มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟใต้ดิน: MRT หัวลำโพง

MRT หัวลำโพง… เป็นสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสายเฉลิมรัชมงคล อยู่ระหว่างสถานีปลายทาง ที่ตั้งของสถานีอยู่ที่หัวถนนพระรามที่ 4 บริเวณจุดตัดหัวถนนรองเมือง ถนนพระราม 4 และถนนมหาพฤฒาราม อยู่หน้าสถานีรถไฟหัวลำโพง ซึ่งเมื่อพูดถึงหัวลำโพงแล้ว ทุกคนคงจะต้องนึกถึงสถานีรถไฟกรุงเทพ หรือที่นิยมเรียกกันว่าสถานีรถไฟหัวลำโพงซึ่งเป็นแลนด์มาร์คของที่นี่เป็น อย่างแรก อย่างที่ทราบกันดีว่าการรถไฟเริ่มสร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 โดยมีสถานีรถไฟหัวลำโพงเป็นสถานีหลัก ที่นี่จึงเป็นศูนย์กลางของการคมนาคมขนส่งระดับประเทศ โดยมีตำแหน่งที่ตั้งใจกลางเมือง ตั้งอยู่ใกล้ถนนประวัติศาสตร์สายสำคัญ เช่น ถนนเจริญกรุง ถนนเยาวราช ซึ่งเป็นถนนเส้นแรกของประเทศไทย เป็นเครื่องยืนยันถึงความสำคัญของย่านดังกล่าวได้เป็นอย่างดี

MRT หัวลำโพง เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างระบบขนส่งมวลชนหลักสองระบบคือ MRT และ SRT ซึ่งเมื่อพูดว่า SRT หลายคนอาจจะไม่คุ้นนะครับ จริงๆ แล้ว SRT ย่อมาจาก “State Rail Way of Thailand” หรือการรถไฟแห่งประเทศไทยของเรานี่เอง เห็นระบบขนส่งมวลชนอื่นยังมีชื่อย่อเท่ๆ เช่น BTS, MRT, BRT หรือแม้แต่ขสมก.ยังมีชื่อเก๋ๆ ว่า BMTA เลยครับ การรถไฟแห่งประเทศไทยจึงขอมีบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนคนอื่นคือตัวอักษร T ของระบบอื่นย่อมากจากคำว่า Transit ซึ่งแปลว่า”การขนส่งหมด”เลยครับ แต่ T ของ SRT ซึ่งชื่อดูพ้อง แต่กลับไม่ใช่ซะงั้น

เพิ่มเติมข้อมูลสถานีใกล้เคียงได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สามย่าน

สิ่งอำนวยความสะดวกและสถานที่สำคัญโดยรอบ

ฝั่งทางออก 1 และ 4

• โรงแรมบางกอกเซ็นเตอร์
• อาคารตั้งฮั้วปัก
• วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร
• วัดมหาพฤฒาราม
• โรงเรียนสตรีวัดมหาพฤฒาราม
• ศาลแรงงานกลาง
• ศาลแขวงปทุมวัน
• ย่านสะพานเหลือง

ฝั่งทางออก 2 และ 3

• สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)
• ธนาคารกรุงเทพ สาขาหัวลำโพง
• วัดดวงแข

แผนที่สถานี (คลิกเพื่อดูรูปใหญ่)

 

การคมนาคม

ด้านการคมนาคม ทำเลพื้นที่แถวหัวลำโพงนี้ต้องนับว่าเป็นพื้นที่ใจกลางเมืองอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งบริเวณหัวลำโพงเองถือเป็นย่านสำคัญเก่าแก่ที่เป็นประตูไปสู่ย่านสำคัญๆ ของกรุงเทพชั้นในหลายแห่ง โดยสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหัวลำโพง นับเป็นสถานีของระบบรถไฟฟ้า (BTS, MRT, Airport Link) ที่อยู่ใกล้กับเกาะรัตนโกสินทร์ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญของกรุงเทพมากที่สุด และหากเราพิจารณาจากทำเลที่ตั้งในภาพรวมแล้วจะพบว่าย่านหัวลำโพงนี้เป็นจุดกึ่งกลางระหว่างสามเหลี่ยมที่สำคัญคือเกาะรัตนโกสินทร์ ย่านศูนย์การค้าสยามสแควร์ และย่านเศรษฐกิจสีลม-สาทร ทำให้จากจุดนี้สามารถเดินทางไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ ของกรุงเทพชั้นในได้อย่างครบถ้วน อีกทั้งบริเวณข้างสถานีรถไฟหัวลำโพงก็เป็นทางขึ้นทางด่วนเพื่อเดินทางไปยังบริเวณอื่นๆ ของกรุงเทพได้โดยสะดวก ยิ่งไปกว่านี้สถานีรถไฟหัวลำโพงเองก็ถือเป็นประตูในการเดินทางที่สำคัญในการไปภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศไทยอีกด้วย

อย่างไรก็ตามในปัจจุบันพื้นที่บริเวณนี้ไปจนถึงถนนเจริญกรุงแถวเยาวราช อยู่ระหว่างการก่อสร้างส่วนต่อขยายของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ทำให้พื้นผิวการจราจรค่อนข้างแคบลงไปมาก ส่งผลให้การจราจรในบริเวณนี้ในช่วงหลายปีนี้ค่อนข้างน่าหงุดหงิดสำหรับผู้อยู่อาศัยในย่านนี้มากทีเดียว แต่เชื่อว่าหากการก่อสร้างรถไฟฟ้าในดินแล้วเสร็จในอนาคตอันใกล้ ผู้โดยสารมีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้น และถนนต่างๆ สามารถเปิดการเดินรถได้ครบทุกช่องตามปกติ ก็จะทำให้การคมนาคมบริเวณนี้คล่องตัวมากขึ้นมาก

เจาะลึกรอบสถานี

ทางออกที่ 4 แยกมหานคร

 ในการสำรวจครั้งนี้ผมขอไม่เรียงตามตัวเลขทางออก แต่เริ่มจากทางออกที่ 4 ตามเส้นทางสำรวจจริงนะครับ โดยเส้นทางนี้ใกล้กับแยกมหานคร เราจะไปสำรวจเส้นถนนมหานครกัน

 ทางออกที่ 4 ของสถานีหัวลำโพงนับเป็นทางออกแบบคอมแพคครับ น่าจะเป็นประตูทางออกที่เล็กที่สุดของระบบ MRT แล้ว เนื่องจากบาทวิถีบริเวณนี้ไม่เอื้ออำนวย จึงสร้างได้ใหญ่เท่านี้แหละครับ

 เมื่อออกมาก็เจอกับโรงแรมบางกอกเซ็นเตอร์ ตามที่เห็นในแผนที่สถานีของ MRT ครับ เป็นแลนด์มาร์คของทางออกที่ 4

 ป้ายบอกทางสำหรับคนขับรถครับ ว่าจากจุดนี้ไปไหนได้บ้าง อันนี้ถ่ายย้อนกลับไปทิศหัวลำโพงนะครับ

 วิธีการเดินทางหลักของชาวกรุงเทพอีกอย่างหนึ่งครับ รถประจำทาง ที่เห็นเป็นมินิบัสสีส้มที่ส่วนมากเป็นรถผลิตจากจีนครับ เครื่องแรงซิ่งได้ไม่แพ้มินิบัสสีเขียวสมัยก่อนเลย

แถวนี้ใกล้กับย่านสะพานเหลือง มีของกินอร่อยๆ หลายร้าน อันนี้ใกล้กับทางออกเลยครับ ร้านดังอยู่

เนื่องจากเวลาที่ไปสำรวจเป็นช่วงบ่าย ยังไม่ใช่เวลาอาหาร คนเลยยังบางตา

 ภาพบาทวิถีแคบๆ เมื่อมองกลับไปครับ สาเหตุที่ทางออก 4 ของ MRT ทำไมถึงแคบขนาดนั้น

ตรอกเล็กๆ ตรงนี้ชื่อว่าตรอกฉลองกรุงครับ

 ข้างในมีที่พักราคาประหยัดหลายอันเลย

 แถวที่เป็นย่านเก่าแก่ส่วนมากก็จะเป็นอาคารพาณิชย์หรือตึกแถวอยู่ริมถนนและในซอยครับ ปัจจุบันประกอบกิจการได้บ้างไม่ได้บ้างแล้วแต่ลักษณะธุรกิจ อย่างร้านนี้ดูเหมือนจะ”เคย”ประกอบกิจการครับ ไม่แน่ใจว่าย้ายไปไหนหรือว่ากำลัง renovate เห็นภายในสภาพรกร้างพอสมควร

 ซอยละออมีชื่อซอยทั้งภาษาไทยและจีนกำกับอยู่ชัดเจน กลัวคนหลง

 ช่วงช่วง หลินฮุ่ย หลินปิงแอบหนีมากินเนื้อย่างกันครับ

 เดินมาอีกหน่อยนึงก็เจอทางด่วนแล้วครับ อันนี้ภาพใต้ทางด่วน

 มาถึงแยกมหานครแล้วครับ

มุมนี้คือถนนมหานคร (ทิศใต้ของแยก)

 อันนี้ถ่ายไปทางทิศเหนือ ถนนจารุเมือง เห็นทางด่วนพาดผ่าน

 หันขวามา 45 องศาจากภาพเมื่อกี๊ หลบทางด่วนครับ รถที่มาเป็นรถมาจากแยกสามย่านครับ

เราเลี้ยวเข้ามาดูในถนนมหานครกันเลยดีกว่า ตรงนี้เป็นลานกีฬาสำหรับชาวชุมชนแถวนี้ครับ เป็นพื้นที่ของการทางพิเศษ นำพื้นที่บริเวณใต้ทางด่วนที่เวนคืนไปมาทำให้เกิดประโยชน์

 ฝั่งตรงข้าม (หัวมุมแยกมหานคร) เป็นที่ตั้งของศาลแรงงานครับ ใครมีปัญหาเรื่องการจ้างงาน-เลิกจ้างไม่เป็นธรรม มาปรึกษานิติกรที่นี่ได้ครับ รู้สึกว่าจะบริการฟรี ถูกนายจ้างเอาเปรียบก็จัดหนักได้เลยครับ (ได้ยินว่ากรณีเล็กๆ ศาลท่านมักจะเชิญมาไกล่เกลี่ยมากกว่าที่จะตัดสินชี้ขาดครับ เพื่อให้ win-win กันไป)

เมื่อถ่ายย้อนกลับไปที่แยกครับ วุ่นวายพอสมควรทีเดียว แยกนี้

ถนนสว่างครับ (ชื่อถนนนะครับ ไม่ใช่สว่างเพราะมีไฟ) หลายคนเรียกว่าซอยสว่าง อยู่ฝั่งเดียวกับศาลแรงงาน เข้าไปแล้วขนานไปกับเส้นเดิมนี้ทะลุไปออกสี่พระยาครับหรือจะแยกหนีไปออกข้างวัดแก้วแจ่มฟ้าก็ไม่ว่ากัน

ถัดมาเป็นคริสตจักรเทียนสั่ง

ตามที่ว่าครับ แถวนี้ตึกส่วนใหญ่ก็เป็นอาคารพาณิชย์แบบเก่า หลายบริษัทก็ยังดำเนินกิจการอยู่ปกติครับ

ร้านตัดชุดก็มี

บริษัทค้าเหล็ก

ยังมีการก่อสร้างต่อเติมใหม่อยู่ด้วย

ทางด่วนพาดผ่านกันแบบนี้เลยครับ จุดนี้ใน Google map เขียนว่า “ธนาคารกรุงเทพสาขาสีลม” ของจริงไม่มีนะครับ นี่มันถนนมหานคร Google map Failed

บรรยากาศชุมชนแถบนี้ครับ ตึกแถวค่อนข้างเก่า

มีร้านปะยางมอเตอร์ไซค์ด้วยครับ

จะเห็นว่าถนนนี้เป็นตึกแถวเกือบหมด เป็นบ้านบ้าง บริษัทบ้าง ร้านอาหารบ้าง

แผงขายอาหารริมถนน เอกลักษณ์ของประเทศไทยก็มีให้เห็นประปราย แสดงว่ามีชุมชน

ร้านอาหารตรงมุมซอยทางเข้าวัดมหาพฤฒารามจากด้านหลังครับ

ฝั่งตรงข้ามเป็นซอยแก้วฟ้า ทะลุไปออกวัดแก้วแจ่มฟ้า ถนนสี่พระยา

ตรงข้ามกันเป๊ะๆ ชื่อตรอกเท่มาก ตรอกเฟรเซอร์แอนด์นีฟ

มองเข้าไปด้านในเป็นทางเข้าวัดมหาพฤฒารามครับ จากด้านหลัง ถ้าเข้าประตูวัดไปแล้วเลี้ยวซ้ายออกอีกประตูนึงจะเป็นซอยวัดมหาพฤฒารามครับ

ถนนมหานครตรงไปก็เป็นไปตามป้ายครับ สุรวงศ์ สีลม สามย่าน

ในซอยนี้มีร้านอาหารค่อนข้างเยอะครับ แต่ที่จอดรถน้อย

ร้านชาบู ชาบูก็มี

มีโรงเรียนอนุบาลจิดาภาอยู่ตรงนี้ด้วย ไม่เคยสังเกต

เราเดินสำรวจมาจนถึงแยกถนนสี่พระยาพอนะครับ ถ้าข้ามแยกไปถนนจะเปลี่ยนชื่อเป็นมหาเศรษฐ์แล้วครับ (ระหว่างสี่พระยา-สุรวงศ์) ถนนแถวนี้แต่ละท่อนคนละชื่อกันหมดถึงแม้มันจะตรงยาว สร้างความสับสนได้อย่างมาก ขอทิ้งท้ายเส้นทางนี้สรุปให้ดังนี้นะครับ ระหว่างถนนพระราม 4- สี่พระยาชื่อ”ถนนมหานคร” ระหว่างสี่พระยา-สุรวงศ์ชื่อ”ถนนมหาเศรษฐ์” ระหว่างสุรวงศ์-สีลมชื่อ”ถนนมเหสักข์” และสุดท้ายระหว่างถนนสีลม-สาทรชื่อ”ถนนสุรศักดิ์” หลังจากข้ามสาทรไปก็เป็นถนนเจริญราษฎร์ (อันนี้ยาวต่อเนื่องแล้วครับ)

ทางออกที่ 1 ถนนมหาพฤฒาราม-วัดไตรมิตร

เส้นทางสำรวจนี้ค่อนข้างจะซับซ้อนและสับสนนะครับเนื่องจากเป็นจุดที่มีแยกไปหลายทาง ประกอบกับมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน ทำให้ทางเดินงงๆ เล็กน้อย ผมแบ่งเป็นช่วงๆ กำกับด้วยตัวอักษรเพื่อความไม่งงนะครับ

ทางออกที่ 1 กับทางออกที่ 4 ห่างกันแค่นิดเดียวครับ หันหลังชนกันเลย อันไกลในภาพคือทางออกที่ 1 ครับ

แลนด์มาร์คของทางออกที่ 1 คืออาคารตั้งฮั่วปักครับ ตั้งอยู่ข้างๆ ทางออกที่ 1 เลย ชื่ออาคารอาจฟังดูไม่คุ้น แต่ต้องบอกว่าเป็นอาคารที่ตั้งสูงเด่นอาคารเดียวในย่านนี้เลยล่ะครับ จริงๆ อาคารไม่ได้สูงมากถ้าเทียบกับย่านสีลม-สาทร แต่อยู่แถวนี้สูงเด่นเลยครับ

มองไปฝั่งตรงข้ามก็เห็นพญาครุฑและเสาบัวหลวงของธนาคารกรุงเทพลอยเด่น (แถวนี้ย่านเก่า อาคารไม่ค่อยสูงครับ) ตัวอักษรขนาดมหึมาของโรงรับจำนำก็ลอยเด่นเห็นชัดเช่นกัน

ผู้คนพลุกพล่านทีเดียว

ภาพหน้าอาคารตั้งฮั่วปักครับ เป็นสำนักงานให้เช่า

มองไปตรงข้ามเราก็เห็นแลนด์มาร์คของสถานีนี้แล้ว สถานีรถไฟกรุงเทพ หรือหัวลำโพงนั่นเอง จะเห็นได้ว่าถนนแถวนี้มีการก่อสร้างอยู่ที่เกาะกลาง

พี่วินดักรอผู้โดยสารกันหน้าทางออกสถานีเลยทีเดียว

ถ่ายหัวลำโพงอีกมุมนึงครับ เห็นบริเวณของรั้วพื้นที่ก่อสร้างไหมครับ มากมายและยาวเหยียด สาเหตุของความโกลาหลของการจราจรย่านนี้ช่วงนี้ครับ

มีร้านอาหารอยู่ตรงหัวมุมเลี้ยวเข้าถนนมหาพฤฒารามครับ

ภาพบรรรยากาศย่านนี้แบบ Silhouette จะเห็นว่าการก่อสร้างโดดเด่นเลยครับ

เลี้ยวเข้ามาถนนมหาพฤฒารามแล้วครับที่เห็นตึกใหญ่ๆ สีฟ้าชื่อตึก Central Station ด้านล่างที่เห็นแว้บๆ เป็นโชว์รูมรถยนต์ฮอนด้าครับ

รถที่ออกมามาจากถนนข้าวหลาม หรือส่วน B ตามแผนที่ครับ

มีร้านขายอาหารริมถนนมากมาย

ถนนมหาพฤฒารามเป็นถนนเลียบคลองครับ บรรยากาศค่อนข้างร่มรื่น

อันนี้เป็นซอยย่อยบนถนนครับ ตรอกนครไทย ข้างในเชื่อมกันยั๊วเยี๊ยะอีกแล้วครับ ไปตรอกฉลองกรุง ซอยสว่างอะไรทางโน้นได้เลย

ชื่อบริษัทนครไทยตรงกับชื่อตรอกเลยครับ ทำอะไรไม่รู้ แต่ดูร้างนะครับ

แถวนี้จะเป็นร้านขายวัสดุก่อสร้างพวกกระเบื้อง ฯลฯ มีอยู่หลายร้านเลยทีเดียว

อันนี้ข้ามมาฝั่งตรงข้ามครับ บรรยากาศริมคลองดูโบราณทีเดียว คลองผดุงกรุงเกษมครับ

เดินย้อนกลับมา(จะเลี้ยวเข้า B) แล้วครับ จะเห็นว่าการจราจรย่านนี้ดูวุ่นวายเหลือเกิน

ภาพคลองผดุงกรุงเกษมจากอีกมุม

ตรงนี้มีชุมชนชื่อโปลิศสภาครับ

แต่ว่าซอยชื่อโปริสภา… ตรงนี้ตามแผนที่คือเส้นทาง C แล้วนะครับ

ในซอยโปริสภามีโชว์รูมรถยนต์ฮอนด้า แถวนี้มันงงๆ ถนนเส้นนี้ไม่ปรากฎใน Google Map นะครับ แต่ว่า Google Street View เดินเข้ามาได้ (งงป่ะล่ะ?) แต่ภาพใน Street View เป็นช่วงที่ตึกนี้ก่อสร้างอยู่ครับ ตอนนี้เสร็จแล้ว

มีแต่ก่อสร้าง ก่อสร้าง ก่อสร้าง

ตึกเดียวกับโชว์รูมฮอนด้าครับ (ตึก Central Station) มีร้าน MaxValu Tanjai เปิด 24 ชม.แข่งกับ 7-11 ครับ ตรงนี้น่าจะเป็นหัวมุมเลี้ยวระหว่าง C กับ D

หน้าอาคาร Central Station ครับ ตรงนี้อยู่ตรงหัวมุมเลี้ยวเข้าถนนมิตรภาพไทย-จีนแล้วครับ (D)

ขวาหันมานิดนึง ภาพที่เห็นซ้ายมือคือถนนมิตรภาพไทยจีน ข้างหน้าคือถนนเจริญกรุงครับ

หันมาอีกซัก 30 องศา หลังโซนก่อสร้างเห็นมีถนนอีก นั่นเป็นถนนไมตรีจิตต์ครับ เดินรถทางเดียวมาจากวงเวียนยี่สิบสองกรกฎาคม

มาสำรวจทาง (D) ถนนมิตรภาพไทย-จีน โชว์รูมรถยนต์ฮอนด้ามีทางเข้าจากถนนนี้ด้วยครับ

แถวนี้อาคารพาณิชย์ส่วนมากเป็นบริษัทห้างร้านที่เปิดทำการอยู่ ต่างจากแถวสี่พระยา

ร้านอาหารก็มีนะครับ

ตอนเดินสำรวจสะดุดชื่อซอยนี้มาก ถัดไปมีซอยสุกร ๒ ด้วยนะครับ

ภาพบรรยากาศภายในซอยสุกร ๑

ร้านค้าแบบดั้งเดิมฝั่งตรงข้าม (ฝั่งวัดไตรมิตรฯ)

แผงหนังสือห้องแถว ให้ความรู้สึกดั้งเดิมดี

มาถึงแล้วครับวัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นวัดที่ประดิษฐาน “พระพุทธรูปทองคำบริสุทธิ์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก” ใหญ่อย่างไรต้องขอเชิญมาชมกันเองนะครับ บอกได้แค่ว่า เดินมาจาก MRT หัวลำโพงได้ ชิลๆ

Silhouette อุโบสถวัดไตรมิตรกันซักภาพ

ภาพถนนหน้าวัดครับ เห็นรถโล่งเลยจัดซักใบ

เราเดินมาเกือบสุดถนนก็เห็นป้ายนี้ครับ มีภาษาต่างด้าวด้านล่างด้วย เป็นภาษาพม่าครับ เขียนว่า “วัดเล่งเน่ยยี่”

มาถึงสุดถนนครับพบกับซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ๖ รอบพระชนมพรรษาที่วงเวียนโอเดียนครับ วนรถรอบวงเวียนกลับไปเป็นถนนเยาวราชแล้วครับ

รถที่มานี่มาจากแยกหนึ่งของถนนเจริญกรุง (ถนนแตกเป็นสองทาง เรียกชื่อถนนเดียวกันครับ งงมั้ยล่ะครับ?)

เดินกลับมาดีกว่า อีกด้านหนึ่งของป้ายที่ทำให้ผมทราบว่าภาษาพม่าข้างต้นมันเขียนว่าอะไร

Skip มาสุดถนนเลย มาถึงช่วงตัว E ครับ ตรงนี้เป็นเจริญกรุง

มีร้านขายใบชาแบบโบราณ ดูขลังดี

เบื้องหลังโซนก่อสร้างครับ

ทางเดินคนยังลำบาก โดนจัดระเบียบใหม่หมด

มาถึงถนนไมตรีจิตต์ที่มากจากวงเวียนยี่สิบสองกรกฎาคม

อีกมุมนึงครับ

เราไม่สำรวจถนนไมตรีจิตต์นะครับ ข้ามมาช่วง (F) เลย เป็นถนนกรุงเกษมครับ เดินรถทางเดียวเป็นถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษมล้อมรอบเกาะรัตนโกสินทร์ชั้นนอก มีต้นทางมาจากถนนสามเสน ถนนราชดำเนินแถวนั้นเลยครับ

มองข้ามไปก็เห็นคลองผดุงกรุงเกษม (เห็นท่อน้ำสันนิษฐานว่ามีคลอง) ด้านหลังเป็นสถานีรถไฟหัวลำโพงครับ

ข้ามดูบรรยากาศ

รถที่มาจากถนนกรุงเกษมรอเลี้ยวเข้าถนนพระราม 4 หน้าหัวลำโพงครับ

บรรยากาศแถวนี้ร่มรื่นสวยงาม

ใกล้ๆ นี่มีโรงแรมราคาประหยัดครับ โรงแรมศรีกรุง สำหรับผู้เดินทางมาจากต่างจังหวัดทางรถไฟ พักแถวนี้สะดวกเลย (จริงๆ มีอีกหลายโรงแรมนะครับ แถวนี้ ไม่ทั่วถึงอย่าว่ากัน)

บรรยากาศริมคลองสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะมีวิวนี้อยู่ในกทม. …ใจกลางเมือง

เมื่อเราข้ามคลองมา ผ่านจุด (G) ซึ่งไม่มีเส้นทางใน Google Map

ก็มาถึงหัวลำโพงครับ มีรถแท็กซี่จอดรอรับผู้โดยสารมากมาย

พร้อมพี่วิน ดักให้บริการ

ถึงแล้วครับสถานีรถไฟกรุงเทพ.. เราจะมาพาชมต่อในทางออกที่ 2 ต่อไปเลยครับ

ทางออกที่ 2 สถานีรถไฟกรุงเทพ(หัวลำโพง)
เรามาสำรวจเจาะลึกกันต่อสำหรับทางออกที่ 2 ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางหลักของสถานีนี้นะครับ

สำหรับทางออกนี้ไม่มีทางสำรวจอะไรที่ซับซ้อนแล้วครับ เพราะมันมาโผล่ในสถานีรถไฟหัวลำโพงเลย การสำรวจทางออกนี้หลักๆ ก็จะเป็นการพาทัวร์สถานีรถไฟหัวลำโพงครับ

นี่ครับโฉมหน้าทางออก โผล่มาในอาคารสถานีรถไฟกรุงเทพเลยครับ

เป็นทางเชื่อมระหว่างรถไฟและรถไฟฟ้า

แถวนี้มีร้านค้าต่างๆ มากมายตามสไตล์สถานีของระบบขนส่งมวลชนทั่วไปครับ

ดูเหมือนจะมีการ Renovate มาพอสมควรเลย

ภาพบรรยากาศอีกมุมครับ

ตรงนี้เป็นทางเข้าไปยังที่ซื้อตั๋วโดยสารและนั่งรอรถไฟครับ

เมื่อเดินข้ามาก็เจอร้านขายยาทิฟฟี่มาร์ท แผงสีเขียว…ทิฟฟี่

ตารางเดินรถไฟยาวเหยียด แบบดั้งเดิม ดูแล้วน่ามึนอยู่ทีเดียว

บรรยากาศภายในโถงนี้ครับ เนื่องจากที่นั่งที่เป็นเก้าอี้ไม่เพียงพอ ผู้โดยสารทั้งไทยและต่างชาติก็มานั่งรถกันที่พื้นดังที่เห็นเนี่ยแหละครับ

ในนี้เหมือนตลาดนัดเล็กๆ เลย มีร้านค้ามากมาย

มีทางขึ้นชั้นสองด้วยครับ ข้างบนมีร้านกาแฟแบล็คแคนยอน

บนชั้นสองก็มีร้านค้าและบริษัทอยู่ครับ ส่วนมากเป็นบริษัททัวร์ มาดักกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเลย

บรรยากาศชิลดีครับที่ชั้นสอง

ภาพบรรยากาศโถงใหญ่จากชั้นสองครับ

อีกมุมนึงให้เห็นกันชัดๆ

ตรงที่เห็นนี่จะเป็นประตูไปชานชาลา ขนาบซ้ายขวาด้วยที่จำหน่ายตั๋ว ด้านซ้ายเป็นที่จำหน่ายตั๋วสำหรับเดินทางวันนี้ ส่วนขวามือสำหรับตั๋วล่วงหน้าครับ

มาดูกันชัดๆ เคาท์เตอร์ขายตั๋วของการรถไฟเรา ก็ดูทันสมัยใช่ย่อย มีป้ายไฟบอกตารางรถไฟด้วย

มาดูด้านล่าง เคาท์เตอร์ขายตั๋วล่วงหน้า ปิดไปหลายอัน ค่อนข้างเงียบเหงา

สงสัยอะไร อยากทราบข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางขอเชิญที่นี่เลย ประชาสัมพันธ์

เก็บบรรยากาศอีกภาพ

เรามาเข้าไปดูรถไฟกันดีกว่า

เมื่อเดินผ่านประตูบานเมื่อกี๊เข้ามาครับ ก็เห็นรถไฟจอดรออยู่เลย

รถไฟคู่

นี่เป็นห้องทำงานแผนกต่างๆ ของการรถไฟเค้าครับ บรรยากาศดู Antique มาก

ห้องพักนายตำรวจเวร

ห้องจัดหนักงานขบวนรถ

บรรยากาศดูย้อนยุคและให้อารมณ์ของการเดินทางมากมาย

เดินเลยออกมาอีกก็เป็นชานชาลากลางแจ้งครับ

มีรถไฟมากมายสมเป็นสถานีต้นทางหลัก

มาดูรถไฟกันจริงๆ

รถไฟหลากหลายสีบนชานชาลา

สมาคมนักเรียนเก่าวิศวกรรมรถไฟ

มีที่ทำการศุลกากรด้วยครับ ไม่ให้แพ้ท่าอากาศยาน

ป้ายหน้าห้องสำนักงานต่างๆ

มาปิดท้ายทางออก 2 กันที่ภาพด้านหน้าสถานีรถไฟหัวลำโพงครับ

ทางออกที่ 3 ถนนรองเมือง

เรามาสำรวจกันต่อที่ทางออก 3 ครับ ทางออกสุดท้ายแล้ว

ภาพข้างบนเป็นเส้นทางสำรวจครับ ชื่อทางออกบอกว่าถนนรองเมือง ผมก็ต้องไปดูตามถนนรองเมือง แล้วจะวนกลับมาที่เดิมเป็นรูปหลายเหลี่ยมครับ

ทางออกที่ 3 หัวลำโพง ฟ้าเริ่มมืดแล้ว ต้องรีบเดินกันหน่อย

ทางออกนี้กว้างกว่าทางออก 4 เยอะเลยครับ สถานีนี้ 4 ทางออกใหญ่ไม่เท่ากันเลย

ออกมาก็เจอตึกนี้ครับ ฮ่องกง นู้ดเดิ้ล โดดเด่นยิ่งกว่าสถานีรถไฟ

เดินพ้นตึกนี้มาก็เห็นหัวลำโพงแล้วครับ

บรรยากาศร้านอาหารต่างๆ ข้างหัวลำโพง

ตึกแถวนี้ก็ดู Antique เข้ากับธีมของสถานีรถไฟ

รถเข็นขายของปิ้งย่างทอดเต็มไปหมด

ข้ามมาดูบรรยากาศรวมๆ กัน ตรงนี้เป็นตึกโรงแรมสเตชั่นนะครับ เข้าทางไหนไม่รู้ หาไม่เจอ

มองมาข้างๆ หัวลำโพง แยกซ้ายเป็นถนนรองเมืองครับ ขวาขึ้นทางด่วน

ซูมเข้ามาซักหน่อย

ถนนรองเมืองครับ ถนนนี้มีประวัติศาสตร์

อาคารริมถนนรองเมืองนี้ส่วนมากเป็นตึกแถวครับ

เป็นบริษัทท่องเที่ยวซะเยอะ

มีโรงแรมด้วย ดูโบราณมากครับ โรงแรมศรีหัวลำโพง ผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดคงหาที่พักกันไม่ยาก โรงแรมเก่าแก่มีมากมายเลย

มาเดินกันต่อครับ เลาะรั้วสถานีรถไฟไป

ข้างซ้ายเป็นหัวลำโพงตลอดแนวเลยครับ บริษัทห้างร้านมีแต่อยู่ข้างขวา

มีตรอกเล็กๆ ชื่อตรอกสลักหินครับ (ไม่แน่ใจว่าตรอกกับซอยมันต่างกันยังไง)

ร้านขายของชำ

เดินเรียบรั้วรถไฟต่อไปครับ

ปักป้ายพร้อมรั้วลวดหนาม เขียนกันชัดๆ เขตรถไฟ

มาถึงสามแยกแล้วครับ รถจะถูกบังคับเลี้ยวขวานะครับ เนื่องจากรถจากอีกด้านของถนนรองเมืองมาวันเวย์สวนกัน เลี้ยวขวาตามรถเข้าถนนเจริญเมืองกันครับ

ถ่ายป้ายให้ดูว่าถนนชื่ออะไร

เลี้ยวมาปุ๊บก็เจอซอยเล็กๆ ในนั้นเต็มไปด้วยห้องแถว

บริษัทห้างร้านที่ปากซอย

บรรยากาศถนนเจริญเมืองครับ

มีบ้านอิตาลีด้วย??

เดินมาอีกหน่อยก็เจอป้ายบอกว่าเป็นทางไปวัดดวงแขครับ

เดินเข้าซอยวัดดวงแขไปดูกันเลยดีกว่า

บรรยากาศในซอยวัดดวงแขครับ ห้องแถวไม่สูงนัก สองสามชั้นตลอดแนว

มาถึงวัดดวงแขแล้วครับ

ในซอยนี้ตรงข้ามประตูวัดก็เป็นบ้านพักคนชรา มูลนิธิมิตรภาพสงเคราะห์แห่งประเทศไทย

ติดกับวัดก็โรงเรียนวัดดวงแขครับ เป็นสูตร

อันนี้เป็นซอยในซอยอีกทีนึง

เดินต่อมาเรื่อยๆ จะเจอทางออกอีกด้านนึงครับ ถนนจารุเมือง

ออกมาถนนจารุเมืองครับเพื่อเดินย้อนกลับไปพระราม 4 ถนนเส้นนี้ขนานกับทางด่วนขั้นที่ 2 ทางพิเศษศรีรัช

เริ่มค่ำแล้วครับ ก๋วยเตี๋ยวน่ากิน

แถวนี้มีซอยลัดไปลัดมาได้เยอะเลยครับ สำหรับเดินเท้า

ถนนเส้นนี้อยู่ใต้ทางด่วนตลอดแนว

แหม เห็นแล้วหิวเลย

มาถึงแยกระหว่างถนนจารุเมืองกับเจริญเมือง ชื่อแยกวัดดวงแขครับ

ตรงหัวมุมแยกมีโชว์รูมบริษัท อีซูซุเมโทรอยู่ ขายรถขนาดใหญ่

เดินถนนจารุเมืองต่อไป ตรงนี้มีปั๊มเชลล์นะครับ เผื่อใครมาแถวนี้จะได้รู้ว่าพอมีปั๊มอยู่ที่ไหน กรุงเทพชั้นในหาปั๊มน้ำมันยากครับ

บรรยากาศใต้ทางด่วน

ถูกเอามาทำเป็นสถานีรถตุ๊กตุ๊กซะงั้น

บริษัทรับขนส่งพัสดุครับ มีพัสดุเยอะเชียว

ป้ายบอกว่าตรงไปสี่พระยา เลี้ยวขวาหัวลำโพง ซ้ายสามย่าน

ซอยนี้ก็ยังมีตึกแถวประปราย เป็นบริษัทห้างร้าน

เดินเลียบทางด่วนมาใกล้ถึงแยกมหานครแล้วครับ

รถลงมาจากทางด่วน

พื้นที่ตรงนี้การทางพิเศษร่วมกับศาลแรงงานกลางพัฒนาเป็นที่จอดรถ

ดูเหมือนจะเป็นลานกีฬาด้วยครับ ฝั่งตรงข้ามกับลานกีฬาที่ผมถ่ายมาตอนทางออก 4 แต่ตรงนี้ไม่มีคนเลย

มาถึงแยกมหานครแล้วครับ

เดินสำรวจกันต่อไป ฟ้าก็เริ่มมืด เลี้ยวขวาเพื่อกลับมาทางออก 3 เหมือนเดิมครับ

ด้านขวามือเป็นตึกแถวที่เป็นบ้านคนบ้างบริษัทห้างร้านบ้างตลอดแนวครับ เป็นเหตุว่าในส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกและสถานที่สำคัญบริเวณโดยรอบของทางออก 2 และ 3 ผมไม่ได้เขียนอะไรเท่าไหร่ เพราะมันไม่มีน่ะสิครับ เป็นห้องแถวแบบนี้หมดเลย

ผ่านซอยพระยาสิงหเสนี ชื่อซอยเท่ดี ถ่ายรูปเข้าไปหน่อย

จากถนนพระราม 4 ฝั่งเดียวกับหัวลำโพงถ่ายกลับไปทางทางออก 1 และ 4 จะเห็นอาคารตั้งฮั่วปักตั้งสูงเด่นเป็นสง่าอย่างที่บอกไว้ครับ

สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับชุมชนต่างๆ ในปัจจุบันคือ 7-11

มาถึงอาคารธนาคารกรุงเทพแล้ว ตึกนี้เป็นตึกสุดท้ายที่ติดกับทางออก 3 ของ MRT พอดีครับ

หน้าตึกมีรถเข็นก๋วยเตี๋ยวอยู่ ฟ้าก็มือ เริ่มหิวแล้ว

ภาพทางออกจากสถานี MRT ถ่ายตอนโพล้เพล้ก็สวยดีนะ

หนีกลับไปกินข้าวดีกว่า ขอปิดท้ายด้วยภาพสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ยามโพล้เพล้ใกล้ค่ำครับ

เจาะลึกรวบยอด

สภาพแวดล้อมของชุมชน สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหัวลำโพงนี้นี้มีจุดหมายปลายทางหลักคือสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ซึ่งเป็น Hub ของการเดินทางไปยังภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศ เนื่องจากเป็นสถานีรถไฟแห่งแรกที่ตั้งมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 อีกทั้งใกล้กับถนนประวัติศาสตร์เส้นเก่าแก่ของประเทศ แม้ว่าจะมีการพัฒนาและความเจริญในรูปแบบต่างๆ เข้ามาสู่พื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT, ทางด่วนที่พาดผ่าน และการก่อสร้างส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าใต้ดินที่กำลังทำอยู่ แต่พื้นที่บริเวณนี้ก็ยังรักษาความเป็นชุมชนแบบดั้งเดิมอยู่ได้ค่อนข้างมาก

อาคารบริเวณนี้ส่วนมากก็เป็นอาคารพาณิชย์หรือตึกแถว จำนวนชั้นไม่สูงมากเหมือนบริเวณถนนสี่พระยา แต่เนื่องจากใกล้กับสถานีรถไฟหัวลำโพง ทำให้บริษัทห้างร้านที่ตั้งอยู่ในอาคารพาณิชย์เหล่านี้ยังเปิดดำเนินการกันคึกคัก ต่างจากตึกแถวย่านถนนสี่พระยา ใกล้สามย่านที่เคยสำรวจไปก่อนหน้านี้ อีกทั้งบริเวณนี้นับว่าใกล้กับถนนเศรษฐกิจและท่องเที่ยวที่สำคัญอย่างถนนเยาวราช หรือแหล่งของกินอร่อยๆ ย่านสะพานเหลืองที่อยู่ใกล้ๆ ทำให้ชุมชนบริเวณนี้ค่อนข้างจะคึกคักและมีชีวิตชีวามากเลยทีเดียว

การคมนาคม ผู้ที่อยู่อาศัยบริเวณนี้ถือว่าอยู่ในศูนย์กลางของกรุงเทพฯ อีกจุดหนึ่งเหมือนกันครับ แต่การเดินทางนอกเหนือจากรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT แล้ว หากจะเดินทางด้วยรถยนต์คงต้องทนกับสภาพการจราจรติดขัดบ้าง แต่คิดว่าเกิดจากการก่อสร้างส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าใต้ดินครับ ถ้าการก่อสร้างแล้วเสร็จการจราจรย่านนี้น่าจะสะดวกขึ้นมากเลยทีเดียว เนื่องจากอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นคือ พื้นที่บริเวณนี้อยู่ตำแหน่งกึ่งกลางระหว่างโซนสำคัญของกรุงเทพชั้นในสามโซน ทั้งเกาะรัตนโกสินทร์ ย่านศูนย์การค้าสยาม-ราชดำริ และย่านธุรกิจสีลม-สาทร พร้อมทางขึ้นทางด่วนข้างสถานีรถไฟหัวลำโพง ยังไม่นับรวมถ้าอยากเดินทางไปต่างจังหวัดก็ซื้อตั๋วขึ้นรถไฟไปได้เลย การคมนาคมจากย่านนี้ก็ต้องถือว่าสะดวกมากพอสมควรเลยทีเดียว

การพัฒนาในอนาคต พื้นที่นี้นับเป็นย่านที่มีประวัติศาสตร์และมีกลิ่นอายของชุมชนดั้งเดิมอยู่มาก แต่ก็เป็นย่านสำคัญที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ถึงเราจะไม่เห็นตึกสูงในย่านนี้มากนักแต่ก็มีความเจริญด้านอื่นๆ เช่นทางด่วน รถไฟฟ้าใต้ดิน ผ่านพื้นที่ย่านนี้ อีกทั้งอยู่ระหว่างการสร้างส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าใต้ดินจึงคิดว่าย่านนี้ยังมีช่องว่างของการพัฒนาในอนาคตได้อีกมากพอสมควร

สรุป พื้นที่บริเวณนี้เป็นย่านของการคมนาคมที่สำคัญมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ชุมชนค่อนข้างมีความคึกคัก ที่ตั้งอยู่ใกล้กับทางไปบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ ย่านเศรษฐกิจสำคัญอย่างสีลม-สาทร และย่านศูนย์การค้าสยาม-ราชดำริ อีกทั้งมีแหล่งอาหารของกินอร่อยๆ อย่างย่านสะพานเหลืองและย่านเยาวราชขนาบข้าง โดยความเห็นส่วนตัวต้องบอกว่าย่านนี้เป็นย่านที่น่าอยู่อาศัยพอสมควรทีเดียว แต่มีข้อสังเกตว่าเท่าที่สำรวจถนนหลายเส้นในย่านนี้ ไม่พบว่ามีโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงพวกคอนโดหรืออพาร์ตเมนต์อยู่เลย คนที่อาศัยอยู่แถวนี้ส่วนมากคงจะเป็นคนชุมชนดั้งเดิมเสียมากกว่า การหาบ้านในบริเวณนี้ ณ ปัจจุบันคงไม่พ้นการซื้อห้องแถวมือสองซึ่งน่าจะมีราคาไม่เบาเลยทีเดียว

เพิ่มเติมข้อมูลสถานีใกล้เคียงได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สามย่าน

*อ่านสักนิด* ใน การเลือกทำเลใกล้รถไฟฟ้าแต่ละสถานีนั้น แต่ละคนมีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน ให้น้ำหนักในแต่ละเรื่องที่ไม่เท่ากัน บางคนเลือกที่จะอยู่ใกล้สถานีที่อยู่ในตัวเมือง เพราะสภาพชุมชนรอบๆที่ คึกคัก สามารถไปไหนมาไหนด้วยรถยนต์ได้ด้วย ขอนั่งไปสองสามสถานีแล้วถึงที่ทำงานเลย คนพวกนี้ก็ต้องจ่ายแพง ในขณะที่บางคนบอกว่า ออกไปอยู่ไกลๆหน่อยก็ได้ สุดสายเลยก็ไม่ว่ากัน แค่ขอให้ติดรถไฟฟ้าก็พอ ยอมตื่นเช้าขึ้นซัก 15-30 นาที แต่จ่ายถูกกว่า และเงียบสงบกว่า ส่วนบางคนก็แปลก เลือกที่อยู่อาศัยใกล้สถานี ขอให้ใกล้ไว้ก่อน แม้ว่าตัวเองอาจจะไม่ได้เดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็ตาม แล้วสถานีไหนล่ะจึงจะเป็นสถานีที่ดีที่สุด? อันนี้ก็ต้องอยู่ที่การตัดสินใจของแต่ละบุคคลครับ ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าสถานีใดเป็นสถานีที่ดีที่สุดดีเท่ากับตัวคุณเองหรอกครับ

สุดท้ายนี้ รบกวน ขอให้เพื่อนๆโดยเฉพาะเพื่อนๆที่อยู่ในพื้นที่ ช่วยกัน Comment แบ่งปัน เพิ่มเติมข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารอร่อย ทางลัดเล็กๆน้อยๆ หรือสภาพแวดล้อมทั้งดีและไม่ดี ให้กับผู้อ่านที่กำลังหาบ้านโซนนี้ด้วยนะครับ