เซนโทร ราชพฤกษ์ 3 (Centro ราชพฤกษ์ 3) บ้านเดี่ยวสังคมส่วนตัว รองรับการต่อเติมได้ ในโซนราชพฤกษ์ จาก AP

Centro Ratchapruek 3 (เซนโทร ราชพฤกษ์ 3)  ณ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568

พิกัด Google Maps : 13.839833645145804, 100.43428045721282
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

Highlight

• เดินทางสะดวก : เชื่อมต่อถนนหลัก 4 เส้นทางทั้ง ถนนราชพฤกษ์, ถนนรัตนาธิเบศร์, ถนนกาญจนาภิเษกและถนนนครอินทร์
• ความอุดมสมบูรณ์สูง : ใกล้ 3 เซ็นทรัลทั้งเวสต์เกต, เวสต์วิลล์ และรัตนาธิเบศร์ รวมถึงใกล้โรงเรียนชั้นนำหลายแห่ง

แผนที่จากทางโครงการ เซนโทร ราชพฤกษ์ 3 (Centro ราชพฤกษ์ 3)

โครงการ เซนโทร ราชพฤกษ์ 3 (Centro ราชพฤกษ์ 3) ตั้งอยู่ในซอยบางเลน 21 บนทำเลราชพฤกษ์-นครอินทร์ จุดสังเกตคือบริเวณปากซอยจะอยู่ใกล้ๆกับวงเวียนการไฟฟ้าบางใหญ่เชื่อมจากถนนบางกรวย-ไทรน้อย สามารถเดินทางไปยังถนนราชพฤกษ์ได้ในระยะประมาณ 2.5 km. นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อกับ ถนนรัตนาธิเบศร์, ถนนวงแหวนรอบนอกกาญจนาภิเษกและถนนนครอินทร์ได้อีกด้วย และถือเป็นโครงการแนวราบที่สามารถเดินทางไปยังรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีบางพลู ในระยะทางประมาณ 4.5 km.

บรรยากาศโดยรอบโครงการมีความสงบเหมาะกับการพักอาศัย แต่สิ่งอำนวยความสะดวกในละแวกนี้นั้นถือว่าสมบูรณ์ครบครัน ใกล้ๆโครงการจะมีตลาดขนาดใหญ่อย่าง “ตลาดเจ้าพระยา” และ “ตลาดสดดอนพรหม” ที่อยู่ห่างออกไปแค่ประมาณ 1.7 km. ให้แวะซื้ออาหารเข้าบ้านได้ง่ายๆ และบนถนนบางกรวย-ไทรน้อยเองก็มีร้านค้าชั้นนำหลายแห่ง ทั้ง Tops, 7-11, CJ, Mr. DIY อยู่บนถนนเส้นนี้

หากถามหาห้างสรรพสินค้า หรือ Community Mall ก็มีอยู่รอบๆ หลายแห่ง อย่างเซ็นทรัลที่อยู่ใกล้ๆ ก็มี 3 สาขาเลยนะคะ ทั้งเซ็นทรัล เวสต์เกต, เวสต์วิลล์ และรัตนาธิเบศร์ นอกจากนี้ก็จะมี HomePro, IKEA, The Walk ราชพฤกษ์, The Crystal SB, Chic Republic ราชพฤกษ์, Lotus’s North ราชพฤกษ์, สัมมากร เพลส ราชพฤกษ์ รวมไปถึงร้านค้าร้านอาหารต่างๆ ก็มีให้เลือกอยู่ตลอดเส้นทางถนนราชพฤกษ์ ในส่วนของสถานศึกษาที่มีชื่อเสียงก็จะมีโรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า พระราม 5 และโรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง เช่น ร่วมฤดี, ดราก้อน, ดีบีเอส (เด่นหล้า) เป็นต้น

ภาพรวมของที่อยู่อาศัยในย่านราชพฤกษ์ ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านแนวราบ ความอุดมสมบูรณ์และความครบครันของทำเลนี้ทำให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก ส่งผลให้ราคาโครงการบ้านเดี่ยวที่อยู่บนถนนราชพฤกษ์-นครอินทร์ มีราคา 10-25 ล้านบาท หากมีงบไม่ถึง 10 ล้านบาทหรืออยากได้บ้านไซส์ใหญ่ในงบ 10 ล้านต้นๆ จะต้องขยับเข้าไปในซอยแบบโครงการเซนโทร ราชพฤกษ์ 3 นี้นะคะ

ตำแหน่งที่ตั้งของโครงการเข้าไปในซอยบางเลน 21 ประมาณ 1.1 km. เป็นถนน 2 เลนสวนกันได้ บรรยากาศภายในซอยเป็นพื้นที่พักอาศัย บางส่วนเป็นชุมชนเดิมและบางส่วนเป็นหมู่บ้านจัดสรร นอกจากนี้บางแปลงยังคงเป็นสวนผลไม้ดั้งเดิมอยู่ด้วย จึงได้บรรยากาศที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ

ถ้าไปดูในผังเมืองรวมนนทบุรี ปี 2566 (ฉบับล่าสุด) จะเห็นว่าพื้นที่ใกล้โครงการนั้นมีแนวถนนตัดใหม่เชื่อมถนนนนทบุรี 1 – ถนนกาญจนาภิเษก ตัดผ่านบริเวณวงเวียนการไฟฟ้าแถวหน้าปากซอยโครงการเลยค่ะ ถนนเส้นนี้จะช่วยให้เราเชื่อมออกถนนกาญจนาภิเษก และข้ามสะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ เพื่อข้ามไปยังโซนเลี่ยงเมืองนนทบุรี เชื่อมเข้าโซนพระราม 7 ได้ง่ายขึ้น

และมีอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจคือโครงการขยายถนนในซอยบางเลน 21 เพื่อเชื่อมกับถนนนครอินทร์ ทำให้การวิ่งเข้าถนนนครอินทร์เพื่อเชื่อมไปโซนติวานนท์สะดวกขึ้นด้วยค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการ เซนโทร ราชพฤกษ์ 3 (Centro ราชพฤกษ์ 3) ส่วนใหญ่จะเป็นหมู่บ้านจัดสรร, บ้านพักอาศัย สลับกับที่ดินเปล่า บรรยากาศเงียบสงบเหมาะกับการพักอาศัย โดยฝั่งด้านหน้าโครงการจะติดกับซอยบางเลน 21 ที่สามารถเชื่อมไปยังถนนบางกรวย-ไทรน้อย ได้ค่ะ

• ทิศเหนือ ติดกับ ที่ดินเปล่า และบ้านพักอาศัย
• ทิศตะวันออก ติดกับ พื้นที่สวน
• ทิศใต้ ติดกับ ซอยบางเลน 21 และพื้นที่สวน
• ทิศตะวันตก ติดกับ ที่ดินเปล่า

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• ตลาดเจ้าพระยา ∼ 1.7 km.
• Central Westgate / IKEA ∼ 7.6 km.
• The Walk ราชพฤกษ์ ∼ 7.8 km.
• Bic C บางใหญ่ ∼ 8.6 km.
• Home Pro รัตนาธิเบศร์ ∼ 9 km.
• Design Village ราชพฤกษ์ ∼ 9.7 km.
• Central รัตนาธิเบศร์ ∼ 10.6 km.
• Central Westville ∼ 11.2 km.
• เดอะ คริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์ ∼ 12.2 km.
• Lotus’s North ราชพฤกษ์ ∼ 13 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลบางใหญ่ ∼ 5.5 km.
• โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ∼ 8 km.
• โรงพยาบาลชลลดา ∼ 8.2 km.
• โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ ∼ 8.4 km.
• โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์ ∼ 8.8 km.

โรงเรียน

• โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาฯ นนทบุรี ∼ 2.1 km.
• โรงเรียนนานาชาติ ร่วมฤดี ∼ 3.5 km.
• โรงเรียนนานาชาติ ดราก้อน ∼ 8.3 km.
• โรงเรียนเด่นหล้า พระราม 5 ∼ 8.7 km.
• โรงเรียนนานาชาติ ดีบีเอส (เด่นหล้า) ∼ 13 km.

การเดินทาง

• MRT สายสีม่วง สถานีบางพลู~ 4.4 km.
• ทางพิเศษประจิมรัถยา ด่านฉิมพลี ~ 10 km.
• ทางพิเศษประจิมรัถยา ด่านตลิ่งชัน ~ 11.8 km.

Highlight

• ความเป็นส่วนตัว : โครงการมีความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตเพียง 97 ครอบครัว ทำเลมีบรรยากาศเงียบสงบเหมาะแก่การพักอาศัย

ก่อนอื่นเราขอเล่าเกี่ยวกับแบรนด์บ้าน ‘Centro’ ให้เพื่อนๆ เห็นภาพรวมกันก่อน ถือว่าเป็นแบรนด์บ้านเดี่ยวจาก AP ที่ทำออกมาให้เหมาะกับการเริ่มต้นครอบครัวใหม่ไปจนถึงครอบครัวใหญ่ที่ต้องการขยับขยายมาอยู่บ้านเดี่ยว มีงบประมาณราวๆ 7-12 ล้านบาท จัดเป็นโครงการระดับกลาง หยิบจับได้ไม่ยากนัก มีเงินเดือนทั้งครอบครัวประมาณ 80,000-200,000 บาทก็ผ่อนได้สบายๆ

ลักษณะที่ดินของโครงการ เซนโทร ราชพฤกษ์ 3 (Centro ราชพฤกษ์ 3) จะเป็นแนวยาวเข้าไปข้างใน สิ่งที่น่าสนใจในผังโครงการนี้มีอยู่ 4 ประเด็นนะคะ

• อย่างแรกคือ “ตำแหน่งส่วนกลาง” เค้าวาง Clubhouse ไว้ด้านหน้าสุดตรงทางเข้าหมู่บ้านเลย มีดีไซน์เป็นส่วนหนึ่งกับซุ้มประตูโครงการ ตามแบบฉบับของ AP ทำหน้าที่เป็นโซนต้อนรับ ทำให้ซุ้มประตูดูอลังการมากยิ่งขึ้น แขกไปใครมาก็รองรับการใช้งานบริเวณนี้ได้เลย แยกกับพื้นที่สวนหลักที่จะอยู่บริเวณกลางโครงการ ทำให้ลูกบ้านเข้าใช้งานได้ง่าย
• เรื่องที่ 2 คือ “ตำแหน่งบ้าน” จะมีบ้านที่อยู่ตามแนวถนนหลัก มีข้อดีที่เข้าออกได้สบาย ไม่ต้องเลี้ยวเข้าซอย กับอีกกลุ่มหนึ่งจะเป็นบ้านที่อยู่ในซอย ซึ่งได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะทุกซอยเป็นซอยตันและมีเพื่อนบ้านในซอยไม่เยอะ ซอยละ 6-8 หลังเท่านั้นค่ะ
• อีกเรื่องคือ “ทิศของบ้าน” มีให้เลือก 3 ทิศคือ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ, ทิศตะวันออกเฉียงใต้และทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งแต่ละทิศจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันออกไปนะคะ ใครที่ชอบตื่นเช้าและนั่งเล่นโซนหน้าบ้านในช่วงบ่าย และนำให้เลือกบ้านที่หันออกทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะได้แสงเช้าและโซนหน้าบ้านจะร่มในช่วงบ่าย ส่วนใครที่ชอบนอนตื่นสายหน่อย ไม่อยากให้แสงเข้าห้องนอนในช่วงเช้า แนะนำให้เลือกบ้านที่หันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้นะคะ
• “โซนคิดว่าได้ Value พิเศษ” คือกลุ่มบ้านที่อยู่รอบสวนส่วนกลาง จะได้วิวสวน ช่วยสร้างบรรยากาศที่ร่มรื่น หากเลี้ยงน้องหมา น้องแมวก็พาออกมาเดินเล่นได้สะดวกค่ะ

ซุ้มประตูโครงการดูใหญ่โอ่อ่า เพราะโครงการดีไซน์ให้ส่วนหนึ่งของอาคาร Clubhouse อยู่ด้านบนซุ้มประตูโครงการ ซึ่งนอกจากช่วยให้ดูหรูหราขึ้นแล้ว ยังช่วยเป็นหลังคาบังแดดบังฝนให้บริเวณซุ้มประตูด้วยค่ะ

ประตูทางเข้า-ออกจะมีไม้กั้นกระดก และประตูเหล็กเลื่อนไฟฟ้าที่จะปิดในช่วงกลางคืน แยกทางเข้าออกเป็น 2 ฝั่งชัดเจนกั้นด้วยป้อมรปภ.ตรงกลาง โดยมีพี่รปภ. 24 ชั่วโมงที่คอยอำนวยความสะดวกให้ทั้งลูกบ้านและผู้มาติดต่อ

ในส่วนของระบบรักษาความปลอดภัยใช้ระบบ KATSAN ที่มีทั้งกล้อง CCTV และระบบสแกนทะเบียนรถ ดูปลอดภัย และใช้งานได้ง่าย เนื่องจากเราไม่ต้องเสียเวลาเปิดกระจกออกมาแตะบัตรค่ะ

แน่นอนว่าโครงการของ AP ก็จะต้องมีระบบรักษาความปลอดภัย KATSAN ที่เป็นมาตรฐานของ AP ทุกๆโครงการ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านได้ค่อนข้างดี เช่น เข้าออกด้วยการสแกนทะเบียนรถ กำหนดรถเข้าออกได้ล่วงหน้า หรือกรณีที่เราไม่สะดวกรับแขก ก็สามารถกดปฏิเสธผ่าน Application ได้ โดยไม่จำเป็นต้องให้คนภายนอกเข้ามาในหมู่บ้านให้เสียความเป็นส่วนตัวนะคะ

เข้ามาโซนแรกเราจะเจอกับอาคาร Clubhouse ที่ตั้งตระหง่านเป็นหน้าเป็นตาให้กับโครงการ

ตัว Clubhouse จะมีที่จอดรถให้ 2 คัน เผื่อลูกบ้านโซนด้านในอยากขับรถมา ก็จอดที่นี่ได้นะคะ

อาคาร Clubhouse ดีไซน์มาเป็นอาคาร 2 ชั้น ภายในจัดฟังก์ชันต่างๆ ไว้ทั้งที่เป็น Indoor และ Outdoor

ในส่วนของทางขึ้น – ลงอาคารที่นอกจากจะเป็นบันไดแล้ว บริเวณด้านข้างยังมีทางลาดไว้สำหรับผู้สูงอายุ และผู้พิการอีกด้วย ถือเป็นการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่คำนึงถึงผู้ใช้งานที่หลากหลาย ตามหลัก Universal Design ที่ดีค่ะ

ในส่วนของ Outdoor ก็จะมีสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 8.5 x 11 m. m. ลึก 1.2 m. ซึ่งแยกสระเด็กออกจากสระว่ายน้ำหลักไว้เป็นสัดส่วน แต่สระเด็กจะรวมอยู่ในโซนเดียวกับ Jacuzzi นะคะ ด้านข้างมีพื้นที่ให้อาบน้ำล้างตัวก่อนลงสระ

ใกล้ๆ กับสระว่ายน้ำจะมีทางเดินเชื่อมไปยังห้องน้ำห้องน้ำแยกชาย/หญิง/ผู้สูงอายุ

ห้องน้ำผู้สูงอายุมีขนาดห้องกว้างเป็นพิเศษ ดูจากขนาดแล้วน่าสามารถเข็นรถเข้าไปได้อย่างสะดวกค่ะ

ถัดมาในส่วนของห้องน้ำหญิง/ชาย ภายในมีหน้าต่างบานกระทุ้งช่วยระบายอากาศ และแยกห้องน้ำและห้องอาบน้ำไว้ให้ใช้งานได้อย่างสะดวก

เข้ามาในพื้นที่ Indoor ชั้น 1 จัดฟังก์ชันไว้เป็น Lobby ไว้ใช้รับแขกในกรณีที่ไม่สะดวกจะพาเข้าบ้าน หรือจะใช้เป็นมุมนั่งเล่นระหว่างรอลูกๆ ว่ายน้ำก็ได้ค่ะ

สำหรับฟังก์ชันอื่นๆ จะอยู่บนชั้น 2 ประกอบด้วย Fitness, Co-Working Space และ Kid’s Room

ขึ้นมาชั้นบนจะเป็นทางเดินแบบ Single Corridor เปิดรับวิวรับลมได้ดีเลย

ในส่วนของ Fitness ดูโปร่งโล่งเพราะเป็นผนังกระจกเปิดรับวิวทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งโครงการก็วางเครื่องออกกำลังกายไว้ในตำแหน่งที่มองเห็นวิวได้พอดี มีทั้งเครื่องออกกำลังกายสำหรับ Weight Training และ Cardio ครบถ้วน

Co-Working Space รองรับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้ที่ Work From Home มากขึ้น เผื่อใครอยากเปลี่ยนสถานที่นั่งทำงานก็ Move จากบ้านมาที่ Clubhouse ได้ ภายในจัดเป็นมุมโซฟาและโต๊ะทำงานไว้หลากหลายจุด

ภายใน Co-Working Space จะมี Kid’s Room แยกไว้เป็นสัดส่วน

ภายใน Kid’s Room จัดเฟอร์นิเจอร์มาให้เหมาะกับเด็กๆ มีสีสันสดใส มีบ่อบอลให้เล่น จึงเป็นพื้นที่ที่สามารถพาเด็กๆ มาสนุกกันได้

ถนนหลักภายในโครงการกว้าง 12 เมตร ตามแนวฟุตบาททั้ง 2 ฝั่งมีทั้งไม้พุ่มและต้นไม้ขนาดใหญ่ ช่วยทำให้บรรยากาศร่มรื่น

จากถนนหลักตรงเข้ามาเรื่อยๆ ประมาณกลางโครงการ จะเจอกับวงเวียนต้นไม้ ซึ่งสวนส่วนกลางก็จะอยู่บริเวณนี้นะคะ พื้นที่สวนจะมีแนวไม้พุ่มขนาดเล็กกั้นระหว่างสวนกับถนน เป็น Buffer Zone เพื่อความปลอดภัย

ภายในสวนหย่อมจะมาพร้อมอุปกรณ์เครื่องเล่นสำหรับเด็ก มีมุมนั่งเล่นและทางเดินในสวนให้ใช้เป็น Jogging Track ได้นะคะ

สำหรับถนนในซอยมีความกว้าง 9 m. ให้รถสวนกันได้ตามมาตรฐาน โครงการคิดค่าส่วนกลางที่ 41 บาท/ตารางวา/เดือน คำนวณคร่าวๆ สำหรับบ้านเดี่ยว 50 ตร.วาจะอยู่ที่ราวๆ 2,050 บาท/เดือน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดที่ดินด้วยนะคะ ซึ่งค่าใช้จ่ายตรงนี้ก็จะเป็นค่าดูแลความปลอดภัย ความสะอาดเรียบร้อยของโครงการโดยรอบบ้าน และค่าใช้งาน Facility ที่ให้มา ก็ดูเป็นราคาที่สมเหตุสมผล เพราะแชร์กับลูกบ้านเยอะเพียง 97 หหลังเท่านั้นค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการประกอบไปด้วย

ชั้น 1
– Lobby แบบ Double Volume
– สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ 8.5 x 11 m. ลึก 1.2 m.
– สระเด็ก + Jacuzzi

ชั้น 2
– Fitness
– Co-Working Space
– Kid’s Room

• สวนหย่อมในโครงการมี 2 จุด รวมเกือบ 1 ไร่ (สวนด้านหน้า 41 ตร.ว., สวนส่วนกลาง 320 ตร.ว.)

• Playground
• Jogging Track สำหรับออกกำลังกาย

Highlight

• รองรับการต่อเติมในอนาคต : โครงสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูน รองรับการทุบเชื่อมต่อเติมได้ดีกว่าโครงสร้างแบบ Precast
• คุ้มค่าพื้นที่ใช้สอย : เมื่อเทียบกับโครงการ Segment เดียวกันในละแวกนี้ ถือว่าออกแบบพื้นที่ใช้สอยมาเยอะ ทำให้ทุกห้องมีขนาดใช้งานได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ในราคาที่ไม่ได้สูงเกินไป
• มีแบบบ้านให้เลือกถึง 7 แบบ : ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 164-289 ตร.ม. 3-4 ห้องนอน 2-3 ที่จอดรถ

โครงการ Centro Ratchapruek 3 (เซนโทร ราชพฤกษ์ 3) มีแบบบ้านให้เลือกถึง 7 แบบ พื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 164-289 ตร.ม. ในช่วงราคา 7-12 ล้านบาท ก็นับว่าให้พื้นที่ใช้สอยมาเยอะทีเดียว เหมาะกับครอบครัวขนาดกลางแบบพ่อ แม่ ลูก ไปจนถึงครอบครัวขยายที่มีผู้สูงอายุอยู่ด้วย โดยแต่ละแบบบ้านมีฟังก์ชันที่ต่างกัน ดังนี้

แบบบ้าน LONO และ TREVA เป็นบ้านไซส์เริ่มต้นของโครงการ 2 Type นี้มีฟังก์ชันที่เหมือนกันเลย 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องครัว / 2 ที่จอดรถ ต่างกันที่ขนาดพื้นที่ใช้สอยของ TREVA นั้นใหญ่กว่า โดยเฉพาะห้องนั่งเล่นและห้องนอนใหญ่ ในราคาที่ต่างกันประมาณ 7 แสนบาท

ถัดมาที่แบบบ้าน VESTA, EDEN และ HAMPDEN เป็นบ้านไซส์กลางของโครงการที่มีฟังก์ชันเหมือนกัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องครัว / 2 ที่จอดรถ ทั้ง 3 Type นี้มีห้องนอนที่ชั้น 1 เพิ่มเข้ามาและห้องนอนบนชั้น 2 จะมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง ต่างกันที่ขนาดพื้นที่ใช้สอย และตำแหน่งของห้องนอนชั้นล่าง ซึ่งแบบ EDEN และ HAMPDEN จะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า

อีก 2 Type ใหญ่ คือ LEVORA และ BANDELE จัดฟังก์ชันมาเท่ากัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องครัว / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ ซึ่งมีเฉพาะ 2 แบบบ้านนี้เท่านั้นที่มีห้องแม่บ้าน, ห้องนอนชั้นล่างจะมีห้องน้ำในตัวเลย ผู้สูงอายุใช้งานได้สะดวก, มี Family Area บนชั้น 2 ให้นั่งเล่นอีกจุดหนึ่ง แต่มีเฉพาะ BANDELE แบบเดียวที่ได้ Living Area ขนาดใหญ่จนสามารถแยกพื้นที่นั่งเล่นกับพื้นที่ทานอาหารออกจากกันได้อย่างเป็นสัดส่วน

สรุปวัสดุภายในบ้าน

• โครงสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูน ทุบต่อเติมได้
• หลังคาทรงปั้นหยา มีแผ่นสะท้อนความร้อนใต้หลังคา
• ที่จอดรถแบบ On Ground ปูพื้นคอนกรีต
• ลานซักล้างแบบ On Ground ปูพื้นคอนกรีต
• แท่นวางแทงค์น้ำลงเสาเข็มสั้น 4 m. 4 ต้น
• ประตูทางเข้าหน้าบ้านเป็นประตูบานเลื่อน
• ผนังฉาบเรียบทาสี
• พื้นชั้น 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 cm.
• พื้นชั้น 2 : พื้นไม้ลามิเนต
• บันไดโครงสร้างเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้เนื้อแข็ง
• สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ ยี่ห้อ American Standard และ COTTO
• งานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นในโซนอาบน้ำ
• งานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อน-น้ำเย็นของอ่างอาบน้ำ (เฉพาะแบบบ้าน Bandele และ Levora)
• กรอบหน้าต่าง UPVC
• เคาน์เตอร์ครัวปูนและพัดลมดูดอากาศ
• ระบบไฟขนาด 1 เฟส 30(100)
• Junction รองรับ EV Charger

เทคโนโลยีภายในบ้าน

• กล้องวงจรปิดแบบเดินสายไฟและกล่องบันทึกข้อมูล
• Magnetic Sensor ชั้นบนและชั้นล่าง
• Digital Door Lock ที่ประตูโรงจอดรถ รองรับ Finger Scan, Password, Keycard

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

บ้านตัวอย่างแบบ BANDELE

บ้านตัวอย่างที่พามาชมในวันนี้เป็นบ้าน Type ใหญ่สุดของโครงการ ออกแบบบ้านในสไตล์ Modern Minimal เน้นโทนอาคารสีขาว ใช้เส้นสายที่เรียบง่ายดูสะอาดตา ในส่วนของหลังคาจะมาในทรงปั้นหยาซึ่งเป็นทรงที่ระบายน้ำได้ดี และมีชายคาช่วยบังแดดบังฝนได้ทุกด้าน มาพร้อมแผ่นสะท้อนความร้อนใต้หลังคา ทำให้ในตัวบ้านเย็นขึ้น

ตัวบ้านมีขนาดพื้นที่ใช้สอย 289 ตร.ม. บนที่ดินขนาด 66.3 ตร.ว. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องครัว 3 ที่จอดรถ และ 1 ห้องแม่บ้าน ซึ่งมีห้องน้ำแม่บ้านแยกไว้เป็นสัดส่วน ในราคาเริ่มต้น 11.9 ล้านบาท

ประเด็นที่น่าสนใจ

• พื้นที่นั่งเล่น : ออกแบบให้มีถึง 2 จุด ที่ค่อนข้างยืดหยุ่นปรับการใช้งานได้ง่าย หน้าบ้านเป็นห้องรับแขก ถัดไปชั้นบนเป็น Family area สำหรับนั่งดูทีวีร่วมกันก่อนนอนหรือเวลาที่ชั้นล่างมีแขก สมาชิกอื่นๆ ก็ยังนั่งเล่นที่ชั้นบนได้
• ห้องนอน : ห้องนอนทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัว จึงใช้งานได้สะดวกมากขึ้น แต่ละห้องมีขนาดให้สามารถวางเตียง 5-6 ฟุต พร้อม Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ด้วยนะคะ

บริเวณรั้วหน้าบ้านจะมีตู้จดหมายติดตั้งไว้ให้ พร้อมบอกเลขที่บ้านไว้ชัดเจน

อีกฝั่งหนึ่งของรั้วเป็นตำแหน่งของถังขยะ ซึ่งเราสามารถทิ้งขยะจากในตัวบ้านได้เลย และคนเก็บขยะก็สามารถเปิดถังได้จากนอกบ้านได้เลย ไม่ต้องเข้ามาในบ้าน

ประตูรั้วเป็นซี่เหล็กโปร่ง ทำให้บ้านไม่ดูทึบ คนภายนอกสามารถมองลอดเข้าไปในบ้านได้ ทางโครงการจึงออกแบบให้ไม่มีช่องเปิดเยอะในบริเวณที่ตรงกับประตูรั้ว หรือหากต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เราสามารถออกแบบสวนรอบบ้านให้ช่วยบังสายตาเพิ่มเติมได้นะคะ

พื้นที่สวนข้างบ้านฝั่งหนึ่งจะเป็นสวนที่ติดกับห้องนอน หากผู้สูงอายุพักอยู่ห้องนี้ก็สามารถต่อเติมมุมนั่งเล่นให้ออกมาชมสวนได้สะดวก และด้วยความที่บ้านเป็นรูปทรงแบบสไตล์ Modern ทำให้เหนือหน้าต่างไม่มีชายคายื่นออกมาบังแดดบังฝน แต่จะมีการทำขอบปูนยื่นออกมา ซึ่งนอกจากจะช่วยปกปิดรอยต่อวัสดุเพื่อเพิ่มความสวยงามแล้ว ยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาน้ำไหลย้อนในอนาคตค่ะ

พื้นที่จอดรถเป็นที่จอดรถในร่ม มีความกว้างประมาณ 7.5 m. ลึก 5 m. จอดได้ 3 คัน หากใครใช้รถ Alphard ก็มีหลังคาบังแดดได้ทั้งคันนะ

ในส่วนของพื้นลานจอดรถจะเป็นคอนกรีตฉาบเรียบแบบ On Ground ไม่ได้ลงเสาเข็มไว้ให้ หากมีการต่อเติมหลังคาที่จอดรถก็แนะนำให้ลงเสาเข็มเพิ่มในส่วนนี้ด้วยนะ

ระบบไฟของบ้านมีขนาด 1 เฟส 30(100) และเดินสายไฟไว้รองรับการติดตั้ง EV Charger

บริเวณที่จอดรถจะมีกล้องวงจรปิดติดตั้งมาให้ 1 จุด แบบเดินสายไฟและมีกล่องบันทึกข้อมูล

นอกจากนั้นจะมีห้องเก็บของพร้อมหน้าบานปิด ซึ่งสามารถใช้เก็บของชิ้นใหญ่อย่าง อุปกรณ์ทำความสะอาด, อุปกรณ์ช่าง หรือจักรยานพับก็เก็บพอนะคะ

ประตูด้านหลังที่จอดรถจะมีการติดตั้ง Digital Door Lock มาให้ ยี่ห้อ Life Smart รองรับทั้งระบบ Finger Scan, Password และ Keycard ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัย

สำหรับประตูหลักของบ้านเป็นประตูกระจกบานเลื่อน มาพร้อมเฉลียงที่มีหลังคาคลุมกันแดดกันฝนเชื่อมต่อกับที่จอดรถจึงใช้งานง่าย

ตัวล็อคประตูจะมีมา 2 จุด คือที่มือจับ 1 จุดและตรงกลางบานเลื่อนอีก 1 จุด นอกจากนี้ก็มีการติดตั้ง Magnetic Sensor ที่ติดตั้งไว้ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ก็ดูเหมาะสมกับระดับราคาของบ้านนะคะ

เมื่อเปิดประตูเข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่รับแขกเป็นส่วนแรก

พื้นที่บริเวณนี้สามารถวางโซฟา 5-6 ที่นั่งและโต๊ะกลางได้อย่างสบายๆ พื้นชั้น 1 ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ และมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.6 m. ในส่วนของบ้านมาตรฐานจะได้เป็นบ้านเปล่าตามแบบในรูปด้านล่าง ซึ่งทางโครงการมีโปรโมชั่นแถมวอลเปเปอร์ทั้งหลังด้วยนะคะ

ด้านหลังชุดโซฟาเป็นหน้าต่างบานเลื่อน สามารถเปิดรับแสงและระบายอากาศได้ มีความเก๋ที่เป็นหน้าต่างบานคู่ เวลาติดม่านก็ดูสมมาตร และหรูหราขึ้น

ระยะจากโซฟาถึงหน้าทีวีอยู่ที่ 5.7 m. สามารถติดทีวีขนาดใหญ่แบบ 100 นิ้วขึ้นไปได้เลย

ติดกับพื้นที่รับแขกจะเป็นตำแหน่งของห้องนอนชั้นล่าง มีประตูบานทึบปิดแยกเป็นสัดส่วน ในห้องจึงได้ความเป็นส่วนตัวแบบเต็มที่

ภายในห้องจัดเป็นห้องนอนได้เหมาะสมทีเดียว เพราะมีห้องน้ำภายในตัว และด้วยขนาดของห้องก็สามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้สบายๆ มีหน้าต่างให้เปิดรับแสงรับลมธรรมชาติและมองออกไปเห็นสวนข้างบ้านได้

หากวางเตียง 5 ฟุตตามแบบในบ้านตัวอย่างจะสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะเขียนหนังสือข้างเตียงได้ด้วยนะคะ

อีกฝั่งหนึ่งของเตียงมีพื้นที่พอสำหรับ Built-in ตู้เสื้อผ้า ซึ่งจะอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำพอดี ใช้งานเชื่อมต่อกันได้ง่าย

ประตูห้องน้ำเป็นบานสวิงกว้าง 70 cm. และมีการลดระดับพื้นลงจากห้องนอนอีกเล็กน้อย หากใช้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุ ก็เหมาะกับผู้สูงอายุที่เดินเหินได้ หากเป็นผู้สูงอายุที่ต้องใช้วีลแชร์จะไม่ค่อยสะดวกสักเท่าไหร่นะคะ

ภายในห้องน้ำจัดฟังก์ชันมาครบ แบ่งพื้นที่ส่วนเปียก/แห้ง ออกเป็นสัดส่วน และมีหน้าต่างให้เปิดระบายอากาศได้ ช่วยลดความชื้นในห้องน้ำ

สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ในห้องน้ำใช้ของยี่ห้อ American Standard เป็นหลัก ภายในห้องน้ำออกแบบให้มีที่วางของหลายจุดทั้ง Low Wall ด้านหลังอ่างล้างหน้า และช่องวางของในพื้นที่อาบน้ำ

ในส่วนของพื้นที่อาบน้ำจะลดระดับลงจากพื้นที่ส่วนแห้งอีกที เพื่อไม่ให้น้ำไหลไปยังพื้นที่ส่วนอื่น หากต้องการความเป็นสัดส่วนมากขึ้นก็สามารถติดตั้งฉากกั้นเพิ่มได้นะคะ โดยพื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.9×1.3 m.

ถัดเข้ามาบริเวณกลางบ้าน เป็นตำแหน่งของพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งสามารถเชื่อมกับพื้นที่ทุกส่วนของตัวบ้านเลย เข้ากับลักษณะนิสัยของคนไทยที่ว่าเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่ อิอิ แขกไปใครมาก็มีพื้นที่ทานอาหารกว้างๆ ไว้ต้อนรับ

พื้นที่โซนนี้นอกจากจะวางโต๊ะทานอาหาร 6-8 ที่นั่งได้แล้ว ถ้าจะจัดเป็น Pantry เตรียมอาหารต่อเชื่อมกับห้องครัว และวางโต๊ะอาหารขนาด 6 ที่นั่งก็สามารถทำได้นะคะ

ติดกับพื้นที่ทานอาหารจะเป็นห้องครัวไทยที่ออกแบบมาให้เป็นครัวปิด มีประตูบานทึบช่วยกันกลิ่นและควันลอยเข้ามาในตัวบ้าน

พื้นห้องครัวจะลดระดับลงมาจากตัวบ้าน ปูพื้นด้วยแกรนิตโต้จึงทำความสะอาดง่าย ส่วนเคาน์เตอร์ตรัวจะเป็นแบบก่อสำเร็จ ลักษณะวางเข้ามุม ท็อปด้านบนด้วยหินแกรนิต

ทางโครงการจะติดตั้งอ่างล้างจานและก็อกน้ำครบชุดมาให้ ส่วนพื้นที่อีกฝั่งสามารถวางตู้เย็น เครื่องซักผ้า หรือชั้นวางของก็ได้

ภายในห้องมีพัดลมระบายอากาศติดตั้งไว้ให้เหนือประตูที่เปิดออกไปเชื่อมต่อกับลานซักล้างหลังบ้านค่ะ

ลานซักล้างหลังบ้านเป็นพื้นคอนกรีตแบบ On Ground ไม่ได้ลงเสาเข็มมาให้ จึงเป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการซักล้างหรือตากผ้าเท่านั้น ซึ่งในห้องครัวเองก็ได้มีการเตรียมพื้นที่ไว้ให้วางเครื่องซักผ้าในบ้านอยู่แล้ว จึงไม่น่าเป็นปัญหาอะไรค่ะ และในส่วนของห้องแม่บ้านจะอยู่บริเวณด้านหลัง ใกล้กับห้องครัว สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก

ถ้าอ้อมจากหลังบ้านมาข้างบ้านจะเป็นตำแหน่งของห้องนอนแม่บ้าน และติดๆ กันก็จะเป็นห้องน้ำของแม่บ้านค่ะ

ภายในห้องแม่บ้านมีพื้นที่พอสำหรับวางเตียงเดี่ยว ภายในห้องมีหน้าต่างเปิดรับแสงรับลมระบายอากาศได้ ในส่วนของห้องน้ำก็มีสุขภัณฑ์ครบครัน รวมถึงพื้นที่อาบน้ำด้วย

กลับเข้ามาในบ้าน โถงบันไดจะอยู่ใกล้กับประตูโรงจอดรถเลย หากเวลากลับบ้านดึกๆ ก็สามารถเดินขึ้นไปพักชั้นบนได้สะดวก หรือหากคุณพ่อคุณแม่รับแขกอยู่หน้าบ้าน ก็สามารถใช้ประตูโรงจอดรถเพื่อเดินขึ้นชั้นบนได้แบบไม่รบกวนกันค่ะ ส่วนที่ติดกับบันไดคือห้องน้ำส่วนกลาง

ห้องน้ำส่วนกลางออกแบบมาเป็น Powder Room เพราะห้องนอนชั้นล่างมีห้องน้ำในตัวมาให้แล้ว การใช้งานส่วนใหญ่จึงใช้รับแขกเป็นสำคัญ โถสุขภัณฑ์ สายฉีดชำระและที่ใส่ทิชชู่ เป็นของยี่ห้อ American Standard เช่นเดียวกันค่ะ

บันไดเป็นโครงสร้างเหล็กปิดผิวด้วยไม้เนื้อแข็ง แอบเสียดายนิดนึงที่น่าจะได้เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก เพราะจะช่วยให้บันไดไม่มีเสียงก๊องๆ เวลาเดินขึ้นลง แต่การใช้บันไดโครงเหล็กก็มีข้อดีที่มีความทนทานรับน้ำหนักได้มาก และเรายังใช้พื้นที่ใต้บันไดให้เกิดประโยชน์ได้อีกนะคะ

ตัวบันไดจะมีราวกันตกและมือจับยาวไปตลอดทาง ส่วนชานพักบันไดเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ทีเดียว ประมาณ 2×2 m. เลยนะคะ จึงสามารถจัดเป็นมุมโชว์ของตกแต่ง หรือทำเป็นม้านั่งติดหน้าต่าง เป็นมุมนั่งเล่นเก๋ๆ ได้อีกมุม

ซึ่งบริเวณนี้ก็จะมีกระจกบาน Fix ขนาดใหญ่ พร้อมหน้าต่างมาให้ 1 จุด สามารถเปิดรับลมหรือระบายอากาศได้

ชั้นบนจะแยกพื้นที่ออกเป็นห้องนอนต่างๆ จำนวน 3 ห้อง และมีพื้นที่นั่งเล่นชั้นบนรองรับการใช้งานร่วมกันของสมาชิกในบ้านได้อีกจุดหนึ่ง

ห้องนอนรอง 1 เป็นห้องนอนของลูกๆ เราชอบที่เค้าวางห้องน้ำไว้โซนหน้าห้อง และดันพื้นที่พักผ่อน วางเตียงนอนไว้ด้านใน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวดีค่ะ

ภายในห้องดูกว้างด้วยหน้าต่างบานใหญ่ และหน้าต่างที่หัวเตียงอีก 2 บาน จึงเปิดระบายอากาศได้ดีเลย ซึ่งเราจะได้มาเป็นห้องโล่งตามแบบในรูปด้านล่าง

บ้านตัวอย่างจัดเฟอร์นิเจอร์ไว้ครบครันทั้งเตียงนอน 5 ฟุต วางไว้ติดหน้าต่าง ทำให้เหลือพื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งหนึ่งให้วางตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง

ห้องน้ำในห้องนอนรอง 1 จะมีห้องน้ำอยู่ภายใน ทำให้ใช้งานได้อย่างสะดวกและมีความเป็นส่วนตัว ซึ่งภายในห้องน้ำแยกพื้นที่ใช้งานโซนเปียก/แห้ง ไว้อย่างชัดเจน ยังคงมีผนัง Low Wall ด้านหลังอ่างล้างหน้าและหลังสุขภัณฑ์ให้ใช้วางของได้ ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.8 x 1.4 m. พอให้หมุนตัวอาบน้ำได้

ติดกับห้องนอนรองจะมีพื้นที่นั่งเล่นอีกจุดหนึ่งของบ้าน

พื้นที่ตรงนี้สามารถจัดเป็นพื้นที่ทำงานอดิเรกของสมาชิกในบ้านก็ได้นะคะ โดยด้านในสุดจะมีประตูบานเลื่อนกระจกที่สามารถเปิดออกไปใช้งานระเบียงได้ และแสงจากธรรมชาติก็ทำให้บรรยากาศดูปลอดโปร่ง น่าสบายด้วยค่ะ

ระเบียงที่ติดกับห้องนั่งเล่นเป็นพื้นที่ Semi-Outdoor มีหลังคาคลุมกันแดดจึงออกมาใช้งานในเวลากลางวันได้ ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.5 x 3 m. จะวางชุดโต๊ะเก้าอี้ไว้นั่งชมวิวก็ได้

ห้องนอนอีก 2 ห้องจะอยู่ถัดออกมาจากโถงบันไดเล็กน้อย ซึ่งบริเวณหน้าห้องก็ยังมีพื้นที่ให้ Built-in ตู้เก็บของ หรือวางของตกแต่งได้อีกนะคะ

บริเวณหน้าห้องนอนใหญ่จะมีแผงควบคุมระบบ Magnetic Sensor ติดตั้งไว้ให้ เพื่อให้เจ้าของบ้านควบคุมได้สะดวก

ภายในห้องนอนใหญ่มีพื้นที่กว้างมาก สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ และยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงให้วางชุดโซฟาสำหรับนั่งดูทีวีได้ด้วย ข้างเตียงมีประตูบานเลื่อนกระจกที่เปิดออกสู่ระเบียงด้านนอก ให้ออกมารับลมชมวิวเปลี่ยนบรรยากาศ ฝั่งหัวเตียงทั้ง 2 ข้างก็มีหน้าต่างไว้ให้เปิดระบายอากาศได้

พื้นที่ปลายเตียงกว้างมากสามารถวางชุดโซฟาพร้อมโต๊ะกลางได้ หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการดูหนังแบบเป็นส่วนตัวก็ดูในห้องนอนได้สะดวกเลย

ระเบียงห้องนอนจะเชื่อมกับระเบียงห้องนั่งเล่นด้วยนะคะ แต่ระเบียงห้องนอนจะมีพื้นที่ไม่กว้างมากเน้นเป็นแนวยาว เหมาะกับการวางกระถางต้นไม้เพื่อเพิ่มบรรยากาศที่ร่มรื่นให้กับห้องนอน อีกทั้งเจ้าแนวต้นไม้ยังช่วยบังสายตาจากบ้านตรงข้าม ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับการอยู่อาศัยในบ้านด้วยนะคะ

อีกฝั่งหนึ่งของห้องมีพื้นที่อเนกประสงค์ให้ใช้งาน เป็นพื้นที่โล่งขนาดใหญ่ จึงสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานตามไลฟ์สไตล์ของตัวเองเลยค่ะ

อย่างในบ้านตัวอย่างก็จัดเป็นมุมนั่งเล่น เหมาะสำหรับคนที่อยากได้พื้นที่ส่วนตัวไว้ทำงานอดิเรกภายในห้อง

ถัดจากพื้นที่อเนกประสงค์เข้ามาจะเป็นพื้นที่หน้าห้องน้ำ เหมาะกับการจัดฟังก์ชันเป็น Walk-in Closet มีพื้นที่พอให้วางตู้เสื้อผ้าได้เต็มผนังทั้ง 2 ฝั่ง แนะนำให้ทำเป็นตู้ Built-in ไปเลย เพื่อให้ใช้งานได้เต็มพื้นที่

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่จัดพื้นที่มาให้ค่อนข้างกว้าง โครงการจึงติดตั้งอ่างล้างหน้าแบบ His&Her มาให้ใช้งานพร้อมกันได้ อ่างล้างหน้าเป็นแบบฝังเคาน์เตอร์

ด้านล่างมีตู้ไว้ให้เก็บของใช้และอุปกรณ์อาบน้ำได้ด้วย ภายในมีการแบ่งโซนเปียก/แห้ง ไว้เป็นสัดส่วน

เราชอบที่เค้าให้กระจกบานใหญ่มาเลยนะคะ ช่วยให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้นไปอีก

พื้นที่อาบน้ำติดตั้งฝักบัวแบบ Hand Shower มาให้ 2 จุด และมีหน้าต่างบานกระทุ้งให้เปิดระบายอากาศได้

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.9×2 m. ซึ่งโครงการลดระดับพื้นที่โซนเปียกลงจากส่วนอื่นๆ ให้แล้ว แต่หากกลัวน้ำกระเด็นก็สามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มได้นะคะ

ส่วนที่เป็น Highlight ของห้องคือ อ่างอาบน้ำแบบฝังขนาด 1.5×0.6 m. วางไว้ชิดผนัง

ปิดท้ายด้วยห้องนอนรองอีกห้องหนึ่ง ห้องนี้จัดเป็นห้องนอนสำหรับลูกคนโปรดก็ได้ เพราะมีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนห้องแรก จึงสามารถวางเตียง 3-5 ฟุตได้สบายๆ และยังเหลือพื้นที่สำหรับวางโต๊ะเขียนหนังสือ ตู้เสื้อผ้าได้ครบครัน

ห้องนอนนี้ก็มีห้องน้ำส่วนตัวอยู่ในห้องนอนเช่นเดียวกับห้องอื่นๆ ซึ่งจะอยู่บริเวณหน้าห้องเลยและดันโซนพักผ่อนเข้าไว้ด้านในให้เกิดความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่ส่วนเปียก/แห้งไว้ชัดเจน เพื่อความสะดวกในการใช้งาน มาพร้อมสุขภัณฑ์ต่างๆ ครบครันใช้ของยี่ห้อ American Standard เป็นหลักค่ะ

แบบบ้าน LEVORA

แบบบ้าน HAMPDEN

แบบบ้าน EDEN

แบบบ้าน VESTA

แบบบ้าน TREVA

แบบบ้าน LONO

CENTRO Ratchapruek 3 (เซนโทร ราชพฤกษ์ 3) ราคา ณ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568

• LONO บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50.8 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 164 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องครัว / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 7.59 ล้านบาท
• TREVA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 51.6 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องครัว / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 8.29 ล้านบาท
• VESTA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 51.6 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 181 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องครัว / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 8.39 ล้านบาท
• EDEN บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 55.5 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องครัว / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 8.59 ล้านบาท
• HAMPDEN บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 54.4 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 209 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องครัว / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 9.9 ล้านบาท
• LEVORA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 65.5 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 260 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องครัว / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 10.9 ล้านบาท
• BANDELE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 66.3 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 289 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 ห้องนั่งเล่น / 1 ห้องครัว / 1 ห้องแม่บ้าน  / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 11.9 ล้านบาท
• จอง 20,000 บาท
• ทำสัญญา 30,000 บาท
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 100,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 41 บาท/ตร.วา/เดือน

โปรโมชั่น

• ส่วนลดลงทะเบียน 100,000 บาท*
• แถมเครื่องปรับอากาศทุกห้องนอน*
• แถมวอลเปเปอร์ทั้งหลัง*
• ฟรีค่าส่วนกลางล่วงหน้า 2 ปี*
• ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่โครงการกำหนด กรุณาสอบถามกับโครงการอีกครั้งค่ะ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : เซนโทร ราชพฤกษ์ 3 (Centro ราชพฤกษ์ 3) ตั้งอยู่ในซอยบางเลน 21 ห่างถนนราชพฤกษ์ในระยะประมาณ 2.5 km. สามารถเชื่อมต่อกับถนนหลักได้หลายเส้นทางทั้งถนนราชพฤกษ์, ถนนรัตนาธิเบศร์, ถนนกาญจนาภิเษก และถนนนครอินทร์ แถมเป็นโครงการบ้านที่สามารถเดินทางไปใช้รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีบางพลูได้อีกด้วย

ส่วนความอุดมสมบูรณ์นั้นเรียกได้ว่าครบครัน มีตลาด, ร้านค้า, ร้านอาหาร, Community Mall และใกล้ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่างเซ็นทรัลทั้ง 3 สาขา, Homepro และ IKEA รวมไปถึงโรงเรียนที่มีชื่อเสียงหลายแห่งด้วยค่ะ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :  เรื่องความปลอดภัยภายในโครงการก็จะตามมาตรฐานทั่วไป ให้มาทั้งในส่วนของโครงการและตัวบ้าน หน้าโครงการมีป้อมรปภ.รักษาความปลอดภัย 24 ชม. ระบบที่ใช้ในการเข้า-ออกเป็นระบบ KATSAN จดจำป้ายทะเบียนรถ ถือว่าปลอดภัยและสะดวกสำหรับการใช้งานของลูกบ้าน พร้อมกล้อง CCTV และรปภ. ดูแล 24 ชั่วโมง ส่วนในตัวบ้านก็ติดตั้ง Magnetic Sensor มาให้ทั้ง 2 ชั้น ที่โรงจอดรถมีกล้องวงจรปิดมาให้  1 จุดค่ะ

การออกแบบโครงการ : เซนโทร ราชพฤกษ์ 3 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวสังคมส่วนตัว เพื่อนบ้านไม่เยอะนักเพียง 97 ยูนิต ซึ่งดีกว่าหลายๆ โครงการในละแวกนี้ที่มีจำนวนยูนิตกันค่อนข้างเยอะ โครงการดีไซน์ Clubhouse ไว้เป็นส่วนหนึ่งกับซุ้มประตูทางเข้าตามแบบฉบับของ AP โดยจะช่วยทำหน้าที่เป็นโซนต้อนรับ ทำให้ซุ้มประตูดูอลังการมากยิ่งขึ้น แขกไปใครมาก็รองรับการใช้งานบริเวณนี้ได้เลย

การออกแบบตัวบ้าน : แบรนด์บ้าน ‘Centro’ จัดเป็นแบรนด์บ้านเดี่ยวจาก AP ที่ทำแบรนด์ออกมาให้เหมาะกับการเริ่มต้นครอบครัวใหม่ไปจนถึงครอบครัวใหญ่ที่ต้องการขยับขยายมาอยู่บ้านเดี่ยว เป็นบ้านสไตล์โมเดิร์นตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ชอบความทันสมัยแต่เรียบง่าย จุดคุ้มค่าที่สุดเรายกให้กับเรื่องพื้นที่ใช้สอยในตัวบ้าน ที่ออกแบบให้มีขนาดใหญ่ จัดฟังก์ชันออกมาเยอะ มากสุดถึง 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ อีกประเด็นหนึ่งคือที่จอดรถ 3 คันให้เลือกในราคา 10 ล้านต้นๆ ด้วยค่ะ

วัสดุ : วัสดุส่วนใหญ่เป็นไปตามมาตรฐานของโครงการ แต่ก็มีที่โดดเด่นคือโครงสร้างแบบ Conventional จึงสามารถต่อเติมภายหลังได้ ในขณะที่โครงการรอบๆ ส่วนใหญ่ใช้เป็น Precast จะไม่สามารถทุบผนังได้ค่ะ แต่บางอย่างก็แอบเสียดายนิดหน่อย เช่น บันไดเป็นโครงเหล็ก น่าจะอัพเกรดเป็นบันไดคอนกรีตเสริมเหล็กอีกสักนิด และแนะนำให้เตรียมงบสำหรับลงเสาเข็มบริเวณโรงจอดรถเพิ่มเติม เพื่อชะลอการทรุดตัวนะคะ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :  แม้ว่าโครงการเซนโทร ราชพฤกษ์ 3 จะเปิดตัวมาสักพักและมีลูกบ้านเริ่มเข้าอยู่กันแล้ว แต่ก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี มีสภาพโครงการสะอาดเรียบร้อย มีต้นไม้ 2 ฝั่งไปตลอดแนวถนนหลัก และข้อดีของโครงการที่เปิดมาสักพักก็ทำให้ต้นไม้ใหญ่เริ่มแผ่กิ่งก้านสาขา ช่วยเสริมให้บรรยากาศร่มรื่นขึ้นด้วยค่ะ

สาธารณูปโภค : โครงการนี้ให้พื้นที่สวนขนาดใหญ่ทีเดียวรวมกันทั้งโครงการเกือบ 1 ไร่ ส่วน Clubhouse จะไม่ได้มีขนาดใหญ่ให้หวือหวานัก แต่จัดฟังก์ชันมาให้ครบตามมาตรฐาน ทั้ง สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, Lobby, Kids Room ข้อดีของที่นี่คือ แชร์กับลูกบ้านจำนวนไม่เยอะ แลกกับค่าส่วนกลาง 41 บาท/ตร.วา/เดือน ถือว่าสมเหตุสมผลค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 7 – 12 ล้านบาท, 24 กุมภาพันธ์ 2568

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – อยู่ในซอยบางเลน 21 ห่างถนนราชพฤกษ์ประมาณ 2.5 km.
• ความปลอดภัย 8/10 – รั้วกั้นไม้กระดก, ประตูเลื่อน, รปภ.หน้าหมู่บ้าน, CCTV, Magnetic Sensor พร้อมระบบ KATSAN
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 9/10 – ยูนิตน้อยสังคมส่วนตัว คุ้มค่าเรื่องพื้นที่ใช้สอย มีให้เลือกถึง 7 แบบ
• วัสดุ 8/10 – ก่ออิฐฉาบปูน รองรับการต่อเติมในอนาคต
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.75/10 – ดูโอ่อ่าด้วยซุ้มประตูโครงการที่รวมกับ Clubhouse
• สาธารณูปโภค 8/10 – ส่วนกลางครบครัน เหมาะสมกับจำนวนยูนิต
• 7.93 / 10.00

เซนโทร ราชพฤกษ์ 3 (Centro ราชพฤกษ์ 3) เหมาะกับใคร

เซนโทร ราชพฤกษ์ 3 (Centro ราชพฤกษ์ 3) เหมาะกับคนที่มองหา “บ้านเดี่ยวใกล้ราชพฤกษ์ในช่วงราคา 7-12 ล้านบาท” ที่เข้า-ออกถนนหลักได้หลายเส้นทาง ทำงานในโซนบางกรวย, ตลิ่งชัน, จตุจักร, สยาม หรือสาทร ชอบทำเลใกล้ห้างฯ

ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าของขนาดพื้นที่ใช้สอย ต้องการบ้านที่ทุบต่อเติมได้ในอนาคต อยู่กันเป็นครอบครัวขนาดกลาง 2-3 Generations ชอบโครงการที่มีความเป็นส่วนตัว ยูนิตไม่เยอะแต่ก็ยังมีส่วนกลางให้ใช้ มีกำลังผ่อนประมาณ 49,000 – 84,000 บาทต่อเดือน

ตัวอย่างโครงการโดยรอบบนทำเลเดียวกัน

• Britania ราชพฤกษ์ – นครอินทร์
• มัณฑนา ราชพฤกษ์ – นครอินทร์
• Centro พระราม 5 – นครอินทร์
• Centro รัตนาธิเบศร์ 2

Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่