อณาสิริ รังสิต – คลอง 2 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ในบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ต่างจากเพื่อนบ้านย่านเดียวกัน และมีแบบบ้านหน้ากว้างมากสุดถึง 12 m. ซึ่งสามารถจัดฟังก์ชันได้ค่อนข้างลงตัวดีทีเดียวครับ โดยผมคิดว่าโครงการนี้มี Highlight หรือความน่าสนใจดังนี้

  • Modern Japanese : บรรยากาศและการตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง และหน้าตาของ Facade บ้านทุกๆหลัง ให้อารมณ์เหมือนอยู่ในหมู่บ้านญี่ปุ่นเลยครับ
  • การวางผังโครงการ : มีการนำแบบบ้านที่ไม่เหมือนกัน (หลังใหญ่-หลังเล็ก) มาจับคู่เป็นบ้านแฝดกัน ทำให้บรรยากาศดูไม่น่าเบื่อและแปลกดี
  • ฟังก์ชันและการออกแบบ : ทุกๆหลังเป็นบ้านหน้ากว้าง ซึ่งทำให้ฟังก์ชันภายในสามารถจัดได้เป็นสัดส่วนดีทีเดียว อย่าง Common Area ชั้นล่างก็มีพื้นที่หลบสายตาให้เป็นส่วนตัวมากขึ้น แถมยังมีพื้นที่อเนกประสงค์ให้ปรับฟังก์ชันได้หลากหลายตาม Lifestyle อีกด้วย
  • ทำเล : เป็นโซนที่อยู่ไม่ไกลจากฟิวเจอร์และตลาดขนาดใหญ่ ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ ส่วนถนนเลียบคลอง 2 ก็สามารถเข้า-ออกได้หลายทาง และมีทางด่วนให้ใช้ 2 เส้นทาง

** หมายเหตุ : ปัจจุบัน ณ วันที่เข้ามาถ่ายรีวิว (18/06/2564) พื้นที่ส่วนกลางและอาคาร Clubhouse ของโครงการ ยังอยู่ในระหว่างการออกแบบ รออัพเดตข้อมูลกันอีกครั้งนะครับ

ข้อมูลโครงการ

Anasiri Rangsit – Klong 2 (อณาสิริ รังสิต – คลอง 2) ณ วันที่ 18 มิถุนายน 2564

 ชื่อโครงการ   Anasiri Rangsit – Klong 2 (อณาสิริ รังสิต – คลอง 2)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS   MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่   ถ.รังสิต-นครนายก ต.คลอง 2 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
 ที่ดิน 31 -2 -15.7 ไร่
 จำนวนยูนิต บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 2 ชั้น จำนวนรวม 178 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • FUYU บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 35 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 134 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  • AKI บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 40 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 152 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  • HARU บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 177 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

 ราคาเริ่มต้น   3.99 – 6 ล้านบาท
 ความสูงจากพื้นถึงฝ้า   2.7 เมตร
 ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ                      47,000 บาท
 เริ่มก่อสร้าง   ปี 2563
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี 2566
 เว็บไซต์โครงการ   https://www.sansiri.com/singlehouse/anasiri-rangsit-klong2/th/#home
 โทร   02-2970408
 Call Center   1685

ทำเลที่ตั้ง

Highlights :

  • ความอุดมสมบูรณ์ : ทำเลคลอง 2 ยังเป็นโซนที่ถือว่าอยู่ไม่ไกลจากห้างใหญ่อย่าง “ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต” และหน้าปากซอยก็ยังมีตลาดขนาดใหญ่อีกด้วย ถือว่าหาของกินของใช้ได้ไม่ยากเลยครับ
  • การเดินทางที่สะดวก : ถนนเลียบคลอง 2 มีเส้นทางลัดที่สามารถเข้า-ออกได้หลายทาง ทำให้สะดวกในการเดินทางทั้งขาเข้า-ขาออก
  • ความเงียบสงบและเป็นส่วนตัว : ที่ตั้งโครงการเป็นถนนภาระจำยอม ที่ใช้งานร่วมกับเพื่อนบ้านเจ้าของเดียวกันเท่านั้น ถนนซอยจึงไม่พลุกพล่านและมีบรรยากาศที่ดี

พิกัด Google Maps : 14.008578, 100.638272
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

อณาสิริ รังสิต-คลอง 2 ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลอง 2 ซึ่งถือว่าเป็นโซนที่ยังใกล้ความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างมากครับ โดยจะอยู่ไม่ไกลจากห้างที่ใหญ่ที่สุดของย่านนี้อย่าง Future Park Rangsit และตลาดค้าส่งที่ใหญ่ที่สุดอย่างตลาดไท

แต่ถ้าเอาที่ความสะดวกและใกล้โครงการมากที่สุดก็คือ “ตลาดนัดพระรูป” ที่อยู่ตรงหน้าปากซอยนี่เองครับ ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีทั้งของกิน/ของใช้/ตลาดสด/ร้านสะดวกซื้อ และนอกจากนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่หลายแห่งอีกด้วยครับ เรียกได้ว่าถ้าอยู่กันแบบครอบครัว ก็สามารถอยู่กับลูกได้จนจบมหาลัยเลยล่ะ

ส่วนเรื่องการเดินทางก็เข้า-ออกได้ 2 เส้นทางหลักๆคือ ถนนรังสิต-นครนายก และถนนคลองหลวง ซึ่งช่วยทำให้การเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะเราสามารถไปขึ้นทางด่วนได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป็นทางด่วนดอนเมือง-โทลเวย์ ที่ตรงเข้าเมืองไปทางห้าแยกลาดพร้าว หรือจะเป็นถนนกาญจนาภิเษก(มอเตอร์เวย์) ก็สามารถเข้า-ออกเมืองได้ง่ายอีกเช่นกัน

และความดีงามของถนนเลียบคลอง 2 ทำเลนี้คือ สามารถเข้า-ออกได้หลายทาง โดยผมสรุปมาให้ได้ดังนี้

  1. สีแดง : เป็นเส้นทางปกติที่จะใช้ซอยรังสิต-นครนายก 29 มาลัดเข้าสู่ถนนเลียบคลอง 2 เพื่อเลี่ยงรถติดและไม่ต้องขับรถอ้อมไปยังบริเวณหน้าตลาด
  2. สีเขียว : เป็นเส้นทางสำหรับคนที่อยากจะแวะซื้อของที่ตลาดนัดพระรูปที่อยู่ปากซอยก่อนเข้าบ้าน แต่การจราจรบริเวณนี้ก็จะค่อนข้างหนาแน่นพอสมควร
  3. สีน้ำเงิน : หากต้องการเดินทางไปยังถนนกาญจนาภิเษก หรือออกเมืองไปทางนครนายก ก็สามารถใช้เส้นทางนี้เพื่อขับตรงไปต่อได้เลย เพราะเป็นถนน 2 เลนที่ขับสวนกันได้
  4. สีม่วง : หากต้องการไปยังฟิวเจอร์หรือถนนพหลโยธิน ก็สามารถใช้เส้นทางลัดเพื่อย้อนมากลับรถใต้สะพานได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาไปวนกลับรถบนถนนใหญ่ไกลๆครับ

การเดินทางจากโครงการไปทางด่วน :

Image 1/2
สำหรับทางด่วนที่ใกล้และสะดวกที่สุดคือ ทางด่วนอุตราภิมุข ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 6.5 km. อาจต้องเผื่อเวลาเดินทางสัก 15 - 20 นาทีครับ

สำหรับทางด่วนที่ใกล้และสะดวกที่สุดคือ ทางด่วนอุตราภิมุข ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 6.5 km. อาจต้องเผื่อเวลาเดินทางสัก 15 - 20 นาทีครับ

การเดินทางไปยังโครงการ :

Image 1/13
การเดินทางวันนี้ผมใช้ทางด่วนอุตราภิมุขมาลงตรงหน้าฟิวเจอร์ จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้ามายังถนนรังสิต-นครนายก ขับรถมาเรื่อยๆจนเลี้ยวเข้าสู่ซอยรังสิต-นครนายก 29 เพื่อลัดเข้าสู่ถนนเลียบคลอง 2 จากนั้นขับตรงเข้ามาเรื่อยๆก็จะเจอกับทางเข้าโครงการอยู่ทางขวามือ รวมแล้วจากทางด่วนก็ขับรถมาประมาณ 15 นาทีเท่านั้น

การเดินทางวันนี้ผมใช้ทางด่วนอุตราภิมุขมาลงตรงหน้าฟิวเจอร์ จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้ามายังถนนรังสิต-นครนายก ขับรถมาเรื่อยๆจนเลี้ยวเข้าสู่ซอยรังสิต-นครนายก 29 เพื่อลัดเข้าสู่ถนนเลียบคลอง 2 จากนั้นขับตรงเข้ามาเรื่อยๆก็จะเจอกับทางเข้าโครงการอยู่ทางขวามือ รวมแล้วจากทางด่วนก็ขับรถมาประมาณ 15 นาทีเท่านั้น

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

ที่ตั้งโครงการจะมีถนนภาระจำยอม ที่ใช้ร่วมกับโครงการเพื่อนบ้านอย่าง สิริเพลส รังสิต-คลอง 2 ที่เป็นเจ้าของเดียวกัน เลยทำให้มีความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวพอสมควรครับ โดยรอบๆส่วนใหญ่ก็เป็นที่ว่าง และสามารถสรุปได้ดังนี้

  • ทิศเหนือ : ติดกับ ที่ว่างและบ้านแนวราบ
  • ทิศใต้ : เป็นทางเข้าโครงการ ติดกับ สิริเพลส รังสิต-คลอง 2
  • ทิศตะวันออก : ติดกับ ที่ว่าง
  • ทิศตะวันตก : ติดกับ สิริเพลส รังสิต-คลอง 2

เริ่มกันที่ถนนหน้าทางเข้าซอยโครงการ ซึ่งเป็นถนนรองวิ่งเลียบคลอง 2 ที่จะต้องข้ามคลองมาจากถนนเลียบคลอง 2 ที่เป็นเส้นหลักอีกทีนึง (ได้ข่าวว่า แสนสิริเค้าทำสะพานใหม่ให้เองด้วยนะครับ) เลยทำให้ปากซอยไม่พลุกพล่านและเป็นส่วนตัวครับ เพราะคนที่ใช้ถนนเส้นนี้จะเป็นชุมชน และบ้านเรือนที่อยู่แค่ตรงบริเวณนี้เท่านั้น

ซุ้มประตูทางเข้าถนนภาระจำยอมของโครงการแสนสิริทั้ง 2 จะเป็นสไตล์ญี่ปุ่นค่อนข้างโดดเด่นและสวยงามมากๆครับ เพราะไม่ว่าจะเป็นสิริเพลสหรืออณาสิริในทำเลนี้ ต่างก็จะมีการออกแบบเป็นบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นเหมือนกันทั้งคู่เลย

ถนนนี้จะมีการแบ่งช่องจราจรออกเป็น 2 ฝั่งด้วยเกาะกลางชัดเจนครับ และยังมีฟุตบาทที่ปลูกต้นไม้ประดับเพิ่มความร่มรื่นอีกนิดหน่อยด้วย

แต่พอขับรถเข้ามาประมาณสัก 200 m. เราจะเจอกับบ้านสไตล์ญี่ปุ่นทางขวามือ ซึ่งเป็นบ้านเฟสแรกของอณาสิริที่หันออกมาด้านนอก และเค้ายังทำรั้วโครงการตรงนี้เป็นแบบโปร่ง เพื่อให้เรามองเห็น Facade และได้ซึมซับบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นไปด้วยในตัว

ซึ่งนี่ก็เป็นความประทับใจอย่างแรกที่ผมมาถึงโครงการครับ อารมณ์เหมือนว่า ….เฮ้!! นี่เรามาถึงญี่ปุ่นแล้วหรอเนี่ย ทำให้บรรยากาศการขับรถเข้าโครงการไม่น่าเบื่อ และค่อยๆเสริมสร้างบรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นได้ดีเลยทีเดียวครับ

และเมื่อขับเข้ามาจนสุดทางประมาณ 400 m. ก็จะเจอกับทางเข้าโครงการทั้ง 2 โดยด้านซ้ายคือซุ้มประตูทางเข้าโครงการ สิริเพลส รังสิต-คลอง 2 ส่วนทางด้านขวาคือ อณาสิริ รังสิต-คลอง 2 นั่นเองครับ

ซึ่งตรงวงเวียนจะมีน้องแมว 2 ตัวที่เป็น Mascot ของโครงการมาต้อนรับ และคอยเรียกโชคลาภเหมือนแมวกวักของญี่ปุ่นอีกด้วยครับ โดยมีชื่อว่า “สิริจัง” และ “อานาโกะ”

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • ตลาดนัดพระรูป ~ 2.4 กม.
  • สัมมากร อเวนิว ~ 3.6 กม.
  • ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ~ 5.3 กม.
  • Major Cineplex ~ 5.5 กม.
  • ตลาดรังสิต ~ 5.7 กม.
  • Home Pro รังสิต ~ 5.9 กม.
  • เซียร์ รังสิต ~ 9.3 กม.

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลบางปะกอก รังสิต 2 ~ 3.4 กม.
  • โรงพยาบาลเปาโลรังสิต ~ 4.9 กม.
  • โรงพยาบาลปทุมเวช ~ 5.9 กม.
  • โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ~ 11.3 กม.

โรงเรียน

  • โรงเรียนโชคชัยรังสิต ~ 4.9 กม.
  • โรงเรียนนานาชาติสยาม ~ 6 กม.
  • โรงเรียนสารสาสน์วิเทศคลองหลวง ~ 9 กม.
  • มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ~ 9.8 กม.
  • มหาวิทยาลัยธรรมศาสต์ ศูนย์รังสิต ~ 11.5 กม.

การเดินทาง

  • ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ ~ 5.8 กม.
  • รถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีรังสิต ~7.4 กม.
  • รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีแยกคปอ. ~ 12 กม.
  • สนามบินดอนเมือง ~ 14.6 กม.

รายละเอียดโครงการ

Highlights :

  • บรรยากาศโครงการ : มีการออกแบบ Concept เป็นสไตล์ญี่ปุ่น ตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้ามาจนถึงหน้าตาของบ้านพักอาศัย ทำให้ได้บรรยากาศเหมือนอยู่ในหมู่บ้านญี่ปุ่น
  • การจับคู่ใหญ่-เล็กของบ้านแฝด : ต่างจากบ้านแฝดโครงการทั่วไป เพราะเค้าจะนำบ้านคนละ Type มาจับคู่กัน ทำให้ดูแล้วไม่น่าเบื่อและแปลกใหม่ดี
  • การวางผังโครงการ : การจัด Main Gate และอาคาร Clubhouse มาไว้ตรงกลางโครงการ นอกจากจะทำให้บ้านแต่ละเฟสมาใช้งานได้สะดวกพอๆกันแล้ว ตรงบริเวณบ้านเฟสแรกที่หันออกมานอกโครงการ ยังช่วยให้เราได้สัมผัสกับความเป็นญี่ปุ่นของหน้าตาบ้านได้ ตั้งแต่ก่อนที่จะขับเข้ามาถึงประตูทางเข้าซะอีกครับ

** หมายเหตุ : ปัจจุบัน ณ วันที่เข้ามาถ่ายรีวิว (18/06/2564) พื้นที่ส่วนกลางและอาคาร Clubhouse ของโครงการ ยังอยู่ในระหว่างการออกแบบ รออัพเดตข้อมูลกันอีกครั้งนะครับ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

Master Plan โครงการมีขนาด 31 -2 -15.7 ไร่ และมีจำนวนเพื่อนบ้าน 178 ยูนิต ถือว่าเป็นโครงการขนาดกลาง ที่โดดเด่นในเรื่องการวางผังยูนิตบ้านที่ไม่เหมือนใครในย่าน ซึ่งบ้านเดี่ยวเกือบทั้งหมดจะเป็นแปลงมุม ส่วนแปลงที่อยู่ตรงกลางจะเป็นบ้านแฝดที่ต่าง Type กันมาจับคู่สลับกันไปเรื่อยๆ ทำให้บรรยากาศโครงการไม่น่าเบื่อ ในขณะที่พื้นที่ส่วนกลางอย่าง Clubhouse กับสวนสาธารณะ ก็จะถูกจัดไว้บริเวณเกือบกลางโครงการ ติดกับซุ้มประตูทางเข้าหลัก ทำให้นอกจากจะกลายเป็นมุมต้อนรับสวยๆแล้ว ยังทำให้บ้านในแต่ละโซนสามารถมาใช้งานได้สะดวกพอๆกันอีกด้วย

โดยเฉพาะเฟส 1 จะค่อนข้างใกล้และมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าหน่อย แต่จุดที่สร้างอิมแพ็คให้กับโครงการมากๆคือ “บ้านซอยแรก” ที่หันหน้าออกมาโชว์ความเป็นหมู่บ้านญี่ปุ่น ให้เราได้สัมผัสกันก่อนจะเข้ามาถึง Main Gate ซะอีกครับ ซึ่งจุดนี้จะช่วยบิ้วอารมณ์และสร้างประสบการณ์ที่ดีระหว่างทางได้ไม่น่าเบื่อเลย (ซึ่งเราได้เห็นไปแล้วในพาร์ทก่อนหน้านี้)

ในขณะที่บ้านในเฟส 2 เค้าจะมีถนนซอยที่เชื่อมต่อกันค่อนข้างลึกมากๆ (วัดได้ประมาณ 600 m.) ซึ่งต่างจากบ้านโครงการทั่วไปที่มักจะแบ่งเป็นซอยย่อยสั้นๆ และจะมีจำนวนเพื่อนบ้านร่วมซอยที่น้อยกว่า ดังนั้นในโครงการนี้สำหรับบางคนก็อาจรู้สึกว่า มีความเป็นส่วนตัวลดลงไปบ้างก็เป็นได้ครับ

เพราะเราจะมองเห็นเพื่อนร่วมซอยที่เยอะและยาวมากๆ รวมถึงอาจมีคนต้องขับรถผ่านหน้าบ้านค่อนข้างบ่อยพอสมควรทีเดียว ส่วนทิศการวางตัวบ้านที่หันไปทางเหนือ-ใต้ ก็เป็นมาตรฐานที่รับลมได้ดี และแดดไม่ร้อนอยู่แล้วนั่นเอง ซึ่งบรรยากาศของจริงจะเป็นอย่างไร เราไปชมภาพกันเลยครับ

เริ่มกันที่ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ จะเป็นสไตล์ญี่ปุ่นเช่นเดียวกับ Concept โครงการเลยครับ และมีหลังคาช่วยกันแดดกันฝนได้ดี มีการแยกทางเข้า-ออกของรถ และยังแยกช่องของลูกบ้านกับ Visitor ชัดเจนอีกด้วย โดยจะใช้เป็นประตูเหล็กรางเลื่อนที่แข็งแรง และปลอดภัยกว่าการใช้ไม้กั้นกระดกแบบนี้เลยครับ

ทางเข้าของลูกบ้านทางซ้ายจะใช้ระบบ RFID หรือส่งสัญญาณ Bluetooth เพื่อเปิดประตูแบบอัตโนมัติได้สะดวกเหมือน Easy Pass บนทางด่วน ส่วนช่องของ Visitor ทางขวามือจะอยู่ติดกับป้อม รปภ. ที่อยู่ตรงกลาง เพื่อที่จะได้แลกบัตรสะดวก และบันทึกภาพด้วยกล้อง CCTV เพื่อความปลอดภัยครับ

เมื่อเข้ามาในโครงการเราจะเจอกับถนนหลัก และมีทางแยกออกไปทางเฟสแรกด้านขวามือ ส่วนทางซ้ายปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้างเฟสที่ 2 -3

และพื้นที่ติดกับซุ้มประตูทางเข้าด้านขวา จะมีพื้นที่สีเขียวที่ช่วยเพิ่มความร่มรื่น และทำให้บ้านในเฟสแรกมีสวนเล็กๆให้ใช้มาเดินเล่น หรือเพิ่มบรรยากาศตอนขับรถผ่านไป-มาได้

ส่วนภาพนี้เป็นบรรยากาศถนนภายในซอยที่พักอาศัย ซึ่งบ้านแต่ละหลังจะมี Facade สไตล์ญี่ปุ่น ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นหมู่บ้านบรรยากาศญี่ปุ่นจริงๆเลยครับ และด้วยการจับคู่ของบ้านแฝดที่ต่าง Type กัน ก็เลยทำให้บรรยากาศของหน้าตาบ้านโดยภาพรวมดูไม่น่าเบื่อ

บ้านแฝด 2 Type ที่ไม่เหมือนกันนี้ จะเป็นบ้านแฝดหลังใหญ่และหลังเล็กที่มาจับคู่กัน โดยมีความต่างกันอย่างชัดเจนตรงที่หน้ากว้าง และรูปทรงหลังคาหน้าจั่ว ซึ่งเค้าจะหันจั่วออกมาคนละด้านกันนั่นเองครับ

เดี๋ยวเราลอง sneak ไปดูทางด้านซ้ายของซุ้มประตูกันสักหน่อยนะครับ ซึ่งปัจจุบันยังคงอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง แต่ถ้าสร้างเสร็จแล้วของจริงก็จะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง มีอาคาร Clubhouse ทำหน้าที่เป็นส่วนต้อนรับด่านแรก และจะเป็นถนนที่มุ่งหน้าไปยังเฟส 2 – 3 ด้านในโครงการด้วยครับ

ส่วนภาพนี้จะเป็นตัวอย่างของสวน และ Playground ที่มีเครื่องเล่นเด็กอยู่พอสมควร รวมถึงปูพื้นส่วนหนึ่งเป็นยางเพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บของเด็กอีกด้วย (สีสันสดใสทีเดียว)

ส่วนอาคาร Clubhouse จะมีฟังก์ชันอะไรให้ใช้งานอีกบ้าง อาจต้องอดใจรอกันอีกสักหน่อยนะครับ เพราะตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงปรับแบบอยู่ คาดว่าน่าจะได้เห็นของจริงช่วงปลายปีนี้ และเมื่อถึงตอนนั้นทางเราจะรีบมาอัพเดตให้แน่นอนครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse
  • สระว่ายน้ำ n/a
  • ห้องออกกำลังกาย n/a
  • ฟังก์ชันอื่นๆ n/a
  • พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
  • ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 8 – 10 ม.
  • Key Card Access ระยะไกล ระบบ RFID (หรือแบบ Easy Pass)
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • LIV-24 มาตรฐานความปลอดภัยจากแสนสิริ
  • ประตูรั้วโครงการแบบ เลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน

** หมายเหตุ : ปัจจุบัน ณ วันที่เข้ามาถ่ายรีวิว (18/06/2564) พื้นที่ส่วนกลางและอาคาร Clubhouse ของโครงการ ยังอยู่ในระหว่างการออกแบบ รออัพเดตข้อมูลกันอีกครั้งนะครับ

แบบบ้าน

Highlights :

  • Modern Japanese : มีการตกแต่ง Facade หรือหน้ากากของตัวบ้านเป็นสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งเข้ากับบรรยากาศและ Concept โครงการ
  • บ้านหน้ากว้าง : ทุกแบบจะเป็นบ้านหน้ากว้างทั้งหมด ซึ่งส่งผลต่อฟังก์ชันภายในที่สามารถจัดให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น โดยความกว้างหลังใหญ่สุดคือ 12 m.
  • ความสว่างและโปร่งโล่ง : ด้วยช่องแสงขนาดใหญ่ และการออกแบบบ้านแฝดสไลต์บ้านเดี่ยว ซึ่งผนังบ้านชั้นบนจะไม่ติดกัน ทำให้แต่ละห้องพักจะมีช่องแสงอย่างน้อย 2 ด้าน ภายในจึงรู้สึกสว่างและโปร่งโล่งมากขึ้น

โครงการ อณาสิริ รังสิต-คลอง 2 มีแบบบ้านทั้งหมด 3 Type ดังนี้

  • FUYU บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 35 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 134 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  • AKI บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 40 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 152 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  • HARU บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 177 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

โครงสร้างบ้าน

บ้านของโครงการนี้จะเป็นโครงสร้าง Precast หรือผนังคอนกรีตสำเร็จรูป ซึ่งในเรื่องความแข็งแรงและคุณภาพก็จะได้ตามมาตรฐานโรงงานเหมือนกันทุกหลังเลยครับ อีกทั้งยังสามารถก่อสร้างได้รวดเร็วอีกด้วย

แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องการทุบ/เจาะ/ต่อเติม จะทำได้ยากกว่าผนังก่ออิฐฉาบปูน ดังนั้นคนที่ซื้อโครงการนี้ก็อาจต้องมีความชอบ หรือพอใจในฟังก์ชันมาตรฐานเดิม ของแบบบ้านที่เค้าทำมาให้ในระดับหนึ่งแล้วนั่นเองครับ

  • AKI บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 40 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 152 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

ผมขอเกริ่นเรื่องหน้าตาของตัวบ้านก่อนสักหน่อยนะครับ คือที่เราเห็นกันว่าเป็นสไตล์ Modern Japanese แบบนี้ จะเป็นการตกแต่ง Facade หรือหน้ากากของตัวบ้านภายนอก เพื่อให้ได้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นตาม Concept ที่โครงการได้วางเอาไว้

โดยที่เห็นว่าเป็นเหมือนไม้สีน้ำตาลนั้น จะเป็นการใช้เหล็กกล่องแล้วทาสีเอาครับ ทั้งนี้ก็เพื่อความแข็งแรง และดูแลรักษาได้ง่าย ในขณะที่ฟังก์ชันภายในก็จะคล้ายๆกับอณาสิริที่ทำเลอื่นๆเลยครับ แต่จะมีบางส่วนที่ถูกปรับและพัฒนาขึ้นตามแปลนดังนี้

AKI หลังนี้เป็นบ้านแฝดหลังใหญ่ ที่มีหน้ากว้างมากถึง 12 m. ส่งผลให้ฟังก์ใช้ภายในค่อนข้างเป็นสัดส่วนมากขึ้น อย่างชั้นล่างบริเวณ Common Area จะเป็นรูปตัว L ขนาดใหญ่ ซึ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งจะหลบมุมหน้าบ้านเข้ามาด้านใน ทำให้เป็นส่วนตัวและแยกฟังก์ชันใช้งานออกไปอีกโซนชัดเจน โดยส่วนที่จะเป็นแฝดเชื่อมต่อกับบ้านหลังข้างๆก็คือ Laundry หรือส่วนซักล้าง ซึ่งทำให้ฟังก์ชันอื่นในบ้านที่เป็นส่วนพักผ่อน จะไม่รับผลกระทบของเสียงที่ผ่านผนังบ้านข้างๆมาให้เสียความเป็นส่วนตัวนั่นเองครับ

ขึ้นมาชั้น 2 ผนังบ้านเราจะไม่มีส่วนใดติดกับหลังข้างๆอีกแล้ว เลยทำให้เราได้ช่องแสงด้านข้างเพิ่มขึ้นมา ห้องนอนชั้นบนก็จะโปร่งโล่ง เพราะมีช่องแสงอย่างน้อย 2 ด้านเหมือนบ้านเดี่ยวเลย โดยที่ห้องนอนทั้ง 3 จะมีห้องน้ำเป็นส่วนตัวทุกห้อง จึงเป็นบ้านแฝดที่เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก – กลาง มีลูก 1 – 2 คนกำลังดีไม่เกินนี้ เน้นฟังก์ชันที่เป็นส่วนตัว แต่ก็มีพื้นที่ส่วนรวมขนาดใหญ่ให้สมาชิกในบ้านใช้ชีวิตร่วมกันได้ครับ

เริ่มกันที่ประตูหน้าบ้านจะมีประตูคนเดินแยกออกไปเป็นสัดส่วนครับ ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวกและปลอดภัย ในขณะที่ประตูใหญ่จะเป็นเหล็กรางเลื่อนตอนเดียวที่ใช้งานได้ง่าย ซึ่งถ้าใครจะติดเป็นประตูไฟฟ้าเพิ่มเองก็ทำได้นะครับ รวมถึงยังมีถังขยะติดมาให้ด้วยเรียบร้อย สามารถเปิดทิ้งจากในบ้านได้สะดวกเลยครับ

พื้นที่จอดรถจะเป็นแบบในร่ม กว้างประมาณ 5.2 m. สามารถจอดรถได้ 2 คันพอดีๆ โดยที่พื้นจะเป็นการเทปูนธรรมดา และลงเสาเข็มให้เฉพาะส่วนที่อยู่ใต้ชายคาบ้านเท่านั้นนะครับ ส่วนที่เหลือจะเป็นแบบ On Ground หรือการวางคานบนพื้นดินไปเลย

และบริเวณพื้นที่จอดรถก็จะมีตู้ให้เก็บพวกอุปกรณ์ / ข้าวของเครื่องใช้เกี่ยวกับรถหรือสวนได้ รวมถึงมีประตูทางเข้าบ้านที่สามารถขนของไปเก็บหลังบ้าน หรือเดินขึ้นชั้น 2 ได้เลยโดยไม่ต้องไปอ้อมผ่าน Living Room ก่อนให้เสียเวลา

ส่วนทางเข้าหลักจะอยู่ตรงสวนหน้าบ้านครับ โดยจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ มีตัวล็อคแบบ 2 ชั้นเพื่อความปลอดภัย และสวนหน้าบ้านก็จะไม่ได้กว้างมาก

เข้ามาภายในเราจะเจอกับ Common Area ขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อไปจนถึงพื้นที่หลังบ้าน ทำให้มีช่องแสงถึง 3 ด้าน (ส่วนตัวผมประทับใจ “ช่องแสง” ที่ให้มาใหญ่สะใจดีจริง) และได้ฝ้าเพดานสูง 2.7 m. บรรยากาศจึงโปร่งโล่งมากๆครับ

พื้นที่ส่วนแรกจะเป็น Living Area หรือพื้นที่นั่งเล่นและรับแขก ซึ่งกว้างพอที่จะใช้ชุดโซฟาขนาดใหญ่ พร้อมกับวางโต๊ะกลางได้ด้วย โดยมีระยะดูทีวีอยู่ที่ 3.1 m. ก็จัดไปเลยครับ ทีวีขนาด 50 – 60 นิ้ว และเราอาจต้องมีผ้าม่านปิดประตูกระจกด้วยจะดี เพราะจะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ในบ้านได้นั่นเอง

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ อยู่ติดกับประตูกระจกบานเลื่อนที่เปิดออกไปสวนข้างบ้านได้ ซึ่งเราอาจจัดเป็นมุมโต๊ะทานข้าว หรือมุมโต๊ะอเนกประสงค์ไว้นั่งทำงานไปชมสวนไปก็ไม่เลวครับ

ส่วนอีกด้านจะเป็นพื้นที่เว้าหลุมมุมเข้าไปในบ้าน ซึ่งเราจะมองไม่เห็นจากพื้นที่รับแขกหน้าบ้านเลย ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวดีทีเดียวครับ

โดยพื้นที่ส่วนนี้ของจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆเลย ซึ่งเราสามารถจัดเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ต่างๆตาม Lifestyle ของครอบครัวเราได้ เช่น บ้านตัวอย่างนี้เค้าจัดเป็นโต๊ะทานอาหารกับ Pantry มาให้ดู ซึ่งลองจินตนาการตอนเช้าๆเดินลงบันไดมา ก็สามารถแวะจิบกาแฟก่อนเปิดประตูขึ้นรถไปทำงานได้ประมาณนี้

แต่ถ้าใครจะทำเป็น Pantry ที่มีเตาหรือซิงค์ล้างจานจริงจัง ก็อาจลำบากหน่อย เพราะอย่างที่บอกว่าโครงสร้างบ้านเค้าเป็น Precast ดังนั้นการเจาะ/สกัดผนัง เพื่อฝังท่องานระบบจึงทำได้ค่อนข้างยาก จนบางทีอาจต้องเดินลอยตามผนัง ซึ่งต้องเก็บงานกันให้ดีๆพอสมควรนะครับ

ส่วนขวามือนอกจากบันไดแล้วก็จะมีห้องน้ำ ประตูทางเข้าจากพื้นที่จอดรถ และทางไปห้องครัวหลังบ้านตามลำดับ

ภายในห้องน้ำขนาดค่อนข้างใหญ่เลยครับ ซึ่งจะมีส่วนอาบน้ำมาให้ด้วย และแยกพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน (อาจต้องกั้นฉากหรือผ้าม่านเอง) โดยมีขนาดพื้นที่ยืนอาบประมาณ 1.2 x 0.9 m.

ส่วนตัวผมคิดว่าเค้าทำไว้เผื่อว่า ถ้าใครจะกั้นพื้นที่อเนกประสงค์ด้านนอกก่อนหน้านี้ ให้เป็นห้องนอนชั้นล่างเพิ่ม ก็จะได้มีที่อาบน้ำได้นั่นเอง ซึ่งเราจะได้สุขภัณฑ์ Cotto และลายกระเบื้องตามที่เห็นในบ้านตัวอย่างนี้เลยครับ

ถัดมาจะเป็นห้องครัวไทยที่ทำอาหารได้จริงจัง เพราะจะมีประตูกั้นปิดแยกออกมาจากในบ้าน และเปิดหน้าต่าง/ประตูหลังบ้านเพื่อระบายอากาศได้โดยตรงเลยครับ

ซึ่งพื้นที่ใช้งานก็กว้างขวางดีทีเดียวครับ สามารถทำอาหารร่วมกัน 2 – 3 คนได้สบายๆ โดยทางโครงการจะ Built in เคาน์เตอร์ครัวที่เป็นปูน พร้อมหน้าบานปิดตู้ด้านล่าง และซิงค์ล้างจานมาให้เรียบร้อยแบบนี้เลย ส่วนพวกตู้แขวนด้านบนและเตาต่างๆเราจะต้องติดเองนะครับ

ถัดมาจะเป็น Laundry หรือห้องซักรีด ที่จะเป็นส่วนที่อยู่ติดกับผนังเพื่อนบ้าน โดยพื้นที่ส่วนนี้จะกว้างประมาณ 1.6 m. สามารถ Built ตู้แบบนี้และใช้งานได้สบายๆเลยครับ

ซึ่งเค้าจะมีประตูกั้นแยกส่วนมาจากครัวอีกชั้นหนึ่งด้วย เพื่อบางครั้งเราอาจต้องการกันกลิ่นหรือควันจากการทำอาหาร ไม่ให้มาโดนผ้าที่เพิ่งซักเสร็จนั่นเองครับ

ส่วนถ้าใครซักผ้าเสร็จแล้วอยากตากแดด ก็สามารถเปิดประตูขนมาตากหลังบ้านได้ง่ายๆเลย โดยพื้นที่ส่วนนี้ของจริงจะเป็นการปูพื้นหญ้าทั้งหมดนะครับ

กลับมาที่บันไดทางขึ้นชั้น 2 จะเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กอยู่แล้ว เลยมีความแข็งแรงทนทาน วิ่งขึ้น-ลงหนักๆก็ไม่มีเสียงตึงตัง บันไดกว้าง 1 m. ปิดผิวด้วยไม้สำเร็จรูป พร้อมมีราวจับให้ตลอดทาง แต่การใช้งานอาจต้องระวังช่วงขั้นบันไดสามเหลี่ยม ที่อาจทำให้เราเหยียบได้ไม่เต็มฝ่าเท้าครับ เพราะเค้าจะไม่มีชานพักบันไดใหญ่ๆ เพื่อต้องการประหยัดพื้นที่ส่วนนี้ไปนั่นเอง

โถงบันไดด้านบนจะมีประตูแยกห้องนอน 3 ห้องครับ โดยที่ห้อง Master Bedroom เค้าจะอยู่แยกออกไปทางซ้ายมือเป็นส่วนตัวไปเลย

เรามาเริ่มกันที่ห้องนอนแรกทางขวามือสุด ซึ่งเป็นห้องนอนที่ 2 อยู่โซนหน้าบ้าน เหมาะกับลูกคนโต โดยจริงๆขนาดห้องค่อนข้างใหญ่นะครับ (ประมาณ 2.9 x 5 m.) แต่บ้านตัวอย่างเค้าจัดเป็นสไตล์ห้องเด็ก และมีเฟอร์นิเจอร์เยอะไปสักหน่อย ก็เลยอาจดูห้องเล็กๆไปบ้าง แต่เราก็วางเตียง 5 ฟุตได้นะ

กลางห้องเค้านำชั้นวางของมากั้น เพื่อแยกโซนหน้าห้องน้ำออกมาให้กลายเป็นเหมือน Walk-in Closet ขนาดเล็กๆ ซึ่งก็สามารถนำไปใช้เป็นไอเดียได้นะครับ แต่ก็แลกมากับความโปร่งโล่งของห้องที่ลดลงไปบ้างอย่างที่เห็น

ส่วนภายในห้องน้ำพื้นที่ใหญ่และเป็นสัดส่วนดี แยกพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน โดยมีขนาดพื้นที่ยืนอาบน้ำประมาณ 1.4 x 0.8 m. สามารถใช้งานได้สบายๆ แต่ต้องไปติดฉากกั้นหรือม่านพลาสติกเพิ่มเองนะครับ

ติดกันจะเป็นห้องนอนเล็กอีกห้องที่อยู่โซนหลังบ้าน และเป็นห้องที่มีขนาดเล็กที่สุด (ประมาณ 3 x 3.3 m.) ซึ่งก็ยังวางเตียง 5 ฟุตได้พอดีๆนะครับ

แต่ถ้าอยากให้มีมุมโต๊ะหนังสือเล็กๆด้วย ก็อาจต้องใช้เตียง 3.5 ฟุตตามห้องตัวอย่าง หรืออาจปรับเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆก็ได้ตาม Lifestyle ของครอบครัว เช่น ห้องทำงาน หรือห้องพระ ก็ได้ถ้าเรามีลูกแค่คนเดียว

ส่วนอีกด้านของห้องหรือบริเวณปลายเตียง ก็จะมีห้องน้ำให้ใช้งานเป็นส่วนตัวครับ โดยจะเป็นพื้นที่ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส (ขนาดประมาณ 1.7 x 1.8 m.) ไม่ได้แยกพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน จึงอาจต้องกั้นเป็นลักษณะเข้ามุมห้องแทนนะครับ

สุดท้ายคือ Master Bedroom ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุด และกินพื้นที่ฝั่งซ้ายของตัวบ้านทั้งหมด ตั้งแต่หน้าบ้านถึงหลังบ้านเลยครับ

โดยบ้านตัวอย่างเค้าก็จัดเป็นฟังก์ชันแบบญี่ปุ่นเต็มที่เลยนะ อย่างพื้นที่ใต้เตียงยกระดับสูงขึ้นมาแต่ก็ใช้เก็บของได้ดี ซึ่งถ้าใครชอบแบบนี้ก็นำไปเป็นไอเดียแต่งบ้านได้นะครับ

ส่วนอีกด้านของห้องจะมีมุม Walk-in Closet อยู่หน้าห้องน้ำแบบจริงจังเลย โดยมีความกว้างประมาณ 1.6 m. สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าแล้วยังมีพื้นที่เหลือให้ยืนใช้งานได้สะดวกอยู่ครับ

ส่วนภายในห้องน้ำจะเหมือนกับห้องเมื่อสักครู่นี้เลยครับ เพียงแต่เค้าจะเปลี่ยนโถสุขภัณฑ์ให้เป็นแบบอัตโนมัติเท่านั้นเอง ซึ่งก็สามารถใช้งานได้สะดวกมากขึ้น

  • FUYU บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 35 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 134 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

FUYU เป็นบ้านแฝดหลังเล็กที่อยู่คู่กับหลังใหญ่ก่อนหน้านี้ โดยจะมีหน้ากว้างและขนาดที่ดินที่น้อยกว่า แต่ยังเชื่อมต่อกันด้วย Laundry หรือห้องซักล้างเหมือนเดิม และฟังก์ชันภายในก็ค่อนข้างคล้ายกันเลยครับ ได้ทั้ง Common Area ขนาดใหญ่และครัวปิดเป็นสัดส่วน สิ่งที่ต่างกันคือ “พื้นที่จอดรถ” จะเป็นการจอดในร่ม 1 คัน และจอดกลางแจ้งอีก 1 คัน

ส่วนชั้นที่ 2 จะมีห้องนอนอยู่ 3 ห้อง โดยที่ห้อง Master Bedroom จะมีทั้ง Walk-in Closet และห้องน้ำเป็นส่วนตัว ส่วนห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องจะต้องใช้งานห้องน้ำร่วมกันที่ด้านนอก ทำให้เป็นบ้านที่เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง ซึ่งถ้ามีลูกคนเดียวก็จะดีนะครับ เพราะไม่ต้องแชร์หรือแย่งกันใช้ห้องน้ำกัน (โดยเฉพาะเวลาเร่งรีบตอนเช้า) ส่วนห้องเล็กสุดเราก็ปรับเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆได้นั่นเองครับ

และนี่คือบริเวณพื้นที่จอดรถที่ต่างกับหลังใหญ่ครับ โดยจะเป็นการจอดในร่ม 1 คัน และจอดกลางแจ้งอีก 1 คัน ซึ่งถ้าใครไม่อยากจอดรถตากแดดตากฝนล่ะก็ สามารถต่อเติมหลังคาโรงจอดรถเพิ่มได้นะครับ

เข้ามาภายในจะเห็นว่า ถึงแม้จะเป็นบ้านแฝดหลังเล็ก แต่ความโปร่งโล่งก็ยังมีอยู่ครบไม่แพ้บ้านหลังใหญ่เลยนะ เพราะช่องกระจกเค้าเยอะและใหญ่ดีจริงๆ สามารถมองเห็นสวนรอบๆบ้าน และทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นเยอะเลย

พื้นที่ส่วนแรกยังคงเป็น Living Area หรือพื้นที่นั่งเล่น และยังสามารถใช้รับรองแขกได้ด้วย ซึ่งเราก็สามารถใช้ชุดโซฟาขนาดใหญ่แบบนี้ กับทีวี 50 – 60 นิ้วได้เหมือนเดิม เพราะผมวัดหน้างานมาแล้วเค้ามีระยะดูทีวีประมาณ 2.9 m. น้อยกว่าหลังใหญ่แค่ 20 cm. เท่านั้น

ส่วนพื้นที่ในบ้านก็สามารถวางโต๊ะทานอาหารได้เหมือนเดิม และพื้นที่อเนกประสงค์ตรงกลางบ้านก็ยังมีให้ครับ โดยหลังนี้เค้าจัดเป็นพื้นที่ทำงานอเนกประสงค์มาให้ดูเป็นไอเดียอีกแบบ ซึ่งก็เหมาะกับการ WFH ในช่วงนี้มากๆ

ส่วนอีกด้านก็จะเป็นบันได ห้องน้ำ ประตูทางเข้าจากพื้นที่จอดรถ และประตูห้องครัวตามลำดับ ซึ่งพื้นของห้องน้ำจะมีการลดระดับลงไป เพื่อที่จะใช้งานห้องน้ำที่อยู่ใต้บันไดได้ โดยไม่มีปัญหาเรื่องความสูงฝ้าเพดานนั่นเอง

ภายในจะเป็นห้องน้ำขนาดเล็กที่ใช้งานได้พอดีๆ แต่ก็มีส่วนอาบน้ำให้มาด้วยครับ โดยมีจุดที่พิเศษกว่าห้องน้ำอื่นๆจะมีอยู่ 2 จุดคือ อ่างล้างหน้าขนาดเล็กกว่าปกติ เพื่อไม่ให้ขวางทางเข้า-ออกประตูห้องน้ำ กับมีพื้นที่วางของใต้บันได สามารถเก็บ Supply ต่างๆของห้องน้ำได้เยอะเลย

ส่วนภายในห้องครัวก็จะได้เป็นครัวปิด ที่มีประตูหน้าต่างมาให้เหมือนเดิมครับ สามารถทำอาหารได้จริงจัง พร้อมกับ Built-in เคาน์เตอร์ด้านล่างที่มีหน้าบานมาให้เรียบร้อย

และติดกันจะเป็น Laundry หรือส่วนซักล้างที่ผนังติดกับเพื่อนบ้านเช่นเคย สามารถ Built-in ชั้นวางของและเครื่องซักผ้าแบบนี้ และยังมีพื้นที่เหลือให้ใช้งานได้สะดวก

พอซักเสร็จก็เปิดประตูเอามาตากหลังบ้านนี้ได้เลยครับ ซึ่งพื้นก็จะปูหญ้ามาให้เป็นมาตรฐานนะ

ส่วนบันไดของบ้านหลังนี้ก็จะไม่มีชานพัก แต่เป็นขั้นสามเหลี่ยมแบบนี้เหมือนเดิม ยังไงเวลาใช้งานก็ระมัดระวังกันด้วยนะครับ ซึ่งด้านบนเราก็จะเจอประตู 4 บาน ด้านซ้ายเป็นห้องนอนเล็ก ตรงกลางเป็นห้องน้ำ ส่วนขวามือเป็น Master Bedroom

เริ่มกันที่ห้องแรกซ้ายมือสุด จะเป็นห้องนอนเล็กที่อยู่บริเวณหน้าบ้านและมีขนาดเล็กที่สุด โดยบ้านนี้จัดเป็นห้องทำงานมาให้ดูเป็นตัวอย่าง เหมาะกับคนที่มีลูกคนเดียวและอยากปรับห้องนี้เป็นฟังก์ชันอื่นๆ เช่น ห้องพระก็ได้ครับ

โดยผมวัดขนาดพื้นที่มาให้แล้วได้ประมาณ 2.9 x 2.6 m. ก็พอจะวางเตียง 3.5 ฟุตและตู้เสื้อผ้าอีกสักใบได้พอดีๆครับ แต่ที่สำคัญคือ ช่องแสงเยอะและใหญ่ดีนะ ส่วนตัวค่อนข้างชอบ

ติดกันจะเป็นห้องนอนเล็กอีกห้องที่อยู่ทางหลังบ้าน มีขนาดที่ใหญ่กว่าเล็กน้อยคือ 3.4 x 2.8 m. เหมาะที่จะทำเป็นห้องนอนมากขึ้น เพราะพอจะมีพื้นที่ให้วางโต๊ะอเนกประสงค์เล็กๆเพิ่มอีกสักตัวได้ด้วย

ส่วนตรงกลางจะเป็นห้องน้ำสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดประมาณ 1.7 x 1.8 m. ซึ่งจะใช้งานร่วมกันระหว่างห้องนอนเล็กทั้ง 2 โดยเราอาจต้องกั้นฉากหรือติดม่านตรงส่วนอาบน้ำแบบเข้ามุมเพิ่มเองนะครับ นอกนั้นเราจะได้สุขภัณฑ์ครบตามบ้านตัวอย่างเลย

สุดท้ายคือเป็นห้อง Master Bedroom ที่อยู่แยกมาทางฝั่งขวาของบ้านเป็นส่วนตัว ภายในมีขนาดใหญ่และกินพื้นที่ตั้งแต่หน้าบ้านถึงหลังบ้านเลยครับ ดังนั้นเราเลยสามารถแบ่งพื้นที่ฟังก์ชันได้เป็นสัดส่วนดีทีเดียว

บริเวณหน้าบ้านเมื่อวางเตียงขนาด 5 ฟุตไปแล้ว ก็ยังมีพื้นที่โดยรอบเหลือให้เดินได้สะดวก จะวางโต๊ะหัวเตียงเพิ่ม 2 ข้างก็ได้ ติดทีวีปลายเตียงก็ดี และมีหน้าต่างให้ชมวิวได้อีกด้วย

และทางด้านหลังของบ้านจะเป็นพื้นที่ Walk-in Closet บริเวณหน้าห้องน้ำที่เว้าพื้นที่เข้ามาเป็นสัดส่วน และสามารถใช้งานต่อเนื่องกับห้องน้ำได้ด้วย แบบออกมาก็แต่งตัวได้เลย

ส่วนภายในห้องน้ำก็จะเหมือนกับห้องก่อนหน้านี้เลยครับ เพียงแต่จะได้โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติเพิ่มเข้ามาเหมือนบ้านหลังใหญ่ก่อนหน้านี้เช่นเดิม

  • HARU บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 177 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

HARU เป็นบ้านเดี่ยวหน้ากว้างสำหรับคนที่ชอบใช้งานพื้นที่สวนรอบบ้าน เพราะเกือบทั้งหมดของบ้าน Type นี้จะเป็นบ้านแปลงมุม มีพื้นที่สวนเยอะ ปลูกต้นไม้/ทำบ่อปลาได้เต็มที่ และสิ่งที่พิเศษต่างจากบ้านหลังอื่นๆจะมีอยู่ 3 จุดคือ

“ทางเข้าหลักหน้าบ้าน” เมื่อเปิดประตูเข้ามาเราจะเจอกับพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารก่อนเป็นอย่างแรก เลยทำให้ Living Area ค่อนข้างเป็นส่วนตัวมากๆ เพราะไม่ต้องมีใครเดินผ่านหน้าทีวีบ่อยๆ และ “พื้นที่หน้าบันได” ก็ทำหน้าที่เป็น Foyer กลางบ้าน ที่แจกไปยังฟังก์ชันต่างๆ แต่ก็สามารถใช้งานเป็นมุมอเนกประสงค์เล็กๆได้ด้วย ส่วนจุดสุดท้ายจะเป็น “ห้องนอนชั้นล่าง” ที่อยู่ติดกับสวน และหลบไปอยู่ด้านหลังผนังบ้านทำให้เป็นส่วนตัวมาก เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ที่อาจมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วยนั่นเอง

ขึ้นมาชั้น 2 จะมี Highlight หลักคือ “บริเวณโถงหน้าบันได” และโถงทางเดินหน้าห้องที่ใหญ่มากๆ ซึ่งเราสามารถจัดเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ หรือจะกั้นผนังทำห้องเพิ่มอีกสักห้องก็ยังได้ เหมาะกับคนชอบบ้านที่มีพื้นที่ให้สามารถปรับฟังก์ชัน เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายได้นั่นเองครับ ส่วนห้องนอนทั้ง 3 ก็จะมีห้องน้ำในตัวทุกห้องเป็นส่วนตัวเลย ซึ่งบรรยากาศบ้านตัวอย่างจะเป็นอย่างไร สามารถเลื่อนชมภาพใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

Image 1/16

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคา

อณาสิริ รังสิต – คลอง 2 ราคา ณ วันที่ 18 มิถุนายน 2564

  • FUYU บ้านแฝด 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 35.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 134 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท
  • AKI บ้านแฝด 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 40 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 152 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • HARU บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 51.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 177 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
  • ช่วงราคาขายเริ่มต้นปัจจุบัน 3.99 – 6 ล้านบาท (บ้านแฝด-บ้านเดี่ยว)
  • จองบ้านแฝด 20,000 บาท และบ้านเดี่ยว 30,000 บาท
  • ทำสัญญาบ้านแฝด 30,000 บาท และบ้านเดี่ยว 50,000 บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 47,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.วา/เดือน
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : ทำเลคลอง 2 ยังถือว่าเป็นโซนที่อยู่ใกล้กับความเจริญสูงสุดในย่านอย่างฟิวเจอร์พาร์ค และหน้าปากซอยยังมีตลาดนัดพระรูปให้ได้แวะจับจ่ายใช้สอยกันได้อีกด้วย ถือว่าเป็นทำเลที่หาของกินของใช้ได้สะดวกเลยครับ อีกทั้งยังแวดล้อมไปด้วยมหาวิทยาลัยชื่อดังหลายแห่ง ถ้ามีลูกเรียนอยู่แถวรังสิตอยู่แล้ว ก็อยู่บ้านด้วยกันได้ยาวๆไปเลย

และอย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่าถนนรังสิต-นครนายกช่วงกลางๆ จะมีการจราจรที่หนาแน่นมากๆ ซึ่งโชคดีที่ถนนเลียบคลอง 2 สามารถเข้า-ออกได้หลายทาง หรือจะขับรถย้อนกลับมานิดหน่อยเพื่อมากลับรถใต้สะพานก็ทำได้หมด ทำให้สามารถเลี่ยงรถติดได้ดีเลยทีเดียว และยังมีทางด่วนให้ใช้เข้า-ออกเมืองอยู่ไม่ไกลอย่าง ดอนเมืองโทลเวย์ และถนนกาญจนาภิเษกครับ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ซุ้มประตูทางเข้านอกจากจะมีพี่ รปภ. กับกล้อง CCTV และระบบ RFID (หรือ Easy Pass) ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านแล้ว ยังใช้ทางเข้า-ออกเป็นประตูเหล็กรางเลื่อน ที่มีความแข็งแรงและปลอดภัย รวมถึงใช้ LIV-24 ที่เป็นบริการดูแลความปลอดภัยโดยศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชม. จากแสนสิริ ผ่านทาง Application บนโทรศัพท์มือถือ โดยจะเป็นเฉพาะในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางนะครับ ส่วนภายในบ้านเราอาจต้องติดตั้งเพิ่มเติมเองนะ

การออกแบบโครงการ : พูดถึงสไตล์การออกแบบแล้ว ถือว่าเป็นโครงการบ้านแฝด-บ้านเดี่ยวเพียงแห่งเดียวในย่านคลอง 2 ที่มีแนวคิดการออกแบบเป็นสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งต่างจากเพื่อนบ้านในปัจจุบันที่ส่วนใหญ่จะเป็นสไตล์โมเดิร์นหรือยุโรปครับ โดยบรรยากาศเหล่านี้ก็จะสื่อออกมาจากการตกแต่งทั้งซุ้มประตูทางเข้าโครงการและ Facade หน้าบ้านแต่ละหลัง

แต่สิ่งที่น่าสนใจจริงๆคือ “การวางผังโครงการ” โดยเฉพาะการจับคู่กันของบ้านแฝดหลังใหญ่กับบ้านแฝดหลังเล็ก ซึ่งเค้าก็จะมีรูปร่างหน้าตาของบ้าน หรือการหันหน้าจั่วหลังคาที่แตกต่างกันออกไป เลยทำให้บรรยากาศภาพรวมดูแล้วไม่น่าเบื่อ รวมถึงการเลือกวางทางเข้ากับส่วนกลางไว้ตรงกลางโครงการก็เป็นเรื่องดีนะครับ เพราะนอกจากจะใช้เป็นส่วนต้อนรับสวยๆ หรือทำให้บ้านแต่ละเฟสมาใช้งานได้สะดวกแล้ว

ในระหว่างทางที่กำลังจะขับรถมาเข้าโครงการ ยังทำให้เราได้สัมผัสกับบรรยากาศความเป็นหมู่บ้านญี่ปุ่น (ตรงบ้านเฟส 1 ที่หันออกมาด้านนอก) ก่อนที่จะเข้าโครงการซะอีกครับ ส่วนลูกบ้านที่อยู่ในเฟส 2 – 3 ด้านในก็อาจต้องทำใจเรื่องความเป็นส่วนตัวที่ลดลงไปบ้างนะ เพราะซอยที่พักอาศัยจะยาวต่อเนื่องกันเกือบ 600 m. ทำให้อาจมีรถเพื่อนบ้านขับผ่านไป-มาบ่อยพอสมควร

การออกแบบพื้นที่ใช้สอย : เรื่องรูปร่างหน้าตาบ้านแล้วแต่สไตล์คนชอบนะครับ แต่โดยภาพรวมฟังก์ชันต่างๆจะยังคล้ายๆกับแบบบ้านของอณาสิริทำเลอื่นๆ เพียงแต่จะตกแต่ง Facade ด้านหน้าให้เป็นสไตล์ญี่ปุ่น และมีการปรับฟังก์ชันภายในนิดหน่อย โดยเอาพื้นที่ระเบียงชั้นบนออกไป เพื่อเน้นใช้สอยพื้นที่ในให้ใหญ่ขึ้นนั่นเองครับ

จุดเด่นของเค้าคือจะเป็น “บ้านหน้ากว้างทุกแบบ” โดยบ้านแฝดหลังใหญ่จะกว้างสูงสุดอยู่ที่ 12 m. ซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลต่อฟังก์ชันภายในที่ต่างจากบ้านทั่วๆไป โดยเฉพาะ Common area จะมีขนาดใหญ่ และมีพื้นที่เว้าหลบมุมไปด้านข้าง ซึ่งเป็นส่วนตัวจากพื้นที่รับแขกหน้าบ้าน และสามารถจัดเป็นพื้นที่อเนกประสงค์อื่นๆตาม Lifestyle ของเราได้ เช่น เป็นห้องนอนเสริมก็ได้ หรือพื้นที่ทำงานช่วง WFH แบบนี้ก็ดี

และที่ผมชอบอีกอย่างคือ เค้าใช้ Laundry เป็นจุดเชื่อมต่อกับหลังข้างๆ ซึ่งทำให้ฟังก์ชันโซนพักผ่อนอื่นๆได้ความเป็นส่วนตัวจากเสียงต่างๆที่อาจดังข้ามมา และชั้น 2 ก็จะไม่มีผนังติดกับบ้านข้างๆแล้ว เลยทำให้ห้องนอนทุกห้องได้ช่องแสงอย่างน้อย 2 ด้าน หน้าต่างก็บานใหญ่มาก รู้สึกโปร่งโล่งเหมือนบ้านเดี่ยว และเป็นบ้านที่เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง ชอบความเป็นสัดส่วน เป็นส่วนตัว รวมถึงชอบที่จะมีพื้นที่อเนกประสงค์ให้ได้ใช้งาน และยิ่งเป็นแบบบ้านเดี่ยวล่ะก็ มีให้ใช้งานได้สบายๆหลายจุดเลยครับ

วัสดุ : โครงการนี้เค้าใช้โครงสร้าง Precast หรือผนังคอนกรีตสำเร็จรูป ข้อดีคือ ความแข็งแรงทนทาน และได้มาตรฐานที่เท่ากันทุกชิ้นมาจากโรงงาน รวมถึงยังสามารถก่อสร้างได้เร็วอีกด้วย แต่ด้วยความแข็งแรงนี้เองก็ทำให้เกิดข้อจำกัด ที่การต่อเติม/สกัดผนัง/ทุบ/เจาะ จะทำได้ยากมากๆ บางจุดอาจทำอะไรไม่ได้เลยเพราะเป็นผนังรับน้ำหนัก จึงต้องปรึกษาช่างโครงการก่อนทุกครั้งที่จะทำนะครับ

ดังนั้นคนที่จะซื้อบ้านที่ก่อสร้างด้วย Precast จึงต้องพอใจกับฟังก์ชันดั้งเดิมที่เค้าจัดมาแล้วระดับหนึ่ง โดยไม่ได้กะจะดัดแปลงอะไรมากมายนัก อย่างมากคือกั้นผนังเบาหรือผนังกระจกเพิ่มเติมแบบนี้ยังโอเคครับ แต่ที่ชอบมากๆคือ ช่องหน้าต่างใหญ่และกระจกเยอะมาก ตัวบ้านโปร่งโล่งดี มีเคาน์เตอร์ครัวมาให้ แต่ในห้องน้ำอาจต้องติดฉากกั้นเพิ่มเองนะครับ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : วันที่ผมไปโครงการอาจยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ 100% นะครับ ดังนั้นผมจะขออ้างอิงจากบรรยากาศทางเข้าโครงการ และโซนพักอาศัยในเฟสแรกที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือว่าภาพรวมค่อนข้างดูดีน่าอยู่เลยทีเดียว

หน้าบ้านแต่ละหลังจะมีฟุตบาท และปลูกต้นไม้หน้าบ้านให้ด้วยต้นนึง เวลามองเข้ามาในซอยก็จะเห็นสีเขียวของต้นไม้ สลับกับบ้านทรงญี่ปุ่นที่คละแบบกันก็ดูดีไม่น้อยเลย เหมือนเราได้มาอยู่ในหมู่บ้านญี่ปุ่นตาม Concept ของโครงการเลยล่ะครับ ซึ่งในส่วนนี้ผมก็อยากให้ลองไปสัมผัสด้วยตัวเองดูนะ

สาธารณูปโภค : ปัจจุบัน ณ วันที่เข้ามาถ่ายรีวิว (18/06/2564) พื้นที่ส่วนกลางและอาคาร Clubhouse ของโครงการ ยังอยู่ในระหว่างการออกแบบ จึงทำให้ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะนำมาวิเคราะห์และให้คะแนนได้ ซึ่งอาจรออัพเดตข้อมูล และรอดูบรรยากาศของจริงในอนาคตกันอีกครั้งนะครับ โดยคาดว่าน่าจะเป็นช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้าเนี่ยแหละ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 3 – 6 ล้านบาท, 18 มิถุนายน 2564

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 – ใกล้ฟิวเจอร์ ใกล้ตลาด ถนนเลียบคลอง 2 เข้า-ออกได้หลายทาง ไม่ไกลจากทางด่วน
  • ความปลอดภัย 7.5/10 – CCTV / RFID / รปภ. / ประตูเหล็กรางเลื่อน / LIV-24
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – บ้านหน้ากว้าง สไตล์ญี่ปุ่น ฟังก์ชันเป็นสัดส่วน มีมุมอเนกประสงค์เยอะ บรรยากาศโปร่งโล่ง
  • วัสดุ 7.5/10 – โครงสร้าง Precast ช่องหน้าต่างใหญ่ กระจกเยอะ ได้ครัวไทยและเคาน์เตอร์ครัว
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – บรรยากาศดี มีต้นไม้หน้าบ้าน ได้ความเป็นหมู่บ้านญี่ปุ่น
  • สาธารณูปโภค n/a /10 – ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอ รออัพเดตจากโครงการ
  • n/a / 10.00

อณาสิริ รังสิต – คลอง 2 เหมาะกับใคร

อณาสิริ รังสิต – คลอง 2 เหมาะกับคนที่กำลังมองหาบ้านแฝด หรือบ้านเดี่ยวในย่านคลอง 2 ที่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกและอุดมสมบูรณ์ มีการออกแบบเป็นสไตล์ญี่ปุ่นที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร เป็นบ้านหน้ากว้างที่ได้ฟังก์ชันลงตัว เป็นสัดส่วน มีพื้นที่อเนกประสงค์ให้ปรับใช้งานตาม Lifestyle ที่หลากหลายได้ โดยเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก – กลาง อยู่ด้วยกัน 3 – 4 คนกำลังดี บรรยากาศในบ้านแฝดโปร่งเล่งและเป็นส่วนตัวคล้ายบ้านเดี่ยว มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 3.99 – 6 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 28,000 – 42,000 บาทขึ้นไป

นอกจากนี้ยังมีโครงการน้องใหม่อย่าง อณาสิริ – รังสิต ที่จะเปิดจองครั้งแรกในวันที่ 20-21 พ.ย. 64 โดยโครงการนี้ใกล้ทางด่วนอุดรรัถยา ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจอีกโครงการหนึ่งค่ะ


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc