ศุภาลัย เลควิลล์ ศรีสมาน – ปทุมธานี (Supalai Lake Ville Srisamarn – Pathumthani) บ้านเดี่ยวไซส์ใหญ่ พร้อมสวนและทะเลสาบรวมกว่า 6 ไร่ จาก ศุภาลัย [รีวิวฉบับที่ 2640]

Supalai Lake Ville Srisamarn – Pathumthani (ศุภาลัย เลควิลล์ ศรีสมาน – ปทุมธานี) ณ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566

Highlights :

• ใกล้สะพานปทุมธานี และสะพานนนทบุรี สามารถข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามาฝั่งเมืองได้ง่าย
• ทำเลมีความเงียบสงบเป็นส่วนตัว เหมาะแก่การอยู่อาศัย
• เป็นโซนที่อยู่อาศัยเกิดใหม่ที่ขยับขยายมาจากตัวเมือง ซึ่งราคายังไม่สูงเมื่อเทียบกับย่านข้างเคียง จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน

พิกัด Google Maps : 13.970141, 100.526559
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

..โครงการ ศุภาลัย เลควิลล์ ศรีสมาน – ปทุมธานี ตั้งอยู่ทางฝั่งตรงข้ามแม่น้ำของปทุมธานี ใกล้กับสะพานปทุมธานี และสะพานนนทบุรี คือถ้าเราขับรถมาจากฝั่งรังสิต-ดอนเมือง พอลงสะพานมาแล้วก็จะอยู่ทางขวามือเลยนั่นเองครับ จึงเป็นทำเลที่สามารถข้ามฝั่งเพื่อเข้าเมืองมาหาความอุดมสมบูรณ์ หรือแหล่งงานต่างๆได้ค่อนข้างสะดวกอยู่เหมือนกัน

โดยทำเลของโครงการจะถือเป็นโซนที่อยู่อาศัยเกิดใหม่ ที่ได้มีการขยับขยายออกมาจากฝั่งตัวเมือง ซึ่งเราจะสังเกตได้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ มีโครงการมาเปิดใหม่ค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะบนถนนหมายเลข 345 และ 307 แต่ถ้าเป็นถนนปทุมธานี-สายในที่โครงการตั้งอยู่ ถึงแม้จะเป็นถนนสายรองกว่านิดหน่อยก็จริง แต่ก็อยู่ใกล้สะพานข้ามแม่น้ำมากกว่าด้วยเช่นกัน

รวมถึงราคาก็ยังไม่แรงเท่าเพื่อนบ้านที่ติดถนนใหญ่ หรือบ้านที่อยู่ฝั่งในตัวเมืองครับ ทั้งนี้อาจต้องแลกมากับความอุดมสมบูรณ์ใกล้ๆที่ยังมีไม่มากนัก แต่ถ้าเราขับรถมายังทำเลใกล้เคียงอย่างศรีสมาน-ดอนเมือง-รังสิต ก็รับรองได้ว่าจะเป็นย่านที่คึกคัก และมีทุกสิ่งให้เลือกสรรอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นตลาด ห้างสรรพสินค้า ศูนย์ราชการ โรงเรียน มหาลัย และอื่นๆ หรือถ้าใครที่ชอบเดินหาของกินแบบชิคๆหน่อย ก็อาจไปคอมมูนิตี้มอลล์ทางฝั่งราชพฤกษ์ก็ได้ครับ

ทางด่วนที่ใกล้ที่สุด :

สำหรับใครที่ทำงานในเมืองเป็นหลัก ก็สามารถใช้ทางด่วนอุดรรัถยาได้ครับ โดยผมแนะนำให้มาขึ้นตรงศรีสมานจะง่ายกว่า เพราะมีวงแหวนให้เลี้ยวขึ้นได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาไปกลับรถไกลๆเหมือนตรงแถวรังสิต-บางบัวทอง

ซึ่งจะมีระยะห่างประมาณ 6.7 km. แต่อาจต้องเผื่อเวลาสัก 15 – 20 นาที โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วนในตอนเช้าและเย็น เนื่องจากจะมีโรงเรียนขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้า และศูนย์ราชการตั้งอยู่ทางฝั่งศรีสมานนั่นเองครับ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

บริบทโดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นชุมชนปกติ จึงค่อนข้างมีความเงียบสงบเหมาะแก่การอยู่อาศัย และบริเวณถนนด้านหน้าโครงการก็จะไม่ค่อยวุ่นวาย เหมือนโครงการที่อยู่ติดถนนใหญ่ด้านนอกด้วยครับ สามารถสรุปได้ดังนี้

• ทิศเหนือ : ติดกับ ที่ว่างและชุมชนแนวราบ
• ทิศใต้ : ติดกับ ชุมชนแนวราบ และโกดังสินค้า
• ทิศตะวันออก : เป็นทางเข้าหลักโครงการ ติดกับ ถนนปทุมธานี-สายใน
• ทิศตะวันตก : ติดกับ ชุมชนแนวราบ

และนี่จะเป็นภาพของบรรยากาศถนนปทุมธานี-สายใน ที่อยู่ด้านหน้าโครงการนะครับ โดยจะเป็นถนนขนาด 2 เลน ที่รถสามารถขับสวนทางกันได้สบาย บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบเป็นส่วนตัว แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยวจนเกินไป เพราะจะมีรถขับผ่านไป-มาอยู่ตลอดเวลาเลยครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• The Tree ~ 5.2 km.
• Robinson ศรีสมาน ~ 5.5 km.
• Makro แจ้งวัฒนะ ~ 12.6 km.
• Index Livingmall หลักสี่ ~ 12.6 km.
• ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต ~ 17.3 km.
• ไทวัสดุ บางบัวทอง ~ 17.5 km.

โรงพยาบาล

• รพ.กรุงไทย ปทุม ~ 1.4 km.
• รพ.ปทุมธานี ~ 7.2 km.
• รพ.ปากเกร็ด 2 ~ 9 km.

โรงเรียน

• รร.สาธิตปทุม ~ 2.7 km.
• รร.ปทุมวิไล ~ 8.1 km.
• รร.สารสาสน์วิเทศ ราชพฤกษ์ ~ 9.6 km.

Highlights :

• มีพื้นที่สีเขียวและทะเลสาบขนาดใหญ่ รวมกันกว่า 6 ไร่อยู่ภายในโครงการ
• สวนสาธารณะมีบรรยากาศดีและสวยงาม มีหลายโซนให้ใช้งาน
• มีบ้านโซนริมน้ำให้เลือก ได้วิวทะเลสาบสวยๆของโครงการ
• ส่วนกลางจะเน้นการใช้งานพื้นที่กลางแจ้งเป็นหลัก เหมาะกับคนชอบสวนและบรรยากาศริมน้ำ

..โครงการ ศุภาลัย เลควิลล์ ศรีสมาน – ปทุมธานี เป็นบ้านเดี่ยวจัดสรรขนาด 320  ยูนิต บนพื้นที่กว่า 85-0-75.4 ไร่ ถือเป็นโครงการขนาดค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียวครับ โดยจุดเด่นที่เห็นจากผังได้ชัดเจนเลยก็คือ ขนาดของพื้นที่สีเขียวและผืนน้ำขนาดใหญ่รวมกันกว่า 6 ไร่ ซึ่งในที่นี้ผมขอเรียกเป็นทะเลสาบตามที่โครงการเรียกก็แล้วกันนะครับ

ทั้งนี้ก็เพราะพื้นที่ส่วนหนึ่งของโครงการ จะมีแนวสายไฟฟ้าแรงสูงตัดผ่าน ซึ่งจะเป็นพื้นที่ที่ไม่สามารถปลูกสิ่งก่อสร้างใดๆได้ ดังนั้นทางโครงการจึงได้ขุดบ่อน้ำเพิ่ม แล้วทำเป็นทะเลสาบขนาดกว่า 3 ไร่ ให้เราได้ชมบรรยากาศริมน้ำกันแบบนี้ได้นั่นเองครับ โดยจุดที่ผมมองว่าน่าสนใจก็จะมีอยู่ 3 โซนหลักๆดังนี้

1. โซนบ้านใกล้สวนและทะเลสาบ : เป็นโซนที่นอกจากเราจะสามารถมาเดินเล่นพักผ่อนในสวนได้สะดวกแล้ว เรายังสามารถชมวิวพื้นที่สีเขียวและทะเลสาบจากในบ้านได้อีกด้วย แน่นอนว่าอาจต้องแลกมากับ ‘ราคา’ ที่คาดว่าน่าจะสูงกว่าบ้านโซนอื่นๆครับ
2. โซนบ้านใกล้อาคาร Clubhouse : เป็นบ้านที่อยู่ติดถนน Main บริเวณด้านหน้าโครงการ ซึ่งนอกจากจะมาใช้งาน Facilities ต่างๆ เช่น สระว่ายน้ำ และฟิตเนสได้ง่ายแล้ว ยังมีถนนหน้าบ้านที่ใหญ่และสามารถเข้า-ออกได้สะดวกอีกด้วย
3. โซนบ้านที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูง : เป็นบ้านที่อยู่ภายในซอยแยกย่อยสั้นๆ ที่นอกจากจะมีเพื่อนร่วมซอยน้อยแล้ว ยังไม่มีบ้านฝั่งตรงข้ามให้เสียความเป็นส่วนตัวอีกด้วย ดังนั้นหากใครที่ชอบความเงียบสงบในการอยู่อาศัย ก็สามารถมองบ้านในตำแหน่งเหล่านี้ได้นะครับ

เรามาดูบรรยากาศของจริงกันเลยครับ เริ่มต้นที่บริเวณด้านหน้าโครงการ จะมีถนนทางเข้าที่เว้นระยะเข้าไปจากถนนสาธารณะพอสมควรเลย

โดยด้านหลังรั้วที่กั้นเอาไว้ทั้ง 2 ด้าน อนาคตจะทำเป็นพื้นที่พาณิชยกรรม และอาจมีร้านค้าหรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆมาเปิด เพื่อให้บริการแก่ลูกบ้านได้ด้วยนั่นเอง

ซุ้มประตูทางเข้าของโครงการจะมีการแบ่งทางเข้า-ออกกันชัดเจน รวมถึงอนาคตก็จะมีการแบ่งช่องจราจรของ Owner และ Visitor ออกจากกันเป็นสัดส่วนด้วยครับ

การเข้า-ออกจะใช้ระบบ VMS (ระบบอ่านป้ายทะเบียน) เพื่อความสะดวกและปลอดภัย รวมถึงจะมีกล้อง CCTV คอยจับภาพอยู่ตลอดเวลาด้วย ส่วนถ้าเป็น Visitor ก็จะต้องแลกบัตรกับพี่ยามก่อนตามปกติ

เข้ามาด้านในจะมีถนน Main ขนาดใหญ่ ซึ่งขวามือก็จะเป็นพื้นที่ขายในอนาคต ที่จะมีบ้านเกิดขึ้นมาในภายหลังครับ

ซ้ายมือจะมีพื้นที่จอดรถสำหรับคนที่จะมาใช้ส่วนกลาง ซึ่งอาคาร Clubhouse จะเป็นส่วนหนึ่งของซุ้มประตูทางเข้าก่อนหน้านี้ด้วยครับ โดยจะเป็นอาคาร 2 ชั้นสไตล์ Tropical Modern Series เช่นเดียวกับตัวบ้านพักอาศัย

ทางเดินเข้าสู่อาคารจะเชื่อมต่อไปยังฟังก์ชันต่างๆ และมีบันไดขึ้นสู่ชั้น 2 อยู่ตรงกลางอาคาร โดยฟังก์ชันแรกจะเป็นห้องกระจกที่อยู่ทางซ้ายมือนี้เลยครับ

ภายในจะมีโต๊ะเก้าอี้และโซฟาหลายชุด ให้เราสามารถมานั่งเล่นและใช้รับรองแขกได้ครับ จึงทำหน้าที่เป็นทั้ง Lobby และ Co-Working Space ไปด้วยในตัวนั่นเอง

ถัดเข้ามาเราจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นเล็กๆริมสระว่ายน้ำ และด้านข้างก็จะมี Shower ให้เราได้ล้างเนื้อล้างตัวก่อนลงสระอีกด้วย

โดยสระที่อยู่ติดกับทางเดินจะเป็นสระเด็ก ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองสามารถมานั่งดูแลอยู่ริมสระได้แบบใกล้ชิดเลยครับ

ส่วนสระว่ายน้ำหลักจะมีขนาดใหญ่ 8 x 20 เมตร สามารถว่ายออกกำลังกายจริงจังได้เลยครับ โดยผมแนะนำให้มาใช้งานตอนที่แดดร่มๆหน่อยจะดีนะ เพราะเป็นสระแบบกลางแจ้ง

แต่จุดเด่นของสระนี้จริงๆก็คือ จะเป็นสระแบบ ‘ระบบน้ำแร่’ ซึ่งจะไม่ทำร้ายผิวและสามารถมาว่ายบ่อยๆได้ทุกวันเลยครับ รวมถึงยังถูกโอบล้อมด้วยแนวต้นไม้ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวในการใช้งานที่ดีทีเดียว

และอีกด้านหนึ่งของสระก็จะเป็นพื้นที่นั่งเล่นบนโซนน้ำตื้น โดยจะมี Day Bed ให้นั่งพักผ่อนกันหลายตัวเลย

บริเวณตรงกลางอาคาร Clubhouse จะเป็นบันไดทางขึ้นชั้น 2 และจะมีห้องน้ำให้ใช้งานอยู่ด้านล่างใกล้ๆสระว่ายน้ำแบบนี้เลยครับ (แต่จะเป็นห้องน้ำผู้หญิงนะ)

ภายในมีขนาดใหญ่และกว้างขวางมาก ซึ่งนอกจากโถสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำแล้ว ยังมีตู้ล็อคเกอร์ให้ใช้งานเก็บสิ่งของได้อีกด้วย แต่ที่ทำให้ดูหรูหราน่าใช้งานก็คือ โถสุขภัณฑ์จะเป็นแบบอัตโนมัติทั้งหมดเลยนั่นเองครับ

และหากเราเดินขึ้นบันไดมาชั้นบนก็จะเจอกับห้องน้ำผู้ชายแบบนี้ ซึ่งความสะดวกในการใช้งานก็จะแตกต่างกันนิดหน่อยคือ ของผู้หญิงจะสะดวกสำหรับคนที่มาว่ายน้ำชั้นล่าง ส่วนของผู้ชายจะสะดวกกับคนที่มาใช้งานฟิตเนสชั้นบนนั่นเอง

อีกด้านหนึ่งนอกจากจะมีห้องฟิตเนสแล้ว ยังมีพื้นที่นั่งเล่นที่จัดเอาไว้ด้านหน้า ให้เราสามารถมานั่งพักผ่อนตากลมเย็นๆหลังออกกำลังกายกันได้ด้วย

ภายในห้องฟิตเนสจะมีเครื่องออกกำลังกายให้ใช้งานครบ หลากหลายทีเดียว กระจายการใช้งานได้ ที่ชอบก็คือ ห้องนี้จะได้ฝ้าเพดานที่สูงและมีกระจกล้อมรอบ ทำให้มีความสว่างโปร่งโล่งมากๆเลยครับ

โดยถ้าเป็นโซน Cardio หรือลู่วิ่ง จะอยู่ติดกับช่องหน้าต่างที่มองออกไปชมวิวสระว่ายน้ำได้แบบนี้เลยครับ ทำให้เราสามารถออกกำลังกายไปได้แบบเพลินๆเลย

ถัดเข้ามาบริเวณตรงกลางของโครงการกันบ้าง จะเป็นพื้นที่สวนสีเขียวขนาดใหญ่กว่า 2 ไร่* โดยจะมีการปลูกต้นไม้และทำทางเดินเอาไว้ให้มาใช้งานกันได้ ซึ่งจะแบ่งออกเป็นหลายๆโซน

เริ่มกันที่โซนแรกทางด้านหน้าสุดจะเป็น ‘มุมน้ำตก’ ซึ่งจะอยู่ติดกับถนน Main เลยครับ โดยนอกจากจะมีความสวยงามที่โดดเด่นสะดุดตาแล้ว เรายังจะได้ยินเสียงของน้ำตกที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศความผ่อนคลายได้ดีอีกด้วย

และแน่นอนว่าบ้านที่อยู่ใกล้ๆนี้ ก็จะได้ยินเสียงน้ำตกไปด้วยเพลินๆ (มีการเปิด-ปิดเป็นเวลา) โดยถือเป็นครั้งแรกเลยนะครับที่ผมได้มีโอกาสมาเจอส่วนกลางแบบนี้ ในโครงการของศุภาลัย ซึ่งก็ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว

ถัดเข้ามาบริเวณตรงกลางจะเป็น Welcome Court ที่จะเป็นทางแยกแบ่งออกไปเชื่อมต่อกับจุดอื่นๆได้ครับ โดยผมจะพาไปดูศาลาที่อยู่ด้านหน้ากันก่อนนะ

ศาลานี้จะเป็นพื้นที่สำหรับขึ้นมานั่งเล่นพักผ่อน และรับลมเย็นๆได้ครับ โดยจะตั้งอยู่บนเนินที่ทำให้เราสามารถมองพื้นที่สีเขียวได้เกือบทั่วทั้งสวนเลยทีเดียว

อีกด้านหนึ่งจะเป็นทางเดินที่เชื่อมต่อไปยังฟังก์ชันด้านหลังของสวน ซึ่งนอกจากเราจะสามารถมาเดินเล่นพักผ่อนได้แล้ว ยังสามารถวิ่งออกกำลังกายเป็น Jogging Track ได้อีกด้วย

สำหรับพื้นที่ส่วนแรกจะเป็นลานอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ (Multi-Purpose Oval Palm Court) ซึ่งอนาคตเราสามารถใช้เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมตามวันเทศกาลต่างๆของโครงการได้นะ หรือเด็กๆจะมาเล่นสเก็ตกันตรงนี้ก็ได้ด้วย

รวมถึงอีกด้านหนึ่งจะเป็นซุ้มศาลาให้นั่งเล่นกันได้ ซึ่งพอผมเห็นเป็นโครงเหล็กแบบนี้แล้ว ก็เลยมีไอเดียคิดว่า ถ้าเราลองปลูกเป็นไม้เลื้อยเพิ่มด้านข้าง ก็จะทำให้กลายเป็นซุ้มต้นไม้ที่สวยงามในอนาคตได้นะครับ

ถัดมาจะเป็นโซนของ Playground ที่นอกจากจะมีเครื่องเล่นสำหรับน้องๆแล้ว ยังมีชิงช้าขนาดใหญ่อีก 2 ตัว ให้ผู้ใหญ่อย่างเรามานั่งเล่นชิลๆกันได้อีกด้วย

สำหรับตัวเครื่องเล่นจะเป็นเหมือน Tower ที่มีบันไดวนขึ้นไปด้านบน พร้อมกับมีสไลเดอร์ให้น้องๆได้เล่นสนุกกันได้อีกด้วย โดยพื้นด้านล่างจะปูด้วยยางที่ช่วยลดอาการบาดเจ็บของน้องๆได้ด้วยนั่นเองครับ

โดยเมื่อเราขึ้นมาที่ชั้นบนของ Tower ก็จะสามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียวของโครงการได้ทั่วเลยครับ บรรยากาศถือว่าดีทีเดียว

จริงๆแล้วถัดจากพื้นที่ Playground จะเป็นโซนของทะเลสาบ ที่ถือเป็นอีกหนึ่ง Signature ของโครงการเลยนะครับ แต่ในปัจจุบันวันที่ผมเข้ามาถ่ายรีวิว 7/11/2566 เค้ากำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ก็เลยนำภาพบรรยากาศจำลองมาให้ชมกันไปก่อน

โดยลูกบ้านสามารถมาเดินเล่นพักผ่อนในบรรยากาศริมน้ำแบบนี้ได้ หรือถ้าเป็นวันลอยกระทงเราก็สามารถลอยกันแบบส่วนตัวในโครงการกันได้เลย รวมถึงบ้านที่อยู่ติดริมน้ำก็จะมองเห็นวิวสวยๆแบบนี้ได้ตลอดเวลาอีกด้วยครับ

อีกหนึ่งข้อดีของโครงการที่มีผืนน้ำขนาดใหญ่ภายในแบบนี้ก็คือ จะทำให้มีลมเย็นๆพัดเข้าสู่โครงการได้ง่ายกว่าปกติ เนื่องจากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิของน้ำกับอากาศรอบๆ ซึ่งจะพัดเอาความเย็นและความชื้นมาสู่ตัวบ้านได้นั่นเองครับ

ส่วนภาพนี้จะเป็นวิวจากบ้านที่อยู่ติดกับสวนในตอนแรก ซึ่งจะเป็นแปลงพิเศษที่เราสามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียวของโครงการทั้งหมดได้แบบนี้เลย (หลังอื่นที่อยู่รอบๆ จะหันด้านข้างเข้าหาสวนจากแปลงมุมเท่านั้น) หากใครสนใจบ้านแปลงนี้ก็ลองสอบถามกับโครงการดูได้นะ เพราะยังได้ข่าวว่าตอนนี้ยังมีโอกาสให้จับจองกันอยู่ครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse สไตล์ Tropical Modern Series
• Swimming Pool ระบบน้ำแร่ ขนาด 8 x 20 เมตร
• Kid’s Pool ขนาด 6 x 2.9 เมตร
• Fitness
• Co-Working Space
• พื้นที่สวนสาธารณะในโครงการ 1 จุด ขนาดกว่า 2 ไร่* ประกอบด้วย Waterfall, จุดพักผ่อน Welcome Court, ลานอเนกประสงค์ Multi-Purpose Oval Palm Court, Playground และสไลด์เดอร์
• ผืนน้ำขนาดใหญ่ภายในโครงการ (Lake) ขนาดประมาณ 3 ไร่
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการรวม 58 จุด
• รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร
• ถนนหลักกว้าง 16 ม. และถนนภายในกว้าง 8.3 – 12 ม.
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก + เลื่อนไฟฟ้า
• ระบบเข้า – ออกโครงการแบบ VMS (ระบบอ่านป้ายทะเบียน)
• สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor + Digital Door Lock + IP Camera ทุกหลัง
• ติดตั้ง Solar Rooftop และรองรับจุดติดตั้ง EV Charger ทุกหลัง
• ติดตั้งระบบ Home Automation ทุกหลัง (Universal Remote Control + Cube Motion Sensor + Cube Clicker + Indoor/Outdoor Security Camera + Magnetic Door/Window Sensor + Smart Switch)
• หมายเหตุ : สำหรับแบบบ้าน ศุภฤทธิ์, ศุภฤทัย, ศุภกฤต จะไม่มีอุปกรณ์ Motion Sensor และ Digital Door Lock

Highlights :

• มีแบบบ้านให้เลือกเยอะถึง 7 แบบ ตอบโจทย์คนที่มีความต้องการที่แตกต่างกันได้
• เป็นบ้านไซส์ใหญ่ พื้นที่ใช้สอยเยอะ ฟังก์ชันรองรับครอบครัวขนาดเล็ก-ใหญ่ได้
• ทุกแบบบ้านมีห้องนอนชั้นล่าง และพื้นที่อเนกประสงค์ สามารถจัดฟังก์ชันตามที่ต้องการได้
• แบบบ้านหลังใหญ่ 4 Type จะมีการอัพเกรดวัสดุให้ดีมากขึ้น มีความสวยงามและใช้งานได้ดี

..แบบบ้านของโครงการ ศุภาลัย เลควิลล์ ศรีสมาน – ปทุมธานี มีให้เราเลือกเยอะกันถึง 7 แบบ โดยจะเป็นบ้านไซส์ใหญ่พื้นที่ใช้สอยเยอะเป็นพิเศษกว่าศุภาลัยที่อื่นๆ ตอบโจทย์คนที่ชอบบ้านกว้างๆ และมีฟังก์ชันที่สามารถรองรับครอบครัวขนาดเล็ก-ใหญ่ได้สบายๆ นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่มีออกแบบบ้านเป็นสไตล์ใหม่ Tropical Modern Series อีกด้วยครับ โดยจะประกอบด้วย

• ศุภฤทธิ์ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 59.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 178 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่อเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท
• ศุภฤทัย บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 63.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 208 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่อเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 7.29 ล้านบาท
• ศุภกฤต บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 71.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 218 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่อเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 7.99 ล้านบาท
• ศุภจิตรา บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 71.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 261 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่อเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 8.89 ล้านบาท
• ศุภกานต์ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 90.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 295ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่อเนกประสงค์ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 10.89 ล้านบาท
• ศุภราช บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 94.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 330 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่อเนกประสงค์ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 11.89 ล้านบาท
• ศุภมัณฑิรา บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 119.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 417 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่อเนกประสงค์ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 16.09 ล้านบาท

สำหรับโครงสร้างบ้านของศุภาลัยทุกแห่ง มักจะใช้เป็นระบบ Conventional หรือการก่ออิฐมวลเบาเป็นมาตรฐาน ซึ่งจะมีความแข็งแรงและมีความยืดหยุ่น สามารถทุบ/ต่อเติมได้ง่าย แต่ในส่วนของวัสดุภายในจะมีความแตกต่างกันระหว่างกลุ่มบ้านไซส์เล็กกับไซส์ใหญ่ คือ

แบบบ้านไซส์เล็ก (ศุภฤทธิ์ / ศุภฤทัย / ศุภกฤต) :

• พื้นที่จอดรถ : โครงสร้างแบบ Slab on Ground
• พื้นห้องชั้น 2 : ไม้ลามิเนต
• วัสดุปิดผิวบันได : ไม้ยางพารา
• สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ : American Standard / ฉากกั้นอาบน้ำกรอบอลูมิเนียม / อ่างอาบน้ำแบบฝังเคาน์เตอร์
• ห้องน้ำของห้องนอนชั้นล่าง : มีการลดระดับพื้นเป็นสัดส่วนปกติ
• ระบบรักษาความปลอดภัย : กล้อง CCTV + IP Camera + Magnetic & Shock Sensor

แบบบ้านไซส์ใหญ่ (ศุภจิตรา / ศุภกานต์ / ศุภราช / ศุภมัณฑิรา) :

• พื้นที่จอดรถ : โครงสร้างแบบ Slab on Beam
• พื้นห้องชั้น 2 : พื้นไม้ Engineered Wood
• วัสดุปิดผิวบันได : ไม้โอ๊ค
• สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ : COTTO / ฉากกั้นอาบน้ำกระจกบานเปลือย / อ่างอาบน้ำแบบลอยตัว
• ห้องน้ำของห้องนอนชั้นล่าง : ให้เป็นรางน้ำ ไม่มีการลดระดับพื้น (Universal Design) เฉพาะในบ้าน 2 แบบใหญ่สุด (ศุภราช / ศุภมัณฑิรา)
• ระบบรักษาความปลอดภัย : กล้อง CCTV + IP Camera + Magnetic & Shock Sensor + Motion Sensor และ Digital Door Lock

• ศุภกานต์ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 90.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 295ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่อเนกประสงค์ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ

สำหรับแบบบ้านหลังนี้จะเป็นไซส์กลาง-ใหญ่ของโครงการ ซึ่งจะเป็นบ้านหน้ากว้างที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะและกว้างขวางครับ สำหรับแปลนชั้น 1 เราจะได้ Common Area ขนาดใหญ่ และมีโถงบันไดกลางบ้านที่จะช่วยแบ่งโซนการใช้งานให้เป็นสัดส่วน โดยที่อีกด้านหนึ่งจะเป็นฟังก์ชันใช้งานของครัวและห้องน้ำ รวมถึงยังแยกโซนแม่บ้านออกไปอยู่ด้านนอกไม่รบกวนเจ้าของบ้านด้วย ส่วนถ้าใครมีผู้สูงอายุก็เหมาะเลยครับ เพราะจะมีห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัวให้ใช้งาน หรือเราอาจปรับเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆก็ได้ตามต้องการ

แปลนชั้น 2 เราจะมีพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่อยู่ตรงโถงบันได ซึ่งสามารถกั้นผนังทำเป็นห้องส่วนตัวเพิ่มอีกห้องหนึ่งได้สบายๆเลยครับ ส่วนห้องนอนทุกห้องจะมีห้องน้ำเป็นส่วนตัวทั้งหมดเลย พิเศษหน่อยสำหรับ Master Bedroom ที่จะมีอ่างอาบน้ำให้ใช้งาน และยังมีระเบียงแบบ Double Balcony ที่ต่างจากแบบบ้านอื่นๆอีกด้วย ทำให้ภาพรวมเป็นบ้านที่เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่ อยู่ด้วยกัน 4 – 5 คนได้สบายๆ รวมถึงรองรับแม่บ้านและผู้สูงอายุได้อีกครับ

มาเริ่มกันที่ประตูรั้วหน้าบ้านจะเป็นเหล็กรางเลื่อนแบบตอนเดียว มีความแข็งแรงทนทาน แต่เวลาใช้งานอาจมีน้ำหนักที่ค่อนข้างมากหน่อย

ซึ่งทางโครงการเค้าก็เตรียมระบบประตูเลื่อนไฟฟ้า มาให้เราได้ใช้งานกันสะดวกมาแบบนี้เลยครับ (มอเตอร์ของจริงจะนำมาติดให้หลังจากที่ซื้อขายแล้ว)

ทางด้านขวามือจะเป็นถังขยะและตู้จดหมายแบบฝังผนัง ซึ่งจะสามารถเปิดใช้งานได้สะดวกทั้ง 2 ด้าน และดูเรียบร้อยสวยงามแบบนี้ครับ

แต่ความพิเศษจะอยู่ตรงที่ตู้จดหมายด้านบน ที่ได้มีการออกแบบช่องให้มีขนาดใหญ่มากขึ้น เพื่อรองรับกล่องวัสดุขนาดเล็กได้ด้วยนั่นเอง ซึ่งก็ได้มีการนำมาใช้ที่นี่เป็นที่แรกของศุภาลัยเลยครับ

ถัดมาจะเป็นสวนที่อยู่รอบๆบ้าน ซึ่งจะมีการปูหญ้าและปลูกต้นไม้มาให้เป็นมาตรฐานทุกหลัง แต่จำนวนต้นไม้และพันธุ์พืชจะมีความแตกต่างกันไปตามขนาดของแปลง และช่วงเวลาที่หาต้นไม้มาลงได้นะครับ (สอบถามโครงการอีกครั้ง)

ที่จอดรถจะกว้าง 7.5 m. สามารถจอดรถในร่มได้ 3 คันพอดีๆ โดยสำหรับแบบบ้านไซส์ใหญ่แบบนี้จะได้เป็นโครงสร้าง Slab on Beam ที่จะตัด Joint ตรงแนวเสาของบ้านพอดี ทำให้มีความแข็งแรงและพื้นก็ไม่ทรุดตัวง่ายๆ

อีกทั้งตรงเสาด้านข้างก็ยังมีการทำเป็นช่องเก็บของเล็กๆ ให้เราได้ใช้งานเก็บพวกอุปกรณ์ล้างรถหรือทำสวนได้สะดวกอีกด้วย (ของจริงจะมีการติดตั้ง Junction EV Charger + CCTV ให้อีก 1 จุดในภายหลังจากที่ซื้อขายกันแล้วนะครับ)

หนึ่งจุดที่ผมสังเกตรายละเอียดการออกแบบเล็กๆได้ก็คือ เค้าจะมีการเซาะร่องเล็กๆตรงขอบคานด้านบน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำฝนไหลย้อนเข้าไปด้านในบ้านอีกด้วยครับ

ส่วนบริเวณประตูเล็กที่เข้าจากพื้นที่จอดรถจะมีการติดตั้ง Digital Door Lock มาให้เป็นมาตรฐานด้วย จึงทำให้มีความสะดวกและปลอดภัยในการใช้งานมากขึ้น

สำหรับทางเข้าบ้านหลักจะอยู่บริเวณด้านหน้าติดกับสวน ซึ่งจะเป็นประตูบานเปิด 2 ด้าน ทำให้สามารถเปิดออกได้กว้างและขนของชิ้นใหญ่ๆได้ง่าย รวมถึงยังมีพื้นที่ให้เรานั่งเล่นหรือถอดใส่รองเท้าหน้าบ้านได้สะดวกอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีการติดตั้ง Magnetic & Shock Sensor ที่วงกบประตูหน้าต่างของบ้านทุกจุดเพื่อความปลอดภัย ซึ่งจะเชื่อมต่อกับระบบ Home Automation ที่เราสามารถดูได้จากสมาร์ทโฟนได้ทุกที่ทุกเวลาเลยนั่นเองครับ

เมื่อเข้ามาภายในเราจะเจอกับ Common Area ขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อตั้งแต่พื้นที่หน้าบ้านไปจนถึงหลังบ้านเลยครับ โดยฝ้าเพดานจะสูง 2.8 m. และปูพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ 80 x 80 cm. เป็นมาตรฐาน

สำหรับพื้นที่ส่วนแรกจะเป็น Living Area ที่เราสามารถใช้นั่งเล่นและรับแขกได้ ขนาดพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง สามารถใช้ชุดโซฟาตัวใหญ่ได้สบายๆ รวมถึงยังมีระยะทีวีกว้าง 4 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 50 – 60 นิ้วได้เลย

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหาร ซึ่งก็มีขนาดใหญ่จนสามารถใช้โต๊ะขนาด 6 – 8 ที่นั่งได้สบายๆ อีกทั้งยังอยู่ติดกับช่องแสงทั้ง 2 ด้าน จึงมีความสว่างโปร่งโล่ง และมองเห็นพื้นที่สวนข้างบ้านได้ตลอดเวลาเลย

นอกจากนี้เรายังสามารถเปิดประตูกระจกบานเลื่อน เพื่อออกมาใช้งานสวนข้างบ้านได้อีกด้วย โดยของจริงก็จะมีการเทพื้นไว้ให้แบบนี้ และเราก็สามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนได้ตามต้องการ

อีกด้านหนึ่งของบ้านจะมีโถงทางเดินแยกออกไป จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัวจากโซนรับแขกด้านหน้า และคนในบ้านก็ยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติไม่รบกวนกัน

เช่น คนที่อยู่ชั้นบนสามารถเดินลงมาเข้าห้องครัว หรือเวลากลับเข้าบ้านก็สามารถเข้าประตูเล็ก แล้วตรงขึ้นชั้นบนได้ทันที โดยที่คนจาก Living Area จะมองไม่เห็นเลยนั่นเองครับ

ซ้ายมือตรงข้ามกับบันไดจะเป็นห้องนอนชั้นล่าง ซึ่งภายในจะมีขนาด 2.6 x 4.25 m. สามารถทำเป็นห้องนอนแขกหรือห้องนอนผู้สูงอายุได้สบายๆ

โดยจะมีช่องแสงขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับสวนหน้าบ้านด้วย หรือถ้าใครที่ไม่ได้อยากทำเป็นห้องนอน ก็สามารถทำเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆได้ตามต้องการครับ

ส่วนบริเวณด้านหน้าห้องก็จะมีพื้นที่แต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้า และมีห้องน้ำในตัวให้ใช้งานด้วย

ภายในห้องน้ำจะมีการแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วน และได้สุขภัณฑ์จาก COTTO เป็นมาตรฐานแบบบ้านตัวอย่างเลยครับ โดยพื้นที่ส่วนแห้งจะกว้าง 1.5 x 1.6 m. สามารถใช้งานได้สะดวก

ส่วนพื้นที่ยืนอาบน้ำจะกว้าง 1.4 x 0.8 m. สามารถใช้งานได้แบบพอดีๆ กั้นเป็นสัดส่วนด้วยกระจกนิรภัยแบบบานเปลือยสวยงาม

และด้านในก็จะมี Hand Shower ให้ใช้งาน พร้อมกับ Junction ให้ติดเครื่องทำน้ำอุ่นเพิ่มได้ด้วยครับ

ถัดมาจะตรงโถงทางเดินกลางบ้าน เราจะเจอกับประตูที่เข้ามาจากพื้นที่จอดรถในตอนแรก ซึ่งจะมีการทำช่องแสงเพื่อให้พื้นที่ส่วนนี้ไม่มืดทึบจนเกินไป ส่วนฟังก์ชันที่เหลือจะเป็นห้องน้ำและห้องครัวตามลำดับ

สำหรับห้องน้ำจะเป็นแบบ Powder Room ที่เอาไว้ให้งานสำหรับ Common Area และแขก โดยจะมีขนาดกว้าง 1.5 x 2.2 m. มาพร้อมกับโถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติจาก COTTO ให้ใช้งานสะดวกแบบนี้เลย

ติดกันจะเป็นห้องครัวขนาด 3.1 x 3.5 m. ซึ่งของจริงจะเป็นห้องเปล่าๆให้เราได้ Built-in เพิ่มเติมเองนะครับ แต่ก็จะมีการเตรียมพวกท่องานระบบต่างๆเอาไว้ให้แล้วแบบนี้เลย

เปิดประตูออกมาด้านหลังบ้านเราจะเจอกับลานซักล้าง ที่เค้าจะมีการเทพื้นแบบ Slab on Ground มาให้แบบนี้เลยครับ

รวมถึงประตูด้านข้างก็จะเป็นห้องของแม่บ้าน ซึ่งจะแยกโซนพื้นที่ทำงานออกมาจากเจ้าของบ้าน ทำให้ไม่รบกวนหรือเสียความเป็นส่วนตัวกันเลยนั่นเอง

กลับมาที่โถงบันไดอีกครั้ง ซึ่งบริเวณพื้นที่ชั้นล่างจะเห็นว่ามีขนาดค่อนข้างใหญ่ ซึ่งเราสามารถจัดเป็นมุมใช้งานจริงจังได้นะครับ เช่น มุมทำงานอดิเรกเล็กๆ มุมตู้เก็บของ หรือมุมไว้โชว์ของสะสมสวยๆก็ได้

นอกจากนี้ยังมีห้องเก็บของขนาดใหญ่ใต้บันไดให้ใช้งานด้วย ซึ่งเราสามารถเดินเข้าไปแบบไม่ต้องก้มได้เลย เอาไว้เก็บพวกของชิ้นใหญ่ๆที่เราไม่ได้ใช้งานครับ

หรือถ้าเป็นไอเดียของคนรักสัตว์ในยุคนี้ เค้าก็จะมีการทำเป็นห้องส่วนตัวของน้องหมาน้องแมวได้ด้วยนะ

บันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก มีความแข็งแรง และไม่มีเสียงดังรบกวน ปิดผิวด้วยไม้โอ๊ค และมีราวจับให้ใช้งานเพื่อความปลอดภัยตลอดเส้นทาง

แต่จุดเด่นของบันไดนี้ก็คือ ความกว้างที่มากกว่าปกติอยู่ที่ 1.25 m. ทำให้สามารถเดินสวนทางขึ้น-ลงได้สบายๆ รวมถึงยังมีช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้บริเวณกลางบ้านมีความสว่างโปร่งโล่งดีทีเดียว

ขึ้นมาชั้นบนจะเจอกับพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ซึ่งเราสามารถกั้นผนังเพื่อทำให้มีความเป็นสัดส่วนมากขึ้นได้

โดยภายในจะมีขนาด 4 x 4.3 m. เหมาะที่จะทำเป็นห้องทำงาน ห้องพระ ห้องดูหนังเล่นเกมส์ หรือ Family Area แบบนี้ก็ได้

ถัดมาจะเป็น Master Bedroom ซึ่งภายในมีขนาดกว้างขวางมาก สามารถแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนได้ตามต้องการ

ซึ่งจุดเด่นของห้องนี้จริงๆก็คือ Double Balcony หรือระเบียงแบบ 2 ชั้น ที่ด้านนอกจะมีประตูกระจกอีกชั้นหนึ่งคอยกันลมและฝน ทำให้เราสามารถเปิดประตูเชื่อมต่อกับภายในห้อง ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นได้นั่นเอง

ระเบียงภายนอกมีขนาด 4 x 1.9 m. สามารถทำเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนแบบนี้ ซึ่งออกมาใช้งานได้ตลอดเวลาเลยครับ โดยถ้าวันไหนอากาศดีๆก็ยังสามารถเปิดหน้าต่างรับลมเย็นๆได้ด้วยนะ

อีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็นพื้นที่ทำ Walk-in Closet บริเวณหน้าห้องน้ำได้ ซึ่งก็สามารถใช้งานต่อเนื่องกันได้ดีทีเดียว

ส่วนภายในห้องน้ำจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ และกั้นฟังก์ชันเป็นสัดส่วน มาพร้อมกับสุขภัณฑ์จาก COTTO และยังได้โถแบบอัตโนมัตเหมือน Powder Room ชั้นล่างอีกด้วย

พื้นที่ส่วนแห้งกว้าง 2 x 1.8 m. และพื้นที่อาบน้ำกว้าง 1.8 x 1.8 m. กั้นด้วยผนังกระจกบานเปลือยสวยงาม โดยจะมีฟังก์ชันให้เลือกระหว่างอ่างอาบน้ำ / Hand Shower และ Rain Shower เหมือนบ้านตัวอย่างเลยครับ

อีกด้านหนึ่งของบ้านจะมีห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ที่อยู่แยกออกไปเพื่อความเป็นส่วนตัว

เริ่มกันที่ห้องนอนที่อยู่โซนหน้าบ้านจะมีขนาด 3.4 x 5.2 m. สามารถแบ่งพื้นที่นอกจากวางเตียงนอนแล้ว ยังเหลือพอให้ทำเป็นมุมนั่งเล่นหรือมุมโต๊ะทำงานได้สบายๆอีกด้วย

ส่วนบริเวณด้านหน้าห้องก็จะเป็นพื้นที่สำหรับแต่งตัว และยังมีห้องน้ำส่วนตัวให้ใช้งานด้วยครับ

ภายในห้องน้ำมีการแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วน และได้สุขภัณฑ์จาก COTTO เหมือนห้องอื่นๆเลยครับ เพียงแต่ว่าโถสุภัณฑ์จะไม่ใช่แบบอัตโนมัติเท่านั้น

พื้นที่ส่วนแห้งกว้าง 1.45 x 1.8 m. และพื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 1.45 x 0.9 m. สามารถใช้งานได้พอดีๆ แถมยังมีช่องหน้าต่างให้เปิดระบายอากาศได้เต็มที่อีกด้วย

สุดท้ายก็คือห้องนอนเล็กที่อยู่โซนด้านหลังบ้าน ภายในมีขนาด 3.6 x 5.2 m. สามารถทำเป็นห้องนอนลูกคนที่ 2 ได้สบายๆ

หรือถ้าใครมีลูกคนเดียวจะเปลี่ยนเป็นห้องอื่นๆก็ได้ตามต้องการ โดยที่อีกด้านก็จะมีห้องน้ำให้ใช้งานในตัวด้วยครับ

ซึ่งภายในห้องน้ำก็จะมีขนาดและฟังก์ชัน ที่เหมือนกับห้องนอนก่อนหน้านี้เลย สามารถใช้งานได้ตามปกติ

สำหรับภาพของบ้านเปล่ามาตรฐานจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

• ศุภฤทัย บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 63.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 208 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่อเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ

สำหรับบ้านนี้จะเป็นหลังที่เกือบไซส์เล็กสุดของโครงการ เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง ที่อยู่ด้วยกัน 3 – 4 คนกำลังดี โดยถึงแม้จะเป็นบ้านหลังเล็ก แต่ก็มียังห้องนอนชั้นล่างให้ใช้งานด้วย ซึ่งเหมาะกับคนที่อาจมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย หรือเราอาจปรับเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆก็ได้ตามต้องการ เพียงแต่อาจต้องแชร์การใช้งานห้องน้ำร่วมกับภายนอกนะครับ

แปลนชั้น 2 เรายังคงได้พื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ที่สามารถกั้นผนังทำเป็นห้องเพิ่มเติม หรือจะทุบผนังเพื่อขยายพื้นที่ห้องนอนเล็กข้างๆ ให้กลายเป็นห้องนอนใหญ่อีกห้องไปเลยก็ได้ รวมถึงห้อง Master Bedroom ก็ยังคงมีห้องน้ำพร้อมอ่างและระเบียงส่วนตัวให้ใช้งานเช่นเดิม แต่สำหรับห้องนอนเล็กทั้ง 2 ที่อยู่โซนหลังบ้าน อาจต้องมาแชร์ห้องน้ำร่วมกันที่ด้านนอกนะครับ

มาเริ่มกันที่พื้นที่จอดรถกว้าง 5.15 m. สามารถจอดรถ 2 คันในร่มได้แบบพอดีๆ และอย่างที่บอกไปตอนแรกแล้วว่า วัสดุและโครงสร้างของบ้านหลังเล็ก กับบ้านหลังใหญ่จะมีความแตกต่างกัน

โดยบ้านหลังนี้พื้นก็จะเป็น Slab on Ground ตัด Joint แยกโครงสร้างออกมาจากตัวบ้านทั้งผืนเลย ทำให้เวลาเกิดการทรุดตัวก็จะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างหลักในอนาคต ส่วนอย่างอื่นพวกกล้อง CCTV และ Junction EV Charger ก็จะได้เหมือนเดิมตามปกติ

ทางเข้าด้านหน้าของบ้านจะมีเฉลียง ที่สามารถเดินเชื่อมต่อมาจากพื้นที่จอดรถได้สะดวก รวมถึงยังทำม้านั่งเล็กๆให้เราพักผ่อนหรือถอด-ใส่รองเท้าได้สะดวกด้วย

ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นกระจกบานเลื่อนแบบปกติ ซึ่งก็มีขนาดใหญ่พอสมควร มาพร้อมกับ Magnetic & Shock Sensor ทุกจุดของตัวบ้านเพื่อความปลอดภัยเช่นเดิม

เมื่อเข้ามาภายในเราจะเจอกับ Common Area ขนาดใหญ่ ซึ่งคราวนี้จะเน้นเป็นช่องแสงที่มาจากทางข้างบ้านแทน (ไม่ได้เชื่อมต่อไปจนถึงหลังบ้านเหมือนหลังใหญ่ๆ)

โดยพื้นที่ส่วนแรกจะเป็น Living Area มีระยะดูทีวีกว้าง 3.7 m. สามารถใช้ทีวีจอใหญ่ๆ 50 – 60 นิ้วได้สบายๆ อีกทั้งยังสามารถวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ได้ด้วย

ถัดเข้ามาตรงกลางบ้านจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารได้ขนาด 6 – 8 ที่นั่ง โดยจะมีพื้นที่รอบๆเหลืออีกเยอะ สามารถหาพวกตู้หรือชั้นวางของอื่นๆ เพื่อใช้เก็บของได้เพียบเลยครับ

ติดกันจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ที่นอกจากจะช่วยทำให้ภายในบ้านสว่างโปร่งโล่ง และมองออกไปชมวิวสวนข้างบ้านได้แล้ว

ยังสามารถเปิดออกไปยังระเบียง เพื่อใช้งานเฉลียงข้างบ้านเล็กๆได้อีกด้วย เหมาะที่จะทำเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนมากๆครับ

อีกด้านหนึ่งจะมีโถงกลางบ้านที่เชื่อมต่อไปยังฟังก์ชันต่างๆ ประกอบด้วย ห้องนอนชั้นล่าง ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องเก็บของ และบันได

เริ่มที่ห้องนอนชั้นล่างที่ภายในมีขนาด 3.7 x 3.8 m. ซึ่งกว้างมากพอที่จะวางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุต แล้วยังมีพื้นที่เหลือรอบเตียงให้ใช้งานได้สบายๆ

โดยเราสามารถทำเป็นห้องนอนของผู้สูงอายุ ที่อาจเดินขึ้นชั้นบนไม่ไหว หรือจะทำเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆก็ได้ตามต้องการ

ติดกันจะเป็นห้องน้ำที่ใช้งานร่วมกันทั้งโซน Common Area และห้องนอนชั้นล่าง จึงได้มีโซนอาบน้ำเผื่อเอาไว้แยกเป็นสัดส่วนชัดเจน

โดยสุขภัณฑ์จะเปลี่ยนไปใช้ของยี่ห้อ American Standard และได้ฉากกั้นกระจกมีกรอบอลูมิเนียมต่างจากบ้านหลังใหญ่ที่จะเป็นบานเปลือยครับ

ซึ่งพื้นที่ส่วนแห้งกว้าง 1.5 x 1.7 m. และพื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 1.5 x 0.9 m. ใช้งานได้สะดวก มาพร้อมกับม้านั่งให้ผู้สูงอายุได้ใช้งานสบายๆด้วย

ห้องครัวของจริงก็จะเป็นห้องโล่งๆเช่นเดียวกับบ้านหลังใหญ่ ขนาดกว้าง 3 x 3.85 m. สามารถใช้งานได้สบายๆ

และภายนอกก็จะมีการเทพื้นทำลานซักล้างแบบ Slab on Ground มาให้ใช้งานเหมือนเดิมครับ โดยที่บ้านหลังเล็กจะตัดในส่วนของห้องแม่บ้านออกไปนั่นเอง

บริเวณกลางบ้านตรงหน้าโถงบันไดจะมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถจัดเป็นมุมพื้นที่ใช้งานได้จริงจัง รวมถึงห้องเก็บของใต้บันไดก็มีขนาดใหญ่ สามารถเดินเข้าไปแบบไม่ต้องก้ม และเก็บของชิ้นใหญ่ๆได้สบายครับ

บันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กที่แข็งแรงเช่นเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือความกว้างที่กลับมาเป็นปกติอยู่ที่ 1 m. ปิดผิวด้วยไม้ยางพารา และมีราวกันตกแบบทึบให้ใช้งานตลอดทาง

ขึ้นมาบนชั้น 2 เราจะเจอกับพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ซึ่งบ้านตัวอย่างก็ได้ลองกั้นผนังกระจกมาให้ดูเป็นไอเดีย ทำให้เป็นสัดส่วนและน่าใช้งานดีครับ

ภายในมีขนาดกว้าง 3.55 x 3.8 m. สามารถทำเป็นพื้นที่ทำงานจริงจังได้เลย หรือจะเป็นห้องอื่นๆก็ได้ตามต้องการ

ติดกันจะเป็นห้อง Master Bedroom ภายในมีขนาด 3.9 x 6.3 m. และมีพื้นที่รอบเตียงเหลือให้ใช้งานได้สะดวก

ระเบียงของห้องนี้จะใช้ทางเข้า-ออกเป็นประตูกระจกบานเปิด จึงทำให้ห้องนอนมีความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อนมากขึ้น ภายนอกกว้าง 5 x 0.75 m. สามารถออกมายืนชมวิวและสูดอากาศได้ตามปกติ

อีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็น Walk-in Closet และห้องน้ำ ซึ่งของจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆให้เราสามารถกั้นฟังก์ชันเองได้ตามต้องการครับ

ภายในห้องน้ำมีขนาดใหญ่และแบ่งฟังก์ชันแยกกันเป็นสัดส่วน มาพร้อมกับสุขภัณฑ์จาก American Standard ให้ใช้งานครบเช่นเดิม

โดยห้องนี้จะพิเศษกว่าห้องอื่นๆในบ้านตรงที่ จะได้เป็นโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติด้วยนั่นเองครับ และมีพื้นที่ส่วนแห้งกว้าง 1.9 x 1.8 m. สามารถใช้งานได้สะดวก

พื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 1.9 x 0.8 m. สามารถใช้งานได้ตามปกติเช่นกัน โดยคราวนี้จะมาในฟังก์ชันอ่างอาบน้ำแบบฝังผนัง และมี Hand Shower ให้เลือกใช้งาน

แต่จุดที่ผมชอบมากๆก็คือ เราจะได้ช่องหน้าต่างระบายอากาศถึง 2 ด้าน ทำให้สามารถเปิดระบายอากาศหรือกลิ่นได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียวครับ

อีกด้านหนึ่งของบ้านจะมีห้องนอนเล็ก 2 ห้อง และห้องน้ำอยู่แยกออกไปเป็นสัดส่วน

ภายในห้องนอนเล็กทางซ้ายมือจะมีขนาด 3.8 x 3.8 m. สามารถวางเตียง 5 ฟุตแล้วยังมีพื้นที่เหลือ สามารถใช้งานได้สะดวกเหมือนบ้านตัวอย่างเลยครับ

ติดกันจะเป็นห้องน้ำที่อยู่ตรงกลาง ภายในมีการแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วน มาพร้อมสุขภัณฑ์จาก American Stansard ให้ใช้งานครบ โดยพื้นที่ส่วนแห้งจะกว้าง 1.5 x 1.7 m. และพื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 1.5 x 0.9 m. สามารถใช้งานได้ตามปกติ

สุดท้ายคือห้องนอนที่มีขนาดเล็กสุดในบ้าน โดยจะมีขนาด 3 x 3.8 m. ซึ่งหากใครที่มีลูกคนเดียวอยู่แล้ว ก็อาจปรับให้ห้องนี้กลายเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆก็ได้ตามต้องการ เช่น บ้านตัวอย่างหลังนี้ได้จัดเป็นห้องดูหนังชิลๆครับ

• ศุภฤทธิ์ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 59.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 178 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่อเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ

เป็นแบบบ้านไซส์เล็กสุดของโครงการ เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กและคนที่มีงบประมาณจำกัด ฟังก์ชันบ้านจะคล้ายกับแบบ ‘ศุภฤทัย’ ที่เราเพิ่งรีวิวไปก่อนหน้านี้เลยครับ เพียงแต่ขนาดพื้นที่ใช้สอยภายในจะลดลงเล็กน้อย ระเบียงในห้องนอนใหญ่ก็เล็กลง รวมถึงจะไม่มีฟังก์ชันอ่างอาบน้ำให้ใช้งานด้วย

แต่จุดที่น่าจะมีความแตกต่างมากที่สุดก็คงจะเป็น ‘โถงบันไดกลางบ้าน’ ที่จะไม่ได้มีช่องแสงขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับภายนอกเหมือนบ้านอื่นๆ ดังนั้นจึงอาจต้องพึ่งแสงจากดวงไฟภายใน รวมถึงช่องแสงขนาดใหญ่จากพื้นที่อเนกประสงค์ชั้นบนเป็นหลักแทนครับ

• ศุภกฤต บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 71.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 218 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่อเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ

เป็นแบบบ้านที่เริ่มจะเหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่มากขึ้น เพราะสามารถจอดรถได้สูงสุดถึง 3 คัน และแน่นอนว่ายังคงมีห้องนอนชั้นล่างให้ใช้งานด้วย แต่จุดเด่นจริงๆก็คือเรื่อง ‘การเล่นระดับของพื้นชั้นบน’ ซึ่งตัวห้อง Master Bedroom จะมีฝ้าเพดานที่สูงกว่าปกติ เนื่องจากทางเข้าห้องจะอยู่ตรงชานพักครึ่งแรก จึงมีความโปร่งโล่งมากกว่าแบบบ้านอื่นๆ

ส่วนห้องนอนเล็กและพื้นที่อเนกประสงค์จะอยู่ที่ด้านบนสุด โดยจะมีห้องน้ำส่วนตัวเป็นของตัวเองทั้งหมด อีกทั้งเรายังสามารถกั้นผนังตรงพื้นที่อเนกประสงค์เพิ่มเติม เพื่อทำเป็นห้องแบบจริงจังได้ง่ายอีกด้วย ซึ่งแบบบ้านนี้จะไม่ได้มีบ้านตัวอย่างให้ชมนะครับ หากใครสนใจก็ลองสอบถามกับเจ้าหน้าที่เพื่อขอดูบ้านเปล่าของจริงกันได้เลย

• ศุภจิตรา บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 71.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 261 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่อเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ

แบบบ้านหลังนี้จะเป็นขนาดเริ่มต้นของกลุ่มแบบบ้านใหญ่ ที่จะได้รับการอัพเกรดพวกวัสดุต่างๆภายในบ้านให้ดีมากขึ้น โดยแปลนชั้น 1 จะมีจุดเด่นหลักๆอยู่ตรง ‘Common Area’ ที่จะมีขนาดใหญ่มากๆ เพราะเชื่อมต่อตั้งแต่หน้าบ้านไปจนถึงหลังบ้านเลยนั่นเองครับ ซึ่งถ้าใครไปเดินบ้านตัวอย่างของจริงจะรู้สึกได้ว่าพื้นที่ใหญ่มากๆเลยจริงๆ อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจก็คือ เค้าจะมีห้องเก็บของนอกจากใต้บันไดเพิ่มให้อีก 1 จุดด้วย ซึ่งบ้านตัวอย่างดัดแปลงเป็นห้องส่วนตัวของน้องๆสัตว์เลี้ยงน่ารักมากเลย

แปลนชั้น 2 ห้องนอนทุกห้องจะมีขนาดใหญ่และมีห้องน้ำในตัวทั้งหมด แต่จุดเด่นของบ้านหลังนี้จริงๆก็คือ ‘ระเบียง’ ที่จะมีขนาดใหญ่มากกว่าแบบบ้านอื่นๆ โดยจะเป็นระเบียงในร่มที่สามารถออกไปใช้งานได้จริง เช่น ทำเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อน หรือทำเป็นสวนเล็กๆบนบ้านก็ได้ ซึ่งจะเป็นฟังก์ชันเชื่อมต่อกันระหว่าง Master Bedroom และห้องนอนที่ 2 เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่ ชอบพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง และยังได้เกรดวัสดุที่ดีมากขึ้นอีกด้วย แต่ทั้งนี้ก็ต้องแลกมากับราคา ที่จะเพิ่มสูงขึ้นจากกลุ่มบ้านหลังเล็กๆประมาณ 1 ล้านบาทนะครับ

• ศุภราช บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 94.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 330 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่อเนกประสงค์ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ

เป็นแบบบ้านหลังเกือบใหญ่สุดของโครงการ และหน้างานปัจจุบันยังใช้เป็นสำนักงานขายอีกด้วย โดยจะเป็นบ้านหน้ากว้างที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะมากๆ จุดเด่นของแปลนชั้น 1 ที่แตกต่างจากแบบบ้านอื่นๆที่ผ่านมาก็คือ ‘ห้องน้ำของห้องนอนชั้นล่าง’ จะเป็นพื้นที่ไม่มีการลดระดับ ซึ่งถูกออกแบบด้วยหลัก Universal Design เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของผู้สูงอายุมากขึ้น อีกทั้งตัวบันไดก็จะมีลักษณะเป็นทรงโค้งสวยงาม ให้ความรู้สึกเป็นบ้านที่ดูหรูหราดีทีเดียวครับ

แปลนชั้น 2 จุดเด่นอย่างแรกที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ ‘พื้นที่อเนกประสงค์ด้านบน’ ที่จะมีขนาดใหญ่มาก จนสามารถกั้นแบ่งพื้นที่เป็น 2 ฟังก์ชันได้สบายๆเลยครับ อีกทั้งยังมีระเบียงให้เราได้ใช้งานถึง 2 จุด และห้องน้ำใน Master Bedroom ก็จะได้อ่างแบบ His and Her รวมถึงมีการกั้นฟังก์ชันของส่วนอาบน้ำ และโถสุขภัณฑ์แยกออกจากกันเป็นสัดส่วนชัดเจนอีกด้วย ทำให้สามารถใช้งานพร้อมๆกัน 2 คนได้นั่นเองครับ

• ศุภมัณฑิรา บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 119.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 417 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่อเนกประสงค์ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ

เป็นแบบบ้านหลังใหญ่สุดของโครงการ ซึ่งปัจจุบันก็จะยังไม่มีบ้านตัวอย่างให้ชมนะครับ โดยจุดเด่นของบ้านที่นอกจากจะมีชานพักขนาดใหญ่ ที่สวยเด่นสะดุดตาตรงด้านหน้าบ้านแล้ว ภายในยังมีพื้นที่ฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume อยู่ตรงกลางบ้านอีกด้วย ซึ่งช่วยทำให้มีความโปร่งโล่ง และเชื่อมต่อพื้นที่ชั้นบนกับชั้นล่างได้เป็นอย่างดี

แปลนชั้น 2 จะมีห้องนอนขนาดใหญ่ให้เราได้ใช้งานกันถึง 4 ห้อง พร้อมทั้งยังมีพื้นที่อเนกประสงค์ที่เชื่อมต่อกับ Double Volume ของชั้นล่างได้อีกด้วย จึงทำให้แบบบ้านหลังนี้เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ สามารถอยู่อาศัยร่วมกันได้ 4 – 5 คนสบายๆ

ซึ่งถ้าใครที่มีรถส่วนตัวมากกว่า 3 คัน ก็สามารถจอดรถซ้อนกันกลายเป็น 6 คัน และทำหลังคาเพิ่มเติมเองได้นะครับ เนื่องจากบ้านแบบนี้มักจะเป็นแปลงมุม หรืออยู่ในตำแหน่งแปลงที่ได้ที่ดินขนาดใหญ่พิเศษกว่าหลังอื่นๆนั่นเอง โดยเฉพาะโซนด้านหน้าโครงการและโซนริมน้ำ เป็นต้น

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่า

ศุภาลัย เลควิลล์ ศรีสมาน – ปทุมธานี ราคา ณ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566

• ศุภฤทธิ์ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 59.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 178 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่อเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท
• ศุภฤทัย บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 63.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 208 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่อเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 7.29 ล้านบาท
• ศุภกฤต บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 71.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 218 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่อเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 7.99 ล้านบาท
• ศุภจิตรา บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 71.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 261 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่อเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 8.89 ล้านบาท
• ศุภกานต์ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 90.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 295ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่อเนกประสงค์ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 10.89 ล้านบาท
• ศุภราช บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 94.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 330 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่อเนกประสงค์ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 11.89 ล้านบาท
• ศุภมัณฑิรา บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 119.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 417 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่อเนกประสงค์ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 16.09 ล้านบาท

• จอง 20,000 บาท
• ทำสัญญา 30,000 บาท
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 46,500 บาท
• ค่าส่วนกลาง 23 บาท/ตร.วา/เดือน
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อและผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• Promotion : พบส่วนลดสูงสุดกว่า 1 ล้านบาท* และ Gift Voucher SB Furniture มูลค่า 100,000 บาท* เฉพาะวันงาน Grand Opening 25-26 พ.ย. 2566 นี้เท่านั้น
• Promotion และของแถมอื่นๆ : เครื่องปรับอากาศทุกห้องนอน / จัดสวนตามมาตรฐานบริษัท / วอลเปเปอร์ทั้งหลัง / Solar Rooftop / มุ้งลวดบานหน้าต่าง / มุ้งไฟเบอร์กันยุงประตู / Digital Door Lock / ประตูรั้วอัตโนมัติทุกแบบบ้าน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : โครงการตั้งอยู่บนถนนปทุมธานี-สายใน ซึ่งใกล้กับสะพานข้ามแม่น้ำเข้าเมืองมาทางฝั่งรังสิต-ดอนเมือง-ศรีสมานได้ง่าย โดยจะเป็นโซนที่อยู่อาศัยเกิดใหม่ที่ขยับขยายมาจากในตัวเมือง และเป็นทำเลรองจึงมีราคาที่ยังไม่ค่อยแรง แลกมากับความอุดมสมบูรณ์ใกล้ๆที่ยังไม่ค่อยมีมากนัก แต่ถ้าเราข้ามแม่น้ำมาอีกฝั่งก็จะมีความคึกคักมากๆ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งงาน โรงเรียน ศูนย์ราชการ ห้างสรรพสินค้า ตลาด รวมถึงยังมีทางด่วนอุดรรัถยาให้ใช้ตรงเข้าเมืองได้สะดวกอีกด้วย

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ซุ้มประตูทางเข้าด้านหน้าจะใช้ระบบใหม่ VMS (ระบบอ่านป้ายทะเบียน) เพื่อความสะดวกและปลอดภัย รวมถึงจะมีกล้อง CCTV และ รปภ. คอยดูแลตลอด 24 ชม. เป็นมาตรฐาน ส่วนถ้าเป็นภายในบ้านก็จะมีทั้งกล้อง CCTV + IP Camera รวมถึงยังมี Magnetic & Shock Sensor และ Digital Door Lock ด้วยครับ (ยกเว้นแบบบ้านหลังเล็ก ศุภฤทธิ์, ศุภฤทัย, ศุภกฤต จะลดทอนฟังก์ชัน 2 อันหลังออกไป)

การออกแบบโครงการ : ถือเป็นโครงการจัดสรรขนาดใหญ่ ที่มีเพื่อนบ้านรวมกันกว่า 320 ยูนิต แต่เพราะด้วยเหตุนี้ จึงทำให้มีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ตามไปด้วยครับ โดยโครงการนี้จะเน้นไปทางพื้นที่สีเขียวและทะเลสาบเป็นหลัก ซึ่งมีขนาดรวมกันกว่า 6 ไร่อยู่ตรงกลางเลย ทำให้บ้านแต่ละโซนสามารถมาใช้งานได้สะดวกพอๆกัน

โดยตำแหน่งบ้านที่น่าสนใจจะมี 3 โซนหลักๆคือ 1.) บ้านที่อยู่ใกล้สวนและทะเลสาบ เหมาะกับคนชอบความเป็นธรรมชาติ และพื้นที่สีเขียวเป็นพิเศษ 2.) บ้านที่อยู่ติดถนนหลักและใกล้อาคาร Clubhouse เหมาะกับคนที่ชอบใช้งาน Facilities บ่อยๆ และอยากเข้า-ออกได้สะดวก 3.) บ้านที่อยู่ในซอยตันแยกย่อย เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย

การออกแบบตัวบ้านและพื้นที่ใช้สอย : แบบบ้านสไตล์ใหม่ Tropical Modern Series มีให้เลือกเยอะถึง 7 แบบ โดยจะเน้นเป็นบ้านไซส์ใหญ่ พื้นที่ใช้สอยเยอะ จึงเหมาะกับครอบครัวตั้งแต่เล็ก-ใหญ่ ซึ่งมีจุดเด่นร่วมกันตรงที่ ทุกแบบบ้านจะมีห้องนอนชั้นล่างให้ใช้งาน จึงสามารถรองรับครอบครัวที่อาจมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วยได้สบายๆ หรือเราอาจทำเป็นฟังก์ชันอื่นๆก็ได้ตามต้องการ

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่อเนกประสงค์ให้ใช้งานอีกด้วย ซึ่งหากสังเกตดีๆจะไม่ได้มีแค่บริเวณชั้นบนของบ้านเท่านั้น แต่ตรงโถงบันไดชั้นล่างหน้าห้องเก็บของ จะเห็นได้ว่ามีพื้นที่กว้างขนาดใหญ่ ให้เราได้จัดเป็นมุมฟังก์ชันเล็กๆเพิ่มได้เช่นกัน ส่วนถ้าเป็นบ้านหลังใหญ่สุด 2 แบบ ห้องน้ำของห้องนอนชั้นล่างจะมีการคำนึงถึงหลัก Universal Design เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของผู้สูงอายุมากขึ้นนั่นเองครับ

โดยหากใครที่สนใจแบบบ้านโครงการนี้ ผมแนะนำให้ลองไปเดินดูบ้านตัวอย่างทุกๆหลัง ซึ่งเราจะได้สัมผัสบรรยากาส และได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างกัน ทำให้ช่วยตัดสินใจได้ง่ายและจะได้เลือกให้เหมาะกับครอบครัวของเรามากที่สุดนั่นเองครับ

วัสดุ : โครงการนี้จะให้วัสดุมาค่อนข้างโอเคเลยครับ ที่ผมค่อนข้างชอบก็จะประกอบด้วย Solar Rooftop / มุ้งลวดบานหน้าต่าง / มุ้งไฟเบอร์กันยุงประตู / Digital Door Lock และติดตั้งประตูรั้วอัตโนมัติทุกแบบบ้าน

แต่จะมีความแตกต่างกันของสเปควัสดุระหว่างแบบบ้านเล็ก และแบบบ้านใหญ่ โดยถ้าเป็นแบบบ้านเล็ก (ศุภฤทธิ์ / ศุภฤทัย / ศุภกฤต) เราจะได้พื้นที่จอดรถแบบ Slab on Ground / พื้นห้องชั้น 2 เป็นไม้ลามิเนต / วัสดุปิดผิวบันไดเป็นไม้ยางพารา / สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ American Standard / ฉากกั้นอาบน้ำกรอบอลูมิเนียม / อ่างอาบน้ำแบบฝังเคาน์เตอร์ / กล้อง CCTV / IP Camera และ Magnetic & Shock Sensor

แต่ถ้าเป็นบ้านแบบใหญ่ (ศุภจิตรา / ศุภกานต์ / ศุภราช / ศุภมัณฑิรา) จะมีการอัพเกรดวัสดุที่ให้มาดีมากขึ้น ประกอบด้วย พื้นที่จอดรถแบบ Slab on Beam / พื้นห้องชั้น 2  Engineered Wood / วัสดุปิดผิวบันไดไม้โอ๊ค / สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ COTTO / ฉากกั้นอาบน้ำกระจกบานเปลือย / อ่างอาบน้ำแบบลอยตัว รวมถึงยังเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยอีก 2 อย่างคือ Motion Sensor และ Digital Door Lock ด้วยครับ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : ถือเป็นหนึ่งในจุดเด่นของโครงการ เพราะให้พื้นที่สวนและทะเลสาบมารวมกันกว่า 6 ไร่ ถ้าเทียบกับเพื่อนบ้านในย่านแล้ว ถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดเลยก็ว่าได้ครับ ซึ่งก็เป็นไปตามสัดส่วนขนาดของโครงการนั่นเอง โดยเฉพาะมุมน้ำตกที่มีบรรยากาศดีและส่วนตัวผมก็ชอบเป็นพิเศษ ส่วนบริเวณริมทะเลสาบอาจต้องรอดูของจริงในอนาคตอีกทีครับ นอกจากนี้ยังมีการปลูกต้นไม้จัดสวนในบ้านแต่ละหลังให้เป็นมาตรฐานอีกด้วย

สาธารณูปโภค : โครงการนี้จะเหมาะกับคนที่ชอบใช้งานฟังก์ชันกลางแจ้ง โดยเฉพาะสวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น ลานอเนกประสงค์ ทะเลสาบ และสระว่ายน้ำ ซึ่งจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่และใช้งานได้ดี มีให้เลือกใช้งานทั้งแบบกลางแจ้ง และในร่มในอาคาร ถือว่าจัดมาให้ครบหลากหลาย กระจายการใช้งานได้

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 6 – 16 ล้านบาท, 7 พฤศจิกายน 2566

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ใกล้สะพานข้ามแม่น้ำ เข้าเมืองง่าย แต่ความอุดมสมบูรณ์ใกล้ๆยังมีไม่มากนัก
• ความปลอดภัย 8/10 – ระบบอ่านป้ายทะเบียนรถ / CCTV และระบบรักษาความปลอดภัยในบ้านแบบจัดเต็มสำหรับบ้านหลังใหญ่
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – พื้นที่ใช้สอยเยอะ มีห้องนอนชั้นล่าง และพื้นที่อเนกประสงค์ทุกแบบ
• วัสดุ 8/10 – ให้มาดีเป็นมาตรฐาน แต่จะมีความแตกต่างกันของยี่ห้อสุขภัณฑ์ ในแบบบ้านเล็กและใหญ่
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 9/10 – โครงการใหญ่ พื้นที่สวนและทะเลสาบรวมกันกว่า 6 ไร่ บรรยากาศดีน่าใช้งาน พร้อมจัดสวนในบ้านเป็นมาตรฐาน
• สาธารณูปโภค 8.5/10 – เน้นพื้นที่ใช้งานกลางแจ้งขนาดใหญ่ ทั้งสวน สนามเด็กเล่น ลานอเนกประสงค์ ทะเลสาบ และสระว่ายน้ำ
• 8.03 / 10.00

ศุภาลัย เลควิลล์ ศรีสมาน – ปทุมธานี เหมาะกับใคร

โครงการ ศุภาลัย เลควิลล์ ศรีสมาน – ปทุมธานี (Supalai Lake Ville Srisamarn – Pathumthani) เหมาะกับคนที่มองหาบ้านเดี่ยวย่านปทุมธานี ในทำเลที่อยู่ใกล้สะพานข้ามแม่น้ำเพื่อเข้าเมืองได้ง่าย เน้นเป็นบ้านเดี่ยวไซส์ใหญ่ พื้นที่ใช้สอยเยอะ ฟังก์ชันยืดหยุ่น มีห้องนอนชั้นล่างและพื้นที่อเนกประสงค์ให้ใช้งานทุกแบบ รวมถึงยังเป็นโครงการที่มีพื้นที่สีเขียวและผืนน้ำขนาดใหญ่ (ทะเลสาบ) ที่รวมกันกว่า 6 ไร่ โดยมีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 6.99 – 19 ล้านบาท*

ส่งท้ายปีด้วยโปรโมชันคอนโดใกล้แนวรถไฟฟ้าและสินเชื่อพิเศษกับงาน Living Expo 2023 อย่าลังเลจนพลาดเป็นเจ้าของคอนโดราคาดีๆ

ลงทะเบียนรับฟรี หนังสือและโพย ที่จะพลิกทุกวิธีการหาบ้านเดิมๆให้ตรงใจและประหยัดเวลามากขึ้น

Living Expo 2023 วันที่ 23 – 26 พฤศจิกายน 2566 ชั้น 1 สยามพารากอน
ลงทะเบียนเลย คลิกที่นี่