มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน: MRT ศูนย์วัฒนธรรมเเห่งประเทศไทย …สถานีรถไฟฟ้า MRT ศูนย์วัฒนธรรมฯ อยู่ระหว่างสถานี MRTพระราม9 และสถานี MRT ห้วยขวาง ตั้งอยู่บนถนนรัชดาภิเษกไม่ไกลจากถนนพระราม 9 ที่มีเเหล่งสาธารณูปโภคมากมาย โดยรอบถนนรัชดาภิเษกจะเป็นร้านค้า ห้างสรรพสินค้า คอนโด อาคารสำนักงาน และแหล่งบันเทิงยามราตรี ดังนั้นการมองหาบ้านในย่านนี้คงต้องแวะมาดูทำเลกันดี ๆ นะคะว่าโอเคเหมาะกับเรารึเปล่า
ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ
- Big C รัชดา
- Esplanade รัชดา
- ศูนย์วัฒนธรรม
- สยามนิรมิตร
- สถานทูตจีน
- สถานทูตเกาหลีใต้
- อาคาร RS Tower
- True Tower
- อาคาร AIA
- อาคารจอดรถ MRT
- อสมท
- ขสมก
- มัสยิด ดารุ้ลฮาญีรีน
- โรงเรียนกอบวิทยา
- โรงเรียนอำนวยวิทยา
- กรมโยธาธิการและผังเมือง
- เซ็นทรัลแกรนด์ พระราม 9
- ห้างฟอร์จูน ทาวน์
การคมนาคม
ขออธิบายการคมนาคมรอบๆสถานีก่อนนะคะ MRT ศูนย์วัฒนธรรมฯตั้งอยู่บนถนนรัชดาภิเษก ซึ่งค่อนข้างสะดวกไปได้หลายเส้นทาง แต่เเน่นอนสิ่งที่ตามมาก็คือบางช่วงเวลานั้นรถติดโดยเฉพาะเวลาเร่งด่วน เนื่องจากติดยาวมาจากแยกพระราม 9 ที่ผู้คนมักสัญจรมากมายอีกทั้งยังมีสำนักงานและที่พักอาศัย และเนื่องจากเเยกพระราม 9 ก็สามารถไปได้หลายเส้นทางและมีเเยกเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้ ๆเเยกพระราม 9 เยอะทีเดียว ซึ่งตรงจุดนั้นทำให้คนที่ต้องขับผ่านเเยกพระราม 9 เพื่อเข้ามาโซนศูนย์วัฒนธรรมพลอยต้องรถติดในช่วงเวลาเร่งด่วนไปด้วย แต่ถ้าเลยมาได้อาจจะมีผ่อนตรงช่วงเเยกเทียมร่วมมิตรบ้างที่รถเเยกเข้าไปเส้นเทียมร่วมมิตรบ้างค่ะ
ถนนรัชดาภิเษก ใกล้MRTศูนย์วัฒนธรรมฯ จะอยู่ใกล้กับเเยกเทียมร่วมมิตรซึ่งเชื่อมกับถ.วัฒนธรรม สำหรับถนนเทียมร่วมมิตรเป็นถนนที่รถต้องเดินทางเดียวนะคะ คือมีเเยกที่สามารถเชื่อมต่อไปยังเหม่งจ๋ายได้ หรือจะวนกลับเข้ามาเส้นถนนวัฒนธรรม
สำหรับคนที่จะเข้ามาถนนวัฒนธรรมโดยผ่านแยกเทียมร่วมมิตร จะต้องอ้อมถนนเทียมร่วมมิตรก่อนถึงจะเข้าเส้นวัฒนธรรมได้ โดยสามารถเลี้ยวขวามุ่งหน้าไปแยกเทียมร่วมมิตร หรือเลี้ยวขวาไปพระราม 9 เนื่องจากตรงแยกเทียมร่วมมิตรไม่สามารถตรงเข้าถนนวัฒนธรรมได้ค่ะ เนื่องจากเส้นทางบังคับให้ One-way ดังนั้นสำหรับคนที่มาทางเพชรบุรีหรือพระราม 9 จึงมักเข้าทางเเยกผังเมือง เพราะจะได้ไม่ต้องอ้อมเส้นเทียมร่วมมิตรค่ะ
โซน MRT ศูนย์วัฒนธรรมฯ สถานที่สำคัญ ๆหรือเเหล่งชอปปิ้งใหญ่ๆจะอยู่ติดกับถนนรัชดาภิเษกเลยนั่นคือ Big C และ Esplanade แต่ถ้าจะมา Centralพระราม 9 หรือ Fortuneไม่ยากนั่งรถเมล์หรือจะขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินมาก็ไม่ยาก ดังนั้นถือว่าเป็นโซนที่มีสิ่งความสะดวกมากทีเดียว และโซนศูนย์วัฒนธรรมฯ ส่วนที่ติดถนนรัชดาภิเษกจะมีอาคารสำนักงานอยู่หลายเเห่ง และกำลังมีคอนโดใหม่ ๆ ขึ้นมา หรือเป็นตึกเเถวที่เปิดเป็นร้านค้าเสียส่วนใหญ่ ดังนั้นริมทางเดินตรงถนนรัชดาจึงมีร้านค้า ร้านอาหารรถเข็นมากมาย มีตลาดนัดข้าง Big C เพราะโซนด้านซอยรัชดาเลขคี่ ซอยชานเมือง และประชาสงเคราห์ ภายในจะเป็นเเหล่งชุมชน ที่มีทั้งอพาร์ทเม้นท์ คอนโด ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นคนทำงานละเเวกนี้หรือไม่ก็นักศึกษาที่ใช้รถไฟฟ้าใต้ดินในการเดินทาง สำหรับด้านถนนเทียมร่วมมิตร และถนนวัฒนธรรมจะไม่มีเเหล่งชอปปิ้งหรือร้านค้าเท่าถนนรัชดา เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นเต้นท์รถ อาคารสำนักงาน อู่จอดรถเมล์ ค่ะ
การเดินทางวันนี้จะเเยกเป็น 7 เส้นทางด้วยกันนะคะ โดยจะมีประตูทางออกของ MRT ศูนย์วัฒนธรรมฯ เป็นหลักโดยจะเเยกแต่ละฝั่งด้วยถนนรัชดาภิเษก เเยกเป็นประตูที่ขึ้นมาทางฝั่งตะวันออก(ศูนย์วัฒธรรมฯหมายเลข 1-3) และประตูทางฝั่งตะวันตก (เอสพลานาด รัชดา/สถานทูตจีน หมายเลข 4-7) โดยทั้งสองฝั่งจะมีลักษณเเตกต่างกันอย่างชัดเจนค่ะ โดยฝั่งตะวันตกนั้นจะมีความเป็นชุมชนมากกว่า มีซอยย่อยและถนนที่เข้าไปลึก เชื่อมต่อกับหลายชุมชนในถนนใกล้เคียง ทั้งห้วยขวาง ประชาสงเคราะห์ มิตรไมตรี แต่ทางฝั่งตะวันออกมันจะเป็นอาคารสำนักงาน เต้นท์รถ ร้านอาหาร พื้นที่่ของการรถไฟ จะมีเเหล่งพักอาศัยที่เป็นลักษณะคอนโดมิเนียมแบบ High rise มากกว่า
เส้นทางที่ 1 เริ่มจากMRT ทางออก 1 เดินมุ่งหน้าไปทางพระราม 9 ผ่านทางออก 2 แล้วก็จะผ่านรัชดาซอย 8 ซึ่งมีเเหล่งบันเทิงอยู่ค่ะ ถัดมาจะเป็นกลุ่มคอนโดใหม่ทั้งที่กำลังก่อสร้างและที่กำลังเปิดขายอยู่ นั่นคือ Noble Revole และ Ivy Ampio ถัดมาก็จะมีอาคารสำนักงาน
เริ่มจาก MRT ทางออกที่ 1 จะเห็นด้านซ้ายคือทางออกรถสำหรับจอดรายเดือน
เดินตรงไปทางพระราม 9 ด้านซ้ายของภาพจะเป็นทางเข้าที่จอดรถรายเดือน ทางเดินมีฟุตบาทให้เดินสะดวกค่ะ
ช่วงระหว่างประตูทางออกที่ 1 และ 2 มีพื้นที่เปล่าของการรถไฟอยู่
ข้างกันนั้นจะมีเต๊นท์รถ
รัชดาซอย 8 จะมีเเหล่งบันเทิงเก่าแก่ยาวนานที่เป็นที่รู้จักกันค่ะและมีร้านอาหารด้วย แต่ในอนาคตอีกไม่นาน คงจะมีการรื้อปรับเป็นอย่างอื่นแล้วนะคะ เพราะเป็นที่ส่วนบุคคลของ ตระกูลปัญจทรัพย์ ที่เริ่มมีการตัดแบ่งไปทำอย่างอื่นกันแล้ว (เช่น Noble Revolve)
ในซอย 8 มีร้านราเมนที่เค้าบอกว่าใหญ่ที่สุด มีโต๊ะนั่งที่รองรับถึง 200 ที่นั่งค่ะ ร้านจะดูใหญ่โตมาก ภายในเป็นร้านอาหาร 2 ชั้น
APP Arena เเหล่งบันเทิงยามกลางคืนอีกที่หนึ่งค่ะ
Hollywood ร้านที่หลายคนอาจจะรู้จักเพราะตั้งมานานแล้ว
ถัดจากซอย 8 มาจะเป็นทางออก 2 ค่ะ
ด้านหน้าทางออก 2 จะมีวินมอเตอร์ไซค์ให้เรียกใช้บริการ ราคาตามนี้เลยค่ะ
เดินออกมาจะเจออาคารจอดรถของสถานีศูนย์วัฒนธรรมเเห่งประเทศไทยค่ะ
ติดกันนั้นจะเป็น ซอย 6 ซึ่งจะเป็นที่ตั้งของ Noble Revole ทั้ง 1 และ 2 ค่ะ สามารถอ่านรีวิวได้ที่ Noble Revole รัชดา 2 รีวิวฉบับที่ 428 ด้านหน้าจะเห็นตึกของ Ivy Ampio ที่กำลังก่อสร้างอยุ่ค่ะ ส่วนตึกกระจกข้างกันนั้นคือตึก True Tower
ตึกของ Ivy Ampio ที่กำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ ส่วนตึกกระจกข้างกันนั้นคือตึก True Tower
เดินถัดมาเป็นซอย 4 แหล่งบันเทิงที่คึกคักอีกแห่งหนึ่ง ทำเลก้ำกึ่งกับ MRT พระราม9 นะคะสามารถอ่านข้อมูลได้จาก มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีพระราม 9
สิ้นสุดเส้นทางที่ 1 ด้วยเเหล่งชอบปิ้งเเห่งใหม่ย่านนี้ที่จะมีลักษณะคล้ายตลาดนัดค่ะ มีชื่อว่า Prom พระราม 9
เส้นทางที่ 2 เริ่มจากประตูทางออก MRT ที่1 มุ่งหน้าไปทางเเยกเทียมร่วมมิตร เข้าถนนเทียมร่วมมิตร มาจนถึงจุดที่เชื่อมกับถนนวัฒนธรรม ขออธิบายก่อนนะคะว่า ถนนเทียมร่วมมิตรเป็นถนนที่รถต้องเดินทางเดียว (เดินตามทางชี้ของลูกศรในภาพ) ดังนั้นวันนี้ทีมงานจะพาชมตามเส้นทางที่รถต้องสัญจรนะคะ
เริ่มจากประตูทางออกที่ 1
ข้างประตูทางออกจะเป็นทางออกรถสำหรับส่วนจอดรถรายเดือนของ MRT ค่ะ
ข้างกันนั้นจะเป็นร้านอาหาร ร้านนั่งดื่มชื่อร้าน เเซ่บUPค่ะจะเปิดช่วงเย็น ๆ ถึงดึก
ทางก่อนถึง MRT จะมีสะพานลอยสามารถข้ามไปอีกฝากที่มี Big C ได้ค่ะ
ฝั่งนี้จะมีปั๊มน้ำมัน ร้านล้างรถ และ B-Quik
ข้างทางจะมีร้านนั่งดื่มที่เปิดตอนกลางคืนค่ะ
ตรงหัวมุมเเยกเทียมร่วมมิตร มีร้านส้มตำเจ้าอร่อย ที่หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินมาบ้างแล้วนั่นคือร้าน เเซ่บวัน ใครเคยลองชิมแล้ว มาเเนะนำเมนูโปรดกันบ้างนะคะ
ตรงเเยกเทียมร่วมมิตรจะมีสะพานลอยที่ดูยิ่งใหญ่และไฮโซ ข้ามเเยกค่ะ มีทางขึ้นลง 3 จุดคือฝั่ง Big C ฝั่งร้านเเซบวัน และฝั่ง Cyber World Tower
ขึ้นมาตรงสะพานลอย มองไปยังถนนห้วยขวางค่ะ ตอนที่ถ่ายรูปนี้ประมาณ บ่ายโมงกว่า ๆ จะเห็นรถติดอยู่ฝั่งเดียวเลยค่ะ
เลือนจากภาพด้านบนไปทางขวาอีกนิดจะเห็นเเยกเทียมร่วมมิตร ซึ่งรถเข้า-ออกมาจากถนนเทียมร่วมมิตรและถนนวัฒนธรรมค่ะ ตรงเเยกมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ด้วยนะคะ
คราวนี้หันไปมองตรงถนนเทียมร่วมมิตรที่กำลังจะพาเดินกันบ้างค่ะ ซ้ายมือคือถ.เทียมร่วมมิตร รถจะบังคับเดินทางเดียว ดังนั้นถ้าจะเข้าไปถนนวัฒนธรรมก็ต้องอ้อมเทียมร่วมมิตรก่อนจนถึงเเยกตรงตึก อสมท ถึงจะไปเส้นวัฒนธรรมได้ค่ะ
คราวนี้ลงมาเดินตรงฟุตบาทริมถนนเทียมร่วมมิตรกันบ้าน ถนนเส้นนี้เป็นถนนใหญ่ 4 เลนแต่รถเดินทางเดียว จึงมีฟุตบาทใหญ่สองข้างทางให้เดินได้สะดวกแต่ระวังมอเตอร์ไซค์นะคะเนื่องจากเป็น One-way รถมอเตอร์ไซค์จึงมักแอบขึ้นมาใช้ฟุตบาทอยู่บ่อย ๆ
เลี้ยวขวาเข้ามาจะเห็นป้ายชัดเจนนะคะว่ารถต้องเดินทางเดียว ฟุตบาทก็จะเป็นแบบนี้ตลอดทาง ไม่ค่อยมีสิ่งกีดขวางให้ต้องลงไปเดินถนนด้วยค่ะ
อาคารสองข้างทางของถนนเทียมร่วมมิตร เป็นอาคารสำนักงานเล็ก ๆ และเต้นท์รถเป็นส่วนใหญ่ ในภาพจะเห็นมอเตอร์ไซค์ที่บอกไว้ข้างต้นนะคะ ดังนั้นถ้าเดินก็ระวังกันหน่อยค่ะ แต่จริงๆ ตอนกลางคืนไม่อยากเเนะนำให้เดินเนื่องจากช่วงเย็นร้าน เต้นท์รถก็จะปิด ทำให้แถวนี้ถือว่าเปลี่ยวเลยค่ะ แถมบางช่วงก็จะมีพื้นที่ว่างเป็นป่าหญ้ารกร้างอยู่
ห่างจากแยกเทียมร่วมมิตรมาประมาณ 300 ม.จะเจอทางเข้าของศูนย์วัฒนธรรม
ทางเข้าศูนย์วัฒนธรรมเเห่งประเทศไทยค่ะ ด้านซ้ายที่เห็นล้อมสังกะสีไว้กำลังก่อสร้างอาคารหอศิลป์ร่วมสมัย
เต็นท์รถที่มีตลอดทาง มีร้านใหญ่ ๆ หลายร้านและหลายยี่ห้อให้เข้ามาชมกันค่ะ
ด้านขวาที่เห็นรถติดอย่าเพิ่งตกใจไปนะคะว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าสังเกตจะเป็นป้ายปั๊มถึง 2 ป้ายด้วยกัน พี่ ๆ เเท็กซี่เค้ามาจอดรถเติมเเก๊สกันนั่นเองค่ะ ส่วนตึกสูง ๆ ที่เห็นกำลังก่อสร้างนั่นคือศุภาลัย เวลลิงตันค่ะ
พื้นที่ส่วนที่กำลังก่อสร้างอาคารหอศิลป์ร่วมสมัย
บนถนนเทียมร่วมมิตรจะมีปั๊มอยู่ 3 เเห่งด้วยกันแต่จะอยู่ฝั่งนี้ทั้งหมด 2 ปั๊มเเรกที่เจอคือบางจากและ ปตท.
ตรงข้ามปั๊มจะมีคลองก่อนถึงสยามนิรมิต
“ชวดกระทุ่งโพรง” คือชื่อคลองนี้ค่ะ สภาพน้ำส่งกลิ่นเล็กน้อย
สยามนิรมิต สำหรับบางท่านที่อาจไม่รู้ว่าสถานที่นี้คืออะไรก็จะขออธิบายหน่อยนะคะ สยามนิรมิต เป็นโรงละครที่มีการเเสดงที่นำเสนอมรดกทางศิลปะวัฒนธรรม ของประเทศไทย ด้านนอกของเวทีการแสดง เป็นที่โชว์และจำหน่ายสินค้า รวมทั้งแสดงกิจกรรมและวัฒนธรรมพื้นบ้าน สำหรับการเเสดงจะเปิดการเเสดงทุกวันเริ่มเวลา 20.00 น.เเสดง 80 นาทีไม่มีเวลาพักค่ะ ข้อมูลเรื่องการเเสดงสามารถเข้าชมในเว็บไซค์ของสยามนิรมิตได้ตามนี้ค่ะ http://www.siamniramit.com/index.php
ติดกับสยามนิรมิตจะเป็นสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ ประจําประเทศไทย
เยื้อง ๆกันฝั่งตรงข้ามจะเป็นหมู่ตึก ศุภาลัยเวลลิงตัน ซึ่งทางทีมงานเคยได้รีวิวไว้เเล้ว สามารถเข้าอ่านได้ที่ ศุภาลัย เวลลิงตัน รีวิวฉบับที่ 115
หน้าศุภาลัย เวลลิงตันยังคงเป็นพื้นที่ว่างเปล่า บริเวณนั้นเรียกได้ว่าหาร้านอาหารยากค่ะ ด้านหน้ามีร้านก๋วยเตี๋ยวที่พี่ ๆ เเท็กซี่มักจะฝากท้อง จะเห็นเป็นร้านชั่วเคราว มีเก้าอี้พลาสติกเล็ก ๆให้นั่ง
เลยจากศุภาลัยมาจะมีอาคารสำนักงานและโชว์รูมรถหลาย ๆ ยี่ห้อเรียงกันค่ะ
อาคารสำนักงาน เดลต้าเฮ้าส์
ในซอยจะมีโชว์รูมของ Kia แต่ด้านหน้าที่กำลังก่อสร้างเป็นโชว์รูมของ Audi
อาคารสำนักงานของ Kia ค่ะ ด้านตรงข้ามจะมีอพาร์ทเม้นท์ 8 ชั้น 1 อาคารซึ่งเป็นอพาร์ทเม้นท์เเห่งเดียวในละเเวกนี้เลยค่ะ
ถัดมาจะมีโรงเเรมปีปอิน 2
ด้านข้างอพาร์เม้นท์จะมีซอยเล็กๆ ทะลุไปอีกด้านของถนนเทียมร่วมมิตร แต่เป็นซอยส่วนบุคคลของร้านคาราโอเกะ และเเหล่งบันเทิงเเถวนั้นค่ะ
ซอยที่ทะลุไปเทียมร่วมมิตรอีกฟาก จะเห็นว่ามีไม้กระดกกั้นไว้ด้วยนะคะ
ปั๊มเเห่งที่ 3 บนถนนเทียมร่วมมิตรค่ะ จะอยู่ในสุดตรงทางเเยกเลย
ตรงข้ามปั๊มกำลังก่อสร้าง เป็นโครงการบ้านเดี่ยวของ Narai Property ค่ะ
ถึงตรงทางเเยก ถ้าตรงไปสามารถไปเเยกเหม่งจ๋ายหรือเข้าถนนประชาอุทิศได้ค่ะ ถ้าเลี้ยวขวาก็จะเหมือนยูเทิร์นเข้าถนนเทียมร่วมมิตรเส้นด้านหลัง ซึ่งทีมงานจะพาเลี้ยวขวานะคะ
เมื่อเลี้ยวขวาเข้ามา จะเห็นปั๊มที่เพิ่งผ่านมาเมื่อกี้ทางขวามือ ด้านซ้ายจะเห็นเหมือนพื้นที่ว่างเปล่ามีต้นไม้ขึ้นครึ้ม ซึ่งเป็นพื้นที่ของการรถไฟค่ะ
ด้านหลังอพาร์ตเม้นท์จะเป็นร้านนั่งดื่มเล็ก ๆ
และก็มีร้านคาเฟ่ ร้านคาราโอเกะตั้งอยู่ไม่ห่างกันนั้นเอง
ถัดมาก็มีคลับ สนุกเกอร์ เรียกได้ว่ามุมนี้เป็นเเหล่งรวมความบันเทิงอีกมุมเลยทีเดียวค่ะ
ด้านขวาจะเห็นหมู่ตึกของศุภาลัย ถนนเทียมร่วมมิตรฝั่งนี้ก็เป็นถนน 4 เลนเช่นเดียวกัน แต่ด้านริมถนนจะมีความคึกคักน้อยกว่า มีพื้นที่ว่างเปล่าเยอะกว่า แต่มีฟุตบาทให้เดินสะดวกค่ะ ตอนกลางวันอาจจะเดินร้อนหน่อยส่วนตอนกลางคืนไม่เเนะนำอย่างยิ่งที่จะมาเดินเเถวนี้ค่ะ
ด้านข้างศุภาลัย เวลลิงตัน มีพืนที่ประกาศขาย ถ้าใครทราบว่าห้องหลากสีพวกนี้มีไว้ทำอะไรมาก่อนมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมหน่อยนะคะ สงสัยจริง ๆเลย?
อันนี้คือคลองชวดบางจากที่จะเชื่อมต่อกับคลองชวดกระทุ่งโพรงที่อยู่ข้างสยามนิรมิต และเป็นคลองที่อยู่ติดกับศุภาลัยเวลลิงตัน เรื่องกลิ่นมีให้รบกวนเป็นระยๆ แล้วแต่ลมพัดค่ะ 🙂
ข้ามคลองมาจะเป็นศูนย์บิรการของมาสด้า
ติด ๆ กันนั้นก็ยังมีเต้นท์รถ และพวก Car Care
ด้านนี้พอจะมีร้านอาหารให้นั่งทานบ้างค่ะ
ร้านส้มตำเสี่ยงตาย ใครเคยได้ยินชื่อกันบ้างค่ะ ทีมงานยังไม่เคยได้ลองชิมแต่เคยได้ดูตอนร้านนี้ออกรายการ VIP ค่ะสำหรับคนที่สงสัยว่าทำไมต้องส้มตำเสี่ยงตาย เนื่องจากที่ตั้งร้านเมื่อก่อน(ตอนนี้ย้ายมาที่ใหม่) คือตรงข้ามกับ อสมท. ซึ่งรถจะวิ่งกันเร็วมากค่ะ ต้องรอดูจังหวะที่จะข้ามถนนกันดี ๆ เลยต้องเสี่ยงตายมากว่าจะได้กินเลยได้เป็นชื่อร้านด้วยประการฉะนี้
ไม่ไกลกันนั้นจะมีอาการสำนักงานและร้านอาหารจีน ไทซุ่นค่ะ
เทียมร่วมมิตรเส้นด้านหลังจะคึกคักน้อยกว่าด้านหน้าที่จะเห็นมีเต้นท์รถ เรียงราย ด้านนี้จะมีท่าปล่อยรถเมล์เเทนค่ะ มีอยู่2 จะซึ่งจะเห็นว่ามีรถเมล์จอดรถรอกันอยู่เต็มเลย
ท่าปล่อยรถเเรกที่เจอคือท่าปล่อยของสาย 36 ค่ะ
มาไม่ไกลกันนั้นก็จะเจอท่าปล่อยรถสาย 54 เหมือนเป็นที่พักน่ารัก ๆให้คนขับและกระเป๋ารถเมล์ได้นั่งพักกันเลยค่ะ เด็ก ๆ ลูกหลานช่วงปิดเทอมก็มีที่ให้วิ่งเล่นด้านใน โชคดีที่มีต้นไม้ใหญ่ทำให้ดูร่มรื่น
ข้างท่าปล่อยจะเป็นพื้นที่ว่างเปล่าค่ะ จะเห็นสีขาว ๆ ริมต้นไม้ นั่นคือขยะที่มีเเอบมาทิ้งกัน
ลักษณะของถนนเส้นนี้ค่ะ ด้านข้างซ้ายก็เป็นพื้นที่ของการรถไฟตลอดเเนว
พื้นที่เปล่าที่มองไปเห็น เอสพลานาดและ ตึก RS Tower กันเลยเนื่องจากตรงนี้ไม่มีตึกสูงบังวิวค่ะ
ถึงเเยกที่เชื่อมกับถนนวัฒนธรรมเเล้วค่ะ เลี้ยวขวาจะไปตรงเเยกเทียมร่วมมิตร ที่เชื่อมกับถนนรัชดาภิเษก ถ้าเลี้ยวซ้ายก็มุ่งหน้าเข้าถนนพระราม 9 ค่ะ
เส้นทางที่ 3 จะขอเเยกเป็นสองส่วนนะคะคือเลี้ยวซ้ายก็มุ่งหน้าเข้าถนนพระราม 9 ค่ะ ส่วนแรกส่วนสองเลี้ยวขวาจะไปตรงเเยกเทียมร่วมมิตร ที่เชื่อมกับถนนรัชดาภิเษก
ขอนำภาพเดิมมาอธิบายนะคะจะได้เห็นชัด ๆ ว่าเส้นทางต่อไปคือเลี้ยวซ้ายไปทางพระราม 9
ตรงเเยกจะมีโชว์รูมและศูนย์บริการของ ISUZU อยู่ค่ะ
เมื่อเลี้ยวซ้ายมาหัวมุมถนนจะมี ยุ้ยรัชดา เต้นท์รถที่เห็นเด่นชัดมาแต่ไกลค่ะ
ถนนวัฒนธรรมเป็นถนน 4 เลนขนาดเท่ากับถนนเทียมร่วมมิตรแต่เป็นถนนที่รถวิ่งได้ทั้ง 2 ทางค่ะริมถนนมีฟุตบาทเดินได้สะดวกทั้งสองข้าง
ทางเข้าของทิพยประกันภัยค่ะ
ถนนวัฒนธรรมก็ยังมีเต้นท์รถอยู่เยอะทีเดียวค่ะ
ฝั่งตรงข้ามจะมี Utopia
เดินมาจากเเยกประมาณ 200 ม.จะมีทางเข้าพื้นที่ของการรถไฟค่ะ
ริมข้างทางด้านที่ฝั่งด้านที่มุ่งหน้าไปรัชดาจะมีร้านอาหาร และเต้นท์รถอยู่ริมทางมากกว่าฝั่งมุ่งหน้าไปพระราม 9
กำเเพงส้ม ๆ ที่ผ่านมายาวๆ เมื่อกี้คือกลุ่มปฎิบัติการเดินรถที่ 3 เขตการเดินรถที่ 4 จะมีท่าปล่อยรถของรถเมย์สาย 137และ 179 ค่ะ
ด้านตรงข้ามจะเป็น LPN Place พระราม9-รัชดา หมู่ตึกของ LPN ที่อยู่ฝั่งนี้ค่ะถ้าใครสนใจน่าจะมีห้องที่ประกาศขายอยู่บ้างค่ะเพราะวันที่ไปสำรวจก็มีป้ายเล็ก ๆ ตามเสาไฟฟ้าที่เเปะประกาศขายบางห้องไว้
ตรงมาเรื่อย ๆ จะเจอกันพื้นที่ที่ล้อมกำเเพงยาว ๆ ฝั่งตรงข้าม็มีเต้นท์รถอยู่ตลอดสายค่ะ
กำเเพงที่ว่านั่นคือพื้นที่ของกองออกแบบและพลับพลาพิธีค่ะ
มุ่งหน้าไปใกล้ถึงเเยกผังเมือง แยกที่เชื่อมกับพระราม 9 แล้วค่ะ
ถึงเเยกผังเมืองเเล้วค่ะ ซึ่งจากเเยกนี้จะสามารถไปโรงพยาบาลต่าง ๆไม่ว่าจะเป็นปิยะเวท พระราม 9 หรือศูนย์การเเพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพได้ไม่ยาก
เเว๊บมาดูด้านซ้ายกันหน่อยค่ะ กำเเเพงยาว ๆ ที่ต่อจากกองออกแบบและพลับพลาพิธีจะเป็นของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย
เลี้ยวขวาจะผ่านเเยก อสมท และเป็นแยกพระราม 9 ซึ่งตรงจุดนี้เองค่ะที่ใกล้เเยกพระราม 9 มีเเยกเล็ก ๆ ก็ทำให้มีรถติด
เส้นทางที่ 3 ส่วนสุดท้ายของฝั่งนี้ที่จะพาชมคือเส้นที่จะไปตรงเเยกเทียมร่วมมิตร ที่เชื่อมกับถนนรัชดาภิเษก
ขอนำภาพเดิมมาอธิบายนะคะจะได้เห็นชัด ๆ ว่าเส้นทางต่อไปคือเลี้ยวขวาไปทางเเยกเทียมร่วมมิตรที่เชื่อมกับถนนรัชดาภิเษก
หัวมุมมีร้านนั่งดื่มเล็ก ๆ อยู่ค่ะ
มุ่งหน้าไปเเยกเทียมร่วมมิตรกันเลยค่ะ ด้านซ้านช่วงเเรกยังเป็นพื้นที่ว่างนะคะ ถนนเป็น 4 เลนรถวิ่งทางเดียว จากตรงนี้จะเห็นชัดว่าถนนวัฒนธรรมจะเเยกเป็นสองส่วนคือถ้าจากเเยกภาพด้านบนเลี้ยวซ้ายจะเป็นรถวิ่งได้ สองทางแต่ถ้าเลี้ยวขวาเข้ามาเส้นในภาพรถจะวิ่งได้ทางเดียวคือมุ่งหน้าไปทางเเยกเทียมร่วมมิตรค่ะ
ด้านซ้ายเป็นอาคารของบริษัท อสมท จำกัด(มหาชน)
ถัดมาจะมีปั๊ม ESSO อยู่ค่ะซึ่งเป็นปั๊มเดียวบนถนนวัฒนธรรม ถ้ารวมกับถนนเทียมร่วมมิตรเเล้ว ละเเวกนี้ก็มีถึง 4 ปั๊มใหญ่ๆเลยค่ะ
ติดกันนั้นจะมีคาราโอกะ กลุ่มเป้าหมายดูน่าจะเป็นชาวจีนซะส่วนใหญ่ค่ะ
ฝั่งตรงข้ามเป็นศูนย์วัฒนธรรมเเห่งประเทศจีนค่ะ
ติดกับคาราโอเกะก็มีศูนย์เเลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมไทย-จีน
ถัดมาเป็นร้านอาหารนิวไชนาทาวน์ เรียกได้ว่ามุมนี้มีกลุ่มเป้าหมายชาวจีนเป็นหลักจริง ๆ ค่ะตั้งแต่คาราโอเกะยันร้านอาหาร เเถมเสื้อผ้าที่ขายหน้าร้านก็ดูจะเป็นสไตล์ของนักท่องเที่ยวซะส่วนใหญ่
ด้านตรงข้ามเป็นอาคารขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพหรือ ขสมก นั่นเองค่ะ
ติด ๆ กันนั้นก็คือศูนย์วัฒนธรรมเเห่งประเทศไทย
ถึงเเยกที่เชื่อมกับถนนเทียมร่วมมิตรแล้วค่ะ ถ้าเลี้ยวขวาก็จะเข้าเส้นเทียมร่วมมิตร
สุดท้ายก็จะมาเจอสะพานลอยตรงเเยกเทียมร่วมมิตรค่ะ
ต่อไปเรามาดูอีกฝั่งของถนนรัชดาภิเษกกันบ้างนะคะว่า อีกฝั่งที่บอกว่าเป็นลักษณะชุมชนอยู่อาศัยมากกว่าฝั่งนี้จะเป็นยังไง สำหรับคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยแถวนี้จะได้รู้จักว่าอยากจะอยู่ช่วงไหนของโซน MRT ศูนย์วัฒนธรรมค่ะ
เส้นทางกลุ่มต่อไปที่จะพาชมคือ เส้นทางด้านประตูทางฝั่งตะวันตก (เอสพลานาด รัชดา/สถานทูตจีน หมายเลข 4-7) ค่ะ
เส้นทางที่ 4 เริ่มจากประตูทางออก MRT ทางออก 4 เดินมุ่งหน้าไปทางถนนพระราม 9 ผ่านประตูทางออก MRT ทางออก 3 โดยจะเดินเลียบถนนรัชดาภิเษกไปค่ะ เส้นนี้เนื่องจากเป็นถนนเส้นหลักจึงมึสาธารณูปโภคทั้งเเหล่งชอบปิ้ง แบกะดิน ร้านขนาดเล็กไปจนถึงห้างสรรพสินค้า คอนโด และอาคารสำนักงาน ซึ่งหลัก ๆ และที่สังเกตุได้ง่ายคือ Esplanade รัชดา และสถานทูตจีน
เริ่มจากประตูทางออกที่ 4
เดินออกมาจะมีป้ายรถเมล์ค่ะ ซึ่งทุกประตูทางออกจะใกล้กับป้ายรถเมล์ทุกทางออกค่ะ
ด้านหลังจะเป็นอาคารสำนักงาน Rs Tower ที่มีทั้งวิริยะประกันภัย ธนาคารไทยเครดิต และ 7-11 ด้านล่าง
อาคารสำนักงาน Rs Tower ค่ะ
ทางเข้าของอาคาร Rs Tower สามารถลัดเข้าส่วนเอสพลานาดได้ค่ะ เมื่อเดินไปด้านซ้ายจะเจอกับพื้นที่จอดรถของเอสพลานาด
ร้านข้างทางจะเป็นตึกเเถวที่มีร้านค้าด้านใต้อาคารและด้านหน้า มีขายเสื้อผ้าถ้าตอนเช้า ๆ ก็จะเป็นอาหารค่ะ ดังนั้นสาว ๆ หนุ่ม ๆออฟฟิศก็จะมาฝากท้องตอนเช้าที่นี่กันประจำ
เดินมาประมาณ 200 เมตรก็จะเจอกับ เอสพลานาด ซึ่งเป็นโรงหนังที่บ่อยครั้งจะมีหนังนอกกระเเสมาฉายเป็นระยะ ๆ แต่อาจจะฉายน้อยรอบซักหน่อยเท่านั้นค่ะ เเม้หลัก ๆ จะดูเหมือนจุดขายคือโรงภาพยนตร์แต่ภายในก็มีร้านค้า ร้านอาหารเยอะเชียวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นไทย ญี่ปุ่น ฝรั่ง ที่นี่มีทาโกะยากิเจ้าอร่อยอยู่ด้วย ใครผ่านไปเเถวนั้นอย่าลืมเข้าไปเเวะชิมกันนะคะ
ข้างเอสพลานาดจะมีวินมอเตอร์ไซค์ค่ะ เอาราคามาให้ดูกันซะหน่อย
เลยวินมาจะมีร้านค้าเล็ก ๆ ทั้งร้านอาหารและร้านกาเเฟ
แล้วก็จะมาเจอประตูทางออก MRT ที่ 3 เป็นประตูที่เขียนว่าสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งจริง ๆ จะใกล้กับเอสพลานาดมากกว่าค่ะ
เดินมาลักษณะฟุตบาทของริมถนนรัชดาภิเษกจะเป็นสภาพแบบนี้ค่ะ เดินได้สะดวก มีร่มไม้ประปราย
ผ่านรัชดาซอย 5 จะเป็นทางเข้าไปซึ่งจะเจอกับคอนโด Amanta เป็นคอนโดและโรงเเรมที่มีมานานแต่สภาพยังถือว่าดีมากอยู่ค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นชาวต่างชาติที่มาพักอาศัย มีทั้งเช่ารายวันแบบโรงเเรมราคาต่อคืนประมาณ 3,000 บาท(เเล้วแต่ขนาดห้องและช่วงเวลาในแต่ละปีนะคะ ถ้าสนใจโปรดสอบถามที่คอนโดเลยค่ะ) และจะมีแบบให้เช่ารายเดือนซึ่งขึ้นต่ำที่ต้องอยู่คือ 1 ปีขึ้นไปค่ะ
ถัดไปนั้นจะเห็นตึกสูง ๆ เด่นสะดุดตานั่นคือตึก AIA
ส่วนพื้นที่ก่อสร้างที่กำลังสร้างอยู่ข้างกันนั้นเป็นพื้นที่ของตลาดหลักทรัพย์
สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนค่ะ
มาถึงรัชดาซ.3 จะเป็นซอยพักอาศัยซึ่งสามารถหาอ่านได้ใน มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีพระราม 9
ขึ้นสะพานลอยใกล้รัชดา ซ.3 แล้วมองกลับไปยังทางที่เดินมาเมื่อกี้ค่ะ จะเห็นทั้งตึก AIA และ RS Tower
เส้นทางที่ 5 เร่ิมจาก MRT ประตูทางออกที่ 4 มุ่งหน้าตามถนนรัชดาภิเษกไปทางห้วยขวางแล้วเลี้ยวเข้าไปในรัชดาซ.7 ซึ่งก็เป็นเเหล่งชุมชนอีกแบบหนึ่งที่อยู่ในละเเวกนี้ เส้นทางนี้จะเจอกับ Big C ซึ่งถือว่าเป็นเเหล่งจับจ่ายใช้สอยของคนในละเเวก ด้านหน้ามีร้านค้า ร้านรถเข็นขายอาหารที่มีตั้งแต่ 7 โมงเช้าไปจนถึง 3 ทุ่มกว่าเลยทีเดียว ในซ.7 จะมีร้านและโรงแรมอยู่ใหญ่ๆ อยู่หลายเเห่ง สำหรับซอยรัชดาซอย7 จะเรียกอีกอย่างว่าซอยนาทองซึ่งมีซอยย่อยเข้าไปอีกที ส่วนใหญ่เป็นหอพัก บ้านเรือนค่ะ พื้นที่เปล่าสำหรับพัฒนาไม่มีเหลืออยู่เเล้วค่ะ ถ้าจะสร้างคอนโดใหม่คงต้องทุบอาคารที่มีอยู่เดิมทิ้งเท่านั้น ในซอยก็เป็นถนน 2 เลนเเคบ ๆ ถ้ามีรถจอดข้างทางก็จะขับสวนกันลำบากหน่อย โดยเส้นนี้จะพาชมไปจนถึงถนนประชาสงค์เคราะห์เลยค่ะ
เริ่มจากประตูทางออกที่ 4
ตึกสำนักงานของไทยประกันชีวิตค่ะ ใต้ตึกมีร้านอาหารและไปรษณีย์ไทย ซึ่งเป็นราคาไปรษณีย์ทั่วไปดังนั้นจะถูกกว่าร้านที่มีบริการส่งไปรษณีย์ใน Big C มากเกือบเท่าตัว
ก่อนถึง Big C จะมีพื้นที่ที่กำลังก่อสร้างกันอยู่ โดยจะก่อสร้างเป็นห้างสรรพสินค้าเเห่งใหม่ชื่อ Metro Label ปัจจุบันจะมีเพียงด้านหน้า 2-3 ล็อคเท่านั้นที่มีร้านอยู่ค่ะ ส่วนที่เหลือจะไปอยู่ตรงหน้า Big C ตรงนี้ด้านในที่ติดกับรั้วจะมีร้านขายอาหาร ทั้งยำ ไก่ทอด ห่อหมก ส่วนด้านนอกช่วงเช้าและเย็นจะมีร้านขายอาคารมาตั้งขาย มีทั้งลูกชิ้น ส้มตำ เรียกได้ว่าอาหารสารพัดรถเข็นมีให้เลือกเลยค่ะ
ด้านหน้าจุดที่กำลังก่อสร้าง Metro Label ตรงนี้เมื่อก่อนจะสามารถเดินลัด(สำหรับคนเดินเเละมอเตอร์ไซค์เท่านั้น)เข้าไปยังซอยชานเมืองหรือบริเวณหลัง Big C ได้แต่ตอนนี้ปิดล้อมรั้วไว้เพราะกำลังก่อสร้าง คงต้องรอดูตอนสร้างเสร็จอีกทีค่ะว่าเส้นทางนี้จะเปิดให้ใช้หรือไม่
ด้านหน้า Big C จะเป็นร้านขายของ ตลาดนัดช่วงคราวเเบบนี้ค่ะ เปิดจนถึง 3 ทุ่มกันเลยทีเดียว เมื่อก่อนจะเป็นพื้นที่โล่งที่ทาง Big C จะมีเปิดให้ขายของบางช่วงเท่านั้นค่ะ ส่วนใหญ่ผู้ที่พักอาศัยละเเวกนี้ ในซอยนาทอง 3-6 และซอยชานเมืองมักจะใช้ Big C เป็นทางลัดเดินทะลุไปด้านหลังเพื่อเข้าซอยชานเมืองค่ะ
ติด Big C จะมีเต็นท์ขายของ เป็นเสื้อผ้าสไตล์เกาหลีที่ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 30 บาท ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะ 30 บาทจริง ๆ ใครสนใจก็ลองเเวะ ๆ เข้าไปดูได้นะคะ เมื่อก่อนตรงนี้จะเป็นโรบินสัน รัชดา แต่ก็ปิดตัวลงเมื่อประมาณปลายปี 56 นี้เองค่ะ
ลักษณะฟุตบาทที่เดิน เดินได้สะดวกค่ะ มีต้นไม้ตลอดทางก็พอช่วยให้มีร่มเงาคลายร้อนได้บ้าง
ข้างที่ขายเสื้อผ้าเกาหลี(หรือโรบินสันเก่า)
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นอาคารสูงไม่เกิน 5 ชั้นเป็นร้านค้า บ้านพักอาศัย
เดินมาเรื่อย ๆ เริ่มจะเห็นโรงเเรมและที่นวดตัว ดูใหญ่โตเเละลึกลับดีค่ะ 🙂
เดินจากสถานีมาประมาณ 650 เมตรก็จะถึงรัชดาภิเษก 7 หรือซอยนาทองนั่นเองค่ะ ซอยนี้จะมีทั้งโรงเเรม ที่นวดตัว(แบบมีสาวสวย) อาคารสำนักงานและที่พักอาศัย เรียกได้ว่าเป็นชุมชนหนึ่งกันเลยค่ะซึ่งอาจจะมีหน้าเก่าหน้าใหม่เข้ามาอยู่ เพราะในซอยนี้อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้านัก จึงมักมีพนักงานออฟฟิศ และน้อง ๆ นักศึกษาเข้ามาพักค่ะ
หน้าปากซอยจะมีตึกที่เด่นเลยคือตึกคลินิกทัตกรรม BIDC
เดินมาอีกหน่อยจะมีอาคารสำนักงาน ชื่อว่าอาคารอมรพันธุ์ 205 ทาวเวอร์ 1 และ 2
อาคารอมรพันธุ์ 205 ทาวเวอร์ 1
อาคารอมรพันธุ์ 205 ทาวเวอร์ 2 อาคารนี้ด้านล่างจะมีคลินิกเสริมความงาม ร้านค้า และ 7-11
ซอยย่อยของรัชดาซอย 7 จะไม่เรียงเหมือนซอยอื่น ๆ ที่จะเรียงข้างใดข้างหนึ่งเป็นซอยเลขคู่ และด้านตรงข้ามเป็นเลขคี่ แต่จะเรียงเริ่มจากท้ายซ้อยที่ติดกับถนนประชาสงค์เคราะห์เป็นซอย 1 ไล่มาเรื่อย ๆ เนื่องจากจำนวนซอยไม่เยอะและทั้งสองด้านถนนมีจำนวนซอยย่อยไม่เท่ากัน จึงอาจดูสับสนกันอยู่บ้างค่ะ บางซอยก็เป็นซอยตันอย่างซอยที่อยู่ติดกับถนนรัชดาภิเษกคือนาทองซอย 7 (อยู่ด้านซ้ายมือในภาพ)แต่ด้านขวาที่ติดกับอาคารสีส้มนั้นคือนาทองซอย 9 ดังนั้นถ้าใครจะเข้าไปซอยไหนดูเเผนที่ดี ๆ ก่อนนะคะจะได้ไม่งง
The Lord สถานบันเทิงชื่อดังอีกเเห่งของซอยนี้ค่ะ คนที่ทำงานเเถวนี้ก็พักในซอยนาทองหรือไม่ก็ซอยชานเมือง ดังนั้นถ้าอาศัยอยู่เเถวนี้เราจะเห็นคนอีกกลุ่มที่ออกมาทำงานตอนเวลาเราเลิกงานค่ะ
ติดกันนั้นจะเป็นนาทองซอย 9 ซึ่งมี JPR รัชดา เป็นอพาร์ทเม้นท์ 8 ชั้น ราคาเช่าอยู่ที่ 6,000 ขึ้นไปจนถึงหมื่นต้น ๆ เนื่องจากมีบางห้องที่เหมือนคอนโดแบบสตูดิโอค่ะ ปากซอย 9 จะมีร้านรถเข็นขายน้ำ กาเเฟโบราณเจ้าอร่อย ถ้าใครชอบกาเเฟโบราณหรือชาเข้ม ๆ เเนะนำร้านนี้เลยค่ะ
ภายในนาทองซอย 9 ก็จะมีอพาร์ทเม้นท์ อยู่ค่ะ แต่ซอยนี้เป็นซอยที่ไม่ลึกเท่าไหร่นัก
ตรงข้ามกันนั้นคือนาทองซอย 5 จะเป็นซอยตันสั้น ๆ จากภาพนี้ก็จะเห็นท้ายซอยแล้วค่ะ สิ้นสุดที่อพาร์ทเม้นท์สีเหลืองนั่นเลย ปากซอยมี 7-11
สภาพถนนในรัชดาซอย 7 เป็นถนน 2 เลนเล็ก ๆ รถเข้าออกสะดวกแต่ถ้ามีรถจอดข้างทาง ซึ่งมีมีรถมอเตอร์ไซค์จอดประจำก็จะลำบากเวลารถสวนกันเล็กน้อยค่ะ แต่ซอยนี้ถ้าดูจากต้นซอยจะไม่มีฟุตบาทให้เดิน ดังนั้นถ้าจะเดินในซอยต้องระวังเรื่องรถกันหน่อยนะคะ
Coloze เเหล่งนวดตัวด้วยสาวสวยอีกที่นึงและโรงเเรมคริสตัลค่ะ
เดินเข้ามาเกือบครึ่งซอย จะด้านขวาจะเห็นทางเข้านาทองซอย 3 ค่ะ สำหรับซอยต่าง ๆ จะพาชมอีกทีนะคะ ตอนนี้เรามาดุเส้นทางหลัก ๆ กันก่อน เส้นนี้ก็จะเห็นทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น ด้านล่างเป็นร้านค้า
จากปากซอยมา 350 เมตรจะมี Fitness ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงอยู่ค่ะ
ด้านในอยุ่ใหญ่โตทีเดียว ซึ่งเร็ว ๆ นี้เห็นว่าจะมีซานน่าเปิดให้ใช้งานกันด้วย ด้านหน้าของ Fitness มีร้านค้าทั้ง 7-11 ร้านอาหารรถเข็น และร้านนั่งดื่มเล็ก ๆ
ด้านขวามือจะเห็นทางเข้าของคอนโดกลางกรุง เป็นคอนโดที่มีมานานแล้วค่ะ เป็นหมู่ตึก Low Rise 6 อาคารราคาห้องจะต่างกันไปเเล้วแต่วิว ขนาดและสภาพห้องค่ะ เช่นห้องขนาด 60 ตร.ม. ก็มีประกาศขายอยู่ที่ประมาณ 3.5 ล้านบาทค่ะ ถ้าใครกำลังมองหาอยู่ คอนโดมือสองแบบนี้ราคาจะอยู่แล้วแต่สภาพห้องนะคะ อาจมีเเพงหน่อยถ้าห้องเก่าเค้า Built in ไว้เยอะ
หน้าตาทางเข้าจะดุไม่ใหญ่นัก แต่เมือเข้าไปข้างในจะเป็นกลุ่มอาคารหลายอาคาร เป็นเหมือนหมู่บ้านหนึ่งเลยค่ะ
เดินมาจนเกือบสุดซอยที่เชื่อมกับซอยเปรมสมบัติที่เชื่อมกับถนนประชาสงค์เคราะห์อีกที แล้วจะเริ่มเห็นอาคารเคหะ
ด้านล่างอาคารเคหะจะมีร้านโชห่วย ร้านค้าเล็ก ๆ
สุดซอยแล้วค่ะ ถนนที่เห็นด้านหน้าคือถนนเปรมสมบัติซึ่งทีมงานจะพาเลี้ยวขวาเพื่อเข้าถนนประชาสงเคราะห์นะคะ จากภาพจะเห็นว่าซอยนาทองนี้จะไม่มีฟุตบาทให้เดินจนสุดซอยเลยค่ะ จะเห็นมีวินมอเตอร์ไซค์ทางซ้ายมือ
ราคาวินมอเตอร์ไซค์ค่ะ แต่ละอาคารเคหะจะมีหลายเลขของอาคารอยู่ หรือเเถวนี้จะเรียกว่าเเฟลต..แล้วก็ตามด้วยหมายเลขค่ะ จากราคาจะพอเห็นเลยว่าจากนี้ไม่ไกลจากตลาดห้วยขวางนักเพราะราคาก็แค่ 10-15 บาทเท่านั้นค่ะ
จากซอยนาทองถ้าเลี้ยวขวาจะเข้าซอยเปรมสมบัติซึ่งก็เป็นชุมชน ที่พักอาศัยคล้ายๆ กัน ดังนั้นจึงขอพาไปอีกทางที่จะเชื่อมถนนประชาสงค์เคราะห์ซึ่งเป็นถนนใหญ่กว่านะคะ
จากซอยนาทองเลี้ยวขวา มุ่งตรงเข้าถนนประชาสงค์เคราะห์ ถนนมีฟุตบาทให้เดินแต่ก็เต็มไปด้วยร้านค้าที่ตั้งอยู่ค่ะ สรุปตรงนี้เราก็ต้องเดินตรงถนนอยู่ดี และถนนก็พลุกพล่านเดินก็ระวัง ๆ กันด้วยนะคะ
เลี้ยวซ้ายเข้าประชาสงค์เคราะห์ค่ะ ตรงนี้จะเรียกว่าหอนาฬิกา เนื่องจากมีพื้นที่ของหอนาฬิกาเล็ก ๆให้เป็นทางเเยก ถ้าตรงไปเเล้วเลี้ยวซ้าย(แล้วเลี้ยวขวาอีกที)จะมุ่งหน้าไปห้วยขวางค่ะ ถ้าตรงไปแล้วเลี้ยวขวาจะไปซอยสุขร่วมกันที่เชื่อมกับถนนรัชดาภิเษก
เลี้ยวซ้ายเข้ามาจะเป็นเส้นทางเเบบนี้ค่ะ
ลักษณะหอนาฬิกา ที่ถ้ามองผ่าน ๆ อาจไม่ทันสังเกตนัก
ถนนที่ตรงไปห้วยขวางค่ะ ด้านขวามือจะเห็นทางเข้า – ออก ตรงเเยกหอนาฬิกาเมื่อกี้
มองกลับไปตรงเเยกหอนาฬิกา จะเป็นพื้นที่ สามเหลี่ยมให้รถเดิน เป็นทางเเยกค่ะ ไม่ได้เป็นวงเวียนเนื่องจากรถไม่ได้เดินทางเดียว
หัวมุมถนนจะมีบ้ายการเคหะเเห่งชาติ ที่เราเป็นเป็นเเฟลตแต่ละหมายเลขนั่นเองค่ะ
คราวนี้เดินตรงไปตามถนนประชาสงค์เคราะห์กันนะคะ สองข้างทางจะมีร้านค้า ถนนมีฟุตบาทและมีรถวิ่งคึกคักค่ะ เส้นนี้มีรถเมล์ทั้งมินิบัส เมล์ รถยูโรวิ่งตลอดเส้น แต่อาจไม่บ่อยนัก
ถนนนี้มีซอยประชาสงเคราะห์ 28 ที่เชื่อมกับซอยชานเมืองซึ่งทีมงานจะพาเข้าไปดูเช่นกันค่ะ
ลักษณะถนนสองข้างทางมีฟุตบาทให้เดินได้สะดวก แม้จะมีร้านค้าข้างทางที่พยายามนำของมาวางกินพื้นที่ฟุตบาทแต่ก็ยังถือว่าเดินได้สบายค่ะ ถนนเส้นนี้มีอาคารสูงไม่มากนักส่วนใหญ่เป็นทาวน์เฮ้าส์ ด้านล่างเป็นร้านค้า
จะมีทั้งโชว์รูมรถมอเตอร์ไซค์และธนาคาร
และปั้มน้ำมันชื่อเเปลกตาอยู่ในซอย
มีอพาร์ทเม้นท์ บ้างประปรายค่ะ
ในซอยมีคอนโดที่ชือว่า TVC เป็นคอนโดเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 20 ปี ภายนอกได้ทำการทาสีใหม่เลยทำให้ดูไม่ทรุดโทรม ราคาอราคาห้องเริ่มต้นที่ 1 ล้านกว่าบาทส่วนราคาเช่าก็มีตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไปค่ะ เป็นห้องแบบสตุดิโอ
เส้นนี้เป็นเชุมชนจึงมีร้านค้าร้านอาหารเจ้าอร่อย ทั้งก๋วยเตี๋ยว ลอดช่องก็มีให้ลองชิม
ติดกันจะมีร้านชากาเเฟโบราณเป็นร้านที่เป็นที่นิยม ใครเเวะไปแล้วติดใจทางร้านก็มีนามบัตรไว้ให้ติดต่อด้วยนะคะ
สิ้นสุดทางประชาสงเคราะห์นะคะ เส้นนี้ก็จะเป็นเส้นชุมชนที่มีร้านค้าและสาธารณูปโภค อีกทั้งเป็นเส้นที่เชื่อมต่อกับถนนหลายสายทั้งห้วยขวาง รัชดา ดังนั้นจะเดินทางมาถนนใหญ่ก็ไม่ยากนัก
เส้นทางที่ 6 เริ่มจากนาทองซอย 7 ตรงไปยังซอยชานเมืองเมื่อถึงเเยกชานเมืองก็เลี้ยวขวา ตามประชาสงเคราะห์ 28 จะไปโผล่ตรงถนนประชาสงเคราะห์ค่ะ ที่พาชมเส้นทางนี้เนื่องจากในถนนเส้นนี้จะเป็นถนนที่เห็นการเป็นชุมชนชัดเจน แทบไม่มีอาคารสูง มีเพียงศรีวราเเมนชั่น ที่เหลือจะเป็นบ้านพัก อพาร์ทเม้นท์ โดยราคามีตั้งแต่ 2,000 บาทไปจนถึง 6,000 กว่าบาท โดยราคาแตกต่างไปตามระยะทางใกล้หรือไกลจากถนนรัชดาภิเษก และสภาพห้อง ยิ่งไกลแบบเข้าไปลึกประมาณเส้นประชาสงเคราะห์ 28 ราคาก็จะยิ่งถูกลงค่ะ
เดินเลี้ยวซ้ายเข้าไปในนาทองซอย 7 ซึ่งจะอยู่ตรงข้ามกับ The Lord
เมื่อเข้ามาปุ๊บจะเห็นอพาร์ทเม้นท์ เรียงรายราคาก็มีตั้งแต่ 4,800 ขึ้นไปถ้าเป็นห้องที่มีแอร์ถ้าเป็นห้องพัดลมราคาจะถูกกว่านี้ค่ะ
ในซอยจะมีร้านเหล้าเล็ก ๆสมกับเป็นถนนเส้นบันเทิงจริง ๆค่ะ
มีทั้ง อพาร์ทเม้นท์ และบ้านเดี่ยวถนนเป็น 2 เลนเล็กในซอยห้ามจอดรถริมถนน แต่ก็มีให้เห็นประจำค่ะดังนั้นเวลารถสวนกันก็จะลำบากหน่อยด้านขวามือมีซอยเล็ก สำหรับคนและมอเตอร์ไซค์ลัดไปนาทองซอย 6 ได้
ซอยเล็ก ๆ ที่เชื่อมกับนาทองซอย 6 ค่ะ
ด้านขวามือเป็นซอยเข้าไปเชื่อมกับนาทองซอย 3 และซอย 6
ทะลุไปจนถึงศรีวราเเมนชั่น
ตรงไปทางไปยังซอยชานเมืองค่ะ ด้านซ้ายมีประตูทางเข้า-ออกของ Big C ด้านขวาเป็นอพาร์ทเม้นท์ ให้เช่ารายเดือนรายวัน
ลักษณะทางเข้า-ออกทางรถ และมีทางเดินคนที่ลัดทะลุไปยังถนนรัชดาภิเษกได้
หันมาดูหน้าตาศรีวราเเมนชั่นกันหน่อยนะคะ เป็นคอนโดที่มี 2 อาคาร เพิ่งมีการทาสีใหม่เมื่อปีที่ 56 นี้เองค่ะ
มุมทางโค้งจะมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ เมื่อก่อนช่วงยังไม่มีการก่อสร้างจะสามารถเข้า -ออกประตูนี้ได้ค่ะ เป็นทางลัดไปถนนรัชดาสำหรับคนอยู่ในซอยชานเมือง
เลี้ยวขวาเข้ามาลักษณะถนนในซอยจะเป็นอย่างนี้ค่ะ เป็นถนน 2 เลนเล็ก ๆ จะไม่มีรถยนต์จอดริมข้างทางเพราะไม่งั้นรถจะติดและเดินทางผ่านไม่ได้ค่ะ ส่วนใหญ่ในซอยจะใช้มอเตอร์ไซค์กันมากกว่า ทางเดินไม่มีฟุตบาทให้เดินดังนั้นต้องระวังเพราะมอเตอร์ไซค์จะขับแบบไม่เกรงใจใครเลยค่ะ
ทางนี้สามารถลัดเข้าไปตรงศรีวราเเมนชั่นหรือซอยนาทองได้ จะมีต้นไม้ร่มรื่นกว่าเดินซอยหลังBig C
อาคารส่วนใหญ่เป็นทาวน์เฮ้าส์ อพาร์ทเม้นท์ บ้านเดี่ยวค่ะ จะเป็นชุมชนที่คนอยู่กันเยอะดังนั้นอาหารการกินไม่ต้องห่วงค่ะ ร้านค้า ร้ายยา เยอะค่ะ
ซอยชานเมืองจะมีซอยย่อย ๆ ไปอีกโดยด้านขวาเป็นซอยเลขคี่ ด้านซ้ายเป็นซอยเลขคู่ค่ะ
ภายในซอยย่อยบางซอยถนนจะเส้นเล็กกว่าเรียกได้ว่าเป็นถนนเลนเดียว จึงไม่ค่อยมีรถยนต์เข้าไปค่ะ และเนื่องจากสองข้างทางมักมีของใช้ในบ้านมาวางระเกะระกะ ผู้คนที่อาศัยในซอยย่อยจึงนิยมใช้มอเตอร์ไซค์เเละเดินเท้ากันมากกว่า ภายในจะมีทั้งบ้านเดียวและ อพาร์ทเม้นท์ ร้านค้าจะไม่ค่อยมีในซอยย่อยค่ะ
สองข้างทางจะมีร้านค้าร้านอาหารอยู่เป็นระยะ ๆ ที่เห็นไม่ไกลคือมัสยิดค่ะ
ขอเเว๊บเข้ามาดูในซอย 14 ซอยนี้ถนนใหญ่กว่าซอย 11 หน่อยค่ะ ด้านขวามือมีร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำเจ้าอร่อยขายอยู่
คลินิกและร้านตัดผม ใครอยากตัดผมเจอร้านอยากแวะเข้าไปใช่ว่าจะตัดได้เลยนะคะ ต้องโทรจองเท่านั้นค่ะเพราะคิวจะเต็มทุกวัน ดังนั้นใครที่อยู่ละเเวกนี้จะรู้ดีกว่าถ้าจะตัดร้านนี้ต้องโทรจองก่อน สำหรับคนที่เป็นลูกค้าประจำหรือเคยตัดร้านนี้มาเเล้วมารีวิวหน่อยนะคะ อยากรู้จริง ๆ ว่าเป็นยังไง;)
มัสยิด ดารุ้ลมู่ฮาญีรีน เเถวนี้จะมีชุมชนมุสลิมอยู่จำนวนหนึ่งค่ะ ดังนั้นอาหารการกินของพี่น้องชาวมุสลิมจะหาไม่ค่อยยากในละเเวกนี้
อพาร์ทเม้นท์ ด้านล่างก็ร้านค้า บางเเห่งก็มีร้านเช่าการ์ตูน ร้านเช่าหนังค่ะ
วินมอเตอร์ไซค์จะมีอยู่เป็นระยะ ๆ นี่คือราคาวินกลาง ๆ ซอยชานเมืองเเล้วค่ะ
7-11 เเห่งแรกในซอยชานเมืองค่ะ
หรือถ้าไม่อยากเข้าเซเว่นก็มีร้านโชห่วย ร้านขายขนมให้เลือกจับจ่ายกันค่ะ
ในซอย5 จะมีบ้านเดี่ยวเป็นส่วนมาก เข้าไปลึก ๆ หน่อยก็จะมีอพาร์ทเม้นท์
7-11 อีกเเห่ง ด้านตรงข้ามจะมีเหมือนเป็นตลาดค่ะ มีทั้งของสดและอาหารถุง อาหารรถเข็น ก๋วยเตี๋ยว
เรียกได้ว่าอาหารการกินมีให้เลือกตลอดซอยชานเมืองกันเลยค่ะ
ราคาต่าเช่าอพาร์ทเม้นท์ รายเดือนบางเเห่ง จะเห็นว่ายิ่งอยู่ลึกเข้าไปจะยิ่งราคาถูกลง มีทั้งห้องพัดลมและห้องแอร์ นี่เป็นราคาของอพาร์ทเม้นท์ เก่าหน่อยนะคะ ถ้าเป็นห้องใหม่ ๆ ราคาก็จะประมาณ 4,000 ขึ้นไป
ในซอยจะมีผลไม้ ร้านค้าตั้งขายกันแบบนี้ค่ะ จะเห็นว่ามีอพาร์ทเม้นท์ ที่กำลังก่อสร้างและมีอยู่แล้วตลอดริมทาง
ยิ่งเดินเข้าไปใกล้กับถนนประชาสงเคราะห์ อพาร์ทเม้นท์ ยังพอมีให้เห็นอยู่บ้างแต่ร้านค้าริมข้างทางจะน้อยลงค่ะ ด้านซ้ายเป็นซอย 2 ซึ่งเป็นซอยย่อยท้ายสุดในซอยขานเมือง
ภายในซอย 2 ซึ่งเชื่อมไปถึงซอยอยู่เจริญ
เดินมาสุดซอยชานเมืองแล้วค่ะจะเป็นแยกที่คนละเเวกนี้เรียกว่าแยกชานเมือง ซึ่งเชื่อมกับประชาสงเคราะห์ 28 เลี้ยวขวาไปตามทางเข้าไปโผล่ถนนประชาสงเคราะห์ เลี้ยวซ้ายไปเป็นประชาสงเคราห์14
ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปยังประชาสงเคราะห์ 14 ลักษณะถนนและอาคารใกล้เคียงกัน ดังนั้นจะขอพามาอีกทางจะได้ทะลุไปยังถนนประชาสงค์เคราะห์กันนะคะ
เลี้ยวขวาตามถนนประชาสงเคราะห์ ทางเดินไม่มีฟุตบาทให้นะคะ ซึ่งก็เป็นลักษณะทั่ว ๆไปของถนนในซอย
ในซอยเลี้ยวมาไม่เกินร้อยเมตร เนื่องจากร้านค้ามีน้อยกว่าซอยชานเมืองตรงนี้เลยมีโลตัสเอ็กเพลสเล็กๆ ค่ะ ก็ถือว่าสะดวกนะคะอย่างน้อยก็มีผักสด ของสดให้ซื้อได้สะดวก ถ้าจะซื้อเยอะหน่อยก็นั่งวินไปตลาดห้วยขวาง หรือไม่ก็ Big C
ในซอยไม่มีอาคารสูง แต่จะเป็นบ้านเดียวและทานเฮ้าส์ไม่เกิน 4 ชั้นกันซะส่วนใหญ่ค่ะ
ในซอยจะมีโรงเรียนอยู่สองโรงเรียนด้วยกัน โรงเรียนแรกที่เจอคือโรงเรียนกอบวิทยาค่ะ
มีบ้านเดียวและ อพาร์ทเม้นท์ ให้เลือกเช่ากันแต่ไม่เยอะเท่าซอยชานเมือง
ในซอยนี้จะมีโรงงานผ้าอยู่หลายเเห่งค่ะ เท่าที่เดินสำรวจก็เจอ 2- 3 เเห่งแล้ว
เด็ก ๆ ก็จะเล่นกันในซอยย่อยแบบนี้ค่ะเพราะไม่มีรถพลุกพล่าน อีกทั้งไม่มีสวนสาธารณะให้เล่นจึงมักจะเล่นกันในซอยแบบนี้
เดินมาใกล้กับปากซอยประชาสงเคราะห์ 28 เป็นโรงเรียนอีกเเห่งค่ะคือโรงเรียนอำนวยพิทยา จะใหญ่กว่าโรงเรียนกอบวิทยาค่ะ
เดินมาถึงหัวมุมโค้งใกล้ปากซอยประชาสงเคราะห์ 28 แล้วค่ะ ส่วนใหญ่ตรงนี้จะเป็นบ้านเรือน บ้านเดี่ยวในซอย
หัวมุมจะมีที่ทำการ คณะกรรมการ ชุมชนซอยผาสุข(เป็นชื่อที่คนละเเวกนี้เรียกซอยประชาสงเคราะห์ 28 ค่ะ) การมีที่ทำการให้ความรู้สึกเป็นชุมชนที่มีการประสานงานและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันดีค่ะ คล้ายๆ กับหมู่บ้านในต่างจังหวัด วันที่ไปสำรวจก็มีการเปิดเพลงครึกครื้น สอบถามได้ความว่าเพราะพรุ่งนี้จะมีวันผู้สูงอายุค่ะ
ตรงข้ามกับที่ทำการคณะกรรมการจะมีซอย ในเเผนที่จะเห็นเป็นซอยที่เหมือนทะลุไปซอยเปรมสมบัติและรัชดาซอย 7 ได้แต่จริง ๆ เป็นซอยตันค่ะ
เลี้ยวซ้ายมาผ่านที่ทำการ จะเป็นบ้านถนนหน้าตาดูสะอาดตา ตรงนี้ให้เลี้ยวขวาเพื่อไปยังถนนประชาสงเคราะห์
เดินไปอีกประมาณ 70 เมตรก็จะเจอกับถนนประชาสงเคราะห์ค่ะ
ด้านหลังป้ายของโรงเรียนอำนวยวิทยา ถนนตรงหน้าที่เห็นคือถนนประชาสงค์เคราะห์
เส้นทางที่ 7 เป็นเส้นทางย่อย ๆ ของซอยนาทองหรือรัชดาซอย 7 ค่ะ เนื่องจากเป็นอีกซอยที่มีอพาร์ทเม้นท์ ซะเป็นส่วนใหญ่มีร้านค้า ร้านอาหารตามสั่งเล็ก ๆ ตลอดเส้นทางเหมาะสำหรับคนทำงานและน้อง ๆ นักศึกษา และมีเส้นทางที่ลัดผ่านใช้เส้นทาง Big C ซึ่งคนที่อยู่ในซอยเส้นนี้จะสะดวกค่ะเนื่องจาก Big C ปิดเที่ยงคืน ดังนั้นถ้าวันไหนต้องกลับดึกก็สามารถเดินเข้าผ่าน Big C ได้ทำให้ดูปลอดภัยขึ้นมาในระดับหนึ่ง ออกจาก Big C ก็เดินไม่ไกลก็จะถึงที่พักค่ะ
เริ่มจากนาทองซอย 6 เป็นซอยเล็ก ๆ ที่เชื่อมกับซอย 4 ค่ะ ซอยนี้มีร้านอาหารใต้เจ้าอร่อยอยู่ค่ะ แกงคั่วถึงเครื่องอย่าบอกใครเชียว
ราคาวินโดยประมาณของซอย 6 ค่ะ
ในซอยจะเป็นอพาร์ทเม้นท์ ซะส่วนใหญ่ค่ะรถผ่านลำบากเนื่องจากมักมีการจอดข้างทางเเบบนี้
ในซอยมีร้านอาหารอยู่ หน้าตาดูน่านั่งค่ะ ใครเคยเเวะชิมก็มาบอกได้นะคะว่าอร่อยรึเปล่า
ซอยนี้จะมีโรงน้ำเเข็งค่ะ คนอยู่ในซอยจะได้ยินเสียงกึงกังตลอดทั้งวันเลย ถ้าใครทนได้ก็อยู่สบาย ทนไม่ได้ก็หาหอที่ไกลกว่าหน่อย ยังไงถ้าจะหาที่พักก็ลองเดินดูรอบ ๆ นะคะว่าห้องที่จะอยู่ได้ยินเสียงโรงน้ำเเข็งหรือไม่
เดินมาสุดซอยจะเป็นทางเลี้ยวขวาเข้าไปเชื่อมกับนาทองซอย 4 ค่ะ
เลี้ยวไปจะเห็นอพาร์ทเม้นท์ ของนาทองซอย 4 แบบนี้ค่ะ
เส้นต่อไปคือนาทองซอย 4 ลักษณะจะคล้าย ๆ กันค่ะคือเป็นซอยพักอาศัยที่มีอพาร์ทเม้นท์ เป็นส่วนใหญ่
หน้าตาอพาร์ทเม้นท์ ในซอยที่มีราคาห้องพัดลมเริ่มที่ 2,700 และห้องแอร์เร่ิมที่ประมาณ 4,500 บาทค่ะ
ซอยนี้จะอยู่ติดกับด้านหลังของโรงน้ำเเข็ง ดังนั้นอพาร์ทเม้นท์ ตรงนี้ก็จะได้ยินเสียงกึงกังเช่นเดียวกันค่ะ
เดินมาด้านซ้ายจะเห็นซอยที่เชื่อมกับซอย 6 เมื่อกี้ค่ะ
เดินมาสุดซอย เลี้ยวซ้ายเป็นBig C เลี้ยวขวาเป็นศรีวราเเมนชั่น
เลี้ยวซ้ายเจอทางไป Big C แบบนี้ค่ะ
เลี้ยวขวาจะเจอกับทางเข้าศรีวราเเมนชั่น และนาทองซอย 3
เส้นทางสุดท้ายสำหรับการพาชมทำเลรอบ MRT ศูนย์วัฒนธรรมค่ะ เส้นทางนี้คือนาทองซอย 3 สภาพเเวดล้อมและอาคารจะเป็นเช่นเดียวกับนาทองซอย 4 และ 6 แต่จะมีร้านค้าร้านอาหารมากกว่าอาจเนื่องจากอยู่ติดกับทางเข้าของศรีวราเเมนชั่น
ปากทางเข้านาทองซอย 3 ค่ะ
เข้ามาจะมีบ้านเดียวและ อพาร์ทเม้นท์ มากมายเลยทีเดียว
วินมอเตอร์ไซค์จะอยู่กลางซอยค่ะ ด้านล่างอพาร์ทเม้นท์ จะมีร้านค้า ร้านอาหารตามสั่ง
ข้างศรีวราเเมนชั่นจะมี FamilyMart และร้านอาหาร ร้านส้มตำ
เดินไปตรงหัวมุมตรงข้ามทางเข้าศรีวราเเมนชั่นจะมีร้านอาหารตามสั่งอยู่ 2 ร้านค่ะเเละมีร้านขายพวกชา กาเเฟ
ทิ้งท้ายกันด้วยภาพ หน้าศรีวราเเมนชั่นที่จะมีวินมอเตอร์ไซค์ตั้งอยู่ค่ะ
เจาะลึกรวบยอด
การคมนาคม….MRT ศูนย์วัฒนธรรมเเห่งประเทศไทย ตั้งอยู่บนถนนรัชดาภิเษกไม่ไกลจากเเยกพระราม 9 ซึ่งถนนพระราม 9 เป็นถนนที่คึกคักเนื่องจากเป็นเส้นหลักในการเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ และยังต่อเนื่องไปจนถึงถนนมอเตอร์เวย์สายตะวันออกด้วย พูดง่ายๆคือจากแยกพระราม9 นี้ตรงไปตามถนนพระราม9 เรื่อยๆนี่ไปได้จนถึงชลบุรี-พัทยาเลย และยังเชื่อมกันเส้นเพชรบุรี และตรงไปเรื่อย ๆ ไปถึงอโศกและสามารถเลี้ยวไปจนถึงอนุเสาวรีย์ชัยได้ แต่เเน่นอนว่าไปได้หลายเส้นทางเเบบนี้ช่วงพระราม 9 รถจะติดซึ่งจะส่งผลให้ทำให้คนมักจะใช้เส้นทางนี้หรือถ้าจะมาโซนศูนย์วัฒนธรรม ผ่านพระราม 9 ก็จะพลอยเสียเวลารถติดตรงบริเวณนั้นพอสมควรค่ะ
สำหรับการเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัวตรงนี้จะขอเเยกเป็นสามส่วน คือ 1 ส่วนที่ติดกับถนนรัชดาภิเษก แน่นอนว่าส่วนที่ติดกับถนนใหญ่ย่อมมีรถเมล์วิ่งผ่าน ตรงนี้มีรถตู้ที่สามารถไปเมเจอร์รัชโยธินได้ และเดอะมอลล์งามวงศ์วาน แต่รถตู้เดอะมอลล์งามวงศ์วานต้องรอนานค่ะ นานมากกว่าจะผ่านมาซักคัน จุดที่รอรถตู้ก็ตรงป้ายรถเมล์ได้เลย สำหรับเส้นนี้จะเรียกเเท็กซี่หรือวินมอเตอร์ไซค์ไม่ยาก เพราะมีหลายจุดให้เรียกใช้บริการ สำหรับมอเตอร์ไซค์ ช่วงเวลาเร่งด่วน หรือช่วงเย็นหลังเลิกงานบางทีต้องต่อคิวกันยาวเลยค่ะ โดยเฉพาะจุดข้าง Big C สำหรับส่วนที่ 2 คือส่วนที่อยุ่ในซอยรัชดาซอย 7 (ซอยนาทอง) ,ซอยชานเมือง ซึ่งจะเป็นซอยเล็ก ๆ ที่รถเมล์ไม่วิ่งผ่าน สะดวกสุดเห็นจะเป็นวินมอเตอร์ไซค์เนื่องจากมีทุกหัวมุมซอยกันเลยทีเดียวค่ะ และส่วนนี้จะเดินมาขึ้นรถเมล์ รถไฟฟ้า หรือรถตู้ก็ไม่ลำบากเกินไปนัก ใครไม่อยากเดินก็นั่งวินมาไม่เกิน 15 บาทเองค่ะ สำหรับส่วนที่ 3 คือฝั่งถนนเทียมร่วมมิตรและถนนวัฒนธรรม เส้นนี้ถือว่าไม่สะดวกนักค่ะเพราะเส้นเทียมร่วมมิตร จะมีรถเมล์วิ่งเฉพาะฝั่งของเดียวกับสยามนิรมิต แต่ถ้าวนกลับมาอีกด้านฝั่งท่าปล่อยรถเมล์ ก็จะหายยากแล้วค่ะ ต้องเดินมาตรงท่าปล่อยรถถึงจะมีรถเมล์ให้ใช้บริการ สำหรับเส้นวัฒนธรรม รถเมล์ก็ไม่ค่อยมีรถเมล์วิ่งผ่าน ต้องไปตรงท่าปล่อยรถเช่นเดียวกัน
สภาพแวดล้อมและชุมชน….โดยรอบเป็นพื้นที่พักอาศัยและสำนักงาน เริ่มมีคอนโดที่มีมานานอยู่ไมกี่เเห่งแต่ปัจุบันได้มีเพิ่งขึ้นมาเรื่อยๆ ส่วนที่ติดกับถนนรัชดาภิเษก เป็นอาคารสำนักงาน และร้านค้า มีพนักงานออฟฟิศเยอะจึงมีร้านรถเข็น ทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็น ทำให้บริเวณนี้หาอาหารการกินไม่ยาก ส่วนที่อยุ่ในซอยรัชดาซอย 7 (ซอยนาทอง) ,ซอยชานเมือง เป็นลักษณะที่เป็นชุมชน มีบ้านเดียวและอพาร์ทเม้นท์ซะเป็นส่วนใหญ่ ร้านค้า ร้านอาหารก็มีตรงชั้นล่างของตึกเเถว มีตลาดและร้านรถเข็นเล็กๆ ให้เลือกซื้อเลือกจับจ่ายได้สะดวก แต่สำหรับ ฝั่งถนนเทียมร่วมมิตรและถนนวัฒนธรรม จะเป็นเต้นท์รถ สำนักงานเล็ก ๆ ท่าปล่อยรถเมล์ ซะส่วนใหญ่ทำให้อาหารการกินหายากค่ะ แต่ถ้าไปทางเหม่งจ๋ายก็มีร้านค้าให้เลือกซื้อได้เยอะ ไปทางนั้นก็ไม่ต้องมารถติดหรืออ้อมเข้ามาฝั่งรัชดาเพื่อมาจับจ่ายใช้สอย
การพัฒนาในอนาคต…การพัฒนาจากอดีตในโซนศูนย์วัฒนธรรม ตั้งแต่มีรถไฟฟ้าเข้ามาถือว่าพัฒนาตรงช่วงติดขอบถนนรัชดาภิเษกได้เยอะ ไล่ตั้งแต่ตรง MRT พระราม 9 ที่มีเซ็นทรัลพระราม 9 และฟอร์จูนที่คึกคักกว่าเดิม ยิ่งถ้าช่วงพระราม 9 มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นก็จะเข้ามาช่วงโซนศูนย์วัฒนธรรมค่ะ อย่างเห็นได้ที่เริ่มมีคอนโดกำลังก่อสร้างมากขึ้น ช่วงในซอยอาจจะพัฒนาได้ยากหน่อยเนื่องจากพื้นที่นั้นเป็นทาวน์โฮม บ้านเดี่ยว และเป็นชุมชนซะส่วนใหญ่ ถ้าจะสร้างคอนโดไม่มีพื้นที่เปล่าให้สร้างต้องซื้อและรื้อตึกปัจจุบันที่มีอยู่ค่ะ ซึ่งก็ยากเนื่องจากต้องเวนคืนพื้นที่ อยากมีปัญหาค่อนข้างมากและจัดการยากเนื่องจากชุมชนอยู่กันมานานมากแล้ว สำหรับช่วงเทียมร่วมมิตรและถนนวัฒนธรรม มีการพัฒนาอย่างช้า ๆ เนื่องจากบริเวณนั้นยังมีพื้นที่เปล่าที่รอการพัฒนาอยู่เยอะค่ะ แต่ติดตรงลักษณะการใช้ถนนที่ต้อง One-way จึงทำให้หลาย ๆ คนอาจไม่ค่อยชอบใช้เส้นทางนี้นัก นอกจากจะเลี่ยงรถติด แต่โดยรวมโซนนี้ถือว่าเป็นเส้นที่ยังพัฒนาเพิ่มได้อีกค่ะ แต่ใครจะพัฒนาเป็นอะไร เป็นห้างสรรพสินค้าเเถวนี้ก็มีมากอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นคอนโดคงมีคนสนใจอยู่ไม่น้อยทีเดียว
เรื่องพึงระวัง... ย่าน MRT ศูนย์วัฒนธรรม แบ่งเป็นสองฝั่งนะคะ คือ ฝั่งศูนย์วัฒนธรรม กับฝั่ง Esplanade ซึ่งการอยู่อาศัยจะแตกต่างกันมาก … ชุมชนดั้งเดิมจะอยู่ฝั่ง Esplanade ที่ค่อนข้างจะคึกคักและอุดมสมบูรณ์กว่าอีกฝั่งอย่างมาก ส่วนฝั่ง ศูนย์วัฒนธรรมจะยังคงเป็นพื้นที่ ที่ยังว่างเปล่า อยู่เยอะ จะเปลี่ยวกว่า ทั้งนี้ ทั้งสองฝั่ง จะมีสถานบันเทิงแทรกตัวอยู่นะคะ การดูทำเลที่อยู่อาศัย ควรต้องพิจารณาให้ดี เพราะใครมีลูกสาวคงไม่อยากให้อยู่ใกล้สถานบังเทิงแบบนี้ค่ะ
BOTTOM LINE
สำหรับทำเลแถว MRT ศูนย์วัฒนธรรมเเห่งประเทศไทย เป็นทำเลที่เหมาะกันคนที่ต้องการอาศัยในย่านที่ไปยังเเหล่งสาธารณูปโภค เเหล่งชอบปิ้งต่างๆ ได้ไม่ยาก อาคารสำนักงานและสถานบันเทิง มีความสะดวกในการคมนาคมเนื่องจากเชื่อมต่อเส้นทางได้หลายสาย แต่เรื่องรถติดก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งของเส้นทางที่เชื่อมกันแบบนี้ และอาจเหมาะสำหรับคนที่ทำงานโซนนี้หรือใช้รถไฟฟ้าเป็นหลัก นักเรียน นักศึกษา เนื่องจากเดินทางสะดวกและมีอพาร์ทเมนท์ คอนโดมิเนียมให้เลือกอยู่กันค่ะ
*อ่านสักนิด* ในการเลือกทำเลใกล้รถไฟฟ้าแต่ละสถานีนั้น แต่ละคนมีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน ให้น้ำหนักในแต่ละเรื่องที่ไม่เท่ากัน บางคนเลือกที่จะอยู่ใกล้สถานีที่อยู่ในตัวเมือง เพราะสภาพชุมชนรอบๆที่คึกคัก สามารถไปไหนมาไหนด้วยรถยนต์ได้ด้วย ขอนั่งไปสองสามสถานีแล้วถึงที่ทำงานเลย คนพวกนี้ก็ต้องจ่ายแพง ในขณะที่บางคนบอกว่า ออกไปอยู่ไกลๆหน่อยก็ได้ สุดสายเลยก็ไม่ว่ากัน แค่ขอให้ติดรถไฟฟ้าก็พอ ยอมตื่นเช้าขึ้นซัก 15-30 นาที แต่จ่ายถูกกว่า และเงียบสงบกว่า ส่วนบางคนก็อาจคิดเผื่ออนาคตหรือความสะดวกหากวันหนึ่งนึกอยากใช้รถไฟฟ้า ก็เลือกที่อยู่อาศัยใกล้สถานี ขอให้ใกล้ไว้ก่อน แม้ว่าตัวเองอาจจะไม่ได้เดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็ตาม แล้วสถานีไหนล่ะจึงจะเป็นสถานีที่ดีที่สุด? อันนี้ก็ต้องอยู่ที่การตัดสินใจของแต่ละบุคคลค่ะ ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าสถานีใดเป็นสถานีที่ดีที่สุดดีเท่ากับตัวคุณเองหรอกค่ะ
สุดท้ายนี้ รบกวนขอให้เพื่อนๆโดยเฉพาะเพื่อนๆที่อยู่ในพื้นที่ ช่วยกัน Comment แบ่งปัน เพิ่มเติมข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารอร่อย ทางลัดเล็กๆน้อยๆ หรือสภาพแวดล้อมทั้งดีและไม่ดี ให้กับผู้อ่านที่กำลังหาบ้านโซนนี้ด้วยนะคะ