข้าง Clubhouse จะมีสวนหย่อมที่มีทางเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ มาพร้อมน้ำพุตกแต่ง ทำให้มีเสียงน้ำไหล ได้บรรยายกาศที่ผ่อนคลายมากขึ้น และต้นไม้ที่เลือกใช้เป็นต้นสนฉัตร เข้ากับธีมตกแต่งของโครงการที่เป็น Modern Classic ดีค่ะ

นอกจากนี้ในสวนจะมีโซนสำหรับเด็กๆ แยกไว้เป็นสัดส่วนด้วยนะคะ

สำหรับคุณหนูๆ ทางโครงการได้ติดตั้งเครื่องเล่น, ลู่วิ่ง, ทางปั่นจักรยานมาให้ ซึ่งเรามองว่าเป็นพื้นที่สำคัญสำหรับเสริมพัฒนาการของเด็กๆ ให้พวกเค้าได้วิ่งเล่นกับเพื่อนค่ะ

มีประตูฟุตบอลขนาดเล็กของเด็กด้วยค่ะ

มาชมโซนพักอาศัยกันบ้าง รูปนี้จะเป็นบรรยากาศของบ้านพักอาศัยในบริเวณถนนหลัก ขนาดถนนกว้าง 12 m. ในส่วนของซอยย่อยๆ ขนาดถนนก็กว้างเป็นพิเศษเช่นกัน 9-10 m.เลยค่ะ น่าจะใช้งานได้สะดวกเลยทีเดียว

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse 2 ชั้น บริเวณหน้าโครงการประกอบไปด้วย

• ชั้น 1

• Lobby
• สระว่ายน้ำผู้ใหญ่ ระบบเกลือ ขนาด 4.4×10 m.
• สระเด็กในร่ม แบบ Semi-Outdoor

• ห้องออกกำลังกายเปิด 24 ชั่วโมง มีเครื่องเติมอากาศจากด้านนอก กรอง PM 2.5 ได้
• Co-Meeting Space มี Free Wifi ไห้

• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 216 ตร.วา
• สนามเด็กเล่น
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 18 จุด
• ประตูรั้วโครงการแบบประตูเลื่อนไฟฟ้า
• รถเข้า-ออกด้วยระบบจดจำป้ายทะเบียน
• คนเดินเข้า-ออกด้วยระบบ Face Scan
• รั้วรอบโครงการสูง 2.5 m.
• ถนนหลักกว้าง 12-14 m. และถนนภายในกว้าง 9-10 m.
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

จากที่เราเดินดูบ้านในโครงการ Burlington สุขสวัสดิ์-พุทธบูชา มาครบทุกแบบแล้ว คิดว่าเค้าออกแบบฟังก์ชันให้เหมาะทั้งเป็นบ้านหลังแรกสำหรับการเริ่มต้นครอบครัว และทั้งครอบครัวขยายที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วยก็มีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างรองรับด้วยเช่นกัน โดยมีทาวน์โฮม 2 ชั้นให้เลือก 3 แบบ และมีอาคารพาณิชย์ 3.5 ชั้นให้เลือก 1 แบบ ดังนี้

• Cambridge ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 21.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 141 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
• Birmingham ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.2 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 18.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 123 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
• Hampton ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.2 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 18.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 123 ตร.ม. ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
• Shophouse อาคารพาณิชย์ 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 4 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 16 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 179 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องน้ำ

เราลองนำแปลนทาวน์โฮมทั้ง 3 แบบ มาเทียบกันให้ดูนะคะ มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้ค่ะ

• ความกว้างหน้าบ้าน : แบบบ้าน Cambridge จะมีหน้าบ้านกว้างกว่าเพื่อนๆ คือ 5.7 m. ส่วนอีก 2 แบบ มีหน้ากว้าง 5.2 m. แต่บ้านทุกแบบจะสามารถจอดรถได้ 2 คันทั้งหมด ต่างกันแค่เรื่องการขึ้นลงรถที่อาจสะดวกสบายไม่เท่ากันค่ะ อ่านบทความเพิ่ม > ทาวน์โฮมหน้ากว้างเท่าไหร่ จอดรถแบบไหนได้บ้าง?
• ห้องอเนกประสงค์ : ทุกแบบบ้านจะมีการกั้นห้องอเนกประสงค์ที่ชั้น 1 ไว้ให้ ซึ่งห้องอเนกประสงค์นี้ก็เหมาะสำหรับคนที่ต้องการห้องทำงานเพิ่ม และสามารถดัดแปลงเป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้ หรือจะทำเป็นห้องครัวภายในบ้านเลยก็ทำได้ค่ะ
• ห้องนอน : ชั้น 2 ของแบบบ้าน Cambridge และ Birmingham จะมีห้องนอนอยู่ 3 ห้อง ตอบโจทย์ครอบครัวที่ต้องการจำนวนห้องเยอะหน่อย เผื่อไว้แบ่งการใช้งานได้หลายฟังก์ชัน ส่วนแบบบ้าน Hampton จะออกแบบมาให้เป็น 2 ห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัวทั้งคู่ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่นิยมมีลูกเพียงคนเดียว ก็จะได้ห้องนอนใหญ่ทั้งพ่อแม่ลูกค่ะ
• หน้าตาบ้าน : จะคล้ายกันทั้งหมดแตกต่างที่ฟังก์ชันภายใน โดยโครงการนี้เรามองว่าตัวบ้านดูโดดเด่นด้วย Facade บ้าน ที่เก็บรายละเอียดของสไตล์ Modern Classic เช่น ดีเทลการย่อมุมเสาและวงกบ, งานลูกฟักที่ประตูหน้าต่าง ทำให้ดูมีค่ามีราคาขึ้น ช่วยส่งเสริมให้บรรยากาศดูโรแมนติก เหมือนอยู่ยุโรป ซึ่งเป็นสไตล์ที่ใช้ค่าวัสดุและค่าก่อสร้างมากกว่าสไตล์ Modern อยู่แล้วนะคะ

สรุปโครงสร้างและวัสดุของตัวบ้าน

• หลังคาเมทัลชีทบุฉนวนกันความร้อนกันเสียง รูปทรง Lean to ส่งผลให้ Master Bedroom มีฝ้าสูงเป็นพิเศษ
• โครงสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูน จึงสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ อ่านบทความเพิ่มเติม >> เทียบบ้าน Precast กับ ก่ออิฐฉาบปูน ดี-เสีย ต่างกันอย่างไร?
• พื้นที่จอดรถกลางแจ้ง ไม่ลงเสาเข็ม (Slab On Ground) เทพื้นคอนกรีต
• ลานซักล้างหลังบ้าน ลงเสาเข็มเท่าตัวบ้าน
• โครงสร้างบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้สำเร็จรูป
• กรอบประตูหน้าต่างอลูมิเนียมอบสีดำ
• อาคารพาณิชย์ พื้นชั้น 1-3 ปูกระเบื้องแกรนิตโต้
• ทาวน์โฮม พื้นชั้น 1 ปูกระเบื้องแกรนิตโต้ / พื้นชั้น 2 ปูด้วยพื้น SPC
• วัสดุในห้องน้ำของ American Standard
• อ่างล้างมือก่อนเข้าบ้าน (เฉพาะทาวน์โฮมแบบ Cambridge)

ระบบรักษาความปลอดภัยในตัวบ้าน

• Motion Sensor ที่ชั้น 1 และ 2
• Wifi Camera 2 จุด ที่จอดรถและโถงชั้น 1
• Digital Door Lock เข้าออกด้วย Password และ Finger Scan
• Window Sensor 3 จุด (สัญญาณตรวจจับการเปิดปิดหน้าต่าง)

เทคโนโลยีในตัวบ้าน

• ที่ชาร์จไฟในห้องน้ำ ปลั๊ก, USB
• ระบบไฟในบ้านทั้งหมดทุกจุดจะเชื่อมกับ Home Automation
• ระบบช่วยกรองอากาศ Better Air กรอง PM2.5 (เก็บงานอยู่ใต้ฝ้า)
• ระบบไฟ 1 เฟส 30/100 รองรับ Wall Charger ของรถ EV

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ในรีวิวนี้เรามีบ้านตัวอย่างมาฝากเป็นทาวน์โฮม 2 แบบ คือ Cambridge, Birmingham และมีอาคารพาณิชย์มาให้ชมด้วยค่ะ

บ้านตัวอย่างแบบ Cambridge

แบบ Cambridge เป็นทาวน์โฮมขนาดใหญ่สุดของโครงการ ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท พื้นที่ใช้สอย 141 ตร.ม. บ้านหน้ากว้าง 5.7 m. สามารถจอดรถได้ 2 คันสบายๆ มาในฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ จึงรองรับได้ทั้งครอบครัวขยายแบบพ่อแม่ลูก และครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย

ชั้นล่างจัดเป็น Common Area ที่มีพื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อกับโซนรับประทานอาหาร และมีห้องอเนกประสงค์ 1 ห้อง ซึ่งสามารถใช้ห้องน้ำชั้นล่างสำหรับอาบน้ำได้ ส่วนชั้นบนแบ่งเป็นห้องนอน 3 ห้อง ซึ่งห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนรองอีก 2 ห้องจะต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกันค่ะ

รั้วบ้านเป็นประตูเหล็กบานพับหน้ากว้าง 5.7 m. ลึก 5.6 m. จึงสามารถใช้จอดรถได้ 2 คัน และรองรับการจอดรถกระบะได้ แต่หากเป็นรถรุ่นที่มีความยาวเป็นพิเศษ แนะนำให้มาลองจอดดูก่อนนะคะ

ในส่วนของหลังคาที่จอดรถจะยังกันแดดได้ไม่ทั้งคัน จึงเป็นส่วนที่ลูกบ้านมักจะต่อเติมมากที่สุด

พื้นที่จอดรถเทคอนกรีตฉาบเรียบไว้ให้ (On Ground) และตัดรอยต่อแยกกับตัวบ้านไว้ให้ เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวบ้านทรุด เราแนะนำให้ลงเสาเข็มเพิ่มเติมหากต้องการต่อเติมหลังคารถนะคะ

Gimmick อย่างหนึ่งที่แตกต่างจากโครงการอื่นๆ คือ อ่างล้างมือหน้าบ้านที่โครงการติดตั้งมาให้เข้ากับยุค Covid มากเลยค่ะ

Gimmick อีกอย่างคือหน้าต่างหน้าบ้านแบบ Bay Window ซึ่งสามารถต่อเติมตู้เก็บของใต้หน้าต่าง ตามแบบในบ้านตัวอย่างได้นะคะ

สำหรับประตูบ้านของที่นี่เป็นบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียม ลองเปิดดูแล้วรู้สึกกว่ามีความแน่นหนา พร้อมเก็บขอบยางรอบประตูกันเสียงไม่ให้รบกวนเข้ามาในตัวบ้านได้ดี เสริมด้วยดีเทลลูกฟัก ทำให้ได้บรรยากาศแบบยุโรปมากขึ้นค่ะ สเปกกระจกสีเขียวตัดแสง จึงช่วยลดความจ้าของแสงที่ผ่านเข้ามาและยังช่วยลดความร้อนด้วย

โครงการติดตั้ง Digital Door Lock มาให้เรียบร้อย เข้าออกด้วย Password และ Finger Scan และมีตัวล็อคตรงกลางอีกชั้นหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีการติดตั้ง Motion Sensor และ Wifi Camera ไว้ให้ค่ะ

เข้ามาภายในบ้านเราจะเจอกับ Common Area กว้างๆ เชื่อมต่อพื้นที่นั่งเล่น – ทานข้าว ทำให้พื้นที่ดูโปร่ง สำหรับบ้านมาตรฐานจะได้เป็นบ้านเปล่าไม่มีเฟอร์นิเจอร์ ผนังฉาบเรียบทาสีขาว พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้นะคะ

ถ้าจัดเฟอร์ฯ ตามบ้านตัวอย่างจะมีระยะดูทีวี 4.3 m. จึงสามารถติดทีวีขนาดใหญ่เต็มกำแพงได้ และเมื่อวางโต๊ะกลางแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ทางเดินเข้า-ออกบ้านได้สะดวก รองรับชุดโซฟาขนาดใหญ่แบบ 3-4 ที่นั่ง ส่วนข้างทีวีเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำค่ะ

ห้องน้ำชั้นล่างจะรองรับการอาบน้ำด้วยแต่ไม่ได้แยกพื้นที่เปียกแห้งมาให้นะคะ หากใช้ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างเป็นห้องนอนคงต้องหาม่านมากั้นให้เป็นสัดส่วนขึ้น แต่สำหรับบ้านที่ไม่มีสมาชิกนอนชั้นล่างจะไม่ได้เป็นปัญหาต่อการใช้งานสักเท่าไหร่ เพราะห้องนอนชั้นบนก็มีห้องน้ำรองรับการใช้งานครบถ้วนอยู่แล้ว

สำหรับสุขภัณฑ์ต่างๆ ในห้องน้ำจะใช้ของ American Standard เป็นหลัก ซึ่งเป็นแบรนด์มาตรฐานหาอะไหล่สะดวกอยู่แล้ว

ปัญหาคลาสสิคของห้องน้ำทาวน์โฮมก็คือ มักจะมีกลิ่นอับจากการไม่มีหน้าต่างระบายอากาศ ทางโครงการจึงได้ติดตั้งเครื่องดูดอากาศไว้ให้ เพื่อช่วยลดปัญหาอับชื้น

พื้นห้องน้ำจะมีระดับที่ลดลงมาจากพื้นที่ใช้สอยส่วนอื่นๆ ช่วยกันไม่ให้น้ำไหลย้อนเข้าไปในตัวบ้าน

ขยับเข้ามาตรงกลางบ้าน เป็นมุมที่เตรียมไว้สำหรับวางโต๊ะกินข้าวขนาด 4-6 ที่นั่ง จุดเด่นของมุมนี้คือ สามารถ Take View หลังบ้านได้พอดี ถ้าจัดหลังบ้านเป็นสวนก็จะได้วิวสวนร่มรื่นค่ะ

ฝั่งตรงข้ามโต๊ะทานอาหารจะเป็นห้องอเนกประสงค์ ขนาด 2.8 x 2.8 m. ความเก๋ของห้องนี้ก็คือมีหน้าต่าง Bay Window ช่วยให้ห้องไม่ทึบตัน

ภายในจะจัดเป็นห้องดูหนังตามแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้ หรือถ้าจัดเป็นห้องนอนก็มีพื้นที่กว้างพอให้สามารถวางเตียงเดี่ยวได้

ห้องอเนกประสงค์นี้มีหน้าต่างสำหรับรับแสงธรรมชาติและใช้เปิดระบายอากาศได้

ประตูหลังบ้านเป็นกระจกบานเลื่อนกระจกกรอบอลูมิเนียม เป็นประตูบานเลื่อน 2 ตอน ตัวล็อคหลักจะอยู่ตรงมือจับและมีการติดตัวล็อคแบบก้นหอยเพิ่ม ทำให้ได้ความปลอดภัยมากขึ้น

ลานซักล้างด้านหลังบ้านจะลงเสาเข็มที่มีความลึกเท่าตัวบ้านไว้ให้เรียบร้อย ซึ่งดีกับงานต่อเติมหลังบ้าน มากๆ ทำให้ไม่ต้องกลัวว่าพื้นหลังบ้านจะทรุดจนแยกกับตัวบ้าน หรือจะมาดึงผนังหลังบ้านทำให้บ้านร้าว

บ้านมาตรฐานจะได้ตามแบบในรูป…พื้นเทคอนกรีตฉาบเรียบมาให้เต็มพื้นที่ ส่วนกำแพงจะก่อมาให้แล้วจึงมีความสะดวกในการต่อเติม

โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งดีกว่าบันไดโครงเหล็กที่ทาวน์โฮมหลายๆ ที่มักจะนิยมใช้กัน เวลาเดินบนบันไดคอนกรีตเสริมเหล็กจะรู้สึกว่าพื้นแน่นๆ ไม่มีเสียงก๊องๆ หรือความรู้สึกว่าพื้นกลวง ปิดผิวบันไดด้วยไม้สำเร็จรูป

ข้างบันไดมีการติดตั้งระบบควบคุมไฟในบ้านไว้ให้ โดยไฟทุกจุดในบ้านจะเชื่อมกับ Home Automation จึงควบคุมสะดวก

ชานพักบันไดจุดแรกจะมีช่องหน้าต่างบานใหญ่แบบ Bay Window รับแสงธรรมชาติเข้ามาบริเวณบันไดช่วยประหยัดไฟในเวลากลางวันได้

เนื่องจากฝ้าเพดานที่ค่อนข้างสูง ทำให้ชานพักต้องซอยขั้นเพิ่ม จะมีชานพักบางช่วงที่ไม่ได้เป็นสี่เหลี่ยมตามที่ควรจะเป็นทั้งหมด เวลาใช้งานเดินขึ้นลงต้องระวังหน่อยนะคะ

ขึ้นมาชั้นบน…พื้นจะปูด้วยพื้นไม้สำเร็จรูป SPC มีคุณสมบัติพิเศษกว่าไม้ทั่วไปตรงที่ผสมผงหินมาด้วย ทำให้โครงสร้างพื้นแข็งแรงขึ้น อัตราการยืดหดตัวน้อยกว่าพื้นไม้ธรรมดา จึงใช้งานได้ทนทานเหมือนกระเบื้อง และให้ผิวสัมผัสที่ดีกว่าไม้ลามิเนตค่ะ

โถงทางเดินบนชั้น 2 อยู่ตรงกลางเชื่อมห้องนอนต่างๆ เข้าด้วยกัน โดยห้องนอนใหญ่จะอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน ส่วนห้องนอนรองอีก 2 ห้องจะอยู่ฝั่งหลังบ้านค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางชั้นบนนี้มีความสูงเป็นพิเศษถึง 3.6 m. จึงสามารถต่อเติมชั้นลอยเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้งานตามแบบในบ้านตัวอย่างได้นะคะ

ชั้นลอยในบ้านตัวอย่างมีขนาดประมาณ 1.7 x 1 m. ใช้เป็นห้องพระหรือพื้นที่อเนกประสงค์เพิ่มเติมได้ เราลองวัดความสูงฝ้าอยู่ราวๆ 1.8 m. คุณผู้หญิงน่าจะใช้งานได้ไม่มีปัญหาค่ะ

บันไดชั้นลอยจะมีความชันมากกว่าปกติสักหน่อย เพราะพื้นที่ค่อนข้างจำกัด แต่ก็ใช้งานได้นะคะ

ถ้าเทียบกับทาวน์โฮมทั่วไปถือว่าห้องนอนใหญ่ของโครงการนี้ได้พื้นที่ใช้สอยมาเยอะมากจริงๆ กว้างเหมือนห้องนอนใหญ่ในบ้านเดี่ยวหลายๆ ที่ วางเตียง King Size โดยที่ยังเหลือพื้นที่รอบเตียงด้วยนะคะ

จุดที่น่าสนใจของห้องนี้ก็คือ โครงการให้ฝ้าเพดานมาถึง 3.8 m. ทำให้เราสามารถจัดพื้นที่ใช้สอยให้ออกมาเป็นชั้นลอย หรือที่เรียกกันคุ้นหูว่าแบบ Loft ได้ ทำให้ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าขึ้น อย่างเช่น ชั้นล่าง Built-in เป็นตู้เสื้อผ้า และชั้นบนจัดเป็นมุมนั่งอ่านหนังสือเก๋ๆ เป็นต้น แต่ก็ต้องใช้งบประมาณในการต่อเติมหลักแสนอยู่นะคะ

ชั้นลอยในห้องนอนใหญ่ของบ้านตัวอย่างมีฝ้าเพดานสูงประมาณ 2.1 m. ยืนใช้งานได้จริง โดยมีพื้นที่ขนาด 1.45 x 1.9 m.

ข้างเตียงมีช่องหน้าต่างบานใหญ่ใช้รับแสง-รับลม ได้ดี

อีกฝั่งหนึ่งของห้องสามารถจัดเป็นพื้นที่แต่งตัวได้อย่างเป็นสัดส่วน ซึ่งอยู่บริเวณเดียวกับห้องน้ำ เวลาอาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวได้สะดวก

บริเวณหน้าห้องน้ำสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าให้เต็มฝั่งหนึ่งของผนังจากพื้นถึงฝ้าเลย มีขนาดของ Walk-in Closet ประมาณ 2.4 x 2 m. ปลายสุดตู้เสื้อผ้าจะมีประตูเชื่อมไประเบียง

ระเบียงห้องนอนมีขนาด 0.6 x 1.4 m. พร้อมปูกระเบื้องมาให้เรียบร้อย

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่จัดแบ่งโซนเปียก-โซนแห้งไว้เรียบร้อย สุขภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ให้ของ American Standard เช่นเดียวกับห้องน้ำชั้นล่าง

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1 x 1 m. พอให้ยืนอาบน้ำได้สบายๆ โดยจะลดระดับลงกว่าพื้นห้องน้ำส่วนอื่นเล็กน้อย สามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มได้ค่ะ

สำหรับห้องนอนรองอีก 2 ห้องจะต้องมาใช้ห้องน้ำร่วมกันที่โถงทางเดินส่วนกลางนะคะ

ห้องน้ำส่วนกลางบนชั้น 2 จัดแปลนและฟังก์ชันมาเหมือนกับห้องน้ำในห้องนอนใหญ่เลย ให้วัสดุอุปกรณ์มาครบ เป็นสเปกเดียวกันค่ะ

ภายในห้องนอนรองมีพื้นที่ให้วางเตียง 5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าได้เลย แต่หากใช้เป็นเตียง 3 ฟุตแบบในบ้านตัวอย่างก็จะมีพื้นที่สำหรับตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่และโต๊ะเครื่องแป้งได้ค่ะ และมีหน้าต่างที่สามารถเปิดระบายอากาศได้ หรือจะเรียกว่าเป็นห้องนอนของลูกคนโปรดก็ได้ค่ะ

ภายในห้องมีหน้าต่างที่สามารถเปิดระบายอากาศได้ หรือจะเรียกว่าเป็นห้องนอนของลูกคนโปรดก็ได้ค่ะ

ห้องนอนรองอีกห้องหนึ่งมีขนาดกะทัดรัดขึ้นมาจากอีกห้องหนึ่งเล็กน้อย ห้องนี้เหมาะกับการวางเตียงเดี่ยวมากกว่า เพราะจะมีพื้นที่เหลือเพียงพอสำหรับวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้ค่ะ

ภายในห้องมีหน้าต่างมาให้เปิดระบายอากาศได้ตามมาตรฐาน

ปิดท้ายบ้านแบบแรกด้วยระบบช่วยกรองอากาศ Better Air กรอง PM2.5 ซึ่งโครงการติดตั้งมาให้เรียบร้อยในทุกห้องนอน งานระบบจะเก็บซ่อนอยู่ใต้ฝ้าและไปเชื่อมกับตัวเครื่องที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังบ้านค่ะ

บ้านตัวอย่างแบบ Birmingham

แบบบ้าน Birmingham จะมีราคาให้หยิบจับง่ายกว่าแบบบ้าน Cambridge 5 แสนบาท โดยมีพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 123 ตร.ม. และความกว้างหน้าบ้าน 5.2 เมตร แต่ได้ฟังก์ชันไม่ต่างกัน คือยังคงมีห้องอเนกประสงค์ด้านล่างอยู่ พร้อมกับโซน Common Area ที่มีพื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อกับโซนรับประทานอาหาร

ส่วนชั้นบนมี 3 ห้องนอน โดยจะมีห้องนอนใหญ่อยู่ด้านหน้าบ้านวางเตียง 5-6 ฟุตได้สบาย  และห้องรอง 2 ห้องทางฝั่งหลังบ้าน ที่แตกต่างจากบ้านหลังแรกคือทั้ง 3 ห้องนอนต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกัน แต่ได้ขนาดพื้นที่ใช้สอยโอเคเลยค่ะ

แม้ว่าตัวบ้านมีหน้ากว้าง 5.2 m. แต่ก็ยังสามารถจอดรถได้ 2 คันอยู่นะคะ พื้นที่จอดรถยังคงเทคอนกรีตฉาบเรียบไว้ให้ (On Ground) และตัดรอยต่อแยกกับตัวบ้านไว้ให้เหมือนเดิม เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวบ้านทรุดค่ะ

เข้ามาในบ้านจะเจอกับห้องนั่งเล่นเป็นลำดับแรก ถัดเข้าไปเป็นห้องรับประทานอาหารและห้องอเนกประสงค์ที่ติดกับพื้นที่ซักล้างด้านหลังบ้าน

ห้องนั่งเล่นสามารถวางชุดโซฟาแบบ 3 – 4 ที่นั่ง และโต๊ะกลางได้โดยไม่ขวางทางเดิน พื้นที่ในห้องนั่งเล่นนี้จะได้แสงธรรมชาติค่อนข้างมากจากประตูกระจกด้านหน้าบ้าน จึงดูสว่างและอบอุ่น โดยมีระยะดูทีวีอยู่ที่ 3.9 m. สามารถติดทีวีขนาดใหญ่เต็มผนังได้นะคะ

ตำแหน่งของห้องน้ำชั้นล่างจะอยู่บริเวณกลางบ้าน ด้านหลังผนังติดทีวี ภายในจัดฟังก์ชันมาครบสามารถใช้อาบน้ำได้ ..ดีตรงที่ในช่วงเวลาเร่งด่วนก็สามารถแบ่งสมาชิกในบ้านมาอาบที่ชั้นล่างได้ จุดที่ต้องระวังในการใช้งานคือ พื้นที่อาบน้ำและโซนสุขภัณฑ์ เป็นพื้นระนาบเดียวกัน เวลาอาบน้ำจึงต้องระวังน้ำกระเด็น อาจจะติดม่านอาบน้ำเพิ่มก็ช่วยลดปัญหาได้

ถัดไปเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งจะได้แสงธรรมชาติผ่านประตูกระจกบานเลื่อนด้านหลังบ้าน โดยบ้านตัวอย่างมีไอเดียที่จะตกแต่งบริเวณนี้เป็นโถงทางเดินแทน และใช้พื้นที่ด้านหลังบ้านเป็นพื้นที่รับประทานอาหารแทนค่ะ

ข้างโถงทางเดินจะเป็นตำแหน่งของห้องอเนกประสงค์

ซึ่งเราสามารถจัดเป็นห้องนอนตามแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้ เพราะมีพื้นที่กว้างพอให้สามารถวางเตียงเดี่ยวได้ หรือจะจัดเป็นห้องทำงานก็เหมาะกับยุค Work From Home ดีค่ะ

ความเก๋ของห้องนี้ก็คือมีหน้าต่าง Bay Window ช่วยให้ห้องไม่ทึบตัน และมองเห็นสมาชิกคนอื่นๆ ภายในบ้านได้

พื้นที่ด้านหลังบ้านจะลงเสาเข็มที่มีความลึกเท่าตัวบ้านไว้ให้เรียบร้อยเหมือนบ้านหลังแรก สิ่งที่ต่างกันคือไอเดียในการตกแต่งพื้นที่หลังบ้านให้เป็นพื้นที่ทานอาหารในห้องครัวเลย ซึ่งหากต้องการต่อเติมก็อย่าลืมคำนึงเรื่องกฎหมายด้วยนะคะ

โครงบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กเช่นเดียวกับบ้านแบบแรก ลักษณะเป็นบันไดเป็นรูปตัว U และเนื่องจากฝ้าเพดานที่ค่อนข้างสูงถึง 3.85 m. ทำให้ชานพักต้องซอยขั้นเพิ่มจะไม่ได้เป็นสี่เหลี่ยมตามที่ควรจะเป็นทั้งหมด เวลาใช้งานเดินขึ้นลงต้องระวังหน่อยนะคะ

พื้นที่ส่วนกลางชั้นบนนี้มีความสูงเป็นพิเศษถึง 3.85 m. จึงสามารถต่อเติมชั้นลอยเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้งานตามแบบในบ้านตัวอย่างได้ มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 1 x 1.8 m. หากใครสนใจต่อเติมเพิ่มในส่วนนี้ทางโครงการสามารถรับต่อเติมให้ได้ ในราคาประมาณ 2 แสนบาท อย่างไรก็ลองสอบถามจากเซลล์ดูอีกครึ่งหนึ่งนะคะ

ห้องนอนใหญ่ ซึ่งจะได้พื้นที่ในส่วนหน้าบ้านทั้งหมด สิ่งแรกที่สะดุดตาคือความสูงฝ้าเพดานที่ให้มาสูงประมาณ 3.75 m. ทำให้สามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยให้ออกมาเป็นชั้นลอยได้ ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าขึ้น อย่างเช่น ชั้นล่าง Built-in เป็นตู้เสื้อผ้า และชั้นบนจัดเป็นมุมนั่งอ่านหนังสือเก๋ๆ เป็นต้น

ขนาดของห้องสามารถใช้วางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ และยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงวางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง

ชั้นลอยในห้องนอนใหญ่ของบ้านตัวอย่างมีฝ้าเพดานสูงประมาณ 1.7 m. และมีพื้นที่ขนาดพื้นที่ใช้สอย 2.4 x 1.5 m. สามารถทำเป็นมุมนั่งเล่นอ่านหนังสือได้อีกมุมหนึ่ง

พื้นที่ใต้ชั้นลอยยังใช้ประโยชน์เป็น Walk-in Closet ได้โดยอยู่ด้านหลังชั้นวางทีวีได้ความเป็นสัดส่วนดี

พื้นที่ Walk-in Closet มีขนาดใหญ่พอสมควรเลยนะคะ ประมาณ 2.5 x 2.4 m. สามารถวางตู้เสื้อผ้าเข้าหากันได้ 2 ฝั่ง

พื้นที่ด้านในสุดที่ติดกับระเบียงก็เหมาะจะวางโต๊ะเครื่องแป้ง เพื่อให้มีแสงธรรมชาติในการแต่งหน้า จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องรองพื้นผิดเบอร์นะคะ ><

ระเบียงห้องนอนมีขนาดประมาณ 0.8 x 1.5 m. พร้อมปูกระเบื้องมาให้เรียบร้อย

สำหรับห้องน้ำบนชั้นนี้จะเป็นห้องขนาดใหญ่ที่ต้องใช้งานร่วมกัน จึงมีประตูเปิดเข้าออก 2 ฝั่ง โดยจะเชื่อมกับห้องนอนใหญ่ และโถงทางเดินบนชั้น 2 เพื่อให้ลูกๆ สามารถเข้าใช้งานได้

ภายในห้องน้ำจัดฟังก์ชันและให้วัสดุอุปกรณ์มาครบของ American Standard เช่นเดิม ห้องนี้ใช้อาบน้ำได้สะดวกเลยเพราะแบ่งโซนเปียกแห้งมาให้ ซึ่งดูจากแปลนแล้วหากใครอยากติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มก็สามารถทำได้นะคะ

ขนาดพื้นที่อาบน้ำประมาณ 1 x 1 m. ระดับพื้นลดลงเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลไปส่วนอื่นค่ะ

พื้นที่ทางฝั่งหลังบ้านจะแยกออกแบบห้องนอนรอง 2 ห้อง โดยห้องขวาจะมีขนาดใหญ่กว่าห้องฝั่งซ้ายเล็กน้อยนะคะ เราจึงขอเรียกห้องฝั่งขวาว่าเป็นห้องนอนของลูกคนโปรดนะ

ห้องนอนของลูกคนโปรดจะมีพื้นที่ให้วางเตียง 5 ฟุตได้เพียงพอนะคะ แต่จะวางเตียงเดี่ยว 2 ชั้นตามแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้ ก็จะมีพื้นที่ให้วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเขียนหนังสือที่มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ ภายในห้องมีหน้าต่างที่สามารถเปิดระบายอากาศได้ตามมาตรฐาน

ปิดท้ายด้วยห้องรองอีกห้องหนึ่ง สามารถจัดเป็นห้องนอนเด็กหรือวัยรุ่นที่ไม่ได้มีของใช้มากมายนักได้นะคะ คือมีพื้นที่เพียงพอให้วางเตียงขนาด 3.5 ฟุต + ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเขียนหนังสือ ถือว่าครบถ้วน หรือถ้าครอบครัวไหนมีลูกคนเดียวก็ปรับห้องนี้เป็นห้องแต่งตัว, ห้องทำงาน ไปก็ได้ค่ะ

Shophouse อาคารพาณิชย์

อาคารพาณิชย์ของโครงการ Burlington สุขสวัสดิ์-พุทธบูชา จะเป็นอาคารสูง 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 4 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 16 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 179 ตร.ม. ในราคาเริ่ม 6.99 ล้านบาท ซึ่งลูกบ้านที่ซื้ออาคารพาณิชย์ก็สามารถเข้าไปใช้ Facility ด้านในโครงการได้เช่นกัน และก็จะมีลานจอดรถด้านหน้าที่โครงการเตรียมไว้ให้ เผื่อมีลูกค้าของร้านค้าต่างๆมา ก็จะได้ไม่ต้องไปจอดบนถนนสาธารณะด้านนอกค่ะ

แปลนในชั้นต่างๆ จะเปิดโล่งให้ออกแบบการใช้งานที่เหมาะสมกับแต่ละครอบครัวได้ มีห้องน้ำในทุกชั้นรวม 3 ห้อง โดยห้องน้ำในชั้น 2-3 จะมีพื้นที่อาบน้ำมาให้ เหมาะที่จะใช้เป็นชั้นพักอาศัยค่ะ

ภายในอาคารปูกระเบื้องมาให้เป็นมาตรฐานในทุกชั้น ๆ และมี Gimmick ที่น่าสนใจอย่างโถงชั้น 1 ที่เป็นDouble Volume สูงถึง 4.8 m. เลยค่ะ

Burlington สุขสวัสดิ์-พุทธบูชา ราคา ณ วันที่ 2 มิถุนายน 2566

• Hampton ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.2 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 18.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 123 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
  – เริ่มต้น 3.44 ล้านบาท
• Birmingham ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.2 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 18.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 123 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
  – เริ่มต้น 3.44 ล้านบาท
• Cambridge ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 21.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 141 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
  – เริ่มต้น 3.99 ล้านบาท
• Shophouse อาคารพาณิชย์ 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 4 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 16 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 179 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องน้ำ
  – เริ่มต้น 6.99 ล้านบาท
• จอง 10,000 บาท
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 100,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 66 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : โครงการ Burlington สุขสวัสดิ์-พุทธบูชา ตั้งอยู่ในซอยพุทธบูชา 39 เข้ามาจากถนนพุทธบูชาประมาณ 900 เมตร หรือไปออกถนนสุขสวัสดิ์ผ่านซอยสุขสวัสดิ์ 26 ประมาณ 3.7 km. และไปออกถนนพระราม2 ได้ไม่ไกล มีตัวช่วยในการเดินทางอย่างทางด่วนในระยะ 5-6 km. และกำลังมีแผนของรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ “เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ” ในอนาคต  โดยสถานีที่คาดว่าใกล้สุดคือสถานีบางปะกอก ประมาณ 4 km. นอกจากนี้ยังใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์สูงสุดของของย่านที่บริเวณ “แยกนาหลวง” ค่ะ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ถือว่าให้มาดีกว่าทาวน์โฮมระดับเดียวกันและเทียบเท่าโครงการบ้านเดี่ยวหลายๆ แห่งได้เลย โดยเฉพาะประตูหลักของโครงการที่เป็นประตูเหล็กอัตโนมัติ เพื่อความปลอดภัยทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน นอกจากนี้ยังมีพี่ รปภ. กับกล้อง CCTV และระบบอ่านป้านทะเบียนที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน

ส่วนภายในบ้านก็จัดเต็มมาอีกเช่นกัน โดยจะมี Motion Sensor ที่ชั้น 1 และ 2, Wifi Camera 2 จุด บริเวณที่จอดรถและโถงชั้น 1, Digital Door Lock และ Window Sensor 3 จุด ถือว่าให้มาดีในทาวน์โฮมระดับราคานี้นะคะ

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

โครงการ – แม้ว่าโครงการ Burlington สุขสวัสดิ์-พุทธบูชา จะเป็นโครงการที่มีทั้งทาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์ แต่ก็มีการวางผังไว้ลงตัวนะคะ โดยอาคารพาณิชย์จะอยู่ด้านหน้าโครงการก่อนที่จะผ่านซุ้มประตูเพื่อเข้าสู่โซนทาวน์โฮมพักอาศัยด้านใน จึงไม่ต้องห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัว และยังมีข้อดีตรงที่อาคารพาณิชย์เหล่านี้ หากเปิดเป็นร้านค้าหรือคลีนิค ก็ยังช่วย Support ลูกบ้านให้เข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกได้ง่าย และอาคารพาณิชย์เองก็อาจจะได้ลูกค้าจากลูกบ้านทาวน์โฮมเช่นกัน

อีกประเด็นหนึ่งคือ โครงการวางพื้นที่สวนส่วนกลางและ Clubhouse ขนาดประมาณ 200 กว่า ตร.วา ไว้ตรงกลาง ติดถนนหลัก ทำให้ลูกบ้านเข้าถึงได้ง่ายและเป็นจุดนำสายตาสวยๆ ให้ลูกบ้านเวลาที่ขับรถเข้าออกโครงการด้วย

ทาวน์โฮม – ออกแบบมาในสไตล์ Modern Classic หลังคาใช้รูปทรง Lean to ส่งผลให้ Master Bedroom มีฝ้าสูงเป็นพิเศษ ถึง 3.8 m. เมื่อห้องมีความสูงมากขึ้นก็ทำให้บรรยากาศของห้องเปลี่ยนไปเยอะเลย ถ้าใครมีงบ Built-in เฟอร์ฯ เพิ่มเติมก็สามารถออกแบบการใช้งานแนวตั้งเพิ่มได้ มีห้องอเนกประสงค์ที่ชั้นล่างมาให้ทุกแบบ จึงยืดหยุ่นต่อการใช้งาน ใช้เป็นห้องนอนแขกหรือห้องทำงานก็ได้หมด มีห้องน้ำอยู่ติดกันใช้งานง่าย จึงรองรับทั้งครอบครัวขยายแบบพ่อแม่ลูกและครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วยค่ะ

อาคารพาณิชย์ – พื้นที่ใช้สอยทุกชั้นจะเปิดโล่งให้ออกแบบการใช้งานที่เหมาะสมกับแต่ละครอบครัวได้ มีห้องน้ำในทุกชั้นรวม 3 ห้อง โดยห้องน้ำในชั้น 2-3 จะมีพื้นที่อาบน้ำมาให้ เหมาะที่จะใช้เป็นชั้นพักอาศัย และมีลานจอดรถด้านหน้าที่โครงการเตรียมไว้ให้ เผื่อมีลูกค้าของร้านค้าต่างๆมา ก็จะได้ไม่ต้องไปจอดบนถนนสาธารณะด้านนอกค่ะ

วัสดุ : เป็นหัวข้อที่เรารู้สึกว่าโครงการนี้ทำการบ้านมาดี คือ ในกลุ่มทาวน์โฮมระดับราคาเดียวกันแต่ที่ Burlington จะโดดเด่นเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ เพราะโครงการออกแบบมาในสไตล์ Modern Classic จึงมีดีเทลลูกเล่นในการตกแต่ง Facade เยอะ ซึ่งค่าวัสดุก็จะมากกว่าแนวโมเดิร์นอยู่แล้วนะคะ

ส่วนเทคโนโลยีในตัวบ้านจะจัดเต็มมาเลย ใช้มิเตอร์ไฟ 30/100 เตรียม Junction ไว้ติด EV Charger มาพร้อม Home Automation คุมไฟทั้งหลัง และระบบ Better Air ช่วยเรื่องกรองฝุ่น PM2.5 ในทุกห้องนอน

ส่วนโครงสร้างก่ออิฐฉาบปูนจึงสามารถทุบต่อเติมได้ และมีการลงเสาเข็มซักล้างด้านหลังไว้เรียบร้อย อันนี้ช่วยประหยัดงบประมาณไปเยอะ สำหรับใครที่อยากทำหลังบ้านเป็นครัว และลดปัญหาการทรุดตัวภายหลัง เสียดายนิดเดียวที่จอดรถหน้าบ้านไม่ได้ลงเสาเข็มมาให้ ถ้าจะต่อเติมหลังคาแนะนำให้ลงเสาเข็มเพิ่มนะคะ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : สภาพโครงการโดยรวมดูเรียบร้อยดี คุมธีม Modern Classic ตั้งแต่หน้าประตู ไปจนถึงอาคาร Clubhouse รวมถึงสวนก็มาในสไตล์อังกฤษด้วยเช่นกันนะคะ บรรยากาศภายในสวนมีทั้งต้นไม้ใหญ่ ไม้พุ่ม และมีน้ำพุตกแต่งที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้น่าใช้งานมากขึ้น

สาธารณูปโภค : ส่วนกลางมีครบทั้ง Clubhouse, สระว่ายน้ำ, Co-Working Space พร้อม Free Wifi, สิ่งที่น่าสนใจสุดเราขอยกให้กับ ฟิตเนสที่เปิด 24 ชั่วโมง ซึ่งภายในห้องจะมีเครื่องเติมอากาศจากด้านนอก กรอง PM 2.5 ทำให้เราได้ออกกำลังกายในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ค่ะ และสวนส่วนกลางประมาณ 216 ตร.วา แลกมากับค่าส่วนกลาง 66 บาท/ตร.วา แชร์กันใช้กับลูกบ้าน 108 หลังเท่านั้นค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 3-7 ล้านบาท, 2 มิถุนายน 2566

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – เข้าได้จากถนนพุทธบูชาและสุขสวัสดิ์ ใกล้ทางด่วน, รถไฟฟ้าในอนาคต และแยกนาหลวง
• ความปลอดภัย 8/10 – ประตูรั้วบานเลื่อนอัตโนมัติ, ระบบอ่านป้านทะเบียน และระบบรักษาความปลอดภัยในตัวบ้าน
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – ออกแบบดี แยกโซนทาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์เป็นสัดส่วน, Master Bedroom ฝ้าสูงพิเศษ และทุกแบบมีห้องอเนกประสงค์ที่ชั้นล่าง
• วัสดุ 8.5/10 – ให้มาดี โดยเฉพาะเทคโนโลยีในบ้านที่ติดตั้งมาให้
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – พื้นที่สีเขียวครึ่งไร่เหมาะสมกับจำนวนยูนิต สวนสไตล์อังกฤษดูสวยงาม
• สาธารณูปโภค 8/10 – สระว่ายน้ำ, Fitness, Co-Working Space, Fitness 24 ชั่วโมง พร้อมสวนและสนามเด็กเล่น
• 8 / 10.00

Burlington สุขสวัสดิ์-พุทธบูชา เหมาะกับใคร

ทาวน์โฮมในโครงการ Burlington สุขสวัสดิ์-พุทธบูชา เหมาะกับคนที่ตามหาบ้านในโซนพระราม 2, สุขสวัสดิ์, พุทธบูชา ในทำเลที่มีตัวช่วยในการเดินทางอย่างทางด่วนและรถไฟฟ้าในอนาคต ในระยะ 4-6 km. ชอบบ้านสไตล์ Modern Classic ดูหรูหรา ให้ความสำคัญกับเรื่องสเปกวัสดุที่คุ้มค่า ตอบโจทย์ทั้งครอบครัวขยายที่อยู่อาศัยแบบพ่อแม่ลูก และครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย ในงบประมาณเริ่มต้น 3.44-3.99 ล้านบาท

ส่วนของอาคารพาณิชย์จะเหมาะกับคนที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง Facility ส่วนกลาง ที่สามารถเข้าไปใช้งานได้ และต้องการลานจอดรถด้านหน้าเป็นกิจจะลักษณะเพื่อไม่ต้องไปจอดรถบนถนนสาธารณะด้านนอก ในงบเริ่มต้น 6.99 ล้านบาทค่ะ

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc