ผมเชื่อเหลือเกินครับว่าการเดินทางเป็นหนึ่งในปัญหาหลักๆของใครหลายๆคนที่ทำงานในกรุงเทพ เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่ากรุงเทพเป็นเมืองที่รถติดเป็นอันดับต้นๆของโลก ทำให้หลายๆท่านต้องใช้เวลาวันละหลายชั่วโมงบนท้องถนนที่วุ่นวายเพื่อไป-กลับจากที่ทำงาน ซึ่งแค่ลำพังทำงานก็เหนื่อยพอตัวอยู่แล้ว นี่ยังจะต้องมาเหนื่อยกับการเดินทางอีก ในทางกลับกันถ้าหากเรามีบ้านที่สามารถเดินทางไปที่ทำงานได้ในเวลาไม่นานก็คงจะดีไม่น้อยเลยใช่ไหมละครับ
ส่วนตัวผมมองว่าการเดินทางไปทำงานให้ดีไม่ควรมากกว่าขาละ 1 ชั่วโมง ไปกลับก็ไม่ควรใช้เวลาเกินวัน 2 ชั่วโมงบนท้องถนน เพราะทำงานก็ 8-10 ชั่วโมงอยู่แล้ว เราควรมี Work Life Balance ที่ดี ให้มีเวลาสำหรับไปทำอะไรอย่างอื่นด้วย ยกตัวอย่าง..
- ถ้าคุณมีบ้านอยู่แถว ดอนเมือง-สรงประภา
- ต้องมาทำงานที่ห้าแยกลาดพร้าว
- ต้องสแกนนิ้วมือเข้างานก่อน 8 โมงเช้า
- ต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 22-45 นาที (อ้างอิงจาก google map)
ดังนั้นหมายความว่าคุณจะต้องออกจากบ้านประมาณ 7.30 – 7.15 น. เป็นอย่างช้าที่สุด ซึ่งก็จัดเป็นช่วงเวลาที่ต้องออกจากบ้านเพื่อเริ่มต้นการเดินทาง จะอยู่ประมาณ 45 นาที สำหรับการเดินทางในเมืองกทม. การใช้เวลาเดินทางไปทำงานไม่เกิน 1 ชม. ถือว่าเป็นระยะเวลาที่รับได้ ถึงแม้จะต้องใช้เวลาในการเดินทางมากกว่าการเลือกอยู่คอนโดติดแนวรถไฟฟ้า แต่ได้อยู่บ้านพื้นที่ได้พื้นที่ใช้สอยมากกว่าก็ต้องแลกกับเวลาที่เดินทางเข้ามาทำงานในเมืองที่เพิ่มขึ้นเป็นธรรมดา
ที่ผมยกโซนออฟฟิศยอดฮิตอย่าง “ห้าแยกลาดพร้าว” มาพูดกันวันนี้ ก็เพราะเป็นจุดตัดของถนนสายสำคัญหลายเส้น ไม่ว่าจะเป็นถนนพหลโยธิน ถนนวิภาวดีรังสิต และถนนลาดพร้าว ซึ่งล้วนแต่เป็นพื้นที่ที่รายล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญและอาคารสำนักงานหลายแห่ง เช่น ห้างสรรพสินค้า Central ลาดพร้าว, Union Mall, PTT สำนักงานใหญ่, I Tower, รสา ทาวเวอร์, ตึกเล้าเป้งง้วน, Sun Tower, การบินไทย, Bangkok Airways, รวมถึงอาคารที่กำลังสร้างอยู่อย่าง Singha และ BTS ด้วย และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนั้นจุดนี้ยังมีทั้งรถไฟฟ้า BTS และ MRT ทำให้สามารถเดินทางได้สะดวก จึงไม่ต้องแปลกใจเลยถ้านี่จะเป็นจุดสำคัญจุดหนึ่งของกรุงเทพฯ
ลองมาดูกันก่อนว่าถ้าเป็นรถไฟฟ้าที่จะนั่งมาทำงานบริเวณนี้ให้ทันภายในหนึ่งชั่วโมงจะไกลสุดที่สถานีไหน ถ้าลองคิดแบบคร่าวๆว่าเดินทางสถานีละ 3 นาที ก็จะมีระยะทั้งหมด 20 สถานี ในแต่ละเส้นทาง จะเน้นเฉพาะสายตรงนะครับ ไม่พูดถึงที่ต้อง Interchange ไม่งั้นจะเยอะมากๆ คือจะมี BTS สายสีเขียว และ MRT สายสีน้ำเงิน
- ถ้าเป็น BTS สายสีเขียว ก็ต้องไปแถวๆสถานีอุดมสุข ซึ่งแถวนั้นก็คงยังไม่มีที่พักอาศัยแนวราบราคาถูกๆให้เห็นนักนะครับ ยังคงจะเป็นคอนโดซะส่วนใหญ่
- ถ้าเป็น MRT สายสีน้ำเงิน จะไปหยุดไกลสุดที่สถานีพุทธมณฑลสาย 2 ซึ่งปัจจุบันยังไม่เปิดให้บริการนะครับ (เลยสถานีหลักสองไป 1 สถานี) แถวนั้นส่วนใหญ่จะเป็นที่พักอาศัยแนวราบ ซึ่งก็มีโครงการบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ให้เลือกเยอะอยู่เหมือนกัน
แสดงว่าสถานีก่อนหน้าทั้งสองสถานีนี้ทั้งหมดก็จะใช้เวลาเดินทางไปห้าแยกลาดพร้าวไม่เกิน 1 ชั่วโมงโดยประมาณ ก็ลองดูเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อนะครับ
ทีนี้เราลองมาดูแนวราบกันบ้าง ซึ่งจะเป็น Main ของบทความนี้ที่เราจะมาพูดถึงกัน ดังนั้นวันนี้เรามาลองดูกันดีกว่าว่าถ้าหากคุณต้องทำงานที่บริเวณ 5 แยกลาดพร้าว แล้วจะสามารถซื้อบ้านที่ใช้เวลาเดินทางมาทำงานโดยไม่เกิน 1 ชั่วโมงที่ไหนได้บ้าง ซึ่งผมจะอ้างอิงเวลาจาก Google Map
- เลือกไปที่ช่วง เช้าวันจันทร์แรกของเดือน
- ส่วนระยะเวลาที่เลือกใช้คือ ประมาณ 1 ชั่วโมง
- เริ่มเดินทางช่วงเวลา 7 โมงเช้า
- เพื่อให้เข้างานทัน 8 โมง
ผมจะขอปักหมุดไว้ตรงกลางห้าแยกลาดพร้าวนะครับ บวกลบนิดหน่อยสัก 10 นาที ตามตำแหน่งของแต่ละโครงการ
ด้วยความที่ห้าแยกลาดพร้าวเป็นทำเลที่อยู่ทางตอนเหนือของกรุงเทพ มีถนนสายสำคัญ 3 สายหลักเป็นส่วนประกอบคือ ถนนพหลโยธิน ถนนวิภาวดีรังสิต และถนนลาดพร้าว โดยผมคัดเอาเฉพาะย่านที่ไม่ไกลจากห้าแยกลาดพร้าวเกิน 15 กิโลเมตร จึงทำให้ย่านที่มีที่พักอาศัยแนวราบรอบๆห้าแยกลาดพร้าวจะถูกแบ่งออกมาให้เห็นเป็น 4 โซนใหญ่ๆ ได้แก่
- ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์
- ดอนเมือง-สรงประภา
- วัชรพล-เพิ่มสิน-สุขาภิบาล 5
- นนทบุรี
ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์
มาเริ่มกันที่ทำเลใกล้ที่สุดกันก่อนเลย.. พื้นที่ตรงนี้เป็นทำเลที่พักอาศัยแนวราบใกล้เมืองที่เดินทางได้ง่ายและมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้พร้อม ทั้งของกินของใช้รวมถึงรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินและรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่กำลังจะได้ใช้งานกันในเร็วๆนี้ หรือจะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็สะดวกเพราะสังเกตจากแผนที่ซึ่งถ้าผมไม่ปักหมุดก็คงจะทราบกันอยู่แล้วแหละว่าบริเวณ ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ นี้สามารถเดินทางมาที่ห้าแยกลาดพร้าวได้ภายในเวลาหนึ่งชั่วโมงแน่นอน ผมจึงเลือกที่จะปักหมุดไปที่ The Walk เกษตร-นวมินทร์เลยล่ะกันครับ ให้เห็นว่าจากตรงนั้นเดินทางมาห้าแยกลาดพร้าวเพียงแค่ประมาณ 18-40 นาที เท่านั้น
ความอุดมสมบูรณ์ของทำเลนี้ค่อนข้างคึกคัก เพราะมีร้านค้าร้านอาหาร ของกินอร่อยๆกระจายอยู่ทั้งรอบๆและภายใน เช่นตัวถนนลาดพร้าวเอง โชคชัย 4 ลาดพร้าววังหิน และโซนร้านอาหารคึกคักอย่างเกษตรนวมินทร์ แถมยังมีห้างสรรพสินค้าขาใหญ่ประจำย่านนี้อย่าง Central ลาดพร้าว และ Union Mall ให้ใช้เดินจับจ่าย Shopping กันได้ด้วย
ที่ผมปักหมุดมาให้นี้ไม่ใช่โครงการทั้งหมดของย่านนี้นะครับ แต่จะเลือกเป็นโครงการที่เพิ่งเปิดตัวมาใหม่ๆ และยังมีขายอยู่ในปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าภายในพื้นที่ลาดพร้าวส่วนใหญ่จะเป็นทาวน์โฮมและโฮมออฟฟิศ ส่วนบ้านเดี่ยวกับบ้านแฝดจะเริ่มมีให้เห็นฝั่งรอบนอกทางเกษตร-นวมินทร์ เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งล้วนแต่เป็นโครงการบ้านแพงราคาสิบล้านขึ้นไป เพราะมีทำเลใกล้กับตัวเมือง โดยรวมของย่านนี้แต่ละโครงการจะเป็นโครงการขนาดเล็กและมีจำนวนยูนิตไม่มากนัก จึงทำให้แบรนด์ในพื้นที่นี้จะมีให้เห็นค่อนข้างหลากหลายเลย เพราะมีผู้เข้ามาลงทุนกันเยอะพอสมควร ระดับราคาก็จะมีให้เห็นกันตั้งแต่ 5 ล้าน ไปจนถึงร้อยกว่าล้านเลยล่ะครับ
ดอนเมือง-สรงประภา
ถ้าพูดถึงทำเลกรุงเทพตอนเหนือ ก็คงจะไม่พูดถึงทำเลนี้ไม่ได้ กับ ดอนเมือง-สรงประภา เพราะเป็นทำเลที่สามารถเดินทางด้วยรถยนต์สะดวกเชื่อมต่อถนนสายหลักได้หลายสายอย่าง ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนวิภาวดี-รังสิต ถนนติวานนท์ ทางด่วนศรีสมาน ใกล้สนามบินดอนเมือง และการเดินทางเข้าเมืองไปยังห้าแยกลาดพร้าวก็อยู่ในระยะที่ไม่เกิน 1 ชั่วโมงในช่วงเวลาเร่งด่วน เช่น ที่ผมปักหมุดไว้จาก Happy Avenue ดอนเมืองในช่วง 7 โมงเช้าวันจันทร์นะครับ จะใช้เวลาประมาณ 22-45 นาที
ความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้จะมีของกินของขายบนถนนสรงประภาค่อนข้างเยอะ เนื่องจากเป็นย่านชุมชนดั้งเดิมมีหมู่บ้านหลายหมู่บ้านตั้งอยู่โดยรอบ มีทั้งตลาดสด ตลาดนัดและร้านอาหารตามอาคารพาณิชย์ ถ้าจะไปเดินศูนย์การค้าที่ใกล้สุดจะเป็น Happy Donmuang Avenue และโรบินสัน ศรีสมาน หรือไปไกลอีกสักหน่อยมีตัวเลือกให้ 2 ที่ คือ เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ กับ Future Park รังสิต สำหรับถนนสรงประภาเองนั้นจะมีอาคารสำนักงานตั้งอยู่จำนวนมาก อย่าง สำนักงานสาขาของธนาคาร, สำนักงาน TOT, วิทยาลัยเทคนิคดอนเมือง, โรงเรียนพระหฤทัยดอนเมือง จึงมีร้านอาหารหลายประเภท, ร้านขายยา, อู่ซ่อมรถ, และร้านขายของต่างๆให้เลือกได้พอสมควร
สำหรับทำเล ดอนเมือง-สรงประภา นี้ เป็นแหล่งที่พักอาศัยแนวราบที่เยอะและหลากหลายแบบที่ทราบกันอยู่แล้ว เพราะมีทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮมกระจายอยู่เต็มพื้นที่ ส่วนโฮมออฟฟิศก็มีแทรกมาให้เห็นบ้าง ซึ่งที่ผมหยิบมาให้ดูก็มีทั้งตัวที่ยังขายอยู่และปิดการขายไปแล้วบ้าง เพื่อที่จะได้ชี้เป้าให้เห็นว่าโครงการไหนที่ยังมีขายอยู่ และขายหมดไปแล้ว ทำเลนี้นอกจากจะมีความหลากหลายในเรื่องของรูปแบบโครงการแล้ว ยังมีความหลากหลายในเรื่องของราคาด้วยเช่นกัน เพราะจะมีให้เห็นตั้งแต่ 2 ล้านต้นๆไปจนถึง 20 กว่าล้านเลยล่ะครับ
อย่างแบรนด์ส่วนใหญ่จะเห็นของ Pruksa เยอะหน่อย เพราะขนมาทั้ง The Connect 2 ตัว, The Plant 2 ตัว, ภัสสร, พฤกษาวิลล์, และ Patio ส่วนอีกแบรนด์ที่จะมาเยอะในทำเลนี้คือ QHouse ที่ยก Qdistrict มาวาง ภายในจะประกอบไปด้วย 4 โครงการ Casa City, Casa Ville, Saca Presto และ Gusto ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละรูปแบบและช่วงราคา ทางฝั่งคลองประชาชื่นก็มีกลุ่มบ้านแพงอย่างเศรษฐสิริ 2 โครงการ และ Life Bangkok Boulevard นอกจากนั้นก็มีแบรนด์ Local อื่นๆแทรกมาให้เป็นตัวเลือกด้วย อย่าง สกาย, ไลโอนอฟ, JW Urban และอื่นๆ
วัชรพล-เพิ่มสิน-สุขาภิบาล 5
ย่านวัชรพล เป็นทำเลที่ออกมาจากตัวเมืองพอสมควรแต่ก็จัดว่าอยู่ในทำเลย่านชุมชนที่เดินทางได้สะดวก เพราะใกล้กับถนนหลักอย่างพหลโยธิน แถมยังจะมีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวให้ใช้งานใกล้ๆกันได้ด้วย นอกจากนั้นก็มีทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ให้ใช้งานได้ง่าย โดยทางด่วนสายนี้ถ้าวิ่งขาเข้าก็จะไปเชื่อมกับทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา วิ่งเข้าเมืองตรงๆได้เลย หรือถ้าวิ่งขาออกก็จะไปเชื่อมต่อกับถนนกาญจนาภิเษกได้ด้วย โดยถนนกาญจนาภิเษกนี้จะใช้วิ่งขึ้นเหนือไปทางบางปะอินหรือวิ่งลงใต้ไปทางบางนาก็ได้ จะผ่านทั้งรามอินทรา, รามคำแหง และ มอเตอร์เวย์ ไปถึงสุวรรณภูมิได้เลยเช่นกัน ในส่วนของการปักหมุดผมปักไปที่ห้าแยกวัชรพล จะเห็นว่าใช้เวลาเดินทางไปห้าแยกลาดพร้าวตอนเช้าประมาณ 20-45 นาทีเท่านั้น จัดเป็นอีกทำเลใกล้ห้าแยกลาดพร้าวที่น่าสนใจเลยล่ะครับ
ในส่วนของความอุดมสมบูรณ์ จะมีร้านค้าและร้านอาหารตั้งอยู่บริเวณถนนหลัก เช่น วัชรพล เพิ่มสิน และสุขาภิบาล 5 ซึ่งถ้ามองในภาพรวมทำเลนี้จัดเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ มีทั้งชุมชนดั้งเดิมอยู่กันมานานและหมู่บ้านจัดสรรที่ขึ้นมาใหม่จำนวนมาก ทำให้ความอุดมสมบูรณ์ของทำเลนี้ค่อนข้างคึกคักมีร้านอาหาร ร้านค้า ตลาดใหญ่ และ Hyper Market เยอะพอสมควร และอยู่ในเรทราคาย่อมเยา ไม่แพงมาก สามารถกินได้ในชีวิตประจำวัน ที่เด่นๆ เลยของทำเลนี้ก็จะมีตลาดออเงิน และตลาดวงศกรตรงถนนสายไหม ตลาดยิ่งเจริญ ส่วนห้างสรรพสินค้าจะเป็นพวกเซ็นทรัลรามอินทรา ศูนย์การค้าแฟชั่น ไอส์แลนด์, เดอะ พรอมานาด, เพลินนารี่ มอลล์, เวนิส ดี ไอริส วัชรพล (Vennice Di Iris), Index Living Mall, The Walk (เกษตร–นวมินทร์) Crystal Park รวมถึงสถานศึกษา ซึ่งมีทั้งโรงเรียน รัฐบาลและเอกชน อาทิ โรงเรียนสายอักษร, โรงเรียนนานาชาติกีรพัฒน์ (รามอินทรา34), โรงเรียนเลิศหล้า และ Australian International School รวมถึงโรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนนอรัล, โรงพยาบาลสินแพทย์ เป็นต้น
สำหรับโครงการแนวราบในย่านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ราคาที่เห็นก็จะเริ่มตั้งแต่ 2 ล้านต้นๆ ไปจนถึง 20 กว่าล้านเลย แต่ส่วนใหญ่จะเริ่มจับกลุ่มกันอยู่ที่ 4-9 ล้านบาท โดยถ้ายึดตามเส้นถนนวัชรพลและสุขาภิบาล 5 เลย ส่วนทาวน์โฮมและโฮมออฟฟิศจะใกล้กับเส้นรามอินทรา ไม่อย่างนั้นก็จะขึ้นไปด้านบนช่วงใกล้กับถนนสายไหม ส่วนแบรนด์ที่เห็นส่วนใหญ่ก็จะมาในรูปแบบบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมซึ่งก็คงคุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่แล้ว เช่น AP, Pruksa, Sansiri, QHouse, Goldenland, มั่นคงเคหะการ และมี Local มาปะปนให้เห็นบ้าง หรือใครที่มองหาโฮมออฟฟิศก็มีให้เลือกกันหลายตัวเหมือนกัน เช่น Plume วัชรพล-เอกมัย จาก เอส เอสเตท พลัส ที่เป็นบริษัทในเครือสินธานีกรุ๊ป, Nirvana@Work จาก เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ และ Days รามอินทรา-วัชรพล จาก Arbor Property
ปากเกร็ด-นนทบุรี
อีกทำเลที่น่าสนใจสำหรับที่พักอาศัยแนวราบที่ต้องเดินทางไปทำงานในตัวเมืองกรุงเทพตอนเหนืออย่างห้าแยกลาดพร้าวก็คงจะเป็นฝั่งนนทบุรี ที่มีรถไฟฟ้าสายสีม่วงให้ใช้งานกันได้ด้วยในบางพื้นที่ ทำเลนี้จะเป็นช่วงถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนชัยพฤกษ์ ปากเกร็ด รวมไปถึงแจ้งวัฒนะ การเดินทางจะสามารถวิ่งเข้าเมืองได้หลายช่องทาง หรือจะออกเมืองไปถนนราชพฤกษ์ และถนนกาญจนาภิเษกได้เช่นกัน ผมเลือกปักหมุดที่สะพานพระนั่งเกล้า ซึ่งจะใช้เวลาเข้าเมืองประมาณ 18-40 นาที
ความอุดมสมบูรณ์ของทำเลนี้ ผมมองว่าบริเวณที่มีห้างใหญ่รวมตัวกันจะมีอยู่ค่อนข้างหลากหลายโซนนะครับ โซนแรกเลยคือบนถนนรัตนาธิเบศร์ ก่อนข้ามไปฝั่งใกล้ๆสนามบินน้ำ บริเวณนั้นจะมีเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ตั้งอยู่ฝั่งขาเข้าใกล้กับตลาดนกฮูก ส่วนฝั่งขาออกก็จะมี Big C ตั้งอยู่หน้าสถานีบางกระสอ ถ้าดูโซนต่อมาบริเวณถนนรัตนาธิเบศร์ตัดกับถนนกาญจนาภิเษกหรือสามแยกบางใหญ่ แถวนั้นจะเป็นอีก node หรือจุดตัดนึงที่มีห้างเกิดขึ้นอีกมากเลย เช่น Central West Gate, IKEA, Index living mall, Homepro, Big C หรือจะเป็นตลาดอย่างตลาดบางใหญ่ จัดว่าเป็นอีกโซนนึงที่เดินทางไปได้ง่ายเช่นกัน ต่อมาจะเป็นถนนเส้นชัยพฤกษ์ตรงไปยังเเจ้งวัฒนะ ที่มีทั้งห้างสรรพสินค้าอย่างเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ บิ๊กซีอยู่ หรือจะขับเลยไปอีกไม่นานก็จะเป็นโซนเมืองทองธานี ที่มีทั้งร้านอาหารจำนวนมาก ตลาดนัด ตลาดสด และ Outlet สามารถไปเดินเล่นช็อปปิ้งได้ และอีกโซนหนึ่งที่น่าสนใจจะอยู่ตรงถนนเส้นราชพฤกษ์ บริเวณถนนทั้งเส้นจะมีร้านอาหารและ Community mall เป็นจำนวนมากบริเวณถนนเส้นนั้น นอกจากเรื่องอาการการกินเเล้ว บริเวณนี้ยังมีโรงเรียนชื่อดังอย่างเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า สาขานนทบุรี อยู่ใกล้กับโครงการเช่นกัน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับครอบครัวที่หาโรงเรียนดีๆให้ลูก ทำเลนี้จัดว่ามีตัวเลือกให้เลือกไม่เลวเลย
จากที่ผมเลือกมาให้ดูจะแบ่งเป็น 3 โซนใหญ่ๆ โซนแรกจะเกาะตามแนวถนนรัตนาธิเบศร์ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อเข้าตัวเมืองได้ง่ายและมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงให้ใช้ด้วย จะเน้นไปที่โครงการ 2-3 ล้าน แทรกมาให้เห็นด้วยเหมือนกัน ส่วนถัดมาจะเป็นถนนราชพฤกษ์ เนื่องจากเป็นถนนที่มี Community Mall หลายแห่งและมีที่อยู่อาศัยอยู่มาก รูปแบบส่วนใหญ่จะเป็นโครงการขนาดใหญ่ ราคาสูง แต่ถ้าเข้าไปลึกหน่อยก็ยังมีราคาถูกให้จับได้เหมือนกัน ส่วนสุดท้ายคือถนนชัยพฤกษ์ พื้นที่ทำเลนี้ส่วนมากเป็นพื้นที่ราบโล่งๆ ในช่วงปีหลังๆมานี้ ทำเลนี้ได้ถูกพัฒนาไปเป็นโครงการที่พักอาศัยทั้งบ้านเดี่ยวและแนวราบอื่นๆค่อนข้างเยอะ ทำให้ทำเลนี้เริ่มมีความคึกคักเเละมีผู้อยู่อาศัยหนาแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะทำให้ความอุดมสมบูรณ์จะตามมาอีกในอนาคต
ถ้าสังเกตดีๆแถวนี้จะมีแต่บ้านเดี่ยว บ้านแฝด เป็นส่วนใหญ่ อาจจะมีทาวน์โฮมแทรกมาให้เห็นกันบ้าง แต่โฮมออฟฟิศนี่ดูจะเงียบไปเลยสำหรับทำเลนี้ แบรนด์ส่วนใหญ่ที่เราจะเห็นกันในทำเลเหล่านี้เชื่อว่าคงคุ้นหูคุ้นตากันอยู่แล้ว เช่น VIVE, มัณฑนา จาก LH / Mind ติวานนท์, The City, Grande Pleno, Centro, บ้านกลางเมือง จาก AP / พฤกษ์ภิรมย์, คาซ่าแกรนด์ จาก QHouse นอกจากนั้นก็มีโครงการจาก Sansiri, Goldenland, Property Perfect, Pruksa ให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆอีกด้วย
มาถึงช่วงสุดท้ายของบทความนี้นะครับ ผมรวบรวมตัวอย่างของโครงการที่มีขายอยู่ในแต่ละโซนมาให้ดูกัน เพื่อที่จะพอเห็นภาพของแต่ละทำเลกันนะครับ
ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ – เป็นทำเลใกล้ห้าแยกลาดพร้าวและตัวเมือง แถมยังมีความอุดมสมบูรณ์และความคึกคักสูงที่สุดจาก 4 ทำเลที่ผมยกมา ทำให้มูลค่าที่ดินสูง จึงเกิดเป็นโครงการขนาดเล็กภายในพื้นที่หลายโครงการ เน้นไปที่ทาวน์โฮมและโฮมออฟฟิศซะเป็นส่วนใหญ่ ภาพรวมราคาจะมีค่อนข้างสูง ทาวน์โฮมและโฮมออฟฟิศจะมีหลายขนาด มาให้เลือกตั้งแต่ 5, 6 ล้าน ไปจนถึง 20 กว่าล้านเลย ส่วนบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดจะไปอยู่โซนเกษตรนวมินทร์ซะเป็นส่วนใหญ่ จะเป็นบ้าน Segment ที่เป็น Luxury ขึ้นไปทั้งนั้น มีให้เห็นตั้งแต่ 17 ล้านขึ้นไปจนถึงร้อยกว่าล้านเลย
ทำเลนี้เหมาะกับคนที่เน้นความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้ชิด หาของกินของใช้ได้ง่าย เน้นมองหาทาวน์โฮม, โฮมออฟฟิศ ที่เป็นโครงการขนาดเล็ก จำนวนยูนิตไม่เยอะ หรือกลุ่มบ้านหรูขนาดใหญ่ใกล้ตัวเมืองที่มีลักษณะการออกแบบแตกต่างกันไปในแต่ละโครงการ แล้วแต่ความชอบและความพึงพอใจตามสไตล์แต่ละคนเลยครับ
ดอนเมือง-สรงประภา – เป็นทำเลที่มีดอนเมืองโทลเวย์ให้ใช้ ภายในเน้นไปที่บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมเป็นส่วนใหญ่ ขนาดจะมีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย บ้านเดี่ยวจะมีให้เลือกค่อนหลายแบบหลายขนาด ราคาขนาดทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 5-12 ล้านบาท ถ้าใครมองหาบ้านหลังใหญ่จะขยับไปทางเลียบคลองประชาชื่นก็พอมีให้เลือกอยู่บ้าง เช่น เศรษฐสิริ แจ้งวัฒนะ-ประชาชื่น 2 เริ่มต้น 16.99-24 ล้านบาท ส่วนทาวน์โฮมราคาจะค่อนข้างเกาะกลุ่มกันอยู่ที่ประมาณ 3-5 ล้านบาท แต่ถ้าเป็นโฮมออฟฟิศจะมีให้เลือกไม่มากนัก แต่ก็พอมี JW Urban Home 9.9 ล้านบาท
ทำเลนี้เหมาะกับคนที่มองหาบ้านเดี่ยวขนาดกลาง พื้นที่ใช้สอยประมาณ 150-200 ตร.ม. ในราคาจับต้องได้ หรือถ้าเป็นทาวน์โฮมจะเน้นไปที่ขนาดเล็ก 100-130 ตร.ม. เดินทางเข้าเมืองได้ง่าย หรือใช้สนามบินดอนเมืองเป็นประจำ มีตลาดและห้างสรรพสินค้าในย่านหลายแห่ง
วัชรพล-เพิ่มสิน-สุขาภิบาล 5 – ทำเลนี้จะเน้นก็เป็นอีกทำเลที่ไม่ไกลตัวเมืองนัก อิงถนนรามอินทรา และพหลโยธินเป็นได้ง่าย มีรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวส่วนต่อขยายให้เลือกใช้งานได้ ความอุดมสมบูรณ์ของทำเลนี้ค่อนข้างคึกคักมีร้านอาหาร ร้านค้า ตลาดใหญ่ และ Hyper Market เยอะพอสมควร และอยู่ในเรทราคาย่อมเยา ไม่แพงมาก ส่วนบ้านเดี่ยวจะมีราคาให้เลือกตั้งแต่ 4-30 ล้านบาท และทาวน์โฮมจะมีให้เริ่มต้นตั้งแต่ 2 ล้านหน่อยๆ ไปจนถึงโฮมออฟฟิศ 15-21 ล้านบาทเลย
ทำเลนี้เหมาะกับคนที่มองหาบ้านเดี่ยวขนาด ตั้งแต่ประมาณ 150-250 ตร.ม. ส่วนทาวน์โฮมจะมีขนาดเล็กประมาณ 100 – 120 ตร.ม. ทางฝั่งใกล้ถนนเพิ่มสิน หรือถ้าใครอยากได้ขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยจะมีเกาะกลุ่มกันอยู่ช่วงใกล้ถนนรามอินทราตั้งแต่ทาวน์โฮมขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 150-250 ตร.ม. หรือถ้าอยากได้เป็นโฮมออฟฟิศก็จะมีให้เลือกตั้งแต่ประมาณ 160-450 ตร.ม. เลย
นนทบุรี – ทำเลนี้อาจจะกว้างสักหน่อยเพราะผมเลือกมาตั้งแต่ถนนรัตนาธิเบศร์ ชัยพฤกษ์ ราชพฤกษ์ ไปจนถึงแจ้งวัฒนะบางส่วน จึงทำให้มีความเจริญค่อนข้างหลายจุด แต่เป็นโซนที่เดินทางเข้าเมืองได้ไม่ยาก มีบ้านให้เลือกเยอะ และมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงให้เลือกใช้ได้ด้วยในบางพื้นที่
ทำเลนี้จะเน้นไปที่บ้านเดี่ยวเป็นส่วนใหญ่ และด้วยทำเลที่กว้างจึงทำให้มีความหลากหลายของช่วงราคา มีแบบบ้านให้เลือกเยอะ เช่นบ้านเดี่ยวจะมีให้เลือกตั้งแต่ 2.8 – 29.9 ล้านบาทเลย ขนาดนี่ก็หลากหลายตาม แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 100-200 ตร.ม. นะครับ ส่วนทาวน์โฮมจะเน้นไปที่ขนาดเล็ก ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 100-150 ตร.ม. ราคาก็จะอยู่ประมาณ 2-4 ล้านบาทครับ
………………………………………………………………………….
**พบกับหนังสือฟรี เล่มใหม่ #ซื้อบ้านอย่าลืมถาม
ที่รวมปัญหาเจ็บๆ ก่อนซื้อบ้านและคอนโด ที่ไม่รู้แล้วจะเสียใจ ลงทะเบียนรับหนังสือฟรี