DSCN8593_WM

มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS วุฒากาศ (S11) …สถานีรถไฟฟ้า BTS วุฒากาศ เป็นสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มอยู่ระหว่างสถานี ตลาดพลู และ สถานีบางหว้า ตัวสถานีจะตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์และอยู่คร่อมคลองด่าน บริเวณตัวสถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศไม่ได้อยู่ติดกับย่านชุมชนโดยตรง ทำให้บรรยากาศโดยรอบจะไม่คึกคักเหมือนกับสถานีในเมืองที่มีคอนโดหลายแห่งอยู่ใกล้ๆ ปัจจุบันมีเพียงร้านค้าเพิงริมทางอยู่นิดหน่อยเท่านั้น ในอนาคตโดยรอบสถานีน่าจะคึกคักขึ้นกว่านี้ เพราะปัจจุบันเริ่มเห็นมีโครงการประเภทคอนโดมาทยอยสร้างบ้างแล้ว ส่วนย่านชุมชนวุฒากาศจะเป็นชุมชนเก่าแก่ ดังนั้นสภาพแวดล้อมส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบซะมากกว่า และสถานที่สำคัญต่างๆจะเป็นวัดและโรงเรียนเยอะมากๆค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบ

  • โรงเรียนอำนวยศิษย์ศึกษา
  • โรงเรียนมนตรีวิทยา
  • วัดใหม่ยายนุ้ย 
  • วัดราชโอรส
  • วัดนางนองวรวิหาร
  • วัดหนังราชวรวิหาร
  • วัดแม่พระประจักษ์เมืองลูร์ค
  • วัดนางชี
  • วัดอัปสรสวรรค์
  • วัดขุนจันทร์
  • วัดนาคปรก
  • วัดปากน้ำ
  • วัดเพลง
  • วัดนางชีโชติการาม

แผนที่สถานีวุฒากาศ (คลิกที่ภาพเพื่อขยายใหญ่)

Area Map S11 Left_2

สถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศเป็นสถานีสายสีลม ส่วนต่อขยายแยกตากสิน-บางหว้า สถานีตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์ บริเวณสี่แยกราชพฤกษ์-วุฒากาศ สถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศเริ่มเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2556 โดยมีอัตราค่าใช้บริการเที่ยวละ 10 บาทค่ะ

การคมนาคม

สถานี BTS วุฒากาศ ตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์ ถนนเส้นนี้เป็นถนนที่ทอดยาวจากฝั่งพระนครไปจนถึงจังหวัดนนทบุรี (ช่วงบางบัวทอง บางใหญ่) ถนนราชพฤกษ์เป็นจุดเชื่อมต่อของถนนหลายสายทั้งถนนกัลปพฤกษ์,ถนนเพชรเกษม, ถนนเทอดไท,ถนนรัชดาภิเษก,ถนนบรมราชชนนี ถนนราชพฤกษ์ช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าและเย็นรถจะติดเอามากๆ ช่วงเช้าจะติดฝั่งขาเข้าเมือง ถ้าใครใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางอาจจะต้องออกจากบ้านกันเช้านิดนึงค่ะ ช่วงเย็นก็จะติดขาออกจากเมืองเนื่องจากเป็นช่วงเลิกงานพร้อมๆกัน สำหรับใครที่หลีกเลี่ยงปัญหารถติดมาใช้บริการรถไฟฟ้า BTS ก็เป็นอีกทางเลือกนึงค่ะเนื่องจากสะดวกสบายและประหยัดเวลา

มาดูเส้นทางสัญจรบนถนนราชพฤกษ์กันค่ะ เนื่องจากคนที่ไม่เคยมาแถวนี้อาจจะไม่คุ้นชินกับเส้นทางดังนั้นทีมงานจะขออธิบายเส้นทางคร่าวๆให้ฟังนะคะ เริ่มจากถนนราชพฤกษ์มุ่งหน้าไปทางสาทรสามารถตัดเข้าถนนรัชดาภิเษกสามารถไปพระราม 3 และ จรัญสนิทวงศ์ได้ เส้นทางต่อมาคือถนนราชพฤกษ์ตัดเข้าถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินวิ่งไปเชื่อมกับวงเวียนใหญ่ซึ่งเป็นแยกใหญ่ ที่เชื่อมถนน 4 สาย ถนนประชาธิปก ตรงข้ามสะพานไปฝั่งพระนครได้ ถนนลาดหญ้าไปเจริญนคร ส่วนถนนอินทรพิทักษ์ไปเชื่อมกับถนนจรัญสนิทวงศ์ และถนนเพชรเกษมได้ค่ะ และถนนราชพฤกษ์มุ่งหน้าไปทางนนทบุรี ไปตัดเข้ากับถนนบรมราชชนีได้ค่ะ

ถนนกัลปพฤกษ์ บนถนนเส้นนี้มีแยกใหญ่ๆอยู่สองแยก แยกแรกคือตัดเข้าถนนกำนันแม้นสามารถไปออกถนนเอกชัยตัดเข้าถนนวุฒากาศได้และจากถนนเอกชัยตรงเลยทางเข้าถนนวุฒากาศไปเข้าถนนจอมทองไปออกตากสินได้ค่ะ แยกที่สองตัดเข้าถนนบางบอน 1 ไปเชื่อมกับถนนเอกชัยได้ค่ะ และถนนกัลปพฤกษ์สามารถไปเชื่อมกับถนนกาญนาภิเษกมุ่งหน้าไปบางแคได้

ถนนเพชรเกษมสามรถมุ่งหน้าไปบางแคสามารถตัดเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 1ได้และไปออกถนนบรมราชชนนีได้ด้วย ถนนเพชรเกษมเข้าซอยเพชรเกษม 23 สามารถไปถนนเทอดไทได้ ถ้ามุ่งหน้าไปวงเวียนใหญ่ตัดเข้าถนนจรัญสนิทวงศ์และถนนรัชดาภิเษกไปพระราม 3 ได้ค่ะ

D1

เพื่อให้เห็นภาพการเดินทางบนถนนราชพฤกษ์และรอบๆสถานี BTS วุฒากาศเราจึงทำแผนผังเส้นทางการเดินทางเพื่อจะได้เห็นภาพชัดขึ้นค่ะ มาดูกันที่เส้นทางแรกคือเส้นสีน้ำเงินมาจากทางกรุงธนบุรี,ทางสาทร มุ่งหน้าเข้าเส้นกัลปพฤกษ์ไปถนนกาญจนาภิเษกได้ เส้นทางที่ 2 มาจากทางกรุงธนบุรี,ทางสาทร มุ่งหน้าไปราชพฤกษ์ไปถนนเพชรเกษมและบรมราชชนนีได้ค่ะ

D2

เส้น ทางที่ 3 สมมุติว่าถ้าเราอยู่โครงการที่ติดกับ BTS เลย เช่น Tempo Grand, The Key และ Aspire เวลาวิ่งขึ้นทางยกระดับจากทางสาทรจะมาต้องชิดซ้ายขึ้นทางยกระดับเพื่อวนไปลง ถนนราชพฤกษ์ (ทางไปถนนเพชรเกษม, บรมราชชนนี) เพื่อกลับรถใต้สะพานข้ามคลองภาษีเจริญ แล้ววิ่งชิดซ้ายมาเรื่อยๆจนกลับรถอีกครั้งบริเวณใต้สะพานตรงสถานี ถึงจะเข้าโครงการได้ค่ะ (กลับรถใต้สะพานทั้งหมด 2 ครั้งค่ะ)

d5

เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นมาดูภาพทางยกระดับและทางแยกต่างๆกันค่ะ ทางแยกบริเวณทางยกระดับด้านขวาไปถนนราชพฤกษ์สามารถไปถนนเพชรเกษมได้ ด้านซ้ายไปถนนกัลปพฤกษ์ตัดเข้าถนนกาญจนาภิเษก (จากรูปอธิบายเส้นทางที่ 1และ2)

ไลลบ

ขึ้นทางยกระดับมาจะเจอแยกด้ายซ้ายไปกลับรถใต้สะพานกลับไปถนนราชพฤกษ์มุ่งหน้าไปทางสาทร (เส้นทางที่ 3 ) ด้านขวาไปถนนเพชรเกษมเราไปต่อกันทางถนนเพชรเกษม, บรมราชชนนีค่ะ (เส้นทางที่ 2 )

ลล

ตรงมาอีกเจอแยก ด้านซ้ายไปถนนเพชรเกษมไปถนนกาญจาภิเษกได้ ด้านขวาไปถนนบรมราชชนีค่ะ (เส้นทางที่ 2 )

1

เรามาดูแผนผังการเดินทางวันนี้กันเลยค่ะ เส้นทางแรกเราจะเริ่มจากที่ตัว BTS วุฒากาศ (ทางออก1,2) เดินไปจนถึงถนนกัลปพฤกษ์ เส้นทางที่ 2 จากถนนกัลปพฤกษ์เข้าสู่ถนนเอกชัยแล้วตัดเข้าถนนวุฒากาศ (ช่วงปลาย) ซึ่งซอยวุฒากาศเราจะเริ่มเห็นวิถีชีวิตและชุมชนของผู้คนย่านวุฒากาศกันค่ะ เส้นทางที่ 3 ยังอยู่กันที่ถนนวุฒากาศแต่เป็นช่วงซอยต้นๆ แล้วเข้าสู่ถนนเทอดไท ย่านนี้มีวัดดังๆอยู่หลายวัดเช่นวัดปากน้ำ วัดนาคปรก เป็นต้น เส้นทางสุดท้ายคือเส้นทางที่ 4 จากถนนเทอดไททะลุเข้าถนนราชพฤกษ์กลับมาดูอีกฝั่งของ BTS วุฒากาศกันค่ะ

เจาะลึกรอบสถานี

บรรยากาศชานชาลาสถานีวุฒากาศตอนประมาณ 9 โมงเช้าค่ะ (ฝั่งที่เรายืนอยู่เป็นทางมุ่งหน้าไปทางสถานีบางหว้าค่ะคนแทบจะไม่มีเลยค่ะ) ส่วนฝั่งตรงข้ามมุ่งหน้าไปทางวงเวียนใหญ่ สามารถไปต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อนได้ที่สถานีสยามค่ะ

d6

แผนผังมุมมองจากบนสถานี BTS วุฒากาศค่ะ

DSCN8507_WM

(หมายเลข 1 ) เป็นภาพที่อยู่อาศัยบริเวณสถานีจะเห็นได้ว่าบ้านเรือนแถวนี้ส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยว ตึกสูงประมาณ 2-4 ชั้น ไม่ค่อยมีอาคารสูงและยังมีพื้นที่รกร้างที่ยังไม่ได้รับการพัฒนา

(หมายเลข 2) จากบนสถานีมองลงไปเห็นโรงเรียนวัดใหม่ยายนุ้ยซึ่งจะเห็นได้ว่ามีบ้านเรือนเยอะเป็นแหล่งชุมชน

(หมายเลข 3 ) ถัดจากโรงเรียนเป็นวัดใหม่ยายนุ้ยอยู่ติดกับคลองบางขุนเทียน

(หมายเลข 4 ) อย่างที่ทราบกันว่าตัวสถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศนั้นตั้งอยู่คร่อมคลองบางขุนเทียน สองฝั่งคลองเป็นบ้านพักอาศัยสลับกับวัด วัดส่วนใหญ่จะอยู่ติดคลองเนื่องจากสมัยก่อนการเดินทางใช้การเดินทางโดยเรือเป็นหลักค่ะ

23

(หมายเลข 5 ) จากตรงนี้มองเห็นโครงการคอนโด The Key สูงเด่นอยู่ เนื่องจากแถวนี้ยังไม่ค่อยมีคอนโดสูงที่สร้างเสร็จแล้ว มีแต่ที่กำลังก่อสร้างอยู่ค่ะส่วนใหญ่บริเวณนี่จะเป็นชุมชน บ้านเดี่ยว และตึกแถวค่ะ

DSCN8562_WM

(หมายเลข 6 )ในภาพเป็นทางยกระดับถนนราชพฤกษ์ขาออกมุ่งหน้าไปถนนกัลปพฤกษ์และถนนเพชรเกษมได้ค่ะ

DSCN8564_WM

(หมายเลข 7 )ทางยกระดับถนนราชพฤกษ์มีการยกระดับที่สูงเท่ากับตัวสถานีรถไฟฟ้า ทำให้ตัวสถานีไม่สามารถข้ามไปอีกฝั่งนึงได้ สถานี BTS วุฒากาศจึงมีทางขึ้นลงสถานีเพียงฝั่งเดียว

กัลปพฤกษ์แดง

มาเริ่มเส้นทางแรกกันจากตัวสถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศซึ่งตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์ มุ่งหน้าเดินไปทางถนนกัลปพฤกษ์กันเลยค่ะ ถนนราชพฤกษ์สภาพตัดเข้าถนนกัลปฤกษ์สภาพทางระหว่างเดินไม่ค่อยน่าเดินสักเท่าไหร่ เนื่องจากบางช่วงไม่มีฟุตบาท รถที่วิ่งบนถนนเส้นนี้ก็ค่อนข้างจะเร็ว (ถ้าเดินก็ต้องระวังๆกันหน่อยนะคะ) รถแท็กซี่อาจจะหาค่อนข้างยากนิดนึง (ช่วงถนนราชพฤกษ์ถึงประมาณช่วงโค้งเข้าถนนกัลปพฤกษ์ค่ะ)

บรรยากาศฝั่งถนนราชพฤกษ์ บนทางยกระดับสามารถไปถนนกัลปพฤษ์ ถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าไปทางบางหว้าค่ะ

บรรยากาศภายในชานชาลาเงียบเหงาไม่ค่อยมีคนมาใช้บริการสักเท่าไหร่ (เวลาประมาณ 9 โมงนะคะ)

เรามาดูทางออกของสถานีกันบ้างค่ะด้านด้านขวาเป็นทางออก 3,4,และ 5 ทางออกทั้ง 3 ทางจะอยู่ฝั่งเดียวกันเนื่องจากสถานีวุฒากาศเป็นสถานีที่มีทางลงฝั่งเดียวตัวสถานีเองก็ไม่ได้คร่อมไปอีกฝั่งเหมือนกับสถานีอื่นเนื่องจากมีทางยกระดับกั้นอยู่ค่ะ

DSCN8486_WM

เรามาดูกันที่ทางออก 3,4และ5 ซึ่งอยู่ฝั่งเดียวกันก่อนเลยค่ะ (บันไดในภาพคือทางออกที่ 4 ) เป็นทางขึ้นไม่สามารถเดินลงได้เพราะเป็นบันไดเลื่อน ถ้าคนที่อยู่ฝั่งถนนวุฒากาศเวลาเดินลงต้องไปใช้บันไดที่ทางออกที่ 1,2และ3 แล้วเดินย้อนกลับมาค่ะ สภาพถนนบริเวณนี้มีสภาพไม่ค่อยดียังขรุขระอยู่บ้างบางจุด

DSCN8504_WM

คนที่มาใช้บริการรถไฟฟ้าจะมาจอดรถใต้สะพานหรือไม่ก็จอดข้างทางกันค่ะ เนื่องจากทางสถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศไม่มีที่จอดรถรองรับให้กับคนที่มาใช้บริการ (คาดว่าจะมีการปรับปรุงในอนาคตค่ะ)

DSCN8590_WM

ทางสถานีมีการเตรียมพื้นที่สำหรับจอดรถจักรยานและรถมอเตอร์ไซค์ให้ด้วย

DSCN8581_WM

ใต้สถานีมีทางข้ามคลองสำหรับเข้าไปยังชุมชนด้วย

DSCN8586_WM

ในคลองบางขุนเทียนมักจะเห็นเรือที่นำนักท่องเที่ยว มาเที่ยวชมวัดและสถานีที่ท่องเที่ยวริมคลอง เนื่องจากสมัยก่อนการเดินทางในชีวิตประจำวัดเป็นการเดินทางด้วยเรือเป็นหลัก ทำให้วัดและบ้านเรือนสร้างอยู่ริมคลอง

10

ทางออก 1 และ 2 อยู่ฝั่งเดียวกัน เราจะเดินสำรวจเส้นทางนี้กันค่ะ

DSCN8556_WM

ทางขึ้นลงสถานีฝั่งทางออก 1 และ 2 ฝั่งนี้มีบันไดเลื่อนเวลาขึ้นส่วนตอนลงๆบันไดปกติทางด้านขวามือ ทางขึ้นลงด้านนี้ลองรับคนที่มาใช้บริการจากฝั่งราชพฤกษ์และที่มาจากถนนกัลปพฤกษ์เป็นหลัก และเนื่องจากอยู่ตรงจุดรับส่งรถสาธารณะทำให้ทางขึ้นลงฝั่งนี้ดูครึกคักกว่าฝั่งที่ 3,4 และ 5 ค่ะ

ลงจากตัวสถานีมามีร้านขายขนมปังและข้าวกล่องตั้งอยู่ บริเวณตัวสถานีไม่ค่อยมีร้านขายของ แม้แต่เซเว่นอีเลฟเว่นก็ไม่มีในระแวกสถานีค่ะ ข้างๆกันมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ด้วย ซึ่งแตกต่างจากสถานีอื่นเช่น สถานีวงเวียนใหญ่ที่บริเวณโดยรอบของสถานีวงเวียนใหญ่ มี่ทั้งร้านสะดวกซื้ออย่าง เซเว่นอีเลฟเว่น และร้านค้ารถเข็นเต็ม 2 ข้างทาง นอกจากร้านค้าที่คึกคักแล้วบริเวณโดยรอบของสถานีวงเวียนใหญ่ยังมีตึกแถว อาคารสำนักงาน และคอนโดมิเนียม อยู่หนาแน่นและดูไม่เงียบเหงาเหมือนสถานีวุฒากาศ

อัตราค่าบริการวินมอเตอร์ไซค์ค่ะ จากป้ายจะเห็นว่าจุดหมายปลายทางที่คนมาใช้บริการส่วนใหญ่จะอยู่แถววัดกกันซะเยอะค่ะ

ข้างๆสถานีมีจุดจอดรับส่งคนที่มาใช้บริการ BTS ด้วยค่ะ มีทั้งรถยนต์ส่วนตัว, รถตู้ และ รถแท๊กซี่ค่ะ

เราจะมุ่งหน้าไปตามถนนกัลปพฤกษ์กันค่ะ บรรยากาศตรงนี้ยังไม่ค่อยคึกครื้น ยังดูไม่เจริญเท่าไหร่อาจจะเป็นเพราะสถานีรถไฟฟ้าเพิ่งสร้างเสร็จได้ไม่นาน และโครงการคอนโดต่างๆเพิ่งเริ่มสร้างกัน (จะมีที่สร้างเสร็จแล้วก็คือคอนโด The Key ฝั่ังเดียวกับ BTS ) ดังนั้นความเจริญจะค่อยๆตามมาหลังจากนี้ค่ะ

ฝั่งตรงข้ามเป็นที่จอดรถใต้สะพานซึ่งคนที่มาใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสจะมาจอดกันแต่ไม่ได้เป็นที่จอดที่ทางสถานีจัดไว้นะคะ

บรรยากาศภายในพื้นที่จอดรถใต้สะพาน รกร้างและไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่ยิ่งถ้าเป็นผู้หญิงไม่แนะนำให้มาจอดค่ะ แล้วยังเสี่ยงกับรถหายอีกด้วย (คนมาจอดกันค่อนข้างเยอะเนื่องจากทางสถานีรถไฟฟ้าไม่ได้มีการเตรียมสถานที่จอดรถไว้ให้สำหรับผู้ที่มาใช้บริการค่ะ)

ถนนบริเวณนี้วิ่งได้เลนเดียวเนื่องจากมีรถจอดอยู่ข้างถนนตลอดแนวเลยทีเดียว เป็นรถของผู้ที่มาใช้บริการรถไฟฟ้าอีกเช่นกัน คลองเล็กๆซ้ายมือมีขยะประปราย และตอลอดริมคลองจะมีบ้านพักอาศัยอยู่ตลอดทางค่ะ

เดินถัดมาจากสถานีมาจะเห็นสำนักงานขายคอนโด โครงการ The Tempo Grand สาทร-วุฒากาศ

ด้านซ้ายมือเป็นร้านอาหารเพิงริมทาง ระแวกนี้ส่วนใหญ่เป็นร้านค้าแบบนี้ตลอดทาง ร้านสะดวกซื้อยังไม่มีในบริเวณนี้ค่ะ ตึกสีฟ้าด้านหนังเป็นหอพัก

ถัดไปเป็นโครงการคอนโด The Key วุฒากาศ ซึงเป็นโครงการที่สร้างเสร็จแล้วค่ะ

เดินถัดไปเป็นโรงงานซีแพคค่ะ (ตึกที่มีสแลนสีเทาด้านหนังโรงงานเป็นโครงการคอนโด Aspire สาทร-ตากสิน )

แถวนี้มีร้านอาหารที่เป็นเพิงเยอะ เนื่องจากจากมีคนที่ขับรถสาธารณะมาแวะทานเยอะ ทั้งพี่วินมอเตอร์ไซค์ พี่แท็กซี่ และพี่แมสเซนเจอร์ เป็นต้น

ถัดจากโรงงานซีแพคเราจะเดินมุ่งหน้าไปทางถนนกัลปพฤกษ์กันค่ะ ฟุตบาททางเดินมีการก่อสร้างสะพานลอยอยู่ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ช่วงบริเวณนี้เลยต้องลงไปเดินที่ถนนแทนค่ะ

ตัวสะพานลอยกำลังก่อสร้างอยู่ (ยังไม่มีราวจับเลย) และทำให้ไม่สามารถใช้ฟุตบาทบริเวณนี้ได้ มีเศษปูนกองเต็มไปหมดเดินผ่านต้องระวังกันด้วย ข้ามสะพานลอยไปฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านกลางเมือง 1 ค่ะ

h1

จากบนสะพานลอย มองกลับไปบนถนนราชพฤกษ์ทางฝั่งกรุงธนบุรี ช่วงเวลาตอนเช้ารถขาเข้าเมืองค่อนข้างติดเนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่คนไปทำงานพร้อมๆกันและเส้นทางนี้ยังเชื่อมกับถนนเพชรเกษมและถนนกัลปพฤกษ์จึงทำให้ค่อนข้างเยอะ เนื่องจากถนนเส้นนี้รองรับคนที่มาใช้บริการจากบางแควิ่งเข้าถนนเพชรเกษมเข้าถนนราชพฤกษ์  รถที่มาจากฝั่งนนทบุรี (บางใหญ่ บางบัวทอง) ส่วนฝั่งขาออกเมืองมุ่งหน้าไปทางถนนเพชรเกษมและถนนกัลปพฤกษ์รถค่อนข้างบางตาจะติดอีกทีก็เป็นช่วงเย็นที่คนเลิกงานค่ะ

ว

มองขึ้นไปทางฝั่งเพชรเกษมจะเห็นว่ารถขาเข้าเมืองจะเยอะเป็นรถที่มาจากทางเทอดไท,ถนนเพชรเกษมและถนนราชพฤกษ์ถนนราชพฤกษ์และถนนบรมราชชนนี

ถัดจากสะพานลอยเป็นโครงการคอนโด Aspire สาทร-ตากสิน กำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ

301 copy

ติดๆกับคอนโด Aspire ตึกสีเหลืองหลังคาทรงจีนที่เห็นเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมค่ะ

111111111111111111

เดินต่อไปมุ่งหน้าไปทางถนนกัลปพฤกษ์ ทางเดินตรงนี้เป็นถนนไม่มีฟุตบาทขอบถนนเดินค่อนข้างลำบากและรกเนื่องจากข้างทางเป็นหญ้าขึ้นรกๆมีฝุ่นและเศษก้อนหินเป็นระยะ รถช่วงนี้ขับกันค่อนข้างเร็วเวลาเดินต้องระวังรถด้วยค่ะ ตรงนี้แท็กซี่จะหายากนิดนึงนะคะแต่จะมีรถกระป๋องผ่านบ้าง (แต่ก็อาจจะรอนานนิดนึง แล้วแต่จังหว่ะค่ะ)

เดินต่อมาเจอบ้านกลางเมือง อยู่ช่วงทางโค้งที่มุ่งหน้าไปถนนกัลปพฤกษ์ และเนื่องจากที่ตั้งหมู่บ้านอยู่เลยทางขึ้นสะพานยกระดับทำให้เวลาจะกลับรถไปฝั่งราชพฤกษ์ขาเข้าเมืองต้องไปกลับรถค่อนข้างไกล (ตรงแยกกำนันแม้น)

รูปนี้ถ่ายจากสะพานบนถนนกัลปพฤกษ์ มองย้อนกลับไปทางราชพฤกษ์ จะเห็นได้ว่ารถที่มุ่งหน้าไปถนนราชพฤกษ์มีจำนวนเยอะกว่ารถขาเข้าถนนกัลปพฤกษ์ค่ะ ถนนกัลปพฤกษ์เป็นถนนตัดใหม่สมัยก่อนไม่ค่อยมีรถประจำทางวิ่งผ่านถนนเส้นนี้ทำให้ผู้คนที่อาศัยบริเวณนี้ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก ทำให้บนถนนเส้นนี้มีปั๊มน้ำมันและโชว์รูมรถยนต์อยู่เยอะเพื่อรองรับคนในละแวกนี้ค่ะ

DSCN7646

หันกลับมาดูอีกฝากนะคะเป็นฝั่งขาออกไปถนนกาญจนาภิเษก ถนนเส้นนี้มีแยกใหญ่ๆอยู่สองแยก แยกแรกคือตัดเข้าถนนกำนันแม้นไปถนนเอกชัยสามารถไปเข้าถนนวุฒากาศได้ค่ะ แยกที่สองตัดเข้าถนนบางบอน 1 ไปเชื่อมกับถนนเอกชัยได้ค่ะ จากภาพถนนฝั่งขวามือที่รถติดเป็นรถที่มุ่งหน้าไปทางถนนราชพฤกษ์ค่ะ

d4

เส้นทางที่ 2 จะเป็นช่วงจากซอยกำนันแม้นเข้าถนนเอกชัย จุดเรื่อมต้นของเส้นนี้เราจะเริ่มที่วัดราชโอรสก่อนนะคะ วัดราชโอรสเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 3 ตัววัดจะอยู่ในซอยที่ติดกับรางรถไฟค่ะ หลังจากพาไปชมวัดราชโอรสแล้วจะมุ่งหน้าไปเข้าถนนวุฒากาศ เพื่อไปดูสภาพแวดล้อมและชุมชนในซอยวุฒากาศกันค่ะ

วัดปากน้ำวัดอัปสร

จากถนนเอกชัยวิ่งเข้าซอยวัดราชโอรสปากซอยทางเข้าวัดมีป้ายชื่อวัดบอก ย่านนี้เป็นแหล่งชุมชนมีวัดและโรงเรียนวัดราชโอรสอยู่

r1

โรงเรียนวัดราชโอรสอยู่ด้านซ้ายมือตรงเข้าไปเป็นวัดราชโอรสแล้วค่ะ

r2

ถึงแล้วค่ะหน้าวัดราชโอรส ทีมงานจะพาเข้าไปชมในวัดค่ะ

DSCN8281

เรามาชมวัดราชโอรสกันเลยค่ะ วัดราชโอรส หรือ วัดราชโอรสาราม  ตั้งอยู่ริมคลองสนามไชย ฝั่งตะวันตก (ฝั่งธนบุรี) และติดคลองบางหว้า ถือเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 3 เป็นวัดโบราณมีมาก่อนสร้างกรุงสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ คือ เป็นวัดราษฎร์ที่สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เดิมเรียกว่า วัดจอมทอง บ้าง วัดเจ้าทอง บ้าง หรือ วัดกองทอง บ้าง วัดราชโอรสตกแต่งด้วยศิลปะแบบจีนเป็นส่วนมาก มีความแตกต่างจากวัดไทยวัดอื่นเช่น โบสถ์ วิหาร ไม่มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ แต่หลังคาโบสถ์เป็นกระเบื้องเคลือบแบบไทย กุฏิพระสงฆ์เป็นอาคารตึกแทนเรือนไม้แบบของเดิมการประดับตกแต่งต่างๆ เป็นแบบจีนผสมไทย เช่น บานประตูหน้าต่างพระวิหารพระพุทธไสยาสน์ ประดับด้วยเสี้ยวกางแทนลายเทพนม หรือลายไทยแบบของเดิม หน้าบันพระอุโบสถ และพระวิหารประดับพระเบื้องเคลือบสี จึงนับเป็นครั้งแรกที่มีการประยุกต์ศิลปกรรมได้อย่างประณีต เหมาะสม เป็นสัญลักษณ์แห่งศาสนสถานได้อย่างสง่า และงดงาม

444

เมื่อเราเดินเข้ามาในวัดจะรับรู้ได้ถึงความแตกต่างจากวัดอื่น ภายในเมื่อเดินมาด้านหลังอุโบสถจะพบสถูปแบบจีน ทรงเหลี่ยมซ้อนกัน สูงประมาณ 5-6 วา หน้าบันอุโบสถเขียนเล่าเรื่องราวแบบจีนผสมไทย หลังคาเป็นแบบจีนแต่มุงกระเบื้องแบบไทย

5555

เมื่อเดินเข้ามาด้านหลังพระอุโบสถในเขตกำแพงแก้วก็จะพบกับ พระวิหารพระพุทธไสยาสน์บริเวณทางเดินรอบเราจะพบกับรูปปั้นเทพเจ้าในแบบเดินประดับตกแต่งอยู่ตามจุดต่างๆ นอกจากนี้อีกด้านของทางเดินมีพระวิหารมีสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสองประดิษฐานอยู่ 32 องค์แบบไทยอยู่ตั้งอยู่รอบพระวิหาร

66666

ภายในพระวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ปูนปั้นขนาดยาว 20 เมตร

7777777

ที่บานประตู และบานหน้าต่างด้านนอกประดับด้วยลายปูนปั้นที่เรียกว่า กระแหนะ เป็นรูปเลี้ยวกางแบบไทย ยืนอยู่บนประแจจีน ประดับด้วยแจกันดอกเบญจมาศและพานผลไม้ เพดานพระวิหารเขียนลายดอกเบญจมาศ นก และผีเสื้อ สีสวยงาม และหน้าบันประดับด้วยกระเบื้องสีเป็นลายดอกเบญจมาศและรูปสัตว์มงคลของจีน เช่นเดียวกับหน้าบันพระอุโบสถ

888

บานประตูภายในพระวิหารที่มีการวาดลวดลายแบบจีนผสมผสานลายดอกไม้ของไทยค่ะ

DSCN8284

ในภาพเป็นศาลาท่าน้ำของวัดราชโอรสวัด ในย่านนี้วัดส่วนใหญ่จะอยู่ติดคลองเนื่องจากสมัยก่อนการเดินทางเป็นการใช้เรือเป็นหลักค่ะ

รถตู๊กๆ

จากถนนเอกชัยมาถึงตรงแยกนี้ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนวุฒากาศ ตรงไปเป็นถนนจอมทองสามารถไปตากสินได้ค่ะ

เลี้ยวเข้ามาหัวมุมเป็นโรงรับจำนำตึกสีฟ้าเห็นเด่นชัดค่ะแตกต่างจากตึกแถวๆนี้ที่เป็นตึกเก่าประมาณ 2-3 ชั้น

บรรยากาศภายในซอยอาคารและตึกละแวกนี้เป็นลักษณะอาคารพาณิชน์ 2-3 ชั้นและเป็นตึกเก่าซะเป็นส่วนมาก บางช่วงตึกมีการปรับปรุงทาสีใหม่บนถนนวุฒากาศส่วนใหญ่เป็นแหล่งชุมชนที่อยู่อาศัย วัดและโรงเรียนวัดค่ะ

ตรงไปมีปั้ม ปตท สำหรับเติมแก๊สเป็นปั้มเล็กๆค่ะ

ไ

ตรงนี้เป็นทางรถไฟที่มาจากทางสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ ไปสิ้นสุดที่สถานีมหาชัยค่ะ

สองข้างทางรถไฟถูกขนาบด้วยบ้านพักอาศัยเป็นทั้งบ้านปูนและบ้านไม่ปะปนกันอยู่มีลักษณะเป็นบ้านเก่า บ้านแถวนี้จะได้ยินเสียงรถไฟผ่านไปมาตลอด

ถัดมาเป็นวัดนางนองวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในย่านนี้ จากหลักฐานที่พบสันนิษฐานสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ภายในวัดรวมโบราณสถาน โบราณวัตถุทั้งแบบจีนและยุโรปมากมาย ในพระอุโบสถมีภาพเขียนเรื่อง สามก๊ก อยู่ด้วย

ติดๆกันเป็นโรงเรียนวัดนางนองกำลังมีการปรับปรุงก่อสร้างกันอยู่ ในละแวกนี้วัดกับโรงเรียนมักจะอยู่ด้วยกันเนื่องจากสมัยก่อนวัดกับชุมชนมีความใกล้ชิดกัน วัดเป็นศูนย์รวมของคนในชุมชนไม่เว้นแม่แต่การศึกษาคนไทยสมัยก่อนเรียนหนังสือที่วัดโดยมีพระอาจารย์เป็นคนสอนหนังสือ หรือที่ในสมัยนี้เรียกกันว่า โรงเรียนวัด นั่นเอง

1234

ต่อมาจะพาไปชมวัดหนังกันค่ะ (เลี้ยวซ้ายเข้าซอยวุฒากาศ 42 )

เข้าซอยมามี เซเว่นอีเลฟเว่น อยู่ขวามือมีพี่วินมอเตอร์ไซค์ด้วย

ซ้ายมือเป็นวัดนางนอง ขวามือเป็นร้านอาหารริมทางอยู่ด้วย วัดหนังขับรถตรงขึ้นสะพานไปค่ะ

ก่อนถึงวัดก็ต้องข้ามคลองไปก่อนนะคะ ตัวโรงเรียนและวัดหนังจะอยู่ติดกับคลองด่าน ซึ่งคลองด่านอยู่ในเขตภาษีเจริญและเขตบางขุนเทียน ปากคลองแยกจากคลองบางกอกใหญ่ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ ปลายคลองจรดคลองบางบอนและคลองมหาชัย ในอดีตเป็นเส้นทางสำคัญในการเดินทางออกแม่น้ำท่าจีน มีระยะยาวประมาณ 6 กิโลเมตรค่ะ ฝั่งตรงข้ามกับโรงเรียนเป็นวัดนางนอง

ถึงแล้วคะวัดหนังราชวรวิหาร เป็นวัดโบราณสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาถูกปล่อยร้างมาประมาณสองร้อยปี ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ สมเด็จพระศรีสุลาลัย พระราชชนนีของรัชกาลที่ 3 ได้ทรงสถาปนาใหม่ทั้งวัดยกเว้นพระประธานในพระอุโบสถ พระพุทธศิลาในวิหารและองค์ระฆัง ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้โปรดเกล้าให้มีการปฏิสังขรณ์ใหม่อีกครั้ง

เข้ามาภายในตัววัดเรามาดูตัวพระวิหารกันค่ะ พระวิหาร ภายนอกดูคล้ายกับโบสถ์ แต่ต่างกันตรงที่ พระวิหารมีจะมีประตูทางเข้าด้านหน้า 1 ประตูและประตูทางด้านหลัง 1 ประตู พระวิหารจะไม่มีใบเสมารอบเหมือนกับโบสถ์ที่จะมีใบเสมารอบ พระวิหารหลังนี้สันนิษฐานว่าเดิมคงเป็นโบถส์ ในสมัยยังเป็นวัดราษฎร์ ภายในวิหารจะมีกระเบื้องปรุแบบจีนกั้นกลาง แบ่งภายในออกเป็น 2 ตอนซึ่งเดิมไม่สามารถผ่านตอนที่สองได้ แต่ต่อมาได้เจาะช่องประตูให้สามารถเข้าถึงกันได้ ในตอนหน้ามีพระพุทธรูปปางมารวิชัยประดิษฐานอยู่ ส่วนด้านในมีพระประธานทำด้วยศิลาอ่อนด้านหน้าของพระประธานมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ 5 องค์ จึงเป็นที่มาของชื่อวิหารหลังนี้ที่เรียกกันว่า “พระวิหารพระเจ้า 5 พระองค์” ภายในวิหารเป็นผนังสื่อขาวไม่มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง

ข้างๆวัดเป็นโรงเรียนวัดหนังค่ะ

ออกจากวัดหนังเราจะมุ่งหน้าไปทางวุฒากาศตอนต้นกันค่ะ บรรยากาศจะเห็นว่าสภาพตึกยังคงเป็นตึกเก่าตลอดแนวซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเป็นชุมชนเก่าแก่ ตามสองข้างทางมีร้านขายอาหารตลอดทาง เนื่องจากเป็นแหล่งชุมชนอาหารการกินค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ค่ะ

ere

ร้านส่วนใหญ่แถวนี้เป็นร้านเกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์ ทั้งร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ ปะยาง ร้านทำท่อไอเสีย เป็นต้น

ตรงมาขวามือที่มอเตอร์ไซค์จอดอยู่เป็นเซเว่นอีเลฟเว่น ซ้ายมือมีธนาคารกสิกรไทยด้วย

ตรงนี้มีร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์อยู่ อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าร้านส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับมอเตอร์ไซค์ เนื่องจากคนแถวนี้ใช้มอเตอร์ไซค์กันเยอะค่ะ

เซเว่นปากซอย

ตึกขวามือดูใหม่ขึ้นมานิดนึงจากตึกปลายๆซอยมีการ Renovate ใหม่ ปะปนไปกับตึกเก่าเป็นระยะ มีเซเว่นอีเลฟเว่นติดๆกันสองที่ตั้งอยู่บริเวณซอยวุฒากาศ 43 ซึ่งไปเชื่อมกับถนนจุฒากาศได้ และเซเว่นอีเลฟเว่นอีกที่ตั้งอยู่ปากซอบวุฒากาศ 36 ซึ่งไปเชื่อกับซอย วุฒากาศ 26 ได้ ทำให้เซเว่นอีเว่นสองที่นี้จะมีคนมาใช้บริการเยอะเพราะเชื่อมได้หลายซอยและมีแหล่งชุมชนอยู่เยอะ

ขวามือที่มีมอเตอร์ไซค์จอดเยอะๆเป็นร้าน Internet ค่ะ

ด้านซ้ายมือเป็นปั้ม PT ค่ะ

ใกล้ๆถึงปากซอยซ้ายมือมีวัดใหม่ยายนุ้ยและโรงเรียนวัดใหม่ยายนุ้ยอยู่ (ที่สามารถมองเห็นได้จาก BTS )

ก่อนถึงปากซอยประมาณ 40 เมตรมีธนาคารไทยพาณิชย์อยู่ซ้ายมือ ตรงไปข้างหน้าเป็นแยกค่ะ ตรงข้ามไปเป็นถนนวุฒากาศเราจะข้ามไปดูกันนะคะ

ก

มาถึงตรงแยกเลี้ยวซ้ายขึ้นทางยกระดับไปถนนกัลปพฤกษ์ได้ ถ้าไม่ขึ้นทางยกระดับสามารถไป BTS วุฒากาศได้ค่ะ ตรงไปๆถนนวุฒากาศ

DSCN8486_WM

เลี้ยวซ้ายมาจะเจอส่วนของทางขึ้นไปยังตัวสถานีก่อน ทางขึ้นทางนี้รองรับคนจากฝั่งถนนวุฒากาศ

DSCN8479_WM

ถัดมาเป็นทางออกที่ 4  (ซ้ายมือ) เป็นทางออกที่ใกล้ที่สุดของคนที่มาจากฝั่งถนนวุฒากาศค่ะ

วุฒากาศน้ำเงิน

เส้นทางนี้เราจะเริ่มจากวุฒากาศ 20 (วุฒากาศช่วงต้น) ดูบรรยากาศความเป็นอยู่ของคนในชุมชนกันค่ะ และมุ่งหน้าไปยังถนนเทอดไทยไปชมวัดสำคัญๆของย่านนี้กัน อย่างที่ทราบกันดีว่าย่านวุฒากาศเป็นชุมชนเก่ามีวัดและโรงเรียนค่อนข้างเยอะค่ะ

ข้ามแยกมา ตรงไปข้างหน้านี้เข้าถนนวุฒากาศช่วงต้นกันแล้วค่ะ (ซอยแรกคือ วุฒากาศ 20) เราไปดูบรรยากาศภายในถนนเส้นนี้กันเลยค่ะ

บรรยากาศถนนวุฒากาศตอนต้น ตึกแถวมีหน้าตาไม่ค่อยแตกต่างจากอีกฝั่งเท่าไหร่ สวนใหญ่เป็นตึกเก่า มีทั้งบ้านปูนและบ้านไม้สลับกัน(คนแถวนี้ใช้มอเตอร์ไซค์กันเยอะจริงๆค่ะ)

ขวามือเป็นโครงการคอนโด Pe-La วุฒากาศ เป็นโครงการคอนโดใจกลางชุมชนย่านวุฒากาศ (ซึ่งในถนนเส้นนี้จะไม่มีตึกสูงส่วนใหญ่เป็นอาคาร 2-4 ชั้น เป็นย่านชุมชนเก่า)

ด้านซ้ายมือเป็นโรงรับจำนำ (ปากซอยวุฒากาศ 14 ) ขวามือเป็นเซเว่นอีเลฟเว่น สภาพถนนเป็นถนน 4 ช่องการจราจรเป็นการเดินรถแบบ Two Way ไม่มีเกาะกลางสองฝั่งของถนนมีรถจอดเป็นระยะๆบางช่วงรถจะวิ่งได้ฝั่งละเลนค่ะ

DSCN0229

ตรงซอยวุฒากาศ 13 เป็นตลาดเช้า ซอยนี้จะเป็นซอยที่อยู่อาศัยค่ะ (เนื่องจากเวลาที่ไปประมาณเที่ยงๆ ตลาดวายไปแล้วค่ะ) หน้าปากซอยมีร้านรถเข็นขายอาหารด้วย ตึกด้านหลังเป็นร้านขายสังฆทานค่ะ

DSCN0254

วุฒากาศซอย 10 ตรงหัวมุมมีร้านก๋วยเตี๋ยวอร่อยอยู่ เจ้าของร้านเป็นอาม่าใจดี อร่อยด้วยใครแวะมาลองมาทานกันดูนะคะ (ซอยนี้สามารถเดินไปทะลุถนนเทอดไทได้ด้วยค่ะ ในซอยถ้าเดินต้องระวังรถนิดนึงนะคะเนื่องจากเป็นทางลัดจะมีรถยนต์วิ่งผ่านอยู่ตลอด)

ตรงนี้เป็นร้านค้าโชห่วย ร้านข้าว ร้านก๋วยเตี๋ยว ปะปนกันไป ขวามือมีธนาคารธนชาตอยู่ค่ะ

ขวามือเป็นศูนย์เปลี่ยนน้ํามันเครื่อง Castrol ซ้ายมือเป็นร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้า

ในซอยวุฒากาศ 8 มีโรงเรียนสอนพิเศษ Kumon อยู่ด้วย

q

บนถนนวุฒากาศจะเห็นรถกระป๋องแบบนี้ได้ง่ายตามถนนวิ่งกันเยอะค่ะ เป็นยานพาหนะที่นิมใช้พอๆกับพี่วินมอเตอร์ไซค์เลย อัตราค่าบริการยกตัวอย่างเช่น ไปคลองสาน-ตลาดพลู 7 บาท ถ้า 3 ทุ่มเก็บ 10 บาทค่ะ

ตรงนี้ขวามือเป็นโรงเรียนวัฒนะศึกษาค่ะ ให้ตรงไปจนถึงแยกค่ะ

พอมาถึงตรงแยกขวามือไปเทอดไทและวงเวียนใหญ่ได้ เราไปวัดปากน้ำเลี้ยวซ้ายเลยค่ะ

เลี้ยวซ้ายแล้วตรงมาเจอวัดขุนจันทร์อยู่ขวามือเข้าไปชมวัดกันเลยค่ะ

อัตราค่าบริการวินมอเตอร์ไซค์ พี่วินมอเตอร์ไซค์ที่นี่มีคนใช้บริการในระยะทางที่ค่อนข้างไกลเหมือนกันนะคะ ถ้าลองดูจากป้ายจะเห็นได้ว่ามีไปถึงสวนลุม โบ๊เบ๊ ประตูน้ำไปจนถึงอนุสาวรีชัยเลยค่ะ 

เดินเข้าไปในซอยวัดมีชุมชนที่อยู่บริเวณหน้าวัดด้วย ซ้ายมือเป็นร้านโชห่วย (ร้านโชห่วยหาได้ง่ายในย่านนี้ค่ะ)

ทางเดินไปวัดขุนจันทร์

ตรงมาเป็นโรงเรียนวัดขุนจันทร์ อยู่ในบริเวณวัดเลยค่ะ (ขวามือเป็นวัดแล้วค่ะ)

ถึงแล้วค่ะตัววัดขุนจันทร์ วัดขุนจันทร์มีชื่อเรียกเต็มๆว่าวัดวรามาตยภันฑสาราราม ได้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2370 โดยมีพระยามหาอำมาตย์ (ป้อม) เป็นผู้สร้างขึ้นค่ะ

DSCN7817

จุดเด่นของวัดขุนจันทร์คือพิธีการสวดมนต์นพเคราะห์-ราหู ประชาชนเดินทางมาร่วมงานกันอย่างหนาแน่นทุกครั้ง

ตรงนี้คือลานหลวงพ่อใหญ่ประกอบด้วยพระพุทธรูปขนาดใหญ่ประดิษฐานตรงกลางสุด โดยมีพระพุทธรูปทรงเครื่อง และพระปรางค์ อยู่เบื้องขวาและซ้ายขององค์พระตามลำดับ ลานนี้จะมองเห็นส่วนประกอบทั้ง 3 ได้ครบค่ะ

ถัดมาเป็นคลองด่านวัดส่วนใหญ่แถวนี้จะอยู่ติดคลอง วัดขุนจันทร์ก็เช่นกันค่ะ  บรรยากศบริเวณนี้ค่อนข้างร่มรื่นและฝั่งตรงข้ามที่เห็นเป็นเขตของวัดปากน้ำแล้วค่ะ

ถ่ายรูปมาให้เห็นกันแบบเต็มๆ เพราะของจริงใหญ่มากค่ะ ที่เห็นเป็นเจดีย์สีขาวข้างหน้านี้คือพระมหาเจดีย์มหารัชมงคล ซึ่งเดี๋ยวเราจะพาไปดูกันนะค่ะ

สะพานที่เห็นนี้สามารถเดินไปวัดอัปสรสวรรค์และวัดปากน้ำได้ค่ะเดี๋ยวจะพาเดินไปดูกันนะคะ ถ้าใครที่ชอบเที่ยววัดสามารถมาเที่ยววัดไหว้พระแบบขี่จักรยานได้ค่ะ เพราะวัดต่างๆในละแวกนี้อยู่ไม่ไกลกันมาก แต่ต้องสู้กับแสงแดดหน่อยนะคะ โดยเฉพาะหน้าร้อนนี่แดดแรงมากๆเลยค่ะ

ตรงนี้เป็นทางเดินไปสะพานค่ะ

สะพานเป็นบันได้ขึ้นไปสูงพอสมควร (จากรูปจะเห็นได้ว่าบนสะพานสูงประมาณชั้นที่2ของบ้านเลย)

ขึ้นมาบนสะพานแล้วมีเรือของนักท่องเที่ยวผ่านมาพอดีเลยถ่ายมาให้ดูว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสามารถเที่ยวดูวัดต่างๆในบริเวณนี้โดยทางเรือได้ค่ะ

Untitled-1

อีกฝั่งของสะพานขวามือเป็นวัดอัปสรสวรรค์ มองตรงไปเป็นคอนโด The Key (ตรงใกล้ๆ BTS วุฒากาศค่ะ) ซ้ายมือเป็นบ้านริมน้ำ มีบ้านตลอดแนวคลองเลยค่ะ

เดินลงสะพานไปเป็นชุมชนและวัดอัปสรสวรรค์ค่ะ เราเดินลงไปดูกันเลยดีกว่า

เดินลงมาขวามือเป็นกุฏิไม้เก่ายกใต้ถุนสูง

ถัดไปเป็นชุมชนที่อยู่บริเวณวัด บ้านส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้เก่า เป็นร้านโชห่วยขายของค่ะ เวลาเดินต้องระวังมอเตอร์ไซค์สวนไปมานิดนึงนะคะ

ด

ขวามือมีซอยเล็กๆลัดไปวัดปากน้ำได้ค่ะ ปากซอยเป็นร้านโชห่วยเล็กๆอยู่ด้วย ตรงไปเลี้ยวซ้ายไปวัดอัปสรสวรรค์ค่ะ

ทางเดินเส้นนี้เป็นทางเดินไปวัดอัปสรสวรรค์แต่ไม่ใช่ทางเข้าวัดหลัก เป็นทางที่เดินไปทะลุข้างวัดทางนี้ชาวบ้านแถวนี้ใช้กันค่ะ

ถึงแล้วค่ะวัดอัปสรสวรรค์  วัดอัปสรสวรรค์ มีชื่อเต็มๆ ว่า วัดอัปสรสวรรค์วรวิหาร แต่ชาวบ้านคนโบราณแถววัดจะเรียกว่า วัดหมู วัดนี้สร้างขึ้นโดยชาวจีนชื่อว่า อู๋ ต่อมารัชกาลที่ 3 ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดนี้ แล้วพระราชทานนามใหม่ว่า วัดอัปสรสวรรค์ เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเจ้าจอมน้อยค่ะ

ตรงนี้เป็นลาดวัดและเป็นศาลาท่าน้ำของวัดอัปสรสวรรค์ วัดส่วนใหญ่อยู่ติดคลองเนื่องจากการเดินทางสมัยก่อนเดินทางโดยเรื่อเป็นหลัก

ทางเข้า/ออกหลักของวัดอัปสรสวรรณ์ค่ะ ถ้าใครใช้รถยนต์ส่วนตัวมาก็ใช้เส้นทางเดียวกับวัดปากน้ำ แต่ให้เข้ามาลึกหน่อยค่ะ

ออกจากวัดขุนจันทร์เราจะมุ่งหน้าไปยังวัดปากน้ำ แต่เนื่องจากบนถนนเทอดไทมีทางลัดที่มาจากซอยวุฒากาศ 10 ได้ค่ะ

13

ซอยเทอดไท 41 เป็นทางลัดที่เชื่อมกับซอยวุฒากาศ 10

วุฒากาศ10เทอดไท41

จากแผนที่จะเห็นว่าจากวุฒากาศ 10 สามารถลัดมาออกยังซอยเทอดไทย 41 เข้าสู่ถนนเทอดไทได้ทำให้ทางลัดเส้นนี้มีรถวิ่งผ่านอยู่ตลอดเวลาแม้จะเป็นซอยที่แคบก็ตาม

DSCN0254

ทางเข้าซอยวุฒากาศ 10 ค่ะ

3

เข้ามาภายในซอยเป็นชุมชนบ้านพักอาศัยตลอดแนวและมีอพาร์ทเม้นท์เช่า บรรยากาศในซอยมีรถยนต์ผ่านตลอดเนื่องจากเป็นซอยที่ลัดไปทะลุถนนเทอดไทได้

4

ถนนในซอยนี้เป็นทาง One Way ค่ะ

5

ขวามือเป็นอู่ซ่อมรถๆที่มาจอดซ่อมจะจอดเกินเข้าเนื่องจากในซอยนี้หาที่จอดยากคนที่อยู่บ้านแถวนี้ต้องเช่าพื้นที่จอดรถค่ะ

6

ถึงทางโค้งเลี้ยวขวา มุ่งหน้าไปออกถนนเทอดไท

8

เลี้ยวขวามาแล้วให้เดินตรงไป ตามถนนจะเห็นรถจอดข้างทางตลอดทางเพราะบ้านแถวนี้เป็นบ้านตึกไม่มีพื้นที่ให้จอดรถค่ะ

10

ตรงนี้เป็นพื้นที่รับจอดรถ อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าแถวนี้หาที่จอดรถค่อนข้างยาก

11

ขวามือมีศาลเจ้าอยู่ ข้างๆมีคลองเล็ ตัดผ่าน (คลองเชื่อมต่อมาจากคลองด่าน) และมีทางเดินข้างคลอง

11_1

อีกฝั่งของคลองๆยาวไปเชื่อมกับคลองด่านค่ะ

DSCN7755

เดินออกมาถึงทางออกปากซอยเทอดไท 41 ค่ะ ถ้าเลี้ยวขวาจะไปวัดขุนจันทร์ ไปวงเวียนใหญ่ได้ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเทอดไทสามารถไปออกถนนราชพฤกษ์ได้ค่ะ ขอจบเรื่องทางลัดไว้เพียงเท่านี้เราจะกลับไปที่ถนนเทอดไทกันต่อค่ะ

กลับออกมาที่ถนนเทอดไท ตรงมาเจอสะพานให้ขึ้นสะพานข้ามคลองด่านไปค่ะ

บริเวณหน้าวัดจะคึกคักเต็มไปด้วยร้านขายของ ร้านขายอาหาร และร้านขายของทำบุญเกี่ยวกับวัด

ด้านหน้าทางเข้าวัดมีร้านขายของอยู่เยอะ รวมถึงร้านอาหารและเซเว่นอีเลฟเว่นด้วย

เจอวัดนาคปรกก่อนค่ะ เราจะแวะเข้าไปดูวัดนาคปรกกันนะคะ บริเวณปากซอยวัดนาคปรกจะคึกคักเป็นพิเศษในช่วงวันหยุดเพราะมีนักท่องเที่ยวมากันเยอะ ทำให้ทางวัดจะมีคนคอยมาโบกรถอำนวยความสะดวกให้กับรถที่สัญจรไปมาด้วยค่ะ

เราเข้าไปดูในวัดกันเลยดีกว่าค่ะ ทางเข้าวัดเป็นตึกแถว มีร้านขายข้าวโพดต้มอยู่ด้วย ถัดไปเป็นวินมอเตอร์ไซค์ค่ะ

เข้ามาภายในวัดนาคปรกจะเจอส่วนมณฑปหลวงปู่ชู ภายในประดิษฐานรูปเหมือนอดีตเจ้าอาวาสคือ หลวงปู่ชู คงชูนาม และหลวงพ่อพระครูศรีพัฒนคุณ ด้านข้างเป็นหอบูชาพระแม่กวนอิม

ประตูเงินเป็นทางเข้าสำหรับเรียนธรรมะวันอาทิตย์ ถ้าเดินเลยถัดไปสามารถไปวัดนางชีได้ค่ะ เพราะวัดนาคปรกกับวัดนางชีอยู่ไม่ไกลกันมากค่ะ

ขอเล่าประวัติคร่าวๆของวัดนคปรกให้ฟังกันนะคะ วัดนาคปรกสร้างขึ้นราวรัชกาลที่ 3-4 โดยพ่อค้าชาวจีนที่เข้ามาทำการค้าขายอยู่ในย่านนี้ หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันว่า “เจ้าสัวพุก” เจ้าสัวมีความศรัทธาและเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา โดยเริ่มแรกได้สร้างโบสถ์เพื่อเป็นอุสรณ์แก่ตัวเจ้าสัวเอง ดังนั้นการตกแต่งภาพจิตรกรรมต่างๆในโบสถ์จะเป็นเรื่องราวรูปแบบจีน และได้มีการสร้างวิหารเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ภรรยาชาวไทยของเจ้าสัว วิหารจึงมีลักษณะและการตกแต่งแบบไทย ภายในวิหารมีพระประธานคือ “หลวงพ่อนาคปรก” (พระพุทธรูปปางมารวิชัยประดิษฐานอยู่บนพญานาคแพ่พังพาน 7 เศียร ) ประดิษฐานอยู่ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “วัดนาคปรก” ค่ะ

ลักษณะของฐานพระอุโบสถจะมีลักษณะแอ่นโค้งแบบท้องเรือสำเภา ซึ่งเป็นรูปแบบที่นิยมมากในสมัยอยุธยาตอนปลายค่ะ

พระพุทธรูปส่วนใหญ่ในวัดนาคปรกที่เราจะพบเห็นเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยประดิษฐานบนพญานาคแพ่พังพาน ซึ่งถือเป็นพระประจำวัดนี้เลยค่ะ

ภายในโบสถ์มีพระพุทธรูปไว้ให้ได้สักการบูชามีการตกแต่งจิตกรรมฝาผนังแบบจีน

ภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นเรื่องราวเครื่องบูชาของชาวจีนโบราณ ที่ผู้สร้าง(พระบริบูรณ์ธนากรหรือเจ้าสัวพุก)ต้องการสร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ตัวท่านเอง

DSCN8253

เผดานโบสถ์ลวดลายยังคงเป็นรูปแบบวัฒนธรรมของจีนโบราณต่อเนื่องกับจิตรกรรมฝาผนัง

ภายในวิหารหลวงพ่อนาคปรกประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยสัมฤทธิ์ประทับบนพญานาค 7 เศียรแผ่พังพาน

ส่วนวิหารทรงไทยผนังมีภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังลายไทยเล่าเรื่องราวการเสด็จลงจากดาวดึงส์ ส่วนนี้เป็นส่วนที่ผู้สร้าง เจ้าสัวพุกตั้งใจสร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ภรรยาชาวไทยของตน

ออกจากวัดนาคปรกมาจะเจอแยกอยู่ ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปถนนราชพฤกษ์ที่สามารถทะลุออกไปยัง BTS วุฒากาศได้ค่ะ ส่วนด้านขวามือจะไปวัดปากน้ำค่ะ เดี๋ยวเราไปดูวัดปากน้ำกันก่อนนะคะ

เลี้ยวมาจะเจอศูนย์ปฏิบัติการป้องกันน้ำท่วมฝั่งธนบุรีอยู่ ให้ตรงต่อไปอีกค่ะ

ตรงนี้เป็นชุมชนปากทางเข้าวัดปากน้ำค่ะ ร้านค้าส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายสังฆทานเยอะเลยค่ะประมาณ 5-6 ร้านได้ และมาร้านขายอาหาร ร้านโชห่วยด้วย

วัดปากน้ำวัดอัปสร

ซ้ายมือเป็นทางเข้าไปวัดปากน้ำ ขวามือไปวัดอัปสรสวรรค์ได้

11243 copy

จากภาพเส้นสีแดงเป็นการเดินทางจากถนนเทอดไทเข้าซอยรัชมงคลประสาธน์ไปยังวัดปากน้ำ การใช้รถในวัดปากน้ำเป็นการเดินทางแบบ One Way ค่ะ คือเข้าทางด้านซ้ายมือและวนออก ส่วนเส้นทางสีชมพูเป็นการเดินทางไปยังวัดอัปสรสวรรค์ค่ะ

ปากทางเข้าวัดปากน้ำ  ปากทางเข้ามีตึกแถวเก่าอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง

ขับตรงมาซ้ายมือเป็นคลอง ขวามือเป็นอาคารจอดรถสูงประมาณ 6 ชั้นค่ะ

เราเดินเข้าไปดูในวัดปากน้ำกันเลยค่ะ

ป้ายนี้เป็นโซนนิ่งแสดงส่วนต่างๆของวัดเนื่องจากวัดปากน้ำมีบริเวณที่กว้างแผนผังจึงง่ายและสะดวกต่อการเดินชมวัดค่ะ

วัดปากน้ำ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ วัดปากน้ำ ตั้งอยู่ ณ ที่ราบลุ่มบางกอกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งอยู่ริมคลองบางกอกใหญ่ อันเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาเดิม ก่อนที่จะมีการขุดคลองลัดหน้าวัดอรุณราชวรารามและ กลายเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาในปัจจุบัน วัดตั้งอยู่บริเวณปากคลองด่านที่แยกไปปากคลองบางหลวงอีกทีหนึ่ง ชื่อของวัดจึงถูกเรียกตามตำบลที่ตั้งว่า “วัดปากน้ำ”

ตรงนี้เป็นจุดให้สักการะรูปหล่อเหมือนหลวงพ่อสด ตั้งประดิษฐานอยู่หน้าสำนักงานประชาสัมพันธ์ของวัดค่ะ

ในวัดร่มรื่นมากค่ะ ตรงนี้มีการจัดเป็นสวนและน้ำตกย่อมๆด้วยทำให้อากาศในวัดเย็นขึ้นค่ะ

เดินตรงไปริมคลองภาษีเจริญกันค่ะ บรรยากาศร่มรื่นเนื่องจากบริเวณนี้มีสวนและต้นไม่อยู่เยอะค่ะ

ด้านหน้าพระอุโบสถ มีพระพุทธรูปประดิษฐานไว้ในสักการะกันอีกจุดค่ะ ซึ่งภายในพระอุโบสถมีพระประธานที่อยู่คู่วัดปากน้ำนี้ประดิษฐานอยู่ค่ะ

ส่วนนี้เป็นบริเวณโดยรอบพระอุโบสถค่ะ ซึ่งอุโบสถนี้จะใช้เป็นสถานที่หลักในการประกอบพิธีกรรมสำคัญทางพุทธศาสนาค่ะ วันที่มีพิธีกรรมคนจะเต็มบริเวณนี้เลยค่ะ

พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล เป็นชื่อที่เจ้าอาวาสวัดปากน้ำองค์ปัจจุบัน (สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ พ.ศ.2508-ปัจจุบัน)ได้ตั้งขึ้น บริเวณปลียอดของมหาเจดีย์หุ้มด้วยทองคำหนัก 7,185.55 บาท

  • ชั้นที่ 1 ห้องมหาชนคุณารมณ์ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธบารมีมงคล (หลวงพ่อหยกเขียว ) และสถานที่จัดแสดงพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น
  • ชั้นที่ 2 ห้องธรรมกายคุณารมณ์ เป็นห้องประชุมและปฏิบัติธรรม (บนเพดานมีภาพจิตรกรรม ประวัติหลวงพ่อปากน้ำ-หลวงพ่อเจ้าพระคุณสมเด็จฯ)
  • ชั้นที่ 3 ห้องสังฆคุณารมณ์เป็นที่จัดแสดงพิพิธภัณฑ์พระพุทธรูปปางปรินิพาน (จากประเทศญี่ปุ่น) พระพุทธรูปต่างๆ ของใช้และไม้เท้า ฯลฯ หลวงพ่อเจ้าพระคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์
  • ชั้นที่ 4 ห้องธรรมคุณารมณ์  เป็นที่ประดิษฐาน รูปหล่อพระมงคลเทพมุนี หลวงพ่อสดทองคำและปูชนียาจารย์
  • ชั้นที่ 5 ห้องพุทธคุณารมณ์  เป็นชั้นโดมประดิษฐานพระรัตนเจดีย์ศรีมหามงคล (พระเจดีย์แก้ว) บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

ขึ้นมาชั้น 2 ประตูไม้สักทองแกะสลักรูปท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 มีความเชื่อว่าไว้คุ้มครองและดูแลพระมหาเจดีย์ค่ะ

เข้ามาในตัวพระมหาเจดีย์ชั้น 2 คือห้องธรรมกายคุณารมณ์ เป็นห้องโล่งกว้างไว้สำหรับประชุมและปฏิบัติธรรม เสามีการสลักลวดลายวิจิตร

ฝ้าเพดานภายในพระมหาเจดีย์ถูกวาดด้วยลวดลายวิจิตรบรรจง เห็นได้ถึงความปราณีตในการทำงานซึ่งเราคงหาชมที่อื่นได้ยากแน่ค่ะ

ใต้ทองบันไดยังคงมีเรื่องราวและลวดลายที่แสดงเอกลักษณ์ของความเป็นไทยไว้อย่างสวยงาม

ถัดมาชั้น 3 ห้องสังฆคุณารมณ์เป็นที่จัดแสดงพิพิธภัณฑ์พระพุทธรูป ของใช้และไม้เท้า ฯลฯ หลวงพ่อเจ้าพระคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ถูกจัดแสดงอยู่ในตู้ไม้กระจก ถูกจัดแสดงไว้ในตู้อย่างเรียบร้อยและสวยงาม

ส่วนจัดแสดงพิพิธภัณฑ์ชั้น 3 โซนพระพุทธรูปซึ่งมีพระพุทธรูปปางปรินิพาน (จากประเทศญี่ปุ่น) และพระพุทธรูปต่างๆจัดแสดงอยู่

ส่วนพิพิธภัณฑ์ในโซนของนาฬิกาซึ่งมีหลายเรือนที่หาชมได้ยากจัดแสดงอยู่ ท่านใดที่ชอบดูของเก่าน่าจะถูกใจ

โซนถัดมาของพิพิธภัณฑ์ชั้น 3 นี้เป็นโซนของเครื่องใช้เก่า ที่มีความแตกต่างกันในแต่ละยุค

DSCN8195

ชั้นที่ 4 ชั้นนี้เป็นที่ประดิษฐาน รูปหล่อพระมงคลเทพมุนี หลวงพ่อสดทองคำและปูชนียาจารย์

รูปหล่อของพระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อสดทองคำ) และปูชนียจารย์ จะมีแผงกระจกกันเอาไว้ถึง 2 ชั้น ดังนั้นเลยถ่ายรูปไม่ค่อยชัดนะคะ

ถัดมาชั้นสุดท้ายชั้น 5 ห้องพุทธคุณารมณ์ เป็นชั้นโดมประดิษฐานพระเจดีย์แก้ว บรรจุพระบรมสารีริกธาตุค่ะ

เดินออกมาดูด้านนอกอาคารกันบ้างค่ะ เมื่ออกมายืนนอกระเบียงแล้วจะเห็นวิวเมืองฝั่งธนโดยรอบเลยค่ะ

ด้านนี้เป็นวิวที่มองเห็นภายในตัววัดปากน้ำ ตรงกลางถูกจัดให้เป็นสวนมีการปลูกต้นไม้เพื่อความร่มรื่นขนาบด้วยอาคารต่างๆ

วิวทางด้านนี้มองเห็นวัดขุนจันทร์ (ด้านซ้ายมือ) และวัดอัปสรสวรรค์ (ด้านขวามือ) มองตรงไปเห็นคอนโด The Key ค่ะ จากภาพจะเห็นว่าละแวกนี้ไม่ค่อยมีตึกสูงส่วนใหญ่เป็นชุมชน วัดและโรงเรียนเป็นส่วนใหญ่

ฝั่งนี้มองเห็นบ้านเรือนอยู่อาศัยหนาแน่นกระจุกตัวอยู่บริเวณวัดอัปสรสวรรค์(ส่วนใหญ่เป็นบ้านไม่ 2-3 ชั้น ) ทำให้เห็นว่าสมัยก่อนชุมชนมีความสัมพันธ์กับวัดมาอย่างยาวนานค่ะ

หลังจากเดินดูภายในวัดเสร็จแล้ว เราจะมาดูบริเวณรอบๆวัดตรงช่วทางออกกันบ้างค่ะ ตรงนี้เป็นท่ารถกระป๋องและรถสองแถวค่ะมีไปหลายที่ หลายสายเลย

ถัดจากท่ารถเป็นตลาดนัดค่ะ เปิดวันจันทร์ พุธ เสาร์และอาทิตย์ ถ้าใครมาทำบุญลองแวะมาเดินเล่นกันได้นะคะ

เทอดไทเขียว

สำหรับเส้นทางที่ 4 จะเริ่มตั้งแต่แยกบริเวณวัดนาคปรกใช้เส้นทางถนนเทอดไทตัดเข้าถนนราชพฤกษ์ ไปดูบรรยากาศฝั่งตรงข้ามตัวสถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศกันค่ะ

บริเวณแยกวัดนาคปรก ให้เลี้ยวไปทางถนนราชพฤกษ์ค่ะ

เลี้ยวมาแล้ว บรรยากาศตรงนี้เป็นถนน Two Way ขวามือเป็นบ้านไม้สองชั้นต่างกับด้านซ้ายมิอที่เป็นตึกประมาณ 3 ชั้น บ้านอยู่ติดกับถนนไม่มีฟุตบาททางเท้าค่ะ

ขับตรงมาเจอแยกตรงข้ามสะพานไปจะไปถนนเพชรเกษม 23 ได้ค่ะ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเทอดไทแล้วไปออกถนนราชพฤกษ์เราไปทางนี้นะคะ

ถนนตรงนี้สภาพทางไม่ค่อยดีถนนลาดยางไม่เต็มทางและค่อนข้างขรุขระค่ะ

ขับตรงมาเจอวัดเพลง เราแวะเข้าไปดูกันอกีหน่อยนะคะ

เข้ามาดูในตัววัดกันค่ะ บรรยากาศค่อนข้างเงียบแตกต่างจากวัดปากน้ำ

ลานจอดรถในวัดค่อนข้างร่มรื่นด้วยเพราะมีต้นไม้ใหญ่หลายต้นให้ร่มเงา

ด้านหน้าอุโบสถ อุโบสถแห่งนี้ใช้ประกอบกิจกรรมทางศาสนาและกิจกรรมอื่นๆ หลายท่านอาจเคยมาร่วมงานวัดที่วัดเพลงจัดขึ้น จะมีการประดับประดาไฟที่อุโบสถเป็นที่สวยงามยามค่ำคืน

หอกลองเพลที่อยู่ภายในวัด ยังคงใช้งานอยู่ในปัจจุบัน

ขับออกจากวัดเพลงตรงมามีโรงเจอยู่ซ้ายมือค่ะ

1112

ตรงแยกนี้ถ้าเลี้ยวขวาไปถนนเทอดไทฝั่งตรงข้าม (ซอยเทอดไท 48) ได้ค่ะ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชพฤกษ์สามารถไปออกถนนรัชดาภิเษกได้ เราจะเลี้ยวซ้ายไปดูบรรยากาศฝั่งตรงข้ามของสถานี BTS กันค่ะ

ถึงแม้บริเวณนี้จะทางเดินฟุตบาทที่กว้างแต่จะไม่ค่อยน่าเดินเท่าไหร่ คงต้องรอให้พื้นที่บริเวณนี้มีการพัฒนาไปอีกสักระยะก่อนค่ะ

00

ขับตามทางมาเจอบ้านกลางเมือง 1 ค่ะ

ขับชิดซ้ายไปกลับรถใต้สะพาน แยกเข้าทางขวาขึ้นทางยกระดับไปถนนวุฒากาศ, รัชดาภิเษก และถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินได้ค่ะ

ข้างทางตรงนี้ยังดูเป็นหญ้าและต้นไม่รกๆ เนื่องจากยังไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆ

ตรงมาเป็นโครงการคอนโด The Key กำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ ริมฟุตบาทยังดูไม่ได้รับการปรับปรุงเท่าไหร่ยังมีฝุ่นเยอะและพื้นก็ไม่เรียบเสมอกันด้วย

ติดๆกับ The Key เป็นโครงการคอนโด Ideo วุฒากาศค่ะ สองคอนโดนี้อยู่ใกล้กันมากมีเพียงซอยเล็กๆคั่นอยู่ค่ะ

กลับรถใต้สะพานไปฝั่ง BTS วุฒากาศค่ะ

กลับรถมาก็เจอ BTS วุฒากาศค่ะ ขอจบ BTS วุฒากาศไว้เพียงเท่านี้นะคะ

เจาะลึกรวบยอด 

การคมนาคม BTS วุฒากาศ ตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์ เป็นถนนที่สามารถไปได้หลายที่และเป็นถนนที่ยาวเชื่อมกับถนนอีกหลายสาย บนถนนราชพฤกษ์ สำหรับคนที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักช่วงเวลาเร่งด่วนทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็นการจราจรจะติดขัดค่อนข้างมาก เนื่องจากรถที่มาจากฝั่งเพชรเกษม ฝั่งถนนกัลปพฤกษ์ ช่วงเช้าทุกคนจะมุ่งหน้าเข้าเมืองพร้อมๆกันเพื่อไปทำงาน (มุ่งหน้าไปทางกรุงธนบุรี ข้ามไปฝั่งสาทร) ทำให้การจราจรช่วงเช้ามีรถติดกันเป็นทางยาวบนถนนเส้นนี้ ส่วนช่วงเย็นก็เช่นกันรถจะติดฝั่งขาออกจำนวนมาก ส่วนคนที่เดินทางโดยใช้รถไฟฟ้า BTS ค่อนข้างสะดวกสบายเลยค่ะเพราะตัวสถานีเองยังมีคนมาใช้บริการไม่หนาแน่นเท่าไหร่ (ช่วงเวลาประมาณ 9 โมง) ภายในตัวสถานีเองยังดูไม่ค่อยคึกคัก จากสถานีวุฒากาศมุ่งหน้าไปทางวงเวียนใหญ่สินสุดสถานีที่สนามกีฬาแห่งชาติสามารถและสามารถไปต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อนได้ที่สถานีสยามค่ะ การมาใช้บริการที่สถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศสำหรับคนที่ขับรถส่วนตัวมาอาจจะลำบากนิดนึงเนื่องจากบริเวณสถานีเองยังไม่ได้มีพื้นที่จอดรถไว้รองรับ ถ้ามาเร็วก็อาจจะได้ที่จอด แต่ถ้ามาช้าอาจจะต้องจอดข้างทางค่ะ (ที่จอดรถจะจอดกันใต้สะพานหรือไม่ก็ข้างทางค่ะ) ถ้าใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ รถกระป๋อง หรือแท็กซี่จะสะดวกกว่าค่ะ

สภาพแวดล้อมและชุมชน สภาพแวดล้อมรอบๆบริเวณสถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศ ยังไม่ค่อยเจริญเท่าไหร่ร้านขายของ ร้านอาหาร หรือแม้แต่เซเว่นอีเลฟเว่นก็หายาก (เซเว่นอีเลฟเว่นจะมีอีกทีก็เป็นในซอยวุฒากาศหรือไม่ก็ถนนกัลปพฤกษ์เลยค่ะ) ฟุตบาททางเท้าก็ยังไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควรมีฝุ่นและเศษปูนอยู่ตามทางเดิน แต่ตอนนี้เริ่มมีคอนโดมาขึ้นโครงการกันมากขึ้นบริเวณแนวรถไฟฟ้า ทำให้ในอนาคตความเจริญจะตามมาเนื่องจากที่ดินถูกพัฒนาให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยมากขึ้น  ส่วนแหล่งชุมชนจริงๆจะอยู่ในถนนเส้นวุฒากาศ ชุมชนวุฒากาศเป็นแหล่งชุมชนเก่าแก่ บ้านเรือนที่อยู่อาศัยมีสภาพเป็นตึกเก่าที่สูงประมาณ 2-4 ชั้น บ้านไม้เก่าก็มีให้เห็นกันตามถนนตลอดสาย สลับกันไปกับบ้านปูน สภาพแวดล้อมหลักจะมีวัดและโรงเรียนวัดอยู่ในพื้นที่นี้เยอะเลยทีเดียว สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตดั้งเดิมที่คนสมัยก่อนมีความใกล้ชิดกับวัด มีวัดเป็นศูนย์รวมของชุมชน ร้านขายของโชห่วย ร้านค้าเก่าแก่จะเห็นได้ตลอดเส้นถนนวุฒากาศเลยค่ะ บางร้านขายกกันมายาวนานเลยทีเดียว

การพัฒนาในอนาคต  พื้นที่รอบๆสถานีรถไฟฟ้า (เส้นถนนราชพฤกษ์ทั้งสองฝั่ง) ส่วนใหญ่ยังเป็นพื้นที่โล่งๆอยู่เยอะซึ่งในอนาคตสามารถพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยแนวสูงหรือแนวราบได้อีกเยอะ อย่างในปัจจุบันก็เริ่มเห็นการพัฒนากันบ้างแล้วเนื่องจากมีคอนโดหลายแบรนด์เริ่มขึ้นกัน พื้นที่แถวนี้ยังสามารถเติบโตเเละพัฒนาได้เนื่องจากตัวสถานีรถไฟฟ้าเองก็สร้างเสร็จแล้วจะทำให้บรรยากาศบริเวณนี้ดูเจริญขึ้นค่ะ ส่วนชุมชนบนถนนวุฒากาศการพัฒนาอาจจะทำได้ค่อนข้างยากเนื่องจากเป็นชุมชนที่เก่าแก่ผู้คนอยู่อาศัยกันมานานแล้วและยังเป็นชุมชนที่มีบ้านเรือนหนาแน่นอีกด้วย

BOTTOM LINE

สำหรับทำเลแถว BTS วุฒากาศ น่าจะเหมาะกับคนย่านฝั่งธน แต่อาจจะทำงานในเมืองและใช้บริการรถไฟฟ้า BTS เป็นประจำเนื่องจากเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายและประหยัดเวลาที่สุด แต่สำหรับคนที่ขับรถส่วนตัวไปทำงานอาจจะต้องออกเช้ากันนิดนึงค่ะเนื่องจากถนนเส้นราชพฤกษ์ขาเข้าช่วงเช้ารถติดเอาการเลยค่ะ

*อ่านสักนิด* ในการเลือกทำเลใกล้รถไฟฟ้าแต่ละสถานีนั้น แต่ละคนมีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน ให้น้ำหนักในแต่ละเรื่องที่ไม่เท่ากัน บางคนเลือกที่จะอยู่ใกล้สถานีที่อยู่ในตัวเมือง เพราะสภาพชุมชนรอบๆที่คึกคัก สามารถไปไหนมาไหนด้วยรถยนต์ได้ด้วย ขอนั่งไปสองสามสถานีแล้วถึงที่ทำงานเลย คนพวกนี้ก็ต้องจ่ายแพง ในขณะที่บางคนบอกว่า ออกไปอยู่ไกลๆหน่อยก็ได้ สุดสายเลยก็ไม่ว่ากัน แค่ขอให้ติดรถไฟฟ้าก็พอ ยอมตื่นเช้าขึ้นซัก 15-30 นาที แต่จ่ายถูกกว่า และเงียบสงบกว่า ส่วนบางคนก็แปลก เลือกที่อยู่อาศัยใกล้สถานี ขอให้ใกล้ไว้ก่อน แม้ว่าตัวเองอาจจะไม่ได้เดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็ตาม แล้วสถานีไหนล่ะจึงจะเป็นสถานีที่ดีที่สุด? อันนี้ก็ต้องอยู่ที่การตัดสินใจของแต่ละบุคคลค่ะ ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าสถานีใดเป็นสถานีที่ดีที่สุดดีเท่ากับตัวคุณเองหรอกค่ะ

สุดท้ายนี้ รบกวนขอให้เพื่อนๆโดยเฉพาะเพื่อนๆที่อยู่ในพื้นที่ ช่วยกัน Comment แบ่งปัน เพิ่มเติมข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารอร่อย ทางลัดเล็กๆน้อยๆ หรือสภาพแวดล้อมทั้งดีและไม่ดี ให้กับผู้อ่านที่กำลังหาบ้านโซนนี้ด้วยนะคะ